00:00:00 → 00:00:03 ระวังไว้เลยสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:00:03 → 00:00:07 ถ้าท่านออกกำลังกายและไม่รู้ 4 ข้อนี้
00:00:14 → 00:00:17 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:17 → 00:00:20 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ
00:00:22 → 00:00:24 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องยอดฮิต
00:00:24 → 00:00:28 แล้วก็เป็นเรื่องถ้าพลาดไปแล้วอันตรายแบบสุดๆ
00:00:28 → 00:00:32 ระวังไว้เลยสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:00:32 → 00:00:36 ถ้าท่านออกกำลังกายและไม่รู้ 4 ข้อนี้ อันตรายสุดๆ
00:00:36 → 00:00:38 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:38 → 00:00:41 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:00:41 → 00:00:43 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย
00:00:43 → 00:00:45 ผมขออนุญาตให้กระโดดที่ 3 นาทีหลัง
00:00:45 → 00:00:46 ผมสรุปไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
00:00:46 → 00:00:49 ส่วนท่านที่มีเวลา เราไปพร้อมๆ กันเลย
00:00:49 → 00:00:51 สำหรับเรื่องของความดันโลหิตสูง
00:00:51 → 00:00:57 ผมว่าในประเทศไทยผู้ป่วยที่เป็นภาวะความดันโลหิตสูงมากเยอะมากเลย
00:00:57 → 00:00:59 เป็นล้านคนแล้วกัน แบบนี้แล้วกัน
00:01:00 → 00:01:03 คราวนี้การกินยามันก็น่าเบื่อใช่ไหม
00:01:03 → 00:01:05 เพราะฉะนั้นการออกกำลังกาย
00:01:05 → 00:01:09 จะช่วยทำให้ภาวะความดันโลหิตของท่านลดต่ำลงได้
00:01:09 → 00:01:13 บางคนสามารถที่จะลดปริมาณยาได้
00:01:13 → 00:01:18 หรือถ้าแบบฟิตมากๆ เก่งมากๆ ดูแลตัวเองดีมากๆ ถึงกับหยุดยาได้เลย
00:01:18 → 00:01:22 แต่คราวนี้การออกกำลังกาย มันมีทั้งคุณและมีทั้งโทษ
00:01:22 → 00:01:25 ถ้าท่านออกไลน์ผิด โดยเฉพาะที่ท่านเป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:01:25 → 00:01:27 ผมบอกเลยอันตรายสุดๆ
00:01:27 → 00:01:32 มาดูข้อแรกที่ท่านต้องรู้ ภาวะความดันโลหิตสูง
00:01:32 → 00:01:36 ถ้าเมื่อไหร่ตัวบนสูงเกิน 180 ตัว ล่างสูงเกิน 110
00:01:36 → 00:01:41 อย่าเพิ่งออกกำลังกายให้ไปทานยาลดความดันก่อน
00:01:41 → 00:01:44 ให้ต่ำกว่านี้ถึงจะออกกำลังกายได้
00:01:44 → 00:01:49 และเมื่อไหร่ก็ตามตัวบนมากกว่า 200 ตัวล่างมากกว่า 110
00:01:49 → 00:01:53 รีบวิ่งไปพบแพทย์ทันทีเลย แบบนี้เส้นเลือดในสมองแตกได้
00:01:53 → 00:01:55 คราวนี้มันสำคัญยังไง
00:01:55 → 00:02:00 สำคัญงี้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีภาวะความดันโลหิตสูง
00:02:00 → 00:02:03 การวัดความดัน ทุกๆ เช้าจะเป็นประโยชน์มาก
00:02:03 → 00:02:05 โดยเฉพาะก่อนออกกำลังกาย
00:02:05 → 00:02:10 เพราะบางครั้งเราไม่รู้ว่าความดันโลหิต ณ เวลานั้นเราเป็นเท่าไหร่
00:02:10 → 00:02:12 แล้วเรามีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่
00:02:12 → 00:02:16 และถ้าเกิดตอนเราวัดออกมาแล้ว ความดันโลหิตเราขึ้นไป 180
00:02:17 → 00:02:19 แล้วเราออกกำลังกายแบบนี้อันตราย
00:02:19 → 00:02:21 แต่จะอันตรายกว่าถ้าท่านไม่วัด
00:02:21 → 00:02:23 ท่านไม่รู้ว่าเวลานั้นความดันโลหิตท่านเท่าไหร่
00:02:23 → 00:02:25 แล้วท่านไปออกกำลังกาย
00:02:25 → 00:02:28 แล้วจะเกิดเช้านั้นมันเผอิญความดันโลหิตเราสัก 890
00:02:28 → 00:02:30 แล้วเราไปออกกำลังกายเป็นไง
00:02:30 → 00:02:35 แทนที่เราจะได้สุขภาพที่ดี เรากลับเสี่ยงมีเส้นเลือดในสมองแตก
00:02:35 → 00:02:38 ซึ่งเมื่อเส้นเลือดในสมองแตก มันจะเปลี่ยนชีวิตของท่าน
00:02:38 → 00:02:39 และชีวิตของครอบครัวท่านเลย
00:02:39 → 00:02:43 เพราะท่านอาจจะเป็นอัมพาตได้ตลอดชีวิต
00:02:43 → 00:02:46 นี่คือข้อแรกที่แนะนำไว้เลยว่า
00:02:46 → 00:02:50 ควรจะวัดความดันเสมอก่อนออกกำลังกาย
00:02:50 → 00:02:53 ในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:02:53 → 00:02:56 และได้รับการรักษาอยู่ อันนี้เป็นข้อแนะนำ
00:02:56 → 00:03:00 สำหรับผมที่อยากจะแนะนำให้ทุกๆ ท่านวัดความดันโลหิตก่อน
00:03:00 → 00:03:03 โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:03:03 → 00:03:08 ควรจะต้องวัดก่อนที่จะออกกำลังกายแบบที่เหนื่อยมากกว่าปกตินั่นเอง
00:03:08 → 00:03:14 มาต่อกันข้อที่ 2 บ้าง นั่นก็คือเทคนิคการออกกำลังกายที่ปลอดภัย
00:03:14 → 00:03:18 ในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:03:18 → 00:03:20 นั่นก็คือ 4 ไม่ครับ
00:03:20 → 00:03:24 1. ไม่หนักจนเกินไป 2. ไม่นานจนเกินไป
00:03:24 → 00:03:29 3. ไม่ถี่จนเกินไป 4. ไม่ซ้ำกันจนเกินไป
00:03:29 → 00:03:31 ไม่หนักจนเกินไปหมายความว่ายังไง
00:03:32 → 00:03:34 เวลาออกกำลังกายให้พอพูดคุยได้
00:03:34 → 00:03:37 ให้พอร้องเพลงได้ ถ้าไม่มีคนพูดด้วย
00:03:37 → 00:03:41 ถ้าหัวใจฉันเต้นตอนพักสักประมาณ 70 หรือ 60
00:03:41 → 00:03:44 ให้บวกไปประมาณ 30 หรือ 40
00:03:44 → 00:03:47 ก็คือเล่นประมาณ 100-110 ประมาณนี้ก็จะปลอดภัย
00:03:47 → 00:03:50 อย่าไปเต้นแรงมากนะ เราไม่ใช่นักแข่งนักกีฬา
00:03:50 → 00:03:53 เราเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:03:53 → 00:03:57 ไม่นานจนเกินไป ไม่ควรเกิน 30-60 นาที
00:03:57 → 00:04:01 ถ้าผมให้เฉลี่ยประมาณ 30-45 นาที กำลังสวย
00:04:01 → 00:04:04 ไม่ถี่จนเกินไป แนะนำสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง
00:04:04 → 00:04:10 ไม่ควรออกกําลังกาย 7 วันต่อสัปดาห์ ควรจะมีวันพักบ้าง 2-3 วัน
00:04:10 → 00:04:13 ทำให้ร่างกายได้พักผ่อน กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
00:04:14 → 00:04:18 ข้อ 4 ไม่ซ้ำกันจนเกินไป การออกกำลังกายควรจะหลากหลาย
00:04:18 → 00:04:22 โดยเฉพาะกำลังกายแบบแอโรบิก วิ่งบ้าง
00:04:22 → 00:04:26 ว่ายน้ำบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง ยืดเส้นยืดสายบ้าง
00:04:26 → 00:04:30 ใช้แรงต้านบ้าง แต่ต้องไม่หนักจนเกินไป
00:04:30 → 00:04:32 ถ้าเกิดเราใช้แรงต้านหนักจนเกินไป
00:04:32 → 00:04:35 มันไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยความดันสูง
00:04:35 → 00:04:37 เพราะมันจะทำให้ความดันเราสูงขึ้นมากๆ
00:04:37 → 00:04:40 และอาจจะเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้
00:04:40 → 00:04:44 มาต่อกันที่ข้อที่ 3 ข้อที่ 3 นี้ก็สำคัญมากๆ เลย
00:04:44 → 00:04:49 โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง
00:04:49 → 00:04:52 นั่นคือห้ามกลั้นหายใจขณะออกกำลังกาย
00:04:52 → 00:04:56 โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบต้านแรง
00:04:56 → 00:04:59 หรือ Resistance Exercise เช่น การวิดพื้น
00:04:59 → 00:05:02 การทำท่าแพลงก์ การยกน้ำหนักๆ
00:05:02 → 00:05:06 พวกนี้เราจะเผลอกลั้นหายใจ พอเรากลั้นหายใจปุ๊บ
00:05:06 → 00:05:10 ขณะที่เราออกกำลังกายจะทำให้ความดันโลหิตเราพุ่งสูงปรี๊ดขึ้น
00:05:10 → 00:05:12 พอพุ่งสูงขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร
00:05:12 → 00:05:15 แทนที่เราจะได้ประโยชน์จากการออกกำลังกาย
00:05:15 → 00:05:19 เป็นเกิดความเสี่ยงในการเกิดสโตรกหรือหลอดเลือดในสมองแตก
00:05:19 → 00:05:22 และทำให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตได้นั่นเอง
00:05:22 → 00:05:26 ถ้าออกกำลังกายที่หัวต่ำมากๆ
00:05:26 → 00:05:28 หรือท่า Warm up Warm down ที่หัวต่ำมากๆ
00:05:29 → 00:05:32 เช่น ก้มหัวแล้วเอามือไปแตะพื้น
00:05:32 → 00:05:37 หรือซิทอัพบนเก้าอี้นั่งทำให้หัวเราต่ำกว่าลำตัว
00:05:37 → 00:05:43 ท่าอะไรก็ตามที่เราลุกนั่งเร็วๆ หรือเปลี่ยนท่าทางเร็วๆ
00:05:43 → 00:05:45 แบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:05:45 → 00:05:49 เพราะว่ามันจะเกิดภาวะที่ความดันโลหิตปรับตัวไม่ทัน
00:05:49 → 00:05:52 ทำให้สูงบ้างต่ำบ้าง หน้ามืดเป็นลม
00:05:52 → 00:05:55 บางคนสมองขาดเลือด บางคนหัวใจขาดเลือด
00:05:55 → 00:06:00 บางคนหัวใจเต้นผิดจังหวะ แทนที่จะสุขภาพดีกลับถึงตายได้
00:06:00 → 00:06:03 อันตรายจริงๆ สำหรับข้อ 3 นี้
00:06:03 → 00:06:06 มาต่อกันที่ข้อที่ 4 ข้อสุดท้าย
00:06:06 → 00:06:10 นั่นก็คือต้อง Warm up Warm down เสมอ
00:06:10 → 00:06:12 สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง แต่ผมบอกจริงๆ
00:06:13 → 00:06:16 มันสำหรับทุกการออกกำลังกายและทุกคนเพราะอะไร
00:06:16 → 00:06:21 คือต้องบอกว่าถ้าเราขี้เกียจหรือเราไม่อยาก Warm up Warm down
00:06:21 → 00:06:25 เพียง 15 นาทีก่อนออก และ 15 นาทีหลังออก
00:06:25 → 00:06:29 เราจะต้องพบเผชิญกับการบาดเจ็บต่างๆ
00:06:29 → 00:06:32 การทุกข์ทรมานต่างๆ มากกว่านี้อีกเยอะ
00:06:32 → 00:06:34 เพราะฉะนั้นแนะนำถ้าท่านจะวิ่ง
00:06:34 → 00:06:38 แนะนำให้เดินให้เหงื่อออกนิดๆ ก่อนสัก 10 นาที
00:06:38 → 00:06:40 หลังจากวิ่งเสร็จให้เดินต่ออีกสัก 1-2 กิโล
00:06:40 → 00:06:45 แบบนี้จะยิ่งรีดไขมันได้ดี ทำให้ไขมันส่วนเกินออกไปด้วยซ้ำ
00:06:45 → 00:06:47 ยิ่งดีแบบสุดๆ เลย
00:06:47 → 00:06:51 คือการไม่ Warm up Warm down ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:06:51 → 00:06:52 มันอันตรายอย่างไร
00:06:52 → 00:06:58 คือถ้าเราไม่ Warm up แล้วผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไปออกกำลังกายทันที
00:06:58 → 00:07:03 จะทำให้ความดันโลหิตจากที่สูงอยู่แล้ว เช่น สมมุติ 140-150
00:07:03 → 00:07:06 มันจะพุ่งกระชากขึ้นไปเลย
00:07:06 → 00:07:09 เพราะว่าการควบคุมความดันของเรามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
00:07:09 → 00:07:14 แล้วบางทีเรามีโรคหัวใจแฝงอยู่ มีโรคนู่นนี่แฝงอยู่
00:07:14 → 00:07:16 เพราะว่าเป็นผู้ป่วยแบบที่มีโรคอยู่แล้ว
00:07:16 → 00:07:20 ก็จะทำให้หัวใจเราทำงานหนัก ทำให้ถึงขั้นหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:07:20 → 00:07:23 หัวใจขาดเลือด อาจทำให้เสียชีวิตได้อันตรายจริงๆ
00:07:24 → 00:07:27 และสำหรับการ Warm down ก็สำคัญมากๆ ท่านคิดดู
00:07:27 → 00:07:33 รถวิ่งมาเร็วๆ จอดเบรคอย่างนี้ไม่ค่อยดี
00:07:33 → 00:07:42 มันต้องวิ่งเร็วแล้วก็ลดความเร็วลง สวยๆ
00:07:42 → 00:07:45 แบบนี้หัวใจจะไม่ทำงานหนัก
00:07:45 → 00:07:48 เส้นเลือดเราจะหดคลายตัวได้เป็นอย่างดี
00:07:48 → 00:07:53 ลดความเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตก ลดความเสี่ยงหัวใจขาดเลือด
00:07:53 → 00:07:55 ลดความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:07:55 → 00:07:57 เพราะบางคนออกกำลังกายจนหัวใจวาย
00:07:57 → 00:08:00 ผมว่าท่านคงได้เห็นและเคยได้ยิน
00:08:00 → 00:08:04 เช่น กำลังกายจนแบบอยู่ดีๆ สลบล้มลงเสียชีวิต
00:08:04 → 00:08:09 อันนี้น่าสงสาร น่าเศร้าใจมาก และเราจะไม่ต้องเป็นคนหนึ่งในนั้น
00:08:09 → 00:08:13 เราไม่อยากจะเสี่ยง เพราะฉะนั้น 4 ข้อที่ผมบอกมา
00:08:13 → 00:08:15 ช่วยท่านได้อย่างแน่นอน
00:08:16 → 00:08:19 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุป
00:08:20 → 00:08:23 ระวังผู้ป่วยความดันสูง
00:08:23 → 00:08:28 ถ้าไม่รู้ 4 ข้อนี้แล้วไปออกกำลังกาย อันตรายมากๆ
00:08:28 → 00:08:31 ข้อแรก เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีภาวะความดันโลหิตสูง
00:08:31 → 00:08:35 มากกว่า 180 ตัวบน และตัวล่างต่ำกว่า 110
00:08:35 → 00:08:36 ไม่ควรออกกำลังกายทันที
00:08:36 → 00:08:39 ควรได้รับยาลดความดันก่อนถึงจะออกกำลังกายได้
00:08:39 → 00:08:41 และเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีความดันโลหิต
00:08:41 → 00:08:44 ตัวบนสูงกว่า 200 และตัวล่างต่ำกว่า 110
00:08:44 → 00:08:47 ให้รีบวิ่งไปพบแพทย์ทันที
00:08:47 → 00:08:49 เพราะว่าแบบนี้อาจจะเส้นเลือดในสมองแตกได้
00:08:49 → 00:08:53 และถ้าไม่ออกกำลังกายนี่แบบเสี่ยงสุดๆ อันตรายสุดๆ
00:08:54 → 00:08:57 และโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงและจะออกกำลังกาย
00:08:57 → 00:09:01 ผมขอแนะนำให้วัดความดันโลหิตก่อนที่จะออกกำลังกายทุกครั้ง
00:09:01 → 00:09:04 เพื่อความปลอดภัย เพราะเราไม่แน่เหมือนกันว่า
00:09:04 → 00:09:07 ณ เวลานั้นความดันโลหิตเราเป็นอย่างไร
00:09:07 → 00:09:10 สำหรับผู้มีความดันโลหิตปกติอยู่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียส
00:09:10 → 00:09:14 ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องวัดความดันก่อนออกกำลังกายทุกครั้งนั่นเอง
00:09:14 → 00:09:16 มาต่อกันที่เทคนิคข้อที่ 2 บ้าง
00:09:16 → 00:09:20 เทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้องสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:09:20 → 00:09:22 ใช้หลักการ 4 ไม่
00:09:22 → 00:09:25 1. ไม่หนักจนเกินไป 2. ไม่นานจนเกินไป
00:09:25 → 00:09:29 3. ไม่ถี่จนเกินไป 4. ไม่ซ้ำกันจนเกินไป
00:09:29 → 00:09:32 ไม่หนักจนเกินไปหมายความว่าหัวใจไม่ควรเต้นเร็วเกินไป
00:09:32 → 00:09:36 ถ้าขณะพักหัวใจเต้น 70 ให้บวกไป 30-40
00:09:36 → 00:09:39 ก็คือเต้น 100-110 ครั้ง
00:09:39 → 00:09:42 ถ้าขี้เกียจนับก็ดูว่าท่านยังร้องเพลงได้ขณะออกกำลังกาย
00:09:42 → 00:09:48 หรือว่าท่านพูดกับเพื่อนได้เบาๆ ไม่ใช่พูดไปตลอดแบบผมพูด
00:09:48 → 00:09:52 มันก็ง่ายเกินไป ก็พูดพอได้อย่างนี้ถือว่าออกกำลังกายได้โอเค
00:09:52 → 00:09:55 ไม่นานจนเกินไป ไม่ควรเกิน 60 นาทีต่อครั้ง
00:09:55 → 00:09:59 แนะนำประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้งกำลังสวย
00:09:59 → 00:10:03 และสัปดาห์นึงประมาณ 90-150 นาทีต่อสัปดาห์
00:10:03 → 00:10:04 ก็จะยอดเยี่ยมมาก
00:10:05 → 00:10:09 สำหรับไม่ทีจนเกินไป ก็คือแนะนำไม่ควรเกิน 5 ครั้งต่อสัปดาห์
00:10:09 → 00:10:13 3-5 ครั้ง กำลังสวย ควรจะมีวันพักบ้าง
00:10:13 → 00:10:15 อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วันนั่นเอง
00:10:15 → 00:10:17 เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อน
00:10:17 → 00:10:20 และข้อที่ 4 ไม่ซ้ำกันจนเกินไป
00:10:20 → 00:10:23 เพื่อให้กล้ามเนื้อขยับร่างกายได้ทุกส่วน
00:10:23 → 00:10:26 วันนึงปั่นจักรยาน วันนึงวิ่ง วันนึงว่ายน้ำ
00:10:26 → 00:10:30 วันนึงยืดเส้นยืดสาย วันนึงเล่นเวทเทรนนิ่งแบบเบาๆ
00:10:30 → 00:10:33 ไม่แนะนำให้เล่นเวทเทรนนิ่งแบบรุนแรงมากเกินไป
00:10:33 → 00:10:36 เพราะว่ามันจะทำให้ความดันสูงได้ง่ายจนเกินไป
00:10:36 → 00:10:43 มาต่อกันข้อที่ 3 บ้าง นั่นก็คือห้ามกลั้นหายใจเวลาออกกำลังกาย
00:10:43 → 00:10:47 เพราะว่าถ้าออกกำลังกายๆ หลายๆ ท่า โดยเฉพาะการเล่นเวท
00:10:47 → 00:10:50 หรือ Resistance Exercise ก็คือการต้านแรงโน้มถ่วง
00:10:50 → 00:10:54 เช่น การทำแพลงก์หรือการวิดพื้น
00:10:54 → 00:10:57 การดึงข้อ พวกนี้จะทำให้ความดันโลหิตสูงมาก
00:10:57 → 00:11:01 เพราะฉะนั้นก็อาจจะหลีกเลี่ยงไปออกกำลังกายแบบอื่นดีกว่า
00:11:01 → 00:11:05 และก็การยกน้ำหนักที่มันหนักเกินไปก็ไม่แนะนำ
00:11:05 → 00:11:08 ก็เอาพอท้วมเอาพอสุขภาพดี
00:11:08 → 00:11:11 ไม่ต้องไปแข่งขันกล้ามกับใครนะ ไม่จำเป็น
00:11:11 → 00:11:13 แล้วก็ท่าออกกำลังกายที่แบบหัวต่ำมากๆ
00:11:13 → 00:11:18 เช่น ต้องก้มหัว ลุกนั่งเร็วๆ ขยับร่างกายเร็วจนเกินไป
00:11:18 → 00:11:20 แบบนี้ก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:11:20 → 00:11:23 เพราะว่าความดันมันจะสวิง แล้วทำให้หน้ามืดเวียนหัว
00:11:23 → 00:11:26 หรืออาจจะเสี่ยงจนเส้นเลือดในสมองแตกได้
00:11:26 → 00:11:29 อันนี้อันตรายจริงๆ ก็เอาแบบสบายๆ
00:11:29 → 00:11:32 เน้นสุขภาพนะ ไม่ได้เน้นพลังงาน
00:11:33 → 00:11:35 มาต่อกันที่ข้อที่ 4 ข้อสุดท้าย
00:11:35 → 00:11:37 ต้อง Warm up Warm down ทุกครั้ง
00:11:37 → 00:11:40 อย่างน้อยครั้งละประมาณ 10-15 นาที
00:11:40 → 00:11:43 ถ้าขี้เกียจก็ 10 นาที ถ้าขยันหน่อยก็ 15 นาที
00:11:43 → 00:11:45 คือถ้าท่านขี้เกียจ Warm up Warm down
00:11:45 → 00:11:48 ท่านก็จะไปเหนื่อยตอนที่ท่านบาดเจ็บ
00:11:48 → 00:11:51 หรือว่าท่านจะเป็นเหยื่อตอนที่ท่านหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:11:51 → 00:11:55 เพราะอะไร เพราะว่าถ้าเกิดเราไม่ Warm up ดีๆ
00:11:55 → 00:11:59 แล้วเราไปออกกำลังกายเร็วๆ ความดันโลหิตบางทีมันจะควบคุมไม่ได้
00:11:59 → 00:12:02 ทำให้บางทีหน้ามืด เป็นลม เวียนหัวบ้าง
00:12:02 → 00:12:05 หรือกล้ามเนื้อบาดเจ็บมากอย่างนี้ก็ไม่ดี
00:12:05 → 00:12:07 และควรจะ Warm down เพราะไร
00:12:07 → 00:12:10 มันก็เหมือนรถที่วิ่งมาเร็วๆ แล้วจอดอย่างนี้ไม่ดี
00:12:10 → 00:12:13 เหมือนหัวใจที่เต้นมาเร็วๆ หยุดอย่างนี้ไม่ดี
00:12:13 → 00:12:16 โดยเฉพาะผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตสูง
00:12:16 → 00:12:17 ความดันโลหิตจะสวิง
00:12:17 → 00:12:20 หัวใจจะอาจจะเต้นผิดจังหวะ หัวใจจะขาดเลือดได้
00:12:20 → 00:12:24 เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังเรื่องของการ Warm up Warm down ให้ดี
00:12:24 → 00:12:26 และนี่ก็คือ 4 ข้อที่ต้องรู้เลย
00:12:26 → 00:12:29 โดยเฉพาะผู้ป่วยความดันสูงที่อยากออกกำลังกาย
00:12:29 → 00:12:30 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:12:30 → 00:12:33 กด Subscribe และกดระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:00:00 → 00:00:03 ระวังไว้เลยสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:00:03 → 00:00:07 ถ้าท่านออกกำลังกายและไม่รู้ 4 ข้อนี้
00:00:14 → 00:00:17 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:17 → 00:00:20 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ
00:00:22 → 00:00:24 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องยอดฮิต
00:00:24 → 00:00:28 แล้วก็เป็นเรื่องถ้าพลาดไปแล้วอันตรายแบบสุดๆ
00:00:28 → 00:00:32 ระวังไว้เลยสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:00:32 → 00:00:36 ถ้าท่านออกกำลังกายและไม่รู้ 4 ข้อนี้ อันตรายสุดๆ
00:00:36 → 00:00:38 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:38 → 00:00:41 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:00:41 → 00:00:43 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย
00:00:43 → 00:00:45 ผมขออนุญาตให้กระโดดที่ 3 นาทีหลัง
00:00:45 → 00:00:46 ผมสรุปไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
00:00:46 → 00:00:49 ส่วนท่านที่มีเวลา เราไปพร้อมๆ กันเลย
00:00:49 → 00:00:51 สำหรับเรื่องของความดันโลหิตสูง
00:00:51 → 00:00:57 ผมว่าในประเทศไทยผู้ป่วยที่เป็นภาวะความดันโลหิตสูงมากเยอะมากเลย
00:00:57 → 00:00:59 เป็นล้านคนแล้วกัน แบบนี้แล้วกัน
00:01:00 → 00:01:03 คราวนี้การกินยามันก็น่าเบื่อใช่ไหม
00:01:03 → 00:01:05 เพราะฉะนั้นการออกกำลังกาย
00:01:05 → 00:01:09 จะช่วยทำให้ภาวะความดันโลหิตของท่านลดต่ำลงได้
00:01:09 → 00:01:13 บางคนสามารถที่จะลดปริมาณยาได้
00:01:13 → 00:01:18 หรือถ้าแบบฟิตมากๆ เก่งมากๆ ดูแลตัวเองดีมากๆ ถึงกับหยุดยาได้เลย
00:01:18 → 00:01:22 แต่คราวนี้การออกกำลังกาย มันมีทั้งคุณและมีทั้งโทษ
00:01:22 → 00:01:25 ถ้าท่านออกไลน์ผิด โดยเฉพาะที่ท่านเป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:01:25 → 00:01:27 ผมบอกเลยอันตรายสุดๆ
00:01:27 → 00:01:32 มาดูข้อแรกที่ท่านต้องรู้ ภาวะความดันโลหิตสูง
00:01:32 → 00:01:36 ถ้าเมื่อไหร่ตัวบนสูงเกิน 180 ตัว ล่างสูงเกิน 110
00:01:36 → 00:01:41 อย่าเพิ่งออกกำลังกายให้ไปทานยาลดความดันก่อน
00:01:41 → 00:01:44 ให้ต่ำกว่านี้ถึงจะออกกำลังกายได้
00:01:44 → 00:01:49 และเมื่อไหร่ก็ตามตัวบนมากกว่า 200 ตัวล่างมากกว่า 110
00:01:49 → 00:01:53 รีบวิ่งไปพบแพทย์ทันทีเลย แบบนี้เส้นเลือดในสมองแตกได้
00:01:53 → 00:01:55 คราวนี้มันสำคัญยังไง
00:01:55 → 00:02:00 สำคัญงี้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีภาวะความดันโลหิตสูง
00:02:00 → 00:02:03 การวัดความดัน ทุกๆ เช้าจะเป็นประโยชน์มาก
00:02:03 → 00:02:05 โดยเฉพาะก่อนออกกำลังกาย
00:02:05 → 00:02:10 เพราะบางครั้งเราไม่รู้ว่าความดันโลหิต ณ เวลานั้นเราเป็นเท่าไหร่
00:02:10 → 00:02:12 แล้วเรามีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่
00:02:12 → 00:02:16 และถ้าเกิดตอนเราวัดออกมาแล้ว ความดันโลหิตเราขึ้นไป 180
00:02:17 → 00:02:19 แล้วเราออกกำลังกายแบบนี้อันตราย
00:02:19 → 00:02:21 แต่จะอันตรายกว่าถ้าท่านไม่วัด
00:02:21 → 00:02:23 ท่านไม่รู้ว่าเวลานั้นความดันโลหิตท่านเท่าไหร่
00:02:23 → 00:02:25 แล้วท่านไปออกกำลังกาย
00:02:25 → 00:02:28 แล้วจะเกิดเช้านั้นมันเผอิญความดันโลหิตเราสัก 890
00:02:28 → 00:02:30 แล้วเราไปออกกำลังกายเป็นไง
00:02:30 → 00:02:35 แทนที่เราจะได้สุขภาพที่ดี เรากลับเสี่ยงมีเส้นเลือดในสมองแตก
00:02:35 → 00:02:38 ซึ่งเมื่อเส้นเลือดในสมองแตก มันจะเปลี่ยนชีวิตของท่าน
00:02:38 → 00:02:39 และชีวิตของครอบครัวท่านเลย
00:02:39 → 00:02:43 เพราะท่านอาจจะเป็นอัมพาตได้ตลอดชีวิต
00:02:43 → 00:02:46 นี่คือข้อแรกที่แนะนำไว้เลยว่า
00:02:46 → 00:02:50 ควรจะวัดความดันเสมอก่อนออกกำลังกาย
00:02:50 → 00:02:53 ในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:02:53 → 00:02:56 และได้รับการรักษาอยู่ อันนี้เป็นข้อแนะนำ
00:02:56 → 00:03:00 สำหรับผมที่อยากจะแนะนำให้ทุกๆ ท่านวัดความดันโลหิตก่อน
00:03:00 → 00:03:03 โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:03:03 → 00:03:08 ควรจะต้องวัดก่อนที่จะออกกำลังกายแบบที่เหนื่อยมากกว่าปกตินั่นเอง
00:03:08 → 00:03:14 มาต่อกันข้อที่ 2 บ้าง นั่นก็คือเทคนิคการออกกำลังกายที่ปลอดภัย
00:03:14 → 00:03:18 ในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:03:18 → 00:03:20 นั่นก็คือ 4 ไม่ครับ
00:03:20 → 00:03:24 1. ไม่หนักจนเกินไป 2. ไม่นานจนเกินไป
00:03:24 → 00:03:29 3. ไม่ถี่จนเกินไป 4. ไม่ซ้ำกันจนเกินไป
00:03:29 → 00:03:31 ไม่หนักจนเกินไปหมายความว่ายังไง
00:03:32 → 00:03:34 เวลาออกกำลังกายให้พอพูดคุยได้
00:03:34 → 00:03:37 ให้พอร้องเพลงได้ ถ้าไม่มีคนพูดด้วย
00:03:37 → 00:03:41 ถ้าหัวใจฉันเต้นตอนพักสักประมาณ 70 หรือ 60
00:03:41 → 00:03:44 ให้บวกไปประมาณ 30 หรือ 40
00:03:44 → 00:03:47 ก็คือเล่นประมาณ 100-110 ประมาณนี้ก็จะปลอดภัย
00:03:47 → 00:03:50 อย่าไปเต้นแรงมากนะ เราไม่ใช่นักแข่งนักกีฬา
00:03:50 → 00:03:53 เราเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
00:03:53 → 00:03:57 ไม่นานจนเกินไป ไม่ควรเกิน 30-60 นาที
00:03:57 → 00:04:01 ถ้าผมให้เฉลี่ยประมาณ 30-45 นาที กำลังสวย
00:04:01 → 00:04:04 ไม่ถี่จนเกินไป แนะนำสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง
00:04:04 → 00:04:10 ไม่ควรออกกําลังกาย 7 วันต่อสัปดาห์ ควรจะมีวันพักบ้าง 2-3 วัน
00:04:10 → 00:04:13 ทำให้ร่างกายได้พักผ่อน กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
00:04:14 → 00:04:18 ข้อ 4 ไม่ซ้ำกันจนเกินไป การออกกำลังกายควรจะหลากหลาย
00:04:18 → 00:04:22 โดยเฉพาะกำลังกายแบบแอโรบิก วิ่งบ้าง
00:04:22 → 00:04:26 ว่ายน้ำบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง ยืดเส้นยืดสายบ้าง
00:04:26 → 00:04:30 ใช้แรงต้านบ้าง แต่ต้องไม่หนักจนเกินไป
00:04:30 → 00:04:32 ถ้าเกิดเราใช้แรงต้านหนักจนเกินไป
00:04:32 → 00:04:35 มันไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยความดันสูง
00:04:35 → 00:04:37 เพราะมันจะทำให้ความดันเราสูงขึ้นมากๆ
00:04:37 → 00:04:40 และอาจจะเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้
00:04:40 → 00:04:44 มาต่อกันที่ข้อที่ 3 ข้อที่ 3 นี้ก็สำคัญมากๆ เลย
00:04:44 → 00:04:49 โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง
00:04:49 → 00:04:52 นั่นคือห้ามกลั้นหายใจขณะออกกำลังกาย
00:04:52 → 00:04:56 โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบต้านแรง
00:04:56 → 00:04:59 หรือ Resistance Exercise เช่น การวิดพื้น
00:04:59 → 00:05:02 การทำท่าแพลงก์ การยกน้ำหนักๆ
00:05:02 → 00:05:06 พวกนี้เราจะเผลอกลั้นหายใจ พอเรากลั้นหายใจปุ๊บ
00:05:06 → 00:05:10 ขณะที่เราออกกำลังกายจะทำให้ความดันโลหิตเราพุ่งสูงปรี๊ดขึ้น
00:05:10 → 00:05:12 พอพุ่งสูงขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร
00:05:12 → 00:05:15 แทนที่เราจะได้ประโยชน์จากการออกกำลังกาย
00:05:15 → 00:05:19 เป็นเกิดความเสี่ยงในการเกิดสโตรกหรือหลอดเลือดในสมองแตก
00:05:19 → 00:05:22 และทำให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตได้นั่นเอง
00:05:22 → 00:05:26 ถ้าออกกำลังกายที่หัวต่ำมากๆ
00:05:26 → 00:05:28 หรือท่า Warm up Warm down ที่หัวต่ำมากๆ
00:05:29 → 00:05:32 เช่น ก้มหัวแล้วเอามือไปแตะพื้น
00:05:32 → 00:05:37 หรือซิทอัพบนเก้าอี้นั่งทำให้หัวเราต่ำกว่าลำตัว
00:05:37 → 00:05:43 ท่าอะไรก็ตามที่เราลุกนั่งเร็วๆ หรือเปลี่ยนท่าทางเร็วๆ
00:05:43 → 00:05:45 แบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:05:45 → 00:05:49 เพราะว่ามันจะเกิดภาวะที่ความดันโลหิตปรับตัวไม่ทัน
00:05:49 → 00:05:52 ทำให้สูงบ้างต่ำบ้าง หน้ามืดเป็นลม
00:05:52 → 00:05:55 บางคนสมองขาดเลือด บางคนหัวใจขาดเลือด
00:05:55 → 00:06:00 บางคนหัวใจเต้นผิดจังหวะ แทนที่จะสุขภาพดีกลับถึงตายได้
00:06:00 → 00:06:03 อันตรายจริงๆ สำหรับข้อ 3 นี้
00:06:03 → 00:06:06 มาต่อกันที่ข้อที่ 4 ข้อสุดท้าย
00:06:06 → 00:06:10 นั่นก็คือต้อง Warm up Warm down เสมอ
00:06:10 → 00:06:12 สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง แต่ผมบอกจริงๆ
00:06:13 → 00:06:16 มันสำหรับทุกการออกกำลังกายและทุกคนเพราะอะไร
00:06:16 → 00:06:21 คือต้องบอกว่าถ้าเราขี้เกียจหรือเราไม่อยาก Warm up Warm down
00:06:21 → 00:06:25 เพียง 15 นาทีก่อนออก และ 15 นาทีหลังออก
00:06:25 → 00:06:29 เราจะต้องพบเผชิญกับการบาดเจ็บต่างๆ
00:06:29 → 00:06:32 การทุกข์ทรมานต่างๆ มากกว่านี้อีกเยอะ
00:06:32 → 00:06:34 เพราะฉะนั้นแนะนำถ้าท่านจะวิ่ง
00:06:34 → 00:06:38 แนะนำให้เดินให้เหงื่อออกนิดๆ ก่อนสัก 10 นาที
00:06:38 → 00:06:40 หลังจากวิ่งเสร็จให้เดินต่ออีกสัก 1-2 กิโล
00:06:40 → 00:06:45 แบบนี้จะยิ่งรีดไขมันได้ดี ทำให้ไขมันส่วนเกินออกไปด้วยซ้ำ
00:06:45 → 00:06:47 ยิ่งดีแบบสุดๆ เลย
00:06:47 → 00:06:51 คือการไม่ Warm up Warm down ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:06:51 → 00:06:52 มันอันตรายอย่างไร
00:06:52 → 00:06:58 คือถ้าเราไม่ Warm up แล้วผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไปออกกำลังกายทันที
00:06:58 → 00:07:03 จะทำให้ความดันโลหิตจากที่สูงอยู่แล้ว เช่น สมมุติ 140-150
00:07:03 → 00:07:06 มันจะพุ่งกระชากขึ้นไปเลย
00:07:06 → 00:07:09 เพราะว่าการควบคุมความดันของเรามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
00:07:09 → 00:07:14 แล้วบางทีเรามีโรคหัวใจแฝงอยู่ มีโรคนู่นนี่แฝงอยู่
00:07:14 → 00:07:16 เพราะว่าเป็นผู้ป่วยแบบที่มีโรคอยู่แล้ว
00:07:16 → 00:07:20 ก็จะทำให้หัวใจเราทำงานหนัก ทำให้ถึงขั้นหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:07:20 → 00:07:23 หัวใจขาดเลือด อาจทำให้เสียชีวิตได้อันตรายจริงๆ
00:07:24 → 00:07:27 และสำหรับการ Warm down ก็สำคัญมากๆ ท่านคิดดู
00:07:27 → 00:07:33 รถวิ่งมาเร็วๆ จอดเบรคอย่างนี้ไม่ค่อยดี
00:07:33 → 00:07:42 มันต้องวิ่งเร็วแล้วก็ลดความเร็วลง สวยๆ
00:07:42 → 00:07:45 แบบนี้หัวใจจะไม่ทำงานหนัก
00:07:45 → 00:07:48 เส้นเลือดเราจะหดคลายตัวได้เป็นอย่างดี
00:07:48 → 00:07:53 ลดความเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตก ลดความเสี่ยงหัวใจขาดเลือด
00:07:53 → 00:07:55 ลดความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:07:55 → 00:07:57 เพราะบางคนออกกำลังกายจนหัวใจวาย
00:07:57 → 00:08:00 ผมว่าท่านคงได้เห็นและเคยได้ยิน
00:08:00 → 00:08:04 เช่น กำลังกายจนแบบอยู่ดีๆ สลบล้มลงเสียชีวิต
00:08:04 → 00:08:09 อันนี้น่าสงสาร น่าเศร้าใจมาก และเราจะไม่ต้องเป็นคนหนึ่งในนั้น
00:08:09 → 00:08:13 เราไม่อยากจะเสี่ยง เพราะฉะนั้น 4 ข้อที่ผมบอกมา
00:08:13 → 00:08:15 ช่วยท่านได้อย่างแน่นอน
00:08:16 → 00:08:19 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุป
00:08:20 → 00:08:23 ระวังผู้ป่วยความดันสูง
00:08:23 → 00:08:28 ถ้าไม่รู้ 4 ข้อนี้แล้วไปออกกำลังกาย อันตรายมากๆ
00:08:28 → 00:08:31 ข้อแรก เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีภาวะความดันโลหิตสูง
00:08:31 → 00:08:35 มากกว่า 180 ตัวบน และตัวล่างต่ำกว่า 110
00:08:35 → 00:08:36 ไม่ควรออกกำลังกายทันที
00:08:36 → 00:08:39 ควรได้รับยาลดความดันก่อนถึงจะออกกำลังกายได้
00:08:39 → 00:08:41 และเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีความดันโลหิต
00:08:41 → 00:08:44 ตัวบนสูงกว่า 200 และตัวล่างต่ำกว่า 110
00:08:44 → 00:08:47 ให้รีบวิ่งไปพบแพทย์ทันที
00:08:47 → 00:08:49 เพราะว่าแบบนี้อาจจะเส้นเลือดในสมองแตกได้
00:08:49 → 00:08:53 และถ้าไม่ออกกำลังกายนี่แบบเสี่ยงสุดๆ อันตรายสุดๆ
00:08:54 → 00:08:57 และโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงและจะออกกำลังกาย
00:08:57 → 00:09:01 ผมขอแนะนำให้วัดความดันโลหิตก่อนที่จะออกกำลังกายทุกครั้ง
00:09:01 → 00:09:04 เพื่อความปลอดภัย เพราะเราไม่แน่เหมือนกันว่า
00:09:04 → 00:09:07 ณ เวลานั้นความดันโลหิตเราเป็นอย่างไร
00:09:07 → 00:09:10 สำหรับผู้มีความดันโลหิตปกติอยู่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียส
00:09:10 → 00:09:14 ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องวัดความดันก่อนออกกำลังกายทุกครั้งนั่นเอง
00:09:14 → 00:09:16 มาต่อกันที่เทคนิคข้อที่ 2 บ้าง
00:09:16 → 00:09:20 เทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้องสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:09:20 → 00:09:22 ใช้หลักการ 4 ไม่
00:09:22 → 00:09:25 1. ไม่หนักจนเกินไป 2. ไม่นานจนเกินไป
00:09:25 → 00:09:29 3. ไม่ถี่จนเกินไป 4. ไม่ซ้ำกันจนเกินไป
00:09:29 → 00:09:32 ไม่หนักจนเกินไปหมายความว่าหัวใจไม่ควรเต้นเร็วเกินไป
00:09:32 → 00:09:36 ถ้าขณะพักหัวใจเต้น 70 ให้บวกไป 30-40
00:09:36 → 00:09:39 ก็คือเต้น 100-110 ครั้ง
00:09:39 → 00:09:42 ถ้าขี้เกียจนับก็ดูว่าท่านยังร้องเพลงได้ขณะออกกำลังกาย
00:09:42 → 00:09:48 หรือว่าท่านพูดกับเพื่อนได้เบาๆ ไม่ใช่พูดไปตลอดแบบผมพูด
00:09:48 → 00:09:52 มันก็ง่ายเกินไป ก็พูดพอได้อย่างนี้ถือว่าออกกำลังกายได้โอเค
00:09:52 → 00:09:55 ไม่นานจนเกินไป ไม่ควรเกิน 60 นาทีต่อครั้ง
00:09:55 → 00:09:59 แนะนำประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้งกำลังสวย
00:09:59 → 00:10:03 และสัปดาห์นึงประมาณ 90-150 นาทีต่อสัปดาห์
00:10:03 → 00:10:04 ก็จะยอดเยี่ยมมาก
00:10:05 → 00:10:09 สำหรับไม่ทีจนเกินไป ก็คือแนะนำไม่ควรเกิน 5 ครั้งต่อสัปดาห์
00:10:09 → 00:10:13 3-5 ครั้ง กำลังสวย ควรจะมีวันพักบ้าง
00:10:13 → 00:10:15 อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วันนั่นเอง
00:10:15 → 00:10:17 เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อน
00:10:17 → 00:10:20 และข้อที่ 4 ไม่ซ้ำกันจนเกินไป
00:10:20 → 00:10:23 เพื่อให้กล้ามเนื้อขยับร่างกายได้ทุกส่วน
00:10:23 → 00:10:26 วันนึงปั่นจักรยาน วันนึงวิ่ง วันนึงว่ายน้ำ
00:10:26 → 00:10:30 วันนึงยืดเส้นยืดสาย วันนึงเล่นเวทเทรนนิ่งแบบเบาๆ
00:10:30 → 00:10:33 ไม่แนะนำให้เล่นเวทเทรนนิ่งแบบรุนแรงมากเกินไป
00:10:33 → 00:10:36 เพราะว่ามันจะทำให้ความดันสูงได้ง่ายจนเกินไป
00:10:36 → 00:10:43 มาต่อกันข้อที่ 3 บ้าง นั่นก็คือห้ามกลั้นหายใจเวลาออกกำลังกาย
00:10:43 → 00:10:47 เพราะว่าถ้าออกกำลังกายๆ หลายๆ ท่า โดยเฉพาะการเล่นเวท
00:10:47 → 00:10:50 หรือ Resistance Exercise ก็คือการต้านแรงโน้มถ่วง
00:10:50 → 00:10:54 เช่น การทำแพลงก์หรือการวิดพื้น
00:10:54 → 00:10:57 การดึงข้อ พวกนี้จะทำให้ความดันโลหิตสูงมาก
00:10:57 → 00:11:01 เพราะฉะนั้นก็อาจจะหลีกเลี่ยงไปออกกำลังกายแบบอื่นดีกว่า
00:11:01 → 00:11:05 และก็การยกน้ำหนักที่มันหนักเกินไปก็ไม่แนะนำ
00:11:05 → 00:11:08 ก็เอาพอท้วมเอาพอสุขภาพดี
00:11:08 → 00:11:11 ไม่ต้องไปแข่งขันกล้ามกับใครนะ ไม่จำเป็น
00:11:11 → 00:11:13 แล้วก็ท่าออกกำลังกายที่แบบหัวต่ำมากๆ
00:11:13 → 00:11:18 เช่น ต้องก้มหัว ลุกนั่งเร็วๆ ขยับร่างกายเร็วจนเกินไป
00:11:18 → 00:11:20 แบบนี้ก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
00:11:20 → 00:11:23 เพราะว่าความดันมันจะสวิง แล้วทำให้หน้ามืดเวียนหัว
00:11:23 → 00:11:26 หรืออาจจะเสี่ยงจนเส้นเลือดในสมองแตกได้
00:11:26 → 00:11:29 อันนี้อันตรายจริงๆ ก็เอาแบบสบายๆ
00:11:29 → 00:11:32 เน้นสุขภาพนะ ไม่ได้เน้นพลังงาน
00:11:33 → 00:11:35 มาต่อกันที่ข้อที่ 4 ข้อสุดท้าย
00:11:35 → 00:11:37 ต้อง Warm up Warm down ทุกครั้ง
00:11:37 → 00:11:40 อย่างน้อยครั้งละประมาณ 10-15 นาที
00:11:40 → 00:11:43 ถ้าขี้เกียจก็ 10 นาที ถ้าขยันหน่อยก็ 15 นาที
00:11:43 → 00:11:45 คือถ้าท่านขี้เกียจ Warm up Warm down
00:11:45 → 00:11:48 ท่านก็จะไปเหนื่อยตอนที่ท่านบาดเจ็บ
00:11:48 → 00:11:51 หรือว่าท่านจะเป็นเหยื่อตอนที่ท่านหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:11:51 → 00:11:55 เพราะอะไร เพราะว่าถ้าเกิดเราไม่ Warm up ดีๆ
00:11:55 → 00:11:59 แล้วเราไปออกกำลังกายเร็วๆ ความดันโลหิตบางทีมันจะควบคุมไม่ได้
00:11:59 → 00:12:02 ทำให้บางทีหน้ามืด เป็นลม เวียนหัวบ้าง
00:12:02 → 00:12:05 หรือกล้ามเนื้อบาดเจ็บมากอย่างนี้ก็ไม่ดี
00:12:05 → 00:12:07 และควรจะ Warm down เพราะไร
00:12:07 → 00:12:10 มันก็เหมือนรถที่วิ่งมาเร็วๆ แล้วจอดอย่างนี้ไม่ดี
00:12:10 → 00:12:13 เหมือนหัวใจที่เต้นมาเร็วๆ หยุดอย่างนี้ไม่ดี
00:12:13 → 00:12:16 โดยเฉพาะผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตสูง
00:12:16 → 00:12:17 ความดันโลหิตจะสวิง
00:12:17 → 00:12:20 หัวใจจะอาจจะเต้นผิดจังหวะ หัวใจจะขาดเลือดได้
00:12:20 → 00:12:24 เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังเรื่องของการ Warm up Warm down ให้ดี
00:12:24 → 00:12:26 และนี่ก็คือ 4 ข้อที่ต้องรู้เลย
00:12:26 → 00:12:29 โดยเฉพาะผู้ป่วยความดันสูงที่อยากออกกำลังกาย
00:12:29 → 00:12:30 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:12:30 → 00:12:33 กด Subscribe และกดระดิ่ง ขอบคุณครับ