00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:12 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:12 → 00:00:16 ตรวจสุขภาพแล้วเนี่ยวิ่งสายพานปกติแปลว่า
00:00:16 → 00:00:18 สุขภาพหัวใจแข็งแรง 100% มยคะอาจารย์ไม่
00:00:18 → 00:00:21 ครับเพราะว่าวิ่งสายพานเนี่ยมันเป็นการ
00:00:21 → 00:00:26 วินิจฉัยหลอดเลือที่ิตีไปแล้ว 70% อืการ
00:00:26 → 00:00:29 วิ่งสายพันธุมาดักจับว่าใครต้องการที่จะ
00:00:29 → 00:00:32 ไปการแก้ไขด้วยบัลลูนหรือการผ่าตัดเลือด
00:00:32 → 00:00:36 หัวใจโองั้นแปลว่าตีบไป 50 60% ก็ยัง
00:00:36 → 00:00:41 วิ่งสายพานแล้วผลปกติได้ถูกต้องครับดีที่
00:00:41 → 00:00:45 อยู่เดียว Presented by ให้รักดูแลชีวิต
00:00:45 → 00:00:49 ไทยประกัน
00:00:49 → 00:00:52 ชีวิตสวัสดีค่ะขอต้อนรับคุณผู้ฟังเข้าสู่
00:00:52 → 00:00:55 Single be podcast ค่ะเรายังอยู่ใน
00:00:55 → 00:00:58 เดือนแห่งความรักนะคะดังนั้นวันนี้หมอก็
00:00:58 → 00:01:01 เลยอยากจะมาชวนพูดคุยถึงอวัยวะที่คนมักจะ
00:01:01 → 00:01:03 เอามาเกี่ยวข้องกับความรักมากๆเลยนั่นก็
00:01:03 → 00:01:06 คือเรื่องของหัวใจค่ะแต่วันนี้ไม่ใช่
00:01:06 → 00:01:08 เรื่องของสุขภาพใจนะคะแต่เป็นเรื่องของ
00:01:08 → 00:01:11 สุขภาพหัวใจคือความแข็งแรงของหัวใจซึ่ง
00:01:11 → 00:01:14 หมอว่าระยะหลังๆอ่ะเราอาจจะได้ยินข่าวแบบ
00:01:14 → 00:01:16 เอ๊ะเหมือนคนอายุก็ไม่มากก็เป็นโรคหัวใจ
00:01:16 → 00:01:19 หรือบางทีเราก็ได้ยินถึงงานวิ่งเอ๊ะนัก
00:01:19 → 00:01:22 วิ่งออกกำลังก็เป็นโรคหัวใจแบบ์ทอทคฟุบ
00:01:22 → 00:01:25 กลางงานคางานอะไรอย่าเงี้ยทำให้เกิดการ
00:01:25 → 00:01:28 ตั้งคำถามขึ้นมาประมาณนึงเหมือนกันว่า
00:01:28 → 00:01:31 ทำไมนะทำไมแบบคนที่เหมือนจะแข็งแรงดีออก
00:01:31 → 00:01:33 กำลังกายถึงยังเป็นหรือว่าการตรวจใน
00:01:33 → 00:01:36 ปัจจุบันมันมีอะไรที่มันจะตรวจไม่ให้มัน
00:01:36 → 00:01:39 เกิดสิ่งเหล่านี้ได้บ้างมยหมอก็เลยคิดว่า
00:01:39 → 00:01:42 โหนี่เลยค่ะพอได้ยินประเด็นที่คนถกกันถึง
00:01:42 → 00:01:44 เรื่องเนี้ยก็คิดถึงอาจารย์แพทท่านนี้
00:01:44 → 00:01:47 ขึ้นมานะคะคิดว่าอาจารย์น่าจะเป็นคนที่จะ
00:01:47 → 00:01:49 มาตอบคำถามถึงเรื่องของว่าทำไมอายุยังไม่
00:01:49 → 00:01:52 มากตรวจสุขภาพทุกปียังฮาร์ทอทคได้นะคะ
00:01:52 → 00:01:56 สำหรับแขกรับเชิญใน EP นี้นะคะก็ขอยินดี
00:01:56 → 00:01:58 ต้อนรับนายแพทย์นพรัตน์พานทองวิริยกุล
00:01:58 → 00:02:01 อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอด
00:02:01 → 00:02:04 เลือดและผู้อำนวยการโรงพยาบาล BNH ค่ะ
00:02:04 → 00:02:07 สวัสดีค่ะอาจารย์สวัสดีครับอาจารย์พิง
00:02:07 → 00:02:09 ครับค่ะก็ขอบคุณอาจารย์มากเลยนะคะทราบว่า
00:02:09 → 00:02:12 อาจารย์งานยุ่งมากๆแต่ก็สละเวลามาให้ความ
00:02:12 → 00:02:14 รู้กับชาว Single beeing ในวันนี้นะคะ
00:02:14 → 00:02:17 ยินดีครับค่ะก็ก่อนอื่นเลยค่ะอาจารย์คือ
00:02:17 → 00:02:19 จริงๆประเด็นของวันเนี้ยคือผึงว่า
00:02:19 → 00:02:21 ปัจจุบันน่ะค่ะเหมือนมันมีประเด็นที่เรา
00:02:21 → 00:02:24 คุยกันบ่อยๆว่าเอ๊ะเหมือนคนอายุไม่ค่อย
00:02:24 → 00:02:26 มากอ่ะก็ได้ยินข่าวคนนั้นคนนี้เป็นโรคหัว
00:02:26 → 00:02:29 ใจอะไรเหมือนกับคนอายุไม่มากก็เป็นโรคหัว
00:02:29 → 00:02:31 ใจได้ในปัจจุบันอาจารย์พอจะมีสถิติใน
00:02:31 → 00:02:34 เรื่องนี้มั้ยคะก็ปัจจุบันเนี้ยคนที่เป็น
00:02:34 → 00:02:38 โรคหัวใจหรือว่ามีภาวะของการชตายเฉียบ
00:02:38 → 00:02:41 พลันหรือว่ามีหลอดเลือดหัวใจตีบเนี่ยนะ
00:02:41 → 00:02:46 ครับก็จะมีอายุที่น้อยลงไปเรื่อยๆนะครับ
00:02:46 → 00:02:49 ซึ่งอาจจะมีปัจจัยหลายๆอย่างมันมีการ
00:02:49 → 00:02:52 เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เมื่อย้อนไปสัก 100
00:02:52 → 00:02:55 ปีก็มาปัจจุบันนี้นะครับวิถีการดงชีวิต
00:02:55 → 00:02:57 ของคนเราก็เปลี่ยนไปครับก็คือด้วย
00:02:57 → 00:03:00 ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่วิถีชีวิตของแบบ
00:03:00 → 00:03:03 โมเดินไสลเนี่ยมันทำให้การเป็นโรคหัวใจ
00:03:03 → 00:03:05 เนี่ยเกิดขึ้นในคนที่อายุน้อยลงใช่มั้ยคะ
00:03:05 → 00:03:07 อาจารย์คือโรคหัวใจมันก็จะต้องมาจาก
00:03:07 → 00:03:10 ปัจจัยเสี่ยงก่อนทีนี้ปัจจัยเสี่ยงเนี่ย
00:03:10 → 00:03:14 มันก็จะประกอบด้วยภาวะของไขมันคอเลสเตอ
00:03:14 → 00:03:19 ตัวเลวที่สูงภาวะของไตรกิตที่สูงหรือไข
00:03:19 → 00:03:23 มันตัวดีที่ต่ำภาวะของความดันโลหิตสูง
00:03:23 → 00:03:28 ภาวะของน้ำตาลสูงการสูบุหรี่รวมถึงปัจจัย
00:03:28 → 00:03:31 ของสิ่งแวดล้อมด้วยซึ่งเราอยู่ในเมือง
00:03:31 → 00:03:34 หรือมี Industry ซึ่งทำให้มี pollution
00:03:34 → 00:03:36 เนี่ย pollution ก็อีกเหปัจจัยเหมือนกัน
00:03:36 → 00:03:39 ทำให้มีโอกาสเกิดรชัยที่มากขึ้นซึ่งถ้า
00:03:39 → 00:03:43 เรากลับไปดูคนเป็นเบาหวานก็เป็นเยอะขึ้น
00:03:43 → 00:03:47 เป็นอายุน้อยมากขึ้นอค่ะคนที่มีไขมันสูง
00:03:47 → 00:03:50 ก็ดูเหมือนว่าอยู่ในเมืองเนี่ยจะมีโอกาส
00:03:50 → 00:03:53 ที่มีคอเลสเตอตัวไม่ดีต่ำๆเนี่ยมันก็จะ
00:03:53 → 00:03:57 ยากนะครับเพราะว่าเราก็จะมีการบริโภค
00:03:57 → 00:04:01 อาหารที่เปลี่ยนไปนะครับแล้วก็อืน้ำหนัก
00:04:01 → 00:04:05 ของคนเราปัจจุบันก็มีน้ำหนักที่เกินมาก
00:04:05 → 00:04:08 กว่าคน 100 ปีที่แล้วใช่ครับแล้วก็เพะน้ำ
00:04:09 → 00:04:11 หนักเกินมันก็ตามมาด้วยความดันก็สูงขึ้น
00:04:11 → 00:04:16 น้ำตาลก็สูงขึ้นแล้วเราก็มี activity ที่
00:04:16 → 00:04:18 มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงเมื่อเทียบ
00:04:19 → 00:04:22 กับเมื่อสมัยก่อนอนัติดโต๊ะใช่ถูกต้อง
00:04:22 → 00:04:26 ครับอืดังนั้นก็คือทั้งอาหารทั้งการ
00:04:26 → 00:04:28 เคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลงแล้วก็ทั้ง
00:04:28 → 00:04:30 สภาพแวดล้อมแร์ pollution ทั้งหมดทั้งมน
00:04:30 → 00:04:33 ก็คือส่งผลกระทบกับความเสี่ยงของโรคต่างๆ
00:04:33 → 00:04:35 ที่อาจารย์ว่ามาก็คือโรคในกลุ่ม ncd ทั้ง
00:04:35 → 00:04:39 หมดใช่มั้ยคะใช่ครับถูกต้องครับอืทีเนี้ย
00:04:39 → 00:04:41 มันก็จะมีอีกประเด็นนึงที่จริงๆอ่ะก็จะ
00:04:41 → 00:04:44 แชร์กันในโลกโซเชียลบ่อยๆก็คือข่าวอย่าง
00:04:44 → 00:04:47 เช่นว่างานวิ่งอยู่ๆก็จะมีคนที่จะล้มฟุบ
00:04:47 → 00:04:51 หัวใจวายาร์แทคกลางงานวิ่งอยู่เรื่อยๆ
00:04:51 → 00:04:53 เหมือนเป็นข่าวให้เราได้ยินเกือบทุกเดือน
00:04:53 → 00:04:56 เลยอาจารย์อันเนี้ยค่ะอาจารย์ว่ามันเกิด
00:04:56 → 00:04:58 จากอะไรได้บ้างคะอันแรกเนี่ยสถิติเนี่ยก็
00:04:58 → 00:05:01 คือว่าในงานวิ่งมาราธอนใหญ่่ๆเนี่ยนะครับ
00:05:01 → 00:05:06 จะมีคนที่ heart attack หรือคปสไปแบบล้ม
00:05:06 → 00:05:09 ฟุบไปเนี่ยเกิดขึ้นประมาณ 1 ต 50,000 คน
00:05:09 → 00:05:12 อืซึ่งงานใหญ่ๆเนี่ยเขาก็จะต้องเตรียมทีม
00:05:12 → 00:05:15 ขั้นกลางทุก 50,000 นะครับอือเพื่อให้มี
00:05:15 → 00:05:18 ทีมสำหรับเตรียมพร้อมนะครับอันที่ 2 ก็
00:05:18 → 00:05:21 คือว่าการวิ่งเนี่ยมันก็อาจจะไม่ได้เป็น
00:05:21 → 00:05:24 การการันตีว่ามันจะทำให้หัวใจเราไม่เกิด
00:05:24 → 00:05:28 ภาวะของหลดือหัวใจตีบเพราะนักวิ่งก็อาจจะ
00:05:28 → 00:05:30 มีซอซึ่งสู
00:05:30 → 00:05:33 อือฮึนักวิ่งก็อาจจะมีความดันสูงอืนัก
00:05:33 → 00:05:36 วิ่งก็อาจจะยังสูบบุหรี่อยู่แล้วก็คิดว่า
00:05:36 → 00:05:39 เอ้ยฉันเนี่วิ่งแล้วเนะฉันคงจะแข็งแรงดี
00:05:39 → 00:05:43 เนี่ยครับออืค่ะก็เลยทำให้ว่าเขาไม่ทราบ
00:05:43 → 00:05:46 ว่าตอนเนี้ยสภาพของหลอลุใจเขาเนี่ยอยู่
00:05:46 → 00:05:50 ตรงไหนอืครับเขาอาจจะมั่นใจด้วยว่าการ
00:05:51 → 00:05:52 เป็นนักวิ่งแล้วเนี่ยดูเหมือนแข็งแรงกว่า
00:05:52 → 00:05:56 คนทั่วๆไปแต่จริงๆแล้วก็อาจจะไม่ใช่แบบ
00:05:56 → 00:05:59 นั้นครับอืก็คือถึงแม้ว่าเราอาจจะซ้อม
00:05:59 → 00:06:02 วิ่งหรือวิ่งเป็นประจำอยู่แล้วก็ไม่ได้
00:06:02 → 00:06:04 แปลว่าเราจะมีหัวใจที่แข็งแรงเพราะจริงๆ
00:06:04 → 00:06:06 เราอาจจะมีปัจจัยอื่นๆที่ซ่อนอยู่โดยที่
00:06:06 → 00:06:08 เราไม่รู้ตัวอย่างงั้นใช่มั้ยคะอาจารย์
00:06:08 → 00:06:11 ถูกต้องครับซึ่งเราก็ทำผ่าตัดหลอดเลือด
00:06:11 → 00:06:14 หัวใจในนักวิ่งไปหลายรายเหมือนกันออืค่ะ
00:06:14 → 00:06:17 เป็นยังไงบ้างความเชื่อเขาเคก็คิดว่าเออ
00:06:17 → 00:06:21 ไม่น่าจะเกิดแต่ว่าพอเราไปตรวจรอเลือหัว
00:06:21 → 00:06:24 ใจของเขาเราก็พบว่าอ้าสภาพรอือใจเขาเนี่ย
00:06:24 → 00:06:27 มันดูแย่นะพระก็เกาะแล้วก็ติดหลอดเลือด
00:06:27 → 00:06:31 เกิน 70% อย่างเงี้ยครับซึ่งอันเนี้ยก็
00:06:31 → 00:06:33 ไม่ได้เป็นที่แปลกใจเพราะว่าการวิ่งเนี่ย
00:06:33 → 00:06:35 มันเป็นปัจจัยหนึ่งแหละที่อาจจะช่วยทำให้
00:06:35 → 00:06:38 คนแข็งแรงขึ้นคการวิ่งอาจจะทำให้คนนั้น
00:06:38 → 00:06:41 เนี่ยแก้ปัญหาเรื่องของการที่ไม่เคลื่อน
00:06:41 → 00:06:43 ไหวร่างกายการไม่ออกกำลังกายเนี่ยอันนั้น
00:06:43 → 00:06:47 เได้ละเรื่องนึงแล้วก็อาจจะช่วยทำให้น้ำ
00:06:47 → 00:06:50 ตาลเนี่ยมันไม่ค่อยสูงเพราะว่าเขาก็วิ่ง
00:06:50 → 00:06:53 แล้วอน้ำหนักก็ไม่ค่อยเกินความดันอาจจะดี
00:06:53 → 00:06:56 ขึ้นไรซอาจจะไม่สูงใครมันชดีที่เรียกว่า
00:06:56 → 00:07:00 hl อาจจะดีแต่มันก็อาจจะยังไม่พอ
00:07:00 → 00:07:03 อืเพราะปัจจุบันเนี่ยยปัจจัยเหล่านั้น
00:07:03 → 00:07:05 เนี่ยเรารวมๆแล้วเนี่ยมันเป็นแค่ 30% ของ
00:07:06 → 00:07:08 ปัจจัยเสี่ยงที่เราทราบอืแต่มันยังมี
00:07:08 → 00:07:11 ปัจจัยเสี่ยงอีก 70% ที่เราไม่ทราบว่ามัน
00:07:11 → 00:07:14 คืออะไรบ้างเนี่ยครับซึ่งถ้าเกิดบางคน
00:07:14 → 00:07:17 เนี่ยมี 70% ซึ่งมีความสำคัญเนี่ยเาก็
00:07:17 → 00:07:20 ค่อยๆมีหลอดเลือดที่ตีบอยู่ไปมากขึ้น
00:07:20 → 00:07:23 เรื่อยๆๆๆโดยที่ไม่รู้ไม่รู้ตัวใช่ครับพอ
00:07:23 → 00:07:27 ไปออกกำลังกายเยอะๆเนี่ยมันก็เกิดปัญหา
00:07:27 → 00:07:31 ว่าเกิดหัวใจอุตันกทันหันครับอืดังนั้นนะ
00:07:31 → 00:07:33 ครับบางคนที่คิดว่าโอ๊ยฉันไม่ต้องไปตรวจ
00:07:33 → 00:07:36 สุขภาพหรอกฉันวิ่งได้อยู่อย่างงี้จะเกิด
00:07:36 → 00:07:38 อะไรจะเป็นอะไรได้ยังไงอันนี้ก็คือต้องลบ
00:07:38 → 00:07:41 ความคิดนี้ซะใหม่ใช่มั้ยคะถูกต้องครับใน
00:07:41 → 00:07:44 ขณะเดียวกันเนี่ยบางคนก็บอกว่าเอ๊ะแต่ก็
00:07:44 → 00:07:47 เคยได้ยินว่าแบบบางคนตรวจสุขภาพประจำทุก
00:07:47 → 00:07:50 ปีเลยคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็ปกติวิ่งสายพานุก็
00:07:50 → 00:07:53 ปกติแต่อยู่มาวันนึงก็เหมือนได้ยินข่าว
00:07:53 → 00:07:56 ว่าเค้ามี์ทอทคได้เหมือนกันมันเป็นไปได้
00:07:56 → 00:07:59 ไงคะอาจารย์ใช่ครับคือภาวะ Heart อทค
00:07:59 → 00:08:02 เนี่ยนะนะครับมันเป็นภาวะซึ่งสามารถเกิด
00:08:02 → 00:08:06 กับใครก็ได้ออืนะครับโดยที่คนนั้นเนี่ย
00:08:06 → 00:08:08 อาจจะมีไขมันเกาะที่หลอลึหัวใจเนี่ยไม่
00:08:08 → 00:08:12 จำเป็นต้องมากอแต่วันหนึ่งเนี่ยไอ้พลา
00:08:12 → 00:08:15 เนี่ยมันแตกนะครับค่ะแล้วก็มีคอตเนี่ยคือ
00:08:15 → 00:08:19 ลิ่มเลือดจะไปอุดเพื่อปิดรูของหลอดเลือด
00:08:19 → 00:08:21 นั้นที่มันเกิดบาดแผลเนี่ยนะแต่บังเอิญ
00:08:21 → 00:08:23 ว่ามันไปอุดตันหลอดเลือดทั้งเส้นเนี่ยก็
00:08:23 → 00:08:25 ทำให้ห่อเลือดเส้นนั้นเนี่ยมันไม่สามารถ
00:08:25 → 00:08:28 จะส่งเลือดไปเลี้ยงก้มนัวใจได้ก็เกิดภาวะ
00:08:28 → 00:08:31 ของก้มใจตายเฉียบพลันที่เราเรียกว่าภาวะ
00:08:31 → 00:08:34 ของ Heart อทคเนี่ยนะครับอค่ะแต่เราก็รู้
00:08:34 → 00:08:37 ว่าถ้าเราแก้ไขปัจจัยเสี่ยงของเขาเนี่ย
00:08:37 → 00:08:40 มันสามารถลดได้อืเพียงแต่คนเหล่านั้น
00:08:40 → 00:08:44 เนี่ยก็ไม่ได้มาหาว่าเอ๊ะยังมีปัจจัย
00:08:44 → 00:08:47 เสี่ยงอะไรที่มันควรจะแก้ออครับอันนี้คือ
00:08:47 → 00:08:50 ภาวะของ heart attack นะครับค่ะส่วนว่า
00:08:50 → 00:08:53 นักวิ่งแล้วต้องถูกทำบรูนหรือ Bypass
00:08:53 → 00:08:56 เพราะว่าเราเรู้ใจตีบเยอะๆเนี่ยโดยที่ไม่
00:08:56 → 00:08:58 ใช่ไม่ได้เกิดเพว attack เนี่ยก็เป็น
00:08:58 → 00:09:01 เพราะว่าปัจจัยของเขาเนี่ยที่เสี่ยงเนี่ย
00:09:01 → 00:09:04 มันมากกว่าการวิ่งที่จะไปแก้ได้นะครับ
00:09:04 → 00:09:07 แล้วมันก็ค่อยๆสะสมไขมันเกาะที่หลอดเลือด
00:09:07 → 00:09:10 อแล้วก็ค่อยๆตีบหล่อเลือดไปเรื่อยๆๆๆซึ่ง
00:09:10 → 00:09:14 ค่ะนักวิ่งอาจจะมีข้อดีก็คือว่ามันเหมือน
00:09:14 → 00:09:16 หัวใจมันพยายามช่วยตัวเองมาเพราะเนื่อง
00:09:16 → 00:09:19 จากออกกำลังกายเนี่ยอาการก็จะน้อยแต่พอมี
00:09:19 → 00:09:22 อาการแล้วเนี่ยเราก็พบว่าเอาหลอดเลือดเค
00:09:22 → 00:09:24 ก็ติดเยอะแล้วก็เราก็ต้องการการแก้ไขด้วย
00:09:24 → 00:09:28 บรุหรือไพาครับอค่ะแล้วอย่างคนที่ไม่ได้
00:09:28 → 00:09:30 เป็นนักวิ่งแต่ว่าบอกว่าตัวสุขภาพแล้ว
00:09:30 → 00:09:33 เนี่ยวิ่งสายพานปกติแปลว่าสุขภาพหัวใจ
00:09:33 → 00:09:35 แข็งแรง 100% มั้ยคะอาจารย์ไม่ครับเพราะ
00:09:35 → 00:09:38 ว่าวิ่งสายพานเนี่ยมันเป็นการวินิจฉัย
00:09:38 → 00:09:43 หล่อเลือดทิติไปแล้ว 70% อืการวิ่งสาย
00:09:43 → 00:09:46 พันธุ์มาดักจับว่าใครต้องการที่จะไปทำการ
00:09:46 → 00:09:49 แก้ไขด้วยบัลลูนหรือการผ่าตัดเลือดหัวใจ
00:09:49 → 00:09:53 โองั้นแปลว่าตีบไป 50 60% ก็ยังวิ่งสาย
00:09:53 → 00:09:57 พานแล้วผลปกติได้ถูกต้องครับผมก็บอกกับ
00:09:57 → 00:10:01 ทีมที่ททำการป้องกันร่หัวใจบอกว่าค่ะเรา
00:10:01 → 00:10:06 ก็มีคนที่มาวิ่งกับเราทุกปีเลยนะค่ะปีนึง
00:10:06 → 00:10:10 เราก็บอกว่าอ้าโอเคโอดีมากเลยยังปกติอยู่
00:10:10 → 00:10:13 ค่ะปีที่ 2 ก็ปกติปีที่ 15 อันนี้มันผิด
00:10:13 → 00:10:17 ปกติแล้วอืคุณต้องไปตรวจเพิ่มเติมะแล้วก็
00:10:17 → 00:10:20 มีโอกาสที่จะต้องถูกทำบรูนหรือ byp คำถาม
00:10:20 → 00:10:23 ก็คือว่าเค้าก็ติดตั้งแต่ 10% มา 15 20
00:10:23 → 00:10:27 25 30 ว่าวันนึงมา 70% แต่เราอ่ะไม่
00:10:27 → 00:10:30 สามารถบอกเได้ว่าไ้ 15 5 ปีที่วิ่งมา
00:10:30 → 00:10:34 เนี่ยเอ๊ะมันกำลังจะมาถึงจุดที่มันใช่ม
00:10:34 → 00:10:37 ถูกครับอันเนี้ยมันก็เป็นอีกศาสตร์อันนึง
00:10:37 → 00:10:40 ที่ว่าว่าเราควรจะรู้ว่าเขาอมีหลอดเลือด
00:10:40 → 00:10:43 ที่ตีบอยู่เริ่มต้นที่ 10% แล้วนะเนี่ย
00:10:43 → 00:10:46 แล้วมันก็จะเดินหน้าไปเรื่อยๆในเวลาที่
00:10:46 → 00:10:49 เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆแต่ละปีแต่ละปีแต่ละปี
00:10:49 → 00:10:53 เอ๊ะเราจะแก้ไขค่ะหรือจะหยุดกันที่เกาะ
00:10:53 → 00:10:56 ของไขมันที่หลอดเลือดเขาว่าได้มั้ยครับ
00:10:57 → 00:10:59 ถ้าทำอย่างงั้นได้เนี่ยมันก็จะดีแล้วมัน
00:10:59 → 00:11:02 ทำได้มั้ยคะอาจารย์ด้วยเทคโนโลยีใน
00:11:02 → 00:11:05 ปัจจุบันปัจจุบันก็มีการศึกษาอาฮะมากขึ้น
00:11:05 → 00:11:09 เรื่อยๆๆๆเราก็สามารถที่จะใช้การตรวจหลอ
00:11:09 → 00:11:11 เรือ่หัวใจเนี่ยที่เร็วขึ้นน่ะนะครับโดย
00:11:11 → 00:11:13 ที่เราไม่ได้ใช้การเดินสสายผานเพราะเรา
00:11:13 → 00:11:15 ทราบอยู่แล้วว่าการเดินสสายผ่านเนี่ยมัน
00:11:15 → 00:11:20 มาวินิจฉัยเมื่อโรคเาเป็นเยอะไปแล้วอืนะ
00:11:20 → 00:11:23 ครับมันจะเจอว่ามันเป็นผิดปกติก็จะเมื่อ
00:11:23 → 00:11:25 หลอดเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งเนี่ยต้องตีบ
00:11:25 → 00:11:28 เกิน 70% ซึ่งถ้าเกิดตีบเกิน 70% เนี่ยก็
00:11:28 → 00:11:30 อยู่ในในวิสัยที่เขาต้องการการช่วยเหลือ
00:11:30 → 00:11:34 ด้วยการแช์ด้วยบัลลูนหรือการผัดตัอืค่ะ
00:11:34 → 00:11:37 ค่ะซึ่งเราก็ใช้วิธีการอื่นๆมาวินิจฉัย
00:11:37 → 00:11:40 อย่างเช่นว่าปัจจุบันเนี่ยที่มีข้อมูล
00:11:41 → 00:11:43 เยอะมากในปัจจุบันก็คือการทำ CT สแกนของ
00:11:43 → 00:11:47 หลอืใจโดยที่ไม่ต้องฉีดสีอืค่ะคนที่ทำ
00:11:47 → 00:11:51 วิธีการเก็ฉลาดนะครับเพราะว่าอือเขาไป
00:11:51 → 00:11:54 วินิจฉัยหินปูนที่เกาะอยู่ที่ผนังหลอด
00:11:54 → 00:11:58 เลือดของหัวใจอือฮึถ้าเรามองว่าหลอดเลือด
00:11:58 → 00:12:00 ของเราเป็นทอพ่อพ่อน้ำอันหนึ่งเนี่ยนะ
00:12:00 → 00:12:03 ครับแล้วก็วันหนึ่งเนี่ยไขมันตัวไม่ดี
00:12:03 → 00:12:06 เนี่ยมันก็จะอือแทรกตัวเข้าไปผนังชั้นใน
00:12:06 → 00:12:10 ของหลอดเลือดเราอือฮึแล้วมันก็เริ่มพอก
00:12:10 → 00:12:13 ขึ้นมาเป็นเหมือนลูกคลื่นของถนนเนี่ยครับ
00:12:13 → 00:12:15 มันจะเริ่มอป่องขึ้นมาเนี่ยครับค่ะการที่
00:12:16 → 00:12:17 ขายมันเป็นเข้าไปในผนังหลอดเลือดเนี่ย
00:12:17 → 00:12:19 ร่างกายก็บอกว่าเอ๊อันเนี้ยมันเป็นสิ่ง
00:12:19 → 00:12:22 แปลกปลอมนะฉันไม่ต้องการก็ส่งเมเล็ดเขาว
00:12:22 → 00:12:25 เข้าไปกินค่ะข้างในนั้นก็คือเหมือนเป็น
00:12:25 → 00:12:28 ขยะที่ซ่อนอยู่ใต้ผนังหลอดเลือดของเราอือ
00:12:28 → 00:12:30 ฮึแล้ว 2 ปีต่อมามันก็เกิดเป็นหินปูนเกิด
00:12:31 → 00:12:34 ขึ้นอืแล้วถ้าเราไม่ได้แก้ปัจจัยของเรา
00:12:34 → 00:12:37 โดยกันซึ่งเราก็ยังมีไขมันที่สูงอยู่เรา
00:12:37 → 00:12:40 ยังสูบรุ่ยอยู่เรายังมีความดนสูงอยู่เรา
00:12:40 → 00:12:43 มีน้ำตาลสูงอยู่เรายังไม่ออกกำลังกาย
00:12:43 → 00:12:45 เนี่ยไขมันมันก็จะพอกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
00:12:45 → 00:12:49 เรื่อยๆๆจากอ 5% 10% 15% จนวันหนึ่งมัน
00:12:49 → 00:12:52 ก็จะตีบอย่างมีความสำคัญเกือ 70% อืนะ
00:12:52 → 00:12:55 ครับอทีนี้หินปูนที่เกิดขึ้นเนี่ยถ้ามัน
00:12:55 → 00:12:58 ยิ่งมากเนี่ยมันก็จะเป็นตัวแทนว่าใครมัน
00:12:58 → 00:13:01 มันก็เกาะมากเราก็เลยทำออกมาแล้วเนี่ยออก
00:13:01 → 00:13:04 มาเป็นสกอร์ว่าเออเรามีหินปูนเนี่ยที่
00:13:04 → 00:13:06 เป็นคะแนนเนะฮมันมากแค่ไหนแล้วเรียกว่า
00:13:06 → 00:13:10 แคลเซียมสกออยิ่งมากก็แปลว่าโอ้ไขมันมัน
00:13:10 → 00:13:14 ไปเกาะอยู่เยอะนะครับอันนี้ก็สามารถเอามา
00:13:14 → 00:13:18 เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยได้ค่ะว่าถ้า
00:13:18 → 00:13:21 หินปุนยังน้อยอยู่หรือยังไม่เกิดขึ้นเป็น
00:13:21 → 00:13:24 ศูนย์เนี่ยอันนี้ดีมากแต่ถ้าเริ่มมีหิน
00:13:24 → 00:13:26 ปูนเกิดขึ้นแล้วเนี่ยแสดงว่าไขมันเนี่ยย
00:13:26 → 00:13:28 มันได้เข้าไปแทรกตัวเข้าไปในผนังหลอด
00:13:28 → 00:13:31 เลือดเราไปแล้วอืนะครับเราก็จะต้องทำการ
00:13:32 → 00:13:34 หยุดไม่ให้ไขมันไปพอกมากขึ้นโดยการที่
00:13:34 → 00:13:38 กลับไปดูว่าเรามีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างอือ
00:13:38 → 00:13:42 แล้วก็แก้ปัจจัยเสียงนั้นๆเนี่ยให้มันดี
00:13:42 → 00:13:45 อย่างเช่นว่าเรายังสุบบุหรี่อยู่เราก็
00:13:45 → 00:13:47 ต้องยุดสุบบุหรี่เพราะว่าการสุบบุหรี่
00:13:47 → 00:13:49 เนี่ยมันทำให้ไขมันไปพอกหลอดเลือดเพิ่ม
00:13:49 → 00:13:52 ขึ้นอออืถ้าเรามีไขมันตัวเลวเรียกว่า
00:13:52 → 00:13:57 แอลดีคสอซึ่งมันสูงเกินกว่าที่เราคิดว่า
00:13:57 → 00:14:01 ควรจะเป็นเนี่ยเราก็ต้องลดลงมาอาฮะถ้าเรา
00:14:01 → 00:14:04 มีไทกิสไลด์สูงเราก็ต้องแก้ไขให้ไทรกซดลด
00:14:04 → 00:14:07 ลงมาถ้าเรามีไขมันชนิดดีต่ำเราก็ต้อง
00:14:07 → 00:14:10 พยายามเพิ่มคชของเราให้มันเพิ่มขึึ้นอื
00:14:10 → 00:14:13 ถ้าเรามีน้ำตาลสูงเราก็ลดน้ำตาลลงถ้าเรา
00:14:13 → 00:14:15 ยังไม่ได้ออกกำลังกายเรายังน้ำหนักเกินก็
00:14:15 → 00:14:19 แก้ไขสิ่งเหล่านั้นอืมันก็รวมๆแล้วเนี่ย
00:14:19 → 00:14:22 เราสามารถที่จะลดความเสี่ยเราลงไปได้อืนะ
00:14:22 → 00:14:24 ครับเยอะทีเดียวครับแล้วก็ป้องกันไม่ให้
00:14:24 → 00:14:28 พลนี่มันเพิ่มขึ้นค่ะอืมก็คือแทนที่เราจะ
00:14:28 → 00:14:31 รอให้มันตีบไป 70% แล้วก็ค่อยมามีความผิด
00:14:31 → 00:14:34 ปกติจากการวิ่งสายพานเราก็ใช้ตัว CT มา
00:14:34 → 00:14:37 จับคราบหินปูนเลยซึ่งมันก็จะได้ตั้งแต่
00:14:37 → 00:14:40 เนิ่นๆใช่มั้ยคะถูกต้องครับใช่ครับอืขอ
00:14:40 → 00:14:44 อวดว่าของผิงนี่ 0 ค่ะ
00:14:44 → 00:14:48 อาจารย์ทนี้ก็ในเรื่องของการตรวจ CT
00:14:48 → 00:14:50 เนี่ยก็หลายคนอาจจะทราบดีนะว่ามันก็เป็น
00:14:50 → 00:14:53 อะไรที่ไม่เจ็บ non invasive ใช่่มั้ยคะ
00:14:53 → 00:14:55 แต่ว่าใครที่ควรจะตรวจบ้างอ่ะคะอาจารย์
00:14:55 → 00:14:58 คือตอนนี้ผมคิดว่าผู้ชายเนี่ยตั้งแต่อายุ
00:14:59 → 00:15:02 ุ 40 ปีขึ้นไปเนี่ยอือฮึก็ควรจะตรวจนะ
00:15:02 → 00:15:06 ครับอืค่ะแล้วก็ถ้าเกิดยิ่งสูบบุหรี่ยิ่ง
00:15:06 → 00:15:09 มีไขมันสูงก็ยิ่งควรจะตรวจนะครับอค่ะผู้
00:15:09 → 00:15:12 หญิงก็ผมคิดว่าสัก 45 ขึ้นไปอันนี้คือผม
00:15:12 → 00:15:15 พยายามพูดถึงว่าถ้าคนสนใจดูแลสุขภาพจิงๆ
00:15:15 → 00:15:17 น่ะอายุน้อยสุดที่ควรจะทำเนี่ยควรจะ
00:15:17 → 00:15:20 ประมาณเท่าไหร่อค่ะค่ะก็สัก 45 ผมคิดว่า
00:15:20 → 00:15:23 มันก็ก็ควรจะตรวจเพราะว่าที่ผมทำมา 4 ปี
00:15:23 → 00:15:27 เศษที่ b กับโรงพยาบาลในเครือเนี่ยอือฮึ
00:15:27 → 00:15:30 เราก็เคยเจอคนที่อายุ 30 กว่าก็มีหินปูน
00:15:30 → 00:15:32 เกิดขึ้นแล้วก็คือมีไขมันเกาะที่หลอด
00:15:32 → 00:15:35 เลือนแล้วอือฮึในผู้ชายนะครับซึ่งเราพบ
00:15:35 → 00:15:37 ผู้หญิงเราพบว่า 40 กว่าเนี่ยเราก็เจอ
00:15:37 → 00:15:40 บ่อยๆที่เริ่มมีแล้วนะครับเพราะว่าเขมี
00:15:40 → 00:15:43 ปัจจัยอีก 70% ที่เราไม่รู้ว่ามันคือ
00:15:43 → 00:15:46 ปัจจัยอะไรอาจจะเป็นจากพันธุกรรมอือาจจะ
00:15:46 → 00:15:49 เป็นจากสิ่งแวดล้อมอือฮึซึ่งเราก็ไม่ทราบ
00:15:49 → 00:15:53 แต่ว่าพบว่าโอ้มีความแข็งแรงมากทำให้หล่อ
00:15:53 → 00:15:55 เลือดเนี่ยมันมีคันมันไปเกาะตั้งแต่อายุ
00:15:55 → 00:15:59 ยังน้อยอยู่ครับอือฮึอืค่ะเหว่าเป็นไปได้
00:15:59 → 00:16:02 มากๆเลยนึกถึงแบบว่าการกินอะไรต่างๆของคน
00:16:02 → 00:16:04 ในปัจจุบันเนาะมันไม่แปลกเลยที่มันจะมี
00:16:04 → 00:16:07 ปัญหาได้ตั้งแต่อายุยังไม่มากนะคะใช่ครับ
00:16:07 → 00:16:10 คนในเมืองเนี่ยนะครับถึงคนที่ในเมือง
00:16:10 → 00:16:14 เนี่ยที่จะมีไขมันตัวเลวคือแอเดียวเนี่ย
00:16:14 → 00:16:16 ต่ำๆเนี่มันยากมากซึ่งผมคิดว่าคนกรุงเทพฯ
00:16:17 → 00:16:20 เนี่ยมันน่าจะเฉลี่ยน่าจะสักประมาณ 150
00:16:20 → 00:16:23 นะสำหรับ ldl อือๆก็มีการศึกษาในคนที่
00:16:23 → 00:16:26 อยู่ที่อเมริกาจะอยู่ในป่าซึ่งปัจจุบัน
00:16:26 → 00:16:29 เนี้ยกลุ่มเนี้ยยังอยู่อาฮะก็คืออยู่ใน
00:16:29 → 00:16:32 ป่าในที่อเมริกาโดยที่เขาไม่ติดต่อกับโลก
00:16:32 → 00:16:37 ภายนอกอ่าไม่มีไฟฟ้าไม่มีน้ำปปาค่ะเขา
00:16:37 → 00:16:41 อยู่ด้วยชุมชนของตนเองอืทำเกษตรกรรมล่า
00:16:41 → 00:16:45 สัตว์ทอผ้าค่ะก็คือยังใช้ชีวิตแบบยุคสมัย
00:16:45 → 00:16:48 ก่อนก่อนอุตสาหกรรมอถูกต้องครับแล้วก็ทีม
00:16:48 → 00:16:50 แพทย์เนี่ยก็เข้าไปอยากทราบว่าเอ๊ะแล้ว
00:16:50 → 00:16:53 ldl เค้าอ่ะในผู้ใหญ่มันเท่าไหร่ไม่ถึง
00:16:53 → 00:16:57 100 ถูกครับแดีของเขาเฉลี่ยอยู่ที่ 55
00:16:57 → 00:17:00 โอ้โห
00:17:00 → 00:17:04 โหสุดยอดใช่ๆก็คืออันนี้มันเป็นข้อมูลที่
00:17:04 → 00:17:07 มาบอกเราถึงว่าเราอยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร
00:17:07 → 00:17:10 ที่กำลังแข่งขันแล้วก็หลอกล่อให้เรารู้
00:17:10 → 00:17:13 สึกว่าโอ้โหมันอร่อยไปหลายๆอย่างนะครับ
00:17:13 → 00:17:15 ้านอาหารอันนี้ก็อันนี้อร่อยอันนี้ก็
00:17:15 → 00:17:18 อร่อยอันนี้ก็อร่อยเนี่ยนะครับจริงอาหาร
00:17:18 → 00:17:20 อร่อยมันจะต้องใส่อะไรเข้าไปให้มันให้มัน
00:17:21 → 00:17:24 อร่อยถูกถูกๆครับมันก็เลยเหล่านั้นแหละ
00:17:24 → 00:17:27 ครับเมันคือสิ่งที่ทำให้เรามีไขมันคอสอ
00:17:27 → 00:17:30 สูงทำให้เรามีไครสลายสูงทำให้น้ำตาขึ้น
00:17:31 → 00:17:33 ครับค่ะค่ะในฐานะที่อาจารย์น่ะเป็นผู้
00:17:33 → 00:17:35 เชี่ยวชาญด้านหัวใจนะคะเรียกได้ว่าเป็น
00:17:35 → 00:17:37 leader เลยในด้าน preventive คิลีอยาก
00:17:37 → 00:17:40 ให้อาจารย์ฝากทิปดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็ง
00:17:40 → 00:17:43 แรงให้กับชาว Single be นิดนึงค่ะคือผม
00:17:43 → 00:17:46 ต้องเรียนว่าที่ทำมาเนี่ยต้องขอบคุณ
00:17:46 → 00:17:48 โปรเฟสเซอร์ผมอยู่ที่อยู่ที่ออริกอนคือ
00:17:48 → 00:17:52 โปรเฟสเซอร์ฟาิเนี่ยนะครับท่านก็อยู่ที่
00:17:52 → 00:17:56 อเมริกาเแต่ว่าเป็นชาวอิตาลีก็มีความมุ่ง
00:17:56 → 00:17:58 มั่นมากที่จะทำเรื่องของการป้องกรหัวใจ
00:17:58 → 00:18:03 อือครับพัฒนาการศึกษานะครับแล้วก็พยายาม
00:18:03 → 00:18:06 ที่จะสร้างองค์ความรู้อเนี้ยขึ้นมานะครับ
00:18:06 → 00:18:09 อือฮึแล้วก็ผมก็ได้เรียนรู้มาจากที่นั่น
00:18:09 → 00:18:12 นะครับแล้วก็เราก็มาเริ่มทำเมื่อ 4 ปีที่
00:18:12 → 00:18:17 ผ่านมานะครับอือหลังจากทำมาได้ 2 ปี
00:18:17 → 00:18:20 โปรเฟสเซอร์ก็มาเยี่ยมผมที่เมืองไทยแล้ว
00:18:20 → 00:18:24 ก็ผมก็เริ่มมีความไม่เข้าใจกับสภาพของ
00:18:24 → 00:18:29 หลอดเลือดของคนไข้ผมอือฮึเราพบว่าตอนที่
00:18:29 → 00:18:31 เราเกิดมาเนี่ยหลอดเลือดเนี่ยนะครับมัน
00:18:31 → 00:18:34 เป็นฟองน้ำเล็กๆลูกเดียวตอนที่เราประสิท
00:18:34 → 00:18:37 สนธิใหม่ๆเนี่ยอค่ะแล้วมันก็พัฒนาเป็นหัว
00:18:38 → 00:18:40 ใจทั้งลูกแล้วก็มันก็สร้างหลอดเลือดไป
00:18:41 → 00:18:44 เลี้ยงอวยะทั่วร่างกายอือฮึนะครับเราก็พบ
00:18:44 → 00:18:46 ว่าหลอดเลือดทั่วร่างกายเนี่ยมันจะต้องมี
00:18:46 → 00:18:49 สภาพเหมือนกันครับอแต่ปรากฏว่าสภาพของ
00:18:49 → 00:18:51 หลอดเลือดเนี่ยบางคนก็มีปัญหาเรื่องหล่อด
00:18:51 → 00:18:54 เลือดหัวใจที่ตีบเยอะแต่หลอเลือดไปเลี้ยง
00:18:54 → 00:18:56 สมองก็ดีบางคนหลอเลี้งสมองก็ตีบเยอะแต่
00:18:56 → 00:18:59 หัวใจก็ยังดีอยู่เนี่ยครับออืบางคนเนี่ย
00:19:00 → 00:19:03 มีปัจจัยเสี่ยงที่สูงมากอายุเยอะไปตรวจ
00:19:03 → 00:19:06 แคลเซียมเนี่ยเท่ากับ 0 อืบางคนเป็นนัก
00:19:06 → 00:19:09 วิ่งมาราธอนอายุแค่ 40 กว่ามาตรวจก็มีหิน
00:19:09 → 00:19:12 ปูนอ 100 กว่า 200 อย่าเงี้ยครับอื้อหือ
00:19:12 → 00:19:15 อันนี้ผมก็เลยสรุปกับโปรเฟสเซอร์ที่มาผม
00:19:15 → 00:19:19 ก็บอกว่าโปรเฟสเซอร์ยิ่งผมสี้มากขึ้น
00:19:19 → 00:19:20 เนี่ยผมยิ่งเข้าใจมันน้อย
00:19:20 → 00:19:24 ลงโรเซอร์ก็บอกว่าใช่ยูเข้าใจมันน้อยลง
00:19:24 → 00:19:27 อ่ะแต่ยูจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มากขึ้นทุก
00:19:27 → 00:19:32 วันอออ่าก็ผมคงบอกกับท่านฟังทุกท่านว่าดู
00:19:32 → 00:19:35 ภายนอกน่ะดูไม่ออกเลยอืว่าใครเนี่ยจะมี
00:19:35 → 00:19:38 โรคซ่อนอยู่ของหลอหือหัวใจออือฮึเพราะ
00:19:38 → 00:19:41 ฉะนั้นเนี่ยสิ่งที่มันจะทำได้อย่างเดียว
00:19:41 → 00:19:44 ก็คือต้องค้นพบหรือเปิดมันออกมาว่าเอ้อ
00:19:44 → 00:19:48 หลอดเลือดฉันยังดีอยู่นะอือฮึนะครับแค่
00:19:48 → 00:19:50 นั้นเองเพราะว่าไม่มีทางที่จะบอกได้เลย
00:19:50 → 00:19:54 ว่าใครอ่ะมันมีหลอดเลือดที่มีขายมันไป
00:19:54 → 00:19:57 เกาะมากน้อยต่างกันเท่าไหร่ผมก็เลยใช้แค่
00:19:57 → 00:20:01 อายุแบบอนะครับอือที่ผ่านมาบอกว่าประวัติ
00:20:01 → 00:20:04 ของครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นเนี่ย
00:20:04 → 00:20:07 มันก็พอบอกได้นะแต่ว่าตอนหลังๆก็เพราะว่า
00:20:07 → 00:20:09 มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะว่าพันธุกรรม
00:20:09 → 00:20:12 เรามันก็เปลี่ยนแปลงได้อืนะครับตอนนี้ก็
00:20:12 → 00:20:14 มีการศึกษาเรื่องพันธุกรรมเนี่ยที่มันมี
00:20:14 → 00:20:17 ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจแล้วก็ไป
00:20:17 → 00:20:21 เสนอผลงานที่การประชุมที่ยุโรปว่า
00:20:21 → 00:20:22 อันเนี้ยมันเชื่อถือได้มากกว่าประวัติ
00:20:22 → 00:20:26 ครอบครัวอีกอืแต่ว่าอันเนี้ยวิธีการกับ
00:20:26 → 00:20:28 เทคนเนี่ยยังทำอยู่ที่อเมริกากับที่ยุโรป
00:20:29 → 00:20:31 ก็ยังไม่ได้เข้าประเทศไทยเพราะฉะนั้นสิ่ง
00:20:31 → 00:20:33 ที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือว่าเราควรจะไปพบ
00:20:33 → 00:20:36 ผู้เชี่ยวชาญที่ทำเรื่องของการป้องกันโรค
00:20:36 → 00:20:40 หัวใจและหลอดเลือดค่ะแล้วก็ทำการศึกษาอือ
00:20:40 → 00:20:43 ฮึด้วยการทำวินิจฉัยว่าหลอดเลือดเราอ่ะ
00:20:43 → 00:20:45 มันยังดีอยู่นะอย่างเช่นของอาจารย์ผิงว่า
00:20:45 → 00:20:48 อ้าแคลเซียมเท่ากับ 0 อย่างเงี้ยมันแสดง
00:20:48 → 00:20:50 ว่าเรายังมีความเสี่ยงที่ต่ำนะครับแล้วก็
00:20:50 → 00:20:53 อีก 3 ปีก็ไปทำดูอีกทีว่าเป็นยังไงบ้างอื
00:20:53 → 00:20:55 ครับถ้ามันสูงขึ้นแล้วเนี่ยนะครับมันก็
00:20:55 → 00:20:57 กลับมาดูว่าเราปัจจัยเสี่ยงเรามีอะไรเรา
00:20:57 → 00:21:01 จะแก้ยังไงค่ะนะครับอันเนี้ยผมคิดว่ามี
00:21:01 → 00:21:03 แค่เรื่องสำคัญเรื่องเดียวก็คือว่ามัน
00:21:03 → 00:21:06 ต้องตรวจถ้าไม่ตรวจเนี่ยจะไม่มีทางรู้เลย
00:21:06 → 00:21:08 ว่าเอ๊ะไปวิ่งแล้วพรุ่งนี้มันจะคอลแลป
00:21:08 → 00:21:10 หรือมันจะแบบฟุบไปหรือเปล่าเพมีทางทราบ
00:21:10 → 00:21:14 ได้นะครับอใช่ค่ะก็คือสรุปว่าอย่าประมาท
00:21:14 → 00:21:17 นั่นเองยิ่งอาจารย์เห็นเคสมามากก็จะยิ่ง
00:21:17 → 00:21:19 เห็นว่าดูภายนอกบอกอะไรไม่ได้เลยใช่มยคะ
00:21:19 → 00:21:22 ถูครับโอเคค่ะวันนี้นะคะก็ต้องขอขอบพระ
00:21:22 → 00:21:26 คุณนะคะอาจารย์นพรัตน์พานทองวิริยกุลมากๆ
00:21:26 → 00:21:28 ค่ะที่ให้เกียรติมาพูดคุยกับพวกเราในวัน
00:21:28 → 00:21:30 นี้ค่ะขอบคุณค่ะอาจารย์ครับขอบพระคุณมาก
00:21:30 → 00:21:35 ครับผมครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะใครชอบ
00:21:35 → 00:21:37 เนื้อหาของ EP นี้นะคะก็สามารถกดไลค์กด
00:21:37 → 00:21:40 หัวใจในช่องทางที่คุณรับฟัง podcast กัน
00:21:40 → 00:21:42 ได้ค่ะที่สำคัญนะคะอย่าลืมแชร์ไปให้
00:21:42 → 00:21:45 เพื่อนๆให้คนที่คุณรักค่ะให้เขาได้ฟังไป
00:21:45 → 00:21:48 ด้วยกันนะคะให้หัวใจแข็งแรงไปด้วยกันให้
00:21:48 → 00:21:50 รักดูแลชีวิตทุกคน
00:21:50 → 00:21:53 ค่ะก่อนจากกันไปในวันนี้นะคะหมอขอฝากให้
00:21:54 → 00:21:56 ช่วยกด Subscribe กดติดตาม Single be นะ
00:21:56 → 00:21:59 คะเราจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆค่ะส่วนใคร
00:21:59 → 00:22:01 ที่กดแล้วก็ขอบคุณมากๆเลยค่ะไปก่อนนะคะ
00:22:01 → 00:22:03 สวัสดี
00:22:03 → 00:22:07 ค่ะ Single Being podcast about
00:22:07 → 00:22:11 Living your Best Single Life โดย
00:22:11 → 00:22:15 หมอผิงแพทย์หญิงธิดาการรุจิพัฒนกุล
00:22:15 → 00:22:20 ดีที่อยู่เดียว Presented by ให้รักดูแล
00:22:20 → 00:22:25 ชีวิตไทยประกันชีวิต