00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็จะเป็นตอนที่
00:00:02 → 00:00:04 5 นะครับของซีรีส์จะคุยกันอยู่นะครับก็
00:00:04 → 00:00:07 คือเรื่องของไมโครไบโอมนะครับหรือว่า
00:00:07 → 00:00:09 จุลินทรีย์ในร่างกายในวันนี้นะครับหัวข้อ
00:00:09 → 00:00:12 เนี่ยเราจะปกติโรคภูมิแพ้นะครับเราจะดู
00:00:12 → 00:00:14 กันว่าแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของเรา
00:00:14 → 00:00:16 เนี่ยมันมาเกี่ยวข้องกับควบคุมแพได้ยังไง
00:00:16 → 00:00:19 ทุกวันนี้นะครับเวลาเราพูดถึงว่าภูมิแพ้
00:00:19 → 00:00:21 หรือว่าเราเขาอื่นเชื่อว่าใครๆคงรู้ดีนะ
00:00:21 → 00:00:23 ครับเพราะว่าไม่เป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก
00:00:23 → 00:00:26 แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปประมาณสัก 150 ปีถึง
00:00:26 → 00:00:29 200 ปีที่แล้วนะครับครบภูมิแพ้เด็ดท่าน
00:00:29 → 00:00:31 จะเป็นโรคที่ไม่มีคนรู้จักกันเลยนะครับ
00:00:31 → 00:00:34 เราสมมติเล่นนะครับถ้าเราไปถามหมอในชุด
00:00:34 → 00:00:37 ยุคช่วงยุคนั้นนะครับว่ารู้จักโรคภูมิแพ้
00:00:37 → 00:00:40 ไหมนะครับหมอก็จะบอกว่าไม่รู้จักคำนี้มัน
00:00:40 → 00:00:42 ไม่มีเรื่องนี้อยู่เพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:00:42 → 00:00:44 แต่เดิมโรคนี้นะครับเป็นนกที่พบได้น้อย
00:00:44 → 00:00:46 มากนะครับแล้วก็ช่วงเวลาแค่ประมาณ 100
00:00:46 → 00:00:49 ถึง 200 ปีที่ผ่านมาเนี่ยพรุ่งนี้มัน
00:00:49 → 00:00:51 เพิ่มขึ้นอย่างมากมายจนทุกวันนี้เนี่ย
00:00:51 → 00:00:53 ชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักใครสักคนนะครับ
00:00:53 → 00:00:56 ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้กันบ้างแล้วก็มีการ
00:00:56 → 00:00:58 ประมาณการกันนะครับว่าอีกประมาณสัก 30 ปี
00:00:58 → 00:01:00 ข้างหน้านะครับจากวันนี้นะเสือร้องไห้จะ
00:01:00 → 00:01:02 มีคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ไม่ว่าจะเป็น
00:01:02 → 00:01:05 รูปแบบต่างๆเนี่ยไม่เป็นเรื่องของจานนะ
00:01:05 → 00:01:07 ครับขอบคือเราว่าพวกพื้นที่น้ำตาเนี่ย
00:01:07 → 00:01:10 ประมาณสี่พันล้านคนทั่วโลกหรือพรุ่งนี้
00:01:10 → 00:01:12 ให้ก็คือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก
00:01:12 → 00:01:16 เนี่ยจะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มันก็เลยชวนให้
00:01:16 → 00:01:19 สงสัยถูกไหมครับว่าทำไมช่วงเวลาสั้นๆแค่
00:01:19 → 00:01:22 ประมาณ 100 กว่าปีนะครับว่า 200 ปีเนี่ย
00:01:22 → 00:01:24 มนุษย์เนี่ยจะได้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่ม
00:01:24 → 00:01:28 รักมากขึ้นขณะนี้ที่นี่เพื่อให้เห็นภาพ
00:01:28 → 00:01:29 ใหญ่นะครับเอกชนนี้เนี่ยผมอยากจะชวนย้อน
00:01:30 → 00:01:32 เวลานะครับต่อไปที่จุดเริ่มต้นกันเราจะ
00:01:32 → 00:01:34 ย้อนเวลากลับไปดูเพื่อจะดูประวัติศาสตร์
00:01:34 → 00:01:37 ของโรคภูมิแพ้สิ่งที่เคยไปดูนะครับจะหลัก
00:01:37 → 00:01:39 ๆจะโฟกัสที่สองอย่างอย่างไรนะครับเราจะไป
00:01:39 → 00:01:42 ดูกันว่าโรคนี้นะครับแต่เดิมแบบเป็นโรค
00:01:42 → 00:01:45 ที่พบน้อยแค่ไหนนะครับแล้วมันมีการพบมาก
00:01:45 → 00:01:48 ขึ้นยังไงบ้างอย่างที่สองในเราจะไปดูกัน
00:01:48 → 00:01:50 ว่าไอเดียนะครับที่เชื่อว่าสาเหตุของโรค
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับความสกปรกนะครับและ
00:01:53 → 00:01:56 มลพิษต่างๆในอากาศเนี่ยมันก็ค่อยเปลี่ยน
00:01:56 → 00:01:59 แปลงนะครับก็ค่อยเคลื่อนมาเป็นความเชื่อ
00:01:59 → 00:02:00 ว่า
00:02:00 → 00:02:01 เป็นโรคที่พบมากขึ้นในปัจจุบันเนี่ยมัน
00:02:01 → 00:02:03 เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ใน
00:02:03 → 00:02:06 ร่างกายของเราหรือว่าอยู่ในลำไส้ใหญ่ของ
00:02:06 → 00:02:08 เราได้ยังไงแต่ก่อนที่เราจะเข้าเนื้อหา
00:02:08 → 00:02:10 ของเราที่จะเป็นวันนี้นะครับผมขอพูดถึง
00:02:10 → 00:02:12 ผู้สับสน Series ใน Chrome ไอโอมของเรา
00:02:12 → 00:02:16 ก่อนนะครับก็คือบริษัทมดกัดนะครับบริษัท
00:02:16 → 00:02:18 หมดกันนะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดย
00:02:18 → 00:02:20 นักวิทยาศาสตร์นักวิจัยที่เชี่ยวชาญทาง
00:02:20 → 00:02:22 ด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Micro Bio นะ
00:02:22 → 00:02:24 ครับจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
00:02:24 → 00:02:27 ธนบุรีบางมดบริษัทว่าการคอยทำอะไรนะครับ
00:02:27 → 00:02:29 ก็ให้บริการตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำ
00:02:29 → 00:02:32 ไส้ใหญ่ให้กับบุคคลทั่วไปนะครับเพื่อให้
00:02:32 → 00:02:34 คนที่ไปตรวจนะครับหรือว่าตัวคุณจะรู้ว่า
00:02:34 → 00:02:36 แบบเครย์เน็ตหรือว่าจุลินทรีย์ลำไส้ใหญ่
00:02:36 → 00:02:38 ของคุณเนี่ยเป็นยังไงบ้างแล้วก็ไม่ใช่แค่
00:02:38 → 00:02:40 รู้ว่าเป็นยังไงนะครับแต่ว่าทางมดกัด
00:02:40 → 00:02:43 เนี่ยก็ยังมีบริการนะครับคือมีนัก
00:02:43 → 00:02:45 โภชนาการผู้เชี่ยวชาญในที่คอยให้คำแนะนำ
00:02:45 → 00:02:48 เรื่องการกินด้วยเพื่อที่จะปรับสมดุลของ
00:02:48 → 00:02:51 จุลินทรีย์นำไส้ให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น
00:02:51 → 00:02:53 สำหรับใครที่สนใจบริการของวัดก๊าซนะครับ
00:02:53 → 00:02:55 แล้วก็อยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับก็
00:02:55 → 00:02:58 สามารถที่จะเข้าไปดูได้นะครับในถ้าเป็น
00:02:58 → 00:02:59 YouTube คุณจะใส่ไว้ใน Description นะ
00:02:59 → 00:03:01 ครับเอ่อใน Facebook ก็จะใส่ไว้ใน Comment
00:03:01 → 00:03:04 นะครับแล้วในตอนท้ายของคลิปนี้ผมก็จะเล่า
00:03:04 → 00:03:06 กันว่าบริษัทวัดก๊าซเพิ่มเติมให้นะครับ
00:03:06 → 00:03:09 โอเคกลับมาที่เรื่องโรคภูมิแพ้ของเรานะ
00:03:09 → 00:03:11 ครับเรื่องราวของโรคภูมิแพ้แบบที่เราคุ้น
00:03:11 → 00:03:13 เคยกันในปัจจุบันนี้นะครับถ้ามองเนี่ย
00:03:13 → 00:03:16 ประสาทเนี่ยมันสามารถย้อนกลับไปหาหมอเช้า
00:03:16 → 00:03:19 ติดคนนึงนะครับที่มีชื่อว่าจอห์นโบทอกนะ
00:03:19 → 00:03:22 ครับ
00:03:22 → 00:03:26 ตัวหมอเจรโบท๊อกนะครับเขาสังเกตตัวเองนะ
00:03:26 → 00:03:28 ครับว่าทุกๆประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี
00:03:28 → 00:03:30 เนี่ยตัวเข้าได้จะเลียการเหมือนกับคัด
00:03:30 → 00:03:32 จมูกนะครับก็มีน้ำมูกไหลเนี่ยเกิดขึ้น
00:03:32 → 00:03:34 แล้วก็จะมีอาการแน่นๆที่บริเวณใบหน้านะ
00:03:34 → 00:03:37 ครับซึ่งก็คืออาการแน่นที่หรือว่าการปวด
00:03:37 → 00:03:39 ที่ When ไซนัสแล้วอาการเหล่านี้เนี่ยมัน
00:03:39 → 00:03:41 ก็จะเป็นอยู่ไม่คิดเดือนแล้วก็อาการมันก็
00:03:41 → 00:03:44 จะดีขึ้นไปเองแล้วก็หายไปแต่ Power นก็
00:03:44 → 00:03:46 ถึงเดือนมิถุนายนนะครับก็คือประมาณเมื่อ
00:03:46 → 00:03:48 เข้าช่วงฤดูร้อนนี้อากาศมันก็จะกลับไป
00:03:48 → 00:03:50 ครั้งนึงนะครับซึ่งเขามีอาการแบบนี้มา
00:03:50 → 00:03:53 ตั้งแต่อายุประมาณ8ขวบจนถึงวันที่เขา
00:03:53 → 00:03:55 เริ่มสนใจว่าการพรุ่งนี้มันคืออะไรนะครับ
00:03:55 → 00:03:58 ตอนนี้เขาก็มีอยู่ประมาณสัก 40 กว่าแล้ว
00:03:58 → 00:04:02 ที่นี่ในยุคสมัยนั้นมีอาการที่มีลักษณะมา
00:04:02 → 00:04:04 กะไอจามเล็กๆน้อยๆโชคครั้งชั่วคราวแล้วก็
00:04:04 → 00:04:06 หายไปได้เองเนี่ยหมอส่วนใหญ่จะไม่มองว่า
00:04:06 → 00:04:08 นี่คือโรคภัยไข้เจ็บอะไรนะครับเพราะว่า
00:04:08 → 00:04:11 สมัยก่อนเนี่ยเวลาพูดถึงโรคสนิมอ๋อจะนึก
00:04:11 → 00:04:14 ถึงตรงที่ค่อนข้างกับการดูแลนะครับคือมี
00:04:14 → 00:04:16 อาการที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วก็มักเป็นพวก
00:04:16 → 00:04:19 โรคติดเชื้อต่างๆเช่นพวกวัณโรคจังวัณโรค
00:04:19 → 00:04:21 ให้ผู้ป่วยเกิดขึ้นในการไอเป็นเลือดออกมา
00:04:21 → 00:04:23 นะครับมีเบื่ออาหารแล้วก็ผอมนะครับแล้วก็
00:04:23 → 00:04:25 น้ำกายสู้ไม่อยากเห็นได้ชัดเจนหรือว่าโลก
00:04:25 → 00:04:28 อย่างอหิวาตกโรคนะครับก็คือจะมีอาการท้อง
00:04:28 → 00:04:30 เสียรุนแรงนะครับจนกระทั่งสามารถเสีย
00:04:30 → 00:04:33 ชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงดังนั้นนะครับ
00:04:33 → 00:04:36 โรคที่มีอาการที่ไม่ค่อยชัดเจนเช่นมีไอนะ
00:04:36 → 00:04:39 ครับมีจะมีแน่นจมูกมีแน่นๆแต่แบรนด์ไซนัส
00:04:39 → 00:04:41 นะครับหมอส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มองว่าเป็นสิ่ง
00:04:41 → 00:04:44 ที่น่าสนใจสักเท่าไหร่คือไม่ได้บอกว่า
00:04:44 → 00:04:47 พรุ่งนี้เป็นโรคนะครับโรคภูมิแพ้แบบที่
00:04:47 → 00:04:48 เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันมีหมอส่วนใหญ่ใน
00:04:49 → 00:04:51 เวลานั้นก็เลยเหมือนกับไม่ได้ความสนใจกัน
00:04:51 → 00:04:54 มากนักแต่ตัวหมอเจรโบท๊อกนะครับเขาหมอก
00:04:54 → 00:04:57 ต่างไปก็คือว่าอาจจะเป็นเพราะว่าตกเอง
00:04:57 → 00:05:00 ป่วยเองดูให้เขาก็รู้ว่ามันมีอาการก็
00:05:00 → 00:05:02 เหมือนกันแล้วเขาก็บอกว่าไอ้การปิดเปิด
00:05:02 → 00:05:05 ของเขาพรุ่งนี้มันน่าจะเกี่ยวข้องกับความ
00:05:05 → 00:05:08 ผิดปกติบางอย่างของร่างกายแล้วเมื่อมี
00:05:08 → 00:05:10 อะไรเกิดปัญญามาตัดต้นในช่วงฤดูร้อนเนี่ย
00:05:10 → 00:05:13 โรงเกลือแสดงอาการออกมาสุดท้ายนะครับในปี
00:05:13 → 00:05:16 คศ 1 819 นะครับหมอโบท๊อกเนี่ยก็เลยตัด
00:05:16 → 00:05:18 สินใจที่จะรวบรวมประกันต่างๆเข้าด้วยกัน
00:05:18 → 00:05:21 นะครับแล้วก็นำไปนำเสนอนะครับในที่ประชุม
00:05:21 → 00:05:24 แพทย์ด้วยเขาอธิบายว่าโรคที่เค้าว่าเนี่ย
00:05:24 → 00:05:27 มันมีอากาศยังไงบ้างนะครับแล้วก็มีการ
00:05:27 → 00:05:30 ดำเนินโรคเป็นยังไงนะครับตัวกระตุ้นให้
00:05:30 → 00:05:32 เกิดอาการเนี่ยมีอะไรบ้างแล้วเมื่อเบียร์
00:05:32 → 00:05:34 การเกิดขึ้นแล้วเนี่ยอะไรจะทำให้อาการ
00:05:34 → 00:05:37 เนี่ยมันพอจะทุเลาลงได้บ้างจากนั้นเขาก็
00:05:37 → 00:05:39 สรุปนะครับแล้วก็บอกว่าเนี่ยมันเป็นอาการ
00:05:39 → 00:05:41 เหล่านี้มันเป็นกลุ่มประการที่สามารถรวม
00:05:41 → 00:05:44 กันแล้วก็เป็นโรคใหม่ได้ซึ่งในตอนที่เขา
00:05:44 → 00:05:46 นำเสนอนะครับตัวอย่างของผู้ป่วยที่เขานำ
00:05:46 → 00:05:48 เสนอเนี่ยมีแค่คนเดียวเท่านั้นนะครับก็
00:05:48 → 00:05:50 คือตัวของเขาเองหลังจากที่เข้านำเสนอ
00:05:50 → 00:05:53 ครั้งแรกไปนะครับหมอโบว์ต้องเนี่ยก็สนใจ
00:05:53 → 00:05:54 โลกนี้มากขึ้นนะครับแล้วก็อยากจะรู้ว่า
00:05:54 → 00:05:57 ไม่มีคนอื่นไปที่มีอาการป่วยกับเขานะครับ
00:05:57 → 00:06:00 แล้วก็มีคนเป็นโรงเรียนมากน้อยแค่ไหนหมอ
00:06:00 → 00:06:03 เขาก็เลยออกสำรวจนะครับมันก็พยายามที่จะ
00:06:03 → 00:06:06 เสาะหารวบรวมข้อมูลผู้ป่วยคนอื่นขึ้นมา
00:06:06 → 00:06:09 บ้างแล้วจากนั้นผ่านไปประมาณ 9 ปีนะครับ
00:06:09 → 00:06:11 เพราะก็นำเสนอนำโรคนี้ไปนำเสนอในที่
00:06:11 → 00:06:13 ประชุมแพทย์อีกครั้งหนึ่งนะครับก็คือใน
00:06:13 → 00:06:15 พิษณุโลกและก็เล่าให้หมอมันอื่นฟังว่าโลก
00:06:15 → 00:06:18 นี้เนี่ยเป็นยังไงบ้างที่นี่ความน่าสนใจ
00:06:18 → 00:06:21 คืออย่างนี้ครับในช่วงร 9 ปีที่เขาพยายาม
00:06:21 → 00:06:23 ที่จะหาคนป่วยคนอื่นนะครับที่จะมาศึกษา
00:06:23 → 00:06:26 เข้าพบผู้ป่วยโรคนี้แค่ 26 คนเท่านั้น
00:06:26 → 00:06:29 แล้วเมื่อก็ได้คุยกับคนป่วยนะครับเขาก็
00:06:29 → 00:06:32 ได้พบไปเรียนอย่างหนึ่งที่น่าสนใจว่าหลาย
00:06:32 → 00:06:35 คนนะครับจะเล่าให้ฟังว่าพอมันมีกลิ่น
00:06:35 → 00:06:37 เหมือนกับเก่งสร้างข้าวอยู่ในอากาศก็คือ
00:06:37 → 00:06:39 เมื่อเกลือเข้าสู่ฤดูร้อนได้กลิ่นของฟัง
00:06:39 → 00:06:41 ข่าวขึ้นมาเนี่ยคนที่ป่วยในรู้แล้วว่า
00:06:42 → 00:06:44 เดี๋ยวฉันอีกไม่นานเนี่ยจะมีอาการเกิด
00:06:44 → 00:06:47 ขึ้นมาบนซอฟต์นะครับก็เลยชื่อว่าตัวกลิ่น
00:06:47 → 00:06:49 ฟางข้าวในอากาศเนี่ยจะกระตุ้นให้เกิดการ
00:06:49 → 00:06:53 พรุ่งนี้ขึ้นเขาเกรงเรียกโรคนี้นะครับว่า
00:06:53 → 00:06:55 โรคเค Fever นะครับเขาเห็นที่แปลว่าฟัง
00:06:55 → 00:06:58 ข้าวนี่มันมีจุดแปลกที่น่าสนใจจุดนึงนะ
00:06:58 → 00:07:00 ครับที่หมอโบว์ซ้อมเนี่ยคะที่ 7 เห็นก็
00:07:00 → 00:07:03 คือว่าในผู้ป่วยทาง 28 คนที่เขาพบเนี่ย
00:07:03 → 00:07:06 ทุกคนนี้เป็นคนที่มีคณะร่ำรวยนะครับเป็น
00:07:06 → 00:07:10 ชนชั้นสูงของสังคมแล้วก็มีการศึกษาดีเขา
00:07:10 → 00:07:13 ได้เจอคนนายคนป่วยคนไหนเลยนะครับที่
00:07:13 → 00:07:15 เหมือนกับเป็นคนยากจนหรือมีการศึกษาน้อย
00:07:15 → 00:07:18 เลยมันก็เลยเกิดความสนใจขึ้นมาว่าความร่ำ
00:07:18 → 00:07:20 รวยนะครับเดี๋ยวความยากจนมันเกี่ยวข้อง
00:07:20 → 00:07:22 กับโรคนี้ด้วยหรือเปล่าแล้วเพื่อที่จะตอบ
00:07:22 → 00:07:24 คำถามนี้นะครับเขาก็เลย for Glass เลยนะ
00:07:24 → 00:07:27 ครับก็คือไปเดินตามย่านเวรที่คนยากจน
00:07:27 → 00:07:29 อาศัยอยู่นะครับไปเคาะประตูตามบ้านของผู้
00:07:29 → 00:07:32 คนแล้วไปสอบถามนะครับเพื่อจะดูว่าในคนที่
00:07:32 → 00:07:34 อาศัยอยู่ในรนด์ที่ยากจนทั้งหลายแหล่
00:07:34 → 00:07:36 เนี่ยว่าคนที่มีการศึกษาน้อยเหล่านี้
00:07:36 → 00:07:38 เนี่ยมีคนที่ป่วยเป็นโรคนี้บ้างหรือเปล่า
00:07:38 → 00:07:41 ปรากฏว่าหลังจากที่เดินหาอยู่เป็นเวลานาน
00:07:41 → 00:07:44 นะครับเป็นปีเนี่ยก็ไม่พบคนที่ป่วยเป็น
00:07:44 → 00:07:46 โรคนี้เลยนะครับแล้วนั่นก็เป็นลักษณะที่
00:07:46 → 00:07:48 แปลกอย่างนี้นะครับที่พบตั้งแต่แรกนะคะ
00:07:48 → 00:07:51 ตั้งแต่เรารู้จักโรคภูมิแพ้ขึ้นมาและนั้น
00:07:51 → 00:07:53 นะครับก็คือเรื่องราวของบาวเวอร์ซ.ล็อคนะ
00:07:53 → 00:07:56 ครับคนที่เหมือนกับเริ่มนิยามกลุ่มอาการ
00:07:56 → 00:07:57 เหล่านี้เนี่ยออกมาเป็นโรคนะครับแล้วเขา
00:07:57 → 00:08:00 เรียกโรคนี้ว่าเหตุ Fever แต่สิ่งที่เค้า
00:08:00 → 00:08:03 นำเสนอกับหมอคนอื่นนะครับว่าการแพ้เนี่ย
00:08:03 → 00:08:05 จะใช้เวลาหลายปีนะครับกว่าจะยอมรับว่านี่
00:08:05 → 00:08:08 คือโรคเรื่องจริงๆนะครับก็คือประมาณ 24
00:08:08 → 00:08:11 ปีต่างจากที่หมอโปรซอฟท์เนี่ยนำเสนอครั้ง
00:08:11 → 00:08:14 แรกก็มีการนำโรคเค Fever เนี่ยไปบันทึก
00:08:14 → 00:08:17 ไว้ในตำราแพทย์ให้นักศึกษาที่มหาวิทยาลัย
00:08:17 → 00:08:20 คิงส์คอลเลจในได้เรียนนะครับก็คือถูก
00:08:20 → 00:08:23 บันทึกไว้ในครั้งแรกในปี 1843 นะครับแล้ว
00:08:23 → 00:08:26 จากนั้นหมอ Generation แต่ต่อมานะครับที่
00:08:26 → 00:08:28 เรียนและใช้ตำราของคิงส์คอลเลจเน็ตก็ได้
00:08:28 → 00:08:32 รู้จักกับเฮซีเรียสกันมากขึ้นนะครับจาก
00:08:32 → 00:08:33 นั้นเมื่อเบาะรุ่นนี้จบไปก็เริ่มไป
00:08:33 → 00:08:36 วินิจฉัยคนไข้ว่าผู้ป่วยป่วยเป็นโรค KP
00:08:36 → 00:08:39 เลยเนี่ยมากแค่นี้เรื่อยๆแต่ในเวลานั้นนะ
00:08:39 → 00:08:41 ครับแม้ว่าหมอจะรู้แล้วว่าอาการของโรคนี้
00:08:41 → 00:08:44 เนี่ยมันเป็นยังไงบ้างนะครับแต่ก็ยังไม่
00:08:44 → 00:08:46 มีใครรู้แน่ชัดว่าว่าอะไรที่เป็นตัว
00:08:46 → 00:08:49 กระตุ้นให้เกิดอาการเหล่านี้เพราะว่า
00:08:49 → 00:08:51 เมื่อหมอหลายคนนะครับรู้จักโรคนี้มากขึ้น
00:08:51 → 00:08:54 นะครับเราไปทำงานจริงๆชีวิตจริงๆก็จะ
00:08:54 → 00:08:56 เริ่มมองหาคนที่มีอาการเหล่านี้มากขึ้น
00:08:56 → 00:08:59 ถูกไหมครับแต่ว่าเมื่อมีเจอคนไข้มากขึ้น
00:08:59 → 00:09:01 เรื่อยๆก็เพราะว่าเล่นเพลงของฟังข้าว
00:09:01 → 00:09:02 เนี่ยเป็นแค่ 1 ในตัวกระตุ้นเท่านั้นนะ
00:09:02 → 00:09:05 ครับที่ทำให้คนอื่นมีอาการบางคนไม่ได้มี
00:09:05 → 00:09:08 อาการที่สัมพันธ์กับการพลิกลิ้นฟังข้ามา
00:09:08 → 00:09:12 เกาะนทำให้หมอบางคนเนี่ยเชื่อว่าโรคนี้
00:09:12 → 00:09:13 หรือสิ่งกระตุ้นเรื่องเนี้ยจะไม่เกี่ยว
00:09:13 → 00:09:15 ข้องกับคุณของฟางข้าวก็ได้มันก็เลยมี
00:09:15 → 00:09:18 สวัสดีฐานของการเกิดโรคนี้เพิ่มมากขึ้นนะ
00:09:18 → 00:09:21 ครับมวยเป็นเรื่องของอุณหภูมิของอากาศนะ
00:09:21 → 00:09:24 ครับก็คือบ่บางคนบอกว่าพอเริ่มเข้าสู่ฤดู
00:09:24 → 00:09:26 ร้อนเนี้ยอากาศมันร้อนขึ้นผู้ป่วยก็จะ
00:09:26 → 00:09:29 เริ่มมีอาการมากขึ้นส่วนมากคนเชื่อว่า
00:09:29 → 00:09:31 อาการมันเกี่ยวข้องกับรองเกสรที่เราอยู่
00:09:31 → 00:09:34 ในอากาศว่าบางคนเนี่ยมีสวัสดีค่ะว่าโลก
00:09:34 → 00:09:36 นี้อะที่เกี่ยวข้องกับฐานะของสังคมก็ได้
00:09:36 → 00:09:39 คือบางคนเชื่อว่าถ้าเป็นคนที่มีการศึกษา
00:09:39 → 00:09:42 สูงนะครับก็จะเป็นคนที่ต้องใช้สมองเยอะ
00:09:42 → 00:09:45 นี้พอใช้สมองเยอะมากจะเกิดความเครียดขึ้น
00:09:45 → 00:09:47 มาแล้วความเครียดเนี่ยมันก็กระตุ้นให้
00:09:47 → 00:09:49 เกิดอาการเหล่านี้ขึ้นมาได้แต่ในที่สุดนะ
00:09:49 → 00:09:51 ครับก็จะมีหมอชาวอังกฤษคนนึงนะครับที่
00:09:51 → 00:09:53 สามารถชี้ชัดได้ว่าอะไรคือสิ่งที่กระตุ้น
00:09:53 → 00:09:56 ให้เกิดการเหล่านี้นะครับหมอคนนั้นเนี่ย
00:09:56 → 00:09:58 มีชื่อว่าชาวไทย Version Black RE นะ
00:09:58 → 00:10:00 ครับอ่ะ
00:10:00 → 00:10:01 see
00:10:01 → 00:10:04 More Bag รี่นะครับก็เหมือนหมอโบท๊อกนะ
00:10:04 → 00:10:06 ครับก็คือตัวเองเนี่ยเป็นโรคภูมิแพ้
00:10:06 → 00:10:08 เหมือนกันแล้วก็ในทุกปีนะครับในช่วงฤดู
00:10:08 → 00:10:10 ร้อนเนี่ยเขาจะเริ่มมีอาการเหล่านี้ขึ้น
00:10:10 → 00:10:13 มาแล้วก็สังเกตว่าเมื่อผ่านไปไม่กี่เดือน
00:10:13 → 00:10:15 อาการของเขาก็จะดีขึ้นก็คือพอเข้าก็ดู
00:10:16 → 00:10:18 หนาวและอาการก็จะหายไปที่นี่หมอ Black RE
00:10:18 → 00:10:20 นะครับชื่อว่าเสียงที่กับต้นให้เขาเกิด
00:10:20 → 00:10:22 อาการมันคือพวกลองเกสรต่างๆที่รออยู่ใน
00:10:22 → 00:10:25 อากาศแล้วก็อยากทำการทดลองที่สูตรนะครับ
00:10:25 → 00:10:27 ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าดังนั้น
00:10:27 → 00:10:29 เมื่อถึงฤดูร้อนนะครับก็เริ่มมีอาการแล้ว
00:10:29 → 00:10:32 เขาก็ไปตะเวนเก็บสิ่งต่างๆนะครับที่คน
00:10:32 → 00:10:33 อื่นเลยบอกว่าอาจจะทำให้เกิดอาการขึ้นได้
00:10:33 → 00:10:36 รวมถึงฝุ่นละอองด้วยแล้วก็มาเก็บไว้ในขวด
00:10:36 → 00:10:38 แก้วเล็กๆนะครับก็ตั้งแต่ว่าในบ้านที่นี่
00:10:38 → 00:10:41 พอผ่านช่วงฤดูร้อนไปอาการหายไปหมดแล้ว
00:10:41 → 00:10:44 เนี่ยเขาก็นำขวดการเลือกเหล่านี้มาเปิดที
00:10:44 → 00:10:46 ละขวดนะครับอาจจะเช่นอาทิตย์นี้เปิดขวด
00:10:46 → 00:10:48 นึงหรือว่าวันนี้เปิดขวดหนึ่งแล้วก็มาสูด
00:10:48 → 00:10:51 ดมเข้าไปเพื่อจะดูว่าอะไรที่ในขวดแก้ว
00:10:51 → 00:10:53 เหล่านี้บ้างนะครับที่สามารถกระตุ้นให้
00:10:53 → 00:10:56 เขาเกิดอาการได้แล้วเขาก็เพราะว่าสิ่งที่
00:10:56 → 00:10:58 กระตุ้นให้เขาเนี่ยมีอาการได้มากที่สุดใน
00:10:58 → 00:11:01 ก็คือลองเกสรแล้วก็มีฝุ่นต่างๆนะคะที่เรา
00:11:01 → 00:11:04 รออยู่ในอากาศเขาก็เลยสรุปนะครับว่าพวก
00:11:04 → 00:11:06 เราจะสรคุณต่างๆในอากาศเนี่ยคือตัว
00:11:06 → 00:11:08 กระตุ้นให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ขึ้นมา
00:11:08 → 00:11:11 ได้แล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราว
00:11:11 → 00:11:13 ประวัติศาสตร์แบบย่อๆนะครับว่าวงการแพทย์
00:11:13 → 00:11:15 เนี่ยรู้จักกับควบคุมแพ้ได้ยังไงนะครับ
00:11:16 → 00:11:18 ที่นี่เรื่องที่คุยกันมานะครับมันจะทำให้
00:11:18 → 00:11:20 เราเห็นนะครับว่าโรคนี้เนี่ยในช่วงแรก
00:11:20 → 00:11:22 เนี่ยครบที่พบน้อยมากนะครับในว่าหมอจะ
00:11:22 → 00:11:24 เริ่มสนใจโลกนี้ขึ้นมาแล้วเราพยายามที่จะ
00:11:24 → 00:11:27 มองหาเนี่ยก็พบว่าโลกนี้เนี่ยเจอไม่ค่อย
00:11:27 → 00:11:30 บ่อยนะครับจากนั้นกว่าที่จะกลายเป็นโรค
00:11:30 → 00:11:32 ภูมิแพ้ขึ้นมาเนี่ยมันก็ใช้เวลาค่อนข้าง
00:11:32 → 00:11:35 นานคือต่อประมาณ 20 ปีนะครับกว่าที่จะได้
00:11:35 → 00:11:38 บันทึกไว้ในตำรายาที่ว่าไปนะครับและไม่
00:11:38 → 00:11:40 ว่าต่อมานะครับหมอจะยอมรับว่าโรคนี้เป็น
00:11:40 → 00:11:43 โรคหนึ่งแล้วนะครับบอกว่ามีคำถามที่ไม่
00:11:43 → 00:11:45 สามารถตอบโต้โรคนี้ได้มากมายไม่ว่าจะเป็น
00:11:45 → 00:11:48 ทำไมคนบางคนนะครับถึงได้แพ้แต่คนส่วนใหญ่
00:11:48 → 00:11:51 เนี่ยจะไม่มีปัญหานะครับไม่แพ้ละอองเกสร
00:11:51 → 00:11:54 ไม่แพ้ผื่นฟังข้าวและทำไมนะครับโรคนี้จึง
00:11:54 → 00:11:56 พบเฉพาะในคนชั้นสูงนะครับหรือว่าคนที่มี
00:11:56 → 00:11:59 การศึกษาสูงๆซึ่งคำถามเหล่านี้นะครับจะ
00:11:59 → 00:12:01 ไม่มีไม่สามารถตอบได้เลยนะครับเป็นเวลา
00:12:01 → 00:12:05 อีกนานมากเลยนะครับคือประมาณ 160 ปีถึง
00:12:05 → 00:12:08 170 ปีนับตั้งแต่วันที่หมอโบท๊อกและพูด
00:12:08 → 00:12:10 ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาจนกระทั่งนะครับในปี
00:12:10 → 00:12:14 ค.ศ 1987 นะครับก็มีนักระบาดวิทยาชาวเต็ก
00:12:14 → 00:12:16 ชื่อสายเกาะล้านคนนึงนะครับที่สนใจเกี่ยว
00:12:16 → 00:12:18 กับโรคภูมิแพ้และก็เริ่มพยายามที่จะทำงาน
00:12:18 → 00:12:20 วิจัยนะครับที่จะหาคำตอบเรื่องนี้ขึ้นมา
00:12:20 → 00:12:23 แล้วเค้านะครับการจะถือได้ว่าเป็นคนแรกนะ
00:12:23 → 00:12:25 ครับที่ขายกุญแจแล้วก็แง้มประตูนะครับให้
00:12:25 → 00:12:28 เราสามารถมองทะลุเข้าไปนะครับเราเหมือน
00:12:28 → 00:12:30 กับพอจะเริ่มเห็นคำตอบนะครับจะเห็นคำ
00:12:30 → 00:12:33 อธิบายว่าทำไมโรคภูมิแพ้เนี่ยที่ได้เพิ่ม
00:12:33 → 00:12:35 มากขึ้นเรื่อยๆนะครับแล้วทำไมโลกนี้เนี่ย
00:12:35 → 00:12:38 มักจะพบในชนชั้นสูงของเกร็ดเราจะมาดูกัน
00:12:38 → 00:12:41 นะคะว่านักระบาดวิทยาคนนี้นะครับพบกัน
00:12:41 → 00:12:45 บ้าง
00:12:45 → 00:12:47 เอลซอสนะครับเป็นนักระบาดวิทยาทำงานอยู่
00:12:48 → 00:12:50 ที่ลอนดอนนะครับที่ตกตัวเองในหลังจากที่
00:12:50 → 00:12:52 เราสนใจพวกงานวิจัยเกี่ยวกับพวกภูมิแพ้
00:12:52 → 00:12:55 ขึ้นมาเนี่ยเขาก็มีโอกาสไปใช้ฐานข้อมูล
00:12:55 → 00:12:57 อันนี้นะครับของเกร็ดซึ่งเป็นฐานข้อมูล
00:12:57 → 00:13:00 ที่ดีมากๆนะครับก็คือแนนจะมีการเก็บข้อ
00:13:00 → 00:13:03 มูลนะครับที่นี่มันมีเด็กประมาณ 11.00 น
00:13:03 → 00:13:05 ที่เหมือนกับทั้งเลยได้เก็บข้อมูลอย่าง
00:13:05 → 00:13:08 ละเอียดเลยนะครับเก็บว่าตั้งแต่เด็กยัง
00:13:08 → 00:13:10 ไม่เกิดด้วยซ้ำก็คือว่าในช่วงที่ตั้ง
00:13:10 → 00:13:12 ครรภ์อยู่เนี่ยสุขภาพของแม่เป็นยังไงบ้าง
00:13:12 → 00:13:15 แม่กินอะไรบ้างแม่เครียดหรือเปล่านะครับ
00:13:15 → 00:13:18 แม่ทำงานอะไรมีวิธีชีวิตยังไงก็คือดูสัก
00:13:18 → 00:13:20 ว่าของแม่ในช่วงตั้งครรภ์เนี่ยว่ามีปัญหา
00:13:20 → 00:13:23 อะไรหรือเปล่าจากนั้นนะครับก็ดูแล้วแต่
00:13:23 → 00:13:25 เด็กคลอดเลยนะครับก็คือว่าเด็กคนนี้ได้
00:13:25 → 00:13:27 ข้อดูวิธีการคลอดแบบไหนนะครับเพราะ
00:13:27 → 00:13:30 ธรรมชาติหรือผ่าท้องคลอดและในช่วงแรกของ
00:13:30 → 00:13:34 ชีวิตนะครับเขาเติบโตยังไงนะครับมีโภชนะ
00:13:34 → 00:13:36 ภาวะโภชนาการเป็นยังไงบ้างมีพี่น้องกี่คน
00:13:36 → 00:13:39 เราการศึกษาแบบไหนบ้างและด้วยข้อมูลที่
00:13:39 → 00:13:41 มันมีความละเอียดแบบนี้นะครับเมื่อมา
00:13:41 → 00:13:43 พิเคราะห์ย้อนหลังเนี่ยเราก็สามารถที่จะ
00:13:43 → 00:13:45 บอกอะไรหลายๆอย่างนะครับเกี่ยวกับวิถี
00:13:45 → 00:13:48 ชีวิตในช่วงแรกของเด็กคนนี้ได้ที่นี่เด็ก
00:13:48 → 00:13:50 เหล่านี้นะครับ 17,000 เมื่อโตขึ้นมา
00:13:50 → 00:13:53 เนี่ยก็จะมีเด็กบางส่วนป่วยเป็นโรคภูมิ
00:13:53 → 00:13:56 แพ้ขึ้นมาและบางส่วนก็ไม่ไม่ป่วยนะครับก็
00:13:56 → 00:13:58 คือไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ distortion เข้า
00:13:58 → 00:14:01 ไปใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลและก็คือว่าเขา
00:14:01 → 00:14:03 อย่าล่าสุดเขาอยากได้ที่ปวดโรคภูมิแพ้
00:14:03 → 00:14:05 เด็กที่ไม่ปวดโรคภูมิแพ้ก่อนจากนั้นเนี่ย
00:14:05 → 00:14:08 ก็ดูนะคะว่าเด็ก 2 กลุ่มนี้เนี่ยมีปัจจัย
00:14:08 → 00:14:10 อะไรบ้างนะครับที่ต่างกันบ้างที่นี่มา
00:14:10 → 00:14:12 เข้าข้อมูลต่างๆเหล่านี้มาวิเคราะห์ก็
00:14:12 → 00:14:14 เพราะว่ามีปัจจัยอยู่หลายอย่างด้วยการที่
00:14:14 → 00:14:18 สัมพันธ์กับการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ปัจจัย
00:14:18 → 00:14:21 ได้นะครับที่เขาพบก็คือเป็นเรื่องของขนาด
00:14:21 → 00:14:24 ของครอบครัวครับก็คือว่าถ้าครอบครัวไหนมี
00:14:24 → 00:14:26 ลูกหลายคนนะครับขึ้นเป็นบ้านใหญ่นะครับ
00:14:26 → 00:14:28 เด็กน่าจะมีความเสี่ยงที่เป็นโรคภูมิแพ้
00:14:28 → 00:14:31 เนี่ยน้อยนะครับและยิ่งครอบครัวยิ่งใหญ่
00:14:31 → 00:14:33 เนี่ยสิความเสี่ยงที่เป็นโรคภูมิแพ้และก็
00:14:33 → 00:14:36 ลดลงเรื่อยๆและเป็นครอบครัวที่มีลูกคน
00:14:36 → 00:14:38 เดียวนะครับก็เด็กคนนี้ก็จะมีความเสี่ยง
00:14:38 → 00:14:41 เป็นโรคภูมิแพ้และสูงที่สุดปัจจัยที่ 2
00:14:41 → 00:14:43 นะครับก็คือลำดับการเกิดของเด็กใน
00:14:43 → 00:14:46 ครอบครัวซึ่งเป็นปัจจัยที่ถือว่าค่อนข้าง
00:14:46 → 00:14:49 น่าแปลกใจมากนะครับเพราะว่าถ้าเด็กคนนั้น
00:14:49 → 00:14:52 นะครับเป็นลูกคนโตลูกเป็นลูกคนแรกเนี่ยจะ
00:14:52 → 00:14:54 มีความเสี่ยงจะเป็นโรคภูมิแพ้เดี๋ยวมาก
00:14:54 → 00:14:57 ที่สุดในบ้านส่วนลูกคนที่สองสามสี่จะมี
00:14:57 → 00:14:59 ความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ลดลง
00:14:59 → 00:15:02 เรื่อยๆนะอีกระดับของการเกิดที่มันก็เกิด
00:15:02 → 00:15:04 คำถามที่น่าสนใจนะครับว่าขนาดของครอบครัว
00:15:04 → 00:15:07 และระดับของการเกิดมันไปเกี่ยวข้องกับโรค
00:15:07 → 00:15:12 ภูมิแพ้ได้ยังไง
00:15:12 → 00:15:15 เมื่อสระจานช้อนนะครับเข้าไปศึกษาในราย
00:15:15 → 00:15:17 ละเอียดนะครับก็เพราะว่าสองปัจจัยนี้มัน
00:15:17 → 00:15:20 สะท้อนอะไรบางอย่างและสิ่งที่สะท้อนออกมา
00:15:20 → 00:15:22 เนี่ยเขาก็เชื่อว่ามันคือคำอธิบายว่าทำไม
00:15:22 → 00:15:24 ปัจจุบันเนี่ยคนถึงได้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้
00:15:24 → 00:15:27 มากขึ้นเรื่อยๆเราจะมาดูกันนะครับว่าสิ่ง
00:15:27 → 00:15:30 ที่เขาพบว่ามันคืออะไรนะครับอย่างแรกสุด
00:15:30 → 00:15:31 เลยนะครับก็คือเรื่องของขนาดครอบครัว
00:15:31 → 00:15:34 เมื่อ dextrose เข้าไปศึกษาในรายละเอียด
00:15:34 → 00:15:37 เค้าก็เพราะว่าในครอบครัวที่มีลูกหลายคน
00:15:37 → 00:15:41 เนี่ยเด็กมีน้ำรวมที่จะป่วยบ่อยขึ้นซึ่ง
00:15:41 → 00:15:43 มันก็ค่อนข้างตรงไปตรงมาเพราะธรรมชาติของ
00:15:43 → 00:15:45 เด็กมันจะค่อนข้างสกปรกตัวไหมครับแล้วก็
00:15:45 → 00:15:48 แดงก็จะเล่นกันที่ว่าสกปรกมาถึงว่าบาง
00:15:48 → 00:15:50 ครั้งเด็กบางครั้งก็มีเรื่องของน้ำลายน้ำ
00:15:50 → 00:15:52 มูกนะครับหรือว่าเด็กคนเกิดไม่สบายขึ้นมา
00:15:52 → 00:15:54 เนี่ยก็มาครั้งกับอาบน้ำมูกแล้วก็ไปป้าย
00:15:54 → 00:15:56 หน้าของเด็กคนหนึ่งหรือว่าบางครั้งเด็ก
00:15:56 → 00:15:58 อาจจะไปเล่นข้างนอกนะครับเล่นดินเล่นทราย
00:15:58 → 00:16:01 นะครับแล้วก็จะจับของก็บอกแล้วก็กลับมาก็
00:16:01 → 00:16:03 ไม่ล้างมือก็ไปกินข้าวนะครับไปหยิบของใส่
00:16:03 → 00:16:06 ปากเพื่อนหรือว่ามึงไปป้ายหน้าเพื่อนซึ่ง
00:16:06 → 00:16:07 ปัจจัยเหล่านี้นะครับถ้ามันเกิดขึ้น
00:16:07 → 00:16:10 ครอบครัวนะว่ามันก็ทำให้หลายครั้งเนี่ย
00:16:10 → 00:16:12 ตัวพี่หนึ่งป่วยก่อนนะครับจากนั้นเนี่ย
00:16:12 → 00:16:15 พี่แนะนำอาการป่วยนะครับไปให้กับคนน้อง
00:16:15 → 00:16:17 แต่ในทางตรงกันข้ามนะครับครอบครัวที่มี
00:16:17 → 00:16:20 ลูกคนเดียวเนี่ยส่วนใหญ่ก็ลูกจะไม่ค่อย
00:16:20 → 00:16:21 ป่วยถูกไหมครับเพราะว่าไม่ค่อยได้ไปเล่น
00:16:21 → 00:16:23 สกปรกเด็กคนอื่นเท่าไหร่อันนี้เป็นปัจจัย
00:16:23 → 00:16:26 แรกนะครับปัจจัยที่ 2 คือเรื่องของลำดับ
00:16:26 → 00:16:29 การเกิดในครอบครัวคือได้ช้อนครับเพราะว่า
00:16:29 → 00:16:31 ถ้าเป็นลูกคนแรกนะส่วนใหญ่จะเริ่มป่วย
00:16:31 → 00:16:34 ครั้งแรกเนี่ยช้ากว่าซึ่งเหตุผลก็เหมือน
00:16:34 → 00:16:36 ไม่เคลียร์นะครับก็คือเด็กอยู่ที่บ้าน
00:16:36 → 00:16:38 แล้วก็อยู่กับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่มีโอกาส
00:16:38 → 00:16:40 ได้เจอเด็กด้วยกันได้มากเท่าไหร่แต่ถ้า
00:16:40 → 00:16:42 เป็นครอบครัวนะครับที่มีพี่น้องหลายคนนะ
00:16:42 → 00:16:44 ครับแล้วก็คนน้องเลี้ยงส่วนก็จะมีพี่ที่
00:16:44 → 00:16:47 ไปโรงเรียนแล้วนะครับแล้วเวลาเมื่อพี่ไป
00:16:47 → 00:16:48 โรงเรียนแน่นอนรักที่ก็จะมีโอกาสได้เจอ
00:16:48 → 00:16:51 กับเพื่อนๆที่ป่วยโทรไหมครับบางครั้งก็จะ
00:16:51 → 00:16:53 ไปติดหวัดจากที่โรงเรียนนะครับแล้วกลับมา
00:16:53 → 00:16:55 อธิบายเพราะกับที่บ้านในช่วงแรกตอนที่ยัง
00:16:55 → 00:16:58 ไม่ป่วยมากจะไปเล่นกับน้องนะครับค่ะน้ำ
00:16:58 → 00:17:00 วัดเนี่ยมันติดน้องๆทำให้น้องแล้วติดตาม
00:17:00 → 00:17:02 ไปด้วยอันนี้เรานึกภาพดูนะครับถ้าเป็นลูก
00:17:02 → 00:17:05 คนที่ 2 นี่ก็จะมีพี่หนึ่งควรแต่ถ้าเป็น
00:17:05 → 00:17:07 ลูกคนที่ 4 นะครับว่าจะมีพี่คนที่ 1 คน
00:17:07 → 00:17:09 ที่สองพันที่ 3 ซึ่งอาจจะไปโรงเรียนแล้ว
00:17:09 → 00:17:13 รอบที่สามคนก็จะขยันเอาไข้หวัดเอารกโรค
00:17:13 → 00:17:16 ภัยไข้เจ็บต่างๆมาติดกับน้องทำให้ลูกคน
00:17:16 → 00:17:18 เล็กๆมีโอกาสที่จะป่วยข้างแรกในเร็วขึ้น
00:17:18 → 00:17:22 แล้วก็ป่วยค่อนข้างบ่อยสุดท้ายนะครับ The
00:17:22 → 00:17:24 source ฉันก็เลยรวบรวมสิ่งที่เขาค้นพบมา
00:17:24 → 00:17:26 นะครับแล้วก็ตั้งเป็นสวัสดิหารออกมาว่า
00:17:26 → 00:17:30 ความสกปรกในวัยเด็กหรือว่าภาวะการติด
00:17:30 → 00:17:32 เชื้อนะครับว่าการป่วยบ่อยของในวัยเด็ก
00:17:32 → 00:17:35 เนี่ยมันสามารถช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้โรค
00:17:35 → 00:17:38 ของพืชที่จะเกิดขึ้นเมื่อโตขึ้นเป็นผู้
00:17:38 → 00:17:42 ใหญ่ได้ด้วยและความที่สมมติฐานของเดวิด
00:17:42 → 00:17:44 ร้อนในค่อนข้างแปลกนะครับแล้วก็มันค้าน
00:17:44 → 00:17:46 กับความเชื่อของยุคสมัยนั้นที่จะเน้น
00:17:46 → 00:17:48 เรื่องของความสะอาดก็คือมองว่าถ้าสกปรก
00:17:48 → 00:17:52 ถ้ามีมลภาวะและมลพิษต่างๆในเสียเวลามาก
00:17:52 → 00:17:55 เนี่ยจะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นมาสวัสดี
00:17:55 → 00:17:57 ฐานของ David choi เช็คก็เลยร้องสนใจจาก
00:17:57 → 00:18:00 สื่อมวลชนค่อนข้างมากนะครับแล้วในเวลาต่อ
00:18:00 → 00:18:02 164 ต่างๆเวลาพูดถึงสวัสดีฐานวันที่จะดี
00:18:02 → 00:18:04 ของเขาเนี่ยจะตั้งชื่อเล่นให้นะครับว่า
00:18:04 → 00:18:07 เป็นไฮจีนให้พอร์ชพิเศษนะครับโดยจะแปลว่า
00:18:07 → 00:18:10 เป็นโรคที่เกิดจากความสะอาดเกินไปซึ่ง
00:18:10 → 00:18:13 เมื่อมันมีชื่อที่แปลกนะครับจำง่ายแล้วก็
00:18:13 → 00:18:16 ฟังแล้วมันติดหูเนี่ยทำให้สโมสรฐานของจอช
00:18:16 → 00:18:20 เนี่ยก็เราค่ะสนใจมากขึ้นได้เรื่อยๆแต่
00:18:20 → 00:18:22 อย่างไรก็ตามนะครับสิ่งที่ศาสตราจารย์
00:18:22 → 00:18:25 สะท้อนพบเรียกรี่ได้ว่าเป็นแค่มันก็เรียก
00:18:25 → 00:18:26 ว่าเป็นจิ๊กซอว์ตัวแรกละกันนะครับที่ทำ
00:18:26 → 00:18:30 ให้ภาพเนี่ยมันเริ่มเห็นชัดขึ้นนะครับแต่
00:18:30 → 00:18:32 ว่าก็อย่างที่บอกก็คือมันเป็นแค่จิ๊กซอ
00:18:32 → 00:18:34 ต่อให้เค้านั้นเป็นจุดเริ่มต้นและด้วย
00:18:34 → 00:18:36 ความที่ภาพเนี่ยมันยังไม่เห็นไม่ชัดเท่า
00:18:36 → 00:18:38 ไหร่นะครับทำให้การแปลผลอาจจะไม่ถูกต้อง
00:18:38 → 00:18:41 ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะว่าทุกวันนี้เรารู้
00:18:41 → 00:18:43 ว่าว่าส่งบริหารของเขาเนี่ยมันไม่ถูกต้อง
00:18:43 → 00:18:46 ซะทีเดียวนะครับคราวนี้นะครับจะไปดูที่ 2
00:18:46 → 00:18:48 ตอนที่ 2 กันนะครับซึ่งต้องบอกกันว่าจริง
00:18:48 → 00:18:50 ๆจิ๊กซอว์ในมันมีหลายตัวด้วยกันนะครับมี
00:18:50 → 00:18:52 มีคนที่ทำงานวิจัยเรื่องเนี้ยในช่วงเวลา
00:18:52 → 00:18:54 นั้นเดี๋ยวมากมายแต่เราคงไม่สามารถที่จะ
00:18:54 → 00:18:57 เล่าให้ฟังได้ทั้งหมดนะครับก็คงจะเล่าขอ
00:18:57 → 00:19:00 ให้เห็นตัวอย่างนะครับที่ 2 ที่สัตว์ตัว
00:19:00 → 00:19:02 มีต่อนะครับเกิดขึ้นที่รมณีย์นะครับก็คือ
00:19:02 → 00:19:05 เกิดขึ้นโดยหมอหมอเด็กนะครับมาแพทย์คนนึง
00:19:05 → 00:19:06 นะครับที่ชื่อว่าเอริก้าบอล New เตียงนะ
00:19:07 → 00:19:09 ครับเป็นแค่ก่อนหนูเสียสนิทนะครับเป็นหมอ
00:19:09 → 00:19:12 เด็กที่ทำมาอยู่ที่โรงพยาบาลที่วิวนี่นิด
00:19:12 → 00:19:14 ตัวหมอ one way Jesus เองเนี่ยมันจะ
00:19:14 → 00:19:16 เป็นหมอเด็กนะครับที่หมอเด็กสุดในก็ต้อง
00:19:16 → 00:19:19 รักษาโรคภูมิแพ้อยู่แล้วก็เลยสนใจโลกนี้
00:19:19 → 00:19:21 มาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนต่อเป็นผู้
00:19:21 → 00:19:23 เชี่ยวชาญและในช่วงที่เรียนต่อและก็เคยทำ
00:19:23 → 00:19:26 งานวิจัยจะโรคภูมิแพ้มาบ้างเพชรแต่ว่างาน
00:19:26 → 00:19:27 วิจัยครั้งแรกเนี่ยข้อมูลที่ออกมาเนี่ย
00:19:28 → 00:19:30 ไม่ค่อยข้างค่อนข้างแปลกนะครับเพื่อนๆกับ
00:19:30 → 00:19:33 สินี้เชื่ออยู่ตอนนั้นหมอบอล US ก็เลยคิด
00:19:33 → 00:19:36 ว่าอาจจะเพราะว่าตัวเองอ่อนประสบการณ์นะ
00:19:36 → 00:19:37 ครับก็จะเก็บข้อมูลไม่ดีแล้วก็เลยไม่ได้
00:19:37 → 00:19:41 สนใจงานวิจัยนั้นไปแต่ในเวลาต่อมานะค่ะมี
00:19:41 → 00:19:43 เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นก็คือเหตุการณ์ที่
00:19:43 → 00:19:46 ปัจจุบันนี้เรารู้จักกันในชื่อว่าการล่ม
00:19:46 → 00:19:49 สลายของกำแพงเบอร์ลินที่นี่หมอวันเวย์
00:19:49 → 00:19:51 เจี๊ยบก็เลยบอกว่าการล่มสลายของกำแพง
00:19:51 → 00:19:53 เบอร์ลินเนี่ยมันเป็นโอกาสที่ดีนะครับที่
00:19:53 → 00:19:55 ได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้เพราะในเวลา
00:19:55 → 00:19:57 นั้นเนี่ยข้อมูลเกี่ยวกับโรคหรือว่า
00:19:57 → 00:20:00 เรื่องของสาเหตุว่าอะไรที่มันตกทำให้เกิด
00:20:00 → 00:20:02 โรคภูมิแพ้เนี่ยมันยังไม่ค่อยชัดเจนเท่า
00:20:02 → 00:20:04 ไหร่หมอว่าโดนเตียงนะครับบอกว่ายอมอันตัว
00:20:04 → 00:20:07 ตนออกเนี่ยเป็นชาติเดียวกันนะครับก็คือ
00:20:07 → 00:20:09 หมายถึงประชากรของทั้งสองประเทศนี้ก็คือ
00:20:09 → 00:20:11 มีพัธุกรรมที่คล้ายกันแต่หลังสงครามโลก
00:20:11 → 00:20:13 ครั้งที่สองมันจบสิ้นลงนะครับประเทศนี้ก็
00:20:13 → 00:20:16 ถูกแยกเป็น 2 ส่วนนะครับก็คือเยอรมันตัว
00:20:16 → 00:20:19 ตบกับออเจ้ามาตนออกนะครับเผื่อมันตกก็ปก
00:20:19 → 00:20:21 ครองด้วยระบอบประชาธิปไตยส่วนเยอรมัน
00:20:21 → 00:20:24 ตะวันออกแบบก็ปกครองด้วยระบอบคอมเมนเดส
00:20:24 → 00:20:26 ด้านหลังจากนั้นมานะครับสองประเทศนี้ก็มี
00:20:26 → 00:20:30 การพัฒนาที่เรียกว่าไปคนละทางเลยนะครับก็
00:20:30 → 00:20:32 คือยอมันทนต่อในกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวย
00:20:32 → 00:20:34 ที่สุดประเทศหนึ่งของยุโรปนะครับแล้วก็มี
00:20:34 → 00:20:38 พวกระบบทรัพย์ธารณสุขมูลฐานครับที่ดีมาก
00:20:38 → 00:20:41 นะครับแล้วก็ด้วยความที่กฎหมายเกี่ยวกับ
00:20:41 → 00:20:43 พวกมลพิษต่างๆมีความเข้มงวดมากทำให้แม่
00:20:44 → 00:20:46 น้ำลำธารต่างๆเนี่ยสะอาดแล้วก็อากาศเนี่ย
00:20:46 → 00:20:49 สะอาดมากส่วนเยอรมันตะวันออกนะครับต่อมา
00:20:49 → 00:20:51 ในกลายเป็นประเทศที่เรียกว่าเป็นอย่าง
00:20:51 → 00:20:54 ประเทศที่สกปรกมากที่สุดในยุโรปช่วงนั้น
00:20:54 → 00:20:56 เลยนะครับก็คือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝุ่น
00:20:56 → 00:21:00 ควันจากโรงงานต่างๆนะครับสารเคมีโป้ขานะ
00:21:00 → 00:21:02 ครับที่ถูกนำมาทิ้งหรือว่าเป็นเรื่องของ
00:21:02 → 00:21:05 ขอน้ำเน่าเสียนะครับน้ำที่ปนเปื้อนสาร
00:21:05 → 00:21:07 เคมีแล้วยังไม่ได้บำบัดให้ดีแล้วก็ถูก
00:21:07 → 00:21:10 ปล่อยลงไปในแม่น้ำลำคลองต่างๆแล้วด้วย
00:21:10 → 00:21:12 ความเชื่อในเวลานั้นนะคะในวงการแพทย์ใน
00:21:12 → 00:21:14 ชื่อว่าโรคภูมิแพ้มันเกิดจากการที่เรา
00:21:14 → 00:21:17 สัมผัสกับสิ่งที่เป็นกระตุ้นให้ผมผู้กา
00:21:17 → 00:21:19 หนดทำงานมากเกินไปก็เช่นพวกสารเคมีต่างๆ
00:21:19 → 00:21:22 หรือความสกปรกนะครับและการติดเชื้อซึ่ง
00:21:22 → 00:21:25 พวกนี้พอมากระตุ้นบ่อยๆเข้าอยากพบกันของ
00:21:25 → 00:21:27 เราในก็เลยแมวน้องจะทำงานผิดเพี้ยนไปนะ
00:21:27 → 00:21:30 ครับก็คือมันก็ตอบสนองรุ่นใดมากเกินไป
00:21:30 → 00:21:33 แล้วก็นำไปสู่โรคภูมิแพ้หมอบอลเตียงเหล็ก
00:21:33 → 00:21:36 คาดว่าเด็กเยอรมันตะวันออกเนี่ยมีแนวโน้ม
00:21:36 → 00:21:39 ที่จะป่วยน่าจะป่วยนะครับเป็นโรคภูมิแพ้
00:21:39 → 00:21:41 เนี่ยมากกว่าเด็กในเยอรมันตะวันตกแต่
00:21:41 → 00:21:43 เมื่อเดินทางไปเก็บข้อมูลจริงๆนะครับก็
00:21:43 → 00:21:45 ต้องประหลาดใจนะครับเพราะว่าอุบัติการณ์
00:21:45 → 00:21:48 การเกิดโครกภูมิแพ้เนี่ยมันต่างกันจริงๆ
00:21:48 → 00:21:51 นะครับที่แต่ว่ายอมอันตนออกสุขกับกว่า
00:21:51 → 00:21:53 เนี้ยกลับ B เด็กที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้
00:21:53 → 00:21:56 เนี่ยน้อยกว่าเยอรมันตะวันตกที่นี่เมื่อ
00:21:56 → 00:21:58 ข้อมูลมันออกมาแบบออกมาแบบนี้นะครับทำให้
00:21:58 → 00:22:01 หมอการเนี้ยเสี่ยน้ำหอมไหมครับต้องยอมรับ
00:22:01 → 00:22:03 นะครับแต่ว่าในเวลานั้นเนี่ยยังไม่รู้ว่า
00:22:03 → 00:22:07 คำอธิบายจริงๆมันคืออะไรแต่สุดท้ายนะครับ
00:22:07 → 00:22:09 หลังจากในเวลาต่อมาเนี่ยหมอวัน uses ก็มี
00:22:09 → 00:22:12 โอกาสไปได้งานวิจัยของศาสนาจารย์สัตว์
00:22:12 → 00:22:14 ร้อยนะครับที่พูดถึงเรื่องของ hygiene
00:22:14 → 00:22:16 เทพ orasis บวกกันในเวลาต่อมาเนี่ยหมอบาง
00:22:16 → 00:22:19 นิดเดียวทีเดียวกันได้คุยกับนักระบาด
00:22:19 → 00:22:21 วิทยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ในคอนถึงนะครับเรา
00:22:21 → 00:22:24 นักระบาดวิทยาชัดที่สวิตเซอร์แลนด์ในก็
00:22:24 → 00:22:26 เล่าให้ฟังว่าเด็กที่เติบโตในชนบทและตัว
00:22:26 → 00:22:29 ในฟาร์มของสวิตเซอร์แลนด์เนี่ยจะมีโอกาส
00:22:29 → 00:22:31 ที่จะเปิดโรคภูมิแพ้เนี่ยน้อยกว่าเด็กใน
00:22:31 → 00:22:34 มือเยอะมากต่อมานะครับหมอบอลเร็วเจี๊ยบนะ
00:22:34 → 00:22:36 ครับกับนักระบาดวิทยาชาวโชว์นี้นะครับ
00:22:36 → 00:22:39 ชื่อว่าชาล็อตบรอนซ์ฟ้า Render นะครับก็
00:22:39 → 00:22:41 เลยทำงานวิจัยร่วมกันแล้วก็คนเพราะว่า
00:22:41 → 00:22:44 เด็กที่เติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ที่ใช้คำ
00:22:44 → 00:22:46 ว่าสกปรกนะครับก็คือกบในงานของธรรมชาติก็
00:22:46 → 00:22:49 มีพวกฟางข้าวมีมูลสัตว์นะครับแล้วก็เติบ
00:22:49 → 00:22:53 โตมากับปอดินกับดินทรายนะครับเพราะว่าถ้า
00:22:53 → 00:22:56 จะไม่ปวดโรคภูมิแพ้เลยดังนั้นเมืองงาน
00:22:56 → 00:22:57 วิจัยต่างๆเหล่านี้นะครับเหมือนกับค่อย
00:22:57 → 00:23:00 ต่อจิ๊กซอว์รวมเข้าด้วยกันเนี่ยภาพที่
00:23:00 → 00:23:02 ขั้นตอนแรกจะเห็นไม่ค่อยชัดนะครับเลือน
00:23:02 → 00:23:05 ลางเนี่ยมันก็ค่อยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆและ
00:23:05 → 00:23:07 เพราะว่าสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่เหมือน
00:23:07 → 00:23:09 กับทำให้โรคภูมิแพ้มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย
00:23:09 → 00:23:11 ๆนะครับอาจจะไม่ใช่เรื่องของมลพิษต่างๆ
00:23:11 → 00:23:14 คือไม่ย้อนกลับไปดูนะครับทั้งเด็กใน
00:23:14 → 00:23:16 เยอรมันตะวันออกนะครับระแนง Grid ที่ไม่
00:23:16 → 00:23:18 ค่อยเปิดโรคภูมิแพ้เด็กเรานี้เนี่ยที่มี
00:23:18 → 00:23:20 ร่วมกันก็คือเด็กเหล่านี้มีโอกาสสัมผัส
00:23:20 → 00:23:22 กับธรรมชาติมากนะครับและสัมผัสกับ
00:23:22 → 00:23:25 ธรรมชาติตั้งแต่เล็กๆเนื้อจะมองว่ามีวิถี
00:23:25 → 00:23:28 ชีวิตเนี่ยค่อนข้างจะชนบทกว่าซึ่งชนบทนี้
00:23:28 → 00:23:31 ที่นี่นะครับก็หมายถึงว่าขอเวลาอย่างเช่น
00:23:31 → 00:23:33 ศูนย์ไปซื้อผักผลไม้นะครับจะไปซื้อจาก
00:23:33 → 00:23:35 ตลาดสดนะครับซึ่งของที่ขายในตลาดเดียว
00:23:35 → 00:23:38 ส่วนก็จะปลูกโดยชาวไร่ชาวสวนนะครับที่
00:23:38 → 00:23:40 ปรับทำอะไรขนาดเล็กแล้วก็อยู่ในท้องถิ่น
00:23:40 → 00:23:43 นั้นไม่ใช่เป็นผลไม้ที่เหมือนกับนำเข้า
00:23:43 → 00:23:45 จากต่างประเทศนะครับซึ่งต้องผ่านการฉาย
00:23:45 → 00:23:47 รังสีก่อนที่จะมาวางขายในซุปเปอร์มาเก็ต
00:23:47 → 00:23:50 เหมือนกับที่พบในยอมอันตอนตบหรือไม่ว่าจะ
00:23:50 → 00:23:52 เป็นเรื่องของน้ำดื่มน้ำใช้ต่างๆนะครับใน
00:23:52 → 00:23:54 เยอะมันออกหรือว่าในซื้อสแลนเนี่ยในส่วน
00:23:54 → 00:23:57 ที่เป็นชนบทนี้ก็จะมีการทำแหล่งน้ำจาก
00:23:57 → 00:24:00 แหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้นะครับก็คือมาอ้าง
00:24:00 → 00:24:03 จากลำธารนะครับน้ำฝนมากร่อนจากนั้นก็นำ
00:24:03 → 00:24:06 น้ำเนี่ยมาใช้ดื่มแท้อาบซึ่งวิถีชีวิตแบบ
00:24:06 → 00:24:08 นี้นะครับมันก็มีโอกาสทำให้เด็กมีโอกาส
00:24:08 → 00:24:10 ได้สัมภาษณ์กับจุลินทรีย์ต่างๆที่อาศัย
00:24:10 → 00:24:13 อยู่ในธรรมชาติเนี่ยออกมาตั้งแต่เล็กๆและ
00:24:13 → 00:24:15 ยิ่งเวลาต่อมานะครับก็มีข้อมูลต่างๆออกมา
00:24:15 → 00:24:18 มากขึ้นนะครับจากประเทศต่างๆหรือแม้แต่
00:24:18 → 00:24:20 เด็กที่ต่อในเมืองนะครับถ้าต่อลำในบ้านมี
00:24:20 → 00:24:23 การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนะครับก็จะมีพบว่ามี
00:24:23 → 00:24:25 โอกาสเป็นโรคภูมิแพ้น้อยกว่าเหมือนกัน
00:24:25 → 00:24:27 เพราะอะไรเพราะสัตว์เลี้ยงเหล่านี้นะครับ
00:24:27 → 00:24:29 ถึงเวลาก็ต้องพาไปเดินเล่นถูกไหมครับต้อง
00:24:29 → 00:24:32 พาไปอึฉี่ข้างนอกนะครับแล้วสาระเนี่ย
00:24:32 → 00:24:34 พร้อมไปเดินตามที่ส่วนสถานะต่างๆนะครับไป
00:24:34 → 00:24:36 วิ่งเล่นที่ดินนะครับไปกลิ้งเกลือกกลิ้ง
00:24:36 → 00:24:39 อยู่กับพื้นดินฉันแล้วนะคะวิ่งกลับไปหา
00:24:39 → 00:24:42 เด็กนะครับก็เด็กในเข้าไปก่อนนะครับหมาใน
00:24:42 → 00:24:44 ก็จะเข้าไปเรียนหน้าแล้วก็ใช้กับไปใช้กัน
00:24:44 → 00:24:47 มาครับเผื่อกลิ้งไปตามพื้นดินหรือว่ามาใน
00:24:47 → 00:24:49 กลับมาวิ่งได้บ้านะครับก็เอาพวกเศษดินเศษ
00:24:49 → 00:24:52 ต่างๆเนี่ยเข้ามาปนเปื้อนอยู่ในบ้านทำให้
00:24:52 → 00:24:54 เด็กเนี่ยซึ่งตอบโต้อะไรบ้านที่มีสัตว์
00:24:54 → 00:24:56 เลี้ยงเนี่ยครับจุลินทรีย์ต่างๆเหล่านี้
00:24:56 → 00:24:59 เข้าไปในร่างกายด้วยแล้วด้วยลักษณะที่เรา
00:24:59 → 00:25:01 ไปเหล่านี้นะคะเพื่อให้จุลินทรีย์ในร่าง
00:25:01 → 00:25:03 กายของเด็กนะครับโดยเฉพาะจุลินทรีย์ในทาง
00:25:03 → 00:25:06 เดินอาหารในลำไส้ของเด็กเนี่ยออต่างไปจาก
00:25:06 → 00:25:09 จุลินทรีย์ของเด็กที่ต่อในเมืองนะครับใน
00:25:09 → 00:25:12 เวลาต่อมานะครับก็คือในปี 2003 นะครับก็
00:25:12 → 00:25:14 มีนะคะยศาสตร์เช้าติดคอนะครับชื่อว่าเกร
00:25:14 → 00:25:18 แฮมรกเนี่ยเขาก็เหมือนกับอัพเดททฤษดีทั้ง
00:25:18 → 00:25:20 หมดนะครับแล้วก็เสนอว่าควรจะเปลี่ยนชื่อ
00:25:20 → 00:25:22 จากให้จีในภาคพิเศษที่แปลว่าสะอาดเกินไป
00:25:22 → 00:25:25 เนี่ยมาเป็น Open ให้เพราะ The sez Old
00:25:25 → 00:25:27 friend ที่แปลว่าเพื่อนเก่านะครับก็คือ
00:25:27 → 00:25:30 อาจจะเป็นไทยว่าเป็นเพื่อนกับที่หายไป
00:25:30 → 00:25:33 แล้วขึ้นกับที่หายสาบสูญที่เพื่อนเก่าใน
00:25:33 → 00:25:36 ความหมายของศาสตราจารย์รุกเนี่ยเคืองอะไร
00:25:36 → 00:25:40 นะครับ
00:25:40 → 00:25:44 สระจานรุกนะครับคือเข้ามาว่าให้เรามองใน
00:25:44 → 00:25:46 ภาพใหญ่นะครับคือมองมนุษย์ของโมเสส
00:25:46 → 00:25:48 เปลี่ยนตั้งแต่เริ่มเกิดมาบนโลกนี้เลยก็
00:25:48 → 00:25:50 คือเมื่อประมาณ 200000-300000 ปีที่แล้ว
00:25:50 → 00:25:53 เนี่ยตลอดช่วงเวลา 2 ชั้นกว่าปีที่ผ่านมา
00:25:53 → 00:25:55 เนี่ยมันตุ๊ดเนี่ยใช้ชีวิตเหมือนกับสัตว์
00:25:55 → 00:25:59 สัตว์ป่าอื่นๆมาตลอดนะครับก็คือว่าเรา
00:25:59 → 00:26:02 อาศัยอยู่ในป่าถ้าเรากินของที่หาได้จากใน
00:26:02 → 00:26:04 ธรรมชาตินะครับเวลานอนแล้วก็นอนในป่านะ
00:26:04 → 00:26:07 ครับเอาใบไม้ต่างมาปูนะครับแล้วก็นอนตรง
00:26:07 → 00:26:10 นั้นหรือว่านอนในถ้ำนะครับวิธีชีวิตที่หา
00:26:10 → 00:26:13 กินแบบในธรรมชาตินอนในถ้ำเนี่ยพูดง่ายๆก็
00:26:13 → 00:26:16 คือเหมือนกับเป็นสภาวะธรรมชาติจริงๆของ
00:26:16 → 00:26:19 โครโมโซมเบี้ยนะครับของร่างกายมนุษย์แล้ว
00:26:19 → 00:26:21 ร่างกายของมนุษย์เนี่ยก็ถูกวิวัฒนาการให้
00:26:21 → 00:26:23 ทำงานเหมาะกับสิ่งแวดล้อมแบบนี้มาตลอดก็
00:26:23 → 00:26:25 คือมีโอกาสสัมผัสกับจุลินทรีย์ต่างๆ
00:26:25 → 00:26:28 ธรรมชาติมากมายจับเวลาเราพูดถึงคำว่า
00:26:28 → 00:26:30 จุลินทรีย์นะครับผมเชื่อว่าหลายคนจะนึก
00:26:30 → 00:26:32 ถึงคำว่าเชื้อโรคนะครับแต่ต้องบอกว่าอัน
00:26:32 → 00:26:34 นี้เป็นความความคิดเชื่อที่ผิดนะครับ
00:26:34 → 00:26:36 เพราะว่าจุลินทรีย์ต่างๆที่มีอยู่ใน
00:26:36 → 00:26:37 ธรรมชาตินะครับว่าจะเรื่องของแบคทีเรีย
00:26:37 → 00:26:40 ไวรัสหรือเชื้อราต่างๆซึ่งคำว่าใน
00:26:40 → 00:26:43 ธรรมชาติหมายถึงว่าในอากาศในดินในน้ำต่าง
00:26:43 → 00:26:45 ๆเนี่ยส่วนใหญ่นะครับเป็นจุลินทรีย์ที่
00:26:45 → 00:26:48 ไม่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ว่าถึงว่า
00:26:48 → 00:26:50 แบคทีเรียไวรัสเชื้อราต่างๆที่ทำให้เกิด
00:26:50 → 00:26:53 โรคในมนุษย์ได้ในเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของ
00:26:53 → 00:26:56 ก็จุลินทรีย์ต่างๆที่ใส่หวีธรรมชาติเพราะ
00:26:56 → 00:26:58 ว่าจุลินทรีย์เหล่าเนี่ยมันไม่สามารถที่
00:26:58 → 00:27:00 จะเข้ามาปักหลักในร่างกายของมนุษย์ได้
00:27:00 → 00:27:02 แล้วพวกจุลินทรีย์ที่จะทำให้เกิดโรคใน
00:27:02 → 00:27:04 มนุษย์ได้เนี่ยะขั้นตอนแรกสิ่งต้องทำได้
00:27:04 → 00:27:07 คือมันต้องสามารถที่จะเข้ามาปักหลักอยู่
00:27:07 → 00:27:10 ในร่างกายของเราได้ซึ่งจะทำแบบนั้นได้ใน
00:27:10 → 00:27:12 คือตัวจุลินทรีย์มันต้องมีคนไก่พิเศษนะ
00:27:12 → 00:27:14 ครับที่ทำให้มันอยู่ในร่างกายของมนุษย์
00:27:14 → 00:27:17 ได้และมันจะต้องสามารถสู้กับจุลินทรีย์
00:27:17 → 00:27:19 เจ้าถิ่นที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเราของ
00:27:19 → 00:27:21 เราเดิมแต่เดิมได้ด้วยเพราะว่ามันจะต้อง
00:27:21 → 00:27:23 เข้ามาไหมครับอย่างที่หากินกับจุลินทรีย์
00:27:23 → 00:27:25 นะร่างกายที่เจ้าถิ่นเดิมแล้วเมื่อมัน
00:27:25 → 00:27:27 สามารถเข้ามาปักหลักได้แล้วเนี่ยมันถึงจะ
00:27:27 → 00:27:30 ทำให้เราป่วยได้ดังนั้นนะครับส่วนใหญ่ของ
00:27:30 → 00:27:32 จุลินทรีย์ในธรรมชาติมันก็ไปรับนครแค่
00:27:32 → 00:27:34 ผ่านเข้ามาแล้วก็พาลออกเท่านั้นจะเห็นนะ
00:27:34 → 00:27:37 คะว่าร่างกายของมนุษย์เดชชินกับวิถีชีวิต
00:27:37 → 00:27:39 แบบนี้มาตลอดนะครับเกือบมาร 2 แสนกว่าปี
00:27:39 → 00:27:43 นะครับเกือบ 3 แสนปีแต่ประมาณแคบ 100
00:27:43 → 00:27:45 กว่าปีนะครับถึง 200 ปีที่ผ่านมานี่เองนะ
00:27:45 → 00:27:47 ครับที่มนุษย์เราได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
00:27:47 → 00:27:49 รอบตัวของเราเนี่ยไปอย่างสิ้นเชิงนะครับ
00:27:50 → 00:27:52 แล้วตั้งแต่แรกเกิดเลยนะครับก็คือว่าสมัย
00:27:52 → 00:27:54 ก่อนเนี่ยก็คือเราเกิดอาป๋าโทรไหมครับ
00:27:54 → 00:27:56 เดี๋ยวเกิดข้อโดยหมอตำแยนะครับก็ทอดออกมา
00:27:56 → 00:28:00 ก็ก็เหมือนกับสัมผัสกับธรรมชาติเลยแต่ทุก
00:28:00 → 00:28:02 วันนี้เราเกิดที่โรงพยาบาลโทรไหมฮะเกิดใน
00:28:02 → 00:28:05 ห้องคลอดซึ่งก็มีการฆ่าเชื้อต่างๆนะครับ
00:28:05 → 00:28:08 หรือบางคนยิ่งกว่านั้นคือเกิดโดยกันคอร์ด
00:28:08 → 00:28:11 ผ่านผ่านการผ่าท้องคลอดเลยด้วยซ้ำคือไม่
00:28:11 → 00:28:13 ได้สัมผัสกับจุลินทรีย์ที่อยู่ในช่องคลอด
00:28:13 → 00:28:15 ของแม่ด้วยเมื่อเกิดออกมาแล้วนะเด็กทารก
00:28:15 → 00:28:17 ถูกเลี้ยงในบ้านตัวไหมครับซึ่งได้นอนแล้ว
00:28:17 → 00:28:20 บ้านปัจจุบันก็จะทำความสะอาดอย่างดีนะ
00:28:20 → 00:28:22 ครับแล้วก็มีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ
00:28:22 → 00:28:25 เข้ามาร่วมด้วยจานชามนะครับขอเสื้อผ้า
00:28:25 → 00:28:28 เด็กใส่ก็จะถูกซักด้วยสารเคมีที่สามารถ
00:28:28 → 00:28:31 ฆ่าเชื้อโรคได้นะครับและดูนี่เราก็นิยม
00:28:31 → 00:28:34 ใช้น้ำยาในระยะที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้
00:28:34 → 00:28:37 99.9 เปอร์เซนต์ถึงแค่ซึ่งแน่นอนว่า
00:28:37 → 00:28:38 เชื้อส่วนใหญ่ที่ถูกฆ่าไปจะเป็น
00:28:38 → 00:28:40 จุลินทรีย์ที่มีก่อให้เกิดโรคด้วยเพราะ
00:28:40 → 00:28:42 ฉะนั้นสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อยู่รอบตัวของ
00:28:42 → 00:28:44 เด็กที่เติบโตมาเนี่ยก็จะเป็นสิ่งแวดล้อม
00:28:44 → 00:28:46 ที่เรียกว่าแทบจะไม่ค่อยมีเชื้อ
00:28:46 → 00:28:48 จุลินทรีย์อยู่เท่าไหร่นะครับก็คือมีอยู่
00:28:48 → 00:28:50 น้อยมากและมีความหลากหลายร้อยมากต่างไป
00:28:50 → 00:28:52 จากเด็กที่เติบโตในธรรมชาติอย่างที่เรา
00:28:52 → 00:28:55 คุยกันไปก่อนดีหรือแม้แต่อากาศที่เราหาย
00:28:55 → 00:28:57 ใจนะครับจะเป็นสมัยก่อนมนุษย์ก็จะหายใจ
00:28:57 → 00:29:00 โดยอากาศที่เหมือนกับไหลเวียนอยู่ในสิ่ง
00:29:00 → 00:29:02 แวดล้อมในธรรมชาตินะครับมันก็ว่าอาการ
00:29:02 → 00:29:04 เหล่านี้ก็ชวนอากาศที่ไหลพันธุ์ดินผ่าน
00:29:04 → 00:29:08 ต้นไม้ผ่านแม่น้ำลำธารต่างๆซึ่งพวก
00:29:08 → 00:29:09 จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในดินในธรรมชาติ
00:29:09 → 00:29:12 ต่างๆก็จะลอยฟุ้งอยู่ในอากาศแล้วเราก็จะ
00:29:12 → 00:29:14 หายใจพวกจุลินทรีย์เหล่านั้นเข้าไปในร่าง
00:29:14 → 00:29:16 กายของเราด้วยแต่ปัจจุบันเนี่ยเราหายใจ
00:29:16 → 00:29:19 อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นครับเป็นตึกราม
00:29:19 → 00:29:20 บ้านช่องนะครับแล้วก็หลายครั้งก็จะมี
00:29:20 → 00:29:22 เรื่องของเครื่องปรับอากาศและตัวเครื่อง
00:29:22 → 00:29:23 ปรับอากาศในก็สามารถเรียกร้องพวก
00:29:24 → 00:29:26 จุลินทรีย์ต่างๆด้วยดังนั้นแม้ตากอากาศ
00:29:26 → 00:29:28 ที่เราหายใจเนี่ยก็จะมีจุลินทรีย์เนี่ย
00:29:28 → 00:29:31 ค่อนข้างน้อยลดแล้วก็ต่างไปจากที่พบใน
00:29:31 → 00:29:34 ธรรมชาติทั่วไปแล้วเป็นสิ่งแวดล้อมที่
00:29:34 → 00:29:35 เปลี่ยนไปเหล่านี้นะครับก็จะมีผลให้
00:29:35 → 00:29:37 จุลินทรีย์ที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์
00:29:37 → 00:29:39 เนี่ยเกาะต่างไปนะครับตั้งแต่เราเด็กๆเลย
00:29:39 → 00:29:42 และโดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดคือจุลินทรีย์
00:29:42 → 00:29:44 ที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารนะครับก็ก็
00:29:44 → 00:29:47 อยู่ในลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นอวัยวะที่มี
00:29:47 → 00:29:50 จุลินทรีย์เนี่ยมากที่สุดแล้วนะครับแล้ว
00:29:50 → 00:29:52 การเปลี่ยนแปลงนะครับหรือการเสียสมดุลของ
00:29:52 → 00:29:54 ประเทศต่างๆและร่างกายของเรานะครับโดย
00:29:54 → 00:29:57 เฉพาะแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เนี่ยก็
00:29:57 → 00:29:59 นำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บต่างๆนะครับที่พบมาก
00:29:59 → 00:30:01 ขึ้นในปัจจุบันซึ่งเราก็คุยไปแล้วใน
00:30:01 → 00:30:04 พิสูจน์กันก่อนหน้านะครับถ้าใครยังไม่ได้
00:30:04 → 00:30:06 ดูก็สามารถย้อนกลับไปดูได้นะครับและแน่
00:30:06 → 00:30:08 นอนว่าหนึ่งในโลกที่พบมากขึ้นนะครับแล้ว
00:30:08 → 00:30:10 เกี่ยวข้องกับจุลศิลป์ร่างกายที่เปลี่ยน
00:30:10 → 00:30:13 ไปก็คือโรคภูมิแพ้ช่วยคุยกันในพี่ Sony
00:30:13 → 00:30:15 ด้วยสำหรับเหตุผลหรือคำอธิบายนะครับว่า
00:30:15 → 00:30:17 แบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ย
00:30:17 → 00:30:20 มันไปเกี่ยวข้องหรือว่าไปทำอะไรกับระบบ
00:30:20 → 00:30:22 ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราเนี่ยเราทำให้
00:30:22 → 00:30:25 เกิดโรคภูมิแพ้มากขึ้นนะครับเราจะไม่คุย
00:30:25 → 00:30:27 กันในพิเศษนี้นะครับเพราะว่าเนื้อหาไม่
00:30:27 → 00:30:29 ค่อนข้างยาวแล้วนะครับแต่ผมจะขอเก็บรวบไป
00:30:29 → 00:30:32 คุยกันในพิเศษหน้าเลยนะครับเพราะในที่สน
00:30:32 → 00:30:34 หน้านะครับเราจะพูดถึงโรคอีกกลุ่มนึงนะ
00:30:34 → 00:30:36 ครับซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิ
00:30:36 → 00:30:39 คุ้มกันเหมือนกันนะครับซึ่งก็คือโรคที่
00:30:39 → 00:30:41 ระบบภูมิคุ้มกันในวันกลับมาทำร้ายร่างกาย
00:30:41 → 00:30:43 ของเราเองโรคในกลุ่มนี้นะครับภาษาทางการ
00:30:43 → 00:30:46 แพทย์ในจะได้ว่าโรค Auto มูล disease นะ
00:30:46 → 00:30:48 ครับซึ่งเป็นคำรวมๆนะครับลงอีกกลุ่ม
00:30:48 → 00:30:51 ottawa Sesame ดูกันมากมายนะครับประมาณ
00:30:51 → 00:30:54 70-80 โลกเลยนะครับเต็มที่จะจบพิศลย์นี้
00:30:54 → 00:30:56 นะครับผมยังจะนำสิ่งที่เราคุยกันไปนะครับ
00:30:56 → 00:30:59 มาสรุปเป็นข้อให้ฟังอีกทีนะครับว่าไอ้ที่
00:30:59 → 00:31:01 เราคุยกันไปในมันพอจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร
00:31:01 → 00:31:03 ได้บ้างนะครับโดยเฉพาะในแง่ของการป้องกัน
00:31:03 → 00:31:06 นะครับไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นข้อแรกสุด
00:31:06 → 00:31:09 นะครับก็คือเริ่มตั้งแต่การคลอดเลยนะครับ
00:31:09 → 00:31:12 ตั้งแต่ทารกยังไม่คลอดก็มีข้อมูลที่ค่อน
00:31:12 → 00:31:14 ข้างชัดเจนนะครับว่าทารกที่คลอดแบบ
00:31:14 → 00:31:16 ธรรมชาติเนี่ยมีนางนวลที่จะปวดเป็นโรค
00:31:16 → 00:31:18 ภูมิแพ้ชนิดต่างๆน้อยกว่าเด็กที่ข้อดู
00:31:18 → 00:31:21 วิธีแป๊บผ่าท้องคลอดนะครับเพราะว่าเด็ก
00:31:21 → 00:31:23 ที่คลอดแบบธรรมชาติเนี่ยมีโอกาสที่จะได้
00:31:23 → 00:31:26 รับทุนเสี่ยงต่างจากทางช่องพ่อท้องแม่เลย
00:31:26 → 00:31:29 จากคำเตือนอ่านของแม่เนี่ยมากกว่าดังนั้น
00:31:29 → 00:31:31 ถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์จริงๆเนี่ย
00:31:31 → 00:31:35 การคลอดทำชาตินะครับแบบธรรมชาติมีแนวโน้ม
00:31:35 → 00:31:38 ที่จะดีกับสุขภาพของลูกเนี่ยมากกว่าอย่าง
00:31:38 → 00:31:40 ที่ 2 นะครับก็คือเรื่องของการดื่มนมแม่
00:31:40 → 00:31:44 ก็คือเพราะว่าทารกที่ดื่มนมแม่นะครับมี
00:31:44 → 00:31:46 แนวโน้มที่จะป่วยด้วยโรคภูมิแพ้เนี่ยน้อย
00:31:46 → 00:31:49 กว่าทารกที่เลี้ยงด้วยนมผงเพราะในนมแม่นะ
00:31:49 → 00:31:52 ครับจะมีสารที่ชื่อว่า SM โอนะครับย่อมา
00:31:52 → 00:31:54 จากผิวแม่นมิวโคลิโคนผู้ชายนะครับซึ่ง
00:31:54 → 00:31:56 เป็นจริงมันก็คือเป็นสารที่เป็นพวกครีม
00:31:56 → 00:31:58 เอาเต็กนะครับคือสารที่สามารถไปเลี้ยง
00:31:58 → 00:32:02 จุลินทรีย์ต่างๆลำไส้ใหญ่ทำให้เด็กที่ดู
00:32:02 → 00:32:04 มาแม่นะครับทั้งที่ดูนะแม่แล้วจะมีการ
00:32:04 → 00:32:07 พัฒนาและการเติบโตของจุลินทรีย์ในลำไส้
00:32:07 → 00:32:10 ใหญ่ที่ดีกว่าก็ดีสารนะครับถ้าเป็นไปได้
00:32:10 → 00:32:12 ก็อยากให้เด็กมีโอกาสได้ไปสัมผัสธรรมชาติ
00:32:12 → 00:32:14 บ้านนะครับโดยเฉพาะเด็กที่เติบโตในเมือง
00:32:14 → 00:32:16 ใหญ่นะครับอาจจะเป็นลักษณะของการไปเที่ยว
00:32:16 → 00:32:19 สวนสาธารณะนะครับหรือว่าไปต่างจังหวัดนะ
00:32:19 → 00:32:21 ครับชนบทนะครับให้เด็กเนี่ยเกี่ยวกับ
00:32:21 → 00:32:23 สัมผัสดินสัมผัสซ้ายนะครับสะบัดต้นไม้
00:32:23 → 00:32:27 พยาธิต่างๆหรือไปสูดอากาศที่ออนไลน์เวียน
00:32:27 → 00:32:30 ผ่านสิบล้อต่างๆในธรรมชาติหรือแม้แต่การ
00:32:30 → 00:32:32 มีกระถางต้นไม้ในบ้านนะครับก็ช่วยได้นะ
00:32:32 → 00:32:34 ครับก็สามารถเพิ่มความหลากหลายของ
00:32:34 → 00:32:36 จุลินทรีย์ที่เด็กเดียวกันได้สัมผัสข้อ
00:32:36 → 00:32:38 ที่สี่ก็คือเพียงเลี่ยงนะครับที่จะได้รับ
00:32:38 → 00:32:41 ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นครับก็ช่วยช่วง 2
00:32:41 → 00:32:43 ขวบปีแรกซึ่งเป็นช่วงที่เราร่างกายของ
00:32:43 → 00:32:46 ทารกหรือยังดีระบบไม่พูดไม่เข้าไปต้าน
00:32:46 → 00:32:48 ต่างยังไม่สมบูรณ์นะครับเหลือตัวอย่าง
00:32:48 → 00:32:51 เช่นนะครับก็สมมติว่าลูกไม่สบายนะครับเรา
00:32:51 → 00:32:54 ไปหาหมอแล้วหมอนี่ไม่ได้อาเชียวนะมาคือ
00:32:54 → 00:32:57 ให้ยาลดไข้มาเนี่ยก็จะไปขอยาปฏิชีวนะมา
00:32:57 → 00:32:59 กินนะครับหรือถ้าหมอในจ่ายยาปฏิชีวนะมา
00:32:59 → 00:33:02 ให้เนี่ยก็จะต้องถามหมอว่าจะเป็นนกจริง
00:33:02 → 00:33:05 หรือเปล่าไม่กินได้มั้ยนะครับข้อที่ 5 นะ
00:33:05 → 00:33:07 ครับเพียงที่จะกินอาหารผู้ที่เรียกว่า
00:33:07 → 00:33:10 เป็นปีบางเทคนะครับก็คืออาหารที่มีกะใหญ่
00:33:10 → 00:33:12 นะครับซึ่งจะเป็นอาหารของจุลินทรีย์ในลำ
00:33:12 → 00:33:15 ไส้ใหญ่คะวิธีหนึ่งตัวอย่างพวกนี้นะครับ
00:33:15 → 00:33:17 ที่เป็น Pre Project สิดีก็เช่นพวกขมิ้น
00:33:17 → 00:33:21 ขิงขานะครับหัวหอมแดงนะครับอ๋อเพิ่งจะมี
00:33:21 → 00:33:23 เยอะมากนะครับถ้าไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างลอง
00:33:23 → 00:33:25 Google ดูก็ได้นะครับข้อที่ 6 นะครับก็
00:33:25 → 00:33:27 ลองพยายามเสริมอาหารผู้คิดว่าเป็นโครงไป
00:33:27 → 00:33:29 เอาเต็กเนี่ยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร
00:33:29 → 00:33:31 ที่เราทานเป็นประจำนะครับก็จะสลับไปละ
00:33:32 → 00:33:33 อย่างนะครับอ่านพรุ่งนี้ก็เป็นพวกอาหาร
00:33:33 → 00:33:36 ที่เป็นผู้หันหมักดองนะครับเช่นพวกกิญจิ
00:33:36 → 00:33:39 นะครับถั่วเน่านะตอบนะครับผมมีสดซุปนะ
00:33:39 → 00:33:42 ครับแล้วยังใครๆก็มีพวกเข้ามานะครับทัก
00:33:42 → 00:33:45 กรองชนิดต่างๆของไทยก็ได้นะครับที่จะไม่
00:33:45 → 00:33:47 ต้องมั่นใจหน่อยว่าไม่มีพยาธินะครับและ
00:33:47 → 00:33:49 ชวนพูดอย่างเต้าเจี้ยวนะครับโยเกิร์ตนะ
00:33:49 → 00:33:52 ครับหรือว่าพวกชาหมักที่รบกัมพูชาและคน
00:33:52 → 00:33:54 อื่นอีกมากมายนะคะก็ลอง search ดูได้นะ
00:33:54 → 00:33:56 ครับสำหรับข้อสุดท้ายนะครับก็คือเรื่อง
00:33:56 → 00:33:59 ของอาหารเสริมคอแมวเต็กปัจจุบันเนี่ยใน
00:33:59 → 00:34:02 แง่ของการนำมาใช้ป้องกันโรคภูมิแพ้นะครับ
00:34:02 → 00:34:04 ล่วงรักษาเนี่ยต้องบอกว่าข้อมูลค่อนข้าง
00:34:04 → 00:34:06 บวกลบอยู่มากนะครับเครื่องนี้คนที่ใช้
00:34:06 → 00:34:08 แล้วรู้สึกว่าได้ประโยชน์นะครับมีคนที่
00:34:08 → 00:34:10 จิตแล้วเนี่ยรู้สึกว่าไม่เห็นความต่าง
00:34:10 → 00:34:12 อะไรส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่าจากการที่
00:34:12 → 00:34:14 เรานี้ยังไม่เข้าใจการทำงานของจนชินต่างๆ
00:34:14 → 00:34:16 ร่างกายอย่างมากเพียงพอนะครับตอนนี้
00:34:16 → 00:34:19 ฉะนั้นเนี่ยก็เช่นความต่างนี้ของการผลิต
00:34:19 → 00:34:21 นะครับก็เรื่องของความหลากหลายของสาย
00:34:21 → 00:34:23 พันธุ์ที่นำมาใช้รับไปเรื่องของการควบคุม
00:34:24 → 00:34:26 คุณภาพในการที่ต่างๆอย่างไรก็ตามนะครับ
00:34:26 → 00:34:28 อาหารเสริมพร้อมแล้วแตกในก็ถือว่าเป็น
00:34:28 → 00:34:30 อาหารเสริมที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงนะ
00:34:30 → 00:34:32 ครับนั้นถ้าใครมีปัญหาเรื่องของค่าใช้
00:34:32 → 00:34:34 จ่ายแล้วก็อยากจะทดลองจริงเนี่ยก็สามารถ
00:34:34 → 00:34:38 จะลองทำได้นะครับก็ไปรับสำคัญที่ว่าอาจจะ
00:34:38 → 00:34:40 ลองชั่งน้ำหนักตัวเองนะครับว่าประโยชน์
00:34:40 → 00:34:42 ที่ได้กับเงินที่จ่ายไปเนี่ยมันคุ้มหรือ
00:34:42 → 00:34:44 เปล่านะครับคุ้มกับที่เสียไปหรือเปล่า
00:34:44 → 00:34:46 แล้วสำหรับคนที่เลือกนะครับจะใช้อาหาร
00:34:46 → 00:34:49 เสริมความยาวเต็กการตรวจจุลินทรีย์ในลำ
00:34:49 → 00:34:51 ไส้ในก็อาจจะมีประโยชน์นะครับเพราะว่าข้อ
00:34:51 → 00:34:53 มูลที่ได้จากการตรวจเนี่ยมันพ่อขอให้เห็น
00:34:53 → 00:34:56 ภาพมากขึ้นว่าเรามีจุลินทรีย์ชนิดไหนมาก
00:34:56 → 00:34:58 หรือว่าน้อยทำให้เราสามารถเลือกครบแล้ว
00:34:58 → 00:35:01 เต็กที่มีจุลินทรีย์เหมาะกับร่างกายที่
00:35:01 → 00:35:03 เราต้องการได้มากขึ้นและยิ่งนาคนนะครับ
00:35:03 → 00:35:06 ว่าความรู้ในส่วนได้ดีมากก็ได้เรื่อยๆ
00:35:06 → 00:35:08 ประโยชน์ตรงนี้ก็ได้จะเห็นได้ชัดมาแค่นี้
00:35:08 → 00:35:10 ด้วยเช่นกันและทั้งหมดนี้นะครับก็คือข้อ
00:35:10 → 00:35:12 สู่เข้าๆนะครับที่ทั่วน่าจะมีประโยชน์
00:35:12 → 00:35:14 ฉบับในปีโสดหน้าเนี่ยเราจะยังคุยเรื่อง
00:35:14 → 00:35:17 ของระบบการกันอยู่นะครับโดยเราจะไปดูว่า
00:35:17 → 00:35:19 โรคกลุ่มที่เรียกว่าโลก Auto m o d c
00:35:19 → 00:35:21 นะครับแล้วก็เป็นโรคที่ประกอบของพวกการ
00:35:21 → 00:35:23 ของเราเนี่ยมันโจมตีร่างกายของเราเอง
00:35:23 → 00:35:25 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับแบคทีเรียในลำไส้
00:35:25 → 00:35:28 ได้ยังไงแต่ก็จะจากกันไปสำหรับพิเศษนี้นะ
00:35:28 → 00:35:31 ครับก็ถึงเวลาที่ผมจะพูดเพียงผู้สนับสนุน
00:35:31 → 00:35:34 CV ไมโครไบโอมของเล่านะครับบริษัทมดกัด
00:35:34 → 00:35:36 ครับช่วงเวลาที่สัญญากันไว้นะครับก็คือจะ
00:35:36 → 00:35:38 เล่าเกี่ยวกับผู้สับสน Series ในคราว
00:35:38 → 00:35:41 ไบโอมของเรานะครับบริษัทมดกัดนะครับ
00:35:41 → 00:35:43 บริษัทงดการนะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้ง
00:35:43 → 00:35:46 ขึ้นโดยนักวิจัยนะคะเป็นทีมนะคะยศาสตร์
00:35:46 → 00:35:48 ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Micro Bio
00:35:48 → 00:35:50 นะครับจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
00:35:50 → 00:35:53 พระจอมเกล้าธนบุรีบางมดนะครับโดยมีทั้ง
00:35:53 → 00:35:55 ทีมของนักเรียนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนะ
00:35:55 → 00:35:58 ครับของบางบอนนะครับได้ร่วมมือกับภาค
00:35:58 → 00:36:01 เอกชนก็คือบริษัทไบโอเทค Global Version
00:36:01 → 00:36:03 นะครับตั้งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมานะครับ
00:36:03 → 00:36:06 แล้วก็ให้ชื่อว่าเป็นบริษัทมดกัดนะครับคำ
00:36:06 → 00:36:08 ว่ามดเนี่ยมาจากคำว่าบางมดนะครับส่วนคำ
00:36:08 → 00:36:11 ว่ากัดนะครับจะอยู่ที่กัดเนี่ยเป็นคำใน
00:36:11 → 00:36:13 ภาษาอังกฤษนะครับที่นิยมใช้ในทางการแพทย์
00:36:13 → 00:36:16 จะมีความหมายว่าลำไส้จะนี่บริษัทมดกัดทำ
00:36:16 → 00:36:18 อะไรนะครับทั้งหมดการ์ดนั่นก็คือเปิดให้
00:36:18 → 00:36:20 บริการนะครับตรวจแล้วก็วิเคราะห์
00:36:20 → 00:36:23 จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไปเพื่อให้คน
00:36:23 → 00:36:25 ที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณเนี้ยได้รู้ว่า
00:36:25 → 00:36:28 สภาวะของจุลินทรีย์นำไส้ของตัวเองเนี่ย
00:36:28 → 00:36:31 อยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับท่านไหนนะครับที่
00:36:31 → 00:36:33 สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม
00:36:33 → 00:36:34 เกี่ยวกับบริษัทหมดครับนะครับเช่น
00:36:34 → 00:36:36 ประโยชน์ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไรบ้าง
00:36:36 → 00:36:39 นะครับแล้วก็ในการตรวจมีรายละเอียดอะไร
00:36:39 → 00:36:42 บ้างยังไงบ้างนะครับหรือว่าขั้นตอนในการ
00:36:42 → 00:36:45 ตรวจมันมีไปเรียกอะไรบ้างผมจะแปะลิงค์ไว้
00:36:45 → 00:36:47 ในจะแคปชั่นนะครับหรือว่าเอาไว้ในช่อง
00:36:47 → 00:36:50 คอมเม้นต์นะครับใครสนใจก็ลองติดต่อไปคุย
00:36:50 → 00:36:52 เพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะว่าจะบอกความ
00:36:52 → 00:36:54 รู้ทางด้านนี้มันและเร็วมากนะครับท่านที่
00:36:54 → 00:36:56 มาดูคลิปเนี่ย 3 เดือน 6 เดือนแล้วว่าปี
00:36:56 → 00:36:59 หนึ่งจากที่ผมโพสหรือว่าลงคลิปไว้เนี่ยก็
00:36:59 → 00:37:01 จะมีความรู้ใหม่ๆเนี้ยที่ต่างไปจากเดิมใน
00:37:01 → 00:37:05 ออกมามากมายนะครับถ้าสนใจก็ลองติดต่อดูนะ
00:37:05 → 00:37:08 ครับมดกัดนะครับสิ่งเล็กๆที่สร้างให้
00:37:08 → 00:37:10 ชีวิตเราต่างกันสำหรับวันนี้ผมขอลาไปก่อน
00:37:10 → 00:37:12 นะครับว่าเรามาพบกันใหม่ถึงส่วนหน้านะ
00:37:12 → 00:37:18 ครับในซีรีส์ของไมโครสวัสดีครับอ่า