00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับหลังจากที่ผมได้พูดเรื่องของ
00:00:03 → 00:00:06 อาหารชนิด fmd หรือ fasting memiking
00:00:06 → 00:00:08 Diet ไปนะครับก็มีคนสอบถามเข้ามาใน
00:00:09 → 00:00:11 คอมเมนต์เรื่อยๆนะครับว่าอาหารแบบนี้มัน
00:00:11 → 00:00:14 กินอย่างไรนะครับกินต้องติดต่อกัน 5 วัน
00:00:14 → 00:00:16 ไหมมันสามารถที่จะป้องกันมะเร็งได้หรือ
00:00:16 → 00:00:19 เปล่าแล้วระหว่างที่เรากินไปแล้วเนี่ย
00:00:19 → 00:00:21 แล้วหลังจากนั้นเราทำอย่างไรนะครับกินไป
00:00:21 → 00:00:23 ยาวๆเลยได้ไหมมีปัญหาอะไรหรือเปล่านะครับ
00:00:23 → 00:00:26 วันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่องนี้มาขยาย
00:00:26 → 00:00:28 ความให้เราฟังกันเลยนะครับก็พบกับผมนะ
00:00:28 → 00:00:30 ครับนายแพทย์ธานินทร์ธนียวรรณเป็นอาจารย์
00:00:30 → 00:00:33 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ
00:00:33 → 00:00:35 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:35 → 00:00:38 สำหรับอาหารผมก็เคยได้เล่าไปหลายครั้ง
00:00:38 → 00:00:41 แล้วนะครับแล้วก็ยังยืนยันความคิดเดิมนะ
00:00:41 → 00:00:43 ครับคืออาหารของเราเนี่ยจำเป็นจะต้องทาน
00:00:43 → 00:00:46 ให้มันหลากหลายและสมดุลนะครับด้วยเหตุผล
00:00:46 → 00:00:50 หลักๆ 2 ข้อด้วยกันข้อแรกก็คือการทานให้
00:00:50 → 00:00:52 หลากหลายและสมดุลนั้นมันจะเป็นการที่ทำ
00:00:52 → 00:00:56 ให้เราได้สารอาหารครบทุกประเภทนะครับและ
00:00:56 → 00:00:58 อย่างที่ 2 ก็คือเป็นการกระจายความเสี่ยง
00:00:58 → 00:01:01 นะครับการกระจายความเสี่ยงคืออะไรนะครับ
00:01:01 → 00:01:04 การที่เรารับประทานอาหารประเภทใดประเภท
00:01:04 → 00:01:06 หนึ่งนะครับไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มันดี
00:01:06 → 00:01:09 เลิศแค่ไหนมันจะเกิดปัญหานะครับยกตัว
00:01:09 → 00:01:11 อย่างเช่นถ้าเราเป็นคนที่ทานแต่
00:01:11 → 00:01:14 มังสวิรัติอย่างเดียวนะครับสิ่งที่ตามมา
00:01:14 → 00:01:17 ก็คือเราจะขาดวิตามินบี 12 ได้นะครับเรา
00:01:17 → 00:01:20 อาจจะได้กรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบซึ่งกรด
00:01:20 → 00:01:22 อะมิโนจำเป็นมันมักจะอยู่ในเนื้อสัตว์นะ
00:01:22 → 00:01:25 ครับงั้นคนที่กินแต่พืชอย่างเดียวนะก็จะ
00:01:25 → 00:01:27 ขาดตรงนี้ไปซึ่งก็ต้องไปหามาทานเสริมถ้า
00:01:27 → 00:01:30 ท่านยังจะยืนยันว่าเออท่านไม่สามารถทาน
00:01:30 → 00:01:32 เนื้อสัตว์ได้จริงๆนะครับก็อาจจะต้องหา
00:01:32 → 00:01:35 พวกมันมาทานนะครับหรือบางคนทานแต่ปลา
00:01:35 → 00:01:38 อย่างเดียวก่อนครับเพราะว่าถ้าเราทานแต่
00:01:38 → 00:01:40 ปลาอย่างเดียวเนี่ยมันน่าจะดีนะครับปลา
00:01:40 → 00:01:42 เนี่ยมันมีโอเมก้า 3 สูงนะครับมันเป็นสาร
00:01:42 → 00:01:45 ต้านอนุมูลอิสระมันลดการอักเสบมันช่วย
00:01:45 → 00:01:48 เรื่องของสมองแตกต่างนานามากมายนะครับแต่
00:01:48 → 00:01:50 เราต้องหยอดลืมนะครับว่าปลาที่มันอยู่ใน
00:01:50 → 00:01:53 น้ำเนี่ยนะครับมันก็จะได้รับของเสียต่างๆ
00:01:53 → 00:01:55 ซึ่งเกิดจากน้ำเมืองมนุษย์นี่แหละครับลง
00:01:55 → 00:01:59 ไปในน้ำนะฮะเช่นสารปรอทสารไมโครพลาสติก
00:01:59 → 00:02:02 ต่างๆนะครับซึ่งมันก็จะเป็นสะสมในตัวปลา
00:02:02 → 00:02:03 ถ้าเรากินแต่ปลาอย่างเดียวไม่กินอะไร
00:02:03 → 00:02:06 อย่างอื่นเลยนะครับแน่นอนว่าของพวกนี้มัน
00:02:06 → 00:02:09 ก็จะต้องเข้าไปในร่างกายของเราได้มากถูก
00:02:09 → 00:02:12 ไหมครับการที่เราเฉลี่ยกินนะครับก็คือเรา
00:02:12 → 00:02:14 ไม่ได้กินแบบปลาแหละเรากินหลายๆอย่างปน
00:02:14 → 00:02:16 กันสารพิษเนี่ยต่อให้มันเข้าไปในร่างกาย
00:02:16 → 00:02:20 เราได้จริงๆนะครับมันก็มีปริมาณที่ไม่
00:02:20 → 00:02:23 เพียงพอต่อการเกิดปัญหากับร่างกายดังนั้น
00:02:23 → 00:02:26 การกินให้สมดุลนั้นจึงดีที่สุดอ่ะเรามา
00:02:26 → 00:02:28 เข้าเรื่องกันเรื่องของ fmd หรือ fasting
00:02:28 → 00:02:31 Diet นะครับจากการทดลองนะครับแล้วก็
00:02:31 → 00:02:34 วิจัยที่ผมแนบไปให้ท่านอ่านได้เองนั้นนะ
00:02:34 → 00:02:38 ครับเราเจอว่าการทำเพียงแค่ 5 วันที่ติด
00:02:38 → 00:02:42 ต่อกันใน 1 รอบเดือนมันสามารถที่จะช่วยใน
00:02:42 → 00:02:45 แง่ของการทำให้มะเร็งเนี่ยมันดีขึ้นได้
00:02:45 → 00:02:48 แล้วก็มีผลในการรักษามะเร็งร่วมกับการ
00:02:48 → 00:02:51 ป้องกันผลข้างเคียงจากเคมีบำบัดได้นะครับ
00:02:51 → 00:02:54 5 วันนี้ต้องติดต่อกันนะครับไม่ใช่ 5
00:02:54 → 00:02:57 วันนี่วันไหนก็ได้นะครับเพราะว่าแบบนั้น
00:02:57 → 00:03:00 มันจะไม่ได้ผลนะครับก็ทำนองเดียวกับการทำ
00:03:00 → 00:03:02 intermittle fasting ซึ่งจะต้องทำติด
00:03:02 → 00:03:05 ต่อกันอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหมายความว่า
00:03:05 → 00:03:08 ถ้าท่านจะไม่กินอะไรเนี่ยก็ต้องไม่กินกัน
00:03:08 → 00:03:11 ติดต่อกันอย่างน้อย 48 ชั่วโมงนะครับกิน
00:03:11 → 00:03:13 ได้อย่างเดียวก็คือน้ำนั่นแหละครับหรือ
00:03:13 → 00:03:15 อะไรก็แล้วแต่ที่มันไม่มีแคลอรี่เลยนะ
00:03:15 → 00:03:17 ครับพวกนั้นถึงจะถือเป็นการทำ
00:03:17 → 00:03:19 intermittent fasting ในกรณีที่เขา
00:03:19 → 00:03:22 วิจัยเอ่อสำหรับคนไข้ที่จะต้องให้เคมี
00:03:22 → 00:03:24 บำบัดนะครับแต่อย่างที่ผมบอกคนที่จะทำ
00:03:24 → 00:03:26 intermet hing fasting ได้แบบนั้นน่ะ
00:03:27 → 00:03:30 ไปตลอดเนี่ยมันยากนะครับมันยากแต่ก็มีบาง
00:03:30 → 00:03:32 คนทำได้อันนั้นถ้าเขาจะทำแบบนั้นก็อันนี้
00:03:32 → 00:03:34 ก็แล้วแต่นะครับแล้วแต่ความถนัดของแต่ละ
00:03:34 → 00:03:38 คนนะครับทีนี้ fmd เนี่ยนะครับอาหารเนี่ย
00:03:38 → 00:03:41 มันคืออะไรบ้างนะครับอย่างที่ผมเคยเล่า
00:03:41 → 00:03:44 ไว้ในคลิปก่อนนะครับคือแคลอรี่ต่อวัน
00:03:44 → 00:03:46 เนี่ยมักจะต้องไม่เกิน 1000 กิโลแคลอรี่
00:03:46 → 00:03:49 นะครับบางคนก็ส่งสงสัยว่า 1000 กิโล
00:03:49 → 00:03:53 แคลอรี่เนี่ยมันนับยังไงนะครับตรงนี้ท่าน
00:03:53 → 00:03:55 อาจจะต้องไปศึกษาเพิ่มนิดนึงนะครับว่า
00:03:55 → 00:03:57 อาหารแต่ละชนิดเนี่ยมันมีแคลอรี่ประมาณ
00:03:57 → 00:04:01 เท่าไหร่บ้างนะครับแล้วก็คำนวณโดยเวลา
00:04:01 → 00:04:04 คำนวณเนี่ยผมแนะนำว่าท่านคำนวณให้มันน้อย
00:04:04 → 00:04:06 กว่า 1000 กิโลกรัมแคลอรี่สักนิดนึงมันจะ
00:04:06 → 00:04:08 ได้มีส่วนเผื่อเหลือเผื่อขาดบ้างนะครับ
00:04:08 → 00:04:12 และในอาหารกลุ่ม fmd เนี่ยแน่นอนว่าเรา
00:04:12 → 00:04:16 เน้นว่ามันควรจะมีคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำนะ
00:04:16 → 00:04:19 ครับมีน้ำตาลที่ต่ำนะครับร่วมกับโปรตีน
00:04:19 → 00:04:22 ที่ต่ำนะครับแต่โปรตีนเนี่ยเราโอเคถ้ามัน
00:04:22 → 00:04:26 มาจากพืชนะครับเพราะว่าอาหารเนี่ยเราจะ
00:04:26 → 00:04:28 เน้นอยู่ 2 อย่างในกรณีของ fmd ก็คือ
00:04:28 → 00:04:32 อาหารที่มาจากพืชนะครับแล้วก็ไขมันที่ดี
00:04:32 → 00:04:36 นะครับไขมันที่ดีคืออะไรบ้างนะครับหลายคน
00:04:36 → 00:04:40 ก็คงจะรู้จักนะครับยกตัวอย่างเช่นน้ำมัน
00:04:40 → 00:04:43 มะกอกนะครับอะโวคาโดนะครับหรือ flaxseed
00:04:43 → 00:04:46 นะครับเชียร์ Seed พวกนี้เป็นต้นนะครับ
00:04:46 → 00:04:48 ถ้าช็อกโกแลตก็เป็น Dark Chocolate อาจ
00:04:48 → 00:04:52 จะช่วยนะครับน้ำมันมะพร้าวแต่อย่าลืมนะ
00:04:52 → 00:04:55 ครับน้ำมันมะพร้าวเนี่ยท่านทานพอประมาณ
00:04:55 → 00:04:57 เท่านั้นเพราะว่าผมเห็นบางคนเนี่ยที่บอก
00:04:57 → 00:05:00 ว่าน้ำมันมะพร้าวมันดีก็ทานเข้าไปเยอะๆ
00:05:00 → 00:05:04 เลยของที่ดีทานเยอะมันไม่ดีครับน้ำมัน
00:05:04 → 00:05:07 มะพร้าวเนี่ยมันมี 2 ส่วนหลักๆส่วนแรกคือ
00:05:07 → 00:05:10 มีเดียมเชนไตรกลีเซอไรด์หรือ mct Oil นะ
00:05:10 → 00:05:13 ครับซึ่งอันนี้มันเป็นสิ่งที่ดีนะครับแต่
00:05:13 → 00:05:16 ไอ้สิ่งที่มันเยอะแล้วก็อาจจะไม่ดีได้ก็
00:05:16 → 00:05:18 คือไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นส่วนที่ 2 นะครับ
00:05:18 → 00:05:21 ถ้าท่านไหนที่ศึกษาเรื่องของน้ำมัน
00:05:21 → 00:05:24 มะพร้าวเนี่ยลงจนถึงแก่นจริงๆศึกษางาน
00:05:24 → 00:05:27 วิจัยจริงๆก็จะพบว่าในงานวิจัยที่เขากิน
00:05:27 → 00:05:30 แล้วมันดีนะครับคือส่วนที่เรียกว่า mct
00:05:30 → 00:05:33 Oil นะครับไม่ใช่น้ำมันมะพร้าวทั้งหมด
00:05:33 → 00:05:37 ต่อให้ท่านจะสกัดสกัดร้อนสกัดพิเศษสกัด
00:05:37 → 00:05:40 สุดยอดแพลตตินั่มทองเว่อร์วังอะไรก็แล้ว
00:05:40 → 00:05:42 แต่นะครับสกัดระดับเทพยังไงก็แล้วแต่มัน
00:05:42 → 00:05:46 ก็ยังเป็นส่วนผสมของไขมัน mct แล้วก็ไข
00:05:46 → 00:05:49 มันอิ่มตัวอยู่ดีนั่นแหละครับดังนั้นถ้า
00:05:49 → 00:05:52 ท่านอยากจะใช้น้ำมันมะพร้าวท่านก็จะต้อง
00:05:52 → 00:05:55 ใช้ให้มันพอดีหรือมิฉะนั้นก็เปลี่ยนไปใช้
00:05:55 → 00:05:58 น้ำมัน mct Oil ซึ่งเป็นตัวที่สกัดออกมา
00:05:58 → 00:06:00 จากน้ำมันมะพร้าวอีกต่อหนึ่งนั่นแหละครับ
00:06:00 → 00:06:03 ถึงจะได้ประโยชน์แล้วก็อยากกินมากจนเกิน
00:06:03 → 00:06:06 ไปนะครับอันนี้คือเป็นไขมันกลุ่มที่ดีนะ
00:06:06 → 00:06:09 ครับนอกเหนือจากนั้นแน่นอนว่าพวกปลา
00:06:09 → 00:06:12 แซลมอนพวกนี้ก็จะมีไขมันดีนะครับพวกถั่ว
00:06:12 → 00:06:15 ชนิดต่างๆก็มีไขมันดีนะครับดังนั้นพวกนี้
00:06:15 → 00:06:18 จะเป็นอาหารกลุ่มที่ fmd เนี่ยจะแนะนำให้
00:06:18 → 00:06:22 รับประทานในช่วงเวลาที่เรารับประทาน 5
00:06:22 → 00:06:25 วันติดต่อกันนะครับคือไขมันดีนะครับเน้น
00:06:25 → 00:06:29 ผักนะครับเยอะๆหน่อยนะครับลดปริมาณของของ
00:06:29 → 00:06:33 หวานขนมนะครับคาร์โบไฮเดรตต่างๆแล้วก็
00:06:33 → 00:06:37 โปรตีนนะครับโปรตีนในเรื่องนี้นะครับถ้า
00:06:37 → 00:06:40 ท่านกินปลานะครับมันจะได้ทั้งไขมันที่ดี
00:06:40 → 00:06:43 แล้วก็โปรตีนที่ดีด้วยนะครับเราจะไม่เน้น
00:06:43 → 00:06:46 การกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช่ปลาในช่วงนี้นะ
00:06:46 → 00:06:48 ครับเพราะว่าอะไรเพราะว่าอย่างที่ผมเคย
00:06:48 → 00:06:51 เล่าแล้วนะครับถ้าเรากินพวกเนื้อแดงนะ
00:06:51 → 00:06:54 ครับสัตว์ต่างๆนะครับสัตว์ปีกสัตว์อะไรก็
00:06:54 → 00:06:56 แล้วแต่ที่มันไม่ใช่ปลาในช่วงนี้เนี่ยนะ
00:06:56 → 00:06:58 ครับมันจะเป็นโปรตีนซึ่งอาจจะก่อให้เกิด
00:06:58 → 00:07:01 การอักเสบได้และอย่างที่ 2 คือโปรตีน
00:07:01 → 00:07:04 เหล่านี้มันมีส่วนประกอบของกรดอะมิโน
00:07:04 → 00:07:07 จำเป็นที่จะไปกระตุ้น
00:07:07 → 00:07:11 igf1 ได้นะครับคือ intoine Factor ซึ่ง
00:07:11 → 00:07:13 เราไม่ต้องการเพราะว่าตัวนี้มันจะไปทำให้
00:07:13 → 00:07:18 มะเร็งมันโตได้นะครับอ่าดังนั้นเราจึงทำ
00:07:18 → 00:07:22 แบบนี้นะครับแล้วการกินแบบนี้ 5 วันเรา
00:07:22 → 00:07:26 วิจัยมาแล้วว่ามันเพียงพอต่อการได้ผลดีนะ
00:07:26 → 00:07:30 ครับเราจะไม่ทำไปเกินหน้านี้เหตุผลเพราะ
00:07:30 → 00:07:33 ว่าอะไรครับเพราะว่าถ้าเราจำกัดปริมาณ
00:07:33 → 00:07:36 แคลอรี่ 1,000 กิโลกรัมแคลอรี่นานๆไม่ได้
00:07:36 → 00:07:38 ครับร่างกายของเราเนี่ยมันจะต้องการการ
00:07:38 → 00:07:41 เสริมสร้างพลังงานเหมือนกันนะครับเพราะ
00:07:41 → 00:07:44 ว่าถ้าเราลองดูกลไกการออกฤทธิ์ของ
00:07:44 → 00:07:46 intermittent fasting ที่ผมเล่าในคลิป
00:07:46 → 00:07:47 ก่อนหน้านี้นะครับ
00:07:47 → 00:07:49 ถ้าเรา intermittent fasting เนี่ยมันก็
00:07:49 → 00:07:52 จะได้ผลดีแต่ถ้าเรา fasting ไปตลอดเลยมัน
00:07:52 → 00:07:53 ไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าเซลล์ปกติของเรา
00:07:53 → 00:07:57 เนี่ยต่อให้มันทำการรีไซเคิลตัวเองทำการ
00:07:57 → 00:07:59 เกิดออทอปเฟรชชี่หรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
00:07:59 → 00:08:01 นะครับสุดท้ายแล้วเนี่ยมันก็ต้องการของ
00:08:01 → 00:08:04 ใหม่เข้าไปนะครับถ้ามันไม่ได้พลังงานเข้า
00:08:04 → 00:08:06 ไปเซลล์พวกนี้มันก็ตายเหมือนกันนะครับ
00:08:06 → 00:08:09 งั้นการอดอาหารยิ่งนานมากๆผมก็ยิ่งไม่ดี
00:08:09 → 00:08:11 นะครับเราอดพอประมาณถึงจะเรียกว่าดีนะ
00:08:12 → 00:08:16 ครับการทำ fmd พวกนี้นานไปเรื่อยๆเช่นเรา
00:08:16 → 00:08:18 เน้นว่า 5 วันได้ผลดีบางคนบอกเฮ้ยถ้ามัน
00:08:18 → 00:08:21 ดีอย่างนี้ลองสัก 10 วันไหม 20 วันมั้ยนะ
00:08:21 → 00:08:24 ครับคำตอบก็คือโอเคถ้าท่านทำไหวถ้าลองถูก
00:08:24 → 00:08:26 ก็ได้นะครับแต่ว่าผมคิดว่ามันไม่ดีนะครับ
00:08:26 → 00:08:29 เพราะว่าเป็นการจำกัดแคลอรี่มากจนเกินไป
00:08:29 → 00:08:32 จนกระทั่งส่งผลเสียต่อร่างกายของท่านนั่น
00:08:32 → 00:08:34 แหละครับถ้า 5 วันมันดีอยู่แล้วเราทำไม่
00:08:34 → 00:08:36 เกินนั้นมันจะเกิดผลเสียขึ้นมา 2 อย่าง
00:08:36 → 00:08:39 อย่างแรกสูญเสียสารอาหารของร่างกายกล้าม
00:08:39 → 00:08:41 เนื้อจากฝ่อลีบลงได้ถ้าท่านได้แคลอรี่ไม่
00:08:41 → 00:08:43 เพียงพอได้โปรตีนไม่เพียงพอกล้ามเนื้อ
00:08:43 → 00:08:46 ท่านก็จะ flory อันที่ 2 คือผลต่อสภาพ
00:08:46 → 00:08:50 สมองและจิตใจครับลองคิดดูถ้าเราอดอาหาร
00:08:50 → 00:08:52 นานๆนะครับหรือได้อาหารที่แคลอรี่ไม่
00:08:52 → 00:08:55 เพียงพอเป็นเวลานานๆนะครับแน่นอนว่า
00:08:55 → 00:08:58 อารมณ์ของเราเนี่ยไม่ปกติบางคนไมเกรน
00:08:58 → 00:09:00 กำเริบบางคนมีปัญหาต่างๆมากมายก่อน
00:09:00 → 00:09:02 หงุดหงิดนอนไม่หลับอะไรพวกนี้ตามมาเยอะ
00:09:02 → 00:09:05 แยะไปหมดนะครับดังนั้นเราทำให้มันพอดีพอ
00:09:05 → 00:09:08 ดีจะดีที่สุดนะครับคือ 5 วันนั่นแหละครับ
00:09:08 → 00:09:13 แล้วเออถ้าหลังจาก 5 วันแล้วไงต่อนะครับ
00:09:13 → 00:09:16 หลังจาก 5 วันแล้วเนี่ยแน่นอนว่าเราก็ควร
00:09:16 → 00:09:19 จะรับประทานอาหารที่มันดีๆถูกไหมครับถ้า
00:09:19 → 00:09:22 เราไปทำอาหารสุดโต่งเฮ้ยแบบเฮ้ยเราหมอบอก
00:09:22 → 00:09:25 ว่าครบ 5 วันแล้วอ่ะกินอะไรก็ได้เราไปกิน
00:09:25 → 00:09:28 หมดเลยหมูกระทะทุกมื้อเลยนะครับกินชานม
00:09:28 → 00:09:30 ไข่มุกหมูกระทะกินอะไรที่มันเป็นน้ำมัน
00:09:30 → 00:09:32 หมูเพราะว่ามีบางคนบอกว่าเฮ้ยน้ำมันหมู
00:09:32 → 00:09:34 มันดีมันไม่มีปัญหานะครับกินเข้าไปแหลก
00:09:34 → 00:09:37 เลยอย่างนี้ได้นะครับอย่างนี้มันก็เสียนะ
00:09:37 → 00:09:40 ครับคือเรื่องอาหารเนี่ยปัจจุบันมันเป็น
00:09:40 → 00:09:43 ที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วนะครับว่าอาหาร
00:09:43 → 00:09:46 หลักๆเนี่ยถ้าเราเน้นพืชผักเนี่ยนะครับ
00:09:46 → 00:09:50 มันจะดีเน้นไขมันที่มันต่ำจะดีแล้วไขมัน
00:09:50 → 00:09:53 ที่ต่ำนั้นเป็นไขมันกลุ่มตัวไขมันดีที่ผม
00:09:53 → 00:09:57 เล่าไปเมื่อกี้ถึงจะโอเคนะครับแล้วก็เน้น
00:09:57 → 00:10:00 ว่าคาร์โบไฮเดรตต่ำน้ำตาลเชิงเดี่ยวต่ำนะ
00:10:00 → 00:10:02 ครับพวกนี้เป็นอาหารที่เรายอมรับกันทั้ง
00:10:02 → 00:10:04 หมดแล้วว่ามันดีนะครับอาหารที่แปลกไปจาก
00:10:04 → 00:10:08 นี้เป็นอาหารที่มีปัญหาถ้าเราจะใช้ก็ใช้
00:10:08 → 00:10:11 ได้แค่ชั่วคราวนะครับดังนั้นในช่วงที่เรา
00:10:11 → 00:10:14 เลย 5 วันมาแล้วก็ยังมีความจำเป็นที่เรา
00:10:14 → 00:10:16 จำเป็นจะต้องทานอาหารให้มันดีอยู่นะครับ
00:10:16 → 00:10:20 ถ้าบางคนบอกว่าเฮ้ยอาหารที่มันดีมันตกลง
00:10:20 → 00:10:23 คืออะไรกันแน่ง่ายๆเลยนะครับถ้าท่านจำไม่
00:10:23 → 00:10:25 ได้นะครับท่านลองคิดอย่างนี้สมมุติว่า
00:10:25 → 00:10:28 ท่านมีลูกมีหลานอยู่คนนึงนะครับหรือจะมี
00:10:28 → 00:10:31 พ่อแม่ที่แก่เฒ่ามากๆอยู่แล้วท่านอยากให้
00:10:31 → 00:10:34 เขาเหล่านั้นน่ะทานอะไรท่านก็ควรจะทานแบบ
00:10:34 → 00:10:36 นั้นครับอ่า
00:10:36 → 00:10:39 ถ้าสมมุติเรามีพ่อแม่แก่เฒ่านะครับอายุ
00:10:39 → 00:10:41 สัก 70 เนี่ยเราอยากให้เขากินหมูกระทะทุก
00:10:41 → 00:10:44 วันไหมเราอยากจะให้เขากินเบคอนน้ำมันหมู
00:10:44 → 00:10:47 ทุกวันไหมเราอยากจะให้เขากินชานมไข่มุก
00:10:47 → 00:10:50 ตลอดเวลากินทุเรียนวันละลูกหรือเปล่าก็
00:10:50 → 00:10:54 ไม่ถูกไหมครับง่ายๆเลยนะฮะหรือเด็กเด็กก็
00:10:54 → 00:10:57 บอกว่าเฮ้ยกินกินโค้กกินเป๊ปซี่กินน้ำอัด
00:10:57 → 00:11:00 ลมนะครับเพราะว่ามันมีศูนย์แคลอรี่กิน
00:11:00 → 00:11:04 เข้าไปมากๆเด็กกินน้ำอัดลมสมมุติว่าเรา
00:11:04 → 00:11:06 บอกว่าไอ้เนี่ยก็น้ำอัดลมอันนี้มันไม่มี
00:11:06 → 00:11:09 แคลอรี่ให้กินวันละ 5 กระป๋อง 10 กระป๋อง
00:11:09 → 00:11:12 ได้ไหมเยอะไปไหมท่านก็ลองคิดถ้าท่านมีลูก
00:11:12 → 00:11:15 คนนึงนะสัก 5 ขวบ 10 ขวบเขาขอกินน้ำ
00:11:15 → 00:11:17 กระป๋องแบบไม่มีแคลอรี่ใน 5 กระป๋อง 10
00:11:17 → 00:11:20 กระป๋องท่านว่ามันโอเคไหมล่ะนะครับแค่นี้
00:11:20 → 00:11:23 มันก็คิดง่ายๆถ้าเราคิดแบบนี้มันจะไม่ยาก
00:11:23 → 00:11:25 เลยนะครับทุกอย่างจะกลายเป็นง่ายหมดเลย
00:11:25 → 00:11:28 ครับว่าเราจะต้องทำอะไรให้มันสมดุลบ้างนะ
00:11:28 → 00:11:28 ครับ
00:11:28 → 00:11:31 ดังนั้นในช่วงเวลาที่เลย 5 วันไปแล้วทาน
00:11:31 → 00:11:34 อาหารให้มันดีให้มันสมดุลดีที่สุดนะครับ
00:11:34 → 00:11:37 บางคนก็บอกถามผมมาในคอมเมนต์ว่าเออถ้าเรา
00:11:37 → 00:11:40 ไปทานอะไรที่มันเยอะในช่วงนั้นคือเราทาน
00:11:40 → 00:11:42 ตามใจปากเลยเนี่ยมันจะทำให้ผลของ fmd
00:11:42 → 00:11:45 เนี่ยมันลดลงหรือเปล่าผมขอบอกอย่างนี้
00:11:45 → 00:11:47 ครับให้เราเปรียบเทียบ fmd กับการไปตรวจ
00:11:48 → 00:11:51 สภาพเครื่องยนต์นะครับเช็คซ่อมนะครับ
00:11:51 → 00:11:53 เดือนละครั้งสมมุตินะครับอ่าเราเช็คซ่อม
00:11:53 → 00:11:56 มาเสร็จแล้วหลังจากนั้นเนี่ยเราเอารถไปทำ
00:11:56 → 00:11:58 อะไรล่ะถ้าเราขับขี่ยานยนต์ที่ดีเราไม่
00:11:58 → 00:12:00 ซิ่งเราไม่ไปเบิ้ลเครื่องเราไม่ขับอะไร
00:12:00 → 00:12:04 ประหลาดๆกับอีกแบบนึงคือซิ่งแหลกเลย
00:12:04 → 00:12:07 เหยียบเบรค ES ขับประหลาดไม่ต้องสนใจอะไร
00:12:07 → 00:12:09 ทั้งสิ้นท่านคิดว่าสุดท้ายแล้วเนี่ยอายุ
00:12:09 → 00:12:12 การใช้งานของรถแบบไหนมันจะนานกว่ากันล่ะ
00:12:12 → 00:12:16 ครับนะฮะตรวจเช็คเหมือนกันแต่การใช้งาน
00:12:16 → 00:12:19 แตกต่างกันนะครับดังนั้นผลที่ได้มามันก็
00:12:19 → 00:12:22 ไม่เหมือนกันนั่นก็แปลว่าท่านทำ fmd 5
00:12:22 → 00:12:25 วันแล้วไอ้วันที่เหลือท่านรับประทานอาหาร
00:12:25 → 00:12:28 ตามปกติแต่ตามปกติควรจะต้องเป็นอาหารที่
00:12:28 → 00:12:32 สมดุลแน่นอนบางคนก็อาจจะแบบเฮ้ยขอทานเค้ก
00:12:32 → 00:12:35 นิดนึงขอทานชานมไข่มุกนิดนึงขอทานหมู
00:12:35 → 00:12:38 กระทะสักนิดนึงไม่เป็นไรครับเราไม่ได้สุด
00:12:38 → 00:12:40 โต่งท่านจะทานก็ทานได้แต่มันไม่ใช่ทานไป
00:12:40 → 00:12:42 เท่าวันนะครับคือชีวิตเราก็ต้องมีความ
00:12:42 → 00:12:45 สมดุลนะครับบางคนความสุขอยู่กับการกินนะ
00:12:45 → 00:12:47 ครับเราจะให้คนๆนั้นไม่มีความสุขไปตลอด
00:12:47 → 00:12:51 ชีวิตมันก็ไม่ใช่ชีวิตแล้วครับคือถ้าเรา
00:12:51 → 00:12:55 จำเป็นจะต้องทานอาหารที่มันจำกัดอะไรมากๆ
00:12:55 → 00:12:57 อยู่แล้วเราก็ต้องทำอย่างนั้นไปตลอดชีวิต
00:12:57 → 00:12:59 เพราะว่าอาหารเหล่านั้นมีการวิจัยรับรอง
00:12:59 → 00:13:02 แล้วว่ามันทำให้เราอายุยืนยาวสุขภาพแข็ง
00:13:02 → 00:13:05 แรงแต่ถ้าเราอายุยืนยาวสุขภาพแข็งแรงแต่
00:13:05 → 00:13:08 ปราศจากความสุขความหมายของชีวิตผมก็คิด
00:13:08 → 00:13:11 ว่ามันก็เยอะเกินไปเหมือนกันนะครับแต่
00:13:11 → 00:13:13 สำหรับท่านไหนที่เอ่อรับประทานอย่างนี้
00:13:13 → 00:13:30 ได้ไป
00:13:30 → 00:13:33 แล้วที่สำคัญคือกลับมาทานอาหารโปรตีนที่
00:13:33 → 00:13:34 มันสูงขึ้นมาหน่อยก็ได้นะครับเพราะว่า
00:13:34 → 00:13:37 ช่วงนั้นท่านจะเป็นจะต้องสร้างกล้ามเนื้อ
00:13:37 → 00:13:39 ถ้าท่านทานแคลอรี่ต่ำโปรตีนต่ำตลอดเวลา
00:13:39 → 00:13:42 กล้ามเนื้อท่านก็หายนะครับกล้ามเนื้อท่าน
00:13:42 → 00:13:46 ก็หายได้นะตรงนี้สำคัญนะครับ
00:13:46 → 00:13:50 บางคนก็บอกว่าเออเราเอาความรู้ fmd มา
00:13:50 → 00:13:52 สลับกับอาหารอย่างอื่นได้ไหมเช่นสลับกับ
00:13:52 → 00:13:54 คาร์ดิโอไดเอทกินแต่พวกเนื้อสัตว์โปรตีน
00:13:54 → 00:13:57 อย่างเยอะนะครับหรือกินคาร์ดิโอนะครับกิน
00:13:57 → 00:13:59 พวกอาหารที่คนโบราณสมัยโบราณเขากินกัน
00:13:59 → 00:14:02 หรือไปกินพวกคีโตเจนิคไดเอ็ดกินแอสกินที
00:14:03 → 00:14:05 ไรก็แล้วแต่นะครับมันก็ได้เหมือนกันนะ
00:14:05 → 00:14:07 ครับแต่ผมมองว่าอันนั้นเนี่ยบางทีมันอาจ
00:14:07 → 00:14:09 จะเยอะเกินไปนะครับ
00:14:09 → 00:14:12 ร่างกายของเราเมื่อมันมีการเสียสมดุลไป
00:14:12 → 00:14:14 แล้วเชื่อว่าเราอ้วนเรามีเบาหวานเรามีโรค
00:14:14 → 00:14:15 ความดันโลหิตสูงเรามีโรคไตโรคหัวใจโรค
00:14:15 → 00:14:18 อะไรเยอะแยะไปหมดนะครับนั่นคือร่างกายของ
00:14:18 → 00:14:22 เรามันเสียสมดุลเสียสมดุลนะครับเวลาที่
00:14:22 → 00:14:24 เราไปฟังอินทรอนเซอร์หรือกูรูต่างๆที่เขา
00:14:24 → 00:14:26 แนะนำเรื่องอาหารเนี่ยนะครับผมว่าเออเป็น
00:14:26 → 00:14:29 แบบนี้ให้เรากินแบบนี้คีโตเจนิคไดเอทกิน
00:14:29 → 00:14:32 ไข่แบบนี้ถึงจะถูกต้องกินเท่านี้ฟองนะ
00:14:32 → 00:14:34 ครับมันจะไม่มีปัญหาหรอกนะครับกินตามโน้น
00:14:34 → 00:14:38 ตามนี้นะครับสิ่งที่เขาทำเนี่ยคือการสุด
00:14:38 → 00:14:40 โต่งไปอีกทางนึงนะครับสมมุติว่าเรามีตา
00:14:40 → 00:14:42 ชั่งนะครับขณะนี้มันเอียงลงข้างหนึ่งนะ
00:14:42 → 00:14:45 ครับเพราะว่าเอียงลงข้างนึงเพราะเราใช้
00:14:45 → 00:14:46 ชีวิตไม่สมดุลมาเยอะอยู่แล้วนะครับเรา
00:14:46 → 00:14:49 อ้วนเรามีโรคอะไรเต็มไปหมดเขาก็เลยบอกว่า
00:14:49 → 00:14:50 เอ้ยถ้าอย่างนั้นเราทำให้ตาชั่งมันสุด
00:14:51 → 00:14:52 โต่งแบบด้วยการดึงตรงเนี้ยลงมาเร็วๆได้
00:14:52 → 00:14:55 ไหมมันจะได้เข้าสู่สมดุลได้เร็วขึ้นดี
00:14:55 → 00:14:58 ครับทำได้นะครับเข้าสู่สมดุลแต่ถ้าเราทำ
00:14:58 → 00:15:01 ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเป็นอย่างนี้ครับเสีย
00:15:01 → 00:15:02 สมดุลอีกรอบนึง
00:15:02 → 00:15:06 เสียสมดุลอีกรอบนึงนะครับดังนั้นอาหารพวก
00:15:06 → 00:15:08 เนี้ยทำได้เหมือนกันแต่ทำได้ช่วงเวลาสั้น
00:15:08 → 00:15:11 ๆอย่าทำต่อเนื่องนะครับอันนี้คือความคิด
00:15:11 → 00:15:13 ของผมนะครับแต่ถ้าท่านเป็นสายที่อยากจะทำ
00:15:13 → 00:15:15 ต่อเนื่องไปนานๆอันนี้แล้วแต่ตัวท่านนะ
00:15:15 → 00:15:18 ครับผมแนะนำอย่างนึงนะครับคือท่านควรจะไป
00:15:18 → 00:15:20 ตรวจเช็คร่างกายให้แน่ใจว่าสิ่งที่ท่าน
00:15:20 → 00:15:23 กำลังทำอยู่นั้นมันเหมาะสมกับร่างกายแน่
00:15:23 → 00:15:25 นอนร่างกายของทุกคนมันไม่เหมือนกันดัง
00:15:25 → 00:15:27 นั้นจะใช้วิธีที่เหมือนกันทั้งหมดเนี่ย
00:15:27 → 00:15:29 มันอาจจะลำบากอาจจะไม่ได้บางคนกินคีโตไป
00:15:29 → 00:15:31 ตลอดก็ไม่เกิดอะไรขึ้นบางคนกินเข้าไปแป๊บ
00:15:31 → 00:15:34 เดียวโอ้โหมีปัญหาเยอะแยะไปหมดเลยนะครับ
00:15:34 → 00:15:37 บางคนกินคานาวอร์ Diet ไม่เป็นอะไรบางคน
00:15:37 → 00:15:40 กินไปสักพักมีปัญหาเต็มไปหมดนะครับอ้อ
00:15:40 → 00:15:44 แล้วคำกล่าวคำนึงที่บอกว่าถ้าไม่เคยลอง
00:15:44 → 00:15:47 อาหารพวกนี้ไม่ควรจะออกมาแนะนำไม่ควรจะ
00:15:47 → 00:15:49 ออกมาพูดหรือต่อต้านอะไรพวกนี้ผมคิดง่ายๆ
00:15:49 → 00:15:50 อย่างนี้นะครับ
00:15:50 → 00:15:53 อาหารพวกนี้ก่อนที่มันจะออกมาได้มันต้อง
00:15:53 → 00:15:55 งานวิจัยอะไรรับรองมีเหตุผลรับรองไม่ใช่
00:15:55 → 00:15:58 เราคิดขึ้นมาในหัวแล้วก็มาบอกว่าเอ้ยอัน
00:15:58 → 00:16:01 นี้ดีสินะครับเราลองคิดตรรกะง่ายๆก็ได้
00:16:01 → 00:16:03 อาหารพวกนี้ถ้าเราฟังดูแล้วนะครับมันไม่
00:16:03 → 00:16:05 ได้สมดุลเลยมันมีอันตรายด้วยซ้ำไปนะครับ
00:16:05 → 00:16:08 การที่มันมีอันตรายแบบมองเห็นได้ชัดๆแบบ
00:16:08 → 00:16:09 นี้
00:16:09 → 00:16:11 นะครับแล้วแถมไม่มีงานวิจัยอะไรรับรอง
00:16:11 → 00:16:14 เมื่อเทียบกับ fmd ซึ่งมีงานวิจัยรับรอง
00:16:14 → 00:16:16 แล้วมันก็ไม่ได้สุดโต่งมันแค่ 5 วันแล้ว
00:16:16 → 00:16:20 จบท่านคิดว่าการแนะนำอะไรมันดีกว่าครับ
00:16:20 → 00:16:23 ง่ายๆเลยนะครับแบบนี้นะครับ
00:16:24 → 00:16:26 ดังนั้นเราก็ต้องใช้วิจารณญาณในการ
00:16:26 → 00:16:28 พิจารณาว่าอะไรมันไม่อันตรายและอะไรมัน
00:16:28 → 00:16:31 อันตรายด้วยซ้ำไปนะครับเวลาที่เราจะแนะนำ
00:16:31 → 00:16:33 หรือเราจะทดลองอะไรสักอย่างหนึ่งนะครับ
00:16:33 → 00:16:36 ถ้าเราทดลองไปแล้วเราก็ลองไปตรวจสอบตัว
00:16:36 → 00:16:38 เองนะครับไปตรวจร่างกายตรวจเลือดดูซิว่า
00:16:38 → 00:16:40 เฮ้ยเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่าเรากินแบบนี้
00:16:40 → 00:16:43 โอเคหรือยังถ้าโอเคแล้วเราก็กินต่อไปได้
00:16:43 → 00:16:45 นะครับแต่ถ้ามันเริ่มไม่โอเคนะครับเช่น
00:16:45 → 00:16:48 ตรวจวันนี้ปกติอีก 3 เดือนไปตรวจให้มัน
00:16:48 → 00:16:49 เริ่มประหลาดๆแล้วคือ 6 เดือนประหลาดมาก
00:16:49 → 00:16:52 ขึ้นท่านนั่นน่ะมันแปลว่าท่านมาไม่ถูกทาง
00:16:52 → 00:16:54 แล้วครับในช่วงแรกมันอาจจะถูกทางเพราะว่า
00:16:54 → 00:16:56 ท่านทำให้ตาชั่งของท่านมันเข้าสู่สมดุล
00:16:56 → 00:16:58 แต่ถ้าท่านกินต่อไปเรื่อยๆมันเป็นงี้ครับ
00:16:58 → 00:17:01 เสียสมดุลอีกรอบนึงผลเรื่องของท่านก็จะ
00:17:01 → 00:17:03 เริ่มผิดปกติร่างกายของท่านก็จะเริ่มมี
00:17:03 → 00:17:06 ปัญหานะครับบางคนกินคีโตทำไม f นานๆเกิด
00:17:06 → 00:17:07 อะไรขึ้นครับ
00:17:07 → 00:18:09 กล้ามเนื้อหายนะฮะ
00:18:09 → 00:18:14 นั่นก็คือเป็นอาหารกลุ่มที่เออแนะนำนอก
00:18:14 → 00:18:18 เหนือจากนี้ไอ้การกิน fmd เนี่ยมันป้อง
00:18:18 → 00:18:20 กันมะเร็งได้หรือเปล่าและบอกอย่างนี้เลย
00:18:20 → 00:18:22 ครับอันนี้ต้องบอกว่าข้อมูลเรายังไม่
00:18:22 → 00:18:24 เพียงพอให้ตอบแบบนี้นะครับแต่มันมีงาน
00:18:24 → 00:18:28 วิจัยอันหนึ่งโดยการทำให้หนูเกิดการกลาย
00:18:28 → 00:18:31 พันธุ์ที่ทำให้เกิดมะเร็งง่ายๆนะครับแล้ว
00:18:31 → 00:18:34 ก็ลองทำ MMD ดูว่าเกิดอะไรขึ้นนะครับหนู
00:18:34 → 00:18:37 กลุ่มนี้ที่เกิดมะเร็งง่ายแล้วก็เอากลุ่ม
00:18:37 → 00:18:40 ควบคุมกินอะไรก็ได้ตามใจปากเลยตามใจหนู
00:18:40 → 00:18:42 เลยอยากจะกินอะไรก็กินนะครับรู้อีกกลุ่ม
00:18:42 → 00:18:45 หนึ่งทำ fmd สิ่งที่เจอเนี่ยคือหนูที่ทำ
00:18:45 → 00:18:48 fmd เนี่ยเกิดมะเร็งเหมือนกันแต่มันเกิด
00:18:48 → 00:18:52 ช้ากว่าเกิดช้ากว่านะครับ
00:18:52 → 00:18:55 แปลว่าอะไรจากงานวิจัยนี้ถ้าเราบอกในหนู
00:18:55 → 00:18:58 ทำ fmd นะครับเราก็ต้องบอกว่าไอ้หนูเนี่ย
00:18:58 → 00:18:59 นะฮะ
00:18:59 → 00:19:02 มันไม่ได้ป้องกันการเกิดมะเร็งนะแต่มัน
00:19:02 → 00:19:05 ชะลอการเกิดมะเร็งไป
00:19:05 → 00:19:07 ชะลอการเกิดมะเร็งไปแต่สำหรับหนูบางคน
00:19:07 → 00:19:10 เอ้ยหนูบางตัวเนี่ยมันอาจจะชะลอมากบางตัว
00:19:10 → 00:19:13 อาจจะชะลอไม่มากนะครับซึ่งก็แล้วแต่ชนิด
00:19:13 → 00:19:16 ของหนูแล้วก็พันธุกรรมอีกเหมือนกันดัง
00:19:16 → 00:19:19 นั้นในกรณีของคนถ้าเราจะเอาหนูมาเป็นแบบ
00:19:19 → 00:19:23 อย่างของคนเราก็บอกว่าเฮ้ยมันอาจจะชะลอ
00:19:23 → 00:19:25 การเกิดมะเร็งได้อาจจะป้องกันได้นะครับ
00:19:25 → 00:19:28 แต่เราบอกอย่างนั้นได้ชัดเจนแบบ 100% ไม่
00:19:28 → 00:20:29 ได้เหตุผลทำไม
00:20:29 → 00:20:33 แล้วมันมีโอกาสที่จะชะลอการเกิดมะเร็งได้
00:20:33 → 00:20:37 ดังนั้นมันก็กินได้นะครับสมมติสมมติคนทำ
00:20:37 → 00:20:41 ได้สมควรแนะนำได้แค่นั้นเองนะครับคนที่
00:20:41 → 00:20:43 ไม่ได้เป็นมะเร็งถามว่ากินได้ไหมได้ครับ
00:20:43 → 00:20:45 มันไม่ได้สุดโต่งไม่ได้เกิดอะไรขึ้นแล้ว
00:20:45 → 00:20:48 ที่สำคัญอย่างที่ผมยกตัวอย่างให้ฟังใน
00:20:48 → 00:20:50 คลิปที่แล้วเรื่องของงานวิจัยนะครับมัน
00:20:50 → 00:20:53 ช่วยเรื่องของน้ำหนักที่เกิดไขมันหน้า
00:20:53 → 00:20:57 ท้องนะครับ BMI ผลเลือดที่มีไขมันสูงก็จะ
00:20:57 → 00:20:59 ดีขึ้นถ้าเบาหวานต่างๆก็จะดีขึ้นแต่เบา
00:20:59 → 00:21:02 หวานมันไม่ได้หายไปไหนนะครับมันดีขึ้นเฉย
00:21:02 → 00:21:05 ๆนะครับคุมได้เท่านั้นเองความดันก็ลดลงนะ
00:21:06 → 00:21:09 ครับนั่นแปลว่ามันช่วยในแง่ของ
00:21:09 → 00:21:12 อย่างอื่นด้วยที่ไม่ใช่มะเร็งและอาจจะ
00:21:12 → 00:21:15 ช่วยในการชะลอการเกิดมะเร็งอาจจะช่วยใน
00:21:15 → 00:21:19 การชะลอวัยก็ได้นะครับงั้นนี่เป็นสิ่งที่
00:21:19 → 00:21:21 เรารู้แล้วเนื่องจากว่ามันเป็นอาหารที่
00:21:21 → 00:21:24 ไม่ได้สุดโต่งไม่ได้อันตรายอะไรแต่อย่าง
00:21:24 → 00:21:28 ใดท่านก็สามารถทำได้นะครับแล้วระหว่างที่
00:21:28 → 00:21:30 ท่านกินครบ 5 วันหลังจากนั้นท่านจะทำอะไร
00:21:30 → 00:21:33 ต่ออันนี้แล้วแต่ท่านแล้วนะครับอย่างน้อย
00:21:33 → 00:21:35 ทำบ้านมันก็ยังดีกว่าไม่ทำเลยใน fmd ถูก
00:21:35 → 00:21:38 ไหมครับท่านจะหลังจากนั้นจะไปกินสุดโต่ง
00:21:38 → 00:21:41 กินสุกี้หม้อไฟกินขนมกินอะไรเยอะๆอันนี้
00:21:41 → 00:21:44 แล้วแต่ท่านนะครับแน่นอนว่าผลของของมันใน
00:21:44 → 00:21:46 การทำแบบนั้นเนี่ยนะครับมันอาจจะไม่ดี
00:21:46 → 00:21:49 เท่ากับคนที่เขากินสมดุลกินดีๆกินอาหาร
00:21:49 → 00:21:52 ที่มันไม่มีปัญหานะครับอันนี้ก็แล้วแต่
00:21:52 → 00:21:55 ท่านเลือกแล้วกันนะครับโอเควันนี้ก็เท่า
00:21:55 → 00:21:57 นี้นะครับหวังว่าจะขยายความให้ท่านเข้าใจ
00:21:57 → 00:22:00 ได้ลงลึกมากขึ้นนะครับถ้าอะไรยังสงสัย
00:22:00 → 00:22:01 อยู่ก็สอบถามมาแล้วกันนะครับวันนี้เท่า
00:22:01 → 00:22:05 นี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ