00:00:00 → 00:00:04 ถ้า
00:00:04 → 00:00:07 อยากรู้ว่าน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่าง
00:00:07 → 00:00:09 กันอย่างไรคะ
00:00:09 → 00:00:13 น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลามีแหล่งที่มาสาร
00:00:13 → 00:00:15 อาหารและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันครับ
00:00:15 → 00:00:19 ในน้ำมันปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 คืออีพี
00:00:19 → 00:00:22 เอและดีเอชเอเป็นสารสำคัญและมีวิตามินเอ
00:00:22 → 00:00:25 และวิตามินดีอีกเล็กน้อย
00:00:25 → 00:00:29 ส่วนน้ำมันกับปลาจะมี epa และ dha ใน
00:00:29 → 00:00:31 ปริมาณที่น้อยกว่าน้ำมันปลาแต่จะมี
00:00:31 → 00:00:35 วิตามินเอและวิตามินดีที่ค่อนข้างสูง
00:00:35 → 00:00:38 ส่วนเรื่องหนังที่มาน้ำมันกล่าวจะสกัดมา
00:00:38 → 00:00:41 จากส่วนต่างๆของปลาที่มีไขมันเช่นตัวแข่ง
00:00:41 → 00:00:45 โชวี่ปลาทูน่าและปลาแซลมอนหรือปลาในทะเล
00:00:45 → 00:00:47 น้ำลึกอื่นๆ
00:00:47 → 00:00:50 ขณะที่น้ำมันตับปลาจะสกัดมาจากตับของปลา
00:00:50 → 00:00:53 คอสที่คุณหูกันในชื่อของ cod liver Oil
00:00:53 → 00:00:57 นะครับ a แล้วน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลา
00:00:57 → 00:01:00 เหมาะสมกับใครบ้างคะ
00:01:00 → 00:01:01 ค่า
00:01:01 → 00:01:04 น้ำมันปลาเหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงหัว
00:01:04 → 00:01:07 ใจสมองและสายตาป้องกันหลอดเลือดหัวใจสมอง
00:01:07 → 00:01:10 อุดตันจากการสะสมของไขมันหรือผู้ที่เป็น
00:01:10 → 00:01:14 โรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆเช่นโรคความดัน
00:01:14 → 00:01:17 โลหิตสูงโรคไขมันในเลือดสูงหรือผู้ที่
00:01:17 → 00:01:19 ต้องการลดไขมันไตรกลีเซอไรด์โรคข้อรูมา
00:01:19 → 00:01:23 ตอยด์ซึมเศร้าและสมองเสื่อมครับ
00:01:23 → 00:01:25 ส่วนน้ำมันตับปลาเหมาะกับผู้ที่ต้องการ
00:01:25 → 00:01:28 บำรุงสายตาหรือกระดูกและผู้ป่วยที่มีภาวะ
00:01:28 → 00:01:37 ขาดวิตามินเอและวิตามินดีครับอ่า
00:01:37 → 00:01:40 ม.ค