00:00:00 → 00:00:03 5 สุดยอดอาหารแหล่งโปรไบโอติกเรามาฟัง
00:00:04 → 00:00:07 กันดีกว่าค่ะว่าถ้าเราไม่อยากจะต้องไป
00:00:07 → 00:00:10 ซื้ออาหารเสริมโปรไบโอติกแพงๆเราจะหา
00:00:10 → 00:00:13 แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกจาก
00:00:13 → 00:00:16 ธรรมชาติได้จากที่ไหนบ้างคลิปนี้มีคำตอบ
00:00:16 → 00:00:20 ค่ะสวัสดีค่ะหมอเมย์ May Ip นะคะchชannล
00:00:20 → 00:00:22 ที่จะพาทุกคนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของ
00:00:22 → 00:00:25 สุขภาพและศาสตร์ชะลอวัยในภาษาที่เข้าใจ
00:00:25 → 00:00:29 ง่ายเพื่อให้เราทุกคนได้สุขภาพดีไปพร้อมๆ
00:00:29 → 00:00:32 กันนะคะอย่างที่หมอว่าแหละค่ะในเรื่องของ
00:00:32 → 00:00:35 โปรไบโอติกเราได้คุยกันไปในคลิปนี้เรียบ
00:00:35 → 00:00:38 ร้อยแล้วนะคะว่าความแตกต่างระหว่างคำ
00:00:38 → 00:00:42 ศัพท์คำว่าโปรไบโอติกพรีไบโอติกซิไบโอติก
00:00:42 → 00:00:45 และโพสไบโอติกเนี่ยมันมียังไงแตกต่างกัน
00:00:45 → 00:00:48 ยังไงมันคืออะไรบ้างนะคะคลิปนี้นะคะเรามา
00:00:48 → 00:00:52 เจาะลึกกันดีกว่าว่าเจ้าคำว่าโปรไบโอติก
00:00:52 → 00:00:55 เราจะหาจากที่ไหนได้บ้างเรามาทวนกันก่อน
00:00:55 → 00:00:59 เลยดีกว่าค่ะว่าโปรไบโอติกนั้นคืออะไรคำ
00:00:59 → 00:01:02 ว่าโปรไบโอติกนะคะถ้าจะให้พูดเอาแบบสรุป
00:01:02 → 00:01:06 ง่ายๆเลยนะเขาคือตัวเชื้อจุลินทรีย์ค่ะ
00:01:06 → 00:01:08 เป็นเชื้อจุลินทรีย์ตัวดีนะคะที่เวลาเรา
00:01:08 → 00:01:12 รับประทานเข้าไปในปริมาณที่เหมาะสมก็
00:01:12 → 00:01:15 สามารถให้ประโยชน์กับร่างกายของเราได้
00:01:15 → 00:01:18 เป็นตัวจุลินทรีย์เป็นตัวแบคทีเรียที่ไม่
00:01:18 → 00:01:21 เกาะให้เกิดโทษกับร่างกายค่ะทีนี้เนี่ยก็
00:01:21 → 00:01:24 อย่างว่าแหละค่ะปัจจุบันนะคะในท้องตลาดก็
00:01:24 → 00:01:27 มีวางขาอยู่เยอะแยะมากมายเลยในเรื่องของ
00:01:27 → 00:01:29 อาหารเสริมทั้งแบบเม็ดและแบบซองนะคะที่
00:01:29 → 00:01:32 เป็นอาหารเสริมในรูปของโปรไบโอติกหรือ
00:01:32 → 00:01:35 ซินไบโอติกทีนี้ถ้าหลายๆท่านนะคะยังไม่
00:01:35 → 00:01:40 อยากจะทานเป็นอาหารเสริมเราจะหาอาหารที่
00:01:40 → 00:01:43 อุดมไปด้วยโปรไบโอติกจากอาหารธรรมชาติได้
00:01:43 → 00:01:46 จากที่ไหนบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะกับ 5
00:01:47 → 00:01:50 สุดยอดอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกค่ะมา
00:01:50 → 00:01:53 ดูกันที่ตัวแรกกันเลยตัวแรกเนี่ยหมออยาก
00:01:53 → 00:01:57 พาทุกคนไปทำความรู้จักกับคียเฟอร์ค่ะ
00:01:57 → 00:01:59 คียเฟอร์เนี่ยหลายๆท่านก็อาจจะรู้สึกแบบ
00:01:59 → 00:02:01 ไม่คุ้นหูเนาะว่าคีเฟอร์คืออะไรหลายๆท่าน
00:02:01 → 00:02:04 อาจจะแบบไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต
00:02:04 → 00:02:06 คียเฟอร์เนี่ยจริงๆแล้วเมีอีกชื่อนึงเขา
00:02:06 → 00:02:10 เรียกว่าบัวหิมะทิเบตค่ะซึ่งตัวคียเฟอร์
00:02:10 → 00:02:13 เนี่ยเขาจะทำมาจากการเอานมวัวหรือนมแพะ
00:02:13 → 00:02:16 หรือว่านมชนิดอื่นๆเนี่ยมาหมักด้วยตัว
00:02:16 → 00:02:19 แบคทีเรียตัวดีแล้วก็ตัวยีสตัวดีค่ะซึ่ง
00:02:19 → 00:02:22 ผลที่ออกมาเนี่ยมันก็อืมจะว่ายังไงเมื่อ
00:02:23 → 00:02:25 เช้าเพิ่งกินมาขวดนึงเหมือนกันจาก
00:02:25 → 00:02:27 ประสบการณ์เลยนะคำว่าคีเฟอร์เนี่ยมันจะ
00:02:27 → 00:02:29 ให้ความรู้สึกเหมือนการรับประทานนม
00:02:29 → 00:02:32 เปรี้ยวค่ะแต่ว่ามันจะมีความหนืดความข้น
00:02:32 → 00:02:35 คล้ายๆกับโยเกิร์ตก็จะข้นขึ้นมานิดนึงรส
00:02:35 → 00:02:38 ชาติถือว่ารับประทานง่ายทานโอเคเลยค่ะ
00:02:38 → 00:02:40 ซึ่งคีเฟอร์เนี่ยเขาก็คล้ายๆกับตัว
00:02:41 → 00:02:43 โยเกิร์ตพร้อมดื่มแต่เขา้าจะมีความแตก
00:02:43 → 00:02:46 ต่างกับโยเกิร์ตธรรมดาตรงที่เขา้าจะมี
00:02:46 → 00:02:49 เชื้อจุลินทรีย์ตัวดีเนี่ยมากกว่าพวกกรีก
00:02:49 → 00:02:51 โยเกิร์ตเนี่ยถึง 10 เท่าเลยค่ะให้
00:02:51 → 00:02:55 ประโยชน์ได้แบบสุดๆเลยถ้าใครมีโอกาสนะคะ
00:02:55 → 00:02:58 อยากให้ลองซื้อหามาทานลูกถ้าใครไม่คุ้นนะ
00:02:58 → 00:03:01 คะลองไปเดินตามหาตามอืมตามร้านอาหาร
00:03:01 → 00:03:04 สุขภาพทั่วไปหรือว่าพวกร้านขายของคีโตก็
00:03:04 → 00:03:06 จะมีพวกคียเฟอร์พวกนี้วางขายอยู่เช่นกัน
00:03:06 → 00:03:10 ค่ะลองไปหาซื้อมาทานดูนะสำหรับตัวที่ 2
00:03:10 → 00:03:13 นะคะกิมจิค่ะอันเนี้ยของโปรดหมอเลยแล้วก็
00:03:14 → 00:03:16 หลายๆคนเก็คงชอบรับประทานเหมือนกันกิมจิ
00:03:16 → 00:03:19 นะคะก็เป็นเทคนิคในการถนอมอาหารของคน
00:03:19 → 00:03:22 เกาหลีค่ะโดยวิธีการนะคะเขาจะเอาตัวผัก
00:03:22 → 00:03:26 หลายๆชนิดเลยที่เค้าเอ่อเก็บเกี่ยวได้นำ
00:03:26 → 00:03:30 มาหมักเกลือแล้วก็เอาไปดองในไหนะคะซึ่ง
00:03:30 → 00:03:32 สาเหตุที่เขาใช้เกลือเนี่ยเพราะเกลือพวก
00:03:32 → 00:03:35 นี้จะช่วยในการฆ่าแบคทีเรียตัวร้ายออกไป
00:03:35 → 00:03:38 ค่ะเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าแบคทีเรียตัว
00:03:38 → 00:03:41 ดีที่เกาะอยู่ตามผักอยู่แล้วนะคะมีโอกาส
00:03:41 → 00:03:45 ได้แบ่งตัวมีโอกาสได้หมักแล้วก็ฟ้องฟู
00:03:45 → 00:03:48 ขึ้นมาซึ่งการหมักตรงนี้นะคะก็จะทำให้
00:03:48 → 00:03:51 เกิดกรดแลคติแล้วก็กรดอซิติกค่ะซึ่งจะทำ
00:03:51 → 00:03:54 ให้กิมจิเนี่ยมีรสเปรี้ยวนิดๆและนอกจาก
00:03:54 → 00:03:56 นั้นนะคะนอกจากเขาจะมีเรื่องของ
00:03:56 → 00:04:00 โปรไบโอติกแล้วการหมักของแบคทีเรียตัวดี
00:04:00 → 00:04:03 เหล่านี้เนี่ยจะทำให้ผักเหล่านี้นะคะเขา
00:04:03 → 00:04:06 ย่อยง่ายขึ้นเวลาเรารับประทานเข้าไปเนี่ย
00:04:06 → 00:04:09 เราก็จะย่อยง่ายรวมถึงพวกสารอาหารต่างๆ
00:04:09 → 00:04:12 ทั้งวิตามินและแร่ธาตุเนี่ยร่างกายของเรา
00:04:12 → 00:04:15 ก็จะดูดซึมมันได้ดีขึ้นด้วยค่ะซึ่งกิมจิ
00:04:15 → 00:04:18 นะคะคนเกาหลีก็นิยมนำมาทานกับมื้ออาหาร
00:04:18 → 00:04:22 แทบจะทุกมื้อเลยถ้าเป็นไปได้เราสามารถหา
00:04:22 → 00:04:25 มาลองทานกันได้นะคะตัวที่ 3 ค่ะตระกูลของ
00:04:25 → 00:04:28 โยเกิร์ตเบาเรียค่ะทำไมต้องเป็นโยเกิร์ต
00:04:28 → 00:04:30 เบกาเรียนะคะเพราะโยเกิร์ตเบลการเรีย
00:04:30 → 00:04:33 เนี่ยจัดว่าเป็นโยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการ
00:04:33 → 00:04:36 ผ่านกรมวิธีที่น้อยกว่าโยเกิร์ตชนิดอื่นๆ
00:04:36 → 00:04:39 ทำให้เขายังคงสภาพของจุลินทรีย์ที่มี
00:04:39 → 00:04:42 ชีวิตอยู่ได้ค่อนข้างเยอะค่ะโดยเฉพาะ
00:04:42 → 00:04:45 จุลินทรีย์ที่มีชื่อว่าแลคโตบาซิลัส
00:04:45 → 00:04:49 บากิคัสแล้วก็สตปโtoคอกคัเทอรโมฟิสนะคะ 2
00:04:49 → 00:04:52 ตัวนี้เนี่ยเป็นตัวเก๋ตัวเก่งมากๆเลยนอก
00:04:52 → 00:04:54 จากเขาจะเป็นโปรไบโอติกที่ดีและมี
00:04:54 → 00:04:57 ประโยชน์กับร่างกายของเราแล้วนะคะเค้ายัง
00:04:57 → 00:05:00 สามารถช่วยเราย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ด้วยค่ะ
00:05:01 → 00:05:04 ทำไมการย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ถึงเป็นความ
00:05:04 → 00:05:07 เก่งความเก๋อะไรขนาดนั้นหลายๆคนนะคะต้อง
00:05:07 → 00:05:10 เจอปัญหานี้แน่ล่ะเวลารับประทานนมวัวนะคะ
00:05:10 → 00:05:14 ทานปุ๊บก็จะมีอาการท้องเสียตามมาคุณอาจจะ
00:05:14 → 00:05:16 มีภาวะตสiency
00:05:16 → 00:05:20 ค่ะเป็นชื่อของเอนไซม์ที่คนเราสร้างขึ้น
00:05:20 → 00:05:23 มาเพื่อใช้ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสที่อยู่
00:05:23 → 00:05:26 ในนมวัวค่ะเมื่อเราขาดเอนไซม์ตัวนี้นะคะ
00:05:26 → 00:05:30 ขาดเอนไซม์แลคเตสจะทำให้เราย่อยน้ำตาล
00:05:30 → 00:05:33 แลคโตสค่ะน้ำตาลเหล่านี้จะยังคงค้างอยู่
00:05:33 → 00:05:36 ในทางเดินอาหารของเราทำให้เรามีอาการท้อง
00:05:36 → 00:05:40 เสียตามมาซึ่งเจ้าจุลินทรีย์ 2 ตัวนี้
00:05:40 → 00:05:43 แหละค่ะที่เขาจะเข้ามาช่วยเราในการช่วย
00:05:43 → 00:05:46 ย่อยน้ำตาลแลคโตสเหล่านี้ช่วยบรรเทาอาการ
00:05:46 → 00:05:49 ท้องเสียหลังจากรับประทานนมได้ค่ะต่อไปนะ
00:05:49 → 00:05:53 คะอย่างที่ 4 ค่ะชาหมากคอมบูชะค่ะอันนี้
00:05:53 → 00:05:55 เนี่ยเป็นของยอดฮิตในยุคนี้เลยมองไปทาง
00:05:55 → 00:05:59 ไหนก็มีแต่ผลิตภัณฑ์คอมบูชะนะคะแต่หลายๆ
00:05:59 → 00:06:02 คนก็อาจจะยังงงอยู่ว่าคอมบูชะมันคืออะไร
00:06:02 → 00:06:05 มันมันใช่การหมักสาหร่ายคอมบุหรือเปล่า
00:06:05 → 00:06:07 เชื่อค่ะว่าหลายๆคนอาจจะยังมีไอเดียแบบ
00:06:07 → 00:06:10 นี้อยู่เอ้าไม่ใช่หรอหมอคอมบูชะคอมบุ
00:06:10 → 00:06:12 สาหร่ายคอมบุเอ้ยมันก็น่าจะ make เซense
00:06:12 → 00:06:15 นี่เนาะแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะคอมพูชา
00:06:15 → 00:06:19 เนี่ยเหมือนการเอาตัวชามาหมักนะคะไม่ใช่
00:06:19 → 00:06:22 เอาสาหร่ายมาหมักซึ่งกรรมวิธีของการทำ
00:06:22 → 00:06:24 คอมพูชานะคะเขาจะเอาตัวชาไม่ว่าจะเป็นชา
00:06:25 → 00:06:28 เขียวหรือชาดำเนี่ยมาหมักกับตัวก้อนที่
00:06:28 → 00:06:32 เรียกว่าสูบี้ค่ะสูcoี้เนี่ย scy คืออะไร
00:06:32 → 00:06:36 มันคือ symbiotic colony of bทeria and
00:06:36 → 00:06:38 yeast ค่ะก็คือเป็นกลุ่มก้อนของ
00:06:39 → 00:06:42 แบคทีเรียตัวดีและยีสตัวดีที่นำมาหมักกับ
00:06:42 → 00:06:45 ชาค่ะซึ่งก้อนตรงนี้เนี่ยสำคัญมากนะคะเขา
00:06:45 → 00:06:49 ทำมาจากตัวแบคทีเรียตัวยีสตัวดีซึ่งจะ
00:06:49 → 00:06:52 อยู่ในตัวผักผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวนะคะนำมา
00:06:52 → 00:06:55 หมักหมักรวมกับน้ำตาลแล้วก็น้ำเปล่าแล้ว
00:06:55 → 00:06:58 ก็ทำออกมาเป็นก้อนคล้ายๆสบู่ค่ะซึ่งการ
00:06:58 → 00:07:00 หมักคอมบูฉาก็จะใส่ตัวก้อนนี้ลงไปแล้วก็
00:07:00 → 00:07:04 หมักทำให้เกิดการหมักการย่อยน้ำตาลนะคะ
00:07:04 → 00:07:06 ซึ่งการหมักและการย่อยน้ำตาลของแบคทีเรีย
00:07:07 → 00:07:09 และยีสเหล่านี้เนี่ยจะทำให้เกิดเป็น
00:07:09 → 00:07:11 แอลกอฮอล์ออกมานิดนึงมีแก๊ส
00:07:11 → 00:07:13 คาร์บอนไดออกไซด์ออกมานะคะแล้วก็เกิดกด
00:07:13 → 00:07:16 อซิติกออกมาค่ะทำให้เวลาเรารับประทาน
00:07:16 → 00:07:20 คอมบูชานะคะก็จะรู้สึกสดชื่นรู้สึกมีความ
00:07:20 → 00:07:22 ซ่านิดๆนะคะแล้วก็จะมีรสเปรี้ยวเปี้ยว
00:07:22 → 00:07:27 หวานหน่อยๆมาจากตัวกรดอะซิติกนี่เองค่ะที
00:07:27 → 00:07:30 นี้สาเหตุที่เขาเรียกว่าคอมบูฉานะคะเพราะ
00:07:30 → 00:07:33 ว่าตัวคำเอ่อคำว่าคอมบูเนี่ยมาจากชื่อของ
00:07:33 → 00:07:37 คุณหมอที่นำเอาตัวคอมบูฉาเนี้ยเข้ามาใน
00:07:37 → 00:07:39 การใช้รักษาคนไข้ของเขาค่ะไม่ได้มาจาก
00:07:39 → 00:07:43 สาหร่ายคอมุนะและอีกตัวนึงนะคะลืมไปไม่
00:07:43 → 00:07:47 ได้เลยนัโตะค่ะนัโตะหรือถั่วเน่าญี่ปุ่น
00:07:47 → 00:07:50 นะคะหลายๆคนแค่ได้ยินชื่อก็แบบอี๊อุดจมูก
00:07:50 → 00:07:52 กันแล้วรู้สึกไม่อร่อยรู้สึกเลี่ยนแต่
00:07:52 → 00:07:55 จริงๆเขามีประโยชน์มากเลยนะคะนัโตะเนี่ย
00:07:56 → 00:07:58 เป็นอาหารพื้นเมืองของคนญี่ปุ่นซึ่งเขาจะ
00:07:58 → 00:08:02 ทำจากการนำถั่วเหลืองนะคะไปหมักไว้ในฟาง
00:08:02 → 00:08:05 ข้าวค่ะซึ่งลักษณะที่ออกมาเนี่ยทำให้หลาย
00:08:05 → 00:08:07 ๆคนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แหละมันจะเป็นเมือก
00:08:07 → 00:08:10 ๆเหนียวๆลื่นๆมีใยอีกต่างหากแต่ยิ่งมีใย
00:08:10 → 00:08:14 นะยิ่งของดีเลยถ้าใครกั้นใจกินได้เนี่ยก็
00:08:14 → 00:08:16 จะได้ประโยชน์อย่างมากเลยค่ะเพราะเขาจะ
00:08:16 → 00:08:19 อุดมไปด้วยแบคทีเรียตัวดีนะคะอยู่ในชื่อ
00:08:19 → 00:08:23 ของบซิัสซินะคะซึ่งเป็นจุลินทรีย์ตัวดี
00:08:23 → 00:08:26 ที่เป็นโปรไบโอติกในร่างกายเราได้นอกจาก
00:08:26 → 00:08:28 มีโปรไบโอติกตัวดีแล้วนะคะเขายังมี
00:08:28 → 00:08:31 ประโยชน์อีกเยอะเลย1ึ่งในนั้นนะคะคือ
00:08:31 → 00:08:34 เรื่องที่เขา้ามีวิตามิน K2 นะคะสูงมากๆ
00:08:34 → 00:08:37 วิตามิน K2 ค่ะซึ่งวิตามินตัวนี้นะคะเป็น
00:08:37 → 00:08:40 วิตามินตัวสำคัญที่ช่วยให้แคลเซียมไม่มา
00:08:40 → 00:08:43 ตกตะกอนในหลอดเลือดของเราและช่วยให้
00:08:43 → 00:08:45 แคลเซียมเนี่ยเข้าไปเก็บในกระดูกของเรา
00:08:46 → 00:08:49 ได้มากขึ้นค่ะก็คือช่วยบำรุงกระดูกค่ะนอก
00:08:49 → 00:08:51 จากนั้นนะคะเขายังมีเอนไซม์ตัวสำคัญที่
00:08:51 → 00:08:54 ชื่อว่านัโตะไคเนสค่ะซึ่งนัโตะไคเนสตัว
00:08:54 → 00:08:57 นี้เนี่ยสำคัญมากในการช่วยป้องกันโรคหัว
00:08:57 → 00:09:00 ใจและหลอดเลือดค่ะดังนั้นนะคะอย่างที่หมอ
00:09:00 → 00:09:03 บอกใครสามารถกลั้นใจกินนัตโตะได้เก่งมาก
00:09:03 → 00:09:07 เลยค่ะกินเลยของดีหาติดบ้านไว้เลยนะคะและ
00:09:07 → 00:09:10 นี่แหละค่ะก็เป็น 5 สุดยอดอาหารที่อุดมไป
00:09:10 → 00:09:13 ด้วยโปรไบโอติกค่ะเรามาทวนกันนะว่ามีอะไร
00:09:13 → 00:09:16 บ้างอย่างแรกที่เราพูดถึงกันมีเรื่องของ
00:09:16 → 00:09:19 คีเฟอร์ค่ะมีเรื่องของกิมจิมีเรื่องของชา
00:09:19 → 00:09:22 หมักคอมบูฉะมีเรื่องของโยเกิร์ตเบาแกเรีย
00:09:22 → 00:09:25 แล้วก็มีเรื่องของนัตโตะ 5 อย่างนี้จำใส่
00:09:25 → 00:09:29 ใจถ้าเกิดว่าเห็นที่ไหนคว้ามาทานได้เลยนะ
00:09:29 → 00:09:32 คะเอาล่ะค่ะถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบเนื้อหา
00:09:32 → 00:09:35 สาระดีๆแบบนี้อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กด
00:09:35 → 00:09:38 Subscribe และอย่าลืมกดกระดิ่งกรุ๊งเอา
00:09:38 → 00:09:41 ไว้จะได้ไม่พลาดเรื่องราวดีๆจากหมอนะคะ
00:09:41 → 00:09:43 แล้วคลิปหน้าเรามาติดตามซีรียส์
00:09:43 → 00:09:46 โปรไบโอติกกันต่อ H