00:00:00 → 00:00:04 คะคุณผู้ทรงคะการขับถ่ายค่ะมีส่วนสำคัญ
00:00:04 → 00:00:07 ต่อสุขภาพชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็น
00:00:07 → 00:00:10 อย่างมากเลยนะคะใครที่มีระบบการขับถ่าย
00:00:10 → 00:00:13 ที่เป็นปกติก็ส่งผลให้การดำเนินชีวิตใน
00:00:13 → 00:00:16 วันนั้นราบรื่นได้ค่ะมีการรายงานที่น่าสน
00:00:16 → 00:00:19 ใจที่หมออยากจะยกมาฝากค่ะเป็นงานวิจัยของ
00:00:19 → 00:00:22 bmj หรือว่าบริติสไม่ได้เข้าเจอร์นัลนะ
00:00:22 → 00:00:24 คะเป็นการเก็บข้อมูลในประเทศเม็กซิโกใน
00:00:24 → 00:00:27 ช่วงปี 2019 หรือว่าปี
00:00:27 → 00:00:30 2562 ค่ะที่การเก็บข้อมูลช่วงเดือนอ่าน
00:00:30 → 00:00:34 เมษายนถึงพฤษภาคมค่ะบอกว่าในช่วงนั้น
00:00:34 → 00:00:36 ประเทศเม็กซิโกค่ะมีการ lock Down
00:00:36 → 00:00:39 ประมาณ 1-2 เดือนเขาก็มีการสำรวจประชากร
00:00:39 → 00:00:43 ประมาณ 700 คนค่ะพบว่ามีปัญหาท้องผูกค่ะ
00:00:43 → 00:00:46 ประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรที่สำรวจเลยค่ะ
00:00:46 → 00:00:49 ทั้งนี้สาเหตุที่เขาวิเคราะห์ออกมาค่ะ
00:00:49 → 00:00:52 เพราะว่ามีความเกี่ยวข้องกับการที่ล็อค
00:00:52 → 00:00:54 ดาวทำให้ประชาชนเนี่ยไม่ค่อยจะขยับ
00:00:54 → 00:00:56 เคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็เติมน้ำน้อยด้วย
00:00:56 → 00:01:00 ค่ะทีนี้ประเด็นที่น่าสนใจก็คือปัญหาอา
00:01:00 → 00:01:03 ของผูกค่ะน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่
00:01:03 → 00:01:05 ไม่ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็การ
00:01:05 → 00:01:08 ดื่มน้ำน้อยแต่นี่เป็นเพียงปัจจัยนึงค่ะ
00:01:08 → 00:01:11 วันนี้หมอเลยอยากพาทุกคนมาติดตามหรือว่า
00:01:11 → 00:01:14 มาศึกษาแนวทางในการดูแลเรื่องท้องผูกกัน
00:01:14 → 00:01:17 ภาวะท้องผูกเนี่ยมันมีความน่าสนใจยังไงมี
00:01:17 → 00:01:19 สัญญาณอันตรายอะไรไหมที่เกี่ยวกับท้องผูก
00:01:19 → 00:01:22 จะสัมพันธ์กับโรคมะเร็งค่ะติดตามกันค่ะ
00:01:22 → 00:01:26 อาการท้องผูกเรื้อรังค่ะจะเป็นอาการที่
00:01:26 → 00:01:29 ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนที่เป็นท้อง
00:01:29 → 00:01:32 ผูกเป็นอย่างมากค่ะไม่ว่าจะเป็นทางกายทาง
00:01:32 → 00:01:35 ใจทุกข์ทรมานพอๆกันเลยค่ะวันนี้หมอละอยาก
00:01:35 → 00:01:37 พามาดูเขาว่าอะไรที่เรียกว่าท้องผูก
00:01:37 → 00:01:41 เรื้อรังเป็นยังไงค่ะท้องผูกไหมคะนิยาม
00:01:41 → 00:01:44 ทั่วๆไปเนี่ยก็คือปริมาณความถี่ในการขับ
00:01:44 → 00:01:47 ถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติค่ะสมาคมประสาท
00:01:47 → 00:01:50 ทางเดินอาหารและการเคลื่อนไหวประเทศไทย
00:01:50 → 00:01:54 ค่ะและให้นิยามคำว่าท้องผูกเรื้อรังคือคน
00:01:54 → 00:01:57 ที่มีอาการดังกล่าวต่อไปนี้ครบ 3 เดือน
00:01:57 → 00:02:00 ค่ะโดยอาการทั้งแรกดำเนินมาไม่น้อยม 6
00:02:00 → 00:02:04 เดือนที่ผ่านมาค่ะได้แก่อุจจาระไม่เลว
00:02:04 → 00:02:07 นิ่มถังไม่ใช้ยาระบายร่วมกับอาการเกิน 2
00:02:07 → 00:02:09 อาจารย์ขึ้นไปประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์หรือ 1
00:02:09 → 00:02:11 ใน 4 ของการขับถ่ายในชีวิตประจำวันของเรา
00:02:11 → 00:02:14 ได้แก่ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อ
00:02:14 → 00:02:17 สัปดาห์อุจจาระเป็นก้อนแข็งรู้สึกถ่าย
00:02:17 → 00:02:20 อุจจาระไม่สุดหรือรู้สึกถ่ายไม่ออกมาจาก
00:02:20 → 00:02:23 มีสิ่งอุดการที่ทวารหนักต้องใช้ตัวช่วยทำ
00:02:23 → 00:02:26 ให้อุจจาระออกมาและต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ
00:02:26 → 00:02:29 มากกว่าปกติและไม่เข้าเกณฑ์โรคลำไส้แปร
00:02:29 → 00:02:32 ปรวนการเกณฑ์การวินิจฉัยทางการแพทย์ของ
00:02:32 → 00:02:35 โรมไครทีเรียที่ 4 ถ้าใครที่มีอาการดัง
00:02:35 → 00:02:37 กล่าวที่หมอได้กล่าวไปจัดว่ามีภาวะท้อง
00:02:37 → 00:02:40 ผูกเรื้อรังแล้วค่ะ
00:02:40 → 00:02:43 มีสาเหตุที่ทำให้ท้องผูกค่ะมีหลายสาเหตุ
00:02:43 → 00:02:46 มากๆเลยมาดูที่กลุ่มแรกกันบ้างค่ะสาเหตุ
00:02:46 → 00:02:50 แรกก็คือยาค่ะเชื่อให้เค้าอาญาเนี่ยมีผล
00:02:50 → 00:02:53 ต่อภาวะท้องผูกของเรามากเลยใครที่ทานยา
00:02:53 → 00:02:55 ดังต่อไปนี้นะคะแล้วมีอาการท้องผูกเนี่ย
00:02:55 → 00:02:58 ช่วยรบกวนปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยหาแนวทาง
00:02:58 → 00:03:01 ในการรักษาค่ะยายทุมแรกก็จะเป็นกลุ่มของ
00:03:01 → 00:03:04 ยาแก้ปวดโดยเฉพาะเอ็นเสด nsaids ก็คือยา
00:03:04 → 00:03:07 แก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ค่ะเช่น
00:03:07 → 00:03:10 ไอบูโพรเฟนไดโคลฟีแนครวมถึงยาแก้ปวดที่มี
00:03:10 → 00:03:13 ส่วนผสมของมอร์ฟีนค่ะอย่าที่มีผลผสมของ
00:03:13 → 00:03:16 กลุ่มอนุพันธ์พวกมอร์ฟีนนะคะจะทำให้ท้อง
00:03:16 → 00:03:19 ผูกไปเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาแก้ปวดนี้
00:03:19 → 00:03:21 เยอะๆเช่นผู้ป่วยติดเตียงผู้ป่วยโรค
00:03:21 → 00:03:25 มะเร็งค่ะต่อไปจะเป็นยาลดความดันค่ะใน
00:03:25 → 00:03:28 กลุ่ม Calcium Channel blocker ค่ะตัว
00:03:28 → 00:03:31 อย่างยากลุ่มมีเช่นแอมโลดิปีนค่ะจะทำให้
00:03:31 → 00:03:34 ท้องผูกได้ค่ะนอกจากนี้ก็ยังมียาในกลุ่ม
00:03:34 → 00:03:38 ของยาขับปัสสาวะค่ะยารักษาโรคซึมเศร้ายา
00:03:38 → 00:03:41 ต้านเศร้าเช่นอณิษฐาคะค่ะแล้วก็ยาที่มี
00:03:41 → 00:03:44 ส่วนผสมของธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบยาที่
00:03:44 → 00:03:47 มีส่วนผสมของแถวเสี้ยมเป็นส่วนประกอบเช่น
00:03:47 → 00:03:50 อาญาน้ำที่ใช้ในการดื่มเพื่อรักษาโรคของ
00:03:50 → 00:03:52 กระเพาะอาหารอักเสบค่ะมีแคลเซียมเป็นส่วน
00:03:52 → 00:03:57 ประกอบทำให้มีขนท้องผูกได้ค่ะโรคหรือความ
00:03:57 → 00:03:59 ผิดปกติของระบบฮอร์โมนเช่นโรคเบาหวาน
00:03:59 → 00:04:02 ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำเกลือแร่โพแทสเซียมต่ำ
00:04:02 → 00:04:05 ภาวะแคลเซียมในเลือดสูงกว่าปกติโรคหรือ
00:04:05 → 00:04:08 ความผิดปกติทางระบบประสาทและสมองเช่นโรค
00:04:08 → 00:04:11 พาร์กินสันโรคหนังแข็งโรคหลอดเลือดสมอง
00:04:11 → 00:04:14 โรคเกี่ยวกับไขสันหลังโรคทางสุขภาพจิต
00:04:14 → 00:04:17 หรือจิตเวชเช่นโรคซึมเศร้าโรคพฤติกรรมการ
00:04:17 → 00:04:20 กินที่ผิดปกติโรคเกี่ยวกับการอุดจ้างของ
00:04:20 → 00:04:23 ลำไส้จากสาเหตุต่างๆเช่นมะเร็งหรือเนื้อ
00:04:23 → 00:04:26 งอกของลำไส้ใหญ่และทวารหนักโรคกระปอบที่
00:04:26 → 00:04:30 ทวารหนักโรคที่มีการควบคุมระบบการขับถ่าย
00:04:30 → 00:04:34 ของลำไส้อ่ะที่ผิดปกติเช่นภาวะลำไส้แปร
00:04:34 → 00:04:36 ปรวนหรือว่าโรคที่กล้ามเนื้อหูรูดทวาร
00:04:36 → 00:04:40 หนักทำงานผิดปกติค่ะนอกจากนี้ค่ะพฤติกรรม
00:04:40 → 00:04:43 ก็จะส่งผลให้มีภาวะท้องผูกก็คือคนที่ไม่
00:04:43 → 00:04:46 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายค่ะเช่นคนที่
00:04:46 → 00:04:49 นั่งนานๆทำงานๆหรือว่าผู้ป่วยติดเตียงค่ะ
00:04:49 → 00:04:52 ก็ส่งผลทำให้ท้องผูกได้แล้วก็ภาวะที่เรา
00:04:52 → 00:04:55 เนี่ยไม่ค่อยจะทานผักผลไม้หรือว่าทาน
00:04:55 → 00:04:58 ไฟเบอร์ค่ะนอกจากนี้ก็คือคนที่ดื่มน้ำ
00:04:58 → 00:05:02 น้อยก็ทำให้ท้องผูกได้ค่ะผลที่ตามมาจาก
00:05:02 → 00:05:05 การที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังค่ะใครก็ตาม
00:05:05 → 00:05:08 ค่ะที่ท้องผูกขับถ่ายไม่ค่อยออกนะคะมันจะ
00:05:08 → 00:05:11 มีปัญหาที่พบได้บ่อยๆค่ะไม่ว่าจะเป็นความ
00:05:11 → 00:05:14 รู้สึกของการอื่นอาจรู้สึกไม่ค่อยตุ๊ก
00:05:14 → 00:05:16 สบายเลยค่ะวันนี้ยังไม่ได้ขับถ่ายทำงานก็
00:05:16 → 00:05:19 รู้สึกมันไม่ของตัวแน่นท้องยังไงก็ไม่รู้
00:05:19 → 00:05:22 นะคะนอกจากนี้จะมีอาการที่เต็มชาติที่พบ
00:05:22 → 00:05:25 ได้บ่อยในคนที่ท้องผูกเรื้อรังมากๆเมื่อ
00:05:25 → 00:05:28 ออกแรงเบ่งเยอะค่ะจะทำให้แรงดันในช่อง
00:05:28 → 00:05:32 ท้องมันสูงขึ้นก็จะทำให้บางส่วนของลำไส้
00:05:32 → 00:05:35 ใหญ่อ้ะมันยื่นมันโป่งมันนูนออกมาจากทวาร
00:05:35 → 00:05:37 หนักหรือที่เรารู้จักกันในภาวะของ
00:05:37 → 00:05:40 ริดสีดวงทวารนั่นเองค่ะแต่ถ้าเกิดว่าดี
00:05:40 → 00:05:43 มากๆแรงดันมากขึ้นอีกแล้วเฉพาะหลอดเลือด
00:05:43 → 00:05:46 บริเวณทวารน่ะค่ะก็จะทำให้มีการฉีกขาดมี
00:05:46 → 00:05:49 เลือดไหลออกมาเวลาที่เราอุจจาระได้ค่ะแต่
00:05:49 → 00:05:52 ว่าบางคนเนี่ยค่ะก็ยังไม่เพียงแค่นั้นมัน
00:05:52 → 00:05:54 คนอุตรแข็งมากๆเนี่ยทำให้อุจจาระเนี่ย
00:05:54 → 00:05:57 บาตรก้นบัติผิวหนังบริเวณทวารหนักทำให้มี
00:05:57 → 00:06:00 แผลแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวขนาดถ่าย
00:06:00 → 00:06:03 เป็นอย่างมากเลยค่ะผู้ที่มีความดันในช่อง
00:06:03 → 00:06:06 ท้องสูงอาจจะทำให้เกิดโรคไส้เลื่อนหรือ
00:06:06 → 00:06:09 ว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ค่ะนอก
00:06:09 → 00:06:12 จากนี้ความดันในช่องท้องที่สูงยังทำให้
00:06:12 → 00:06:15 ความดันในช่องอกสูงตามไปด้วยเป็นอันตราย
00:06:15 → 00:06:17 ต่อทรวงอกโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคกล้าม
00:06:17 → 00:06:19 เนื้อหัวใจขาดเลือดกระตุ้นให้เจ็บหน้าอก
00:06:19 → 00:06:21 หน้ามืดเป็นลมได้ค่ะ
00:06:21 → 00:06:25 ขอบคุณที่ติดตามรับชมเทียนเอ็นเทลนะคะ
00:06:25 → 00:06:27 อย่าลืมกด Subscribe กดกระดิ่งกดไลค์กด
00:06:28 → 00:06:30 แชร์ทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16
00:06:30 → 00:06:33 เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรับชมรายการสดและ
00:06:33 → 00:06:36 คลิปวีดีโออื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายค่ะ
00:06:36 → 00:06:39 อ่ะ