00:00:00 → 00:00:06 ขอ
00:00:06 → 00:00:08 จบ
00:00:08 → 00:00:17 [เพลง]
00:00:17 → 00:00:21 สนับสนุนโดย to help บริการส่งสุขภาพดี
00:00:21 → 00:00:23 ถึงที่ให้คุณปรึกษาหมอออนไลน์และบริการ
00:00:23 → 00:00:25 ส่งยาถึงบ้าน
00:00:25 → 00:00:29 พบคนไทยกว่าร้อยละ 20 มีปัญหาท้องผูก
00:00:29 → 00:00:33 เรื้อรังชอบนะผู้สูงวัยขัดข้องครูควรตรวจ
00:00:33 → 00:00:36 คัดซองป้องกันมะเร็งลำไส้ดูแลสุขภาพตั้ง
00:00:36 → 00:00:39 แต่วันนี้ปรับการกินออกกำลังกายลดปัญหา
00:00:39 → 00:00:44 ท้องผูกเรื้อรังลุกลามโรคร้ายแรง
00:00:44 → 00:00:47 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการที
00:00:47 → 00:00:50 เอ็นเอ็นเฮลธค่ะรายการที่มากด้วยสาระความ
00:00:50 → 00:00:53 รู้ทางสุขภาพที่น่าสนใจกับหมอลูกละแท้
00:00:53 → 00:00:56 จริงสามีจ่ายฟิวส์พาทุกวันเสาร์เวลา 15:00
00:00:56 → 00:01:00 นถึง 15:30 ค่ะสัปดาห์นี้จะพาคุณผู้ชมทุก
00:01:00 → 00:01:03 เอาไปติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ
00:01:03 → 00:01:06 ปัญหาท้องผูกค่ะไปดูกันเขาว่าท้องผูก
00:01:06 → 00:01:09 เนี่ยเกิดจากอะไรมีแนวทางในการดูแลรักษา
00:01:09 → 00:01:13 มีอาการมีวิธีแก้ไขยังไงไปดูกันค่ะ
00:01:13 → 00:01:17 คะคุณผู้ทรงคะการขับถ่ายค่ะมีส่วนสำคัญ
00:01:17 → 00:01:20 ต่อสุขภาพชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็น
00:01:20 → 00:01:22 อย่างมากเลยนะคะใครที่มีระบบการขับถ่าย
00:01:22 → 00:01:25 ที่เป็นปกติก็ส่งผลให้การดำเนินชีวิตใน
00:01:25 → 00:01:28 วันนั้นราบรื่นได้ค่ะมีการรายงานที่น่าสน
00:01:28 → 00:01:31 ใจที่หมออยากจะยกมาฝากค่ะเป็นงานวิจัยของ
00:01:31 → 00:01:34 bnj หรือว่า Disk ไม่ได้เข้าเจอนอกนะคะ
00:01:34 → 00:01:37 เป็นการเก็บข้อมูลในประเทศเม็กซิโกในช่วง
00:01:37 → 00:01:40 ปี 2019 หรือว่าปี
00:01:40 → 00:01:43 2562 ค่ะที่การเก็บข้อมูลช่วงเดือนอ่าน
00:01:43 → 00:01:47 เมษายนถึงพฤษภาคมค่ะบอกว่าในช่วงนั้น
00:01:47 → 00:01:48 ประเทศเม็กซิโกค่ะมีการ lock Down
00:01:48 → 00:01:52 ประมาณ 1-2 เดือนเขาก็มีการสำรวจประชากร
00:01:52 → 00:01:56 ประมาณ 700 คนค่ะพบว่ามีปัญหาท้องผูกค่ะ
00:01:56 → 00:01:59 ประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรที่สำรวจเลยค่ะ
00:01:59 → 00:02:02 ทั้งนี้สาเหตุที่เค้าวิเคราะห์ออกมาค่ะ
00:02:02 → 00:02:04 เพราะว่ามีความเกี่ยวข้องกับการที่ล็อค
00:02:04 → 00:02:07 ดาวทำให้ประชาชนเนี่ยไม่ค่อยจะขยับ
00:02:07 → 00:02:09 เคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็เติมน้ำน้อยด้วย
00:02:09 → 00:02:12 ค่ะทีนี้ประเด็นที่น่าสนใจก็คือปัญหาท้อง
00:02:12 → 00:02:15 ผูกก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ไม่
00:02:15 → 00:02:18 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็การดื่ม
00:02:18 → 00:02:21 น้ำน้อยแต่นี่เป็นเพียงปัจจัยนึงค่ะวัน
00:02:21 → 00:02:24 นี้หมอเลยอยากพาทุกคนมาติดตามหรือว่ามา
00:02:24 → 00:02:26 ศึกษาแนวทางในการดูแลเรื่องท้องผูกกันถ้า
00:02:26 → 00:02:30 ว่าท้องกลุ่มเนี่ยมีความน่าสนใจยังไงมี
00:02:30 → 00:02:32 สัญญาณอันตรายอะไรไหมที่เกี่ยวกับท้องผูก
00:02:32 → 00:02:35 และจะสัมพันธ์กับโรคมะเร็งค่ะติดตามกัน
00:02:35 → 00:02:38 ค่ะอาการท้องผูกเรื้อรังค่ะจะเป็นอาการ
00:02:38 → 00:02:41 ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนที่เป็น
00:02:41 → 00:02:44 ท้องผูกเป็นอย่างมากค่ะไม่ว่าจะเป็นทาง
00:02:44 → 00:02:47 กายทางใจทุกข์ทรมานพอๆกันเลยค่ะวันนี้หมอ
00:02:47 → 00:02:50 ละอยากพามาดูเขาว่าอะไรที่เรียกว่าท้อง
00:02:50 → 00:02:53 ผูกเรื้อรังเป็นยังไงค่ะท้องผูกนะคะนิยาม
00:02:53 → 00:02:56 ทั่วๆไปเนี่ยก็คือปริมาณความถี่ในการขับ
00:02:56 → 00:03:00 ถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติค่ะสมาคมประสาท
00:03:00 → 00:03:03 ทางเดินอาหารและการเคลื่อนไหวประเทศไทย
00:03:03 → 00:03:06 ค่ะและให้นิยามคำว่าท้องผูกเรื้อรังคือคน
00:03:06 → 00:03:09 ที่มีอาการดังกล่าวต่อไปนี้ครบ 3 เดือน
00:03:09 → 00:03:13 ค่ะโดยอาการครั้งแรกดำเนินมาไม่น้อยกว่า 6
00:03:13 → 00:03:16 เดือนที่ผ่านมาค่ะได้แก่อุจจาระไม่เลว
00:03:16 → 00:03:19 นิ่มถังไม่ใช้ยาระบายร่วมกับอาการเกิน 2
00:03:19 → 00:03:22 อาการขึ้นไปประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์หรือ 1
00:03:22 → 00:03:24 ใน 4 ของการขับถ่ายในชีวิตประจำวันของเรา
00:03:24 → 00:03:27 ได้แก่ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อ
00:03:27 → 00:03:30 สัปดาห์อุจจาระเป็นก้อนแข็งรู้สึกถ่าย
00:03:30 → 00:03:33 อุจจาระไม่สุดหรือรู้สึกถ่ายไม่ออกมาจาก
00:03:33 → 00:03:36 มีสิ่งอุดการที่ทวารหนักต้องใช้ตัวช่วยทำ
00:03:36 → 00:03:39 ให้อุจจาระออกมาและต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ
00:03:39 → 00:03:42 มากกว่าปกติและไม่เข้าเกณฑ์โรคลำไส้แปร
00:03:42 → 00:03:44 ปรวนการเกณฑ์การวินิจฉัยทางการแพทย์ของ
00:03:44 → 00:03:47 โรมไครทีเรียที่ 4 ถ้าใครที่มีอาการดัง
00:03:47 → 00:03:50 กล่าวที่หมอได้กล่าวไปก็จัดว่ามีภาวะท้อง
00:03:50 → 00:03:52 ผูกเรื้อรังแล้วค่ะ
00:03:52 → 00:03:56 สาเหตุที่ทำให้ท้องถูกค่ะมีหลายสาเหตุมาก
00:03:56 → 00:03:59 ๆเลยมาดูที่กลุ่มแรกกันบ้างค่ะสาเหตุแรก
00:03:59 → 00:04:03 ก็คือยาค่ะเชื่อให้เค้าอาญาเนี่ยมีผลต่อ
00:04:03 → 00:04:05 ภาวะท้องผูกของเรามากเลยใครที่ทานยาดัง
00:04:05 → 00:04:08 ต่อไปนี้นะคะแล้วมีอาการท้องผูกเนี่ยช่วย
00:04:08 → 00:04:11 รบกวนปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยหาแนวทางในการ
00:04:11 → 00:04:14 รักษาค่ะอย่ากลุ่มแรกจะคือกลุ่มของยาแก้
00:04:14 → 00:04:17 ปวดโดยเฉพาะเอ็นเสด nsaids ก็คือยาแก้ปวด
00:04:17 → 00:04:20 ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ค่ะเช่นไอบูโพรเฟน
00:04:20 → 00:04:23 ไดโคลฟีแนครวมถึงยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของ
00:04:23 → 00:04:26 มอร์ฟีนค่ะอย่าที่มีผลผสมของกลุ่ม
00:04:26 → 00:04:29 อนุพันธ์พวกมอร์ฟีนนะคะจะทำให้ท้องผูกไป
00:04:30 → 00:04:32 เฉพาะผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาแก้ปวดนี้เยอะๆ
00:04:32 → 00:04:35 เช่นผู้ป่วยติดเตียงผู้ป่วยโรคมะเร็งค่ะ
00:04:35 → 00:04:39 ต่อไปจะเป็นยาลดความดันค่ะในกลุ่ม Calcium
00:04:39 → 00:04:41 Channel blocker ค่ะตัวอย่างยากลุ่มมี
00:04:41 → 00:04:44 เช่นแอมโลดิปีนค่ะจะทำให้ท้องผูกได้ค่ะ
00:04:44 → 00:04:47 นอกจากนี้ก็ยังมียาในกลุ่มของยาขับ
00:04:47 → 00:04:51 ปัสสาวะค่ะยารักษาโรคซึมเศร้ายาต้านเศร้า
00:04:51 → 00:04:55 เช่นอะมิชลินค่ะแล้วก็ยาที่มีส่วนผสมของ
00:04:55 → 00:04:57 ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบยาที่มีส่วนผสม
00:04:57 → 00:05:01 ของแถวเสี้ยมเป็นส่วนประกอบเช่นอาญาน้ำ
00:05:01 → 00:05:03 ที่ใช้ในการดื่มเพื่อรักษาโรคของกระเพาะ
00:05:03 → 00:05:05 อาหารอักเสบค่ะมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ
00:05:05 → 00:05:09 ทำให้มีขนท้องผูกได้ค่ะโรคหรือความผิด
00:05:09 → 00:05:12 ปกติของระบบฮอร์โมนเช่นโรคเบาหวานฮอร์โมน
00:05:12 → 00:05:15 ไทรอยด์และก็ได้โพแทสเซียมต่ำภาวะ
00:05:15 → 00:05:18 แคลเซียมในเลือดสูงกว่าปกติโรคหรือความ
00:05:18 → 00:05:21 ผิดปกติทางระบบประสาทและสมองเช่นโรคพาร์
00:05:21 → 00:05:24 กินสันโรคหนังแข็งโรคหลอดเลือดสมองโรค
00:05:24 → 00:05:27 เกี่ยวกับไขสันหลังโรคทางสุขภาพจิตหรือ
00:05:27 → 00:05:30 จิตเวชเช่นโรคซึมเศร้าโรคพฤติกรรมการกิน
00:05:30 → 00:05:33 ที่ผิดปกติโรคเกี่ยวกับการอุดก้างของลำ
00:05:33 → 00:05:36 ไส้จากสาเหตุต่างๆเช่นมะเร็งหรือเนื้องอก
00:05:36 → 00:05:39 ของลำไส้ใหญ่และทวารหนักโรคกระเปาะต์ที่
00:05:39 → 00:05:43 ทวารหนักโรคที่มีการควบคุมระบบการขับถ่าย
00:05:43 → 00:05:46 ของลำไส้อ่ะที่ผิดปกติเช่นภาวะลำไส้แปร
00:05:46 → 00:05:49 ปรวนหรือว่าโรคที่กล้ามเนื้อหูรูดทวาร
00:05:49 → 00:05:52 หนักทำงานผิดปกติค่ะนอกจากนี้ค่ะพฤติกรรม
00:05:52 → 00:05:56 ที่อาจจะส่งผลให้มีภาวะท้องผูกก็คือคนที่
00:05:56 → 00:05:58 ไม่ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายค่ะเช่นคน
00:05:58 → 00:06:01 ที่นั่งนานๆทำงานๆหรือว่าผู้ป่วยติดเตียง
00:06:01 → 00:06:05 ค่ะก็ส่งผลทำให้ท้องผูกได้แล้วก็ภาวะที่
00:06:05 → 00:06:08 เราเนี่ยไม่ค่อยจะทานผักผลไม้หรือว่าทาน
00:06:08 → 00:06:11 ไฟเบอร์ค่ะนอกจากนี้ก็คือคนที่ดื่มน้ำ
00:06:11 → 00:06:14 น้อยก็ทำให้ท้องผูกได้ค่ะเหตุผลที่ตามมา
00:06:14 → 00:06:18 จากการที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังค่ะใครก็
00:06:18 → 00:06:20 ตามค่ะที่ท้องผูกขับถ่ายไม่ค่อยออกนะคะ
00:06:20 → 00:06:23 มันจะมีปัญหาที่พบได้บ่อยๆค่ะไม่ว่าจะ
00:06:23 → 00:06:26 เป็นความรู้สึกของการอื่นอาจรู้สึกไม่
00:06:26 → 00:06:28 ค่อยตุ๊กสบายเลยค่ะวันนี้ยังไม่ได้ขับ
00:06:28 → 00:06:31 ถ่ายทำงานก็รู้สึกมันไม่ของตัวแน่นท้อง
00:06:31 → 00:06:34 ยังไงก็ไม่รู้นะคะนอกจากนี้จะมีอาการที่
00:06:34 → 00:06:36 เต็นท์ชาร์จที่พบได้บ่อยในคนที่ท้องผูก
00:06:36 → 00:06:40 เรื้อรังมากๆเมื่อออกแรงเบ่งเยอะค่ะจะทำ
00:06:40 → 00:06:43 ให้แรงดันในช่องท้องมันสูงขึ้นก็จะทำให้
00:06:43 → 00:06:47 บางส่วนของลำไส้ใหญ่อ้ะมันยื่นมันโป่งมัน
00:06:47 → 00:06:49 นูนออกมาจากทวารหนักหรือที่เรารู้จักกัน
00:06:49 → 00:06:52 ในภาวะของริดสีดวงทวารนั่นเองค่ะแต่ถ้า
00:06:52 → 00:06:55 เกิดว่าเป็นมากๆแรงดันมากขึ้นอีกแล้ว
00:06:55 → 00:06:57 เฉพาะหลอดเลือดบริเวณทวารน่ะค่ะก็จะทำให้
00:06:57 → 00:07:00 มีการฉีกขาดมีเลือดไหลออกมาเวลาที่เรา
00:07:00 → 00:07:03 อุจจาระได้ค่ะแต่ว่าบางคนเนี่ยค่ะก็ยัง
00:07:03 → 00:07:06 ไม่เพียงแค่นั้นมาคนอุตรแข็งมากๆเนี่ยทำ
00:07:06 → 00:07:09 ให้อุจจาระเนี่ยบาตรก้นบัติผิวหนังบริเวณ
00:07:09 → 00:07:11 ทวารหนักทำให้มีแผลแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด
00:07:11 → 00:07:15 รวดร้าวขนาดถ่ายเป็นอย่างอันนี้ค่ะผู้ที่
00:07:15 → 00:07:18 มีความดันในช่องท้องสูงอาจจะทำให้เกิดโรค
00:07:18 → 00:07:20 ไส้เลื่อนหรือว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่
00:07:20 → 00:07:23 อยู่ได้ค่ะนอกจากนี้ความดันในช่องท้องที่
00:07:23 → 00:07:26 สูงยังทำให้ความดันในช่องอกสูงตามไปด้วย
00:07:26 → 00:07:29 เป็นอันตรายต่อทรวงอกโดยเฉพาะผู้ที่เป็น
00:07:29 → 00:07:32 โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดกระตุ้นให้
00:07:32 → 00:07:35 เจ็บหน้าอกหน้ามืดเป็นลมได้ค่ะคุณผู้ชมคะ
00:07:35 → 00:07:38 จะเห็นว่าปัญหาท้องผูกเรื้อรังเนี่ยค่ะทำ
00:07:38 → 00:07:41 ให้มีความไม่สุขสบายทั้งกายและใจส่งผล
00:07:41 → 00:07:43 กระทบต่อการใช้ชีวิตของเราเป็นอย่างมาก
00:07:43 → 00:07:45 เลยนะคะช่วงนี้เนี่ยเราได้ทราบถึงสาเหตุ
00:07:45 → 00:07:48 และอาการต่างๆกันไปแล้วล่วงหน้าหมอจะพาไป
00:07:48 → 00:07:50 ติดตามว่าถ้าเรามีอาการท้องผูกเรื้อรัง
00:07:50 → 00:07:53 เนี่ยก็จะมีวิธีในการดูแลรักษายังไงบ้าง
00:07:53 → 00:07:57 ไปติดตามในช่วงหน้าค่ะอ่ะ
00:07:57 → 00:08:01 [เพลง]
00:08:01 → 00:08:02 พ.ย
00:08:02 → 00:08:05 [เพลง]
00:08:05 → 00:08:06 ขอ
00:08:06 → 00:08:13 จบการรีวิว
00:08:13 → 00:08:17 [เพลง]
00:08:17 → 00:08:19 มี
00:08:19 → 00:08:22 คู่สู้ Call it ให้คนไทยชนะไปด้วยกันกับ
00:08:22 → 00:08:26 ดู 5 จี่และบริการที่ตอบโจทย์ทุกรัฐตาย
00:08:26 → 00:08:29 จะกลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของ T N Health
00:08:29 → 00:08:31 กับหมอหรือปลาอีกแล้วนะคะหลังจากช่วงที่
00:08:31 → 00:08:33 แล้วเนี่ยที่เราได้ทราบถึงสาเหตุและก็
00:08:33 → 00:08:36 อาการจากภาวะท้องผูกเรื้อรังกันไปแล้ว
00:08:36 → 00:08:38 ช่วงนี้เรามาดูแนวทางในการแก้ไขปัญหาท้อง
00:08:38 → 00:08:42 ผูกกันค่ะโดยทั่วไปเนี่ยผู้ที่มีภาวะท้อง
00:08:42 → 00:08:45 ผูกค่ะมันจะมีการดูแลตนเองมาระดับหนึ่ง
00:08:45 → 00:08:47 แล้วก็คืออาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง
00:08:47 → 00:08:50 ดื่มน้ำเยอะขึ้นทานผักผลไม้หรือว่าบางคน
00:08:50 → 00:08:53 ก็มีการไปหาซื้อยาระบายมารับประทานเองกัน
00:08:53 → 00:08:56 บ้างแล้วนะคะแต่จริงๆแล้วเนี่ยในผู้ที่มี
00:08:56 → 00:08:58 ภาวะท้องผูกเรื้อรังเนี่ยจริงๆจำเป็นจะ
00:08:58 → 00:09:01 ต้องปรึกษาแท่นนะคะเวลาที่เรามาหาคุณหมอ
00:09:01 → 00:09:03 หรือว่ามาคบหาด้วยปัญหาท้องผูกเรื้อรัง
00:09:03 → 00:09:06 เนี่ยคุณหมอเขาก็จะถามประวัติสุขภาพโรค
00:09:06 → 00:09:10 ประจำตัวหรือว่ายาต่างๆที่น่าจะมีผลทำให้
00:09:10 → 00:09:13 เรามีอาการท้องผูกค่ะซึ่งทั้งหมดนี้คุณ
00:09:13 → 00:09:16 หมอก็จะนำไปสู่การตรวจร่างกายว่ามีสัญญาณ
00:09:16 → 00:09:19 มีลักษณะอะไรที่เกี่ยวข้องกับอาการท้อง
00:09:19 → 00:09:22 ผูกบ้างนำไปสู่การทรงตัวต่างๆเพิ่มเติม
00:09:22 → 00:09:25 ค่ะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเนี่ย
00:09:25 → 00:09:27 เป็นสิ่งที่หมออยากแนะนำคือเรื่องแรกก่อน
00:09:27 → 00:09:30 ค่ะเพราะว่าทำได้ง่ายแล้วก็ไม่เสียค่าใช้
00:09:30 → 00:09:32 จ่ายอะไรเบื้องต้นแนะนำให้ผู้ที่มีอาการ
00:09:32 → 00:09:35 ท้องผูกดื่มน้ำเยอะขึ้นแล้วก็แล้วทาน
00:09:35 → 00:09:38 ไฟเบอร์รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นเพราะ
00:09:38 → 00:09:41 ว่าจะช่วยกระตุ้นทำให้ลำไส้เราเนี่ยบีบ
00:09:41 → 00:09:44 ตัวทำงานได้ดีขับจะลาออกง่ายขึ้นค่ะการ
00:09:44 → 00:09:46 รับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติก
00:09:46 → 00:09:50 การออกกำลังกายหักลองปรับพฤติกรรมการ
00:09:50 → 00:09:53 ดำเนินชีวิตแล้วยังไม่เป็นผลการเข้ารับคำ
00:09:53 → 00:09:55 ปรึกษาได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:09:55 → 00:09:58 ชาญจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างตรง
00:09:58 → 00:10:01 จุดมากยิ่งขึ้นค่ะซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยและ
00:10:01 → 00:10:04 ทำการรักษาโดยวิธีการต่างๆต่อมามาดูที่
00:10:04 → 00:10:07 การฝึกขับถ่ายด้วยทีธรรมชาติหรือว่า
00:10:07 → 00:10:10 ไบโอฟีดแบค Training ค่ะไบโอฟีดแบค
00:10:10 → 00:10:13 Training อ่ะจริงๆนำมาใช้รักษาในกลุ่ม
00:10:13 → 00:10:15 ผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกที่เกิดจากภาวะ
00:10:15 → 00:10:19 กล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักทำงานไม่สัมพันธ์
00:10:19 → 00:10:22 กับการเบ่งถ่ายค่ะภาวะนี้จำเป็นต้องมาทำ
00:10:22 → 00:10:25 มารักษาที่โรงพยาบาลนะคะวิธีการดูแล
00:10:25 → 00:10:28 เรื่องของโน้ทออฟฟิตแบบเนี่ยคุณหมอหรือ
00:10:28 → 00:10:31 แพทย์นะคะจะประเมินด้วยการใช้เครื่องมือ
00:10:31 → 00:10:35 เข้าไปตรวจวัดกระแสประสาทบริเวณที่ครูรูด
00:10:35 → 00:10:37 ทวารหนักที่กล้ามเนื้อรอบทวารหนักของเรา
00:10:37 → 00:10:40 ขณะที่เบ่งถ่ายค่ะดูว่ามีความสัมพันธ์มี
00:10:40 → 00:10:43 แนวโน้มที่จะพัฒนาทำให้รู้สึกว่าบีบแล้ว
00:10:43 → 00:10:46 ก็ขับอุจจาระออกได้มากน้อยแค่ไหนค่ะวิธี
00:10:46 → 00:10:49 นี้ถ้าทำแล้วประสบความสำเร็จเนี่ยจะช่วย
00:10:49 → 00:10:52 ในการรักษาภาวะท้องผูกเรื้อรังได้ดีมากๆ
00:10:52 → 00:10:55 แล้วก็ลดการใช้ยาระบายโดยไม่จำเป็นได้
00:10:55 → 00:10:58 ด้วยค่ะการใช้ยาระบายควรใช้เมื่อมีความ
00:10:58 → 00:11:00 จำเป็นจริงๆและควรใช้ตามที่แพทย์สั่งหรือ
00:11:00 → 00:11:05 แนะนำค่ะยาระบายมีหลายกลุ่มค่ะกลุ่มที่
00:11:05 → 00:11:07 แนะนำเป็นลำดับแรกในการใช้ยาระบายคือยา
00:11:07 → 00:11:10 ที่ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มปริมาณอุจจาระหรือ
00:11:10 → 00:11:13 ว่าฟอร์มอินและสถีบมีลักษณะคล้ายไฟเบอร์
00:11:13 → 00:11:16 ค่ะเพราะฉะนั้นคุณสมบัติก็คือจะดูดซึมน้ำ
00:11:16 → 00:11:19 แล้วก็อุ้มน้ำได้ดีอุจจาระจึงเป็นก็และก็
00:11:19 → 00:11:22 นิ่มขึ้นแต่ว่าถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอเนี่ย
00:11:22 → 00:11:25 การทานยาระบายกลุ่มนี้อาจจะส่งผลให้เกิด
00:11:25 → 00:11:28 ปัญหาตามมาคือมีอาการท้องอืดแล้วถ่ายยาก
00:11:28 → 00:11:31 ได้ค่ะยากลุ่มนี้จะให้ผลหลังรับประทานยา
00:11:31 → 00:11:34 ประมาณ 2 วันตัวอย่างยาเช่นเมทิลเซลลูโลส
00:11:34 → 00:11:38 สี่เหลี่ยมค่ะต่อมาเป็นยาที่ออกฤทธิ์ด้วย
00:11:38 → 00:11:41 การกระตุ้นดูดกลับน้ำเข้ามาในลำไส้หรือ
00:11:41 → 00:11:44 ว่า of โมติกและเศรษฐีค่ะตัวอย่างยากลุ่ม
00:11:44 → 00:11:47 นี้ได้แก่และตัวรถ m o m หรือหม่อมที่
00:11:47 → 00:11:50 ย่อมาจากนิ้วออฟแมกนีเซียมแล้วก็ Poly
00:11:50 → 00:11:52 ethylene glycol หรือว่าพีอีจีหรือว่า
00:11:52 → 00:11:55 มันคนเรียกเป๊กนะคะอย่างนี้ให้ผลหลังการ
00:11:55 → 00:11:58 รับประทานไปแล้วประมาณ 2-3 วันข้อควร
00:11:58 → 00:12:01 ระวังในการใช้ยากลุ่มนี้ค่ะคือในผู้ที่มี
00:12:01 → 00:12:04 ภาวะไตวายเรื้อรังโรคไตเสื่อมค่ะอาจจะมี
00:12:04 → 00:12:06 ปัญหาเนื่องจากระดับนักมีเสียงในเลือดที่
00:12:07 → 00:12:11 ผิดปกติได้แล้วก็คนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสค่ะ
00:12:11 → 00:12:14 เพราะว่าว่ายากลุ่มนี้อาจจะมีส่วนผสมของ
00:12:14 → 00:12:16 น้ำตาลแลคโตสอยู่ในนั้นได้ค่ะต่อมาก็เป็น
00:12:16 → 00:12:19 ยากลุ่มที่ทำให้อุจจาระเรานิ่มขึ้นค่ะ
00:12:19 → 00:12:22 หรือว่าสตูลซอฟเทนเนอร์และเศรษฐีค่ะยา
00:12:22 → 00:12:24 ส่วนมากมีฤทธิ์ของน้ำมันเป็นส่วนประกอบ
00:12:24 → 00:12:27 ตัวอย่างยากลุ่มนี้เช่นอาทิขอต้อนหรือว่า
00:12:27 → 00:12:31 ดูพิเศษค่ะต่อมายาที่กระตุ้นการบีบตัวของ
00:12:31 → 00:12:34 ลำไส้หรือว่า Still และและเศษทิพย์อยากจะ
00:12:34 → 00:12:36 ไปกระตุ้นระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ
00:12:36 → 00:12:39 ในระบบทางเดินอาหารเพื่อให้ลำไส้เคลื่อน
00:12:39 → 00:12:42 ไหวได้เร็วขึ้นให้ผลหลังจากรับประทานไป
00:12:42 → 00:12:45 6-12 ชั่วโมงค่ะดังนั้นจึงแนะนำรับ
00:12:45 → 00:12:48 ประทานตอนหัวค่ำหรือว่าก่อนนอนตัวอย่างยา
00:12:48 → 00:12:51 กลุ่มนี้เช่นมะขามแขกบิซาโคดิลข้อควร
00:12:51 → 00:12:54 ระวังคือยากลุ่มนี้มักมีผลข้างเคียงทำให้
00:12:54 → 00:12:57 มีอาการท้องเสียปวดท้องได้ค่ะต่อมาเป็นยา
00:12:57 → 00:13:00 ระบายชนิดเน็ตหรือว่าสวนช่วยให้อุจจาระ
00:13:00 → 00:13:03 อ่อนนุ่มและเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้
00:13:03 → 00:13:07 ตัวอย่างมีส่วนผสมของโซเดียมฟอสเฟตค่ะมี
00:13:07 → 00:13:10 การศึกษาเพราะว่าผู้ที่มีโรคหัวใจโรคตาย
00:13:10 → 00:13:12 โรคระบบประสาทหรือว่าผู้ที่ใช้ยาส่วนมาก
00:13:12 → 00:13:15 กว่า 1 ครั้งต่อวันมีความเสี่ยงในการเกิด
00:13:15 → 00:13:18 อาการข้างเคียงจากยาชนิดนี้มากกว่าคน
00:13:18 → 00:13:21 กลุ่มอื่นๆอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ
00:13:21 → 00:13:23 ภาวะเกลือแร่ในเลือดที่ผิดปกติค่ะเช่น
00:13:23 → 00:13:26 ฟอสฟอรัสสูงแถวเที่ยวในเลือดต่ำโซเดียม
00:13:26 → 00:13:29 เหรียญหลวงพ่อจะเสี้ยมต่ำซึ่งมีอันตราย
00:13:29 → 00:13:32 ถึงชีวิตต้องระมัดระวังในการใช้นะคะแล้ว
00:13:32 → 00:13:34 ก็ยังมียากลุ่มใหม่ที่เข้ามารักษาภาวะ
00:13:34 → 00:13:37 ท้องผูกเรื้อรังค่ะปัญญาที่กระตุ้นการทำ
00:13:37 → 00:13:40 งานของกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่ค่ะคือโปร
00:13:40 → 00:13:43 แคร์ติกดักยากลุ่มนี้นำมาใช้ในกรณีที่ใช้
00:13:43 → 00:13:46 ยากลุ่มอื่นแล้วไม่ทุเลาค่ะการผ่าตัดค่ะ
00:13:46 → 00:13:49 โดยทั่วไปผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง
00:13:49 → 00:13:52 ส่วนมากสามารถทุเลาหรือว่าดีขึ้นได้ด้วย
00:13:52 → 00:13:55 การปรับพฤติกรรมสุขภาพการฝึกควบคุมการ
00:13:55 → 00:13:57 แบ่งถ่ายรวมถึงการใช้ยาระบายเข้ามาช่วย
00:13:57 → 00:14:00 ค่ะแต่หากผู้ป่วยมีภาวะลำไส้อุดตันมี
00:14:00 → 00:14:03 ปัญหาในการเคลื่อนตัวของอุจจาระที่ผิด
00:14:03 → 00:14:06 ปกติมีกระเปาะที่ทวารหนักมีปัญหากล้าม
00:14:06 → 00:14:08 เนื้อหูรูดทวารหนักที่ทำงานไม่สัมพันธ์
00:14:08 → 00:14:11 กับการแบ่งถ่ายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา
00:14:11 → 00:14:13 ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้ยาอย่าง
00:14:13 → 00:14:16 เต็มที่แล้วหรือว่ามีการทำไบโอฟีดแบค
00:14:16 → 00:14:19 therapy หรือมีปัญหาอื่นร่วมด้วยเช่น
00:14:19 → 00:14:22 กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่อยู่ในภาวะกระบัง
00:14:22 → 00:14:25 ลมหย่อนในผู้หญิงทั้งหมดนี้ค่ะจะเป็นข้อ
00:14:25 → 00:14:28 บ่งชี้ให้พิจารณาจะหมอผ่าตัดรักษาเข้ามา
00:14:28 → 00:14:31 ช่วยเช่นการผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ออกการยกลำ
00:14:31 → 00:14:35 ไส้ขึ้นมาเป็นถุงที่หน้าท้องค่ะนอกจากแนว
00:14:35 → 00:14:37 ทางที่เหมาะได้กล่าวไปแล้วนะคะไม่ว่าจะ
00:14:37 → 00:14:39 เป็นการปรับพฤติกรรมสุขภาพหรือการรับ
00:14:39 → 00:14:42 ประทานยาระบายวันนี้หมอมีคำแนะนำจากแพทย์
00:14:42 → 00:14:45 ผู้เชี่ยวชาญค่ะซึ่งเป็นอาจารย์เฉพาะทาง
00:14:45 → 00:14:48 เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารมาให้คำแนะนำ
00:14:48 → 00:14:51 แนวทางในการรักษาภาวะท้องผูกกันค่ะเช่น
00:14:51 → 00:14:54 Detox นี้มันดีต่อลำไส้มันช่วยรักษา
00:14:54 → 00:14:56 อาการท้องผูกเรื้อรังได้หรือไม่ไปติดตาม
00:14:56 → 00:14:58 กันค่ะเขามาท้องผูกคนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่า
00:14:58 → 00:15:03 อาจจะเป็นแค่ถ่ายปริมาณน้อยลงสลักแข็งนะ
00:15:03 → 00:15:06 ครับจริงๆแล้วอาการท้องผูกเนี่ยก็บางคน
00:15:06 → 00:15:08 อาจจะไม่ทราบว่าบางคนเนี่ยอาจจะมีปัญหา
00:15:08 → 00:15:12 เรื่องเข้าน้ำนานนะครับต้องใช้แรงเด้งงาน
00:15:12 → 00:15:15 เกินบางคนเป็นชั่วโมงโดยที่ใช้เวลาในห้อง
00:15:15 → 00:15:18 น้ำบางคนก็จะมีความรู้สึกของอื่นถ่ายแล้ว
00:15:18 → 00:15:21 รู้สึกว่าเออมันไม่หมดนะครับแล้วก็อาจจะ
00:15:21 → 00:15:25 รู้สึกว่ามีอะไรอุดกลั้นอยู่ที่บริเวณลำ
00:15:25 → 00:15:28 ไส้ใหญ่นะครับมีตัวยาถ่ายนะครับการระบาย
00:15:28 → 00:15:30 เนี่ยก็ค่อนข้างปลอดภัยนะครับแล้วก็มี
00:15:30 → 00:15:33 หลายกลุ่มนะครับโดยส่วนใหญ่เนี่ยรับ
00:15:33 → 00:15:35 ประทานแล้วก็อาจจะมีความเชื่อว่าจะติด
00:15:35 → 00:15:38 หรือว่าจะต้องใช้ยาถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
00:15:38 → 00:15:41 หรือเปล่านะครับก็มีหลายกลุ่มนะค้ายส่วน
00:15:41 → 00:15:45 ใหญ่ก็ไม่ทำให้ติดนะครับแล้วก็เราช่วย
00:15:45 → 00:15:47 เรื่องคุณภาพซื้อได้ดีดีกว่าไม่ทานนะครับ
00:15:47 → 00:15:51 แต่ก็จะมียาถ่ายในบ้านกลุ่มที่อาจจะทำให้
00:15:51 → 00:15:55 เกิดทำให้เราต้องใช้อากาศเพื่อนๆถ้าเกิด
00:15:55 → 00:15:58 มาสุรพันธ์ต่อเนื่องซึ่งปกติหมอจะใช้ยา
00:15:58 → 00:16:00 กลุ่มนี้เป็นช่วงสั้นๆตอนที่คนไข้มีอาการ
00:16:00 → 00:16:04 เยอะนะครับเพราะคุณแค่อาการดีขึ้นแล้วก็
00:16:04 → 00:16:07 จะเปลี่ยนกลุ่มยาถ่ายที่ไม่มีผลต่อเนื่อง
00:16:07 → 00:16:10 ตรงนี้ก็การส่วนลำไส้นะครับจากการศึกษา
00:16:10 → 00:16:14 ที่พบมาเนี่ยก็อาจจะช่วยได้ในช่วงระยะ
00:16:14 → 00:16:18 เวลาสั้นๆชนิดช็อคเสร็จนะครับแต่ว่าอ่าใน
00:16:18 → 00:16:20 การรักษาในระยะยาวเนี่ยไม่ได้ช่วยเพิ่ม
00:16:20 → 00:16:23 เติมที่จะทำให้อาการท้องผูกดีขึ้นนะครับ
00:16:23 → 00:16:25 ซ้ำแล้วอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่
00:16:25 → 00:16:27 รุนแรงเกิดขึ้นได้นะนี้ก็จะเป็นการติด
00:16:27 → 00:16:29 เชื้อในกระแสเลือดหรือทำให้เกิดลำไส้ฉีก
00:16:29 → 00:16:33 ขาดได้โดยทางทางของอะทางแพ่งเนี่ยก็ไม่
00:16:33 → 00:16:36 แนะนำนะคะให้ใกล้ๆทำเรื่องการสวนลำไส้นะ
00:16:36 → 00:16:40 ครับผมคิดว่าคนเสียน่าจะมากกว่าผลดีปัญหา
00:16:40 → 00:16:42 ท้องผูกนะครับเป็นปัญหาที่พบบ่อยนะครับ
00:16:42 → 00:16:45 การรักษาเริ่มต้นก็อาจจะเริ่มจากการจะ
00:16:45 → 00:16:49 เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของเรานะครับเริ่ม
00:16:49 → 00:16:51 ตั้งแต่การรับประทานอาหารเช่นกันรับ
00:16:51 → 00:16:53 ประทานอาหารที่มีผักผลไม้ให้จิ้มคอนะครับ
00:16:53 → 00:16:57 มีครรภ์รับประทานดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2
00:16:57 → 00:17:00 with ตะวันนะครับแล้วก็อาจจะเริ่มเพิ่ม
00:17:00 → 00:17:03 การออกกำลังกายแอโรบิค Exercise เพิ่ม
00:17:03 → 00:17:07 เติมนะครับอ่าให้ไปเข้าห้องน้ำ
00:17:07 → 00:17:12 เป็นเวลานะครับแล้วก็อาจจะไม่ละเลยอาการ
00:17:12 → 00:17:15 ปวดเด็ดขาดนะครับถ้ามีอาการบุญใจก็ให้รีบ
00:17:15 → 00:17:17 ไปเข้าห้องน้ำนะครับก็รักษาเบื้องต้น
00:17:17 → 00:17:21 อย่างนี้ก่อนถ้าเกิดสมมติว่าไม่ตอบสนองก็
00:17:21 → 00:17:24 ให้มาพบแพทย์ได้นะครับแล้วก็ถ้าเกิดสมุด
00:17:24 → 00:17:26 ท่านมีอาการเตือนของโรคลำไส้มะเร็งมันจะ
00:17:26 → 00:17:30 ก็เช่นมีเรื่องของอ่าน้ำหนักรถเยอะนะครับ
00:17:30 → 00:17:33 อายุมากกว่า 50 ปีนะครับอุจจาระเนี่ยมี
00:17:33 → 00:17:36 ช่องเสียบสลับกับท้องผูกนะครับแล้วก็มี
00:17:36 → 00:17:40 ญาติสายตรงนะครับเช่นพ่อแม่นะครับเป็น
00:17:40 → 00:17:43 มะเร็งลำไส้ใหญ่ถ้ามีของถูกและหลังร่วม
00:17:43 → 00:17:46 กับการมีอาการเตือนก็แนะนำให้มาพบแค่นะ
00:17:46 → 00:17:49 ครับหลังจากที่ช่วงนี้ได้ฟังคำแนะนำจาก
00:17:49 → 00:17:52 อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโรค
00:17:52 → 00:17:55 ทางเดินอาหารทางแนะนำต่างๆที่น่าสนใจกัน
00:17:55 → 00:17:58 ไปแล้วนะคะช่วงหน้าหมอจะพาไปติดตามกันถาม
00:17:58 → 00:18:01 ว่าสัญญาณอันตรายอะไรบ้างที่บ่งชีว่าเรา
00:18:01 → 00:18:03 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายหากเรามี
00:18:03 → 00:18:06 อาการท้องผูกร่วมกับเงื่อนไขอื่นๆค่ะติด
00:18:06 → 00:18:14 ตามกันค่ะหิวอ่ะ
00:18:14 → 00:18:18 [เพลง]
00:18:18 → 00:18:20 โน้ท
00:18:20 → 00:18:29 [เพลง]
00:18:29 → 00:18:30 จะ
00:18:30 → 00:18:33 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 3 ของรายการพีเอ็น
00:18:33 → 00:18:35 เฮลธซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายกันแล้วนะคะแต่
00:18:35 → 00:18:38 หมดลูกว่าจริง 3 ไม่ตากลีบบุปผาค่ะหลัง
00:18:38 → 00:18:42 จากช่วงที่แล้วนะคะได้ทราบถึงสาเหตุอาการ
00:18:42 → 00:18:45 แล้วก็แนวทางในการรักษาอาการท้องผูก
00:18:45 → 00:18:47 เรื้อรังกันไปแล้วค่ะช่วงนี้เรามาดู
00:18:47 → 00:18:49 สัญญาณอันตรายหรือว่าอารามมิ่งเซ็นทรัล
00:18:49 → 00:18:53 ค่ะอาการที่บ่งบอกว่าถ้าเรามีท้องผุร่วม
00:18:53 → 00:18:56 กับข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้เป็นสัญญาณ
00:18:56 → 00:18:58 อันตรายที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับ
00:18:58 → 00:19:00 มะเร็งลำไส้ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
00:19:00 → 00:19:04 อันดับแรกคือผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปที่มี
00:19:04 → 00:19:07 ท้องผูกเรื้อรังค่ะอันดับต่อไปก็คือผู้
00:19:07 → 00:19:11 ที่มีภาวะหรือว่าอาการซีดจากภาวัตขาดธาตุ
00:19:11 → 00:19:14 เหล็กค่ะถ่ายอุจจาระเป็นเลือดน้ำหนักลด
00:19:14 → 00:19:17 ผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุมีประวัติสมาชิก
00:19:17 → 00:19:20 ในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอาการ
00:19:20 → 00:19:23 ท้องผูกจะมีอาการของลําไส้อุดตันเช่นปวด
00:19:23 → 00:19:26 ท้องมากเกิดอัดแน่นท้องคลื่นไส้อาเจียน
00:19:26 → 00:19:30 และท้องผูกที่รบกวนชีวิตมากขอระบายแล้วก็
00:19:30 → 00:19:33 ยังไม่ได้ผลค่ะซึ่งการตรวจวินิจฉัยค่ะจะ
00:19:33 → 00:19:36 ทำอย่างไรบ้างไปฟังคำแนะนำค่ะจากอาจารย์
00:19:36 → 00:19:39 ในแทบจงกรศิริมงคลเกษมอาจารย์ประจำภาค
00:19:39 → 00:19:42 วิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์
00:19:42 → 00:19:45 มหาวิทยาลัยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาด
00:19:45 → 00:19:48 ไทยค่ะก็ถามว่าว่าอาการท้องผูกด้วยล่ะ
00:19:48 → 00:19:52 เนี่ยจะนำไปสู่อาการโรคร้ายหรือเปล่า
00:19:52 → 00:19:54 เนี่ยก็อาจจะต้องซักประวัติมันมาตรวจร่าง
00:19:54 → 00:19:57 กายเพิ่มเติมจะมีประวัติบางอย่างที่สงสัย
00:19:57 → 00:20:00 ว่าจะมีโรคร้ายนะครับเช่นถ้าเกิดสมมติว่า
00:20:00 → 00:20:04 มีสาระมีเลือดปนนะครับกูจะนะมีท้องเสีย
00:20:04 → 00:20:07 สลับท้องผูกหรือว่ามีน้ำหนักรถเยอะนะครับ
00:20:07 → 00:20:10 ในกลุ่มคนไข้เรานี้เนี่ยก็แนะนำว่าให้มา
00:20:10 → 00:20:14 พบแค่นะครับหรือจะมีอายุมากกว่า 50 ปีตอน
00:20:14 → 00:20:16 เนี้ยก็พูดว่าอุบัติการณ์ของในลำไส้ใหญ่
00:20:16 → 00:20:19 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะครับตามอายุแล้วก็แนะ
00:20:19 → 00:20:22 นำว่าได้พบประชากรทั่วไปที่มีอยู่ 50 ปี
00:20:22 → 00:20:25 เนี่ยมาจากกล้องเหมือนกันใช่ใหญ่กว่าจะมี
00:20:25 → 00:20:27 ได้หลายวิธีนะครับได้ทั้งแก่ตั้งแต่การ
00:20:27 → 00:20:30 ส่องกล้องทำยังไงคะอ๋อหมอลำไส้ใหญ่นะครับ
00:20:30 → 00:20:33 แล้วก็อาจจะมีการตรวจพิจารณาดูว่ามีด้วย
00:20:33 → 00:20:35 คนหรือเปล่าหรือว่ากูจะเนี่ยอาจจะมีขนาด
00:20:35 → 00:20:39 ค่อนเล็กลงเราจะเป็นอาการเตือนของใส่อะนะ
00:20:39 → 00:20:42 ครับมันเองใช่ใหญ่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
00:20:42 → 00:20:45 ลำไส้แดงแล้วก็อาจจะให้การรักษาได้หลาย
00:20:45 → 00:20:47 รูปแบบขึ้นอยู่กับว่าเรา
00:20:47 → 00:20:51 คบลำไส้อิตาลีลำไส้ใหญ่อีกขี้ระยะไหนนะ
00:20:51 → 00:20:54 ครับถ้าเป็นระยะต้นเนี่ยอาจจะมีการส่อง
00:20:54 → 00:20:58 กล้องแล้วก็ทำการรักษาการของกล้องได้แต่
00:20:58 → 00:21:02 ว่าจะเป็นมะเร็งที่ค่อนข้างอ่าระยะที่ 2
00:21:02 → 00:21:05 ที่ศาลขึ้นไปแล้วก็อาจจะต้องการผ่าตัดบวก
00:21:05 → 00:21:08 ลบว่าอาจจะต้องให้ยาเคมีบำบัดเพิ่มเติมนะ
00:21:08 → 00:21:12 ครับแต่นอกจากนี้ค่ะสิ่งที่สำคัญมากๆเลย
00:21:12 → 00:21:14 ก็คือการขยับเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ
00:21:14 → 00:21:17 ค่ะมีการศึกษาค่ะเพราะว่าผู้ที่มี
00:21:17 → 00:21:19 พฤติกรรมเนื้อยิ่งหรือว่าภาษาอังกฤษเรียก
00:21:19 → 00:21:22 ว่าซีเด่นผลิต Lifestyle ค่ะคือคนที่ไม่
00:21:22 → 00:21:25 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายนานๆค่ะโดยพบ
00:21:25 → 00:21:28 ว่าผู้ที่นั่งนานเกิน 4 ชั่วโมงต่อวันค่ะ
00:21:28 → 00:21:32 สัมพันธ์มีอาการท้องผูกเรื้อรังค่ะนอกจาก
00:21:32 → 00:21:35 นี้ค่ะหมอยังมีตัวอย่างท่าบริหารร่างกาย
00:21:35 → 00:21:38 เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่ายลดปัญหาการ
00:21:38 → 00:21:42 ท้องผูกค่ะทำกันง่ายไปดูกันเลยค่ะ
00:21:42 → 00:21:45 1 ท่าที่ 1 ท่านั่งพับขาเกือบข้างขวาออก
00:21:45 → 00:21:50 ไปทับขาซ้ายเข้ามาโดยให้ส้นเท้าขาขวาติด
00:21:50 → 00:21:54 กับต้นขาข้างซ้ายมือวางไว้บนเข่าซ้ายหาย
00:21:54 → 00:21:58 ใจเข้าค้างท่าดังกล่าวแล้วนับ 1-10 หายใจ
00:21:58 → 00:22:02 ปกติค่ะทำสลับกับค่ะอีกข้างนึงนับเป็น
00:22:02 → 00:22:06 หนึ่งรอบแนะนำทำซ้ำ 3 ถึง 5 รอบค่ะท่าที่
00:22:06 → 00:22:11 สองนอนหงายดึงเข่าเข้าหาหน้าอกนอนหงาย
00:22:11 → 00:22:15 เหยียดขาตรงปล่อยลำตัวตามสบายค่อยงอเข่า
00:22:15 → 00:22:18 ข้างหนึ่งขึ้นแล้วยกขาขึ้นมาให้ได้สูงที่
00:22:18 → 00:22:22 สุดสองมือกอดเขาไว้หากขาสามารถแนบหน้า
00:22:22 → 00:22:26 ท้องได้ยิ่งดีค่ะครั้งไว้ 20 วินาทีแล้ว
00:22:26 → 00:22:30 ค่อยๆวางขาลมสลับข้างแล้วทำซ้ำขั้นตอน
00:22:30 → 00:22:33 เดิมอีกครั้งครั้งถ้าดังกล่าวแล้วนับ 1-10
00:22:33 → 00:22:37 หายใจปกติทำสลับกับไข่อีกข้างหนึ่งนับ
00:22:37 → 00:22:41 เป็นหนึ่งรอบทำซ้ำ 3 ถึง 5 รอบค่ะอ่ะอ่ะ
00:22:41 → 00:22:45 ค่ะโดยสรุปแล้วนะคะภาวะท้องผูกเรื้อรัง
00:22:45 → 00:22:47 เนี่ยก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลต่อการใช้
00:22:47 → 00:22:50 ชีวิตของทุกคนเป็นอย่างมากนะคะใครที่เป็น
00:22:50 → 00:22:53 ท้องผูกเนี่ยก็จะมีอาการทุกข์ทรมานไม่สุข
00:22:53 → 00:22:56 สบายทั้งกายทั้งใจเลยค่ะค่ะอันดับแรกของ
00:22:56 → 00:22:58 ผู้ที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังเนี่ยก็ควร
00:22:58 → 00:23:01 ที่จะเริ่มปรับพฤติกรรมสุขภาพเกาะในว่าจะ
00:23:01 → 00:23:04 เป็นการดื่มน้ำที่เยอะขึ้นทานอาหารที่มี
00:23:04 → 00:23:07 กากใยไฟเบอร์มากขึ้นออกกำลังกายขยับ
00:23:07 → 00:23:10 เคลื่อนไหวให้มากขึ้นก็มีส่วนช่วยให้
00:23:10 → 00:23:13 กระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ขับถ่ายได้
00:23:13 → 00:23:16 ง่ายขึ้นแต่ถ้าวิธีดังกล่าวยังไม่โอเคยัง
00:23:16 → 00:23:18 ไม่ช่วยเนี่ยก็แนะนำเริ่มด้วยการประทานยา
00:23:18 → 00:23:21 ระบายแต่จริงๆแล้วเนี่ยการเลือกซื้อหรือ
00:23:21 → 00:23:24 ว่าการหายาระบายมารับประทานเนี่ยควรจะ
00:23:24 → 00:23:26 อยู่ไทยใต้ทำแนะนำหรือว่าการดูแลของแพทย์
00:23:26 → 00:23:29 นะคะเพราะว่ายาบ้าชนิดเนี่ยก็มีข้อห้าม
00:23:29 → 00:23:32 หรือว่ามีข้อควรระวังค่ะต่อมาถ้าเกิดว่า
00:23:32 → 00:23:34 ทานยาระบายแล้วยังไม่เป็นผลยังไม่ทุเลา
00:23:34 → 00:23:37 เนี่ยก็ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อทราบวิธีการ
00:23:37 → 00:23:40 ในการดูแลรักษาต่อไปอาจจะมีการทำ
00:23:40 → 00:23:43 ไบโอฟีดแบคที่หมอผ่าตัดเข้ามาช่วยค่ะทั้ง
00:23:43 → 00:23:47 หมดนี้นะคะเป็นคำแนะนำในการดูแลรักษาภาวะ
00:23:47 → 00:23:50 ท้องผูกเรื้อรังค่ะซึ่งควรอยู่ใครป่ะการ
00:23:50 → 00:23:52 ดูแลแล้วก็คำแนะนำดีๆจากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:23:52 → 00:23:54 ชาญค่ะ
00:23:54 → 00:23:57 คุณค่าและทั้งหมดนี้คือสาระความรู้ที่น่า
00:23:57 → 00:23:59 สนใจประจำสัปดาห์นี้จะกับเรื่องปัญหาท้อง
00:23:59 → 00:24:03 ผูกค่ะใครที่มีอาการท้องผูกคนใกล้ตัวมี
00:24:03 → 00:24:06 อาการเหล่านี้ไปพบแพทย์นะคะเพื่อที่จะได้
00:24:06 → 00:24:09 ทำการตรวจรักษาและก็จะทำให้คุณค่าชีวิต
00:24:09 → 00:24:11 ของท่านดีขึ้นไม่ประสบปัญหาทุกคณะมาจาก
00:24:11 → 00:24:14 อาการท้องผูกค่ะแล้วกลับมาพบกับสาระความ
00:24:14 → 00:24:17 รู้ที่น่าสนใจทางสุขภาพกับหมอลูกปลาติ่ง
00:24:17 → 00:24:20 สารพิษรากรีตดูข่าวได้ใหม่ค่ะทุกวันเสาร์
00:24:20 → 00:24:24 เวลา 15:00 45 นาฬิกา 30 นาทีทาง TNN
00:24:24 → 00:24:28 ช่อง 16 สวัสดีค่ะอ่า
00:24:28 → 00:24:31 ที่เราเสนอโดย to help บริการส่งสุขภาพ
00:24:31 → 00:24:34 ดีถึงที่ให้คุณปรึกษาหมอออนไลน์และบริการ
00:24:34 → 00:24:37 ส่งยาถึงบ้าน
00:24:37 → 00:24:44 โน้ท
00:24:44 → 00:24:54 [เพลง]
00:24:54 → 00:24:59 โน้ท
00:24:59 → 00:25:02 ม.ค
00:00:00 → 00:00:06 ขอ
00:00:06 → 00:00:08 จบ
00:00:08 → 00:00:17 [เพลง]
00:00:17 → 00:00:21 สนับสนุนโดย to help บริการส่งสุขภาพดี
00:00:21 → 00:00:23 ถึงที่ให้คุณปรึกษาหมอออนไลน์และบริการ
00:00:23 → 00:00:25 ส่งยาถึงบ้าน
00:00:25 → 00:00:29 พบคนไทยกว่าร้อยละ 20 มีปัญหาท้องผูก
00:00:29 → 00:00:33 เรื้อรังชอบนะผู้สูงวัยขัดข้องครูควรตรวจ
00:00:33 → 00:00:36 คัดซองป้องกันมะเร็งลำไส้ดูแลสุขภาพตั้ง
00:00:36 → 00:00:39 แต่วันนี้ปรับการกินออกกำลังกายลดปัญหา
00:00:39 → 00:00:44 ท้องผูกเรื้อรังลุกลามโรคร้ายแรง
00:00:44 → 00:00:47 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการที
00:00:47 → 00:00:50 เอ็นเอ็นเฮลธค่ะรายการที่มากด้วยสาระความ
00:00:50 → 00:00:53 รู้ทางสุขภาพที่น่าสนใจกับหมอลูกละแท้
00:00:53 → 00:00:56 จริงสามีจ่ายฟิวส์พาทุกวันเสาร์เวลา 15:00
00:00:56 → 00:01:00 นถึง 15:30 ค่ะสัปดาห์นี้จะพาคุณผู้ชมทุก
00:01:00 → 00:01:03 เอาไปติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ
00:01:03 → 00:01:06 ปัญหาท้องผูกค่ะไปดูกันเขาว่าท้องผูก
00:01:06 → 00:01:09 เนี่ยเกิดจากอะไรมีแนวทางในการดูแลรักษา
00:01:09 → 00:01:13 มีอาการมีวิธีแก้ไขยังไงไปดูกันค่ะ
00:01:13 → 00:01:17 คะคุณผู้ทรงคะการขับถ่ายค่ะมีส่วนสำคัญ
00:01:17 → 00:01:20 ต่อสุขภาพชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็น
00:01:20 → 00:01:22 อย่างมากเลยนะคะใครที่มีระบบการขับถ่าย
00:01:22 → 00:01:25 ที่เป็นปกติก็ส่งผลให้การดำเนินชีวิตใน
00:01:25 → 00:01:28 วันนั้นราบรื่นได้ค่ะมีการรายงานที่น่าสน
00:01:28 → 00:01:31 ใจที่หมออยากจะยกมาฝากค่ะเป็นงานวิจัยของ
00:01:31 → 00:01:34 bnj หรือว่า Disk ไม่ได้เข้าเจอนอกนะคะ
00:01:34 → 00:01:37 เป็นการเก็บข้อมูลในประเทศเม็กซิโกในช่วง
00:01:37 → 00:01:40 ปี 2019 หรือว่าปี
00:01:40 → 00:01:43 2562 ค่ะที่การเก็บข้อมูลช่วงเดือนอ่าน
00:01:43 → 00:01:47 เมษายนถึงพฤษภาคมค่ะบอกว่าในช่วงนั้น
00:01:47 → 00:01:48 ประเทศเม็กซิโกค่ะมีการ lock Down
00:01:48 → 00:01:52 ประมาณ 1-2 เดือนเขาก็มีการสำรวจประชากร
00:01:52 → 00:01:56 ประมาณ 700 คนค่ะพบว่ามีปัญหาท้องผูกค่ะ
00:01:56 → 00:01:59 ประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรที่สำรวจเลยค่ะ
00:01:59 → 00:02:02 ทั้งนี้สาเหตุที่เค้าวิเคราะห์ออกมาค่ะ
00:02:02 → 00:02:04 เพราะว่ามีความเกี่ยวข้องกับการที่ล็อค
00:02:04 → 00:02:07 ดาวทำให้ประชาชนเนี่ยไม่ค่อยจะขยับ
00:02:07 → 00:02:09 เคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็เติมน้ำน้อยด้วย
00:02:09 → 00:02:12 ค่ะทีนี้ประเด็นที่น่าสนใจก็คือปัญหาท้อง
00:02:12 → 00:02:15 ผูกก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ไม่
00:02:15 → 00:02:18 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็การดื่ม
00:02:18 → 00:02:21 น้ำน้อยแต่นี่เป็นเพียงปัจจัยนึงค่ะวัน
00:02:21 → 00:02:24 นี้หมอเลยอยากพาทุกคนมาติดตามหรือว่ามา
00:02:24 → 00:02:26 ศึกษาแนวทางในการดูแลเรื่องท้องผูกกันถ้า
00:02:26 → 00:02:30 ว่าท้องกลุ่มเนี่ยมีความน่าสนใจยังไงมี
00:02:30 → 00:02:32 สัญญาณอันตรายอะไรไหมที่เกี่ยวกับท้องผูก
00:02:32 → 00:02:35 และจะสัมพันธ์กับโรคมะเร็งค่ะติดตามกัน
00:02:35 → 00:02:38 ค่ะอาการท้องผูกเรื้อรังค่ะจะเป็นอาการ
00:02:38 → 00:02:41 ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนที่เป็น
00:02:41 → 00:02:44 ท้องผูกเป็นอย่างมากค่ะไม่ว่าจะเป็นทาง
00:02:44 → 00:02:47 กายทางใจทุกข์ทรมานพอๆกันเลยค่ะวันนี้หมอ
00:02:47 → 00:02:50 ละอยากพามาดูเขาว่าอะไรที่เรียกว่าท้อง
00:02:50 → 00:02:53 ผูกเรื้อรังเป็นยังไงค่ะท้องผูกนะคะนิยาม
00:02:53 → 00:02:56 ทั่วๆไปเนี่ยก็คือปริมาณความถี่ในการขับ
00:02:56 → 00:03:00 ถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติค่ะสมาคมประสาท
00:03:00 → 00:03:03 ทางเดินอาหารและการเคลื่อนไหวประเทศไทย
00:03:03 → 00:03:06 ค่ะและให้นิยามคำว่าท้องผูกเรื้อรังคือคน
00:03:06 → 00:03:09 ที่มีอาการดังกล่าวต่อไปนี้ครบ 3 เดือน
00:03:09 → 00:03:13 ค่ะโดยอาการครั้งแรกดำเนินมาไม่น้อยกว่า 6
00:03:13 → 00:03:16 เดือนที่ผ่านมาค่ะได้แก่อุจจาระไม่เลว
00:03:16 → 00:03:19 นิ่มถังไม่ใช้ยาระบายร่วมกับอาการเกิน 2
00:03:19 → 00:03:22 อาการขึ้นไปประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์หรือ 1
00:03:22 → 00:03:24 ใน 4 ของการขับถ่ายในชีวิตประจำวันของเรา
00:03:24 → 00:03:27 ได้แก่ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อ
00:03:27 → 00:03:30 สัปดาห์อุจจาระเป็นก้อนแข็งรู้สึกถ่าย
00:03:30 → 00:03:33 อุจจาระไม่สุดหรือรู้สึกถ่ายไม่ออกมาจาก
00:03:33 → 00:03:36 มีสิ่งอุดการที่ทวารหนักต้องใช้ตัวช่วยทำ
00:03:36 → 00:03:39 ให้อุจจาระออกมาและต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ
00:03:39 → 00:03:42 มากกว่าปกติและไม่เข้าเกณฑ์โรคลำไส้แปร
00:03:42 → 00:03:44 ปรวนการเกณฑ์การวินิจฉัยทางการแพทย์ของ
00:03:44 → 00:03:47 โรมไครทีเรียที่ 4 ถ้าใครที่มีอาการดัง
00:03:47 → 00:03:50 กล่าวที่หมอได้กล่าวไปก็จัดว่ามีภาวะท้อง
00:03:50 → 00:03:52 ผูกเรื้อรังแล้วค่ะ
00:03:52 → 00:03:56 สาเหตุที่ทำให้ท้องถูกค่ะมีหลายสาเหตุมาก
00:03:56 → 00:03:59 ๆเลยมาดูที่กลุ่มแรกกันบ้างค่ะสาเหตุแรก
00:03:59 → 00:04:03 ก็คือยาค่ะเชื่อให้เค้าอาญาเนี่ยมีผลต่อ
00:04:03 → 00:04:05 ภาวะท้องผูกของเรามากเลยใครที่ทานยาดัง
00:04:05 → 00:04:08 ต่อไปนี้นะคะแล้วมีอาการท้องผูกเนี่ยช่วย
00:04:08 → 00:04:11 รบกวนปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยหาแนวทางในการ
00:04:11 → 00:04:14 รักษาค่ะอย่ากลุ่มแรกจะคือกลุ่มของยาแก้
00:04:14 → 00:04:17 ปวดโดยเฉพาะเอ็นเสด nsaids ก็คือยาแก้ปวด
00:04:17 → 00:04:20 ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ค่ะเช่นไอบูโพรเฟน
00:04:20 → 00:04:23 ไดโคลฟีแนครวมถึงยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของ
00:04:23 → 00:04:26 มอร์ฟีนค่ะอย่าที่มีผลผสมของกลุ่ม
00:04:26 → 00:04:29 อนุพันธ์พวกมอร์ฟีนนะคะจะทำให้ท้องผูกไป
00:04:30 → 00:04:32 เฉพาะผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาแก้ปวดนี้เยอะๆ
00:04:32 → 00:04:35 เช่นผู้ป่วยติดเตียงผู้ป่วยโรคมะเร็งค่ะ
00:04:35 → 00:04:39 ต่อไปจะเป็นยาลดความดันค่ะในกลุ่ม Calcium
00:04:39 → 00:04:41 Channel blocker ค่ะตัวอย่างยากลุ่มมี
00:04:41 → 00:04:44 เช่นแอมโลดิปีนค่ะจะทำให้ท้องผูกได้ค่ะ
00:04:44 → 00:04:47 นอกจากนี้ก็ยังมียาในกลุ่มของยาขับ
00:04:47 → 00:04:51 ปัสสาวะค่ะยารักษาโรคซึมเศร้ายาต้านเศร้า
00:04:51 → 00:04:55 เช่นอะมิชลินค่ะแล้วก็ยาที่มีส่วนผสมของ
00:04:55 → 00:04:57 ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบยาที่มีส่วนผสม
00:04:57 → 00:05:01 ของแถวเสี้ยมเป็นส่วนประกอบเช่นอาญาน้ำ
00:05:01 → 00:05:03 ที่ใช้ในการดื่มเพื่อรักษาโรคของกระเพาะ
00:05:03 → 00:05:05 อาหารอักเสบค่ะมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ
00:05:05 → 00:05:09 ทำให้มีขนท้องผูกได้ค่ะโรคหรือความผิด
00:05:09 → 00:05:12 ปกติของระบบฮอร์โมนเช่นโรคเบาหวานฮอร์โมน
00:05:12 → 00:05:15 ไทรอยด์และก็ได้โพแทสเซียมต่ำภาวะ
00:05:15 → 00:05:18 แคลเซียมในเลือดสูงกว่าปกติโรคหรือความ
00:05:18 → 00:05:21 ผิดปกติทางระบบประสาทและสมองเช่นโรคพาร์
00:05:21 → 00:05:24 กินสันโรคหนังแข็งโรคหลอดเลือดสมองโรค
00:05:24 → 00:05:27 เกี่ยวกับไขสันหลังโรคทางสุขภาพจิตหรือ
00:05:27 → 00:05:30 จิตเวชเช่นโรคซึมเศร้าโรคพฤติกรรมการกิน
00:05:30 → 00:05:33 ที่ผิดปกติโรคเกี่ยวกับการอุดก้างของลำ
00:05:33 → 00:05:36 ไส้จากสาเหตุต่างๆเช่นมะเร็งหรือเนื้องอก
00:05:36 → 00:05:39 ของลำไส้ใหญ่และทวารหนักโรคกระเปาะต์ที่
00:05:39 → 00:05:43 ทวารหนักโรคที่มีการควบคุมระบบการขับถ่าย
00:05:43 → 00:05:46 ของลำไส้อ่ะที่ผิดปกติเช่นภาวะลำไส้แปร
00:05:46 → 00:05:49 ปรวนหรือว่าโรคที่กล้ามเนื้อหูรูดทวาร
00:05:49 → 00:05:52 หนักทำงานผิดปกติค่ะนอกจากนี้ค่ะพฤติกรรม
00:05:52 → 00:05:56 ที่อาจจะส่งผลให้มีภาวะท้องผูกก็คือคนที่
00:05:56 → 00:05:58 ไม่ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายค่ะเช่นคน
00:05:58 → 00:06:01 ที่นั่งนานๆทำงานๆหรือว่าผู้ป่วยติดเตียง
00:06:01 → 00:06:05 ค่ะก็ส่งผลทำให้ท้องผูกได้แล้วก็ภาวะที่
00:06:05 → 00:06:08 เราเนี่ยไม่ค่อยจะทานผักผลไม้หรือว่าทาน
00:06:08 → 00:06:11 ไฟเบอร์ค่ะนอกจากนี้ก็คือคนที่ดื่มน้ำ
00:06:11 → 00:06:14 น้อยก็ทำให้ท้องผูกได้ค่ะเหตุผลที่ตามมา
00:06:14 → 00:06:18 จากการที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังค่ะใครก็
00:06:18 → 00:06:20 ตามค่ะที่ท้องผูกขับถ่ายไม่ค่อยออกนะคะ
00:06:20 → 00:06:23 มันจะมีปัญหาที่พบได้บ่อยๆค่ะไม่ว่าจะ
00:06:23 → 00:06:26 เป็นความรู้สึกของการอื่นอาจรู้สึกไม่
00:06:26 → 00:06:28 ค่อยตุ๊กสบายเลยค่ะวันนี้ยังไม่ได้ขับ
00:06:28 → 00:06:31 ถ่ายทำงานก็รู้สึกมันไม่ของตัวแน่นท้อง
00:06:31 → 00:06:34 ยังไงก็ไม่รู้นะคะนอกจากนี้จะมีอาการที่
00:06:34 → 00:06:36 เต็นท์ชาร์จที่พบได้บ่อยในคนที่ท้องผูก
00:06:36 → 00:06:40 เรื้อรังมากๆเมื่อออกแรงเบ่งเยอะค่ะจะทำ
00:06:40 → 00:06:43 ให้แรงดันในช่องท้องมันสูงขึ้นก็จะทำให้
00:06:43 → 00:06:47 บางส่วนของลำไส้ใหญ่อ้ะมันยื่นมันโป่งมัน
00:06:47 → 00:06:49 นูนออกมาจากทวารหนักหรือที่เรารู้จักกัน
00:06:49 → 00:06:52 ในภาวะของริดสีดวงทวารนั่นเองค่ะแต่ถ้า
00:06:52 → 00:06:55 เกิดว่าเป็นมากๆแรงดันมากขึ้นอีกแล้ว
00:06:55 → 00:06:57 เฉพาะหลอดเลือดบริเวณทวารน่ะค่ะก็จะทำให้
00:06:57 → 00:07:00 มีการฉีกขาดมีเลือดไหลออกมาเวลาที่เรา
00:07:00 → 00:07:03 อุจจาระได้ค่ะแต่ว่าบางคนเนี่ยค่ะก็ยัง
00:07:03 → 00:07:06 ไม่เพียงแค่นั้นมาคนอุตรแข็งมากๆเนี่ยทำ
00:07:06 → 00:07:09 ให้อุจจาระเนี่ยบาตรก้นบัติผิวหนังบริเวณ
00:07:09 → 00:07:11 ทวารหนักทำให้มีแผลแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด
00:07:11 → 00:07:15 รวดร้าวขนาดถ่ายเป็นอย่างอันนี้ค่ะผู้ที่
00:07:15 → 00:07:18 มีความดันในช่องท้องสูงอาจจะทำให้เกิดโรค
00:07:18 → 00:07:20 ไส้เลื่อนหรือว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่
00:07:20 → 00:07:23 อยู่ได้ค่ะนอกจากนี้ความดันในช่องท้องที่
00:07:23 → 00:07:26 สูงยังทำให้ความดันในช่องอกสูงตามไปด้วย
00:07:26 → 00:07:29 เป็นอันตรายต่อทรวงอกโดยเฉพาะผู้ที่เป็น
00:07:29 → 00:07:32 โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดกระตุ้นให้
00:07:32 → 00:07:35 เจ็บหน้าอกหน้ามืดเป็นลมได้ค่ะคุณผู้ชมคะ
00:07:35 → 00:07:38 จะเห็นว่าปัญหาท้องผูกเรื้อรังเนี่ยค่ะทำ
00:07:38 → 00:07:41 ให้มีความไม่สุขสบายทั้งกายและใจส่งผล
00:07:41 → 00:07:43 กระทบต่อการใช้ชีวิตของเราเป็นอย่างมาก
00:07:43 → 00:07:45 เลยนะคะช่วงนี้เนี่ยเราได้ทราบถึงสาเหตุ
00:07:45 → 00:07:48 และอาการต่างๆกันไปแล้วล่วงหน้าหมอจะพาไป
00:07:48 → 00:07:50 ติดตามว่าถ้าเรามีอาการท้องผูกเรื้อรัง
00:07:50 → 00:07:53 เนี่ยก็จะมีวิธีในการดูแลรักษายังไงบ้าง
00:07:53 → 00:07:57 ไปติดตามในช่วงหน้าค่ะอ่ะ
00:07:57 → 00:08:01 [เพลง]
00:08:01 → 00:08:02 พ.ย
00:08:02 → 00:08:05 [เพลง]
00:08:05 → 00:08:06 ขอ
00:08:06 → 00:08:13 จบการรีวิว
00:08:13 → 00:08:17 [เพลง]
00:08:17 → 00:08:19 มี
00:08:19 → 00:08:22 คู่สู้ Call it ให้คนไทยชนะไปด้วยกันกับ
00:08:22 → 00:08:26 ดู 5 จี่และบริการที่ตอบโจทย์ทุกรัฐตาย
00:08:26 → 00:08:29 จะกลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของ T N Health
00:08:29 → 00:08:31 กับหมอหรือปลาอีกแล้วนะคะหลังจากช่วงที่
00:08:31 → 00:08:33 แล้วเนี่ยที่เราได้ทราบถึงสาเหตุและก็
00:08:33 → 00:08:36 อาการจากภาวะท้องผูกเรื้อรังกันไปแล้ว
00:08:36 → 00:08:38 ช่วงนี้เรามาดูแนวทางในการแก้ไขปัญหาท้อง
00:08:38 → 00:08:42 ผูกกันค่ะโดยทั่วไปเนี่ยผู้ที่มีภาวะท้อง
00:08:42 → 00:08:45 ผูกค่ะมันจะมีการดูแลตนเองมาระดับหนึ่ง
00:08:45 → 00:08:47 แล้วก็คืออาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง
00:08:47 → 00:08:50 ดื่มน้ำเยอะขึ้นทานผักผลไม้หรือว่าบางคน
00:08:50 → 00:08:53 ก็มีการไปหาซื้อยาระบายมารับประทานเองกัน
00:08:53 → 00:08:56 บ้างแล้วนะคะแต่จริงๆแล้วเนี่ยในผู้ที่มี
00:08:56 → 00:08:58 ภาวะท้องผูกเรื้อรังเนี่ยจริงๆจำเป็นจะ
00:08:58 → 00:09:01 ต้องปรึกษาแท่นนะคะเวลาที่เรามาหาคุณหมอ
00:09:01 → 00:09:03 หรือว่ามาคบหาด้วยปัญหาท้องผูกเรื้อรัง
00:09:03 → 00:09:06 เนี่ยคุณหมอเขาก็จะถามประวัติสุขภาพโรค
00:09:06 → 00:09:10 ประจำตัวหรือว่ายาต่างๆที่น่าจะมีผลทำให้
00:09:10 → 00:09:13 เรามีอาการท้องผูกค่ะซึ่งทั้งหมดนี้คุณ
00:09:13 → 00:09:16 หมอก็จะนำไปสู่การตรวจร่างกายว่ามีสัญญาณ
00:09:16 → 00:09:19 มีลักษณะอะไรที่เกี่ยวข้องกับอาการท้อง
00:09:19 → 00:09:22 ผูกบ้างนำไปสู่การทรงตัวต่างๆเพิ่มเติม
00:09:22 → 00:09:25 ค่ะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเนี่ย
00:09:25 → 00:09:27 เป็นสิ่งที่หมออยากแนะนำคือเรื่องแรกก่อน
00:09:27 → 00:09:30 ค่ะเพราะว่าทำได้ง่ายแล้วก็ไม่เสียค่าใช้
00:09:30 → 00:09:32 จ่ายอะไรเบื้องต้นแนะนำให้ผู้ที่มีอาการ
00:09:32 → 00:09:35 ท้องผูกดื่มน้ำเยอะขึ้นแล้วก็แล้วทาน
00:09:35 → 00:09:38 ไฟเบอร์รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นเพราะ
00:09:38 → 00:09:41 ว่าจะช่วยกระตุ้นทำให้ลำไส้เราเนี่ยบีบ
00:09:41 → 00:09:44 ตัวทำงานได้ดีขับจะลาออกง่ายขึ้นค่ะการ
00:09:44 → 00:09:46 รับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติก
00:09:46 → 00:09:50 การออกกำลังกายหักลองปรับพฤติกรรมการ
00:09:50 → 00:09:53 ดำเนินชีวิตแล้วยังไม่เป็นผลการเข้ารับคำ
00:09:53 → 00:09:55 ปรึกษาได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:09:55 → 00:09:58 ชาญจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างตรง
00:09:58 → 00:10:01 จุดมากยิ่งขึ้นค่ะซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยและ
00:10:01 → 00:10:04 ทำการรักษาโดยวิธีการต่างๆต่อมามาดูที่
00:10:04 → 00:10:07 การฝึกขับถ่ายด้วยทีธรรมชาติหรือว่า
00:10:07 → 00:10:10 ไบโอฟีดแบค Training ค่ะไบโอฟีดแบค
00:10:10 → 00:10:13 Training อ่ะจริงๆนำมาใช้รักษาในกลุ่ม
00:10:13 → 00:10:15 ผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกที่เกิดจากภาวะ
00:10:15 → 00:10:19 กล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักทำงานไม่สัมพันธ์
00:10:19 → 00:10:22 กับการเบ่งถ่ายค่ะภาวะนี้จำเป็นต้องมาทำ
00:10:22 → 00:10:25 มารักษาที่โรงพยาบาลนะคะวิธีการดูแล
00:10:25 → 00:10:28 เรื่องของโน้ทออฟฟิตแบบเนี่ยคุณหมอหรือ
00:10:28 → 00:10:31 แพทย์นะคะจะประเมินด้วยการใช้เครื่องมือ
00:10:31 → 00:10:35 เข้าไปตรวจวัดกระแสประสาทบริเวณที่ครูรูด
00:10:35 → 00:10:37 ทวารหนักที่กล้ามเนื้อรอบทวารหนักของเรา
00:10:37 → 00:10:40 ขณะที่เบ่งถ่ายค่ะดูว่ามีความสัมพันธ์มี
00:10:40 → 00:10:43 แนวโน้มที่จะพัฒนาทำให้รู้สึกว่าบีบแล้ว
00:10:43 → 00:10:46 ก็ขับอุจจาระออกได้มากน้อยแค่ไหนค่ะวิธี
00:10:46 → 00:10:49 นี้ถ้าทำแล้วประสบความสำเร็จเนี่ยจะช่วย
00:10:49 → 00:10:52 ในการรักษาภาวะท้องผูกเรื้อรังได้ดีมากๆ
00:10:52 → 00:10:55 แล้วก็ลดการใช้ยาระบายโดยไม่จำเป็นได้
00:10:55 → 00:10:58 ด้วยค่ะการใช้ยาระบายควรใช้เมื่อมีความ
00:10:58 → 00:11:00 จำเป็นจริงๆและควรใช้ตามที่แพทย์สั่งหรือ
00:11:00 → 00:11:05 แนะนำค่ะยาระบายมีหลายกลุ่มค่ะกลุ่มที่
00:11:05 → 00:11:07 แนะนำเป็นลำดับแรกในการใช้ยาระบายคือยา
00:11:07 → 00:11:10 ที่ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มปริมาณอุจจาระหรือ
00:11:10 → 00:11:13 ว่าฟอร์มอินและสถีบมีลักษณะคล้ายไฟเบอร์
00:11:13 → 00:11:16 ค่ะเพราะฉะนั้นคุณสมบัติก็คือจะดูดซึมน้ำ
00:11:16 → 00:11:19 แล้วก็อุ้มน้ำได้ดีอุจจาระจึงเป็นก็และก็
00:11:19 → 00:11:22 นิ่มขึ้นแต่ว่าถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอเนี่ย
00:11:22 → 00:11:25 การทานยาระบายกลุ่มนี้อาจจะส่งผลให้เกิด
00:11:25 → 00:11:28 ปัญหาตามมาคือมีอาการท้องอืดแล้วถ่ายยาก
00:11:28 → 00:11:31 ได้ค่ะยากลุ่มนี้จะให้ผลหลังรับประทานยา
00:11:31 → 00:11:34 ประมาณ 2 วันตัวอย่างยาเช่นเมทิลเซลลูโลส
00:11:34 → 00:11:38 สี่เหลี่ยมค่ะต่อมาเป็นยาที่ออกฤทธิ์ด้วย
00:11:38 → 00:11:41 การกระตุ้นดูดกลับน้ำเข้ามาในลำไส้หรือ
00:11:41 → 00:11:44 ว่า of โมติกและเศรษฐีค่ะตัวอย่างยากลุ่ม
00:11:44 → 00:11:47 นี้ได้แก่และตัวรถ m o m หรือหม่อมที่
00:11:47 → 00:11:50 ย่อมาจากนิ้วออฟแมกนีเซียมแล้วก็ Poly
00:11:50 → 00:11:52 ethylene glycol หรือว่าพีอีจีหรือว่า
00:11:52 → 00:11:55 มันคนเรียกเป๊กนะคะอย่างนี้ให้ผลหลังการ
00:11:55 → 00:11:58 รับประทานไปแล้วประมาณ 2-3 วันข้อควร
00:11:58 → 00:12:01 ระวังในการใช้ยากลุ่มนี้ค่ะคือในผู้ที่มี
00:12:01 → 00:12:04 ภาวะไตวายเรื้อรังโรคไตเสื่อมค่ะอาจจะมี
00:12:04 → 00:12:06 ปัญหาเนื่องจากระดับนักมีเสียงในเลือดที่
00:12:07 → 00:12:11 ผิดปกติได้แล้วก็คนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสค่ะ
00:12:11 → 00:12:14 เพราะว่าว่ายากลุ่มนี้อาจจะมีส่วนผสมของ
00:12:14 → 00:12:16 น้ำตาลแลคโตสอยู่ในนั้นได้ค่ะต่อมาก็เป็น
00:12:16 → 00:12:19 ยากลุ่มที่ทำให้อุจจาระเรานิ่มขึ้นค่ะ
00:12:19 → 00:12:22 หรือว่าสตูลซอฟเทนเนอร์และเศรษฐีค่ะยา
00:12:22 → 00:12:24 ส่วนมากมีฤทธิ์ของน้ำมันเป็นส่วนประกอบ
00:12:24 → 00:12:27 ตัวอย่างยากลุ่มนี้เช่นอาทิขอต้อนหรือว่า
00:12:27 → 00:12:31 ดูพิเศษค่ะต่อมายาที่กระตุ้นการบีบตัวของ
00:12:31 → 00:12:34 ลำไส้หรือว่า Still และและเศษทิพย์อยากจะ
00:12:34 → 00:12:36 ไปกระตุ้นระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ
00:12:36 → 00:12:39 ในระบบทางเดินอาหารเพื่อให้ลำไส้เคลื่อน
00:12:39 → 00:12:42 ไหวได้เร็วขึ้นให้ผลหลังจากรับประทานไป
00:12:42 → 00:12:45 6-12 ชั่วโมงค่ะดังนั้นจึงแนะนำรับ
00:12:45 → 00:12:48 ประทานตอนหัวค่ำหรือว่าก่อนนอนตัวอย่างยา
00:12:48 → 00:12:51 กลุ่มนี้เช่นมะขามแขกบิซาโคดิลข้อควร
00:12:51 → 00:12:54 ระวังคือยากลุ่มนี้มักมีผลข้างเคียงทำให้
00:12:54 → 00:12:57 มีอาการท้องเสียปวดท้องได้ค่ะต่อมาเป็นยา
00:12:57 → 00:13:00 ระบายชนิดเน็ตหรือว่าสวนช่วยให้อุจจาระ
00:13:00 → 00:13:03 อ่อนนุ่มและเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้
00:13:03 → 00:13:07 ตัวอย่างมีส่วนผสมของโซเดียมฟอสเฟตค่ะมี
00:13:07 → 00:13:10 การศึกษาเพราะว่าผู้ที่มีโรคหัวใจโรคตาย
00:13:10 → 00:13:12 โรคระบบประสาทหรือว่าผู้ที่ใช้ยาส่วนมาก
00:13:12 → 00:13:15 กว่า 1 ครั้งต่อวันมีความเสี่ยงในการเกิด
00:13:15 → 00:13:18 อาการข้างเคียงจากยาชนิดนี้มากกว่าคน
00:13:18 → 00:13:21 กลุ่มอื่นๆอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ
00:13:21 → 00:13:23 ภาวะเกลือแร่ในเลือดที่ผิดปกติค่ะเช่น
00:13:23 → 00:13:26 ฟอสฟอรัสสูงแถวเที่ยวในเลือดต่ำโซเดียม
00:13:26 → 00:13:29 เหรียญหลวงพ่อจะเสี้ยมต่ำซึ่งมีอันตราย
00:13:29 → 00:13:32 ถึงชีวิตต้องระมัดระวังในการใช้นะคะแล้ว
00:13:32 → 00:13:34 ก็ยังมียากลุ่มใหม่ที่เข้ามารักษาภาวะ
00:13:34 → 00:13:37 ท้องผูกเรื้อรังค่ะปัญญาที่กระตุ้นการทำ
00:13:37 → 00:13:40 งานของกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่ค่ะคือโปร
00:13:40 → 00:13:43 แคร์ติกดักยากลุ่มนี้นำมาใช้ในกรณีที่ใช้
00:13:43 → 00:13:46 ยากลุ่มอื่นแล้วไม่ทุเลาค่ะการผ่าตัดค่ะ
00:13:46 → 00:13:49 โดยทั่วไปผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง
00:13:49 → 00:13:52 ส่วนมากสามารถทุเลาหรือว่าดีขึ้นได้ด้วย
00:13:52 → 00:13:55 การปรับพฤติกรรมสุขภาพการฝึกควบคุมการ
00:13:55 → 00:13:57 แบ่งถ่ายรวมถึงการใช้ยาระบายเข้ามาช่วย
00:13:57 → 00:14:00 ค่ะแต่หากผู้ป่วยมีภาวะลำไส้อุดตันมี
00:14:00 → 00:14:03 ปัญหาในการเคลื่อนตัวของอุจจาระที่ผิด
00:14:03 → 00:14:06 ปกติมีกระเปาะที่ทวารหนักมีปัญหากล้าม
00:14:06 → 00:14:08 เนื้อหูรูดทวารหนักที่ทำงานไม่สัมพันธ์
00:14:08 → 00:14:11 กับการแบ่งถ่ายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา
00:14:11 → 00:14:13 ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้ยาอย่าง
00:14:13 → 00:14:16 เต็มที่แล้วหรือว่ามีการทำไบโอฟีดแบค
00:14:16 → 00:14:19 therapy หรือมีปัญหาอื่นร่วมด้วยเช่น
00:14:19 → 00:14:22 กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่อยู่ในภาวะกระบัง
00:14:22 → 00:14:25 ลมหย่อนในผู้หญิงทั้งหมดนี้ค่ะจะเป็นข้อ
00:14:25 → 00:14:28 บ่งชี้ให้พิจารณาจะหมอผ่าตัดรักษาเข้ามา
00:14:28 → 00:14:31 ช่วยเช่นการผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ออกการยกลำ
00:14:31 → 00:14:35 ไส้ขึ้นมาเป็นถุงที่หน้าท้องค่ะนอกจากแนว
00:14:35 → 00:14:37 ทางที่เหมาะได้กล่าวไปแล้วนะคะไม่ว่าจะ
00:14:37 → 00:14:39 เป็นการปรับพฤติกรรมสุขภาพหรือการรับ
00:14:39 → 00:14:42 ประทานยาระบายวันนี้หมอมีคำแนะนำจากแพทย์
00:14:42 → 00:14:45 ผู้เชี่ยวชาญค่ะซึ่งเป็นอาจารย์เฉพาะทาง
00:14:45 → 00:14:48 เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารมาให้คำแนะนำ
00:14:48 → 00:14:51 แนวทางในการรักษาภาวะท้องผูกกันค่ะเช่น
00:14:51 → 00:14:54 Detox นี้มันดีต่อลำไส้มันช่วยรักษา
00:14:54 → 00:14:56 อาการท้องผูกเรื้อรังได้หรือไม่ไปติดตาม
00:14:56 → 00:14:58 กันค่ะเขามาท้องผูกคนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่า
00:14:58 → 00:15:03 อาจจะเป็นแค่ถ่ายปริมาณน้อยลงสลักแข็งนะ
00:15:03 → 00:15:06 ครับจริงๆแล้วอาการท้องผูกเนี่ยก็บางคน
00:15:06 → 00:15:08 อาจจะไม่ทราบว่าบางคนเนี่ยอาจจะมีปัญหา
00:15:08 → 00:15:12 เรื่องเข้าน้ำนานนะครับต้องใช้แรงเด้งงาน
00:15:12 → 00:15:15 เกินบางคนเป็นชั่วโมงโดยที่ใช้เวลาในห้อง
00:15:15 → 00:15:18 น้ำบางคนก็จะมีความรู้สึกของอื่นถ่ายแล้ว
00:15:18 → 00:15:21 รู้สึกว่าเออมันไม่หมดนะครับแล้วก็อาจจะ
00:15:21 → 00:15:25 รู้สึกว่ามีอะไรอุดกลั้นอยู่ที่บริเวณลำ
00:15:25 → 00:15:28 ไส้ใหญ่นะครับมีตัวยาถ่ายนะครับการระบาย
00:15:28 → 00:15:30 เนี่ยก็ค่อนข้างปลอดภัยนะครับแล้วก็มี
00:15:30 → 00:15:33 หลายกลุ่มนะครับโดยส่วนใหญ่เนี่ยรับ
00:15:33 → 00:15:35 ประทานแล้วก็อาจจะมีความเชื่อว่าจะติด
00:15:35 → 00:15:38 หรือว่าจะต้องใช้ยาถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
00:15:38 → 00:15:41 หรือเปล่านะครับก็มีหลายกลุ่มนะค้ายส่วน
00:15:41 → 00:15:45 ใหญ่ก็ไม่ทำให้ติดนะครับแล้วก็เราช่วย
00:15:45 → 00:15:47 เรื่องคุณภาพซื้อได้ดีดีกว่าไม่ทานนะครับ
00:15:47 → 00:15:51 แต่ก็จะมียาถ่ายในบ้านกลุ่มที่อาจจะทำให้
00:15:51 → 00:15:55 เกิดทำให้เราต้องใช้อากาศเพื่อนๆถ้าเกิด
00:15:55 → 00:15:58 มาสุรพันธ์ต่อเนื่องซึ่งปกติหมอจะใช้ยา
00:15:58 → 00:16:00 กลุ่มนี้เป็นช่วงสั้นๆตอนที่คนไข้มีอาการ
00:16:00 → 00:16:04 เยอะนะครับเพราะคุณแค่อาการดีขึ้นแล้วก็
00:16:04 → 00:16:07 จะเปลี่ยนกลุ่มยาถ่ายที่ไม่มีผลต่อเนื่อง
00:16:07 → 00:16:10 ตรงนี้ก็การส่วนลำไส้นะครับจากการศึกษา
00:16:10 → 00:16:14 ที่พบมาเนี่ยก็อาจจะช่วยได้ในช่วงระยะ
00:16:14 → 00:16:18 เวลาสั้นๆชนิดช็อคเสร็จนะครับแต่ว่าอ่าใน
00:16:18 → 00:16:20 การรักษาในระยะยาวเนี่ยไม่ได้ช่วยเพิ่ม
00:16:20 → 00:16:23 เติมที่จะทำให้อาการท้องผูกดีขึ้นนะครับ
00:16:23 → 00:16:25 ซ้ำแล้วอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่
00:16:25 → 00:16:27 รุนแรงเกิดขึ้นได้นะนี้ก็จะเป็นการติด
00:16:27 → 00:16:29 เชื้อในกระแสเลือดหรือทำให้เกิดลำไส้ฉีก
00:16:29 → 00:16:33 ขาดได้โดยทางทางของอะทางแพ่งเนี่ยก็ไม่
00:16:33 → 00:16:36 แนะนำนะคะให้ใกล้ๆทำเรื่องการสวนลำไส้นะ
00:16:36 → 00:16:40 ครับผมคิดว่าคนเสียน่าจะมากกว่าผลดีปัญหา
00:16:40 → 00:16:42 ท้องผูกนะครับเป็นปัญหาที่พบบ่อยนะครับ
00:16:42 → 00:16:45 การรักษาเริ่มต้นก็อาจจะเริ่มจากการจะ
00:16:45 → 00:16:49 เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของเรานะครับเริ่ม
00:16:49 → 00:16:51 ตั้งแต่การรับประทานอาหารเช่นกันรับ
00:16:51 → 00:16:53 ประทานอาหารที่มีผักผลไม้ให้จิ้มคอนะครับ
00:16:53 → 00:16:57 มีครรภ์รับประทานดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2
00:16:57 → 00:17:00 with ตะวันนะครับแล้วก็อาจจะเริ่มเพิ่ม
00:17:00 → 00:17:03 การออกกำลังกายแอโรบิค Exercise เพิ่ม
00:17:03 → 00:17:07 เติมนะครับอ่าให้ไปเข้าห้องน้ำ
00:17:07 → 00:17:12 เป็นเวลานะครับแล้วก็อาจจะไม่ละเลยอาการ
00:17:12 → 00:17:15 ปวดเด็ดขาดนะครับถ้ามีอาการบุญใจก็ให้รีบ
00:17:15 → 00:17:17 ไปเข้าห้องน้ำนะครับก็รักษาเบื้องต้น
00:17:17 → 00:17:21 อย่างนี้ก่อนถ้าเกิดสมมติว่าไม่ตอบสนองก็
00:17:21 → 00:17:24 ให้มาพบแพทย์ได้นะครับแล้วก็ถ้าเกิดสมุด
00:17:24 → 00:17:26 ท่านมีอาการเตือนของโรคลำไส้มะเร็งมันจะ
00:17:26 → 00:17:30 ก็เช่นมีเรื่องของอ่าน้ำหนักรถเยอะนะครับ
00:17:30 → 00:17:33 อายุมากกว่า 50 ปีนะครับอุจจาระเนี่ยมี
00:17:33 → 00:17:36 ช่องเสียบสลับกับท้องผูกนะครับแล้วก็มี
00:17:36 → 00:17:40 ญาติสายตรงนะครับเช่นพ่อแม่นะครับเป็น
00:17:40 → 00:17:43 มะเร็งลำไส้ใหญ่ถ้ามีของถูกและหลังร่วม
00:17:43 → 00:17:46 กับการมีอาการเตือนก็แนะนำให้มาพบแค่นะ
00:17:46 → 00:17:49 ครับหลังจากที่ช่วงนี้ได้ฟังคำแนะนำจาก
00:17:49 → 00:17:52 อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโรค
00:17:52 → 00:17:55 ทางเดินอาหารทางแนะนำต่างๆที่น่าสนใจกัน
00:17:55 → 00:17:58 ไปแล้วนะคะช่วงหน้าหมอจะพาไปติดตามกันถาม
00:17:58 → 00:18:01 ว่าสัญญาณอันตรายอะไรบ้างที่บ่งชีว่าเรา
00:18:01 → 00:18:03 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายหากเรามี
00:18:03 → 00:18:06 อาการท้องผูกร่วมกับเงื่อนไขอื่นๆค่ะติด
00:18:06 → 00:18:14 ตามกันค่ะหิวอ่ะ
00:18:14 → 00:18:18 [เพลง]
00:18:18 → 00:18:20 โน้ท
00:18:20 → 00:18:29 [เพลง]
00:18:29 → 00:18:30 จะ
00:18:30 → 00:18:33 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 3 ของรายการพีเอ็น
00:18:33 → 00:18:35 เฮลธซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายกันแล้วนะคะแต่
00:18:35 → 00:18:38 หมดลูกว่าจริง 3 ไม่ตากลีบบุปผาค่ะหลัง
00:18:38 → 00:18:42 จากช่วงที่แล้วนะคะได้ทราบถึงสาเหตุอาการ
00:18:42 → 00:18:45 แล้วก็แนวทางในการรักษาอาการท้องผูก
00:18:45 → 00:18:47 เรื้อรังกันไปแล้วค่ะช่วงนี้เรามาดู
00:18:47 → 00:18:49 สัญญาณอันตรายหรือว่าอารามมิ่งเซ็นทรัล
00:18:49 → 00:18:53 ค่ะอาการที่บ่งบอกว่าถ้าเรามีท้องผุร่วม
00:18:53 → 00:18:56 กับข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้เป็นสัญญาณ
00:18:56 → 00:18:58 อันตรายที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับ
00:18:58 → 00:19:00 มะเร็งลำไส้ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
00:19:00 → 00:19:04 อันดับแรกคือผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปที่มี
00:19:04 → 00:19:07 ท้องผูกเรื้อรังค่ะอันดับต่อไปก็คือผู้
00:19:07 → 00:19:11 ที่มีภาวะหรือว่าอาการซีดจากภาวัตขาดธาตุ
00:19:11 → 00:19:14 เหล็กค่ะถ่ายอุจจาระเป็นเลือดน้ำหนักลด
00:19:14 → 00:19:17 ผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุมีประวัติสมาชิก
00:19:17 → 00:19:20 ในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอาการ
00:19:20 → 00:19:23 ท้องผูกจะมีอาการของลําไส้อุดตันเช่นปวด
00:19:23 → 00:19:26 ท้องมากเกิดอัดแน่นท้องคลื่นไส้อาเจียน
00:19:26 → 00:19:30 และท้องผูกที่รบกวนชีวิตมากขอระบายแล้วก็
00:19:30 → 00:19:33 ยังไม่ได้ผลค่ะซึ่งการตรวจวินิจฉัยค่ะจะ
00:19:33 → 00:19:36 ทำอย่างไรบ้างไปฟังคำแนะนำค่ะจากอาจารย์
00:19:36 → 00:19:39 ในแทบจงกรศิริมงคลเกษมอาจารย์ประจำภาค
00:19:39 → 00:19:42 วิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์
00:19:42 → 00:19:45 มหาวิทยาลัยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาด
00:19:45 → 00:19:48 ไทยค่ะก็ถามว่าว่าอาการท้องผูกด้วยล่ะ
00:19:48 → 00:19:52 เนี่ยจะนำไปสู่อาการโรคร้ายหรือเปล่า
00:19:52 → 00:19:54 เนี่ยก็อาจจะต้องซักประวัติมันมาตรวจร่าง
00:19:54 → 00:19:57 กายเพิ่มเติมจะมีประวัติบางอย่างที่สงสัย
00:19:57 → 00:20:00 ว่าจะมีโรคร้ายนะครับเช่นถ้าเกิดสมมติว่า
00:20:00 → 00:20:04 มีสาระมีเลือดปนนะครับกูจะนะมีท้องเสีย
00:20:04 → 00:20:07 สลับท้องผูกหรือว่ามีน้ำหนักรถเยอะนะครับ
00:20:07 → 00:20:10 ในกลุ่มคนไข้เรานี้เนี่ยก็แนะนำว่าให้มา
00:20:10 → 00:20:14 พบแค่นะครับหรือจะมีอายุมากกว่า 50 ปีตอน
00:20:14 → 00:20:16 เนี้ยก็พูดว่าอุบัติการณ์ของในลำไส้ใหญ่
00:20:16 → 00:20:19 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะครับตามอายุแล้วก็แนะ
00:20:19 → 00:20:22 นำว่าได้พบประชากรทั่วไปที่มีอยู่ 50 ปี
00:20:22 → 00:20:25 เนี่ยมาจากกล้องเหมือนกันใช่ใหญ่กว่าจะมี
00:20:25 → 00:20:27 ได้หลายวิธีนะครับได้ทั้งแก่ตั้งแต่การ
00:20:27 → 00:20:30 ส่องกล้องทำยังไงคะอ๋อหมอลำไส้ใหญ่นะครับ
00:20:30 → 00:20:33 แล้วก็อาจจะมีการตรวจพิจารณาดูว่ามีด้วย
00:20:33 → 00:20:35 คนหรือเปล่าหรือว่ากูจะเนี่ยอาจจะมีขนาด
00:20:35 → 00:20:39 ค่อนเล็กลงเราจะเป็นอาการเตือนของใส่อะนะ
00:20:39 → 00:20:42 ครับมันเองใช่ใหญ่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
00:20:42 → 00:20:45 ลำไส้แดงแล้วก็อาจจะให้การรักษาได้หลาย
00:20:45 → 00:20:47 รูปแบบขึ้นอยู่กับว่าเรา
00:20:47 → 00:20:51 คบลำไส้อิตาลีลำไส้ใหญ่อีกขี้ระยะไหนนะ
00:20:51 → 00:20:54 ครับถ้าเป็นระยะต้นเนี่ยอาจจะมีการส่อง
00:20:54 → 00:20:58 กล้องแล้วก็ทำการรักษาการของกล้องได้แต่
00:20:58 → 00:21:02 ว่าจะเป็นมะเร็งที่ค่อนข้างอ่าระยะที่ 2
00:21:02 → 00:21:05 ที่ศาลขึ้นไปแล้วก็อาจจะต้องการผ่าตัดบวก
00:21:05 → 00:21:08 ลบว่าอาจจะต้องให้ยาเคมีบำบัดเพิ่มเติมนะ
00:21:08 → 00:21:12 ครับแต่นอกจากนี้ค่ะสิ่งที่สำคัญมากๆเลย
00:21:12 → 00:21:14 ก็คือการขยับเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ
00:21:14 → 00:21:17 ค่ะมีการศึกษาค่ะเพราะว่าผู้ที่มี
00:21:17 → 00:21:19 พฤติกรรมเนื้อยิ่งหรือว่าภาษาอังกฤษเรียก
00:21:19 → 00:21:22 ว่าซีเด่นผลิต Lifestyle ค่ะคือคนที่ไม่
00:21:22 → 00:21:25 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายนานๆค่ะโดยพบ
00:21:25 → 00:21:28 ว่าผู้ที่นั่งนานเกิน 4 ชั่วโมงต่อวันค่ะ
00:21:28 → 00:21:32 สัมพันธ์มีอาการท้องผูกเรื้อรังค่ะนอกจาก
00:21:32 → 00:21:35 นี้ค่ะหมอยังมีตัวอย่างท่าบริหารร่างกาย
00:21:35 → 00:21:38 เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่ายลดปัญหาการ
00:21:38 → 00:21:42 ท้องผูกค่ะทำกันง่ายไปดูกันเลยค่ะ
00:21:42 → 00:21:45 1 ท่าที่ 1 ท่านั่งพับขาเกือบข้างขวาออก
00:21:45 → 00:21:50 ไปทับขาซ้ายเข้ามาโดยให้ส้นเท้าขาขวาติด
00:21:50 → 00:21:54 กับต้นขาข้างซ้ายมือวางไว้บนเข่าซ้ายหาย
00:21:54 → 00:21:58 ใจเข้าค้างท่าดังกล่าวแล้วนับ 1-10 หายใจ
00:21:58 → 00:22:02 ปกติค่ะทำสลับกับค่ะอีกข้างนึงนับเป็น
00:22:02 → 00:22:06 หนึ่งรอบแนะนำทำซ้ำ 3 ถึง 5 รอบค่ะท่าที่
00:22:06 → 00:22:11 สองนอนหงายดึงเข่าเข้าหาหน้าอกนอนหงาย
00:22:11 → 00:22:15 เหยียดขาตรงปล่อยลำตัวตามสบายค่อยงอเข่า
00:22:15 → 00:22:18 ข้างหนึ่งขึ้นแล้วยกขาขึ้นมาให้ได้สูงที่
00:22:18 → 00:22:22 สุดสองมือกอดเขาไว้หากขาสามารถแนบหน้า
00:22:22 → 00:22:26 ท้องได้ยิ่งดีค่ะครั้งไว้ 20 วินาทีแล้ว
00:22:26 → 00:22:30 ค่อยๆวางขาลมสลับข้างแล้วทำซ้ำขั้นตอน
00:22:30 → 00:22:33 เดิมอีกครั้งครั้งถ้าดังกล่าวแล้วนับ 1-10
00:22:33 → 00:22:37 หายใจปกติทำสลับกับไข่อีกข้างหนึ่งนับ
00:22:37 → 00:22:41 เป็นหนึ่งรอบทำซ้ำ 3 ถึง 5 รอบค่ะอ่ะอ่ะ
00:22:41 → 00:22:45 ค่ะโดยสรุปแล้วนะคะภาวะท้องผูกเรื้อรัง
00:22:45 → 00:22:47 เนี่ยก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลต่อการใช้
00:22:47 → 00:22:50 ชีวิตของทุกคนเป็นอย่างมากนะคะใครที่เป็น
00:22:50 → 00:22:53 ท้องผูกเนี่ยก็จะมีอาการทุกข์ทรมานไม่สุข
00:22:53 → 00:22:56 สบายทั้งกายทั้งใจเลยค่ะค่ะอันดับแรกของ
00:22:56 → 00:22:58 ผู้ที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังเนี่ยก็ควร
00:22:58 → 00:23:01 ที่จะเริ่มปรับพฤติกรรมสุขภาพเกาะในว่าจะ
00:23:01 → 00:23:04 เป็นการดื่มน้ำที่เยอะขึ้นทานอาหารที่มี
00:23:04 → 00:23:07 กากใยไฟเบอร์มากขึ้นออกกำลังกายขยับ
00:23:07 → 00:23:10 เคลื่อนไหวให้มากขึ้นก็มีส่วนช่วยให้
00:23:10 → 00:23:13 กระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ขับถ่ายได้
00:23:13 → 00:23:16 ง่ายขึ้นแต่ถ้าวิธีดังกล่าวยังไม่โอเคยัง
00:23:16 → 00:23:18 ไม่ช่วยเนี่ยก็แนะนำเริ่มด้วยการประทานยา
00:23:18 → 00:23:21 ระบายแต่จริงๆแล้วเนี่ยการเลือกซื้อหรือ
00:23:21 → 00:23:24 ว่าการหายาระบายมารับประทานเนี่ยควรจะ
00:23:24 → 00:23:26 อยู่ไทยใต้ทำแนะนำหรือว่าการดูแลของแพทย์
00:23:26 → 00:23:29 นะคะเพราะว่ายาบ้าชนิดเนี่ยก็มีข้อห้าม
00:23:29 → 00:23:32 หรือว่ามีข้อควรระวังค่ะต่อมาถ้าเกิดว่า
00:23:32 → 00:23:34 ทานยาระบายแล้วยังไม่เป็นผลยังไม่ทุเลา
00:23:34 → 00:23:37 เนี่ยก็ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อทราบวิธีการ
00:23:37 → 00:23:40 ในการดูแลรักษาต่อไปอาจจะมีการทำ
00:23:40 → 00:23:43 ไบโอฟีดแบคที่หมอผ่าตัดเข้ามาช่วยค่ะทั้ง
00:23:43 → 00:23:47 หมดนี้นะคะเป็นคำแนะนำในการดูแลรักษาภาวะ
00:23:47 → 00:23:50 ท้องผูกเรื้อรังค่ะซึ่งควรอยู่ใครป่ะการ
00:23:50 → 00:23:52 ดูแลแล้วก็คำแนะนำดีๆจากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:23:52 → 00:23:54 ชาญค่ะ
00:23:54 → 00:23:57 คุณค่าและทั้งหมดนี้คือสาระความรู้ที่น่า
00:23:57 → 00:23:59 สนใจประจำสัปดาห์นี้จะกับเรื่องปัญหาท้อง
00:23:59 → 00:24:03 ผูกค่ะใครที่มีอาการท้องผูกคนใกล้ตัวมี
00:24:03 → 00:24:06 อาการเหล่านี้ไปพบแพทย์นะคะเพื่อที่จะได้
00:24:06 → 00:24:09 ทำการตรวจรักษาและก็จะทำให้คุณค่าชีวิต
00:24:09 → 00:24:11 ของท่านดีขึ้นไม่ประสบปัญหาทุกคณะมาจาก
00:24:11 → 00:24:14 อาการท้องผูกค่ะแล้วกลับมาพบกับสาระความ
00:24:14 → 00:24:17 รู้ที่น่าสนใจทางสุขภาพกับหมอลูกปลาติ่ง
00:24:17 → 00:24:20 สารพิษรากรีตดูข่าวได้ใหม่ค่ะทุกวันเสาร์
00:24:20 → 00:24:24 เวลา 15:00 45 นาฬิกา 30 นาทีทาง TNN
00:24:24 → 00:24:28 ช่อง 16 สวัสดีค่ะอ่า
00:24:28 → 00:24:31 ที่เราเสนอโดย to help บริการส่งสุขภาพ
00:24:31 → 00:24:34 ดีถึงที่ให้คุณปรึกษาหมอออนไลน์และบริการ
00:24:34 → 00:24:37 ส่งยาถึงบ้าน
00:24:37 → 00:24:44 โน้ท
00:24:44 → 00:24:54 [เพลง]
00:24:54 → 00:24:59 โน้ท
00:24:59 → 00:25:02 ม.ค
00:00:00 → 00:00:06 ขอ
00:00:06 → 00:00:08 จบ
00:00:08 → 00:00:17 [เพลง]
00:00:17 → 00:00:21 สนับสนุนโดย to help บริการส่งสุขภาพดี
00:00:21 → 00:00:23 ถึงที่ให้คุณปรึกษาหมอออนไลน์และบริการ
00:00:23 → 00:00:25 ส่งยาถึงบ้าน
00:00:25 → 00:00:29 พบคนไทยกว่าร้อยละ 20 มีปัญหาท้องผูก
00:00:29 → 00:00:33 เรื้อรังชอบนะผู้สูงวัยขัดข้องครูควรตรวจ
00:00:33 → 00:00:36 คัดซองป้องกันมะเร็งลำไส้ดูแลสุขภาพตั้ง
00:00:36 → 00:00:39 แต่วันนี้ปรับการกินออกกำลังกายลดปัญหา
00:00:39 → 00:00:44 ท้องผูกเรื้อรังลุกลามโรคร้ายแรง
00:00:44 → 00:00:47 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการที
00:00:47 → 00:00:50 เอ็นเอ็นเฮลธค่ะรายการที่มากด้วยสาระความ
00:00:50 → 00:00:53 รู้ทางสุขภาพที่น่าสนใจกับหมอลูกละแท้
00:00:53 → 00:00:56 จริงสามีจ่ายฟิวส์พาทุกวันเสาร์เวลา 15:00
00:00:56 → 00:01:00 นถึง 15:30 ค่ะสัปดาห์นี้จะพาคุณผู้ชมทุก
00:01:00 → 00:01:03 เอาไปติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ
00:01:03 → 00:01:06 ปัญหาท้องผูกค่ะไปดูกันเขาว่าท้องผูก
00:01:06 → 00:01:09 เนี่ยเกิดจากอะไรมีแนวทางในการดูแลรักษา
00:01:09 → 00:01:13 มีอาการมีวิธีแก้ไขยังไงไปดูกันค่ะ
00:01:13 → 00:01:17 คะคุณผู้ทรงคะการขับถ่ายค่ะมีส่วนสำคัญ
00:01:17 → 00:01:20 ต่อสุขภาพชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็น
00:01:20 → 00:01:22 อย่างมากเลยนะคะใครที่มีระบบการขับถ่าย
00:01:22 → 00:01:25 ที่เป็นปกติก็ส่งผลให้การดำเนินชีวิตใน
00:01:25 → 00:01:28 วันนั้นราบรื่นได้ค่ะมีการรายงานที่น่าสน
00:01:28 → 00:01:31 ใจที่หมออยากจะยกมาฝากค่ะเป็นงานวิจัยของ
00:01:31 → 00:01:34 bnj หรือว่า Disk ไม่ได้เข้าเจอนอกนะคะ
00:01:34 → 00:01:37 เป็นการเก็บข้อมูลในประเทศเม็กซิโกในช่วง
00:01:37 → 00:01:40 ปี 2019 หรือว่าปี
00:01:40 → 00:01:43 2562 ค่ะที่การเก็บข้อมูลช่วงเดือนอ่าน
00:01:43 → 00:01:47 เมษายนถึงพฤษภาคมค่ะบอกว่าในช่วงนั้น
00:01:47 → 00:01:48 ประเทศเม็กซิโกค่ะมีการ lock Down
00:01:48 → 00:01:52 ประมาณ 1-2 เดือนเขาก็มีการสำรวจประชากร
00:01:52 → 00:01:56 ประมาณ 700 คนค่ะพบว่ามีปัญหาท้องผูกค่ะ
00:01:56 → 00:01:59 ประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรที่สำรวจเลยค่ะ
00:01:59 → 00:02:02 ทั้งนี้สาเหตุที่เค้าวิเคราะห์ออกมาค่ะ
00:02:02 → 00:02:04 เพราะว่ามีความเกี่ยวข้องกับการที่ล็อค
00:02:04 → 00:02:07 ดาวทำให้ประชาชนเนี่ยไม่ค่อยจะขยับ
00:02:07 → 00:02:09 เคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็เติมน้ำน้อยด้วย
00:02:09 → 00:02:12 ค่ะทีนี้ประเด็นที่น่าสนใจก็คือปัญหาท้อง
00:02:12 → 00:02:15 ผูกก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ไม่
00:02:15 → 00:02:18 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายแล้วก็การดื่ม
00:02:18 → 00:02:21 น้ำน้อยแต่นี่เป็นเพียงปัจจัยนึงค่ะวัน
00:02:21 → 00:02:24 นี้หมอเลยอยากพาทุกคนมาติดตามหรือว่ามา
00:02:24 → 00:02:26 ศึกษาแนวทางในการดูแลเรื่องท้องผูกกันถ้า
00:02:26 → 00:02:30 ว่าท้องกลุ่มเนี่ยมีความน่าสนใจยังไงมี
00:02:30 → 00:02:32 สัญญาณอันตรายอะไรไหมที่เกี่ยวกับท้องผูก
00:02:32 → 00:02:35 และจะสัมพันธ์กับโรคมะเร็งค่ะติดตามกัน
00:02:35 → 00:02:38 ค่ะอาการท้องผูกเรื้อรังค่ะจะเป็นอาการ
00:02:38 → 00:02:41 ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนที่เป็น
00:02:41 → 00:02:44 ท้องผูกเป็นอย่างมากค่ะไม่ว่าจะเป็นทาง
00:02:44 → 00:02:47 กายทางใจทุกข์ทรมานพอๆกันเลยค่ะวันนี้หมอ
00:02:47 → 00:02:50 ละอยากพามาดูเขาว่าอะไรที่เรียกว่าท้อง
00:02:50 → 00:02:53 ผูกเรื้อรังเป็นยังไงค่ะท้องผูกนะคะนิยาม
00:02:53 → 00:02:56 ทั่วๆไปเนี่ยก็คือปริมาณความถี่ในการขับ
00:02:56 → 00:03:00 ถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติค่ะสมาคมประสาท
00:03:00 → 00:03:03 ทางเดินอาหารและการเคลื่อนไหวประเทศไทย
00:03:03 → 00:03:06 ค่ะและให้นิยามคำว่าท้องผูกเรื้อรังคือคน
00:03:06 → 00:03:09 ที่มีอาการดังกล่าวต่อไปนี้ครบ 3 เดือน
00:03:09 → 00:03:13 ค่ะโดยอาการครั้งแรกดำเนินมาไม่น้อยกว่า 6
00:03:13 → 00:03:16 เดือนที่ผ่านมาค่ะได้แก่อุจจาระไม่เลว
00:03:16 → 00:03:19 นิ่มถังไม่ใช้ยาระบายร่วมกับอาการเกิน 2
00:03:19 → 00:03:22 อาการขึ้นไปประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์หรือ 1
00:03:22 → 00:03:24 ใน 4 ของการขับถ่ายในชีวิตประจำวันของเรา
00:03:24 → 00:03:27 ได้แก่ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อ
00:03:27 → 00:03:30 สัปดาห์อุจจาระเป็นก้อนแข็งรู้สึกถ่าย
00:03:30 → 00:03:33 อุจจาระไม่สุดหรือรู้สึกถ่ายไม่ออกมาจาก
00:03:33 → 00:03:36 มีสิ่งอุดการที่ทวารหนักต้องใช้ตัวช่วยทำ
00:03:36 → 00:03:39 ให้อุจจาระออกมาและต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ
00:03:39 → 00:03:42 มากกว่าปกติและไม่เข้าเกณฑ์โรคลำไส้แปร
00:03:42 → 00:03:44 ปรวนการเกณฑ์การวินิจฉัยทางการแพทย์ของ
00:03:44 → 00:03:47 โรมไครทีเรียที่ 4 ถ้าใครที่มีอาการดัง
00:03:47 → 00:03:50 กล่าวที่หมอได้กล่าวไปก็จัดว่ามีภาวะท้อง
00:03:50 → 00:03:52 ผูกเรื้อรังแล้วค่ะ
00:03:52 → 00:03:56 สาเหตุที่ทำให้ท้องถูกค่ะมีหลายสาเหตุมาก
00:03:56 → 00:03:59 ๆเลยมาดูที่กลุ่มแรกกันบ้างค่ะสาเหตุแรก
00:03:59 → 00:04:03 ก็คือยาค่ะเชื่อให้เค้าอาญาเนี่ยมีผลต่อ
00:04:03 → 00:04:05 ภาวะท้องผูกของเรามากเลยใครที่ทานยาดัง
00:04:05 → 00:04:08 ต่อไปนี้นะคะแล้วมีอาการท้องผูกเนี่ยช่วย
00:04:08 → 00:04:11 รบกวนปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยหาแนวทางในการ
00:04:11 → 00:04:14 รักษาค่ะอย่ากลุ่มแรกจะคือกลุ่มของยาแก้
00:04:14 → 00:04:17 ปวดโดยเฉพาะเอ็นเสด nsaids ก็คือยาแก้ปวด
00:04:17 → 00:04:20 ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ค่ะเช่นไอบูโพรเฟน
00:04:20 → 00:04:23 ไดโคลฟีแนครวมถึงยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของ
00:04:23 → 00:04:26 มอร์ฟีนค่ะอย่าที่มีผลผสมของกลุ่ม
00:04:26 → 00:04:29 อนุพันธ์พวกมอร์ฟีนนะคะจะทำให้ท้องผูกไป
00:04:30 → 00:04:32 เฉพาะผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาแก้ปวดนี้เยอะๆ
00:04:32 → 00:04:35 เช่นผู้ป่วยติดเตียงผู้ป่วยโรคมะเร็งค่ะ
00:04:35 → 00:04:39 ต่อไปจะเป็นยาลดความดันค่ะในกลุ่ม Calcium
00:04:39 → 00:04:41 Channel blocker ค่ะตัวอย่างยากลุ่มมี
00:04:41 → 00:04:44 เช่นแอมโลดิปีนค่ะจะทำให้ท้องผูกได้ค่ะ
00:04:44 → 00:04:47 นอกจากนี้ก็ยังมียาในกลุ่มของยาขับ
00:04:47 → 00:04:51 ปัสสาวะค่ะยารักษาโรคซึมเศร้ายาต้านเศร้า
00:04:51 → 00:04:55 เช่นอะมิชลินค่ะแล้วก็ยาที่มีส่วนผสมของ
00:04:55 → 00:04:57 ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบยาที่มีส่วนผสม
00:04:57 → 00:05:01 ของแถวเสี้ยมเป็นส่วนประกอบเช่นอาญาน้ำ
00:05:01 → 00:05:03 ที่ใช้ในการดื่มเพื่อรักษาโรคของกระเพาะ
00:05:03 → 00:05:05 อาหารอักเสบค่ะมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ
00:05:05 → 00:05:09 ทำให้มีขนท้องผูกได้ค่ะโรคหรือความผิด
00:05:09 → 00:05:12 ปกติของระบบฮอร์โมนเช่นโรคเบาหวานฮอร์โมน
00:05:12 → 00:05:15 ไทรอยด์และก็ได้โพแทสเซียมต่ำภาวะ
00:05:15 → 00:05:18 แคลเซียมในเลือดสูงกว่าปกติโรคหรือความ
00:05:18 → 00:05:21 ผิดปกติทางระบบประสาทและสมองเช่นโรคพาร์
00:05:21 → 00:05:24 กินสันโรคหนังแข็งโรคหลอดเลือดสมองโรค
00:05:24 → 00:05:27 เกี่ยวกับไขสันหลังโรคทางสุขภาพจิตหรือ
00:05:27 → 00:05:30 จิตเวชเช่นโรคซึมเศร้าโรคพฤติกรรมการกิน
00:05:30 → 00:05:33 ที่ผิดปกติโรคเกี่ยวกับการอุดก้างของลำ
00:05:33 → 00:05:36 ไส้จากสาเหตุต่างๆเช่นมะเร็งหรือเนื้องอก
00:05:36 → 00:05:39 ของลำไส้ใหญ่และทวารหนักโรคกระเปาะต์ที่
00:05:39 → 00:05:43 ทวารหนักโรคที่มีการควบคุมระบบการขับถ่าย
00:05:43 → 00:05:46 ของลำไส้อ่ะที่ผิดปกติเช่นภาวะลำไส้แปร
00:05:46 → 00:05:49 ปรวนหรือว่าโรคที่กล้ามเนื้อหูรูดทวาร
00:05:49 → 00:05:52 หนักทำงานผิดปกติค่ะนอกจากนี้ค่ะพฤติกรรม
00:05:52 → 00:05:56 ที่อาจจะส่งผลให้มีภาวะท้องผูกก็คือคนที่
00:05:56 → 00:05:58 ไม่ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายค่ะเช่นคน
00:05:58 → 00:06:01 ที่นั่งนานๆทำงานๆหรือว่าผู้ป่วยติดเตียง
00:06:01 → 00:06:05 ค่ะก็ส่งผลทำให้ท้องผูกได้แล้วก็ภาวะที่
00:06:05 → 00:06:08 เราเนี่ยไม่ค่อยจะทานผักผลไม้หรือว่าทาน
00:06:08 → 00:06:11 ไฟเบอร์ค่ะนอกจากนี้ก็คือคนที่ดื่มน้ำ
00:06:11 → 00:06:14 น้อยก็ทำให้ท้องผูกได้ค่ะเหตุผลที่ตามมา
00:06:14 → 00:06:18 จากการที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังค่ะใครก็
00:06:18 → 00:06:20 ตามค่ะที่ท้องผูกขับถ่ายไม่ค่อยออกนะคะ
00:06:20 → 00:06:23 มันจะมีปัญหาที่พบได้บ่อยๆค่ะไม่ว่าจะ
00:06:23 → 00:06:26 เป็นความรู้สึกของการอื่นอาจรู้สึกไม่
00:06:26 → 00:06:28 ค่อยตุ๊กสบายเลยค่ะวันนี้ยังไม่ได้ขับ
00:06:28 → 00:06:31 ถ่ายทำงานก็รู้สึกมันไม่ของตัวแน่นท้อง
00:06:31 → 00:06:34 ยังไงก็ไม่รู้นะคะนอกจากนี้จะมีอาการที่
00:06:34 → 00:06:36 เต็นท์ชาร์จที่พบได้บ่อยในคนที่ท้องผูก
00:06:36 → 00:06:40 เรื้อรังมากๆเมื่อออกแรงเบ่งเยอะค่ะจะทำ
00:06:40 → 00:06:43 ให้แรงดันในช่องท้องมันสูงขึ้นก็จะทำให้
00:06:43 → 00:06:47 บางส่วนของลำไส้ใหญ่อ้ะมันยื่นมันโป่งมัน
00:06:47 → 00:06:49 นูนออกมาจากทวารหนักหรือที่เรารู้จักกัน
00:06:49 → 00:06:52 ในภาวะของริดสีดวงทวารนั่นเองค่ะแต่ถ้า
00:06:52 → 00:06:55 เกิดว่าเป็นมากๆแรงดันมากขึ้นอีกแล้ว
00:06:55 → 00:06:57 เฉพาะหลอดเลือดบริเวณทวารน่ะค่ะก็จะทำให้
00:06:57 → 00:07:00 มีการฉีกขาดมีเลือดไหลออกมาเวลาที่เรา
00:07:00 → 00:07:03 อุจจาระได้ค่ะแต่ว่าบางคนเนี่ยค่ะก็ยัง
00:07:03 → 00:07:06 ไม่เพียงแค่นั้นมาคนอุตรแข็งมากๆเนี่ยทำ
00:07:06 → 00:07:09 ให้อุจจาระเนี่ยบาตรก้นบัติผิวหนังบริเวณ
00:07:09 → 00:07:11 ทวารหนักทำให้มีแผลแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด
00:07:11 → 00:07:15 รวดร้าวขนาดถ่ายเป็นอย่างอันนี้ค่ะผู้ที่
00:07:15 → 00:07:18 มีความดันในช่องท้องสูงอาจจะทำให้เกิดโรค
00:07:18 → 00:07:20 ไส้เลื่อนหรือว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่
00:07:20 → 00:07:23 อยู่ได้ค่ะนอกจากนี้ความดันในช่องท้องที่
00:07:23 → 00:07:26 สูงยังทำให้ความดันในช่องอกสูงตามไปด้วย
00:07:26 → 00:07:29 เป็นอันตรายต่อทรวงอกโดยเฉพาะผู้ที่เป็น
00:07:29 → 00:07:32 โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดกระตุ้นให้
00:07:32 → 00:07:35 เจ็บหน้าอกหน้ามืดเป็นลมได้ค่ะคุณผู้ชมคะ
00:07:35 → 00:07:38 จะเห็นว่าปัญหาท้องผูกเรื้อรังเนี่ยค่ะทำ
00:07:38 → 00:07:41 ให้มีความไม่สุขสบายทั้งกายและใจส่งผล
00:07:41 → 00:07:43 กระทบต่อการใช้ชีวิตของเราเป็นอย่างมาก
00:07:43 → 00:07:45 เลยนะคะช่วงนี้เนี่ยเราได้ทราบถึงสาเหตุ
00:07:45 → 00:07:48 และอาการต่างๆกันไปแล้วล่วงหน้าหมอจะพาไป
00:07:48 → 00:07:50 ติดตามว่าถ้าเรามีอาการท้องผูกเรื้อรัง
00:07:50 → 00:07:53 เนี่ยก็จะมีวิธีในการดูแลรักษายังไงบ้าง
00:07:53 → 00:07:57 ไปติดตามในช่วงหน้าค่ะอ่ะ
00:07:57 → 00:08:01 [เพลง]
00:08:01 → 00:08:02 พ.ย
00:08:02 → 00:08:05 [เพลง]
00:08:05 → 00:08:06 ขอ
00:08:06 → 00:08:13 จบการรีวิว
00:08:13 → 00:08:17 [เพลง]
00:08:17 → 00:08:19 มี
00:08:19 → 00:08:22 คู่สู้ Call it ให้คนไทยชนะไปด้วยกันกับ
00:08:22 → 00:08:26 ดู 5 จี่และบริการที่ตอบโจทย์ทุกรัฐตาย
00:08:26 → 00:08:29 จะกลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของ T N Health
00:08:29 → 00:08:31 กับหมอหรือปลาอีกแล้วนะคะหลังจากช่วงที่
00:08:31 → 00:08:33 แล้วเนี่ยที่เราได้ทราบถึงสาเหตุและก็
00:08:33 → 00:08:36 อาการจากภาวะท้องผูกเรื้อรังกันไปแล้ว
00:08:36 → 00:08:38 ช่วงนี้เรามาดูแนวทางในการแก้ไขปัญหาท้อง
00:08:38 → 00:08:42 ผูกกันค่ะโดยทั่วไปเนี่ยผู้ที่มีภาวะท้อง
00:08:42 → 00:08:45 ผูกค่ะมันจะมีการดูแลตนเองมาระดับหนึ่ง
00:08:45 → 00:08:47 แล้วก็คืออาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง
00:08:47 → 00:08:50 ดื่มน้ำเยอะขึ้นทานผักผลไม้หรือว่าบางคน
00:08:50 → 00:08:53 ก็มีการไปหาซื้อยาระบายมารับประทานเองกัน
00:08:53 → 00:08:56 บ้างแล้วนะคะแต่จริงๆแล้วเนี่ยในผู้ที่มี
00:08:56 → 00:08:58 ภาวะท้องผูกเรื้อรังเนี่ยจริงๆจำเป็นจะ
00:08:58 → 00:09:01 ต้องปรึกษาแท่นนะคะเวลาที่เรามาหาคุณหมอ
00:09:01 → 00:09:03 หรือว่ามาคบหาด้วยปัญหาท้องผูกเรื้อรัง
00:09:03 → 00:09:06 เนี่ยคุณหมอเขาก็จะถามประวัติสุขภาพโรค
00:09:06 → 00:09:10 ประจำตัวหรือว่ายาต่างๆที่น่าจะมีผลทำให้
00:09:10 → 00:09:13 เรามีอาการท้องผูกค่ะซึ่งทั้งหมดนี้คุณ
00:09:13 → 00:09:16 หมอก็จะนำไปสู่การตรวจร่างกายว่ามีสัญญาณ
00:09:16 → 00:09:19 มีลักษณะอะไรที่เกี่ยวข้องกับอาการท้อง
00:09:19 → 00:09:22 ผูกบ้างนำไปสู่การทรงตัวต่างๆเพิ่มเติม
00:09:22 → 00:09:25 ค่ะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเนี่ย
00:09:25 → 00:09:27 เป็นสิ่งที่หมออยากแนะนำคือเรื่องแรกก่อน
00:09:27 → 00:09:30 ค่ะเพราะว่าทำได้ง่ายแล้วก็ไม่เสียค่าใช้
00:09:30 → 00:09:32 จ่ายอะไรเบื้องต้นแนะนำให้ผู้ที่มีอาการ
00:09:32 → 00:09:35 ท้องผูกดื่มน้ำเยอะขึ้นแล้วก็แล้วทาน
00:09:35 → 00:09:38 ไฟเบอร์รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นเพราะ
00:09:38 → 00:09:41 ว่าจะช่วยกระตุ้นทำให้ลำไส้เราเนี่ยบีบ
00:09:41 → 00:09:44 ตัวทำงานได้ดีขับจะลาออกง่ายขึ้นค่ะการ
00:09:44 → 00:09:46 รับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติก
00:09:46 → 00:09:50 การออกกำลังกายหักลองปรับพฤติกรรมการ
00:09:50 → 00:09:53 ดำเนินชีวิตแล้วยังไม่เป็นผลการเข้ารับคำ
00:09:53 → 00:09:55 ปรึกษาได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:09:55 → 00:09:58 ชาญจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างตรง
00:09:58 → 00:10:01 จุดมากยิ่งขึ้นค่ะซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยและ
00:10:01 → 00:10:04 ทำการรักษาโดยวิธีการต่างๆต่อมามาดูที่
00:10:04 → 00:10:07 การฝึกขับถ่ายด้วยทีธรรมชาติหรือว่า
00:10:07 → 00:10:10 ไบโอฟีดแบค Training ค่ะไบโอฟีดแบค
00:10:10 → 00:10:13 Training อ่ะจริงๆนำมาใช้รักษาในกลุ่ม
00:10:13 → 00:10:15 ผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกที่เกิดจากภาวะ
00:10:15 → 00:10:19 กล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักทำงานไม่สัมพันธ์
00:10:19 → 00:10:22 กับการเบ่งถ่ายค่ะภาวะนี้จำเป็นต้องมาทำ
00:10:22 → 00:10:25 มารักษาที่โรงพยาบาลนะคะวิธีการดูแล
00:10:25 → 00:10:28 เรื่องของโน้ทออฟฟิตแบบเนี่ยคุณหมอหรือ
00:10:28 → 00:10:31 แพทย์นะคะจะประเมินด้วยการใช้เครื่องมือ
00:10:31 → 00:10:35 เข้าไปตรวจวัดกระแสประสาทบริเวณที่ครูรูด
00:10:35 → 00:10:37 ทวารหนักที่กล้ามเนื้อรอบทวารหนักของเรา
00:10:37 → 00:10:40 ขณะที่เบ่งถ่ายค่ะดูว่ามีความสัมพันธ์มี
00:10:40 → 00:10:43 แนวโน้มที่จะพัฒนาทำให้รู้สึกว่าบีบแล้ว
00:10:43 → 00:10:46 ก็ขับอุจจาระออกได้มากน้อยแค่ไหนค่ะวิธี
00:10:46 → 00:10:49 นี้ถ้าทำแล้วประสบความสำเร็จเนี่ยจะช่วย
00:10:49 → 00:10:52 ในการรักษาภาวะท้องผูกเรื้อรังได้ดีมากๆ
00:10:52 → 00:10:55 แล้วก็ลดการใช้ยาระบายโดยไม่จำเป็นได้
00:10:55 → 00:10:58 ด้วยค่ะการใช้ยาระบายควรใช้เมื่อมีความ
00:10:58 → 00:11:00 จำเป็นจริงๆและควรใช้ตามที่แพทย์สั่งหรือ
00:11:00 → 00:11:05 แนะนำค่ะยาระบายมีหลายกลุ่มค่ะกลุ่มที่
00:11:05 → 00:11:07 แนะนำเป็นลำดับแรกในการใช้ยาระบายคือยา
00:11:07 → 00:11:10 ที่ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มปริมาณอุจจาระหรือ
00:11:10 → 00:11:13 ว่าฟอร์มอินและสถีบมีลักษณะคล้ายไฟเบอร์
00:11:13 → 00:11:16 ค่ะเพราะฉะนั้นคุณสมบัติก็คือจะดูดซึมน้ำ
00:11:16 → 00:11:19 แล้วก็อุ้มน้ำได้ดีอุจจาระจึงเป็นก็และก็
00:11:19 → 00:11:22 นิ่มขึ้นแต่ว่าถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอเนี่ย
00:11:22 → 00:11:25 การทานยาระบายกลุ่มนี้อาจจะส่งผลให้เกิด
00:11:25 → 00:11:28 ปัญหาตามมาคือมีอาการท้องอืดแล้วถ่ายยาก
00:11:28 → 00:11:31 ได้ค่ะยากลุ่มนี้จะให้ผลหลังรับประทานยา
00:11:31 → 00:11:34 ประมาณ 2 วันตัวอย่างยาเช่นเมทิลเซลลูโลส
00:11:34 → 00:11:38 สี่เหลี่ยมค่ะต่อมาเป็นยาที่ออกฤทธิ์ด้วย
00:11:38 → 00:11:41 การกระตุ้นดูดกลับน้ำเข้ามาในลำไส้หรือ
00:11:41 → 00:11:44 ว่า of โมติกและเศรษฐีค่ะตัวอย่างยากลุ่ม
00:11:44 → 00:11:47 นี้ได้แก่และตัวรถ m o m หรือหม่อมที่
00:11:47 → 00:11:50 ย่อมาจากนิ้วออฟแมกนีเซียมแล้วก็ Poly
00:11:50 → 00:11:52 ethylene glycol หรือว่าพีอีจีหรือว่า
00:11:52 → 00:11:55 มันคนเรียกเป๊กนะคะอย่างนี้ให้ผลหลังการ
00:11:55 → 00:11:58 รับประทานไปแล้วประมาณ 2-3 วันข้อควร
00:11:58 → 00:12:01 ระวังในการใช้ยากลุ่มนี้ค่ะคือในผู้ที่มี
00:12:01 → 00:12:04 ภาวะไตวายเรื้อรังโรคไตเสื่อมค่ะอาจจะมี
00:12:04 → 00:12:06 ปัญหาเนื่องจากระดับนักมีเสียงในเลือดที่
00:12:07 → 00:12:11 ผิดปกติได้แล้วก็คนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสค่ะ
00:12:11 → 00:12:14 เพราะว่าว่ายากลุ่มนี้อาจจะมีส่วนผสมของ
00:12:14 → 00:12:16 น้ำตาลแลคโตสอยู่ในนั้นได้ค่ะต่อมาก็เป็น
00:12:16 → 00:12:19 ยากลุ่มที่ทำให้อุจจาระเรานิ่มขึ้นค่ะ
00:12:19 → 00:12:22 หรือว่าสตูลซอฟเทนเนอร์และเศรษฐีค่ะยา
00:12:22 → 00:12:24 ส่วนมากมีฤทธิ์ของน้ำมันเป็นส่วนประกอบ
00:12:24 → 00:12:27 ตัวอย่างยากลุ่มนี้เช่นอาทิขอต้อนหรือว่า
00:12:27 → 00:12:31 ดูพิเศษค่ะต่อมายาที่กระตุ้นการบีบตัวของ
00:12:31 → 00:12:34 ลำไส้หรือว่า Still และและเศษทิพย์อยากจะ
00:12:34 → 00:12:36 ไปกระตุ้นระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ
00:12:36 → 00:12:39 ในระบบทางเดินอาหารเพื่อให้ลำไส้เคลื่อน
00:12:39 → 00:12:42 ไหวได้เร็วขึ้นให้ผลหลังจากรับประทานไป
00:12:42 → 00:12:45 6-12 ชั่วโมงค่ะดังนั้นจึงแนะนำรับ
00:12:45 → 00:12:48 ประทานตอนหัวค่ำหรือว่าก่อนนอนตัวอย่างยา
00:12:48 → 00:12:51 กลุ่มนี้เช่นมะขามแขกบิซาโคดิลข้อควร
00:12:51 → 00:12:54 ระวังคือยากลุ่มนี้มักมีผลข้างเคียงทำให้
00:12:54 → 00:12:57 มีอาการท้องเสียปวดท้องได้ค่ะต่อมาเป็นยา
00:12:57 → 00:13:00 ระบายชนิดเน็ตหรือว่าสวนช่วยให้อุจจาระ
00:13:00 → 00:13:03 อ่อนนุ่มและเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้
00:13:03 → 00:13:07 ตัวอย่างมีส่วนผสมของโซเดียมฟอสเฟตค่ะมี
00:13:07 → 00:13:10 การศึกษาเพราะว่าผู้ที่มีโรคหัวใจโรคตาย
00:13:10 → 00:13:12 โรคระบบประสาทหรือว่าผู้ที่ใช้ยาส่วนมาก
00:13:12 → 00:13:15 กว่า 1 ครั้งต่อวันมีความเสี่ยงในการเกิด
00:13:15 → 00:13:18 อาการข้างเคียงจากยาชนิดนี้มากกว่าคน
00:13:18 → 00:13:21 กลุ่มอื่นๆอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ
00:13:21 → 00:13:23 ภาวะเกลือแร่ในเลือดที่ผิดปกติค่ะเช่น
00:13:23 → 00:13:26 ฟอสฟอรัสสูงแถวเที่ยวในเลือดต่ำโซเดียม
00:13:26 → 00:13:29 เหรียญหลวงพ่อจะเสี้ยมต่ำซึ่งมีอันตราย
00:13:29 → 00:13:32 ถึงชีวิตต้องระมัดระวังในการใช้นะคะแล้ว
00:13:32 → 00:13:34 ก็ยังมียากลุ่มใหม่ที่เข้ามารักษาภาวะ
00:13:34 → 00:13:37 ท้องผูกเรื้อรังค่ะปัญญาที่กระตุ้นการทำ
00:13:37 → 00:13:40 งานของกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่ค่ะคือโปร
00:13:40 → 00:13:43 แคร์ติกดักยากลุ่มนี้นำมาใช้ในกรณีที่ใช้
00:13:43 → 00:13:46 ยากลุ่มอื่นแล้วไม่ทุเลาค่ะการผ่าตัดค่ะ
00:13:46 → 00:13:49 โดยทั่วไปผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง
00:13:49 → 00:13:52 ส่วนมากสามารถทุเลาหรือว่าดีขึ้นได้ด้วย
00:13:52 → 00:13:55 การปรับพฤติกรรมสุขภาพการฝึกควบคุมการ
00:13:55 → 00:13:57 แบ่งถ่ายรวมถึงการใช้ยาระบายเข้ามาช่วย
00:13:57 → 00:14:00 ค่ะแต่หากผู้ป่วยมีภาวะลำไส้อุดตันมี
00:14:00 → 00:14:03 ปัญหาในการเคลื่อนตัวของอุจจาระที่ผิด
00:14:03 → 00:14:06 ปกติมีกระเปาะที่ทวารหนักมีปัญหากล้าม
00:14:06 → 00:14:08 เนื้อหูรูดทวารหนักที่ทำงานไม่สัมพันธ์
00:14:08 → 00:14:11 กับการแบ่งถ่ายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา
00:14:11 → 00:14:13 ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้ยาอย่าง
00:14:13 → 00:14:16 เต็มที่แล้วหรือว่ามีการทำไบโอฟีดแบค
00:14:16 → 00:14:19 therapy หรือมีปัญหาอื่นร่วมด้วยเช่น
00:14:19 → 00:14:22 กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่อยู่ในภาวะกระบัง
00:14:22 → 00:14:25 ลมหย่อนในผู้หญิงทั้งหมดนี้ค่ะจะเป็นข้อ
00:14:25 → 00:14:28 บ่งชี้ให้พิจารณาจะหมอผ่าตัดรักษาเข้ามา
00:14:28 → 00:14:31 ช่วยเช่นการผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ออกการยกลำ
00:14:31 → 00:14:35 ไส้ขึ้นมาเป็นถุงที่หน้าท้องค่ะนอกจากแนว
00:14:35 → 00:14:37 ทางที่เหมาะได้กล่าวไปแล้วนะคะไม่ว่าจะ
00:14:37 → 00:14:39 เป็นการปรับพฤติกรรมสุขภาพหรือการรับ
00:14:39 → 00:14:42 ประทานยาระบายวันนี้หมอมีคำแนะนำจากแพทย์
00:14:42 → 00:14:45 ผู้เชี่ยวชาญค่ะซึ่งเป็นอาจารย์เฉพาะทาง
00:14:45 → 00:14:48 เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารมาให้คำแนะนำ
00:14:48 → 00:14:51 แนวทางในการรักษาภาวะท้องผูกกันค่ะเช่น
00:14:51 → 00:14:54 Detox นี้มันดีต่อลำไส้มันช่วยรักษา
00:14:54 → 00:14:56 อาการท้องผูกเรื้อรังได้หรือไม่ไปติดตาม
00:14:56 → 00:14:58 กันค่ะเขามาท้องผูกคนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่า
00:14:58 → 00:15:03 อาจจะเป็นแค่ถ่ายปริมาณน้อยลงสลักแข็งนะ
00:15:03 → 00:15:06 ครับจริงๆแล้วอาการท้องผูกเนี่ยก็บางคน
00:15:06 → 00:15:08 อาจจะไม่ทราบว่าบางคนเนี่ยอาจจะมีปัญหา
00:15:08 → 00:15:12 เรื่องเข้าน้ำนานนะครับต้องใช้แรงเด้งงาน
00:15:12 → 00:15:15 เกินบางคนเป็นชั่วโมงโดยที่ใช้เวลาในห้อง
00:15:15 → 00:15:18 น้ำบางคนก็จะมีความรู้สึกของอื่นถ่ายแล้ว
00:15:18 → 00:15:21 รู้สึกว่าเออมันไม่หมดนะครับแล้วก็อาจจะ
00:15:21 → 00:15:25 รู้สึกว่ามีอะไรอุดกลั้นอยู่ที่บริเวณลำ
00:15:25 → 00:15:28 ไส้ใหญ่นะครับมีตัวยาถ่ายนะครับการระบาย
00:15:28 → 00:15:30 เนี่ยก็ค่อนข้างปลอดภัยนะครับแล้วก็มี
00:15:30 → 00:15:33 หลายกลุ่มนะครับโดยส่วนใหญ่เนี่ยรับ
00:15:33 → 00:15:35 ประทานแล้วก็อาจจะมีความเชื่อว่าจะติด
00:15:35 → 00:15:38 หรือว่าจะต้องใช้ยาถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
00:15:38 → 00:15:41 หรือเปล่านะครับก็มีหลายกลุ่มนะค้ายส่วน
00:15:41 → 00:15:45 ใหญ่ก็ไม่ทำให้ติดนะครับแล้วก็เราช่วย
00:15:45 → 00:15:47 เรื่องคุณภาพซื้อได้ดีดีกว่าไม่ทานนะครับ
00:15:47 → 00:15:51 แต่ก็จะมียาถ่ายในบ้านกลุ่มที่อาจจะทำให้
00:15:51 → 00:15:55 เกิดทำให้เราต้องใช้อากาศเพื่อนๆถ้าเกิด
00:15:55 → 00:15:58 มาสุรพันธ์ต่อเนื่องซึ่งปกติหมอจะใช้ยา
00:15:58 → 00:16:00 กลุ่มนี้เป็นช่วงสั้นๆตอนที่คนไข้มีอาการ
00:16:00 → 00:16:04 เยอะนะครับเพราะคุณแค่อาการดีขึ้นแล้วก็
00:16:04 → 00:16:07 จะเปลี่ยนกลุ่มยาถ่ายที่ไม่มีผลต่อเนื่อง
00:16:07 → 00:16:10 ตรงนี้ก็การส่วนลำไส้นะครับจากการศึกษา
00:16:10 → 00:16:14 ที่พบมาเนี่ยก็อาจจะช่วยได้ในช่วงระยะ
00:16:14 → 00:16:18 เวลาสั้นๆชนิดช็อคเสร็จนะครับแต่ว่าอ่าใน
00:16:18 → 00:16:20 การรักษาในระยะยาวเนี่ยไม่ได้ช่วยเพิ่ม
00:16:20 → 00:16:23 เติมที่จะทำให้อาการท้องผูกดีขึ้นนะครับ
00:16:23 → 00:16:25 ซ้ำแล้วอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่
00:16:25 → 00:16:27 รุนแรงเกิดขึ้นได้นะนี้ก็จะเป็นการติด
00:16:27 → 00:16:29 เชื้อในกระแสเลือดหรือทำให้เกิดลำไส้ฉีก
00:16:29 → 00:16:33 ขาดได้โดยทางทางของอะทางแพ่งเนี่ยก็ไม่
00:16:33 → 00:16:36 แนะนำนะคะให้ใกล้ๆทำเรื่องการสวนลำไส้นะ
00:16:36 → 00:16:40 ครับผมคิดว่าคนเสียน่าจะมากกว่าผลดีปัญหา
00:16:40 → 00:16:42 ท้องผูกนะครับเป็นปัญหาที่พบบ่อยนะครับ
00:16:42 → 00:16:45 การรักษาเริ่มต้นก็อาจจะเริ่มจากการจะ
00:16:45 → 00:16:49 เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของเรานะครับเริ่ม
00:16:49 → 00:16:51 ตั้งแต่การรับประทานอาหารเช่นกันรับ
00:16:51 → 00:16:53 ประทานอาหารที่มีผักผลไม้ให้จิ้มคอนะครับ
00:16:53 → 00:16:57 มีครรภ์รับประทานดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2
00:16:57 → 00:17:00 with ตะวันนะครับแล้วก็อาจจะเริ่มเพิ่ม
00:17:00 → 00:17:03 การออกกำลังกายแอโรบิค Exercise เพิ่ม
00:17:03 → 00:17:07 เติมนะครับอ่าให้ไปเข้าห้องน้ำ
00:17:07 → 00:17:12 เป็นเวลานะครับแล้วก็อาจจะไม่ละเลยอาการ
00:17:12 → 00:17:15 ปวดเด็ดขาดนะครับถ้ามีอาการบุญใจก็ให้รีบ
00:17:15 → 00:17:17 ไปเข้าห้องน้ำนะครับก็รักษาเบื้องต้น
00:17:17 → 00:17:21 อย่างนี้ก่อนถ้าเกิดสมมติว่าไม่ตอบสนองก็
00:17:21 → 00:17:24 ให้มาพบแพทย์ได้นะครับแล้วก็ถ้าเกิดสมุด
00:17:24 → 00:17:26 ท่านมีอาการเตือนของโรคลำไส้มะเร็งมันจะ
00:17:26 → 00:17:30 ก็เช่นมีเรื่องของอ่าน้ำหนักรถเยอะนะครับ
00:17:30 → 00:17:33 อายุมากกว่า 50 ปีนะครับอุจจาระเนี่ยมี
00:17:33 → 00:17:36 ช่องเสียบสลับกับท้องผูกนะครับแล้วก็มี
00:17:36 → 00:17:40 ญาติสายตรงนะครับเช่นพ่อแม่นะครับเป็น
00:17:40 → 00:17:43 มะเร็งลำไส้ใหญ่ถ้ามีของถูกและหลังร่วม
00:17:43 → 00:17:46 กับการมีอาการเตือนก็แนะนำให้มาพบแค่นะ
00:17:46 → 00:17:49 ครับหลังจากที่ช่วงนี้ได้ฟังคำแนะนำจาก
00:17:49 → 00:17:52 อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโรค
00:17:52 → 00:17:55 ทางเดินอาหารทางแนะนำต่างๆที่น่าสนใจกัน
00:17:55 → 00:17:58 ไปแล้วนะคะช่วงหน้าหมอจะพาไปติดตามกันถาม
00:17:58 → 00:18:01 ว่าสัญญาณอันตรายอะไรบ้างที่บ่งชีว่าเรา
00:18:01 → 00:18:03 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายหากเรามี
00:18:03 → 00:18:06 อาการท้องผูกร่วมกับเงื่อนไขอื่นๆค่ะติด
00:18:06 → 00:18:14 ตามกันค่ะหิวอ่ะ
00:18:14 → 00:18:18 [เพลง]
00:18:18 → 00:18:20 โน้ท
00:18:20 → 00:18:29 [เพลง]
00:18:29 → 00:18:30 จะ
00:18:30 → 00:18:33 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 3 ของรายการพีเอ็น
00:18:33 → 00:18:35 เฮลธซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายกันแล้วนะคะแต่
00:18:35 → 00:18:38 หมดลูกว่าจริง 3 ไม่ตากลีบบุปผาค่ะหลัง
00:18:38 → 00:18:42 จากช่วงที่แล้วนะคะได้ทราบถึงสาเหตุอาการ
00:18:42 → 00:18:45 แล้วก็แนวทางในการรักษาอาการท้องผูก
00:18:45 → 00:18:47 เรื้อรังกันไปแล้วค่ะช่วงนี้เรามาดู
00:18:47 → 00:18:49 สัญญาณอันตรายหรือว่าอารามมิ่งเซ็นทรัล
00:18:49 → 00:18:53 ค่ะอาการที่บ่งบอกว่าถ้าเรามีท้องผุร่วม
00:18:53 → 00:18:56 กับข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้เป็นสัญญาณ
00:18:56 → 00:18:58 อันตรายที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับ
00:18:58 → 00:19:00 มะเร็งลำไส้ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
00:19:00 → 00:19:04 อันดับแรกคือผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปที่มี
00:19:04 → 00:19:07 ท้องผูกเรื้อรังค่ะอันดับต่อไปก็คือผู้
00:19:07 → 00:19:11 ที่มีภาวะหรือว่าอาการซีดจากภาวัตขาดธาตุ
00:19:11 → 00:19:14 เหล็กค่ะถ่ายอุจจาระเป็นเลือดน้ำหนักลด
00:19:14 → 00:19:17 ผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุมีประวัติสมาชิก
00:19:17 → 00:19:20 ในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอาการ
00:19:20 → 00:19:23 ท้องผูกจะมีอาการของลําไส้อุดตันเช่นปวด
00:19:23 → 00:19:26 ท้องมากเกิดอัดแน่นท้องคลื่นไส้อาเจียน
00:19:26 → 00:19:30 และท้องผูกที่รบกวนชีวิตมากขอระบายแล้วก็
00:19:30 → 00:19:33 ยังไม่ได้ผลค่ะซึ่งการตรวจวินิจฉัยค่ะจะ
00:19:33 → 00:19:36 ทำอย่างไรบ้างไปฟังคำแนะนำค่ะจากอาจารย์
00:19:36 → 00:19:39 ในแทบจงกรศิริมงคลเกษมอาจารย์ประจำภาค
00:19:39 → 00:19:42 วิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์
00:19:42 → 00:19:45 มหาวิทยาลัยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาด
00:19:45 → 00:19:48 ไทยค่ะก็ถามว่าว่าอาการท้องผูกด้วยล่ะ
00:19:48 → 00:19:52 เนี่ยจะนำไปสู่อาการโรคร้ายหรือเปล่า
00:19:52 → 00:19:54 เนี่ยก็อาจจะต้องซักประวัติมันมาตรวจร่าง
00:19:54 → 00:19:57 กายเพิ่มเติมจะมีประวัติบางอย่างที่สงสัย
00:19:57 → 00:20:00 ว่าจะมีโรคร้ายนะครับเช่นถ้าเกิดสมมติว่า
00:20:00 → 00:20:04 มีสาระมีเลือดปนนะครับกูจะนะมีท้องเสีย
00:20:04 → 00:20:07 สลับท้องผูกหรือว่ามีน้ำหนักรถเยอะนะครับ
00:20:07 → 00:20:10 ในกลุ่มคนไข้เรานี้เนี่ยก็แนะนำว่าให้มา
00:20:10 → 00:20:14 พบแค่นะครับหรือจะมีอายุมากกว่า 50 ปีตอน
00:20:14 → 00:20:16 เนี้ยก็พูดว่าอุบัติการณ์ของในลำไส้ใหญ่
00:20:16 → 00:20:19 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะครับตามอายุแล้วก็แนะ
00:20:19 → 00:20:22 นำว่าได้พบประชากรทั่วไปที่มีอยู่ 50 ปี
00:20:22 → 00:20:25 เนี่ยมาจากกล้องเหมือนกันใช่ใหญ่กว่าจะมี
00:20:25 → 00:20:27 ได้หลายวิธีนะครับได้ทั้งแก่ตั้งแต่การ
00:20:27 → 00:20:30 ส่องกล้องทำยังไงคะอ๋อหมอลำไส้ใหญ่นะครับ
00:20:30 → 00:20:33 แล้วก็อาจจะมีการตรวจพิจารณาดูว่ามีด้วย
00:20:33 → 00:20:35 คนหรือเปล่าหรือว่ากูจะเนี่ยอาจจะมีขนาด
00:20:35 → 00:20:39 ค่อนเล็กลงเราจะเป็นอาการเตือนของใส่อะนะ
00:20:39 → 00:20:42 ครับมันเองใช่ใหญ่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
00:20:42 → 00:20:45 ลำไส้แดงแล้วก็อาจจะให้การรักษาได้หลาย
00:20:45 → 00:20:47 รูปแบบขึ้นอยู่กับว่าเรา
00:20:47 → 00:20:51 คบลำไส้อิตาลีลำไส้ใหญ่อีกขี้ระยะไหนนะ
00:20:51 → 00:20:54 ครับถ้าเป็นระยะต้นเนี่ยอาจจะมีการส่อง
00:20:54 → 00:20:58 กล้องแล้วก็ทำการรักษาการของกล้องได้แต่
00:20:58 → 00:21:02 ว่าจะเป็นมะเร็งที่ค่อนข้างอ่าระยะที่ 2
00:21:02 → 00:21:05 ที่ศาลขึ้นไปแล้วก็อาจจะต้องการผ่าตัดบวก
00:21:05 → 00:21:08 ลบว่าอาจจะต้องให้ยาเคมีบำบัดเพิ่มเติมนะ
00:21:08 → 00:21:12 ครับแต่นอกจากนี้ค่ะสิ่งที่สำคัญมากๆเลย
00:21:12 → 00:21:14 ก็คือการขยับเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ
00:21:14 → 00:21:17 ค่ะมีการศึกษาค่ะเพราะว่าผู้ที่มี
00:21:17 → 00:21:19 พฤติกรรมเนื้อยิ่งหรือว่าภาษาอังกฤษเรียก
00:21:19 → 00:21:22 ว่าซีเด่นผลิต Lifestyle ค่ะคือคนที่ไม่
00:21:22 → 00:21:25 ค่อยขยับเคลื่อนไหวร่างกายนานๆค่ะโดยพบ
00:21:25 → 00:21:28 ว่าผู้ที่นั่งนานเกิน 4 ชั่วโมงต่อวันค่ะ
00:21:28 → 00:21:32 สัมพันธ์มีอาการท้องผูกเรื้อรังค่ะนอกจาก
00:21:32 → 00:21:35 นี้ค่ะหมอยังมีตัวอย่างท่าบริหารร่างกาย
00:21:35 → 00:21:38 เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่ายลดปัญหาการ
00:21:38 → 00:21:42 ท้องผูกค่ะทำกันง่ายไปดูกันเลยค่ะ
00:21:42 → 00:21:45 1 ท่าที่ 1 ท่านั่งพับขาเกือบข้างขวาออก
00:21:45 → 00:21:50 ไปทับขาซ้ายเข้ามาโดยให้ส้นเท้าขาขวาติด
00:21:50 → 00:21:54 กับต้นขาข้างซ้ายมือวางไว้บนเข่าซ้ายหาย
00:21:54 → 00:21:58 ใจเข้าค้างท่าดังกล่าวแล้วนับ 1-10 หายใจ
00:21:58 → 00:22:02 ปกติค่ะทำสลับกับค่ะอีกข้างนึงนับเป็น
00:22:02 → 00:22:06 หนึ่งรอบแนะนำทำซ้ำ 3 ถึง 5 รอบค่ะท่าที่
00:22:06 → 00:22:11 สองนอนหงายดึงเข่าเข้าหาหน้าอกนอนหงาย
00:22:11 → 00:22:15 เหยียดขาตรงปล่อยลำตัวตามสบายค่อยงอเข่า
00:22:15 → 00:22:18 ข้างหนึ่งขึ้นแล้วยกขาขึ้นมาให้ได้สูงที่
00:22:18 → 00:22:22 สุดสองมือกอดเขาไว้หากขาสามารถแนบหน้า
00:22:22 → 00:22:26 ท้องได้ยิ่งดีค่ะครั้งไว้ 20 วินาทีแล้ว
00:22:26 → 00:22:30 ค่อยๆวางขาลมสลับข้างแล้วทำซ้ำขั้นตอน
00:22:30 → 00:22:33 เดิมอีกครั้งครั้งถ้าดังกล่าวแล้วนับ 1-10
00:22:33 → 00:22:37 หายใจปกติทำสลับกับไข่อีกข้างหนึ่งนับ
00:22:37 → 00:22:41 เป็นหนึ่งรอบทำซ้ำ 3 ถึง 5 รอบค่ะอ่ะอ่ะ
00:22:41 → 00:22:45 ค่ะโดยสรุปแล้วนะคะภาวะท้องผูกเรื้อรัง
00:22:45 → 00:22:47 เนี่ยก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลต่อการใช้
00:22:47 → 00:22:50 ชีวิตของทุกคนเป็นอย่างมากนะคะใครที่เป็น
00:22:50 → 00:22:53 ท้องผูกเนี่ยก็จะมีอาการทุกข์ทรมานไม่สุข
00:22:53 → 00:22:56 สบายทั้งกายทั้งใจเลยค่ะค่ะอันดับแรกของ
00:22:56 → 00:22:58 ผู้ที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังเนี่ยก็ควร
00:22:58 → 00:23:01 ที่จะเริ่มปรับพฤติกรรมสุขภาพเกาะในว่าจะ
00:23:01 → 00:23:04 เป็นการดื่มน้ำที่เยอะขึ้นทานอาหารที่มี
00:23:04 → 00:23:07 กากใยไฟเบอร์มากขึ้นออกกำลังกายขยับ
00:23:07 → 00:23:10 เคลื่อนไหวให้มากขึ้นก็มีส่วนช่วยให้
00:23:10 → 00:23:13 กระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ขับถ่ายได้
00:23:13 → 00:23:16 ง่ายขึ้นแต่ถ้าวิธีดังกล่าวยังไม่โอเคยัง
00:23:16 → 00:23:18 ไม่ช่วยเนี่ยก็แนะนำเริ่มด้วยการประทานยา
00:23:18 → 00:23:21 ระบายแต่จริงๆแล้วเนี่ยการเลือกซื้อหรือ
00:23:21 → 00:23:24 ว่าการหายาระบายมารับประทานเนี่ยควรจะ
00:23:24 → 00:23:26 อยู่ไทยใต้ทำแนะนำหรือว่าการดูแลของแพทย์
00:23:26 → 00:23:29 นะคะเพราะว่ายาบ้าชนิดเนี่ยก็มีข้อห้าม
00:23:29 → 00:23:32 หรือว่ามีข้อควรระวังค่ะต่อมาถ้าเกิดว่า
00:23:32 → 00:23:34 ทานยาระบายแล้วยังไม่เป็นผลยังไม่ทุเลา
00:23:34 → 00:23:37 เนี่ยก็ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อทราบวิธีการ
00:23:37 → 00:23:40 ในการดูแลรักษาต่อไปอาจจะมีการทำ
00:23:40 → 00:23:43 ไบโอฟีดแบคที่หมอผ่าตัดเข้ามาช่วยค่ะทั้ง
00:23:43 → 00:23:47 หมดนี้นะคะเป็นคำแนะนำในการดูแลรักษาภาวะ
00:23:47 → 00:23:50 ท้องผูกเรื้อรังค่ะซึ่งควรอยู่ใครป่ะการ
00:23:50 → 00:23:52 ดูแลแล้วก็คำแนะนำดีๆจากแพทย์ผู้เชี่ยว
00:23:52 → 00:23:54 ชาญค่ะ
00:23:54 → 00:23:57 คุณค่าและทั้งหมดนี้คือสาระความรู้ที่น่า
00:23:57 → 00:23:59 สนใจประจำสัปดาห์นี้จะกับเรื่องปัญหาท้อง
00:23:59 → 00:24:03 ผูกค่ะใครที่มีอาการท้องผูกคนใกล้ตัวมี
00:24:03 → 00:24:06 อาการเหล่านี้ไปพบแพทย์นะคะเพื่อที่จะได้
00:24:06 → 00:24:09 ทำการตรวจรักษาและก็จะทำให้คุณค่าชีวิต
00:24:09 → 00:24:11 ของท่านดีขึ้นไม่ประสบปัญหาทุกคณะมาจาก
00:24:11 → 00:24:14 อาการท้องผูกค่ะแล้วกลับมาพบกับสาระความ
00:24:14 → 00:24:17 รู้ที่น่าสนใจทางสุขภาพกับหมอลูกปลาติ่ง
00:24:17 → 00:24:20 สารพิษรากรีตดูข่าวได้ใหม่ค่ะทุกวันเสาร์
00:24:20 → 00:24:24 เวลา 15:00 45 นาฬิกา 30 นาทีทาง TNN
00:24:24 → 00:24:28 ช่อง 16 สวัสดีค่ะอ่า
00:24:28 → 00:24:31 ที่เราเสนอโดย to help บริการส่งสุขภาพ
00:24:31 → 00:24:34 ดีถึงที่ให้คุณปรึกษาหมอออนไลน์และบริการ
00:24:34 → 00:24:37 ส่งยาถึงบ้าน
00:24:37 → 00:24:44 โน้ท
00:24:44 → 00:24:54 [เพลง]
00:24:54 → 00:24:59 โน้ท
00:24:59 → 00:25:02 ม.ค