00:00:12 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:32 เ
00:00:32 → 00:00:35 ไหลตายภายเงียบที่ซ่อนเร้นทำให้เสียชีวิต
00:00:35 → 00:00:37 ขณะนอน
00:00:37 → 00:00:42 หลับเราจะรอดจากโรคไหลตายได้อย่างไรใน
00:00:42 → 00:00:45 เมื่อเป็นการเสียชีวิตเฉิบ
00:00:45 → 00:00:49 พลั่นกินข้าวเหนียวส่งผลให้ไหลตายได้
00:00:49 → 00:00:53 อย่างไรแล้วกินอะไรถึงจะห่างไกลโรคไหลตาย
00:00:53 → 00:00:56 ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ tn
00:00:56 → 00:00:58 and Health วัน
00:00:58 → 00:01:00 นี้
00:01:00 → 00:01:03 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการ
00:01:03 → 00:01:06 tn And He ค่ะเข้าถึงทุกสาระสุขภาพ
00:01:06 → 00:01:09 เสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปกับเนแฮลนะคะ
00:01:09 → 00:01:12 และดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงฉัตดาวจังวังกร
00:01:12 → 00:01:16 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อม
00:01:16 → 00:01:18 ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณ
00:01:18 → 00:01:22 ผู้ชมมาเข้าถึงทุกสาระสุขภาพกันเป็นประจำ
00:01:22 → 00:01:26 ทุกวันเสาร์นะคะเวลาดีค่ะ 15 น-
00:01:26 → 00:01:29 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16
00:01:29 → 00:01:42 [เพลง]
00:01:42 → 00:01:45 คุณผู้ชมอาจจะเคยได้ยินเรื่องของโรคไหล
00:01:45 → 00:01:48 ตายและหลายท่านนะคะอาจจะเคยได้ยินว่าเอ๊ะ
00:01:48 → 00:01:50 บางท้องถิ่นเนี่ยเขาเชื่อเหลือเกินว่า
00:01:50 → 00:01:52 เป็นเรื่องของจิตวิญญาณเป็นเรื่องของผี
00:01:52 → 00:01:55 แม่หม้ายมาเอาตัวไปข้อเท็จจริงเป็นอย่าง
00:01:55 → 00:01:58 ไรเกี่ยวกับโรคไหล
00:01:58 → 00:02:02 ตายหลายเป็นคำภาษาถิ่นอีสานมีความหมาย
00:02:02 → 00:02:05 เนื่องจากการนอนละเมอเพราะโรคไหลตายมี
00:02:05 → 00:02:08 ลักษณะคล้ายกับการนอนละเมอก่อนที่จะเสีย
00:02:08 → 00:02:12 ชีวิตซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าโรคไหลตาย
00:02:12 → 00:02:16 เป็นการนอนหลับนิ่งๆไปเฉยๆแต่จริงๆไม่ใช่
00:02:16 → 00:02:19 ผู้เสียชีวิตจะมีอาการชักเกร็งหายใจครืด
00:02:19 → 00:02:22 คราดผิดปกติคล้ายกับนอนละเมอเรียกไม่รู้
00:02:22 → 00:02:26 ตัวแต่ความผิดปกตินี้มักพบในขณะนอนหลับ
00:02:26 → 00:02:30 เท่านั้นภาวะไหลตายพบได้ในคนทั่วโลกแต่พบ
00:02:30 → 00:02:33 บ่อยในคนเอเชียโดยเฉพาะเอเชียตะวันออก
00:02:33 → 00:02:37 เฉียงใต้ทั้งประเทศไทยเมียนมาร์ลาวและ
00:02:37 → 00:02:41 ฟิลิปปินสสำหรับประเทศไทยในคนอายุ 30-50
00:02:41 → 00:02:45 ปีนั้นพบอัตราการไหลตายประมาณ 40 ต่อ
00:02:45 → 00:02:49 1,000 ประชากรซึ่งถือว่าสูงมากและมัก
00:02:49 → 00:02:52 เกิดในผู้ชายที่อยู่อาศัยภาคตะวันออก
00:02:52 → 00:02:54 เฉียงเหนือหรือว่าภาคอีสานเพราะเกี่ยว
00:02:54 → 00:02:57 ข้องกับเรื่องของอาหารการกินเช่นการรับ
00:02:57 → 00:03:00 ประทานข้าวเหนียวพร้อมๆกับการการดื่ม
00:03:00 → 00:03:03 เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โรคไหลตายเป็น
00:03:03 → 00:03:06 โรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
00:03:06 → 00:03:09 โดยทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่ากลุ่มอาการ
00:03:10 → 00:03:12 บลูกาดเกิดขึ้นจากความผิดปกติทาง
00:03:12 → 00:03:16 พันธุกรรมของการนำเกลือแร่โซเดียมเข้าออก
00:03:16 → 00:03:19 เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจทำให้คลื่นไฟฟ้าหัว
00:03:19 → 00:03:22 ใจทำงานผิดปกติหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้น
00:03:22 → 00:03:25 รุนแรงทำให้การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วน
00:03:25 → 00:03:28 ต่างๆได้ไม่เพียงพอแบบกระทันหันมักเกิด
00:03:28 → 00:03:31 ขึ้นในระหว่างนอนหลับส่งผลให้หมดสติและ
00:03:31 → 00:03:34 เสียชีวิตในระยะเวลาอันรวด
00:03:34 → 00:03:39 เร็วซึ่งภาวะผิดปกติดังกล่าวนี้นะคะเป็น
00:03:39 → 00:03:41 เรื่องของหัวใจก็จริงแต่ถ้าหากไม่ได้รับ
00:03:41 → 00:03:44 การรักษาอย่างทันท่วงทีจะมีผลต่อสมองค่ะ
00:03:44 → 00:03:47 ทำให้เกิดภาวะสมองตายและถึงขั้นเสียชีวิต
00:03:48 → 00:03:50 ได้สำหรับในเรื่องของปัจจัยความเสี่ยง
00:03:50 → 00:03:52 ต่างๆได้แก่
00:03:52 → 00:03:56 พันธุกรรมนอกจากนี้นะคะยังมีปัจจัยอื่นๆ
00:03:56 → 00:03:59 ได้แก่ภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม
00:03:59 → 00:04:02 การขาดสารอาหารที่เป็นวิตามิน B1 อย่าง
00:04:02 → 00:04:06 รุนแรงเฉียบพลันมีภาวะไข้สูงการดื่ม
00:04:06 → 00:04:09 เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์การใช้ยานอน
00:04:09 → 00:04:12 หลับเป็นประจำคำถามคือใครที่เป็นกลุ่ม
00:04:12 → 00:04:15 เสี่ยงที่จะเกิดโรคไหลตายคือผู้ที่มี
00:04:15 → 00:04:19 ประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตฉับพลันก่อน
00:04:19 → 00:04:22 วัยอันควรหรือเคยมีอาการขี้บ่งชี้ว่ามี
00:04:22 → 00:04:26 โอกาสเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะผู้ที่
00:04:26 → 00:04:29 เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะตั้งแต่กำเนิด
00:04:29 → 00:04:33 ผู้ที่ตรวจพบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติชนิด
00:04:33 → 00:04:36 บลูกาดสิ่งที่ทำให้หลายคนสะเทือนใจนะคะก็
00:04:36 → 00:04:39 คือในคนที่เสียชีวิตด้วยเรื่องของภาวะโรค
00:04:39 → 00:04:42 ไหลตายนั้นมักจะเกิดขึ้นกับชายหนุ่มนะคะ
00:04:42 → 00:04:46 วัยฉกรรเลยก็คือวัย 30-50 ปีซึ่งเป็นวัย
00:04:46 → 00:04:49 ที่กำลังสร้างอนาคตนั่นเองและเมื่อมีการ
00:04:49 → 00:04:51 เสียชีวิตเกิดขึ้นค่ะเราก็ต้องย้อนกลับมา
00:04:51 → 00:04:53 ดูว่าสาเหตุที่แท้จริงของเขานั้นเป็น
00:04:53 → 00:04:56 เรื่องของภาวะไหลตายหรือเปล่ารวมถึงมี
00:04:56 → 00:04:58 ปัจจัยเสียงที่กล่าวไปหรือเปล่า
00:04:58 → 00:05:02 ค่ะโรคไหลตายมักจะเสียชีวิตเฉียบพลันขณะ
00:05:02 → 00:05:04 หลับในเวลากลางคืนโดยไม่ทราบว่ามีอาการ
00:05:04 → 00:05:08 ผิดปกติแต่ในบางรายอาจมีอาการนำมาก่อนโดย
00:05:08 → 00:05:11 หากผู้ป่วยที่ยังรู้สึกตัวหรือคนใกล้ตัว
00:05:11 → 00:05:15 พบเห็นอาการผิดปกติคือหมดสติเป็นลมนอน
00:05:15 → 00:05:18 อยู่หมดสติไปอาจจะมีอาการชักเกร็งของแขน
00:05:18 → 00:05:22 ขาหายใจเสียงดังมีเสียงเฮือกขึ้นมาเหมือน
00:05:22 → 00:05:26 หิวอากาศอาจคล้ายๆกับการกระตุกหรือลมชัก
00:05:26 → 00:05:29 แต่ในความเป็นจริงนะคะถ้าหากเราเจอคน
00:05:29 → 00:05:32 หนุ่มนะคะที่อยู่ๆก็มีอาการแบบนี้นะคะควร
00:05:32 → 00:05:35 รีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีเพราะอาจจะเกิดจาก
00:05:35 → 00:05:39 ภาวะโรคไหลตายนั่นเองในช่วงหน้าค่ะคุณผู้
00:05:39 → 00:05:42 ชมเราจะไปฟังอาจารย์พร้อมๆกันว่าอะไรคือ
00:05:42 → 00:05:45 ปัจจัยเสี่ยงมีวิธีการป้องกันรวมถึงการ
00:05:45 → 00:05:48 รักษาหรือไม่อย่างไรติดตามได้ในรายการ TNN
00:05:48 → 00:05:52 Health ช่วงหน้า
00:05:52 → 00:05:58 [เพลง]
00:05:58 → 00:06:01 ค่ะ
00:06:01 → 00:06:13 [เพลง]
00:06:13 → 00:06:16 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ TNN
00:06:16 → 00:06:18 Health ค่ะเราจะไปพบกับอาจารย์แพทย์ผู้
00:06:18 → 00:06:21 เชี่ยวชาญที่จะมาพูดคุยในเรื่องของภาวะ
00:06:21 → 00:06:24 โรคไหลตายกันไปฟังพร้อมๆกัน
00:06:24 → 00:06:28 [เพลง]
00:06:28 → 00:06:30 ค่ะ
00:06:30 → 00:06:35 [เพลง]
00:06:35 → 00:06:38 สวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มคำถามแรกเลยนะคะ
00:06:38 → 00:06:41 ในเมื่อโรคไหลตายเนี่ยเป็นภาวะโรคที่เกิด
00:06:41 → 00:06:43 ขึ้นอย่างเฉียบพลันค่ะอาจารย์เราจะรอดพ้น
00:06:43 → 00:06:46 จากภาวะนี้ได้อย่างไรมีสัญญาณเตือนอะไร
00:06:46 → 00:06:51 บ้างว่าเนี่ยคือภาวะโรคไหลตายคะครับบางคน
00:06:51 → 00:06:54 ก็มีแต่ส่วนใหญ่ไม่มีนะครับส่วนใหญ่บางที
00:06:55 → 00:06:58 ก็ไม่รู้แต่บางคนอาจจะมีมาก่อนเช่นอยู่ๆ
00:06:58 → 00:07:00 หัวใจมันเต้นผิดจังหวะก็รู้สึกเฮ้ยใจมัน
00:07:00 → 00:07:02 เต้นเร็วเ้ไม่ตรงจังหวะอะไรอย่าเงี้ยแล้ว
00:07:02 → 00:07:05 อาจจะมีอาการถ้าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
00:07:05 → 00:07:07 อาจจะวูบหรือหน้าจะมืดอะไรอย่างเงี้นะ
00:07:07 → 00:07:10 ครับอาจจะมีอาการเตือนมาก่อนก็มีแต่หลายๆ
00:07:10 → 00:07:13 คนก็ไม่มีอาการเลยครั้งแรกเป็นก็เสีย
00:07:13 → 00:07:16 ชีวิตเลยทันทีก็มีคือต้องเข้าใจคำว่าไหล
00:07:16 → 00:07:19 ตายก่อนนะครับคำว่าไหลตายก็คือคนที่เสีย
00:07:19 → 00:07:23 ชีวิตหรือตายไปแล้วนะครับจากการที่ไม่
00:07:23 → 00:07:26 ทราบสาเหตุที่ชัดเจนนะครับแล้วจะต้องมี
00:07:26 → 00:07:30 การตรวจศพนะหลังจากตายเสียชีวิตไปแล้ว
00:07:30 → 00:07:33 เนี่ยว่าไม่มีสาเหตุที่อธิบายได้นะครับ
00:07:33 → 00:07:36 ส่วนใหญ่ก็จะในเ่อคนที่อายุมากกว่า 2 2
00:07:37 → 00:07:40 ขวบ 2 ปีขึ้นไปนะครับเพราะถ้าอายุน้อย
00:07:40 → 00:07:42 กว่า 2 ปีเนี่ยมันก็จะมีมีอีกภาวะนึงอีก
00:07:42 → 00:07:47 อันนึงก็คือจะมีอ่าคุณพ่อคุณแม่นะครับคน
00:07:47 → 00:07:50 ใดคนหนึ่งหรือทั้ง 2 คนนะฮะเป็นคนทาง
00:07:50 → 00:07:53 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นะฮะเช่นคนไทยคน
00:07:54 → 00:07:56 ลาวเวียดนามพม่าอะไรอย่างเงี้ยนะครับอัน
00:07:56 → 00:07:59 นี้เป็นการประกัดความนะฮะของหลายตายนะ
00:07:59 → 00:08:02 ครับเพราะฉะนั้นถ้าเรารู้แล้วนะฮะตรงนี้
00:08:02 → 00:08:06 คนที่รอดตายมาก็มีเราก็จะเรียกว่าผู้ที่
00:08:06 → 00:08:10 รอดตายจากโรคไหลายตายนะครับตงนี้อาจารย์
00:08:10 → 00:08:13 คะแล้วอะไรคือเกณฑ์การวินิจฉัยว่านี่คือ
00:08:13 → 00:08:16 ภาวะที่เสียชีวิตจากโรคไหลตายคะนะครับ
00:08:16 → 00:08:19 เพราะฉะนั้นภาวะถึ่งเสียชีวิตขณะนอนหลับ
00:08:19 → 00:08:23 เนี่ยมันมีหลายอย่างนะครับบางคนก็จะมีเ่อ
00:08:23 → 00:08:26 เช่นความดันสูงมากหรือนอนดึกมากๆอ่ะอย่าง
00:08:27 → 00:08:29 นี้นะครับความดันสูงกลางคืนแล้วไปกระแทบ
00:08:29 → 00:08:32 แรกทำให้เหลือดหลอดเลือดฉี่ขาดหรือเกิด
00:08:32 → 00:08:34 เลือดออกในสมองอะไรอย่างเงี้ยเป็นต้นมัน
00:08:34 → 00:08:37 มีภาวะอื่นนะครับตรงนี้หรือไวรัสลงหัวใจ
00:08:37 → 00:08:40 ทำให้หัวใจเ้นผิดจังหวะขณะนอนหลับซึ่งอัน
00:08:40 → 00:08:43 นี้ก็เป็นได้นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเรา
00:08:43 → 00:08:45 ถึงจำเป็นต้องตรวจศพเพื่อแน่ใจว่าสิ่ง
00:08:45 → 00:08:48 เหล่านี้เนี่ยตรวจไม่เจอนะครับไม่เจอว่า
00:08:48 → 00:08:51 มีคววามผกติหรือมีร่องรอยว่าเขาเป็นความ
00:08:51 → 00:08:54 ดันสูงมาก่อนมีหลอดเลือดหัวใจที่มันตีบมี
00:08:54 → 00:08:56 กล้ามเนื้อมันอักเสบกล้ามเนื้อหัวใจ
00:08:56 → 00:08:58 อักเสบอย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับจะต้องมี
00:08:58 → 00:08:59 ภาวะพวกนี้
00:08:59 → 00:09:02 แล้วเราถึงว่าตรงเนี้ยเข้าขายที่จะเป็น
00:09:02 → 00:09:06 ไหลตายอาจารย์คะทำไมภาวะโรคไหลตายถึงเกิด
00:09:06 → 00:09:09 ในช่วงของการนอนหลับคะอ่าเราต้องเข้าใจ
00:09:09 → 00:09:13 สมดุลนะคนจีนเเรียกอินหยนะครับใช่มั้ย
00:09:13 → 00:09:16 ครับกลางวันเนี่ยเรามีระบบสู้นะเราใช้
00:09:16 → 00:09:19 ระบบสู้เยอะนะครับหัวใจเราทำงานมากขึ้น
00:09:19 → 00:09:22 ใช่มั้ยฮะเต้นเร็วขึ้นแรงขึ้นความดันสูง
00:09:22 → 00:09:25 ขึ้นอย่างเงี้ยน้้ำตาลสูงแมันสูงระบบเมัน
00:09:25 → 00:09:27 ทำงานแต่เวลากลางคืนตรงข้ามระบบพักจะทำ
00:09:27 → 00:09:30 งานเพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีความสมดุลในตรง
00:09:30 → 00:09:33 นี้เนี่ยนะฮะกลางวันเช่นกลางวันเครียดมาก
00:09:33 → 00:09:37 ทำงานหนักหามรูหามค่ำไม่ไม่พักผ่อนเลยอ
00:09:37 → 00:09:39 หลับหดนอนอะไรอย่าเงี้เป็นต้นนะครับพอ
00:09:39 → 00:09:42 กลางคืนช่วงที่เขาพักเนี่ยไอ้ระบบสู้มัน
00:09:42 → 00:09:45 หมดแรงมันทำไม่ทำงานเลยไอ้ความสมดุนี้
00:09:45 → 00:09:48 เสียไประบบพรรทำงานมากขึ้นมาเนี่ยนะครับ
00:09:48 → 00:09:51 เกิดการเต้นผิดจังหวะการไหลเวียนของกระแส
00:09:51 → 00:09:54 ไฟฟ้าในหัวใจผิดจังหวะถ้าเกิดรุนแรงนะ
00:09:54 → 00:09:57 ครับช่วยไม่ทันตรงนี้เนี่ยเสียชีวิตได้
00:09:57 → 00:10:00 ซึ่งมันตรงข้ามกับภาวะของกล้ามเนื้อหัวใจ
00:10:00 → 00:10:03 ตายจากหลอดเลือดนะครับถ้าหลอดเลือดหัวใจ
00:10:03 → 00:10:07 ตีบเนี่ยตรงเนี้ยมันตรงข้ามมันเป็นตอน
00:10:07 → 00:10:10 เช้าตอนที่เราจะจากหลับมาตื่นนะช่วงนี้
00:10:10 → 00:10:13 ระบบสู้จะทำงานมากระบบสู้ทำงหัวใจทำงาน
00:10:13 → 00:10:15 หนักปุ๊บๆมันเกิดปิแตกเป็นแผลลิ่มเลือด
00:10:15 → 00:10:18 อูดตันหลอดเลือดกล้ามนู้จะตายเสียชีวิต
00:10:18 → 00:10:20 ตรงข้ามกันเลยนะครับเพราะฉะนั้นคนที่เป็น
00:10:20 → 00:10:23 ไหลายตายนะครับเขาจะเกิดตอนที่เขาเครียด
00:10:23 → 00:10:26 มากๆกลางวันแล้วกลางคืนเนี่ยมาพักตรงนั้น
00:10:26 → 00:10:29 น่ะเกิดเรื่องนะครับเพราดังนั้นเราก็จะ
00:10:29 → 00:10:32 เจอบ่อยว่าคนหลายตายก็จะมีประวัติความ
00:10:32 → 00:10:35 เครียดน่ะเช่นเครียดในการทำงานแล้วชอบ
00:10:35 → 00:10:39 เกิดช่วงหน้าร้อนเมษายนส่วนนึงก็เพราะ
00:10:39 → 00:10:41 หน้าร้อนนี่เหงื่อออกมากนะฮะเหงื่อเนี่ย
00:10:41 → 00:10:44 มันมีโปแตสเซียมนะซึ่งเป็นเกลือแร่สำคัญ
00:10:44 → 00:10:48 นะฮะในการควบคุมทำให้หัวใจเต้นตามปกตินะ
00:10:48 → 00:10:50 ถ้าโปแทสเซียมในเลือดต่ำหัวใจเต้นผิด
00:10:50 → 00:10:53 จังหวะรุนแรงได้ทันทีตรงนี้เพราะฉะนั้นคน
00:10:53 → 00:10:55 ที่ทำงานหนักเหงื่อๆออกทั้งวันอย่างเงี้ย
00:10:55 → 00:10:59 พวกนี้นะครับอาจารย์ที่นี่เราก็เคยเอาเอา
00:11:00 → 00:11:03 เสื้อของคนงานก่อสร้างเนี่ยเดือนเมษายนเ
00:11:03 → 00:11:05 เดือนร้อนๆที่สุดเนี่ยมาบีบแล้วเอาน้ำ
00:11:05 → 00:11:09 เนี่ยเหงื่อไปตรวจหามีโปแตสเซียมฮะออกมา
00:11:09 → 00:11:12 ในเหงื่อซึ่งคนอีสานเนี่ยมีโพแทสเซียมออก
00:11:12 → 00:11:15 มามากกว่าคนภาคอื่นเพราะฉะนั้นนี้เป็น
00:11:15 → 00:11:18 เหตุผลอันนึงที่ว่าทำไมคนอีสานเป็นเยอะนะ
00:11:18 → 00:11:20 ครับตรงนี้เพราะเสียโปแตสเซียมเพราะ
00:11:20 → 00:11:22 ฉะนั้นอันนึงที่ช่วยก็คือต้องทานพวก
00:11:22 → 00:11:24 โปแตสเซียมเข้าไปเสริมโดยเฉพาะในช่วงที่
00:11:24 → 00:11:27 อากาศร้อนเหงือออกมากอย่างเงี้ยครับ
00:11:27 → 00:11:30 อาจารย์คะแล้วการรักษาโรคไหลตายต้องทำ
00:11:30 → 00:11:34 อย่างไรบ้างคะครับเราก็คงต้องป้องกันนะ
00:11:34 → 00:11:38 ครับว่าครั้งสมมติว่าเรอดตายมานะครับ
00:11:38 → 00:11:41 ครั้งที่รอดตายเนี่ยมันเพราะอะไรเช่นบาง
00:11:41 → 00:11:43 คนกินเหล้ามาแล้วเมาอย่างเงี้ยแล้วก็หมด
00:11:43 → 00:11:46 สติอย่างเงี้ยแล้วก็ปั๊มหัวใจขึ้นมาก็
00:11:46 → 00:11:48 ต้องไปเลิกเล่าเลยนะครับอย่างเงี้เป็นต้น
00:11:48 → 00:11:52 ปู่ย่าตายายก็เป็นคนหนึ่งโดยเฉพาะญาตินะ
00:11:52 → 00:11:55 ญาติสายผู้ชายนี่ครับเคยเสียชีวิตเพราะ
00:11:55 → 00:11:58 อะไรอย่างเงี้ยเป็นต้นไปทำงานต่างประเทศ
00:11:58 → 00:11:59 แล้วไปเสียชีวิตชีวิตเมืองนอกเลยอย่าง
00:11:59 → 00:12:02 เงี้ยเพราะฉะนั้นเวลาเปลี่ยนที่ทำงาน
00:12:02 → 00:12:05 เปลี่ยนประเทศที่ไปทำงานเนี่ยก็ต้องระวัง
00:12:05 → 00:12:07 เพราะฉะนั้นตรงนั้นเป็นอันนึงซึ่งจะช่วย
00:12:07 → 00:12:11 บอกเราว่าเราจะป้องกันตรงนี้ได้ยังไงนะ
00:12:11 → 00:12:13 ครับในเดียวกันเนี่ยวันนั้นเวลานั้นทำไม
00:12:13 → 00:12:16 มันเกิดก็อย่างที่เรียนให้ทราบอ่ะว่ามัน
00:12:16 → 00:12:18 มีเหตุปัจจัยบางอย่างนะครับเช่นกินอิ่ม
00:12:19 → 00:12:21 แล้วเข้านอนเราก็เจอเนี่ยตอนเที่ยนนะคน
00:12:21 → 00:12:25 งานที่สิงคโปร์นะครับเราไปตรวจมาเอ่อเป็น
00:12:25 → 00:12:28 พันคนนะครับที่เราไปตรวจสภากชาติเนี่ยไป
00:12:28 → 00:12:32 ตรวจนะครับเราก็เจอฮปีนึงเราเจอ 2 คนเรา
00:12:32 → 00:12:35 ก็ฝาก 2 คนนี้ไว้เลยว่าตามให้ดีนะ 2 คน
00:12:35 → 00:12:38 นี้เนี่ยมีโอกาสจะไหลตายอย่างเงี้ยก็มีคน
00:12:38 → 00:12:41 เฝ้าอยู่ตลอดเลยนะครับแล้ววันดีคืนดีพอปี
00:12:41 → 00:12:45 ที่ 2 ไปดูคนที่เราฝากไว้เกลับมาบอก
00:12:45 → 00:12:46 อาจารย์คนที่อาจารย์ฝากไว้อ่ะเพิ่งเสีย
00:12:47 → 00:12:49 ชีวิตเมื่อ 2-3 วันก่อนเองบอกอ้าวทำไม
00:12:49 → 00:12:53 เสียชีวิตล่ะเขาก็บอกว่าเนี่ยเาก็คอยดูนะ
00:12:53 → 00:12:57 เวลากลางคืนนอนเแต่กลางวันลืมดูกลางวันไป
00:12:57 → 00:13:00 กินอิ่มแล้วเสร็จมางีบไงฮะเสียชีวิตตรง
00:13:00 → 00:13:02 นั้นนฮะอย่างเงี้ยเป็นต้นเพราะฉะนั้นตรง
00:13:02 → 00:13:04 นั้นเป็นอันนึงซึ่งถ้าเราป้องกันตรงนี้
00:13:04 → 00:13:07 ได้มันก็จะช่วยได้เยอะนะครับแต่สำหรับคน
00:13:07 → 00:13:10 ที่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือว่าป้องกันนี้
00:13:10 → 00:13:14 ได้เนี่ยการที่เราใส่นะเครื่องช็อกไฟฟ้า
00:13:14 → 00:13:16 หัวใจหรือเครื่องกระตุกหัวใจอันนี้ก็จะ
00:13:16 → 00:13:20 เป็นตัวที่คล้ายๆเฝ้าดูแทนเรานะครับถ้า
00:13:21 → 00:13:23 มันเกิดเต้นผิดจังหวะรุนแรงนะถึงขั้นจะ
00:13:23 → 00:13:26 เสียชีวิตแล้วช็อกไฟฟ้าเลยคล้ายๆเหมือน
00:13:26 → 00:13:29 คอมพิวเตอร์เรารีเซตอ่ะใช่เครื่องใหม่เลย
00:13:29 → 00:13:33 มันเต้นรวนมากเลยลบไปเลยแล้วเริ่มขึ้นมา
00:13:33 → 00:13:35 ใหม่ไอ้ตัวที่ดีมันก็จะกลับมาเต้นตามปกติ
00:13:35 → 00:13:38 อย่างเงี้นะครับแต่ข้อเสียก็คือว่าบาง
00:13:38 → 00:13:40 ครั้งเนี่ยมันเป็นบ่อยแล้วชนช็อก
00:13:40 → 00:13:45 บ่อยเครับคุณภาพชีวิตไม่เคยดีนะครับอย่าง
00:13:45 → 00:13:48 เงี้ยเพราะฉะนั้นถ้าเราป้องกันต้นเหตุได้
00:13:48 → 00:13:51 เราก็ไปแก้ต้นเหตุตรงนี้หลังๆก็จะมีวิธี
00:13:51 → 00:13:54 การที่เราไปจี้นะครับเพราะเราสามารถที่จะ
00:13:54 → 00:13:57 บอกได้ว่าตำแหน่งไหนที่มันมีปติในห้องหัว
00:13:57 → 00:14:00 ใจเราเนี่ยนะครับการำไฟฟ้าตรงไหนแล้วเรา
00:14:00 → 00:14:03 ไปทำลายวงจรที่มันเกิดการเต้นผิดจังหวะ
00:14:03 → 00:14:05 ตรงนั้นเพื่อไม่ให้มันเกิดอีกนะครับแล้ว
00:14:05 → 00:14:07 เราสามารถตรวจขึ้นไฟฟ้าหัวใจบอกได้ว่าไอ้
00:14:07 → 00:14:10 ที่ผิดปกติมันกลับมาปกติได้อย่างเงี้ยเรา
00:14:10 → 00:14:12 ก็จะมั่นใจมากขึ้นว่าอันนืเนี้ยจะช่วย
00:14:12 → 00:14:16 ป้องกันนะครับอาจารย์คะมีคำบอกกล่าวค่ะ
00:14:16 → 00:14:19 ว่าการรับประทานข้าวเหนียวเนี่ยจะทำให้
00:14:19 → 00:14:22 เกิดภาวะโรคไหลตายได้ตรงนี้เป็นข้อเท็จ
00:14:22 → 00:14:24 จริงอย่างไรบ้างคะแล้วมีอาหารอะไรมที่เรา
00:14:25 → 00:14:27 จะรับประทานเพื่อป้องกันโรคไหลตายค่ะ
00:14:27 → 00:14:31 อาจารย์คืออาหารที่ทำให้หลังจากกินแล้ว
00:14:31 → 00:14:35 น้ำตาลในเลือดหลังอาหารมันสูงสูงเกิไปนะ
00:14:35 → 00:14:39 ซึ่งถ้าเป็นข้าวกล้องหรือข้าวไม่ขัดสี
00:14:39 → 00:14:42 อย่างนี้นะครับมันมีใยอาหารมันก็จะช่วย
00:14:42 → 00:14:46 ดูดซึมพวกอ่าน้ำตาลนะครับที่จะดุดซึมเข้า
00:14:46 → 00:14:48 สู่กระแสเลือดให้มันช้าลงน้อยลงนะครับ
00:14:48 → 00:14:51 เพราะฉะนั้นถ้าเรากินข้าวขาวนะไม่มีย
00:14:51 → 00:14:54 อาหารตรงงนี้มันก็มีโอกาสน้ำตาลในเลือดจะ
00:14:54 → 00:14:57 สูงกว่าโดยเฉพาะข้าวเหนียวมันอยู่ท้องนาน
00:14:57 → 00:14:59 นะครับแล้วข้าวเหนียวเพราะฉนั้นมันทำให้
00:14:59 → 00:15:02 หลังอาหารน้ำตาลในเลือดสูงการที่น้ำตาลใน
00:15:02 → 00:15:05 เลือดสูงเนี่ยร่างกายไม่ชอบนะครับก็ต้อง
00:15:05 → 00:15:08 พยายามเอาน้ำตาลที่สูงไปใช้ต้องไปใช้ที่
00:15:09 → 00:15:11 กล้ามเนื้อโดยใช้อินซูลินจะกระตุ้นตับ
00:15:11 → 00:15:13 อ่อนสร้างอินซูลินออกมาอินซูลินก็จะเอา
00:15:13 → 00:15:16 ข้าวเหนียวที่เรากินตรงนี้นะครับนะเข้าไป
00:15:16 → 00:15:19 ในเซลล์ในขณะเดียวกันเนี่ยมันก็ต้องใช้
00:15:19 → 00:15:21 โปแทสเซียมไปด้วยเพราะฉะนั้นการที่
00:15:21 → 00:15:23 โพแทสเซียมต่ำเนี่ยการำไฟฟ้าหัวใจเนี่ย
00:15:23 → 00:15:26 มันก็จะรวนเกิดปัญหาเกิดติดขัดเพราะ
00:15:26 → 00:15:28 ฉะนั้นถ้ามีอะไรกระตุ้นให้มันเต้มผิด
00:15:28 → 00:15:31 จังหวะมันก็จะรวนเป็นเป็นชุดออกมาเลย
00:15:31 → 00:15:33 อย่างเงี้ยนะครับเพราะฉะนั้นการทำกิน
00:15:33 → 00:15:35 อาหารโดยเฉพาะข้าวเหนียวเนี่ยก็เป็นอัน
00:15:35 → 00:15:38 นึงซึ่งส่วนใหญ่เราก็จะเจอว่าคนอีสานกิน
00:15:38 → 00:15:40 อยู่แล้วนะครับเพราะนั้นไปไปอยู่ต่าง
00:15:40 → 00:15:43 ประเทศก็ทานอย่างนี้อยู่นะครับเพราะฉะ
00:15:43 → 00:15:45 นั้นตรงนั้นก็เป็นปัจจัยอันนึงอีกอันนึง
00:15:45 → 00:15:48 ก็คือของหวานน้ำหวานน้ำบัดลมทั้งหลายนะ
00:15:48 → 00:15:50 พวกนี้พอกินเข้าไปน้ำตาลและเลือดสูงทันที
00:15:51 → 00:15:54 นะครับตรงนี้มันก็ทำให้อ่าโปแตสเซียมใน
00:15:54 → 00:15:57 เลือดถูกนำเอาไปใช้มากขึ้นแอลกอฮอลเป็น
00:15:57 → 00:15:59 อีกอันนึงไม่ต้องกินข้าวเหนียวแอลกอฮอล์
00:15:59 → 00:16:02 อย่างเดียวก็กระตุ้นได้นะครับเพราะฉะนั้น
00:16:02 → 00:16:05 ตรงนั้นเป็นอันนึงซึ่งอิมเราส่วนใหญ่เรา
00:16:05 → 00:16:09 เราห้ามไม่ควรนะครับตรงนี้เพราะฉะนั้นตรง
00:16:09 → 00:16:12 นั้นโดยเฉพาะถ้ามีประวัติครอบครัวหรือเคย
00:16:12 → 00:16:15 ดื่มแอลกอฮอล์แล้วเกิดอาการหัวใจเตเป็น
00:16:15 → 00:16:17 จังหวะเนี่ยนะครับแล้วก็มีภาวะด้วยถ้า
00:16:17 → 00:16:20 ดื่มแอลกอฮอล์มากแบบหัวราน้ำเลยนะครับ
00:16:20 → 00:16:23 เนี่ย 5 ปี 10 ปีขึ้นไปเนี่ยมันมีภาวะหัว
00:16:23 → 00:16:25 ใจที่ผิดปกติอยู่แล้วซึ่งภาวะหัวใจจาก
00:16:25 → 00:16:28 แอลกอฮอล์ก็มีนะครับโลกกล้ามเนื้อหัวใจนะ
00:16:28 → 00:16:31 จากแอลกอฮอล์หัวใจล้มเหลวพวกเนี้ยอันพวก
00:16:31 → 00:16:33 นี้ก็เต้นผิดจังหวะได้อยู่แล้วนะครับ
00:16:33 → 00:16:36 เพราะฉะนั้นโดยทั่วไปมันก็มีทั้งเป็นตัว
00:16:36 → 00:16:39 ทำให้เกิดโรคทางหัวใจด้วยแอลกอฮอล์ใน
00:16:39 → 00:16:42 เดียวกันมันเป็นตัวกระตุ้นหรือสนับสนุน
00:16:42 → 00:16:44 ให้เกิดการเต้นหัวใจผิดจังหวะได้ด้วย
00:16:44 → 00:16:47 อาจารย์คะในส่วนวิธีการป้องกันโรคไหลตาย
00:16:47 → 00:16:51 เนี่ยมีวิธีการอย่างไรบ้างคะครับอันที่ 1
00:16:51 → 00:16:54 ก็คือเลี่ยงใช่มั้ยครับเลี่ยงอาหารที่กิน
00:16:54 → 00:16:56 แล้วน้ำตาลในเลือดหลังอาหารมันสูงนะเช่น
00:16:57 → 00:16:59 ข้าวเหนียวของหวานขนมหวานน้ำบัดลมอะไรพวก
00:16:59 → 00:17:02 นี้นะครับพกนี้แล้วอีกอันนึงก็คืออาหาร
00:17:02 → 00:17:05 ที่มันเพิ่มโปแทสเซียมซึ่งเราก็รู้แล้ว
00:17:05 → 00:17:08 โปแตสเซียมมันอยู่ในผักผลไม้โดยเฉพาะ
00:17:08 → 00:17:11 ผลไม้ชิที่ิก็จะมีโพแทสเซียมเยอะเพราะถ้า
00:17:11 → 00:17:13 เป็นไปได้ก็กินผลไม้ทุกวันน้ำชาก็มี
00:17:13 → 00:17:16 โปแทสเซียมนะครับอยู่ก็เอใบชาเนี่ยน้ำ
00:17:16 → 00:17:19 ร้อนชงเนี่ยดื่มชาก็ได้นะครับตรงนี้มันก็
00:17:19 → 00:17:22 มีโปแทสเซียมอยู่ในใบชาก็ดื่มตรงนี้แทน
00:17:22 → 00:17:25 มันก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงตรงนี้คือถ้าพูด
00:17:25 → 00:17:28 ถึงทั่วๆไปนะครับไม่ใช่เฉพาะกรณีไหลตายนะ
00:17:29 → 00:17:32 ครับอ่าอาหารที่ดีต่อหัวใจสุขภาพหัวใจ
00:17:32 → 00:17:35 เนี่ยทั่วโลกที่เขาศึกษามาก็เป็นอาหารที่
00:17:35 → 00:17:37 เราเรียกว่าอาหารเมดิเตอเรเนียนนะครับ
00:17:37 → 00:17:40 เพราะมีการศึกษาเกี่ยวกับงเนี้ยค่อนข้าง
00:17:40 → 00:17:43 มากนะครับเทียบระหว่างคนที่กินกับไม่ได้
00:17:43 → 00:17:46 กินเลยอ่ะพูดง่ายๆแล้วก็ติดตามไป 5 ปี 10
00:17:46 → 00:17:49 ปีเนี่ยช่วยนะครับซึ่งประกอบด้วยอาหาร
00:17:49 → 00:17:51 หลักก็คือเป็นพวกผักผลไม้เป็นหลักอยู่
00:17:51 → 00:17:54 แล้วนะครับสมมุติว่าเวลาทานอาหารนะครับ
00:17:54 → 00:17:57 เราเอาจานอาหารมา 1 จานใช่มั้ยครับปัง
00:17:57 → 00:18:00 เป็น 4 ส่วนนะครับ 2 ส่วนหรือครึ่งนึง
00:18:01 → 00:18:04 เนี่ยนะครับให้เป็นผักนะครับให้เป็นถั่ว
00:18:04 → 00:18:06 โดยเฉพาะถั่วลิสงอย่างเงี้ยจะดีถั่ว
00:18:06 → 00:18:09 เหลืองถั่วเขียวอะไรก็ได้นะครับนะพริกนะ
00:18:09 → 00:18:13 พริกก็ดีนะครับแล้วก็งาน้ำมันงานะครับเอา
00:18:13 → 00:18:16 งาขาวงาดำเคี้ยวท่านแทนน้ำมันมะกอกใน
00:18:16 → 00:18:19 อาหารเมดิเตอเรเนียนครึ่งนึงนะครับแล้วก็
00:18:19 → 00:18:23 อีก 1/4 เป็นปลาปลาแต่ไม่ทอดนะครับเพราะ
00:18:23 → 00:18:26 การปลาทอดเนี่ยมันโดนความร้อนสูงเกินไป
00:18:27 → 00:18:30 ข้อดีของไขมันปลามันจะเสียไปมันอาจจะ
00:18:30 → 00:18:32 เพิ่มโอกาสหัวใจได้ผิดจังหวะด้วยซ้ำเพราะ
00:18:32 → 00:18:36 ฉะนั้นเราแนะนำกินปลาแต่ไม่ต้องทอดปลาน้ำ
00:18:36 → 00:18:38 จืบปลาทะเลได้ทั้งหมดนะครับตรงนี้นะครับ
00:18:38 → 00:18:41 แล้วก็อีก 1 ใน 4 ก็จะเป็นข้าวกล้องนะ
00:18:41 → 00:18:43 ครับเพื่อลดไม่ให้น้ำตาลในเลือดมันสูง
00:18:43 → 00:18:47 เกินไปตรงนี้นะครับตงนี้แล้วก็มีผลไม้ถ้า
00:18:47 → 00:18:50 เป็นไปได้ก็ทุกมื้อถ้าไม่ได้ก็อย่างน้อยๆ
00:18:50 → 00:18:53 ขอวันละมื้อก็ยังดีวันนึงสัก 2 ฝ่ามือ
00:18:53 → 00:18:56 อย่างเงี้ยนะครับแล้วก็ดื่มน้ำหรืออย่าง
00:18:56 → 00:18:58 ที่เียในทราบน้ำชาก็ได้ชาเขียวก็ได้แะ
00:18:58 → 00:19:01 อย่างเงี้ยนะครับอันนี้ก็จะช่วยนะครับที่
00:19:01 → 00:19:03 จะช่วยทั้งป้องกันโรคทั่วไปด้วยจริงๆ
00:19:03 → 00:19:06 อันเนี้ยแม้แต่โควิดก็ป้องกันได้นะครับ
00:19:06 → 00:19:09 การศึกษาตรงเนี้ยมันมีการศึกษาตรงนี้
00:19:09 → 00:19:11 เหมือนกันเพราะฉะนั้นมันก็เป็นอาหารที่ดี
00:19:11 → 00:19:14 โดยทั่วไปซึ่งอาหารไทยเนี่ยอาหารไทยโบราณ
00:19:14 → 00:19:17 ก็เข้าขายเนี่ยผมก็เลยเรียกว่าเป็นอาหาร
00:19:17 → 00:19:22 ไทยสไตล์เมดิเตอเรเนียนเนี่ย 6211 ครับขอ
00:19:22 → 00:19:24 ขอบพระคุณอาจารย์นะคะที่ให้เกียรติมาพูด
00:19:24 → 00:19:26 คุยและให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของ
00:19:27 → 00:19:30 โรคไหลตายค่ะในช่วงหน้าค่ะคุณผู้ชมมเรา
00:19:30 → 00:19:33 ยังไขข้อสงสัยในเรื่องของการรับประทาน
00:19:33 → 00:19:36 ข้าวเหนียวนะคะว่ามันจะมีผลต่อโรคไหลตา
00:19:36 → 00:19:39 อย่างไรบ้างติดตามได้ในรายการ TNN Health
00:19:39 → 00:19:48 ช่วงหน้า
00:19:48 → 00:19:57 [เพลง]
00:19:57 → 00:19:59 ค่ะ
00:19:59 → 00:20:04 [เพลง]
00:20:04 → 00:20:07 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 3 ของรายการ tn and
00:20:07 → 00:20:10 Health ค่ะคุณผู้ชมคะเรายังมีข้อสงสัย
00:20:10 → 00:20:12 กันในเรื่องของการกินข้าวเหนียวแล้วทำให้
00:20:12 → 00:20:15 เกิดภาวะโรคไหลตายรวมไปถึงจะรับประทาน
00:20:15 → 00:20:18 อาหารกลุ่มไหนอย่างไรที่จะช่วยป้องกัน
00:20:18 → 00:20:21 ภาวะโรคไหลตายเรามาชมกัน
00:20:21 → 00:20:24 ค่ะอย่างที่กล่าวไปในช่วงแรกค่ะว่าโรคไหล
00:20:24 → 00:20:27 ตายคือกลุ่มอาการบลูกาดนั่นก็คือกลุ่มของ
00:20:27 → 00:20:29 โรคคลื่นไฟฟ้าหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งเป็น
00:20:29 → 00:20:32 ปัจจัยที่ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้
00:20:32 → 00:20:35 และหนึ่งในนั้นคืออาหารการกินแล้วการกิน
00:20:35 → 00:20:37 ข้าวเหนียวส่งผลให้เกิดภาวะไหลตายได้
00:20:37 → 00:20:39 อย่างไรเนื่องจากข้าวเหนียวเป็นอาหารที่
00:20:39 → 00:20:42 มีคาร์โบไฮเดรตปริมาณสูงยิ่งกินพร้อม
00:20:42 → 00:20:44 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลให้
00:20:44 → 00:20:47 โพแทสเซียมต่ำซึ่งการที่โพแทสเซียมต่ำมี
00:20:47 → 00:20:50 ความสำคัญต่อการนำไฟฟ้าหัวใจเมื่อต่ำกว่า
00:20:50 → 00:20:53 ปกติมากจะทำให้เกิดการเต้นของหัวใจผิด
00:20:53 → 00:20:56 จังหวะและเสียชีวิตได้ในผู้ป่วยที่ไม่มี
00:20:56 → 00:20:59 โรคประจำตัวและแข็งแรงดีมาตลอดอาหารถูก
00:20:59 → 00:21:02 ตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำ
00:21:02 → 00:21:04 ให้เกิดอาการผิดปกติโปแทสเซียมต่ำได้มาก
00:21:04 → 00:21:07 ที่สุดภาวะไหล่ตายกับข้าวเหนียวจึงมีความ
00:21:07 → 00:21:10 สัมพันธ์กันแต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดภาวะไหลตาย
00:21:10 → 00:21:13 ได้กับทุกคนสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงอาจ
00:21:13 → 00:21:16 จะพบอุบัติการณ์ได้มากกว่าคนทั่วไปนอกจาก
00:21:17 → 00:21:19 นี้นะคะบางภาวะค่ะคุณผู้ชมเป็นภาวะที่
00:21:19 → 00:21:22 กระตุ้นทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมต่ำอย่าง
00:21:22 → 00:21:25 ฉับพลันได้เช่นภาวะที่คุณไปออกกำลังกาย
00:21:25 → 00:21:28 หนักๆนะคะหรือว่าทำงานหนักกลางแดดร้อนๆ
00:21:28 → 00:21:31 แดดเปรี้ยงๆเป็นระยะเวลายาวนานหรือแม้
00:21:31 → 00:21:33 กระทั่งการที่คุณกลับออกมาจากแสงแดดแล้ว
00:21:33 → 00:21:36 กลับมาอาบน้ำอุณหภูมิเย็นๆอย่างไรก็ตาม
00:21:37 → 00:21:39 เราได้ทราบกันแล้วว่าอาหารการกินมีผลต่อ
00:21:39 → 00:21:43 เรื่องของโรคหัวใจโดยเฉพาะภาวะไหลตายทาง
00:21:43 → 00:21:46 ด้านกรมอนามัยได้มีเทคนิคแนะนำการรับ
00:21:46 → 00:21:49 ประทานเพื่อช่วยให้หัวใจแข็งแรงนั่นคือ 1
00:21:49 → 00:21:52 กำหนดปริมาณและสัดส่วนอาหารในจานให้เหมาะ
00:21:52 → 00:21:55 สมไม่มากจนเกินไปควรมีใยอาหารและมีเนื้อ
00:21:55 → 00:21:59 สัตว์อย่างละส่วนเลี่ยงหรือลดอาหารที่มี
00:21:59 → 00:22:01 แคลอรี่และมีโซเดียมสูงเพิ่มการรับประทาน
00:22:01 → 00:22:05 ผักผลไม้รวมถึงวิตามินแร่ธาตุต่างๆแต่
00:22:05 → 00:22:08 อุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ
00:22:08 → 00:22:11 สำหรับในกลุ่มข้าวแป้งควรเลือกชนิดไม่ขัด
00:22:11 → 00:22:14 สีหรือขัดสีน้อยเช่นข้าวกล้องธัญพืชเต็ม
00:22:14 → 00:22:15 เมล็ด
00:22:15 → 00:22:19 คีนัว 2 นอกจากนี้ยังแนะนำการจำกัดปริมาณ
00:22:19 → 00:22:22 ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานเพื่อช่วยลด
00:22:22 → 00:22:24 โคเลสเตอรอลในเลือดทำให้ลดความเสี่ยงต่อ
00:22:24 → 00:22:28 โรคหลอดเลือดหัวใจเลือกกินโปรตีนไขมันต่
00:22:28 → 00:22:31 เช่นโปรตีนจากพืชเต้าหู้หรือปลาแนะนำเป็น
00:22:31 → 00:22:34 ปลาที่มีไขมันดีโอเมก้า 3 เช่นแซลมอนปลา
00:22:34 → 00:22:37 ทูหากกินเนื้อสัตว์ชนิดอื่นควรกินเนื้อ
00:22:37 → 00:22:39 สัตว์ที่ไม่ติดมันและหลีกเลี่ยงเนื้อ
00:22:39 → 00:22:42 สัตว์แปรรูป 3 จำกัดปริมาณน้ำตาลและ
00:22:42 → 00:22:45 โซเดียมโดยใน 1 วันไม่ควรรับประทานน้ำตาล
00:22:45 → 00:22:51 เกิน 6 ช้อนชางดหรือลดอาหารที่มีน้ำตาล
00:22:51 → 00:22:54 สูงเป็นอย่างไรกันบ้างคะคุณผู้ชมได้รับ
00:22:54 → 00:22:57 ทราบเทคนิคการดูแลหัวใจและก็รู้แล้วว่าจะ
00:22:57 → 00:23:00 จะรับประทานอะไรเพื่อให้หัวใจของเราแข็ง
00:23:00 → 00:23:03 แรงอย่าลืมนำเคล็ดลับดีๆจาก TNN Health
00:23:03 → 00:23:06 ไปใช้กันนะคะและถ้าหากต้องการจะติดตามรับ
00:23:06 → 00:23:09 ชมรายการ TNN Health นะคะสามารถติดตาม
00:23:09 → 00:23:12 รับชมได้เป็นประจำทุกวันเสาร์ค่ะเวลา
00:23:12 → 00:23:14 15:00 น -
00:23:14 → 00:23:18 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 ค่ะแต่ว่าถ้า
00:23:18 → 00:23:21 หากรับชมรีรันนะคะจะต้องเป็นชุกบ่ายวัน
00:23:21 → 00:23:26 จันทร์ค่ะ 14:30 นจนถึง 15:00 นไม่เพียง
00:23:26 → 00:23:29 เท่านี้นะคะถ้าท่านใดตื่นเช้าค่ะทุกวัน
00:23:29 → 00:23:34 เสาร์ค่ะเวลา 6:00 น- 6:30 นแต่ถ้าหากไม่
00:23:34 → 00:23:37 สะดวกจริงๆอยากรับชมย้อนหลังค่ะช่องทาง
00:23:37 → 00:23:41 YouTube สามารถรับชมได้แต่ถ้าชมรายการสด
00:23:41 → 00:23:44 แล้วก็ต้องเป็น Facebook TNN Health
00:23:44 → 00:23:47 ไม่เพียงเท่านี้นะคะท่านไหนนะคะที่ชอบ
00:23:47 → 00:23:50 เล่น tiktok ค่ะ tiktok ของเราเราก็มี TNN
00:23:50 → 00:23:53 Health tiktok TNN He ได้รับสาระความ
00:23:53 → 00:23:57 รู้สนุกๆดีๆด้วยและที่สำคัญเลยค่ะถ้าหาก
00:23:57 → 00:24:00 อยากมีมีคุณหมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจง่ายๆค่ะ
00:24:00 → 00:24:03 เพียงหยิบโทรศัพท์มือถือของท่านขึ้นมา
00:24:03 → 00:24:06 เข้าไปใน LINE แอปพลิเคชันพิมพ์ assign
00:24:06 → 00:24:10 TNN h e ath @t nn Health หรือ
00:24:10 → 00:24:13 วิธีที่ง่ายกว่านั้นก็คือวิธีที่ใช้การ
00:24:13 → 00:24:16 สแกน QR Code ที่มุมจอด้านล่างเพียงเท่า
00:24:16 → 00:24:19 นี้ค่ะเราก็จะได้สาระความรู้ดีๆเหมือนมี
00:24:19 → 00:24:23 คุณหมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจอย่าลืมที่จะกด
00:24:23 → 00:24:26 ไลคกดแชร์กด Subscribe เป็นกำลังใจให้หมอ
00:24:26 → 00:24:28 ดาวและทีมงานด้วยนะคะอันนี้สำคัญมากเลย
00:24:28 → 00:24:32 และสำหรับวันนี้นะคะรายการ t&h ต้องขอตัว
00:24:32 → 00:24:36 ลาไปก่อนค่ะสวัสดี
00:24:36 → 00:24:47 [เพลง]
00:24:56 → 00:24:57 ค่ะ
00:24:57 → 00:25:26 [เพลง]
00:25:26 → 00:25:33 อ