00:00:00 → 00:00:03 บ่เคยไม่ครับเวลาที่เราอกหักแล้วเลิกกับ
00:00:03 → 00:00:06 แฟนเนี่ยมันเจ็บปวดมากเลยแล้วอยากจะลืม
00:00:06 → 00:00:10 รักครั้งนั้นแต่ทำยังไงมันก็ลืมไม่ได้จน
00:00:10 → 00:00:13 บางทีมันทั้งเราไปเรื่องกับคนใหม่ได้และ
00:00:13 → 00:00:16 เคยไหมครับเราทำดีกับแฟนเป็นร้อยครั้งแต่
00:00:16 → 00:00:18 เราเผลอทำไม่ดีกับเขาแค่ครั้งเดียวแต่เขา
00:00:18 → 00:00:21 ดันจำเรื่องนั้นได้แม่นยำกว่าเรื่องอื่น
00:00:21 → 00:00:24 สงสัยไหมครับว่าทำไมเรามักจะจำในสิ่งที่
00:00:24 → 00:00:26 เราอยากจะลืมแต่เรากลับลืมในสิ่งเขาอยาก
00:00:26 → 00:00:30 จำวันนี้ผมข้าวต้นสมบูรณ์ครับจะพาทุกคนนะ
00:00:30 → 00:00:33 ครับบุกเข้าไปในสมองเลยครับไปดูว่าสมอง
00:00:33 → 00:00:36 เราเนี่ยมันจดจำเรื่องราวต่างๆได้ยังไง
00:00:36 → 00:00:40 แล้ววิทยาศาสตร์จะช่วยเราได้แมะในการที่
00:00:40 → 00:00:43 เราจะลืมความทรงจำที่มันเจ็บปวดครับช็อป
00:00:43 → 00:00:46 ที่เธอว์พอดแคสต์สุขภาพที่ใช้วิทยาศาสตร์
00:00:46 → 00:00:50 ไขปัญหาตั้งแต่หัวจดเท้า
00:00:50 → 00:00:53 ก่อนอื่นต้องมาดูก่อนครับว่าสมองของเรา
00:00:53 → 00:00:56 เนี่ยจดจำเรื่องต่างๆได้ยังไงนะครับทุกๆ
00:00:56 → 00:00:59 วันตั้งแต่เราตื่นนอนยันเข้านอนนะครับเรา
00:00:59 → 00:01:03 ออกมีชีวิตเนี่ยเราประสบพบเจอเหตุการณ์
00:01:03 → 00:01:06 ต่างๆมากมายครับสมองเนี่ยจะมีข้อมูลวิ่ง
00:01:06 → 00:01:09 เข้ามาอีกเยอะแยะเต็มไปหมดครับจนสมองของ
00:01:09 → 00:01:12 เรานะครับไม่มีเวลาเลยครับที่จะมานั่ง
00:01:12 → 00:01:15 process ความจำครับถามว่าทำไมเพราะว่า
00:01:15 → 00:01:17 เวลาเราไปใช้ชีวิตนอกว่านะครับสิ่งที่
00:01:17 → 00:01:20 สมองจะต้องโฟกัสคือต้องทำงานก็ได้ให้คุณ
00:01:20 → 00:01:23 สามารถจะอยู่รอดปลอดภัยบนโลกอันตรายใบนี้
00:01:23 → 00:01:26 ครับคุณจะต้องไม่เกิดอุบัติเหตุคุณก็ไม่
00:01:26 → 00:01:30 โดนทำร้ายเพราะฉะนั้นสติของสมอนะครับใจจด
00:01:30 → 00:01:33 จ่ออยู่กับการทำให้คุณปลอดภัยมากกว่าครับ
00:01:33 → 00:01:35 สิ่งที่เกิดขึ้นนะครับคือไม่ว่าข้อมูล
00:01:35 → 00:01:38 แล้วก็ตามวิ่งเข้ามาในสมองผ่านทางการมอง
00:01:38 → 00:01:41 ทางการฟังได้ยินสัมผัสหรือว่าลิ้มรสนะ
00:01:41 → 00:01:44 ครับสมองเนี่ยจะเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้
00:01:44 → 00:01:47 เป็นความทรงจำระยะสั้นเก็บไว้เกาะเก็บไว้
00:01:47 → 00:01:50 รวบรวมไว้นะครับจนเมื่อไหร่ก็ตามนะครับ
00:01:50 → 00:01:53 เรากลับถึงบ้านปลอดภัยเริ่มเข้านอนและ
00:01:53 → 00:01:56 สมองไม่ต้องมานั่งกังวลแล้วว่าไอ้เราจะ
00:01:56 → 00:01:58 ปลอดภัยหรือเปล่าช่วงนั้นแหละครับเป็น
00:01:58 → 00:02:02 จังหวะที่สมองจะมีเวลามานั่งพิจารณาว่า
00:02:02 → 00:02:05 ความทรงจำอันไหนบ้างที่เราเจอมาในวัน
00:02:05 → 00:02:08 เนี้ยมันสำคัญควรจะเก็บเอาไว้เหลือไหนที่
00:02:08 → 00:02:11 มันไม่ค่อยจำเป็นอ่ะทิ้งมันไปดีกว่าอ่ะ
00:02:11 → 00:02:14 แล้วที่นี่สมองมันตัดสินใจได้ยังไงว่า
00:02:14 → 00:02:18 ความทรงจำวันไหนเนี่ยมันสำคัญไม่สำคัญเคย
00:02:18 → 00:02:20 บอกไปแล้วครับว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเกิด
00:02:20 → 00:02:23 มาต้องอยู่รอดนะครับเพราะฉะนั้นความทรงจำ
00:02:23 → 00:02:26 อะไรก็ตามที่จำเป็นต่อการอยู่รอดและก็
00:02:26 → 00:02:29 ดำรงชีวิตเพื่อสื่อเผ่าพันธุ์ของเราเนี่ย
00:02:29 → 00:02:32 สมองจะถือว่าอันนั้นเป็นความทรงจำที่
00:02:32 → 00:02:35 สำคัญครับจะมีอะไรบ้างล่ะความทรงจำอะไรก็
00:02:35 → 00:02:38 ตามที่กระตุ้นและเกิดอารมณ์ร่วมค่อนข้าง
00:02:38 → 00:02:40 เยอะไม่ว่าจะทั้งๆลบหรือว่าทางบวกนะครับ
00:02:41 → 00:02:43 สมองจะคิดว่าอันนั้นอ่ะเป็นความทรงจำที่
00:02:43 → 00:02:46 สำคัญครับอารมณ์ทางด้านลบไปว่าจะเป็นความ
00:02:46 → 00:02:50 โกรธความกลัวความขยะแขยงความเศร้าโศกเสีย
00:02:50 → 00:02:53 ใจเนี่ยครับโอ้โหความทรงจำพรุ่งนี้จะจำ
00:02:53 → 00:02:56 ได้แม่นเลยถามว่าทำไมโพธิ์สมองตีความว่า
00:02:56 → 00:03:00 ไอ้เรื่องพวกนี้มันคือภัยอันตรายครับที่
00:03:00 → 00:03:02 ขอให้เราไม่มีความสุขที่สามารถจะทำให้เรา
00:03:02 → 00:03:06 เป็นโรคต่างๆทำให้เราตายได้ครับสมองจึง
00:03:06 → 00:03:09 อยากทำให้เราจำเรื่องเหล่านี้ให้แม่นๆจะ
00:03:09 → 00:03:11 ได้หลีกเลี่ยงที่จะเจอเรื่องเหล่านี้ต่อ
00:03:11 → 00:03:13 ไปในอนาคตหรือจะทำให้เราสามารถจะแก้ปัญหา
00:03:13 → 00:03:16 เวลาย่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ดีมากยิ่ง
00:03:16 → 00:03:19 ขึ้นครับหรืออารมณ์ที่เป็นบวกนะครับสมอง
00:03:19 → 00:03:22 ก็พยายามจะเก็บเอาไว้ครับไม่ว่าช่วงเวลา
00:03:22 → 00:03:25 เธอมีความสุขมากๆนะครับหรือว่าช่วงเวลา
00:03:25 → 00:03:29 ที่เรายิ่งเยอะเนี่ยสม็อคก็อยากจะเก็บไว้
00:03:29 → 00:03:31 เพราะว่าความทรงจำดีๆเหล่านั้นครับเวลา
00:03:31 → 00:03:33 นึกถึงเนี่ยมันจะทำให้เราหลังข้อมูลแห่ง
00:03:33 → 00:03:37 ความสุขไม่ว่าจะเป็นเอนดอร์ฟินโดยก็มีนะ
00:03:37 → 00:03:39 ครับหรือ of CEO ซีนฮอร์โมนแห่งความผูก
00:03:39 → 00:03:42 พันออกมาเยอะครับและฮอร์โมนพวกนี้สำคัญ
00:03:42 → 00:03:45 มากๆเพราะจะทำให้เราคลายเครียดพอเราคลาย
00:03:45 → 00:03:48 เครียดและมีความสุขนะครับประสิทธิภาพใน
00:03:48 → 00:03:51 การใช้ชื่อของเราก็จะดีคือนั่นเองครับ
00:03:51 → 00:03:54 ส่วนความจำอะไรก็ตามนะครับที่ไม่ค่อยจะ
00:03:54 → 00:03:56 ตุ้นอารมณ์อย่างเช่นเมื่อวันก่อนเนี่ยเรา
00:03:56 → 00:03:58 ใส่เสื้อผ้าสีอะไรหรือว่าเมื่อวานเนี่ย
00:03:58 → 00:04:01 เราก้าวเท้าซ้ายหมอเขาขวาออกจากบ้านก่อน
00:04:01 → 00:04:04 กันมันไม่ได้จำเป็นต่อการอยู่รอดของเรา
00:04:04 → 00:04:08 ความจำพรุ่งนี้สมองก็จะไม่ค่อยเก็บเอาไว้
00:04:08 → 00:04:11 ครับทิ้งมันไปเพราะสมองรู้แล้วว่าจะเลือก
00:04:11 → 00:04:14 เก็บความทรงจำอะไรไว้ Next Step จะคือ
00:04:14 → 00:04:18 อะไรสมองนะครับจะเล่นความทรงจำนั้นซ้ำให้
00:04:18 → 00:04:20 เกิดขึ้นนะครับโดยการให้เราเก็บเอาไปฝัน
00:04:20 → 00:04:22 ครับตั้งแต่หลายครั้งที่เราก็จะไม่รู้เขา
00:04:22 → 00:04:25 ว่าสมองเล่นเรื่องนั้น 3 เพราะว่าจำความ
00:04:25 → 00:04:27 ฝันไม่ได้และระหว่างที่เราฝากด้วยนะครับ
00:04:27 → 00:04:31 เป็นจังหวะที่ความทรงจำระยะสั้นหรือว่า
00:04:31 → 00:04:33 Short term Memory เนี่ยมันจะถูก
00:04:33 → 00:04:36 เปลี่ยนให้กลายเป็นความทรงจำระยะยาวที่
00:04:36 → 00:04:38 เรียกว่า long term Memory และกระบวน
00:04:38 → 00:04:41 การนี้นะครับจะเกิดขึ้นที่จุดหนึ่งของ
00:04:41 → 00:04:44 สมองที่ชื่อว่าฮิปโปแคมปัสครับตอนนี้เวลา
00:04:44 → 00:04:47 ว่าสมองเนี่ยจะเลือกเก็บความทรงจำยังไงนะ
00:04:47 → 00:04:50 ครับคำถามต่อมาคือแล้วความทรงจำเนี่ยมัน
00:04:50 → 00:04:54 ถูกเก็บไว้ที่ไหนตอนนี้ผมบอกไปว่าความทรง
00:04:54 → 00:04:57 จำถูกเปลี่ยนจากระยะสั้นเป็นระยะยาวที่
00:04:57 → 00:05:00 คลิปโปรแกรมป๊าใช่ไหมครับแต่ความจำทั้ง
00:05:00 → 00:05:02 แต่มันไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่คิดโตแคมปัสนะ
00:05:02 → 00:05:05 ครับและข้อเท็จจริงคือสมองเนี่ยไม่ได้
00:05:05 → 00:05:07 เก็บความทรงจำเป็นก้อนไว้ที่ใดที่หนึ่ง
00:05:07 → 00:05:11 ด้วยแต่ทุกๆความทรงจำได้นะครับจะถูกแยก
00:05:11 → 00:05:15 ย่อยให้เป็นส่วนเล็กๆและก็แยกออกไปเก็บ
00:05:15 → 00:05:18 ตามส่วนต่างๆของสมองครับผมเก็บที่ง่ายนะ
00:05:18 → 00:05:21 ครับสมองเราเปรียบเหมือนกับประเทศไทยนะ
00:05:21 → 00:05:23 ครับที่โปรแกรม pass เนี่ยเป็นเหมือน
00:05:23 → 00:05:26 กรุงเทพฯเป็นศูนย์บัญชาการที่จัดการกับ
00:05:26 → 00:05:29 ความทรงจำทั้งเปลี่ยนเป็นความทรงจำระยะ
00:05:29 → 00:05:32 ยาวแล้วก็ช่วยในการจัดเก็บด้วยสมมติว่า
00:05:32 → 00:05:34 เราไปเจอความทรงจำอะไรมาสักอย่างหนึ่ง
00:05:34 → 00:05:39 ครับคุณจับได้ว่าแฟนคุณมีชู้คุณขับรถตาม
00:05:39 → 00:05:42 ไปครับจนไปเจอว่าแฟนของคุณอยู่กับกิ๊ก
00:05:42 → 00:05:45 กำลังกะหนุงกะหนิงกันอยู่คุณเรื่อยๆก็ไป
00:05:45 → 00:05:49 หาเขามีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันทุกคำ
00:05:49 → 00:05:52 พูดต่างๆนะครับที่กระตุ้นอารมณ์คุณให้คุณ
00:05:52 → 00:05:55 รู้สึกเศร้าเสียใจผิดหวังโกรธเหตุการณ์
00:05:56 → 00:05:58 ทั้งหมดนั้นเจ้าคลิปโปรแกรมฟาสนะครับจะ
00:05:59 → 00:06:02 ซอยอย่าหันเหตุการณ์นั้นออกเป็นท่อนๆครับ
00:06:02 → 00:06:07 ภาพที่คุณขับรถภาพที่คุณเห็นแฟนคุณจูงมือ
00:06:07 → 00:06:11 กิ๊กกะหนุงกะหนิงกันจะถูกหั่นและโยนเก็บ
00:06:11 → 00:06:15 เข้าไปในกล่องที่เรียกว่ากล่องภาพและโยน
00:06:15 → 00:06:18 เข้าไปในรถบรรทุกครับคันหนึ่งเสียงหรือคำ
00:06:18 → 00:06:20 พูดที่คุณทะเลาะกับแฟนกูนะครับจะถูกเก็บ
00:06:20 → 00:06:23 ไปในกล่องอีกใบนึงเรียกว่ากล่องเสียงและ
00:06:23 → 00:06:26 ถูกโยนขึ้นไปบนรถบรรทุกอีกคันนึงอารมณ์
00:06:26 → 00:06:29 ของคุณไม่ว่าจะเป็นโกรธเศร้าเสียใจผิด
00:06:29 → 00:06:31 หวังสิ้นหวังนะครับจะถูกเก็บไว้ในกล่อง
00:06:31 → 00:06:34 อีกใบหนึ่งแล้วก็โยนขึ้นรถบรรทุกอีกครั้ง
00:06:34 → 00:06:37 นึงครับรถแต่ละคันในจะถูกวิ่งไปคนละที่นะ
00:06:37 → 00:06:40 ครับกล่องภาพจะถูกส่งให้ไปครับที่
00:06:40 → 00:06:43 เชียงใหม่ที่เชียงใหม่จะมีโกดังเก็บภาพ
00:06:43 → 00:06:45 อยู่ไปเก็บไว้ที่นั่นกล่องเสียงครับจะถูก
00:06:45 → 00:06:48 ส่งไปที่ขอนแก่นไปยังโกดังเก็บเสียงครับ
00:06:48 → 00:06:52 อารมณ์ของคุณจะถูกส่งไปยังภูเก็ตที่มี
00:06:52 → 00:06:55 โกดังเก็บอารมณ์อยู่นี่คือวิธีที่สมองเรา
00:06:55 → 00:06:58 จัดเก็บความทรงจำหนึ่งเรื่องไว้นั่นเอง
00:06:58 → 00:07:01 ครับแล้วการเดินทางไปยังโกดังเชียงใหม่
00:07:01 → 00:07:05 ขอนแก่นภูเก็ตได้จากกรุงเทพต้องมีการ
00:07:05 → 00:07:09 สร้างถนนครับความทรงจำไหนที่มีความสำคัญ
00:07:09 → 00:07:11 ต่อร่างกายของเราถนนที่สร้างจะเป็นถนนที่
00:07:11 → 00:07:15 มีคุณภาพดีด้วยลาดคอนกรีตอย่างดีแต่ความ
00:07:15 → 00:07:18 ทรงจำไหนที่มีความสำคัญน้อยลงมาเรื่อยๆนะ
00:07:18 → 00:07:20 ครับคุณภาพถนนเนี่ยก็จะน้อยตามลงมาอาจจะ
00:07:20 → 00:07:23 เป็นถนนลาดยางหรือว่าถนนลูกรังที่พอจะใช้
00:07:23 → 00:07:27 งานได้ทั้งเองนี่คือวิธีที่สมองเราจะเก็บ
00:07:27 → 00:07:30 ความทรงจำครับแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเวลา
00:07:30 → 00:07:33 ชนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นวันที่เราจับ
00:07:33 → 00:07:35 ได้ว่าแฟนมีชู้นะครับ
00:07:35 → 00:07:37 ของทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้ที่โกดัง
00:07:37 → 00:07:39 เชียงใหม่โกดังขอนแก่นหรือว่าโกดังภูเก็ต
00:07:39 → 00:07:42 ข่าวนี้เราจะถูกนำกลับขึ้นรถบรรทุกและถูก
00:07:42 → 00:07:45 ส่งกลับมาที่กรุงเทพของทั้งหมดถูกเทรวม
00:07:45 → 00:07:48 กันครับจะมีเจ้าหน้าที่ที่กรุงเทพนะครับ
00:07:48 → 00:07:51 ประมวลผลทำให้คุณจดจำเหตุการณ์ทุกอย่าง
00:07:51 → 00:07:54 ได้แม่นยำครับทั้งภาพทั้งเสียงทั้งอารมณ์
00:07:54 → 00:07:59 มาเต็มเลยและทำให้คุณเศร้าเสียใจจากนั้น
00:07:59 → 00:08:03 ครับมีความทรงจำทั้งหมดก็ถูกซอยแบ่งเก็บ
00:08:03 → 00:08:06 ลงกล่องแพ็คส่งไปเก็บตามโกดังต่างๆเหมือน
00:08:06 → 00:08:09 เดิมทำให้หลังจากที่คุณนึกแล้วเนี่ยคุณก็
00:08:09 → 00:08:13 ยังจดจำความทรงจำนั้นได้และยังนึกทบทวน
00:08:13 → 00:08:17 มันได้เรื่อยๆเรื่อยๆนะครับอย่างที่บอกไป
00:08:17 → 00:08:19 ว่าความทรงจำแย่ที่มันก็เกินจิตใจเนี่ย
00:08:19 → 00:08:21 มักจะจำได้ไม่ลืมใช่ไหมครับแต่มันไม่ดี
00:08:21 → 00:08:24 เลยอ่ะผมชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะอยู่กับ
00:08:24 → 00:08:27 ความทรงจำแย่ๆเหล่านั้นไปตลอดชีวิตแล้ว
00:08:27 → 00:08:30 รีบเราจะลืมได้ไหมปกติแล้วนะครับสมองเรา
00:08:30 → 00:08:33 เนี่ยมีกลไกที่ทำให้เราลืมในสิ่งที่มัน
00:08:33 → 00:08:36 ไม่จำเป็นด้วยนะครับอย่างที่บอกสมองเนี่ย
00:08:36 → 00:08:39 จะจำเฉพาะในสิ่งที่ทำให้เราอยู่รอดเท่า
00:08:39 → 00:08:43 นั้นความทรงจำแย่นี่นะครับมันไม่ Healthy
00:08:43 → 00:08:46 เลยครับเพราะถ้าเรากินไม่ได้นอนไม่หลับ
00:08:46 → 00:08:49 มันส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราส่ง
00:08:49 → 00:08:52 ผลกระทบต่อการทำมาหาที่ของเราสมองจะค่อยๆ
00:08:52 → 00:08:54 เรียนรู้ครับว่าความทรงจำเหล่านั้นเนี่ย
00:08:54 → 00:08:58 ควรจะกำจัดทิ้งไปถามว่ามันจะกำจัดยังไง
00:08:58 → 00:09:00 ครับวิธีการนึงตามธรรมชาติหลังจากที่เรา
00:09:00 → 00:09:03 จะลืมความเจ็บปวดนี้นะครับมันเกิดขึ้น
00:09:03 → 00:09:06 ครับเคยสังเกตกันนะเวลาเราผ่านเรื่องร้าย
00:09:06 → 00:09:10 ในชีวิตมาตอนแรกๆมันทรมานมากเลยแต่พอเวลา
00:09:10 → 00:09:13 ผ่านไปผ่านไปเรื่อยๆนะครับเราจะรู้สึก
00:09:13 → 00:09:17 เจ็บปวดน้อยลงแม้ว่าเราจะยังจดจำเรื่อง
00:09:17 → 00:09:20 ราวนั้นได้อยู่นั่นคือคนไกลในการเรียนตาม
00:09:20 → 00:09:23 ธรรมชาติของสมองแล้วครับเวลาเที่ยวนึกถึง
00:09:23 → 00:09:26 เรื่องอะไรเริ่มดึงนี้นะครับแน่นอนของ
00:09:26 → 00:09:27 ทั้งหมดที่ถูกเก็บในโกดังมันลงมาที่
00:09:27 → 00:09:30 กรุงเทพใช่ไหมทีนะเวลาที่มันลงมากรุงเทพ
00:09:30 → 00:09:33 แล้วมันจะต้องโดนแพ็คกับไปเก็บอีกรอบนึง
00:09:33 → 00:09:36 เนี่ยพอเวลาผ่านไปเรื่อยๆนะครับ x กล่อง
00:09:36 → 00:09:39 อารมณ์ปริมาณอารมณ์ที่มันคุกกลุ่มของเรา
00:09:39 → 00:09:43 เนี่ยมันจะเริ่มน้อยลงน้อยลงนั่นหมายความ
00:09:43 → 00:09:46 ว่าอารมณ์ที่เราจะแพ็คใส่เจ้ากล่องอารมณ์
00:09:46 → 00:09:49 เราไปเก็บเนี่ยมันจะค่อยๆทยอยน้อยลงน้อย
00:09:49 → 00:09:52 ลงตามกาลเวลาเราเองในขณะที่ความทรงจำที่
00:09:52 → 00:09:55 เป็นภาพและเสียงอาจจะยังอยู่นั่นหมายความ
00:09:55 → 00:09:58 ว่าคุณไม่ได้ลืมความเจ็บปวดนะครับคุณยัง
00:09:58 → 00:10:01 จำเหตุการณ์ทั้งหมดได้ดีคะแต่แค่คุณเอา
00:10:01 → 00:10:05 อารมณ์ไปผูกไว้กับความทรงจำนั้นน้อยลงคุณ
00:10:05 → 00:10:07 ก็เลยลืมความเจ็บปวดนั่นเองครับเพราะฉัน
00:10:07 → 00:10:09 ไม่พอครับเวลาที่เราผ่านเหตุการณ์ได้ไป
00:10:09 → 00:10:12 แล้วนะครับเราจะเริ่มค่อยๆปรับตัวเริ่ม
00:10:12 → 00:10:14 เรียนดูแล้วว่าเฮ้ยเราต้องเดินต่อนี่ว่า
00:10:14 → 00:10:17 ชีวิตของเราแล้วก็จะเริ่มออกไปทำนู่นทำ
00:10:17 → 00:10:20 นี่เจอสิ่งแปลกๆใหม่ๆเข้ามาในชีวิตจำวัน
00:10:20 → 00:10:22 ครับทีนี้พอเราไปเจอเหตุการณ์ใหม่ๆใน
00:10:22 → 00:10:24 ชีวิตนะครับเราก็จะเป็นคนบอกสมองแล้วครับ
00:10:24 → 00:10:26 ว่าเฮ้ยตอนนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่
00:10:26 → 00:10:29 สำคัญกับเรานะเรากำลังจะออกกำลังกายเพื่อ
00:10:29 → 00:10:31 ให้ร่างกายแข็งแรงเรากำลังตั้งใจทำงาน
00:10:31 → 00:10:34 เพื่อให้เรามีหน้าที่การงานที่ดีหาเงิน
00:10:34 → 00:10:37 ได้เยอะขึ้นจะบอกว่าจะค่อยๆรู้คำว่าอ้อ
00:10:37 → 00:10:40 สิ่งเหล่านี้แหละควรจะโฟกัสและเป็นสิ่ง
00:10:40 → 00:10:43 ที่เราควรจะเก็บเป็นความทรงจำระยะยาวที่
00:10:43 → 00:10:46 สำคัญสมองก็จะสร้างถนนเส้นใหม่ครับที่ดี
00:10:46 → 00:10:49 กว่าเดิมเธอๆเนี่ยเป็น Super Highway
00:10:49 → 00:10:52 เลยครับในสิ่งที่ร่างกายเราควรจะจำพอเรา
00:10:52 → 00:10:55 ไม่ค่อยได้นึกถึงความทรงจำแย่ๆครับถนน
00:10:55 → 00:10:57 เหล่านั้นจะไม่ค่อยได้วิ่งมันก็จะไม่ค่อย
00:10:57 → 00:11:00 รับการบำรุงรักษาสักพักมันก็จะและเสื่อม
00:11:00 → 00:11:03 สลายไปเหลือแต่ถนนอันใหม่ที่แข็งแรงและก็
00:11:03 → 00:11:06 สำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของเราเท่า
00:11:06 → 00:11:10 นั้นครับนั่นคือคนไกลๆหรือธรรมชาตินะครับ
00:11:10 → 00:11:12 ที่ทำให้เราทุกคนสามารถจะลืมความเจ็บปวด
00:11:12 → 00:11:14 ได้นัก Wizard เดี๋ยวเข้าใจคนไกลนี้เป็น
00:11:14 → 00:11:17 อย่างดีนะครับเลยพยายามเอามาประยุกต์ใช้
00:11:17 → 00:11:20 ในการรักษาผู้ป่วยที่มีการโฟเบียหรือว่า
00:11:20 → 00:11:23 กลัวโลกในโลกหนึ่งนะครับหรือว่าประสบ
00:11:23 → 00:11:26 ปัญหาเมนทัล eness หรือว่าได้รับ cranked
00:11:26 → 00:11:29 พัฒนาจิตใจมากๆนะครับแล้วก็เป็นโรค PHP
00:11:29 → 00:11:32 Post cairns disorder ว่าเครียดจนเกิน
00:11:32 → 00:11:35 ไปนะครับมีการทดลองเลยครับที่นัก
00:11:35 → 00:11:37 เวชศาสตร์มีความพยายามที่จะช่วยเหลือคน
00:11:37 → 00:11:41 ที่กลัวแมงมุมทารันทูล่ามากๆคือแค่เพียง
00:11:41 → 00:11:43 นึกถึงเนี่ยก็กลัวแล้วเขาบอกว่ามีเหงื่อ
00:11:43 → 00:11:47 ออกตัวกระสับกระส่ายทำอะไรไม่ได้เลยสิ่ง
00:11:47 → 00:11:49 ที่นักวิทยาศาสตร์เขาทำเนี่ยนะครับเขาก็
00:11:49 → 00:11:52 ใช้หลักการเดียวกันคือให้คนไข้เนี่ยะนึก
00:11:52 → 00:11:56 ถึงเจ้าแมงมุมทารันทูล่าหรือพอครับเอา
00:11:56 → 00:11:58 เจ้าแมงมุมมีมาเผชิญหน้าเลยครับว่าคนไข้
00:11:58 → 00:12:01 เห็นเจ้าแมงมุมปุ๊บเนี่ยโอ้โหความทรงจำ
00:12:01 → 00:12:03 ทั้งรูปภาพหน้าตาในมุมก็จะวิ่งมาที่
00:12:03 → 00:12:05 กรุงเทพใช่มะไอ้ความกลัวที่เก็บไว้ก็วิ่ง
00:12:05 → 00:12:08 ที่กรุงเทพฯเหมือนกันก็กลัวมากๆที่นี่
00:12:08 → 00:12:10 ก่อนที่เจ้าความทรงจำนั้นที่กรุงเทพฯจะ
00:12:10 → 00:12:12 ถูกส่งไปเก็บที่โกดังเก็บผ้ากับโกดังเก็บ
00:12:12 → 00:12:15 อารมณ์นักวิทยาศาสตร์นะครับก็ให้คนไข้นี่
00:12:15 → 00:12:19 ครับกินยาตัวนึงครับที่สามารถที่จะทำลาย
00:12:19 → 00:12:22 ถนนหรือว่าขัดขวางการเดินทางกลับไปยัง
00:12:22 → 00:12:25 โกดังต่างๆได้ครับไอ้เจ้าความกลัวที่ผูก
00:12:25 → 00:12:28 กับรูปร่างหน้าตาของแมงมุมเนี่ยมันก็จะ
00:12:28 → 00:12:29 ถูกส่งไปเก็บเงินโกดังได้ไม่มี
00:12:29 → 00:12:32 ประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะทำบ่อยครั้งเข้า
00:12:32 → 00:12:36 บ่อยครั้งเข้านะครับคนไข้ก็จะเริ่มไม่เอา
00:12:36 → 00:12:39 อารมณ์ความกลัวไปผูกกับรูปร่างหน้าตาของ
00:12:39 → 00:12:43 ทันทีล่าสุดท้ายนะครับเขาก็โชว์เลยว่าคน
00:12:43 → 00:12:45 ไข้ไม่เพียงแต่สามารถที่จะเผชิญหน้าจ้อง
00:12:45 → 00:12:48 มองทันธุระได้แต่สามารถที่จะรูปหัวทัน
00:12:48 → 00:12:52 สุราได้เลยนะครับนั่นคือเป็นวิธีที่นักวิ
00:12:52 → 00:12:55 สัช have แล้วก็ลบความทรงจำอันน่าสะพรึง
00:12:55 → 00:12:59 กลัวได้แต่ตอนนี้ยาลดความทรงจำในยังไม่
00:12:59 → 00:13:01 ถูกนะว่าอ่าสายนะคะเนื่องต้องมีการศึกษา
00:13:01 → 00:13:04 อีกเยอะจนกว่าจะปลอดภัยเพียงพอและยังต้อง
00:13:04 → 00:13:07 ใช้โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเท่า
00:13:07 → 00:13:10 นั้นแต่ถึงตอนนี้ยังไม่มียาลบความทรงจำ
00:13:10 → 00:13:13 อันเจ็บปวดนะครับแต่เราเองสามารถที่จะ
00:13:13 → 00:13:17 เป็นคนควบคุมและก็ลบความทรงจำอันเจ็บปวด
00:13:17 → 00:13:20 ได้นะครับอย่างที่ผมบอกไปอย่างที่ 1 เวลา
00:13:20 → 00:13:24 สามารถที่จะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดความ
00:13:24 → 00:13:27 เสียใจของเราได้เสมอครับไม่ต้องรีบใจเย็น
00:13:27 → 00:13:30 ๆมันเป็นกลไกของธรรมชาติอย่างที่สองครับ
00:13:30 → 00:13:33 ขณะที่คุณรอเวลาที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของ
00:13:33 → 00:13:38 คุณนะครับคุณควรจะทำอะไรที่ดีกับตัวคนเอง
00:13:38 → 00:13:40 ทำอะไรที่มีคุณค่ากับตัวคุณเองครับ
00:13:40 → 00:13:44 เปลี่ยนโฟกัสนั่นเองบอกสมองสมัยว่าเคิย
00:13:44 → 00:13:47 ตอนนี้เรื่องที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของ
00:13:47 → 00:13:50 เราคือเรื่องนี้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง
00:13:50 → 00:13:53 ความเจ็บปวดในอดีตสมองนะครับก็จะค่อยๆ
00:13:53 → 00:13:57 เรียนรู้และสร้างถนนเส้นใหม่ที่พาเราไปใน
00:13:57 → 00:14:01 ทิศทางที่ดีขึ้นนะครับและนะครับถนนเส้น
00:14:01 → 00:14:04 เก่าที่พาเราไปสู่ความเจ็บปวดเมื่อถนนที่
00:14:04 → 00:14:06 วิ่งเข้าสู่ความเจ็บปวดไม่ค่อยได้ใช้งาน
00:14:06 → 00:14:11 มันจะค่อยๆทรุดโทรมเสื่อมสลายไปและคุณจะ
00:14:11 → 00:14:14 ลืมความเจ็บปวดเองโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว
00:14:14 → 00:14:17 เลยนะครับอ่ะ