00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้
00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:10 >> สวัสดีครับวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องที่
00:00:10 → 00:00:13 เอ่อต้องบอกว่าทั้งซับซ้อนแล้วก็น่าทึ่ง
00:00:13 → 00:00:16 มากๆเลยนะครับคือเรื่องระบบฮอร์โมนในร่าง
00:00:16 → 00:00:18 กายเรานี่แหละที่คอยคุมระดับน้ำตาลใน
00:00:18 → 00:00:21 เลือดข้อมูลส่วนหนึ่งที่เราเอามาคุยกัน
00:00:21 → 00:00:24 วันนี้ก็มาจากบทความใน Facebook นะครับ
00:00:24 → 00:00:27 เราจะมาเจาะลึกกันในกลุ่มฮอร์โมนสำคัญ
00:00:28 → 00:00:32 อย่างอินตินซึ่งก็ก็คือ GLP1 กับ GP แล้ว
00:00:32 → 00:00:34 ก็จะมีเอ่อเพื่อนร่วมงานของมันอย่าง
00:00:34 → 00:00:37 กรูคากอนแล้วก็เกรินด้วยครับการทำความ
00:00:37 → 00:00:39 เข้าใจเรื่องพวกนี้ผมว่ามันช่วยให้เรา
00:00:39 → 00:00:42 เห็นภาพเลยนะว่าร่างกายเราเนี่ยจัดการกับ
00:00:42 → 00:00:45 อาหารที่เรากินเข้าไปยังไงแล้วมันก็อาจจะ
00:00:45 → 00:00:48 โยงไปถึงเรื่องสุขภาพหรือเอ่อยาใหม่ๆที่
00:00:48 → 00:00:51 หลายคนสนใจกันอยู่ตอนนี้ด้วยครับงั้นเรา
00:00:51 → 00:00:54 มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยอินครินะครับกลุ่ม
00:00:54 → 00:00:56 นี้เป็นฮอร์โมนที่มาจากลำไส้เล็กของเรา
00:00:56 → 00:00:57 นี่เอง
00:00:57 → 00:01:00 >> ค่ะใช่ค่ะสร้างจากลำไส้เล็กครับมันจะ
00:01:00 → 00:01:03 หลั่งออกมาหลังจากเรากินอาหารโดยเฉพาะ
00:01:03 → 00:01:06 เอ่อพวกคาร์โบไฮเดรตกับไขมันหน้าที่หลักๆ
00:01:06 → 00:01:08 เลยก็คือไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลังอินซูลิน
00:01:08 → 00:01:10 ออกมาเยอะขึ้น
00:01:10 → 00:01:11 >> อื
00:01:11 → 00:01:13 >> ตอนที่น้ำตาลในเลือดมันเริ่มสูงขึ้นนะ
00:01:13 → 00:01:13 ครับ
00:01:13 → 00:01:17 >> ค่ะจุดที่น่าสนใจมากๆเลยนะคะคือ
00:01:17 → 00:01:19 ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า increin effect
00:01:19 → 00:01:20 ค่ะ
00:01:20 → 00:01:23 >> Increet effect มันคืออะไรหรอครับ
00:01:23 → 00:01:26 >> คือมันอธิบายว่าทำไมเวลาเรากินน้ำตาลเข้า
00:01:26 → 00:01:30 ไปเนี่ยร่างกายถึงหลังอินซูลินได้มากกว่า
00:01:30 → 00:01:32 มากกว่าการที่เราฉีกกลูโคสเข้าเส้นเลือด
00:01:32 → 00:01:34 โดยตรงในปริมาณเท่ากันนะคะ
00:01:34 → 00:01:37 >> อ๋อเหรอครับแปลกดีนะ
00:01:37 → 00:01:39 >> ใช่ค่ะเพราะว่าอินคริทินที่หลั่งจากลำไส้
00:01:39 → 00:01:42 นี่แหละมันทำหน้าที่เหมือนเป็นเอ่อตัวส่ง
00:01:42 → 00:01:45 สัญญาณเสริมไปที่ตับอ่อนสรุปหน้าที่สำคัญ
00:01:45 → 00:01:48 ๆคัญของมันนะคะก็คือ 1 เพิ่มการหลั่ง
00:01:48 → 00:01:49 อินซูลิน
00:01:49 → 00:01:50 >> ครับ
00:01:50 → 00:01:52 >> แต่อันนี้สำคัญนะคือเพิ่มเฉพาะตอนที่น้ำ
00:01:52 → 00:01:54 ตาลในเลือกสูงเท่านั้น
00:01:54 → 00:01:55 >> อ๋อครับๆ
00:01:55 → 00:01:58 >> 2 คือลดการหลั่งกลูคารอนซึ่งเป็นฮอร์โมน
00:01:58 → 00:02:01 ที่ทำงานตรงกันข้ามคือเพิ่มน้ำตาล 3 ก็
00:02:01 → 00:02:05 คือชะลออาหารให้ออกจากกระเพาะช้าลงหน่อย
00:02:05 → 00:02:07 >> อ๋ออันนี้เองที่ทำให้อิ่มนานขึ้น
00:02:07 → 00:02:10 >> ใช่เลยค่ะทำให้อิ่มนานขึ้นแล้วก็ 4 คือ
00:02:10 → 00:02:13 มันส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองโดยตรงด้วย
00:02:13 → 00:02:16 โดยเฉพาะตัว GLP1 เนี่ยจะเด่นเรื่องนี้
00:02:16 → 00:02:21 >> เข้าใจแล้วครับแล้วเอ่อทำไมฮอร์โมนกลุ่ม
00:02:21 → 00:02:24 นี้ถึงกลายเป็นที่สนใจจนเอามาทำเป็นยาได้
00:02:24 → 00:02:24 ล่ะครับ
00:02:24 → 00:02:27 >> ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อ่ะค่ะการตอบ
00:02:27 → 00:02:30 สนองต่ออิครีตินพวกเนี้ยมันมักจะลดลง
00:02:30 → 00:02:31 >> ลดลง
00:02:31 → 00:02:33 >> ค่ะอาจจะเพราะเอ่อเซลล์ลำไส้มันเปลี่ยน
00:02:33 → 00:02:37 แปลงไปหรือว่าตัวฮอร์โมนเองมันถูกทำลาย
00:02:37 → 00:02:40 เร็วขึ้นอะไรแบบเนี้ยนะคะผลก็คือทำให้คุม
00:02:40 → 00:02:42 น้ำตาลหลังอาหารได้ไม่ค่อยดี
00:02:42 → 00:02:42 >> ครับ
00:02:42 → 00:02:45 >> นักวิทยาศาสตร์ก็เลยพัฒนายาขึ้นมาที่ไป
00:02:45 → 00:02:48 เลียนแบบการทำงานของ GLP1
00:02:48 → 00:02:51 >> อ๋อพวกยาฉีดลดน้ำหนักที่ฮิตๆกัน
00:02:51 → 00:02:55 >> ใช่ค่ะอย่างเซมลูไทหรือบางตัวก็ออกฤทธิ์
00:02:55 → 00:02:58 ทั้งกับ GLP1 และ GP เลยอย่างทิชปถ่ายยา
00:02:58 → 00:03:02 โภคนี้ก็ช่วยลดน้ำตาลได้ดีแล้วก็มีผลข้าง
00:03:02 → 00:03:04 เคียงที่เอ่อหลายคนชอบก็คือช่วยลดน้ำหนัก
00:03:04 → 00:03:05 ด้วย
00:03:05 → 00:03:08 >> น่าสนใจมากครับทีนี้ลองเปลี่ยนมาดูอีก
00:03:08 → 00:03:10 กลุ่มหนึ่งที่ทำงานตรงข้ามกันบ้าง
00:03:10 → 00:03:12 กลูคารอนใช่ไหมั้ครับ
00:03:12 → 00:03:13 >> ค่ะกลูคารอน
00:03:13 → 00:03:16 >> ตัวนี้ก็สร้างจากตับอ่อนเหมือนอินซูลิน
00:03:16 → 00:03:19 แต่หน้าที่นี่ตรงข้ามเลยคือเพิ่มระดับน้ำ
00:03:19 → 00:03:20 ตาลในเลือด
00:03:20 → 00:03:23 >> ใช่ค่ะกลูคาอนจะหลั่งออกมาตอนที่ระดับน้ำ
00:03:23 → 00:03:24 ตาลในเลือดเราต่ำ
00:03:24 → 00:03:25 >> เช่นตอนไหนบ้างครับ
00:03:25 → 00:03:28 >> ก็เช่นระหว่างมืออาหารนานๆหรือตอนเราอด
00:03:28 → 00:03:31 อาหารน่ะค่ะหน้าที่ของมันคือไปกระตุ้นให้
00:03:31 → 00:03:34 ตับปล่อยน้ำตาลที่เก็บสะสมไว้ออกมา
00:03:34 → 00:03:37 >> อ๋อที่เก็บไว้ในรูปไกลโคเจน
00:03:37 → 00:03:40 >> ถูกต้องค่ะกระบวนการไกลโคเจนแล้วก็ยัง
00:03:40 → 00:03:43 กระตุ้นให้ตับสร้างน้ำตาลขึ้นมาใหม่ด้วย
00:03:43 → 00:03:46 จากสารอาหารอื่นๆที่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
00:03:46 → 00:03:49 >> กระบวนการนั้นเรียกว่ากลูโคนิโจนisใช่มั้
00:03:49 → 00:03:49 ครับ
00:03:49 → 00:03:53 >> ใช่เลยค่ะกลูโคนisจริงๆทางการแพทย์ก็มี
00:03:53 → 00:03:56 การใช้กลูคาในรูปยาฉีดฉุกเฉินด้วยนะคะ
00:03:56 → 00:03:58 ครับใช้ตอนไหนครับ
00:03:58 → 00:04:00 >> สำหรับภาวะที่น้ำตาลในเลือดต่ำมากๆแบบ
00:04:00 → 00:04:01 รุนแรงอ่ะค่ะ
00:04:01 → 00:04:06 >> อ๋อเข้าใจแล้วครับตัวนี้ก็สำคัญเหมือนกัน
00:04:06 → 00:04:10 มาถึงตัวสุดท้ายสำหรับวันนี้เกรลินหรือ
00:04:10 → 00:04:12 ที่เขาเรียกกันว่าฮอร์โมนความหิว
00:04:12 → 00:04:15 >> ฮอร์โมนความหิวหัวเราะเล็กน้อยค่ะชื่อน่า
00:04:15 → 00:04:16 รักดี
00:04:16 → 00:04:19 >> ครับตัวนี้สร้างจากกระเพาะอาหารเป็นหลัก
00:04:20 → 00:04:22 หน้าที่ก็ตามชื่อเลยคือหลั่งเยอะตอนทอง
00:04:22 → 00:04:27 ว่างทำให้เรารู้สึกหิวพอกินอิ่มมันก็ลดลง
00:04:27 → 00:04:32 >> อืมใช่ค่ะเกลินเนี่ยมีบทบาทสำคัญเลยนะคะ
00:04:32 → 00:04:35 ในการควบคุมน้ำหนักแล้วก็พฤติกรรมการกิน
00:04:35 → 00:04:39 ของเรามีงานลิใจที่น่าสนใจเชี้ว่าระดับ
00:04:39 → 00:04:43 เกรลินเนี่ยอาจจะพุ่งสูงขึ้นแบบชัดเจนเลย
00:04:43 → 00:04:43 นะ
00:04:43 → 00:04:44 >> ครับ
00:04:44 → 00:04:47 >> หลังจากที่เราลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือ
00:04:47 → 00:04:50 แบบออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหนักๆติดต่อกัน
00:04:50 → 00:04:51 นานๆ
00:04:51 → 00:04:52 >> อ้าถึงแล้วครับ
00:04:52 → 00:04:55 >> ค่ะซึ่งอันเนี้อาจจะเป็นความท้าทายอย่าง
00:04:55 → 00:04:58 หนึ่งเลยสำหรับคนที่พยายามจะคุมความหิว
00:04:58 → 00:05:01 หลังลดน้ำหนักไปได้เยอะๆหรือหลังออกกำลัง
00:05:01 → 00:05:02 กายหนักๆนะค่ะ
00:05:02 → 00:05:05 >> แสดงว่าถ้าใครกำลังคุมน้ำหนักเข้มๆเลย
00:05:05 → 00:05:08 แล้วรู้สึกว่าทำไมมันหิวโหยผิดปกติอันนี้
00:05:08 → 00:05:10 อาจจะเป็นฝีมือเจ้าเกรลินนี่เอง
00:05:10 → 00:05:14 >> มีส่วนอย่างมากเลยค่ะแล้วพอมองภาพรวมทั้ง
00:05:14 → 00:05:17 หมดนะคะเราจะเห็นเลยว่าความสัมพันธ์มัน
00:05:17 → 00:05:20 เอ่อซับซ้อนเหมือนกันนะยกตัวอย่างเช่นการ
00:05:20 → 00:05:23 ตอบสนองของ GLP1 เนี่ยจะหลั่งออกมาเยอะ
00:05:23 → 00:05:27 ที่สุดเลยถ้าเรากินไขมันอย่างเดียวเพียวๆ
00:05:27 → 00:05:29 >> ออกินแต่ไขมัน
00:05:29 → 00:05:32 >> ค่ะแต่ผลนี้จะลดลงไปเยอะมากเลยนะถ้าเรา
00:05:32 → 00:05:35 กินไขมันมือนั้นพร้อมกับคาร์โบไฮเดรต
00:05:35 → 00:05:39 >> เอ๊ะแปลว่ากินไขมันกับคาฟพร้อมกัน GLP1
00:05:39 → 00:05:40 ออกน้อยลงหรอครับ
00:05:40 → 00:05:44 >> ใช่ค่ะซึ่งมันก็ชี้ให้เห็นว่าเอ่อส่วน
00:05:44 → 00:05:47 ประกอบของอาหารในมื้อนั้นๆเนี่ยส่งผลต่อ
00:05:47 → 00:05:50 การหลั่งฮอร์โมนพวกนี้แตกต่างกันไปไม่ใช่
00:05:51 → 00:05:52 แค่เรื่องแคลอรี่อย่างเดียว
00:05:52 → 00:05:56 >> หมอซับซ้อนแต่ก็น่าสนใจมากครับสรุปก็คือ
00:05:56 → 00:05:59 เรามี increasing จากลำไส้คอยช่วยจัดการ
00:05:59 → 00:06:01 น้ำตาลหลังกินข้าวแล้วก็ช่วยให้รู้สึก
00:06:01 → 00:06:02 อิ่ม
00:06:02 → 00:06:02 >> ค่ะ
00:06:02 → 00:06:05 >> มีกลูกรคอยช่วยดึงน้ำตาลมาใช้ตอนที่น้ำ
00:06:05 → 00:06:06 ตาลเราเริ่มต่ำ
00:06:06 → 00:06:07 >> อืมใช่
00:06:07 → 00:06:10 >> แล้วก็มีเกลินคอยส่งสัญญาณว่าท้องว่าง
00:06:10 → 00:06:11 แล้วนะหิวได้แล้ว
00:06:11 → 00:06:14 >> ถูกต้องค่ะซึ่งทั้งหมดนี้มันก็นำไปสู่คำ
00:06:14 → 00:06:16 ถามหรือประเด็นที่น่าคิดต่อนะคะ
00:06:16 → 00:06:17 >> ครับ
00:06:17 → 00:06:19 >> ว่าในเมื่อองค์ประกอบง่ายๆในมื้ออาหาร
00:06:19 → 00:06:22 อย่างการกินไขมันคู่กับคาร์โบไฮเดรตเนี่ย
00:06:22 → 00:06:25 มันเปลี่ยนการตอบสนองของฮอร์โมนสำคัญ
00:06:25 → 00:06:28 อย่าง GLP1 ได้ขนาดนี้เรื่องนี้มันอาจจะ
00:06:28 → 00:06:32 บอกใบ้อะไรเราเกี่ยวกับการที่เราจะเอ่อ
00:06:32 → 00:06:34 จัดองค์ประกอบมื้ออาหารที่เหมาะสมที่สุด
00:06:34 → 00:06:37 เพื่อสุขภาพเมตabolิึมที่ดีหรือเพื่อการ
00:06:37 → 00:06:39 จัดการกับภาวะอย่างเบาหวานได้ดีขึ้นหรือ
00:06:39 → 00:06:40 เปล่า
00:06:40 → 00:06:41 >> อืมน่าคิดจริงๆครับ
00:06:41 → 00:06:44 >> บางทีการมองเรื่องอาหารการกินเนี่ยอาจจะ
00:06:44 → 00:06:46 ต้องมองให้ไกลกว่าแค่การนับแคลอรี่เฉยๆก็
00:06:46 → 00:06:52 ได้นะคะ
00:06:52 → 00:07:05 [เพลง]