00:00:00 → 00:00:00 ขอ

00:00:00 → 00:00:07 [เพลง]

00:00:07 → 00:00:10

00:00:10 → 00:00:10 [เพลง]

00:00:10 → 00:00:14 ไอเนี่ยทำหน้าที่หลักๆก็คือขับน้ำขับของ

00:00:14 → 00:00:17 เสียออกจากร่างกายลักษณะนั้นไปไวเรื้อรัง

00:00:17 → 00:00:20 ก็คือภาวะที่ไปไม่สามารถที่จะขับน้ำขับ

00:00:20 → 00:00:23 ของเสียได้ตามปกติส่วนใหญ่หมอจะเปรียบ

00:00:23 → 00:00:25 เทียบว่าเราไปไว้เรื้อรังเนี่ยเหมือนกับ

00:00:25 → 00:00:29 เป็นแผลเป็นก็คือคือมันจะมีหายแต่ถ้าเรา

00:00:29 → 00:00:32 ยิ่งเจอเร็วยิ่งมีการดูแลตัวเองที่ดีพอ

00:00:32 → 00:00:36 อ่ะค่ะสุดท้ายแล้วโลกไปมันจะไม่แจ้ลงไป

00:00:36 → 00:00:39 ด้วยถ้าเราดูแลให้ไปมันคงสภาพอยู่อย่าง

00:00:39 → 00:00:42 นั้นนะคะในปีล่าสุดมีคำขวัญวันไตโลกด้วย

00:00:42 → 00:00:45 ว่าให้รีบวิ่ง Well Within This Is

00:00:45 → 00:00:49 คือให้คนไข้อยู่กับภาวะโรคตายอย่างมีความ

00:00:49 → 00:00:50 สุข

00:00:50 → 00:00:53 อาการของโรคไตวายเรื้อรังเนี่ยถ้าเป็น

00:00:53 → 00:00:56 ช่วงแรกๆบางทีมักจะไม่ค่อยมีอาการอะไรนะ

00:00:56 → 00:00:59 คะอาการมักจะมาเริ่มเป็นตอนที่ค่าการทำ

00:00:59 → 00:01:02 งานของไปมันถ้าลงไปพอสมควรแล้วนะคะจะมี

00:01:02 → 00:01:05 ปัสสาวะออกลดลงก็จะเริ่มมีอาการบวมหรือมี

00:01:05 → 00:01:08 น้ำท่วมตอบได้หรือถ้าของเสียในร่างกาย

00:01:08 → 00:01:10 ข้างก็จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน

00:01:10 → 00:01:13 เบื่ออาหารแต่ถ้าผู้ป่วยคนนั้นมีสาเหตุ

00:01:13 → 00:01:17 อื่นๆที่ทำให้ไปมันเสื่อมเยอะขึ้นเช่น

00:01:17 → 00:01:22 เป็นเบาหวานความดันโรคอ้วนมีกินยาแก้ปวด

00:01:22 → 00:01:26 ยาสมุนไพรหรือว่ามีนิ่วในไตอะไรแบบนี้ค่ะ

00:01:26 → 00:01:29 ก็จะทำให้ไปเนี่ยยิ่งลดการทำงานเร็วกว่า

00:01:29 → 00:01:32 คนปกติเพราะฉะนั้นการรักษาส่วนใหญ่จึง

00:01:32 → 00:01:35 เป็นการชะลอไม่ให้ไปที่มันค่อยๆทำงาน

00:01:35 → 00:01:37 เสื่อมลงเนี่ยไม่ให้มันเสื่อมไปกว่าเดิม

00:01:37 → 00:01:41 หลักๆหมอก็อยากจะแยกออกเป็นการควบคุม

00:01:41 → 00:01:45 อาหารการรับประทานยาแล้วก็การปฏิบัติตัว

00:01:45 → 00:01:48 ค่ะการควบคุมอาหารเนี่ยคนไข้ที่เป็นโรคไต

00:01:48 → 00:01:51 เนี่ยไม่ควรจะรับประทานโปรตีนหรือว่า

00:01:51 → 00:01:53 เนื้อสัตว์เยอะเกินไปเพราะว่าเนื้อสาร

00:01:53 → 00:01:55 หรือว่าโปรตีนเหล่านั้นเนี่ยจะไปโหลดการ

00:01:55 → 00:01:57 ทำงานของปลายถ้าเป็นโรคไตเนี่ยเราก็จะลด

00:01:58 → 00:02:00 ปริมาณโปรตีนอยู่ที่ประมาณ

00:02:00 → 00:02:03 4 กรัมต่อน้ำหนักตัวต่อวันนะคะเพราะ

00:02:03 → 00:02:06 ฉะนั้นหลักๆแล้วคนไข้ที่เป็นโรคไต

00:02:06 → 00:02:08 เรื้อรังแล้วก็จะให้รับประทานเนื้อสัตว์

00:02:08 → 00:02:11 ประมาณไม่เกิน 10 ช้อนโต๊ะต่อวันหรือว่า

00:02:11 → 00:02:14 ง่ายๆก็คือประมาณ 1-3 มือต่อวันนะคะนอก

00:02:14 → 00:02:17 จากนั้นแล้วเนี่ยตัวโปรตีนเนี่ยเราก็จะ

00:02:17 → 00:02:20 แนะนำให้รับประทานเป็นเนื้อขาวจะดีกว่า

00:02:20 → 00:02:23 เนื้อแดงเช่นเป็นเนื้อปลาเนื้อไก่เนี่ยนะ

00:02:23 → 00:02:26 คะจะดีกว่าเนื้อหมูหรือว่าเนื้อวัวนะคะ

00:02:26 → 00:02:29 อันที่สองก็คือจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ

00:02:29 → 00:02:31 รับประทานเกลือเกลือเนี่ยจะคั่งอยู่ใน

00:02:31 → 00:02:34 ร่างกายแล้วก็ก็ดูดน้ำให้มาอยู่ในหลอด

00:02:34 → 00:02:37 เลือดมากขึ้นเพราะฉะนั้นในคนไข้ที่เป็น

00:02:37 → 00:02:40 โรคไปเราก็ไม่แนะนำให้รับประทานเข็มเช่น

00:02:40 → 00:02:42 เดียวกันนะคะต่อไปก็จะเป็นเรื่องเกี่ยว

00:02:42 → 00:02:47 กับแร่ธาตุหลายชนิดนะคะคือในคนไข้โรคไต

00:02:47 → 00:02:50 เรื้อรังระยะที่ไทยๆแล้วเขาจะมีความ

00:02:50 → 00:02:53 สามารถในการขับและธาตุบางชนิดได้ลดลงเช่น

00:02:53 → 00:02:57 โพแทสเซียมหรือว่าฟอสเฟตซึ่งสารเหล่านี้

00:02:57 → 00:03:00 เนี่ยก็จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาถ้า

00:03:00 → 00:03:02 มีโพแทสเซียมในร่างกายข้างจะส่งผลทำให้

00:03:02 → 00:03:06 เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือว่ามีผลต่อการ

00:03:06 → 00:03:09 เต้นของหัวใจได้นะคะจำง่ายๆก็คือจำพวก

00:03:09 → 00:03:12 ผลไม้สีเหลืองส้มพวกนี้จะมีโพแทสเซียมสูง

00:03:12 → 00:03:16 เช่นกล้วยนะคะทุเรียนส้มอะไรเนี่ยก็จะมี

00:03:16 → 00:03:19 โพแทสเซียมสูงก็และอีกตัวนึงก็คือตัว

00:03:19 → 00:03:22 ฟอสฟอรัสว่าฟอสเฟสระยะยาวน่ะเขาจะไปทำให้

00:03:22 → 00:03:26 คนไข้โรคไตมีปัญหาเรื่องภาวะฮอร์โมนพารา

00:03:26 → 00:03:31 ไทรอยด์สูงแล้วก็ทำให้มีพวกหินปูนแถว

00:03:31 → 00:03:33 เสี้ยวเนี่ยเกาะตามหลอดเลือดก็เครื่อง

00:03:33 → 00:03:35 ความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดหัวใจหลอด

00:03:35 → 00:03:38 เลือดสมองตามมาได้อาหารประเภทอะไรบ้างที่

00:03:38 → 00:03:41 มีฟอสเฟตก็อย่างเช่นพวกเนื้อแปรรูปนะแหนม

00:03:41 → 00:03:44 ไส้กรอกเนี่ยเยอะมากเพราะผงฟูอ่ะคะเด็ก

00:03:45 → 00:03:48 เออรี่ขนมปังก็มีฟอสเฟตเยอะแล้วก็จำพวก

00:03:48 → 00:03:53 ธัญพืชถั่วก็จะแนะนำว่าน่าจะต้องลดหา

00:03:53 → 00:03:57 จำพวกนี้นะคะสุดท้ายก็คือน้ำคนชอบถามออก

00:03:57 → 00:04:00 กันเยอะมากว่าคนไข้โรคไปแปลหมู่บ้านกิน

00:04:00 → 00:04:03 น้ำใช่หรือไม่ความจริงแล้วเนี่ยหนามเนี่ย

00:04:03 → 00:04:07 ถ้ากินน้อยไปก็ไม่ดีนะคะทำให้ร่างกายแห้ง

00:04:07 → 00:04:10 เลือกเป็นเพียงแต่ไม่พอถ้ากินเยอะไปน้ำ

00:04:10 → 00:04:13 นั้นก็จะไปข้างอยู่ในร่างกายเกิดภาวะน้ำ

00:04:13 → 00:04:15 เกินน้ำท่วมปอดขึ้นมาอีกเพราะฉะนั้นกิน

00:04:15 → 00:04:20 ยังไงให้มันพอดีนะคะถ้าคนไข้ปกติแล้วถ้า

00:04:20 → 00:04:22 ปัสสาวะเขายังออกดีอยู่อ้ะเหมาะก็จะแนะนำ

00:04:22 → 00:04:26 ว่าไม่ได้จำเป็นที่จะต้องจำกัดนานค่ะในคน

00:04:26 → 00:04:29 ไข้ที่มีปัสสาวะลดลงเมื่อนั้นแหละเราจึง

00:04:29 → 00:04:32 จำเป็นต้องจำกัดน้ำเพื่อให้น้ำขาเข้ามัน

00:04:32 → 00:04:36 สมดุลกับน้ำขาออกดังนั้นคนไข้โรคไต

00:04:36 → 00:04:39 เรื้อรังที่เป็นระยะหลังๆนะคะหมอจะแนะนำ

00:04:39 → 00:04:42 ว่าควรที่จะมีการตวงปัสสาวะเป็นระยะระยะ

00:04:42 → 00:04:45 เพื่อที่จะดูว่าความสามารถของไปเราในแต่

00:04:45 → 00:04:48 ละวันนี้ขับน้ำออกได้เท่าไหร่แล้วก็ปรับ

00:04:48 → 00:04:51 ปริมาณน้ำที่จะดื่มต่อวันให้เป็นไปตาม

00:04:51 → 00:04:54 ปริมาณปัสสาวะที่ออกเรื่องที่สองก็จะเป็น

00:04:54 → 00:04:58 เรื่องเกี่ยวกับอย่านะคะคนไข้โรคไปเนี่ย

00:04:58 → 00:05:00 ยิ่งระยะหลัง

00:05:00 → 00:05:03 มีจำนวนยาที่กินมันจะเยอะขึ้นเรื่อยๆส่วน

00:05:03 → 00:05:06 ใหญ่ถ้ารักษาไปตามภาวะแทรกซ้อนของโรคไต

00:05:06 → 00:05:10 ค่ะเช่นมีภาวะซีดมีภาวะเลือดเป็นกรดภาวะ

00:05:10 → 00:05:13 โพแทสเซียมสูงพอสเทจสูงเมื่อนั้นคุณหมอก็

00:05:13 → 00:05:17 จะมีการปรับยาที่จะช่วยในการปรับภาวะแทรก

00:05:17 → 00:05:19 ซ้อนเหล่านี้เพราะว่าภาวะเหล่านี้เนี่ย

00:05:19 → 00:05:21 ต่างก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ไปเนี่ยต้องทำ

00:05:21 → 00:05:24 งานหนักขึ้นทั้งนั้นดังนั้นก็จะมียาให้

00:05:24 → 00:05:27 รับประทานเยอะหน่อยยยังไงก็แนะนำว่าให้

00:05:27 → 00:05:30 รับประทานยาให้ครบนะคะตามที่คุณหมอสาร

00:05:30 → 00:05:33 เพราะว่าอย่าทุกตัวเนี่ยของโรคไตมีผลที่

00:05:33 → 00:05:36 จะช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้เหมือนกัน

00:05:36 → 00:05:39 ค่ะสุดท้ายเรื่องการปฏิบัติตัวนะคะถ้าเรา

00:05:39 → 00:05:42 อยากกระทงแผลเป็นให้มันอยู่ในลักษณะเดิม

00:05:42 → 00:05:45 นะคะไม่มีการอักเสบไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมา

00:05:45 → 00:05:48 อีกว่าไม่แย่ลงเนี่ยเราก็ต้องไม่ไปทำให้

00:05:48 → 00:05:51 แผนอ้ะมันแย่ลงนะคะดังนั้นก็ไม่ควรที่จะ

00:05:51 → 00:05:55 ไปกินยาที่มันทำให้ตายมันทำงานหนักหรือ

00:05:55 → 00:05:58 ว่าทางเพศไปไว้เช่นยาสมุนไพรยาแก้ปวดหรือ

00:05:58 → 00:06:01 ว่าอาหารเสริมมาชนิดที่มันจะเอาไปอ่ะอ๋อ

00:06:01 → 00:06:03 ไม่ควรจะสูบบุหรี่เพราะจะทำให้ไปไหนมี

00:06:03 → 00:06:07 ภาวะขาดเลือดมากขึ้นในการออกกำลังกายที่

00:06:07 → 00:06:11 สม่ำเสมอนะคะแล้วก็ดูแลโรคประจำตัวอื่นๆ

00:06:11 → 00:06:13 ครอบครูให้มันอยู่ในเกณฑ์ปกตินี่นะคะทั้ง

00:06:13 → 00:06:17 หมดนี้ก็จะช่วยให้ไปเนี่ยสามารถที่จะคง

00:06:17 → 00:06:19 ระยะของความสวยมันอยู่ที่ตำแหน่งเดิมไม่

00:06:19 → 00:06:22 มากลงไปแล้วก็สุดท้ายคนไข้ก็จะซึ่ง

00:06:22 → 00:06:25 ชะลอการที่จะต้องล้างใจในอนาคตได้ค่ะ

00:06:25 → 00:06:27 สำหรับท่านที่ต้องการได้รับคำแนะนำจาก

00:06:27 → 00:06:30 ยุโรปแพร่ทั่วไปนะคะสามารถติดต่อทำนัดได้

00:06:30 → 00:06:34 ที่คลินิกโรคไตอาคารภปรชั้น 3 ทุกวันพุธ

00:06:34 → 00:06:37 ช่วงบ่ายนะคะโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาด

00:06:37 → 00:06:42 ไทยค่ะอ่ะ

00:06:42 → 00:06:58 [เพลง]