00:00:00 → 00:00:04 มี
00:00:04 → 00:00:08 ผู้ป่วยแต่ละรายที่ได้รับยาเคมีบำบัดชนิด
00:00:08 → 00:00:10 เดียวกันอาจเกิดผลข้างเคียงที่มีความรุน
00:00:10 → 00:00:13 แรงแตกต่างกันได้แต่ผลข้างเคียงของยาเคมี
00:00:13 → 00:00:16 บำบัดเกือบทั้งหมดสามารถฟื้นตัวหรือรักษา
00:00:16 → 00:00:21 ให้ดีขึ้นจนหายได้ผลข้างเคียงที่พบบ่อย 1
00:00:21 → 00:00:24 กดไขกระดูกโดยในช่วงของการให้ยาเคมีบำบัด
00:00:24 → 00:00:29 จะพบการลดลงของเม็ดเลือดต่างๆได้แก่เม็ด
00:00:29 → 00:00:32 เลือดขาวต่ำทำให้มีความเสี่ยงในการติด
00:00:32 → 00:00:35 เชื้อเม็ดเลือดแดงต่ำทำให้มีอาการอ่อน
00:00:35 → 00:00:39 เพลียเหนื่อยง่ายเกร็ดเลือดต่ำทำให้มี
00:00:39 → 00:00:42 เลือดออกง่ายเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดจะ
00:00:42 → 00:00:45 ลดจำนวนลงถึงระดับต่ำสุดภายในระยะเวลา 7
00:00:45 → 00:00:49 ถึง 14 วันและเม็ดเลือดแดงจะลดสู่ระดับ
00:00:49 → 00:00:52 ต่ำสุดภายในระยะเวลา 3 ถึง 4 สัปดาห์หลัง
00:00:52 → 00:00:55 จากได้ยาเคมีบำบัดหลังจากนั้นจะค่อยๆ
00:00:55 → 00:00:58 เพิ่มจำนวนสู่ระดับปกติหักชนิดของยาเคมี
00:00:58 → 00:01:02 บำบัดมีตัวเองสูงมากในการกดไขกระดูกแฮนด์
00:01:02 → 00:01:05 จะพิจารณาให้ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวเพื่อ
00:01:05 → 00:01:08 ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเม็ดเลือดขาวต่ำ
00:01:08 → 00:01:09 ได้
00:01:09 → 00:01:12 2 คลื่นไส้อาเจียนความรุนแรงของอาการ
00:01:13 → 00:01:15 คลื่นไส้อาเจียนขึ้นอยู่กับสูตรยาเคมี
00:01:15 → 00:01:18 บำบัดและสภาพผู้ป่วยโดยอาการคลื่นไส้
00:01:18 → 00:01:21 อาเจียนสามารถแบ่งเป็นแบบเฉียบพลันคือ
00:01:21 → 00:01:24 เกิดภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับยาเคมี
00:01:24 → 00:01:28 บำบัดและระยะหลังจาก 24 ชั่วโมงและอาจ
00:01:28 → 00:01:30 เกิดจากประสบการณ์คลื่นไส้อาเจียนจากยา
00:01:30 → 00:01:34 เคมีบำบัดในครั้งก่อนๆเมื่อทราบว่าจะต้อง
00:01:34 → 00:01:37 ให้ยาเคมีบำบัดเห็นหรือได้กลิ่นยาเคมี
00:01:37 → 00:01:40 บำบัดก็จะกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้
00:01:40 → 00:01:45 อาเจียนได้แต่ในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่
00:01:45 → 00:01:47 สามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
00:01:47 → 00:01:50 ดีหากผู้ป่วยได้รับยาป้องกันอาการอาเจียน
00:01:50 → 00:01:54 ตั้งแต่ครั้งแรกของการให้ยาเคมีบำบัดอาจ
00:01:54 → 00:01:57 ลดหรือไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนตลอดระยะ
00:01:57 → 00:02:00 เวลาการรักษาเลยอ่ะ
00:02:00 → 00:02:04 ข้อสามผมร่วงผมร่วงเกิดจากยาเคมีบำบัดบาง
00:02:04 → 00:02:07 ชนิดเท่านั้นความแรงหรือประสิทธิภาพของยา
00:02:07 → 00:02:10 เคมีบำบัดไม่มีความสัมพันธ์กับอาการผม
00:02:10 → 00:02:13 ร่วงซึ่งผมร่วงนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อ
00:02:13 → 00:02:16 ชีวิตแต่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย
00:02:16 → 00:02:20 อาการผมร่วงจะเริ่มใน 2-3 สัปดาห์หลังจาก
00:02:20 → 00:02:23 ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอาการผม
00:02:23 → 00:02:26 ร่วงจัดยาเคมีบำบัดเป็นภาวะที่เกิดชั่ว
00:02:26 → 00:02:30 คราวเท่านั้นผมจะเริ่มขึ้นหลังจากสิ้นสุด
00:02:30 → 00:02:34 การรักษาไม่ควรทำสีผมหรือใช้สารเคมี
00:02:34 → 00:02:37 รุนแรงขณะให้ยาเคมีบำบัดเงินจากอาจส่งผล
00:02:37 → 00:02:41 ต่อสุขภาพผมและทำให้ผมร่วงมากขึ้นได้
00:02:41 → 00:02:46 4 ภาวะเบื่ออาหารและรับรู้รสชาติอาหาร
00:02:46 → 00:02:49 เปลี่ยนไปยาเคมีบำบัดส่วนใหญ่ทำให้ผู้
00:02:49 → 00:02:52 ป่วยไม่อยากอาหารและเกิดการเปลี่ยนแปลงใน
00:02:52 → 00:02:55 การรับรู้รสชาติทำให้รับประทานอาหารได้
00:02:55 → 00:02:58 น้อยลงหากคุณแรงมากจนผู้ป่วยรับประทาน
00:02:58 → 00:03:01 อาหารไม่ได้อ่านทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร
00:03:01 → 00:03:04 และน้ำหนักลดได้ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้น
00:03:04 → 00:03:07 ชั่วคราวและดีขึ้นไม่ได้ยาเคมีบำบัดครบ
00:03:07 → 00:03:11 แล้วการได้รับอาหารอย่างเพียงพอเป็นสิ่ง
00:03:11 → 00:03:13 จำเป็นสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเพื่อต่อสู้กับ
00:03:13 → 00:03:16 โรคมะเร็งและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
00:03:16 → 00:03:21 5 อาการเจ็บหรือเป็นแผลในปากและคอคอผู้
00:03:21 → 00:03:24 ป่วยที่มีภาวะอักเสบเยื่อบุปากอาจทำให้
00:03:24 → 00:03:27 เกิดแผลในช่องปากและลำคอในผู้ป่วยที่มี
00:03:27 → 00:03:31 อาการรุนแรงอาจกลืนอาหารได้ลำบากเป็นแผล
00:03:31 → 00:03:34 เลือดออกหรือติดเชื้อซ้ำได้ซึ่งอาการดัง
00:03:34 → 00:03:38 กล่าวเกิดขึ้นชั่วคราวมักจะเกิดในวันที่
00:03:38 → 00:03:41 5-14 หลังจากได้รับยาเคมีบำบัดและเป็น
00:03:41 → 00:03:45 อยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์อาการจะหายสนิท
00:03:45 → 00:03:48 เมื่อเสร็จสิ้นการให้ยาเคมีบำบัดในช่วง
00:03:48 → 00:03:51 ที่มีแผลในช่องปากและลำคอสามารถบรรเทาได้
00:03:51 → 00:03:54 โดยการใช้ยาพ่นหรือยาชาอมรวบปากเพื่อลด
00:03:54 → 00:03:57 ความเจ็บปวดขณะรับประทานอาหาร
00:03:57 → 00:04:01 6 ท้องผูกอาการโอ๊ยลูกสามารถพบว่าประมาณ
00:04:01 → 00:04:04 ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งปัจจัยเสี่ยง
00:04:04 → 00:04:07 ต่ออาการท้องผูกได้แก่การได้รับยาแก้ปวด
00:04:07 → 00:04:12 กลุ่มโอปิออยด์เช่นมอร์ฟีนผู้ป่วยที่ไม่
00:04:12 → 00:04:16 ค่อยลุกเดินผู้ป่วยที่นอนติดเตียงรับ
00:04:16 → 00:04:19 ประทานอาหารที่ไม่มีใยอาหารทานน้ำน้อย
00:04:19 → 00:04:23 หรือขาดน้ำยาแก้คลื่นไส้อาเจียนบางชนิดก็
00:04:23 → 00:04:25 อาจทำให้ท้องผูกได้
00:04:25 → 00:04:30 7 ท้องเสียอาการท้องเสียอาจพบร่วมกับ
00:04:30 → 00:04:34 ท้องอืดหรือปวดท้องได้ซึ่งพบได้ 3 ใน 4
00:04:34 → 00:04:36 ของผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดเนื้อจาก
00:04:36 → 00:04:40 ยาเคมีบำบัดทำลายเซลล์เยื่อบุลำไส้ปัจจัย
00:04:40 → 00:04:43 เสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยท้องเสียได้แก่ยา
00:04:43 → 00:04:46 เคมีบำบัดบางชนิดการได้รับการถ่ายแสงร่วม
00:04:46 → 00:04:50 กับการได้รับยาเคมีบำบัดพร้อมกันท้องเสีย
00:04:50 → 00:04:54 อาจมีผลทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและความไม่
00:04:54 → 00:04:57 สมดุลของเกลือแร่ในร่างกายดังนั้นผู้ป่วย
00:04:57 → 00:05:00 ที่มีอาการท้องเสียควรแจ้งแพทย์โรงพยาบาล
00:05:00 → 00:05:02 เพื่อทำการรักษา
00:05:02 → 00:05:07 1-8 ผลต่อระบบสืบพันธุ์ยาเคมีบำบัดบาง
00:05:07 → 00:05:10 ชนิดมีผลต่อเซลล์สืบพันธุ์ทั้งเพศชายและ
00:05:10 → 00:05:14 หญิงทำให้ความต้องการทางเพศลดลงเกิดภาวะ
00:05:14 → 00:05:17 มีบุตรยากดังนั้นหากผู้ป่วยมีความต้องการ
00:05:17 → 00:05:21 ในการมีบุตรต้องแจ้งแพทย์ผู้รักษาเพื่อ
00:05:21 → 00:05:24 ให้คำแนะนำในการเก็บอสุจิหรือไข่ก่อนให้
00:05:24 → 00:05:25 ยาเคมีบำบัด
00:05:25 → 00:05:31 [เพลง]