00:00:00 → 00:00:03 คือผมจะให้เลคเชอร์ยังไงก็ได้แต่เวลาที่
00:00:03 → 00:00:08 คุณพ่อเสียใครจะมาบอกผมว่ามันสุดวิธีที่
00:00:08 → 00:00:12 คือทำอะไรไม่ได้แล้วแต่ความเสียใจก็มี
00:00:12 → 00:00:17 ที่แท้จริงให้มองเขาว่าเขาไม่มีอะไรเลย
00:00:17 → 00:00:21 แต่เขามีความสุขแต่ถ้าคุณสนใจได้กับสิ่ง
00:00:21 → 00:00:23 ที่คุณมีความสุขมันอยู่ที่นี่
00:00:23 → 00:00:26 [เพลง]
00:00:26 → 00:00:28 ความทุกข์เนี่ย
00:00:28 → 00:00:31 อันนึงที่ผมเจอเยอะก็คือการสูญเสียในฐานะ
00:00:31 → 00:00:35 แพทย์ๆเนาะเราก็เจอคนป่วยได้รับข่าวร้าย
00:00:35 → 00:00:38 กับตนเองกับคนที่เขารักนะครับแล้วก็การ
00:00:39 → 00:00:42 สูญเสียสูญเสียอย่างนี้
00:00:42 → 00:00:45 สูญเสียที่ผมรู้สึกบาดใจมากที่สุดนะฮะก็
00:00:45 → 00:00:47 คือคนไข้ผมคนนึง
00:00:47 → 00:00:50 ช่วงโควิดเดลต้าระบาด
00:00:51 → 00:00:53 เดลต้านี่ดุที่สุดแล้ว
00:00:53 → 00:00:56 วัยรุ่นนี่ก็เสียชีวิตบ้านนั้นเนี่ยมีลูก
00:00:56 → 00:01:01 มีพ่อมีแม่ประมาณนี้นะแล้วก็แล้วก็มีอีก
00:01:01 → 00:01:03 ท่านนึงผมจำไม่ได้แล้วแต่ว่าครอบครัวนั้น
00:01:03 → 00:01:04 มีอยู่ 4
00:01:04 → 00:01:08 ช่วงโควิดระบาดเดลต้าหนักๆเนี่ย
00:01:08 → 00:01:11 เตียงเต็ม
00:01:11 → 00:01:14 ปรากฏโควิดลงปอดอยู่บ้าน
00:01:14 → 00:01:17 ทุกคนได้เตียงแต่คนนึงไปธรรมศาสตร์คน
00:01:17 → 00:01:19 หนึ่งผมจำไม่ได้นะแต่จำได้ว่ามี
00:01:19 → 00:01:22 ธรรมศาสตร์คนหนึ่งไปราชวิถีหรือเปล่าคือ
00:01:22 → 00:01:25 กระจายกันหมดคนหนึ่งมาอยู่วัยรุ่นเนี่ย
00:01:25 → 00:01:29 ที่เป็นลูกมาอยู่กับผมที่พญาไทนั้นคือที่
00:01:29 → 00:01:33 ไหนเตียงได้ไปหมดอ่ะอันนี้ไม่ได้บอกว่า
00:01:33 → 00:01:34 โรงพยาบาลไหนเก่งหรือไม่เก่งอะไรไม่
00:01:34 → 00:01:37 เกี่ยวกันนะครับแต่ Story ของครอบครัวนี้
00:01:37 → 00:01:41 คือสุดท้ายเนี่ยลูกสาวคนนี้รอดเพราะว่า
00:01:41 → 00:01:45 เป็นน้อยสุดซึ่งโชคดีว่าอยู่กับผม
00:01:45 → 00:01:49 แต่ว่าคำว่าโชคดีอยู่กับผมไปถึงว่าโชคดี
00:01:49 → 00:01:53 ว่าผมอ่ะไม่ได้รับเคสหนักของพ่อแม่คิดพ่อ
00:01:54 → 00:01:57 แม่ที่เป็นหนักๆไปตกที่โรงพยาบาลรัฐบาลก็
00:01:57 → 00:01:59 ไปอยู่แล้วก็สุดท้าย nup 3 ท่านนั้นน่ะ
00:01:59 → 00:02:02 เสียชีวิต
00:02:02 → 00:02:06 ปัจจุบันลูกสาวก็มาติดตามแต่ว่าเรื่อง
00:02:06 → 00:02:08 โควิดคงจบแล้วแต่ก็ติดตามเรื่องอื่นอะไร
00:02:08 → 00:02:09 เงี้ย
00:02:09 → 00:02:11 ผ่านไปแล้วปีกว่าเกือบ 2 ปีอ่ะก็ยังร้อง
00:02:11 → 00:02:14 ไห้อยู่เลยนะ
00:02:14 → 00:02:16 ฟังแล้วผมก็เศร้านะเขาบอกที่เขาร้องไห้
00:02:16 → 00:02:19 ไม่ใช่เพราะอะไรนะเขารู้สึกเขายังไม่ได้
00:02:19 → 00:02:23 ไม่ได้ลาพ่อแม่เขาเลยอ่ะคือมันปุบปับป้า
00:02:23 → 00:02:26 ผ่านไป 10 วันแล้วว่าไม่ทันแล้วทุกคนไป
00:02:26 → 00:02:29 กลายเป็นเขากลับจากโรงพยาบาลเนี่ยบ้านเขา
00:02:29 → 00:02:32 จากเดิมทีเนี่ย 2 อาทิตย์ก่อนเต็มไปด้วย 4
00:02:32 → 00:02:36 คนคุยกันอย่างนี้ผ่านไป 2 อาทิตย์กลับมา
00:02:36 → 00:02:38 ตอนนี้เหลือบ้านอยู่คนเดียวเงียบเหงาแล้ว
00:02:38 → 00:02:41 เขายังออกจากความทุกข์นั้นไม่ได้
00:02:41 → 00:02:45 ครูโทนี่ในฐานะปรัชญาผมรู้สึกว่ามันไม่
00:02:45 → 00:02:47 ใช่ง่ายที่จะตอบนะแต่อยากว่า
00:02:47 → 00:02:52 ถ้าจะตอบถ้าจะบอกคนที่กำลังทุกข์หรือ
00:02:52 → 00:02:56 ทุกข์ด้วยเหตุอะไรก็ตามเนี่ยมีอะไรที่
00:02:56 → 00:02:59 สะกิดให้เขาอย่างน้อยขึ้นมาได้สักสเต็ป
00:02:59 → 00:03:04 นึงไหม
00:03:04 → 00:03:14 [เพลง]
00:03:25 → 00:03:29 ครับ
00:03:29 → 00:03:41 [เพลง]
00:03:41 → 00:03:45 พระพุทธเจ้าก็บอกว่าได้แต่เธอต้องทำอย่าง
00:03:45 → 00:03:46 นั้น
00:03:46 → 00:03:49 เธอต้องเอาบางอย่างที่เราต้องการที่จะทำ
00:03:49 → 00:03:54 พิธีเพื่อไปบ้านไหนก็ได้ในหมู่บ้านนี้ไป
00:03:54 → 00:03:58 เอามาทั้ง 5 อย่างนี้ถ้าทำได้แล้วเราก็จะ
00:03:58 → 00:04:00 ฟื้นเด็กกว่านี้ขึ้นมาแต่มีข้อแม้ข้อ
00:04:00 → 00:04:04 เดียวเธอต้องไปหาสิ่งนี้จากบ้านที่ไม่มี
00:04:04 → 00:04:06 ใครตาย
00:04:06 → 00:04:10 จากบ้านที่ยังไม่เคยมีใครเสียชีวิตมาก่อน
00:04:10 → 00:04:13 แม่คนนี้ก็ร่ำร้องไห้แต่ว่ามีความหวัง
00:04:13 → 00:04:16 ขึ้นมาก็ไปทุกหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านทุก
00:04:16 → 00:04:17 บ้าน
00:04:17 → 00:04:23 ก็ไปหาแต่ปรากฏว่าทุกคนอยากจะช่วยแต่บอก
00:04:23 → 00:04:27 เขาว่ามันเคยมีคนชีวิตเสียชีวิตในบ้านนี้
00:04:27 → 00:04:28 แล้ว
00:04:28 → 00:04:32 สุดท้ายหลังจากที่วนมาทั้งหมดเขาก็เข้าใจ
00:04:32 → 00:04:38 ว่าในโลกนี้ความตายมันเป็นความจริงที่สุด
00:04:38 → 00:04:41 เขาทำใจได้ตรงนั้นว่า
00:04:41 → 00:04:45 ลูกที่เสียไปอ่ะใช่มันเป็นมันเป็นความ
00:04:45 → 00:04:49 เสียที่ใหญ่หน่วงที่สุดแต่สุดท้ายแล้วมัน
00:04:49 → 00:04:52 เป็นอะไรที่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ
00:04:52 → 00:04:58 คือคนที่สูญเสียคนที่เขารักมากไป
00:04:58 → 00:05:02 วิธีที่จะทำให้เขาออกมาจากจากสิ่งนั้นได้
00:05:02 → 00:05:07 ก็จะต้องให้เขาไดเวอร์เบี่ยงเบี่ยงเบนไป
00:05:07 → 00:05:10 นะ
00:05:10 → 00:05:13 ให้เขา
00:05:13 → 00:05:18 ทำงานเยอะขึ้นออกกำลังกายนอนดีมีเพื่อน
00:05:18 → 00:05:19 ที่มี
00:05:19 → 00:05:23 เอาใจเขาสังคมจะได้เปลี่ยนคือความคิดของ
00:05:23 → 00:05:27 เขาถ้าเกิดว่าหมกมุ่งหยุดที่ความคิดเก่าๆ
00:05:27 → 00:05:32 เขาก็จะออกมาจากนั้นไม่ได้ครับการที่จะ
00:05:32 → 00:05:34 ดึงคนคนหนึ่งออกมาจากนั้นมันก็มีแค่วิธี
00:05:34 → 00:05:38 นี้คือจะต้องให้ชีวิตเขาดำเนินต่อ
00:05:38 → 00:05:43 แต่กับถ้าเกิดว่าเราไปบอกเขาว่ามันเป็น
00:05:43 → 00:05:45 อะไรที่
00:05:45 → 00:05:48 ช่วยไม่ได้คือณจุดนั้นน่ะคุณพูดไม่ได้
00:05:48 → 00:05:52 เพราะยังไงก็ไม่อยู่
00:05:52 → 00:05:55 คุณต้องเข้าใจว่าคือผมจะให้แลคเชอร์ยังไง
00:05:55 → 00:05:56 ก็ได้
00:05:56 → 00:06:00 แต่เวลาที่คุณพ่อเสียใครจะมาบอกผมว่ามัน
00:06:00 → 00:06:04 สุดวิธีที่คือทำอะไรไม่ได้แล้วแต่ความ
00:06:04 → 00:06:10 เสียใจก็มีทั้งๆที่ท่านอายุ 82 แล้ว 83
00:06:10 → 00:06:14 แต่ความความเสียเข้าไปเนี่ยมันเป็นอะไร
00:06:14 → 00:06:20 ที่มันไม่ได้ทีนี้ถามว่าใครที่เสียพ่อแม่
00:06:20 → 00:06:24 หรือว่าเด็กไปมันไม่ง่ายครับแล้วโควิดผม
00:06:24 → 00:06:29 เจอเยอะฮะที่คนที่เสียชีวิตใครที่สูญเสีย
00:06:29 → 00:06:33 คนที่เขารักมากเนี่ยมันเป็นอะไรที่
00:06:33 → 00:06:35 คือ
00:06:35 → 00:06:37 หลายต่อหลายอย่างนี้คือต้องยอมรับแล้วก็
00:06:37 → 00:06:40 ชีวิตมันก็จะต้องดำเนินต่อ
00:06:40 → 00:06:44 ถามว่ามีวิธีอื่นไหม
00:06:44 → 00:06:52 [เพลง]
00:06:52 → 00:06:56 ในช่วงเวลานั้นเขารู้แหละแต่ว่าเขาคงไม่
00:06:56 → 00:07:01 อยากรับฟังเราก็อาจจะต้องปล่อยให้เขาอยู่
00:07:01 → 00:07:03 กับอารมณ์นั้นสักระยะหนึ่ง
00:07:03 → 00:07:06 แต่พอถึงจุดหนึ่งก็อาจจะต้อง
00:07:06 → 00:07:12 เบี่ยงเบนให้เขากลับมามีจุดประสงค์ของ
00:07:12 → 00:07:14 ชีวิตหรือมีเป้าหมายของชีวิตหรือมีหน้า
00:07:14 → 00:07:17 ที่ของชีวิตก็ได้นะครับ
00:07:17 → 00:07:20 แล้วเวลามันจะเป็นตัวถูกฟื้นฟูที่ดีที่
00:07:20 → 00:07:23 สุดไม่มีอะไรดีกว่าเวลาใช่ไหมไม่มีอะไร
00:07:23 → 00:07:25 อีก
00:07:25 → 00:07:27 ความทุกข์ของมนุษย์
00:07:27 → 00:07:29 จริงๆมันมีมาตั้งนานแล้วนะทุกกระทรวงมัน
00:07:29 → 00:07:33 มาคู่กันแต่จริงๆแล้วปัจจุบันเนี่ยความ
00:07:33 → 00:07:37 ทุกข์ของมนุษย์ถ้าครูโทนี่มอง
00:07:37 → 00:07:38 มันมาจากไหน
00:07:39 → 00:07:39 มีไม่พอ
00:07:39 → 00:07:41 [เพลง]
00:07:41 → 00:07:43 มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ
00:07:43 → 00:07:47 ผมยกตัวอย่างนะครับนี่คือโจทย์หลักเลยจุด
00:07:47 → 00:07:50 หลักถ้าให้ถ้าให้ครูโทนี่บอกว่าเป็นวาระ
00:07:50 → 00:07:56 แห่งชาติเพื่อบทความทุกข์คือ
00:07:56 → 00:07:58 ขอให้ทุกคนไป
00:07:58 → 00:08:02 ทำไมผมบอกอย่างนั้นเพราะว่าผมมีมีเหตุผล
00:08:02 → 00:08:03 นะ
00:08:03 → 00:08:11 ส่วนใหญ่คนไปตักบาตร
00:08:11 → 00:08:15 นะว่าคุณต้องการอะไรบ้างส่วนใหญ่
00:08:15 → 00:08:19 คนคนหนึ่งก็ต้องการบ้าน
00:08:19 → 00:08:24 ขอให้เที่ยวเยอะๆขอให้กินข้าวที่หรูๆคุณ
00:08:24 → 00:08:28 ซีนทั้งทั้งโลกมีรองเท้าแบรนด์เนมมีเสื้อ
00:08:28 → 00:08:31 ผ้าแบรนด์เนมกระเป๋าแบรนด์เนมทุกอย่างที่
00:08:31 → 00:08:32 คุณคิดได้
00:08:32 → 00:08:37 ขอให้คุณอธิษฐานแล้วพรุ่งนี้เช้าไปตัก
00:08:37 → 00:08:40 บาตรแล้วพอตักบาตรเนี่ยผมให้คุณมองคนละ
00:08:40 → 00:08:43 มุมจากที่ผมบอกอยู่เนี่ยนะอธิษฐานทุก
00:08:43 → 00:08:45 อย่างเสร็จแล้วใช่ไหม
00:08:45 → 00:08:49 เห็นพระท่านเดินมาใช่ไหมจงมองเขา
00:08:49 → 00:08:52 จงมองเขาว่า
00:08:52 → 00:08:55 รองเท้าไม่ได้ใส่นะ
00:08:55 → 00:08:59 เสื้อผ้าไม่ใช่แบรนด์เองนะ
00:08:59 → 00:09:02 อาจจะไม่มีอยู่ด้วยอยู่ที่วัด
00:09:02 → 00:09:05 ข้าวที่คุณให้เขาเขาไม่มีสิทธิ์เลือก
00:09:05 → 00:09:10 ฉันได้มื้อวันละมื้อกลับไปต้องแบ่งกันทุก
00:09:10 → 00:09:12 คนได้อะไรก็ต้องกิน
00:09:12 → 00:09:15 กระเป๋าแบรนด์เนมไม่มี
00:09:15 → 00:09:18 ไม่มีนาฬิกาหรูๆ
00:09:18 → 00:09:22 แต่ถามว่าความสุขบนหน้าเขามีไหม
00:09:22 → 00:09:25 มี
00:09:25 → 00:09:27 ขอได้ไหม
00:09:27 → 00:09:30 ถ้าคุณมองเขาได้ในจุดนั้น
00:09:30 → 00:09:33 นั่นคือตักบาตรที่แท้จริง
00:09:33 → 00:09:37 [เพลง]
00:09:37 → 00:09:39 ให้มองเขา
00:09:39 → 00:09:43 ว่าเขาไม่มีอะไรเลยแต่เขามีความสุขคุณมี
00:09:43 → 00:09:48 ทุกอย่างแต่คุณกำลังขอมากขึ้นเพราะว่าคุณ
00:09:48 → 00:09:50 มีไม่พอ
00:09:50 → 00:09:54 ความทุกข์ของคุณคือคุณคิดว่าสิ่งที่คุณมี
00:09:54 → 00:09:57 น่ะมันไม่พอแต่
00:09:57 → 00:10:03 ทั้งลูกนี้มีคนที่เป็นเศรษฐีพันล้านเพราะ
00:10:03 → 00:10:08 ยังมองเศรษฐีที่ด้วยกว่านั้นอีกแล้วทุกข์
00:10:08 → 00:10:13 ในจุดนั้นผมมีเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้วไป
00:10:13 → 00:10:18 อินเดียไปแคชเมียร์ผมจำได้ว่าผมตื่นเต้น
00:10:18 → 00:10:22 มากเพราะว่าที่นั่นมีหิมะแล้วผมก็ไม่เคย
00:10:22 → 00:10:26 เห็นหิมะตกแล้วมันเป็นโอกาสครั้งแรกที่
00:10:26 → 00:10:31 เห็นหิมะตกมันสวยมากเลยแล้วผมจ้างคนขับรถ
00:10:31 → 00:10:31 อ่ะ
00:10:31 → 00:10:37 [เพลง]
00:10:37 → 00:10:50
00:10:50 → 00:10:54 ผมมีทรายใช่ไหมที่คุณเดินได้เลยเหรอนี่
00:10:54 → 00:10:58 คือชาวเขานั่นคือชาวเขาสำหรับเขาเขาไม่
00:10:58 → 00:11:02 ตื่นเต้นกับไอ้หิมะที่ตกลงมาเขาตื่นเต้น
00:11:02 → 00:11:06 กับทะเลเขาเพราะเขาไม่เคยเห็นเขาบอกน้ำ
00:11:06 → 00:11:09 มันเป็นยังไงผมบอกมันก็เป็นน้ำน้ำได้ยิน
00:11:09 → 00:11:17 ว่ามันเป็นน้ำเค็มเลยหรอ
00:11:17 → 00:11:21 [เพลง]
00:11:21 → 00:11:24 คือสิ่งที่ผมมีอยู่
00:11:24 → 00:11:28 ผมไปทะเลเป็นพันครั้งแต่ไม่เคยมองในจุด
00:11:28 → 00:11:30 ที่เขามองได้
00:11:30 → 00:11:35 ผมตื่นเต้นกับหิมะที่ตกที่เขามีนั่นคือ
00:11:35 → 00:11:36 สวรรค์ของผม
00:11:36 → 00:11:42 มึงมีเท่าไหร่คุณมีไม่พอ
00:11:42 → 00:11:46 ถ้าคุณมีแล้วคุณบอกได้ว่าขอบใจมาก
00:11:46 → 00:11:49 อันนี้เป็นสิ่งที่ผมมีเรื่องใจกับสิ่งที่
00:11:49 → 00:11:51 ผมมีหัวใจผมยังเต้นอยู่
00:11:51 → 00:11:56 ผมมีเพื่อนคนนึงอ่ะไม่มีเอ่อตายหม่ำ 20
00:11:56 → 00:11:59 ปีแล้ว
00:11:59 → 00:12:03 ได้มาจากพี่สาวแต่คนคนนี้มี
00:12:03 → 00:12:08 ออสซิสจริงๆเจอกันร่าเริงหัวเราะกันตลอด
00:12:08 → 00:12:14 แล้วเขาก็ไม่เคยทุกข์คือเฮ้ยสักวันนึงผม
00:12:14 → 00:12:16 ก็ต้องได้อย่างนี้อย่างนั้นดีทุกอย่าง
00:12:16 → 00:12:17 ครับ
00:12:17 → 00:12:21 คือถ้าเกิดคุณทุกข์กับสิ่งที่คุณไม่มี
00:12:21 → 00:12:25 เปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วก็ทุกข์แต่ถ้า
00:12:25 → 00:12:29 คุณขอบใจได้กับสิ่งที่คุณมีความสุขมัน
00:12:29 → 00:12:32 อยู่ที่นี่เอง
00:12:32 → 00:12:34 [เพลง]
00:12:34 → 00:12:35 ครับ
00:12:35 → 00:12:39 ผมไม่ต้องสรุปให้แล้วนะครับผมเชื่อว่า
00:12:39 → 00:12:43 อาจารย์คุณครูสรุปให้คำเดียวเลยครับ
00:12:43 → 00:12:44 คือ
00:12:44 → 00:12:48 พอรู้จักพอเมื่อไหร่
00:12:48 → 00:12:52 ความสุขก็จะเริ่มตามมาทันทีความทุกข์ก็จะ
00:12:52 → 00:12:53 ห่างไปทันที
00:12:53 → 00:13:10 [เพลง]