00:00:00 → 00:00:02 ถ้าใครสงสัยกันไหมครับว่าทำไมทั้งวันนี้
00:00:02 → 00:00:04 นะครับในโลกปัจจุบันเนี่ยเหมือนว่าคนในจะ
00:00:04 → 00:00:06 ป่วยเป็นโรคหลายๆโรคนะครับที่ไม่ใช่โรค
00:00:06 → 00:00:09 ต่อโรคติดเชื้อนะครับเป็นพวกเราไม่ติดต่อ
00:00:09 → 00:00:11 นะครับมาคืนนี้หรืออะไรพวกนี้ตัวอย่าง
00:00:11 → 00:00:14 เช่นพวกรั่วนะครับลดความดันโลหิตสูงนะ
00:00:14 → 00:00:16 ครับโรคหัวใจโรคเบาหวานนะครับโรคภูมิแพ้
00:00:16 → 00:00:18 หรือว่าเป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันทำร้ายร่าง
00:00:18 → 00:00:21 กายของเราเองนะครับเช่นโรคคอกเสียบคอตาย
00:00:21 → 00:00:24 นะครับหรือว่าโรค sle ที่คนไทยเนี่ยอ่อ
00:00:24 → 00:00:26 นิยมเรียกกันว่าหนูรู้จักในชื่อว่าโรค
00:00:26 → 00:00:29 พุ่มพวงนะครับหรือว่าพวกโรคลำไส้เสี่ยง
00:00:29 → 00:00:32 ของต่างๆสำหรับในซีรีส์สมัยที่เราจะคุย
00:00:32 → 00:00:34 กันนี้นะครับซึ่งจะมีหลายตอนจบรายการ
00:00:34 → 00:00:38 เนี่ยผมจะชวนไปหาคำตอบนะครับเราจะคุยถึง
00:00:38 → 00:00:40 ปัจจัยปัจจัยนะครับที่จะเหมือนกับเป็นคำ
00:00:40 → 00:00:43 อธิบายนะคะรู้คำตอบของคำถามที่ว่าไปนะ
00:00:43 → 00:00:45 ครับปัจจัยที่ว่านั้นก็คือสีเรียกว่า
00:00:45 → 00:00:48 ไมโครไบโอมที่นี่เขาว่าไม่ค่อยโอนนะคือ
00:00:48 → 00:00:51 อะไรนะครับตอบสั้นๆไปก่อนให้พอเห็นภาพนะ
00:00:51 → 00:00:52 ครับก็คือว่ามันคือจุลินทรีย์ที่อาศัย
00:00:52 → 00:00:55 อยู่ในร่างกายของมนุษย์ซึ่งต้องบอกว่าหัว
00:00:55 → 00:00:58 ข้อไมโครไบโอม Ace เป็นหัวข้อที่ในช่วง
00:00:58 → 00:01:00 ประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมานะครับในวงการ
00:01:00 → 00:01:03 แพทย์หรือว่าในพวกอ่านวิทยาศาสตร์ทางด้าน
00:01:03 → 00:01:05 ชีววิทยาเนี่ยค่อนข้างคอร์ดมานะครับเป็น
00:01:05 → 00:01:07 หัวข้อที่คนให้ความสนใจกันมากนะครับทั้ง
00:01:07 → 00:01:09 หมอทั้งวิธีนักวิทยาศาสตร์มีงานวิจัย
00:01:09 → 00:01:13 เนี่ยออกมามามากมายนะครับผมเองก็เคยเห็น
00:01:13 → 00:01:15 หนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเล่มนึงนะ
00:01:15 → 00:01:18 ครับนี่เสรีจะคุยกันนี้นะครับจะบอกว่าได้
00:01:18 → 00:01:20 รับการสนับสนุนนะครับจากทางมดกัดนะครับ
00:01:20 → 00:01:23 ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการตรวจจุลินทรีย์ใน
00:01:23 → 00:01:26 ร่างกายของคนแต่ละคนนะครับส่วนประโยชน์
00:01:26 → 00:01:28 ของจุลินทรีย์ว่ามันมีประโยชน์อะไรนะครับ
00:01:28 → 00:01:30 เดี๋ยวเราจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันใน
00:01:30 → 00:01:32 ซีรีส์นี้นะครับโอเคมันเริ่มเรื่องกันเลย
00:01:32 → 00:01:35 นะครับอย่างที่คุยกันไปนะครับผมชื่อว่าคน
00:01:35 → 00:01:37 ส่วนใหญ่ในสังเกตว่าคนทุกปัจจุบันเนี่ย
00:01:37 → 00:01:39 มันจะป่วยโรคไม่ติดต่อได้มากขึ้นถูกไหม
00:01:39 → 00:01:42 ครับเบาหวานหัวใจโรคอ้วนนะครับแล้วก็ใจขอ
00:01:42 → 00:02:00 รถคุณลีสูงนะครับรถผมไผ๋
00:02:00 → 00:02:02 คือเรื่องของต่อสิ่งแวดล้อมนะครับที่
00:02:02 → 00:02:04 เปลี่ยนไปมากนะครับมาถึงว่าเมื่อเที่ยวไป
00:02:04 → 00:02:06 ในโลกยุคสมัยโบราณนะครับที่เราใส่อยู่โรค
00:02:06 → 00:02:09 ที่มนุษย์วิวัฒนาการมาซึ่งเราอาศัยอยู่ใน
00:02:09 → 00:02:11 ธรรมชาตินะครับปัจจุบันในสิ่งแวดล้อมที่
00:02:11 → 00:02:13 อาศัยอยู่ในเปลี่ยนไปมากอาหารการกินของ
00:02:13 → 00:02:16 เรานะคะเปลี่ยนไปมานะครับคือกินอาหารที่
00:02:16 → 00:02:19 มีการแปรรูปแบบค่อนข้างเยอะซึ่งสิ่งเหล่า
00:02:19 → 00:02:20 นี้มันจะต่างไปจากสิ่งแวดล้อมที่เราเคย
00:02:20 → 00:02:23 อาศัยอยู่เมื่อแสนปีที่แล้วถ้ามันมี
00:02:23 → 00:02:25 ปัจจัยเลยนะครับซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่
00:02:25 → 00:02:27 สำคัญมากนะครับแล้วก็สมัยก่อนเราไม่เคย
00:02:27 → 00:02:30 รู้ว่าเรื่องนี้มาเกาะนเพิ่งจะเมื่อ
00:02:30 → 00:02:31 ประมาณซัก 10 กว่าปีที่ผ่านมานี่เองนะ
00:02:31 → 00:02:34 ครับที่เราเข้าใจหรือว่าเราศึกษาจะเรื่อง
00:02:34 → 00:02:37 ปัจจัยเนี่ยมากขึ้นนะครับปัจจัยที่ว่าใน
00:02:37 → 00:02:39 ก็คือเทือกว่าที่คุยไปเมื่อกี้นะครับก็
00:02:39 → 00:02:42 คือคำว่าไมโครไบโอมนะครับที่นี่เราก็เลย
00:02:42 → 00:02:44 ผมอยากจะชวนเริ่มต้นที่คำว่า Micro ไปโอน
00:02:44 → 00:02:46 เงินก่อนดีไหมครับเรามาเรียนรู้กันสักนิด
00:02:46 → 00:02:49 นึงว่าคำว่า Micro เบลล์เนี่ยมันคืออะไร
00:02:49 → 00:02:52 ถ้าจะตอบท่านๆนะครับมันคือ
00:02:52 → 00:02:54 ระบบนิเวศนะครับหรือว่าการอยู่ร่วมกันของ
00:02:54 → 00:02:58 จุลินทรีย์ต่างๆโดยจะเป็นเรื่องของไวรัส
00:02:58 → 00:03:01 นะครับแบคทีเรียพวกชั่วพี่ต่ายนะครับที่
00:03:01 → 00:03:04 อาศัยอยู่ภายในร่างกายของเราแต่ว่าถ้าเรา
00:03:04 → 00:03:06 จะใช้คำว่าอาศัยอยู่เนี่ยก็มีก็ว่าสิ่ง
00:03:06 → 00:03:08 เหล่านั้นแค่มาใส่ในร่างกายของเราเนี่ย
00:03:08 → 00:03:10 เวลาจะไม่ถูกต้องซะทีเดียวนะครับเพราะว่า
00:03:10 → 00:03:12 สิ่งไม่ใช่เหล่านั้นนะครับเราจะเป็นไวรัส
00:03:12 → 00:03:15 ใส่ทุเรียนต่างๆเนี่ยมันไม่ใช่แค่อาศัย
00:03:15 → 00:03:17 อยู่มาพึ่งพาอาศัยอยู่นะครับแต่มันเหมือน
00:03:17 → 00:03:20 กับว่าอาศัยอยู่ร่วมกับส้มตาของร่างกาย
00:03:20 → 00:03:22 เราซึ่งการอะมะมาใส่อยู่นะครับก็มีทั้ง
00:03:22 → 00:03:24 ที่อยู่ภายในร่างกายของเรานะครับหรือว่า
00:03:24 → 00:03:27 อยู่ที่ภายนอกของร่างกายนะครับเช่นภายนอก
00:03:27 → 00:03:30 นี่คือเช่นตามผิวหนังนะครับในช่องปากนะ
00:03:30 → 00:03:33 ครับบนตามและมือเล็บเท้านะครับตามผมนะ
00:03:33 → 00:03:36 ครับส่วนรักแร้ต่างๆนะครับหรือว่าจะอยู่
00:03:36 → 00:03:38 ภายในร่างกายของเราเลยนะครับก็คือเลือกลง
00:03:38 → 00:03:40 ไปนะครับทางด่วนได้ใจนะครับอยู่ในทางเดิน
00:03:40 → 00:03:43 อาหารของเราภายในลำไส้ของเราแต่ก็อย่าง
00:03:43 → 00:03:45 ที่บอกครับคือว่าจุลินทรีย์เหล่าเนี้ยอาจ
00:03:45 → 00:03:48 จะไม่ได้ใช้คำว่าว่าจะไม่ถูกต้องที่จะใช้
00:03:48 → 00:03:50 คะวัดแค่มาอาศัยอยู่ในร่างกายของเราเฉยๆ
00:03:50 → 00:03:52 แต่มันก็จุลินทรีย์เหล่าเนี่ยมันภาษานะ
00:03:52 → 00:03:56 ครับทำงานร่วมกับเซลล์ของร่างกายเลยถึง
00:03:56 → 00:03:57 ขนาดที่ว่ามีนักวิทยาศาสตร์หรือนัก
00:03:57 → 00:04:01 ชีววิทยาบางคนนะครับใช่ค่ะหรือไม่คำ
00:04:01 → 00:04:02 อธิบายประชุมที่เราเนี่ยมันเหมือนก็เป็น
00:04:02 → 00:04:05 อวัยวะอีกโอยว่าหนึ่งนะครับของร่างกาย
00:04:05 → 00:04:08 มนุษย์ที่ขอทำหน้าที่ให้เรามีชีวิตอยู่
00:04:08 → 00:04:11 ได้จะได้ปกตินะครับเวลาเราพูดถึงร่างกาย
00:04:11 → 00:04:13 ของมนุษย์เนี่ยเรื่องร่างกายของตัวเราเอง
00:04:13 → 00:04:16 นะครับเราจะมีความรู้สึกว่าเนี่ยคือร่าง
00:04:16 → 00:04:18 กายของเราโทรไหมครับนี่คือหัวของเรานี่
00:04:18 → 00:04:22 คือหัวใจของเรานี่คือตับไตไส้พุงของเรานะ
00:04:22 → 00:04:24 ครับก็คือทุกอย่างที่เราเป็นตัวเราเนี่ย
00:04:24 → 00:04:26 มันเป็นเอกเทศไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งมี
00:04:26 → 00:04:30 ชีวิตอื่นๆนะครับเราจะรู้สึกว่าขอบเขตของ
00:04:30 → 00:04:33 เราเนี่ยจะอยู่ที่สิ้นสุดที่ผิวหนังอะไร
00:04:33 → 00:04:34 ก็ตามที่มันเลยจะผิวหนังเข้าไปเนี่ยมันจะ
00:04:34 → 00:04:37 เป็นสิ่งมีชีวิตอื่นแต่ในช่วงประมาณสิบ
00:04:37 → 00:04:39 กว่าปีที่ผ่านมานะครับอย่างที่ว่าไปก็คือ
00:04:39 → 00:04:42 ว่านักวิทยาศาสตร์เริ่มค้นพบกันมากขึ้นนะ
00:04:42 → 00:04:43 ครับว่าจริงแล้วนะอะไรของมนุษย์เนี่ยไม่
00:04:43 → 00:04:45 ได้ทำงานแบบนั้นซะทีเดียวเพราะสิ่งที่เรา
00:04:45 → 00:04:48 เคยมองว่าเป็นร่างกายของเรานะเว้ยร่างกาย
00:04:48 → 00:04:51 ของมนุษย์จริงๆซึ่งร่างกายของมนุษย์เนี่ย
00:04:51 → 00:04:53 มันสร้างขึ้นมาจากพันธุกรรมของมนุษณ์
00:04:53 → 00:04:56 พันธุกรรมที่เราได้มาจากพ่อแม่นะครับแต่
00:04:56 → 00:04:58 ว่าพันธุกรรมที่กล่าวสร้างร่างกายขึ้นมา
00:04:58 → 00:05:00 แล้วปรากฏว่ามันไม่เพียงแต่พอที่จะทำให้
00:05:00 → 00:05:03 มนุษย์เนี่ยมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข
00:05:03 → 00:05:05 หรือว่ามีชีวิตอยู่ได้ยังแข็งแรงนะครับ
00:05:05 → 00:05:08 แต่ร่างกายของมนุษย์เด็ดจำเป็นจะต้องพึ่ง
00:05:08 → 00:05:12 พาการทำงานของจุลินทรีย์ต่างๆที่มันก็มา
00:05:12 → 00:05:14 ทำงานร่วมกับร่างกายของเราเหมือนกับว่า
00:05:14 → 00:05:16 ถ้าจะเรียกว่ามนุษย์ที่แท้จริงไม่รู้จะ
00:05:16 → 00:05:18 สมบูรณ์แบบได้เนี่ยมันจะต้องรวม
00:05:18 → 00:05:20 จุลินทรีย์นะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่าง
00:05:20 → 00:05:23 กายเราด้วยดังนั้นก็เลยมีนักชีววิทยานัก
00:05:23 → 00:05:25 เรียนศาสตร์ที่ว่าไปนะครับก็คืออาจจะเข้า
00:05:25 → 00:05:27 เปรียบเทียบว่าเวลาเรามองร่างกายมนุษย์
00:05:27 → 00:05:29 ที่เราเรียกว่าเป็นร่างกายของเราหรือเป็น
00:05:29 → 00:05:31 ร่างกายของมนุษย์เนี่ยเราต้องมาว่ามันคือ
00:05:31 → 00:05:34 ระบบนิเวศอาจจะมองว่าเหมือนเป็นป่านะครับ
00:05:34 → 00:05:38 ที่มีความรมสมบูรณ์แข่งหนึ่งแล้วก็ถ้าจะ
00:05:38 → 00:05:40 เทียบน่าจะช่วยว่าเซลล์ของมนุษย์เนี่ยจะ
00:05:40 → 00:05:42 เหมือนกับต้นไม้ใหญ่นะครับเฉพาะต้นไม้
00:05:42 → 00:05:44 ใหญ่นะครับส่วนพวกจุลินทรีย์ต่างๆที่
00:05:44 → 00:05:47 อาศัยอยู่ในร่างกายมันจะเป็นพวกพืชเล็กๆ
00:05:47 → 00:05:49 นะครับเพื่อล้มลุกต่างๆนะครับต้นหญ้าอ่า
00:05:49 → 00:05:52 ไม้เลื้อยต่างๆครับเพื่อคุณเดินต่างๆรวม
00:05:52 → 00:05:54 ไปถึงพวกสเต็กสันน้อยที่อาศัยอยู่ในป่า
00:05:54 → 00:05:57 ด้วยนะครับไม่ว่าเป็นนกนะครับกระรอกนะ
00:05:57 → 00:06:00 ครับสนใจต่างๆรวมถึงสารเล็กๆนะครับแต่อ.
00:06:00 → 00:06:03 ดอนๆนะครับหนอนในดินที่คอยทำให้ดินเนี่ย
00:06:03 → 00:06:07 ร่วนซวยและมีอุดมสมบูรณ์นะครับที่นี่ถ้า
00:06:07 → 00:06:09 ป่านะครับไม่มีสิ่งชุดเล็กๆเหล่านี้นะ
00:06:09 → 00:06:12 ครับไม่มีต้นไม้เล็กๆเนี่ยมันก็เหมือนทำ
00:06:12 → 00:06:14 ให้ระบบนิเวศของป่ามันไม่แข็งแรงถูกไหม
00:06:14 → 00:06:17 ครับแล้วก็สุดท้ายเนี่ยจะนำไปสู่การล่ม
00:06:17 → 00:06:20 สลายของระบบนิเวศน์ในป่าได้ซึ่งถ้าเป็น
00:06:20 → 00:06:22 ร่างกายของมนุษย์เนี่ยก็จะหมายถึงการเจ็บ
00:06:22 → 00:06:24 ป่วยนะครับหรืออาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
00:06:24 → 00:06:26 ที่นี่ผมเล่ามาถึงตรงนี้นะครับเชื่อว่า
00:06:26 → 00:06:29 หลายคนอาจจะเกิดนึกสงสัยขึ้นมาว่าตัวเท่า
00:06:29 → 00:06:31 ไหร่คนนะคะที่เคยเรียนทั้งชีวะมาเกาะน่า
00:06:31 → 00:06:33 จะเคยได้ยินว่าเอ๊ะแต่ต้องตั้งแต่สมัย
00:06:33 → 00:06:36 เรียนเนี่ยตั้งแต่เมื่อไหร่ 10 ปี 20 ปี
00:06:36 → 00:06:38 ก่อนแล้วก็รู้มาตลอดไม่ใช่หรือว่าร่างกาย
00:06:38 → 00:06:40 ของมนุษย์เนี่ยมันมีแบคทีเรียอาศัยอยู่
00:06:40 → 00:06:43 มากมายนะครับแล้วก็แบบที่เราเนี่ยก็สร้าง
00:06:43 → 00:06:46 ประโยชน์ให้กับร่างกายเช่นช่วยเด็กมาไป
00:06:46 → 00:06:48 หลายคนนะครับก็จะรู้ว่าไปเที่ยวในลำไส้
00:06:48 → 00:06:50 เนี่ยมันช่วยสร้างวิตามินต่างๆนะคะเช่น
00:06:50 → 00:06:52 ช่างที่เป็นเคนะครับเค้าจะมีเบียร์ต่าง
00:06:52 → 00:06:55 แล้วไอ้สิ่งที่ผมพูดถึงนะครับหรือที่
00:06:55 → 00:06:57 เรียกว่าไมโครไบโอมอันน่าตื่นเต้นยังไงนะ
00:06:57 → 00:06:59 ครับมัน Hot อยู่บ้านต่างจากที่เรารู้แต่
00:06:59 → 00:07:02 เดิมยังก็จริงนะครับจริงอยู่บ้านในวงการ
00:07:02 → 00:07:05 วิทยาศาสตร์เลยความรู้ของเราและลูกกันมา
00:07:05 → 00:07:07 เป็นหลักหลายร้อยปีแล้วนะครับว่าในร่าง
00:07:07 → 00:07:09 กายของมนุษย์เรียนดีจุลินทรีย์อาศัยอยู่
00:07:09 → 00:07:11 มากมายนะครับซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วเนี่ยจุด
00:07:11 → 00:07:13 เริ่มต้นในการจะเริ่มตั้งแต่สมัยที่นัก
00:07:13 → 00:07:15 วิทยาศาสตร์ที่ชื่อและเป็นทุกข์นะครับนำ
00:07:15 → 00:07:18 กล้องจุลทรรศน์จะไป 2 จุลินทรีย์ในปากของ
00:07:18 → 00:07:21 มนุษย์และคนเพราะว่ามีจุลินทรีย์อาศัย
00:07:21 → 00:07:24 อยู่มากมายซึ่งตอนนั้นก็คือตั้งแต่ปีคศ 1
00:07:24 → 00:07:27 6 1653 นะครับเพียงแต่ว่าในช่วงแรกๆนะ
00:07:27 → 00:07:30 ครับของการค้นพบสิ่งที่เรานี้เนี่ยก็บอก
00:07:30 → 00:07:33 คนยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีชื่อ
00:07:33 → 00:07:35 เล็กๆนี่มากนะครับเราจะไปทุเรียนหรือ
00:07:35 → 00:07:37 จุลินทรีย์ต่างๆเนี่ยส่วนนึงนะครับเพราะ
00:07:37 → 00:07:39 อาจจะมองว่าสิ่งช่วยเราเนี่ยมันมีขนาดที่
00:07:39 → 00:07:42 เล็กมากนะครับเล็กจนกระทั่งตาเปล่าได้ไม่
00:07:42 → 00:07:45 สามารถมองเห็นได้ที่นี่คนได้รู้สึกว่า
00:07:45 → 00:07:47 สิ่งมีชีวิตที่เล็กขนาดนี้มันจะมีผลกระทบ
00:07:47 → 00:07:49 กับร่างกายของมนุษย์ได้ยังไงแล้วยิ่งมอง
00:07:49 → 00:07:51 ร่างกายของเราเนี่ยจะมีขนาดที่ใหญ่มากๆ
00:07:51 → 00:07:53 เนี่ยซีรีส์ชุดที่ตามองไม่เห็นเนี่ยไม่
00:07:53 → 00:07:56 น่าจะมีผลกระทบกับเราได้แต่ต่อมาเมื่อ
00:07:56 → 00:07:58 ประมาณสัก 120 ปีที่แล้วนะครับก็มีนะ
00:07:58 → 00:08:00 พุทธศักดิ์หลุดนึงเนี่ยอ่ะก็เหมือนกับที่
00:08:00 → 00:08:02 สุดให้เห็นนะคะว่าจริงๆแล้วเนี่ยไอ้สิ่ง
00:08:02 → 00:08:04 ชุดที่เล็กจนหมอตามองไม่เห็นเหล่านี้
00:08:04 → 00:08:06 เนี่ยมันสามารถทำให้มนุษย์เดียวป่วยเป็น
00:08:06 → 00:08:08 โรคต่างๆได้ซึ่งก็คือโรคติดเชื้อที่เรา
00:08:08 → 00:08:11 รู้จักในปัจจุบันนะครับที่นี่หลังจากนั้น
00:08:11 → 00:08:14 มาเดินกันที่พบเคยว่าทฤษฎีฉันโลกเนี่ยวง
00:08:15 → 00:08:17 การแพทย์เนี่ยก็ให้ความสนใจนะครับหรือ
00:08:17 → 00:08:20 โฟกัสงานวิจัยต่างๆเนี่ยไปกับการเข้าใจ
00:08:20 → 00:08:22 จุลินทรีย์ต่างๆหรือแบคทีเรียพวกไวรัส
00:08:22 → 00:08:25 เซ็ตที่ทำให้มนุษย์ในป่วยได้ซึ่งต้องบอก
00:08:25 → 00:08:28 ว่ามันเป็นส่วนน้อยของจุลินทรีย์ทั้งหลาย
00:08:28 → 00:08:30 ที่มีอยู่ในโลกแล้วจากนั้นจะเกิดยุคสมัย
00:08:30 → 00:08:33 ที่ในเวลาต่อมาเดี๋ยวคนในเวลาได้ยินคำว่า
00:08:33 → 00:08:35 จุลินทรีย์ได้ยินว่าแบคทีเรียหรือไวรัส
00:08:35 → 00:08:37 เนี่ยเราจะนึกถึงว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี
00:08:37 → 00:08:39 กับมนุษย์เธอไหมครับเราจะนึกว่าเป็นสิ่ง
00:08:39 → 00:08:42 ที่ทำให้เราป่วยได้แล้วรู้สึกว่าถ้าเรา
00:08:42 → 00:08:44 ตรงไหนมีแบคทีเรียมีคำว่าไวรัสเดี๋ยวมัน
00:08:44 → 00:08:47 คือสิ่งตรงนั้นเนี่ยมันคือของสกปรกซึ่ง
00:08:47 → 00:08:50 เราจะเห็นได้จากโฆษณาต่างๆทำให้เราจะมี
00:08:50 → 00:08:52 ผลิตภัณฑ์ที่ออกมามากมายว่าฆ่าเชื้อใบ
00:08:52 → 00:08:54 เครย์ได้ 99.9 เปอร์เซ็นต์นะครับหรือว่า
00:08:54 → 00:08:57 เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการสามารถ
00:08:57 → 00:08:59 ฆ่าแบคทีเรียได้นะครับหรือว่าปลอดเป็น
00:08:59 → 00:09:02 อุปกรณ์ปลอดเชื้อเอามาใช้งานออกมาขายนะ
00:09:02 → 00:09:04 ครับดังนั้นนะครับในชุดแรกหลังจากที่เรา
00:09:04 → 00:09:06 รู้จักกับผู้จะลืมซีเนียลวิจัยต่างถ้านัก
00:09:06 → 00:09:09 เรียนสระที่รัฐบาลให้เนี่ยก็จะโฟกัสไปที่
00:09:09 → 00:09:13 การศึกษาจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรนัก
00:09:13 → 00:09:15 วิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เมื่อเงินไปตรงนั้นนะ
00:09:15 → 00:09:16 วิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ก็เลยต้องศึกษาเฉพาะ
00:09:16 → 00:09:20 ตัว MC ที่ทำให้มนุษย์ป่วยนะครับเงิน
00:09:20 → 00:09:22 วิจัยในก็เลยไม่ค่อยมีไปลงที่จุลินทรีย์
00:09:22 → 00:09:25 ที่ไม่ก่อให้เกิดโรนะครับจุลินทรีย์ที่
00:09:25 → 00:09:27 อยู่ในร่างกายคนละเท่าไหร่ที่นี่จุด
00:09:27 → 00:09:30 เปลี่ยนนะครับที่ทำให้งานวิจัยเริ่มสนใจ
00:09:30 → 00:09:32 ทั้งนี้มากขึ้นเนี่ยอาจจะมองได้ว่ามัน
00:09:32 → 00:09:36 เริ่มต้นมาจากองค์การนาซ่านะครับทำไมถึง
00:09:36 → 00:09:39 เป็นองค์การนาซาเพราะว่าเมื่อประมาณซัก
00:09:39 → 00:09:41 40-50 ปีที่แล้วนะครับตอนที่นาซ่าน่ะมี
00:09:41 → 00:09:44 โปรเจคว่าจะส่งมนุษย์ขอไปในอวกาศเนี่ยะ
00:09:44 → 00:09:47 มันมีคำถามหนึ่งทางกับเป็นคำถามการแพทย์
00:09:47 → 00:09:51 นะครับที่เกิดสงสัยขึ้นมาว่าถ้าสมมตินะ
00:09:51 → 00:09:54 ครับเราส่งมนุษย์ไปที่ในอวกาศแล้วแต่
00:09:54 → 00:09:56 มนุษย์คนนั้นเนี่ยไปติดเชื้อเลยได้รับ
00:09:56 → 00:09:58 เชื้อโรคในอวกาศมาสมุนอวกาศไม่ใช่โรคนะ
00:09:58 → 00:10:01 ครับเราจะรู้พี่ว่าจะรบกวนนะเนี่ยเมื่อ
00:10:01 → 00:10:04 เข้ามาในโลกเนี่ยมันอาจารย์ประบาทนะครับ
00:10:05 → 00:10:08 ระบาดไปในขอผู้คนทั่วโลกนะครับเลยทำให้
00:10:08 → 00:10:10 เกิดการนกระบาดเงินในหุ้นแรงทำให้คนทั่ว
00:10:10 → 00:10:13 โลกในติดเชื้อที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนน่า
00:10:13 → 00:10:16 จะนำไปสู่เกาะการจัดการล่างฆ่าล้างเผ่า
00:10:16 → 00:10:19 พันธุ์ของมันเสียชาติก็ได้มันก็เลยเกิดคำ
00:10:19 → 00:10:22 ถามขึ้นมาว่าอ้าวแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคน
00:10:22 → 00:10:24 นั้นเป็นโอกาสคนนั้นได้รับเชื้อ
00:10:24 → 00:10:27 จุลินทรีย์จากอวกาศมาเพราะว่าอะไรเพราะ
00:10:27 → 00:10:29 แม้แต่ในคนที่อาศัยอยู่บนโลกเนี่ยเรายัง
00:10:29 → 00:10:32 ไม่เคยมีการศึกษาเลยว่าในร่างกายของ
00:10:32 → 00:10:35 มนุษย์เนี่ยมันมีชื่ออะไรอยู่บ้านค่ะมัน
00:10:35 → 00:10:38 เชื่อปกติที่อาศัยอยู่ในร่างกายโดยที่ไม่
00:10:38 → 00:10:41 ใช่เป็นเชื้อก่อโรคถ้าเราไม่รู้ปกติมี
00:10:41 → 00:10:43 ชื่ออะไรเราจะรู้ได้ยังไงว่าเชื้อตัวไหน
00:10:43 → 00:10:45 เนี่ยเป็นเชื่อ Bag พร้อมที่มาจากเค้า
00:10:45 → 00:10:47 อากาศและด้วยเหตุผลนี้เองนะครับนาซ่านะก็
00:10:47 → 00:10:49 เลยนำงบวิจัยส่วนนึงเนี่ยนำมาศึกษาเกี่ยว
00:10:49 → 00:10:51 กับจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อโรคทั้งหลายในร่าง
00:10:51 → 00:10:54 กายของมนุษย์มากขึ้นแล้วก็เริ่มมีงาน
00:10:54 → 00:10:56 วิจัยตีพิมพ์ออกมาที่นี่เพราะมีงานวิจัย
00:10:56 → 00:10:59 ออกมาเนี่ยมันก็มีข้อมูลที่สะสมยิ่งศึกษา
00:10:59 → 00:11:01 มากขึ้นอย่างได้มีการค้นพบใหม่ๆที่น่าสน
00:11:01 → 00:11:04 ใจว่าไปถึง 4 เหล่านี้ที่เราเคยไม่เคยสน
00:11:04 → 00:11:07 ใจเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นมันมีความ
00:11:07 → 00:11:08 เกี่ยวข้องกับร่างกายของมนุษย์เนี่ยหลาย
00:11:08 → 00:11:11 อย่างเลยแล้วก็ส่วนใหญ่เดี๋ยวมันจะมี
00:11:11 → 00:11:13 ประโยชน์กับร่างกายของมนุษย์ด้วยที่นี่
00:11:13 → 00:11:16 อย่างที่บอกก็คือเมื่อมีการศึกษามากขึ้น
00:11:16 → 00:11:19 นะครับข้อมูลค่อยๆสะสมมากขึ้นเรื่อยๆนัก
00:11:19 → 00:11:21 วิทยาศาสตร์ก็เริ่มเห็นว่ามันน่าสนใจก็
00:11:21 → 00:11:23 อยากจะทำงานวิจัยเรื่องพรุ่งนี้มากขึ้นก็
00:11:23 → 00:11:25 เริ่มของงบมาศึกษาพรุ่งนี้มากขึ้นแล้วต่อ
00:11:25 → 00:11:27 มาเนี่ยเมื่อศึกษามากขึ้นก็เริ่มเห็นว่า
00:11:27 → 00:11:30 จุนสิเหล่านี้อาจจะอธิบายการเจ็บป่วยของ
00:11:30 → 00:11:33 มนุษย์ได้นะครับมันก็เลยทำให้งานวิจัย
00:11:33 → 00:11:36 เนี่ยเกิดมากขึ้นจนกระทั่งถึงประมาณสอง
00:11:36 → 00:11:38 พันปี 11 นะครับกล่องจะเห็นได้ชัดเลยนะ
00:11:38 → 00:11:40 ครับว่าความสนใจเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่
00:11:40 → 00:11:43 ไม่ก่อนโลกมันเปลี่ยนแปลงพม่านะครับเพราะ
00:11:43 → 00:11:45 ถ้าเราไปดูงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในช่วงก่อน
00:11:45 → 00:11:48 หน้านั้นสัก 2-3 ปีนะครับพี่ 2008 2009
00:11:48 → 00:11:50 เลยนะครับจะเห็นว่าจะรู้ใจทั่วโลกเนี่ย
00:11:50 → 00:11:53 ที่ศึกษาเกิดจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อโรคเนี่ย
00:11:53 → 00:11:56 จะค่อนข้างน้อยมากแต่พอหลังปี 2011 มาใน
00:11:56 → 00:11:58 งานวิจัยเกี่ยวกับจุลินทรีย์ในร่างกาย
00:11:58 → 00:12:00 หรือที่เรียกว่าไมโครโฟนทั้งหลายเนี่ยได้
00:12:00 → 00:12:02 รับการสนใจมากขึ้นนะครับแล้วก็มีการตี
00:12:02 → 00:12:04 พิมพ์บอกว่ามากขึ้นเรื่อยๆนะครับมากขึ้น
00:12:04 → 00:12:07 แบบทวีคูณนะครับเยอะขึ้นเรื่อยๆนะครับจน
00:12:07 → 00:12:09 กระทั่งกลายเป็นเรื่องคอร์สของวงการแพทย์
00:12:09 → 00:12:12 หรือว่าในวงการชีววิทยามากนี่คำถามว่า
00:12:12 → 00:12:14 ทำไมถึงได้ Hot นะครับเพราะมันเหมือนกับ
00:12:14 → 00:12:16 ว่านะครับเมื่อนักเรียนศาสตร์เกิดคำถาม
00:12:16 → 00:12:19 ขึ้นมาและสนใจว่าอาการจะปวดต่างๆและการทำ
00:12:19 → 00:12:20 งานของต่างๆของร่างกายมนุษย์เนี่ยมัน
00:12:20 → 00:12:23 เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ไหมเมื่อไปศึกษา
00:12:23 → 00:12:25 ในปรากฏว่าไม่ว่าจะไปจับเรื่องไหนก็ตามนะ
00:12:25 → 00:12:27 ครับศึกษาตรงไหนก็ตามชนเพราะว่า
00:12:27 → 00:12:29 จุลินทรีย์เนี่ยมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับ
00:12:29 → 00:12:32 เรื่องนั้นเสมอนี่ก็เป็นเหตุผลนะครับที่
00:12:32 → 00:12:34 ที่บายว่าทำไมในเวลาต่อมาเนี่ยนัก
00:12:34 → 00:12:36 วิทยาศาสตร์ส่วนนึงเนี่ยก็เลยบอกว่า
00:12:36 → 00:12:38 จุลินทรีย์เหล่าเนี้ยมันเหมือนก็เป็นส่วน
00:12:38 → 00:12:39 หนึ่งของร่างกายมันโดนนะครับเป็นส่วน
00:12:40 → 00:12:41 หนึ่งของการทำงานอย่างปกติของร่างกาย
00:12:41 → 00:12:44 มนุษย์ที่นี่ผมแล้วหมุนตรงนี้นะครับชื่อ
00:12:44 → 00:12:46 ว่าหลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ค่อยออกสัก
00:12:46 → 00:12:48 เท่าไหร่นะครับที่บอกว่าร่างกายของมนุษย์
00:12:48 → 00:12:50 เนี่ยเป็นระบบนิเวศเนี่ยให้ระบบนิเวศน์
00:12:50 → 00:12:53 ว่าเดี๋ยวเป็นยังไงผมก็อยากจะขอใช้เวลา
00:12:53 → 00:12:55 นิดนึงนะครับขยายความตรงนี้ให้ฟังสักนิด
00:12:55 → 00:12:58 นึงนะครับดูวิธีการยกตัวอย่างนะครับลอง
00:12:58 → 00:13:00 นึกภาพดูนะครับตัวอย่างเช่นนะครับคุณเคย
00:13:00 → 00:13:03 สงสัยไหมครับว่าทำไมคนสองคนนะครับที่
00:13:03 → 00:13:05 เหมือนกับใช้ชีวิตคล้ายๆกันนะครับออก
00:13:05 → 00:13:07 กำลังกายให้คล้ายการกินอาหารคล้ายๆกันแต่
00:13:07 → 00:13:10 ทำไมคนนึงเนี่ยก็อ้วนนะครับอีกคนเนี่ย
00:13:10 → 00:13:13 กลับไม่อ้วนนะครับกับพร้อมปกติคำอธิบาย
00:13:13 → 00:13:16 หรือว่าปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่อาจจะตอบคำ
00:13:16 → 00:13:19 ถามนี้ได้นะครับก็คือว่าคนทั้งสองคนนี้มี
00:13:19 → 00:13:22 จุลินทรีย์ในลำไส้เนี่ยที่ต่างกันไปทำให้
00:13:22 → 00:13:25 ทั้งสองคนตอบสนองต่อกิจวัตรประจำวันต๊อบ
00:13:25 → 00:13:28 น้องต่ออาหารเนี่ยต่างกันไปหรืออาจจะเป็น
00:13:28 → 00:13:31 เรื่องของการเติบโตนะครับขอคำถามว่าจะ
00:13:31 → 00:13:33 เกิดขึ้นว่าทำไมเด็ก 2 คนเนี่ยถึงได้เติบ
00:13:33 → 00:13:36 โตไม่เท่ากันทำให้คนมีตัวสวยคนตัวเตี้ยคำ
00:13:36 → 00:13:38 ตอบเนี่ยแต่เดิมมารู้เป็นเรื่องของ
00:13:38 → 00:13:40 พันธุกรรมกับฮอร์โมนโทรไหมครับพันธุกรรม
00:13:40 → 00:13:42 ฮอร์โมนเรื่องของโภชนาการแต่ปัจจุบันได้
00:13:42 → 00:13:44 เรารู้ว่าไม่ใช่แค่ 3 ปัจจัยดีเท่านั้นนะ
00:13:44 → 00:13:46 ครับแต่มันจะเรื่องของจุลินทรีย์และร่าง
00:13:47 → 00:13:49 กายของเด็กด้วยนะครับแต่ที่ร่างกายของ
00:13:49 → 00:13:51 เด็กในก็มีผลให้เด็กคนหนึ่งสูงกว่าเด็ก
00:13:51 → 00:13:54 อีกคนหนึ่งได้นะครับหรือแม้แต่เรื่องของ
00:13:54 → 00:13:56 สมองนะครับหรือว่าเรื่องของจิตใจนะครับ
00:13:56 → 00:13:58 เส้นก็มาจากสมองนะครับเราจะเรียกว่า
00:13:58 → 00:14:01 อารมณ์ต่างๆก็มีอนุใจขั้นตอนที่คนคนนึงนะ
00:14:01 → 00:14:04 ครับมีสายเป็นคนขี้หงุดหงิดง่ายนะครับ
00:14:04 → 00:14:06 เป็นคนที่เครียดง่ายนะครับหรือว่าเป็นคน
00:14:06 → 00:14:08 ที่ค่อนข้างวิตกกังวลง่ายเนี่ยมันอาจจะ
00:14:08 → 00:14:11 เกิดจากการที่หรือว่าเราเป็นพลมาจาก Black
00:14:11 → 00:14:14 Clear ที่ภายในลำไส้ของเขาก็ได้และถ้า
00:14:14 → 00:14:16 เราไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ
00:14:16 → 00:14:19 แบคทีเรียในลำไส้เหล่านั้นนะครับนิสัยของ
00:14:19 → 00:14:21 เขาและอาจจะเปลี่ยนไปหรือว่ารวมของเขา
00:14:21 → 00:14:24 เนี่ยก็จะเป็นไปด้วยหรือแม้แต่พฤติกรรมนะ
00:14:24 → 00:14:25 ครับที่เราคิดว่าเป็นเรื่องของการตัดสิน
00:14:25 → 00:14:27 ใจนะครับอันนี้ก็บอกมาจากทดลองในหนูนะ
00:14:27 → 00:14:30 ครับเช่นหนูตัวนึงเนี่ยเลือกกินอาหารแบบ
00:14:30 → 00:14:34 ที่บ่มีใยอาหารเยอะนะครับมีพวกไขมันน้อย
00:14:34 → 00:14:37 นะครับอาหารค่อยหวานหน่วยตัวนึงเนี่ยชอบ
00:14:37 → 00:14:40 กินอาหารหวานถ้ากินหาใครมันเยอะปรากฏว่า
00:14:40 → 00:14:42 เมื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์
00:14:42 → 00:14:44 ในลำไส้ของหนูนะครับก็กดว่าสามารถเปลี่ยน
00:14:45 → 00:14:47 พฤติกรรมของหนูได้แค่ทำให้หนูจากที่เดิม
00:14:47 → 00:14:49 ชอบกินอาหารว่าจะเป็นหันมาเนี่ยเป็นมากิน
00:14:49 → 00:14:52 อาหารที่ชอบกินใจอาหารได้หรือว่าเปลี่ยน
00:14:52 → 00:14:55 จากใหญ่ที่ทำกินใยอาหารให้มากินอาหาร
00:14:55 → 00:14:59 มันได้ซึ่งในคนในก็จะมีมีปรากฏการณ์นั้น
00:14:59 → 00:15:02 ด้วยเหมือนกันแต่ตอนนี้ในแง่ของโรคนะครับ
00:15:02 → 00:15:03 อย่างที่คุยไปเมื่อกี้นะครับก็คือ
00:15:03 → 00:15:06 ปัจจุบันและพบว่าจุลินทรีย์เหล่าเนี้ยมัน
00:15:06 → 00:15:08 เหมือนกับเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลายๆโรค
00:15:08 → 00:15:10 นะครับที่พบมากในปัจจุบันนะครับว่าจะเป็น
00:15:10 → 00:15:12 โรคอ้วนนะครับเบาหวานโรคหัวใจนะครับลด
00:15:12 → 00:15:15 ความดันโลหิตสูงโรคภูมิแพ้หรือไม่แต่โรค
00:15:15 → 00:15:17 ทางสมองอย่างที่ว่าไปนะครับโรคทางจิตเวช
00:15:17 → 00:15:20 เช่นภาวะซึมเศร้านะครับขอความรู้สึกวิตก
00:15:21 → 00:15:23 กังวลนะครับหรือว่าโรคทางสมองที่ว่าเป็น
00:15:23 → 00:15:25 ขึ้นเรื่องของโรคพาร์กินสันหรือว่าโลก
00:15:25 → 00:15:27 autism นะครับที่ผมได้เด็กเนี่ยก็จะ
00:15:27 → 00:15:29 เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ในร่างกายของ
00:15:29 → 00:15:32 มนุษย์ด้วยโดยเฉพาะแบคทีเรียในลำไส้นะ
00:15:32 → 00:15:34 ครับที่นี่ที่พูดมาเนี่ยเราพูดเหมือนกับ
00:15:34 → 00:15:35 ว่าเราโดนอิทธิพลเขาจะเล่นซีอย่างเดียว
00:15:35 → 00:15:38 ใช่ไหมครับแต่จริงๆต้องบอกว่าสิ่งที่เรา
00:15:39 → 00:15:41 เลือกทำนะครับหรือเลือกใช้ชีวิตเนี่ยมัน
00:15:41 → 00:15:43 ก็มีอิทธิพลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง jun 4
00:15:43 → 00:15:46 ร่างกายของเราด้วยเหมือนกันซึ่งก็คือ
00:15:46 → 00:15:47 เหมือนกับว่า 2 ทางนะครับจุลินทรีย์มี
00:15:47 → 00:15:50 อิทธิพลกับเราไม่พ้นต่อจีนซีในร่างกายของ
00:15:50 → 00:15:52 เราด้วยก็ไม่เข้าระบบนิเวศทั่วไปที่สิ่ง
00:15:52 → 00:15:54 มีชีวิตแต่ละชนิดที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศ
00:15:54 → 00:15:57 เนี่ยมันจะสามารถที่จะมีผลกระทบหรือว่า
00:15:57 → 00:15:59 เมื่อเกิด Ma prang เนี่ยมันจะกระทบกับ
00:15:59 → 00:16:02 สิ่งมีชีวิตอยากได้ตัวอย่างเช่นนะครับ
00:16:02 → 00:16:04 เด็กที่ผ่าท้องคลอดก็เด็กที่คลอดธรรมชาติ
00:16:04 → 00:16:07 นะครับคลอดผ่านเจ้าข้อเนี่ยจะมี
00:16:07 → 00:16:09 จุลินทรีย์เริ่มแรกในร่างกายในต่างที่
00:16:09 → 00:16:12 ต่างกันไปที่พักต่อมาเด็กคนนั้นนะครับ
00:16:12 → 00:16:14 หรือว่าเด็กสองคนนั้นเนี่ยดื่มนมแม่
00:16:14 → 00:16:17 สุรีย์คนอื่นๆผงเนี่ยพฤติกรรมการเลือกว่า
00:16:17 → 00:16:19 จะดื่มนมแม่หรือนมผงเนี่ยก็นำไปสู่
00:16:19 → 00:16:21 จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารที่ต่างกันไป
00:16:21 → 00:16:24 ด้วยแล้วจากนั้นนะครับเราจะเป็นเรื่องของ
00:16:24 → 00:16:27 คนรอบข้านะครับหรือคนที่จะมาอาบน้ำให้
00:16:27 → 00:16:29 ทารกนะครับกลุ่มทารกหรือว่าญาติพี่น้อง
00:16:29 → 00:16:32 ที่มาคอมแก้มากอดจูบนะครับสัตว์เลี้ยงที่
00:16:32 → 00:16:34 อยู่ในบ้านระหว่างที่เด็กเติบโตขึ้นมา
00:16:34 → 00:16:38 เนี่ยรู้แล้วก็จะมีผลต่อการสร้างและการ
00:16:38 → 00:16:40 ฟอร์มจุลินทรีย์ในร่างกายของเด็กคนนั้นนะ
00:16:40 → 00:16:43 ครับสิ่งเวลาต่างๆนะครับไม่ว่าจะไปอาศัย
00:16:43 → 00:16:45 อยู่ในชนบทนะครับหรืออาศัยอยู่ในเมืองนะ
00:16:45 → 00:16:47 ครับก็จะมีที่พลต่อจุลินทรีย์ที่อยู่ใน
00:16:47 → 00:16:50 ร่างกายของคนแต่ละคนด้วยอาหารที่เราเลือก
00:16:50 → 00:16:53 กินนะครับออกว่าชอบกินผักผลไม้หรือชอบกิน
00:16:53 → 00:16:56 อาหารหวานนะครับหนูชอบกินหันมันก็จะมีผล
00:16:56 → 00:16:58 ต่อจุลินทรีย์ของเราหรือแม้แต่อารมณ์ของ
00:16:59 → 00:17:00 เรานะครับความรู้สึกกลัวอย่าเอาความรู้
00:17:00 → 00:17:03 สึกเครียดนะครับเพราะว่าซึมเศร้าต่างๆก็
00:17:03 → 00:17:05 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียที่
00:17:05 → 00:17:08 อยู่ในทางเดินอาหารคอนโดได้ดังนั้นนะครับ
00:17:08 → 00:17:10 จะเห็นว่าการอยู่ร่วมกันเหมือนกันอยู่
00:17:10 → 00:17:14 ร่วมที่ต่างฝ่ายต่างมีอิทธิพลต่อกันนะ
00:17:14 → 00:17:19 ครับคือมีผลกระทบต่อซึ่งกันและกันและถ้า
00:17:19 → 00:17:21 การอยู่ร่วมกันนะครับหรือเรียกว่าระบบ
00:17:21 → 00:17:24 นิเวศมันดำเนินไปได้ด้วยดีนะครับก็คือว่า
00:17:24 → 00:17:26 มันอยู่ในสมดุลนะครับอยู่ในภาวะสมดุล
00:17:26 → 00:17:28 เนี่ยมันจะนำไปสู่ระบบนิเวศที่แข็งแรง
00:17:28 → 00:17:32 ซึ่งก็จะหมายถึงสุขภาพของเราเนี่ยที่ดี
00:17:32 → 00:17:34 ด้วยแต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ตามนะครับเกิด
00:17:34 → 00:17:36 ขึ้นกับระบบนิเวศนะครับที่ทำให้เรียกว่า
00:17:36 → 00:17:39 ทำให้บริเวณเดียวเสียสมดุลไปหรือในทั้ง
00:17:39 → 00:17:41 ภาษาวิชาการทางการแพทย์ในจำใช้คำว่า
00:17:41 → 00:17:44 despotism เนี่ยนะครับมันก็จะส่งผลให้
00:17:44 → 00:17:47 ร่างกายของเราและไม่ค่อยแข็งแรงซึ่งก็อาจ
00:17:47 → 00:17:49 จะทำให้ป่วยง่ายนะครับหรือบางคนอาจจะ
00:17:49 → 00:17:52 สะท้อนมาในแง่ของการที่แก่เร็วก็เพื่อนๆ
00:17:52 → 00:17:55 เข้าใจเราคนอื่นๆทั้งหมดที่เราควรจะมานี้
00:17:55 → 00:17:57 นะครับว่าเป็นการเปรียบเทียบแบบหนึ่งนะ
00:17:57 → 00:17:58 ครับก็คือเปรียบเทียบให้เห็นว่าร่างกาย
00:17:58 → 00:18:00 ของมนุษย์เนี่ยเหมือนกันระบบมาเล่นนะครับ
00:18:00 → 00:18:02 แต่มันมีอีกวิธีเปรียบเทียบวิธีนะครับ
00:18:02 → 00:18:05 หรือที่ใบอีกวิธีที่ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับ
00:18:05 → 00:18:08 การทำงานของใดหรือระบบที่เข้าไปคอม aoma
00:18:08 → 00:18:10 มากขึ้นนะครับนักเรียน 3 คนเดียวจะโฟกัส
00:18:10 → 00:18:13 ไปที่นี่ไงของพันธุกรรมนะครับก็คือว่าปฏิ
00:18:13 → 00:18:15 เวลาเรามองร่างกายของมนุษย์เนี่ยหรือร่าง
00:18:15 → 00:18:17 กายที่สร้างขึ้นมาจากพันธุกรรมมนุษย์
00:18:17 → 00:18:20 เนี่ยปกติจะชักไม่ดีนะครับขึ้นใน
00:18:20 → 00:18:23 พันธุกรรมของมนุษย์แต่ละคนจะไม่ยินอยู่
00:18:23 → 00:18:26 ประมาณ 20000 20000 5,000 นะครับและใน
00:18:26 → 00:18:28 ก็คือข้อมูลที่นำมาใช้สร้างร่างกายที่
00:18:28 → 00:18:31 เป็นมนุษย์ขึ้นมาครับที่นี่เราจะมองเลย
00:18:31 → 00:18:34 ว่าตัวยินเหล่านี้มันเหมือนเป็นขอคลังข้อ
00:18:34 → 00:18:38 มูลนะครับหรือว่าคลังความรู้ที่ใช้สร้าง
00:18:38 → 00:18:40 ร่างกายของเราขึ้นมาเมื่อร่างกายต้องการ
00:18:40 → 00:18:43 จะสร้างไลน์ขึ้นมาเนี่ยมันจะต้องมันจะไป
00:18:43 → 00:18:45 ค้นหาข้อมูลในยิงนะครับไม่ว่าเป็นการ
00:18:45 → 00:18:48 สร้างพวกโปรตีนนะครับสร้างฮอร์โมนสร้าง
00:18:48 → 00:18:51 เม็ดเลือดแดงช่างเซลล์ต่างๆนะครับไม่ว่า
00:18:51 → 00:18:53 จะเป็นเซลล์ของเซลล์ผิวหนังเซลล์ตับช่วย
00:18:53 → 00:18:56 ตายเนี่ยมันจะต้องเป็นข้อมูลในยืนก่อนว่า
00:18:56 → 00:18:58 มีหรือเปล่าถ้ามีเนี่ยก็จะสร้างสิ่งนั้น
00:18:58 → 00:19:01 ขึ้นมาได้ทั้งนั้นก็น่าจะบอกได้ว่าคลัง
00:19:01 → 00:19:03 ข้อมูลของมนุษย์เนี่ยมันจะมีอยู่ประมาณ 2
00:19:03 → 00:19:05 หมื่น 02 525 000 บาทจะมาว่าเหมือนกับ
00:19:05 → 00:19:07 เป็นห้องสมุดก็คือเหมือนกับ 20000 25000
00:19:07 → 00:19:11 นะครับแต่การที่เรามีจุลินทรีย์ในร่างกาย
00:19:11 → 00:19:13 เนี่ยมันเท่ากับเป็นการเพิ่มคลังข้อมูล
00:19:13 → 00:19:16 ครับที่จะสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาและอย่าง
00:19:16 → 00:19:18 ที่บอกก็คือว่ายีนมนุษย์เนี่ยคลังข้อมูล
00:19:18 → 00:19:21 ของเราเนี่ยมันไม่เพียงพอมันมีข้อมูลไม่
00:19:21 → 00:19:23 พอที่จะสร้างทุกอย่างที่จะทำให้เรามี
00:19:23 → 00:19:26 ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุขแต่การที่เรามี
00:19:26 → 00:19:28 ยีนของจุลินทรีย์หรือคลังข้อมูลจากพวก
00:19:28 → 00:19:30 จุลินทรีย์เหล่านี้อยู่ด้วยเนี่ยมันจะทำ
00:19:30 → 00:19:33 ให้เหมือนกับข้างของเราใหญ่ขึ้นเป็นต่อ
00:19:33 → 00:19:35 เป็นร้อยเท่านั้นนะครับมันทำให้เราสามารถ
00:19:35 → 00:19:38 สร้างสารเคมีต่างๆขึ้นมาซึ่งสารเคมีเหล่า
00:19:38 → 00:19:40 นี้จำเป็นสำหรับการทำงานของร่างกายมนุษย์
00:19:40 → 00:19:44 และถ้าเราขาดสิ่งเหล่านี้ไปนะครับมันก็จะ
00:19:44 → 00:19:46 ทำให้เราเนี่ยป่วยง่ายอย่างที่เราคุยกัน
00:19:46 → 00:19:48 ไปคราวนี้นะครับผมเชื่อว่าหลายท่านเนี่ย
00:19:48 → 00:19:50 ฟังมาถึงตรงนี้นะครับอาจจะนึกสงสัยขึ้นมา
00:19:50 → 00:19:52 ว่าเห็นแล้วทำไมมนุษย์ร่างกายของมนุษย์
00:19:52 → 00:19:55 เนี่ยถึงได้วิวัฒนาการมาเป็นแบบนี้นะครับ
00:19:55 → 00:19:57 มาถึงว่าทำไมเราจึงไม่สามารถจะสร้างทุก
00:19:57 → 00:19:59 อย่างที่เราจะเป็นต้องใช้เกี่ยวกับร่าง
00:19:59 → 00:20:02 กายของเราดีขึ้นมานะครับเขาตอบก็คือว่า
00:20:02 → 00:20:04 เพราะว่าเมื่อเราศึกษาจุลินทรีย์เหล่านี้
00:20:04 → 00:20:07 นะครับจะแทรกศึกษาจนสิ่งต่างๆที่ใส่อยู่
00:20:07 → 00:20:09 ในร่างกายของเราเนี่ยเราพบอย่างหนึ่งว่า
00:20:09 → 00:20:12 จุนสิเหล่านี้มันมีวิวัฒนาการร่วมกับร่าง
00:20:12 → 00:20:14 กายของมนุษย์เดี๋ยวมานานนะครับอาจจะเป็น
00:20:14 → 00:20:16 หลักหลายหมื่นปีนะครับห้าหมื่นปีหรือเป็น
00:20:16 → 00:20:18 แสนปีนะครับหรืออาจจะนานกว่าเป็นหลักล้าน
00:20:18 → 00:20:21 ปีก็เป็นไปได้นะครับและเมื่อด้วยความที่
00:20:21 → 00:20:23 ที่อออยู่ร่วมกันมานานนะครับก็ไม่รับร่าง
00:20:23 → 00:20:26 กายของเราเนี่ยตัดสินใจที่จะเอาสนะคะนะ
00:20:26 → 00:20:29 ครับการทำงานบางอย่างหรือว่ากันกลไกที่จะ
00:20:29 → 00:20:31 สร้างงานบางสิ่งขึ้นมานะคะเมื่อฉันชีวิต
00:20:31 → 00:20:33 ก็อย่างที่จะเป็นกำลังกายเนี่ยให้กับ
00:20:33 → 00:20:35 พาร์ตเนอร์ไปซึ่งก็คือพวกจุลินทรีย์เหล่า
00:20:35 → 00:20:39 นี้และเราก็ตัดสิ่งเหล่านั้นก็คือขอวิธี
00:20:39 → 00:20:41 การสร้างสิ่งเหล่านั้นเนี่ยออกไปจากจีน 2
00:20:41 → 00:20:44 เราหรือจากพันธุกรรมของเราแล้วตลอดเวลา
00:20:44 → 00:20:46 ประมาณสองแสนปีที่มนุษย์พอโมเสสเบี้ย
00:20:46 → 00:20:48 เนี่ยเกิดขึ้นมาบนโลกนี้นะครับเราก็ใส่
00:20:48 → 00:20:50 อยู่กับจุลินทรีย์เหล่านั้นเนี่ยมาตลอดจน
00:20:50 → 00:20:52 เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปก็คือในช่วง
00:20:52 → 00:20:55 ปัจจุบันที่สิ่งแวดล้อมในเปลี่ยนไปมากเรา
00:20:55 → 00:20:58 เนี่ยสัมผัสธรรมชาติน้อยลงนะครับเราก็หา
00:20:58 → 00:21:00 วิธีที่จะกำจัดสิ่งเจือท่องเที่ยวตาลออก
00:21:01 → 00:21:03 ไปจากร่างกายของเรานะดีในร้อนๆกันดินกิน
00:21:03 → 00:21:05 กลางป่าถูกไหมครับเราใช้ชีวิตอยู่กับ
00:21:05 → 00:21:08 ธรรมชาติมากนะครับเราสัมผัสกับเข้าป่าเรา
00:21:08 → 00:21:12 เดินเท้าเปล่าแล้วจับต้นไม้ต่างๆมากแต่
00:21:12 → 00:21:13 สิ่งที่เราปัจจุบันนี้เราสัมผัสธรรมชาติ
00:21:13 → 00:21:16 น้อยมากก็มีคำว่าเรากำจัดพาร์ตเนอร์ที่จะ
00:21:16 → 00:21:18 เป็นของเราเนี่ยออกมาจากร่างกายของเรา
00:21:18 → 00:21:22 แล้วนั่นคือเหตุผลนะครับหรือว่าปัจจัยที่
00:21:22 → 00:21:25 สุดท้ายได้นำมาสู่ความจะเปิดโอตะที่เพิ่ม
00:21:25 → 00:21:27 มากขึ้นในปัจจุบันที่นี่ก่อนที่จบที่สดดี
00:21:27 → 00:21:30 นะครับผมอยากจะขอสรุปภาพใหญ่อีกทีให้อีก
00:21:30 → 00:21:32 ทีนะครับเหมือนก็สรุปเป็นกว้างนะครับเห็น
00:21:32 → 00:21:34 ว่าจุลินทรีย์เนี่ยมันมีประโยชน์อะไรกับ
00:21:34 → 00:21:37 เราบ้างนะครับซึ่งมาอาจจะพอสรุปได้เป็น 6
00:21:37 → 00:21:39 ข้อใหญ่ด้วยกันนะครับข้อแรกก็คือว่า
00:21:39 → 00:21:42 จุลินทรีย์ที่ใส่ในร่างกายของเราเนี่ยมัน
00:21:42 → 00:21:44 จะทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวดีท็อกนะครับ
00:21:44 → 00:21:46 หรือว่าจะเริ่มเหมือนตับก็ได้นะครับมัน
00:21:46 → 00:21:49 ตับของเราเพราะตัดของเราในทำหน้าที่ Detox
00:21:49 → 00:21:51 เพราะจุลินทรีย์เหล่านี้มาสมาธิสร้าง
00:21:51 → 00:21:54 เอนไซม์แต่ละอย่างนะครับซึ่งเอนไซม์เหมา
00:21:54 → 00:21:56 เนี่ยมันจะคล้ายกับที่ตับช่างขึ้นมาคือ
00:21:56 → 00:21:58 ไม่ได้สร้างที่สามารถทำลายพิษที่พบใน
00:21:58 → 00:22:01 ธรรมชาติได้เสื้อจะเป็นอ้างจากโลหะหนัก
00:22:01 → 00:22:04 ต่างๆรู้จักพืชมีพิษต่างๆเวลาเรากินอะไร
00:22:04 → 00:22:06 เข้าไปแล้วมันมีสิทธิ์เหล่านี้เข้าไปใน
00:22:06 → 00:22:07 จุลินทรีย์นี้ตั้งแต่ของเราเดี๋ยวจะช่วย
00:22:07 → 00:22:09 Detox สารที่เราได้
00:22:09 → 00:22:11 ประโยชน์ข้อที่ 2 นะครับก็คืออย่างที่รู้
00:22:11 → 00:22:13 กันมานานนะครับว่าไปแค่ในร่างกายหรือในลำ
00:22:14 → 00:22:16 ไส้ของเราหลายชนิดเนี่ยมันช่วยสร้าง
00:22:16 → 00:22:19 วิตามินที่จำเป็นกับร่างกายนะครับเช่น
00:22:19 → 00:22:21 Vitamin K นะครับแล้วก็จะมี b ต่างๆที่
00:22:21 → 00:22:23 คุยกันไปนะครับสำหรับประโยชน์ข้อที่ 3 นะ
00:22:23 → 00:22:26 ครับก็คือจุลินทรีย์เหล่านี้มันจะช่วยกิน
00:22:26 → 00:22:29 อาหารส่วนที่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถ
00:22:29 → 00:22:32 ย่อยได้ซึ่งก็คือพวกใหญ่อาหารต่างๆแล้ว
00:22:32 → 00:22:34 มันแค่ไม่ได้กินเฉยๆนะครับเมื่อมันกิน
00:22:34 → 00:22:36 ใหญ่อาหารเข้าไปแล้วย่อยหรือผู้ใช้ว่า
00:22:36 → 00:22:39 หมักนะครับยาหาเรานี่เสร็จแล้วเนี่ยมันจะ
00:22:39 → 00:22:41 ปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมาซึ่งก็คือเป็น
00:22:41 → 00:22:43 ของเสียของจุลินทรีย์ท่าที่แบบนี่มันจะ
00:22:43 → 00:22:45 เหมือนกับมูลสัตว์มันจะทำหน้าที่เป็นตัว
00:22:45 → 00:22:48 ใหญ่กับต้นไม้ซึ่งสิ่งสารเคมีเราเนี่ยก็
00:22:48 → 00:22:51 จะมีประโยชน์กับร่างกายของเราประโยคที่ 4
00:22:51 → 00:22:53 นะครับจุลินทรีย์เราเนี่ยมันช่วยควบคุมนะ
00:22:53 → 00:22:55 ครับระบบเผาผลาญของร่างกายมนุษย์นะครับ
00:22:55 → 00:22:58 ซึ่งก็คือปัจจัยที่เราคุยกันไปว่ามันทำ
00:22:58 → 00:23:00 ให้คนเดียวสามารถอ้วนก็พร้อมก็ได้นะครับ
00:23:00 → 00:23:02 และที่เราจะได้เห็นกันต่อไปนะครับก็คือ
00:23:02 → 00:23:04 เราจะพบว่าถ้าเรามีการถ่ายโอนรินซีนะครับ
00:23:04 → 00:23:07 จากหนูตัวหนึ่งที่อ้วนมาให้หนูจะพอเนี่ย
00:23:07 → 00:23:08 มันจะมาทำให้หนูที่พร้อมอ้วนขึ้นได้แล้ว
00:23:08 → 00:23:11 เปลี่ยนจากหัวที่ขั้วเนี่ยให้ผอมได้ด้วย
00:23:11 → 00:23:14 การถ่ายโอนจุลินทรีย์ประโยชน์ข้อที่ 5 นะ
00:23:14 → 00:23:16 ครับอาจจะได้ว่าจุนสิเราเนี่ยมันทำหน้า
00:23:16 → 00:23:18 ที่เหมือนเป็นคนเป็นติวเตอร์นะครับให้กับ
00:23:18 → 00:23:21 ระบบภูมิคุ้มกันของเราก็คือว่ามันจะคอย
00:23:21 → 00:23:23 ควบคุมให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราเนี่ยทำ
00:23:23 → 00:23:25 งานอยู่ในระดับที่พอเหมาะแต่ถ้า
00:23:25 → 00:23:28 จุลินทรีย์มันเสียสมดุลไปนะครับมันก็จะทำ
00:23:28 → 00:23:31 ให้ระบบพู่กันต่างๆของเราเนี่ยทำงานใน
00:23:31 → 00:23:33 ระดับที่ไม่ค่อยเหมาะสมซึ่งนำไปสู่โรค
00:23:33 → 00:23:35 ต่างๆที่เราคุ้นเคยกันอย่างที่ว่านะครับ
00:23:35 → 00:23:38 ก็คือโรคภูมิแพ้โรคพื้นนะครับหรือว่าโรค
00:23:38 → 00:23:40 ที่ภูมิคุ้มกันของเราเนี่ยทำร้ายร่างกาย
00:23:40 → 00:23:43 ของเราเองนะครับเช่นพวกโรคลำไส้อักเสบนะ
00:23:43 → 00:23:44 ครับประโยชน์ข้อนี้นะครับผมจุลินทรีย์
00:23:44 → 00:23:46 เดี๋ยวมันยังอธิบายปรากฏการณ์ที่เราเห็น
00:23:46 → 00:23:49 ได้บ่อยนะครับก็คือว่าเมื่อผู้คนจาก
00:23:49 → 00:23:52 ประเทศนะครับที่ย้ายจากประเทศที่ระบบ
00:23:52 → 00:23:54 สาธารณสุขมูลฐานไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ไป
00:23:54 → 00:23:57 อยู่ประเทศที่เจริญมากกว่าครับเช่นจากทาง
00:23:57 → 00:24:00 เอเชียนะครับจากทางอินเดียปฏิสารยายอาเม
00:24:00 → 00:24:03 ริกาและทางยุโรปเนี่ยจะเพราะว่าคนคนนี้
00:24:03 → 00:24:05 เนี่ยมีความเสี่ยงของโรคอ๋อหลายๆโรคเพิ่ม
00:24:05 → 00:24:08 มากขึ้นนะครับโดยจะเรื่องของโรคภูมิแพ้นะ
00:24:08 → 00:24:11 ครับโรคแพ้ภูมิตัวเองต่างนะครับประโยชน์
00:24:11 → 00:24:13 ข้อที่ 6 นะครับจะเรียกว่ามันมีชื่อเรียก
00:24:13 → 00:24:15 ว่าเป็นกัดเป็น access นะครับกัดเนี่ยที่
00:24:15 → 00:24:19 แปลว่าลำไส้นะครับส่วนเบรกก็คือสมองก็คือ
00:24:19 → 00:24:22 ว่าว่ามันเป็นระบบที่ลำไส้ของเราเนี่ย
00:24:22 → 00:24:23 หรือจุลินทรีย์ในลำไส้ของเราเนี่ยสามารถ
00:24:23 → 00:24:26 ที่จะสื่อสารกับสมองของเราได้โดยตรงโดย
00:24:26 → 00:24:29 การสื่อสารผ่านเช่นภาษาที่ชื่อว่า Vegas
00:24:29 → 00:24:32 เดิมนะครับซึ่งเป็นเส้นภาษาที่วิ่งจากลำ
00:24:32 → 00:24:34 ใส้ในคลื่นที่สมองนะครับจากรับสมองเรามา
00:24:34 → 00:24:36 ที่ลำไส้แล้วถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่
00:24:36 → 00:24:38 เกิดขึ้นภายในทางเดินอาหารนะครับเช่นการ
00:24:38 → 00:24:40 เป็นไปของจุลินทรีย์นะครับมันก็จะสามารถ
00:24:40 → 00:24:43 มีผลกระทบไปที่สมัครได้โดยตรงซึ่งเดี๋ยว
00:24:43 → 00:24:45 เราจะได้คุยเรื่องนี้ก็ในพี่โสดหลังนะ
00:24:45 → 00:24:46 ครับที่เราจะคุยกันไปแล้วตรงนี้มันก็จะ
00:24:46 → 00:24:48 อธิบายนะครับว่าทำไมชุดอินทรีย์ในเธอเดิน
00:24:48 → 00:24:51 อาหารเนี้ยมันสามารถมีผลต่ออารมณ์ของ
00:24:51 → 00:24:53 มนุษย์ได้นะครับหรือว่ามีผลต่อความเครียด
00:24:53 → 00:24:55 ความวิตกกังวลนะครับหรือว่ามีผลต่อโรคซึม
00:24:55 → 00:24:58 เศร้าแต่ที่เราคุยจะไปเกาะหน้านะครับแล้ว
00:24:58 → 00:25:00 ไปเคลียร์ในลำไส้ในมันยังเกี่ยวข้องกับ
00:25:00 → 00:25:03 และก็จะบอกหลายโรคด้วยเช่นโรคออทิสติกใน
00:25:03 → 00:25:05 เด็กนะครับหรือว่าโรคพาร์กินสันซึ่ง
00:25:05 → 00:25:08 เดี๋ยวเราจะได้คุยกันต่อไปโอเคก็สำหรับ
00:25:08 → 00:25:10 อภิศรนี้นะครับก็เหมือนกับผมว่าภาพของ
00:25:10 → 00:25:12 kwan ครับภาพใหญ่เห็ดนะครับว่าสิ่งที่
00:25:12 → 00:25:15 เร็วเรียกว่า Micro Bio เนี่ยมันมีความ
00:25:15 → 00:25:17 สำคัญยังไงนะครับกับร่างกายของมนุษย์แล้ว
00:25:17 → 00:25:19 มันน่าตื่นเต้นยังไงนะครับเราถ้ามันมี
00:25:19 → 00:25:22 ภาวะที่เสียสมดุลไปนะครับหรือว่าเกิดการ
00:25:22 → 00:25:25 เปลี่ยนแปลงไปเนี้ยมันจะนำไปสู่ปัญหาต่าง
00:25:25 → 00:25:27 ๆที่นำไปสู่พวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ยัง
00:25:27 → 00:25:31 ไงที่นี่เวลาผมพูดคำว่าเกิดการเปลี่ยน
00:25:31 → 00:25:33 แปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้หรือว่าเกิดการ
00:25:33 → 00:25:36 ชำรุดไปเนี่ยคำถามก็คือว่าไอ้ที่ว่า
00:25:36 → 00:25:38 เปลี่ยนมันเปลี่ยนอะไรนะครับเป็นจากหน้า
00:25:38 → 00:25:41 ตาแบบไหนเป็นหน้าตาแบบไหนหรือแบบไหนที่
00:25:41 → 00:25:43 เรียกว่าเสียสมดุลนะครับและวิถีชีวิตที่
00:25:43 → 00:25:45 เราใช้อยู่ทุกวันนี้ที่เรากินอาหารที่เรา
00:25:45 → 00:25:48 คุ้นเคยกันนะครับมันเป็นมีผลเสียต่อทุนซี
00:25:48 → 00:25:51 ได้ลำไส้เราได้ยังไงคำตอบเหล่านี้นะครับ
00:25:51 → 00:25:52 เรายังไม่คุยในส่วนนี้นะครับแต่เราจะไป
00:25:52 → 00:25:55 คุยกันต่อในส่วนหน้านะครับแล้วก็ได้เวลา
00:25:55 → 00:25:56 แล้วนะครับที่เรามาทำความรู้จักกับผู้
00:25:56 → 00:25:59 สนับสนุน series 2 เรานี้นะครับบริษัทมด
00:25:59 → 00:26:02 กัดนะแต่บริษัทรถการนะครับเป็นบริษัทที่
00:26:02 → 00:26:04 ก่อตั้งขึ้นโดยนักวิจัยนะครับเป็นชิ้นนะ
00:26:04 → 00:26:06 คะยศาสตร์ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี
00:26:06 → 00:26:08 Micro Bio นะครับจากมหาวิทยาลัย
00:26:08 → 00:26:11 เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีบางมดนะครับ
00:26:11 → 00:26:13 โดยทางทีมของนักเรียนศาสตร์ของ
00:26:13 → 00:26:16 มหาวิทยาลัยนะครับของบางบอนนะครับร่วมมือ
00:26:16 → 00:26:19 กับภาคเอกชนก็คือบริษัทไบโอเทค Global
00:26:19 → 00:26:21 Survey ชั่นนะครับตั้งเป็นบริษัทใหม่
00:26:21 → 00:26:23 ขึ้นมานะครับแล้วก็ให้ชื่อว่าเป็นบริษัท
00:26:23 → 00:26:27 มดกัดนะครับเขาหมดเนี่ยมาจากคำว่าบางมดนะ
00:26:27 → 00:26:29 ครับสกัดนะครับจะอยู่ที่กัดเนี่ยเป็นคำใน
00:26:29 → 00:26:31 ภาษาอังกฤษนะครับที่นิยมใช้ในทางการแพทย์
00:26:31 → 00:26:35 จะมีความหมายว่าลำไส้จะนี่บริษัทมดกัดทำ
00:26:35 → 00:26:37 อะไรนะครับทางวัดการ์ดเนี่ยก็คือเปิดให้
00:26:37 → 00:26:38 บริการนะครับตรวจแล้วก็วิเคราะห์
00:26:38 → 00:26:42 จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไปเพื่อให้คน
00:26:42 → 00:26:44 ที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณเนี้ยได้รู้ว่า
00:26:44 → 00:26:46 สภาวะของจุลินทรีย์นำไส้ของตัวเองเนี่ย
00:26:46 → 00:26:50 อยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับท่านไหนนะครับที่
00:26:50 → 00:26:52 สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม
00:26:52 → 00:26:54 เกี่ยวกับบริษัทมดกัดนะครับเช่นประโยชน์
00:26:54 → 00:26:56 ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไรบ้างนะครับ
00:26:56 → 00:26:58 แล้วก็ในการตรวจยังมีรายละเอียดอะไรบ้าง
00:26:58 → 00:27:00 ยังไงบ้างนะครับ
00:27:00 → 00:27:02 แต่ว่าขั้นตอนในการตรวจนั้นมันมีราย
00:27:02 → 00:27:04 ละเอียดอะไรบ้างผมจะแปะลิงค์ไว้ได้จะ
00:27:04 → 00:27:06 แคปชั่นนะครับหรือว่าเอาไว้ในช่อง
00:27:06 → 00:27:08 คอมเม้นต์นะครับใครสนใจในก็ลองติดต่อไป
00:27:08 → 00:27:11 คุยเพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะว่าเขาบอก
00:27:11 → 00:27:13 ความรู้ทางด้านนี้มันเปลี่ยนเร็วมากนะ
00:27:13 → 00:27:15 ครับท่านที่มาดูคลิปเนี่ย 3 เดือน 6
00:27:15 → 00:27:17 เดือนแล้วว่าปีหนึ่งจากที่ผมโพสหรือว่าลง
00:27:17 → 00:27:19 คลิปไว้เนี่ยอาจจะมีความรู้ใหม่ๆเนี้ยที่
00:27:19 → 00:27:23 ต่างไปจากเดิมในออกมามากมายนะครับถ้าสนใจ
00:27:23 → 00:27:26 ก็ลองติดต่อดูนะครับมดกัดนะครับสิ่งเล็กๆ
00:27:26 → 00:27:29 ที่สร้างให้ชีวิตเราต่างกันสำหรับวันนี้
00:27:29 → 00:27:31 ผมขอลาไปเกาะนะครับและเรามาพบกันใหม่ใน
00:27:31 → 00:27:33 ส่วนหน้านะครับในซีรีส์ของในเข้าไปโอม
00:27:33 → 00:27:48 ส่วนดีครับอ่ะ
00:27:48 → 00:27:51 [เพลง]