00:00:00 → 00:00:00 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:03 ฝนนี้ต้องระวังไข้เลือดออกและโรคที่มียุง
00:00:03 → 00:00:04 เป็น
00:00:04 → 00:00:07 พาหะรู้จักสัญญาณเตือนโรคไข้เลือดออกก่อน
00:00:07 → 00:00:09 สายเกิน
00:00:09 → 00:00:13 แก้เป็นไข้เลือดออกห้ามซื้อยาลดไข้กลุ่ม
00:00:13 → 00:00:16 เอเซตกินเองเสี่ยงเสียชีวิตได้ติดตาม
00:00:16 → 00:00:20 เรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ TNN Health
00:00:20 → 00:00:21 วัน
00:00:21 → 00:00:22 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:26 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่ราย
00:00:26 → 00:00:29 การ tn and Health เข้าถึงทุกสาระ
00:00:29 → 00:00:32 สุขภาพเภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ tn นะ
00:00:32 → 00:00:36 คะและดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงสัตว์ดาวจัง
00:00:36 → 00:00:40 วังกรแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัว
00:00:40 → 00:00:42 พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
00:00:42 → 00:00:47 พาคุณผู้ชมมาเข้าถึงทุกสาระสุขภาพ
00:00:47 → 00:00:52 [เพลง]
00:00:52 → 00:00:56 กันหน้าฝนแบบนี้นะคะมีหลายโรคที่คุณผู้ชม
00:00:56 → 00:00:58 ต้องเฝ้าระวังนะคะไม่ว่าจะเป็นโรคของระบบ
00:00:58 → 00:01:02 ทางเดินหายใจรวมไปถึงโรคไข้เลือดออกด้วย
00:01:02 → 00:01:05 แต่ก่อนที่เราจะไปลงลึกในเรื่องของโรคไข้
00:01:05 → 00:01:08 เลือดออกนะคะเรามารู้กันดีกว่าว่ามีโรค
00:01:08 → 00:01:12 อะไรบ้างที่มียุงเป็นพาหะค่ะยุงเป็นพาหะ
00:01:12 → 00:01:15 นำโรคอันตรายที่เราควรระวังและป้องกันให้
00:01:15 → 00:01:19 ดีซึ่งยุงที่เป็นพาหะได้แก่ 1 ยุงลายบ้าน
00:01:19 → 00:01:23 2 ยุงลายสวน 3 ยุงก้นปล่อง 4 ยุงรำคาญ 5
00:01:24 → 00:01:27 ยุงเสือและโรคที่มียุงเป็นพาหะได้แก่โรค
00:01:27 → 00:01:31 ชิกุกุนย่าเกิดจากเชื้อไวรัสชิกุกุนย่า
00:01:31 → 00:01:34 หรือโรคไข้ปวดข้อมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
00:01:34 → 00:01:37 ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามข้อโดยเฉพาะบริเวณ
00:01:37 → 00:01:41 ข้อนิ้วมือและข้อมือปัจจุบันไม่มียารักษา
00:01:41 → 00:01:44 จำเพาะจึงรักษาไปตามอาการรวมถึงยังไม่มี
00:01:45 → 00:01:49 วัคซีนป้องกันโรคไข้ซิก้าเกิดจากเชื้อ
00:01:49 → 00:01:52 ไวรัสซิก้าโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคผู้
00:01:53 → 00:01:56 ป่วยจะมีผืนขึ้นตามตัวปวดหัวปวดข้อปวดตา
00:01:56 → 00:01:59 และปวดกล้ามเนื้อยิงตั้งครรภ์หากเป็นโรค
00:01:59 → 00:02:03 โคนี้อาจทำให้เด็กเกิดมามีศีรษะเล็กกว่า
00:02:03 → 00:02:07 ปกติโรคไข้มาลาเรียเกิดจากเชื้อปรสิทธิ์
00:02:07 → 00:02:10 พลาสโมเดียมโดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำ
00:02:10 → 00:02:13 โรคพบได้มากบริเวณป่าและชายแดนผู้ป่วยจะ
00:02:13 → 00:02:17 มีอาการไข้สูงหนาวสั่นปวดหัวคลื่นไส้
00:02:17 → 00:02:20 อาเจียนอ่อนเพลียคล้ายเป็นหวัดแต่รุนแรง
00:02:20 → 00:02:23 กว่าปัจจุบันมียากินป้องกันก่อนเข้าพื้น
00:02:23 → 00:02:26 ที่เสียงโรคไข้สมองอักเสบอาจเกิดจากเชื้อ
00:02:26 → 00:02:29 ไวรัสได้หลายชนิดส่วนมากพบโรคนี้ในเด็ก
00:02:29 → 00:02:33 อายุ 5-10 ปีและพบการแพร่ระบาดในภาคเหนือ
00:02:33 → 00:02:37 ช่วงฤดูฝนมากกว่าภาคอื่นๆระยะฟักตัวของ
00:02:37 → 00:02:41 โรคประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากถูกยุงที่มี
00:02:41 → 00:02:44 เชื้อกัดสาเหตุส่วนมากที่พบในประเทศไทย
00:02:44 → 00:02:47 เกิดจากเชื้อไวรัส J หรือ japanes
00:02:47 → 00:02:52 encephalitis พาหะนำโรคคือยุงรำคาญและ
00:02:52 → 00:02:56 โรคเท้าช้างเกิดจากหนอนพยาธิฟิลาเรียอุด
00:02:56 → 00:02:59 ทางเดินน้ำเหลืองโดยมียุงลายเสือเป็นพาห
00:02:59 → 00:03:03 นำโรคจนเกิดอาการบวมบริเวณขวาทำให้มีขนาด
00:03:03 → 00:03:07 ใหญ่และผิดรูปคล้ายเท้าช้างอาการบวมในผู้
00:03:07 → 00:03:11 ชายสามารถลามขึ้นมาถึงบริเวณอันทะ
00:03:11 → 00:03:15 ได้ทั้งนี้ค่ะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานะคะ
00:03:15 → 00:03:18 กรมควบคุมโรคได้ออกประกาศค่ะให้เตือนใน
00:03:18 → 00:03:21 เรื่องของโรคไข้เลือดออกและมาลาเรียว่าจะ
00:03:21 → 00:03:25 มีอุบัติการณ์ที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2566
00:03:25 → 00:03:30 ค่ะนายแพทย์โอากกวินพงศ์ปลัดกระวง
00:03:30 → 00:03:32 สาธารณสุขกล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือด
00:03:33 → 00:03:36 ออกโดยคาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีผู้
00:03:37 → 00:03:40 ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้นหลังพบว่า
00:03:40 → 00:03:42 ตั้งแต่เดือนมกราคม
00:03:42 → 00:03:45 2566 พบผู้ป่วยสะสม
00:03:45 → 00:03:50 1,650 คนสูงกว่าปีที่ผ่านมาหลายเท่าตัว
00:03:50 → 00:03:52 จากเดิมในปี
00:03:52 → 00:03:55 2562 พบการระบาดสูงและการระบาดลดลงใน
00:03:56 → 00:03:59 ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก่อนกลับมาระบาดอีก
00:03:59 → 00:04:03 ครั้งในปีนี้ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 17 คน
00:04:03 → 00:04:07 แบ่งเป็นผู้ชาย 7 คนผู้หญิง 10 คนในจำนวน
00:04:07 → 00:04:10 นี้ผู้เสียชีวิตอายุน้อยที่สุด 2 ปีและ
00:04:10 → 00:04:14 อายุมากที่สุด 51 ปีปัจจัยการเสียชีวิต
00:04:14 → 00:04:17 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุคนที่มีโรคประจำ
00:04:17 → 00:04:21 ตัวมีภาวะอ้วนรวมถึงการวินิจฉัยที่ล่าช้า
00:04:21 → 00:04:25 และแนวโน้มการป่วยพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
00:04:25 → 00:04:28 ส่วนปัจจัยสำคัญในการแพร่ระบาดของไข้
00:04:28 → 00:04:31 เลือดออกคือแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
00:04:31 → 00:04:35 กระทรวงสาธารณสุขจึงกำชับให้สาธารณสุข
00:04:35 → 00:04:38 จังหวัดสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายโดย
00:04:38 → 00:04:42 เฉพาะวัดโรงเรียนสถานที่ราชการและโรงงาน
00:04:42 → 00:04:45 สำหรับจังหวัดที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก
00:04:45 → 00:04:48 สูงในช่วง 4 สัปดาห์ล่าสุดมี 5 จังหวัด
00:04:48 → 00:04:52 แรกที่พบผู้ป่วยสูงได้แก่น่านตราชชุมพร
00:04:52 → 00:04:55 จันทบุรีและตากส่วน 10 จังหวัดพื้นที่
00:04:55 → 00:05:00 เสี่ยงระบาดได้แก่ตากปทุมธานีสมุทรปราการ
00:05:00 → 00:05:04 กรุงเทพมหานครจันทบุรีตราชภูเก็ตสงขลา
00:05:04 → 00:05:08 นราธิวาสและสตูลซึ่งกรมควบคุมโรคได้แนะนำ
00:05:08 → 00:05:11 ให้พื้นที่ดังกล่าวจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติ
00:05:11 → 00:05:15 การฉุกเฉินโรคให้เลือดออกสนับสนุนโดยแอป
00:05:15 → 00:05:21 หมอดีหมอประจำบ้านในมือ
00:05:21 → 00:05:28 [เพลง]
00:05:28 → 00:05:29 คุณ
00:05:29 → 00:05:31 [เพลง]
00:05:31 → 00:05:34 สวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะ
00:05:34 → 00:05:37 คะสำหรับคำถามแรกค่ะอาจารย์อุบัติการณ์
00:05:37 → 00:05:39 ของโรคไข้เลือดออกในปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง
00:05:39 → 00:05:42 คะอาจารย์ครับอุบัติการ์ไข้เลือดออกของปี
00:05:42 → 00:05:45 นี้นะครับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงประมาณ
00:05:45 → 00:05:49 เดือนเมษายนนะครับปี 2566 ก็มีคนเป็นไข้
00:05:49 → 00:05:51 เลือดออกไปแล้วประมาณ 10,000 คนนะครับ
00:05:51 → 00:05:53 เสียชีวิตทั้งหมด 11 คนนะครับข้อมูลจาก
00:05:53 → 00:05:56 กรมควบคุมโลกกระทรวงสาธารณสุขนะครับแล้ว
00:05:56 → 00:06:00 ก็แนวโน้มอ่าส่วนใหญ่จะมีมากในช่วงฤดูฝน
00:06:00 → 00:06:02 นะครับก็คือตั้งแต่ช่วงพฤษภาคมเป็นต้นไป
00:06:02 → 00:06:05 จนถึงต้นฤดูหนาวนะครับก็ประมาณสัก 4
00:06:05 → 00:06:07 เดือนนะครับแต่ว่าไข้เลือดออกจริงๆแล้ว
00:06:07 → 00:06:09 เนี่ยเอ่อเป็นได้ตลอดทั้งปีเลยนะครับไม่
00:06:09 → 00:06:12 ได้จำกัดแค่ฤดูฝนแต่จะมีเคสมากแค่ช่วงฤดู
00:06:12 → 00:06:15 ฝนอย่างเดียวฮะแล้วไข้เลือดออกเกิดขึ้น
00:06:15 → 00:06:17 ได้อย่างไรคะอาจารย์ครับไ่าเลดออกนะครับ
00:06:18 → 00:06:21 เกิดจากไวรัสนะครับซึ่งติดต่อผ่านโดยยุง
00:06:21 → 00:06:24 นะครับยุงก็คือยุงลายนะครับที่ติดเชื้อ
00:06:24 → 00:06:27 เนี่ยมาเมื่อมากัดคนแล้วตัวเชื้อไข้เลือด
00:06:27 → 00:06:29 ออกเนี่ยไวรัสไข้เลือดออกเนี่ยก็จะเข้าไป
00:06:29 → 00:06:32 สู่เม็ดเลือดขาวของคนนะครับพอเข้าไปสู่
00:06:32 → 00:06:34 เม็ดเลือดขาวของคนแล้วมันก็จะไปแพร่เชื้อ
00:06:34 → 00:06:37 อยู่ในพวกพวกเม็ดเลือดขาวแล้วก็พวกเซลล์
00:06:37 → 00:06:41 ของหลอดเลือดพวกนี้ครับทำให้มีปฏิกิริยา
00:06:41 → 00:06:44 ต่อภูมิคุ้มกันพวกเครับทำให้เซลล์พวกผนัง
00:06:44 → 00:06:46 หลอดเลือดเนี่ยมันถูกทำลายหรือว่าผิดปกติ
00:06:46 → 00:06:49 ไปก็เลยทำให้มีเลือดออกมาจากเส้นเลือดได้
00:06:49 → 00:06:51 เเลยเรียกว่าเป็นไข้เลือดออกอ่ะครับ
00:06:51 → 00:06:53 อาจารย์ขาไข้เลือดออกนั้นมีกี่สายพันธุ์
00:06:53 → 00:06:55 คะแล้วคนไทยมักเป็นสายพันธุ์อะไรมากที่
00:06:55 → 00:06:58 สุดคะอาจารย์ครับไข้เลดออกมีทั้งหมด 4
00:06:58 → 00:07:01 สายพันธุ์นะครับใช้ชื่อย่อว่า Den นะครับ
00:07:01 → 00:07:03 แต่ละสายพันธุ์ก็ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่ 1
00:07:03 → 00:07:07 ก็ Den 1 จนถึงสายพันธุ์ที่ 4 คือ Den 4
00:07:07 → 00:07:10 นะครับซึ่งคนไทยนะครับส่วนใหญ่จะเป็นสาย
00:07:10 → 00:07:12 พันธุ์ที่ 2 นะครับในภูมิภาคเอเชียตะวัน
00:07:12 → 00:07:14 ออกเฉียงใต้นะครับจะเป็นสายพันธุ์ที่ 2
00:07:14 → 00:07:17 ซะส่วนใหญ่แต่ว่ามันอาจจะมีการเปลี่ยนของ
00:07:17 → 00:07:19 สายพันธุ์ได้เ้าเรียกว่าซีโร type ครับ
00:07:19 → 00:07:21 สายพันธุ์ภาษาอังกฤษเค้าเรียกีร type ก็
00:07:21 → 00:07:24 อาจจะมีการเปลี่ยนกันได้ระหว่างสายพันธุ์
00:07:24 → 00:07:27 อาจจะเป็นช่วงไม่กี่ประมาณสัก 10 ปีที่
00:07:27 → 00:07:31 ผ่านมาเป็นช่วงที่สายพันธุ์ที่ 2 มีจำนวน
00:07:31 → 00:07:34 มากนะครับแต่ว่าก่อนหน้านี้ประมาณสัก 15
00:07:34 → 00:07:36 ปีที่แล้วอะไรแบบนี้ก็จะเป็นสายพันธุ์ที่
00:07:36 → 00:07:39 1 ที่จะเด่นนะครับแต่ว่าหลักหลักๆก็คือ
00:07:39 → 00:07:41 เอเชียวันออกเฉียงใต้จะเป็นสายพันธุ์ที่ 2
00:07:41 → 00:07:43 ครับอาจารย์ขาแล้วสายพันธุ์ไหนมีอาการ
00:07:43 → 00:07:46 รุนแรงมากที่สุดคะสายพันธุ์ค่าเลออกที่
00:07:46 → 00:07:49 รุนแรงมากสุดนะครับเ่อจริงๆแล้วทุกสาย
00:07:49 → 00:07:51 พันธุ์ทั้ง 4 สายพันธุ์เนี่ยมีความรุนแรง
00:07:51 → 00:07:53 ในการก่อโลกได้เท่ากันนะครับไม่มีความแตก
00:07:53 → 00:07:57 ต่างกันแต่ว่ามันจะมีความแตกต่างกันตรง
00:07:57 → 00:07:59 ที่การติดเชื้อครั้งที่ 2 นะครับเ่อการ
00:08:00 → 00:08:02 ศึกษารายงานมาก่อนหน้าเยเพบว่าถ้าสมมุติ
00:08:02 → 00:08:05 ว่าติดเชื้อครั้งที่ 2 เป็นสายพันธุ์ที่ 2
00:08:05 → 00:08:10 นะครับจะทำให้มีการเกิดโรครุนแรงกว่าสาย
00:08:10 → 00:08:13 พันธุ์อื่นๆนะครับบุคคลกลุ่มไหนคะอาจารย์
00:08:13 → 00:08:15 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นไข้เลือดออก
00:08:15 → 00:08:18 แล้วมีโอกาสเสียชีวิตได้คะกลุ่มเสียงที่
00:08:18 → 00:08:21 จะเป็นไข้เลือดออกนะครับจากการศึกษาการ
00:08:21 → 00:08:25 รายงานของกรมควบคุมโลกนะครับของประเทศไทย
00:08:25 → 00:08:27 เนาะช่วงปีเยครับกลุ่มเสียงก็คือเป็น
00:08:27 → 00:08:30 กลุ่มที่อายุ 15-2 4 ปีแล้วก็อาศัยอยู่
00:08:30 → 00:08:33 ในภาคใต้ครับเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมาก
00:08:33 → 00:08:36 สุดอาจารย์คะอาการของไข้เลือดออกนั้นเป็น
00:08:36 → 00:08:40 อย่างไรบ้างคะแล้วมีกี่ระยะคะเราจะมีวิธี
00:08:40 → 00:08:43 ในการสังเกตอาการแต่ละระยะอย่างไรบ้างคะ
00:08:43 → 00:08:45 ค่ะอาการของไข้เลือดออกนะครับส่วนใหญ่ก็
00:08:45 → 00:08:49 จะช่วง 3-7 วันแรกนะครับเกเจะเรียกว่า
00:08:49 → 00:08:52 เป็นภาวะไข้นะครับก็จะมีอาการไข้สูงนะ
00:08:52 → 00:08:56 ครับอาจจะมีผื่นตามตัวได้บ้างนะครับผื่น
00:08:56 → 00:08:58 ก็จะเป็นแบบผื่นจุดเล็กๆหรือผื่นจุดเลือด
00:08:58 → 00:09:00 ออกเป็นจำจ้ำพวกนี้เล็กๆนะครับแล้วก็หลัก
00:09:00 → 00:09:03 ๆเลยก็จะมีอาการปวดนะครับก็มี 4 ปวดได้
00:09:03 → 00:09:06 แก่ปวดกระบอกตาปวดศีรษะนะครับปวดกล้าม
00:09:06 → 00:09:08 เนื้อแล้วก็รู้สึกเหมือนปวดกระดูกนะครับ
00:09:08 → 00:09:11 อันนี้คืออาการที่ส่วนคนส่วนใหญ่จะมีแล้ว
00:09:11 → 00:09:14 ก็มาพบแพทย์นะครับเครื่องัดออกมี 3 ระยะ
00:09:14 → 00:09:17 ครับก็คือระยะไข้ครับเป็นประมาณ 3-7 วัน
00:09:17 → 00:09:21 นะครับแล้วก็ระยะเ่อวิกฤตนะครับประมาณ 48
00:09:21 → 00:09:24 ชม 12 -48 ชมนะครับแล้วก็หลังจากนั้นก็
00:09:24 → 00:09:27 จะเป็นระยะฟื้นตัวนะครับระยะฟื้นตัวก็จะ
00:09:27 → 00:09:30 เป็นประมาณซัก 3-5 5 วันประมาณเนี้ยครับ
00:09:30 → 00:09:33 แต่ว่าระยะที่น่ากังวลก็คือระยะวิกฤตนะ
00:09:33 → 00:09:36 ครับเพราะว่าจะเป็นช่วงที่ของเหลวในเส้น
00:09:36 → 00:09:38 เลือดเมันจะรั่วออกมาจากเอ่อเส้นเลือดได้
00:09:38 → 00:09:42 นะครับช่วง 48 ช่วโมงเนี้ยทำให้อาจจะต้อง
00:09:42 → 00:09:44 ถ้าไม่สามารถมาติดตามอาการที่โรงพยาบาล
00:09:44 → 00:09:47 ได้หรือว่าอะไรพวกเนี้ยหรือมีปัจจัย
00:09:47 → 00:09:49 เสี่ยงในการที่จะเป็นโรครุนแรงได้ก็เลยเ
00:09:50 → 00:09:53 เลยแนะนำให้ช่วงเนี้ย 48 ชมเยให้มา admit
00:09:53 → 00:09:56 ที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะมอนิเตอร์พวก
00:09:56 → 00:09:58 สัญญาณชีพต่างๆนะครับแล้วก็อาจจะต้องมี
00:09:58 → 00:10:01 การให้พวกสารน้ำทดแทนป้องกันภาวะช็อกที่
00:10:01 → 00:10:03 เกิดขึ้นได้ส่วนระยะสุดท้ายคือระยะฟื้น
00:10:03 → 00:10:07 ตัวก็คือช่วงที่คนไข้จะเริ่มทานอาหารได้
00:10:07 → 00:10:10 จะมีผื่นคันตามตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ
00:10:11 → 00:10:13 การว่าอันเนี้ยโรคเยหายแล้วเป็นผื่นที่จะ
00:10:13 → 00:10:15 รู้สึกคันมากๆแล้วก็ปัสสาวะเริ่มออกนะ
00:10:15 → 00:10:19 ครับเพราะว่าปริมาณน้ำน้ำในหลอดเลือด
00:10:19 → 00:10:21 เนี่ยมันกลับเข้ามาสู่ปกติแล้วนะครับแล้ว
00:10:21 → 00:10:25 ก็หัวใจเต้นช้าลงยนสู่ภาวะปกติครับอาการ
00:10:25 → 00:10:29 ขาดน้ำเกิดจากอันแรกก็คือคนไข้เนี่ยอุณม
00:10:29 → 00:10:31 มันสูงขึ้นนะครับอาจจะต้องมีการเผาผลาญ
00:10:31 → 00:10:33 มากขึ้นก็เลยทำให้ใช้น้ำมากขึ้นอย่างแรก
00:10:33 → 00:10:36 นะครับอย่างที่ 2 ก็คือคนไข้ไม่ค่อยอยาก
00:10:36 → 00:10:38 จะทานอาหารเท่าไหร่รู้สึกไม่มีความอยาก
00:10:38 → 00:10:41 อาหารลดจะลดการทานน้ำนะครับแล้วก็อย่าง
00:10:41 → 00:10:43 ที่ 3 เลยหลักๆเลยที่มีภาวะขัดน้ำก็คือ
00:10:43 → 00:10:46 อย่างที่ว่าไปคือหลอดเลือดเนี่ยมันเ่อมี
00:10:46 → 00:10:49 ความผิดปกติมันขยายตัวหรือว่าผนังลอเลือด
00:10:49 → 00:10:51 มันผิดปกติจากเอ่อภูมิคุ้นกันของร่างกาย
00:10:51 → 00:10:54 ต่อไวรัสนะครับมันเลยทำให้มีเลือดหรือว่า
00:10:54 → 00:10:56 ของเหลวที่อยู่ในเส้นเลือดเนี่ยมันรั่ว
00:10:56 → 00:10:58 ออกมาจากเส้นรั่วออกมาจากเส้นเลือดนะครับ
00:10:58 → 00:11:00 ทำให้ปริมาณเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดน่ะ
00:11:00 → 00:11:03 มันน้อยลงทำให้เกิดภาวะช็อกได้ครับ
00:11:03 → 00:11:06 อาจารย์คะแล้วอาการของไข้เลือดออกไข้หวัด
00:11:06 → 00:11:09 ใหญ่รวมถึงโควิดนั้นมีอาการแตกต่างกัน
00:11:09 → 00:11:13 อย่างไรคะ 3 ตัวเนะครับเป็นเกิดจากเชื้อ
00:11:13 → 00:11:16 ไวรัสเหมือนกันนะครับดังนั้นการรักษา
00:11:16 → 00:11:19 เนี่ยก็เน้นไปที่การรักษาโดยประคับประคอง
00:11:19 → 00:11:23 อาการยาต้านไวรัสต่างๆเนี่ยอาจจะไม่
00:11:23 → 00:11:25 จำเป็นที่จะต้องใช้มากนะครับนอกจากนี้
00:11:25 → 00:11:27 สิ่งที่เหมือนกันนะครับก็คือจะมีเรื่อง
00:11:27 → 00:11:30 ของอาการที่จะมีอาการไข้ได้นะครับหลักๆ
00:11:30 → 00:11:33 เลยก็มีอาการไข้นะครับแต่ว่าข้อแตกต่างนะ
00:11:33 → 00:11:36 ครับส่วนใหญ่ไข้เลือดออกเนี่ยจะไม่ค่อยมี
00:11:36 → 00:11:39 อาการทางระบบทางเดินหายใจอย่างเช่นไอน้ำ
00:11:39 → 00:11:41 มูกมากเท่าไหร่นะครับต่างจากไข้หวัดใหญ่
00:11:41 → 00:11:46 กับโควิดนะครับนอกจากนี้ถ้าเอาชุดตรวจ atk
00:11:46 → 00:11:49 ของโควิดหรือว่าไข้หวัดใหญ่พวกนี้ไปตรวจ
00:11:49 → 00:11:52 ก็จะไม่ขึ้นเชื้อนะครับแล้วก็ไข้เลือดออก
00:11:52 → 00:11:56 เนี่ยจะเน้นไปที่การที่มีผื่นคล้ายๆจ้ำ
00:11:56 → 00:11:59 จุดเลือดออกออกช่วงนี้มากกว่านะนะครับ
00:11:59 → 00:12:02 อาจารย์คะทำไมคนที่เป็นไข้เลือดออกครั้ง
00:12:02 → 00:12:05 ที่ 2 แล้วถึงมีอาการรุนแรงแล้วก็มีแนว
00:12:05 → 00:12:08 โน้มที่จะเสียชีวิตได้คะไข้เลือดออกมันมี
00:12:08 → 00:12:10 4 สายพันธุ์นะครับคนที่ติดเชื้อไปแล้ว 1
00:12:10 → 00:12:12 สายพันธุ์เนี่ยจะมีภูมิคุ้นกันยาวไปตลอด
00:12:12 → 00:12:16 ชีวิตต่อสายพันธุ์นั้นซึ่งทำให้ถ้าสมมติ
00:12:16 → 00:12:18 ถ้าสมมุติว่าคนไข้ติดสายพันธุ์ที่ 1 ไป
00:12:18 → 00:12:20 แล้วก็จะมีโอกาสติดสายพันธุ์ที่ 2 3 4
00:12:20 → 00:12:23 ได้นะครับเพราะฉะนั้นใน 1 ครั้ง 1 ช่วง
00:12:23 → 00:12:25 ชีวิตของคนๆนึงเนี่ยมีโอกาสติดเชื้อไข้
00:12:25 → 00:12:29 เล็ดออกได้ทั้งหมด 4 ครั้งนะครับแต่ว่า
00:12:29 → 00:12:32 การติดเชื้อที่มันจะทำให้มีอาการรุนแรงนะ
00:12:32 → 00:12:36 ครับก็จะต้องติดเชื้อครั้งที่ 2 3 4
00:12:36 → 00:12:38 เนี่ยแตกต่างจากการติดเชื้อสายพันธุ์ของ
00:12:38 → 00:12:40 ครั้งแรกนะครับอย่างเช่นถ้าครั้งแรกติด
00:12:40 → 00:12:42 สายพันธุ์ที่ 1 ครั้งที่ 2 ติดสายพันธุ์
00:12:42 → 00:12:44 ที่ 3 อย่างนี้ก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น
00:12:44 → 00:12:46 นะครับก็จะไม่มีจะไม่มีโอกาสที่จะมาติด
00:12:46 → 00:12:48 สายพันธุ์ที่ 1 ซ้ำอีกครั้งนึงแล้วนะครับ
00:12:48 → 00:12:52 กระบวนการที่ทำให้การติดเชื้อครั้งที่ 2
00:12:52 → 00:12:54 เนี่ยรุนแรงกว่าครั้งแรกนะครับเคมีการ
00:12:54 → 00:12:57 ศึกษาก่อนหน้าเขาบอกว่าเกิดจากการที่ภูมิ
00:12:57 → 00:12:59 คุ้มกันของร่างร่างกายเนี่ยมันไม่สามารถ
00:12:59 → 00:13:02 ที่จะกำจัดเชื้อไข้เลือดออกครั้งที่มาจาก
00:13:03 → 00:13:05 การติดเชื้อครั้งที่ 2 ได้ทั้งหมดนอกจาก
00:13:05 → 00:13:08 นี้ภูมิคุ้มกันพวกเนี้ยมันยังไปส่งเสริม
00:13:08 → 00:13:11 ให้เชื้อไข้เลือดออกของการชจากการติด
00:13:11 → 00:13:13 เชื้อครั้งที่ 2 เนี่ยเข้าไปในเซลล์ของ
00:13:13 → 00:13:15 ร่างกายมากขึ้นทำให้มีการแบ่งตัวของไวรัส
00:13:15 → 00:13:17 มากขึ้นก็เลยทำให้มีการติดเชื้อรุนแรงมาก
00:13:17 → 00:13:20 ขึ้นนะครับเป็นกระบวนการของร่างกายโดย
00:13:20 → 00:13:23 ปกติทั่วไปอาจารย์ขาในเรื่องของวัคซีนไข้
00:13:23 → 00:13:26 เลือดออกเนี่ยค่ะเอ่อมันเหมาะสมกับใคร
00:13:26 → 00:13:28 บ้างคะแล้วมีวิธีการฉีดได้อย่างไรบ้างคะ
00:13:28 → 00:13:30 ครับวัคซีนไข้เลือดออกในประเทศไทยนะครับ
00:13:30 → 00:13:34 ตอนนี้มีอยู่ 2 ชนิดนะครับเป็นวัคซีน
00:13:34 → 00:13:36 เชื้อเป็นทั้งคู่เลยนะครับวัคซีนตัวแรกนะ
00:13:36 → 00:13:40 ครับก็แนะนำให้ฉีดเฉพาะคนที่เคยเป็นไข้
00:13:40 → 00:13:41 เลือดออกมาแล้วครั้งแรกนะครับจุดประสงค์
00:13:41 → 00:13:44 ของวัคซีนตัวชนิดแรกเนี่ยเพื่อที่จะป้อง
00:13:44 → 00:13:47 กันไม่ให้เป็นไข้เลือดออกที่รุนแรงในการ
00:13:47 → 00:13:49 ติดเชื้อครั้งที่ 2 นะครับแนะนำให้ฉีด
00:13:49 → 00:13:52 สำหรับคนที่อายุ 6 ปี -45 ปีนะครับฉีด 3
00:13:52 → 00:13:56 เข็มก็คือเอ่อเดือนที่ 0 ก็คือวันที่ฉีด
00:13:56 → 00:13:58 วันสมมุติว่าฉีดวันนี้นะครับแล้วก็นับนับ
00:13:58 → 00:14:00 ไปอีก 6 เดือนนะครับอีกเข็มนึงแล้วก็นับ
00:14:00 → 00:14:03 ไปอีก 12 เดือนจากวันเนี้ยนะครับฉีดทั้ง
00:14:03 → 00:14:06 หมด 3 เข็มนะครับเอ่อส่วนวัคซีนตัวที่ 2
00:14:06 → 00:14:09 นะครับเป็นวัคซีนเชื้อเป็นเหมือนกันนะ
00:14:09 → 00:14:13 ครับแต่ว่าตัวเนี้ยฉีดสำหรับคนที่อายุ 4-6
00:14:13 → 00:14:16 ปีนะครับฉีดแค่ 2 เข็มห่างกัน 3 เดือนก็
00:14:16 → 00:14:18 คือฉีดวันนี้สมมุติว่าฉีดวันนี้นะครับนับ
00:14:18 → 00:14:20 ไปอีก 3 เดือนก็ฉีดอีกเข็มนึงตัวนี้ไม่
00:14:20 → 00:14:23 ได้จำกัดเฉพาะคนที่เคยเป็นไข้เลือดออกมา
00:14:23 → 00:14:25 ก่อนแล้วนะครับฉีดในคนที่ยังไม่เคยเป็น
00:14:25 → 00:14:29 ค่าเลือดออกเลยก็ได้นะครับดังนั้นเอ่อ
00:14:29 → 00:14:31 สำหรับวัคซีนตัวแรกนะครับที่ต้องต้องเป็น
00:14:31 → 00:14:33 ไข้เลือดออกมาก่อนถึงจะฉีดนะครับอันนี้ก็
00:14:34 → 00:14:36 อาจจะต้องตรวจภูมิก่อนก่อนฉีดวัคซีนนะ
00:14:36 → 00:14:39 ครับว่าเคยเป็นมาก่อนหรือเปล่าถ้าเคยถ้า
00:14:39 → 00:14:40 เคยเป็นมาก่อนเราถึงจะฉีดได้ถ้าไม่เคย
00:14:40 → 00:14:43 เป็นก็ไม่แนะนำให้ฉีดเพราะว่าถ้าสมมุติ
00:14:43 → 00:14:45 ว่าฉีดวัคซีนตัวนั้นไปปุ๊บติดเชื้อไขย
00:14:45 → 00:14:47 เลือดออกอีกครั้งนึงก็อาจจะทำให้มีอาการ
00:14:47 → 00:14:50 รุนแรงได้ต้องต้องตรวจก่อนนะครับโดยเฉพาะ
00:14:50 → 00:14:52 ในเด็กเล็กที่อาจจะไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
00:14:52 → 00:14:55 พวกเครับอาจารย์คะแล้วการป้องกันการเกิด
00:14:55 → 00:14:58 ไข้เลือดออกทำอย่างไรได้บ้างคะครับในช่วง
00:14:58 → 00:15:01 นี้นะครับก็ก็เข้าสู่ฤดูฝนแล้วนะครับอาจ
00:15:01 → 00:15:04 จะมีฝนตกพายุเข้าหรืออะไรพวกนี้นะครับทำ
00:15:04 → 00:15:07 ให้มีแหล่งน้ำขังได้เพราะฉะนั้นลองสังเกต
00:15:07 → 00:15:09 ดูรอบๆบ้านนะครับว่ามีแหล่งน้ำขังอยู่
00:15:09 → 00:15:12 หรือเปล่านะครับถ้ามีแหล่งน้ำขังอยู่ก็เท
00:15:12 → 00:15:14 น้ำออกนะครับหรือว่าถ้าไม่สามารถจะเทน้ำ
00:15:15 → 00:15:16 ออกได้อย่างเช่นมันเป็นบ่ออะไรพวกนี้นะ
00:15:16 → 00:15:20 ครับก็โรยพวกทรายทรายค่าลูกน้ำพวกนี้ใส่
00:15:20 → 00:15:23 ไปในบ่อน้ำก็ได้นะครับหรือว่าอีกวิธีนึง
00:15:23 → 00:15:26 ก็คือเลี้ยงพวกปลาหางนกยุงที่จะช่วยกิน
00:15:26 → 00:15:29 ลูกน้ำอะไรพวกนี้ก็ได้นะครับนอกจากนี้คน
00:15:29 → 00:15:33 ที่อยู่บ้านหรือว่าอาจจะมีการสัมผัสกับ
00:15:33 → 00:15:36 พวกยุงอะไรพวกนี้ได้นะครับก็แนะนำให้ทายา
00:15:36 → 00:15:39 กันยุงอะไรพวกนี้ก็ได้นะครับหรือฉีดยาพวก
00:15:39 → 00:15:42 ไล่ยุงพวกพวกสารไล่ยุงอะไรพวกนี้ประมาณ
00:15:42 → 00:15:45 ซักสัปดาห์ละเดือนละ 1 ครั้งก็โอเคนะครับ
00:15:45 → 00:15:48 หรือว่าคนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆแล้วก็
00:15:48 → 00:15:51 อาจจะมีโอกาสที่จะสัมผัสกับเชื้อไข้เลือด
00:15:51 → 00:15:53 ออกอีกครั้งนึงถูกยุงกัดอีกครั้งนึงก็อาจ
00:15:53 → 00:15:56 จะพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีนได้ครับครับ
00:15:56 → 00:15:59 ถ้าสงสัยว่ามีอาการไข้หรือว่าปวดไม่ตาม
00:15:59 → 00:16:02 ตัวหรือว่าปวดศีรษะพวกนี้หรือว่ามีความ
00:16:02 → 00:16:04 กังวลเรื่องไข้เลือดออกนะครับสามารถที่จะ
00:16:04 → 00:16:06 มาปรึกษาแพทย์ได้ที่แอปพลิเคชันหมอดีได้
00:16:06 → 00:16:09 ตลอด 24 ชมงเลยนะครับขอบพระคุณอาจารย์หมอ
00:16:09 → 00:16:12 จากแอปพลิเคชันหมอดีนะคะที่มาให้ความรู้
00:16:12 → 00:16:14 ความเข้าใจในเรื่องของไข้เลือดออกกับพวก
00:16:14 → 00:16:18 เรากันค่ะสนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำ
00:16:18 → 00:16:20 บ้านในมือ
00:16:20 → 00:16:24 คุณเราจะมาไข้อข้องใจกันว่าทำไมเมื่อ
00:16:25 → 00:16:27 สงสัยภาวะไข้เลือดออกหรือเมื่อเป็นภาวะ
00:16:27 → 00:16:31 ไข้เลือดออกแล้วนะคะต้องระวังห้ามเด็ดขาด
00:16:31 → 00:16:33 ในเรื่องของยากลุ่มที่เรียกว่าเอเซตเพราะ
00:16:33 → 00:16:36 ว่าการรับประทานยากลุ่มนี้นั้นอันตรายถึง
00:16:36 → 00:16:39 ชีวิตได้หากมีอาการไข้ขึ้นสูงต่อเนื่อง
00:16:39 → 00:16:43 และไข้ยังไม่ลดภายใน 2-3 วันและไม่แน่ใจ
00:16:43 → 00:16:46 ว่าเชื้อไข้เลือดออกหรือไม่ห้ามรับประทาน
00:16:46 → 00:16:51 ยาแพนหรือไอบูเฟนเด็ดขาดเนื่องจากยาทั้ง 2
00:16:51 → 00:16:53 ชนิดนี้เป็นยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่
00:16:53 → 00:16:57 ใช่สเตรอยด์หรือยากลุ่มเอ็นเสดที่มีฤทธิ์
00:16:57 → 00:17:00 ลดไข้ที่ดีแต่ข้อเสียของยานี้คือสามารถ
00:17:00 → 00:17:03 ออกฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดทำ
00:17:03 → 00:17:06 ให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำและเพิ่มภาวะ
00:17:06 → 00:17:09 เลือดออกได้ปกติแล้วผู้ติดเชื้อไข้เลือด
00:17:10 → 00:17:13 ออกจะมีอาการเกล็ดเลือดต่ำทำให้เกิดภาวะ
00:17:13 → 00:17:15 เลือดออกผิดปกติอยู่แล้วหากรับประทานยา
00:17:16 → 00:17:19 แอสไพรินหรือไอบูโพรเฟนเข้าไปอีกอาจทำให้
00:17:19 → 00:17:22 เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติหรือไม่จับตัวกัน
00:17:22 → 00:17:25 อีกทั้งยากลุ่มนี้ยังไปออกฤทธิ์ระคาย
00:17:25 → 00:17:27 เคืองในกระเพาะอาหารทำให้เกิดเลือดออกใน
00:17:27 → 00:17:30 กระเพาะอาหารและทำให้เกิดภาวะเลือดออกมาก
00:17:30 → 00:17:34 ขึ้นนำไปสู่อาการช็อและเสียชีวิตได้ดัง
00:17:34 → 00:17:38 นั้นผู้ที่ป่วยและมีไข้สูงในช่วงนี้หากมี
00:17:38 → 00:17:41 ความจำเป็นต้องรับประทานยาลดไข้ก็ควรจะ
00:17:41 → 00:17:45 รับประทานยาพาราเซตามอลแทนร่วมกับการเช็ด
00:17:45 → 00:17:48 ตัวช่วยลดไข้เพื่อป้องกันผลข้างเคียงของ
00:17:48 → 00:17:51 ยาทั้งนี้ควรเฝ้าระวังอาการอื่นร่วมด้วย
00:17:51 → 00:17:54 เช่นอาการขาดน้ำเพราะอาจทำให้เกิดอาการ
00:17:54 → 00:17:57 ช็อกได้โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่ยังไม่มี
00:17:58 → 00:18:01 ยารักษาและต้องรักษาตามอาการดังนั้นหาก
00:18:01 → 00:18:05 รับประทานยาลดไข้ไปสัก 1-2 วันแล้วยังมี
00:18:05 → 00:18:09 ไข้สูงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
00:18:09 → 00:18:12 และรักษาอาการที่เกิดขึ้นเพราะช่วงที่ไข้
00:18:12 → 00:18:15 ขึ้นและไข้กำลังลดคือช่วงอันตรายของโรค
00:18:15 → 00:18:18 ไข้เลือดออกที่อาจเกิดอาการแทรกซ้อนจนทำ
00:18:19 → 00:18:22 ให้เสียชีวิตได้แย้มกันอีกครั้งนะคะว่าใน
00:18:22 → 00:18:24 หน้าฝนนี้ค่ะคุณผู้ชมและครอบครัวนะคะ
00:18:24 → 00:18:27 สามารถที่จะห่างไกลจากภาวะไข้เลือดออกได้
00:18:28 → 00:18:32 ง่าง่ายโดยการ 1 ทาโลชั่นกันยุงเมื่อเรา
00:18:32 → 00:18:35 อยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อยุงกัดค่ะ 2
00:18:35 → 00:18:38 อยู่ในสถานที่นะคะที่มีมุ้งลวดหรือว่าถ้า
00:18:38 → 00:18:40 จะนอนหลับในต่างจังหวัดนะคะอาจจะไม่มี
00:18:40 → 00:18:45 มุ้งลวดก็นอนในมุ้ง 3 ค่ะหมนะคะกำจัดลูก
00:18:45 → 00:18:48 น้ำยุงลายค่ะโดยที่ในทุกๆ 7 วันนะคะ
00:18:48 → 00:18:50 พยายามค่ะว่าทำเป็นรูทีนหรือว่ากิจวัตร
00:18:50 → 00:18:53 ประจำวันว่าเอ่าทุก 7 วันแล้วเราจะต้อง
00:18:53 → 00:18:56 สำรวจว่ามีลูกน้ำยุงลายอยู่มนะคะและกำจัด
00:18:56 → 00:18:59 สิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นต้นเหตุของไข้เลือด
00:18:59 → 00:19:03 ออกค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระดีๆที่
00:19:03 → 00:19:06 t&n นำมาฝากคุณผู้ชมในเรื่องของไข้เลือด
00:19:06 → 00:19:08 ออกก็หวังเป็นอย่างยิ่งค่ะว่าคุณผู้ชมและ
00:19:08 → 00:19:11 ครอบครัวนะคะจะปลอดภัยจากไข้เลือดออกกัน
00:19:11 → 00:19:14 และคุณผู้ชมนะคะสามารถติดตามรับชมรายการ
00:19:14 → 00:19:16 TNN Heal ได้เป็นประจำทุกวันเสาร์ค่ะ
00:19:16 → 00:19:22 เวลาดี 15 น- 15:30 นไม่เพียงเท่านี้นะคะ
00:19:22 → 00:19:24 เอาใจคนตื่นเช้าวันเสาร์เช่นเดียวกันค่ะ
00:19:24 → 00:19:29 เวลา 6:00 น- 6:30 นและถ้าท่านใดนะคะอยาก
00:19:29 → 00:19:32 ติดตามชมรีรันค่ะทุกบ่ายวันจันทร์เวลา
00:19:32 → 00:19:36 14:30 นจนถึง 15:00 นสำหรับท่านที่
00:19:36 → 00:19:39 ต้องการรับชมรายการย้อนหลังค่ะสามารถติด
00:19:39 → 00:19:42 ตามได้ทางช่อง YouTube แต่ถ้าท่านใดอยาก
00:19:42 → 00:19:45 จะรับชมรายการสดค่ะสามารถติดตามรับชมได้
00:19:45 → 00:19:47 ทางช่อง Facebook และ tiktok tean and
00:19:47 → 00:19:50 Health ไม่เพียงเท่านี้นะคะสาระสุขภาพดี
00:19:50 → 00:19:53 ๆที่สนุกสนานนะคะเราก็มีให้ท่านนั่นคือ
00:19:53 → 00:19:55 tiktok tean and Health เช่นกันค่ะ
00:19:55 → 00:19:58 ไม่เพียงเท่านี้นะคะถ้าท่านใดอยากมีคุณ
00:19:58 → 00:20:01 หมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจท่านนะคะหยิบ
00:20:01 → 00:20:03 โทรศัพท์มือถือของท่านขึ้นมาค่ะแล้วเข้า
00:20:03 → 00:20:07 ไปใน LINE แอปพลิเคชันพิมพ์ assign TNN
00:20:07 → 00:20:10 h a l t @t nn Heal หรือใช้วิธี
00:20:10 → 00:20:13 ที่ง่ายกว่านั้นก็คือวิธีสแกน QR cde
00:20:13 → 00:20:15 ที่มุมจอด้านล่างเพียงเท่านี้นะคะสาระ
00:20:15 → 00:20:18 สุขภาพก็จะอยู่ในมือถือของท่านเหมือนมี
00:20:18 → 00:20:20 คุณหมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจค่ะสำหรับวันนี้
00:20:20 → 00:20:24 นะคะหมอดาวนะคะและทีมงานค่ะต้องขอขอบคุณ
00:20:24 → 00:20:27 คุณผู้ชมที่ติดตามรับชมรายการ TNN Health
00:20:27 → 00:20:30 มาโดยตลอดนะคะอย่าลืมนะคะกดไลค์กดแชร์กด
00:20:30 → 00:20:33 Subscribe เป็นกำลังใจให้หมอดาวและทีม
00:20:33 → 00:20:36 งาน TNN Health ค่ะสำหรับวันนี้รายการ tn
00:20:36 → 00:20:38 and Health ต้องขอตัวลาคุณผู้ชมไปก่อน
00:20:38 → 00:20:41 สวัสดี
00:20:41 → 00:20:57 [เพลง]
00:20:57 → 00:20:58 ค่ะ
00:20:58 → 00:21:00 [เพลง]
00:21:00 → 00:21:03 fe'