00:00:00 → 00:00:02 ทำไมตอนเด็กๆกินเท่าไหร่ไม่ค่อยอ้วนพอโต
00:00:02 → 00:00:05 ขึ้นเอ๊ะกินไปนิดเดียวเริ่มอ้วน
00:00:05 → 00:00:08 แล้วคนที่มีไทรรอยด์ฮอร์โมนสูงๆถ้าเปรียบ
00:00:08 → 00:00:10 เทียบเป็นรถยนต์อ่ะเหมือนติดเทอร์โบตลอด
00:00:11 → 00:00:14 เวลาแต่คนที่ฮอร์โมนไทรรอยด์มันต่ำๆจะ
00:00:14 → 00:00:16 เหมือนกับคนที่เครื่องยนต์สตาร์ทธรรมดา
00:00:16 → 00:00:18 เฉื่อยๆไม่ได้ออกไปไหนเคเเนี่ยแปลกมาก
00:00:18 → 00:00:21 เหมือนเขาหิวตลอดเวลากินอะไรแล้วเขาไม่
00:00:21 → 00:00:24 อิ่มสักทีนึงแต่กินนะก็ไม่อ้วนมันน่าจะมี
00:00:24 → 00:00:26 อะไร Impact กับเขามากพอสมควรกินข้าววัน
00:00:26 → 00:00:29 นึงเนี่ย 5 มื้อเช้าเนี่ย 2 กลางวัน 1
00:00:29 → 00:00:32 แล้วเย็น 2 น้ำหนักก็ไม่เพิ่มพอตรวจร่าง
00:00:32 → 00:00:34 กายเนี่ยเราพบว่ามีภาวะไทรรอยด์เป็นพิษ
00:00:34 → 00:00:37 ภาวะไทรรอยด์สออวัยวะภายในล้มเหลวหัวใจ
00:00:37 → 00:00:39 ล้มเหลวการหายใจล้มเหลวความรู้สึกตัวล้ม
00:00:39 → 00:00:42 เหลวเป็นโคมอย่าดูถูกไทรรอยด์ป่อมเล็กๆทำ
00:00:42 → 00:00:46 ให้เราเสียชีวิตได้พฤติกรรมที่จะทำให้ตัว
00:00:46 → 00:00:49 ไทรรอยด์เนี่ยมันทำงานผิดปกติก็
00:00:49 → 00:00:55 คือเกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกล
00:00:55 → 00:00:58 โรคสวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ
00:00:58 → 00:01:01 เกาแก้โรคค่ะวันนี้นะคะต้องบอกว่าเป็น Ep
00:01:01 → 00:01:04 ที่แพนด้ารอคอยมากๆอ่าน่าจะเห็นจากหน้าปก
00:01:04 → 00:01:06 กันแล้วเพราะว่าวันนี้แพนด้ามีคำถามที่
00:01:06 → 00:01:08 อยากจะมาถามคุณหมอท่านนี้มากๆนะคะเกี่ยว
00:01:08 → 00:01:11 กับเรื่องของรูปร่างค่ะว่าคนเราเนี่ยอ้วน
00:01:11 → 00:01:13 หรือผอมเพราะไทรรอยด์เนี่ยมันมีอยู่จริง
00:01:13 → 00:01:15 ไหมวันนี้แพนด้านะคะก็อยู่กับคุณหมอสุ่ย
00:01:15 → 00:01:18 ค่ะจากช่องเซอร์จ Dog ค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอ
00:01:18 → 00:01:20 ครับสวัสดีครับอ่าอย่างที่เกริ่นไปเมื่อ
00:01:20 → 00:01:23 กี้เลยค่ะหลายๆท่านอาจจะกำลังทุกข์ใจอยู่
00:01:23 → 00:01:26 อยากทราบว่าจริงๆแล้วเนี่ยทำไมบางคนค่ะ
00:01:26 → 00:01:29 เขากินเยอะมากแต่เขาผอมกับบางคนเนี่ยแค่
00:01:29 → 00:01:31 ดดมอ่ะอ้วนละอย่างเงี้ยมันเป็นเพราะแต้ม
00:01:31 → 00:01:33 บุญหรือว่าเป็นเพราะร่างกายเรากำลังมี
00:01:33 → 00:01:36 ปัญหาคะเรื่องแบบเนี้ยครับก็มีคนสงสัย
00:01:36 → 00:01:39 เยอะมากนะครับบางคนก็เคยมาถามผมในโซเชียล
00:01:39 → 00:01:41 หรือว่าในคนไข้ด้วยกันเองว่าบางคนเนี่ยนะ
00:01:42 → 00:01:44 กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแต่บางคนเนี่ยแค่
00:01:44 → 00:01:46 เดินผ่านร้านเบเกอรี่เนี่ยก็อ้วนแล้วนะ
00:01:46 → 00:01:49 น้ำหนักก็ขึ้นแล้วจริงๆแล้วเนี่ยทั้งหมด
00:01:49 → 00:01:51 ทั้งมวลเนี่ยครับมันถูกอธิบายด้วยเรื่อง
00:01:51 → 00:01:54 ของระบบเผาผาในร่างกายทุกอย่างอธิบายได้
00:01:54 → 00:01:56 จากวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์นะครับว่าคนที่
00:01:56 → 00:01:59 มีระบบเผาผ่าานที่ดีไม่ว่าจะกินอะไรการ
00:01:59 → 00:02:01 เผาผ่านที่ดีเนี่ยก็จะทำให้น้ำหนักไม่
00:02:01 → 00:02:04 ค่อยเพิ่มแต่กลุ่มคนที่ระบบการเผาผลาญไม่
00:02:04 → 00:02:06 ดีกินเพียงแค่นิดเดียวน้ำหนักก็จะเพิ่ม
00:02:06 → 00:02:09 ได้ก็ไม่ค่อยจะแฟร์เท่าไหร่เลยเนาะเออ
00:02:09 → 00:02:12 ต้องต้องถามก่อนว่าแล้วระบบเผ่าผลาญที่ดี
00:02:12 → 00:02:15 เป็นยังไงคะระบบเผ่าผลาญของเราอ่ะครับมี
00:02:15 → 00:02:17 การขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยปัจจัยที่มันแก้
00:02:17 → 00:02:20 ไขไม่ได้ก็คือเรื่องของอายุอายุที่มาก
00:02:20 → 00:02:22 ขึ้นเราไม่สามารถจะห้ามไม่ให้เราโตได้ยัง
00:02:23 → 00:02:25 ไงอายุเราก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆอายุที่เรา
00:02:25 → 00:02:27 เพิ่มขึ้นระบบเาผลาจะแย่ลงจึงจะเห็นได้
00:02:27 → 00:02:30 ว่าทำไมตอนเด็กๆกินเท่าไหร่ไม่ค่อยอ้วน
00:02:30 → 00:02:33 แต่ทำไมพอโตขึ้นเอ๊ะกินไปนิดเดียวเริ่ม
00:02:33 → 00:02:35 อ้วนแล้วอันที่ 2 คือเรื่องของเพศเพศชาย
00:02:35 → 00:02:38 เนี่ยนะครับจะมีเรื่องของตัวมวลกล้าม
00:02:38 → 00:02:41 เนื้อมากกว่าผู้หญิงซึ่งการที่เพศชายมี
00:02:41 → 00:02:42 มวลกล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิงเนี่ยนะครับ
00:02:42 → 00:02:45 ระบบการเาผลาญจะดีไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับมวล
00:02:45 → 00:02:47 กล้ามเนื้อในร่างกายถ้ามวลกล้ามเนื้อมาก
00:02:47 → 00:02:49 นะครับการเผ่าผลาจะดีเพราะฉะนั้นเพศชายก็
00:02:49 → 00:02:51 จะไม่ค่อยอ้วนเท่ากับผู้หญิงอันที่ 3 ก็
00:02:51 → 00:02:53 คือเรื่องของระบบมวลกล้ามเนื้อที่ผมบอกไป
00:02:53 → 00:02:55 ถ้าเราออกกำลังกายมีการเผาผลาญอย่างต่อ
00:02:56 → 00:02:58 เนื่องอันเนี้ยระบบการเผาผลาญจะดีแต่ใน
00:02:58 → 00:03:00 กลุ่มคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลยแน่นอนว่า
00:03:00 → 00:03:03 ระบบการเผาผ่านก็จะไม่ดีตามมาอันนี้คือ
00:03:03 → 00:03:05 เรื่องของปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้นะครับแต่
00:03:05 → 00:03:07 ทั้งหมดเนี่ยเรื่องของกรรมพันธ์เพศอายุ
00:03:07 → 00:03:10 ทั้งหมดมัน 30 40% แต่อีก 60 70% ที่
00:03:10 → 00:03:13 เหลือเนี่ยมันเป็นเรื่องของพฤติกรรมครับ
00:03:13 → 00:03:15 อ่าพฤติกรรมและนิสัยใช่ครับถามก่อนว่า
00:03:15 → 00:03:18 แล้วอย่างเงี้ยค่ะไทรรอยด์มีความเกี่ยว
00:03:18 → 00:03:21 ข้องยังไงกับระบบเผ่าผ่านคะโอเคก่อนที่จะ
00:03:21 → 00:03:23 พูดว่าไทรรอยด์เนี่ยเกี่ยวข้องยังไงกับ
00:03:23 → 00:03:25 ระบบเผ่าผลาเนี่ยเราต้องรู้จักกับมันนิด
00:03:25 → 00:03:28 นึงก่อนไทรรอยด์เนี่ยมันเป็นอวยวะนึงนะ
00:03:28 → 00:03:30 ครับเป็นต่อมเล็กๆที่อยู่อยู่ตรงบริเวณลำ
00:03:30 → 00:03:32 คอของเราอยู่ตรงด้านหน้านี้เลยครับใช่
00:03:32 → 00:03:34 อยู่ใต้ลูกกระเดือกลงมาเล็กมากเป็นรูป
00:03:34 → 00:03:37 ร่างคล้ายกับผีเสื้ออนะครับผีเสื้อกระพือ
00:03:37 → 00:03:39 ปีกอยู่ใช่ทีนี้ไอ้ต่อมเนี้ยมันเป็นต่อม
00:03:39 → 00:03:42 ที่เรียกว่าแทบจะควบคุมระบบการเผาผาใน
00:03:42 → 00:03:44 ร่างกายทั้งหมดเลยความสัมพันธ์ของมันก็
00:03:45 → 00:03:47 คือคนที่มีต่อมไทรรอยด์ทำงานมากเกินไป
00:03:47 → 00:03:50 ระบบเผาผลาญเนี่ยก็จะมากตามแต่คนที่ต่อม
00:03:50 → 00:03:53 ไทรรอยด์เนี่ยทำงานน้อยเกินไปหรือไม่ทำ
00:03:53 → 00:03:56 งานระบบการเมาผ่านก็จะแย่ลงต่อมไทรรอยด์
00:03:56 → 00:03:58 ทำงานทำงานยังไงกับร่างกายคะต่อมไทรรอยด์
00:03:58 → 00:04:01 ตามชื่อนะครับจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า
00:04:01 → 00:04:03 ไทรรอยด์ฮอร์โมนซึ่งไทรรอยด์ฮอร์โมนเนี่ย
00:04:03 → 00:04:06 นะครับมันจะมีส่วนช่วยนะครับในการไปสั่ง
00:04:06 → 00:04:09 การตามอัยวะต่างๆกล้ามเนื้อระบบการย่อย
00:04:09 → 00:04:12 อาหารต่างๆนะครับเพื่อออกผลของการทำงานไท
00:04:12 → 00:04:14 ฮอร์โมนที่หลั่งออกมามากๆเนี่ยครับจะไป
00:04:14 → 00:04:16 กระตุ้นให้ระบบการเผาผ่าาในร่างกายเนี่ย
00:04:16 → 00:04:18 มากขึ้นถ้าคนไหนที่ไม่มีต่อมไทรรอยด์ถูก
00:04:18 → 00:04:21 ตัดต่อมไทรรอยด์ออกไปหรือกินยากดลักษณะ
00:04:21 → 00:04:23 การทำงานของต่อมไทรรอยด์การเผาผลาญก็จะ
00:04:23 → 00:04:25 แย่ลงตามมาแล้วเราจะเคยได้ยินคำว่า
00:04:25 → 00:04:27 ไทรรอยด์ผิดปกติหรือว่าเมื่อกี้ที่คุณหมอ
00:04:27 → 00:04:30 บอกว่ามากไปหรือน้อยไปมากไปไปกับน้อยไป
00:04:30 → 00:04:32 เนี่ยค่ะมันส่งผลลกับร่างกายแตกต่างกัน
00:04:32 → 00:04:35 ยังไงบ้างอ่ะโอเคเป็นคำถามที่ดีนะครับตัว
00:04:35 → 00:04:37 ต่อมไทรรอยด์เนี่ยมันผิดปกติได้ 2 แบบ
00:04:37 → 00:04:40 ครับ 1 คือตัวต่อมทำงานมากเกินไปเราก็
00:04:40 → 00:04:42 เรียกเป็นภาวะ hyperthyroidism ภาวะ
00:04:42 → 00:04:45 เนี่ยยนะครับคือมันเป็นภาวะที่บอกว่าต่อม
00:04:45 → 00:04:47 ไทรอยด์ทำงานมากสร้างฮอร์โมนไทรรอยด์ออก
00:04:47 → 00:04:49 มามากคนที่มีอาการของกลุ่มที่เป็น
00:04:49 → 00:04:51 hyperthyroidism หรือว่าต่อมไทรรอยด์ที่
00:04:51 → 00:04:53 ทำงานมากเกินไปเนี่ยนะครับเขาจะมีอาการ
00:04:53 → 00:04:55 หนึ่งก็คือกินจุกินเก่งแต่น้ำหนักไม่
00:04:55 → 00:04:58 เพิ่มแถมน้ำหนักยังลดอีกต่างหากเป็นคนขี้
00:04:58 → 00:05:01 ร้อนเป็นคนใจร้อนหงุดหงิดง่ายเพราะว่าเา
00:05:01 → 00:05:05 อาจจะฮีทอ่ะเป็นคนฮอตๆระบบเผาผลาญดีมากนะ
00:05:05 → 00:05:07 เกี่ยวข้องกับเรื่องของอารมณ์ด้วยแล้วก็
00:05:07 → 00:05:11 เป็นคนที่เหมือนกับว่าไฮเปอร์ทำอะไรเร็วๆ
00:05:11 → 00:05:14 มีภาวะใจสั่นเหงื่อแตกอันนี้เป็นกลุ่มที่
00:05:14 → 00:05:16 ไทรรอยด์ทำงานมากไทรรอยด์ผิดปกติอีก
00:05:16 → 00:05:19 ประเภทนึงก็คือกลุ่มที่ไทรรอยด์ทำงานน้อย
00:05:19 → 00:05:22 กลุ่มนี้เนี่ยนะครับลักษณะของเขาก็คือว่า
00:05:22 → 00:05:25 เขาจะเป็นคนเนื่อยๆต่อนยอนไม่ค่อยทำอะไร
00:05:25 → 00:05:29 แบบทำอะไรก็เชื่องๆช้าๆกินแค่นิดเดียวก็
00:05:29 → 00:05:32 อ้วนนะเพราะว่าต่อมไทรอยด์เหลั่งฮอร์โมน
00:05:32 → 00:05:34 ไทรอยด์ออกมาน้อยการเผาผลาไม่ค่อยดีเป็น
00:05:34 → 00:05:37 คนขี้หนาวอะไรอย่างเงี้ยครับเป็นต้นอค่ะ
00:05:37 → 00:05:40 อุยถ้าสมมุติว่าเราเปรียบอ่าฮอร์โมน
00:05:40 → 00:05:43 ไทรรอยด์เหมือนกับเตาเผางงี้ได้ไหมมคะอ่า
00:05:43 → 00:05:46 คนที่เป็นไฮเปอร์คือไฟไฟเยอะมากกับคนที่
00:05:47 → 00:05:50 เป็นไไฮโปคือไฟน้อยเหมือนภาวะแช่ฟรีซอยู่
00:05:50 → 00:05:51 อะไรอย่างเงี้ยจะเปรียบเทียบอย่างงั้นก็
00:05:51 → 00:05:54 ได้ครับคือยกตัวอย่างง่ายๆคนที่มี
00:05:54 → 00:05:56 ไทรรอยด์ฮอร์โมนสูงๆเนี่ยนะฮะจะเป็นกลุ่ม
00:05:56 → 00:05:58 ที่เหมือนถ้าเปรียบเทียบเป็นรถยนต์น่ะ
00:05:58 → 00:06:01 เหมือนติดเทอร์โบตลอดเวลาค่ะแต่คนที่
00:06:01 → 00:06:04 ฮอร์โมนไทรรอยด์มันต่ำๆเนี่ยนะฮะจะเหมือน
00:06:04 → 00:06:07 กับคนที่เครื่องยนต์สตาร์ทธรรมดาเฉื่อยๆ
00:06:07 → 00:06:09 ไม่ได้ออกไปไหนอะไรเงี้ยครับอารมณ์จะ
00:06:09 → 00:06:12 ประมาณแบบนั้นอืค่ะมันมีสิ่งที่น่าสงสัย
00:06:12 → 00:06:13 อย่างนึงมากๆเลยค่ะอย่างที่คุณหมอบอก
00:06:13 → 00:06:15 เมื่อกี้ว่าถ้าอย่างคนเป็นไฮเปอร์เนี่ยก็
00:06:15 → 00:06:18 จะส่งผลต่อแบบด้วยความที่มันฮีทมันร้อนก็
00:06:18 → 00:06:21 เลยอาจจะเป็นคนที่อารมณ์ร้อนขี้หงุดหงิด
00:06:21 → 00:06:24 ขี้โมโหแพนด้าอยากรู้ว่าถ้าคนที่มีนิสัย
00:06:24 → 00:06:26 แบบนี้ค่ะเป็นเพราะว่าฮอร์โมนไทรอยด์เรา
00:06:26 → 00:06:29 อ่ะมันเยอะเกินไปเลยทำให้เราเป็นคนนิสัย
00:06:29 → 00:06:33 แบบนั้นหรือการที่เราเป็นคนนิสัยแบบนั้น
00:06:33 → 00:06:35 เลยทำให้ฮอร์โมนนี้มันเยอะเกินไปอธิบายมา
00:06:35 → 00:06:38 ถึงตรงนี้เนี่ยจะโทษแต่ฮอร์โมนอย่างเดียว
00:06:38 → 00:06:40 เนี่ยก็คงไม่ถูกใช่มั้ยครับเพราะบางครั้ง
00:06:40 → 00:06:42 บางทีมันก็เป็นเรื่องของลักษณะนิสัยการ
00:06:42 → 00:06:45 เลี้ยงดูการเติบโตมาอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:06:45 → 00:06:47 เพียงแต่ว่าในกลุ่มบางคนเนี่ยก็ต้องยอม
00:06:47 → 00:06:49 รับว่าฮอร์โมนเนี่ยมันก็จะมีส่วนที่จะทำ
00:06:49 → 00:06:52 ให้บุคลิกเนี่ยเป็นคนที่จะหงุดหงิดง่าย
00:06:52 → 00:06:55 เป็นคนใจร้อนเป็นคนขี้ร้อนขี้หงุดหงิดถาม
00:06:55 → 00:06:57 ว่าจะเป็นจากฮอร์โมนอย่างเดียวคงไม่ใช่
00:06:57 → 00:06:59 มันก็คงเป็นหลายองค์ประกอบร่วมกันแต่เรา
00:06:59 → 00:07:02 ก็จะเจอบ่อยๆว่าในบางคนที่มีอาการไฮเปอร์
00:07:02 → 00:07:05 ไทรอยด์ไทรรอยด์ทำงานมากเกินไปลักษณะ
00:07:05 → 00:07:08 นิสัยแพทเทิร์นก็มักจะเป็นแบบนั้นนะอืค่ะ
00:07:08 → 00:07:10 แต่ว่าถ้าเราจะแยกออกจากเอ่อแค่เป็นคน
00:07:10 → 00:07:12 นิสัยแบบนี้กับคนที่เป็นไฮเปอร์เนี่ยก็
00:07:12 → 00:07:15 คือต้องดูอาการอื่นๆร่วมด้วยใช่ครับอ่ะ
00:07:15 → 00:07:17 คือถ้าเราสงสัยใช่ไหมมครับง่ายนิดเดียว
00:07:17 → 00:07:19 ครับแค่ไปตรวจเจาะเลือดถ้าเจาะเลือดเราพบ
00:07:19 → 00:07:22 ว่าระดับไทรรอยด์ในร่างกายมันปกติก็แปล
00:07:22 → 00:07:24 ว่านิสัยล้วนๆอย่างเงี้ยครับอค่ะแล้ว
00:07:25 → 00:07:27 สาเหตุที่ทำให้ไทรรอยด์ต่ำหรือสูงอ่ะค่ะ
00:07:27 → 00:07:29 มันเกิดจากอะไรได้บ้างคะสาเหตุเนี่ยเนี่ย
00:07:29 → 00:07:31 นะครับหลักๆเนี่ยถ้าเป็นเรื่องของตัว
00:07:31 → 00:07:34 ไทรรอยด์สูงเนี่ยครับก็จะเกิดจากการที่ 1
00:07:34 → 00:07:38 คนไข้เนี่ยมีภาวะระบบภูมิคุ้มกันกระตุ้น
00:07:38 → 00:07:40 ให้ต่อมไทรรอยด์แต่ทำงานมากเกินไปซึ่ง
00:07:40 → 00:07:42 กลุ่มนี้เราเรียกว่า grp disease เจะ
00:07:42 → 00:07:45 เรียกเป็นโรคเฟนะฮะก็กลุ่มคนเยครับจะมี
00:07:45 → 00:07:48 ระบบพุ้มกันของร่างกายเขาจะมีการหลั่งตัว
00:07:48 → 00:07:50 แอนติเจนแอนติบอดี้ออกมานะครับเพื่อไป
00:07:50 → 00:07:53 กระตุ้นให้ตัวต่อมไทรรอยด์เนี่ยทำงานมาก
00:07:53 → 00:07:55 เกินไปซึ่งกลุ่มพวกนี้ก็จะมีลักษณะของตัว
00:07:55 → 00:07:58 ไทรรอยด์ออกมาล้นๆเลยสูงเลยบางคนก็จะมา
00:07:58 → 00:08:01 แสดงอาการลักษณะของของตาโปนคอแบบโตอะไร
00:08:01 → 00:08:04 อย่างเงี้ยครับเป็นต้นอีกสาเหตุนึงนะครับ
00:08:04 → 00:08:07 ก็คือคนไข้ที่มีภาวะไทรรอยด์อักเสบซึ่ง
00:08:07 → 00:08:09 ไทรรอยด์อักเสบเนี่ยก็จะติดจากเชื้อไวรัส
00:08:09 → 00:08:11 หรือว่าแบคทีเรียก็ได้ซึ่งพวกนี้เนี่ยก็
00:08:11 → 00:08:14 จะกระตุ้นทำให้เกิดภาวะไทรรอยด์เป็นพิษ
00:08:14 → 00:08:16 หรือว่าไทรรอยด์สูงได้อันที่ 3 สำหรับ
00:08:16 → 00:08:19 กลุ่มคนที่ไทรรอยด์สูงเนี่ยก็อาจจะมี
00:08:19 → 00:08:21 ประวัติในเรื่องของการกินสารไอโอดีนที่
00:08:21 → 00:08:23 มันมากเกินไปกินอาหารทะเลกินเกลือแกงอะไร
00:08:23 → 00:08:25 ที่ใส่เยอะเกินไปก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยง
00:08:25 → 00:08:27 ของการเป็นไทรรอยด์เป็นพิษได้สาเหตุของ
00:08:27 → 00:08:30 กลุ่มที่เอ่อทำให้เกิดไทรรอยด์ต่ำเนี่ยนะ
00:08:30 → 00:08:32 ครับถ้าสมัยก่อนนะครับเราอยู่ในหนังสือ
00:08:32 → 00:08:34 เรียนเนี่ยพอเวลาเราอ่านเนี่ยก็จะบอกว่า
00:08:34 → 00:08:37 คนที่ไทรรอยด์ต่ำๆเนี่ยก็มักจะเป็นคนที่
00:08:37 → 00:08:40 อยู่เมืองเหนือเมืองหนาวอยู่ห่างไกลจาก
00:08:40 → 00:08:42 ทะเลก็จะบอกว่าเป็นคนภาคเหนือในประเทศไทย
00:08:42 → 00:08:44 เพราะว่าคนกลุ่มเเราเชื่อว่าเขาขาด
00:08:44 → 00:08:47 ไอโอดีนคนกลุ่มคนที่ขาดไอโอดีนกินเกลือ
00:08:47 → 00:08:50 แกงน้อยกินอาหารทะเลน้อยก็จะมีความเสี่ยง
00:08:50 → 00:08:52 นะครับของการที่จะเกิดเอ่อภาวะไทรรอยด์
00:08:52 → 00:08:55 ต่ำอันที่ 2 ก็คือกลุ่มคนที่มีไทรรอยด์
00:08:55 → 00:08:58 ต่ำจากเรื่องของระบบพุ้มกันทำลายตัวเอง
00:08:58 → 00:09:00 คือไปทำลายต่อมไทไทรรอยด์ชื่อโรคก็จะเป็น
00:09:00 → 00:09:03 ภาษาญี่ปุ่นก็คือชิม disease ซึ่งพวกนี้
00:09:03 → 00:09:05 เนี่ยร่างกายเเนี่ยจะมีการสร้าง
00:09:05 → 00:09:08 แอนติบอดี้มาทำลายเนื้อต่อมไทรรอยด์ของ
00:09:08 → 00:09:10 เราซึ่งช่วงแรกมันก็จะเกินช่วงหลังมันก็
00:09:10 → 00:09:13 จะเกิดภาวะไทรรอยด์ต่ำในท้ายที่สุดทีเค่ะ
00:09:13 → 00:09:15 ตอนแรกคุณหมอบอกว่าระบบเผ่าผลาคนเราอ่ะ
00:09:15 → 00:09:18 เมื่ออายุมากขึ้นมันก็จะน้อยลงทำงานน้อย
00:09:18 → 00:09:19 ลงอันนี้มันเป็นเพราะว่าอายุมากขึ้น
00:09:19 → 00:09:22 ไทรรอยด์เราผลิตฮอร์โมนน้อยลงด้วยใช่มั้
00:09:22 → 00:09:24 คะส่วนนั้นเนี่ยก็มีส่วนนะครับคือก็ต้อง
00:09:24 → 00:09:27 บอกว่าในกลุ่มคนไข้ที่อายุมากขึ้นนะครับ
00:09:27 → 00:09:30 การทำงานของตัวไทรฮอร์โมนเนี่ยมันก็อาจจะ
00:09:30 → 00:09:32 ไม่ได้เก่งเท่ากับตอนที่เป็นหนุ่มสาวนะ
00:09:32 → 00:09:35 ครับก็จะเจอได้ว่าบางคนเกิดมาอายุ 20-30
00:09:35 → 00:09:38 ไม่ได้มีโรคไทรรอยด์อะไรเลยแต่พออายุ 50
00:09:39 → 00:09:41 60 ขึ้นไปก็จะเผชิญกับภาวะไทรรอยด์
00:09:41 → 00:09:43 ฮอร์โมนต่ำซึ่งก็เป็นไปตามอายุอะไรอย่าง
00:09:43 → 00:09:45 เงี้ยหรืออาจจะต้องมานั่งดูสาเหตุอื่นๆ
00:09:45 → 00:09:47 ด้วยแต่อายุก็มีส่วนนะครับอายุที่มากขึ้น
00:09:48 → 00:09:50 ก็จะมีการทำงานของฮอร์โมนไทรรอยด์ที่ลดลง
00:09:50 → 00:09:53 อืค่ะถามเผื่อเผื่อทั้งตัวเองด้วยแหละใน
00:09:53 → 00:09:55 อนาคตก็ต้องอายุมากขึ้นเนาะร่างกายเรา
00:09:55 → 00:09:58 เสื่อมลงแน่นอนแต่ว่าเราจะมีวิธีทำยังไง
00:09:58 → 00:10:02 ให้มมไทรอย์ทำงานได้ปกติมคะคือคือเสื่อม
00:10:02 → 00:10:04 ลงตามอายุเนี่ยมันเป็นเรื่องปกติมหรือว่า
00:10:04 → 00:10:06 เราควรที่จะใส่ใจตัวเองมากขึ้นยังไงบ้าง
00:10:06 → 00:10:09 อ่ะโอเคหลักๆเนี่ยครับฮอร์โมนไทรรอยด์ใน
00:10:09 → 00:10:11 คนทั่วไปเนี่ยมันทำงานสมดุลในตัวมันอยู่
00:10:11 → 00:10:14 แล้วไม่ว่าเราจะอายุมากขึ้นน้อยลงหรือยัง
00:10:14 → 00:10:16 ไงก็ตามเนี่ยสุดท้ายเนี่ยร่างกายพยายามจะ
00:10:16 → 00:10:19 ปรับสมดุลตัวเองต่อให้ในอนาคตฮอร์โมน
00:10:19 → 00:10:22 ไทรรอยด์มันต่ำลงจริงๆร่างกายก็จะตามสภาพ
00:10:22 → 00:10:25 นะเราก็จะกินอาหารน้อยลงระบบการเผ่าผลน
00:10:25 → 00:10:26 เรารู้อยู่แล้วว่าระบบการเผ่าผลาในร่าง
00:10:27 → 00:10:29 กายไม่ได้ดีจะเห็นว่าผู้สูงอายุทำไมพอพอ
00:10:29 → 00:10:32 เวลาผ่านอายุไป 50-60 ปีจกินข้าววันละ 3
00:10:32 → 00:10:34 มื้อเหลือวันละ 2 มื้อกินแล้วอิ่มง่าย
00:10:34 → 00:10:36 อิ่มเร็วนั่นก็เป็นกระบวนการธรรมชาติของ
00:10:36 → 00:10:39 มนุษย์ของร่างกายที่เขามีการพยายามปรับ
00:10:39 → 00:10:42 ตัวอยู่แล้วแต่ในกรณีที่เรากังวลมากๆว่า
00:10:42 → 00:10:44 ไทรรอยด์ฮอร์โมนเนี่ยจะต่ำเกินไปพวกนี้
00:10:44 → 00:10:46 เนี่ยเราแก้ได้ยังไงนะครับเราต้องตรวจ
00:10:46 → 00:10:49 สุขภาพสม่ำเสมอการตรวจสุขภาพอย่างต่อ
00:10:49 → 00:10:52 เนื่องเป็นประจำการตรวจสุขภาพประจำปีถ้า
00:10:52 → 00:10:54 มีการตรวจไทรรอยด์ก็จะพอบอกได้ว่าณตอนนี้
00:10:54 → 00:10:56 เนี่ยค่าไทรรอยด์ฮอร์โมนเราเนี่ยมันสูง
00:10:56 → 00:10:59 มันต่ำหรือมันอยู่ระดับปกติเพื่อเราจะได้
00:10:59 → 00:11:01 ได้รู้ก่อนนะครับเพื่อจะได้แก้ไขก่อนว่า
00:11:01 → 00:11:03 ถ้าเป็นไทรรอยด์ต่ำหรือไทรรอยด์สูงเราจะ
00:11:03 → 00:11:06 แก้ไขมันยังไงต่อไปในอนาคตถามเผื่อหลายๆ
00:11:06 → 00:11:09 ท่านที่อาจจะกำลังทำงานรวมถึงพนักงา
00:11:09 → 00:11:11 ออฟฟิศเงี้ยค่ะว่ามีพฤติกรรมต้องห้ามอะไร
00:11:12 → 00:11:14 มที่อาจจะทำให้ฮอร์โมนไทรรอยด์เราทำงาน
00:11:14 → 00:11:16 ได้ผิดปกติอ่ะค่ะไทรรอยด์ฮอร์โมนเนี่ย
00:11:16 → 00:11:19 ครับหลักๆเนี่ยส่วนใหญ่นะครับพฤติกรรมที่
00:11:19 → 00:11:21 จะทำให้ตัวไทรรอยด์เนี่ยมันทำงานผิดปกติ
00:11:21 → 00:11:23 ก็คือความเครียดความเครียดเนี่ยมันทำให้
00:11:23 → 00:11:26 ไทรรอยด์ทำงานผิดปกติยังไงเวลาที่คนเรา
00:11:26 → 00:11:28 เครียดอ่ะครับร่างกายเนี่ยจะมีการหลั่ง
00:11:28 → 00:11:30 คอร์ติซอลมันเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด
00:11:30 → 00:11:32 ซึ่งไอ้คอร์ติซอลเนี่ยนะครับพอมันถูก
00:11:32 → 00:11:35 หลั่งออกมามากๆเนี่ยครับมันจะไปกดการทำ
00:11:35 → 00:11:38 งานของไทรรอยด์ซึ่งจะทำให้ตัวฮอร์โมน
00:11:38 → 00:11:40 ไทรรอยด์เนี่ยนะครับมันน้อยลงพอคอร์ติซอล
00:11:40 → 00:11:42 ที่หลั่งออกมากฎการทำงานของไทรรอยด์
00:11:42 → 00:11:44 ไทรรอยด์ก็หลั่งฮอร์โมนไทรรอยด์ออกมาน้อย
00:11:44 → 00:11:47 คนไข้ก็จะมีภาวะฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำกว่า
00:11:47 → 00:11:50 ปกติจากภาวะความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัว
00:11:50 → 00:11:53 การเครียดนอนน้อยพักผ่อนน้อยนะครับปัจจัย
00:11:54 → 00:11:56 พวกนี้จะทำให้เราเนี่ยมีปัญหาไทรรอยด์ต่ำ
00:11:56 → 00:11:59 อาจจะเหนื่อยๆไม่อยากทำอะไรเครียดแล้วก็
00:11:59 → 00:12:02 ยิ่งเหนื่อยยิ่งไม่อยากทำอะไรไปอีกนะครับ
00:12:02 → 00:12:04 กินอะไรได้น้อยลงไม่ค่อยอยากกินนิดเดียว
00:12:04 → 00:12:07 ก็อ้วนอะไรอย่างเงี้ยครับก็จะตามมาแต่ว่า
00:12:07 → 00:12:10 ทำไมหลายๆท่านที่อันนี้ถามถามเพิ่มนะคะ
00:12:10 → 00:12:13 ว่าพอเข้าสู่วัยทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ
00:12:13 → 00:12:16 หลายๆท่านก็เอออ้วน้วขึ้นจริงๆแต่ว่าก็มา
00:12:16 → 00:12:18 จากการกินเยอะนี่แหละครับอ้ามันก็ไม่ได้
00:12:18 → 00:12:20 เกี่ยวกับว่าฮอร์โมนไทรรอยด์ใช่่มั้ยคะ
00:12:20 → 00:12:22 จริงๆแล้วเนี่ยพอเราเครียดเราไม่ได้กิน
00:12:22 → 00:12:25 อาหารเพียอย่างเดียวพฤติกรรมของมนุษย์
00:12:25 → 00:12:28 ส่วนใหญ่เวลาเราเครียดหรือเรากังวลอะไร
00:12:28 → 00:12:30 มันจะนำไปสู่การทำพฤติกรรมที่มันนอกเหนือ
00:12:30 → 00:12:32 จาก Normal habit คือพฤติกรรมที่ใช้
00:12:32 → 00:12:34 ชีวิตประจำวันเช่นเราอาจะไปดริงไป
00:12:35 → 00:12:36 สังสรรค์กับเพื่อนเพราะเราเครียดใช่มั้ย
00:12:36 → 00:12:39 ฮะไดินโฆษณาจนเครียดกินเหล้าทำนองเดียว
00:12:39 → 00:12:41 กันบางทีเราก็จะไปสั่งสรรค์กับเพื่อนบ่อย
00:12:41 → 00:12:43 ขึ้นกินอาหารที่เป็นอาหารมื้อหนักขึ้น
00:12:44 → 00:12:45 มื้อเช้ามื้อเที่ยงไม่ค่อยอยากกินมัน
00:12:45 → 00:12:48 เครียดมันไม่ค่อยอยากทำแต่พอตกเย็นมีแรง
00:12:48 → 00:12:50 บันดาลใจมีเพื่อนชวนไปอยากไปผ่อนคลายก็จะ
00:12:50 → 00:12:53 ไปกินอาหารมื้อหนักช่วงนั้นแทนซึ่งการกิน
00:12:53 → 00:12:55 เหล้าแอลกอฮอล์พวกนี้นะครับก็จะเป็นส่วน
00:12:55 → 00:12:58 สร้างนะฮส่วนของตัวคอเลสเตอรอลไขมันที่
00:12:58 → 00:13:00 มันเพิ่มขึ้นก็กลายเป็นว่าเอ๊ะทำไมน้ำ
00:13:00 → 00:13:03 หนักมันแปลกๆทำไมน้ำหนักถึงเพิ่มขึ้นทำไม
00:13:03 → 00:13:06 ถึงอ้วนขึ้นทำไมถึงอะไรทั้งๆที่จริงๆก็ดู
00:13:06 → 00:13:08 เหมือนบอกว่ากินน้้อยลงหรือไม่ค่อยกินแต่
00:13:08 → 00:13:11 ว่าเราอาจจะไปเน้นในบางมื้อการปาร์ตี้การ
00:13:11 → 00:13:13 สังสรรค์อะไรที่มีอาหารบางอย่างนะครับที่
00:13:13 → 00:13:16 ทำให้เราอ้วนขึ้นนั่นเองโอจริงๆก็
00:13:16 → 00:13:19 พฤติกรรมด้วยนี่แหละเนาะสำคัญเลยเพราะว่า
00:13:19 → 00:13:22 บางครั้งโทษแต่ร่างกายก็ไม่ได้พฤติกรรม
00:13:22 → 00:13:24 เรานี่แหละที่อาจจะนำไปสู่โลกในอนาคต
00:13:24 → 00:13:28 อย่างที่ผมบอก 70% การเพิ่มขึ้นของตัวน้ำ
00:13:28 → 00:13:29 หนักเนี่ยครับมันไม่ไม่ใช่เรื่องของ
00:13:29 → 00:13:32 พันธุกรรม 70% เป็นเรื่องของพฤติกรรมจะ
00:13:32 → 00:13:34 โทษแต่พันธุกรรมอย่างเดียวไม่ได้แล้ว
00:13:34 → 00:13:37 ไทรรอยด์ผิดปกติแบบไหนที่อาจจะต้องผ่าตัด
00:13:37 → 00:13:40 รักษาค่ะไทรรอยด์ผิดปกติที่ต้องผ่าตัด
00:13:40 → 00:13:42 รักษาเนี่ยมักจะเป็นภาวะที่มีไทรรอยด์
00:13:42 → 00:13:44 เกินภาวะไทรรอยด์ต่ำเนี่ยเราไม่ค่อยเอาา
00:13:44 → 00:13:46 ไปผ่าตัดเพราะว่ามันต่ำอยู่แล้วยิ่งไปตัด
00:13:46 → 00:13:49 ออกมันก็คงคงจะไม่มีไทรรอยด์ภาวะที่
00:13:49 → 00:13:52 ไทรรอยด์ทำงานผิดปกติอันเนี้ยต้องผ่าตัด
00:13:52 → 00:13:54 แล้วเมื่อไหร่ที่จะต้องผ่าตัดหลักๆ1ึก็
00:13:54 → 00:13:57 คือถ้ามันมีก้อนมีเนื้องอกที่สงสัยมะเร็ง
00:13:57 → 00:13:59 อันเนี้ยผ่าแน่นอนอันที่ 2 ของตัว
00:13:59 → 00:14:02 ไทรรอยด์ที่ว่ามันเกินเนี่ยรักษาด้วยยา
00:14:02 → 00:14:05 หรือว่าการกลืนแร่รักษาด้วยวิธีต่างๆโดย
00:14:05 → 00:14:07 เราไม่ได้ผ่าตัดยังไม่ดีขึ้นอันเนี้ยต้อง
00:14:07 → 00:14:10 ผ่าอันที่ 3 คือไทรรอยด์มีขนาดโตมากจนกด
00:14:10 → 00:14:12 เบียดการทำงานของอวัยวะรอบข้างซึ่ง
00:14:12 → 00:14:14 ไทรรอยด์เรารู้อยู่แล้วมันอยู่ที่คอถ้า
00:14:14 → 00:14:17 มันไปกดเบียดหลอดลมจนเราหายใจไม่ออกอัน
00:14:17 → 00:14:19 นี้ก็ต้องผ่าตัดไปกดเบียดหลอดอาหารจนเรา
00:14:19 → 00:14:22 กลืนติดกลืนลำบากกลืนอะไรก็ไม่ได้อันนี้
00:14:22 → 00:14:25 ก็ต้องผ่าตัดอันที่ 4 ก็คือภาวะไทรรอยด์
00:14:25 → 00:14:27 เป็นพิษชนิดแบบเปซสเมื่อกี้ที่ผมบอกไปที่
00:14:27 → 00:14:29 เป็นอีกหนึ่งสาเหตุนึงถ้าเป็นภาวะนี้แล้ว
00:14:29 → 00:14:33 รักษาด้วยยาไม่ดีมีภาวะตาโปนมากๆร่วมด้วย
00:14:33 → 00:14:35 นะครับหรือว่าตัวก้อนไทรรอยด์มีขนาดใหญ่
00:14:35 → 00:14:38 กลุ่มนี้ก็ต้องมารับการผ่าตัดครับอืค่ะก็
00:14:38 → 00:14:41 ต้องสังเกตตัวเองใช่ครับค่ะเอ่อถามนิดนึง
00:14:41 → 00:14:43 ค่ะเมื่อกี้ที่บอกว่ามีการรักษาด้วยการ
00:14:43 → 00:14:47 กลืนแร่มันคือแร่อะไรคะอ๋อมันเป็นกรดา
00:14:47 → 00:14:49 รังสีไอโอดีนครับออครับก็จะเป็นอีกวิธี
00:14:49 → 00:14:52 นึงนะครับก็คือส่วนใหญ่เราก็เริ่มต้นด้วย
00:14:52 → 00:14:55 การกินยาก่อนถ้ากินยาแล้วระดับตัวฮอร์โมน
00:14:55 → 00:14:57 ไทรรอยด์ลงงดีนะครับก็ไม่ต้องไปทำอะไรต่อ
00:14:58 → 00:15:01 แต่บางคนที่กินยาแล้วยังไม่ดีนะครับก็อาจ
00:15:01 → 00:15:03 จะมีวิธีนึงก็เป็นการกลืนแลกกมตรังสีไอ้
00:15:03 → 00:15:05 ตัวแล่กำมรังสีที่ว่าเนี่ยนะครับมันก็จะ
00:15:05 → 00:15:09 ทำลายเซลล์ของตัวไทรรอยด์นะครับให้เซลล์
00:15:09 → 00:15:11 มันตายไปนะครับซึ่งก็จะทำให้ตัวต่อม
00:15:11 → 00:15:13 ไทรรอยด์มันฝ่อลงการสร้างฮอร์โมนไทรรอยด์
00:15:13 → 00:15:17 ก็จะน้อยลงตามมาอืถ้าสมมุติว่าเรามีอาการ
00:15:17 → 00:15:19 ไทรรอยด์ผิดปกติแล้วเนี่ยค่ะไม่ว่าจะเป็น
00:15:19 → 00:15:22 ไฮเปอร์มากเกินไปหรือไฮโปที่น้อยเกินไป
00:15:22 → 00:15:25 เราจะดูแลตัวเองยังไงให้ระดับฮอร์โมน
00:15:25 → 00:15:28 ไทรอยด์กลับมาปกติได้คะสิ่งแรกเลยนะที่ผม
00:15:28 → 00:15:30 จะเน้นย้ำเลยคือความเครียดคือต้อง Balance
00:15:30 → 00:15:32 ความเครียดให้ดีคำว่า Balance ความเครียด
00:15:32 → 00:15:34 เนี่ยคือผมยังให้พื้นที่ของคนที่มีความ
00:15:34 → 00:15:36 เครียดนะฮะคือคนเราเนี่ยจะไม่เครียดเลย
00:15:36 → 00:15:38 เนี่ยเป็นไปไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามนะ
00:15:38 → 00:15:40 ผมรู้สึกเขาคก็จะมีความเครียดทั้งนั้นแต่
00:15:40 → 00:15:42 เราต้อง Balance ความเครียดให้ดีเพราะว่า
00:15:42 → 00:15:44 อย่างที่ผมบอกว่าถ้าเราเครียดมากฮอร์โมน
00:15:44 → 00:15:46 ของความเครียดคอร์ติซอลมันถูกหลั่งอมามัน
00:15:46 → 00:15:48 ก็จะไปรบกวนการทำงานของไทรรอยด์เพราะ
00:15:48 → 00:15:50 ฉะนั้นแล้วเนี่ยสิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยง
00:15:50 → 00:15:52 ได้ก็คือการ Balance ความเครียดเนี่ยให้
00:15:52 → 00:15:55 เหมาะสมให้ถูกต้องรู้ว่าเครียดนะครับก็
00:15:55 → 00:15:58 จัดการตัวเองนะครับหาโฟกัสเรื่องอื่นให้
00:15:58 → 00:16:00 หลีกเลี่ยงความเครียดชั่วขณะอาจจะไปออก
00:16:00 → 00:16:02 กำลังกายไปทำพฤติกรรมอย่างอื่นทำงานอิเลก
00:16:03 → 00:16:05 ที่ชอบทำวาดรูปนั่งสมาธิหรืออะไรก็แล้ว
00:16:05 → 00:16:08 แต่นะครับมันก็จะช่วยได้สมาธิช่วยยังไงคะ
00:16:08 → 00:16:11 อย่างที่ผมบอกนะครับมีรายงานหลายรายงานละ
00:16:12 → 00:16:14 ในทางการแพทย์นะครับก็ยืนยันว่าการนั่ง
00:16:14 → 00:16:17 สมาธิเนี่ยมันสามารถที่จะลดภาวะสตสทั้งใน
00:16:17 → 00:16:20 ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ได้พูดง่ายๆคือ
00:16:20 → 00:16:22 ภาวะความเครียดนะครับแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
00:16:22 → 00:16:24 เป็นความเครียดที่อยู่จากร่างกายร่างกาย
00:16:24 → 00:16:27 จะฟ้องออกมาด้วยการเจ็บป่วยบ่อยนะฮะเช่น
00:16:27 → 00:16:29 เดี๋ยวก็เป็นหวัดเป็นหวัดนานกว่าชบ้านเ้า
00:16:29 → 00:16:31 หรือว่านอนไม่หลับกินไม่ได้อันเนี้ยก็
00:16:31 → 00:16:33 เป็นร่างกายแสดงออกมาแล้วว่าเราเราเครียด
00:16:33 → 00:16:35 มากเราเราเป็นเยอะอันที่ 2 เป็นความ
00:16:35 → 00:16:37 เครียดทางจิตใจความเครียดทางจิตใจก็จะ
00:16:37 → 00:16:39 เห็นได้ว่าก็จะมีปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้า
00:16:39 → 00:16:41 การนั่งสมาธิเนี่ยมันแก้ได้จากตรงเนี้ย
00:16:41 → 00:16:44 ครับเราจะนั่งเฉยๆแล้วนั่งคิดถึงลมหายใจ
00:16:44 → 00:16:47 ธรรมดาก็ได้จะนอนก็ได้หายใจเข้าลึกๆก็ได้
00:16:47 → 00:16:49 หรือว่าจะคิดเรื่องที่ดีที่สุดของวันก็
00:16:49 → 00:16:52 ได้คือการทำสมาธิมันไม่จำเป็นที่จะต้องมี
00:16:52 → 00:16:55 การโฟกัสกับลมหายใจหรือต้องไปนั่งต้องไป
00:16:55 → 00:16:58 เข้าวัดมันสามารถทำได้ง่ายๆที่บ้านหรือ
00:16:58 → 00:17:00 ตอนก่อนนอนอะไรอย่างเงี้ยครับทำสมาธิ
00:17:00 → 00:17:03 ระหว่างทำงานได้มยคะจริงๆแล้วทำได้นะครับ
00:17:03 → 00:17:05 ก่อนผ่าตัดเนี่ยสมมุติว่าก่อนที่ผมจะ
00:17:05 → 00:17:09 เริ่มเคสผ่าตัดหรืออะไรถ้าเป็นโอเชการผ่า
00:17:09 → 00:17:11 ตัดที่ยากๆเนี่ยครับผมก็อาจจะไม่อยู่ใน
00:17:11 → 00:17:13 ห้องผ่าตัดตรงนั้นที่มีคนวุ่นวายเขากำลัง
00:17:13 → 00:17:15 เตรียมคนไข้อะไรกันอยู่ผมอาจจะมาหลบอยู่
00:17:15 → 00:17:18 ในห้องนั่งนิดนึงทำสมาธิได้หลายอย่างครับ
00:17:18 → 00:17:22 นั่งเฉยๆแล้วก็คิดสูดลมหายใจเข้าลึกๆนั่ง
00:17:22 → 00:17:26 กำหนดลมหายใจนะครับอันที่ 2 ฟังเพลงฮะฟัง
00:17:26 → 00:17:28 เพลงไปแล้วก็ฟังเพลงที่เป็นเพลงแบบสบายๆ
00:17:28 → 00:17:31 สบายสบายหูอะไรเงี้ยครับแล้วก็ทำสมาธิ
00:17:31 → 00:17:33 อยู่จดจ่ออยู่กับแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
00:17:33 → 00:17:35 คือการทำสมาธิมันคือการจดจ่อกับเรื่องใด
00:17:35 → 00:17:37 เรื่องหนึ่งไม่ฟุ้งซ่านไม่คิดอะไรไปมาก
00:17:37 → 00:17:40 มายจริงๆก็เป็นเทคนิคที่ถ้าเครียดๆนะ
00:17:40 → 00:17:42 ระหว่างการทำงานนะฮะเราสามารถที่จะ Time
00:17:42 → 00:17:45 Out ตัวเองเบรคออกมาขอเวลาสักนิดนึง 3
00:17:45 → 00:17:48 นาที 5 นาทีแค่นี้ก็กลับไปทำงานต่อได้
00:17:48 → 00:17:50 อยากให้คุณหมอช่วยแชร์ประสบการณ์ที่เคย
00:17:51 → 00:17:53 ผ่าตัดหรือว่ามีคนไข้เคสเกี่ยวกับ
00:17:53 → 00:17:55 ไทรรอยด์ให้ฟังหน่อยได้มคะอันนี้ก็จะเป็น
00:17:55 → 00:17:58 เคสตั้งแต่ตอนที่สมัยผมยังเรียนยังเรียน
00:17:58 → 00:18:01 อยู่นะนะครับก็ตอนผมเรียนผ่าตัดเนี่ยก็มี
00:18:01 → 00:18:03 โอกาสนะได้เจอเคสไทรรอยด์เคสนึงนะครับ
00:18:04 → 00:18:06 เป็นผู้หญิงอายุน้อยนะฮะอายุแค่ประมาณซัก
00:18:06 → 00:18:10 20 ต้นๆนะครับผมจำอายุแน่ชัดไม่ได้เคสเ
00:18:10 → 00:18:13 แปลกมากเขามาด้วยประวัติก็คือบอกว่า
00:18:13 → 00:18:16 เหมือนเขาหิวตลอดเวลาอกินอะไรแล้วก็รู้
00:18:16 → 00:18:19 สึกว่าเหมือนกับเขาไม่อิ่มสักทีนึงแต่กิน
00:18:19 → 00:18:21 นะก็ไม่อ้วนคนอายุ 20 ต้นๆเป็นผู้หญิงได้
00:18:22 → 00:18:24 กินทุกอย่างตามตั้งใจเนี่ยรู้สึกเหมือน
00:18:24 → 00:18:25 มันน่าจะเป็นเรื่องดีใช่มั้ยครับกินเท่า
00:18:25 → 00:18:27 ไหร่ก็ไม่อ้วนแต่แต่กลายเป็นว่าเา
00:18:27 → 00:18:29 คอนเซิร์นซึ่งการที่เคเเนี่ยแปลว่ามันน่า
00:18:29 → 00:18:32 จะมีอะไร Impact กับเขามากพอสมควรเให้
00:18:32 → 00:18:34 ประวัติผมว่าเกินข้าววันนึงเนี่ยประมาณ 5
00:18:34 → 00:18:37 มื้อเช้าเนี่ย 2 กลางวัน 1 แล้วเย็นอีก 2
00:18:37 → 00:18:39 ก็แบ่งกินกินแบบกินเยอะมากกินทุกอย่าง
00:18:39 → 00:18:42 เท่าที่ทำได้แต่เขาบอกว่ากินเนี่ยน้ำหนัก
00:18:42 → 00:18:46 ก็ไม่ค่อยไม่ไม่เพิ่มงงมากเงงมากจนคนรอบ
00:18:46 → 00:18:48 ข้างอ่ะทักเเถึงรู้สึกว่าเนี่ยมันคือผิด
00:18:48 → 00:18:51 ปกติเก็เลยมาปรึกษาหมอว่าไอ้ที่เขาคกิน
00:18:51 → 00:18:54 เยอะๆอย่างเงี้ยเเเป็นอะไรแต่เขาไม่ได้มา
00:18:54 → 00:18:56 เจอศัลยกรรมก่อนเกลายเป็นเไปปรึกษาคุณหมอ
00:18:56 → 00:18:59 จิตเวทก่อนอันนี้เป็นการหลงแผนกไปเลย
00:18:59 → 00:19:01 เพราะว่าเรื่องของพิทยากรการกินที่ผิด
00:19:01 → 00:19:03 ปกติเนี่ยบางทีมันก็จะเป็นทางคุณหมอ
00:19:03 → 00:19:06 จิตแพทย์เนี่ยเา้าเป็นคนดูเไปปรึกษา
00:19:06 → 00:19:09 จิตแพทย์จิตแพทย์ก็ไปดูก็ซักไปซักมาเอ๊ะเ
00:19:09 → 00:19:12 ก็ดูไม่มีอะไรนี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรทางจิต
00:19:12 → 00:19:15 ไม่ได้มีอะไรสุดท้ายเนี่ยนะครับคุณหมอจี
00:19:15 → 00:19:18 แพทก็เก่งนะฮะก็เลยคิดว่าเอ๊ะมันเป็นภาวะ
00:19:18 → 00:19:20 ไทรรอยด์เป็นพิษหรือเปล่านะเขาก็เลยมีการ
00:19:20 → 00:19:23 นะครับเจาะเลือดดูก็พบว่าระดับฮอร์โมนของ
00:19:24 → 00:19:27 ไทรรอยด์นะครับมันสูงผิดปกติไปมากเลยฮะ
00:19:27 → 00:19:31 คือสูงมากแล้วก็ก็คนไข้เนี่ยพอมาิมาเจอผม
00:19:31 → 00:19:34 ที่แผนกศัลยกรรมเนี่ยนะครับก็พบว่าจริงๆ
00:19:34 → 00:19:36 คนไข้เนี่ยตัวผอมมากนะไม่น่าเชื่อว่าจะ
00:19:37 → 00:19:40 กินเก่งขนาดนั้นนะฮะแล้วก็ลักษณะพิอเขา
00:19:40 → 00:19:42 ที่เราดูแล้วรู้เลยว่าน่าจะเป็นไทรรอยด์
00:19:42 → 00:19:46 เนี่ยก็คือตาเขาโปนมากตาโปนเนี่ยคือดวงตา
00:19:46 → 00:19:50 รอบตาเขาจะโปนใหญ่เลยฮะแล้วก็มาแล้วคอเ้า
00:19:50 → 00:19:52 เนี่ยครับด้วยความที่ผมไม่รู้ว่าสไตล์การ
00:19:52 → 00:19:54 แต่งตัวเเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าทำให้หมอ
00:19:54 → 00:19:57 เนี่ยอาจจะบางทีไม่เห็นหรืออะไรคือจริงๆ
00:19:57 → 00:19:59 คอเขาโตแต่เขาแต่งตัวคือเขาจะใช้เหมือน
00:19:59 → 00:20:02 กับเป็นเป็นผ้าปิดคอสูงแล้วก็มีผ้าพันคอ
00:20:02 → 00:20:04 อะไรอย่าเงี้ยครับก็ไม่รู้เค้าปิดเพราะ
00:20:04 → 00:20:06 ว่าเค้าอายว่าคอเค้าโตหรือว่าเค้าไม่รู้
00:20:06 → 00:20:08 ว่ามันผิดปกติเค้าแต่งตัวแบบนี้หรือเปล่า
00:20:08 → 00:20:10 ไม่รู้แต่สรุปก็คือว่าพอตรวจร่างกายเนี่ย
00:20:10 → 00:20:13 เราพบว่าเค้าเนี่มีภาวะไทรรอยด์เป็นพิษ
00:20:13 → 00:20:17 ตั้งแต่ตาโปนคอโตซักประวัติก็บอกว่าเป็น
00:20:17 → 00:20:21 คนแบบขี้หงุดหงิดขี้กังวลเป็นคนใจร้อนนะ
00:20:21 → 00:20:24 ครับโมโหง่ายก็สุดท้ายเนี่ยเคสเนี้ยเรา
00:20:24 → 00:20:26 ประเมินตั้งแต่แรกแล้วว่ารักษาด้วยยาคง
00:20:26 → 00:20:28 ไม่ได้ผลเพราะว่าไทรรอยด์เป็นพิษเค้าเป็น
00:20:28 → 00:20:32 มมากเลยนะก็เลยผ่าตัดครับพอมาผ่าตัดเสร็จ
00:20:32 → 00:20:34 ก็มีโอกาสได้ Follow up นะครับคนไข้หลัง
00:20:34 → 00:20:37 การผ่าตัดเราตัดไทรรอยทั้งก้อนเลยนะครับ
00:20:37 → 00:20:39 ตัวไทรรอยด์ทั้งหมดเลยก็ตัดออกไปพอเขมา
00:20:39 → 00:20:42 Follow up น้ำหนักเพิ่มจากตอนแรกเนี่ย
00:20:42 → 00:20:45 ประมาณสัก 42 43 เนี่ยขึ้นมาเป็นซัก 47
00:20:45 → 00:20:47 48 คือดูมีมีน้ำมีนวนขึ้นหน่อยเพราะเ
00:20:47 → 00:20:50 เป็นคนตัวสูงฮะน้ำหนัก 43 นี่ถือว่าน้อย
00:20:50 → 00:20:54 มากนะฮะขึ้นมา 47 48 ดูแบบเป็นคนอารมณ์
00:20:54 → 00:20:56 ดีขึ้นดู mood and Tone ในเรื่องของการ
00:20:56 → 00:20:59 คุยกันพูดกันอะไรความ aggress หรืออะไร
00:20:59 → 00:21:01 ต่างๆมันน้อยลงอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึง
00:21:01 → 00:21:04 ที่เราเจอตั้งแต่การวินิจฉัยที่บางทีเอ๊ะ
00:21:04 → 00:21:07 เรากินเยอะกินจุก่งเก่งตกลงมันเป็นจาก
00:21:07 → 00:21:09 พฤติกรรมหรือมันเป็นตัวโลกหรือเปล่าก็ไม่
00:21:09 → 00:21:12 รู้นะครับอันที่ 2 เมื่อเป็นแล้วแบบไหน
00:21:12 → 00:21:14 ที่ต้องมาผ่าตัดไทรรอยด์ก็จะเป็นอีก
00:21:14 → 00:21:17 เรื่องนึงที่คิดว่าก็สามารถเอามาแชร์ได้
00:21:17 → 00:21:20 นะครับอืค่ะพฤติกรรมที่เป็นคนกินเยอะกิน
00:21:20 → 00:21:23 จุกินเก่งอันเนี้ยจริงๆแล้วคนปกติเนี่ย
00:21:23 → 00:21:25 ไม่ควรจะมีพฤติกรรมแบบนั้นใช่มั้ยคะคน
00:21:25 → 00:21:28 ปกติเนี่ยเวลาเรากินเข้าไปนะครับค่ะโดย
00:21:28 → 00:21:31 ธรรมชาติของมนุษย์เนี่ยเราจะอิ่มนะให้ตาย
00:21:31 → 00:21:33 ยังไงเราก็จะอิ่มนะครับมันจะแน่นคนที่
00:21:33 → 00:21:35 เป็นไทรอยด์ไม่ใช่เค้ากินแล้วเไม่อิ่มนะ
00:21:35 → 00:21:37 ฮะเหมือนเราอ่ะข้าวจานนึงเหมือนเราเลยนะ
00:21:37 → 00:21:40 เป๊ะเอิ่มเท่ากันนั่งแบบเยอ่ะอิ่มละไปลุก
00:21:40 → 00:21:44 เก็บตังค์เหมือนกันนะครับแต่พอผ่านไปสัก 2
00:21:44 → 00:21:46 ชั่วโมงเขาจะหิวอีกแต่ขณะที่เรา 2
00:21:46 → 00:21:49 ชั่วโมงเป็นไงครับเรายังแบบยังอืดยังแน่น
00:21:49 → 00:21:51 อยู่เลยแต่ 2-3 ชั่วโมงเผ่านไปเหิวอีก
00:21:51 → 00:21:54 แล้วเพราะระบบการเผาผลาญของตัวลำไส้การ
00:21:54 → 00:21:56 ดูดซึมต่างๆมันไม่เหมือนกันของเราเนี่ย
00:21:56 → 00:21:59 ยังค้างเติ่งอยู่ในกระเพาะอาหารอยู่ในลำ
00:21:59 → 00:22:03 ไสด้วแต่ของเนี่ยมันอาในลำไส้ทุกอย่างไป
00:22:03 → 00:22:06 หมดแล้วเก็เลยรู้สึกว่าเนี่ยหิวะอออยาก
00:22:06 → 00:22:08 กินอีกละอะไรอย่างเงี้ยครับน่าจะต้อง
00:22:08 → 00:22:11 สังเกตพฤติกรรมกันแบบติดตามอาการเนาะ
00:22:11 → 00:22:13 เพราะบางวันบางวันก็รู้สึกจะเป็นคนไทยรอย
00:22:13 → 00:22:17 ต่ำเพราะขี้เกียจบางวันก็จะรู้สึกอยากกิน
00:22:17 → 00:22:19 อะไรเยอะแยะมากมายเป็นไทรอยเยอะเป็นไทรอย
00:22:19 → 00:22:22 เป็นพิษั้งนั้นก็ต้องดูเ่อหลายๆปัจจัยนะ
00:22:22 → 00:22:24 ครับการกินเยอะกินจุกินเก่งก็ไม่ใช่
00:22:24 → 00:22:27 ไทรอยด์อย่างเดียวนะครับมันมีอาการอื่น
00:22:27 → 00:22:29 ร่วมด้วยนะครับต้องดูว่าตัวเราเป็นคนยัง
00:22:29 → 00:22:32 ไงนะครับ emotional เราเป็นยังไงพฤติกรรม
00:22:32 → 00:22:34 ในด้านอื่นเราเป็นยังไงอะไรอย่างเงี้ย
00:22:34 → 00:22:36 ครับมีก้อนที่คอโตขึ้นหรือเปล่าอะไรง
00:22:36 → 00:22:40 เงี้ยครับค่ะแล้วถ้าเราไม่ได้รักษาอ่ะค่ะ
00:22:40 → 00:22:42 คืออาจจะเป็นแต่เราไม่รู้ตัวแล้วเราก็ไม่
00:22:42 → 00:22:45 ได้รักษาอย่างงี้อันตรายมั้ยคะอันตราย
00:22:45 → 00:22:48 ครับคือคนที่ถ้าเกิดไทรรอยด์ต่ำเนี่ยก็
00:22:48 → 00:22:50 อาจจะไม่ได้มีปัญหาอะไรมากแต่มันจะไม่ดี
00:22:50 → 00:22:53 สำหรับเด็กตรงที่ว่าการพัฒนาการในเรื่อง
00:22:53 → 00:22:55 ของการเจริญเติบโตของสมองและระบบประสาทใน
00:22:55 → 00:22:57 เด็กเนี่ยมันจะช้าลงเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:22:57 → 00:22:59 เด็กเนี่ยควรจะมีระดับไทรรอยด์ฮอร์โมนที่
00:22:59 → 00:23:02 อยู่ในรับปกติแต่ไทรรอยด์ที่สูงเป็นพิษ
00:23:02 → 00:23:04 มากๆเนี่ยทำให้เสียชีวิตได้ยังไงก็คือว่า
00:23:04 → 00:23:07 คนที่ไทรรอยด์เป็นพิษแล้วไม่ได้รักษานะ
00:23:07 → 00:23:10 ครับมันจะเกิดภาวะไทรรอยด์สอมเสอมคือฟ้า
00:23:10 → 00:23:13 ผ่าพายุฟาดฟ้าอย่างเงี้ยครับมันเป็นการ
00:23:13 → 00:23:15 พูดถึงภาวะการทำงานของไทรอยด์ฮอร์โมนที่
00:23:15 → 00:23:18 มันสูงมากๆสูงมากจนเกินไปจะทำให้คนไข้
00:23:18 → 00:23:21 เนี่ยมีภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวตั้งแต่หัว
00:23:21 → 00:23:25 ใจล้มเหลวการหายใจล้มเหลวนะครับระบบทาง
00:23:25 → 00:23:27 เดินอาหารทุกอย่างระบบสมองการทำงานความ
00:23:27 → 00:23:29 รู้สึกตัวล้มเหลวเวเป็นโคม่าอย่างเงี้ย
00:23:29 → 00:23:32 ได้เลยนะครับอืค่ะโอจริงๆก็ก็ใใส่ใจ
00:23:32 → 00:23:35 สุขภาพกันหน่อยเออฟังดูอาจจะไม่ได้ดู
00:23:35 → 00:23:38 อันตรายมากแต่ถ้าปล่อยเอาาไว้ก็ก็อันตราย
00:23:38 → 00:23:40 ได้เหมือนกันอันตรายครับอย่าอย่าดูถูก
00:23:40 → 00:23:43 ไทรรอยด์เพียงแค่มันเป็นต่อมเล็กๆแล้วดู
00:23:43 → 00:23:45 เหมือนจะไม่มีอะไรแต่ว่าต่อมเล็กๆเนี่ยทำ
00:23:45 → 00:23:48 ให้เราเสียชีวิตได้นะครับแล้วคนที่เป็น
00:23:48 → 00:23:50 แล้วดูแลร่างกายหรือว่ารักษาจนหายแล้ว
00:23:50 → 00:23:53 เนี่ยค่ะสามารถกลับมาเป็นอีกได้มยคะปกติ
00:23:53 → 00:23:56 แล้วถ้าในกลุ่มคนไข้ที่ผ่าตัดไทรรอยด์ไป
00:23:56 → 00:23:58 แล้วเนี่ยครับถ้าสมมุติว่าผ่าตัดด้วยข้อ
00:23:58 → 00:24:00 บ่งชี้คือไทรรอยด์มันเกินเป็นภาวะไฮเปอร
00:24:00 → 00:24:02 ไทรรอยด์ตัดเสร็จปุ๊บเนี่ยคนไข้จะมีภาวะ
00:24:02 → 00:24:05 ไทรรอยด์ฮอร์โมนต่ำจากตอนแรกเกินก็ต้องมา
00:24:05 → 00:24:07 ต่ำแล้วก็ต้องมาให้ยาให้เทคฮอร์โมน
00:24:07 → 00:24:09 ไทรรอยด์เข้าไปเพื่อรักษาระดับฮอร์โมน
00:24:09 → 00:24:11 ไทรรอยด์ให้บานแต่ในกลุ่มคนไข้ที่
00:24:11 → 00:24:14 ไทรรอยด์ฮอร์โมนสูงแล้วไม่ได้ผ่าตัดพอกิน
00:24:15 → 00:24:17 ยาหรือว่ากลืนแร่พวกนี้มีโอกาสที่จะกลับ
00:24:17 → 00:24:20 มาเป็นซ้ำได้ถ้าเกิดว่า 1 กินยาไปแล้วอาจ
00:24:20 → 00:24:22 จะ compliant เรื่องของการบริหารยากินยา
00:24:22 → 00:24:24 ไม่ต่อเนื่องนะครับหรือหยุดยาไปแล้วกลับ
00:24:24 → 00:24:26 มาเป็นใหม่พวกนี้ก็จะมีอาการของตัว
00:24:26 → 00:24:29 ไทรรอยด์เกินกลับขึ้นมาเป็นมาอีกรอบหนึง
00:24:29 → 00:24:31 ได้กลุ่มคนที่ไทรรอยด์ต่ำพวกนี้ไม่ค่อยมี
00:24:31 → 00:24:34 ปัญหาครับแค่เทคตัวฮอร์โมนไทรรอยด์ก็ปกติ
00:24:34 → 00:24:37 ไม่มีปัญหาอะไรอืก็โอเคน่าจะครบถ้วนใน
00:24:37 → 00:24:39 เรื่องของแบบโรคไทรรอยด์อ่าฮอร์โมน
00:24:40 → 00:24:42 ไทรรอยด์มากเกินไปหรือน้อยเกินไปเราก็
00:24:42 → 00:24:45 ต้องกลับมาดูแลใส่ใจตัวเองก็ถามเพิ่มนิด
00:24:45 → 00:24:47 นึงค่ะสำหรับสมมุติคนที่กำลังเป็นอยู่
00:24:47 → 00:24:49 แล้วอย่างที่คุณหมอบอกว่าเอ้ยความเครียด
00:24:49 → 00:24:51 เนี่ยมันมีผลอย่างมากอันนี้เราน่าจะเข้า
00:24:51 → 00:24:54 ใจกันละแล้วเราจะปรับกิจวัตรหรือพฤติกรรม
00:24:54 → 00:24:55 อย่างอื่นอะไรได้อีกบ้างมั้ยคะในการที่จะ
00:24:55 → 00:24:58 ทำให้ฮอร์โมนมันดีขึ้นอย่างที่ผมบอกนะเรา
00:24:58 → 00:25:00 ต้องบริหารจัดการความเครียดถ้าจะทำยังไง
00:25:00 → 00:25:04 ให้ดี 1 ก็คือเราต้องรู้จักก่อนว่าไอ้
00:25:04 → 00:25:06 ความเครียดที่ว่าเนี่ยมันเป็นอะไรเรา
00:25:06 → 00:25:08 เครียดจากเรื่องอะไรเราต้องรู้สาเหตุก่อน
00:25:08 → 00:25:10 ถ้าเราไม่รู้ root ของสาเหตุ Root of C
00:25:10 → 00:25:12 ของมันนะครับว่ารากของมันที่แท้จริงเป็น
00:25:12 → 00:25:14 จากอะไรแก้ให้ตายยังไงก็แก้ไม่จบสุดท้าย
00:25:14 → 00:25:17 ถ้าเราเครียดแล้วเป็นไทลอยอีกเป็นอะไรอีก
00:25:17 → 00:25:19 เป็นโรคนั่นโรคนี่อีกแล้วเราไปนั่งมุ่งๆ
00:25:19 → 00:25:21 เน้นรักษาแต่โรคอย่างเดียวแต่ความเครียด
00:25:21 → 00:25:23 อะไรก็ไม่รักษามันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
00:25:23 → 00:25:25 เพราะฉะนั้นควรที่จะต้องมีการ 1 รู้ว่า
00:25:25 → 00:25:27 ปัญหาความเครียดคืออะไรไปแก้กับมันตรง
00:25:27 → 00:25:29 นั้นโฟกัสกับสิ่งที่เป็นอยู่โฟกัสกับสิ่ง
00:25:29 → 00:25:32 ที่เป็นปัจจุบันหากิจกรรมฮอบบี้อย่างอื่น
00:25:32 → 00:25:35 ในการที่จะผ่อนคลายตัวเองผ่อนคลายความ
00:25:35 → 00:25:38 เครียดออกไปสังสรรได้นะครับออกไปเจอผู้คน
00:25:38 → 00:25:40 ได้ไม่อยากออกไปเจอผู้คนอยากอยู่ตัวคน
00:25:40 → 00:25:43 เดียวออกกำลังกายได้ทำฮอบบิดวาดรูปเล่น
00:25:43 → 00:25:47 กีฬายิงปืนตีแบตทำอะไรได้นะครับแต่ต้องหา
00:25:47 → 00:25:49 อะไรที่มันเข้ากับจริตตัวเองแล้วไปทำถ้า
00:25:49 → 00:25:52 เกิดว่าเราปล่อยไปในลักษณะแบบนี้แน่นอนนะ
00:25:52 → 00:25:55 ฮะว่าเครียดก็เครียดโลกก็มาพอโลกยิ่งมาก็
00:25:55 → 00:25:57 ยิ่งเครียดมันก็จะเป็นปัญหาเป็นวัฏจักร
00:25:57 → 00:25:59 แบบเนี้ยวนไปวนมาสุดท้ายก็จะเบอร์เดนใน
00:26:00 → 00:26:02 ชีวิตมากๆถ้าสมมุติว่าโอเครู้ว่ามีความ
00:26:02 → 00:26:06 เครียดแล้วก็พยายามหาฮอบบี้หาอะไรที่แก้
00:26:06 → 00:26:08 ความเครียดแล้วนี่แหละแต่ไม่นอนเลยได้ยคะ
00:26:08 → 00:26:11 ไม่ได้ครับคือร่างกายของเราเนี่ยสำคัญที่
00:26:11 → 00:26:14 สุดเลยนะมันคือการนอนมนุษย์เรา 60 70 ปี
00:26:14 → 00:26:18 มีอายุมาครับเราใช้ 1/3 นะครับของช่วง
00:26:18 → 00:26:20 ช่วงชีวิตเนี่ยสมมุติว่าอายุ 60 ปีเนี่ย
00:26:20 → 00:26:23 จริงๆมนุษย์เรานอนไป 20 ปีอีก 40 ปีเรา
00:26:23 → 00:26:26 ใช้ชีวิตเพราะว่าอะไรในใน 24 ชมงเราใช้
00:26:26 → 00:26:28 กับการนอนส่วนใหญ่ก็ประมาณ 6-8 ชมมันคือ
00:26:28 → 00:26:31 1/3 การนอนเนี่ยมันจะช่วยนะครับในการที่
00:26:31 → 00:26:33 จะสร้างพุ้มกันขึ้นมาในร่างกายนะครับป้อง
00:26:33 → 00:26:36 กันโรคต่างๆทำให้ร่างกายที่เราอ่อนล้าใช้
00:26:36 → 00:26:39 งานมา 16 ชมงเนี่ยนะครับมันได้กลับมาฟื้น
00:26:39 → 00:26:42 ฟูขนาดเราเล่นคอมนะเราเปิดคอมเล่น
00:26:42 → 00:26:44 โทรศัพท์เรายังต้องชาร์จแบตเลยแล้วร่าง
00:26:44 → 00:26:46 กายเราเนี่ยมันถูกใช้มาตั้งแต่ตอนเราเกิด
00:26:46 → 00:26:49 เลยนะโอถ้าเราไม่พักมันเลยตะบี้ตะบันใช้
00:26:49 → 00:26:51 อย่างหนักหน่วงเนี่ยร่างกายมีปัญหาแน่นอน
00:26:51 → 00:26:54 นะครับค่ะบางคนที่ไม่นอนเพราะว่าอาจจะมี
00:26:55 → 00:26:56 ความรู้สึกหรือมุมมองต่อการนอนว่ามันเป็น
00:26:56 → 00:26:59 เรื่องเสียเวลาค่ะคุณหมอเ้ยเวลานั้นเอาไป
00:26:59 → 00:27:02 ทำงานหาเงินหรือเอาไปซื้อความสุขอย่าง
00:27:02 → 00:27:05 อื่นหรือมีสิ่งที่จำเป็นต้องทำดีกว่าบาง
00:27:05 → 00:27:07 คนอาจจะพูดถึงคำพูดขนาดนี้เลยนะคะว่า
00:27:07 → 00:27:10 เดี๋ยวสุดท้ายยังไงก็ได้นอนยาวอ่าก็เลยแ
00:27:10 → 00:27:13 เวลาเวลานอนยังมีอีกมากในลงศพเออใช่จริงๆ
00:27:13 → 00:27:16 จะบอกว่าคอนเซปเนี่ยครับเเราคิดแบบนั้น
00:27:16 → 00:27:20 ได้ไม่ผิดนะว่าเอ้ยเราจะไม่นอนนะจะหาเงิน
00:27:20 → 00:27:23 ทำได้แต่ต้องรู้ขอบเขตตัวเองคำว่ารู้ขอบ
00:27:23 → 00:27:25 เขตคือคนเราเนี่ยฮะเวลาเราทำงานเนี่ยนะ
00:27:25 → 00:27:28 อย่างอาชีพหมอเนี่ยนะต้องบอกเลยฮะว่าเรา
00:27:28 → 00:27:30 นอนไม่เป็นเวลาหรอกต่อให้ผมพูดเรื่องการ
00:27:30 → 00:27:32 นอนยังไงก็ตามนะผมตัวเองผมเองก็ยังมี
00:27:32 → 00:27:35 ปัญหาเรื่องของการนอนนะฮะในบางครั้งที่
00:27:35 → 00:27:38 โดนตามตอนกลางคืนต้องมาผ่าตัดตอนกลางคืน
00:27:38 → 00:27:40 นะครับถูกตามตอนกลางคืนแต่ของพวกเนี้ยเรา
00:27:40 → 00:27:43 ต้องรู้ limitation ตัวเองบางคนบอกว่า 8
00:27:43 → 00:27:46 ชมเพอบางคนบอก 4 ช่วโมงก็พอบางคน 6
00:27:46 → 00:27:48 ช่วโมงพอแต่ต้องนอนคือท้ายที่สุดไม่ว่า
00:27:48 → 00:27:50 ยังไงก็แล้วแต่เราต้องมีเวลาให้ร่างกาย
00:27:50 → 00:27:53 มันกลับมารีบูทตัวเองเพื่อรีเฟรชร่างกาย
00:27:53 → 00:27:55 กลับขึ้นมาใหม่เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยจะนอน
00:27:55 → 00:27:57 น้อยกว่าคนอื่นไม่เป็นไรแต่ขอให้นอนจะไป
00:27:57 → 00:28:01 ทำทำงานหาเงินนะนอนน้อยขายวิญญาณแลกกับ
00:28:01 → 00:28:03 เงินทำได้ครับแต่ต้องรู้ขอบเขตตัวเอง
00:28:04 → 00:28:06 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มทำอะไรที่
00:28:06 → 00:28:08 ออกนอกขอบเขตของตัวเองไปมากๆเนี่ยครับ
00:28:08 → 00:28:11 ร่างกายมันจะฟ้องกลับมาด้วยโรคด้วยความ
00:28:11 → 00:28:13 เครียดด้วยความกังวลด้วยภาวะอื่นๆในร่าง
00:28:13 → 00:28:16 กายที่ตามมาโหเท่าที่ฟังมาทั้งหมดไม่ว่า
00:28:16 → 00:28:18 ตอนนี้เราจะเป็นไทรรอยแล้วหรือว่าเราจะ
00:28:18 → 00:28:21 ยังไม่เป็นจริงๆก็ควรที่จะใส่ใจสุขภาพถ้า
00:28:21 → 00:28:23 คนที่เป็นแล้วเนี่ยก็อยากให้มีกำลังใจว่า
00:28:23 → 00:28:26 เฮ้ยมันมันมีเวยที่จะรักษาที่จะหายได้
00:28:26 → 00:28:29 กลับมาใช้ชีวิตปกติได้แล้วโดยเฉพาะคนที่
00:28:29 → 00:28:32 ยังไม่เป็นก็ไม่อยากให้ดูเบาไม่อยากให้
00:28:32 → 00:28:34 คิดว่าไม่เป็นไรใช้ชีวิตไปเพราะว่าอ
00:28:34 → 00:28:37 พฤติกรรมและนิสัยของเรานี่แหละมันอาจจะ
00:28:37 → 00:28:40 สะท้อนสู่โลคได้ในอนาคตก็ต้องมาดูแลใส่ใจ
00:28:40 → 00:28:42 สุขภาพกันแล้วก็เรื่องของการนอนความ
00:28:42 → 00:28:45 เครียดถูทุกอย่างสำคัญหมดเลยค่ะจริงๆไม่
00:28:45 → 00:28:47 ใช่แค่โรคนี้เนาะอ่าการนอนความเครียดแล้ว
00:28:47 → 00:28:49 ก็กิจวัตรประจำวันอาหารการกินจริงๆหลาย
00:28:49 → 00:28:51 โรคสำพันธหลายโรคมากใช่เดี๋ยวเราคุยกัน
00:28:51 → 00:28:54 ต่อใน EP ต่อๆไปดีกว่าค่ะสำหรับวันนี้ค่ะ
00:28:54 → 00:28:56 เกลาก็มีเสื้อเกลาค่ะมามอบให้คุณหมอเป็น
00:28:56 → 00:29:00 ของที่ระลึกค่ะครับขอบคุณครับไว้อาจจะใส่
00:29:00 → 00:29:03 ผ่าตัดไม่ได้แต่ใส่ในเป็นเสื้อข้างในเออ
00:29:03 → 00:29:06 ได้ค่ะถ้าสมมุติว่าท่านไหนสนใจนะคะอุด
00:29:06 → 00:29:08 หนุนเราได้นะคะที่ได้้ Description นี้
00:29:08 → 00:29:10 เลยนะคะคลิกเดียวง่ายๆค่ะหรือว่าจะหลายๆ
00:29:10 → 00:29:12 คลิกก็ได้เพราะว่าเเนี่ยยังมีผลิตภัณฑ์
00:29:12 → 00:29:14 อื่นๆอีกนะคะไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้าหรือ
00:29:14 → 00:29:16 ว่าหมวกเกลาค่ะยังไงก็เป็นกำลังใจให้พวก
00:29:16 → 00:29:19 เราด้วยนะคะอเป็นกำลังใจให้คุณหมอเหมือน
00:29:19 → 00:29:22 กันค่ะขอครับขอบคุณครับค่ะถ้าสมมุติว่า
00:29:22 → 00:29:24 อยากติดตามคุณหมอนี่ติดตามได้ช่องทางไหน
00:29:24 → 00:29:28 บ้างคะก็พอดีผมทำ YouTube อยู่นะครับเป็น
00:29:28 → 00:29:29 YouTube Content เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
00:29:29 → 00:29:32 ก็ชื่อ Channel เจ Dog นะครับก็ติดตามกัน
00:29:32 → 00:29:34 ได้ใน Channel นั้นครับค่ะยังไงก็อย่าลืม
00:29:34 → 00:29:36 กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้กับทีมงานเกลา
00:29:37 → 00:29:39 ด้วยนะคะแล้วก็ไปกดไลก์ช่องคุณหมอได้นะคะ
00:29:39 → 00:29:41 คอมเมนต์บอกเราได้นะคะว่าดู EP นี้แล้ว
00:29:41 → 00:29:43 ได้อะไรแล้วก็อยากให้แพนด้าคุยกับคุณหมอ
00:29:43 → 00:29:45 เรื่องไหนก็คอมเมนต์บอกเอาไว้ได้ค่ะ
00:29:45 → 00:29:47 สำหรับวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอมากๆเลย
00:29:47 → 00:29:49 ค่ะครับสวัสดีครับขอบคุณ
00:29:49 → 00:29:57 [เพลง]
00:29:57 → 00:29:59 ค่ะ A
00:29:59 → 00:30:10 [เพลง]