00:00:00 → 00:00:02 อาจารย์ขาเลยเข้าเรื่องเลยค่ะอาจารย์เลย
00:00:02 → 00:00:05 อยากจะทราบค่ะอาจารย์ขาว่าเนี่ยค่ะอาการ
00:00:05 → 00:00:07 เสียฟันเนี่ยค่ะมันเกิดจากอะไรแล้วมันถึง
00:00:08 → 00:00:10 บ่งบอกถึงสถานะของฟันเราเว่าสุขภาพฟันเรา
00:00:10 → 00:00:14 เริ่มแย่หรือยังคะอาจารย์ค่ะก็ถ้าเราพูด
00:00:14 → 00:00:17 ถึงเรื่องเสียวฟันนะคะก่อนอื่นเลยขอ
00:00:17 → 00:00:20 อนุญาตทวนเรื่องโครงสร้างของฟันก่อนเราจะ
00:00:20 → 00:00:23 ได้เข้าใจว่ามันเกิดจากอะไรได้บ้างนะคะ
00:00:23 → 00:00:27 ค่ะก็คือถ้าเราดูตัวฟันในช่องปากเราเนี่ย
00:00:27 → 00:00:30 ค่ะส่วนที่เราเห็นเราก็จะเรียกว่าตัวฟัน
00:00:30 → 00:00:32 นะคะแล้วก็จะมีส่วนที่อยู่ในกระดูกแล้วก็
00:00:33 → 00:00:34 ที่เหงือกหุ้มอยู่อันเนี้ยเรามองไม่เห็น
00:00:35 → 00:00:37 ก็คือจะเป็นส่วนของรากฟันค่ะค่ะซึ่งทั้ง
00:00:37 → 00:00:40 ในส่วนของตัวฟันและรากฟันเนี่ยถ้าเราแบ่ง
00:00:40 → 00:00:44 จากข้างในออกมาข้างนอกนะคะโดยไล่จากจาก
00:00:44 → 00:00:46 ข้างนอกเข้าไปข้างในเนี่ยชั้นนอกสุดเลย
00:00:47 → 00:00:49 ของตัวฟันเราอ่ะก็คือเคลือกฟันหรือว่า
00:00:49 → 00:00:53 อีนาเมลนะคะซึ่งจะเป็นชั้นที่แข็งที่สุด
00:00:53 → 00:00:56 ของตัวฟันนะคะแข็งกว่ากระดูกอีกแล้วพอั
00:00:56 → 00:00:59 ชั้นเนี้ยเข้าไปเนี่ยก็จะเป็นชั้นเนื้อ
00:00:59 → 00:01:01 ฟันพอเป็นชั้นเนื้อฟันเนี่ยตรงเนี้มันจะ
00:01:01 → 00:01:04 นิ่มลงละแล้วก็ลักษณะเนื้อฟันมันจะเป็น
00:01:04 → 00:01:08 ท่อเล็กๆเต็มไปหมดเลยนะคะซึ่งมันจะเป็น
00:01:08 → 00:01:10 ตัวเชื่อมระหว่างเส้นประสาทที่อยู่ชั้นใน
00:01:10 → 00:01:13 สุดของฟันกับสิ่งแพกับตัวเคลือบฟันข้าง
00:01:13 → 00:01:16 นอกนะคะค่ะซึ่งมันจะเป็นลักษณะอย่างเงี้ย
00:01:16 → 00:01:20 ทั้งที่ตัวฟันแล้วก็รากฟันแต่ว่าที่ราก
00:01:20 → 00:01:23 ฟันเนี่ยชั้นนอกสุดมันจะคือเรียกว่า
00:01:23 → 00:01:27 เคลือบผิวรากฟันนะคะซึ่งมันจะมีลักษณะ
00:01:27 → 00:01:32 ที่อ่อนกว่าตัวเคลือบฟันนะคะอเอเพราะ
00:01:32 → 00:01:35 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าพอเคลือบฟันหรือว่า
00:01:35 → 00:01:38 เคลือบผิวรากฟันเนี่ยมันมี
00:01:38 → 00:01:41 การหลุดออกไปไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็
00:01:41 → 00:01:44 แล้วแต่มันก็จะเจอชั้นเนื้อฟันึ่งจะบอก
00:01:44 → 00:01:47 ว่ามันจะเป็นท่อๆเล็กๆเล็ๆเนี่ยค่ะค่ะ
00:01:47 → 00:01:51 เมื่อมีสิ่งมากระตุ้นไม่ว่าจะเป็นลมน้ำ
00:01:51 → 00:01:55 สารเคมีหรือว่าพวกแรงกระแทกแแรงสีฟันหรือ
00:01:55 → 00:01:58 อะไรก็ตามเนี่ยมันก็จะไปกระตุ้นตามท่อเย
00:01:58 → 00:02:01 ให้มันส่งเข้าไปถึงไอ้ตัวเส้นประสาทข้าง
00:02:01 → 00:02:04 ในตัวฟันเราทำให้เรามีอาการเสียวฟันได้
00:02:04 → 00:02:08 ค่ะอืค่ะคราวนี้เราก็ต้องมาดูสาเหตุว่า
00:02:09 → 00:02:11 สาเหตุที่จะทำให้เคลือบฟันของเราหรือว่า
00:02:11 → 00:02:15 เคลือบผิวรากฟันของเราเนี่ยมีการหายไปสูญ
00:02:15 → 00:02:18 หายไปเนี่ยมันเกิดจากอะไรได้บ้างนะคะก็
00:02:18 → 00:02:21 เกิดได้ากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นจากฟันผุ
00:02:22 → 00:02:25 อนะคะหรือว่าฟันึกหรือว่ามีฟันแตกไปจาก
00:02:25 → 00:02:28 อุบัติเหตุหรือมีฟันร้าวหรือว่าเมื่อกี้
00:02:28 → 00:02:31 อย่างที่คุณดรีมบอกคือคือการฟันแรงเนี่ย
00:02:31 → 00:02:34 มันก็จะเกิดฟันสึกหรือว่าเหงือกร่นบริเวณ
00:02:34 → 00:02:38 คอฟันตรงรอยต่อตรงเนี้ยเออพอคอฟันพอผิว
00:02:38 → 00:02:40 เือฟันหรือผิวรากฟันมันสึกไปอ่ะมันถึง
00:02:40 → 00:02:42 ชั้นเนื้อฟันมันก็จะทำให้เกิดอาการเสียว
00:02:42 → 00:02:47 ได้ค่ะอืค่ะอาจารย์คะแล้วอาการเสียวฟัน
00:02:47 → 00:02:49 เนี่ยเหมือนคุณผู้ฟังก็ส่งมาเลยบอกใช่เลย
00:02:49 → 00:02:54 ครับเป็นๆหายๆใช่มั้ยคะหรือว่ามันจะเป็น
00:02:54 → 00:02:58 ถาวรมันจะต้องขึ้นอยู่กับว่าสาเหตุมันคือ
00:02:58 → 00:03:02 อะไรอ่ะค่ะอืสาว่าสาเหมันเกิดจากฟันผถ้า
00:03:03 → 00:03:06 เราไม่รักษายังไงมันก็ไม่หายมันก็จะมีแต่
00:03:06 → 00:03:09 แนวโน้มต่อที่จะผุไปเรื่อยๆจากเสียวมันก็
00:03:09 → 00:03:12 จะถ้ามันผุลงไปลึกๆมันก็จะกลายใกล้ประสาท
00:03:12 → 00:03:15 ฟันมากขึ้นหรือทะลุประสาทฟันมันก็จะกลาย
00:03:15 → 00:03:20 เป็นปวดนะคะแต่ว่าถ้ามันสึกอมันสึกไปแล้ว
00:03:20 → 00:03:24 ก็ยังสึกอยู่ในชั้นที่ไม่ลึกมากแล้วเรามี
00:03:24 → 00:03:27 พฤติกรรมที่ที่มันดีขึ้นอะไรอย่างเงี้ย
00:03:27 → 00:03:32 แล้วมันไม่สึกต่อนะคะมันก็มีโอกาสที่ว่าแ
00:03:32 → 00:03:35 ทาในน้ำลายหรือจยาสีฟันอะไรก็แล้วแต่มัน
00:03:35 → 00:03:38 ไปตกผลึกผิดปิดท่อเนื้อฟันเล็กๆๆพวกเนี้ย
00:03:38 → 00:03:41 มันก็เกิดที่จะทำให้เกิดลดอาการเสียวฟัน
00:03:41 → 00:03:43 ได้แต่เมื่อไรก็แล้วแต่ถ้ามันมีอะไรไป
00:03:43 → 00:03:45 กระตุ้นหรือเราแปลงกลับมาแปรงฟันแรง
00:03:45 → 00:03:48 เหมือนเดิมแปรงฟันผิดวิธีเนี่ยไอ้ตรงผลึก
00:03:48 → 00:03:51 พวกเนี้ยมันก็หลุดออกไปได้มันก็จะเสียว
00:03:51 → 00:03:54 ขึ้นมาได้เหมือนกันน่ะค่ะอืแล้วก็สิ่ง
00:03:54 → 00:03:56 กระตุ้นสำหรับแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน
00:03:56 → 00:04:00 บางคนอาจจะอ่าถ้าเกิดว่ามีอะไรไปเขี่ย
00:04:00 → 00:04:02 หรืออะไรอาจจะมีกันเสียวได้แต่บางคนอาจจะ
00:04:02 → 00:04:05 เซ้นต่อความเย็นความร้อนอะไรอย่างเงี้ย
00:04:05 → 00:04:09 ค่ะที่แตกต่างกันได้ค่ะค่ะอือันนี้คือจาก
00:04:10 → 00:04:13 การที่ฟันขุใช่มั้ยครับคุณหมอมันมันคุณ
00:04:13 → 00:04:18 หมอคือส่วนใหญ่อการเสียวฟันเนี่ยมันจะ
00:04:18 → 00:04:22 เริ่มเป็นหรือว่าเริ่มพบได้มันมีช่วงวัย
00:04:22 → 00:04:26 ช่วงอายุมครับคุณหมอครับอืก็จริงๆพบพบได้
00:04:26 → 00:04:29 ทุกวัยนะคะถ้าถ้าในเด็กในวัยเด็กเนี่ยเ่ะ
00:04:29 → 00:04:32 เสียวฟันส่วนใหญ่เราก็อาจจะสันนิษฐานก่อน
00:04:32 → 00:04:35 ละว่าฟันผุอันนี้ถ้าเกิดไฟวัยเด็กนะคะแต่
00:04:35 → 00:04:39 ถ้าเกิดวัยผู้ใหญ่สูงอายุเพิ่มขึ้นมา
00:04:39 → 00:04:42 เนี่ยก็มีได้ตั้งแต่ฟันผูนะคะหรือว่ามี
00:04:42 → 00:04:45 เหงือกร่นนะคะเป็นโรคปริทันเนาะคือเหงือก
00:04:45 → 00:04:49 ร่นจนถึงผิวรากฟันเนาะแล้วมันก็จะมีผิวก
00:04:49 → 00:04:52 ผิวรากฟันมีการถูกทำลายไปอันนี้ก็อาจจะทำ
00:04:52 → 00:04:55 ให้เกิดเสียวฟันได้หรือว่ามีฟันสึกอืค่ะ
00:04:55 → 00:04:58 แตกฟันร้าวพวกเนี้ยค่ะมันมันก็ทำให้เกิด
00:04:58 → 00:05:01 อาการเสียฟันได้คือมันมีหลายสาเหตุเพราะ
00:05:01 → 00:05:04 ฉะนั้นถ้าจะให้ดีที่สุดก่อนที่เราจะไป
00:05:04 → 00:05:07 เริ่มทำอะไรก็แล้วแต่เนี่ยพบคตาแพร่เป็น
00:05:07 → 00:05:11 สิ่งที่ดีที่สุดค่ะอืเพื่อที่จะวินิฉัย
00:05:11 → 00:05:15 ให้ได้ว่าสาเหตุคืออะไรแล้วเราจะได้รักษา
00:05:15 → 00:05:19 แล้วก็ดูแลอย่างถูกวิธีต่อไปค่ะอาจารย์คะ
00:05:19 → 00:05:21 คือบางอย่างที่อาจารย์บอกบางคนโดนฟันโดน
00:05:21 → 00:05:23 ลมฟันก็รู้สึกเสียวแล้วอะไรงเงี้ยค่ะ
00:05:23 → 00:05:26 อาจารย์การรับประทานหรือการดื่มน้ำที่
00:05:26 → 00:05:29 เย็นจัดร้อนจัดรวมถึงแบบอาหารที่มีรส
00:05:29 → 00:05:31 เปรี้ยวแล้วยังแบบเป็นกดที่ค้างอยู่ใน
00:05:31 → 00:05:34 ช่องปากของเราอย่างพวกแบบคนที่ชอบทานอะไร
00:05:34 → 00:05:37 เปรี้ยวๆเนี่ยค่ะมันมีส่วนที่ทำให้ผิว
00:05:37 → 00:05:39 เคลือบฟันอะไรอย่างเงี้ยค่ะของเรามันหาย
00:05:39 → 00:05:42 ไปแล้วมันทำให้เกิดฟันแบบสึกกร่อนอะไร
00:05:42 → 00:05:47 อย่างนี้ด้วยหรือเปล่าคะถ้าเป็นพวกลมแล้ว
00:05:47 → 00:05:50 ก็อาหารที่เป็นความเย็นความร้อนอันนี้มัน
00:05:50 → 00:05:53 จะกระตุ้นถ้าเกิดว่าตัวเนื้อฟันมัน
00:05:53 → 00:05:56 มัน้มันมีการสึกกล่อนไปแล้วจนถึงชั้น
00:05:56 → 00:05:59 เนื้อฟันเนี่ยพวกลมน้ำหรือว่าพวกอาหาร
00:05:59 → 00:06:01 ร้อนเยียนพวกนี้จะกระตุ้นให้ให้เรามี
00:06:01 → 00:06:05 อาการเสียวได้นะคะรวมถึงของเปรี้ยวหรือ
00:06:05 → 00:06:08 อาหารที่รเป็นกดได้แต่ว่าในกรณีพวกอาหาร
00:06:08 → 00:06:11 รสเปรี้ยวหรืออันที่เป็นกรดเนี่ยมันก็มี
00:06:11 → 00:06:13 ส่วนที่จะทำให้เคลือบผิวราดฟันเราอ่ะค่ะ
00:06:13 → 00:06:17 หรือเคลือบผิวฟันเราอ่ะมันอ่อนตัวลงแล้ว
00:06:17 → 00:06:19 มันก็จะทำกระตุ้นเหมือนเป็นปัจจัยเสริมทำ
00:06:19 → 00:06:23 ให้ฟันมันสึกได้ง่ายขึ้นน่ะค่ะอืค่ะอือ
00:06:23 → 00:06:26 เค้าก็เลยอย่างว่าบางอย่างบางคนเนี่ยชอบ
00:06:26 → 00:06:29 ทานน้ำผลไม้หรืออะไรก็แล้วแต่ที่รด
00:06:29 → 00:06:31 เปรี้ยวจริงๆก็คือคำแนะนำก็คือหลังจากที่
00:06:31 → 00:06:34 เราทานพวกอาหารรสเปรี้ยวหรือน้ำผลไม้ที่
00:06:34 → 00:06:37 มีรสเปรี้ยวเนี่ยเราก็ยังไม่ควรที่จะแปลง
00:06:37 → 00:06:40 ฟันทันทีหลังทานควรที่จะดื่มน้ำตาแล้วก็
00:06:40 → 00:06:42 ทิ้งไว้อย่างน้อยถึงครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว
00:06:43 → 00:06:45 เราถึงค่อยแปรงฟันเพราะว่าไม่งั้นถ้าเกิด
00:06:45 → 00:06:47 ว่าเราดื่มน้ำผลไม้ที่มันเป็นมีรสเปรี้ยว
00:06:47 → 00:06:49 แล้วมีลักษณะเป็นกรดเนี่ยแล้วเราไปแปรง
00:06:49 → 00:06:52 ฟันซ้ำเลยทันทีอ่ะคือตัวผิวรักผิวเคลือบ
00:06:52 → 00:06:55 ฟันมันก็จะอ่อนลงแล้วตอนเราแปรงเนี่ยมัน
00:06:55 → 00:06:59 ก็มีโอกาสที่จะสึกเพิ่มขึ้นค่ะอือันนี้
00:06:59 → 00:07:02 รวมถึงถึงตัวอาหารทุกประเภทด้วยมยครับคุณ
00:07:02 → 00:07:05 หมอเพราะว่าบางคนผมก็เห็นนะว่าเราพอกิน
00:07:05 → 00:07:07 เสร็จปั๊บเนี่ยอ่ะรีบเข้าห้องน้ำไปทำความ
00:07:07 → 00:07:10 สะอาดทันทีเพราะอาจจะดกลัวเรื่องของกลิ่น
00:07:10 → 00:07:12 ปากด้วยหรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยมันจะทำ
00:07:12 → 00:07:16 ให้มีอาการเสียวตามมาทีหลังได้มครับไม่
00:07:16 → 00:07:19 ไม่ค่ะถ้าอาหารปกติอันนี้โอเคค่ะแปลงทำ
00:07:19 → 00:07:21 ความสะอาดได้ทำทีแต่ว่าถ้าเกิดบางคนที่
00:07:21 → 00:07:25 แบบดื่มน้ำผลไม้น้ำที่มีรสเปลี่ยวอ่ะค่ะ
00:07:25 → 00:07:28 อันนี้ก็อยากจะแนะนำว่าให้รอักอย่างน้อย
00:07:28 → 00:07:30 ประมาณดื่มน้ำตามเยอะๆก็รอสักประมาณครึ่ง
00:07:30 → 00:07:33 ชั่วโมงถึงจะแปรงฟันค่ะอือ๋อถ้าเป็น
00:07:33 → 00:07:35 เรื่องของอาหารเปรี้ยวๆเนี่ยด้วยมยครับ
00:07:35 → 00:07:38 อ่ะถ้าอย่างกรณีชอบกินยำต้มยำอะไรอย่าง
00:07:38 → 00:07:40 เงี้ยฮะคุณหมอครับที่มันมีรสเปรี้ยวรสจัด
00:07:40 → 00:07:44 อะไรอย่างเงี้ยฮะค่ะก็ก็อย่างแล้วก็ต้อง
00:07:44 → 00:07:46 ม่วนดื่มน้ำม่วนน้ำตามแต่ว่าอาจจะยังไม่
00:07:46 → 00:07:50 แปลงอาจจะรอสักพักก่อนได้ค่ะออันนี้เพิ่ง
00:07:50 → 00:07:52 เพิ่งทราบจริงๆเหมือนกันนะคะว่าอ๋อต้องรอ
00:07:52 → 00:07:54 ถึงครึ่งชั่วโมงไม่เคยไม่เคยรู้มาก่อนทุก
00:07:54 → 00:07:56 ทีคิดว่าอ่ะถ้าเราทานอะไรเปี้ยวๆอย่าง
00:07:56 → 00:08:00 สมมติเรากินพวกแบบทานพวกแบบอ่ามะม่วงด
00:08:00 → 00:08:02 อะไรอย่างเงี้ค่ะมะกองอะไรค่ะเปรี้ยวๆ
00:08:02 → 00:08:05 เงี้ยค่ะหรือว่าเราทานแบบน้ำมะนาวอะไร
00:08:05 → 00:08:08 อย่างเงี้ยค่ะโซดามะนาวอ่าเงี้ยเปรี้ยวๆ
00:08:08 → 00:08:12 ซ่าๆก็นึกว่าออถ้ามันมีอะไรติดฟันแล้วก็แ
00:08:12 → 00:08:17 งี้ใช่มพใช่คิดคิดคิดใชบ้วนน้ำบ้วนน้ำ
00:08:17 → 00:08:20 ก่อนแล้วก็ดน้ำเนี่ยค่ะล้างทำความสะอาด
00:08:21 → 00:08:24 แต่อาจจะยังแบบเรื่องๆแปลงนี่อาจจะดียไป
00:08:24 → 00:08:28 สักนิดนึงก่อนเค่อยแปลงจะดีกว่าค่ะอืคือ
00:08:28 → 00:08:32 ถ้าถ้าทำเลยครับคุณหมอครับแล้วก็คือมัน
00:08:32 → 00:08:36 นานนะกว่าจะมีผลกระทบกับฟันของเราอ่ะครับ
00:08:36 → 00:08:40 คุณหมอคือแต่ถ้าอย่าอยกยกอย่างกรณีพี่หยก
00:08:40 → 00:08:42 พี่หยกไม่รู้มาก่อนเลยอย่างพี่หยกทานน้ำ
00:08:42 → 00:08:45 มะนาวเสร็จปั๊บทานมะม่วงดองทานของเปรี้ยว
00:08:45 → 00:08:48 อะไรปั๊บอ่ะมันติดฟันอะไรอย่างเงี้ยแปลง
00:08:48 → 00:08:50 ฟันเลยเนี่ยมันต้องสะสมนานขนาดไหนมันถึง
00:08:50 → 00:08:52 จะมีอาการให้เราได้ได้ได้รู้สึกอ่ะครับ
00:08:52 → 00:08:57 คุณหมออืมันมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยอ่ะ
00:08:57 → 00:09:00 ค่ะอย่างที่บอกเพราะว่าลักษณะ
00:09:00 → 00:09:03 ความเป็นกดด่านในช่องต่างแต่ละคนก็ไม่
00:09:03 → 00:09:06 เท่ากันเนาะค่ะในความสามารถในการที่จะ
00:09:06 → 00:09:09 กำจัดหรืออะไรอย่างเงี้ยคือเเรียกว่าอะไร
00:09:09 → 00:09:11 อ่ะปรับสมดุลของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันแล้ว
00:09:11 → 00:09:15 ก็ลักษณะการแปรงฟันผลแปรงที่ใช้วิธีการ
00:09:16 → 00:09:19 แปลงฟันอะไรอย่างเงี้ยค่ะของแต่ละคนมัน
00:09:19 → 00:09:21 มันก็ไม่เท่ากันมันก็ไม่เหมือนกันเพราะ
00:09:21 → 00:09:23 ฉะนั้นจะจะให้บอกระยะเวลาตลายตัวไปเลย
00:09:23 → 00:09:26 เนี่ยน่าน่าจะบอกไม่ได้แต่ก็คือเป็น
00:09:26 → 00:09:29 ปัจจัยเสี่ยงปัจจัยนึงที่จะทำให้เกิดการึ
00:09:29 → 00:09:32 ึกของฟันได้เพิ่มขึ้นค่ะอืพูดอย่างงี้ดี
00:09:32 → 00:09:36 กว่าแต่มันไม่ใช่แบบว่า 100% ว่ามันจะ
00:09:36 → 00:09:40 เกิดแต่มีโอกาสเกิดเพิ่มขึ้นอย่างงนี้ดี
00:09:40 → 00:09:43 กว่าค่ะอค่ะอาจารย์คะแล้วช่วงก่อนที่มัน
00:09:43 → 00:09:46 จะเราเราจะเ่อเรียกว่าผิวเคลือบฟันของเรา
00:09:46 → 00:09:49 จะหายเราสามารถรู้ตัวได้มคะมันมีสัญญาณมย
00:09:49 → 00:09:51 เช่นแต่ก่อนฟันเราลื่นๆนี่คือผิวเคลือบ
00:09:51 → 00:09:54 ฟันอยู่ป่ะคะหรือจริงๆแล้วมันไม่ใช่อัน
00:09:54 → 00:09:56 นี้ที่เวลาเราสัมผัสเองเราจะรู้มคะว่าอัน
00:09:56 → 00:09:59 นี้คือผิวเคลือบฟันหรือว่าหรือว่าทุฟันไป
00:09:59 → 00:10:03 แล้วเราเอามือไปจับอุ๊ยหนืดคือยังไงคะ
00:10:03 → 00:10:07 มันก็ถ้ามันไม่ได้กระทอถ้าตัวผิวเือฟัน
00:10:07 → 00:10:10 ไม่ได้กระเทาะหลุดออกมามันค่อยๆสึกค่อยๆ
00:10:10 → 00:10:13 สึกไปอ่ะบางทีมันก็จะไม่ได้ขรุขะอืนะคะ
00:10:13 → 00:10:16 เออมันก็จะค่อยๆหายไปโดยที่เราไม่ได้รู้
00:10:16 → 00:10:20 ตัวอ่ะค่ะแต่ว่าโดยปกติตัวเคลือบฟันกับ
00:10:20 → 00:10:22 ตัวเนื้อฟันน่ะค่ะมันก็จะมีความต่างกัน
00:10:22 → 00:10:26 คือตัวเคลือบฟันมันจะขากว่าตัวเนื้อฟันอื
00:10:26 → 00:10:31 บางทีเราอาจจะเห็นได้แบบบางคนถ้าสึกบนบาง
00:10:31 → 00:10:32 คนเห็นได้เลยว่าตรงเหมือนตรงคอฟันอย่าง
00:10:33 → 00:10:34 เงี้ยถ้าเกิดบางคนที่สึกไปอย่างนี้คุณ
00:10:34 → 00:10:38 ดรีมบอกว่ามีคอฟันสึกที่สึกแล้วตรงที่
00:10:38 → 00:10:41 ปกติมันจะขาวเนาะตรงที่มันสไปอ่ะมันเริ่ม
00:10:41 → 00:10:43 จะเห็นแล้วว่ามันจะเหลืองๆอย่างเงี้ย
00:10:43 → 00:10:47 ค่ะสีมันจะต่างกันค่ะเพราะว่าตัวเนื้อฟัน
00:10:47 → 00:10:50 มันจะมีสีเข้มกว่าตัวเคลือบฟันค่ะอือัน
00:10:50 → 00:10:54 นั้นเป็นสัญญาณบอกนะคะเอออเป็นสัญญาณบอก
00:10:54 → 00:10:57 ใช่มยคุณหมอเรื่องของเครื่องดื่มอเมื่อ
00:10:57 → 00:10:59 กี้เราพูดถึงเร่องหอเปรี้ยวไปลไอ้พพวกน้ำ
00:10:59 → 00:11:03 อัดลมโดาโหช่วงนี้อากาศร้อนด้วยหือคนอยาก
00:11:03 → 00:11:06 จะได้ของที่มันใช่ชื่นใจนิดนึงซ่าๆชื่นใจ
00:11:07 → 00:11:09 ชื่นใจการทานไอ้พวกเครื่องดื่มแบบนี้
00:11:09 → 00:11:12 เนี่ยสะสมกันเป็นระยะเวลานานๆก็เป็นหนึ่ง
00:11:12 → 00:11:16 ในสาเหตุที่ทำให้เราเกิดอาการเสียวได้มาก
00:11:16 → 00:11:19 น้อยขนาดไหนถ้าเทียบกับพฤติกรรมอย่างอื่น
00:11:19 → 00:11:24 ฮะคุณหมอก็ก็จะพอๆกับเครื่องดื่มที่ที่มี
00:11:24 → 00:11:26 ฤทธิ์เป็นกรดอ่ะค่ะเพราะว่ากลุ่มกลุ่ม
00:11:26 → 00:11:29 โซดาพวกน้ำอัดลมมันก็จะมีความเป็นกดอยู่
00:11:29 → 00:11:35 แล้วเนาะค่ะอืค่ะอืคือคือคือวิธีการดื่ม
00:11:35 → 00:11:37 เนี่ยมีมีส่วนด้วยมั้ยครับอ่ะถ้าอย่างบาง
00:11:37 → 00:11:39 คนเนี่ยก็กลัวว่าเดี๋ยวมันจะเนี่ยฟังคุณ
00:11:39 → 00:11:42 หมอเสร็จปั๊บกลัวว่าจะไปทำลายพวกเคลือก
00:11:42 → 00:11:45 ฟันด้านนอกใช้วิธีหลอดดูดถึงลงคออะไร
00:11:45 → 00:11:48 อย่างเงี้ยช่วยได้นะคุณหมอครับก็อาจจะ
00:11:48 → 00:11:52 ช่วยด้านด้านนอกนะคะแต่ด้านในก็ก็กเราก็
00:11:52 → 00:11:54 ยังมีตัวฟันด้านในอยู่เนาะด้านที่ติดลิ้น
00:11:54 → 00:11:57 กับด้านเเพดานก็มีโอกาสที่จะสึกข้างในได้
00:11:57 → 00:12:01 เหมือนกันค่ะอืออ้าเหรอครับค่ะโหนี่ผม
00:12:01 → 00:12:05 อุตส่าห์เลือกใช้วิธีการหเลยนะคุณหมอต่อท
00:12:05 → 00:12:09 ท่อตงท่อตรงลงคอเลยคุณหมออ๋อก็มีโอกาสที่
00:12:09 → 00:12:12 จะเกิดได้เหมือนกันอือใช่แต่เป็นด้านใน
00:12:12 → 00:12:14 แล้วบางทีด้านในบางทีเราอาจจะแบบเออไม่
00:12:14 → 00:12:16 ค่อยไม่ค่อยได้สังเกตอ่ะเหมือนด้านนอกอ่ะ
00:12:16 → 00:12:18 ค่ะเพราะบางทีมันก็จะมองเห็นได้ด้วยตัว
00:12:18 → 00:12:21 เองค่อนข้างลำบากนิดนึงพอมันอยู่ด้านสลิ
00:12:21 → 00:12:25 หรือว่าด้านเพดานค่ะอืค่ะอาจารย์นะ
00:12:25 → 00:12:27 อาจารย์ขาแล้วเนี่ยค่ะเหมือนที่คนอื่นเขา
00:12:27 → 00:12:30 แบบนิยมกันแบบเราใช้ยาสีฟันแล้วเราอมยาสี
00:12:30 → 00:12:33 ฟันมันจะไม่หายจะหายมยคะพฤติกรรมนี้หรือ
00:12:33 → 00:12:36 ว่ายาสีฟันที่เขาเคลมว่ามันจะช่วยแบบลด
00:12:36 → 00:12:41 อาการเสียวฟันมันช่วยมั้ยคะก็ในยาสีฟัน
00:12:41 → 00:12:44 บางบางชนิดอ่ะค่ะที่เขาเกรียมว่าช่วยลด
00:12:44 → 00:12:48 การเสียวฟันเขาก็จะมีการผสมสารบางอย่าง
00:12:48 → 00:12:50 อ่ะค่ะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกลุ่ม
00:12:50 → 00:12:52 โพแทสเซียมที่มีส่วนประกอบของโพแทสเซียม
00:12:52 → 00:12:55 หรือว่ากลุ่มที่มีพวกฟูอายบางชนิดนะคะ
00:12:56 → 00:13:00 ซึ่งพวกเนี้ยมันจะไปตกผลึกปิดตรงท่อเนื้อ
00:13:00 → 00:13:03 ไฟเล็กๆๆตามที่หมอบอกแต่ว่าอย่างที่บอก
00:13:03 → 00:13:05 อ่ะค่ะคือการใช้อันนี้อย่างเดียวมันไม่
00:13:05 → 00:13:08 ใช่จะถาวรถ้าว่าเราไม่เปลี่ยนพฤติกรรมอ่ะ
00:13:08 → 00:13:11 ค่ะอืไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเรายังแปรงฟัน
00:13:11 → 00:13:13 เหมือนเดิมไอ้ตัว
00:13:13 → 00:13:16 ลึกพวกเนี้ยสารแร่ธาตุพวกเที่ไปปิดท่อ
00:13:16 → 00:13:19 เนื้อไฟเล็กๆมันก็หลุดออกได้เหมือนเดิมนะ
00:13:19 → 00:13:22 คะเพราะฉะนั้นมันมันก็จะต้องอาศัยหลายๆ
00:13:22 → 00:13:27 อย่างประกอบกันคือทั้งในเรื่องของตัวยาสี
00:13:27 → 00:13:32 ฟันวิธีการแปงฟันแล้วก็ิตของขนแปรงที่
00:13:32 → 00:13:35 เลือกใช้ด้วยมันก็จะต้องประกอบกันค่ะมัน
00:13:35 → 00:13:38 ก็คือเหมือนจะช่วยได้ให้ดีขึ้นระยะเวลา
00:13:38 → 00:13:40 นึงแต่ว่าถ้าเป็นไม่มากนะคะเหมือนว่ากรณี
00:13:40 → 00:13:43 ที่สึกบางตำแหน่งแล้วไม่ได้สึกลึกมากก็
00:13:43 → 00:13:49 ช่วยได้ค่ะอืค่ะสึกไม่ลึกมากครับคุณหมอ
00:13:49 → 00:13:51 เราจะรู้ได้ไงว่ามันลึกมากหรือไม่ลึกมาก
00:13:51 → 00:13:55 ่ะครับคุณหมอก็อย่างที่บอกว่าอันเนี้ยคือ
00:13:55 → 00:13:57 ต้องไปคบทันตแพทย์ค่ะ
00:13:57 → 00:14:00 อืไม่สามาถเราไม่สามารถรู้ได้ใช่เราไม่
00:14:00 → 00:14:02 สามารถคือมันมันบอกได้ยากเพราะอย่างที่
00:14:02 → 00:14:04 บอกคือด้วยความที่เสียฟันมันเกิดได้จาก
00:14:04 → 00:14:08 หลายสาเหตุอ่ะค่ะค่ะครับแกระทั่งผุหรือ
00:14:08 → 00:14:10 ว่าสึกซึ่งพอสึกเนี่ยมันก็อย่างมันมีสึก
00:14:10 → 00:14:13 ได้หลายตำแหน่งสึกทั้งตรงคอฟันหรือสึก
00:14:13 → 00:14:18 ด้านศพฟันอแล้วก็สึกลึกมากน้อยแค่ไหนนะคะ
00:14:18 → 00:14:20 ถ้าเกิดเราคิดว่าอแค่ฟันสึกเราเห็นแค่ฟัน
00:14:20 → 00:14:22 สึกอย่างสมมติของอย่างสมมุติขออนุญาตของ
00:14:22 → 00:14:24 คุณดีมอย่างเงี้ยไม่สึกแค่ตรงคอฟันเองใช้
00:14:24 → 00:14:27 ยาสีฟันก็ได้แต่บางทีเราไม่รู้เท่าที่ตา
00:14:27 → 00:14:29 เรามองเห็นมันอาจจะแค่นิดเดียวแต่บางที
00:14:29 → 00:14:32 อ่ะพอไปพบทันตแพทย์แล้วมันมีการสึกลึกลง
00:14:32 → 00:14:35 ไปใต้เหงือกเยอะกว่าที่เราเห็นอีกอย่าง
00:14:35 → 00:14:37 เงี้ยค่ะซึ่งบางคนกว่าจะรู้ตัวเนี่ยก็ถึง
00:14:37 → 00:14:40 ประสาทฟันไปแล้วก็จากเสียวมันก็จะกลาย
00:14:40 → 00:14:43 เป็นปวดออืเพราะฉะนั้นแบบก็แนะนำว่ายังไง
00:14:43 → 00:14:46 ก็คือควรไปพบทันตแพทย์แล้วท้ายสุดเนี่ย
00:14:46 → 00:14:50 ทันตแพทย์ก็จะแนะนำเองว่าึกเอ้ยอาการเสีย
00:14:50 → 00:14:52 ฟันที่เกิดขึ้นเนี่ยเกิดจากสาเหตุอะไร
00:14:52 → 00:14:55 แล้วควรรักษายังไงซึ่งก็มีบางกรณีที่คน
00:14:55 → 00:14:58 ไข้มาพบหมอแล้วก็สึกตรงความฟันเล็กน้อย
00:14:59 → 00:15:01 ไม่ไม่ได้เป็นอะไรมากไม่จำเป็นต้องอวดอ่ะ
00:15:01 → 00:15:05 ก็แนะนำวิธีแปรงฟันใช้ยาสีฟันที่มีสาช่วย
00:15:05 → 00:15:08 ลดการเสียฟันไปอ่ะค่ะไม่ใช่ว่ามาพบ
00:15:08 → 00:15:11 ทันตแพทย์แล้วทุกคนจะจะต้องได้รับการอุด
00:15:11 → 00:15:14 ฟาหรือทำอะไรหมดบางครั้งก็แค่แนะนำการดู
00:15:14 → 00:15:17 แลตัวเองให้ถูกต้องอ่ะค่ะอืคือแต่ถ้าคุณ
00:15:17 → 00:15:20 หมอบอกว่าถ้าจะต้องไปพบแพทย์เนี่ยก็คือ
00:15:20 → 00:15:24 อันนี้ผมว่าผมได้ไปทำเป็นการสำรวจด้วยตัว
00:15:24 → 00:15:27 เองมาผมว่า 10 คนนะคุณหมอนะมีอย่างน้อย 8
00:15:27 → 00:15:31 คนเกียดการไปหาทันตแพทย์มากมันเป็นอะไร
00:15:31 → 00:15:33 ที่ดูเสียว
00:15:33 → 00:15:38 ามันแต่เดี๋ยวนี้แต่เดี๋ยวนี้หมายถึงว่าว
00:15:38 → 00:15:42 ดรมกลัวค่ะกลัวครับผมบอกครับดรีมกลัวค่ะ
00:15:42 → 00:15:46 อ่อนค่ะอ่อนอ่อนเด็กเล็กค่ะคนอะไรกลัวหมอ
00:15:46 → 00:15:49 ฟันเพราะว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีต่างๆเงย
00:15:49 → 00:15:51 ค่ะก็ก็เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆก็ดี
00:15:51 → 00:15:54 ขึ้นวัสดุต่างๆก็ดีขึ้นนะค่ะเพราะฉะนั้น
00:15:54 → 00:15:57 การไปบทันตแพทย์อ่ะก็จะไม่ได้น่ากลัว
00:15:57 → 00:16:00 เหมือนสมัยก่อนและที่แบบทั้งเสียงดังทั้ง
00:16:00 → 00:16:04 แบบเออจินตนาการเนาเราอาจจะมองไม่เห็น
00:16:04 → 00:16:07 ด้วยตอนที่คุณหมอทำการรักษาก็อาจจะทำให้
00:16:07 → 00:16:12 เรามีจินตนาการไปต่างๆนานาแต่ว่าลองลอง
00:16:12 → 00:16:14 ลองเปิดใจไปดูใหม่หมองว่าเดี๋ยวนี้มันไม่
00:16:14 → 00:16:17 ได้น่ากลัวเหมือนสมัยก่อนแล้วอ่ะค่ะแล้ว
00:16:17 → 00:16:21 คุณหมอส่วนใหญ่ก็ใจดีนะคะใช่ๆๆคุณหมอใจดี
00:16:21 → 00:16:24 จริงๆครับแต่ว่ามันก็ยังมีภาพจำตั้งแต่
00:16:24 → 00:16:27 สมัยเด็กๆอยู่แต่ว่าอย่างกรณีของผมคุณหมอ
00:16:27 → 00:16:31 ครับคือมันผมเนี่ยมันรู้สึกมันมันเริ่ม
00:16:31 → 00:16:35 เสียวฟันไอ้ตรงคอฟันนะก็เลยเอาเอาหน้า
00:16:35 → 00:16:38 เนี่ยเอาฟันเนี่ยไปจ่อพัดลมแล้วรู้สึกว่า
00:16:38 → 00:16:41 อู้หูมันเสียวมากมันเสียวทั้งแบบมันเสียว
00:16:41 → 00:16:44 ขนลุกเลยอ่ะคุณหมอแล้วพอไปหาคุณหมอปั๊บ
00:16:44 → 00:16:48 โอ้โห 7 ซี่คุณหมอครับคอไฟของผมที่มันสึก
00:16:48 → 00:16:49 ไปคุณ
00:16:49 → 00:16:53 หมอ 7 ซี่อุดกันหน้ามืดเลยครับคุณหมอครับ
00:16:53 → 00:16:55 แล้วมันเป็นค่อนข้างลึกด้วยอะไรอย่าง
00:16:55 → 00:16:58 เงี้ยฮะโธรรมดาที่ก็เลยอยากจะรู้ว่าคือ
00:16:58 → 00:17:01 ถ้าเราปล่อยไอ้คอฟันเนี่ยให้มันสึกไป
00:17:01 → 00:17:05 เรื่อยๆโดยที่แบบไม่ไปหาหมอเนี่ยมันจะ
00:17:05 → 00:17:09 เกิดอาการอะไรตามมาในภายหลังนะหมอก็อย่าง
00:17:09 → 00:17:13 ที่บอกอ่ะค่ะพอมันผูกลึกขึ้นๆขึ้นมันก็มี
00:17:13 → 00:17:16 โอกาสที่จะทะลุประสาทฟันเนาะอซึ่งพอรูป
00:17:16 → 00:17:19 ประสาทแล้วเนี่ยอันนั้นน่ะขั้นตอนการ
00:17:19 → 00:17:21 รักษามันก็จะยุ่งยากมากขึ้นคือเราต้อง
00:17:21 → 00:17:25 รักษาราบฟันอืก็คือเราต้องดึงเส้นประสาท
00:17:25 → 00:17:27 ที่มันอักเสบทั้งหมดออกทำความ
00:17:27 → 00:17:32 สะอาดเราก็อุดเอาวัสดุอุดลงไปอุดในรากฟัน
00:17:32 → 00:17:35 พอเราเรารักษารากฟันเสร็จแล้วอ่ะค่ะเนื้อ
00:17:35 → 00:17:38 ฟันที่เหลืออยู่อ่ะมันมันก็จะเหลืออยู่
00:17:38 → 00:17:43 น้อยลงเพราะเราต้องเปิดอืเข้าไปตัวฟันให้
00:17:43 → 00:17:46 เข้าไปเพื่อที่จะเรารักษารางฟันได้เพราะ
00:17:46 → 00:17:47 ฉะนั้นพอเนื้อฟันที่เหลืออยู่มันเหลือ
00:17:47 → 00:17:50 น้อยมันไม่แข็งแรงเราก็ต้องครอบฟันตามมา
00:17:50 → 00:17:53 อีกออเพราะฉะนั้นเนี่ยการรักษามันก็จะ
00:17:53 → 00:17:55 ยุ่งยากมากขึ้นเสียเวลามากขึ้นเสียค่าใช้
00:17:55 → 00:17:59 จ่ายมากขึ้นค่ะขึ้นอือใช่ก็ถ้าคุณปล่อย
00:17:59 → 00:18:02 ฟันสึกไปเรื่อยๆคุณก็จะมีค่าใช้จ่ายมาก
00:18:02 → 00:18:04 ขึ้นทำฟันนาน
00:18:04 → 00:18:09 ขึ้นถูกมคะโหนี่คือถ้าฟังการรักษาคคุณหมอ
00:18:09 → 00:18:12 ขนาดนี้เนี่ยบางคนตัดรำคาญครับไม่อยากจะ
00:18:12 → 00:18:16 เสียเงินเยอะถอนคุณหมอได้นะคุณหมอครับโหด
00:18:16 → 00:18:19 อเอาออกไปเลยเดี๋ยวสส่แฟนปลอมเอาแก้ขัดไป
00:18:19 → 00:18:21 นี่มันคือการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องมั้คะ
00:18:21 → 00:18:23 เพราะส่วนใหญ่คนจะชอบคิดแบบเคะอาจารย์ว่า
00:18:23 → 00:18:25 แบบเอ่อถ้าเราทำรักรักษารากฟันก็เป็น
00:18:25 → 00:18:29 หมื่นนะคะใช่มั้ยคะใช้เวลานานเออแล้วถ้า
00:18:29 → 00:18:32 สมมุติว่าเ่อทำรากฟันเทียมก็แพงถอนดีกว่า
00:18:32 → 00:18:36 ใส่ฟันปลอมฟันปลอมนี่เป็นทางออกที่ดีไมคะ
00:18:36 → 00:18:39 อาจารย์ฟันปอชื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วอ่ะค่ะ
00:18:39 → 00:18:43 ยังไงมันก็ไม่เหมือนฟันจริงเนาะแล้วพอเรา
00:18:43 → 00:18:48 เราเราถอนไปอ่ะค่ะมันก็ขึ้นอยู่กับจำนวน
00:18:48 → 00:18:50 ซี่ที่หายไปด้วย
00:18:50 → 00:18:54 อืไปเยอะฟันหันไปเยอะโอกาสที่เราจะใส่แบบ
00:18:54 → 00:18:58 เป็นแบบติดแน่นแล้วใช้งานได้ดีเหมือนเดิม
00:18:58 → 00:19:01 อ่ะมันก็มันก็ต้องใส่เป็นแบบถอดได้นะคะ
00:19:01 → 00:19:04 ซึ่งประสิทธิภาพอ่ะมันมันไม่ดีเท่าคัน
00:19:04 → 00:19:07 จริงเราอยู่แล้วอ่ะค่ะอืแล้วเราก็จะต้อง
00:19:07 → 00:19:10 ไปกรอฟันซี่อื่นๆซึ่งอาจจะอยู่ในสภาพที่
00:19:10 → 00:19:12 ดีแต่ว่าเราต้องไปกรอเพื่อที่จะเป็นหลัก
00:19:12 → 00:19:16 ยึดของฟันปลอมเราก็จะไปทำให้ฟันซี่อื่นๆ
00:19:16 → 00:19:20 อ่ะมันก็มีโอกาสมีความเสี่ยงที่จะพูหรือ
00:19:20 → 00:19:23 ว่าเป็นโรคเหงือกโรคปริทันตามมาได้อีกอื
00:19:23 → 00:19:25 งั้นผลเสียมันก็จะเกี่ยวเนื่องไปหมดแล้ว
00:19:25 → 00:19:28 ฟันปลอมอ่ะก็ไม่ใช่ว่าเราทำคเฟันปลอมผัด
00:19:28 → 00:19:31 ได้นะคะก็ไม่ใช่ว่าเราทำชุดเดียวแล้วใช้
00:19:31 → 00:19:34 ได้ตลอดชีวิตมันก็จะมีอายุการใช้งานของ
00:19:34 → 00:19:37 มันอย่างฟันปลอมฐานโลหะอย่าเงี้ยอายุการ
00:19:37 → 00:19:40 ใช้งานก็ที่ประมาณ 5 ปีแล้วก็ต้องทำใหม่
00:19:40 → 00:19:44 อีกและนะคะแล้วก็การทำดูแลทำความพอเรามี
00:19:44 → 00:19:46 สิ่งตกรอยู่ในช่องปากเนี่ยการดูแลทำความ
00:19:46 → 00:19:50 สะอาดของเราอ่ะก็ยากขึ้นไปอีกอืเพราะ
00:19:50 → 00:19:54 ฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะแบบดูแลรักษาแล้ว
00:19:54 → 00:19:57 ก็ป้องกันได้ตั้งแต่ต้นรวมถึงว่าเออพบ
00:19:57 → 00:20:00 ทันตแพทย์แล้วเหมือนดีทคได้ตั้งแต่มันยัง
00:20:00 → 00:20:03 ไม่ได้มีความรุนแรงมากแล้วเราเก็บฟันไว้
00:20:03 → 00:20:07 ได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะอืค่ะอก็
00:20:08 → 00:20:13 สุณหมอมันมีกรณีที่แบบคนที่พยายามรักษา
00:20:13 → 00:20:17 ฟันตัวเองแปลงฟันตามที่คุณหมอแนะนำพบหมอ
00:20:17 → 00:20:21 ฟันทุกๆ 6 เดือนอย่างที่คุณหมอบอกกันไว้
00:20:21 → 00:20:23 มาตั้งแต่อ้อนแต่อ่อนเแล้วมันมีอาการ
00:20:23 → 00:20:27 เสียวฟันมันมีอาการฟันสึกฟันกล่อนนี้เจอ
00:20:27 → 00:20:30 กรณีแบบนี้บ้างม
00:20:30 → 00:20:35 ก็มีแต่ว่าเค้าก็จะไม่ได้เป็นอะไรที่รุน
00:20:35 → 00:20:39 แรงมากอ่ะค่ะอาจจะมีแบบเคมีศึกบ้างเล็ก
00:20:39 → 00:20:43 น้อยหรืออะไรประมาณอย่างเงี้ยซึ่งซึ่งมัน
00:20:43 → 00:20:46 ก็สามารถที่จะตรวจพบได้ทานต้องการหรือ
00:20:46 → 00:20:49 อะไรอย่างเงี้ยค่ะได้เพราะจริงๆอย่างการ
00:20:49 → 00:20:54 ึกตรงบริเวณคอฟันเนาะนอกจากเรื่องของการ
00:20:54 → 00:20:58 แปรงฟันแล้วอ่ะค่ะอืสิ่งนึงที่ให้เราเกิด
00:20:58 → 00:21:02 การสึกตรงคอฟันได้อีกอย่างนึงก็คือแรงแรง
00:21:02 → 00:21:05 ในการสบฟันอ่ะค่ะซึ่งบางคนอาจจะมีการนอน
00:21:05 → 00:21:09 กัดฟันออแล้วลองตัวกันฟันเนี่ยก็เป็น
00:21:09 → 00:21:14 สาเหตุที่ทำให้คอฟันสึกได้เหมือนกันแรง
00:21:14 → 00:21:16 เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วมันมีการ
00:21:17 → 00:21:20 เกิดเราไม่รู้บางคนกลับแบบถูกไปมาซ้ายขวา
00:21:20 → 00:21:23 ซ้ายขวาหน้าหลังเนี่ยก็ก็จะทำยิ่งทำให้คอ
00:21:23 → 00:21:26 ฟันเนี่ยสึกได้ง่ายขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:21:26 → 00:21:30 ก็แล้วแต่ก็คือสึงแม้ว่าไปพบทันตแพทย์
00:21:30 → 00:21:33 แล้วมันก็บางคนก็อาจจะยังมีอาการได้บ้าง
00:21:33 → 00:21:36 แต่ความรุนแรงมันจะไม่ได้เยอะไงค่ะำต้องส
00:21:36 → 00:21:39 การรักษามันก็จะไม่ได้ยุ่งยากด้วยค่ะอื
00:21:39 → 00:21:41 ค่ะอันอันนี้เคยเห็นค่ะอันนี้เพื่อนใน
00:21:41 → 00:21:43 กลุ่มเป็นแบบว่าอย่างที่อาจารย์บอกเลยมี
00:21:44 → 00:21:47 ปัญหาเรื่องของการบฟันคือนอนกัดฟันกัดๆๆๆ
00:21:47 → 00:21:50 ๆไปเรื่อยๆมันก็มันก็กล่อนสุดท้ายต้องใส่
00:21:50 → 00:21:55 แบบยางตอนนอนนะคะใช่มั้ยคะคือฟันเป็นดู
00:21:55 → 00:21:57 เหมือนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแบบว่าดูแบบ
00:21:57 → 00:21:59 อย่างที่อาจารย์บอกว่าเสียฟันมีหลาย
00:21:59 → 00:22:03 ปัจจัยหลายสาเหตุแต่เนี่ยค่ะเหมือนที่ดิม
00:22:03 → 00:22:05 เป็นโยกก็เป็นเหมือนกันค่ะอาจารย์คือการ
00:22:05 → 00:22:07 แปรงฟันของเราค่ะเราบางครั้งเราแปลงเราก็
00:22:07 → 00:22:10 ไม่รู้ว่าแปลงยังไงเหงือกมันก็เหงือกล่น
00:22:10 → 00:22:12 ไปเรื่อยๆนะค่ะอาจารย์เพราะว่าขนาดคุณหมอ
00:22:12 → 00:22:15 ฟันประจำตัวก็ยังบอกว่าขอโทษนะคะอันนี้
00:22:15 → 00:22:19 แบบแปงฟันหรือว่าขัดส้วมคะอุ๊ยอันนี้สนิท
00:22:19 → 00:22:22 กันคะจริงๆจริๆคุณหมอที่น่ารักได้บอกแบบ
00:22:22 → 00:22:26 นั้น่ะเออก็เลยก็เลยความรู้สึกว่าเออเอ๊ะ
00:22:26 → 00:22:29 เราแปลงแรงไปหรือเปล่าวิธีที่มันจะสัมผัส
00:22:29 → 00:22:30 เหงื่อค่ะอาจารย์เพราะว่าบางครั้งรู้สึก
00:22:30 → 00:22:32 ว่ามันชอบติดสมมุติเสษอาหารแล้วก็ติดตรง
00:22:32 → 00:22:35 คอฟันใช่ป่ะคะเราก็แปลงแรงๆเราก็คิดว่า
00:22:35 → 00:22:38 มันจะต้องออกแน่ๆอะไรเงี้ค่ะเราควรทนุ
00:22:38 → 00:22:40 ถนอมยังไงแล้วเนี่ยค่ะคุณผู้ฟังทางบ้านก็
00:22:40 → 00:22:42 ถามมาว่าเราต้องแปรงฟันแบบแห้งหรือว่าใช้
00:22:42 → 00:22:46 ขนแปรงที่นุ่มมากแค่ไหนคะอาจารย์กับคอฟัน
00:22:46 → 00:22:50 ของเราค่ะก็ถ้าถ้าแนะนำคือแปงที่ใช้อ่ะ
00:22:50 → 00:22:55 ควรจะเป็นขนแบบนุ่มเลยอ่ะค่ะอืตอบนะคะ
00:22:55 → 00:23:00 แล้วก็ยาสีันที่ใช้อ่ะค่ะก็ควรจะเป็นยาสี
00:23:00 → 00:23:04 ฟันที่เป็นลักษณะเป็นครีมเป็นเจลที่ไม่
00:23:04 → 00:23:07 ได้มีพวกผงขัดที่หยาบเพราะว่าถ้าเกิดว่า
00:23:07 → 00:23:11 มีผงขัดเยอะผสมอยู่ในยาสีฟันอย่างเหมือน
00:23:11 → 00:23:15 ยาสีฟันสมัยก่อนสมัยใชไก่อนอารุ่นคุณพ่อ
00:23:15 → 00:23:19 คุณแม่ของเราพวกเป็นผงๆจิ้มแล้วก็แปลงงี้
00:23:19 → 00:23:21 ใช่มั้ยคะออันนั้นน่ะอันนั้นมันจะมีพวกผง
00:23:21 → 00:23:25 ขัดเยอะมันก็จะทำให้ฟันืได้นะคะแต่สมัย
00:23:25 → 00:23:27 นี้คิดว่าส่วนใหญ่ก็เป็นครีมเป็นเจลหมดละ
00:23:27 → 00:23:31 ก็ก็แปงแล้วก็เวลาการแปลงอ่ะค่ะใช้แปลงขน
00:23:31 → 00:23:34 อ่อนแล้วก็เวลาวางแปลงเราเราจะไม่ได้วาง
00:23:34 → 00:23:38 แบบว่าตั้งฉากกับตัวฟันอ่ะค่ะเราจะเหมือน
00:23:38 → 00:23:42 เอียงขนแปลงอ่ะค่ะ 45 องศเพื่อให้มันลงไป
00:23:42 → 00:23:45 ในร่องเหงือของเราอ่ะค่ะอย่างถ้าฟันล่าง
00:23:45 → 00:23:48 เราก็ต้องเอียงลง 45 องศาฟันบนเราก็ต้อง
00:23:48 → 00:23:51 เอียงขึ้น 45 องศลงไปที่ร่องเหงือของเรา
00:23:51 → 00:23:55 แล้วค่อยค่อยๆขยับขยับทีละ 2 2 ซี่ 3
00:23:56 → 00:23:59 ซี่อ่ะค่ะจจะตกสั้นๆแล้วปัดขึ้นปัดลงแล้ว
00:23:59 → 00:24:02 แต่ว่าเป็นฟันบนหรือฟันล่างเราจะไม่วาง
00:24:02 → 00:24:07 ตั้งฉากแล้วลากถูไปถูมายาวๆแรงๆอย่างงั้น
00:24:07 → 00:24:09 น่ะค่ะมันจะทำให้ฟันสึกได้แล้วก็ทำให้
00:24:09 → 00:24:12 เหลือกร่นแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือฟันสึกค่ะ
00:24:12 → 00:24:14 อืค่ะ
00:24:14 → 00:24:19 ออวิธีการแปลงแสดงว่าาทั้งพี่และดรมหนัก
00:24:19 → 00:24:22 มือกันไปอ้า
00:24:22 → 00:24:27 ใช่ก็กลัวว่าจะไม่สะอาดแปรงเบาไปอาจจะรู้
00:24:27 → 00:24:30 สึกว่าอาจจะมีเซากอะไรที่มันยังคงติดค้าง
00:24:30 → 00:24:35 อยู่ที่ร่องฟันหรือว่าฟันของเราก็เลยต้อง
00:24:35 → 00:24:39 แรงนิดนึงนะครับซึ่งจริงๆไม่ใช่เนาะอือ
00:24:39 → 00:24:41 ใช่แล้วอย่างถ้าเกิดว่าเราจะมีความรู้สึก
00:24:41 → 00:24:44 ว่าเรากลัวแปมไม่สะอาดจริงๆแมพวกซอกฟัน
00:24:44 → 00:24:47 หรืออะไรก็แล้วแต่ค่ะก็คือการใช้ไหมขัด
00:24:47 → 00:24:53 ฟันอืก็จะับพวกเส็จซาบอาหารที่ติดอยู่ตาม
00:24:53 → 00:24:57 ซาบฟันได้นะคะเพราะบางางตำแหน่งแปลงสีฟัน
00:24:57 → 00:25:00 มันเข้าไม่ได้อยู่แล้วโดยเฉพาะตรงซอกฟัน
00:25:00 → 00:25:04 ค่ะค่ะออาจารย์คะคุณผู้ฟังทางบ้านถามมา
00:25:04 → 00:25:07 ว่าแปรงฟันแห้งนี่ช่วยแฟันแห้งแปลงยังไง
00:25:07 → 00:25:11 คะอาจารย์ไม่คือไม่ใช้น้ำหรือว่าใช้น้ำ
00:25:11 → 00:25:13 ใช้น้ำให้น้อยที่สุดพูดอย่างเงี้ไม่ถือน
00:25:13 → 00:25:16 กับไม่ใช้น้ำนะคะแต่ว่าน้อยที่สุดเหมือน
00:25:16 → 00:25:21 ก็เกบแต่ก่อนเนี่ยไม่ไม่รู้ว่ามันจะมีคือ
00:25:21 → 00:25:23 แต่ก่อนเราอาจจะชอบใชน้ำเยอะๆแปรงฟันให้
00:25:23 → 00:25:27 ฟองเยอะๆค่ะครับนะคะแล้วพอเสร็จแล้วเนี่ย
00:25:27 → 00:25:31 เราก็บวน้วนน้ำตามเยอะๆอืเพื่อเอากำกัด
00:25:31 → 00:25:35 ฟองอะไรเงี้ยแต่ว่าในยาสีฟันเราอ่ะค่ะที่
00:25:35 → 00:25:38 เราใช้ณปัจจุบันเนี่ยเราจะมีฟราดสิ่งที่
00:25:38 → 00:25:42 จะช่วยป้องกันฟันผุก็คือฟัวร์ในยาสีฟัน
00:25:42 → 00:25:45 เพราะฉะนั้นเราก็ยังอยากให้มีฟัวร์เนี่ย
00:25:45 → 00:25:48 เคลือบอยู่ตามผิวฟันหลังจากที่เราแปลงฟัน
00:25:48 → 00:25:51 เสร็จแล้วให้นานที่สุดนะคะเพราะฉะนั้นก็
00:25:51 → 00:25:55 คือพยายามใช้น้ำให้น้อยที่สุดอ่ะค่ะอืใช้
00:25:55 → 00:25:58 น้ำให้แล้วใช้น้ำให้น้อยที่สุดโโอเคตอน
00:25:58 → 00:26:00 นี้ค่ะมันก็ประหยัดน้ำแหละถ้าเราใช้น้ำ
00:26:00 → 00:26:03 น้อยแต่มันมีผลกับฟันเรามั้ยคะความสะอาด
00:26:03 → 00:26:07 มันจะลดลงมยคะอาจารย์ไม่ค่ะแต่ว่าเราก่อน
00:26:07 → 00:26:09 ก่อนที่เราจะแปลงเราอาจจะต้องมีการบ้วน
00:26:09 → 00:26:12 หรืออะไรอย่างเงี้ยกำจัดเสภาพใหญ่ๆออกไป
00:26:12 → 00:26:16 ก่อนถูกมั้ยคะเราก็แปลงแปงโดยที่ใช้น้ำ
00:26:16 → 00:26:19 น้อยในระหว่างแปรงด้วยแล้วก็หลังจากแปรง
00:26:19 → 00:26:24 เนี่ยก็้วนเท่าที่เหมือนจะกำจัดพวกฟอง
00:26:24 → 00:26:28 หรือคราบออกไปไม่ได้แบบอาจจะเห็นบางคน
00:26:28 → 00:26:32 หลังจากแปลงเนี่ยบ้วนแบบเยอะๆหลายๆรอบอัน
00:26:32 → 00:26:36 นั้นก็อืก็มันก็จะทำให้ลายที่หลองเหลือ
00:26:36 → 00:26:38 อยู่ในช่องปากนเดี๋ยวเราแปลงฟันเนี่ยน้อย
00:26:38 → 00:26:42 ลงค่ะอืค่ะเอ่ออาจารย์แล้วคืออย่างเวลา
00:26:42 → 00:26:44 แปรงฟันครับเมื่อกี้ต่อเนื่องจากพี่หยก
00:26:44 → 00:26:47 เวลาแปลงเสร็จเนี่ยเราควรบ้วนไอ้พวกฟองเ
00:26:47 → 00:26:49 ทิ้งเลยมแล้วก็ค่อยแปลงเพิ่มเติมต่อหรือ
00:26:49 → 00:26:52 ว่าอ่ะอมเอาไว้ก่อนเพราะว่าผมก็เคยได้ยิน
00:26:52 → 00:26:55 มาว่าบางตำราก็บอกว่าให้อมไว้ก่อนเพราะ
00:26:55 → 00:26:58 ว่ามันก็จะมีพวกสารัวออนไลนอะไรเงี้ย
00:26:58 → 00:27:01 เงี้ยอยู่ในตัวฟองที่มันอยู่ในปากของเรา
00:27:01 → 00:27:04 หรือต้องม้วนออกไปเลยครับแล้วก็ค่อยแปลง
00:27:04 → 00:27:07 ใหม่เพื่อความสะอาดที่มันมากขึ้นนะฮะคุณม
00:27:07 → 00:27:10 ก็ถ้าเราแปลงได้ทั่วถึงคืออย่างน้อย 2
00:27:10 → 00:27:15 นาทีขั้นต่ำนะคะต่อครั้งไงก็แปลงเสร็จก็
00:27:15 → 00:27:17 ก็ก็บ้วนทำความสะอาดได้เลยค่ะแต่ใช้ไม่
00:27:17 → 00:27:21 ไม่มันบ้วนน้ำไม่ต้องใช้น้ำปริมาณมากอ่ะ
00:27:21 → 00:27:25 ค่ะอืค่ะอครับ
00:27:25 → 00:27:28 เอ่ออาจารย์ขาถามอีกนิดนึงค่ะเพราะว่า
00:27:28 → 00:27:30 เนี่ยค่ะเผื่อว่าเป็นวิทานคนอื่นคือตัว
00:27:30 → 00:27:33 หยกเองค่ะพอใช้ไหมขัดฟันเนี่ยเราใช้คือ
00:27:33 → 00:27:35 ไม่รู้ว่าใช้ถูกใช้ผิดนะคะคือจะต้องจับ
00:27:35 → 00:27:39 นิ้วไหนมือไหนแล้วพอเราใช้เข้าไปตรงซอก
00:27:39 → 00:27:42 ฟันนะคะบางครั้งมีเลือดออกอันนี้แปะแรงไป
00:27:42 → 00:27:45 ปคะไม่ไม่แรงค่ะ
00:27:45 → 00:27:49 ปกิเหมือนแปงฟันได้ไม่สะอาดไม่ถึงหรือว่า
00:27:49 → 00:27:53 เราไม่ได้ใช้ฟสอบ่อยๆประจำบางครั้งมัน
00:27:53 → 00:27:57 เหื่อมันก็มีมีการอักเสบก็ก็อาจจะมีเลือด
00:27:57 → 00:28:00 ออกได้นะคะคะถ้าเราแต่ว่าถ้าเกิดเราแปลง
00:28:00 → 00:28:02 เราใช้ไปเรื่อยๆอ่ะค่ะตรงที่อักเสบมันลด
00:28:02 → 00:28:06 ลงตัวเลือดที่มันออกมันก็จะลดลงไปด้วยค่ะ
00:28:06 → 00:28:10 เราใช้คือใช้นิ้วชี้กับนิ้วนักหรือเราใช้
00:28:10 → 00:28:12 ยังไงคะมือขวามือซ้ายจับ 2 อันนี้หมุน
00:28:12 → 00:28:14 หมุนม้วนยังไงค่ะอาจารย์หรือนิ้วชี้กับ
00:28:14 → 00:28:18 นิ้วชี้แล้วก็เข้าไปตามซอกก็จริงๆก็คือ
00:28:18 → 00:28:20 ใช้นิ้วชี้กับนิ้วชี้อ่ะค่ะโดยที่อีกฝั่ง
00:28:20 → 00:28:24 นึงอ่ะเราก็จะพันเยอะกว่า
00:28:24 → 00:28:29 อืถูกมั้ยคะสอีกฝั่งนึงก็พันส้านๆอ่าพอ
00:28:29 → 00:28:31 ตรงตำแหน่งไหนใช้เสร็จไปแล้วเราก็ปล่อย
00:28:31 → 00:28:33 ไอ้ส่วนที่สะอาดออกมาเราก็ใช้ต่อไปแล้ว
00:28:33 → 00:28:37 เวลาดันลงไปในซอกฟันแต่ละซี่อ่ะค่ะอืเรา
00:28:37 → 00:28:40 ต้องโอบฟัทข้างหน้าข้างหลังเราจะไม่ได้
00:28:40 → 00:28:44 ใส่ลงไปตรงๆแล้วแค่ถูๆอ๋อขวต้องดันลงไป
00:28:44 → 00:28:48 แล้วก็โอบฟันที่ที่อยู่ข้างในแล้วก็ซ้าย
00:28:49 → 00:28:51 ขวาขึ้นลงซ้ายขวาขึ้นแล้วก็โอบมาฟันที่
00:28:51 → 00:28:54 ที่อยู่ด้านหน้าด้วยเงี้ยค่ะแล้วก็ขยับใน
00:28:54 → 00:28:58 ลักษณะเดียวกันเหมือนกันค่ะค่ะอนะคะมีคำ
00:28:58 → 00:29:00 ถามน่ารักมากเลยค่ะคุณผู้ฟังทางบ้านถามมา
00:29:00 → 00:29:04 แบบนี้รบกวนอาจารย์ด้วยนะคะคุณหมอขาให้
00:29:04 → 00:29:07 ใช้แปรงสีฟันอ่อนแล้วทำไมแปรงสีฟันขนแข็ง
00:29:07 → 00:29:12 กับขนกลางๆถึงขายดีล่ะคะ
00:29:12 → 00:29:17 อ้าวนี่ไงก็ขายพวกเรา 2 คนไงพี่ยกอืมัน
00:29:17 → 00:29:19 น่าจะเป็นความชอบส่วนบุคคลแล้วก็เป็นความ
00:29:19 → 00:29:22 รู้สึกของคนส่วนใหญ่
00:29:22 → 00:29:27 ว่าถ้าแปลงแข็งน่าจะทำความสะอาดได้ดีกว่า
00:29:27 → 00:29:31 แต่จริงๆถึงแม้แปรงขนอ่อนอ่ะค่ะถ้าเรา
00:29:31 → 00:29:34 แปรงขยับดุกเนี่ยมันมันก็ทำความสะอาดได้
00:29:34 → 00:29:39 ดีเหมือนกันค่ะอือ๋อค่ะแต่ว่าอาจารย์ขาที
00:29:39 → 00:29:42 เนี้คนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้มันจะมีอ่าแปรงสี
00:29:42 → 00:29:45 ฟันที่เป็นแบบชาโคใช่มั้ยคะแล้วมีแปรงสี
00:29:45 → 00:29:48 ฟันที่เขาใส่อ่าสารเคลือบอะไรต่างๆที่มัน
00:29:48 → 00:29:52 จะตัวชี้วัดว่าเอ่อแปรงเนี่ยมันจะเริ่ม
00:29:52 → 00:29:56 สัญญาณเริ่มสึกทุกทีเราเราดูว่าจากขนแปลง
00:29:56 → 00:29:58 มันบานออกใช่มั้ยคะอาจารย์ทีนี้แปรงสีฟัน
00:29:59 → 00:30:01 แบบชาโคเนี่ยค่ะอาจารย์มันช่วยหรือว่าที่
00:30:01 → 00:30:03 มันมีสารเคลือบอื่นๆที่เขาเคลมเนี่ยมัน
00:30:03 → 00:30:05 ช่วยได้จริงม
00:30:05 → 00:30:11 คะมันมันก็อาจจะช่วยเรื่องลดปอันอันนี้
00:30:11 → 00:30:15 ไม่แน่ใจนะคะค่ะๆๆๆลดปริมาณแบคทีเรียแต่
00:30:15 → 00:30:17 อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่ามันมันมันได้มากน้อย
00:30:17 → 00:30:19 แค่ไหนแต่ว่าจริงๆการที่เราจะเปลี่ยนสี
00:30:19 → 00:30:23 ฟ้าแปรงสีฟันค่ะปกติก็ทุก 3 เดือนค่ะเอ
00:30:23 → 00:30:25 ไม่ว่าจะบางเพรามันขึ้นอยู่กับแรงในการ
00:30:25 → 00:30:28 แปกของแต่ละคนเนาะก็ก็แนะนำให้เปลี่ยนนะ
00:30:28 → 00:30:30 คะเพราะว่าอย่างที่บอกแล้วว่ามันมันก็มี
00:30:30 → 00:30:33 โอกาสที่แบบเป็นที่สะสมของแบคทีเรียอะไ
00:30:33 → 00:30:35 อะไรก็แล้วแต่เพราะฉะนั้นทุก 3 เดือนเรา
00:30:35 → 00:30:39 ก็ควรจะเปลี่ยนแปลงสีฟันค่ะอืค่ะอืไม่ว่า
00:30:39 → 00:30:42 จะเป็นชาโคชาดำชาเขียวอะไรเงี้ยก็คือ
00:30:42 → 00:30:46 อย่างน้อยอ่ะทุก 3 เดือนต้องเปลี่ยนะอื
00:30:46 → 00:30:50 ใช่คุณหมอมันแล้วอย่างเงี้แหละอ่ะเราใน
00:30:50 → 00:30:52 เมื่อเราเรารู้วิธีการแปลงรู้เรื่องของ
00:30:52 → 00:30:55 หลักการและเรื่องของน้ำยาบ้วนป่าเมันมี
00:30:55 → 00:30:58 ความจำเป็นมั้ยครับกับเรื่องของหลังแปรง
00:30:58 → 00:31:02 ฟันเสร็จต้องต้องงวนงนเขาบอกว่าจะช่วยลด
00:31:02 → 00:31:06 คาบพลักลดาบหินปูนอะไรอย่างเงี้ยได้ไม่
00:31:06 → 00:31:08 ทราบว่ามันจำเป็นขนาดไหนครับคุณหมอ
00:31:08 → 00:31:10 อาจารย์ขาทักกับหินปูนนี้อันเดียวกันมั้ย
00:31:10 → 00:31:12 คะเพอน้องดีนถามแบบงนี้เออก็เลยขอถามร่วม
00:31:12 → 00:31:17 ไปด้วยพลพลักกับหินพลาคมันจะเป็นตัวจุด
00:31:17 → 00:31:20 เริ่มต้นก่อนนะค่ะก่อนที่มันจะกลายเป็น
00:31:20 → 00:31:23 หินปูนหินปูนมันจะอีกสเต็ปนึงไปละถ้าเป็น
00:31:23 → 00:31:26 พลาเนี่ยมันจะยังเป็นครบๆบอ่อนๆสามารถที่
00:31:26 → 00:31:31 จะกำจัดออกด้วยการแปรงฟันนะคะแต่ว่าหลัง
00:31:31 → 00:31:34 จากหลังจากเราแปรงฟันทิ้งไว้แป๊บเดียวอาจ
00:31:34 → 00:31:37 จะกินหรือไม่ทันกินหรือไม่กินอะไรหลังจาก
00:31:37 → 00:31:40 เนี้ยก็สามารถเกิดพ้าได้ทั้งนั้นากขับน้ำ
00:31:40 → 00:31:43 ลายเราจากแบคทีเรียในช่องปากเองที่มีอยู่
00:31:43 → 00:31:46 แล้วหรืออะไรอย่างเงี้ยแต่ว่าถ้าร่วมกับ
00:31:46 → 00:31:48 ทานอาหารเข้าไปด้วยหรืออะไรแล้วเราทำความ
00:31:48 → 00:31:51 สะอาดไม่ดีอ่ะพวกนี้พอสะสมนำนานข้าวถ้า
00:31:51 → 00:31:54 เราทำความสะอาดไม่ดีมันก็จะมีแร่ธาตุมา
00:31:54 → 00:31:56 เกาะเพิ่มขึ้นสะสมมากขึ้นก็จะกลายเป็น
00:31:56 → 00:31:59 เหิงปูนที่แข็งขึ้นซึ่งคราวเนี้ยเราก็จะ
00:31:59 → 00:32:02 ไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยตัวเองละก็จะ
00:32:02 → 00:32:08 ต้องไปให้ธันแพทย์ขูดออกให้ค่ะอืให้ทตาแพ
00:32:08 → 00:32:13 ส่วนในเรื่องของน้ำยาบ้วนปากนะคะครับก็
00:32:13 → 00:32:17 เกิดในเรื่องของการแนะนำก็คือคงคงไม่ได้
00:32:17 → 00:32:21 แนะนำให้ใช้ยาวต่อเนื่องนะคะเพราะว่าใน
00:32:21 → 00:32:23 ช่องปากคนเราอ่ะค่ะมันก็จะมีเชื้อ
00:32:23 → 00:32:27 แบคทีเรียอยู่แล้วมีทั้งชนิดดีชนิดมีแล้ว
00:32:27 → 00:32:29 แต่คนแต่ว่าการที่เราใช้น้ำยาม่นปากต่อ
00:32:29 → 00:32:32 เนื่องเป็นระยะเวลายาวนานเนี่ยมันก็จะทำ
00:32:32 → 00:32:35 ให้เกิดความการเสียสมดุลของเชื้อในช่อง
00:32:35 → 00:32:39 ป่านะคะแต่ว่ามันก็มีบางกรณีถ้าเกิดเอเค
00:32:39 → 00:32:41 เราจำเป็นต้องใช้เราก็อาจจะใช้เป็นช่วง
00:32:41 → 00:32:44 ระยะเวลาแต่สั้นๆหรือว่าตามความจำเป็น
00:32:44 → 00:32:47 นั้นๆแต่ว่าไม่ไม่แนะนำให้ใช้ยาแบบเป็น
00:32:47 → 00:32:50 รูทีนเงี้ยเป็นประจำค่ะออไม่ไม่ใช่ยะะ
00:32:51 → 00:32:53 ความจำเป็นความจำเป็นที่คุณหมอว่าคือมัน
00:32:53 → 00:32:56 ต้องจำเป็นในในลักษณะแบบไหนครับมันถึงถึง
00:32:56 → 00:33:00 จะต้องใช้ได้อ่ะฮะเหบางคนที่มีความเสี่ยง
00:33:00 → 00:33:03 สูงที่ทันตแพทย์ตรวจดูแล้วว่ามีความ
00:33:03 → 00:33:06 เสี่ยงสูงว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
00:33:06 → 00:33:09 ต่อการเกิดฟันผุอาจจะต้องใช้น้ำยาบนปาก
00:33:09 → 00:33:13 ที่มีส่วนผสมของฟรายครับอะไรอย่างเงี้ย
00:33:13 → 00:33:15 เวลานึงแต่ก็ควรที่จะอยู่ในความดูแลของ
00:33:15 → 00:33:19 ทันตแพทย์ไงแต่มือจะเกิดจากรักษาไปแล้วดู
00:33:19 → 00:33:23 แลทำความสะอาดตอวิธีการรมต่างๆไปแล้วอ่า
00:33:23 → 00:33:26 สภาวะแวดล้อมในช่องปากดีขึ้นก็อาจจะหยุด
00:33:26 → 00:33:31 ได้นะคะอืค่ะกรณีมีการาดตาดหรือมีแผลใน
00:33:31 → 00:33:34 ช่องปากอาจจะต้องใช้น้ำยาบนปากบางชนิด
00:33:34 → 00:33:38 อะไรก็แล้วแต่ก็ใช้เป็นช่วงสั้นๆอืค่ะตาม
00:33:38 → 00:33:42 ความเป็นนั้นๆไม่ได้ใช้แบบเป็นประจำตลอด
00:33:42 → 00:33:45 เหมือนเราแปงฟันหลังจสอย่างนั้นน่ะค่ะคง
00:33:45 → 00:33:49 ไม่ใช่ค่ะอืไม่ออคือพูดง่ายๆเพราะฉะนั้น
00:33:49 → 00:33:52 หลังจากนี้ก็คือเราก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้
00:33:52 → 00:33:55 กันตะบี้ตะบันทุกวี่ทุกวันเช้าเย็นเช้า
00:33:55 → 00:33:58 เย็นอย่างเงี้ไม่จำเป็นเลยใช้เฉพาะช่วง
00:33:58 → 00:34:00 เวลากรณีที่คุณหมอแนะนำให้ใช้เท่านั้นใช่
00:34:00 → 00:34:04 มั้ยครับคุณหมอใช่ค่ะหรืออาจจะเออเราอาจ
00:34:04 → 00:34:07 จะแบบอ่าอย่างที่แบบเดี๋ยวอยู่ใน
00:34:07 → 00:34:10 สถานการณ์ที่อาจจะเข้าถึงการแปงฟันลำบาก
00:34:10 → 00:34:14 มีน้ำยาบนปากใช้เพื่อความมั่นใจเป็นแง
00:34:14 → 00:34:17 ครั้งอันนั้นก็โอเคอ่ะค่ะแต่ว่าถ้าเกิด
00:34:17 → 00:34:19 ใช้เป็นประจำแบบเช้าเย็นเช้าเย็นหลังแปลง
00:34:19 → 00:34:22 ฟันทุกครั้งอันนี้อันนี้คิดว่าไม่จำเป็น
00:34:22 → 00:34:28 ค่ะอืส่วนตัวหยกคิดว่าเปลืองคเออใช่มันก็
00:34:28 → 00:34:31 ไม่ได้มันมันมันมันดูใช่ค่ะคิดแบบนั้นนะ
00:34:31 → 00:34:33 คะอาจารย์แต่ว่าเห็นที่เวลาไปสมมุติคุณ
00:34:33 → 00:34:36 แม่ไปหาคุณหมอฟันเนี่ยค่ะคุณหมอเขาก็จะ
00:34:36 → 00:34:39 ให้แบบ C20 C20 นี่คืออะไรคะอันนี้ก็ไม่
00:34:39 → 00:34:44 กล้าถาม C20 ก็คือเป็นน้ำยาบกลุ่มคอ hcd
00:34:44 → 00:34:46 นะคะก็ถ้าเกิดว่า
00:34:47 → 00:34:50 ในอันนี้คุณไม่ทราบว่าคุณแม่ทำไปทำอะไร
00:34:50 → 00:34:53 อ่ะค่ะอ๋อทันตกรรมค่ะทำคุณแม่แบบอ่ามี
00:34:53 → 00:34:57 ทั้งปัญหาเหงือกจ๋าฟลาก่อนปริทันอะไรอย่า
00:34:57 → 00:34:59 เงี้ยค่ะ
00:34:59 → 00:35:04 เจาพก่อนครับๆๆ่อืก็เลยคุณหมอก็ให้อันนี้
00:35:04 → 00:35:07 มาด้วยการรักษาโรคปรทานหรืออะไรอย่าง
00:35:08 → 00:35:11 เงี้ยก็จะมีพวกให้น้ำยากลุ่มเนี้ยค่ะใน
00:35:11 → 00:35:15 ช่วงการรักษาแต่ว่าอย่างค C2 คดีนก็ส่วน
00:35:15 → 00:35:16 ใหญ่ก็จะ
00:35:16 → 00:35:20 ต้องให้คุณหมอฟันเป็นคนดูแลให้อ่ะค่ะ
00:35:20 → 00:35:24 เพราะว่ามันมันก็จะมีผลอื่นๆที่ตามมาไม่
00:35:24 → 00:35:27 ว่าคือตัว CD มันก็ทำให้เกิดการติดสีที่
00:35:27 → 00:35:28 ตัว
00:35:28 → 00:35:32 ออทำทำให้การรับรถเปลี่ยนไปได้เพราะ
00:35:32 → 00:35:35 ฉะนั้นเราก็จะไม่ได้ใช้เป็นระยะเวลายาว
00:35:35 → 00:35:38 นานมากก็คือจะใช้อยู่ในช่วงที่ในระหว่าง
00:35:38 → 00:35:42 การรักษาค่ะอืค่ะอาจารย์คะพอดีรบกวนอย่า
00:35:42 → 00:35:44 งี้ค่ะมีคุณผู้ฟังทางบ้านถามมาแบบนี้ค่ะ
00:35:44 → 00:35:47 ว่าเดี๋ยวนี้ยาสีฟันชนิดใหม่ที่แปลงแล้ว
00:35:47 → 00:35:49 ไม่ต้องบ้วนน้ำอ่ะค่ะอยากทราบว่ามันเหมาะ
00:35:49 → 00:35:51 สมไหมอ่ะ
00:35:51 → 00:35:54 ค่ะก็ก็อย่างที่บอกก็ว่าตอนนี้คอนเซปตอน
00:35:54 → 00:35:59 นี้เนาะมันก็คือต้องการให้ฟลายอ่ะค่ะอยู่
00:35:59 → 00:36:04 ที่ตัวฟันเรานานขึ้นแต่ว่าเรื่องการบ้วน
00:36:04 → 00:36:07 น้ำไม่บ้วนน้ำอันเนี้ยมันมันก็จะขึ้นอยู่
00:36:07 → 00:36:10 กับตัวบุคคลอีกบางคนก็อาจจะยังไม่ชินที่
00:36:10 → 00:36:13 จะไม่บ้วนเลยเพราะฉะนั้นก็พยายามบ้วนให้
00:36:13 → 00:36:16 น้อยที่สุดอ่ะค่ะอืเพราะว่าเราต้องให้ฟู
00:36:16 → 00:36:18 อายอ่ะ
00:36:18 → 00:36:23 อยู่อยู่กับสัมผัสกับผิวฟันให้ให้ให้มาก
00:36:23 → 00:36:26 ที่สุดค่ะเพื่อให้มันเกิดประโยชน์ในการ
00:36:26 → 00:36:30 ต้องฟันต้องกันันผูกให้มากที่สุดค่ะอืค่ะ
00:36:30 → 00:36:34 อืได้ครับผมก็วันนี้ก็น่าจะโอโหครบ้วน
00:36:34 → 00:36:36 สมบูรณ์นะเรื่องเกับการเสียวฟันอย่างน้อย
00:36:37 → 00:36:39 เราก็ได้รู้แล้วว่าควรจะต้องดูแลฟันอย่าง
00:36:39 → 00:36:43 ไรเพื่อที่จะไม่ให้ฟันของเราเนี่ยมีปัญหา
00:36:43 → 00:36:46 ตามมาในภายหลังเพราะว่าอวัยวะอื่นๆเนี่ย
00:36:46 → 00:36:48 มันยังมีอะไรที่เปลี่ยนได้นะแต่ว่าฟันเรา
00:36:48 → 00:36:51 มีชุดเดียวในชีวิตนะคุณหมอนะมันก็ต้องดู
00:36:51 → 00:36:53 แลกันอย่างเต็ม
00:36:53 → 00:36:58 ที่มี 2 ชุดมีฟันน้ำนมมาค่ะ
00:36:58 → 00:37:01 โอเคว่าแล้วว่าแล้วพวกหัวพี่พี่คิดอมีชุด
00:37:01 → 00:37:05 เดียวอืเอ๊ะเออเออเออฟันแท้ฟันแท้เรามี
00:37:05 → 00:37:09 อันเดียวอืรักแท้ยังหาได้อยู่หลายรอบนะ
00:37:09 → 00:37:11 เออฟันแท้แล้วก็มีชุดเดียวอะไรอย่างเงี้ย
00:37:11 → 00:37:15 ก็ต้องดูแลกันอออโอเคค่ะรับได้รับได้ไป
00:37:15 → 00:37:16 ได้ไป
00:37:16 → 00:37:19 ไปวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมาครับที่
00:37:19 → 00:37:22 ให้ความรู้กับเรานะครับคุณหมอครับขยินดี
00:37:22 → 00:37:26 ค่ะสวัสดีคขอบพระคุณค่ะอาจารย์สวัสดีค่ะ
00:37:26 → 00:37:29 ขอบคุณค่ะ