00:00:01 → 00:00:03 ลดน้ําหนัก 1 เดือน แบบงดแป้งไปเลยนะครับ
00:00:03 → 00:00:07 ไม่กินข้าว ไม่กินน้ําตาล ไม่กินเส้นก๋วยเตี๋ยวนะครับ
00:00:07 → 00:00:09 กินอย่างอื่นแทน แต่ไม่กินพวกแป้งเลยนะครับ
00:00:09 → 00:00:12 จะเกิดอะไรขึ้นนะครับ คลิปนี้มีคําตอบ มาดูกันจนจบเลยนะครับ
00:00:12 → 00:00:14 สวัสดีครับ ผมหมอหนึ่ง healthy hero นะครับ
00:00:14 → 00:00:18 ลดน้ําหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต คิดถึงหมอหนึ่ง healthy hero นะครับ
00:00:18 → 00:00:21 คราวนี้ มีหลาย ๆ คน ถามมาว่า หมอหนึ่งคะ
00:00:21 → 00:00:24 ทําไมมีบางคนเขาลดน้ําหนัก แล้วเขาไม่กินข้าวเลยคะ
00:00:24 → 00:00:27 แต่ก็น่าสงสัยนะคะ เพราะว่าบางคน ไม่กินข้าวเลยแต่ผอม
00:00:27 → 00:00:29 แต่บางคนไม่กินข้าวเลย แต่ไม่เห็นผอมเลย
00:00:29 → 00:00:31 อะไรคือปัจจัยที่ทําให้มันแตกต่างกัน
00:00:31 → 00:00:34 แล้วมันมีข้อดีข้อเสียยังไง ทําตามได้ไหม
00:00:34 → 00:00:37 ต้องรู้อะไรบ้างก่อนจะทําตามนะครับ ดูจนจบเลยนะครับ
00:00:37 → 00:00:40 แต่ก่อนอื่นนะครับ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามหมอหนึ่งไว้นะครับ
00:00:40 → 00:00:43 แล้วก็กดกระดิ่งแจ้งเตือน จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ ๆ จากหมอหนึ่งนะครับ
00:00:43 → 00:00:46 คราวนี้ย้อนกลับมานะครับ สิ่งที่เราจะคุยกันวันนี้ในเรื่องของ
00:00:46 → 00:00:50 การลดน้ําหนัก 1 เดือน แบบงดแป้งไปเลย จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้าง
00:00:50 → 00:00:53 อย่างแรก คุณต้องเข้าใจที่มาก่อนว่า
00:00:53 → 00:00:57 การลดน้ําหนักแบบที่ไม่กินแป้งเลย ไม่กินน้ําตาลเลย มันมาจากไหน
00:00:57 → 00:01:01 มันเกิดมาจากการที่คุณต้องเข้าใจระบบพลังงานของร่างกายคุณก่อนนะครับ
00:01:01 → 00:01:04 คนที่เคยฟังคลิปก่อน ๆ ของหมอหนึ่งมา อาจจะเข้าใจแล้วนะครับ
00:01:04 → 00:01:08 แต่ว่าคนที่ไม่เคยฟังคลิปมาก่อนเลย ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน สําคัญมาก ๆ
00:01:08 → 00:01:11 เพราะว่าร่างกายของคนเรามันมีระบบพลังงานอยู่ 2 ระบบ
00:01:11 → 00:01:14 ก็คืออันที่ 1 ใช้แป้งกับน้ําตาลเป็นพลังงานหลัก
00:01:14 → 00:01:16 2 ใช้ไขมันเป็นพลังงานหลัก
00:01:16 → 00:01:19 เพราะว่าสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกายคนเรามันมีอยู่แค่
00:01:19 → 00:01:20 โปรตีน
00:01:20 → 00:01:22 คาร์โบไฮเดรต หรือพวก แป้งน้ําตาล
00:01:22 → 00:01:23 แล้วก็ไขมันถูกไหม
00:01:23 → 00:01:26 แต่เจ้าโปรตีนที่อยู่ตรงกลางเนี่ย มันเป็นสารอาหารที่
00:01:26 → 00:01:29 มันมีหน้าที่ที่ แป้งกับไขมัน มันทําแทนไม่ได้
00:01:29 → 00:01:32 ซึ่งมันก็คือการสร้างกล้ามเนื้อ
00:01:32 → 00:01:34 เราไม่สามารถกินข้าวเพื่อไปสร้างเป็นกล้ามเนื้อได้
00:01:34 → 00:01:37 เราไม่สามารถกินน้ํามันเพื่อเอาไปสร้างกล้ามเนื้อได้
00:01:37 → 00:01:38 เราต้องใช้โปรตีน
00:01:38 → 00:01:41 เพราะฉะนั้นร่างกายของเราเนี่ย จะหวงโปรตีนมาก ๆ
00:01:41 → 00:01:44 เพราะว่ามันเอาไว้ซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่มันสึกหรอไป
00:01:44 → 00:01:49 ดังนั้นพลังงานหลัก ๆ ที่ร่างกายจะได้ จะมาจากน้ําตาลกับแป้งและไขมันเป็นหลัก
00:01:49 → 00:01:51 ซึ่งสิ่งที่คุณต้องรู้ถัดมาก็คือ
00:01:51 → 00:01:54 เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของคุณมีน้ําตาลกับแป้ง
00:01:54 → 00:01:56 มันจะใช้น้ําตาลกับแป้งเป็นพลังงานหลักก่อนนะครับ
00:01:56 → 00:01:59 เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่ที่อ้วน
00:01:59 → 00:02:03 แต่ก่อน เราเข้าใจว่าเราอ้วนจากการที่เรากินไขมันเยอะถูกไหม เพราะแคลอรี่มันสูง
00:02:03 → 00:02:05 แต่จริง ๆ แล้ว ปัจจุบันเราพบว่าคนเราอ้วน
00:02:05 → 00:02:09 จากการที่เรากินอาหารจําพวกน้ําตาลกับแป้งมากเกินไป
00:02:09 → 00:02:11 พอกินมากเกินไป ร่างกายมันเอาไปใช้ แล้วมันใช้ไม่หมด
00:02:11 → 00:02:14 มันก็ต้องพยายามจะหาที่เก็บนะครับ
00:02:14 → 00:02:16 เพราะฉะนั้นพวกแป้งที่ย่อยเป็นน้ําตาลแล้ว
00:02:16 → 00:02:18 หรือพวกน้ําตาลจากเครื่องดื่ม ขนมต่าง ๆ ที่เราทานเข้าไปเนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 พอใช้ไม่หมดก็จะถูกเอาไปสะสม
00:02:21 → 00:02:23 แต่มันไม่ได้สะสมในรูปน้ําตาลเลยนะครับ
00:02:23 → 00:02:29 มันเปลี่ยนรูปไปเป็นแป้ง และก็ไขมันได้
00:02:29 → 00:02:30 เปลี่ยนรูปไปเป็นแป้ง สะสมตามตับ ตามกล้ามเนื้อ
00:02:30 → 00:02:32 แต่เนื้อที่มันไม่เยอะนะครับ มันเก็บได้แค่นิดเดียว
00:02:32 → 00:02:36 ส่วนที่เหลือที่มันเกินเยอะ ๆ มันจะถูกเอาไปสะสมในรูปของไขมัน
00:02:36 → 00:02:42 เก็บตามพุง เก็บตามคอ ตามแขน ตามขา ตามสะโพก เยอะไปหมดเลยนะครับ
00:02:42 → 00:02:43 เก็บได้ไม่จํากัดเลย
00:02:43 → 00:02:45 พอรู้แบบนี้แล้วนะครับ คนก็เลยเข้าใจว่า
00:02:45 → 00:02:49 อ๋อ งั้นถ้าอย่างนี้เนี่ย น้ําตาลกับแป้งเป็นสาเหตุหลักใช่ไหม
00:02:49 → 00:02:51 งั้นไม่กินมันเลยแล้วกัน ได้ไหมนะครับ
00:02:51 → 00:02:55 ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วเนี่ย มันก็มีทั้งคนที่ลดน้ําหนักด้วยการงดแป้งไปเลย
00:02:55 → 00:02:59 แล้วก็มีคนที่ลดน้ําหนักด้วยการลดปริมาณแป้งลง
00:02:59 → 00:03:00 แต่ยังไม่ได้งดนะครับ
00:03:00 → 00:03:03 ซึ่งก็มีทั้งสองแบบนะครับ ถามว่าหมอหนึ่งทําแบบไหน
00:03:03 → 00:03:06 หมอหนึ่งเนี่ย ยังกินข้าวเป็นชีวิตประจําวันอยู่
00:03:06 → 00:03:09 ก็จะเลือกแบบที่ลดแป้งลง แต่ว่าเราต้องเข้าใจก่อนว่า
00:03:09 → 00:03:11 เราน้ําหนักเท่านี้ เราต้องกินแป้งปริมาณเท่าไร
00:03:11 → 00:03:13 เลือกแป้งชนิดแบบไหนดี
00:03:13 → 00:03:14 แต่บางคนที่เขาไม่อยากศึกษา
00:03:14 → 00:03:17 เขาก็จะเลือกในการตัดแป้งไปเลย ถูกไหม
00:03:17 → 00:03:19 ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาคุยกันว่า ตัดแป้งไปเลยเนี่ย
00:03:19 → 00:03:21 1 เดือน จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะครับ
00:03:21 → 00:03:25 ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณคืออะไร
00:03:25 → 00:03:27 ถ้าคุณงดน้ําตาลงดแป้งไปหมดเลย
00:03:27 → 00:03:29 หมอหนึ่งบอกไปแล้วถูกไหมว่า
00:03:29 → 00:03:32 น้ําตาลกับแป้งเป็นพลังงานหลักที่ร่างกายจะเอามาใช้ก่อน
00:03:32 → 00:03:36 พอร่างกายเราไม่มีน้ําตาลกับแป้ง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ
00:03:36 → 00:03:37 ร่างกายคนเราจะไม่ชิน
00:03:37 → 00:03:41 ช่วงชั่วโมงแรก ๆ หลังจากที่ไม่มีน้ําตาล ไม่มีแป้งเข้าร่างกาย เราจะรู้สึกโหย ๆ หน่อย
00:03:41 → 00:03:43 ร่างกายเหมือนจะมาเคาะประตูแล้วบอกว่า
00:03:43 → 00:03:45 เฮ้ย ไปกินน้ําตาล ไปกินของหวานได้แล้วนะ
00:03:45 → 00:03:46 แต่ถ้าเรายังไม่กินเนอะ
00:03:46 → 00:03:50 ร่างกายคนเรามันจะฉลาด มันจะไม่เคาะประตูให้เราหิวอยู่อย่างนั้น
00:03:50 → 00:03:52 มันจะเริ่มไปหาพลังงานอื่น ๆ มาใช้ก่อน
00:03:52 → 00:03:56 ซึ่งพลังงานสํารองในร่างกายของเรา จะมีอยู่ทั้งหมด 2 รูปด้วยกัน
00:03:56 → 00:03:58 อันที่ 1 คือ แป้ง ที่ชื่อว่า ไกลโคเจน
00:03:58 → 00:04:02 จําชื่อไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ได้สําคัญเลยว่ามันชื่ออะไร
00:04:02 → 00:04:03 แต่คุณต้องรู้หลักการของมันนะครับว่า
00:04:03 → 00:04:05 อ๋อ พลังงานสํารองเรามี 2 อย่างนะ ก็คือ
00:04:05 → 00:04:08 แป้ง ที่ชื่อ ไกลโคเจน อยู่ที่ตับกับกล้ามเนื้อ
00:04:08 → 00:04:09 แล้วก็ไขมัน
00:04:09 → 00:04:15 ซึ่งอันที่เอามาใช้ได้ง่ายกว่า เผาผลาญได้เร็วกว่า มันคือกลุ่มแป้งที่อยู่ที่ตับกับกล้ามเนื้อ
00:04:15 → 00:04:17 แต่อย่างที่บอกว่า ลองนึกภาพนะครับ
00:04:17 → 00:04:20 ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมีแป้งสะสมอยู่ที่ตับเยอะไหม
00:04:20 → 00:04:23 กล้ามเนื้อก็ไม่เยอะ จะเอาแป้งที่ไหนไปสะสมในกล้ามเนื้อถูกไหม
00:04:23 → 00:04:27 เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้ว พลังงานสำรองที่อยู่ในรูปแป้งในร่างกายของเราเนี่ย
00:04:27 → 00:04:29 จะใช้ได้ประมาณ 24 ชั่วโมง
00:04:29 → 00:04:31 เพราะฉะนั้นถ้าวันแรก คุณไม่กินแป้ง ไม่กินน้ําตาลเลย
00:04:31 → 00:04:35 ร่างกายจะเอาพลังงานสํารองที่อยู่ในรูปแป้งมาใช้จนเกือบหมดเลย
00:04:35 → 00:04:37 ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น
00:04:37 → 00:04:40 เมื่อร่างกายของคุณเนี่ย ใช้แป้งไปจนหมดแล้วนะครับ
00:04:40 → 00:04:42 สิ่งที่เกิดขึ้น คือ น้ําหนักคุณจะลด
00:04:42 → 00:04:45 บางคนก็เลยรู้สึกว่าดีใจ โอ้โห ไม่กินแป้ง 1 วัน น้ําหนักลดแล้ว
00:04:45 → 00:04:47 แสดงว่าวิธีนี้มันต้องดีมาก ๆ แน่ ๆ เลย
00:04:47 → 00:04:53 แต่จริง ๆ แล้ว น้ําหนักที่หายไปวันแรก มันเป็นน้ําหนักของน้ําเป็นหลัก
00:04:53 → 00:04:57 ต้องเข้าใจแบบนี้ก่อนนะครับว่า เป้าหมายของแต่ละคน คืออะไร
00:04:57 → 00:04:59 บางคนเป้าหมายคือการลดน้ําหนัก
00:04:59 → 00:05:02 เพราะฉะนั้น ถ้าน้ําหนักตัวเลขบนตาชั่งลดลง ก็เลยรู้สึกดี
00:05:02 → 00:05:04 แต่บางคนเป้าหมายคือลดไขมัน
00:05:04 → 00:05:07 ลดน้ําหนักกับลดไขมัน ไม่เหมือนกันนะ
00:05:07 → 00:05:09 ลดน้ําหนัก ตัวเลขลดลง ฉันดีใจละ
00:05:09 → 00:05:13 แต่ลดไขมัน คือ ตัวเลขลดลง เราต้องคิดก่อนว่ามันใช่น้ําหนักของไขมันหรือเปล่า
00:05:13 → 00:05:17 เพราะถ้าตัวเลขบนตาชั่งที่ลดลง แต่ไม่ใช่ไขมัน เราจะผอมลงไหม
00:05:17 → 00:05:18 ไม่เลยนะครับ
00:05:18 → 00:05:20 คราวนี้เราก็ต้องมาทําความเข้าใจเพิ่มว่า
00:05:20 → 00:05:24 ตัวเลขที่อยู่บนตาชั่ง มันไม่ใช่ไขมันอย่างเดียว
00:05:24 → 00:05:26 มันประกอบไปด้วยน้ําในร่างกาย
00:05:26 → 00:05:30 ซึ่งน้ําหนักตัวของคนเรา 100% มีน้ําอยู่ในร่างกาย 60-70% เลยนะ
00:05:30 → 00:05:32 ที่เหลือเป็น ไขมัน ที่คุณอยากจะลด
00:05:32 → 00:05:37 เป็นกระดูก กล้ามเนื้อ เป็นอาหาร หรือว่า อุจจาระคงค้างที่อยู่ในลําไส้
00:05:37 → 00:05:40 เพราะฉะนั้น น้ําหนักที่ลดลง ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะเป็นไขมันเสมอไปถูกไหม
00:05:40 → 00:05:43 โดยเฉพาะคนที่ลดน้ําหนักด้วยการไม่กินน้ําตาลและแป้งเลย
00:05:43 → 00:05:46 24 ชั่วโมงแรก น้ําหนักที่หายไป จะเป็นน้ําหนักของน้ําเป็นหลัก
00:05:46 → 00:05:50 เพราะว่าปริมาณของแป้งที่สะสมในร่างกายคนเราเนี่ย
00:05:50 → 00:05:54 เต็มที่เลยนะครับ จะอยู่ได้ประมาณไม่เกิน 5 ขีด หรือ 500 กรัม
00:05:54 → 00:05:57 ซึ่งแป้ง 1 กรัม จะสามารถดึงน้ําไว้ด้วย 3 ส่วน
00:05:57 → 00:06:04 หมายความว่า ถ้าแป้ง 500 กรัม ก็จะมีน้ําโอบอุ้มมันไว้อีก 1500 กรัมหรือประมาณ 1.5 กิโล
00:06:04 → 00:06:06 พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราใช้แป้งไปจนหมดเลย
00:06:06 → 00:06:09 น้ําก็จะออกจากร่างกายไปด้วยอีก 1.5 กิโล
00:06:09 → 00:06:15 ดังนั้นในวันแรก น้ําหนักเลยลดได้ประมาณ 1.5-2 กิโลได้เลย ในบางคนที่ตัวใหญ่ ๆ
00:06:15 → 00:06:17 หรือคนที่ตัวเล็ก ก็อาจจะน้ําหนักลดเลย 1 กิโล
00:06:17 → 00:06:21 แต่มันไม่ได้เกิดจากการที่ไขมันหายไป มันเกิดจากการที่น้ําในร่างกายหายไป
00:06:21 → 00:06:25 ดังนั้นพอบางคนทําแบบนี้แล้วรู้สึกว่า น้ําหนักฉันลดลง เลยชะล่าใจ
00:06:25 → 00:06:30 วันรุ่งขึ้นทําอีก งดแป้งอีกนะครับ คราวนี้มันเกิดอะไรในร่างกายของคุณต่อนะครับ
00:06:30 → 00:06:34 หลัง 24 ชั่วโมงแรกไปแล้วเนี่ย ที่ร่างกายของคุณมันใช้แป้งมันจะหมดแล้ว
00:06:34 → 00:06:37 มันก็พยายามจะไปดึงไขมันมาใช้
00:06:37 → 00:06:41 แต่มันจะมีช่วงเวลาที่ร่างกายของคนเรา ยังดึงไขมันมาใช้ได้ไม่เต็มที่
00:06:41 → 00:06:45 มันก็เลยไปดึงโปรตีนมาใช้ด้วยเหมือนกันนะ แต่มันจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
00:06:45 → 00:06:46 อย่างที่หมอหนึ่งบอก
00:06:46 → 00:06:49 เพราะว่าร่างกายของคนเรา มันพยายามจะสงวนโปรตีนไว้
00:06:49 → 00:06:51 ไม่อยากให้โปรตีนมันหายไปเพราะว่า
00:06:51 → 00:06:53 มันใช้ทําหน้าที่ซ่อมแซมร่างกาย
00:06:53 → 00:06:56 ใช้หน้าที่ในการเสริมภูมิคุ้มกันถูกไหมนะครับ
00:06:56 → 00:06:58 คราวนี้พอผ่านช่วงสั้น ๆ ตรงนั้นไปได้
00:06:58 → 00:07:04 ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงเป็นต้นไป ร่างกายของคนเรามักจะปรับตัว โดยการไปเอาไขมันมาใช้แทน
00:07:04 → 00:07:07 ในเมื่อไม่มีน้ําตาลกับแป้งภายนอกใช่ไหม
00:07:07 → 00:07:10 ไปเอาไขมันมาใช้แทน โดยการสลายไขมัน
00:07:10 → 00:07:14 แล้วสลายเป็นสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า คีโตน ( Ketone )
00:07:14 → 00:07:16 จําชื่อไม่ได้ไม่เป็นไรเหมือนเดิมนะ แต่ให้รู้หลักการไว้นะครับ
00:07:16 → 00:07:22 เจ้าสารคีโตนเนี่ย มันสามารถให้พลังงานกับเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของคนเราได้
00:07:22 → 00:07:24 เกือบทุกเซลล์นะครับ ซึ่งสมองก็ใช้ได้เหมือนกัน
00:07:24 → 00:07:27 ดังนั้นบางคนที่คิดว่า ไม่กินน้ําตาลแล้วสมองจะไม่แล่น
00:07:27 → 00:07:28 จริง ๆ มันไม่ใช่
00:07:28 → 00:07:31 พอผ่านช่วงปรับตัวไปได้ ร่างกายสลายไขมันมา
00:07:31 → 00:07:33 สมองก็ใช้พลังงานจากไขมันได้เหมือนกันนะครับ
00:07:33 → 00:07:37 แต่ช่วงที่สารที่ชื่อว่า คีโตน ในร่างกายเริ่มเยอะขึ้นเนี่ย
00:07:37 → 00:07:38 ช่วงนี้แหละนะครับ
00:07:38 → 00:07:42 คนที่เขากินคีโตกันเนี่ย เขาจะเรียกว่าเป็นช่วงคีโตซิส ( Ketosis )
00:07:42 → 00:07:45 คือเริ่มเจอสารที่ชื่อ คีโตน เยอะขึ้นเรื่อย ๆ
00:07:45 → 00:07:48 และอาจจะเกิดอาการบางอย่างที่เป็นผลข้างเคียงนะครับ
00:07:48 → 00:07:51 จากการที่ร่างกายสลายไขมันมาใช้โดยที่ไม่มีแป้ง
00:07:51 → 00:07:53 มีอาการอะไรบ้างนะครับ
00:07:53 → 00:07:56 อันที่ 1 อาจจะมีไข้ได้ ที่หลาย ๆ คน จะเรียกมันว่า
00:07:56 → 00:07:58 คีโตฟลู ( Keto Flu ) หรือ ไข้คีโต
00:07:58 → 00:08:01 หรือบางคนอาจจะขาดสารอาหารได้นะครับ
00:08:01 → 00:08:02 เพราะว่าการที่ไม่กินแป้งไปเลย
00:08:02 → 00:08:07 ในแป้งบางชนิด ก็จะมีวิตามินเกลือแร่บางอย่าง ที่ไขมันไม่มีถูกไหม
00:08:07 → 00:08:10 หรือบางคนอาจจะท้องผูก เพราะว่าพอเรางดแป้งไปเลย
00:08:10 → 00:08:13 ในแป้งเนี่ย บางทีแป้งที่เราทานเป็นพวกข้าวกล้อง มีใยอาหารอยู่
00:08:13 → 00:08:17 บางคนไม่กินผักอะไรเลย ฟักทองไม่กิน ข้าวโพดไม่กิน เผือกไม่กิน
00:08:17 → 00:08:19 ผักใบอะไรก็ไม่กินเลยนะครับ
00:08:19 → 00:08:22 ก็ทําให้ร่างกายของเรา ขาดพวกใยอาหารได้ด้วย
00:08:22 → 00:08:23 ขาดวิตามิน เกลือแร่ ต่าง ๆ ได้นะครับ
00:08:23 → 00:08:26 เพราะฉะนั้นถามว่า มันมีข้อเสียไหม ก็มีเหมือนกัน
00:08:26 → 00:08:27 แต่ถามว่าน้ําหนักลดไหม ก็ลด
00:08:27 → 00:08:29 แต่มีข้อดีข้อเสียที่ต้องแลกกันมา
00:08:29 → 00:08:32 และจากที่หมอหนึ่งบอกเมื่อกี้นะครับว่า การลดน้ําหนักแบบนี้เนี่ย
00:08:32 → 00:08:35 มันจะเกิดสารตัวหนึ่งที่ชื่อ คีโตน ถูกไหม
00:08:35 → 00:08:37 เพราะฉะนั้นเราก็เลยมักจะเรียกการลดน้ําหนักแบบนี้ว่า
00:08:37 → 00:08:38 คีโตจีนิก ไดเอท ( Ketogenic Diet )
00:08:38 → 00:08:42 แต่การงดแป้ง ไม่ได้หมายความว่า จะเป็น คีโตจีนิก ไดเอท ทั้งหมดนะ
00:08:42 → 00:08:44 การงดแป้งมีหลายแบบมาก ๆ
00:08:44 → 00:08:50 เพราะเราไม่สามารถจะ งดแป้ง ไม่กินแป้ง แล้วก็ไม่กินโปรตีน แล้วก็ไม่กินไขมัน แบบนี้ไม่ได้
00:08:50 → 00:08:51 เพราะถ้าเราไม่กินแป้ง ไม่กินโปรตีน ไม่กินไขมัน
00:08:51 → 00:08:53 แบบนี้เราเรียกว่า การอดอาหาร
00:08:53 → 00:08:54 มันไม่ใช่การลดน้ําหนัก
00:08:54 → 00:08:59 แต่บางกลุ่มจะงดแป้ง แต่กินโปรตีนเยอะ ๆ อันนี้ก็จะเน้นเนื้อสัตว์เยอะ ๆ เลย
00:08:59 → 00:09:01 อันนี้เราเรียกว่า Carnivorous Diet
00:09:01 → 00:09:04 หรือเคยได้ยินไหม เรียกว่า การกินแบบ CD
00:09:04 → 00:09:08 แต่อีกกลุ่มนึง ก็จะไม่กินแป้งเลย แต่ไปกินไขมันเยอะ ๆ แทน
00:09:08 → 00:09:11 อันนี้ก็จะเป็น Ketogenic Diet นะครับ
00:09:11 → 00:09:14 ก็มีหลายแบบมาก ๆ แต่อย่างที่บอกนะครับว่า
00:09:14 → 00:09:15 มันมีข้อเสียด้วยเหมือนกัน
00:09:15 → 00:09:17 ข้อเสียมีอะไรบ้างมาดูครับ
00:09:17 → 00:09:20 ข้อเสีย หรือ ข้อควรระวัง ข้อที่ 1 ก็คือ
00:09:20 → 00:09:23 ถ้าใครที่มีโรคประจําตัว โดยเฉพาะเบาหวาน
00:09:23 → 00:09:25 อย่าตัดแป้งเองเด็ดขาด
00:09:25 → 00:09:27 ควรจะอยู่ในการดูแลของหมอ
00:09:27 → 00:09:30 เพราะว่า ถ้าคุณเป็นเบาหวาน แล้วมียาทานอยู่ด้วย
00:09:30 → 00:09:34 การตัดแป้งไปเลย จะทําให้น้ําตาลในเลือดของคุณ มันลดลงกระทันหัน
00:09:34 → 00:09:37 แล้วคุณยังกินยาอยู่ด้วย มันก็ไปทําให้น้ําตาลในเลือดของคุณลดลงอีก
00:09:37 → 00:09:41 สุดท้ายน้ําตาลก็เลยต่ำ แล้วคุณก็งงว่า ไม่รู้จะจัดการกับชีวิตยังไงดี ถูกไหม
00:09:41 → 00:09:43 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตั้งใจจะลดแป้งลง
00:09:43 → 00:09:47 คุณต้องปรึกษากับหมอที่เป็นเจ้าของไข้ของคุณนะ ถ้าคุณเป็นเบาหวาน
00:09:47 → 00:09:50 บอกว่าหมอคะ กําลังจะปรับอาหาร ลดการทานแป้งลง
00:09:50 → 00:09:52 คุณหมอมีคําแนะนํายังไงบ้าง ในการปรับยา
00:09:52 → 00:09:55 แบบนี้ก็จะทําให้คุณใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่ต้องกังวลนะครับ
00:09:55 → 00:09:58 ว่าจะเกิดภาวะน้ําตาลต่ำ จากการเป็นเบาหวาน แล้วกินยาอยู่นะครับ
00:09:58 → 00:10:01 ข้อที่ 2 นะครับ คุณจําเป็นที่จะต้องเข้าใจนะว่า
00:10:01 → 00:10:03 การงดแป้ง ไม่ใช่การอดอาหารนะ
00:10:03 → 00:10:05 อย่างที่หมอหนึ่งพูดไปก่อนหน้านี้ว่า
00:10:05 → 00:10:07 งดแป้ง มีทั้งงดแป้ง แต่กินโปรตีนเยอะ
00:10:07 → 00:10:09 แล้วก็งดแป้ง แบบกินไขมันเยอะ
00:10:09 → 00:10:12 ถ้างดแป้งแบบกินโปรตีนเยอะ คือ Carnivorous Diet
00:10:12 → 00:10:15 แต่ถ้างดแป้งแบบกินไขมันเยอะ คือ Ketogenic Diet
00:10:15 → 00:10:17 ซึ่งก็ค่อยไปศึกษาต่อว่ามันทํายังไงนะครับ
00:10:17 → 00:10:21 แล้วค่อยเอาข้อดีของมัน มาปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจําวันของเราก็ได้
00:10:21 → 00:10:23 แต่ไม่ใช่ว่าไม่กินอะไรเลย กินน้อยหมดเลย
00:10:23 → 00:10:26 อันนี้เรียก อดอาหาร จะทําให้ระบบเผาผลาญพังเนอะ
00:10:26 → 00:10:29 และข้อที่ 3 ที่สําคัญมาก ๆ เลยนะครับ คือ
00:10:29 → 00:10:31 คุณจะโยโย่ได้ ถ้าคุณตัดแป้งไปตลอด
00:10:31 → 00:10:34 คนที่ตัดแป้งไปตลอด 1 เดือน แล้วมาปรึกษาหมอหนึ่งนะครับ
00:10:34 → 00:10:36 มักจะเจอปัญหาว่า น้ําหนักนิ่ง แล้วโยโย่
00:10:36 → 00:10:37 เพราะอะไรรู้ไหม
00:10:37 → 00:10:39 เพราะตอนที่คุณตัดแป้งไปน้ําหนักคุณลด
00:10:39 → 00:10:42 แต่พอคุณได้น้ําหนักที่พอใจแล้วคุณกลับไปกินแป้ง
00:10:42 → 00:10:47 คุณไม่รู้ว่าน้ําหนักของคุณ ต้องกินแป้งแบบไหน ปริมาณเท่าไร
00:10:47 → 00:10:48 คุณถึงจะผอมแล้วยั่งยืน
00:10:48 → 00:10:52 สุดท้ายพอไม่รู้ ก็กิน กินเยอะมาก ก็เลยอ้วนเลย
00:10:52 → 00:10:55 ดังนั้นหมอหนึ่งเลยไม่เคยแนะนําใครให้ลดน้ําหนักแบบไม่กินแป้งเลยนะครับ
00:10:55 → 00:10:57 นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเรียนของหมอหนึ่งทุกคน
00:10:57 → 00:10:59 เขาจะเข้าใจว่า น้ําหนักของเขาแบบนี้
00:10:59 → 00:11:02 เขาต้องกินแป้งปริมาณประมาณเท่าไร เลือกแป้งแบบไหนดี
00:11:02 → 00:11:04 โดยที่ยังใช้ชีวิตประจําวันได้ปกติ
00:11:04 → 00:11:06 ไม่จําเป็นต้องทําอาหารเอง ซื้ออาหารทานก็ได้
00:11:06 → 00:11:11 แต่รู้แล้วว่า ขนาดปริมาณประมาณนี้ถึงเหมาะสมโดยที่ไม่ต้องตัดแป้งนะ
00:11:11 → 00:11:13 แต่แค่ลดแป้งก็พอ แล้วเลือกชนิดแป้งให้ถูก โอเคไหม
00:11:13 → 00:11:17 ก็เป็น ข้อดี ข้อเสีย ของการงดแป้ง เพื่อลดน้ําหนักนะครับ
00:11:17 → 00:11:18 เพราะฉะนั้นถามว่า ผ่านไป 1 เดือน น้ำหนักลดไหม
00:11:18 → 00:11:21 ลด ถ้าคุณตัดแป้งไปเลย ยังไงก็ลด
00:11:21 → 00:11:23 แต่ก็ต้องแลกมากับข้อเสียหลายอย่างเหมือนกัน
00:11:23 → 00:11:25 ดังนั้น ดีที่สุดนะครับ
00:11:25 → 00:11:29 ก็แนะนําว่า อยากให้ทุกคนเริ่มต้นลดน้ําหนัก จากการที่ลดแป้งเอาก็พอ
00:11:29 → 00:11:33 แล้วให้รู้ว่า น้ําหนักของเราประมาณนี้ จะทานแป้งชนิดไหนได้บ้าง
00:11:33 → 00:11:36 แล้วปริมาณประมาณเท่าไรนะครับ
00:11:36 → 00:11:39 ก็สามารถศึกษาเพิ่มจากคลิปอื่น ๆ ในช่องของหมอหนึ่งได้นะครับ
00:11:39 → 00:11:41 หรือใครที่อยากลดน้ําหนักกับหมอหนึ่ง
00:11:41 → 00:11:44 ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ หมอหนึ่งมีกลุ่มเรียนด้วยนะครับ
00:11:44 → 00:11:47 ไปดูวิธีการเข้ากลุ่มเรียนในลิ้งค์ที่อยู่ในคอมเมนต์ก็ได้นะครับ
00:11:47 → 00:11:49 แล้วพบกันคลิปถัดไปนะครับ