00:00:00 → 00:00:02 มีเทคนิคการเผาผลาญไขมันโดยที่ไม่ได้ออก
00:00:02 → 00:00:07 กำลังกายแม้แต่นิดเดียวครับ
00:00:07 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:13 สวัสดีครับผมมาทำนะครับนี้คุณด็อกเตอร์
00:00:14 → 00:00:16 Top Channel ครับรายการสุขภาพที่ทั้ง
00:00:16 → 00:00:18 สนุกและมีสาระครับ
00:00:18 → 00:00:21 วันนี้ครับเราจะคุยกันเรื่องเทคนิคการเผา
00:00:21 → 00:00:24 ผลาญไขมันโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกายแม้แต่
00:00:24 → 00:00:27 นิดเดียวครับโอเคครับสำหรับท่านที่มีเวลา
00:00:27 → 00:00:29 น้อยนะครับผมขออนุญาตให้กระโดดไปที่ศาล
00:00:29 → 00:00:32 นาทีสุดท้ายครับส่วนท่านที่เวลาเราไป
00:00:32 → 00:00:35 พร้อมๆกันเลยครับสำหรับเรื่องของเทคนิค
00:00:35 → 00:00:37 การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
00:00:37 → 00:00:39 แล้วฟังแล้วเป็นไงครับอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ย
00:00:39 → 00:00:42 โมหรือเปล่าแต่ผมบอกเลยครับว่ามันเป็นไป
00:00:42 → 00:00:46 ได้และไม่ยากด้วยครับก็ต้องบอกว่าถ้าเรา
00:00:46 → 00:00:50 นะครับสามารถที่จะทราบสาเหตุและสามารถที่
00:00:50 → 00:00:53 จะทราบกลไกผมบอกเลยครับว่าเราสามารถที่จะ
00:00:53 → 00:00:56 เผาผลาญไขมันได้ง่ายมากโดยที่แทบจะไม่
00:00:56 → 00:00:59 ต้องออกกำลังกายนั่นเองครับต้องบอกเลย
00:00:59 → 00:01:00 ครับว่า
00:01:00 → 00:01:02 ไม่ใช่ของมันนั้นเนี่ยไม่ได้ซับซ้อนเพียง
00:01:02 → 00:01:05 แต่ว่าเราทราบเท่านั้นหรือเปล่านั่นเองนะ
00:01:05 → 00:01:06 ครับผม
00:01:06 → 00:01:11 แต่ปกติแล้วเนี่ยวันหนึ่งเราใช้แคลอรี่นะ
00:01:11 → 00:01:13 ครับในการที่เขาเรียกว่าเผาผลาญพลังงาน
00:01:13 → 00:01:17 ต่อวันในประมาณ 2,000 แคลอรี่นะครับเมื่อ
00:01:17 → 00:01:19 ไหร่ก็ตามที่ท่านทานน้อยกว่านี้เนี่ยร่าง
00:01:19 → 00:01:23 กายจะเผาผลาญลดลงตามมาโดยปกติแล้วเนี่ย
00:01:23 → 00:01:25 เวลาเราทานน้อยเนี่ยเราก็คิดว่าเราจะลด
00:01:25 → 00:01:28 ความอ้วนได้ใช่มั้ยฮะแต่มันโชคร้ายครับ
00:01:28 → 00:01:30 จริงๆมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นกันเมื่อไหร่
00:01:30 → 00:01:32 ก็ตามที่โดยปกติร่างกายท่านผ่านประมาณ
00:01:32 → 00:01:35 2,000 แคลอรี่ใช่ไหมครับแล้วท่านทาน
00:01:35 → 00:01:39 เหลือพัน 500 แคลอรี่ผ่านไปซักพัก 3 วัน 5
00:01:39 → 00:01:42 วัน 7 วันตอนแรกก็เหมือนรถได้ครับพอสัก 7
00:01:42 → 00:01:45 วันจะเริ่มลดไม่ได้แล้วร่างกายจะปรับมา
00:01:46 → 00:01:49 ครับให้ผ่านเหลือประมาณพัน 500 แคลอรี่
00:01:49 → 00:01:51 เท่าที่ท่านกินใบหรือว่าอาจจะน้อยกว่า
00:01:51 → 00:01:53 เล็กน้อยเพราะว่าร่างกายกลัวตายนั่นเอง
00:01:53 → 00:01:56 ครับร่างกายบอกว่าว่าฉันไม่ปักระบบเขา
00:01:56 → 00:01:58 ผ่านฉันต้องตายแน่เพราะว่าอยู่ดีร่างกาย
00:01:58 → 00:02:01 ไม่ทันอาหารนะครับร่างกายนึกว่าไม่มีอะไร
00:02:01 → 00:02:05 กินร่างกายเลยสงวนพลังเอาไว้ไม่ยอมผาน
00:02:05 → 00:02:08 ท่านก็ลดลงไปอีกเหรอ 1 กิโลแคลอรีต่อวัน
00:02:08 → 00:02:11 ที่กินเข้าไปสักพักนึงร่างกายก็ลดตามอีก
00:02:11 → 00:02:14 ครับหรือพันกิโลแคลอรีเพราะเท่านั้นเอง
00:02:14 → 00:02:16 ท่านเริ่มไม่ไหวแล้วท่านกลับไปกินพัน 500
00:02:16 → 00:02:19 แคลอรี่แต่ร่างกายมันไม่ยอมกลับไปปรับ
00:02:20 → 00:02:22 เป็นพันห้าร้อยแล้วนี่นะครับมันก็เผาเท่า
00:02:23 → 00:02:26 เดิมพันแกลอรี่ว่ามันจะกลับมาปรับตัวให้
00:02:26 → 00:02:29 เผาพันห้าร้อย Gallery เท่าที่ท่านทาน
00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยนะครับอย่างน้อย 1 เดือนครับเพราะ
00:02:32 → 00:02:35 ฉะนั้นแล้วการนับแคลอรี่ที่
00:02:35 → 00:02:39 ซีเรียสเพื่อลดความอ้วนก็จะเห็นได้ว่ามี
00:02:39 → 00:02:42 คนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ
00:02:42 → 00:02:45 และคนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเมื่อนับ
00:02:45 → 00:02:47 แคลอรี่ลดลงไปถึงจุดหนึ่งแล้วน้ำหนักนิ่ง
00:02:47 → 00:02:51 รวมทั้งมีปัญหาต่างๆจนล้มเลิกกลับมาอ้วน
00:02:51 → 00:02:54 อีกนั่นเองนะครับ
00:02:54 → 00:02:57 นะคะนี้มาดูครับสิ่งที่เราเคยได้ยินมานะ
00:02:57 → 00:03:00 ครับ 5 กดอาหารเช้าใช่ไหมครับต้องทาน
00:03:00 → 00:03:04 อาหารทุกมื้อผลไม้ทานเต็มที่ผักทานแบบไหน
00:03:04 → 00:03:07 ก็ได้นะครับดื่มน้ำเยอะๆกินกับใหญ่มากๆ
00:03:07 → 00:03:10 และกินทุกอย่างเท่ากันไม่ว่าจะเป็น
00:03:10 → 00:03:12 คาร์บอเนตโปรตีนและไขมันแต่ต้องบอกเลย
00:03:12 → 00:03:15 ครับว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินมา
00:03:15 → 00:03:19 อาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดนะครับการอด
00:03:19 → 00:03:22 อาหารเช้าในปัจจุบันนี้วิจัยแล้วว่าไม่
00:03:22 → 00:03:25 ได้มีปัญหาอะไรนะครับแถมถ้าเกิดมีช่วง
00:03:25 → 00:03:28 เวลาที่อดอาหารนานๆจะยิ่งผ่านไขมันได้มาก
00:03:28 → 00:03:32 กว่าเดิมนะครับข้อที่ 2 ต้องทานทุกมือผม
00:03:32 → 00:03:34 ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทานทุกมื้อเพราะ
00:03:35 → 00:03:38 ว่าในปัจจุบันแล้วนะครับก็มีการวิจัยอีก
00:03:38 → 00:03:41 เช่นกันว่ายิ่งท่านทานบ่อยเท่าไหร่โอกาส
00:03:41 → 00:03:45 ที่จะสะสมไขมันก็สูงเท่านั้นแม้จะทาน
00:03:45 → 00:03:49 แคลอรี่เท่าเดิมก็ตามนะชัดเจนนะทานเท่า
00:03:49 → 00:03:52 เดิมแต่แบ่งมือบ่อยๆอ้วนกว่าทานเท่าเดิม
00:03:52 → 00:03:56 แต่ทานมื้อน้อยต่อวันนะครับผลไม้ทานที่
00:03:56 → 00:03:59 เต็มที่ฟังแล้วก็ดูดีผลไม้น่าจะดีแต่จริง
00:03:59 → 00:04:02 ๆแล้วผลไม้เป็นคาโบไฮเดรตนะครับเมื่อไหร่
00:04:02 → 00:04:04 ก็ตามที่ท่านท้ายเขาโบยเดชมากเกินไปแม้จะ
00:04:04 → 00:04:07 มีกับใหญ่มาช่วยลบส่วนของคาโบไฮเดรตทิ้ง
00:04:07 → 00:04:11 ใบได้แต่มันก็ยังเหลืออยู่ครับมันก็จะ
00:04:11 → 00:04:14 กลายเป็นน้ำตาลที่สุดและไปสะสมที่ไขมัน
00:04:14 → 00:04:18 รอบภูมิของท่านนั่นเองครับต่อมาครับผัก
00:04:18 → 00:04:21 แบบไหนก็ทานได้ก็ต้องบอกครับว่าไม่จริงฮะ
00:04:21 → 00:04:24 ผักเนี่ยแบ่ง 2 แบบใหญ่ๆหนึ่งคือผักที่
00:04:24 → 00:04:28 งอกบนพื้นดินและ 2 ผักที่ที่เกิดอยู่ใต้
00:04:28 → 00:04:29 พื้นดิน
00:04:29 → 00:04:33 มีผักที่โง่บนพื้นดินเนี่ยมักจะมีแคลอรี่
00:04:33 → 00:04:36 ต่ำทานได้ผักใบเขียวผักใบต่างๆแต่ผักที่
00:04:36 → 00:04:39 งอกใต้พื้นดินมาสจะมีปัญหาเนื่องจากเขา
00:04:39 → 00:04:43 สะสมพลังงานไว้เยอะไม่ว่าจะเป็นเผือกมัน
00:04:43 → 00:04:46 มันแกวแห้วพวกนี้มีพลังงานสูงมี
00:04:46 → 00:04:50 คาร์โบไฮเดรต 0 นะครับยิ่งผ่านยิ่งอ้วนนะ
00:04:50 → 00:04:52 ครับเพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังยาเพอไปใส่
00:04:52 → 00:04:54 ในสลัดบ่อยๆนะครับ
00:04:54 → 00:04:58 ดื่มน้ำเยอะๆนี้ผมเห็นด้วยครับอันนี้ยัง
00:04:58 → 00:05:00 ถือว่าใช้ได้เลยอย่างน้อยวันนึง 3 ลิตร
00:05:00 → 00:05:03 เนี่ยจะทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นมากๆนะครับ
00:05:03 → 00:05:07 ต่อมากินกากใยมากๆส่วนหนึ่งถูกต้องครับ
00:05:07 → 00:05:10 แต่ต้องระมัดระวังอาหารที่มาพร้อมกับใหญ่
00:05:10 → 00:05:13 มักผสมกับคาร์โบไฮเดรตนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:05:13 → 00:05:16 เข้ากล้องเข้าขัดข้าวที่ไม่ขัดสีธัญพืช
00:05:16 → 00:05:19 ต่างๆนะคะมีการย้ายสูงก็จริงแต่มักแอบ
00:05:19 → 00:05:22 ขโมยเดชมาด้วยนั่นเองนะครับต่อมาข้อสุด
00:05:22 → 00:05:25 ท้ายอันนี้ตาลายมากครับกินทุกอย่างเท่า
00:05:25 → 00:05:28 กันมันคำว่าโปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตท่าน
00:05:28 → 00:05:29 ทางเท่ากัน
00:05:29 → 00:05:32 ก็ต้องบอกเลยครับบอกว่าอันตรายพอสมควร
00:05:32 → 00:05:35 ครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ว่าทำไมถึงอันตราย
00:05:35 → 00:05:37 นั่นเองนะครับ
00:05:37 → 00:05:40 ต้องบอกนี่ครับว่าร่างกายของเราเนี่ยเก็บ
00:05:40 → 00:05:44 พลังงานอยู่ 2 ที่นะครับหนึ่งคือเก็บที่
00:05:44 → 00:05:50 ตับกล้ามเนื้อ 2 เก็บที่ไขมันะครับเมื่อ
00:05:50 → 00:05:53 ไหร่ก็ตามเนี่ยที่เราพยายามอ่าใช้
00:05:53 → 00:05:56 คาร์โบไฮเดรตนะครับกินคาร์บอเนตเข้าไป
00:05:56 → 00:05:58 บ่อยๆเนี่ยนะครับ
00:05:58 → 00:06:02 และก็จะสลายแต่ไกลโคเจนนะครับร่างกายจะ
00:06:02 → 00:06:05 เผาผลาญแต่ไกลโคเจนนะครับที่ตับและกล้าม
00:06:05 → 00:06:07 เนื้อจะไม่ยอมสลายแฟลชนั่นเองนะครับแต่
00:06:07 → 00:06:10 ถ้าเกิดท่านทางคาร์บอเนตน้อยๆนะครับร่าง
00:06:10 → 00:06:14 กายยังมีไกลโคเจนอยู่เต็มเขาจะไปสลายแฟต
00:06:14 → 00:06:17 แทนนะครับเขาจะไปสลายแฟตแทนท่านทาน
00:06:17 → 00:06:20 คาร์โบไฮเดรตน้อยนี่คืออากาศนะครับ
00:06:20 → 00:06:23 ก็เพราะฉะนั้นครับปัญหาจะเกิดขึ้นทันที
00:06:23 → 00:06:26 เมื่อท่านทานทุกอย่างเท่ากันไม่ว่าจะเป็น
00:06:26 → 00:06:30 โปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตเพราะแคลอรี่ไม่
00:06:30 → 00:06:33 เท่ากับแคลอรี่กันคืออะไรให้ท่านนึกภาพ
00:06:33 → 00:06:38 โดนัทอันนึง 300 แคลอรี่ปลาแซลมอนชิ้น 1
00:06:38 → 00:06:41 300 แคลอรี่แคลอรี่เท่ากันนะครับถ้ามัน
00:06:41 → 00:06:44 เป๊ะเลยแต่ประโยชน์เท่ากันไหมครับท่านคิด
00:06:44 → 00:06:47 ว่าทานอะไรแล้วมันจะอ้วนตรงไปตรงมาครับ
00:06:47 → 00:06:50 โดนัทนั่นเองอ้าวอย่างนั้นแล้วกันนับ
00:06:50 → 00:06:53 แคลอรี่จะช่วยอะไรแล้วใช่ไหมครับเพราะว่า
00:06:53 → 00:06:56 จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญมากกว่าแคลอรี่คือ
00:06:56 → 00:06:58 สารอาหารที่เราได้รับต่างหากโดยเฉพาะ
00:06:58 → 00:07:01 คาวบอยเด็ดที่มากเกินไปจะทำให้ท่าน
00:07:01 → 00:07:05 อันตรายอย่างคาดไม่ถึงนั่นเองครับ
00:07:05 → 00:07:09 และมาต่อกันครับหลักการคือถ้าท่านขี้
00:07:09 → 00:07:12 เกียจออกกำลังกายแล้วก็อยากจะผอมได้ง่าย
00:07:12 → 00:07:15 ถ้าต้องทำให้ร่างกายท่านเบอร์แฟลตได้เรา
00:07:15 → 00:07:18 ไม่ต้องการเบิร์นไกลโคเจนก็คือพลังงานใน
00:07:18 → 00:07:21 ตัดและพลังงานในกล้ามเนื้อนั่นเองครับแต่
00:07:21 → 00:07:24 เมื่อเราทานแป้งตลาดตลอดเวลาร่างกายก็จะ
00:07:24 → 00:07:27 เบอร์ตะไคร์ไคเจนเพราะเบิร์นหมดก็หิวไม่
00:07:27 → 00:07:30 ยอม burn Fat ก็สั่งให้สมองก็สั่งให้กิน
00:07:30 → 00:07:32 อีกกินอีกกินอีกไปเรื่อยๆนี่คือสาเหตุของ
00:07:32 → 00:07:35 ความหิวบ่อยเมื่อไหร่ก็ตามที่การทาน
00:07:35 → 00:07:38 คาร์โบไฮเดรตบ่อยๆท่านก็จะหิวบ่อยท่านทาง
00:07:38 → 00:07:40 คาโบไฮเดดบ่อยๆแล้วท่านเผาไม่หมดมันจะเอา
00:07:40 → 00:07:43 ไปเก็บเป็นไขมันรอบตัวของท่านและร่างกาย
00:07:43 → 00:07:46 ของท่านก็ไม่เคยยอมเผาผลาญไขมันสักทีนั่น
00:07:46 → 00:07:49 เองครับ
00:07:49 → 00:07:52 ข้อต่อมาครับยิ่งชั่นถ่านแป้งน้อยเท่า
00:07:52 → 00:07:54 ไหร่ก็จะยิ่ง burn Fat ได้มากขึ้นเท่า
00:07:54 → 00:07:58 นั้นโดยเฉพาะฐานแป้งน้อยกว่า 20 กรัมต่อ
00:07:58 → 00:08:00 วันนี้นะฮะหรือว่าคิดโตจีนิค Diet นั่น
00:08:00 → 00:08:03 เองครับจะ burn Fat กันแบบโอโห้สนุกสนาน
00:08:03 → 00:08:06 เลยแต่ว่าสำหรับผู้แรกเริ่มครับผมแนะนำ
00:08:06 → 00:08:09 ให้ทานเป็นโลคาบ Diet อย่างน้อยเนี่ยราะ
00:08:09 → 00:08:11 น้อยกว่า 100 กรัมต่อวันนี้ถือว่าใช้ได้
00:08:11 → 00:08:14 แล้วครับผม
00:08:14 → 00:08:17 ก็เช่นอีกที่หนึ่งนะครับที่จะทำให้นะครับ
00:08:17 → 00:08:21 ท่าน burn Fat มากกว่า
00:08:21 → 00:08:25 มีภาวะปกตินะครับด้านก็คือการเลือกอาหาร
00:08:25 → 00:08:29 ให้ถูกต้องข้อแรกครับ low ขาด Diet ยิ่ง
00:08:29 → 00:08:31 ทานคาร์บอเนตน้อยเท่าไหร่ยิ่ง burn Fat
00:08:31 → 00:08:34 มากเท่านั้นแนะนำเริ่มต้นน้อยกว่า 100
00:08:34 → 00:08:37 กรัมต่อวันนะครับต่อมาถ้าเกิดเก่งขึ้น
00:08:37 → 00:08:40 แล้วน้อยกว่า 50 และเอาไปสุดๆที่น้อยกว่า
00:08:40 → 00:08:43 20 กรัมต่อวันอันที่สองอันที่เผ็ดโปรตีน
00:08:43 → 00:08:46 คือทานโปรตีนให้เพียงพออย่างน้อย 1 ถึง
00:08:46 → 00:08:48 1.2 กรัมต่อวันนะครับเพราะว่าถ้าน้อย
00:08:48 → 00:08:50 กว่านี้กล้ามเนื้อสลายแน่นอนมีปัญหาแน่
00:08:50 → 00:08:53 นอนและข้อที่ 3 ครับทาน Flash นะครับ
00:08:53 → 00:08:57 อย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์นะครับ 60-70
00:08:57 → 00:08:59 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรี่ทั้งหมดนั่นเองก็
00:08:59 → 00:09:01 ถ้าวันหนึ่งสองพันแคลอรี่ทั้งควรทัน Fat
00:09:01 → 00:09:03 100 พันสองร้อยถึงพัน 400 แคลอรี่นั่น
00:09:03 → 00:09:07 เองครับแต่ควรเลือกเป็น Fat ชั้นดีที่มา
00:09:07 → 00:09:10 จากธรรมชาตินั่นเองนะครับที่ผมบอกเทคนิค
00:09:10 → 00:09:14 นี้ก็คือตัวจิบได้เด่นและโลว์คาร์บ Diet
00:09:14 → 00:09:15 นั่นเองครับ
00:09:15 → 00:09:16 และ
00:09:16 → 00:09:19 นี่คือแผนภาพของอินซูลิน resistance ซึ่ง
00:09:19 → 00:09:22 น่ากลัวมากครับผมจะโชว์ภาพนี้ดูครับมัน
00:09:22 → 00:09:25 เป็นอะไรที่แบบสุดๆเลยนะครับสำหรับเรื่อง
00:09:25 → 00:09:29 ของการน่ากินนะครับโดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต
00:09:29 → 00:09:31 เนี่ยฮะจะทำให้อินซูลินของท่านเนี่ยเอ่อ
00:09:31 → 00:09:36 หลั่งมาตลอดเวลานะครับก็มาเซลล์ต่างๆก็จะ
00:09:36 → 00:09:39 ทำการต่อต้านอินซูลินเพราะมันหลังมาเยอะ
00:09:39 → 00:09:41 แยะแล้วอ่ะใช่มั้ยก็เริ่มต่อต้านแล้วและ
00:09:41 → 00:09:45 หลังจากนั้นครับคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลใน
00:09:45 → 00:09:47 จะล่องลอยอยู่ในร่างกายของท่านไม่รู้จะไป
00:09:47 → 00:09:50 เก็บที่ไหนดีก็ไปเก็บเป็นไขมันรอบตัวท่าน
00:09:50 → 00:09:53 นั่นเองครับหลังจากนั้นเพราะท่านทานน้ำ
00:09:53 → 00:09:56 ตาลขึ้นสูงอินทรีย์ร่างกายสักพักนึงน้ำ
00:09:56 → 00:09:58 ตาลตกลงมาเพราะไม่มีอะไรไปเติมใหม่ท่านก็
00:09:58 → 00:10:01 หิวอีกครั้งแปลว่ามันเป็นวงจรอุบาทว์ครับ
00:10:01 → 00:10:03 ยิ่งกินยิ่งหิวยิ่งกินยิ่งอ้วนนั่นเอง
00:10:03 → 00:10:05 ครับ
00:10:05 → 00:10:08 5 เทคนิคที่ 2 ครับก็ง่ายๆเหมือนเดิม
00:10:08 → 00:10:11 ครับนั่นคือ intermittent fasting ครับ
00:10:11 → 00:10:14 กินเท่าเดิมเพิ่มเติมแค่เปลี่ยนเวลากิน
00:10:14 → 00:10:17 เหมือนเดิมเลยอาหารเท่าเดิมไม่ต้องลดทุก
00:10:17 → 00:10:19 อย่างเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนเวลาคือมีเวลา
00:10:19 → 00:10:22 ที่หยุดกินอย่างน้อยมากกว่า 12 ชั่วโมง
00:10:22 → 00:10:25 ครับผมแนะนำผู้เริ่มต้นหยุดกิน 12
00:10:25 → 00:10:28 ชั่วโมงและกิน 12 ชั่วโมงผู้เชี่ยวชาญ
00:10:28 → 00:10:31 เริ่มไปที่หยุดกิน 14 หยุดกิน 16 และอยู่
00:10:31 → 00:10:34 กิน 20 โดยส่วนตัวผมนะผมแนะนำที่หยุดกิน
00:10:34 → 00:10:37 16 และกินแค่ 8 ชั่วโมงอย่างน้อยๆตั้ง
00:10:37 → 00:10:40 แต่ท่านต้องหยุดทานตั้งแต่ 8 ชั่วโมงขึ้น
00:10:40 → 00:10:43 ไปก็ในช่วงที่ 8 9 10 11 12 ร่างกาย
00:10:43 → 00:10:46 จะเริ่มเผาไขมันถ้าท่านหยุดต่อ 13 14 15
00:10:46 → 00:10:49 16 17 18 ก็จะเริ่มเขาไขมันอีกเช่นกัน
00:10:49 → 00:10:52 นั่นเองครับก็จะยิ่ง burn Fat ได้มาก
00:10:52 → 00:10:55 ขึ้นยิ่งมีช่วงเวลา Fast ก็ยิ่ง burn Fat
00:10:55 → 00:10:57 เดียวมากขึ้นนะคะอันนี้เขียนผิดนะเบอร์
00:10:57 → 00:11:00 ไม่ใช่ต้องเป็นเบอร์นั่นเองครับนะครับอัน
00:11:00 → 00:11:02 นี้คือ 2 เทคนิคใหญ่ๆนั่นเองครับอย่างแรก
00:11:02 → 00:11:04 ครับเลือกอาหารให้ถูกต้องและอย่างที่สอง
00:11:04 → 00:11:07 ทำ in คือแบบนี้เต้นฟาสติ้งครับคราวนี้
00:11:07 → 00:11:10 ครับผมขออนุญาตสรุปครับเรื่องของเทคนิค
00:11:10 → 00:11:13 การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
00:11:13 → 00:11:16 ครับผมเรื่องของการเผาผลาญไขมันโดยที่เรา
00:11:16 → 00:11:19 ไม่ต้องออกกำลังกายเนี่ยจะว่าไปนะฮะยากก็
00:11:19 → 00:11:21 ยากง่ายก็ง่ายครับถ้าเกิดเรารู้หลักการ
00:11:21 → 00:11:23 ของมันนะครับว่าอะไรก็ตามที่ท่านทาง
00:11:23 → 00:11:26 คาร์บอเนตมากเกินไปร่างกายจะไม่ยอมเอาขาย
00:11:26 → 00:11:28 ใครมานี่คือหลักการง่ายครับเพราะฉะนั้น
00:11:28 → 00:11:31 เทคนิคที่ 1 ครับนั่นก็คือเลือกทานสาร
00:11:31 → 00:11:34 อาหารให้ถูกต้องครับข้อแรกครับ low ขาด
00:11:34 → 00:11:37 ได้เอ็ดหรือคาร์โบไฮเดรตต่ำนั่นเองครับ
00:11:37 → 00:11:40 ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดีถ้าต่ำสุดก็คือน้อย
00:11:40 → 00:11:42 กว่า 20 กรัมต่อวันหรือตัวที่นิด Diet
00:11:42 → 00:11:45 นี่คือสุดยอดนะครับแต่ถ้าเกิดไม่ไหวเรา
00:11:45 → 00:11:48 เริ่มต้นที่น้อยกว่า 150 100 กรัมต่อวัน
00:11:48 → 00:11:51 นี้คือ low ขับเด็กแบบ libel นั่นเองครับ
00:11:51 → 00:11:54 ก็จะทำให้ท่านน้ำหนักลดลงนะครับความดื้อ
00:11:54 → 00:11:57 ต่ออินซูลินต่ำลงเป็นโรคเบาหวานต่ำลง
00:11:57 → 00:12:00 อาการดีขึ้นความดันดีขึ้นทุกอย่างดีขึ้น
00:12:00 → 00:12:03 เพียงแค่รถขโมยเดชนั่นเองครับอันที่สอง
00:12:03 → 00:12:06 คือการทานโปรตีนไม่เพียงพออย่างน้อย 1
00:12:06 → 00:12:09 ถึง 1.2 กรัมต่อวันนะครับก็ต้องลองคำนวณ
00:12:09 → 00:12:13 ดูนะฮะจากน้ำหนักของท่านเพื่อคงมวลกล้าม
00:12:13 → 00:12:16 เนื้อเอาไว้และอย่างที่ศาลถ่านแฟลชหรือไข
00:12:16 → 00:12:20 มันให้เพียงพอครับอย่างน้อยนะครับ 60-70
00:12:20 → 00:12:22 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรี่ที่ได้ต่อวันถ้าวัน
00:12:22 → 00:12:24 หนึ่งขั้นทาน 2000 อย่างน้อย 8 ต้องพัน 2
00:12:24 → 00:12:28 ถึงพันสี่นั่นเองครับมาต่อกันที่เทคนิค
00:12:28 → 00:12:30 ข้อที่ 2 ที่สำคัญมากๆนั่นก็คือ
00:12:30 → 00:12:33 intermittent fasting ครับกินเท่าเดิม
00:12:33 → 00:12:36 เพิ่มเติมคือเปลี่ยนเวลาครับท่านสามารถ
00:12:36 → 00:12:38 กินแครีเท่าเดิมกินทุกอย่างเหมือนเดิม
00:12:38 → 00:12:42 เพียงแต่มีช่วงเวลากันหยุดอาหารหรืออด
00:12:42 → 00:12:45 อาหารอย่างน้อย 12 ชั่วโมงนะครับตั้งแต่
00:12:45 → 00:12:47 ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไปถ้าท่านไม่ทานอะไร
00:12:47 → 00:12:50 ร่างกายจะเผาผลาญไขมันแทนคาร์โบไฮเดรต
00:12:50 → 00:12:52 ชั่วโมงที่ 9 ชั่วโมงที่ 10 ชั่วโมงที่ 11
00:12:52 → 00:12:55 ชั่วโมงที่ 12 เผาไขมันไปฟรี 4 ชั่วโมง
00:12:55 → 00:12:58 แต่ถ้าท่านหยุดเพิ่มเติมได้อีกชั่วโมงที่
00:12:58 → 00:13:01 13 14 15 16 17 18 19 20 อันนี้
00:13:01 → 00:13:04 ก็เผาเพิ่มไปอีกฟรีๆเพราะท่านเริ่มกิน
00:13:04 → 00:13:07 ปุ๊บหมอเขาคาร์โบไฮเดรตแทนครับนี้คือหลัก
00:13:07 → 00:13:09 การของ intermittent fasting โดยส่วนตัว
00:13:09 → 00:13:14 ผมแนะนำให้เริ่มที่ทาน 12 และอยู่ 12
00:13:14 → 00:13:17 เมื่อจำหน่ายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆส่วนตัวผม
00:13:17 → 00:13:21 นั้นทำที่ทาน 16 ก็ทันทางแปลกนี้ได้ 16
00:13:21 → 00:13:25 นะการผมเดี๋ยวไปทาน 8 และหยุด 16 ครับก็
00:13:25 → 00:13:28 จะทำให้สามารถใช้ชื่อประจำวันและทำได้
00:13:28 → 00:13:31 ตลอดชีวิตครับและนี่คือเทคนิคที่จะทำให้
00:13:31 → 00:13:35 ท่านสามารถควบคุมน้ำหนักได้โดยแทบจะไม่
00:13:35 → 00:13:38 ต้องออกกำลังกายเพิ่มเติมและสามารถทานได้
00:13:38 → 00:13:40 เท่าเดิมนั่นเองครับก็ไปครับเป็นกดไลค์กด
00:13:40 → 00:13:43 แชร์กด Subscribe และกดกระดิ่งนะครับบ๊าย
00:13:43 → 00:13:44 บาย
00:13:44 → 00:13:45 ก็
00:13:45 → 00:13:49 สวัสดีครับผมมาท๊อปส์ครับขอบคุณมากครับ
00:13:49 → 00:13:53 ที่คุณกดดูคลิปนี้ครับคุณอาจจะช่วยกดไลค์
00:13:53 → 00:13:56 กดแชร์กด Subscribe คุณจะเป็นคนหนึ่งที่
00:13:56 → 00:14:00 ช่วยให้คนไทยกว่า 70 ล้านคนมีสุขภาพดี
00:14:00 → 00:14:04 ขึ้นครับและอย่าลืมดูจนจบนะครับเพื่อจะมา
00:14:04 → 00:14:06 จากที่ว่าคุณจะไม่พลาดสิ่งสำคัญในชีวิตไป
00:14:07 → 00:14:12 ขอบคุณมากครับขอบคุณจะหัวใจนะ
00:00:00 → 00:00:02 มีเทคนิคการเผาผลาญไขมันโดยที่ไม่ได้ออก
00:00:02 → 00:00:07 กำลังกายแม้แต่นิดเดียวครับ
00:00:07 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:13 สวัสดีครับผมมาทำนะครับนี้คุณด็อกเตอร์
00:00:14 → 00:00:16 Top Channel ครับรายการสุขภาพที่ทั้ง
00:00:16 → 00:00:18 สนุกและมีสาระครับ
00:00:18 → 00:00:21 วันนี้ครับเราจะคุยกันเรื่องเทคนิคการเผา
00:00:21 → 00:00:24 ผลาญไขมันโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกายแม้แต่
00:00:24 → 00:00:27 นิดเดียวครับโอเคครับสำหรับท่านที่มีเวลา
00:00:27 → 00:00:29 น้อยนะครับผมขออนุญาตให้กระโดดไปที่ศาล
00:00:29 → 00:00:32 นาทีสุดท้ายครับส่วนท่านที่เวลาเราไป
00:00:32 → 00:00:35 พร้อมๆกันเลยครับสำหรับเรื่องของเทคนิค
00:00:35 → 00:00:37 การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
00:00:37 → 00:00:39 แล้วฟังแล้วเป็นไงครับอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ย
00:00:39 → 00:00:42 โมหรือเปล่าแต่ผมบอกเลยครับว่ามันเป็นไป
00:00:42 → 00:00:46 ได้และไม่ยากด้วยครับก็ต้องบอกว่าถ้าเรา
00:00:46 → 00:00:50 นะครับสามารถที่จะทราบสาเหตุและสามารถที่
00:00:50 → 00:00:53 จะทราบกลไกผมบอกเลยครับว่าเราสามารถที่จะ
00:00:53 → 00:00:56 เผาผลาญไขมันได้ง่ายมากโดยที่แทบจะไม่
00:00:56 → 00:00:59 ต้องออกกำลังกายนั่นเองครับต้องบอกเลย
00:00:59 → 00:01:00 ครับว่า
00:01:00 → 00:01:02 ไม่ใช่ของมันนั้นเนี่ยไม่ได้ซับซ้อนเพียง
00:01:02 → 00:01:05 แต่ว่าเราทราบเท่านั้นหรือเปล่านั่นเองนะ
00:01:05 → 00:01:06 ครับผม
00:01:06 → 00:01:11 แต่ปกติแล้วเนี่ยวันหนึ่งเราใช้แคลอรี่นะ
00:01:11 → 00:01:13 ครับในการที่เขาเรียกว่าเผาผลาญพลังงาน
00:01:13 → 00:01:17 ต่อวันในประมาณ 2,000 แคลอรี่นะครับเมื่อ
00:01:17 → 00:01:19 ไหร่ก็ตามที่ท่านทานน้อยกว่านี้เนี่ยร่าง
00:01:19 → 00:01:23 กายจะเผาผลาญลดลงตามมาโดยปกติแล้วเนี่ย
00:01:23 → 00:01:25 เวลาเราทานน้อยเนี่ยเราก็คิดว่าเราจะลด
00:01:25 → 00:01:28 ความอ้วนได้ใช่มั้ยฮะแต่มันโชคร้ายครับ
00:01:28 → 00:01:30 จริงๆมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นกันเมื่อไหร่
00:01:30 → 00:01:32 ก็ตามที่โดยปกติร่างกายท่านผ่านประมาณ
00:01:32 → 00:01:35 2,000 แคลอรี่ใช่ไหมครับแล้วท่านทาน
00:01:35 → 00:01:39 เหลือพัน 500 แคลอรี่ผ่านไปซักพัก 3 วัน 5
00:01:39 → 00:01:42 วัน 7 วันตอนแรกก็เหมือนรถได้ครับพอสัก 7
00:01:42 → 00:01:45 วันจะเริ่มลดไม่ได้แล้วร่างกายจะปรับมา
00:01:46 → 00:01:49 ครับให้ผ่านเหลือประมาณพัน 500 แคลอรี่
00:01:49 → 00:01:51 เท่าที่ท่านกินใบหรือว่าอาจจะน้อยกว่า
00:01:51 → 00:01:53 เล็กน้อยเพราะว่าร่างกายกลัวตายนั่นเอง
00:01:53 → 00:01:56 ครับร่างกายบอกว่าว่าฉันไม่ปักระบบเขา
00:01:56 → 00:01:58 ผ่านฉันต้องตายแน่เพราะว่าอยู่ดีร่างกาย
00:01:58 → 00:02:01 ไม่ทันอาหารนะครับร่างกายนึกว่าไม่มีอะไร
00:02:01 → 00:02:05 กินร่างกายเลยสงวนพลังเอาไว้ไม่ยอมผาน
00:02:05 → 00:02:08 ท่านก็ลดลงไปอีกเหรอ 1 กิโลแคลอรีต่อวัน
00:02:08 → 00:02:11 ที่กินเข้าไปสักพักนึงร่างกายก็ลดตามอีก
00:02:11 → 00:02:14 ครับหรือพันกิโลแคลอรีเพราะเท่านั้นเอง
00:02:14 → 00:02:16 ท่านเริ่มไม่ไหวแล้วท่านกลับไปกินพัน 500
00:02:16 → 00:02:19 แคลอรี่แต่ร่างกายมันไม่ยอมกลับไปปรับ
00:02:20 → 00:02:22 เป็นพันห้าร้อยแล้วนี่นะครับมันก็เผาเท่า
00:02:23 → 00:02:26 เดิมพันแกลอรี่ว่ามันจะกลับมาปรับตัวให้
00:02:26 → 00:02:29 เผาพันห้าร้อย Gallery เท่าที่ท่านทาน
00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยนะครับอย่างน้อย 1 เดือนครับเพราะ
00:02:32 → 00:02:35 ฉะนั้นแล้วการนับแคลอรี่ที่
00:02:35 → 00:02:39 ซีเรียสเพื่อลดความอ้วนก็จะเห็นได้ว่ามี
00:02:39 → 00:02:42 คนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ
00:02:42 → 00:02:45 และคนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเมื่อนับ
00:02:45 → 00:02:47 แคลอรี่ลดลงไปถึงจุดหนึ่งแล้วน้ำหนักนิ่ง
00:02:47 → 00:02:51 รวมทั้งมีปัญหาต่างๆจนล้มเลิกกลับมาอ้วน
00:02:51 → 00:02:54 อีกนั่นเองนะครับ
00:02:54 → 00:02:57 นะคะนี้มาดูครับสิ่งที่เราเคยได้ยินมานะ
00:02:57 → 00:03:00 ครับ 5 กดอาหารเช้าใช่ไหมครับต้องทาน
00:03:00 → 00:03:04 อาหารทุกมื้อผลไม้ทานเต็มที่ผักทานแบบไหน
00:03:04 → 00:03:07 ก็ได้นะครับดื่มน้ำเยอะๆกินกับใหญ่มากๆ
00:03:07 → 00:03:10 และกินทุกอย่างเท่ากันไม่ว่าจะเป็น
00:03:10 → 00:03:12 คาร์บอเนตโปรตีนและไขมันแต่ต้องบอกเลย
00:03:12 → 00:03:15 ครับว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินมา
00:03:15 → 00:03:19 อาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดนะครับการอด
00:03:19 → 00:03:22 อาหารเช้าในปัจจุบันนี้วิจัยแล้วว่าไม่
00:03:22 → 00:03:25 ได้มีปัญหาอะไรนะครับแถมถ้าเกิดมีช่วง
00:03:25 → 00:03:28 เวลาที่อดอาหารนานๆจะยิ่งผ่านไขมันได้มาก
00:03:28 → 00:03:32 กว่าเดิมนะครับข้อที่ 2 ต้องทานทุกมือผม
00:03:32 → 00:03:34 ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทานทุกมื้อเพราะ
00:03:35 → 00:03:38 ว่าในปัจจุบันแล้วนะครับก็มีการวิจัยอีก
00:03:38 → 00:03:41 เช่นกันว่ายิ่งท่านทานบ่อยเท่าไหร่โอกาส
00:03:41 → 00:03:45 ที่จะสะสมไขมันก็สูงเท่านั้นแม้จะทาน
00:03:45 → 00:03:49 แคลอรี่เท่าเดิมก็ตามนะชัดเจนนะทานเท่า
00:03:49 → 00:03:52 เดิมแต่แบ่งมือบ่อยๆอ้วนกว่าทานเท่าเดิม
00:03:52 → 00:03:56 แต่ทานมื้อน้อยต่อวันนะครับผลไม้ทานที่
00:03:56 → 00:03:59 เต็มที่ฟังแล้วก็ดูดีผลไม้น่าจะดีแต่จริง
00:03:59 → 00:04:02 ๆแล้วผลไม้เป็นคาโบไฮเดรตนะครับเมื่อไหร่
00:04:02 → 00:04:04 ก็ตามที่ท่านท้ายเขาโบยเดชมากเกินไปแม้จะ
00:04:04 → 00:04:07 มีกับใหญ่มาช่วยลบส่วนของคาโบไฮเดรตทิ้ง
00:04:07 → 00:04:11 ใบได้แต่มันก็ยังเหลืออยู่ครับมันก็จะ
00:04:11 → 00:04:14 กลายเป็นน้ำตาลที่สุดและไปสะสมที่ไขมัน
00:04:14 → 00:04:18 รอบภูมิของท่านนั่นเองครับต่อมาครับผัก
00:04:18 → 00:04:21 แบบไหนก็ทานได้ก็ต้องบอกครับว่าไม่จริงฮะ
00:04:21 → 00:04:24 ผักเนี่ยแบ่ง 2 แบบใหญ่ๆหนึ่งคือผักที่
00:04:24 → 00:04:28 งอกบนพื้นดินและ 2 ผักที่ที่เกิดอยู่ใต้
00:04:28 → 00:04:29 พื้นดิน
00:04:29 → 00:04:33 มีผักที่โง่บนพื้นดินเนี่ยมักจะมีแคลอรี่
00:04:33 → 00:04:36 ต่ำทานได้ผักใบเขียวผักใบต่างๆแต่ผักที่
00:04:36 → 00:04:39 งอกใต้พื้นดินมาสจะมีปัญหาเนื่องจากเขา
00:04:39 → 00:04:43 สะสมพลังงานไว้เยอะไม่ว่าจะเป็นเผือกมัน
00:04:43 → 00:04:46 มันแกวแห้วพวกนี้มีพลังงานสูงมี
00:04:46 → 00:04:50 คาร์โบไฮเดรต 0 นะครับยิ่งผ่านยิ่งอ้วนนะ
00:04:50 → 00:04:52 ครับเพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังยาเพอไปใส่
00:04:52 → 00:04:54 ในสลัดบ่อยๆนะครับ
00:04:54 → 00:04:58 ดื่มน้ำเยอะๆนี้ผมเห็นด้วยครับอันนี้ยัง
00:04:58 → 00:05:00 ถือว่าใช้ได้เลยอย่างน้อยวันนึง 3 ลิตร
00:05:00 → 00:05:03 เนี่ยจะทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นมากๆนะครับ
00:05:03 → 00:05:07 ต่อมากินกากใยมากๆส่วนหนึ่งถูกต้องครับ
00:05:07 → 00:05:10 แต่ต้องระมัดระวังอาหารที่มาพร้อมกับใหญ่
00:05:10 → 00:05:13 มักผสมกับคาร์โบไฮเดรตนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:05:13 → 00:05:16 เข้ากล้องเข้าขัดข้าวที่ไม่ขัดสีธัญพืช
00:05:16 → 00:05:19 ต่างๆนะคะมีการย้ายสูงก็จริงแต่มักแอบ
00:05:19 → 00:05:22 ขโมยเดชมาด้วยนั่นเองนะครับต่อมาข้อสุด
00:05:22 → 00:05:25 ท้ายอันนี้ตาลายมากครับกินทุกอย่างเท่า
00:05:25 → 00:05:28 กันมันคำว่าโปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตท่าน
00:05:28 → 00:05:29 ทางเท่ากัน
00:05:29 → 00:05:32 ก็ต้องบอกเลยครับบอกว่าอันตรายพอสมควร
00:05:32 → 00:05:35 ครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ว่าทำไมถึงอันตราย
00:05:35 → 00:05:37 นั่นเองนะครับ
00:05:37 → 00:05:40 ต้องบอกนี่ครับว่าร่างกายของเราเนี่ยเก็บ
00:05:40 → 00:05:44 พลังงานอยู่ 2 ที่นะครับหนึ่งคือเก็บที่
00:05:44 → 00:05:50 ตับกล้ามเนื้อ 2 เก็บที่ไขมันะครับเมื่อ
00:05:50 → 00:05:53 ไหร่ก็ตามเนี่ยที่เราพยายามอ่าใช้
00:05:53 → 00:05:56 คาร์โบไฮเดรตนะครับกินคาร์บอเนตเข้าไป
00:05:56 → 00:05:58 บ่อยๆเนี่ยนะครับ
00:05:58 → 00:06:02 และก็จะสลายแต่ไกลโคเจนนะครับร่างกายจะ
00:06:02 → 00:06:05 เผาผลาญแต่ไกลโคเจนนะครับที่ตับและกล้าม
00:06:05 → 00:06:07 เนื้อจะไม่ยอมสลายแฟลชนั่นเองนะครับแต่
00:06:07 → 00:06:10 ถ้าเกิดท่านทางคาร์บอเนตน้อยๆนะครับร่าง
00:06:10 → 00:06:14 กายยังมีไกลโคเจนอยู่เต็มเขาจะไปสลายแฟต
00:06:14 → 00:06:17 แทนนะครับเขาจะไปสลายแฟตแทนท่านทาน
00:06:17 → 00:06:20 คาร์โบไฮเดรตน้อยนี่คืออากาศนะครับ
00:06:20 → 00:06:23 ก็เพราะฉะนั้นครับปัญหาจะเกิดขึ้นทันที
00:06:23 → 00:06:26 เมื่อท่านทานทุกอย่างเท่ากันไม่ว่าจะเป็น
00:06:26 → 00:06:30 โปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตเพราะแคลอรี่ไม่
00:06:30 → 00:06:33 เท่ากับแคลอรี่กันคืออะไรให้ท่านนึกภาพ
00:06:33 → 00:06:38 โดนัทอันนึง 300 แคลอรี่ปลาแซลมอนชิ้น 1
00:06:38 → 00:06:41 300 แคลอรี่แคลอรี่เท่ากันนะครับถ้ามัน
00:06:41 → 00:06:44 เป๊ะเลยแต่ประโยชน์เท่ากันไหมครับท่านคิด
00:06:44 → 00:06:47 ว่าทานอะไรแล้วมันจะอ้วนตรงไปตรงมาครับ
00:06:47 → 00:06:50 โดนัทนั่นเองอ้าวอย่างนั้นแล้วกันนับ
00:06:50 → 00:06:53 แคลอรี่จะช่วยอะไรแล้วใช่ไหมครับเพราะว่า
00:06:53 → 00:06:56 จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญมากกว่าแคลอรี่คือ
00:06:56 → 00:06:58 สารอาหารที่เราได้รับต่างหากโดยเฉพาะ
00:06:58 → 00:07:01 คาวบอยเด็ดที่มากเกินไปจะทำให้ท่าน
00:07:01 → 00:07:05 อันตรายอย่างคาดไม่ถึงนั่นเองครับ
00:07:05 → 00:07:09 และมาต่อกันครับหลักการคือถ้าท่านขี้
00:07:09 → 00:07:12 เกียจออกกำลังกายแล้วก็อยากจะผอมได้ง่าย
00:07:12 → 00:07:15 ถ้าต้องทำให้ร่างกายท่านเบอร์แฟลตได้เรา
00:07:15 → 00:07:18 ไม่ต้องการเบิร์นไกลโคเจนก็คือพลังงานใน
00:07:18 → 00:07:21 ตัดและพลังงานในกล้ามเนื้อนั่นเองครับแต่
00:07:21 → 00:07:24 เมื่อเราทานแป้งตลาดตลอดเวลาร่างกายก็จะ
00:07:24 → 00:07:27 เบอร์ตะไคร์ไคเจนเพราะเบิร์นหมดก็หิวไม่
00:07:27 → 00:07:30 ยอม burn Fat ก็สั่งให้สมองก็สั่งให้กิน
00:07:30 → 00:07:32 อีกกินอีกกินอีกไปเรื่อยๆนี่คือสาเหตุของ
00:07:32 → 00:07:35 ความหิวบ่อยเมื่อไหร่ก็ตามที่การทาน
00:07:35 → 00:07:38 คาร์โบไฮเดรตบ่อยๆท่านก็จะหิวบ่อยท่านทาง
00:07:38 → 00:07:40 คาโบไฮเดดบ่อยๆแล้วท่านเผาไม่หมดมันจะเอา
00:07:40 → 00:07:43 ไปเก็บเป็นไขมันรอบตัวของท่านและร่างกาย
00:07:43 → 00:07:46 ของท่านก็ไม่เคยยอมเผาผลาญไขมันสักทีนั่น
00:07:46 → 00:07:49 เองครับ
00:07:49 → 00:07:52 ข้อต่อมาครับยิ่งชั่นถ่านแป้งน้อยเท่า
00:07:52 → 00:07:54 ไหร่ก็จะยิ่ง burn Fat ได้มากขึ้นเท่า
00:07:54 → 00:07:58 นั้นโดยเฉพาะฐานแป้งน้อยกว่า 20 กรัมต่อ
00:07:58 → 00:08:00 วันนี้นะฮะหรือว่าคิดโตจีนิค Diet นั่น
00:08:00 → 00:08:03 เองครับจะ burn Fat กันแบบโอโห้สนุกสนาน
00:08:03 → 00:08:06 เลยแต่ว่าสำหรับผู้แรกเริ่มครับผมแนะนำ
00:08:06 → 00:08:09 ให้ทานเป็นโลคาบ Diet อย่างน้อยเนี่ยราะ
00:08:09 → 00:08:11 น้อยกว่า 100 กรัมต่อวันนี้ถือว่าใช้ได้
00:08:11 → 00:08:14 แล้วครับผม
00:08:14 → 00:08:17 ก็เช่นอีกที่หนึ่งนะครับที่จะทำให้นะครับ
00:08:17 → 00:08:21 ท่าน burn Fat มากกว่า
00:08:21 → 00:08:25 มีภาวะปกตินะครับด้านก็คือการเลือกอาหาร
00:08:25 → 00:08:29 ให้ถูกต้องข้อแรกครับ low ขาด Diet ยิ่ง
00:08:29 → 00:08:31 ทานคาร์บอเนตน้อยเท่าไหร่ยิ่ง burn Fat
00:08:31 → 00:08:34 มากเท่านั้นแนะนำเริ่มต้นน้อยกว่า 100
00:08:34 → 00:08:37 กรัมต่อวันนะครับต่อมาถ้าเกิดเก่งขึ้น
00:08:37 → 00:08:40 แล้วน้อยกว่า 50 และเอาไปสุดๆที่น้อยกว่า
00:08:40 → 00:08:43 20 กรัมต่อวันอันที่สองอันที่เผ็ดโปรตีน
00:08:43 → 00:08:46 คือทานโปรตีนให้เพียงพออย่างน้อย 1 ถึง
00:08:46 → 00:08:48 1.2 กรัมต่อวันนะครับเพราะว่าถ้าน้อย
00:08:48 → 00:08:50 กว่านี้กล้ามเนื้อสลายแน่นอนมีปัญหาแน่
00:08:50 → 00:08:53 นอนและข้อที่ 3 ครับทาน Flash นะครับ
00:08:53 → 00:08:57 อย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์นะครับ 60-70
00:08:57 → 00:08:59 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรี่ทั้งหมดนั่นเองก็
00:08:59 → 00:09:01 ถ้าวันหนึ่งสองพันแคลอรี่ทั้งควรทัน Fat
00:09:01 → 00:09:03 100 พันสองร้อยถึงพัน 400 แคลอรี่นั่น
00:09:03 → 00:09:07 เองครับแต่ควรเลือกเป็น Fat ชั้นดีที่มา
00:09:07 → 00:09:10 จากธรรมชาตินั่นเองนะครับที่ผมบอกเทคนิค
00:09:10 → 00:09:14 นี้ก็คือตัวจิบได้เด่นและโลว์คาร์บ Diet
00:09:14 → 00:09:15 นั่นเองครับ
00:09:15 → 00:09:16 และ
00:09:16 → 00:09:19 นี่คือแผนภาพของอินซูลิน resistance ซึ่ง
00:09:19 → 00:09:22 น่ากลัวมากครับผมจะโชว์ภาพนี้ดูครับมัน
00:09:22 → 00:09:25 เป็นอะไรที่แบบสุดๆเลยนะครับสำหรับเรื่อง
00:09:25 → 00:09:29 ของการน่ากินนะครับโดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต
00:09:29 → 00:09:31 เนี่ยฮะจะทำให้อินซูลินของท่านเนี่ยเอ่อ
00:09:31 → 00:09:36 หลั่งมาตลอดเวลานะครับก็มาเซลล์ต่างๆก็จะ
00:09:36 → 00:09:39 ทำการต่อต้านอินซูลินเพราะมันหลังมาเยอะ
00:09:39 → 00:09:41 แยะแล้วอ่ะใช่มั้ยก็เริ่มต่อต้านแล้วและ
00:09:41 → 00:09:45 หลังจากนั้นครับคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลใน
00:09:45 → 00:09:47 จะล่องลอยอยู่ในร่างกายของท่านไม่รู้จะไป
00:09:47 → 00:09:50 เก็บที่ไหนดีก็ไปเก็บเป็นไขมันรอบตัวท่าน
00:09:50 → 00:09:53 นั่นเองครับหลังจากนั้นเพราะท่านทานน้ำ
00:09:53 → 00:09:56 ตาลขึ้นสูงอินทรีย์ร่างกายสักพักนึงน้ำ
00:09:56 → 00:09:58 ตาลตกลงมาเพราะไม่มีอะไรไปเติมใหม่ท่านก็
00:09:58 → 00:10:01 หิวอีกครั้งแปลว่ามันเป็นวงจรอุบาทว์ครับ
00:10:01 → 00:10:03 ยิ่งกินยิ่งหิวยิ่งกินยิ่งอ้วนนั่นเอง
00:10:03 → 00:10:05 ครับ
00:10:05 → 00:10:08 5 เทคนิคที่ 2 ครับก็ง่ายๆเหมือนเดิม
00:10:08 → 00:10:11 ครับนั่นคือ intermittent fasting ครับ
00:10:11 → 00:10:14 กินเท่าเดิมเพิ่มเติมแค่เปลี่ยนเวลากิน
00:10:14 → 00:10:17 เหมือนเดิมเลยอาหารเท่าเดิมไม่ต้องลดทุก
00:10:17 → 00:10:19 อย่างเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนเวลาคือมีเวลา
00:10:19 → 00:10:22 ที่หยุดกินอย่างน้อยมากกว่า 12 ชั่วโมง
00:10:22 → 00:10:25 ครับผมแนะนำผู้เริ่มต้นหยุดกิน 12
00:10:25 → 00:10:28 ชั่วโมงและกิน 12 ชั่วโมงผู้เชี่ยวชาญ
00:10:28 → 00:10:31 เริ่มไปที่หยุดกิน 14 หยุดกิน 16 และอยู่
00:10:31 → 00:10:34 กิน 20 โดยส่วนตัวผมนะผมแนะนำที่หยุดกิน
00:10:34 → 00:10:37 16 และกินแค่ 8 ชั่วโมงอย่างน้อยๆตั้ง
00:10:37 → 00:10:40 แต่ท่านต้องหยุดทานตั้งแต่ 8 ชั่วโมงขึ้น
00:10:40 → 00:10:43 ไปก็ในช่วงที่ 8 9 10 11 12 ร่างกาย
00:10:43 → 00:10:46 จะเริ่มเผาไขมันถ้าท่านหยุดต่อ 13 14 15
00:10:46 → 00:10:49 16 17 18 ก็จะเริ่มเขาไขมันอีกเช่นกัน
00:10:49 → 00:10:52 นั่นเองครับก็จะยิ่ง burn Fat ได้มาก
00:10:52 → 00:10:55 ขึ้นยิ่งมีช่วงเวลา Fast ก็ยิ่ง burn Fat
00:10:55 → 00:10:57 เดียวมากขึ้นนะคะอันนี้เขียนผิดนะเบอร์
00:10:57 → 00:11:00 ไม่ใช่ต้องเป็นเบอร์นั่นเองครับนะครับอัน
00:11:00 → 00:11:02 นี้คือ 2 เทคนิคใหญ่ๆนั่นเองครับอย่างแรก
00:11:02 → 00:11:04 ครับเลือกอาหารให้ถูกต้องและอย่างที่สอง
00:11:04 → 00:11:07 ทำ in คือแบบนี้เต้นฟาสติ้งครับคราวนี้
00:11:07 → 00:11:10 ครับผมขออนุญาตสรุปครับเรื่องของเทคนิค
00:11:10 → 00:11:13 การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
00:11:13 → 00:11:16 ครับผมเรื่องของการเผาผลาญไขมันโดยที่เรา
00:11:16 → 00:11:19 ไม่ต้องออกกำลังกายเนี่ยจะว่าไปนะฮะยากก็
00:11:19 → 00:11:21 ยากง่ายก็ง่ายครับถ้าเกิดเรารู้หลักการ
00:11:21 → 00:11:23 ของมันนะครับว่าอะไรก็ตามที่ท่านทาง
00:11:23 → 00:11:26 คาร์บอเนตมากเกินไปร่างกายจะไม่ยอมเอาขาย
00:11:26 → 00:11:28 ใครมานี่คือหลักการง่ายครับเพราะฉะนั้น
00:11:28 → 00:11:31 เทคนิคที่ 1 ครับนั่นก็คือเลือกทานสาร
00:11:31 → 00:11:34 อาหารให้ถูกต้องครับข้อแรกครับ low ขาด
00:11:34 → 00:11:37 ได้เอ็ดหรือคาร์โบไฮเดรตต่ำนั่นเองครับ
00:11:37 → 00:11:40 ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดีถ้าต่ำสุดก็คือน้อย
00:11:40 → 00:11:42 กว่า 20 กรัมต่อวันหรือตัวที่นิด Diet
00:11:42 → 00:11:45 นี่คือสุดยอดนะครับแต่ถ้าเกิดไม่ไหวเรา
00:11:45 → 00:11:48 เริ่มต้นที่น้อยกว่า 150 100 กรัมต่อวัน
00:11:48 → 00:11:51 นี้คือ low ขับเด็กแบบ libel นั่นเองครับ
00:11:51 → 00:11:54 ก็จะทำให้ท่านน้ำหนักลดลงนะครับความดื้อ
00:11:54 → 00:11:57 ต่ออินซูลินต่ำลงเป็นโรคเบาหวานต่ำลง
00:11:57 → 00:12:00 อาการดีขึ้นความดันดีขึ้นทุกอย่างดีขึ้น
00:12:00 → 00:12:03 เพียงแค่รถขโมยเดชนั่นเองครับอันที่สอง
00:12:03 → 00:12:06 คือการทานโปรตีนไม่เพียงพออย่างน้อย 1
00:12:06 → 00:12:09 ถึง 1.2 กรัมต่อวันนะครับก็ต้องลองคำนวณ
00:12:09 → 00:12:13 ดูนะฮะจากน้ำหนักของท่านเพื่อคงมวลกล้าม
00:12:13 → 00:12:16 เนื้อเอาไว้และอย่างที่ศาลถ่านแฟลชหรือไข
00:12:16 → 00:12:20 มันให้เพียงพอครับอย่างน้อยนะครับ 60-70
00:12:20 → 00:12:22 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรี่ที่ได้ต่อวันถ้าวัน
00:12:22 → 00:12:24 หนึ่งขั้นทาน 2000 อย่างน้อย 8 ต้องพัน 2
00:12:24 → 00:12:28 ถึงพันสี่นั่นเองครับมาต่อกันที่เทคนิค
00:12:28 → 00:12:30 ข้อที่ 2 ที่สำคัญมากๆนั่นก็คือ
00:12:30 → 00:12:33 intermittent fasting ครับกินเท่าเดิม
00:12:33 → 00:12:36 เพิ่มเติมคือเปลี่ยนเวลาครับท่านสามารถ
00:12:36 → 00:12:38 กินแครีเท่าเดิมกินทุกอย่างเหมือนเดิม
00:12:38 → 00:12:42 เพียงแต่มีช่วงเวลากันหยุดอาหารหรืออด
00:12:42 → 00:12:45 อาหารอย่างน้อย 12 ชั่วโมงนะครับตั้งแต่
00:12:45 → 00:12:47 ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไปถ้าท่านไม่ทานอะไร
00:12:47 → 00:12:50 ร่างกายจะเผาผลาญไขมันแทนคาร์โบไฮเดรต
00:12:50 → 00:12:52 ชั่วโมงที่ 9 ชั่วโมงที่ 10 ชั่วโมงที่ 11
00:12:52 → 00:12:55 ชั่วโมงที่ 12 เผาไขมันไปฟรี 4 ชั่วโมง
00:12:55 → 00:12:58 แต่ถ้าท่านหยุดเพิ่มเติมได้อีกชั่วโมงที่
00:12:58 → 00:13:01 13 14 15 16 17 18 19 20 อันนี้
00:13:01 → 00:13:04 ก็เผาเพิ่มไปอีกฟรีๆเพราะท่านเริ่มกิน
00:13:04 → 00:13:07 ปุ๊บหมอเขาคาร์โบไฮเดรตแทนครับนี้คือหลัก
00:13:07 → 00:13:09 การของ intermittent fasting โดยส่วนตัว
00:13:09 → 00:13:14 ผมแนะนำให้เริ่มที่ทาน 12 และอยู่ 12
00:13:14 → 00:13:17 เมื่อจำหน่ายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆส่วนตัวผม
00:13:17 → 00:13:21 นั้นทำที่ทาน 16 ก็ทันทางแปลกนี้ได้ 16
00:13:21 → 00:13:25 นะการผมเดี๋ยวไปทาน 8 และหยุด 16 ครับก็
00:13:25 → 00:13:28 จะทำให้สามารถใช้ชื่อประจำวันและทำได้
00:13:28 → 00:13:31 ตลอดชีวิตครับและนี่คือเทคนิคที่จะทำให้
00:13:31 → 00:13:35 ท่านสามารถควบคุมน้ำหนักได้โดยแทบจะไม่
00:13:35 → 00:13:38 ต้องออกกำลังกายเพิ่มเติมและสามารถทานได้
00:13:38 → 00:13:40 เท่าเดิมนั่นเองครับก็ไปครับเป็นกดไลค์กด
00:13:40 → 00:13:43 แชร์กด Subscribe และกดกระดิ่งนะครับบ๊าย
00:13:43 → 00:13:44 บาย
00:13:44 → 00:13:45 ก็
00:13:45 → 00:13:49 สวัสดีครับผมมาท๊อปส์ครับขอบคุณมากครับ
00:13:49 → 00:13:53 ที่คุณกดดูคลิปนี้ครับคุณอาจจะช่วยกดไลค์
00:13:53 → 00:13:56 กดแชร์กด Subscribe คุณจะเป็นคนหนึ่งที่
00:13:56 → 00:14:00 ช่วยให้คนไทยกว่า 70 ล้านคนมีสุขภาพดี
00:14:00 → 00:14:04 ขึ้นครับและอย่าลืมดูจนจบนะครับเพื่อจะมา
00:14:04 → 00:14:06 จากที่ว่าคุณจะไม่พลาดสิ่งสำคัญในชีวิตไป
00:14:07 → 00:14:12 ขอบคุณมากครับขอบคุณจะหัวใจนะ
00:00:00 → 00:00:02 มีเทคนิคการเผาผลาญไขมันโดยที่ไม่ได้ออก
00:00:02 → 00:00:07 กำลังกายแม้แต่นิดเดียวครับ
00:00:07 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:13 สวัสดีครับผมมาทำนะครับนี้คุณด็อกเตอร์
00:00:14 → 00:00:16 Top Channel ครับรายการสุขภาพที่ทั้ง
00:00:16 → 00:00:18 สนุกและมีสาระครับ
00:00:18 → 00:00:21 วันนี้ครับเราจะคุยกันเรื่องเทคนิคการเผา
00:00:21 → 00:00:24 ผลาญไขมันโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกายแม้แต่
00:00:24 → 00:00:27 นิดเดียวครับโอเคครับสำหรับท่านที่มีเวลา
00:00:27 → 00:00:29 น้อยนะครับผมขออนุญาตให้กระโดดไปที่ศาล
00:00:29 → 00:00:32 นาทีสุดท้ายครับส่วนท่านที่เวลาเราไป
00:00:32 → 00:00:35 พร้อมๆกันเลยครับสำหรับเรื่องของเทคนิค
00:00:35 → 00:00:37 การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
00:00:37 → 00:00:39 แล้วฟังแล้วเป็นไงครับอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ย
00:00:39 → 00:00:42 โมหรือเปล่าแต่ผมบอกเลยครับว่ามันเป็นไป
00:00:42 → 00:00:46 ได้และไม่ยากด้วยครับก็ต้องบอกว่าถ้าเรา
00:00:46 → 00:00:50 นะครับสามารถที่จะทราบสาเหตุและสามารถที่
00:00:50 → 00:00:53 จะทราบกลไกผมบอกเลยครับว่าเราสามารถที่จะ
00:00:53 → 00:00:56 เผาผลาญไขมันได้ง่ายมากโดยที่แทบจะไม่
00:00:56 → 00:00:59 ต้องออกกำลังกายนั่นเองครับต้องบอกเลย
00:00:59 → 00:01:00 ครับว่า
00:01:00 → 00:01:02 ไม่ใช่ของมันนั้นเนี่ยไม่ได้ซับซ้อนเพียง
00:01:02 → 00:01:05 แต่ว่าเราทราบเท่านั้นหรือเปล่านั่นเองนะ
00:01:05 → 00:01:06 ครับผม
00:01:06 → 00:01:11 แต่ปกติแล้วเนี่ยวันหนึ่งเราใช้แคลอรี่นะ
00:01:11 → 00:01:13 ครับในการที่เขาเรียกว่าเผาผลาญพลังงาน
00:01:13 → 00:01:17 ต่อวันในประมาณ 2,000 แคลอรี่นะครับเมื่อ
00:01:17 → 00:01:19 ไหร่ก็ตามที่ท่านทานน้อยกว่านี้เนี่ยร่าง
00:01:19 → 00:01:23 กายจะเผาผลาญลดลงตามมาโดยปกติแล้วเนี่ย
00:01:23 → 00:01:25 เวลาเราทานน้อยเนี่ยเราก็คิดว่าเราจะลด
00:01:25 → 00:01:28 ความอ้วนได้ใช่มั้ยฮะแต่มันโชคร้ายครับ
00:01:28 → 00:01:30 จริงๆมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นกันเมื่อไหร่
00:01:30 → 00:01:32 ก็ตามที่โดยปกติร่างกายท่านผ่านประมาณ
00:01:32 → 00:01:35 2,000 แคลอรี่ใช่ไหมครับแล้วท่านทาน
00:01:35 → 00:01:39 เหลือพัน 500 แคลอรี่ผ่านไปซักพัก 3 วัน 5
00:01:39 → 00:01:42 วัน 7 วันตอนแรกก็เหมือนรถได้ครับพอสัก 7
00:01:42 → 00:01:45 วันจะเริ่มลดไม่ได้แล้วร่างกายจะปรับมา
00:01:46 → 00:01:49 ครับให้ผ่านเหลือประมาณพัน 500 แคลอรี่
00:01:49 → 00:01:51 เท่าที่ท่านกินใบหรือว่าอาจจะน้อยกว่า
00:01:51 → 00:01:53 เล็กน้อยเพราะว่าร่างกายกลัวตายนั่นเอง
00:01:53 → 00:01:56 ครับร่างกายบอกว่าว่าฉันไม่ปักระบบเขา
00:01:56 → 00:01:58 ผ่านฉันต้องตายแน่เพราะว่าอยู่ดีร่างกาย
00:01:58 → 00:02:01 ไม่ทันอาหารนะครับร่างกายนึกว่าไม่มีอะไร
00:02:01 → 00:02:05 กินร่างกายเลยสงวนพลังเอาไว้ไม่ยอมผาน
00:02:05 → 00:02:08 ท่านก็ลดลงไปอีกเหรอ 1 กิโลแคลอรีต่อวัน
00:02:08 → 00:02:11 ที่กินเข้าไปสักพักนึงร่างกายก็ลดตามอีก
00:02:11 → 00:02:14 ครับหรือพันกิโลแคลอรีเพราะเท่านั้นเอง
00:02:14 → 00:02:16 ท่านเริ่มไม่ไหวแล้วท่านกลับไปกินพัน 500
00:02:16 → 00:02:19 แคลอรี่แต่ร่างกายมันไม่ยอมกลับไปปรับ
00:02:20 → 00:02:22 เป็นพันห้าร้อยแล้วนี่นะครับมันก็เผาเท่า
00:02:23 → 00:02:26 เดิมพันแกลอรี่ว่ามันจะกลับมาปรับตัวให้
00:02:26 → 00:02:29 เผาพันห้าร้อย Gallery เท่าที่ท่านทาน
00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยนะครับอย่างน้อย 1 เดือนครับเพราะ
00:02:32 → 00:02:35 ฉะนั้นแล้วการนับแคลอรี่ที่
00:02:35 → 00:02:39 ซีเรียสเพื่อลดความอ้วนก็จะเห็นได้ว่ามี
00:02:39 → 00:02:42 คนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ
00:02:42 → 00:02:45 และคนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเมื่อนับ
00:02:45 → 00:02:47 แคลอรี่ลดลงไปถึงจุดหนึ่งแล้วน้ำหนักนิ่ง
00:02:47 → 00:02:51 รวมทั้งมีปัญหาต่างๆจนล้มเลิกกลับมาอ้วน
00:02:51 → 00:02:54 อีกนั่นเองนะครับ
00:02:54 → 00:02:57 นะคะนี้มาดูครับสิ่งที่เราเคยได้ยินมานะ
00:02:57 → 00:03:00 ครับ 5 กดอาหารเช้าใช่ไหมครับต้องทาน
00:03:00 → 00:03:04 อาหารทุกมื้อผลไม้ทานเต็มที่ผักทานแบบไหน
00:03:04 → 00:03:07 ก็ได้นะครับดื่มน้ำเยอะๆกินกับใหญ่มากๆ
00:03:07 → 00:03:10 และกินทุกอย่างเท่ากันไม่ว่าจะเป็น
00:03:10 → 00:03:12 คาร์บอเนตโปรตีนและไขมันแต่ต้องบอกเลย
00:03:12 → 00:03:15 ครับว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินมา
00:03:15 → 00:03:19 อาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดนะครับการอด
00:03:19 → 00:03:22 อาหารเช้าในปัจจุบันนี้วิจัยแล้วว่าไม่
00:03:22 → 00:03:25 ได้มีปัญหาอะไรนะครับแถมถ้าเกิดมีช่วง
00:03:25 → 00:03:28 เวลาที่อดอาหารนานๆจะยิ่งผ่านไขมันได้มาก
00:03:28 → 00:03:32 กว่าเดิมนะครับข้อที่ 2 ต้องทานทุกมือผม
00:03:32 → 00:03:34 ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทานทุกมื้อเพราะ
00:03:35 → 00:03:38 ว่าในปัจจุบันแล้วนะครับก็มีการวิจัยอีก
00:03:38 → 00:03:41 เช่นกันว่ายิ่งท่านทานบ่อยเท่าไหร่โอกาส
00:03:41 → 00:03:45 ที่จะสะสมไขมันก็สูงเท่านั้นแม้จะทาน
00:03:45 → 00:03:49 แคลอรี่เท่าเดิมก็ตามนะชัดเจนนะทานเท่า
00:03:49 → 00:03:52 เดิมแต่แบ่งมือบ่อยๆอ้วนกว่าทานเท่าเดิม
00:03:52 → 00:03:56 แต่ทานมื้อน้อยต่อวันนะครับผลไม้ทานที่
00:03:56 → 00:03:59 เต็มที่ฟังแล้วก็ดูดีผลไม้น่าจะดีแต่จริง
00:03:59 → 00:04:02 ๆแล้วผลไม้เป็นคาโบไฮเดรตนะครับเมื่อไหร่
00:04:02 → 00:04:04 ก็ตามที่ท่านท้ายเขาโบยเดชมากเกินไปแม้จะ
00:04:04 → 00:04:07 มีกับใหญ่มาช่วยลบส่วนของคาโบไฮเดรตทิ้ง
00:04:07 → 00:04:11 ใบได้แต่มันก็ยังเหลืออยู่ครับมันก็จะ
00:04:11 → 00:04:14 กลายเป็นน้ำตาลที่สุดและไปสะสมที่ไขมัน
00:04:14 → 00:04:18 รอบภูมิของท่านนั่นเองครับต่อมาครับผัก
00:04:18 → 00:04:21 แบบไหนก็ทานได้ก็ต้องบอกครับว่าไม่จริงฮะ
00:04:21 → 00:04:24 ผักเนี่ยแบ่ง 2 แบบใหญ่ๆหนึ่งคือผักที่
00:04:24 → 00:04:28 งอกบนพื้นดินและ 2 ผักที่ที่เกิดอยู่ใต้
00:04:28 → 00:04:29 พื้นดิน
00:04:29 → 00:04:33 มีผักที่โง่บนพื้นดินเนี่ยมักจะมีแคลอรี่
00:04:33 → 00:04:36 ต่ำทานได้ผักใบเขียวผักใบต่างๆแต่ผักที่
00:04:36 → 00:04:39 งอกใต้พื้นดินมาสจะมีปัญหาเนื่องจากเขา
00:04:39 → 00:04:43 สะสมพลังงานไว้เยอะไม่ว่าจะเป็นเผือกมัน
00:04:43 → 00:04:46 มันแกวแห้วพวกนี้มีพลังงานสูงมี
00:04:46 → 00:04:50 คาร์โบไฮเดรต 0 นะครับยิ่งผ่านยิ่งอ้วนนะ
00:04:50 → 00:04:52 ครับเพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังยาเพอไปใส่
00:04:52 → 00:04:54 ในสลัดบ่อยๆนะครับ
00:04:54 → 00:04:58 ดื่มน้ำเยอะๆนี้ผมเห็นด้วยครับอันนี้ยัง
00:04:58 → 00:05:00 ถือว่าใช้ได้เลยอย่างน้อยวันนึง 3 ลิตร
00:05:00 → 00:05:03 เนี่ยจะทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นมากๆนะครับ
00:05:03 → 00:05:07 ต่อมากินกากใยมากๆส่วนหนึ่งถูกต้องครับ
00:05:07 → 00:05:10 แต่ต้องระมัดระวังอาหารที่มาพร้อมกับใหญ่
00:05:10 → 00:05:13 มักผสมกับคาร์โบไฮเดรตนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:05:13 → 00:05:16 เข้ากล้องเข้าขัดข้าวที่ไม่ขัดสีธัญพืช
00:05:16 → 00:05:19 ต่างๆนะคะมีการย้ายสูงก็จริงแต่มักแอบ
00:05:19 → 00:05:22 ขโมยเดชมาด้วยนั่นเองนะครับต่อมาข้อสุด
00:05:22 → 00:05:25 ท้ายอันนี้ตาลายมากครับกินทุกอย่างเท่า
00:05:25 → 00:05:28 กันมันคำว่าโปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตท่าน
00:05:28 → 00:05:29 ทางเท่ากัน
00:05:29 → 00:05:32 ก็ต้องบอกเลยครับบอกว่าอันตรายพอสมควร
00:05:32 → 00:05:35 ครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ว่าทำไมถึงอันตราย
00:05:35 → 00:05:37 นั่นเองนะครับ
00:05:37 → 00:05:40 ต้องบอกนี่ครับว่าร่างกายของเราเนี่ยเก็บ
00:05:40 → 00:05:44 พลังงานอยู่ 2 ที่นะครับหนึ่งคือเก็บที่
00:05:44 → 00:05:50 ตับกล้ามเนื้อ 2 เก็บที่ไขมันะครับเมื่อ
00:05:50 → 00:05:53 ไหร่ก็ตามเนี่ยที่เราพยายามอ่าใช้
00:05:53 → 00:05:56 คาร์โบไฮเดรตนะครับกินคาร์บอเนตเข้าไป
00:05:56 → 00:05:58 บ่อยๆเนี่ยนะครับ
00:05:58 → 00:06:02 และก็จะสลายแต่ไกลโคเจนนะครับร่างกายจะ
00:06:02 → 00:06:05 เผาผลาญแต่ไกลโคเจนนะครับที่ตับและกล้าม
00:06:05 → 00:06:07 เนื้อจะไม่ยอมสลายแฟลชนั่นเองนะครับแต่
00:06:07 → 00:06:10 ถ้าเกิดท่านทางคาร์บอเนตน้อยๆนะครับร่าง
00:06:10 → 00:06:14 กายยังมีไกลโคเจนอยู่เต็มเขาจะไปสลายแฟต
00:06:14 → 00:06:17 แทนนะครับเขาจะไปสลายแฟตแทนท่านทาน
00:06:17 → 00:06:20 คาร์โบไฮเดรตน้อยนี่คืออากาศนะครับ
00:06:20 → 00:06:23 ก็เพราะฉะนั้นครับปัญหาจะเกิดขึ้นทันที
00:06:23 → 00:06:26 เมื่อท่านทานทุกอย่างเท่ากันไม่ว่าจะเป็น
00:06:26 → 00:06:30 โปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตเพราะแคลอรี่ไม่
00:06:30 → 00:06:33 เท่ากับแคลอรี่กันคืออะไรให้ท่านนึกภาพ
00:06:33 → 00:06:38 โดนัทอันนึง 300 แคลอรี่ปลาแซลมอนชิ้น 1
00:06:38 → 00:06:41 300 แคลอรี่แคลอรี่เท่ากันนะครับถ้ามัน
00:06:41 → 00:06:44 เป๊ะเลยแต่ประโยชน์เท่ากันไหมครับท่านคิด
00:06:44 → 00:06:47 ว่าทานอะไรแล้วมันจะอ้วนตรงไปตรงมาครับ
00:06:47 → 00:06:50 โดนัทนั่นเองอ้าวอย่างนั้นแล้วกันนับ
00:06:50 → 00:06:53 แคลอรี่จะช่วยอะไรแล้วใช่ไหมครับเพราะว่า
00:06:53 → 00:06:56 จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญมากกว่าแคลอรี่คือ
00:06:56 → 00:06:58 สารอาหารที่เราได้รับต่างหากโดยเฉพาะ
00:06:58 → 00:07:01 คาวบอยเด็ดที่มากเกินไปจะทำให้ท่าน
00:07:01 → 00:07:05 อันตรายอย่างคาดไม่ถึงนั่นเองครับ
00:07:05 → 00:07:09 และมาต่อกันครับหลักการคือถ้าท่านขี้
00:07:09 → 00:07:12 เกียจออกกำลังกายแล้วก็อยากจะผอมได้ง่าย
00:07:12 → 00:07:15 ถ้าต้องทำให้ร่างกายท่านเบอร์แฟลตได้เรา
00:07:15 → 00:07:18 ไม่ต้องการเบิร์นไกลโคเจนก็คือพลังงานใน
00:07:18 → 00:07:21 ตัดและพลังงานในกล้ามเนื้อนั่นเองครับแต่
00:07:21 → 00:07:24 เมื่อเราทานแป้งตลาดตลอดเวลาร่างกายก็จะ
00:07:24 → 00:07:27 เบอร์ตะไคร์ไคเจนเพราะเบิร์นหมดก็หิวไม่
00:07:27 → 00:07:30 ยอม burn Fat ก็สั่งให้สมองก็สั่งให้กิน
00:07:30 → 00:07:32 อีกกินอีกกินอีกไปเรื่อยๆนี่คือสาเหตุของ
00:07:32 → 00:07:35 ความหิวบ่อยเมื่อไหร่ก็ตามที่การทาน
00:07:35 → 00:07:38 คาร์โบไฮเดรตบ่อยๆท่านก็จะหิวบ่อยท่านทาง
00:07:38 → 00:07:40 คาโบไฮเดดบ่อยๆแล้วท่านเผาไม่หมดมันจะเอา
00:07:40 → 00:07:43 ไปเก็บเป็นไขมันรอบตัวของท่านและร่างกาย
00:07:43 → 00:07:46 ของท่านก็ไม่เคยยอมเผาผลาญไขมันสักทีนั่น
00:07:46 → 00:07:49 เองครับ
00:07:49 → 00:07:52 ข้อต่อมาครับยิ่งชั่นถ่านแป้งน้อยเท่า
00:07:52 → 00:07:54 ไหร่ก็จะยิ่ง burn Fat ได้มากขึ้นเท่า
00:07:54 → 00:07:58 นั้นโดยเฉพาะฐานแป้งน้อยกว่า 20 กรัมต่อ
00:07:58 → 00:08:00 วันนี้นะฮะหรือว่าคิดโตจีนิค Diet นั่น
00:08:00 → 00:08:03 เองครับจะ burn Fat กันแบบโอโห้สนุกสนาน
00:08:03 → 00:08:06 เลยแต่ว่าสำหรับผู้แรกเริ่มครับผมแนะนำ
00:08:06 → 00:08:09 ให้ทานเป็นโลคาบ Diet อย่างน้อยเนี่ยราะ
00:08:09 → 00:08:11 น้อยกว่า 100 กรัมต่อวันนี้ถือว่าใช้ได้
00:08:11 → 00:08:14 แล้วครับผม
00:08:14 → 00:08:17 ก็เช่นอีกที่หนึ่งนะครับที่จะทำให้นะครับ
00:08:17 → 00:08:21 ท่าน burn Fat มากกว่า
00:08:21 → 00:08:25 มีภาวะปกตินะครับด้านก็คือการเลือกอาหาร
00:08:25 → 00:08:29 ให้ถูกต้องข้อแรกครับ low ขาด Diet ยิ่ง
00:08:29 → 00:08:31 ทานคาร์บอเนตน้อยเท่าไหร่ยิ่ง burn Fat
00:08:31 → 00:08:34 มากเท่านั้นแนะนำเริ่มต้นน้อยกว่า 100
00:08:34 → 00:08:37 กรัมต่อวันนะครับต่อมาถ้าเกิดเก่งขึ้น
00:08:37 → 00:08:40 แล้วน้อยกว่า 50 และเอาไปสุดๆที่น้อยกว่า
00:08:40 → 00:08:43 20 กรัมต่อวันอันที่สองอันที่เผ็ดโปรตีน
00:08:43 → 00:08:46 คือทานโปรตีนให้เพียงพออย่างน้อย 1 ถึง
00:08:46 → 00:08:48 1.2 กรัมต่อวันนะครับเพราะว่าถ้าน้อย
00:08:48 → 00:08:50 กว่านี้กล้ามเนื้อสลายแน่นอนมีปัญหาแน่
00:08:50 → 00:08:53 นอนและข้อที่ 3 ครับทาน Flash นะครับ
00:08:53 → 00:08:57 อย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์นะครับ 60-70
00:08:57 → 00:08:59 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรี่ทั้งหมดนั่นเองก็
00:08:59 → 00:09:01 ถ้าวันหนึ่งสองพันแคลอรี่ทั้งควรทัน Fat
00:09:01 → 00:09:03 100 พันสองร้อยถึงพัน 400 แคลอรี่นั่น
00:09:03 → 00:09:07 เองครับแต่ควรเลือกเป็น Fat ชั้นดีที่มา
00:09:07 → 00:09:10 จากธรรมชาตินั่นเองนะครับที่ผมบอกเทคนิค
00:09:10 → 00:09:14 นี้ก็คือตัวจิบได้เด่นและโลว์คาร์บ Diet
00:09:14 → 00:09:15 นั่นเองครับ
00:09:15 → 00:09:16 และ
00:09:16 → 00:09:19 นี่คือแผนภาพของอินซูลิน resistance ซึ่ง
00:09:19 → 00:09:22 น่ากลัวมากครับผมจะโชว์ภาพนี้ดูครับมัน
00:09:22 → 00:09:25 เป็นอะไรที่แบบสุดๆเลยนะครับสำหรับเรื่อง
00:09:25 → 00:09:29 ของการน่ากินนะครับโดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต
00:09:29 → 00:09:31 เนี่ยฮะจะทำให้อินซูลินของท่านเนี่ยเอ่อ
00:09:31 → 00:09:36 หลั่งมาตลอดเวลานะครับก็มาเซลล์ต่างๆก็จะ
00:09:36 → 00:09:39 ทำการต่อต้านอินซูลินเพราะมันหลังมาเยอะ
00:09:39 → 00:09:41 แยะแล้วอ่ะใช่มั้ยก็เริ่มต่อต้านแล้วและ
00:09:41 → 00:09:45 หลังจากนั้นครับคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลใน
00:09:45 → 00:09:47 จะล่องลอยอยู่ในร่างกายของท่านไม่รู้จะไป
00:09:47 → 00:09:50 เก็บที่ไหนดีก็ไปเก็บเป็นไขมันรอบตัวท่าน
00:09:50 → 00:09:53 นั่นเองครับหลังจากนั้นเพราะท่านทานน้ำ
00:09:53 → 00:09:56 ตาลขึ้นสูงอินทรีย์ร่างกายสักพักนึงน้ำ
00:09:56 → 00:09:58 ตาลตกลงมาเพราะไม่มีอะไรไปเติมใหม่ท่านก็
00:09:58 → 00:10:01 หิวอีกครั้งแปลว่ามันเป็นวงจรอุบาทว์ครับ
00:10:01 → 00:10:03 ยิ่งกินยิ่งหิวยิ่งกินยิ่งอ้วนนั่นเอง
00:10:03 → 00:10:05 ครับ
00:10:05 → 00:10:08 5 เทคนิคที่ 2 ครับก็ง่ายๆเหมือนเดิม
00:10:08 → 00:10:11 ครับนั่นคือ intermittent fasting ครับ
00:10:11 → 00:10:14 กินเท่าเดิมเพิ่มเติมแค่เปลี่ยนเวลากิน
00:10:14 → 00:10:17 เหมือนเดิมเลยอาหารเท่าเดิมไม่ต้องลดทุก
00:10:17 → 00:10:19 อย่างเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนเวลาคือมีเวลา
00:10:19 → 00:10:22 ที่หยุดกินอย่างน้อยมากกว่า 12 ชั่วโมง
00:10:22 → 00:10:25 ครับผมแนะนำผู้เริ่มต้นหยุดกิน 12
00:10:25 → 00:10:28 ชั่วโมงและกิน 12 ชั่วโมงผู้เชี่ยวชาญ
00:10:28 → 00:10:31 เริ่มไปที่หยุดกิน 14 หยุดกิน 16 และอยู่
00:10:31 → 00:10:34 กิน 20 โดยส่วนตัวผมนะผมแนะนำที่หยุดกิน
00:10:34 → 00:10:37 16 และกินแค่ 8 ชั่วโมงอย่างน้อยๆตั้ง
00:10:37 → 00:10:40 แต่ท่านต้องหยุดทานตั้งแต่ 8 ชั่วโมงขึ้น
00:10:40 → 00:10:43 ไปก็ในช่วงที่ 8 9 10 11 12 ร่างกาย
00:10:43 → 00:10:46 จะเริ่มเผาไขมันถ้าท่านหยุดต่อ 13 14 15
00:10:46 → 00:10:49 16 17 18 ก็จะเริ่มเขาไขมันอีกเช่นกัน
00:10:49 → 00:10:52 นั่นเองครับก็จะยิ่ง burn Fat ได้มาก
00:10:52 → 00:10:55 ขึ้นยิ่งมีช่วงเวลา Fast ก็ยิ่ง burn Fat
00:10:55 → 00:10:57 เดียวมากขึ้นนะคะอันนี้เขียนผิดนะเบอร์
00:10:57 → 00:11:00 ไม่ใช่ต้องเป็นเบอร์นั่นเองครับนะครับอัน
00:11:00 → 00:11:02 นี้คือ 2 เทคนิคใหญ่ๆนั่นเองครับอย่างแรก
00:11:02 → 00:11:04 ครับเลือกอาหารให้ถูกต้องและอย่างที่สอง
00:11:04 → 00:11:07 ทำ in คือแบบนี้เต้นฟาสติ้งครับคราวนี้
00:11:07 → 00:11:10 ครับผมขออนุญาตสรุปครับเรื่องของเทคนิค
00:11:10 → 00:11:13 การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
00:11:13 → 00:11:16 ครับผมเรื่องของการเผาผลาญไขมันโดยที่เรา
00:11:16 → 00:11:19 ไม่ต้องออกกำลังกายเนี่ยจะว่าไปนะฮะยากก็
00:11:19 → 00:11:21 ยากง่ายก็ง่ายครับถ้าเกิดเรารู้หลักการ
00:11:21 → 00:11:23 ของมันนะครับว่าอะไรก็ตามที่ท่านทาง
00:11:23 → 00:11:26 คาร์บอเนตมากเกินไปร่างกายจะไม่ยอมเอาขาย
00:11:26 → 00:11:28 ใครมานี่คือหลักการง่ายครับเพราะฉะนั้น
00:11:28 → 00:11:31 เทคนิคที่ 1 ครับนั่นก็คือเลือกทานสาร
00:11:31 → 00:11:34 อาหารให้ถูกต้องครับข้อแรกครับ low ขาด
00:11:34 → 00:11:37 ได้เอ็ดหรือคาร์โบไฮเดรตต่ำนั่นเองครับ
00:11:37 → 00:11:40 ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดีถ้าต่ำสุดก็คือน้อย
00:11:40 → 00:11:42 กว่า 20 กรัมต่อวันหรือตัวที่นิด Diet
00:11:42 → 00:11:45 นี่คือสุดยอดนะครับแต่ถ้าเกิดไม่ไหวเรา
00:11:45 → 00:11:48 เริ่มต้นที่น้อยกว่า 150 100 กรัมต่อวัน
00:11:48 → 00:11:51 นี้คือ low ขับเด็กแบบ libel นั่นเองครับ
00:11:51 → 00:11:54 ก็จะทำให้ท่านน้ำหนักลดลงนะครับความดื้อ
00:11:54 → 00:11:57 ต่ออินซูลินต่ำลงเป็นโรคเบาหวานต่ำลง
00:11:57 → 00:12:00 อาการดีขึ้นความดันดีขึ้นทุกอย่างดีขึ้น
00:12:00 → 00:12:03 เพียงแค่รถขโมยเดชนั่นเองครับอันที่สอง
00:12:03 → 00:12:06 คือการทานโปรตีนไม่เพียงพออย่างน้อย 1
00:12:06 → 00:12:09 ถึง 1.2 กรัมต่อวันนะครับก็ต้องลองคำนวณ
00:12:09 → 00:12:13 ดูนะฮะจากน้ำหนักของท่านเพื่อคงมวลกล้าม
00:12:13 → 00:12:16 เนื้อเอาไว้และอย่างที่ศาลถ่านแฟลชหรือไข
00:12:16 → 00:12:20 มันให้เพียงพอครับอย่างน้อยนะครับ 60-70
00:12:20 → 00:12:22 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรี่ที่ได้ต่อวันถ้าวัน
00:12:22 → 00:12:24 หนึ่งขั้นทาน 2000 อย่างน้อย 8 ต้องพัน 2
00:12:24 → 00:12:28 ถึงพันสี่นั่นเองครับมาต่อกันที่เทคนิค
00:12:28 → 00:12:30 ข้อที่ 2 ที่สำคัญมากๆนั่นก็คือ
00:12:30 → 00:12:33 intermittent fasting ครับกินเท่าเดิม
00:12:33 → 00:12:36 เพิ่มเติมคือเปลี่ยนเวลาครับท่านสามารถ
00:12:36 → 00:12:38 กินแครีเท่าเดิมกินทุกอย่างเหมือนเดิม
00:12:38 → 00:12:42 เพียงแต่มีช่วงเวลากันหยุดอาหารหรืออด
00:12:42 → 00:12:45 อาหารอย่างน้อย 12 ชั่วโมงนะครับตั้งแต่
00:12:45 → 00:12:47 ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไปถ้าท่านไม่ทานอะไร
00:12:47 → 00:12:50 ร่างกายจะเผาผลาญไขมันแทนคาร์โบไฮเดรต
00:12:50 → 00:12:52 ชั่วโมงที่ 9 ชั่วโมงที่ 10 ชั่วโมงที่ 11
00:12:52 → 00:12:55 ชั่วโมงที่ 12 เผาไขมันไปฟรี 4 ชั่วโมง
00:12:55 → 00:12:58 แต่ถ้าท่านหยุดเพิ่มเติมได้อีกชั่วโมงที่
00:12:58 → 00:13:01 13 14 15 16 17 18 19 20 อันนี้
00:13:01 → 00:13:04 ก็เผาเพิ่มไปอีกฟรีๆเพราะท่านเริ่มกิน
00:13:04 → 00:13:07 ปุ๊บหมอเขาคาร์โบไฮเดรตแทนครับนี้คือหลัก
00:13:07 → 00:13:09 การของ intermittent fasting โดยส่วนตัว
00:13:09 → 00:13:14 ผมแนะนำให้เริ่มที่ทาน 12 และอยู่ 12
00:13:14 → 00:13:17 เมื่อจำหน่ายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆส่วนตัวผม
00:13:17 → 00:13:21 นั้นทำที่ทาน 16 ก็ทันทางแปลกนี้ได้ 16
00:13:21 → 00:13:25 นะการผมเดี๋ยวไปทาน 8 และหยุด 16 ครับก็
00:13:25 → 00:13:28 จะทำให้สามารถใช้ชื่อประจำวันและทำได้
00:13:28 → 00:13:31 ตลอดชีวิตครับและนี่คือเทคนิคที่จะทำให้
00:13:31 → 00:13:35 ท่านสามารถควบคุมน้ำหนักได้โดยแทบจะไม่
00:13:35 → 00:13:38 ต้องออกกำลังกายเพิ่มเติมและสามารถทานได้
00:13:38 → 00:13:40 เท่าเดิมนั่นเองครับก็ไปครับเป็นกดไลค์กด
00:13:40 → 00:13:43 แชร์กด Subscribe และกดกระดิ่งนะครับบ๊าย
00:13:43 → 00:13:44 บาย
00:13:44 → 00:13:45 ก็
00:13:45 → 00:13:49 สวัสดีครับผมมาท๊อปส์ครับขอบคุณมากครับ
00:13:49 → 00:13:53 ที่คุณกดดูคลิปนี้ครับคุณอาจจะช่วยกดไลค์
00:13:53 → 00:13:56 กดแชร์กด Subscribe คุณจะเป็นคนหนึ่งที่
00:13:56 → 00:14:00 ช่วยให้คนไทยกว่า 70 ล้านคนมีสุขภาพดี
00:14:00 → 00:14:04 ขึ้นครับและอย่าลืมดูจนจบนะครับเพื่อจะมา
00:14:04 → 00:14:06 จากที่ว่าคุณจะไม่พลาดสิ่งสำคัญในชีวิตไป
00:14:07 → 00:14:12 ขอบคุณมากครับขอบคุณจะหัวใจนะ