00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับผมคิดว่าคงมีหลายคนนะครับได้
00:00:02 → 00:00:05 เห็นคลิปนึงบนอินเทอร์เน็ตแล้วก็มีความ
00:00:05 → 00:00:08 สับสนกังวลใจอย่างหนึ่งนั่นก็คือตัวคลิป
00:00:08 → 00:00:11 ที่บอกว่าการทำบลูนหลอดเลือดหัวใจนั้นอาจ
00:00:11 → 00:00:14 จะไม่ได้ช่วยอะไรเราแถมมันยังมีอันตราย
00:00:14 → 00:00:17 อีกต่างหากและถ้าเราเข้าไปฟังในตัวคลิปนะ
00:00:17 → 00:00:19 ครับมันก็จะมีอีกประเด็นนึงในเรื่องของ
00:00:19 → 00:00:23 การลดคอเลสเตอรอลเพราะว่าเค้าบอกว่าไอ้
00:00:23 → 00:00:26 ตัวการลดคอเลสเตอรอลเนี่ยที่ใช้ยาต่างๆ
00:00:26 → 00:00:30 มันอาจจะไม่ได้ทำให้คุณดีขึ้นมันไม่ได้
00:00:30 → 00:00:32 ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจไม่ได้
00:00:32 → 00:00:35 ป้องกันการตายแต่อย่างใดนะครับเรื่องราว
00:00:35 → 00:00:38 เนี่ยจริงๆมันเป็นยังไงกันแน่นะครับผมก็
00:00:38 → 00:00:40 จะวิเคราะห์ให้ฟังแล้วก็จะทิ้งลิงก์ของ
00:00:40 → 00:00:44 งานวิจัยต่างๆที่ผมไปอ่านมานะครับให้คุณ
00:00:44 → 00:00:46 สามารถไปอ่านได้ด้วยตัวเองทั้งหมดเลยนะฮะ
00:00:46 → 00:00:48 ทิ้งไว้ใน description ของคลิปวีดีโอนี้
00:00:48 → 00:00:51 นะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวัณ
00:00:51 → 00:00:53 เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:53 → 00:00:55 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:00:55 → 00:00:58 วิกฤตบำบัดนะครับต้องขออภัยอย่างนึงนะ
00:00:58 → 00:01:00 ครับว่าคลิปวีดีโอตัวเต็มอันนั้นเนี่ยผม
00:01:00 → 00:01:03 ไม่สามารถทิ้งลิงก์ไว้ให้คุณได้จริงๆแต่
00:01:03 → 00:01:05 ถ้าเกิดคุณไปฟังมาแล้วก็มีความเข้าใจความ
00:01:05 → 00:01:08 กังวลอย่างที่ผมว่าไปเมื่อกี้เนี่ยนะครับ
00:01:08 → 00:01:11 ฟังคลิปนี้แล้วคุณก็จะเข้าใจทั้งหมดจริงๆ
00:01:11 → 00:01:15 นะครับผมขอให้เครดิตคลิปนี้อย่างหนึ่งคือ
00:01:15 → 00:01:18 ถ้าเกิดคุณเข้าไปฟังในคลิปเต็มๆทั้งคลิป
00:01:18 → 00:01:21 เนี่ยคุณจะเข้าใจเพิ่มมากขึ้นว่าเออมันมี
00:01:21 → 00:01:24 กรณีที่จำเป็นจะต้องทำบลูนนะครับกับกรณี
00:01:24 → 00:01:27 ที่มันไม่ควรจำเป็นจะต้องทำอันเนี้ยถูก
00:01:27 → 00:01:29 ต้องแล้วก็แน่แน่นอนว่ามันมีปัจจัยเสี่ยง
00:01:29 → 00:01:33 ตึต่างๆที่ทำให้โรคมันเป็นมากขึ้นนะครับ
00:01:33 → 00:01:39 ตรงเนี้ยก็เออเห็นด้วยนะแล้วทีนี้ในคลิป
00:01:39 → 00:01:41 เนี่ยเค้าก็กล่าวไว้อย่างนึงว่าปัจจุบัน
00:01:41 → 00:01:45 เนี่ยมันมีหมอบางคนเนี่ยเขาทำการสวนหลอด
00:01:45 → 00:01:49 เลือดเพื่อทำบอรูนแล้วก็ใส่ขดลวดหรือสเตน
00:01:49 → 00:01:52 เนี่ยโดยที่ไม่จำเป็นนะครับอันนี้เห็น
00:01:52 → 00:01:54 ด้วยเพราะว่ามันก็มีหมอบางคนทำแบบนั้น
00:01:54 → 00:01:57 จริงๆซึ่งถ้าเกิดว่าทำโดยที่มันไม่ได้มี
00:01:57 → 00:01:59 ประโยชน์คุ้มค่าความเสี่ยงแล้วเนี่ยอัน
00:01:59 → 00:02:02 นั้นน่ะทำให้เกิดอันตรายเพิ่มมากขึ้นกับ
00:02:02 → 00:02:05 คนไข้โดยไม่จำเป็นอันนี้เห็นด้วยนะฮะอ่ะ
00:02:05 → 00:02:08 เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าว่าเออแล้วแล้ว
00:02:08 → 00:02:10 มันบรูนมันยังไงมันต้องทำใครมันจะได้
00:02:10 → 00:02:12 ประโยชน์ใครมันจะเสียประโยชน์กันแน่ขอ
00:02:12 → 00:02:15 เริ่มอย่างนี้ครับว่าหัวใจของเราเนี่ยนะ
00:02:15 → 00:02:18 ครับมันจะมีหลอดเลือดที่เรียกว่า coronary
00:02:18 → 00:02:21 artery นะครับมาเลี้ยงตัวมันเองเลี้ยง
00:02:21 → 00:02:24 กล้ามเนื้อหัวใจนะครับโดยหลอดเลือดตัว
00:02:24 → 00:02:26 เนี้ยมันจะมี 2 ข้างข้างซ้าย left
00:02:26 → 00:02:29 coronary ข้างข้างขวา Right นะครับข้าง
00:02:30 → 00:02:33 ซ้ายเนี่ยจะแตกแขนงนะครับออกเป็น 2 แขนง
00:02:33 → 00:02:36 หลักๆโดยตอนแรกที่มันออกมาเส้นเดียวเนี่ย
00:02:36 → 00:02:39 นะครับมันจะเรียกว่า left main chonary
00:02:39 → 00:02:41 artery หลังจากนั้นจะแตกเป็น 2 แขนงแขนง
00:02:42 → 00:02:44 นึงเรียกว่า left anterior descending
00:02:44 → 00:02:47 artery อีกแขนงนึงคือ circumflex artery
00:02:47 → 00:02:51 นะครับอ่าอันนี้คือคร่าวๆก่อนทีนี้ไอ้
00:02:51 → 00:02:54 หลอดเลือดพวกนี้เนี่ยถ้ามันมีการตีบตันนะ
00:02:54 → 00:02:56 ครับมันก็จะทำให้เลือดมันไหลเวียนไม่ดีไป
00:02:56 → 00:02:58 เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้สุดท้ายกล้าม
00:02:58 → 00:03:02 เนื้อหัวใจก็จะขาดเลือดแล้วก็ตายไปนะครับ
00:03:02 → 00:03:04 มนุษย์เราก็เลยมีวิธีในการไปแก้ไขตรงนี้
00:03:04 → 00:03:07 ก็คือมีการสวนหลอดเลือดเข้าไปด้วยขดลวดนะ
00:03:07 → 00:03:10 ครับแล้วก็จะทำการฉีดสีเพื่อที่จะให้หลอด
00:03:10 → 00:03:14 เลือดเนี่ยมันเห็นชัดภายใต้เrayนะครับสี
00:03:14 → 00:03:16 นี้ไม่ใช่สีเขียวสีแดงสีเหลืองอะไรนะครับ
00:03:16 → 00:03:20 แต่มันสีที่ทึบแสงเวลาเราฉีดปุ๊บทำเray
00:03:20 → 00:03:22 เราก็จะเห็นอ้อตรงนี้เป็นหลอดเลือดอะไร
00:03:22 → 00:03:24 ขึ้นมานะ
00:03:24 → 00:03:26 ครับแล้วพอทำเสร็จปุ๊บก็จะเห็นบริเวณที่
00:03:26 → 00:03:29 มันตีบถ้ามันตีบมากโอเคคุณเข้าไปตรงนั้น
00:03:29 → 00:03:32 คุณทำบลูนเพื่อเปิดทางไอ้ตัวหลอดเลือดนี้
00:03:33 → 00:03:36 นะฮะหลังจากเปิดทางแล้วมันก็ตีบกลับมา
00:03:36 → 00:03:37 เหมือนเดิมได้ดังนั้นคุณจำเป็นจะต้องใส่
00:03:38 → 00:03:40 ขดลวดเพื่อถ่างค้ำยันมันไว้ขดลวดตัวนี้ก็
00:03:40 → 00:03:43 เรียกว่า str นะครับนี่คือเหตุผลทั้งหมด
00:03:43 → 00:03:47 ว่าเราทำไมจำเป็นจะต้องทำเค้าก็มีการ
00:03:47 → 00:03:49 ศึกษาเพิ่มเติมครับว่าเออแล้วมันต้องตีบ
00:03:49 → 00:03:52 แค่ไหนล่ะถึงทำแล้วได้ประโยชน์นะครับใน
00:03:52 → 00:03:54 ตัวคลิปเนี่ยเขาก็บอกว่าเออถ้าเกิดว่ามัน
00:03:55 → 00:03:58 ตั้งแต่ 70% เปนะคือมันตีบตั้งแต่ 70%
00:03:59 → 00:04:01 ขึ้นไปอันเนี้ยทำแล้วได้ประโยชน์ซึ่งอัน
00:04:01 → 00:04:05 นี้เห็นด้วยครับแต่มันก็มีรายละเอียดอะไร
00:04:05 → 00:04:09 มากกว่านั้นครับคือต้องบอกอย่างงี้หลอด
00:04:09 → 00:04:14 เลือดหัวใจเนี่ยส่วนที่มันออกมานะครับถ้า
00:04:14 → 00:04:16 มันติดเกิน 70% โอเคอันเนี้ยไม่ได้มี
00:04:16 → 00:04:20 ปัญหาอะไรเลยคือทำแล้วดีแต่มันจะมีกรณี
00:04:20 → 00:04:24 นึงครับก็คือตัวตอของหลอดเลือดหัวใจข้าง
00:04:24 → 00:04:26 ซ้ายที่เราเรียกว่า left main clonary
00:04:26 → 00:04:29 คือตรงที่มันออกมาก่อนที่มันจะแตกแขนงเลย
00:04:29 → 00:04:33 ตรงนั้นเนี่ยถ้ามันมีการตีบเกิน 50% เรา
00:04:33 → 00:04:36 เห็นตรงกันว่าควรจะต้องทำอะไรซะอย่างกับ
00:04:36 → 00:04:39 มันการทำบลูนหรือการทำสตนอะไรพวกเนี้ยก็
00:04:39 → 00:04:41 มีความจำเป็นหรือจะแก้ไขด้วยวิธีอื่นก็
00:04:41 → 00:04:43 ได้นะครับแต่ตรงเนี้ยเป็นสิ่งที่เราเห็น
00:04:43 → 00:04:46 ตรงกันดังนั้นมันจะไม่ใช่ตัวเลข 70%
00:04:46 → 00:04:49 อย่างเดียวแล้วแถมมันยังมีอีกกรณีนึงก็
00:04:49 → 00:04:52 คือความเสี่ยงแบบปานกลางนั่นก็คือหลอด
00:04:52 → 00:04:55 เลือดมันตีบบริเวณอื่นๆที่ไม่ได้นับไอ้
00:04:55 → 00:04:59 ตรงตอของหลอดเลือดข้างซ้ายเนี่ยนะครับถ้า
00:04:59 → 00:05:00 ที่อื่นน่ะมันติด
00:05:00 → 00:05:04 40-70% มันจะมีคนไข้บางคนครับที่จะได้
00:05:04 → 00:05:10 ประโยชน์จากการทำบลูนแล้วก็การทำ St.
00:05:10 → 00:05:12 คนไหนล่ะครับที่ได้ประโยชน์ต้องบอก
00:05:12 → 00:05:15 อย่างี้ก่อนว่าเวลาที่เราสวนหลอดเลือดหัว
00:05:15 → 00:05:17 ใจเนี่ยเข้าไปปุ๊บเนี่ยนะฮะนอกเหนือจาก
00:05:17 → 00:05:20 เราดูว่ามันตีบแค่ไหนเรายังต้องดูด้วยว่า
00:05:20 → 00:05:24 ไอ้ที่มันตีบเนี่ยผลของมันมากแค่ไหนนะ
00:05:24 → 00:05:27 ครับวิธีดูในการดูผลของมันมากแค่ไหนเนี่ย
00:05:27 → 00:05:30 เราจะมีคำศัพท์ทางการแพทย์คำนึงเรียกว่า
00:05:30 → 00:05:33 Fractional Flow Reserve อันเนี้ยมัน
00:05:33 → 00:05:36 คืออะไรกันแน่นะครับมันคือสมมุติคุณมี
00:05:36 → 00:05:39 หลอดเลือดอันนึงมีรอยตีบอยู่ตรงกลางนะ
00:05:39 → 00:05:41 ครับเลือดเลือดก่อนที่มันจะตีบเนี่ยมันก็
00:05:41 → 00:05:43 จะวิ่งดีใช่มั้ฮะแต่ตรงผ่านตรงที่มันตีบ
00:05:43 → 00:05:45 เนี่ยเริ่มก็จะไปได้ช้าลงความดันในเลือดเ
00:05:45 → 00:05:49 มันก็จะตกลงส่วนปลายเนี่ยความดันก็น้อย
00:05:49 → 00:05:51 เหมือนกับคุณมีสายยางอันนึงแล้วคุณฉีดน้ำ
00:05:51 → 00:05:53 แล้วคุณเอามือไปอุดมันเนี่ยน้ำที่ออกมา
00:05:53 → 00:05:58 มันก็จะมันก็จะลดลงประมาณนั้นนะครับเค้า
00:05:58 → 00:06:02 ก็เลยมีวิธีในการวัดความดันของเลือดใน
00:06:02 → 00:06:05 หลอดเลือดส่วนก่อนที่มันจะตีบเทียบกับ
00:06:05 → 00:06:09 ส่วนที่มันหลังตีบถ้าเกิดว่าความดันมันตก
00:06:09 → 00:06:13 ลงไปเยอะมากอย่างเงี้ยอันเนี้ยคือแปล
00:06:13 → 00:06:17 ว่าที่ตีบถึงแม้ว่ามันจะไม่ 70% ก็ตามแต่
00:06:17 → 00:06:21 ผลของมันน่ะเยอะมากโดยเราเอาค่าการลดตรง
00:06:21 → 00:06:25 เนี้ยลดเกิน 20% หรือ fractional flow
00:06:25 → 00:06:28 reserve เปก็คือ 80% นะครับคือ 80% หรือ
00:06:28 → 00:06:32 ต่ำกว่านั้นนะแปลว่าเลือดที่มันส่งไปตอน
00:06:32 → 00:06:34 แรกเนี่ยนะครับความดัน 100% เต็มถ้าไม่
00:06:34 → 00:06:37 ตีบเลยมันก็จะส่งไปได้ 100% เต็มแต่ถ้า
00:06:37 → 00:06:39 มันตีบไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้อ่ะมันส่งไปได้
00:06:39 → 00:06:42 แค่ 50% ไอ้นี้มันตกมาเยอะเลยแปลว่าเฮ้ย
00:06:42 → 00:06:46 เลือดหายไปเยอะนะครับอันเนี้ยแปลว่าการทำ
00:06:46 → 00:06:50 บลูนหรือการใส่ขนลวดจะได้ประโยชน์นะฮะตรง
00:06:50 → 00:06:52 นี้เป็นสิ่งที่หมอเ้าประเมินหน้างานได้
00:06:52 → 00:06:55 เลยนะฮะคือตอนสวนหลอดเข้าไปเค้าสามารถวัด
00:06:55 → 00:06:57 ตรงนี้ได้เลยว่าเฮ้ยของคุณจำเป็นจะต้องทำ
00:06:57 → 00:07:00 หรือมันไม่ต้องทำกันแน่ถ้าเกิดว่าของคุณ
00:07:00 → 00:07:02 มันไม่ได้ติดเกิน 70% นะครับนี่คือเหตุผล
00:07:02 → 00:07:06 อันนึงที่ในคลิปเาอาจจะไม่มีเวลาได้กล่าว
00:07:06 → 00:07:09 นะอย่างไรก็ตามครับมันจะมีคนบางคนเหมือน
00:07:09 → 00:07:12 กันที่บอกว่าเฮ้ยฉันไม่อยากทำอ่ะเออทำ
00:07:12 → 00:07:14 แล้วมันได้ประโยชน์อะไรคืนนี้คือเออเอา
00:07:14 → 00:07:16 งี้ดีกว่าในคนที่ Fractional Flow
00:07:16 → 00:07:19 Reserve เนี่ยต่ำกว่า 80% เนี่ยหรือ
00:07:19 → 00:07:22 เลือดมันผ่านไอ้รอยติดเนี้ยไปได้ไม่เยอะ
00:07:22 → 00:07:25 เพียงพอนะครับไม่ถึง 80% ของความดันแรก
00:07:25 → 00:07:30 เริ่มเนี่ยถ้าทำนะครับมันจะป้องกัน 2
00:07:30 → 00:07:33 อย่างหลักๆเลยอย่างแรกก็คือป้องกันการ
00:07:33 → 00:07:38 เกิดกล้ามหัวใจตายอย่างที่ 2 ป้องกันการ
00:07:38 → 00:07:40 ที่เราต้องมาทำอะไรเร่งด่วนเพื่อที่จะทำ
00:07:40 → 00:07:42 ให้เลือดมันไปเลี้ยงได้นะครับเราเรียก
00:07:42 → 00:07:44 อันเนี้ยว่าการทำหการเพื่อให้เลือดมันไป
00:07:44 → 00:07:46 เลี้ยงได้อาจจะต้องทำบรูนอย่างเร่งด่วนใน
00:07:46 → 00:07:51 อนาคตมันลดการเกิดพวกนี้ได้ครับแต่ต้อง
00:07:51 → 00:07:55 ยอมรับว่ามันไม่ได้ลดการตายไม่ได้ลดการ
00:07:55 → 00:07:58 ต้องนอนโรงพยาบาลอ่าไม่ได้ลดการเกิดหัวใจ
00:07:58 → 00:08:01 วายหรืออะไรพวกเนี้ยนะครับมันไม่ได้ลดไอ้
00:08:01 → 00:08:03 ของพวกนั้นก็จริงแต่มันลดการเกิดกล้าม
00:08:03 → 00:08:05 เนื้อหัวใจตายซึ่งหรือคุณอยากให้กล้าม
00:08:05 → 00:08:08 เนื้อหัวใจมันตายก็คงไม่มีใครขยายการเป็น
00:08:08 → 00:08:10 หัวใจตายถูกมั้ครับดังนั้นไอ้คนพวกเนี้ย
00:08:10 → 00:08:13 จึงมีประโยชน์และแน่นอนครับมันจะมีบางคน
00:08:13 → 00:08:15 ที่บอกว่าเฮ้ยเอ่อถึงแม้ว่า Fractional
00:08:16 → 00:08:19 Flow Reserve ของเราเนี่ยมันต่ำกว่า 80%
00:08:19 → 00:08:22 นะแต่ฉันก็ยังไม่อยากทำอยู่ดีอ่ะหมอเค้า
00:08:22 → 00:08:23 ก็จะมีวิธีในการประเมินความเสี่ยงเพิ่ม
00:08:23 → 00:08:26 ว่าเฮ้ยคนไหนอ่ะที่มันจะมีโอกาสเกิด
00:08:26 → 00:08:29 เรื่องขึ้นมาได้คนๆนั้นน่ะคุณหมอเ้าจะแบบ
00:08:29 → 00:08:33 พยายามอธิบายให้ฟังว่าเฮ้ยของคุณน่ะน่าทำ
00:08:33 → 00:08:36 นะควรจะต้องทำคนเหล่านั้นน่ะก็คือคนที่มี
00:08:36 → 00:08:40 โรคต่างๆเช่นคุณมีเบาหวานอยู่นะครับคุณมี
00:08:40 → 00:08:43 เอ่อโรคไตเรื้อรังนะครับคุณมีหัวใจที่มัน
00:08:43 → 00:08:45 ทำงานไม่ค่อยได้นะครับคือการบีบตัวของหัว
00:08:45 → 00:08:48 ใจปกติเราเนี่ยเราจะเรียกว่า ejection
00:08:48 → 00:08:51 fraction นะครับโดยทั่วไปมันจะ 55% หรือ
00:08:51 → 00:08:54 สูงกว่านั้นแต่ถ้าเกิดว่ามันต่ำเนี่ยครับ
00:08:54 → 00:08:57 ก็แปลว่าคุณน่ะน่าจะมีความเสี่ยงและถ้า
00:08:57 → 00:08:59 เกิดคุณมี fractional flow reserve ต่ำ
00:08:59 → 00:09:01 ด้วยเนี่ยคือเส้นเลือดหัวใจของคุณเนี่ย
00:09:01 → 00:09:04 ถึงแม้ว่ามันจะตีบไม่มากนะแต่ว่าผลของมัน
00:09:04 → 00:09:07 น่ะมันมันมากแล้วอ่ะแล้วหัวใจคุณยังทำงาน
00:09:07 → 00:09:09 ได้ไม่ค่อยดีไอ้อย่างเงี้ยเป็นสิ่งนึง
00:09:09 → 00:09:13 ซึ่งหมอเขาจะพยายามให้คุณทำการใส่เอ่อสตน
00:09:13 → 00:09:17 เข้าไปอีกอย่างนึงก็คือคนที่เคยเกิดกล้าม
00:09:17 → 00:09:20 เนื้อหัวใจขาดเลือดมาแล้วเคยทำ str มา
00:09:20 → 00:09:23 แล้วหรือเคยผ่าตัด bypass มาแล้วพวกเนี้ย
00:09:23 → 00:09:25 คือจะเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าชาว
00:09:25 → 00:09:28 บ้านเค้านะครับและอีกคนนึงก็คือคนที่อายุ
00:09:28 → 00:09:31 เยอะๆเกิน 75 ปีนะครับดังนั้นถ้าเกิน 75
00:09:31 → 00:09:34 ปีเป็นเบาหวานนะครับเคยมีกล้ามหัวใจมัน
00:09:34 → 00:09:37 ขาดเลือดมาแล้วเคยทำสวนหัวใจมาแล้วหรือ
00:09:37 → 00:09:40 อะไรพวกเนี้ยนะฮะแล้วก็คนที่มีโรคไตเรื้อ
00:09:40 → 00:09:42 รังคนที่กล้ามเนื้อหัวใจมันทำงานได้ไม่ดี
00:09:42 → 00:09:45 อยู่แล้วถ้าเราไปเจอ Fractional Flow
00:09:45 → 00:09:49 Reserve ต่ำกว่า 80% แม้ว่าการตีบของล้อ
00:09:49 → 00:09:52 เลือดเขาจะไม่ถึง 70% อย่างที่พูดในคลิป
00:09:52 → 00:09:57 เนี่ยคนเหล่าเนี้ยการทำบรลูนการทำ St ถือ
00:09:57 → 00:10:00 ว่ามีประโยชน์มากนะครับแล้วควรทำราย
00:10:00 → 00:10:03 ละเอียดตรงเนี้ยไม่ได้มีใครพูดไว้นะครับ
00:10:03 → 00:10:05 เพราะฉะนั้นผมจะให้ทุกคนรู้ว่าเวลาคุณหมอ
00:10:05 → 00:10:08 ที่เค้าดูแลคนไข้จริงๆเนี่ยเค้าจำเป็นจะ
00:10:08 → 00:10:10 ต้องพิจารณาไอ้เหตุผลพวกนี้ด้วยแหละนะ
00:10:10 → 00:10:14 ครับทีนี้เรามาพูดถึงเรื่องของ
00:10:14 → 00:10:17 เอิ่มปัญหาแล้วกันของการ
00:10:17 → 00:10:20 ทำไอ้Strนกับบรลูนพวกเนี้ยนะครับเพราะแน่
00:10:20 → 00:10:23 นอนมันมีประโยชน์มันก็ต้องมีโทษถามว่าโทษ
00:10:23 → 00:10:27 มันคืออะไรเออโทษมันคืออะไรมีหลายอย่าง
00:10:27 → 00:10:31 มากครับคืออย่างแรกคือการที่เราต้องฉีดสี
00:10:31 → 00:10:34 เข้าไปไอ้สีตัวเนี้ยมันมีปัญหากับไต่ดัง
00:10:34 → 00:10:36 นั้นโอกาสที่คุณจะมีปัญหาหาเรื่องไตเนี่ย
00:10:36 → 00:10:39 จะเยอะเราก็เลยจะแนะนำคนเหล่านี้ว่าหลัง
00:10:39 → 00:10:40 จากที่คุณทำเสร็จนะคุณต้องดื่มน้ำเข้าไป
00:10:40 → 00:10:42 เยอะๆเพื่อที่จะให้ไตมันทำงานได้ดีแล้ว
00:10:42 → 00:10:45 ขับไอ้สีพวกนี้ออกไปซะนะครับซึ่งผมทำเป็น
00:10:45 → 00:10:47 เปอร์เซ็นต์ไว้เลยผมไปอ่านมาหลายอันแล้ว
00:10:47 → 00:10:50 ก็ทำเป็นเปอร์เซ็นต์ไว้เทียบคนที่อายุ
00:10:50 → 00:10:52 เยอะก็คือ 75 ปีขึ้นไปกับคนที่อายุน้อย
00:10:52 → 00:10:56 กว่านั้นนะครับโดยความเสี่ยงในคนอายุเยอะ
00:10:56 → 00:10:59 เนี่ยจะสูงกว่าความเสี่ยงในคนอายุน้อยถ้า
00:10:59 → 00:11:03 เราต้องทำบลูนหรือฉีดสีนะครับข้อแรกนะ
00:11:03 → 00:11:07 ครับโอกาสในการเกิดการเสียชีวิตนะครับของ
00:11:07 → 00:11:10 คนอายุเยอะเนี่ยอยู่ที่ 3.3% ในโรงพยาบาล
00:11:10 → 00:11:14 ถ้าอายุน้อย 1.3% นะครับโอกาสการเกิดกลืน
00:11:14 → 00:11:18 หัวใจขาดเลือดในช่วงเวลาที่เรากำลังทำ
00:11:18 → 00:11:20 หัตการนั้นอยู่เนี่ยคนอายุเยอะเนี่ยอยู่
00:11:20 → 00:11:22 ที่ 5% ในคนอายุน้อยก็จะน้อยกว่านั้นนะ
00:11:23 → 00:11:26 ครับการเกิดโรคสโตรกนะครับหลอดเลือดสมอง
00:11:26 → 00:11:29 เนี่ยมันเกิดการผุดตันไปในคนสูงอายุอยู่
00:11:29 → 00:11:30 ที่
00:11:30 → 00:11:34 0.58% ในคนอายุน้อย 0.23% 2-3% นะครับ
00:11:34 → 00:11:37 เกิดเลือดออกตรงบริเวณที่เรามีการแทงหลอด
00:11:37 → 00:11:39 เลือดเข้าไปนะครับคนอายุเยอะเนี่ยอยู่ที่
00:11:39 → 00:11:42 ประมาณ 8% นะคนอายุน้อยก็น้อยกว่านั้น
00:11:42 → 00:11:44 โอกาสที่หลอดเลือดมันจะมีการฉีกขาดแล้ว
00:11:44 → 00:11:46 เราจำเป็นต้องไปซ่อมมันนะครับคนอายุเยอะ
00:11:46 → 00:11:49 อยู่ที่ 6.7% 7% คนอายุน้อยอยู่ที่ 3.3%
00:11:49 → 00:11:53 3% นะครับอันเนี้ยก็จะเป็นเรื่องของความ
00:11:54 → 00:11:56 เสี่ยงที่เราเจอกันนะครับอย่างไรก็แล้ว
00:11:56 → 00:11:58 แต่นะครับเราจะเห็นได้ว่าตัวเลขพวกเนี้ย
00:11:59 → 00:12:02 มันไม่ได้สูงมากมันไม่ได้สูงมากและที่
00:12:02 → 00:12:04 สำคัญคือถ้าอยู่ในมือหมอที่เค้าเก่งเนี่ย
00:12:04 → 00:12:06 ไอ้ตัวเลขพวกเนี้ยต่ำกว่านี้ได้อีกนะครับ
00:12:06 → 00:12:10 ดังนั้นมันไม่ใช่ว่าเราฟังแบบเฮ้ยทำบรูน
00:12:10 → 00:12:13 แล้วไม่ได้ประโยชน์แถมมีโทษอีกต่างหากใน
00:12:13 → 00:12:16 หัวหลายๆคนเนี่ยที่มันอาจจะคิดเกินไปก็
00:12:16 → 00:12:18 อาจจะบอกว่าเฮ้ยทำแล้วไม่ได้ประโยชน์แล้ว
00:12:18 → 00:12:20 โทษของมันคือคิดว่าทุกคนทำแล้วต้องมีโทษ
00:12:21 → 00:12:23 หมดเลยไม่ใช่นะครับเปอร์เซ็นต์ที่จะเกิด
00:12:23 → 00:12:27 เรื่องแบบเนี้ยเราจะเห็นได้แบบ 3% 5% 8%
00:12:27 → 00:12:30 บางอย่างไม่ได้เยอะขนาดนั้นแล้วเรื่องของ
00:12:30 → 00:12:34 การเกิดเลือดออกอะไรพวกเนี้ยนะฮะมันเจอ
00:12:34 → 00:12:37 เยอะในคนที่เราต้องสวนหลอดเลือดหัวใจผ่าน
00:12:38 → 00:12:40 ทางขาหนีบมันจะมีหลอดเลือดที่ขาหนีบที่
00:12:40 → 00:12:41 เราสวนจากตรงนั้นแล้วขึ้นไปที่หัวใจได้
00:12:41 → 00:12:44 แต่เดี๋ยวเนี้ยเราสามารถลดผลข้างเคียงของ
00:12:44 → 00:12:47 การเกิดเลือดออกของการที่หลอดเลือดจะมี
00:12:47 → 00:12:50 ปัญหาได้โดยการสวนหลอดหลอดเลือดที่ข้อมือ
00:12:50 → 00:12:52 ครับถ้าเราสวนจากข้อมือขึ้นไปตรงเนี้ยก็
00:12:53 → 00:12:55 จะลดปัญหาตรงนั้นได้ดังนั้นเนี่ยถ้าอยู่
00:12:55 → 00:12:58 ในมือหมอที่เขาเก่งๆนะครับก็จะลดความ
00:12:58 → 00:13:01 เสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับคุณได้งั้นทำ
00:13:01 → 00:13:04 ให้คุณมีโอกาสที่จะเจอความคุ้มค่าของการ
00:13:04 → 00:13:06 ทำบรลูนมากกว่านะครับนี่คือประเด็นแรก
00:13:06 → 00:13:08 เพราะฉะนั้นผมหวังว่าอันเนี้ยน่าจะ
00:13:08 → 00:13:10 เคลียร์พอสมควรแล้วว่าใครควรทำใครไม่ควร
00:13:10 → 00:13:15 ทำนะครับเอิ่มประเด็นที่ 2 ผมก็ทำมาเป็น
00:13:15 → 00:13:18 ตัวเลขให้เหมือนกันเพราะว่าในคลิปบอกว่า
00:13:18 → 00:13:21 การลดคอเลสเตอรอลเนี่ยอาจจะไม่ได้ช่วย
00:13:21 → 00:13:24 เรื่องของการป้องกันการเสียชีวิตนะครับ
00:13:24 → 00:13:27 เออบอกว่าเอ้ยมีตัวเลขต้องลดให้มันในคน
00:13:27 → 00:13:29 ที่มีโรคหล่อเลือดหัวใจแล้วต้องลดให้มัน
00:13:29 → 00:13:32 ต่ำกว่า 70 นะครับลดมาอย่างงั้นอย่างงี้
00:13:32 → 00:13:33 คือไม่ได้ประโยชน์อะไรดังนั้นไม่ต้องให้
00:13:33 → 00:13:37 ยามไม่ต้องอะไรอย่างงี้คือยาก็มีปัญหามี
00:13:37 → 00:13:41 ผลข้างเคียงอ่ะผมขอเริ่มจากอย่างนี้
00:13:41 → 00:13:46 ก่อนมันเนี่ยถ้าเราสามารถลดคอเลสเตอรอลลง
00:13:46 → 00:13:48 มาได้นะในที่นี้หมายความว่าเป็น low
00:13:48 → 00:13:50 density lipโปรteนหรือ LDL คolesterolนะ
00:13:50 → 00:13:53 ครับไม่ใช่คอเลสเตอรอลรวมๆนะครับเราต้อง
00:13:53 → 00:13:56 พูดถึงตัวย่อยในคลิปนั้นเนี่ยเขาไม่ได้
00:13:56 → 00:13:59 พูดถึงตัวย่อยเค้าพูดแค่คอเลสเตอรอลซึ่ง
00:13:59 → 00:14:02 ผมไม่แน่ใจว่าหมายถึง Total Cholesterol
00:14:02 → 00:14:05 ซึ่งคอเลสเตอรอลทุกอย่างมารวมกันหรือ LDL
00:14:05 → 00:14:07 คอเลสรอลดังนั้นตรงนี้เนี่ยในคลิปเาไม่
00:14:07 → 00:14:10 ชัดเจนนะครับอย่างไรก็แล้วแต่ในเรื่องของ
00:14:10 → 00:14:12 หลอดเลือดหัวใจนั้นเราจะพูดกันถึง LDL
00:14:12 → 00:14:15 คอเลสเตอรอลเป็นหลักและการที่เราไปลดมัน
00:14:15 → 00:14:18 ให้เข้าเป้าหมายนั่นก็คือต่ำกว่า 70
00:14:18 → 00:14:20 มิลกรัมต่อเดซลิตเนี่ยจะได้ประโยชน์ดัง
00:14:20 → 00:14:24 ต่อไปนี้นะครับตัวนี้ผมจดมาเป็น
00:14:24 → 00:14:28 เปอร์เซ็นต์เลยคือมันจะสามารถลดโอกาสการ
00:14:28 → 00:14:32 เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจนะครับหรือ
00:14:32 → 00:14:36 หลอดเลือดสมองประมาณ 15% นะลดโอกาสเกิด
00:14:36 → 00:14:41 กล้ามหัวใจขาดเลือด 20% ลดโอกาสเกิดสตก
00:14:41 → 00:14:46 27% ลดโอกาสที่เราจำเป็นจะต้องทำการสวน
00:14:46 → 00:14:48 หลอดเลือดหัวใจซ้ำหรือผ่าตัดเพื่อที่จะ
00:14:48 → 00:14:53 pass 20% นะครับแล้วก็ลดโอกาสเกิดปัญหา
00:14:53 → 00:14:56 ของหลอดเลือดทั้งหมดประมาณ
00:14:56 → 00:15:00 26% ดังนั้นเนี่ยจะบอกว่าเอ่อการลดไขมัน
00:15:00 → 00:15:02 มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยมันก็ไม่ได้นะครับ
00:15:02 → 00:15:05 เพราะว่ามันช่วยเนี่ยตัวเลขมีแบบชัดๆตัว
00:15:05 → 00:15:08 เลขมีชัดเจนนะครับโอเคมันอาจจะไม่ได้ป้อง
00:15:08 → 00:15:10 กันการตายทุกชนิดบนโลกนี้แล้วไม่ได้
00:15:10 → 00:15:14 การันตีว่าการทำบลูนการทำสตนเนี่ยจะทำให้
00:15:14 → 00:15:16 คุณไม่เป็นโรคหัวใจแน่ๆคือมันเลขการันตี
00:15:16 → 00:15:19 แบบนั้นแต่มันก็ลดลงไปลดเยอะด้วยถูกมั้ย
00:15:19 → 00:15:22 ครับเนี่ยหลายครั้งก็เกือบเกือบ 1 ใน 3
00:15:22 → 00:15:25 ของคนไข้ทั้งหมดที่ทำอ่ะจะได้ประโยชน์ดัง
00:15:25 → 00:15:28 นั้นเนี่ยตรงเนี้ยค่อนข้างชัดเจนมีข้อมูล
00:15:28 → 00:15:31 แน่ชัดถ้าเกิดว่าไม่แน่ใจสามารถตามไปอ่าน
00:15:31 → 00:15:33 หลักฐานที่ผมทำมาให้ได้นะครับแต่ผมเตือน
00:15:33 → 00:15:35 ไว้อย่างงี้ก่อนที่ผมไปอ่านมาทั้งหมด
00:15:36 → 00:15:39 เนี่ยมันมีมันมีหลายหน้ามากคุณต้องไปหา
00:15:39 → 00:15:41 เอาเองว่ามันอยู่หน้าไหนนะผมจะไม่สามารถ
00:15:41 → 00:15:43 ชี้ให้เห็นว่าทุกอย่างมันหน้าไหนถ้าผมทำ
00:15:43 → 00:15:45 มาแล้วก็จดมาให้คุณดูนี่แหละ
00:15:45 → 00:15:48 ทีนี้ไหนๆก็พูดถึงเรื่องของไขมัน LDL
00:15:48 → 00:15:51 แล้วนะครับผมก็อยากจะลงลึกไปนิดนึงเรื่อง
00:15:51 → 00:15:56 ของยาที่เอาไว้ใช้ลดไขมันต่างๆนะครับ
00:15:56 → 00:15:59 เพราะว่าแน่นอนทุกคนก็คงจะเคยได้ยินสติน
00:15:59 → 00:16:01 แล้วก็มีความรู้สึกหลายๆอย่างเกี่ยวข้อง
00:16:02 → 00:16:04 กับมันเพราะว่าเคยได้ยินมาว่าเฮ้ยกินสติน
00:16:04 → 00:16:07 แล้วเป็นเบาหวานนะครับกินสตินแล้วมีผลต่อ
00:16:07 → 00:16:09 เรื่องของสมองทำให้เป็นอัลไซเมอร์เป็น
00:16:09 → 00:16:11 ความจำเสื่อมนะครับทำให้ปวดกล้ามเนื้อ
00:16:11 → 00:16:14 เกิดกล้ามเนื้อสลายต้องบอกอย่างี้
00:16:14 → 00:16:17 ผมก็ทำสถิติของสตาตินมาเหมือนกันคือสติน
00:16:17 → 00:16:19 เนี่ยนะฮะในเรื่องของการทำให้เกิดเบาหวาน
00:16:19 → 00:16:23 เโอเคมันทำให้เกิดขึ้นได้อย่างไรก็ตามมัน
00:16:23 → 00:16:26 จะเกิดขึ้นในคนที่มีความเสี่ยงต่อไปนี้
00:16:26 → 00:16:30 ข้อแรกคุณมีเจาะเลือดน้ำตาลแล้วอ่ะถ้า
00:16:30 → 00:16:32 เจาะเลือดน้ำตาลปุ๊บออกมาเนี่ยมันได้ตั้ง
00:16:32 → 00:16:37 แต่ 100 ขึ้นไปนะครับ 100 ขึ้นไปหรือถ้า
00:16:37 → 00:16:39 เกิดคุณน้ำตาลสะสมมันค่อนข้างสูงแล้วคือ
00:16:39 → 00:16:42 เกิน 5.7 7 ไปแล้วเนี่ยเออนั่นแหละคุณ
00:16:42 → 00:16:45 เสี่ยงในการเกิดเบาหวานจริงๆขึ้นมาอันที่
00:16:45 → 00:16:48 2 คุณเป็นโรคอ้วนมีค่า BMI หรือ Body
00:16:48 → 00:16:51 Mass Index ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเอออันนี้
00:16:51 → 00:16:54 คุณเสี่ยงละนะครับแล้วก็ถ้าเกิดคุณมี
00:16:54 → 00:16:56 ปัญหาเรื่องไตกรีซรอะไรพวกเนี้ยก็ยิ่ง
00:16:56 → 00:16:59 เสี่ยงดังนั้นมันแปลว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น
00:16:59 → 00:17:01 กับทุกคนครับมันจะเกิดขึ้นกับคนที่มี
00:17:01 → 00:17:06 ปัญหาแบบนี้นี่แหละแล้วเผลอๆจริงๆถามว่า
00:17:06 → 00:17:08 ในคนที่มันมีปัญหาแบบนี้เช่นน้ำตาลสะสม
00:17:08 → 00:17:11 มันสูงแล้วนะแต่ยังไม่ถึงขั้นเบาหวานนะ
00:17:11 → 00:17:13 ครับมีโรคอ้วนด้วย BMI เกิน 30 เนี่ยนะ
00:17:13 → 00:17:16 ครับแล้วมันมีความจำเป็นจะต้องลด
00:17:16 → 00:17:19 คอเลสเตอรอลขึ้นมาจริงๆเพราะว่ามีโรคหลอด
00:17:19 → 00:17:21 เลือดหัวใจแล้วเราจะใช้ยาสตาตินเนี่ยมัน
00:17:21 → 00:17:24 จะทำให้เราเป็นเบาหวานมั้ยคำตอบก็คือคุณ
00:17:24 → 00:17:26 มีโอกาสแต่ประโยชน์ที่คุณจะได้จากยาตัว
00:17:26 → 00:17:28 เนี้ยสูงมากเพราะว่าเมื่อกี้ลองย้อนกลับ
00:17:29 → 00:17:33 ไปก็ได้ครับคุณสามารถใช้ยาตัวนี้เพื่อลด
00:17:33 → 00:17:36 ไขมอน LDL ลงมาให้มันต่ำกว่าเป้าคือ 70
00:17:36 → 00:17:38 แล้วคุณจะได้ประโยชน์คือป้องกันการเกิด
00:17:38 → 00:17:41 การขาดเลือดของการหัวใจป้องกันการตายจาก
00:17:41 → 00:17:43 สโตรกป้องกันอะไรอย่างเงี้ยคือเยอะแยะเลย
00:17:43 → 00:17:45 คุณจะได้ประโยชน์เหล่านั้นซึ่งถ้าเกิดคุณ
00:17:45 → 00:17:48 ไม่ทำให้มันมีไขมันที่ลงมาได้ระดับนะครับ
00:17:48 → 00:17:49 คุณก็จะไม่ได้ประโยชน์เหล่านี้แล้วเผลอๆ
00:17:49 → 00:17:52 คุณก็มีโอกาสที่จะเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้นะ
00:17:52 → 00:17:55 ครับตัวสตาตtinนั้นโอเคมันมีปัญหาต่อ
00:17:55 → 00:17:58 กล้ามเนื้อจริงๆนะครับเจอพอสมควรอาจจะมี
00:17:58 → 00:18:02 ปวดน่องนะเอ่อต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า
00:18:02 → 00:18:04 สตาตินเวลาที่มันปวดน่ะมักจะปวดตรงน่อง
00:18:04 → 00:18:07 ก่อนนะครับบางคนบอกว่าเฮ้ยกินสตาตินแล้ว
00:18:07 → 00:18:10 ปวดบ่าอันนั้นไม่ใช่จากสตินนะครับไม่
00:18:10 → 00:18:13 เกี่ยวอะไรกันปวดแขนอ่ะไม่ใช่จากสติน
00:18:13 → 00:18:15 เหมือนกันพวกนั้นคือคุณไปยกของหนักหรือทำ
00:18:15 → 00:18:17 ท่าทางอะไรที่ไม่ถูกต้องมันก็เลยโปรดขึ้น
00:18:17 → 00:18:20 มานะครับงั้นตรงนั้นไม่เกี่ยวข้องกันและ
00:18:20 → 00:18:23 สมมุติว่าถ้าเราใช้สตินไปจริงๆแล้วมันมี
00:18:23 → 00:18:26 ปัญหาปวดกล้ามเนื้อเยอะแล้วทำยังไงก็มียา
00:18:26 → 00:18:28 ตัวอื่นครับและในกลุ่มสตินเนี่ยก็มียาตัว
00:18:28 → 00:18:31 ที่มันมีผลต่อกล้ามเนื้อน้อยกว่าตัวอื่น
00:18:31 → 00:18:33 นะครับเช่นสมมุติเรากินอะทอวาแตติตินแล้ว
00:18:33 → 00:18:35 เราปวดมากเงี้ยฮะแล้วก็เปลี่ยนไปเป็น
00:18:35 → 00:18:39 โรซูวาสตtinซึ่งมันมีโอกาสน้อยกว่าแต่ถาม
00:18:39 → 00:18:41 ว่ามีโอกาสได้ไหมมีแต่อย่างไรก็ตามถ้า
00:18:41 → 00:18:43 เกิดคุณไม่แก้ไขทำให้ไขมันคุณลงมาได้
00:18:43 → 00:18:45 เนี่ยนะครับแล้วก็ไม่อยากจะกินยาอะไรเลย
00:18:45 → 00:18:48 อันนั้นน่ะมันก็จะเกิดเรื่องปัญหาของหลอด
00:18:48 → 00:18:52 เลือดหัวใจตามมาได้ถ้าตัวนี้ไม่ได้ผลหรือ
00:18:53 → 00:18:56 มีปัญหาเช่นเอ่อมันทำให้คอลเลสอลของคุณ
00:18:56 → 00:18:58 น่ะมันลงมั้ไม่ยังไม่ได้เป้าหมายหรือคุณ
00:18:59 → 00:19:01 กินคนแล้วเจอผลข้างเคียงเยอะมีมีเอนไซม์
00:19:01 → 00:19:03 ตับมันขึ้นหรือปวดกล้ามเนื้อหรือมีอะไรก็
00:19:03 → 00:19:05 แล้วแต่เนี่ยมันก็จะมียาตัวอื่นที่ใช้ได้
00:19:05 → 00:19:09 อีกนะครับเช่นยา ezap นะครับซึ่งตัวเนี้ย
00:19:09 → 00:19:11 ก็ก็เป็นตัวที่เราใช้ได้อีกตัวนึงซึ่ง
00:19:11 → 00:19:13 เป็นตัวใหม่ล่าสุดแล้วประเทศไทยก็เข้า
00:19:13 → 00:19:16 แล้วมันชื่อว่า Bedroic Acid นะครับแต่
00:19:16 → 00:19:18 Bedoic Acid เนี่ยต้องบอกว่ามันก็มี
00:19:18 → 00:19:20 ปัญหาเรื่องของกล้ามเนื้อเหมือนกันแต่มัน
00:19:20 → 00:19:23 น้อยกว่าสตtinปัญหาเฉพาะอีกอย่างนึงของ
00:19:23 → 00:19:26 Bedroดic acid เนี่ยก็คือมันทำให้บางคน
00:19:26 → 00:19:28 เนี่ยมียูริคสูงได้แล้วก็เกิดเก๊าขึ้นมา
00:19:28 → 00:19:31 ได้ในบางคนที่มีความเสี่ยงอยู่แล้วแต่ถ้า
00:19:31 → 00:19:32 เกิดคุณไม่ได้เป็นเก๊าคุณกินเข้าไปแล้ว
00:19:32 → 00:19:35 ยูริคปกติอยู่แล้วเนี่ยไม่ค่อยเกิดเรื่อง
00:19:35 → 00:19:39 นะคุณสามารถใช้ได้นะครับเอ่อเอ่อมันมียา
00:19:39 → 00:19:41 ฉีดอีกตัวนึงชื่อ PCSK9 Detributor ตัว
00:19:41 → 00:19:44 เนี้ยก็จะแพงหน่อยนะฮะแต่มันก็จะมี
00:19:44 → 00:19:46 ประโยชน์ที่จำเป็นจะต้องใช้คือทั้งหมด
00:19:47 → 00:19:50 เนี่ยยาที่เราพูดมาทั้งหลายทั้งแหลของเรา
00:19:50 → 00:19:52 คือการทำยังไงก็ได้ให้คอเลสรอล LDL ของ
00:19:52 → 00:19:55 คุณลดลงสู่เป้าหมายเพราะว่าเรารู้ว่าถ้า
00:19:55 → 00:19:58 คุณสามารถทำให้ LDL เนี่ยต่ำกว่า 70 ได้
00:19:58 → 00:20:01 และคุณมีโรคหลอดเลือดหัวใจอยู่มันจะช่วย
00:20:01 → 00:20:05 ป้องกันปัญหาต่างๆได้มากเลยนะครับร่างกาย
00:20:05 → 00:20:07 คุณไม่สนหรอกครับว่าคุณจะเอาคอเลสเตอรอล
00:20:07 → 00:20:10 นั้นน่ะลดลดลงไปได้ยังไงคุณจะลดด้วยตัว
00:20:10 → 00:20:14 เองก็ทำได้นะครับแต่ถ้าเกิดคุณทำไม่ได้
00:20:14 → 00:20:17 มันก็จะเกิดปัญหาเหล่านั้นคุณอาจจะไม่
00:20:17 → 00:20:19 ต้องใช้ยาก็ได้นะแต่คุณต้องทำให้ได้ไม่
00:20:19 → 00:20:22 ฉะนั้นคุณก็มีปัญหาอ่าแต่ถ้าเกิดคุณทำเอง
00:20:22 → 00:20:25 แล้วทำเต็มที่เช่นแบบขอลองไม่กินยาได้มนะ
00:20:25 → 00:20:28 ครับมันก็ได้แต่คุณต้องทำให้มันลดลงมาได้
00:20:28 → 00:20:30 ด้วยเหมือนกันเพราะว่าในขณะที่
00:20:30 → 00:20:32 คอเลสเตอรอลของคุณยังสูงอยู่เนี่ยความ
00:20:32 → 00:20:33 เสี่ยงคุณก็ยังไม่ได้ลดไปไหนมันก็ยัง
00:20:33 → 00:20:35 เหมือนเดิมนั่นแหละและถ้าเกิดคุณมีปัญหา
00:20:35 → 00:20:38 เรื่องหลอดเลือดหัวใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
00:20:38 → 00:20:40 และไขมันของคุณมันลงมาไม่ได้คุณก็จะเกิด
00:20:40 → 00:20:42 เรื่องขึ้นมานะ
00:20:42 → 00:20:46 ครับทีนี้ในคลิปนั้นก็ยังมีการบอกว่าไอ้
00:20:46 → 00:20:48 ตัวคอเลสอลเนี่ยมันไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ
00:20:48 → 00:20:50 เพราะมันเป็นตัวท้ายๆที่เข้ามาทำให้หลอด
00:20:50 → 00:20:52 เลือดมันเกิดการอุดตันนะฮะแล้วหลังจาก
00:20:52 → 00:20:53 นั้นก็จะมีแคลเซียมมีเซลล์อะไรก็มาเก็บ
00:20:53 → 00:20:56 กินเกิดปัญหาเต็มไปหมดนะแต่ปัญหาแท้จริง
00:20:56 → 00:20:59 เนี่ยมันอยู่ที่ตัวหลอดเลือดนะครับซึ่ง
00:20:59 → 00:21:03 ต้องบอกอย่างี้ว่าถึงแม้ว่าเราจะให้ยาลด
00:21:03 → 00:21:05 ไขมันหรือเราจะทำยังไงก็ได้ให้ไขมันมันลง
00:21:05 → 00:21:08 มานะครับเราก็ต้องปรับปรับเปลี่ยนวิถี
00:21:08 → 00:21:10 ชีวิตของเราเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหา
00:21:10 → 00:21:13 ต่างๆที่เกิดจากหลอดเลือดพวกเนี้ยมันเกิด
00:21:13 → 00:21:15 ขึ้นได้นะครับป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ
00:21:15 → 00:21:18 โรคสตรกโรคไตโรคอะไรพวกเนี้ยแล้วป้องกัน
00:21:18 → 00:21:21 ยังไงเออสิ่งที่เราทำได้ทำยังไงอันแรก
00:21:21 → 00:21:24 ครับอาหารเราจะใช้อาหารกลุ่มที่เราเรียก
00:21:24 → 00:21:27 ว่า Mediterranean Diet นะครับพวกนี้จะ
00:21:27 → 00:21:29 เป็นอาหารที่มีกากใยไฟเบอร์สูงพวกผักอะไร
00:21:29 → 00:21:32 พวกนี้เยอะหน่อยนะครับแล้วเราก็จะลดการ
00:21:32 → 00:21:34 รับประทานเนื้อแดงลดพวกอาหารที่เป็น
00:21:35 → 00:21:36 process food หรืออาหารแปรรูปต่างต่างๆ
00:21:36 → 00:21:39 นะครับเพราะพวกนั้นน่ะมันจะมีปัญหาแล้วก็
00:21:39 → 00:21:42 ไปใช้อาหารกลุ่มพวกนี้แทนนะครับอันที่ 2
00:21:42 → 00:21:44 การออกกำลังกายซึ่งจะต้องทำทั้งการออก
00:21:44 → 00:21:48 กำลังกายแบบ aobic และการออกกำลังกายแบบ
00:21:48 → 00:21:49 weight training หรือ resistance
00:21:49 → 00:21:52 exercise ซึ่ง 2 อย่างเนี้ยสำคัญมากๆนะ
00:21:52 → 00:21:55 ครับเอิ่อันที่ 3 ถ้าคุณสูบุหรี่อันนี้
00:21:55 → 00:21:58 แน่นอนคุณต้องเลิกบุหรี่ทั้งบุหรี่จริงนะ
00:21:58 → 00:22:03 ครับบุหรี่มวลจริงๆบุหรี่ไฟฟ้าไอคหรือพอต
00:22:03 → 00:22:04 หรืออะไรก็แล้วแต่ทุกอย่างที่คุณสูบเข้า
00:22:04 → 00:22:06 ไปเนี่ยคุณต้องเลิกซะ
00:22:06 → 00:22:08 นะครับถ้าคุณสูบกัญชาโอเคคุณก็ต้องเลิก
00:22:08 → 00:22:10 เหมือนกันนั่นแหละทุกอย่างที่สูบมีผลหมด
00:22:10 → 00:22:13 เลยนะครับนิโคตีนถ้าใครใช้อยู่เช่น
00:22:13 → 00:22:16 นิโคตินเป็นหมักฝรั่งเป็นแผ่นแปะหรือเป็น
00:22:16 → 00:22:17 อะไรก็แล้วแต่อันเนี้ยก็จะมีปัญหาเหมือน
00:22:17 → 00:22:21 กันคุณต้องหยุดมันไปซะครับนี่คือสิ่งที่
00:22:21 → 00:22:25 คุณทำได้ต่อมาเรื่องของความเครียดคุณต้อง
00:22:25 → 00:22:26 ลดความเครียดได้เพราะว่าถ้าเกิดคุณเครียด
00:22:27 → 00:22:29 มากๆคุณก็จะเป็นโรคพวกนี้กำเริบได้การนอน
00:22:29 → 00:22:32 หลับคุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอถ้าใครมีโรค
00:22:32 → 00:22:35 หยุดหายใจในขนาดหลับแล้วคุณไม่รักษาคุณก็
00:22:35 → 00:22:37 ก็มีโอกาสที่โรคพวกนี้ก็จะกำเริบขึ้นมา
00:22:37 → 00:22:41 ได้โรคประจำตัวอื่นๆเช่นเบาหวานความดัน
00:22:41 → 00:22:44 โรคไตไขมันสูงคุณต้องคุมมันให้ดีเพราะถ้า
00:22:44 → 00:22:46 คุณคุมไม่ดีหลอดเลือดเลือดคุณมีปัญหาคุณ
00:22:46 → 00:22:49 ก็จะเกิดเรื่องขึ้นมาได้ถึงแม้ว่าคุณยัง
00:22:49 → 00:22:51 กินยาสตาตินทำให้ LDL ของคุณเป็นปกติคุณ
00:22:51 → 00:22:54 ก็ต้องแก้ไขการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตพวก
00:22:54 → 00:22:56 นี้เพราะถ้าคุณไม่ทำความเสี่ยงของคุณมัน
00:22:56 → 00:23:00 ก็ยังคงสูงกว่าปกติอยู่ดีนั่นแหละครับนะ
00:23:00 → 00:23:03 เอิ่มตรงนี้คิดว่าน่าจะน่าจะหมดเรื่องของ
00:23:03 → 00:23:07 เปอร์เซ็นต์ทั้งหมดที่ผมหามาะนะดังนั้น
00:23:07 → 00:23:10 เรื่องนี้นะครับขอสรุปคร่าวๆอย่างนี้คือ
00:23:10 → 00:23:14 การสวนหลอดเลือดหัวใจเพื่อทำบลูนและสตน
00:23:14 → 00:23:17 เนี่ยมันมีประโยชน์แล้วมันก็มีโทษเรา
00:23:17 → 00:23:21 จำเป็นจะต้องเลือกให้คนไข้นั้นมีประโยชน์
00:23:21 → 00:23:25 มากกว่าโทษถึงจะคุ้มค่าการไปทำไม่ใช่ทุก
00:23:25 → 00:23:28 คนที่บอกว่าเฮ้ยทำบรลูนแล้วไม่มีประโยชน์
00:23:28 → 00:23:32 เลยอันเนี้ยไม่จริงไม่จริงเลยนะครับ 2
00:23:32 → 00:23:35 เรื่องของคอเลสเตอรอลนะครับคอเลสเตอรอล
00:23:36 → 00:23:38 เนี่ยคุณลดมันลงมาได้เข้าเป้าในคนที่มี
00:23:38 → 00:23:40 ปัญหาเรื่องหลอดเลือดหัวใจเค้าจะได้
00:23:40 → 00:23:43 ประโยชน์ครับตรงเนี้ยชัดเจนมากนะมีข้อมูล
00:23:43 → 00:23:46 ชัดเจนใครบอกไม่มีข้อมูลอันนี้ไม่ได้นะ
00:23:46 → 00:23:49 ครับมีข้อมูลแบบเป๊ะๆเลยด้วยว่ามันกี่
00:23:49 → 00:23:50 เปอร์เซ็นต์อย่างที่เมื่อกี้ผมเล่าเป็น
00:23:50 → 00:23:54 เปอร์เซ็นต์ไปให้ฟังทั้งหมดนะฮะก็ช่วยได้
00:23:54 → 00:23:56 ส่วนคุณจะไปทำยังไงให้มันลดนั้นอันเนี้ย
00:23:56 → 00:23:59 แล้วแต่คุณแล้วถ้าเกิดคุณบอกว่าฉันมั่นใจ
00:23:59 → 00:24:01 ว่าสามารถลดมาด้วยตัวเองได้ออกกำลังกาย
00:24:01 → 00:24:03 ได้คุมอาหารได้ดีแล้วมันจะต้องลดแน่ๆ
00:24:03 → 00:24:06 อันเนี้ยก็แล้วแต่แต่ผมจะบอกแค่ว่าถ้า
00:24:06 → 00:24:08 เกิดคุณมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดหัวใจ
00:24:08 → 00:24:11 แล้วคุณจะต้องรีบลดมันลงมาให้เร็วที่สุด
00:24:11 → 00:24:13 จะไม่เหมือนคนที่ไม่มีความเสี่ยงอีกต่อไป
00:24:13 → 00:24:16 แล้วนะครับถ้าเกิดคุณไม่มีความเสี่ยงอะไร
00:24:16 → 00:24:18 เลยนะครับหลอดเลือดหัวใจคุณก็ไม่มี
00:24:18 → 00:24:20 ครอบครัวคุณไม่เคยมีใครเป็นโรคหลอดเลือด
00:24:20 → 00:24:23 หัวใจโรคสโตรกอะไรพวกเนี้ยแล้วก็ไปเจอว่า
00:24:23 → 00:24:25 ไอ้ตัว LDL คอเลสเตอรอลของคุณสูงอย่าง
00:24:25 → 00:24:26 เดียวเนี่ยเอ้ออย่างเงี้ยผมว่าคุณยังรอ
00:24:26 → 00:24:27 ได้
00:24:27 → 00:24:30 นะคุณยังบอกว่าเอ้ยเดี๋ยวขอไปออกกำลังกาย
00:24:31 → 00:24:35 ไปลดอาหารที่มันมีปัญหานะครับแล้วก็ลอง
00:24:35 → 00:24:37 เดือน 2 เดือนไปเจาะดูซิว่ามันลงมามั้ย
00:24:37 → 00:24:39 ถ้า 2 เดือนแล้วมันลงมาโอเคคุณก็ทำอย่าง
00:24:39 → 00:24:42 นี้ต่อไปคุณมาถูกทางและนะแต่มันก็มีโอกาส
00:24:42 → 00:24:44 ที่มันจะไม่ลงเหมือนกันใช่มั้ฮะถ้ามันไม่
00:24:44 → 00:24:47 ลงคุณก็อาจจะเฮ้ยพยายามเต็มที่แล้วมันไม่
00:24:47 → 00:24:51 ลงปล่อยไว้เนี่ยมีปัญหาแน่ก็ต้องไปกินยา
00:24:51 → 00:24:54 นะในพวกนั้นอย่างไรก็ตามผมจะเห็นคนประเภท
00:24:54 → 00:24:55 หนึ่ง
00:24:55 → 00:24:59 ซึ่งพยายามแล้วมันไม่ลงแล้วก็หาเหตุผล
00:24:59 → 00:25:01 เข้าข้างตัวเองเช่นไปฟังเฮ้ยมีกูรูคนนึง
00:25:01 → 00:25:04 เ้าบอกว่าการกินยาสตาตินเนี่ยมันไม่ดีนะ
00:25:04 → 00:25:07 กินแล้วเดี๋ยวสมองเสื่อมซึ่งมันไม่จริงนะ
00:25:07 → 00:25:08 ตรงนี้ข้อมูลออกมาชัดเจนแล้วว่ามันไม่
00:25:08 → 00:25:11 เกี่ยวอะไรกับสมองเสื่อมนะครับเอ่อไปฟัง
00:25:11 → 00:25:13 มาว่ามันทำให้กล้ามมันสลายกันแล้วไม่ดี
00:25:13 → 00:25:15 อย่างงั้นอย่างี้เป็นเบาหวานคือหาเหตุผล
00:25:15 → 00:25:17 ที่คุณจะได้ไม่ต้องกินแล้วก็ไปฟังเหตุผล
00:25:17 → 00:25:20 มาอีกอย่างนึงเบอกว่าคอเลสอล LDL เนี่ย
00:25:20 → 00:25:22 ถ้ามันเยอะมันไม่ได้แปลว่าคุณจะมีปัญหา
00:25:22 → 00:25:25 เสมอไปนะเออโอเคมันก็เป็นแบบนั้นแหละมัน
00:25:25 → 00:25:27 มีบางกรณีที่มันจะไม่เป็นปัญหาแต่ส่วน
00:25:27 → 00:25:31 ใหญ่แล้วมันเป็นปัญหาครับนะฮะงั้นเราต้อง
00:25:31 → 00:25:33 อย่าหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเพราะว่าคุณ
00:25:33 → 00:25:36 ต้องอย่าลืมว่าเนี่ยพวกเราไม่ได้มาเถียง
00:25:36 → 00:25:37 กันว่าคุณควรจะต้องทำยังไงแต่มันคือร่าง
00:25:37 → 00:25:40 กายของคุณนะครับแล้วข้อมูลที่ผมเอามาเล่า
00:25:40 → 00:25:42 ให้ฟังทั้งหมดเนี่ยมันไม่ใช่อยู่ๆเค้าคิด
00:25:42 → 00:25:45 ขึ้นมาเองนะครับเต้องมีการเก็บตัวอย่างทำ
00:25:45 → 00:25:48 การวิจัยทำการทดลองเยอะแยะไปหมดจนกระทั่ง
00:25:48 → 00:25:50 เรารู้แน่ชัดว่าเออการลดคอเลสเตอรอลเนี่ย
00:25:50 → 00:25:54 ลดเท่าไหร่มันถึงจะดีนะครับแล้วใครที่ลด
00:25:54 → 00:25:57 แล้วได้ประโยชน์นะเค้าศึกษามาชัดเจนแล้ว
00:25:57 → 00:25:59 ไม่ได้อยู่แบบเอ้ยเอาตัวเลขนี้มาเฉยๆมัน
00:25:59 → 00:26:02 ไม่เป็นแบบนั้นนะครับโอเคโอเควันนี้ผมก็
00:26:02 → 00:26:04 เล่าให้ฟังเท่านี้นะครับหวังว่าทุกคนจะ
00:26:04 → 00:26:08 เข้าใจได้ถูกต้องนะครับแล้วก็ถ้าใครยังมี
00:26:08 → 00:26:11 ข้อกังขาไม่แน่ใจสามารถตามไปอ่านเอกสาร
00:26:11 → 00:26:13 วิชาการซึ่งผมแปะลิงก์ไว้ให้ทั้งหมดได้นะ
00:26:13 → 00:26:15 ครับโอเควันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณมาก
00:26:15 → 00:26:19 ครับสวัสดีครับ