00:00:00 → 00:00:02 เหมือนกับหัวข้อที่ที่เราเกริ่นกันมา
00:00:02 → 00:00:06 เนี่ยจริงๆจริงๆแล้วความสัมพันธ์ในออย่าง
00:00:06 → 00:00:09 ถ้าเป็นปกติโดยธรรมชาติเนี่ยนะครับที่เรา
00:00:09 → 00:00:12 ก็ก็รู้กันมานานน่ะก็เวลาความสัมพันธ์ใน
00:00:12 → 00:00:14 เรื่องของทางเพศเนี่ยมันก็มักจะเป็นความ
00:00:14 → 00:00:17 สัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงค่ะนะครับก็
00:00:17 → 00:00:20 เป็นปกติอันนั้นก็โดยโดยเฉพาะยิ่งสมัย
00:00:20 → 00:00:22 ก่อนเนี่ยเราก็จะถือว่ามีแต่ความสัแบบนี้
00:00:22 → 00:00:24 แหละนะครับแต่ว่าปัจจุบันเนี่ยก็อย่างที่
00:00:25 → 00:00:28 เราทราบครับโลกก็เป็นยุคใหม่ะก็พัฒนากัน
00:00:28 → 00:00:32 มาโหเป็นหลายร 100 ปีะก็ถึงเวลาที่เ่อ
00:00:32 → 00:00:35 สังคมเราก็เปิดกว้างมากขึ้นว่าในแง่ความ
00:00:35 → 00:00:39 สัมพันธ์การรักให้ชอบพอกันเนี่ยมันไม่ได้
00:00:39 → 00:00:41 จำเป็นจะต้องเป็นผู้ชายกับผู้หญิงเสมอไป
00:00:41 → 00:00:44 นะครับก่อนหน้าเเราอาจจะจะเรียนรู้หรือ
00:00:44 → 00:00:47 ว่าพอเข้าใจกันในเรื่องกับชายกับชายมา
00:00:47 → 00:00:50 ก่อนใช่มครับแล้วก็หลังๆเนี่ยก็เพิ่งจะ
00:00:51 → 00:00:52 เป็นที่เปิดเผยในเรื่องของหญิงกับหญิง
00:00:52 → 00:00:55 บ้างนะครับแล้วก็เดี๋ยวนี้เราก็เพิ่งๆจะ
00:00:55 → 00:00:58 มีขนาดมีเป็นกฎหมายอครับว่ามันมันมีความ
00:00:58 → 00:01:01 เท่าเทียมกันน่ะเราสาเสมรสเท่าเทียมกัน
00:01:01 → 00:01:03 ได้แต่งงานกันไม่ต้องไปเหมือนสมัยก่อน
00:01:03 → 00:01:06 แล้วว่าจะมีแต่ชายกับหญิงแต่งงานได้แต่
00:01:06 → 00:01:07 ผู้ชายกับผู้ชายไม่ได้ผู้หญิงกับผู้หญิง
00:01:08 → 00:01:11 ไม่ได้ต้องต้องแบบคือมันก็รู้สึกเป็นใน
00:01:11 → 00:01:13 กลุ่มเนี้ยยซึ่งซึก็ไม่ได้เป็นอะไรก็เป็น
00:01:13 → 00:01:15 พลเมืองที่ดีของชาติเราอ่ะครับแต่ว่าเก็
00:01:15 → 00:01:17 รู้สึกน้อยเนืทำใจว่าตรงเนี้มันทำไมมัน
00:01:17 → 00:01:20 เหมือนไม่เท่าเทียมกันแต่ปัจจุบันเนี้ยอ
00:01:20 → 00:01:24 กลับมาเท่าเทียมกันและครับคราวนี้พอเรา
00:01:24 → 00:01:26 พูดถึงหัวข้อของเราเนี่ยนะครับพอเท่า
00:01:26 → 00:01:27 เทียมกันเนี่ยมันเท่าเทียมกันทุกอย่าง
00:01:27 → 00:01:30 อะไรหรือเปล่านะครับอ่าอย่างโรคติดต่อทาง
00:01:30 → 00:01:33 เพศสัมพันธ์เนี่ยกลุ่มที่เป็นเอ่อคนที่
00:01:33 → 00:01:35 รักเพศเดียวกันอย่างชายกับชายหรือญิงกับ
00:01:35 → 00:01:37 หญิงเนี่ยก็จะมีความเสี่ยงในเรื่องของโรค
00:01:37 → 00:01:39 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เนี่ยเข้ากับชายกับ
00:01:39 → 00:01:42 หญิงหรือเปล่านะครับจริงๆตรงนี้เนี่ยนะ
00:01:42 → 00:01:44 ครับในหัวข้อเรื่องหญิงกับหญิงเนี่ยอาจจะ
00:01:44 → 00:01:46 เป็นหัวข้อที่ที่อาจจะดูพิเศษแล้วก็
00:01:46 → 00:01:49 เหมือนมที่คุณเจฟว่าไว้ตอนต้นว่าเอ่อเรา
00:01:49 → 00:01:52 มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนักเพราะว่า
00:01:52 → 00:01:56 เราไปรู้สึกว่าหญิงกับหญิงเนี่ยเอ๊ะมัน
00:01:56 → 00:01:59 ไม่น่าจะมีความเสี่ยงอะไรมากค่ะนะครับอ่า
00:01:59 → 00:02:01 ความรู้สึกบางทีที่เรากลัวเออเรารู้สึก
00:02:01 → 00:02:03 ใช่มั้ย
00:02:03 → 00:02:06 ครับที่กลัวที่เรากลัวกันเนี่ยในในเวลา
00:02:06 → 00:02:08 เรื่องเพความเรื่องความสัมพัทางเพศเนะ
00:02:08 → 00:02:10 ครับอันแรกเราก็เราก็กลัวเรื่องเรื่องการ
00:02:10 → 00:02:13 การมีการมีลูกยังไม่พร้อมอ่ะก็ไปห่วง
00:02:13 → 00:02:15 เรื่องการคนกำเนิดการตั้งครรภ์โดยไม่พึง
00:02:15 → 00:02:18 ประสงคนะครับทั้ชายกับหญิงเป็นปัญหาแน่
00:02:18 → 00:02:20 แต่ว่ากรณีแบบเนี้ยพอเป็นชายกับชายหรือ
00:02:20 → 00:02:22 หญิงกับหญิงเนี่ยเราจะรู้สึกว่าเรื่อง
00:02:22 → 00:02:25 เนี้ยโอสบายใจได้เลยมันไม่เกิดขึ้นอนะมัน
00:02:25 → 00:02:28 ไม่มันไม่ตั้งท้องขึ้นมาแล้วเเดียวกัน
00:02:28 → 00:02:33 นไขผสมนะครับคราวนี้เอ่อที่มาพร้อมกับการ
00:02:33 → 00:02:35 มีเพศสัมพันธ์แล้วโอเคคอยระมัดระวัง
00:02:35 → 00:02:38 เรื่องป้องกันเรื่องการตั้งครรภ์เนี่ยอีก
00:02:38 → 00:02:39 เรื่องนึงที่เราก็ป้องกันก็คือมันก็ป้อง
00:02:39 → 00:02:42 กันเกี่กับโลกที่มันถ่ายทอดโดยติดต่อทาง
00:02:42 → 00:02:45 เพศสัมพัธ์นะครับซึ่งอครับเวลาที่เวลาที่
00:02:45 → 00:02:49 ตัวละคร 1 ตัวเป็นผู้ชายอ่ะนะครับเช่นชาย
00:02:49 → 00:02:52 กับหญิงหรือว่าชายกับชายเนี่ยเ่อสังคม
00:02:52 → 00:02:55 บ้านเราเนี่ยจะมีความรู้สึกคือคือมันไม่
00:02:55 → 00:02:57 ใช่แค่ความรู้สึกอย่างเดียวนะครับว่า
00:02:57 → 00:03:00 เหมือนกับผู้ชายเนี่ยเค้าจะเจะมีมีความ
00:03:00 → 00:03:03 รู้แบบออะผู้ชายอาจจะเป็นคนที่เหมือนไม่
00:03:03 → 00:03:06 ใช่สมัยนี้อยู่นะสมัยก่อนเลยเหมือนแบบ
00:03:06 → 00:03:09 สมัยโบราณเลยแบบวันคดีแล้วคุณแผนอะไร
00:03:09 → 00:03:12 เงี้ยนะครับนะหรือว่าคนสมัยนี้พอพอเป็น
00:03:12 → 00:03:14 ผู้ชายสมัยปัจจุบันเนี่ยเอ่อเจ้าชู้มีผู้
00:03:14 → 00:03:17 หญิงหลายๆคนเนี่ยกลับไม่ค่อยถูกตำหนิเข้า
00:03:17 → 00:03:20 กับผู้หญิงไม่มีผู้ชายหลายๆคนค่ะอ่าๆมัน
00:03:20 → 00:03:22 มักจะเป็นอย่างงั้นมันมักจะเป็นอย่างงั้น
00:03:22 → 00:03:23 โดยความรู้สึกอ่ะนะฮะซึ่งเพเป็นอย่าง
00:03:23 → 00:03:27 เงี้ยจึงทำให้เ่อโดยการรับรู้ทั่วๆไปของ
00:03:27 → 00:03:29 พวกเราเนี่ยเราก็จะรู้สึกว่าผู้ชายเนี่ย
00:03:29 → 00:03:32 ก็อาจจะไปแบบมีคู่นอนหลายๆคนไม่ว่าจะเป็น
00:03:32 → 00:03:34 สมมติในกลุ่มผู้ชายไปมีคู่นอนเป็นผู้หญิง
00:03:34 → 00:03:36 หลายๆคนมาก่อนแล้วในที่สุดถึงจะมาอยู่
00:03:36 → 00:03:39 เป็นครอบครัวกับภรรยาของเขาหรือว่าผู้ชาย
00:03:39 → 00:03:41 เองก็อาจจะไปมีคู่นอนหลายๆคนมาแล้วก็ถึง
00:03:41 → 00:03:43 จะมาอยู่เป็นอ่าสมมติว่าเป็นชายรักชายก็
00:03:43 → 00:03:46 อยู่เป็นคู่กับกับคนรักของเขาอแต่ว่ามัน
00:03:46 → 00:03:49 เหมือนกับว่าเป็นที่ที่เรามักจะเข้าใจว่า
00:03:49 → 00:03:51 คนที่เป็นผู้ชายเนี่ยก็เอาน่ะไม่ถือกัน
00:03:51 → 00:03:54 ว่าเ่อแต่ก่อนหน้านี้เคยอาจจะเคยมีแฟนมี
00:03:54 → 00:03:56 เพสัมพันธ์มาก่อนะก่อนที่จะมาอยู่เป็น
00:03:56 → 00:03:59 ครอบครัวกันเพราะฉะนั้นอืเราจึงมีความรู้
00:03:59 → 00:04:01 สึกว่าผู้ชายเนี่ยมันจึงมีความเสี่ยงที่
00:04:01 → 00:04:04 จะไปรับเชื้อใช่มั้ยครับแบบสถานเรืองลม
00:04:04 → 00:04:06 ยังเป็นสถานที่เที่ยวสำหรับแบบส่วนใหญ่ก็
00:04:06 → 00:04:08 เป็นผู้ชายไปเที่ยวผู้หญิงอะไรอย่าเงี้ย
00:04:08 → 00:04:11 ค่ะนะเพราะฉะนั้นเราจะมีความรู้สึกว่าถ้า
00:04:11 → 00:04:14 เป็นความสัมพันธ์ที่ตัวละครคนนึงเป็นผู้
00:04:14 → 00:04:16 ชายอ่ะนะมันมีโอกาสที่มันจะมีความเสี่ยง
00:04:16 → 00:04:19 เรืื่องโลพสัมพันธ์สูงกว่าเพราะว่าเพราะ
00:04:19 → 00:04:22 ว่าแหมก็เจ้าผู้ชายเนี่ยมันแบบโดยสังคม
00:04:22 → 00:04:27 มันแบบเที่ยวสำส่อนฟโอหสุกนแดูน่ารักวก็
00:04:27 → 00:04:29 ก็ก็จะนำเชื้อมาได้ง่ายนะครับอันนี้คุณโอ
00:04:29 → 00:04:32 ครับยกมือขัดแย้งนะฮะอันนี้ผมผมผมยกคุณ
00:04:32 → 00:04:34 โอ๊ไคน
00:04:34 → 00:04:37 นึงรู้คุณโอ๊ไม่เป็นนะ
00:04:37 → 00:04:41 ฮะครับเราเราเราเหมือนกันเราเข้าใจกันไง
00:04:41 → 00:04:45 เอใช่ครับใช่ครับคุณหมอใช่ๆฮะครับเพราะ
00:04:45 → 00:04:48 ฉะนั้นพอพอเรารู้สึกอย่างเงี้ยเวลาเราเรา
00:04:48 → 00:04:51 ระแวดระวังอ่ะหรือว่าตื่นตัวในเรื่องเโรค
00:04:51 → 00:04:54 ติดต่อทงเพศสัมพันธ์ต่างๆเนี่ยเราจะเป็น
00:04:54 → 00:04:56 ห่วงในเรื่องของความสัมพันธ์หญิงชายหรือ
00:04:56 → 00:04:59 ความสัมพันธ์เรื่องรักรเพศของผู้ชายอนะ
00:04:59 → 00:05:02 ครับครับแต่พอมาพูดถึงผู้หญิงเนี่ยพอเรา
00:05:02 → 00:05:04 รู้สึกว่าผู้หญิงน่ะเป็นเพศที่เขาแบบรัก
00:05:05 → 00:05:08 นวลสงวนตัวเขาอยู่ในวัฒนธรรมอันดีงาม
00:05:08 → 00:05:12 เนี่ยเอ่อเขาก็เลยไอ้ความถูกเจ็บกดด้วย
00:05:12 → 00:05:14 วัฒนธรรมเหล่าเนี้ยมันก็ทำให้สภาพที่แสดง
00:05:15 → 00:05:17 ออกมาเนี่ยเถามว่าเขาจะมีจิตใจเหมือนกับ
00:05:17 → 00:05:20 ผู้ชายมก็มีจิตใจเหมือนกันแหละมีแรงขับ
00:05:20 → 00:05:23 ดันทางเพศมีเรื่องของฮอร์โมนเพศอะไรต่างๆ
00:05:23 → 00:05:25 ตามธรรมชาติที่ทำให้ไอ้ความรู้สึกเรื่อง
00:05:25 → 00:05:27 ทางเพศเนี่ยมันก็หมอก็เชื่อว่ามันก็ไม่
00:05:27 → 00:05:30 ได้ด้อยกว่ากว่าฝั่งผู้ชายนะนะครับแต่ว่า
00:05:30 → 00:05:33 คราวนี้ความที่สังคมเนี่ยไปมองหรือว่าไป
00:05:33 → 00:05:35 จัดวางให้ผู้หญิงเนี่ยต้องอยู่ในเพศที่
00:05:35 → 00:05:37 เรียบร้อยเป็นเป็นอยู่กับเย่าเฝ้ากับ
00:05:37 → 00:05:40 เรือนอะไรไม่ใช่คนที่จะแบบเอ้ยไปมีผู้
00:05:40 → 00:05:43 หญิงไปมีแฟนหลายๆคนเนี่ยจะถูกมองไม่ดีไอ้
00:05:43 → 00:05:46 ความสัมพันธ์แบบที่ผู้หญิงนะครับเขาไปไป
00:05:46 → 00:05:48 มีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายอื่นๆนะ
00:05:48 → 00:05:51 หรือว่าอาจจะเป็นกับผู้หญิงด้วยกันเนี่ย
00:05:51 → 00:05:54 มันจึงถูกเก็บซ่อนเอาไว้อือจะเป็นลักษณะ
00:05:54 → 00:05:57 คามสดซ่อนเพราะฉะนั้นในความรู้สึกของเรา
00:05:57 → 00:05:59 เนี่ยเราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราพูดถึงหัว
00:05:59 → 00:06:01 ข้อวันเนี้บอกว่าอ่าถ้าผู้หญิงมันมี
00:06:01 → 00:06:03 เพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเนี่ยแล้วก็ต่างคน
00:06:03 → 00:06:05 ต่างก็น่าจะปลอดภัยไงเพราะเป็นคนที่เไม่
00:06:05 → 00:06:08 ได้แบบมีคู่นอนหลายคนอยู่แล้วนะครับซึ่ง
00:06:08 → 00:06:12 อันเนี้ยจริงๆแล้วเนี่ยนะครับอ่าอยากให้
00:06:12 → 00:06:14 หมออยากให้ทุกๆคนเนี่ยลองมองอีกมุมนึงก็
00:06:14 → 00:06:17 คือต้องลองเข้าใจใหม่ว่าในเมื่อมันเป็น
00:06:17 → 00:06:19 ความต้องการแล้วเราบอกว่าเราทุกอย่างเท่า
00:06:19 → 00:06:21 เทียมกันจริงๆเนี่ยนะครับผู้หญิงกับผู้
00:06:21 → 00:06:23 หญิงเนี่ยนะฮะเวลามีความสัมพันธ์กันเนี่ย
00:06:23 → 00:06:26 นะครับพื้นฐานเบื้องหลังแต่ก่อนเนี่ยมา
00:06:26 → 00:06:28 สัมผัสใกล้ชิดกันเนี่ยเาอาจจะเคยเป็นผู้
00:06:28 → 00:06:32 หญิงที่มีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนก็ได้อืครับ
00:06:32 → 00:06:34 เพราะฉะนั้นไอ้ที่เรามองว่าผู้หญิงกับผู้
00:06:34 → 00:06:36 หญิงเนี่ยไม่มีตัวละครผู้ชายมาเกี่ยวข้อง
00:06:36 → 00:06:39 เนี่ยมันมีมันมีเกี่ยวข้องมาก่อนแล้วเอาจ
00:06:39 → 00:06:42 จะมีโรคที่ถ่ายทอดมาอยู่ที่ตัวเขานะครับ
00:06:42 → 00:06:45 แล้วมันเหมือนกับไม่แสดงอาการชัดเจนเสร็จ
00:06:45 → 00:06:49 แล้วคนในที่สุดอ่ามามามีสัมพันธ์กับผู้
00:06:49 → 00:06:51 หญิงด้วยกันนะครับต่างคนก็ต่างคิดว่าแล้ว
00:06:51 → 00:06:54 มันก็น่าจะปลอดภัยทั้งคู่อ่ะเอ่อความ
00:06:54 → 00:06:56 ระแวดระวังหรือการป้องกันเนี่ยมันก็เลย
00:06:56 → 00:07:00 น้อยกว่านะครับเอ่ออนี้พศสัมพันธ์สมมุติ
00:07:00 → 00:07:02 เราพูดในแง่พศสัมพันธ์ของคุณผู้หญิงอ
00:07:02 → 00:07:04 เพศสัมพันธ์ไม่ไม่ต้องผู้หญิงกับผู้หญิง
00:07:04 → 00:07:06 ก็ได้ผู้หญิงกับผู้ชายเนี่ยเอ่อทั่วไปมัน
00:07:06 → 00:07:08 ก็เป็นในเรื่องของการที่ทำให้มันมีความ
00:07:08 → 00:07:11 รู้สึกที่แบบเอ่อมีความสุขทางเพศซึ่งพวก
00:07:11 → 00:07:13 เนี้ยก็มักจะต้องมีลักษณะของการสัมผัส
00:07:13 → 00:07:16 ใกล้ชิดกันนะครับการสัมผัสนั้นก็อาจจะ
00:07:16 → 00:07:19 เป็นการสัมผัสโอเคผิวหนังกับผิวหนังกอด
00:07:19 → 00:07:23 กันจูบกันเป็นอปากสัมผัสกันนะครับหรือว่า
00:07:23 → 00:07:26 อาจจะมีการไปสัมผัสที่บริเวณอวยเพศนะครับ
00:07:26 → 00:07:28 ซึ่งสัมผัสอรยเพศเนี่ยก็อาจจะเป็นลักษณะ
00:07:28 → 00:07:31 ของอาจจะเป็นมือมือนะครับไปสัมผัสนะครับ
00:07:31 → 00:07:34 หรือแม้แต่บางบางทีก็มีเพศสัมพันธ์โดยโดย
00:07:34 → 00:07:37 การใช้ปากก็จะมีลักษณะปากสัมผัสหรือแม้
00:07:37 → 00:07:40 กระทั่งยเพศของผู้หญิงมาสัมผัสกันเองนะ
00:07:40 → 00:07:42 ครับการสัมผัสเสียดสีใกล้ชิดกันเนี่ยนะ
00:07:42 → 00:07:46 ครับนอกจากอ่าทำมีความเสี่ยงที่ไอ้เอ่อ
00:07:46 → 00:07:48 เชื้อโรคติดต่อต่างๆที่มันอาจจะอยู่
00:07:48 → 00:07:50 บริเวณพื้นผิวอย่างที่เราบอกแล้วเนี่ยจะ
00:07:50 → 00:07:53 เป็นอววเพศก็ตามจะเป็นมือจะเป็นผิวหนัง
00:07:53 → 00:07:55 ร่างกายหรือจะเป็นปากหรือช่องคออะไรต่างๆ
00:07:55 → 00:07:58 ก็ตามเนี่ยนะครับบริเวณพื้นผิวเหล่าเยก็
00:07:58 → 00:08:00 อาจจะมีเชื้อโรคต่างๆที่สามารถติดต่อผ่าน
00:08:00 → 00:08:04 กันได้อืครับยิ่งไปกว่านั้นในบริเวณเหล่า
00:08:04 → 00:08:06 เนี้ยไม่ใช่แค่พื้นกิวอย่างเดียวแต่มัน
00:08:06 → 00:08:09 ยังมีสารคัหลั่งต่างๆในช่องคลอดเราอาจจะ
00:08:09 → 00:08:13 มีน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดนะครับในช่องปาก
00:08:13 → 00:08:16 เราก็จะมีน้ำลายนะครับแล้วก็ยิ่งไปกว่า
00:08:16 → 00:08:18 นั้นนะครับในส่วนของคุณผู้หญิงเนี่ยมันก็
00:08:18 → 00:08:21 จะมีบางช่วงของการมีเ่อลักษณะของการผู้
00:08:21 → 00:08:24 หญิงก็จะมีตกขาวอ่ะบางทีตกขาวมันก็มีการ
00:08:24 → 00:08:26 อักเสบมีเชื้อโรคอยู่ซึ่งเราเราไม่ได้พูด
00:08:26 → 00:08:29 ถึงติดต่อนเพศสันธ์อย่างเดียวแต่ว่าพอเรา
00:08:29 → 00:08:31 พูถึงเชื้อโรกต่างๆแบบอ่ะเราเป็นตกขาวที่
00:08:31 → 00:08:34 คันช่องคลอดมีการอักเสบมีอะไต่างๆเหล่า
00:08:34 → 00:08:36 เนี้ยพวกเนี้ยมันก็สามารถส่งผ่านไปยังอีก
00:08:36 → 00:08:39 คนนึงถ้ามาสัมผัสกันได้เหมือนกันอือใช่ม
00:08:39 → 00:08:42 ครับรวมไปถึงผู้หญิงบางช่วงจะมีมีลักษณะ
00:08:42 → 00:08:45 มีเลือดประจำเดือนออกด้วยอ่ะค่ะนะครับ
00:08:45 → 00:08:47 อะไรที่มันสามารถถ่ายทอดเชื้อโรคต่างๆที่
00:08:47 → 00:08:49 ถ่ายทอดผ่านเลือดได้ก็จะยิ่งสามารถไป
00:08:49 → 00:08:51 สัมผัสใกล้ชิดได้ซึ่งอันนี้ถ้าเราเทียบ
00:08:51 → 00:08:53 กันนึกอย่างฝั่งผู้ชายซึ่งเขาไม่ได้มี
00:08:53 → 00:08:55 เรื่องของเลือดประจำเดือนเนี่ยไอ้การถ่าย
00:08:55 → 00:08:57 ทอดทางเลือดก็จะยากกว่าไอ้กรณีแบบนี้จะ
00:08:57 → 00:09:00 ต้องเกิดแบบมีแผลมีอะไรอะไรต่างๆเกิดขึ้น
00:09:00 → 00:09:03 อืครับเพราะยิ่งไปกว่านั้นนะครับเวลาเรา
00:09:03 → 00:09:07 พูดถึงเอ่อเวลามีเ่อการป้องกันเกี่ยวกับ
00:09:07 → 00:09:09 อ่าโรคทางเพศสัมพันธ์เนี่ยถ้าเป็น
00:09:09 → 00:09:12 เพศสัมพันธ์ของชายกับหญิงเนี่ยนะครับเ่อ
00:09:12 → 00:09:14 หรือแม้กระทั่งชายกับชายก็ตามเถอะนะครับ
00:09:14 → 00:09:17 เราก็มักจะลงเอยยด้วยอ่าอย่างน้อยๆเรามี
00:09:17 → 00:09:19 ถุงยางอนามัยค่ะอ่าใช่อนามัยเมาห่อหุ้ม
00:09:19 → 00:09:22 อววเพศของคุณผู้ชายไว้นะครับเวลาเมีเพศ
00:09:22 → 00:09:25 สัมพันธ์กับผู้หญิงมันก็มันก็อย่างน้อยๆ
00:09:25 → 00:09:28 เนี่ยมันลดการสัมผัสลดการสัมผัสของศาลคั
00:09:28 → 00:09:30 หลั่งต่างๆได้ออหรือแม้กระทั่งเป็นผู้ชาย
00:09:30 → 00:09:32 กับผู้ชายเนี่ยนะครับสมมติมีเทพสัมพันธ์
00:09:32 → 00:09:34 แล้วแล้วอาจจะล่วงล้ำไปทางทวารหนักต่างๆ
00:09:34 → 00:09:37 การใส่สิอานมัยเนี่ยมันก็ป้องกันไปได้
00:09:37 → 00:09:39 ส่วนนึงป้องกันการสัมผัสพวกสารคัดหลัง
00:09:39 → 00:09:41 สัมผัสพวกเชื้อโรคจากผิวสัมผัสบริเวณอเ
00:09:41 → 00:09:44 เพศแต่เราลองคิดภาพของผู้หญิงกับผู้หญิงอ
00:09:44 → 00:09:47 ครับอเเพศมาสัมผัสกันเนี่ยมันไม่มีถุงยาง
00:09:47 → 00:09:51 อนามัยผู้หญิงมันไม่มีนะเออนะที่ห่อใช่
00:09:51 → 00:09:54 ที่มันจะห่อหุ้มไงนะฮะครับเราอาจจะเคยได้
00:09:54 → 00:09:56 ยินว่าถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงน่ะมีแต่
00:09:56 → 00:09:58 ว่าถุงยางอนามัยซึ่งผู้หญิงเมันจะเป็น
00:09:58 → 00:10:00 เหมือนกับหมวกที่เป็นเหมือนกับกลลมๆคล้าย
00:10:00 → 00:10:03 ๆสถุงยาอลมผู้ชายเหมือนนะฮะแต่มันจะใส่
00:10:03 → 00:10:05 เข้าไปในช่องคลอดแล้วไปครอบไว้ที่ปากงบ
00:10:05 → 00:10:08 ลูกในลักษณะของการป้องกันไม่ให้อแบบว่ามี
00:10:08 → 00:10:11 การเอ่อเอ่อเวลาที่ผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์
00:10:11 → 00:10:13 กับผู้ชายอ่ะป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้า
00:10:13 → 00:10:15 ไปครับมผู้ชายก็มันก็มีถุงยางอนามัยป้อง
00:10:15 → 00:10:17 กันอสุจิใช่มั้ยผู้หญิงเก็มีอันเนี้ยไป
00:10:17 → 00:10:19 ครอบที่ปากมดลูกไม่ให้มันเกิดการตั้ง
00:10:19 → 00:10:23 ครรภ์อือืแต่เชื้อโรคมันยังสัมผัสกันอยู่
00:10:23 → 00:10:26 ดีไงฮะมันสแล้วมันไม่ได้ครอบคลุมไปทั้ง
00:10:26 → 00:10:30 ผิวหนังภายนอกต่างๆอะไรอย่างนั้นอือครับ
00:10:30 → 00:10:33 นะครับเพราะฉะนั้นจากทั้ง 2 สาเหตุหลักๆ
00:10:33 → 00:10:36 ก็คือความที่เรารู้สึกว่าเอ๊ผู้หญิงน่าจะ
00:10:36 → 00:10:39 ปลอดภัยกว่าน่าจะไม่มีความเสี่ยงแล้วก็
00:10:39 → 00:10:42 การที่ถึงแม้เราจะรู้รู้สึกว่ามันเสี่ยง
00:10:42 → 00:10:44 แล้วเราอยากจะป้องกันมันก็ป้องกันยากอ่ะ
00:10:44 → 00:10:46 มันไม่ได้อุปกรณ์เป็นถุงยางทำไมเหมือนของ
00:10:46 → 00:10:50 ผู้ชายมาใช้อเพราะฉะนั้นความเสี่ยงของการ
00:10:50 → 00:10:54 ที่อาจจะเกิดการติดต่ออ่าทางโรคต่างๆทาง
00:10:54 → 00:10:57 เพศสัมพันธ์ในผู้หญิงจริงๆเนี่ยนะครับใน
00:10:57 → 00:10:59 หญิงรักหญิงเนี่ยก็ไม่ได้ด้อยไปกับผู้ชาย
00:10:59 → 00:11:02 เอ่อกับผู้หญิงหรือผู้ชายกับผู้ชายเลยค่ะ
00:11:02 → 00:11:05 เผลอๆเนี่ยโดยการป้องกันที่ยากเนี่ยอาจจะ
00:11:05 → 00:11:08 ยิ่งทำให้เอ่อมีการอัตราการติดเชื้อที่
00:11:08 → 00:11:12 สูงขึ้นก็เป็นไปได้นะครับแล้วถเราเปุ๊บนะ
00:11:12 → 00:11:14 ฮะอย่างเราจะเราจะทราบว่าเดี๋ยวเนี้ยอ
00:11:14 → 00:11:17 เอ่อหลายๆคนเนี่ยนะครับเราเราเราเราเคย
00:11:17 → 00:11:19 พูดเรื่องนี้ไปบ้างแล้วเอ่อเดี๋ยวนี้มัน
00:11:19 → 00:11:22 มีรูปแบบของการสัมพันธ์แบบผู้ชายผู้หญิงเ
00:11:22 → 00:11:24 ก็มีแบบไปเที่ยวกันถูกอกถูกใจกันแล้วก็มี
00:11:24 → 00:11:26 แบบไมีเพศสัมพันธ์กัน one night stand
00:11:26 → 00:11:29 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยเรายังเคยพูดถึงเลย
00:11:29 → 00:11:33 ว่าเดี๋ยวเนี้ยก็ก็หลายๆคนก็รึตื่นตัวนะ
00:11:33 → 00:11:36 ฮะมาตรวจตรวจสุขภาพตัวเองเหมือนเอาเอาคู่
00:11:36 → 00:11:38 ที่จะมามีวันน Stand กันเนี่ยบางทีมาตรวจ
00:11:38 → 00:11:41 กันก่อนมาตรวจซิว่าไอ้คนนี้มีโรคติดต่อ
00:11:41 → 00:11:44 ทางเพศสำพันธ์มีฟิิมี HIV มีอะไรต่างๆมา
00:11:44 → 00:11:47 เจาะเลือดมาตรวจอะไรต่างๆกันก่อนแต่ผู้
00:11:47 → 00:11:50 หญิงกับผู้ิจูมือกันมาเนี่ยไม่เคยเจอเลย
00:11:50 → 00:11:53 นะอเพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อเราไม่มีการ
00:11:53 → 00:11:55 ระแวดระวังไม่ได้เตรียมป้องกันไม่ได้ตรวจ
00:11:55 → 00:11:57 อะไรต่างๆให้พร้อมไว้ก่อนเนี่ยนะครับแถม
00:11:58 → 00:12:00 วิธีป้องกันด้วยคดมันก็ใช้ไม่ได้ด้วย
00:12:00 → 00:12:02 อย่างเงี้ยนะครับอันเนี้ยยิ่งเป็นความ
00:12:02 → 00:12:05 เสี่ยงที่เอ่อเอ่อหัวข้อในรายการวันเนี้
00:12:06 → 00:12:08 อยากให้คุณผู้ฟังที่ฟังเนี่ยนะครับเอ่อ
00:12:08 → 00:12:10 อาจจะเป็นผู้ที่เป็นผู้ที่หญิงนักหญิง
00:12:10 → 00:12:13 หรือว่าอาจจะมีเ่อหลานๆลูกๆน้องๆใน
00:12:14 → 00:12:15 ครอบครัวซึ่งเดี๋ยวนี้เราก็เราก็ยอมรับ
00:12:15 → 00:12:17 แล้วละสังคมเราก็ใจกว้างขึ้นนะครับถ้ามี
00:12:17 → 00:12:20 อย่างเงี้ยอย่างน้อยๆจะได้นำความรู้ตรง
00:12:20 → 00:12:23 เนี้ยไปช่วยในการเอ่อเอ่อให้ให้คำเตือน
00:12:23 → 00:12:28 หรือว่าคอยป้องกันใจมาขึ้นออืนะครับค่ะา
00:12:28 → 00:12:30 นี้ถ้าเราจะเริ่มเ่าเกี่ยวกับหัวข้อเนี่ย
00:12:30 → 00:12:33 นะครับแรกๆก็ต้องมาทำความเข้าใจกันว่า
00:12:33 → 00:12:36 งั้นมันมีโรคติดต่อเพสอะไรบ้างน่ะที่ผู้
00:12:36 → 00:12:39 หญิงเขาจะมีความเสี่ยงได้นะครับครับเรา
00:12:39 → 00:12:41 อาจจะแยกจำแนกโรคพวกเนี้ยนะครับที่ติดต่อ
00:12:41 → 00:12:44 เนี่ยนะครับโดยโดยเอ่อโดยแยกเป็นชนิดของ
00:12:44 → 00:12:48 เชื้อโรคก็ได้นะครับชนิดที่ 1 นะครับเ่อ
00:12:48 → 00:12:50 เชื้อโรคชนิดที่เป็นแบคทีเรียนะครับถาม
00:12:50 → 00:12:52 ว่าแบคทีเรียเนี่ยมันจะติดต่อได้ยังไงนะ
00:12:52 → 00:12:55 ครับแบคทีเรียเนี่ยนะครับเขอาจจะมีอยู่
00:12:55 → 00:12:58 ตามพื้นผิวของผิวหนังเราอยู่ะนะครับเเรา
00:12:58 → 00:13:01 เกิดเกิดแผลเกิดรอยถลอกอะไรต่างๆเนี่ย
00:13:01 → 00:13:03 แบคทีเรียที่อยู่หนังเนี่ยมันก็จะเข้าสู่
00:13:03 → 00:13:06 ทางบาดแผลแล้วก็เข้าไปทำให้เกิดการอักเสบ
00:13:06 → 00:13:08 เป็นแผลติดเชื้ออะไรต่างๆนะครับง่ายๆเลย
00:13:08 → 00:13:10 เหมือนเหมือนกับเราแบบบางทีเราเป็นแผลโดน
00:13:10 → 00:13:12 ิบาตอะไรเงี้ยถ้าเราดูแลรักษาแผลไม่ดี
00:13:12 → 00:13:14 เนี่ยเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นหนองเป็นการ
00:13:14 → 00:13:16 อักเสบอันนั้นแหละครับเป็นลักษณะของการ
00:13:16 → 00:13:19 ติดเชื้อแบคทีเรียนะครับเพราะฉะนั้นโรค
00:13:19 → 00:13:21 ผิวหนังที่เกิดจากแบคทีเรียเนี่ยมันจึงมี
00:13:21 → 00:13:24 เตั้งแต่เอ่อในเรื่องถ้าพูดถึงการมีเพศ
00:13:25 → 00:13:27 สัมพันธ์ในผู้หญิงเนี่ยมันแน่นอนอยู่แล้ว
00:13:27 → 00:13:29 ครับมันเกิดจากการสัมผัสเสียดสีกันเพราะ
00:13:29 → 00:13:32 ว่าเอ่อวัตถุประสงค์ในการที่อ่อเอ่อคุณ
00:13:33 → 00:13:34 ผู้หญิงเข้ามามีเพียสัมพันธ์กันแน่นอน
00:13:34 → 00:13:37 ครับส่วนนั้นก็มาจากความรักความพออกพอใจ
00:13:37 → 00:13:40 แต่ว่าในระหว่างที่เอ่อมีเพศสพันธกัน
00:13:40 → 00:13:43 เนี่ยเ่อมันก็เป็นแรงขับดันโดยธรรมชาติ
00:13:43 → 00:13:45 ที่อยากจะให้มีความสุขทางเพศซึ่งเมื่อ
00:13:45 → 00:13:48 ต้องการมีความสุขให้เพศเนี่ยมันก็ต้องมี
00:13:48 → 00:13:51 ลักษณะของการไปกระตุ้นในจุดในตำแหน่งต่าง
00:13:51 → 00:13:54 ๆของร่างกายที่ที่มันจะช่วยปลุกเร้าความ
00:13:54 → 00:13:57 รู้สึกทางเพศอ่ะค่ะนะครับอ่าเพราะฉะนั้น
00:13:57 → 00:13:59 คราวนี้ถ้าปลุกเร้าความรู้สึกทางเพศใน
00:13:59 → 00:14:02 หญิงเนี่ยนะครับเอ่อตำแหน่งที่จะปลุกได้
00:14:02 → 00:14:04 มากที่สุดก็คือตำแหน่งของ cris นะครับ
00:14:04 → 00:14:08 ซึ่งิิเนี่ยอ่าถ้าเรามองไปที่อวยเพศเนี่ย
00:14:08 → 00:14:10 นะครับมันจะเหมือนมองอเเหมือนเป็นนาฬิกา
00:14:10 → 00:14:13 เนี่ยนะครับมันจะอยู่ที่ตำแหน่ง 1200 น
00:14:13 → 00:14:16 อยู่ด้านบนเลยนะครับด้านบนสุดซึ่งตรงเไป
00:14:16 → 00:14:18 สัมผัสไปเสษสีโดนมันจะเป็นปุ่มเล็กๆอ่ะนะ
00:14:18 → 00:14:21 ครับที่ยื่นออกมาตรงบริเวณเอ่ออวประเภท
00:14:21 → 00:14:24 ภายนอกเนี่ยนะครับอันเนี้ยสัมผัสก็จะไป
00:14:24 → 00:14:26 กระตุ้นในเรื่องของความรู้สึกทางเพศได้
00:14:27 → 00:14:30 แล้วถ้าถ้าจากตรงเนะครับจากที่ิแล้วลึก
00:14:30 → 00:14:32 เข้าไปนะครับลึกเข้าไปเนี่ยทางผนังช่อง
00:14:32 → 00:14:36 คลอดทางด้านหน้าก็จะมีจุดๆนึงเนี่ยนะครับ
00:14:36 → 00:14:38 ที่เราเรียกว่า G สอนะครับก็จะเป็นจุดที่
00:14:38 → 00:14:40 เอไปสัมผัสไปกระตุ้นเนี่ยก็จะทำให้เกิด
00:14:40 → 00:14:43 ความพึงพอใจเกิดความสุขทางเพศได้เพราะ
00:14:43 → 00:14:45 ฉะนั้นถ้าเป็นกรณีของคุณผู้หญิงเนี่ยที่
00:14:45 → 00:14:48 เขามามีเพศสัมพันธ์กันเนี่ยส่วนใหญ่ก็มัก
00:14:48 → 00:14:51 จะต้องมีการไปกระตุ้นบริเวณแถวนี้นะครับ
00:14:51 → 00:14:53 คิหรือว่าตำแหน่งของ G สปอซึ่งแน่นอน
00:14:53 → 00:14:56 เมื่อ G สปมันอยู่ลึกเข้าไปในช่องคลอด
00:14:56 → 00:14:59 เนี่ยเอ่อวิธีการกระตุ้นเนี่ยมันก็ก็จะ
00:14:59 → 00:15:02 ต้องมีการกระตุ้นโดยต้องอาจจะต้องใช้นิ้ว
00:15:02 → 00:15:05 นะครับใช้นิ้วซึ่งใช้นิ้วเนี่ยคุณผู้หญิง
00:15:05 → 00:15:08 บางทีก็อย่างที่เราทราบคุณผู้หญิงก็บาง
00:15:08 → 00:15:10 หลายๆท่านก็จะไว้เล็บอ่ะคือเวลาเรามอง
00:15:10 → 00:15:13 ความสัมพันธ์ของคุณผู้หญิง 2 คนเนี่ยค่ะ
00:15:13 → 00:15:16 เอ่อบางทีเราเราลบภาพว่าคนนึงต้องเป็นทอม
00:15:16 → 00:15:18 ดูลักษณะเหมือนเป็นผู้ชายแมนๆคนนึงเป็น
00:15:18 → 00:15:21 ผู้หญิงไม่ไม่ไม่เสมอไปนะฮะเดี๋ยวนี้บาง
00:15:21 → 00:15:23 ทีเป็นผู้หญิงทั้งทั้ง 2 อ่ะครับที่เรา
00:15:23 → 00:15:25 เรียกคล้ายๆว่าเลสเบี้นเนี่ยคือเาเป็นผู้
00:15:25 → 00:15:27 หญิงเป็นผู้หญิงแต่งตัวสวยดีๆทั้งคู่เลย
00:15:27 → 00:15:30 แต่เามีรถนมนิยมคือเขาชอบผู้หญิงด้วยกัน
00:15:30 → 00:15:33 อย่างเงี้ยอืเวลเขาก็ยังคงแต่งตัวแบบไว้
00:15:33 → 00:15:36 เล็บยาวทาสีเล็บอะไรต่างๆเหมือนเดิมอ่ะ
00:15:36 → 00:15:38 สวยเหมือนเดิมเวลามันมีเพศสัมผัสแล้วเ
00:15:38 → 00:15:40 ต้องมีการใช้นิ้วไปสัมผัสในบริเวณตำแหน่ง
00:15:41 → 00:15:44 คริติตำหน่งสปอพวกเนี้ยมันย่อมทำให้เกิด
00:15:44 → 00:15:46 แผลเกิดรอยถลอกเกิดการฉีดขาดแล้วก็ทำให้
00:15:46 → 00:15:49 มีแบคทีเรียเนี่ยเ่อบริเวณผิวหนังพวก
00:15:49 → 00:15:51 เนี้ยมันลุกลามเข้าไปเกิดการติดเชื้อตาม
00:15:51 → 00:15:54 มาได้นะครับครับเอ่อการการกระตุ้นเนี่ย
00:15:54 → 00:15:56 บางทียังไม่ได้จบแค่นี้ด้วยบางทีเมื่อ
00:15:56 → 00:15:58 ต้องกระตุ้นลึกเข้าไปเนี่ยบางทีถ้าไม่ใช่
00:15:58 → 00:16:00 ถ้าไม่ใช่เล็บก็อาจจะเป็นไม่ใช้เล็บไม่
00:16:00 → 00:16:02 ใช่นิ้วเนี่ยบางทีก็จะเป็นเหมือนกับการ
00:16:02 → 00:16:06 การชพันโดยใช้ปากค่ะใช้ปากจะมีการใช้ลิ้น
00:16:06 → 00:16:09 อะไรต่างๆพวกเนี้ยไปสัมผัสนะครับหรือมาก
00:16:09 → 00:16:11 ไปกว่านั้นเนี่ยอาจจะมีการใช้อุปกรณ์ที่
00:16:11 → 00:16:13 เป็นของเล่นเราเรียกว่าเ Toys พวกเนี้ยนะ
00:16:13 → 00:16:15 ครับเพื่อให้มันร่วงล้ำเข้าไปแล้วไปแบบ
00:16:15 → 00:16:17 เหมือนกับไปกระตุ้นไปปลุกเร้าบริเวณ
00:16:17 → 00:16:20 ตำแหน่งต่างๆพวกเนี้ยเพื่อเพื่อให้เหมือน
00:16:20 → 00:16:22 กับเอ่อฝ่ายคู่รักของเรามีความสุขเต็มที่
00:16:22 → 00:16:25 อย่างเงี้ยนะครับเพราะฉะนั้นโดยกระบวนการ
00:16:25 → 00:16:28 ต่างๆเหล่าเนี้ยมันก็มีโอกาสที่แบคทีเรีย
00:16:28 → 00:16:30 เนี่ยจะเข้าสู่ส้างไได้นะครับเพราะฉะนั้น
00:16:30 → 00:16:32 แบคทีเรียเนี่ยในกลุ่มแรกอย่างที่หอบอกก็
00:16:32 → 00:16:34 เหมือนกับการเป็นแผลแล้วเกิดเป็นหนองติด
00:16:34 → 00:16:37 เชื้อทั่วๆไปนะครับแต่ว่าถ้าเป็น
00:16:37 → 00:16:39 แบคทีเรียชนิดพิเศษนะครับอย่างแบคทีเรีย
00:16:39 → 00:16:41 ตัวนึงที่ชื่อว่า
00:16:41 → 00:16:44 mia เนี่ยถ้าเราติดเชื้อแบคทีเรียตัว
00:16:44 → 00:16:46 เนี้ยนะครับมันจะทำให้เป็นลักษณะของการ
00:16:46 → 00:16:48 เป็นแผลที่กลายเป็นหนองในที่เราเรียกว่า
00:16:48 → 00:16:52 เป็นหนองในแท้อืนะครับรวมไปถึงแบคทีเรีย
00:16:52 → 00:16:55 ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าคาเดียนะครับถ้าถ้าไป
00:16:55 → 00:16:57 ล่วงล้ำเข้าไปแล้วไปเกิดการติดเชื้อก็จะ
00:16:57 → 00:17:00 เป็นลักษณะของหนองไเเทียนค่ะครับซึ่งการ
00:17:00 → 00:17:02 ติดเชื้อหนองในเนี่ยมันจะติดเชื้อได้ตั้ง
00:17:02 → 00:17:06 แต่บริเวณเอ่อช่องคลอดนะครับลึกเข้าไปที่
00:17:06 → 00:17:08 ปากมดลูกนะครับบริเวณใกล้เคียงคือท่อ
00:17:08 → 00:17:12 ปัสสาวะนะครับแล้วก็อาจจะไปทางด้านหลัง
00:17:12 → 00:17:16 คือไปถึงลำไส้ได้นะครับบริเวณทวาได้นอก
00:17:16 → 00:17:19 จากนี้ถ้าส่วนที่ไปสัมผัสเนี่ยเป็นปากและ
00:17:19 → 00:17:21 ลิ้นอย่างเงี้ยนะครับจากการมีเพสัมพันธ์
00:17:21 → 00:17:24 โดยการใช้ปากเนี่ยมันก็จะเชื้อนี่ก็จะไป
00:17:24 → 00:17:27 ทำการติดเชื้ออยู่ในลำคอได้นะครับซึ่งตรง
00:17:27 → 00:17:31 เนี้ยมันก็มันก็ถือเป็นโรคติดต่อทงพ
00:17:31 → 00:17:33 สัมพันธ์ที่สำคัญอันหนึ่งนะครับก็คือหนอง
00:17:33 → 00:17:35 ในทั้งแท้และเทียมอันนี้คือเกิดจาก
00:17:35 → 00:17:38 แบคทีเรียอนอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียอีก
00:17:38 → 00:17:40 ชนิดนึงนะครับนะที่ติดเชื้อแล้วที่เรา
00:17:40 → 00:17:43 เรียกว่าเป็นเป็นเชื้อิิินะครับพวกเนี้ย
00:17:43 → 00:17:46 อันเนี้ยเวลาติดเชื้อเข้าไปเนี่ยนะครับ
00:17:46 → 00:17:47 อาจจะไม่มีอาการเหมือนหนองนายเทียมไอ้พวก
00:17:47 → 00:17:49 หนองนายเทียมหนองนายแทนเนี่ยลักษณะก็บอก
00:17:49 → 00:17:51 ไปแล้วว่าชื่อมันเป็นหนองมันก็จะมีลักษณะ
00:17:52 → 00:17:53 ของการมีหนองมีสารคัดหลั่งออกมาให้เรา
00:17:53 → 00:17:56 เห็นแต่ว่าถ้าเราติดเชื้อพวกฟิเนี่ยนะ
00:17:56 → 00:17:59 ครับเชื้อมันอาจจะแฝงตัวซ่อนอยู่ใน่าร่าง
00:17:59 → 00:18:02 กายเนี่ยนานนับปีเลยโดยไม่แสดงอาการนะ
00:18:02 → 00:18:04 ครับแล้วมันถึงจะแสดงอาการในระยะที่ 1
00:18:04 → 00:18:07 ระยะที่ 2 ออกมาแล้วก็เอ่อความน่ากลัวของ
00:18:07 → 00:18:09 ซิฟิลิสเนี่ยก็คือมันอาจจะไปซ่อนอยู่แล้ว
00:18:09 → 00:18:13 ก็ไปแสดงอาการที่ระบบประสาทระบบประสาทและ
00:18:13 → 00:18:15 สมองทำให้เกิดการติดเชื้อที่ซิฟิลิสขึ้น
00:18:15 → 00:18:18 สมองได้ออนะครับซึ่งก็ก็เป็นภาวะที่
00:18:18 → 00:18:20 อันตรายสูงขึ้นมาอีกเพราะฉะนั้นในกลุ่ม
00:18:20 → 00:18:22 ที่ 1 ของการติดเชื้อแบคทีเรียเนี่ยนะ
00:18:22 → 00:18:25 ครับที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์กว้างๆก็
00:18:25 → 00:18:27 จะแบ่งเป็นเอ่อการติดเชื้อแบคทีเรียทั่ว
00:18:27 → 00:18:30 ไปเป็นหนองทั่วๆไปหรือว่าเป็นหนองที่เกิด
00:18:30 → 00:18:33 จากหนองนายแท้หนองนายเทียมนะครับหรือเกิด
00:18:33 → 00:18:36 จากซิอนะครับครับอันที่ 2 กลุ่มของเชื้อ
00:18:36 → 00:18:40 รานะครับเชื้อาเนี่ยนะครับเอ่อมันมีอยู่
00:18:40 → 00:18:42 ตามพื้นผิวทั่วๆไปเพราะฉะนั้นในบริเวณที่
00:18:42 → 00:18:45 อับชื้นนะครับประเทศไทยเราเป็นเขตที่เอ่อ
00:18:45 → 00:18:48 อากาศร้อนแล้วก็อย่างบริเวณอวัยวะสื่อ
00:18:48 → 00:18:50 พันธุ์นะครับเ่อช่องคลอดมันมีสารคัดหลั่ง
00:18:50 → 00:18:52 มีความอับชื้นหรือแม้กระทั่งในช่องปากและ
00:18:52 → 00:18:55 คอหอยเนี่ยมันก็มีน้ำลายมีน้ำเมืองซึ่ง
00:18:55 → 00:18:59 อับชื้นอับชื้นร่วมกับอากาศน้อนนะครับ
00:18:59 → 00:19:01 เชื้อราก็จะเจริญเติบโตได้ดีนะครับเพราะ
00:19:02 → 00:19:05 ฉะนั้นการมาสัมผัสเนี่ยนะครับอาจจะทำให้
00:19:05 → 00:19:08 ติดเชื้อราจากอีกคนนึงจะยเพศอีกคนนึงไป
00:19:08 → 00:19:11 ติดเชื้อราที่อีกคนนึงได้ด้วยนะครับแต่
00:19:11 → 00:19:13 เชื้อราเก็จะมีลักษณะที่ชัดเจนก็คือมันก็
00:19:13 → 00:19:16 จะมีลักษณะเป็นผืนนะครับมีอาการคันนะครับ
00:19:16 → 00:19:19 อาการคันเป็นหลักเพราะฉะนั้นการเอ่อเชื้อ
00:19:19 → 00:19:22 ราเนี่ยอันตรายก็จะไม่ได้มากนักวิธีการ
00:19:22 → 00:19:24 รักษาก็ไม่ได้ยากก็คือเราก็จะมีการให้ยา
00:19:24 → 00:19:27 สำหรับอาจจะเป็นยาทาเฉพาะที่ถ้าเราทา
00:19:27 → 00:19:29 บริเวณผืนที่เป็นเชลาหรือว่าอาจจะต้องให้
00:19:30 → 00:19:32 รับประทานถ้ามันแบบเป็นเป็นเชืลาที่ลึก
00:19:32 → 00:19:34 เข้าไปในช่องคลอดแล้วเราทาไม่ถึงหรือว่า
00:19:34 → 00:19:36 หรือว่ามันลึกเข้าไปในช่องคออะไรอย่าง
00:19:36 → 00:19:38 เงี้ยนะครับก็จะมีเป็นชนิยารับประทาน
00:19:38 → 00:19:41 เพื่อรักษาได้นะครับชนิที่ 3 เนี่ยเป็น
00:19:41 → 00:19:44 กลุ่มเชื้อโรคที่เราเรียกว่าโปรโตซัวนะ
00:19:44 → 00:19:47 ครับหรือพยาตนะครับโกที่เป็นพยาธเนี่ยนะ
00:19:47 → 00:19:49 ครับตัวที่เรารู้จักกันอันนี้เป็นเรื่อง
00:19:49 → 00:19:52 ปกติเลยเนี่ยก็คือพยาธเนี่ยมันแน่นอนครับ
00:19:52 → 00:19:54 ช่องคลอดมันอยู่ติดกับเทวารหนักอยู่แล้ว
00:19:54 → 00:19:56 มันมีโอกาสติดเชื้อที่เป็นพวกกลุ่มพยาต
00:19:56 → 00:19:59 อะไรต่างๆโดยฉะยิ่งถ้าเราไปเจอพยาที่ชื่อ
00:19:59 → 00:20:02 ว่าทิสเนี่ยพยาจะทำให้มีการติดเชื้อแล้ว
00:20:02 → 00:20:05 อาการที่เห็นก็จะมีตกขาวนะครับที่มี
00:20:05 → 00:20:08 ลักษณะแฟองๆนะครับค่ะแล้วก็มีกลิ่นเหม็น
00:20:08 → 00:20:11 นะครับแล้วก็เ่ออาการเมันจะลุกลามไปที่
00:20:11 → 00:20:14 ทางเดินปัสสาวะด้วยคนที่แบบเ่อติดเชื้อ
00:20:14 → 00:20:16 พยาธิในทางเดือปัสสาวะเนี่ยมันเอในทางใน
00:20:16 → 00:20:18 ช่องคลอดเนี่ยนะครับก็จะมีอาการเจ็บแสบ
00:20:19 → 00:20:22 ขัดที่ในช่องคลอดและท่อปัสสาวะนะครับแต่
00:20:22 → 00:20:24 การรักษาพวกนี้ก็ไม่ได้ยากครับเราก็จะมี
00:20:24 → 00:20:27 ยาปิณที่จะคอยรักษาแล้วก็เชื้อที่มนสนี่
00:20:27 → 00:20:31 ก็จะหายได้นะครับอืกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่ม
00:20:31 → 00:20:33 ที่เรากลัวมากที่สุดนะครับอันนี้คือกลุ่ม
00:20:33 → 00:20:36 การติดเชื้อไวรัสนะครับอย่างไวรัสนะครับ
00:20:36 → 00:20:38 ตัวแรกเลยตัวแรกเลยที่เรารู้จักกันคือ
00:20:38 → 00:20:42 ไวรัสเริมนะครับค่ะเริมที่อวัยวเพศเนี่ย
00:20:42 → 00:20:45 นะครับเอ่อมันอาจจะติดเชื้อได้ตั้งแต่ผิว
00:20:45 → 00:20:50 ของอวเพศภายนอกนะครับหรือว่าไปที่บริเวณ
00:20:50 → 00:20:53 ข้างเคียงก็คือบริเวณทวารหนักนะครับหรือ
00:20:53 → 00:20:56 อาจจะติดเชื้อไปที่ปากนะครับและคอหอยนะ
00:20:56 → 00:20:59 ครับลักษณะของการติดเชื้อเอ่อไวไวรัสเริม
00:20:59 → 00:21:02 เนี่ยก็คือเอ่อบริเวณที่ติดเชื้อเนี่ยมัน
00:21:02 → 00:21:05 จะมีลักษณะเป็นแผลที่เป็นตุ่มน้ำใสๆนะ
00:21:05 → 00:21:08 ครับซึ่งตอนที่ตุ่มน้ำเนี่ยมันยังมันยัง
00:21:08 → 00:21:10 ยังไม่แตกอ่ะค่ะแต่หลายๆคนก็จะมีอาการแค่
00:21:10 → 00:21:12 รู้สึกเหมือนระคายเคืองนิดหน่อยแต่ถ้า
00:21:12 → 00:21:15 ตุ่มน้ำนี่แตกเมื่อไหร่เนะครับมันจะมีน้ำ
00:21:15 → 00:21:17 ใสๆออกมาจากตุ่มและจะทำให้แผลบริเวณนั้น
00:21:17 → 00:21:21 เนี่ยเป็นแผลที่แสบอแสบและเจ็บทรมานมากนะ
00:21:21 → 00:21:25 ครับหลายๆคนอาจจะเคยแบบกัดปากตัวเองกัด
00:21:25 → 00:21:28 ลิ้งตัวเองแล้วไปแใช่ๆอ่าอย่างงั้นแหละ
00:21:28 → 00:21:30 ครับอเป็นแผลค้ายๆจะแสบๆร้อนๆอย่างงั้น
00:21:30 → 00:21:33 เลยนะครับอืซึ่งพอมันพอมันเกิดขึ้นบางที
00:21:33 → 00:21:35 เวลามันเริมเนี่ยมันจะเป็นหลายจุดด้วย
00:21:35 → 00:21:38 เหมือนพอจุดนึงไปสัมผัสไอ้ไอฝั่งตรงข้าม
00:21:38 → 00:21:40 ก็จะเป็นด้วยเหมือนกับแคมซ้ายแคมขวาไปติด
00:21:40 → 00:21:43 กันก็จะสัมผัสไปด้วยเหมือนกับเป็นรอยคิ
00:21:43 → 00:21:45 ซิ่งเหมือนกับลักษณะของตลุ่มมันจะเป็น
00:21:45 → 00:21:47 อย่างนั้นเพราะฉะนั้นมันจะยิ่งแสบเจ็บ
00:21:47 → 00:21:50 ร้อนในอริยเพศอย่างทรมานมากทีเดียวคนะ
00:21:50 → 00:21:53 ครับออันเนี้ยเอ่อบริเวณที่เป็นเนี่ยนะ
00:21:53 → 00:21:56 ครับเ่อการรักษาเรื่องเริมเนี่ยจริงๆเรา
00:21:56 → 00:22:00 ก็ใช้วิธีการรักษาด้วยการทั้งทายานะครับ
00:22:00 → 00:22:02 แล้วก็มีทั้งการให้ยาเป็นรับประทานเพื่อ
00:22:03 → 00:22:05 เป็นพวกกลุ่มยาที่ต้านไวรัสนะครับมันก็จะ
00:22:05 → 00:22:07 ช่วยให้อาการดีขึ้นได้แต่ข้อเสียของเริม
00:22:07 → 00:22:10 ที่อวัยเพศเนี่ยนะครับหรือหรือระบบสืบ
00:22:10 → 00:22:12 พันธุ์เนี่ยก็คือเริมเนี่ยเมื่อเป็นแล้ว
00:22:12 → 00:22:15 เนี่ยเชื้อมันมักจะไม่หายขาดครับอเชื้อ
00:22:15 → 00:22:18 มันจะไปซ่อนอยู่ในในร่างกายของเรานะครับ
00:22:18 → 00:22:21 เพราะฉะนั้นเอ่อเอ่อรอวันที่เมื่อไหร่ที่
00:22:21 → 00:22:24 ร่างกายเราอ่อนแอนะครับช่วงที่ร่างกายเรา
00:22:24 → 00:22:26 แข็งแรงดีอ่ะเราออกกำลังกายดีพักผ่อน
00:22:26 → 00:22:30 เพียงพอเอ่อสทานอาหารมีประโยชน์นะครับไม่
00:22:30 → 00:22:33 เครียดไม่เหนื่อยภูป้องกันเราดีเนี่ยเริม
00:22:33 → 00:22:35 ก็จะไม่แสดงอาการแต่ถ้าเมื่อไหร่ร่างกาย
00:22:35 → 00:22:37 เราอ่อนแอเช่นเราพอดีเราเจ็บไครได้ป่วย
00:22:37 → 00:22:40 จากโรคอื่นหรือกัดเทียหรือนอนดึกหรือว่า
00:22:40 → 00:22:43 เครียดนะครับเอ่ออาการเหล่าเจะทำใหู้
00:22:43 → 00:22:45 ระดับภูมิกันลดลงไอ้เชื้อเริมที่ซ่อนอยู่
00:22:45 → 00:22:47 เนี่ยมันก็จะแสดงอาการขึ้นมาได้มันอารมณ์
00:22:47 → 00:22:50 เดียวกับเริมที่ปากมคะคุณหมอเหมือนเวลาคน
00:22:50 → 00:22:52 เป็นแบบพักผ่อนน้อยหรือเครียดอะไรเงี้ย
00:22:52 → 00:22:54 บางคนก็จะเป็นเริมที่ปากเงี้ยอารมณ์เดียว
00:22:54 → 00:22:57 กันมั้ยคะใช่ครับใช่ครับการเป็นเริมเนี่ย
00:22:57 → 00:22:59 มีทั้งทบริเวณมันเริมเนี่ยมันจะเป็นแผล
00:22:59 → 00:23:01 ที่บริเวณเยื่อบุครับอเยื่อบุที่เป็นสี
00:23:01 → 00:23:03 แดงๆอ่ะเพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นได้ทั้งตง
00:23:03 → 00:23:06 อเเพศหรือว่าบริเวณปากบริเวณช่องคออะไร
00:23:06 → 00:23:09 ต่างๆนี้ค่ะนะครับอันนี้ก็เป็นเป็นได้หมด
00:23:09 → 00:23:12 อันนี้เป็นเป็นตำแหน่งซึ่งอย่างเงี้ยครับ
00:23:12 → 00:23:14 ในเมื่อเชื้อมันซ่อนอยู่ทั้งๆที่บางช่วง
00:23:14 → 00:23:17 เนี่ยมันไม่มีอาการเวลาไปมีเพศสัมพันธ์
00:23:17 → 00:23:18 กับผู้หญิงเช่นกันเราไม่มีทางรู้เลยว่าเา
00:23:18 → 00:23:21 มีเชื้ออยู่ค่ะถูกมั้ยครับบางทีไปสัมผัสเ
00:23:21 → 00:23:24 ก็จะมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเริมนี้ได้ง่ายๆ
00:23:24 → 00:23:27 อือย่างที่ 2 นะครับอันนี้เป็นไวรัสใน
00:23:27 → 00:23:29 กลุ่มที่เราเรียกว่าเป็นหูดนะครับกลุ่ม
00:23:29 → 00:23:32 ไวรัสที่เป็นหูดนี่เราเรียกว่าไวรัส hpv
00:23:32 → 00:23:35 นะครับเป็นหูดนี่มันจะเป็นลักษณะเป็นตุ่ม
00:23:35 → 00:23:39 นูนๆขึ้นมานะครับเ่อซึ่งตุ่มเจะมักจะอยู่
00:23:39 → 00:23:41 ที่บริเวณยเพศหรือว่าบางทีเราจะพบได้
00:23:41 → 00:23:43 บริเวณในช่องคอหรือว่าคอหอยได้เหมือนกัน
00:23:43 → 00:23:46 ถ้ามันแบบเป็นการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก
00:23:46 → 00:23:49 นะครับลักษณะของหุดเนี่จะเป็นตุ่มที่สี
00:23:49 → 00:23:51 คล้ายๆกับผิวหนังอ่ะสีคล้ายๆสีน้ำตาล
00:23:51 → 00:23:54 เนี่ยนะครับเป็นตุ่มเล็กๆที่ยื่นขึ้นมานะ
00:23:54 → 00:23:56 ครับอันนี้เรียกว่าหูดทั่วๆไปแต่ว่ามันจะ
00:23:56 → 00:23:59 มีหูดอีกแบบนึงซึ่งก็เกิดจาก hpv เหมือน
00:23:59 → 00:24:00 กันเนี่ยนะครับเชื้อ hpv เหมือนกันเนี่ย
00:24:00 → 00:24:03 แต่เป็นหูที่มีลักษณะเป็นตุ่มแล้วเอ่อถ้า
00:24:03 → 00:24:05 เราไปดูใกล้ๆเนี่ยลักษณะผิวมันจะคล้ายๆ
00:24:05 → 00:24:09 กับดอกกะหลำนะครับอืหรือบางคนเค้าดูแล้วเ
00:24:09 → 00:24:11 ดูกับที่ไก่เนี่ยเคจะเรกมันคล้ายๆตหอนของ
00:24:11 → 00:24:16 ไก่ใช่หดเเราก็เรียว่าไก่อือ่านะครับ
00:24:16 → 00:24:18 เพราะฉะนั้นหูดเนี่ยมันมีทั้งหูดแบบที่
00:24:18 → 00:24:20 เป็นตุ่มกลมๆกับหูดที่เป็นลักษณะเหมือน
00:24:20 → 00:24:22 กะหล่ำคือหูดหงอนไก่เนี่ยนะครับเจ้าหูด
00:24:22 → 00:24:24 พวกเนี้ยไอ้ติ่งเนื้อที่ยื่นขึ้นมาหรือ
00:24:24 → 00:24:27 ตุ่มพวกเนี้ยมันมักจะไม่ค่อยมีอาการเจ็บ
00:24:27 → 00:24:31 นะครับนะแล้วก็เอ่อพูดคมันจะต่างมันจะ
00:24:31 → 00:24:33 ต่างกับเริมมากเริมที่เราบอกว่ามันแตก
00:24:33 → 00:24:36 แล้วเนี่ยมันจะเจ็บแสบปวดทรมานมากแต่หูด
00:24:36 → 00:24:39 เนี่มันจะไม่เจ็บอืนะฮะมันจะไม่เจ็บเพราะ
00:24:39 → 00:24:41 ฉะนั้นเอ่อเจ้าตัวหูดเนี่ยนะครับเอ่อถ้า
00:24:41 → 00:24:43 เราไม่สังเกตให้ดีบางทีเราจะไม่รู้เพราะ
00:24:43 → 00:24:46 ว่าบางคนเนี่ยตัวตุ่มหูดเนี่ยมันไม่ได้
00:24:46 → 00:24:48 อยู่ภายนอกที่อยู่ในประเภทแต่ว่ามันไป
00:24:48 → 00:24:51 อยู่ในช่องคลอดหรือบริเวณปากลูกข้างในอนะ
00:24:51 → 00:24:53 ครับหมอยังเคยเจอคนไข้คุณผู้หญิงบางท่าน
00:24:53 → 00:24:56 ที่มาเพื่อไม่ได้มีอาการอะไรอ่ะคือเป็น
00:24:56 → 00:24:58 หุ่นไม่ไม่มีอาการอยู่แล้วไงมันมีตุ่มๆ
00:24:58 → 00:25:00 เค้าไม่เห็นหรือไม่หรือว่าตุ่มมันอยู่ลึก
00:25:00 → 00:25:02 เข้าไปเนี่ยเค้าก็มาเหมือนกับตรวจภายใน
00:25:02 → 00:25:06 ประจำปีอ่ะค่ะอืคุณหมอพอเราเอ่อพอเราขึ้น
00:25:06 → 00:25:08 ขายอย่างแล้วก็ใส่เครื่องมือเข้าไปเพื่อ
00:25:08 → 00:25:10 จะตรวจเก็บเซลล์เนี่ยมาตรวจมะเร็งป่าลูก
00:25:11 → 00:25:12 เนี่ยใส่เครื่องมือเข้าไปในช่องคลอดบางที
00:25:12 → 00:25:15 เห็นตุ่มหูดตุ่มหอนไก่เต็มช่องคลอดเลยก็
00:25:15 → 00:25:19 มีหนะครับเยอะเลยฮะซึ่งซึตรงเจ้าตัวไม่
00:25:19 → 00:25:21 รู้ตัวอย่างเงี้ยหรอคะมันมันมันไม่รู้สึก
00:25:21 → 00:25:23 ไม่รู้เพราะว่าเพราะว่ามันอยู่ในช่องคลอด
00:25:23 → 00:25:26 ฮะเค้ามองไม่เห็นภายนอกคล้วงนิ้วครับไม่
00:25:26 → 00:25:28 ได้ล้วงนิ้วไปในช่องคอไม่รู้สึสดุดอะไร
00:25:29 → 00:25:31 หรือบางทีึงล้วงเข้าไปเราไม่ใช่หมองสิเรา
00:25:31 → 00:25:33 ก็ไม่รู้อ่ะเพราะว่ามันมันก็ช่องคอบมันก็
00:25:33 → 00:25:35 ไม่ได้เรียบมันก็เป็นลักษณะคลื่นๆอยู่
00:25:35 → 00:25:38 แล้วตามตามใหญเส้นใหญ่กล้ามเนื้อบทีไป
00:25:38 → 00:25:40 สดุดๆตุเพนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วมัน
00:25:40 → 00:25:43 ไม่เจ็บอืนะฮะบางทีส่องไปเเราเห็นเลยซึ่ง
00:25:43 → 00:25:45 ไอ้ลักษณะของหูดไม่ว่าจะเป็นหูดปกติหรือ
00:25:45 → 00:25:48 ว่าหูดหนอนไก่เนี่ยมันจะแพร่กระจายโรคใน
00:25:48 → 00:25:51 ช่วงที่เรามีตุ่มค่ะครับเพราะฉะนั้นช่วง
00:25:51 → 00:25:53 ที่ร่างกายอ่อนแอมีตุ่มขึ้นมาไอ้พวกเนี้ย
00:25:53 → 00:25:56 มันจะมีลักษณะให้ให้เห็นการแพร่กระจายโรค
00:25:56 → 00:25:58 ได้แต่ก็จะมีบางช่วงที่ถ้าร่างกายเราแข็ง
00:25:58 → 00:26:00 แรงดีคุ้มกันเราก็ออกมาจัดการกับไอ้ตัว
00:26:00 → 00:26:02 ตุ่มเหล่านี้ให้มันยุบไปได้ซึ่งถ้าช่วย
00:26:02 → 00:26:05 มันยุบเนี่ยมันก็จะไม่แพร่โรคค่ะนะครับ
00:26:05 → 00:26:07 การรักษาเรื่องหูดเนี่ยจริงๆก็ไม่ได้ยาก
00:26:07 → 00:26:10 ครับเอ่อการรักษาหูดเนี่ยเราก็ใช้วิธีตัด
00:26:10 → 00:26:15 มันออกนะครับหรือใช้พวกเอ่อเอ่อน้ำยาเคมี
00:26:15 → 00:26:18 บางอย่างนะครับนะร่วมแสดงความเห็นผ่านทาง
00:26:18 → 00:26:22 facebook แนเพจ MCOT News FM 100.5
00:26:22 → 00:26:24 และ LINE
00:26:24 → 00:26:30 official มีเอ่อการใช้เอ่อบางทีก็
00:26:30 → 00:26:35 รู้ทันรู้ลึกรู้จริงมันได้ด้วยค่ะอ่าั้น
00:26:35 → 00:26:37 นะครับอันนี้คือเรื่องหูดไม่ว่าจะเป็นหูด
00:26:37 → 00:26:40 ธรรมดาหรือหูดหนอนไก่นะครับคราวนี้ต่อ
00:26:40 → 00:26:43 เนื่องจากหูดมานะครับอีกอันนึง hpv ที่
00:26:43 → 00:26:46 เป็นสาเหตุของหูดเนี่ยนะครับอมันมีเป็นร
00:26:46 → 00:26:49 สายพันธุ์นะครับแต่มันจะมีอยู่ประมาณ 15
00:26:49 → 00:26:52 สายพันธุ์ที่เป็น scv ตัวอันตรายซึ่ง
00:26:52 → 00:26:56 สามารถก่อมะเร็งด้วยเพราะฉะนั้นอันนึงที่
00:26:56 → 00:26:58 ทำให้เป็นกร่อมเร็งก็คือมะเร็งปากมลูกจะ
00:26:58 → 00:27:01 มาจาก hpv นะครับอเพราะงั้นเราพูดถึงโค
00:27:01 → 00:27:03 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เนี่ยสัมผัสใกล้ชิด
00:27:03 → 00:27:05 กันเนี่ยนะครับถ้าเราติดช hpv สายพันธุ์
00:27:05 → 00:27:07 ที่ก่อมะเร็งขึ้นมาเนี่ยอาจจะนำพาให้เรา
00:27:08 → 00:27:10 กลายเป็นมะเร็งปากมะลูกในอนาคตได้เหมือน
00:27:10 → 00:27:13 กันคอืครับอ่าซึ่งพอพึ้นชื่อว่ามะเร็ง
00:27:13 → 00:27:15 เนี่ยแน่นอนครับอันนี้รุนแรงกว่าโรคต่างๆ
00:27:15 → 00:27:18 ที่เราพูดมาแน่เพราะว่าเป็นรสีชีวิตน่ะอ
00:27:18 → 00:27:22 นะครับครับต่อไปนะครับอีกเชื้อนึงนะครับ
00:27:22 → 00:27:24 เป็นไวรัสเหมือนกันอันนี้เป็นไวรัสไม่ใช่
00:27:24 → 00:27:27 hpv นะแต่เป็น HIV HIV ก็คืออย่างที่
00:27:27 → 00:27:29 เรารู้จักกันก็คือโรคภูมิปมกันบกพร่อง
00:27:29 → 00:27:32 หรือโรคอดส์นั่นเองนะครับซึ่งตรงเนี้ยนะ
00:27:32 → 00:27:35 ครับเชื้อ HIV เนี่ยเวลาเข้าสู่ร่างกาย
00:27:35 → 00:27:37 เราเนี่ยนะครับมันอาจจะไม่แสดงอาการนาน
00:27:37 → 00:27:41 นับเป็น 10 ปีเลยจนกว่ามันจะแบบมีมีอาการ
00:27:41 → 00:27:44 อาการของโรคของ HIV ก็คือมีลักษณะของการ
00:27:44 → 00:27:46 มีภูมิปกันบกพร่องอ่ะนะครับมันก็จะเริ่ม
00:27:46 → 00:27:50 มีตุ่มมีแผลต่างๆที่อวัยวเพศนะครับเอ่อ
00:27:50 → 00:27:52 หรือที่บริเวณปากเที่เร่งสารคัดหลั่งต่าง
00:27:52 → 00:27:55 ๆก็จะมีเชื้อพวกนี้ปนอยู่ได้ซึ่งอย่างที่
00:27:55 → 00:27:57 เราก็ทรางกัน HIV เนี่ยนะครับเอ่อ
00:27:57 → 00:28:00 ปัจจุบันก็ยังไม่มียารักษาให้อาหารขาย
00:28:00 → 00:28:01 เพราะงั้นเป็นแล้วก็มีความเสียงที่จะเสีย
00:28:01 → 00:28:04 ชีวิตเพราะว่ามันไปทำให้ภูมกันเราบกพร่อง
00:28:04 → 00:28:07 อืนะครับแล้วก็แถมท้ายอ่าอีกกลุ่มนึงของ
00:28:07 → 00:28:10 โรคไวรัสนะครับซึ่งปัจจุบันเนี่ยกำลัง
00:28:10 → 00:28:13 เป็นข่าวกันอยู่เลยนะครับก็คือกลุ่มไวรัส
00:28:13 → 00:28:16 ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสฝีดาดลิงนั่นเองค่ะ
00:28:16 → 00:28:19 อ๋อโอครับฝีดาดลิงก็เกิดจากไวรัสนะครับ
00:28:19 → 00:28:21 ที่เราเราพยายามไม่เรียกว่าเป็น Monkey
00:28:21 → 00:28:24 พอ่ะนะครับคือคือฝีดาดเนี่ยนะครับจริงๆ
00:28:24 → 00:28:26 เป็นโรคติดเชื้อที่เป็นโรคโบราณนละในสมัย
00:28:26 → 00:28:29 ก่อนเราเรียกว่าไข้ทรพพินะครับคนที่เป็น
00:28:29 → 00:28:31 อาการพวกเนี้ยก็จะมีลักษณะของตุ่มนัก
00:28:31 → 00:28:33 เกลียดๆเกลียดอ่ะถ้าเราไปดูภาพในข่าวจะ
00:28:34 → 00:28:35 เห็นเป็นตุ่มเล็กๆนูนๆเนี่ยนะครับก็จะ
00:28:35 → 00:28:38 กระจตัวไปทั่วตัวเลยน่าเกลียดแล้วก็จะมี
00:28:38 → 00:28:40 ลักษณะมีไข้ขึ้นสูงมีร่างกายอ่อนเี่อะไร
00:28:40 → 00:28:43 อย่าเงี้ยนะครับเราก็เรียกไอ้ฝีดาบซึ่ง
00:28:43 → 00:28:45 ซึ่งชื่อว่าอังกฤษว่า Small po เนี่ย
00:28:45 → 00:28:47 เรียกอีกอย่างนึงว่าไข้ทรพิษค่ะก็เป็นโรค
00:28:47 → 00:28:50 ที่อยู่กันมานมนานแล้วแล้วก็ถ้าเป็นคน
00:28:50 → 00:28:53 สมัยก่อนนะครับอย่างรุ่นหมอเนี่ยนะครับ
00:28:53 → 00:28:56 เอ่อเราจะมีการฉีดวัคซีนตติด็กปลูกฝีอ่ะ
00:28:56 → 00:28:59 เพื่อป้องกันไอ้ไอตรงนี้ด้วยตั้งแต่ละ
00:28:59 → 00:29:02 เพราะฉะนั้นเถึงมองว่าเอ่อใครก็ตามที่
00:29:02 → 00:29:07 เอ่อเกิดขึ้นก่อนปีเอ่อ 2523 อนะครับนะ
00:29:07 → 00:29:09 ก่อนหน้านั้นเนี่ยมักจะได้ฉีดวัคซีนตรง
00:29:09 → 00:29:12 เนี้ยที่ป้องกันไอ้เรื่องไอ้ไข้ทรพิษหรือ
00:29:12 → 00:29:14 ฝีด่านเนี่ยแล้วภูมิเนี่ยมันก็จะช่วยป้อง
00:29:14 → 00:29:18 กันไอ้ไอ้เอ่อเอ่อไวรัสเอ่อฝีดาดลิงให้
00:29:18 → 00:29:21 ด้วยค่ะอนะครับเพราะฉะนั้นคนๆรุ่นหมอนี่
00:29:21 → 00:29:23 ก็อาจจะความเสี่ยงก็จะน้อยลงหน่อยแต่ว่า
00:29:23 → 00:29:25 คนรุ่นหลังๆก็อาจจะมีความเสี่ยงติดเห็นเ
00:29:25 → 00:29:27 เช็คหัวไหล่กันใหญ่เลยนะคะพอเวลาพูดถึง
00:29:27 → 00:29:30 เรื่องใช่ครับแล้วก็ไอ้เจ้าไวรัสเ่อฝีดาด
00:29:30 → 00:29:32 ลิงเนี่ยมันก็ติดจากการสัมผัสนี่แหะครับ
00:29:32 → 00:29:35 สัมผัสไอ้พวกสารไอ้ไอพวกตุ่มต่างๆแผลต่าง
00:29:35 → 00:29:38 ๆเนี่ยก็เลยมีโอกาสถ้าเรามีเพศสัมพันธ์
00:29:38 → 00:29:40 แล้วก็มีการสัมผัสกันอย่างที่เราบอกไม่
00:29:40 → 00:29:43 ว่าจะเป็นอเพศสัมผัสกันเองหรือว่ามือหรือ
00:29:43 → 00:29:46 ว่าปากลิ้นเนี่ยพวกนี้ก็มีโอกาสติดเชื้อ
00:29:46 → 00:29:49 ได้หมดนะครับแล้วก็อ่าแถมท้ายอีกนิดนึง
00:29:49 → 00:29:50 เดี๋ยวนี้เราอาจจะเคยได้ยินแล้วครับอ่า
00:29:50 → 00:29:52 ถ้าเรากลัวเพราะว่าเดี๋ยวนี้มันจะมีสาย
00:29:52 → 00:29:54 พันธุ์ที่เรียกว่าเอ่อสายพันธุ์ 1b นะ
00:29:54 → 00:29:58 ครับที่เราเริ่มเจอรายแรกะอันเนี้ยเครับ
00:29:58 → 00:30:00 มันจะมีอัตราการเสียชีวิตได้สูงอย่าง
00:30:00 → 00:30:02 อย่างสายพันธุ์เดิมที่เราเคยรู้จักกันมา
00:30:02 → 00:30:04 เมื่อปีก่อนเนี่ยมันจะเสียชีวิตแค่ไม่ถึง
00:30:04 → 00:30:06 1% แต่ว่าสายพันธุ์ใหม่เนี่ยเสียชีวิต
00:30:06 → 00:30:08 ได้ถึง 5% เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ก็จะมีการ
00:30:08 → 00:30:10 ตื่นตัวว่าใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนะครับ
00:30:10 → 00:30:13 อ่าก็อาจจะไปรับการฉีดวัคซีนได้นะครับ
00:30:13 → 00:30:15 ซึ่งวัคซีนจะมีบริการอยู่ที่สภากาชาติไทย
00:30:15 → 00:30:18 แต่ว่าค่าใช้จ่ายในวัคซีนก็ยังสูงอยู่นะ
00:30:18 → 00:30:21 ต้องฉีด 2 เข็มเข็มละ 8,500 บาทค่ะนะครับ
00:30:22 → 00:30:24 เพราะฉะนั้นก็คงคงยังไม่จำเป็นว่าทุกคนจะ
00:30:24 → 00:30:27 ต้องฉีดหรอกครับเพราะว่ามันก็ค่าใช้จ่าย
00:30:27 → 00:30:29 สูงอยู่ก็ดูว่าเอ่อถ้าเราไม่ใช่กลุ่ม
00:30:29 → 00:30:33 เสียงยังเป็นตัวเลขที่สูงเนาะเอ่าวซใช่ก็
00:30:33 → 00:30:36 แล้วก็แล้วก็เอ่อความเสี่ยงความเสี่ยงการ
00:30:36 → 00:30:38 กระจายตัวตนี้มันยังไม่น่าตื่นตัวเพราะ
00:30:38 → 00:30:41 เรายังแม้กระทั้งเคสเ่อรายแรกที่เราเจอ
00:30:41 → 00:30:42 เนี่ยยังต้องรอการพิสูจน์ยืนยันอยู่เลย
00:30:43 → 00:30:45 ว่าใช้หรือเปล่าใช่ๆๆครับครับเพราะฉะนั้น
00:30:46 → 00:30:49 ตรงเนี้ยไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียเชื้อรานะ
00:30:49 → 00:30:51 ครับเชื้อพยาธหรือไวรัสต่างๆเหล่าเนี้ย
00:30:51 → 00:30:54 อันเนี้ยล้วนทำให้คุณผู้หญิงเนี่ยที่มามี
00:30:54 → 00:30:56 เพศสพันธ์กันเนี่ยมีโอกาสติดเชื้อถ่ายทอด
00:30:56 → 00:30:59 เชื้อให้กันได้ทั้งสิ้นนะครับคไม่ได้แพ้
00:30:59 → 00:31:02 เรื่องของชายหญิงหรือว่าชายชนะครับอคราว
00:31:02 → 00:31:04 นี้ถ้าเราพูดถึงเ่อโอเคเรารู้แล้วว่า
00:31:04 → 00:31:06 ลักษณะของโลกเป็นอะไรบ้างเนี่ยนะครับคราว
00:31:06 → 00:31:08 นี้อาการโดยรวมๆเมื่อกี้หมอพูดไปบ้างแล้ว
00:31:08 → 00:31:12 แต่ว่าโดยรวมๆนะครับอาการเนี่ยจริงๆหมอ
00:31:12 → 00:31:14 ไม่อยากให้พวกเราไปพยายามแยกโลกเองนะคือ
00:31:14 → 00:31:17 เราฟังอาการถ้าเราสังเกตว่าเรามีมี
00:31:17 → 00:31:19 พฤติกรรมเสี่ยงคือไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้
00:31:19 → 00:31:21 หญิงด้วยกันเนี่ยนะครับแล้วมีอาการต่างๆ
00:31:21 → 00:31:24 ดังต่อไปเนี้ยนะครับอาจจะต้องไปปรึกษา
00:31:24 → 00:31:26 แพทย์แล้วคุณหมอก็จะมีวิธีการตรวจเพื่อ
00:31:26 → 00:31:29 วินิจฉัยเพื่อแยกโรค 4 นะครับอาการที่เรา
00:31:29 → 00:31:32 มักจะเจอเนี่ยอ่าอาจจะมีการระคายเคืองนะ
00:31:32 → 00:31:35 ครับหรือว่ามีการคันในบริเวณที่ไปสัมผัส
00:31:35 → 00:31:38 กันจะเป็นอวยเพศจะเป็นมือนิ้วปากนั้นก็
00:31:38 → 00:31:40 อีกเรื่องนึงนะครับอาจจะสังเกตเห็นเป็น
00:31:40 → 00:31:43 ผื่นขึ้นมานะครับผื่นแดงๆหรือว่าอาจจะ
00:31:43 → 00:31:45 เป็นตุ่มนูนตุ่มนูนนั้นจะเป็นตุ่มนูนกลมๆ
00:31:45 → 00:31:48 หรือตุ่มใสๆหรือตุ่มที่มีลักษณะเหมือนดอก
00:31:48 → 00:31:50 กะหล่ำอะไรต่างๆนะครับซึ่งมันอาจจะมี
00:31:50 → 00:31:53 อาการเจ็บหรือไม่เจ็บที่ตุ่มก็ได้นะครับ
00:31:53 → 00:31:55 อาการอื่นๆที่เรามักจะเจอก็คือมักจะมี
00:31:55 → 00:31:58 อาการทางทางเดินปัสสาวะเช่นปัสสาวะขัหรือ
00:31:58 → 00:32:01 ว่าเจบเวลาปัสสาวะนะครับหรือว่าลักษณะของ
00:32:01 → 00:32:03 ตุ่มเนี่ยมันแตกออกแล้วเป็นแผลพุพองนะ
00:32:03 → 00:32:06 ครับอะไรต่างๆเหล่านี้รวมไปถึงมีอาการที่
00:32:06 → 00:32:10 มันมีอาการปวดบริเวณท้องน้อยนะครับมีตก
00:32:10 → 00:32:12 ขาวซึ่งจริงๆตกขาวเป็นสารคัดหลั่งปกติของ
00:32:12 → 00:32:14 ช่องข้อทุนผู้หญิงแต่ว่าถ้าสังเกตว่าตก
00:32:14 → 00:32:16 ขาวมีปริมาณมากผิดปกติหรือว่ามีสีที่
00:32:16 → 00:32:19 เปลี่ยนไปเช่นเป็นสีเขียวสีเหลืองมี
00:32:19 → 00:32:21 ลักษณะเป็นฟองนะครับหรือว่ามีกลิ่นเหม็น
00:32:21 → 00:32:24 คาวนะครับอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยอันนี้ต้อง
00:32:24 → 00:32:27 สงสัยว่าเป็นลักษณะที่ผิดปกตินะครับค่ะ
00:32:27 → 00:32:30 อ่าแล้วก็นอกนอกเหนือจากเ่อการลักษณะของ
00:32:30 → 00:32:33 ตกขาวแล้วเนี่ยมันอาจจะเป็นของเหลวอื่นๆ
00:32:33 → 00:32:36 ที่ไม่ใช่ตกขาวที่ออกมาเช่นมันอักเสบเป็น
00:32:36 → 00:32:38 หนองก็อาจจะกลายเป็นหนองไหลออกมาก็ได้
00:32:38 → 00:32:40 หรือว่าอาจจะมีลักษณะของเลือดที่ออกมาที่
00:32:40 → 00:32:43 ผิดปกติเนี่ยอาการต่างๆเหล่านี้ที่หมอพูด
00:32:43 → 00:32:45 ไปเนี่ยนะครับถ้าเรามีอยู่เนี่ยให้สงสัย
00:32:45 → 00:32:47 ไว้นะครับถ้าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ไปมี
00:32:47 → 00:32:50 เพศสัมพันธ์กับผู้หญิงมาเนี่ยให้สงสัยไว้
00:32:50 → 00:32:52 เลยว่าอันเนี้ยอาจจะอยู่ในหนึ่งของอ่าโรค
00:32:52 → 00:32:56 ติดต่อตางเพศสัมพันธ์ก็ได้นะครับซึ่งมัน
00:32:56 → 00:32:59 มันอาจจะเป็นโรคที่อคู่นอนของเราอ่ะเขา
00:32:59 → 00:33:00 อาจจะเกยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมาก่อน
00:33:00 → 00:33:02 แล้วเชื้อเหล่านี้มันซ่อนอยู่ในตัวเขาโดย
00:33:02 → 00:33:05 ที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาแพร่ให้เราก็ได้ค
00:33:05 → 00:33:09 นะครับนะตรงนี้สำคัญนะครับอเอ่อตำแหน่ง
00:33:09 → 00:33:12 ของอาการที่เป็นไม่ว่าจะเป็นการคันมีผืด
00:33:12 → 00:33:14 มีตุ่มมีอะไรต่างๆลเนี้ยตำแหน่งเราก็จะ
00:33:14 → 00:33:16 เจอได้ตามที่เราบอกนะฮะตามที่เรามีโอกาส
00:33:16 → 00:33:19 สัมผัสเช่นบริณัยเพศซึ่งเป็นได้ตั้งแต่
00:33:19 → 00:33:22 แคมภายนอกนะครับหรือแคมในนะครับหรือว่า
00:33:22 → 00:33:25 เป็นตำแหน่งที่ลึกเข้าไปในช่องคลอดนะครับ
00:33:25 → 00:33:27 หรือตัดออกมาจากอรยเพศหน่อยก็จะเป็น
00:33:27 → 00:33:30 บริเวณรเช่นผิวหนังตรงขาหนีบนะครับหรือ
00:33:30 → 00:33:32 สูงขึ้นมาตรงบริเวณหัวหน่าวนะครับครับ
00:33:32 → 00:33:35 หรือว่าถ้าเอ่อเอ่อไกลจากนั้นไปก็จะเป็น
00:33:35 → 00:33:38 เรื่องของการมีตุ่มให้ไปที่บริเวณนิ้วมือ
00:33:38 → 00:33:41 ที่มาสัมผัสนะครับหรือบริเวณทวารหนักนะ
00:33:41 → 00:33:44 ครับหรืออาจจะไปถึงลิ้นหรือคอหอยนะครับ
00:33:44 → 00:33:47 บางทีเราเคยเกันครับคนไข้มาด้วยอาการเจ็บ
00:33:47 → 00:33:52 คอเงี้แบบส่งคอเข้าไปนะครับเจอแบบไอ้หุ่น
00:33:52 → 00:33:54 หอนไก่ที่เหมือนกะหล่ำๆเนี่ยเต็มไปหมดเลย
00:33:54 → 00:33:57 ฮะเต็มช่องคอไปหมดเลยก็ในลำคอเนี่ยเหรอคะ
00:33:57 → 00:34:00 ครับเห็นตัวหมอเองก็เคยเห็นมา 23 เคสซึ่ง
00:34:00 → 00:34:03 โหเห็นแล้วเรายังตกใจเลยเป็นหมอเองนะฮะ
00:34:03 → 00:34:06 ครับนะครับเพราะฉะนั้นก็อันเนี้ยตำแหน่ง
00:34:06 → 00:34:08 ของที่มีอาการพวกเนี้ยก็จะเป็นสิ่งที่เรา
00:34:08 → 00:34:10 สงสัยได้ว่ามันเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง
00:34:10 → 00:34:13 กันในเพศสัมพันธ์หรือเปล่าค่ะเเจ็บคอหรือ
00:34:13 → 00:34:16 เป่าเงี้มันอันนั้นเราไม่ได้ไปอะไตรงกลาง
00:34:16 → 00:34:20 หลังไม่ต้องคิดเรื่องนี้เท่าไหร่อ๋ออค่ะ
00:34:20 → 00:34:22 ครับครานี้พราะเราสงสัยอาการมันคล้าย
00:34:22 → 00:34:25 ตำแหน่งมันคล้ายเนี่ยนะครับเอ่อเวลาไปหา
00:34:25 → 00:34:28 คุณหมอเนี่ยคุณหมอจะทำยังไงนะครับครับอ
00:34:28 → 00:34:30 มันมีวิธีการตรวจวินิจฉัยครับหลายๆอย่าง
00:34:30 → 00:34:33 เช่นคุณหมออาจจะป้ายหรือว่าสัมผัสบริเวณ
00:34:33 → 00:34:36 ผิวหนังหรือบริเวณที่เป็นตุ่มหรือแผลต่าง
00:34:36 → 00:34:39 ๆเหล่านั้นเนี่ยแล้วเอาไปส่งตรวจดูค่ะนะ
00:34:39 → 00:34:41 ครับมันก็จะสามารถตรวจเจอว่ามีเชื้ออะไร
00:34:41 → 00:34:44 อยู่บริเวณตำแหน่งตรงนั้นหรือไม่นะครับ
00:34:44 → 00:34:46 หรืออาจจะมีการเก็บเอาพวกสารคัดหลั่งไปตก
00:34:46 → 00:34:49 ขาวหรือว่าหนองอะไรต่างๆออกมาเนี่ยแล้วไป
00:34:49 → 00:34:52 ส่งย้อมเชื้อดูนะครับหรือว่าถ้าเป็นโรค
00:34:52 → 00:34:54 บางอย่างอย่างเช่นอ่า HIV อย่างเงี้ยนะ
00:34:54 → 00:34:57 ครับนะหรือว่าิิอะไรพวกเอันนี้มันพวกนี้
00:34:57 → 00:34:59 มันกระจายเข้าไปทางทางเลือดพวกนี้เราก็
00:34:59 → 00:35:02 เอ่อการตรวจเลือดก็จะเจอลักษณะของเชื้อ
00:35:02 → 00:35:06 ได้นะครับซึ่งอย่างที่หมอเรียนนะครับเอ่อ
00:35:06 → 00:35:08 ก็ไม่แนะนำให้แต่ละท่านไปไปพยายามนั่งแยก
00:35:08 → 00:35:11 โรคเองว่าเราเป็นโรคอะไรถ้ามีอาการเหล่า
00:35:11 → 00:35:13 เนี้ยถือว่าให้ตื่นตัวแล้วก็ไปคบคุณหมอ
00:35:13 → 00:35:15 เพื่อคุณหมอจะได้แยกโรคพอเราแยกโรคจากการ
00:35:15 → 00:35:18 ตรวจต่างๆได้ถูกต้องการรักษามันก็จะแม่น
00:35:18 → 00:35:21 ยำขึ้นว่าเราให้ยาให้ตรงกับเชื้อที่เป็น
00:35:21 → 00:35:25 ค่ะนะครับออันนี้ก็จะดีที่สุดค่ะนะครับอื
00:35:25 → 00:35:29 เอ่อคราวนี้เ่อเมื่อเราพูดถึงเ่อลักษณะ
00:35:29 → 00:35:32 ของโรคที่เป็นนะครับอาการที่เป็นนะครับ
00:35:32 → 00:35:35 การตรวจวินิจัยต่างๆแล้วเนี่ยเอ่อเรามี
00:35:35 → 00:35:38 วิธีการป้องกันมยนะครับจริงๆแล้วการป้อง
00:35:38 → 00:35:43 กันเนี่ยนะครับก็เอ่อขั้นแรกเราจะบอกว่า
00:35:43 → 00:35:45 เราป้องกันโรคจเพศสัมพันธ์เหมือนกับชาย
00:35:45 → 00:35:47 หญิงเค้าโดยการใสุ่ยางอนามัยเนี่ยอันนี้
00:35:47 → 00:35:50 มันมันคงลำบากเพราะว่าภทผู้หญิงมันไม่ได้
00:35:50 → 00:35:53 มีแบบเป็นกางเกงยางอนามัยที่ห่อหุ้มถึง
00:35:53 → 00:35:55 ขนาดนั้นเพราะฉะนั้นมันก็ต้องมีโอกาส
00:35:55 → 00:35:58 สัมผัสแน่ๆนะครับคราวนี้เมื่อเราป้องกัน
00:35:58 → 00:36:00 ถึงขนาดนั้นไม่ได้เนี่ยเราจะทำอะไรได้
00:36:00 → 00:36:03 บ้างอันที่ 1 เวลาสัมผัสเนี่ยส่วนใหญ่ก็
00:36:03 → 00:36:06 มักจะมีการสัมผัสด้วยนิ้วมือด้วยอะไรต่าง
00:36:06 → 00:36:09 ๆเหล่านี้นะครับง่ายที่สุดเลยครับเราล้าง
00:36:09 → 00:36:13 มือนะล้างมือให้สะอาดนะครับทั้งก่อนและ
00:36:13 → 00:36:15 หลังมีการสัมผัสในบริเวณที่จะเป็นช่อง
00:36:15 → 00:36:19 คลอดจะเป็นอวัยเพพศภายนอกก็ตามนะครับทั้ง
00:36:20 → 00:36:23 นี้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเอ่อทำให้เอ่อ
00:36:23 → 00:36:26 เกิดการติดเชื้อได้นะครับแล้วก็อาจจะมี
00:36:26 → 00:36:28 การแบบอย่างที่หมอบอกบางทีเราทาเล็บเรา
00:36:29 → 00:36:31 ไว้เล็บยาวอะไรต่างๆอย่างเงี้นะครับก็ก็
00:36:31 → 00:36:34 ต้องระมัดระวังไม่ไม่ควรจะใช้แบบนิ้วที่
00:36:34 → 00:36:36 ไปแบบไปสัมผัสหรือไปไปแบบล่วงล้ำเข้าไปจน
00:36:36 → 00:36:40 กระทั่งไปเกิดแผลไปเกิดรอยถลอกอะไรคือก็
00:36:40 → 00:36:42 ต้องทุกอย่างให้มีความนุ่มนวลนะครับหรือ
00:36:42 → 00:36:45 เราอาจจะใช้วิธีสวมถุงมือยางก็ได้นะครับ
00:36:45 → 00:36:47 สวมถถุงมือยางทางการแพทย์อย่างเงี้ยนะ
00:36:47 → 00:36:50 ครับมันก็ช่วยป้องกันทั้งไม่ให้ไม่ให้เรา
00:36:50 → 00:36:52 ที่อาจจะมีเชื้อติดอยู่ที่มือเนี่ยไปส่ง
00:36:52 → 00:36:55 เชื้อเข้าไปในในอวยเพศหรือว่าไม่ไปรับ
00:36:55 → 00:36:58 เชื้อจากอวยเพศเข้ามาที่มือเราค่ะนะครับ
00:36:58 → 00:37:00 เราใส่ถุงยางอนามัยไม่ได้แต่ว่าใส่ถุงมือ
00:37:00 → 00:37:02 อนามัยได้เพื่อป้องกันไม่ให้มันสัมพัดอ
00:37:02 → 00:37:05 เพราะฉะนั้นก็ในเรื่องในส่วนเขสุกอนามัย
00:37:05 → 00:37:07 ของมือทั้งล้างให้สะอาดก่อนและหลังแล้วก็
00:37:07 → 00:37:10 ส่งทุกมูอย่างอันนี้ก็ช่วยได้นะครับออัน
00:37:11 → 00:37:14 ต่อมาเนี่ยนะครับเอ่อถ้าสมมุติว่าเราต้อง
00:37:14 → 00:37:17 อ่ะอย่างที่บอกอ่ะบางทีเราก็เพื่อความสุข
00:37:17 → 00:37:19 ทางเพศเราก็มีการไปกระตุ้นปลุกเร้าบริเวณ
00:37:19 → 00:37:22 คริตอลิสบริเวณีสปอต่างๆซึ่งบางทีมันต้อง
00:37:22 → 00:37:25 มีการใส่นิ้วหรือว่าจะเป็นลิ้นหรืออะไ
00:37:25 → 00:37:27 ต่างๆล่วงล้ำเข้าไปซึ่งตรงเนี้ยถ้าเกิด
00:37:27 → 00:37:31 มันมีความพูดง่ายๆมันแบบมีความชุ่มชื้น
00:37:31 → 00:37:34 ที่ไม่พอเช่นมันมีการแห้งช่องคลอดมีการ
00:37:34 → 00:37:36 แห้งหรือฝืดเครืองอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยบาง
00:37:36 → 00:37:38 ครั้งมันก็เสี่ยงต่อการเกิดการสัมผัสเสษ
00:37:38 → 00:37:41 สีและเกิดเป็นแผลถลอกได้มันจะเหมือนกับ
00:37:41 → 00:37:42 ว่าถ้ามีน้ำหล่อลื่นอยู่โอกาสเป็นแผลมัน
00:37:42 → 00:37:46 ก็ยากกว่าใช่มครับเพราะฉะนั้นเ่อบางครั้ง
00:37:46 → 00:37:49 ถ้าเรามีที่สัมพันธจะใช้มือใช้นิ้วอะไร
00:37:49 → 00:37:51 ต่างๆเนี่ยยโอเคเราสวมทุงมือแล้วเนี่ยเรา
00:37:51 → 00:37:54 ก็อาจจะมีการหล่อลื่นก็ได้ครับด้วยการใช้
00:37:54 → 00:37:57 พวก ky jing หรือสารหล่อลื่นที่เป็นสูตร
00:37:57 → 00:38:00 น้เนี่ยนะครับมันก็จะปลอดภัยกว่าจะใช้สาร
00:38:00 → 00:38:02 ืดที่เป็นสูตรน้ำมันหรือเป็นแกเพราะว่า
00:38:02 → 00:38:05 พวกเนี้ยมันจะทำให้ไอ้ไอ้เอ่อเกิดการ
00:38:05 → 00:38:08 ระคายเคืองได้มากกว่าแล้วก็มันจะมีผลต่อ
00:38:08 → 00:38:11 ทำให้ประสิทธิภาพของถุงถุงมือยางที่เรา
00:38:11 → 00:38:14 ใส่เอาจจะมีการรั่วซึมได้เพราะั้นต้องใช้
00:38:14 → 00:38:16 ลักษณะที่เป็นสูตรน้ำเหมือน ky Jelly
00:38:16 → 00:38:20 เนี่ยจะดีที่สุดอนะครับนอกเจากนี้นะครับ
00:38:20 → 00:38:23 เวลาเราไปกระตุ้นสัมผัสนอกจากอุปกรณ์ที่
00:38:23 → 00:38:26 เป็นนิ้วมือของเราแล้วเนี่ยบางทีมันก็อาจ
00:38:26 → 00:38:28 จะมีลักษณะการใช้อุกกรอื่นๆใช่มั้ครับ
00:38:28 → 00:38:31 เพื่อเพิ่มความความสนุกตื่นเต้นทางเพศ
00:38:31 → 00:38:33 ซึ่งอันนี้เราก็พอเข้าใจมันก็เหมือนเป็น
00:38:33 → 00:38:35 ของเล่นทางเพศอ่ะเราก็เรียกกันว่าเซ็ก Toy
00:38:35 → 00:38:39 ตามปกติก็เซอยก็มักจะมีลักษณะคล้ายๆกับยว
00:38:39 → 00:38:41 เพศชายนะครับหรือว่าบางทีก็จะเป็นเหมือน
00:38:41 → 00:38:44 กับเอ่อเขาเรียกไวเบรเตอร์มีการสั่นได้มี
00:38:44 → 00:38:47 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะครับอึตรงเนี้ยนะ
00:38:47 → 00:38:50 ครับเอ่ออันที่ 1 ก็ต้องรักษาความสะอาด
00:38:50 → 00:38:53 ให้ดีนะครับแล้วก็ไม่ไม่ไม่ไปใช้แบบปับ
00:38:54 → 00:38:58 พัมเพื่อแบบหลายๆคนน่ะค่ะมันก็ต้องอ่าใช
00:38:58 → 00:39:03 คำว่าคเพื่อหลายๆออไปใช้หลายๆคนมันก็
00:39:03 → 00:39:06 เหมือนเรามีการสำสอนทางทางเพศเหมือนกันออ
00:39:06 → 00:39:09 ครับแล้วก็ถ้าเรามองในอีกแง่นึงก็คือเวลา
00:39:09 → 00:39:11 เป็นอย่างเงี้ยนะครับถ้าถ้าใช้มันแล้วมัน
00:39:11 → 00:39:15 แบบล่วงล้ำผ่านกันไปเนี่ยเราก็มองเ้าใน
00:39:15 → 00:39:19 ลักษณะเหมือนกับเป็นอายเพศของผู้ชายก็ได้
00:39:19 → 00:39:21 เรายังมีการใช้ถุงอนามัยได้เลยใช่มั้ฮะ
00:39:21 → 00:39:23 เราก็อาจจะใช้ทอนามัยเนี่ยครับมาห่อหุ้ม
00:39:24 → 00:39:27 ให้เจากอุปกรณ์พวกนี้ก็ได้อ๋อ
00:39:27 → 00:39:31 ไม่ไม่รั่วไม่เสียๆจนมันรั่วหรือทะลุอะไร
00:39:31 → 00:39:32 อย่างเงี้หรอคะด้วยความที่อันนี้ต้อง
00:39:32 → 00:39:35 ระวังเพราะว่าใช่ครับอันเนี้ยคุณเจ๊พูด
00:39:35 → 00:39:38 มันถูกต้องเพราะว่าเ่อถ้าเป็นการใช้สี
00:39:38 → 00:39:40 อนามัยห่อหุ้มกับอรเพทคุณผู้ชายทั่วๆไป
00:39:40 → 00:39:43 เนี่ยมันไม่ได้มีรอยคมรอยหยักรอยเหลี่ยม
00:39:43 → 00:39:46 เลยใช่่มั้ยแต่ว่าถ้าเป็นไอ้อุปกรณ์หรือ
00:39:46 → 00:39:48 เทอยพวกเยก็ต้องระมัดระวังครับถ้ามันมี
00:39:48 → 00:39:51 เ่อมุมที่เป็นคมๆแหลมๆพวกเนี้ยอันนี้ก็
00:39:51 → 00:39:55 เสี่ยงต่อการรั่วซึมค่ะนะครับแต่มันก็ยัง
00:39:55 → 00:39:57 ดีเขาไม่ใช้เลยอืค่ะถูกมั้นะครับ๋ยนั้น
00:39:58 → 00:40:00 มันก็ลดลดโอกาสในการติดเชื้อไปได้นะครับ
00:40:00 → 00:40:03 ถ้าเป็นกรณีของการพันธ์แล้วมันเป็นการเ
00:40:03 → 00:40:05 พัน์ด้วยปากอย่างเงี้ยนะครับซึ่งมันจะไป
00:40:05 → 00:40:07 สัมผัดเนี่ยนะครับเดี๋ยวนี้เขาจะมีลักษณะ
00:40:07 → 00:40:10 ของเป็นแผ่นยางอนามัยนะครับซึ่งรองเพื่อ
00:40:10 → 00:40:12 รองเพื่อครอบอยู่มันเรียกว่า dental
00:40:12 → 00:40:14 dental Dam อนะครับนะมันจะเป็นเหมือน
00:40:14 → 00:40:17 กับลักษณะอุปกรณ์ที่เป็นเหมือนกับแผ่นยา
00:40:17 → 00:40:20 มันจะวางครอบที่บริเวณอ่าในช่องลิ้นของ
00:40:20 → 00:40:23 เรานะครับมันก็จะลดการสัมผัสที่บริเวณ
00:40:23 → 00:40:26 นั้นได้แต่ว่าอันเนี้ยในทางปฏิบัติจริงๆ
00:40:26 → 00:40:28 มันก็ไม่ค่อยมีใครใช้เพราะว่าว่ามันมัน
00:40:28 → 00:40:31 ไม่สะดวกมันก็มันก็ทำลายความรู้สึกทางเทศ
00:40:31 → 00:40:34 พอสมควรนะครับแต่แต่ในต่างประเทศอ่ะมีใช้
00:40:34 → 00:40:37 กันอยู่ครับใชแล้วก็ไอ้ยไม่ว่าเราจะป้อง
00:40:37 → 00:40:40 กันด้วยการล้างมือทำความสะอาดใส่ถุงเถุง
00:40:40 → 00:40:44 มือยานใส่ถุงยางไปครอบเอ่อเซ็กทอยอะไรของ
00:40:44 → 00:40:47 เรายังไงก็ปามแต่ถ้าเกิดเราพูดถึงโรคติด
00:40:47 → 00:40:51 เชื้อนะครับโรคติดเชื้อเนี่ยมันก็ต้องมี
00:40:51 → 00:40:54 คนนึงมีเชื้ออยู่ก่อนแล้วคนเนี้ยส่งเชื้อ
00:40:54 → 00:40:56 ไปให้อีกคนนึงถูกมั้ยครับไม่งั้นเราไม่
00:40:56 → 00:40:58 เรียกว่าโรคติดเชื้อหรอกนะครับก็คือพูด
00:40:58 → 00:41:01 ง่ายๆว่าคนคนนึงอ่ะถ้าเราอยู่เฉยๆอ่ะนะ
00:41:01 → 00:41:03 ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะไปสัมผัสหรือรับ
00:41:03 → 00:41:05 เชื้อจากใครมาเลยเนี่ยเราก็ต้องไม่เป็น
00:41:05 → 00:41:07 โรคติดเชื้อเพราะเรานั่งอยู่ที่เราจะไม่
00:41:07 → 00:41:10 เป็นโรคติดเชื้อด้วยตัวเองได้หรอกนะครับ
00:41:10 → 00:41:13 ดังนั้นโอเคครับเราเราอาจจะอย่างที่บอก
00:41:13 → 00:41:15 อ่ะมันไม่สามารถไปสืบค้นประวัติได้หรอก
00:41:15 → 00:41:18 ว่าคู่นอนคู่รักของเราเนี่ยแฟนเราเนี่ย
00:41:18 → 00:41:20 เขาจะไปเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมาก่อน
00:41:20 → 00:41:22 หรือผู้หญิงคนอื่นมาก่อนแล้วนำเชื้อมาสู่
00:41:22 → 00:41:24 ที่เราหรือไม่นะครับแต่ว่าอย่างไงก็ตาม
00:41:24 → 00:41:28 เนี่ยถ้าจะลดความเสี่ยงเราก็ต้องหลีก
00:41:28 → 00:41:31 เลี่ยงการมีคู่นอนหรือมีแฟนหลายๆคนอืนะ
00:41:31 → 00:41:33 ครับเพราะฉะนั้นในแต่ละหนึคนเรายังไม่รู้
00:41:33 → 00:41:35 เราจะป้องกันยังไงเราไม่รู้ว่าเขาจะ
00:41:35 → 00:41:37 เสี่ยงขนาดไหนเขาอาจจะประวัติเป็นยังไงมา
00:41:37 → 00:41:39 ใช่มั้ยฮะแต่ถ้าเกิดเราไปเพิ่มความเสี่ยง
00:41:39 → 00:41:41 ก็คือตัวเราเองก็นันไปมีแบบแฟนหลายๆคน
00:41:41 → 00:41:44 แล้วมีพัน์กับคนหลายๆคนเนี่ยมันก็เท่ากับ
00:41:44 → 00:41:46 ยิ่งเพิ่มความเสี่งกระจายขึ้นไปมากขึ้น
00:41:46 → 00:41:50 ด้วยค่ะนะครับเพราะฉะนั้นก็เอ่อดีที่สุด
00:41:50 → 00:41:52 ก็คือมีเพศสัมพันธ์ยังปลอดภัยก็คืออย่ามี
00:41:52 → 00:41:55 คู้นอนหลายคนนะครับอันนั้นก็จะลดเปิดความ
00:41:55 → 00:41:58 เสี่ยงลงไปได้แล้วก็ท้ายที่สุดสุดถ้าเรา
00:41:58 → 00:42:00 ป้องกันเบื้องต้นนะครับเราป้องกันโดยการ
00:42:00 → 00:42:04 อ่ะเอ่อเราจะไปแหมโอเคไปพากันไปตรวจโรค
00:42:04 → 00:42:07 ติดต่อพาเช็คซะก่อนก่อนจะมามีอะไรกันอัน
00:42:07 → 00:42:10 นั้นก็ดีอ่ะนะครับนะซักประวัติอะไรถามกัน
00:42:10 → 00:42:12 อันนั้นก็ดีไปพาไปตรวจโรคกันก่อนอันนั้น
00:42:12 → 00:42:14 ก็ดีเป็นคันนึงแต่ว่าถ้าทำอะไรไม่ได้เลย
00:42:14 → 00:42:17 เนี่ยก็ต้องตรวจม้องกันที่ตัวเราค่ะนะ
00:42:17 → 00:42:20 ครับเชื้อพวกเนะครับอย่างชพวกเชื้อต่างๆ
00:42:20 → 00:42:22 ที่บอกแล้วจะเป็นแบคทีเรียเป็นหนองในเป็น
00:42:22 → 00:42:24 เริมเป็นอะไรพวกเนี้ยเวลาติดเชื้อเนี่ย
00:42:24 → 00:42:26 บางทีมันมีตุ่มมีลักษณะรอยโรคให้เราเห็น
00:42:26 → 00:42:28 อืไอ้เชื้อพวกเนี้ยเรายังสังเกตแล้วไป
00:42:28 → 00:42:31 รักษาได้เร็วค่ะแต่ว่าเชื้อบางอย่างที่
00:42:31 → 00:42:33 หมอบอกแล้วว่ามันเข้าไปสู่ร่างกายแล้วมัน
00:42:33 → 00:42:36 อาจจะไม่มีอาการอย่างเช่นเอ่อ hpv อครับ
00:42:36 → 00:42:38 ที่ทำให้เป็นมะเร็งป่ามะลูกเนี่ยบางทีมัน
00:42:38 → 00:42:41 ซ่อนอยู่ในป่ามะลูกอยู่เป็น 10-20 ปีกว่า
00:42:41 → 00:42:43 จะเริ่มเป็นมะเร็งหรือ HIV เนี่ยบางทีมัน
00:42:43 → 00:42:46 ซ่อนอยู่ไม่แสดงอาการนานับปีเพราะฉะนั้น
00:42:46 → 00:42:49 ดีที่สุดเนี่ยนะครับเราต้องไปตรวจสุขภาพ
00:42:49 → 00:42:52 ของคุณผู้หญิงก็คือตรวจภายในประจำปีทุกปี
00:42:53 → 00:42:55 นะครับแล้วก็เ่าระหว่างที่สภายในเนี่ยคุณ
00:42:55 → 00:42:57 หมอก็จะถือโอกาสเนี้ยเก็บเซล์บริวณป่าลุ
00:42:57 → 00:42:59 เพื่อไปเอ่อส่งตรวจว่าเรามีความเสี่ยงต่อ
00:42:59 → 00:43:03 การเป็นมะเร็งป่ามลุกหรือไม่นะครับแล้วก็
00:43:03 → 00:43:07 ถ้าเรารู้สึกว่าเรามีความเสี่ยงนะครับต่อ
00:43:07 → 00:43:10 ต่อโรคทางเอ่อเพศสัมพันธ์นะครับหรือบางที
00:43:10 → 00:43:12 ให้ประวัติแล้วคุณหมอเนี่ยบางทีก็จะสงสัย
00:43:12 → 00:43:14 เลยว่าเอ๊ะเคยมีคู่นอนมีคู่นอนเป็นผู้
00:43:14 → 00:43:16 หญิงผู้ชายอะไรต่างๆเนี่ยแต่มีพสัมพันธ์
00:43:16 → 00:43:19 เนี่ยนะครับเอ่อเราอาจจะมีการส่งตรวจนะ
00:43:19 → 00:43:21 ครับเราสามารถเก็บสารคัดหลั่งบริเวณป่า
00:43:21 → 00:43:24 ลูกไปส่งตรวจเอ่อการติดเชื้อทางโรคติดต่อ
00:43:24 → 00:43:26 ทางเพศสัมพันธ์เราเรียกว่าตรวจ stv ได้
00:43:26 → 00:43:29 ด้วยค่ะครับนะนอกเหือจากนั้นถ้าประวัติ
00:43:29 → 00:43:33 มันสงสัยไปแนวทางโรคันที่กระจายตัวใน
00:43:33 → 00:43:36 เลือดเช่นฟิ HIV พวกนี้ก็อาจจะมีการเจาะ
00:43:36 → 00:43:38 เลือดตรวจด้วยนะครับแต่ว่าไงก็ตามเนี่ย
00:43:38 → 00:43:42 เอ่อเอ่อเราควรจะตื่นตัวที่ตัวเราเองก่อน
00:43:42 → 00:43:44 นะครับนะเราไม่สามารถเช็คคู่นอนของเราได้
00:43:44 → 00:43:47 ทุกคนนะครับว่าแฟนที่มาอยู่กับเราเี่เขา
00:43:47 → 00:43:48 จะเป็นยังไงมาในอดีตเพราะฉะนั้นก็ต้อง
00:43:48 → 00:43:51 ป้องกันที่ตัวเราโดยเฉพาะยิ่งตรวจภายใน
00:43:51 → 00:43:53 เช็คมะเร็งปรับรูกเช็คอะไรเหล่าเยมันป้อง
00:43:53 → 00:43:55 กันพวกโรคที่เราไม่สามารถมองเห็นเป็นตุก
00:43:55 → 00:43:58 พวกนี้ได้ค่ะนะครับอก็ต้องทำทุกอย่างนะ
00:43:58 → 00:44:00 ครับต้องเริ่มจากตัวให้ร่างกายปลอดภัยที่
00:44:00 → 00:44:03 สุดค่ะอือ
00:44:03 → 00:44:07 อือคุณหมอแต่ว่าหลายๆคนเนี่ยพอจะไปตรวจ
00:44:07 → 00:44:10 หรือพาคู่รักคู่นอนไปตรวจก็อาจจะมีความ
00:44:10 → 00:44:12 คิดความเชื่อเอ๊ะมันแบบไม่ไว้ใจกันหรือ
00:44:12 → 00:44:14 เปล่าเถอหามว่าฉันไม่ปลอดภัยเหรออะไรอย่า
00:44:14 → 00:44:16 เงี้ยอยากให้คุณหมอช่วยสร้างความเข้าใจ
00:44:17 → 00:44:20 ตรงนี้เน้นย้ำอีกสักนิดนึงอ่ะคะครับเรา
00:44:20 → 00:44:24 เราเรารักคนที่เรารักยังไงถ้าถ้าเรารัก
00:44:24 → 00:44:28 กันเนี่ยนะครับนะเอ่อการการไปตรวจโรค
00:44:28 → 00:44:30 เนี่ยเราต้องมองว่ามันเป็นการพิสูจน์ความ
00:44:30 → 00:44:33 บริสุทธิ์ใจว่ามันเป็นการทำเพื่อทำให้คู่
00:44:33 → 00:44:35 รักของเราปลอดภัยค่ะถูกมั้ยครับเพราะ
00:44:35 → 00:44:38 ฉะนั้นถ้าถ้าแฟนเราผู้รักเราชวนให้เราไป
00:44:38 → 00:44:41 ตรวจอันนี้แหละครับจริงๆล่ะต้องเป็นต้อง
00:44:41 → 00:44:43 ถือเป็นเรื่องที่ดีว่าเนี่ยแหละโอกาสที่
00:44:43 → 00:44:46 เราจะได้แสดงความรักต่อแฟนของเรามันต้อง
00:44:47 → 00:44:49 มองในแง่นี้นะครับอย่าไปมองว่าเาเมามอง
00:44:50 → 00:44:52 ฉันว่าเป็นสัส่อนอะไรหรือเปล่าทำไมถึงจะ
00:44:52 → 00:44:54 มาให้ฉันไปตรวจอะไรอย่าเงี้ยเราต้องคิด
00:44:54 → 00:44:57 อย่างเงี้เลยก็ถ้าก็ถ้าเให้เราไปตรวจแล้ว
00:44:57 → 00:44:59 แล้วเราไปตรวจอย่างที่บอกมันก็เหมือนกับ
00:44:59 → 00:45:01 ได้ป้องกันตัวเราเองด้วยถูกมเราจะได้รู้
00:45:01 → 00:45:03 ว่ามีความเสี่ยงอะไรด้วยแล้วอันที่ 2
00:45:03 → 00:45:06 เนี่ยถ้าเราไปตรวจก็ยิ่งเป็นการแสดงความ
00:45:06 → 00:45:09 บริสุทธิ์ใจว่าว่าเราอ่ะไม่ได้ไม่ได้มีมี
00:45:09 → 00:45:12 ความเสี่ยงต่างๆค่ะไม่ใช่แบบเขาบอกให้เรา
00:45:12 → 00:45:15 ตรวจเราไม่ไปเ้าเราลองคิดในแง่ในในในทาง
00:45:15 → 00:45:17 ด้านเขาอ่ะเขาก็ต้องมองว่าเอ๊ะแล้วเธอมี
00:45:17 → 00:45:20 อะไรปิดซ่อนึเปล่าทำไมเธอไม่ยอมตรวจอืใช่
00:45:20 → 00:45:22 มครับเพราะฉะนั้นถ้ารักกันจริงๆนะครับ
00:45:22 → 00:45:24 ความรักรักจะอยู่กันเป็นครอบครัวดูแลกัน
00:45:24 → 00:45:27 ไปนานๆเนี่ยทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีชีวิตที่ยืน
00:45:27 → 00:45:31 ยาวไม่ไม่ไม่มีโรคต่างๆมามามาทำให้สุขภาพ
00:45:31 → 00:45:34 เราแย่ลงอ่ะเพราะฉะนั้นดีที่สุดก็จูงมือ
00:45:34 → 00:45:37 กันไปตรวจทั้งคู่เลยค่ะนะครับผู้หญิงเอ่อ
00:45:37 → 00:45:39 ผู้หญิงผู้ชายเนี่ยเวลาเจะมาแต่งงานเยัง
00:45:39 → 00:45:41 มีการตรวจก่อนแต่งงานเลยนะครับเพราะ
00:45:41 → 00:45:43 ฉะนั้นผู้หญิงกับผู้หญิงเนี่ยเดี๋ยวนี้
00:45:43 → 00:45:45 เราสมรเท่าเทียมนะครับเราก็เรียกว่าแต่ง
00:45:45 → 00:45:47 งานเหมือนกันใช่มเพราะฉะนั้นก็ไปตรวจก่อน
00:45:47 → 00:45:50 แต่งงานของผู้หญิงเหมือนกันครับค่ะนะอย่า
00:45:50 → 00:45:52 อย่าไปรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ดีหรือสะกิด
00:45:52 → 00:45:55 สะควงใจอะไรนะครับปัจจุบันนี้เป็นเรื่อง
00:45:55 → 00:45:57 ที่เป็นที่ยอมรับแล้วนะครับก็ถือว่าเป็น
00:45:57 → 00:45:59 อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามนะคะคุณ
00:45:59 → 00:46:02 หมอทิ้งท้ายสักนิดนึงค่ะพอดีเวลาจะหมด
00:46:02 → 00:46:05 แล้วค่ะครับเวลาเราพูดถึงโรคติดต่อาง
00:46:05 → 00:46:08 เพศสัมพันธ์นะครับนะอ่าที่กลุ่มผู้หญิง
00:46:08 → 00:46:10 ต้องระมัดระวังอย่างที่เราคุยกันมาตลอด 1
00:46:10 → 00:46:13 ชั่วโมงเนี่ยนะครับอยากเรียนว่าเอ่อโรค
00:46:13 → 00:46:15 ต่างๆเหล่านี้เนี่ยนะครับจริงอยู่ว่ามัน
00:46:15 → 00:46:18 อาจจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่ว่าถ้า
00:46:18 → 00:46:20 เราตระหนักและเราให้ความสำคัญกับมันเนี่ย
00:46:20 → 00:46:23 นะครับนะจะทำให้เรา 1 ดูแลตัวเองได้ดีก็
00:46:24 → 00:46:27 คือเอ่อรู้จักเอ่อ
00:46:27 → 00:46:29 มันไม่มีอะไรตดีกว่าป้องกันตัวเองโดยที่
00:46:29 → 00:46:33 ไม่ไปสำส่อนทางเทศมีคู่นอนหลายๆคนนะครับ 2
00:46:33 → 00:46:35 นะครับเอ่อดูแลสุขคนมของตัวเองอย่างที่
00:46:35 → 00:46:38 เราบอกครับมันก็เหมือนกับเราบเราก็ต้องไป
00:46:38 → 00:46:41 ตรวจโรคตรวจภายในประจำปีของเรานะครับตอน
00:46:41 → 00:46:44 สมัยเราติดเชื้อติดเชื้อไวรัสโควิดยังมี
00:46:44 → 00:46:46 กินร้อนช้อนกลางล้างมือเลยนะครับปัจจุบัน
00:46:46 → 00:46:49 เไม่ล้างมือกันแล้วเพราะฉะนั้นก็กำลังเรา
00:46:49 → 00:46:51 กำลังใช้มือไปทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องเพศ
00:46:51 → 00:46:53 เนี่ยไปสัมผัสอะไรต่างๆเนี่ยต้องล้างมือ
00:46:53 → 00:46:55 นะครับนะต้องดูแลความสะอาดของตัวเองแล้ว
00:46:55 → 00:46:59 รวถึงสุอะไรบงๆนะครับแล้วก็ท้ายที่สุด
00:46:59 → 00:47:02 เนี่ยนะครับเอ่อสังคมสมัยก่อนเราอาจจะรู้
00:47:03 → 00:47:06 สึกว่าพอเป็นหญิงกับหญิงรักกันเนี่ยเราจะ
00:47:06 → 00:47:08 อายเราไม่อยากบอกให้คนอื่นรู้แต่เดี๋ยว
00:47:08 → 00:47:11 เนี้ยสังคมมันเท่าเทียมกันหมดแล้วนะครับ
00:47:11 → 00:47:13 เกิดปัญหาเกิดความผิดปกติอะไรต่างๆเนี่ย
00:47:13 → 00:47:17 นะครับเอ่อปรึกษาเลยครับคุณหมอเนี่ยในทุก
00:47:17 → 00:47:19 ๆสถานพยาบาลเนี่ยพ้อมจะให้คำแนะนำที่
00:47:19 → 00:47:21 เหมาะสมแล้วก็ให้การดูแลรักษาเราอย่างรวด
00:47:21 → 00:47:24 เร็วเพราะฉะนั้นนะครับดูแลสุขภาพตัวเอง
00:47:24 → 00:47:27 แล้วก็ถ้าดูแล้วมันน่าสงสัยที่คุณหมอก็จะ
00:47:27 → 00:47:31 ปลอดภัยที่นะครับอ่ะวันนี้ต้องขอขอบพระ
00:47:31 → 00:47:34 คุณคุณหมอมากๆเลยค่ะสวัสดีค่ะขอบคุณครับ
00:47:34 → 00:47:36 คุณหมอครับครับขอให้ทุกคู่รักที่เป็นผู้
00:47:36 → 00:47:38 หญิงเนี่ยมีความรักอยู่ด้วยกันอย่างมี
00:47:38 → 00:47:40 ความสุขนะครับแล้วก็มีสุขภาพที่ดีปลอดภัย
00:47:40 → 00:47:43 อย่างโลกต่างๆนะครับค่ะขอบคุณค่ะครับ
00:47:43 → 00:47:46 สวัสดีครับคุณบอครับนายแพทย์พูนศักดิ์
00:47:46 → 00:47:49 สุชนวณิชนะคะสูตินารีแพทย์ประจำรายการของ
00:47:49 → 00:47:53 เรากับหัวข้อโรคทางเพศสัมพันธ์ที่กลุ่ม
00:47:53 → 00:47:57 หญิงรักหญิงควรระวังนะคะ