00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับปัจจุบันเนี่ยมีคนให้ความสนใจ
00:00:03 → 00:00:06 กับการใช้สเต็มเซลล์ในการดูแลรักษาร่าง
00:00:06 → 00:00:08 กายเป็นอย่างมากเลยนะครับเช่นเรื่องของ
00:00:08 → 00:00:11 การชะลอวัยมีคนเอามาฉีดเข้าไปบริเวณผิว
00:00:11 → 00:00:14 หน้าเพื่อที่จะให้หน้าของเราเนี่ยดูเด็ก
00:00:14 → 00:00:16 กว่าไวนะครับมีการสร้างคอลลาเจนที่ดีหรือ
00:00:16 → 00:00:19 ฉีดเข้าไปในเส้นเลือดในการชะลอไวเพื่อให้
00:00:19 → 00:00:22 เกิดการชะลอไวทั้งร่างกายบางคนเนี่ยก็ได้
00:00:22 → 00:00:25 ยินมาอีกว่ามันสามารถที่จะเอามาใช้ในการ
00:00:25 → 00:00:28 รักษาโรคที่ปกติรักษาไม่ได้เช่นกล้าม
00:00:28 → 00:00:31 เนื้อหัวใจขาดเลือดนะฮะโรคปอดเป็นพังผืด
00:00:32 → 00:00:35 โรคตับแข็งข้อเสื่อมต่างๆโรคทางสมองเช่น
00:00:35 → 00:00:39 โรคอัลไซเมอร์โรคพากินสันหรือแม้กระทั่ง
00:00:39 → 00:00:41 ว่าเป็นสตกแล้วก็มีอาการอัมพฤกษ์อัมพาต
00:00:41 → 00:00:45 หรืออาการติดเตียงต่างๆนะครับโรค ncd
00:00:45 → 00:00:47 ต่างๆก็มีคนคิดว่าน่าจะเอามาใช้นะครับ
00:00:47 → 00:00:49 สเต็มเซลล์เนี่ยมันดีอย่างนั้นจริงหรือ
00:00:49 → 00:00:51 เปล่าแล้วมันมีข้อจำกัดอะไรบ้างที่เรา
00:00:52 → 00:00:54 จำเป็นจะต้องเข้าใจก่อนที่เราจะไปเลือก
00:00:54 → 00:00:56 ใช้มันวันนี้ผมจะเล่าให้ฟังกันเลยนะครับ
00:00:57 → 00:00:59 พบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวันเป็น
00:00:59 → 00:01:01 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:01:01 → 00:01:03 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:01:03 → 00:01:06 บำบัดนะครับก่อนอื่นผมต้องขอบอกไว้ก่อน
00:01:06 → 00:01:09 เลยนะครับว่าสเตมเซลล์เนี่ยในปัจจุบันนะ
00:01:09 → 00:01:12 ครับที่ใช้แล้วได้ผลแน่ๆเนี่ยนะฮะมีอยู่
00:01:12 → 00:01:15 เพียงแค่การเอามาปลูกไถไขกระดูกเท่านั้น
00:01:15 → 00:01:18 นะครับใช้ในการรักษาโรคต่างๆที่เกี่ยว
00:01:18 → 00:01:20 ข้องกับไขกระดูกยกตัวอย่างเช่นโรคมะเร็ง
00:01:20 → 00:01:24 เม็ดเลือดลิวคีเมียนะครับโรคไขกระดูกฟอนะ
00:01:24 → 00:01:27 ฮะหรือโรคเลือดชนิดต่างๆที่บางครั้งเราก็
00:01:27 → 00:01:31 เอามาปลูกไถ่ไข่กระดูกได้อันนี้คือใช้ใน
00:01:31 → 00:01:34 การแพทย์แบบจริงๆแล้วที่เหลือยังไม่
00:01:34 → 00:01:36 สามารถที่จะเอามาใช้ได้แต่เดี๋ยวผมจะ
00:01:36 → 00:01:40 อธิบายว่ามันทำไมถึงยังใช้ไม่ได้นะครับ
00:01:40 → 00:01:43 แล้วทำไมการปลูกไถไขกระดูกทั้งที่มันเป็น
00:01:43 → 00:01:46 สเตมเซลล์เหมือนกันถึงสำเร็จแต่การเอาไป
00:01:46 → 00:01:49 ใช้กับอย่างอื่นมันถึงไม่สำเร็จนเดี๋ยว
00:01:49 → 00:01:52 เราจะเล่าให้ฟังกันเลยนะครับ STEM Sell
00:01:52 → 00:01:56 คืออะไรนะครับสเต็มเซลล์เนี่ยมันเป็น
00:01:56 → 00:01:58 เซลล์ซึ่งมีลักษณะเด่นอยู่ 2 ประการ
00:01:58 → 00:02:01 ประการแรกนะครับคือมันสามารถแบ่งตัวได้
00:02:01 → 00:02:04 เรื่อยๆนะครับประการที่ 2 ก็คือมันสามารถ
00:02:04 → 00:02:09 เจริญไปเป็นเซลล์อื่นๆได้หลายชนิดนะครับ
00:02:09 → 00:02:11 และไอ้ประเด็นที่มันสามารถที่จะทำทั้ง 2
00:02:11 → 00:02:14 อย่างได้นี่แหละมันถึงมีเหตุผลที่ว่าเรา
00:02:14 → 00:02:18 เอามาใช้ในการแก้ไขโรคต่างๆเพราะว่าเวลา
00:02:18 → 00:02:20 ที่เราอายุเยอะขึ้นเนี่ยปริมาณสเต็มเซลล์
00:02:20 → 00:02:23 ในร่างกายของคนเราเนี่ยมันจะน้อยลงไป
00:02:23 → 00:02:25 เรื่อยๆนะครับการที่เราสามารถเอาสเต็ม
00:02:25 → 00:02:29 เซลล์มาใช้มันโดยทฤษฎีแล้วก็น่าที่จะ
00:02:29 → 00:02:31 สามารถซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายได้ทำ
00:02:31 → 00:02:34 ให้ร่างกายของเราเนี่ยย้อนไวได้โรคเสื่อม
00:02:34 → 00:02:36 ต่างๆหรือโรคต่างๆที่มันเกิดจากเนื้อ
00:02:36 → 00:02:38 เยื่อที่มันเสียไปเนี่ยถ้าเราเอาสเต็ม
00:02:38 → 00:02:40 เซลล์ใส่เข้าไปก็น่าจะสามารถกลายไปเป็น
00:02:40 → 00:02:42 อ่าเนื้อเยื่อที่มันผิดปกติได้ยกตัวอย่าง
00:02:42 → 00:02:45 เช่นสมมุติว่ากล้างเนื้อหัวใจของเราเนี่ย
00:02:45 → 00:02:48 มันขาดเลือดแล้วตายไปถ้าเราเอาสเตมเซลล์
00:02:48 → 00:02:50 เข้าไปบริเวณนั้นมันก็น่าจะกลายไปเป็น
00:02:50 → 00:02:52 กล้าเนื้อหัวใจแทนที่มันตายไปได้ถูกมั้ย
00:02:52 → 00:02:54 ครับหรืออัลไซเมอร์เกิดจากเซลล์สมองที่
00:02:54 → 00:02:57 มันเสียไปปัจจุบันเรารู้ว่าอ่าเซลล์สมอง
00:02:57 → 00:02:59 ของเราเนี่ยมันไม่สามารถแบ่งตัวกลับมาได้
00:02:59 → 00:03:02 ได้เอ๊ะแต่ถ้าเกิดว่าเรามีสเต็มเซลล์ที่
00:03:02 → 00:03:04 มันแบ่งตัวเป็นเซลล์ประสาทได้ล่ะนะเอาา
00:03:04 → 00:03:06 เข้าไปที่สมองมันก็น่าจะกลายไปเป็นเซลล์
00:03:06 → 00:03:09 เหล่านั้นทดแทนกลับมานะครับก็เลยเป็นที่
00:03:09 → 00:03:11 มาของการพยายามจะเอาสเต็มเซลล์มาใช้ในการ
00:03:11 → 00:03:14 รักษาต่างๆเพราะว่าฟังแล้วดูมันน่าจะใช้
00:03:14 → 00:03:17 ได้ถูมั้ยครับอ่าแต่ว่ามันมีรายละเอียด
00:03:17 → 00:03:20 มากกว่านั้นสเตมเซลล์เนี่ยมันมีหลาย
00:03:20 → 00:03:24 ประเภทนะครับผมขอแบ่งให้มันเป็น 4 ประเภท
00:03:24 → 00:03:27 ดังนี้ประเภทแรกคือเรียกเรียกว่า Toy
00:03:27 → 00:03:29 potent Stem Cell Toy potent เนี่ย
00:03:29 → 00:03:32 คือคือมันมีความสามารถในการแบ่งเป็นเซลล์
00:03:32 → 00:03:35 ทุกชนิดเลยนะครับอ่าทุกชนิดรวมทั้งเซลล์
00:03:35 → 00:03:38 ตั้งเซลล์ตั้งแต่เรากำเนิดมาเป็นตัวอ่อน
00:03:38 → 00:03:40 ใหม่ๆเลยนะฮะ Toy potent Stemcell
00:03:40 → 00:03:43 เนี่ยคือเกิดจากการที่เรามีไข่ผสมกับ
00:03:43 → 00:03:45 อสุจิใหม่ๆแล้วเริ่มแบ่งตัวครั้งแรกนั่น
00:03:45 → 00:03:48 คือ Toy potent Stem Cell รองลงมาคือ
00:03:48 → 00:03:50 plu protent Stem Cell ตัวนี้เนี่ย
00:03:50 → 00:03:52 มันจะสามารถแบ่งเป็นเนื้อเยื่อของคนได้
00:03:52 → 00:03:55 แต่จะไม่สามารถกลายไปเป็นเนื้อเยื่ออย่าง
00:03:55 → 00:03:57 อื่นได้นะครับที่อยู่นอกเหนือจากตัวอ่า
00:03:57 → 00:04:00 ของเ่อของตัวอ่อนซึ่งถ้าเกิดว่าใครที่
00:04:00 → 00:04:02 เรียนหมอมาก็จะทราบว่าตัวอ่อนเนี่ยมันจะ
00:04:02 → 00:04:06 มี 3 ชั้นนะฮะเอโดมโซดอมแล้วก็โดดมนะฮะ
00:04:06 → 00:04:08 ถ้า plu potent ST เซลจะสามารถกลายไป
00:04:08 → 00:04:10 เป็น 3 ชั้นนี้ได้หมดแต่ถ้าเป็น Extra
00:04:10 → 00:04:13 embryonic เอ่อทิชชูต่างๆจะไม่สามารถ
00:04:13 → 00:04:16 แปลงไปเป็นตัวนั้นได้นะครับ pru potent
00:04:16 → 00:04:18 STEM Sell เนี่ยก็เป็นสิ่งซึ่งคนให้
00:04:18 → 00:04:22 ความสนใจมากนะครับแล้วก็เป็นสิ่งหนึซึ่ง
00:04:22 → 00:04:26 ดรชินยะยานากะแกได้รางวัลโนเบลในปี 2006
00:04:26 → 00:04:28 เพราะว่าแกสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงเซลล์
00:04:28 → 00:04:30 ปกติของเราเช่นเช่นเซล์ผิวหนังเซลล์ตา
00:04:30 → 00:04:32 เซลล์อะไรอย่างเงี้ยนะครับให้กลายไปเป็น
00:04:32 → 00:04:36 สเตมเซลล์ได้ด้วยการใช้ yamaka Factor
00:04:36 → 00:04:40 ซึ่งประกอบไปด้วยสาร 4 ตัวนะครับคือ O Km
00:04:40 → 00:04:45 นะครับ OX 4 นะครับ sox 2 klf 4 แล้ว
00:04:45 → 00:04:47 ก็ C miix นะครับถ้าเกิดใครอยากจะสนใจ
00:04:47 → 00:04:51 ตรงเนี้ยก็ลองไปค้นชื่อดรยานากะได้นะครับ
00:04:51 → 00:04:54 คือเขาใช้ตัวนี้นะฮะแล้ว Stem Cell ใน
00:04:54 → 00:04:56 สมัยแรกๆที่เราเอามาใช้กันเนี่ยเราเรียก
00:04:56 → 00:04:59 ว่า induced PR potent Stem Cell นะ
00:04:59 → 00:05:02 นะครับก็คือการเอาเซลล์ต่างๆของเราเนี่ย
00:05:02 → 00:05:04 มาเปลี่ยนให้มันเกิดการย้อนกลับไปเป็น
00:05:04 → 00:05:06 สเต็มเซลล์แล้วเอามารักษาแต่ปรากฏว่ามัน
00:05:07 → 00:05:09 มีปัญหาครับคือมันทำให้เกิดเนื้องอกได้
00:05:09 → 00:05:13 เราก็เลยเลิกเอาตรงนี้มามันก็เลยมาถึง
00:05:13 → 00:05:16 สเตมเซลล์ชนิดที่ 3 ที่เราเรียกว่า
00:05:16 → 00:05:19 multipotent Stem Cell ไอ้ชนิดนี้แ
00:05:19 → 00:05:22 ครับที่มีคนเอามาใช้ในการย้อนไวรักษาโรค
00:05:22 → 00:05:24 ต่างๆนะครับโรคอัลไซเมอร์โรคหัวใจโรคอะไร
00:05:25 → 00:05:26 พวกเนี้ยนะฮะอันนี้อยู่ในกลุ่ม
00:05:26 → 00:05:28 multipotent Stem Cell คือเซลล์ตัว
00:05:28 → 00:05:30 เนี้ยมันจะ
00:05:30 → 00:05:32 สามารถแบ่งไปเป็นเซลล์ได้หลายชนิดแต่ก็
00:05:32 → 00:05:34 ยังไม่เท่ากับ plur poten Stem Cell
00:05:34 → 00:05:37 นะครับเซลล์ในกลุ่มนี้มีหลักๆ 2 อย่างที่
00:05:37 → 00:05:41 เราเอามาใช้กันตัวแรกก็คือ hemic Stem
00:05:41 → 00:05:44 Cell อันนี้เราใช้ในการปลูกไถไขกระดูกนะ
00:05:44 → 00:05:46 ครับเซลล์ที่ 2 ก็คือ mesenchymal
00:05:46 → 00:05:48 stromal Cell นะครับตัวนี้หรือที่เรา
00:05:48 → 00:05:52 เรียกว่า msc นะตัวนี้นี่แหละที่เราจะพูด
00:05:52 → 00:05:55 ถึงกันในวันนี้เพราะว่ามันเอามาใช้ในการ
00:05:55 → 00:05:57 รักษาโรคต่างๆอย่างที่คนอื่นพยายามจะเอา
00:05:57 → 00:06:00 มาใช้นะครับและสุดท้ายค้ายชนิดที่ 4 เรา
00:06:00 → 00:06:03 เรียกว่า unip potent Stem Cell ไอ้
00:06:03 → 00:06:05 นี่เนี่ยมันจะกลายไปเป็นเซลล์ได้แค่ 1
00:06:05 → 00:06:08 ชนิดเท่านั้นแต่ความสามารถของมันก็คือ
00:06:08 → 00:06:10 ปกติเซลล์ของเราเนี่ยเวลามันเจริญไปเป็น
00:06:10 → 00:06:12 เซลล์อะไรสักอย่างแล้วใช่มยฮะมันจะไม่
00:06:12 → 00:06:15 สามารถแบ่งไปได้ไกลกว่านั้นและมันจะหยุด
00:06:15 → 00:06:17 แค่นั้นนะแต่ไอ้ STEM เซลล์ที่มันเป็น
00:06:17 → 00:06:18 unip potent Stem Cell เจะแบ่งได้
00:06:18 → 00:06:21 เรื่อยๆยกตัวอย่างเช่น unip potent STEM
00:06:21 → 00:06:24 C ที่รากผมของเราหรือที่ผิวหนังของเรานะ
00:06:24 → 00:06:26 ครับมันสามารถแบ่งตัวเป็นสเตมเซลล์สร้าง
00:06:26 → 00:06:28 เม็ดสีที่ผมของเราได้เรื่อยๆนะครับแต่มัน
00:06:28 → 00:06:31 จะแบ่งเป็นเซลล์ชนิดเดียวคือเซลล์ผมมันจะ
00:06:31 → 00:06:34 ไม่สามารถแบ่งไปเป็นเซลล์สมองเซลล์กระดูก
00:06:34 → 00:06:37 ได้นะครับอ่าแต่ตรงเยังไม่มีใครสามารถเอา
00:06:37 → 00:06:41 มันมาใช้ได้ทีนี้ผมขอเน้นย้ำที่ตัว
00:06:41 → 00:06:44 multipotent Stem Cell msc นะครับ
00:06:44 → 00:06:47 meen kyal Cell นะครับ OS stromal
00:06:47 → 00:06:49 Cell ตัวนี้นี่แหละที่เขาเอามาใช้ในการ
00:06:49 → 00:06:53 ย้อนไวยต่างๆนะครับก่อนอื่นเลยนะครับผมขอ
00:06:53 → 00:06:56 พูดถึงความยากลำบากในการเอาเซลล์พวกเนี้ย
00:06:56 → 00:06:58 มาใช้แล้วต้องบอกว่าเซลล์พวกนี้มันเอามา
00:06:59 → 00:07:01 จากไหนให้คุณทราบก่อนแล้วเดี๋ยวคุณฟังไป
00:07:01 → 00:07:04 เรื่อยๆเนี่ยจะเข้าใจเองว่าทำไมมันถึงยาก
00:07:04 → 00:07:06 นักในการเอามาใช้แล้วทำไมมันถึงไม่ค่อย
00:07:06 → 00:07:09 สำเร็จแล้วทำไมมันถึงต้องต้องมีผลทดลอง
00:07:09 → 00:07:13 เพิ่มขึ้นนะครับ msc misal stromal
00:07:13 → 00:07:16 Cell สามารถเอามาได้จากหลายแหล่งนะครับ
00:07:16 → 00:07:19 แหล่งแรกก็คือเซลล์ไขมันของเรานะครับหรือ
00:07:19 → 00:07:22 adipose tissue อันเนี้ยเราทำการดูดไข
00:07:22 → 00:07:25 มันแล้วเอาเซลล์ของเรามาทำเป็นอ่าทำตัว
00:07:25 → 00:07:28 msc นี้ได้นะครับเอามาเพาะเลี้ยงได้นะ
00:07:28 → 00:07:31 ครับแรงที่ที่ 2 ที่เมืองไทยมีและผมก็
00:07:31 → 00:07:35 เห็นหลายๆที่นะครับก็คือเอามาจากน้ำคร่ำ
00:07:35 → 00:07:38 นะที่เราเรียกว่าแมนิ fluid Stemcell
00:07:38 → 00:07:42 เอามาจากน้ำคร่ำได้แรงที่ 3 คือเอามาจาก
00:07:42 → 00:07:45 รกของเรานะครับอ่าเอามาจากเลือดในรกเนี่ย
00:07:45 → 00:07:48 หรือว่าตัวสายสะดือสายรกเนี่ยตัวนั้นน่ะ
00:07:48 → 00:07:52 ก็สามารถเอามาทำ msc ได้นะครับทีนี้ไม่
00:07:52 → 00:07:54 ว่าคุณจะเอามาจากแหล่งไหนนะมันมีให้คิด
00:07:54 → 00:07:57 อยู่ 2 อย่างถ้าเราทำการดูดไขมันเออมัน
00:07:57 → 00:08:00 เป็นเซลล์ของเราเองนี่แหละแต่ถ้าเกิดคุณ
00:08:00 → 00:08:03 ไปเอามาจากรบหรือไปเอามาจากน้ำค่ำมันไม่
00:08:03 → 00:08:05 ใช่ของคุณเองครับมันไปเอาของใครเข้ามาอีก
00:08:05 → 00:08:08 ทีนึงก็ไม่รู้
00:08:08 → 00:08:11 นะส่วนใหญ่เนี่ยมักจะเป็นเซลล์ที่ไปเอามา
00:08:11 → 00:08:14 จากคนอื่นก็คือเอามาจากรบนะถามว่าไอ้
00:08:14 → 00:08:17 เซลล์พวกเนี้ยมันมีข้อดีข้อเสียยังไงนะ
00:08:18 → 00:08:20 ครับข้อดีของมันเนี่ยนะครับคือมันเป็น
00:08:20 → 00:08:23 เซลล์ซึ่งยังเด็กมากอยู่นะครับดังนั้นมัน
00:08:23 → 00:08:26 ยังมีความสามารถในการเจริญเติบโตได้ค่อน
00:08:26 → 00:08:29 ข้างที่จะดีนะครับแล้วเซลล์เด็กเนี่ยมัน
00:08:29 → 00:08:31 เรียกได้ว่าเป็นเซลล์หัวอ่อนหมายความว่า
00:08:31 → 00:08:33 ต่อให้มันมาจากคนอื่นเนี่ยเข้าไปในร่าง
00:08:33 → 00:08:36 กายของคนที่ไม่ใช่คนคนเดียวกันมันก็จะไม่
00:08:36 → 00:08:39 เกิดการต่อต้านขึ้นจะแตกต่างจากการใช้
00:08:39 → 00:08:42 เซลล์แกนะครับอ่าจะเกิดจะจะแตกต่างจากตรง
00:08:42 → 00:08:45 นี้อย่างไรก็ตามมันยังสามารถที่จะเกิดการ
00:08:45 → 00:08:47 ต่อต้านได้ดังนั้นในบางคนเนี่ยถ้าเกิดการ
00:08:47 → 00:08:49 ต่อต้านมากๆเซลล์พวกนี้ฉีดเข้าไปก็หมด
00:08:50 → 00:08:53 ฤทธิ์ไม่ได้ผลอะไรทั้งสิ้นอืมนะฮะอ่ะเรา
00:08:53 → 00:08:57 มาว่ากันดีกว่าว่าไอ้ตัวสเต็มเซลล์เนี่ย
00:08:57 → 00:08:59 เราเอามันมาแล้วยังไงต่อแล้วทำไมมันถึง
00:08:59 → 00:09:01 ยากยากนักขั้นแรกนะครับสมมุติว่าเราเอามา
00:09:01 → 00:09:05 จากอ่ารกนะครับหรือเอามาจากน้ำคร่ำเราเอา
00:09:05 → 00:09:08 มันออกมาและมันเอาออกมามันมีจำนวนจำกัด
00:09:08 → 00:09:10 ครับมันต้องเพาะเลี้ยงให้มันมีจำนวนมาก
00:09:10 → 00:09:13 ขึ้นก่อนถึงจะเอามาใช้ได้ถูกมั้ยฮะถ้ามัน
00:09:13 → 00:09:15 มีแค่ 3 เซลล์ 4 เซลล์เงี้มันจะไปใช้ได้ย
00:09:15 → 00:09:17 ไงต้องมีเป็นล้านเซลล์โนนนะอ่ะทีนี้เรา
00:09:17 → 00:09:20 เอาเซลล์ออกมาละเราแยกสเต็มเซลล์ออกมาและ
00:09:20 → 00:09:23 ขั้นตอนการพสเตมเซลล์นี่ไม่ง่ายนะครับ
00:09:23 → 00:09:26 เพราะว่าในแต่ละขั้นของมันเนี่ยจำเป็นจะ
00:09:26 → 00:09:30 ต้องได้สารอาหารที่แตกต่างกันไปน่าอย่าง
00:09:30 → 00:09:33 งั้นเลยนะฮะก็เหมือนกับเวลาที่เราเนี่ย
00:09:33 → 00:09:36 เ่อเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งนะครับในช่วงเวลา
00:09:36 → 00:09:38 แต่ละวัยเนี่ยก็จะต้องได้รับสารอาหารที่
00:09:38 → 00:09:41 มันไม่เท่ากันสารอาหารที่ไม่เหมือนกันนะ
00:09:41 → 00:09:43 ครับเพื่อจะให้การเจริญเติบโตของมันเหมาะ
00:09:43 → 00:09:46 สมเช่นถ้าเกิดลงสมมุติว่าในเด็กเนี่ยเรา
00:09:46 → 00:09:49 ให้กินแต่นมเออโอเคไม่มีปัญหาแต่ถ้าเกิด
00:09:49 → 00:09:51 คุณอายุ 15 ปีแล้วคุณกินแต่นมอย่างเดียว
00:09:51 → 00:09:53 เนี่ยมันไม่ได้สเตมเซลล์ก็เหมือนกันครับ
00:09:53 → 00:09:56 แต่ละช่วงอายุของมันจะต้องได้รับสารที่
00:09:56 → 00:09:58 ไม่เหมือนกันเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต
00:09:58 → 00:10:00 ที่ถูกต้องตลอดเวลา
00:10:00 → 00:10:04 ไอ้นี่แหละที่ยากเพราะว่ามันยังไม่มีใคร
00:10:04 → 00:10:06 ที่ทำได้เป๊ะแล้วก็ไม่มีใครที่รู้แน่นอน
00:10:07 → 00:10:11 ว่าจะให้สารอะไรยังไงเท่าไหร่แล้วมีสาร
00:10:11 → 00:10:14 กี่ตัวอืมตรงนี้ยังเป็นสิ่งที่ทดลองกัน
00:10:14 → 00:10:16 อยู่ในนะครับแล้วถ้าเกิดว่าคุณให้สาร
00:10:16 → 00:10:19 อาหารที่มันไม่เยอะเพียงพอแล้วล่ะก็หรือ
00:10:19 → 00:10:21 ให้สารไม่ตรงกับช่วงเวลาที่มันเจริญเติบ
00:10:21 → 00:10:24 โตแล้วล่ะก็เซลล์ที่ได้ออกมาก็จะมีความ
00:10:24 → 00:10:28 ผิดปกติได้อันนี้อันที่ 1 นะอันที่ 2
00:10:28 → 00:10:30 เรื่องของการติดเชื้อครับครับคุณไม่รู้
00:10:30 → 00:10:31 หรอกว่ามันมีเชื้ออะไรแฝงมากับพวกนั้น
00:10:31 → 00:10:34 บ้างถ้ามันไม่ใช่เซลล์ของเราเองดังนั้นก็
00:10:34 → 00:10:37 ต้องมีการตรวจให้ดีให้แน่ชัดก่อนว่าไม่มี
00:10:37 → 00:10:39 เชื้ออะไรแฝ่งมานะครับดังนั้นตรงนี้คงจะ
00:10:39 → 00:10:42 ต้องไปปรึกษาดูซิว่าที่เขาคทำสเตมเซลล์มี
00:10:42 → 00:10:44 การตรวจเชื้อแบบไหนบ้างและตรวจอะไรบ้าง
00:10:44 → 00:10:46 ที่สำคัญเพราะมันมีไวรัสหลายๆอย่างที่
00:10:46 → 00:10:49 อยู่ในนั้นนะครับอันที่
00:10:49 → 00:10:54 3 การเจริญเติบโตของตัว msc เนี่ยนะฮะ
00:10:54 → 00:10:57 ถ้าเราเอามาเพาะเรี้ยงนะบางทีถ้าเราเพาะ
00:10:57 → 00:11:02 ไม่ถูกนะครับมันจะเกิดภาวะแก่ตัวคือ msc
00:11:02 → 00:11:06 sence มันแก่มันแก่แล้วเกิดอะไรขึ้นมัน
00:11:06 → 00:11:10 แก่แล้วความสามารถมันลดลงครับนะลดลงก็คือ
00:11:10 → 00:11:12 ยังไงปกติเราต้องการสเต็มเซลล์เข้าไปใน
00:11:12 → 00:11:15 ที่ที่มันทำงานแล้วก็ไปช่วยเหลืออวัยวะ
00:11:15 → 00:11:17 นั้นชชะลอไวหรือจะเพิ่มเติมอวยวะทำให้มัน
00:11:17 → 00:11:19 แข็งแรงขึ้นก็แล้วแต่แต่มันทำไม่ได้เพราะ
00:11:19 → 00:11:21 มันแก่
00:11:21 → 00:11:24 อ่าพอมันแก่แล้วมันไม่ใช่แก่เฉยๆนะเวลา
00:11:24 → 00:11:26 เซลล์พวกนี้แก่มันจะหลั่งสารก่อเกิดการ
00:11:26 → 00:11:30 อักเสบขึ้นมาก็ยิ่งแยกสิครับเพราะปกติเรา
00:11:30 → 00:11:32 ไม่ต้องการให้มันมีการอักเสบถูกมั้ยครับ
00:11:32 → 00:11:35 นั่นแหละคือปัญหาทีนี้ถามว่าทำไมมันถึง
00:11:35 → 00:11:39 แก่ได้เออทำไมแก่ได้ก็มีอย่างนี้ครับมัน
00:11:39 → 00:11:42 มี 3 ประการหลักๆประการแรกนะครับคือเเมีย
00:11:42 → 00:11:46 มันสั้นลงจากการเพาะเลี้ยงประการที่ 2
00:11:46 → 00:11:48 เกิดอนุมูลอิสระ reactive Oxygen
00:11:48 → 00:11:51 species นะครับประการที่ 3 การที่เรา
00:11:51 → 00:11:54 แบ่งตัวแล้วเราให้สารไม่ถูกต้องเนี่ยพวก
00:11:54 → 00:11:57 DNA ของเซลล์เหล่านี้เนี่ยมันอาจจะมีการ
00:11:57 → 00:12:00 กลายพันธ์บ้างนะครับพวกเนี้ยบางทีเราจะ
00:12:00 → 00:12:02 เรียกว่า genetic instability นะครับ
00:12:03 → 00:12:05 ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของมันเองก็ได้
00:12:05 → 00:12:08 หรือเกิดจากกระบวนการที่อยู่เหนือ DNA
00:12:08 → 00:12:12 ที่เราเรียกว่า epigenetic ก็ได้ซึ่งไอ้ 3
00:12:12 → 00:12:14 อย่างนี้นี่แหละอาจจะทำให้เกิดเซลล์แก่
00:12:14 → 00:12:16 หรือไม่ใช่แก่ธรรมดามันอาจจะคลายไปเป็น
00:12:16 → 00:12:19 เซลล์ที่ผิดปกติเลยก็
00:12:19 → 00:12:22 ได้และอีกอย่างนึงครับสตมเซลล์เหล่านี้
00:12:22 → 00:12:24 เมื่อกี้บอกแล้วใช่มั้ยครับว่ามันกลายไป
00:12:24 → 00:12:26 เป็นเซลล์ได้หลายประเภทเพราะว่ามันเรียก
00:12:26 → 00:12:28 ว่า multipotent Stem Cell เซลล์อะไร
00:12:28 → 00:12:31 ที่มันกลายไปเป็นได้บ้างล่ะครับอ่า msc
00:12:31 → 00:12:33 ที่เรามาฉีดเข้าไปเพื่อชะลอวเพื่ออะไรพวก
00:12:33 → 00:12:35 เนี้ยมันกลายไปเป็นเซลล์อะไรได้บ้างอัน
00:12:35 → 00:12:39 นี้คุณต้องรู้ 1 เซลล์ไขมันเซลล์กระดูก
00:12:39 → 00:12:43 แข็งเซลล์กระดูกอ่อนเซลล์กล้ามเนื้อเซลล์
00:12:43 → 00:12:46 ที่เอาไว้สร้างคอลลาเจนและอีกหลาย
00:12:46 → 00:12:51 เซลล์อืทีนี้ล่ะมีปัจจัยอะไรบ้างที่มันจะ
00:12:51 → 00:12:53 บอกได้ว่าเซลล์พวกนี้จะกลายไปเป็นอะไรใน
00:12:53 → 00:12:57 ร่างกายของคุณไม่มี
00:12:57 → 00:13:00 อปกติติแล้วนะร่างกายของมนุษย์เราเนี่ย
00:13:01 → 00:13:03 มันมีสเต็มเซลล์สร้างขึ้นมามันไปตามที่
00:13:03 → 00:13:05 ต่างๆมันจะแปลงร่างกายไปเป็นเซลล์ที่
00:13:05 → 00:13:08 เหมาะสมได้ก็ต่อเมื่อสิ่งแวดล้อมบริเวณ
00:13:08 → 00:13:11 นั้นบ่งบอกให้มันกลายไปเป็นอะไรนะครับก็
00:13:11 → 00:13:14 เหมือนกับเราส่งเด็กคนนึงไปโรงเรียนน่ะ
00:13:14 → 00:13:16 เราต้องการให้เด็กคนนี้เก่งเราส่งไปโรง
00:13:16 → 00:13:18 เรียนนี้อ่ะเด็กมันก็จะเก่งวิชาวาดรูปเรา
00:13:18 → 00:13:20 ส่งไปโรงเรียนอันนี้เด็กก็จะเก่งเลขนะ
00:13:21 → 00:13:23 ครับนี่ก็เหมือนกันนะถ้าเราส่งสเตมเซลล์
00:13:23 → 00:13:26 เข้าไปสักที่นึเนี่ยมันจะต้องมีสภาวะแวด
00:13:26 → 00:13:28 ลอมรอบๆนั้นบอกเราให้ได้ว่าเฮ้ยเออต้องทำ
00:13:28 → 00:13:30 ยังไงไงมันถึงจะกลายไปเป็นเซลล์ที่เรา
00:13:30 → 00:13:33 ต้องการเพราะคุณลองคิดดูสมมุติว่าคุณฉีด
00:13:33 → 00:13:36 สเต็มเซลล์เข้าไปรงบริเวณหน้าเพื่อที่จะ
00:13:36 → 00:13:38 หวังว่าให้หน้าเราสร้างคอลลาเจนได้นะครับ
00:13:38 → 00:13:40 มีสร้างไขมันเพราะว่าถ้าคนอายุเยอะอ่ะไฝ
00:13:41 → 00:13:43 ไขมันมันเหี่ยวไปหน้ามันอาจจะตอก็ได้นะ
00:13:43 → 00:13:45 เราก็มีการสร้างไขมันสร้างคอลลาเจนเพิ่ม
00:13:45 → 00:13:47 เติมแต่ถ้าเกิดมันเข้าไปแล้วมันสร้าง
00:13:47 → 00:13:48 กระดูกอ่อน
00:13:48 → 00:13:53 นะหรือมันสร้างพังผืดล่ะเป็นไงหน้าคุณเล่
00:13:53 → 00:13:56 เทไปหมดเลยถูกมั้ยฮะอ่าแล้วซ้ำร้ายกว่า
00:13:56 → 00:13:59 นั้นเกิดมันสร้างเป็นก้อนทูมอร์หรือ
00:13:59 → 00:14:01 มะเร็งขึ้นมาล่ะเพราะมันไม่มีอะไรกำหนด
00:14:02 → 00:14:03 เลยนะว่ามันจะไม่กลายเป็นแบบนั้นถึงแม้
00:14:03 → 00:14:07 โอกาสจะเกิดขึ้นของการเกิดทูมอหรือว่า
00:14:07 → 00:14:09 ก้อนเนื้องอกเมันน้อยมากก็ตามนะครับแต่
00:14:09 → 00:14:13 มันก็ยังมีโอกาสเกิดได้อยู่ดีโอเคบางโรง
00:14:13 → 00:14:16 พยาบาลจะโฆษณาไว้ว่าอย่างนี้ครับสมัยก่อน
00:14:16 → 00:14:19 เนี่ยเขาจะใช้เซลล์ตัวนึงชื่อ induced
00:14:19 → 00:14:22 plu protent Stem Cell หรือ ipsc
00:14:22 → 00:14:24 อันเนี้ยสมัยก่อนเคยมีวิจัยว่ามันเกิด
00:14:24 → 00:14:26 เนื้องอกได้โดยเฉพาะเนื้องอกที่เราเรียก
00:14:26 → 00:14:29 ว่า teratoma teratoma คือเนื้องอกที่
00:14:29 → 00:14:32 ผสมผสานไปด้วยเซลล์หลากหลายชนิดเช่นเอ่อ
00:14:32 → 00:14:35 เซลล์ผมเซลล์ฟันเซลล์กระดูกเซลล์มดลูก
00:14:35 → 00:14:37 อะไรเงี้ยรวมอยู่ในก้อนเดียวกันนะอันนั้น
00:14:37 → 00:14:41 คือเซลล์ที่เขามีปัญหาแต่ต่อให้คุณ
00:14:41 → 00:14:44 เปลี่ยนไปใช้ msc ก็อาจจะมีปัญหาอย่างนี้
00:14:44 → 00:14:46 ได้เช่นกันนะครับดังนั้นเป็นสิ่งที่เรา
00:14:46 → 00:14:48 ยังคนมีความกังวลอยู่เพราะว่าเราไม่
00:14:48 → 00:14:51 สามารถควบคุมมันได้ว่าจะให้มันกลายไปเป็น
00:14:51 → 00:14:55 อะไรและทีนี้ผมก็อยากจะมาเล่าให้ฟังแล้ว
00:14:55 → 00:15:00 ว่าเออข้อแตกต่างระระหว่างการทำสเต็ม
00:15:00 → 00:15:03 เซลล์ในการชะลอวัยอ่าให้ไปเพื่ออ่ารักษา
00:15:03 → 00:15:07 โรคข้ออักเสบข้อเสื่อมเอ่อเป็นโรคเบาหวาน
00:15:07 → 00:15:11 ตับเ่อตับมันมีปัญหาอัลไซเมอร์หรืออะไร
00:15:11 → 00:15:14 พวกเนี้ยมันไม่สำเร็จมันยังทำไม่ได้แล้ว
00:15:14 → 00:15:16 ทำไมไอ้การปลูกไถไายกระดูกด้วยการใช้
00:15:16 → 00:15:20 เซลล์พวกนี้มันถึงทำได้อืตรงนี้น่าสนใจ
00:15:20 → 00:15:21 มากแล้วนะครับเพราะว่าถ้าเรารู้ปุ๊บเราจะ
00:15:21 → 00:15:24 รู้เลยเข้าใจเลยนะะโอเคผมขอเริ่มต้นด้วย
00:15:24 → 00:15:26 การปลูกไถไายกระดูกก่อนว่าทำไมมันถึงทำ
00:15:26 → 00:15:29 แล้วสำเร็จนะครับประการแรกนะครับครับ
00:15:29 → 00:15:32 ปริมาณเซลล์ที่เราใช้เนี่ยในการปลูกไถไาย
00:15:32 → 00:15:37 กระดูกเยอะมากนะครับอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 5
00:15:37 → 00:15:39 ล้านเซลล์ต่อ
00:15:39 → 00:15:44 กิโลกรัมสมมุติคุณนัก 50 กกนะครับก็เอา 2
00:15:44 → 00:15:48 * 50 สิครับ 100 ล้านตัวที่คุณต้องใช้
00:15:49 → 00:15:51 แต่ไอ้ที่เขาไปทำในคลินิกแล้วก็ฉีด
00:15:51 → 00:15:55 สเตมเซลล์เข้าไปเทำเท่าไหร่ครับ 10 ล้าน
00:15:55 → 00:15:59 ตัว 10 ล้านตัว 1 ล้านตัว 5 ล้านตัว
00:15:59 → 00:16:02 น้อยมากนะครับน้อยมากๆเมื่อเทียบกับที่
00:16:02 → 00:16:06 เขาใช้จริงๆนะฮะเออนั้นถ้าจำนวนแค่จำนวน
00:16:06 → 00:16:08 มันก็แตกต่างกันแล้วนะครับงั้นการที่เรา
00:16:08 → 00:16:11 ไปใช้สเตมเซลล์ในการชะลอไวหรือการรักษา
00:16:11 → 00:16:14 โรคอื่นเนี่ยจำนวนไม่ไม่เหมือนกันะอันนี้
00:16:14 → 00:16:17 อันดับแรกนะน้อยกว่าเยอะโอกาสจะสำเร็จมัน
00:16:17 → 00:16:21 ยากประการที่ 2 การปลูกไถไขกระดูกเนี่ย
00:16:21 → 00:16:24 คือโอเคบางคนอาจจะไม่เข้าใจว่ามันทำยังไง
00:16:24 → 00:16:25 นะครับสมมุติเราได้เซลล์ที่เราต้องการ
00:16:25 → 00:16:28 ปลูกมาเรียบร้อยแล้วเราจะฉีดเข้าไปในเส้น
00:16:28 → 00:16:30 เลือดนะครับปลูกไถไขกระดูกไม่ใช่ว่าเรา
00:16:30 → 00:16:32 แกะไขกระดูกออกมาแล้วเอาไขกระดูกอใหม่ใส่
00:16:32 → 00:16:34 ยัดเข้าไปในนั้นนะเราเป็นเซลล์พวกเนี้ย
00:16:34 → 00:16:37 ฉีดเข้าไปในกระแสเลือดนะแล้วไอ้เซลล์พวกเ
00:16:37 → 00:16:40 รู้ด้วยไงว่าต้องไปที่ไขกระดูกนะครับที่
00:16:40 → 00:16:43 ไขกระดูกเนี่ยจะมีมันมีกลไกนึงเราเรียก
00:16:43 → 00:16:46 ว่า hing mechanism นะครับโดยมีการมี
00:16:46 → 00:16:48 ปฏิสัมพันธ์กับ 2 อย่างก็คืออันนึงชื่อ
00:16:48 → 00:16:53 ว่า sdf 1 อีกตัวนึงคือ cxcr4 นะครับอ่า
00:16:53 → 00:16:55 มีมีปฏิสัมพันธ์กับ 2 ตัวเนี้ยนะครับมัน
00:16:55 → 00:16:57 จะทำให้เซลล์ต้นกำเนิดที่เราฉีดเข้าไปใน
00:16:57 → 00:16:59 เส้นเลือดเนี่ยรรู้ได้ว่าจะต้องไปที่ไข่
00:17:00 → 00:17:03 กระดูกพอมันไปถึงตรงนั้นไม่พอครับที่ไข่
00:17:03 → 00:17:07 กระดูกเนี่ยมันจะมีสารต่างๆเรียกว่าพาราน
00:17:07 → 00:17:10 นะครับอ่ามันจะหรือว่าทำให้บริเวณนั้นน่ะ
00:17:10 → 00:17:12 มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเราจะเรียกว่า Bow
00:17:12 → 00:17:15 nich นะครับ Bow nich นี่แหละเมันจะทำ
00:17:15 → 00:17:17 ให้เซลล์สเต็มเซลล์ของเราที่วิ่งเข้าไป
00:17:17 → 00:17:21 ข้างในเนี่ยมันสามารถที่จะเกาะแล้วก็ทำ
00:17:21 → 00:17:24 หน้าที่อย่างที่มันต้องการได้นี่คือกลไก
00:17:24 → 00:17:28 ที่ว่ามันทำไมถึงทำแล้วสำเร็จนะครับแต่
00:17:28 → 00:17:31 ถ้าภาวะอื่นล่ะเช่นอ่ะชะลอวัยเป็น
00:17:31 → 00:17:34 อัลไซเมอร์ไปรดหัวใจทำไมไม่สำเร็จโอเคนะ
00:17:34 → 00:17:39 ประการแรกถ้าคุณฉีดเข้าเส้นเลือดนะยากละ
00:17:39 → 00:17:41 เพราะเส้นเลือดเนี่ยส่วนใหญ่มันไปที่ปอด
00:17:41 → 00:17:43 แล้วก็ที่ตับก่อนนะครับที่ปอดที่ตับจะมี
00:17:43 → 00:17:46 ปัญหาอันนึงเราเรียกว่า First pass
00:17:46 → 00:17:47 effect คือเซลล์ส่วนใหญ่มันจะไปเกาะอยู่
00:17:47 → 00:17:50 ตรงนั้นมันไม่ไปหรอกครับทั่วร่างกายคุณ
00:17:50 → 00:17:53 มันไม่ไปสมองมันไม่ไปหัวใจมันไปตับไม่ไป
00:17:53 → 00:17:58 ที่ไหนหรอกครับนะแต่เวลาที่เราฟังอ่าคน
00:17:58 → 00:18:00 บางบางคนที่เขาแนะนำให้การฉีดสเต็มเซลล์
00:18:00 → 00:18:03 เป็นการรักษาของเขาเนี่ยเขาจะพูดว่าโอ้
00:18:03 → 00:18:06 สมมุติที่ปอดเราเป็นพังผืดนะฮะหรือที่
00:18:06 → 00:18:08 สมองเรามันเคยมีเซลล์ตายตรงนั้นมันจะมี
00:18:08 → 00:18:11 การหลั่งสารบางอย่างทำให้เซลล์พวกสตม
00:18:11 → 00:18:12 เซลล์ที่เราฉีดเข้าไปตรงนี้รีบวิ่งไปตรง
00:18:12 → 00:18:15 นั้นเพื่อไปซ่อมแซมไม่จริงครับมันไม่เป็น
00:18:15 → 00:18:18 แบบนั้นนะฮะอ่ามันไม่เป็นแบบนั้นมันจะติด
00:18:18 → 00:18:20 อยู่ที่ปอดเซส่วนมากนี่เรว่า First First
00:18:20 → 00:18:23 pass effect แล้วแปลว่าถ้าเซลล์ส่วน
00:18:23 → 00:18:24 ใหญ่ติดอยู่ตรงนี้แล้วเมื่อกี้เราบอกว่า
00:18:24 → 00:18:27 ใช้กี่เซลล์อ่ะครับก็ใช้แค่ประมาณ 10
00:18:27 → 00:18:29 ล้านเซลล์อย่างเงี้ยมันก็ติดตรงปอดหมดย
00:18:29 → 00:18:31 ครับมันไปที่อื่นมันไม่ไปแล้วครับมันไป
00:18:31 → 00:18:33 ที่มันก็ไม่เหลือจากให้ไปที่อื่นอยู่แล้ว
00:18:33 → 00:18:35 แล้วจะรู้ได้ยังไงมันไปที่สมองโดยตรมแต่
00:18:35 → 00:18:38 มันไปทั้งร่างกายอ่าไปเฉลี่ยที่แขนที่ขา
00:18:38 → 00:18:41 ที่หัวใจจที่ไตที่ตับที่สมองแต่มันอยู่
00:18:41 → 00:18:44 ที่ปอดเยอะกว่าสุดท้ายมันไปที่บริเวณที่
00:18:44 → 00:18:46 เราต้องการน่ะน้อยมากนะครับดังนั้นถ้า
00:18:46 → 00:18:48 เกิดว่าท่านไปชะลอไวแล้วเขาบอกว่าจะฉีด
00:18:48 → 00:18:50 เต็นเซลล์ค้าเส้นเลือดนะอันนี้ผมไม่เห็น
00:18:50 → 00:18:53 ด้วยนะครับเพราะว่าถ้าเราฟังมาอย่างเงี้ย
00:18:53 → 00:18:56 ไม่ได้ผลนะครับอันที่ 2 ฉีดเข้าไปตรงหน้า
00:18:56 → 00:18:58 เลยอ่ะนะเพราะว่ามันมีฉีดเข้าไปตรงหน้า
00:18:58 → 00:19:02 ตรงๆนะครับอันเนี้ยมีปัญหาเหมือนกันครับ
00:19:02 → 00:19:06 ปัญหาคืออะไรนะครับอย่างแรกนะเมื่อกี้ถ้า
00:19:06 → 00:19:09 เป็นการปลูกไถไขกระดูกเรามี Bom nish
00:19:09 → 00:19:11 เรามีบ้านมีสิ่งแวดล้อมให้มันที่เหมาะสม
00:19:11 → 00:19:15 เซลล์มันจะไปตรงนั้นแต่ผิวเราครับไม่มี
00:19:15 → 00:19:17 สิ่งแวดล้อมพวกนั้นไม่มี homing
00:19:17 → 00:19:19 mechanism มันไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า
00:19:19 → 00:19:22 สเตมเซลล์มันต้องไปเกาะโดนอะไรเกาะตรงไหน
00:19:22 → 00:19:26 เกาะอะไรไม่มีนะฮะอันนี้คือไม่มีนะใน
00:19:26 → 00:19:28 เมื่อไม่รู้มันมาที่นี่มาทำคือเหมือนแล้ว
00:19:28 → 00:19:31 ส่งเข้าไปส่งคนคนนึงเข้าไปสถานที่ที่นึง
00:19:31 → 00:19:34 แล้วเไม่รู้ไปทำอะไรตรงนั้นน่ะก็เออไม่
00:19:34 → 00:19:37 รู้ทำอะไรตรงนี้ตายดีกว่าไปดีกว่านะครับ
00:19:37 → 00:19:41 นี่นะครับมันก็เลยไม่ได้ผลอะไรขึ้นมานะฮะ
00:19:41 → 00:19:45 และอีกประการนึงซึ่งบางคนอาจจะไม่ทราบคือ
00:19:45 → 00:19:49 เราฉีดสเตมเซลล์เข้าไปเนี่ยถ้าเราดูที่
00:19:49 → 00:19:51 เค้าโฆษณาเจะมีการบอกว่าเอออายุเท่านี้
00:19:51 → 00:19:53 ฉีดปีละครั้งอายุเท่านี้ฉีดปีละ 2 ครั้ง
00:19:53 → 00:19:56 แล้วทำไมมันต้องปิดฉีดปีละครั้ง 2 ครั้ง
00:19:56 → 00:19:58 ก็แล้วเมื่อกี้เพราะเราบอกว่าสเตมเซลล์
00:19:58 → 00:19:59 มันเป็นเซลล์ที่มันแบ่งตัวได้เรื่อยๆไม่
00:19:59 → 00:20:01 ใช่เหรอมันควรจะอยู่ครั้งตรงนั้นตลอดไป
00:20:01 → 00:20:05 เลยนี่ทำไมมันต้องมาฉีดสามข้างั้นน่ะ
00:20:05 → 00:20:07 ปัญหาอยู่งี้ครับเตมเซลล์เนี่ยเรายังทำ
00:20:07 → 00:20:10 ให้มันติดอยู่กับตรงบริเวณนั้นน่ะไม่ได้
00:20:10 → 00:20:12 มันอยู่แป๊บเดียวแล้วมันก็โดนเลือดเราพัด
00:20:12 → 00:20:14 ไปที่อื่นแล้วครับเนื่องจากว่ามันไม่มี
00:20:14 → 00:20:16 สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเหมือนกับไข่กระดูก
00:20:16 → 00:20:18 ไงครับไข่กระดูกเนี่ยมันมีทุกอย่างเหมือน
00:20:19 → 00:20:21 เป็นเมืองให้เรียบร้อยะคุณก็เข้าย้ายบ้าน
00:20:21 → 00:20:23 เข้าไปอยู่ในนั้นได้เลยแต่ไอ้ตรงผิวหน้า
00:20:23 → 00:20:25 ของเราหรือว่าคนที่เป็นโรคหัวใจโรคสมอง
00:20:25 → 00:20:27 ที่จะให้สเตมเซลล์ไปอยู่ตรงนั้นน่ะบ้าน
00:20:27 → 00:20:30 มันไม่ได้สร้างไว้อ่ะนะครับไม่มีกลไกที่
00:20:30 → 00:20:32 มันยุดๆตรงนั้นน่ะมันก็เลยไปอยู่ไม่ได้นะ
00:20:32 → 00:20:35 ครับต่อให้คุณฉีดเข้าไปตรงสมองฉีดตรงหัว
00:20:35 → 00:20:37 ใจฉีดตรงหน้ามันไม่ใช่บ้านของมันมันสัก
00:20:37 → 00:20:42 พักมันก็ไปมันไปไหนอ่ะตายไปครับนะแต่
00:20:42 → 00:20:45 สมมุติอ่ะสมมุติสมมุติอีกเลยสมมุติว่าคุณ
00:20:45 → 00:20:47 สามารถทำให้มันอยู่ตรงนั้นได้คือบังคับ
00:20:47 → 00:20:50 ให้มันอยู่ตรงนั้นได้จะเกิดอะไรขึ้นก็มี
00:20:50 → 00:20:53 ปัญหาเหมือนกันครับปัญหาคืออะไรข้อแรกเลย
00:20:53 → 00:20:55 นะครับเซลล์ที่เมื่อกี้เราบอกว่าได้มา
00:20:55 → 00:21:00 เดี๋ยวได้มาจากไหนล่ะนคร่ำใชมยได้มาจาก
00:21:00 → 00:21:04 สายสะดือสายรกมันใช่ของคุณป่ะไม่ใช่ถ้า
00:21:04 → 00:21:06 ไม่ใช่แล้วถ้ามันเจริญไปเป็นเซลล์ขึ้นมา
00:21:06 → 00:21:08 สมมุติมันเจรินไปเป็นเซลล์ตรงหน้าเรา
00:21:08 → 00:21:13 อย่างเงี้ยนะครับก็จะเกิดปัญหาภาวะมี
00:21:13 → 00:21:16 เซลล์อยู่ 2 ประเภทประเภทหนึของเราเอง
00:21:16 → 00:21:20 ประเภทหนึของคนอื่นภาวะนี้เราเรียกว่ามคิ
00:21:20 → 00:21:23 นะครับเหมือนภาพโมกนะมี 2 อย่างไม่เหมือน
00:21:23 → 00:21:26 กันนะผสมผสานกันแล้วมันไม่ดียัง
00:21:26 → 00:21:29 ไงคนเรานะครับ
00:21:29 → 00:21:31 ผิวไม่เหมือนกันถูกมั้ยฮะบางคนผิวคล้ำบาง
00:21:31 → 00:21:34 คนผิวไม่คล้ำบางคนคอลลาเจนเยอะบางคน
00:21:34 → 00:21:36 คอลลาเจนน้อยแลถ้าเกิดว่าหน้าคุณเนี่ยมัน
00:21:36 → 00:21:38 มีเซลล์ 2 อย่างบบนกันหน้าไม่กระดำ
00:21:38 → 00:21:41 กระด่างอย่างงั้นเหรอครับใช่มยสมมุติคุณ
00:21:41 → 00:21:43 ทำให้มันเกาะได้จริงๆอ่ะหน้าก็กระดำ
00:21:43 → 00:21:45 กระด่างได้นะและอีกอย่างนึงเมื่อตะกี้ผม
00:21:45 → 00:21:47 บอกว่าถ้าคุณใช้เซลล์คนอื่นน่ะต่อให้มัน
00:21:47 → 00:21:50 เป็นเซลล์เด็กยังไงเนี่ยถึงแม้ว่าโอกาสใน
00:21:50 → 00:21:53 การต่อต้านมันไม่มีแต่มันก็มีครับยิ่งคุณ
00:21:53 → 00:21:55 ฉีดเข้าไปบ่อยๆตามนี้ไปเรื่อยๆนะร่างกาย
00:21:55 → 00:21:57 เรามันจะรู้ได้ว่าเฮ้ยมันมีเซลล์แปลกปลอม
00:21:57 → 00:21:59 เข้ามาในร่างกายอยู่บ่อยบ่อยเว้ยเฮ้ยนะ
00:21:59 → 00:22:01 แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นเซลล์คนนี้
00:22:01 → 00:22:03 แล้วคราวหน้าเราไปฉีดจะเป็นเซลล์คนเดิม
00:22:03 → 00:22:05 อีกหรือเปล่าหรือเป็นเซลล์คนอื่นนะครับก็
00:22:05 → 00:22:07 ทำให้เรามีการเอาเซลล์ของคนอื่นเข้าไปใน
00:22:07 → 00:22:10 ร่างกายของเราเรื่อยๆเกิดอะไรขึ้นร่างกาย
00:22:11 → 00:22:13 เราต่อต้านเซลล์ครับต่อต้านแล้วมันเกิด
00:22:13 → 00:22:15 อะไรฉีดเข้าไปปุ๊บครั้งต่อไปไม่ได้ผลครับ
00:22:15 → 00:22:19 เหมือนฉีดน้ำเปล่าเข้าไปสลายหายไปเลยแต่
00:22:19 → 00:22:21 มันอาจจะไม่ใช่น้ำเปล่าปกติเพราะว่าร่าง
00:22:21 → 00:22:24 กายเราเกิดปฏิกิริยาต่อต้านเป็นปฏิกิริยา
00:22:24 → 00:22:27 การอักเสบปฏิกิริยาอักเสบนี้คือแทนที่
00:22:27 → 00:22:30 ท่านอาจจะน่าเรียบหน้าจะปลูกปากก็ได้แต่
00:22:30 → 00:22:32 มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ไม่มีใครตอบได้
00:22:32 → 00:22:34 ครับเพราะตรงนี้มันยังไม่มีการทดลองอยู่
00:22:34 → 00:22:38 ให้มันชัดเจนนะฮะอันนี้แหละคือปัญหานะถึง
00:22:38 → 00:22:40 แม้ว่าคุณจะเถียงบอกเอ้ยสามารถทำให้มัน
00:22:40 → 00:22:42 เกาะได้นะมันจะอยู่นานแต่พอนานเข้าก็มี
00:22:42 → 00:22:45 ปัญหาอย่างนี้อีกเหมือนกันนะครับถูกมย
00:22:45 → 00:22:48 แล้วนี่ยังไม่ได้พูดถึงเลยนะว่าเราจะรู้
00:22:48 → 00:22:49 ได้ยังไงว่าเซลล์ที่เราใส่เข้าไปมันจะ
00:22:49 → 00:22:51 กลายไปเป็นเซลล์ที่เราต้องการมันอาจจะ
00:22:51 → 00:22:53 เป็นกระดูกอาจจะเป็นพังผืดหรืออาจจะเป็น
00:22:53 → 00:22:57 อย่างอื่นก็ได้ถูกมั้ยครับเพราะว่าอะไร
00:22:57 → 00:23:00 เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะต้องใช้ใช้ปัจจัย
00:23:00 → 00:23:02 อะไรในการกระตุ้นมันให้กลายไปเป็นเซลล์
00:23:02 → 00:23:05 ที่เราต้องการนะอย่างปกติร่างกายเราเมื่อ
00:23:05 → 00:23:07 กี้บอกแล้วว่ามันสามารถที่จะบอกให้มัน
00:23:07 → 00:23:09 กลายไปเป็นเซลล์ที่ต้องการได้ด้วยสิ่งแวด
00:23:09 → 00:23:11 ล้อมที่มันกำหนดและเหมาะสมแต่ตรงหน้าเรา
00:23:11 → 00:23:15 ตรงผิวหนังของเราเนี่ยไม่มีนะครับตอนที่
00:23:15 → 00:23:18 คุณดิบวิตามินแล้วบอกว่าเฮ้ยกินอ่ากินตัว
00:23:18 → 00:23:20 นี้เข้าไปสิมันเป็นอ่าสารที่เราเรียกว่า
00:23:20 → 00:23:24 ลิติอ่าอันนี้ไปไปฆ่าเซลล์ที่มันแก่แล้ว
00:23:24 → 00:23:26 นะแล้วฉีดสเต็มเซล์เข้าไปคุณจะหน้าเด็กลง
00:23:26 → 00:23:29 อ่านี้ก็ยังไม่สำเร็จนะครับยังไม่สำเร็จ
00:23:29 → 00:23:31 นะงั้นเราจะเห็นว่ามีปัญหาหลายชั้นมากมาย
00:23:31 → 00:23:34 เลยตั้งแต่จำนวนเซลล์นะครับแล้วก็สิ่งแวด
00:23:34 → 00:23:37 ล้อมของเฉพาะเอ่อบริเวณเฉพาะที่ที่มันไม่
00:23:37 → 00:23:39 เหมาะสมแล้วต่อให้เราทำให้เหมาะสมเซลล์
00:23:39 → 00:23:41 มันอยู่ตรงนั้นได้นานๆเซลล์มันจะกลายไป
00:23:41 → 00:23:43 เป็นเซลล์ไหนก็ก็ไม่รู้มันจะกลายไปเป็น
00:23:43 → 00:23:45 เนื้องอกหรือเปล่าเราก็ไม่รู้อีกเช่นกัน
00:23:45 → 00:23:49 นะครับหรือมันอาจจะมีการต่อต้านเซลล์ก็
00:23:49 → 00:23:51 อาจจะเป็นไปนั้นได้เหมือนกันแลถ้าเกิดใน
00:23:51 → 00:23:54 อนาคตสมมุติว่าเราจำเป็นจะต้องรับการปลูก
00:23:54 → 00:23:57 ไถอวัยวะขึ้นมาจริงๆเนี่ยนะฮะหรือต้องการ
00:23:57 → 00:24:00 อ่าปลูกไถไขไขกระดูกจริงๆเราอาจจะเป็นคน
00:24:00 → 00:24:02 ที่มีปัญหาก็ได้นะเพราะว่าเราต่อต้านไข่
00:24:02 → 00:24:05 กระดูกต่อต้านเซลล์ของคนหลายๆประเภทโอกาส
00:24:05 → 00:24:08 ที่จะหาคนที่มาบริจาคให้เราแล้วตรงกับเรา
00:24:08 → 00:24:11 ได้เนี่ยยากมากกว่าเดิมเยอะเลยนั้น
00:24:11 → 00:24:14 อันเนี้ยคือสุดยอดของปัญหาที่ผมคิดมาได้
00:24:14 → 00:24:18 นะก็คิดเป็นขั้นๆแล้วก็จะรู้ว่ามันยังยัง
00:24:18 → 00:24:20 ไม่ถึงขั้นที่เราจะเอามันมาใช้ได้ในขณะ
00:24:20 → 00:24:23 นี้หรอกครับนะอนี้บางคนก็ถามว่าเอ้ยแล้ว
00:24:23 → 00:24:25 ปลูกไถไขกระดูกเนี่ยบางทีเก็ไขกระดูกคน
00:24:26 → 00:24:29 อื่นมานี่หว่าใช่มยใช่ครับแล้วมันไม่ต่อ
00:24:29 → 00:24:32 ต้านเหรอไม่ครับเพราะว่าอะไรรู้มั้ยเคก็
00:24:32 → 00:24:34 ต้องหาไข่กระดูกที่มันเข้ากันได้และต่อ
00:24:34 → 00:24:36 ให้มันเข้ากันได้จริงๆนะเาก็ต้องกินยากด
00:24:37 → 00:24:40 ภูมิต้านทานครับแต่ถ้าเกิดคุณมาฉีดหน้าเ
00:24:40 → 00:24:44 คุณจะเอายากรดภูมิต้านทานไปกินมยครับก็คง
00:24:44 → 00:24:46 ไม่เพราะว่าอะไรรู้มั้ยยากดภูมิต้านทานก็
00:24:46 → 00:24:48 มีปัญหาของมันเองมันทำให้ภูมิต้านทานของ
00:24:48 → 00:24:52 คุณต่ำลงมันทำให้ติดเชื้อง่ายมันมีผลข้าง
00:24:52 → 00:24:54 เคียของมันเองนะเช่นเป็นเบาหวานความดัน
00:24:54 → 00:24:57 ไข่มันสูงอะไรพวกเตามมาก็ได้นะครับดัง
00:24:57 → 00:24:59 นั้นใครมันจะเป็นอยากจะกินในเมื่อตั้งแต่
00:24:59 → 00:25:01 แรกเราต้องการให้ร่างกายเราชะลอไวแล้ว
00:25:01 → 00:25:05 ต้องไปกินยากดภูมิก็ไม่ดีนะครับเออใช่
00:25:05 → 00:25:07 มั้ยเพียงเพราะเพียงเพราะว่ากินแล้วจะต่อ
00:25:07 → 00:25:09 ไปจะได้ไม่ต่อต้านในเซลล์พวกนี้คือมันไม่
00:25:09 → 00:25:12 คุ้มได้ไม่คุ้มเสียถูกมั้ย
00:25:12 → 00:25:15 ฮะนั้นเท่าที่เล่ามาเนี่ยคุณก็จะเห็นได้
00:25:15 → 00:25:19 ถึงว่าเออทำไมสเต็มเซลล์ที่ใช้ในการรักษา
00:25:19 → 00:25:22 มันถึงมีโอกาสจะไม่ได้ผลแล้วมีโอกาสที่จะ
00:25:22 → 00:25:25 เกิดปัญหาได้ค่อนข้างที่เยอะเลยทั้งในแง่
00:25:25 → 00:25:29 ของการใช้เพื่อชะลอวัยใช้เพื่อรบลอยผิว
00:25:29 → 00:25:32 ให้มันอ่ามีความเต่งตึงไม่มีฝ้าไม่มีกระ
00:25:32 → 00:25:34 ไม่มีอะไรพวกนี้พวกนี้ยังมีปัญหาเยอะอยู่
00:25:34 → 00:25:39 นะฮะแล้วก็การเอาไปใช้กับโรคปอดโรคสตกอ่า
00:25:39 → 00:25:42 โรคเบาหวานโรคความดันโรคเสื่อมต่างๆทาง
00:25:42 → 00:25:46 ร่างกายข้อเสื่อมอัลไซเมอร์นะฮะพิสัน
00:25:46 → 00:25:49 กล้ามเดื้อหัวใจตายตับอักเสบตับแข็ง
00:25:49 → 00:25:53 เนี่ยยยังไม่ได้ผลในปัจจุบันนี้นะครับนะ
00:25:53 → 00:25:56 แต่อันนี้ผมพูดมาก็แล้วแต่ทุกท่านแล้วะ
00:25:56 → 00:25:58 กันถ้าท่านคิดไปตามผมอย่างเงี้ยเรเรื่อยๆ
00:25:58 → 00:26:01 ท่านก็จะเข้าใจเองนะครับว่ามันมีปัญหา
00:26:01 → 00:26:04 อะไรที่เราจำเป็นจะต้องขบคิดให้แตกอีก
00:26:04 → 00:26:06 เยอะมากมายก่อนที่เราจะสามารถเอา
00:26:06 → 00:26:09 สเตมเซลล์มาใช้ในการดูแลรักษาโรคพวกนี้
00:26:09 → 00:26:13 ได้นะครับแต่ยังไงก็ตามถ้าท่านยังคิดที่
00:26:13 → 00:26:16 จะไปใช้สเตมเซลล์ในการรักษาโรคพวกนี้อัน
00:26:16 → 00:26:18 นี้ก็เป็นสิทธิของท่านแล้วนะครับแต่ถ้า
00:26:18 → 00:26:20 เกิดเป็นครอบครัวของผมผมจะแนะนำเลยครับ
00:26:20 → 00:26:23 ว่าอย่าเพิ่งไปใช้นะครับอย่าเพิ่งไปใช้
00:26:23 → 00:26:25 มันได้ไม่คุ้มเสียแล้วก็ไม่แน่ใจด้วยว่า
00:26:26 → 00:26:29 มันจะมีผลอะไรตามมาแค่ไหนนะครับรวมทั้ง
00:26:29 → 00:26:33 ราคาไม่ได้ถูกเลยครับไม่ได้ถูกเลยนะเยัง
00:26:33 → 00:26:36 มีปัญหาอีกเยอะแยะไปหมดถ้าถามผมจริงๆผม
00:26:36 → 00:26:38 คิดว่าควรจะต้องมีการศึกษาเพิ่มมากกว่า
00:26:38 → 00:26:42 นี้อีกเยอะนะครับแต่ถ้าเกิดคุณเข้าร่วม
00:26:42 → 00:26:44 การศึกษาสักอันนึงเส่นเช่นเขาอาจจะบอกว่า
00:26:44 → 00:26:46 เออโรงพยาบาลนี้ทำการศึกษาเรื่อง
00:26:46 → 00:26:49 สเตมเซลล์ในการรักษาโรคพังผืดของปอดนะอ่ะ
00:26:49 → 00:26:52 คุณไปเข้าร่วมโครงการอย่างงี้อันนี้ก็อัน
00:26:52 → 00:26:55 นี้ถ้าคุณฟังข้อดีข้อเสียนะครับแล้วก็
00:26:55 → 00:26:57 สิ่งที่คุณจะได้มาสิ่งที่คุณจะเสียไป
00:26:57 → 00:26:59 โอกาสได้ได้โอกาสเสียแล้วคุณคิดว่ามัน
00:26:59 → 00:27:02 คุ้มค่าอ่ะก็ทำแต่ถ้าเกิดอยู่ๆจะไปหามา
00:27:02 → 00:27:04 จากเช่นอ่าบินไปเยอรมันทำสเต็มเซลล์ดี
00:27:04 → 00:27:07 มั้ยอ่าไปโรงพยาบาลนี้ฉีดดีมั้ยทำไมโรง
00:27:07 → 00:27:09 พยาบาลนั้นเมีฉีดอันนั้นฉีดฉีดได้ไม่ได้
00:27:09 → 00:27:13 สำหรับผมผมคงจะผมคงจะไม่แนะนำนะฮะแล้วก็
00:27:13 → 00:27:16 อีกอย่างนึงถ้าคุณไปทำอ่ะฉีดเข้าหน้านี้
00:27:16 → 00:27:19 ผมยังพอพอเข้าใจได้แต่การฉีดเข้าเลือดอ่ะ
00:27:19 → 00:27:21 ไม่ไม่รู้สึกว่ามันได้ผลอะไรเพราะว่าอะไร
00:27:21 → 00:27:23 รู้มั้ยปริมาณเซลล์ที่ให้เข้าไปมันน้อย
00:27:23 → 00:27:27 มากแล้วเมื่อกี้มันมี Pum First pass
00:27:27 → 00:27:28 effect คือมันไปติดอยู่ที่ปอดมันไม่ไป
00:27:28 → 00:27:32 ไหนหรอกนะครับเออมันไม่ไปไหนหรอกแล้วมัน
00:27:32 → 00:27:34 จะกลายไปเป็นเซลล์อะไรไม่มีใครบอกได้นะ
00:27:34 → 00:27:37 ครับดังนั้นวันนี้ผมก็หวังว่าจะมาให้ความ
00:27:37 → 00:27:40 กระจ่างอ่าได้ไม่มากก็น้อยนะครับถ้าเกิด
00:27:40 → 00:27:42 ว่าใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามกันเข้ามานะ
00:27:42 → 00:27:44 ครับถ้าจะไปทำจริงๆอันนี้ก็เป็นสิทธิของ
00:27:45 → 00:27:47 คุณแล้วนะครับแต่ถ้าสำหรับผมผมก็มีความ
00:27:47 → 00:27:50 เห็นอย่างที่ผมบอกไปเมื่อกี้นี้สรุปก็คือ
00:27:50 → 00:27:53 ปัจจุบันนี้สเตมเซลล์มีข้อใช้อยู่แค่
00:27:53 → 00:27:55 อย่างเดียวก็คือการปลูกไถไข่กระดูกถ้านอก
00:27:56 → 00:27:58 เหนือจากนั้นยังไม่มีข้อบ่งใช้และแล้วก็
00:27:58 → 00:28:01 คุณก็ต้องเสียเงินเองรวมทั้งผลที่ได้มัน
00:28:01 → 00:28:03 อาจจะไม่ได้อย่างที่คุณต้องการแล้วมันก็
00:28:03 → 00:28:05 อาจจะมีข้อเสียที่อาจจะไม่คุ้มค่าด้วยนะ
00:28:05 → 00:28:07 ครับโอเควันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณมาก
00:28:07 → 00:28:11 ครับสวัสดีครับ