ทำไมการคิดว่าแม่ไม่รักเราถึงเป็นปัญหาในความสัมพันธ์

รู้ทัน "อคติ" ในใจก่อนตีความว่า "พ่อแม่" ไม่เห็นค่า | บุพการีที่เคารพ

จากช่อง : Manoottangwai


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 คนในครอบครัวอยู่ด้วยกันมานานๆใกล้ชิดกัน

00:00:0300:00:05 อย่าเงี้ยเวลาเจอเหตุการณ์อะไรมันจะมันก็

00:00:0500:00:08 จะใช้นิสัยเดิมๆในการลุกขึ้นมารับมือ

00:00:0800:00:10 เพราะเราแปลความโดยสมมุติฐานที่ตั้งไว้

00:00:1000:00:12 ครับว่าเขาก็เป็นอย่างนี้แหละเอ่อแม่ก็

00:00:1200:00:14 ไม่เคยรักสมมุติในหัวเนี่ยผมไปเสิร์ฟข้าว

00:00:1400:00:17 ด้วยการบอกว่าแม่ก็ไม่เคยรักเราแม่ก็ไม่

00:00:1700:00:19 เคยรักเรามีเสียงเนี่ยอยู่ในหัวตลอดแค่

00:00:1900:00:21 แม่พูดว่าเอ้ยแกขอน้ำปลา

00:00:2100:00:24 หน่อยกลายเป็นว่าแม่แม่ก็ไม่เคยรักเราอีก

00:00:2400:00:26 แล้วบอกทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตาแม่เ้า

00:00:2600:00:28 จริงๆแม่แค่ขอน้ำปลาเพราะฉะนั้นเนี่ยบาง

00:00:2800:00:30 ทีกลับมาทบทวนตัวเองก่อนว่าเรามี

00:00:3000:00:34 สมมุติฐานอะไรในใจหรือเปล่าถ้ามีเนี่ยเรา

00:00:3400:00:37 รู้ทันเราก็อาจจะแปลความในมุมที่ต่างไป

00:00:3700:00:40 ได้เรามีสมมุติฐานอะไรในใจหรือเปล่าเอใช่

00:00:4000:00:42 ครับสมมุติฐานส่วนมากในใจเนี่ยอาจจะมีได้

00:00:4200:00:45 สัก 3-4 แบบที่ผมไกไว้จริงๆมีได้หลายแบบ

00:00:4500:00:47 แหละแต่ว่าอันแรกคือสมติฐานประเภทที่เขา

00:00:4700:00:50 รักไม่รักแคร์ไม่แคร์อือ่าแบบเนี้ยก็คือ

00:00:5000:00:53 เวลาจะมีสมมติฐานในสไตล์เนี่ยก็คือเราจะ

00:00:5300:00:55 ตีความพฤติกรรมคนตรงหน้าเลยแค่เขาไม่พูด

00:00:5500:00:59 ถึงเราแค่เขาไม่ตอบสนองเรามันกลายเป็นเ

00:00:5900:01:03 ไม่ไม่แคร์ไปได้ในทันทีอ่าหรือพอเติปุ๊บ

00:01:0300:01:05 ก็หาว่าเราไม่เก่งใช่เกอะไรเงี้ยใช่ม

00:01:0500:01:07 บริหานแบบที่ 2 คือเรื่องเก่งไม่เก่งก็

00:01:0700:01:09 คือว่าเหมือนเขาก็รู้สึกว่าฉันไม่มีความ

00:01:0900:01:12 สามารถฉันดีไม่พอฉันไม่เก่งพอพูดอะไรไป

00:01:1200:01:15 เราก็ตีความไปในมุมว่าเนี่ยแม่หาว่าฉัน

00:01:1500:01:17 ไม่มีความสามารถทำกับข้าวไม่เก่งทำงาน

00:01:1700:01:19 อะไรไม่ได้เรื่องทำอะไรไม่ดีก็ตีความเป็น

00:01:2000:01:22 มุมนั้นอีกอ่าเมื่อกี้อันแรกคือรักไม่รัก

00:01:2200:01:25 แคร์ไม่แคร์อันที่ 2 เก่งไม่เก่งเก่งอัน

00:01:2500:01:27 ที่ 3 เนี่ยสมมุติที่ฐานไปในมุมเรื่องของ

00:01:2700:01:30 อนาคตหมายหถึงว่าสิ้นหวังมีอนาคตไหม

00:01:3000:01:33 เหมือนประมาณว่าบอกว่าเนี่ยเดี๋ยวแกก็

00:01:3300:01:35 อยู่กับแม่ไปอีกสักอาทิตย์นึงเนาะครับ

00:01:3500:01:37 ปรากฏว่าสมมติฐานคือเฮ้ยฉันต้องอยู่กับ

00:01:3700:01:40 แม่ไปตลอดกาลหรือว่าฉันไม่มีทางออกจากวง

00:01:4000:01:42 จรนี้แล้วอารมณ์ก็ยิ่งเศร้ายิ่งแย่เราก็

00:01:4200:01:45 เลยตอบสนองแม่ไปว่าใครบอกแม่ว่าจะอยู่ไป

00:01:4500:01:47 ตลอดกาอะไอย่างเงี้ยก็คือทงั้ที่แม่ไม่

00:01:4700:01:49 ได้พูดคำว่าตลอดกาลแม่พูดว่าอาทิตย์หน้า

00:01:4900:01:51 เนี่ยแกอยู่เป็นเพื่อนแม่หน่อยแต่ว่าพอ

00:01:5100:01:53 สมมุติฐานในใจมันไปในเรื่องว่าฉันติดอยู่

00:01:5300:01:57 ในกับดักวังวนไม่มีความหวังมันก็เลยกลาย

00:01:5700:02:00 เป็นว่ามีปัญหาอ่าครับสมอธิฐานประมาณอีก

00:02:0000:02:02 อันนึงก็เป็นเรื่องความยุติธรรมแฟร์ไม่

00:02:0200:02:03 แฟร์

00:02:0300:02:07 ่าเยะบางทีแค่แม่พูดว่าเนี่ยเดี๋ยวฝากเอา

00:02:0700:02:10 อันเนี้ยไปให้พี่ชายแกหน่อยครับลำเอียง

00:02:1000:02:12 แต่จริงๆประโยคถัดไปคือเดี๋ยวอันเนี้ยแม่

00:02:1200:02:14 ให้แกนะแต่ว่ายังไม่ทันรอแม่พูดประโยคที่

00:02:1500:02:17 2 แค่พูดว่าเอาเนี้ยฝากให้พี่ชายแกหน่อย

00:02:1700:02:19 ครับมันก็ไปแล้วไปตีสมมุติฐานในใจว่า

00:02:2000:02:23 ลำเอียงไม่ยุติธรรมอันเนี้ยก็เลยทำให้อัน

00:02:2300:02:25 นี้ดีเนาเป็นปัญหาเพราเราลองดูสมมติฐานใน

00:02:2600:02:27 ใจก่อนนะครับส่วนข้อสุดท้ายเป็นเพเรื่อง

00:02:2700:02:30 เรื่องของปลอดภัยไม่ปลอดภัยอ่าแต่อันนี้

00:02:3000:02:32 อาจจะไม่ค่อยได้เกิดในครอบครัวเ่าเช่นรู้

00:02:3200:02:35 สึกว่าโลกนี้อันตรายหรือว่ามีคนที่พร้อม

00:02:3500:02:37 จะเอาเปรียบเราตลอดเวลาเรื่องเนี่ยเป็น

00:02:3700:02:39 เรื่องปลอดภัยไม่ปลอดภัยคืออันนี้อาจจะ

00:02:3900:02:42 เกิดขึ้นว่าบางทีเนี่ยเรามีคนมาทักทาย

00:02:4200:02:44 สวัสดีครับพี่ปราสาทเฮ้ยเขาต้องการ

00:02:4400:02:47 ประโยชน์อะไรจากเราอะไรเงี้ยเพราะถ้าเกิด

00:02:4700:02:49 Assumption เราหรือสมมุติฐานเราเนี่ยตี

00:02:4900:02:51 ความไปในเรื่องว่าโลกนี้ไม่ปลอดภัยเนี่ย

00:02:5100:02:54 เราอาจจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เอ่อรู้

00:02:5400:02:56 สึกอบอุ่นรู้สึกปลอดภัยได้เลยเพราะว่าไม่

00:02:5600:02:59 ว่าใครจะพูดอะไรทำอะไรเนี่ยเราตีความไปใน

00:02:5900:03:00 มุมอันตราย

00:03:0000:03:03 ต้องระหรือต้องอะไพูดแบบนี้เขาจะจับผิด

00:03:0300:03:06 อะไรเปล่าเพราะั้นสมมติฐาน 5 อันที่ผมลอง

00:03:0600:03:08 พูดไปเนี่ยเป็นแค่ตัวอย่างว่าในหัวเรา

00:03:0800:03:11 เนี่ยมีแบบนี้บ้างหรรือเปล่าแล้วถ้ามี

00:03:1100:03:13 เนี่ยเรารู้ทันมว่าฮแน่มาอีกแล้วสมมติ

00:03:1300:03:17 ที่าเรื่องรักไม่รักแค่เราแนกก่อนฮะเราก็

00:03:1700:03:19 จะเริ่มเห็นมันแล้วเริ่มควบคุมมันได้อัน

00:03:1900:03:22 นี้อาจจะทำให้เราสามารถยืนตรงมั่นคงได้

00:03:2200:03:24 แม้กระทั่งแม่จะพูดอะไรเนี่ยเราก็ยังอย่า

00:03:2400:03:26 เพิ่งเชื่อความคิดเพราะว่าในมุมนักจิต

00:03:2600:03:29 บำบัดแบบ cbt เนี่ยที่ผมเป็นเนี่ยมันใน

00:03:3000:03:32 การให้คนเนี่ยเห็นความคิดตัวเองแล้วก็บอก

00:03:3200:03:35 ว่าอย่าเพิ่งเชื่อความคิดเสมอไปเพราะว่า

00:03:3500:03:37 ทุกความคิดที่ปรากฏขึ้นมาเนี่ยไม่ได้จริง

00:03:3700:03:40 เสมอไปจนกว่าเราจะพิสูจน์ว่าจริงแล้วค่อย

00:03:4000:03:42 เชื่อเพราะว่าส่วนมากความคิดมันมาจากความ

00:03:4200:03:45 คุ้นเคยมาจากความสฐานใช่อติที่มีในใจ

00:03:4500:03:47 เพราะงั้นในการบำบัดเนี่ยผมก็จะบอกว่า

00:03:4700:03:50 เอ๊ะแล้วพอแม่พูดแบบเคุณคิดขึ้นมาว่าอะไร

00:03:5000:03:52 ขึ้นมาแม่ก็เอาอีกแล้วะเอ๊ะคำว่าเอาอีก

00:03:5200:03:53 แล้วเนี่ยหมายความว่าไงเหรอเอาอีกแล้วก็

00:03:5400:03:56 คือแม่ก็ไม่เคยรักเราอีกแล้วอตรงไหนที่

00:03:5600:03:58 แม่พูดมาหรือที่แม่ทำแปลว่าเขาไม่รักเรา

00:03:5800:04:01 อีกแล้วหรอครับครับเพะเก็เออไม่จริงอ่ะ

00:04:0100:04:04 มันเป็นสิ่งที่เขากระโจนไปหาข้อสรุปตั้ง

00:04:0400:04:05 แต่ต้นอะไรเงี้ยครับอครับใช่เมื่อกี้

00:04:0500:04:08 กำลังจะถามบีนอยู่ว่าเออแล้วเราจะหาวิธี

00:04:0800:04:11 การไอทิ้งไอ้สมมุติฐานที่มันชอบเกิดขึ้น

00:04:1100:04:13 ในใจเราได้ยังไงเพราะว่าของพวกนี้มันมา

00:04:1300:04:16 พร้อมกับความเคยชินใช่ใช่มั้ยเพราะว่าถ้า

00:04:1600:04:19 ถ้าเกิดว่าในการบำบัดนะฮเราก็จะให้เขาจด

00:04:1900:04:21 บันทึกความคิดก่อนหรือบันทึกเหตุการณ์ว่า

00:04:2100:04:23 เนี่ยวันนี้ทะเลาะกับแม่อีกแล้วเหตุการณ์

00:04:2300:04:26 มันเป็นยังไงพอเราได้มากรอภาพช้าๆหรือมา

00:04:2600:04:29 ทบทวนเนี่ยเราจะเห็นเลยว่าเออจริงๆจุดที่

00:04:2900:04:32 ทำให้เริ่มทะเลาะเนี่ยมันคือจุดนี้นี่นา

00:04:3200:04:34 อ่าเพราะอันดับแรกคือเราลองเทคนิคแรกคือ

00:04:3400:04:37 ลองค่อยๆเรียบเรียงว่าแม่ประโยคไหนที่

00:04:3700:04:39 เป็นประโยคจุดชนวนอ่าแล้วเราตอบสนองกับ

00:04:4000:04:41 ประโยคจุดชนวนนั้นยังไงเพราะบางครั้ง

00:04:4100:04:44 เนี่ยความคิดเรารีบกระโจนไปแปลความหรือ

00:04:4400:04:47 บางครั้งพฤติกรรมเราครับดันใช้ท่าที่คุ้น

00:04:4700:04:51 เคยพอแม่พูดปั๊บเราเงียบใส่แม่พูดปั๊บเรา

00:04:5100:04:54 สะบัดหนีครับถ้าเรายังทำพฤติกรรมแบบเดิมๆ

00:04:5400:04:56 ที่เป็นวิธีนั้นเนี่ยผลลัพธ์ก็จะลงเแบบ

00:04:5600:05:00 เดิมอเพราะั้นถ้าเราได้กรอภาพช้าๆค่อยๆ

00:05:0000:05:04 ว่างชนเรนี้แล้วเราก็ทำท่าเดิมๆคิดแบบเดิ

00:05:0400:05:08 ปิบัติแบบเดมผลลธก็เลยลงแบบเดิช้าๆเหมือน

00:05:0800:05:12 ดูดู slow นะดูผ่านกล้องวงจรปิดว่าเออเรา

00:05:1200:05:14 เราีคกับเรื่องนั้นยังไงแต่ผมชอบอันนึง

00:05:1400:05:16 ที่พูดว่าฮ

00:05:1600:05:19 แน่คือถ้าภาษาอังฤษก็ A คือให้เราตื่นตัว

00:05:1900:05:21 แต่ภาษาไทยง่ายๆคือ้าแน่เราเห็นอีกแล้ว

00:05:2100:05:24 เพราะว่าคนเราการจะเปลี่ยนเนี่ยไม่ได้แปล

00:05:2400:05:26 ว่าเราเปลี่ยนได้ทันทีแต่การฮแน่เนี่ย

00:05:2600:05:28 เป็นขั้นแรกของจุดเริ่มต้นเพราะว่าแค่เรา

00:05:2800:05:30 เห็นก่อนแต่เราเห็นแล้วก็ยพลาดทานะแต่พอ

00:05:3000:05:33 เราเห็นบ่อยๆเห็นบ่อยๆเราจะเริ่มไหวขึ้น

00:05:3300:05:35 ว่าเราจะเริ่มเห็นก่อนเราแอชอ่าเห็นก่อน

00:05:3600:05:38 เราปฏิบัติพอถัดไปเราจะเริ่มรู้ทันแล้ว

00:05:3800:05:40 ว่าพอ้าแน่ปั๊บเปลี่ยนมันก่อนว่ามันคิด

00:05:4100:05:43 เป็นอย่างอื่นได้หรือเปล่าหรือที่เราคิด

00:05:4300:05:45 ว่าแม่เาคิดกับเราแบบเนี้ยมันจริงหรือ

00:05:4500:05:48 เปล่าเนี่ยเราจะเริ่มมาสได้เหมือนมีเบรค

00:05:4800:05:50 ทันแต่เริ่มต้นที่ฮัแน่ก่อนแล้วเดี๋ยวพอ

00:05:5000:05:52 ฮัแน่ได้ไวขึ้นค่อยมาถามตัวเองด้วย 3 คำ

00:05:5200:05:56 ถามให้อันแรกคือจริงหรือเปล่าจริงแค่ไหน

00:05:5600:05:58 ที่บอกที่แม่พูดแบบนี้แปลว่าแม่ไม่รัก

00:05:5800:06:02 เนี่ยจริงหรือเปล่าครับอือันที่คิดอย่าง

00:06:0200:06:06 อ่าคือที่เขพูดประโว่าขอน้ำตาหน่อยมันคิด

00:06:0600:06:08 เป็นอย่างอื่นได้หเปล่าแทนที่จะคิดว่าเ

00:06:0800:06:10 ด่าว่าฉันทำอาหารไม่อร่อยจืดอะไรเงี้ยคิด

00:06:1000:06:13 เป็นอย่างอื่นได้มหรืออันที่ 3 คือคิดแบบ

00:06:1300:06:16 ไหนแล้วเป็นประโยชน์อที่เราคิดแบบนี้ซ้ำๆ

00:06:1600:06:18 คิดว่าแม่ไม่รักหรือคิดว่าแม่ด่าเราเนี่ย

00:06:1800:06:21 ครับมันมีข้อดีคืออะไรข้อดีคือเราก็อาจจะ

00:06:2100:06:24 ไม่บาดเจ็บระมัดระวังตัวหรือปกป้องตัวเอง

00:06:2400:06:27 แต่มีข้อเสียมั้ยเออข้อเสียก็หลายข้อ

00:06:2700:06:29 เหมือนกันเลยนะทำให้เราเนี่ยก็มองหน้าแม่

00:06:2900:06:32 ก็เริ่มรู้สึกจะไม่ค่อยพอใจใช้ชีวิตก็รู้

00:06:3200:06:35 สึกรู้สึกด้อย่าตัวเองเพราะงั้นดูไม่มี

00:06:3500:06:37 ประโยชน์เท่าไหร่กับความคิดอันนี้ที่เรา

00:06:3700:06:40 มักจะคิดอยู่บ่อยๆงั้นคิดแบบไหนล่ะถึงจะ

00:06:4000:06:42 ดีก็อาจจะไม่ต้องคิดเป็นโรคสวยหรือ

00:06:4200:06:45 ลาเวนเดอร์ว่าแหรักเรา 100% ก็แค่คิดเป็น

00:06:4500:06:47 อย่างอื่นที่ดีกว่าก็พอซึ่งแค่เมันก็ขยับ

00:06:4700:06:50 แล้วแทนที่เดิมคิดว่าแม่ด่าเราเสมอแม่ไม่

00:06:5000:06:53 ชอบเราเลยแค่ปรับเป็นคิดอย่างอื่นแล้วก็

00:06:5300:06:55 คิดในทางที่เป็นประโยชน์ขึ้นอีกนิดเนี่ย

00:06:5500:06:57 เราก็จะเริ่มมีชีวิตที่ต่างไปอีกหน่อย

00:06:5700:07:01 แล้วอืครับบุกที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อ

00:07:0100:07:03 แม่ของคนเจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่า

00:07:0300:07:08 ลืมกด Subscribe ไว้ด้วยนะครับ