00:00:00 → 00:00:03 เราจะมารู้กันว่า 3 ช่วงเวลาของการกิน
00:00:03 → 00:00:05 อาหารเพื่อที่จะได้สารอาหารสูงสุดคือ
00:00:05 → 00:00:09 อย่างไรไปชมพร้อมๆกันค่ะก่อนอื่นเราต้อง
00:00:09 → 00:00:12 มาทราบกันก่อนนะคะว่าการกินอาหาร 3 มื้อ
00:00:12 → 00:00:14 ต่อวันมีที่มาจากไหนและจำเป็นอย่างนั้น
00:00:15 → 00:00:18 จริงหรือการกินอาหาร 3 มื้อเริ่มต้นขึ้น
00:00:18 → 00:00:21 ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่มนุษย์ทำงาน
00:00:21 → 00:00:24 กันอย่างเป็นระบบเวลามากขึ้นเมื่อเทียบ
00:00:24 → 00:00:26 กับยุคเกษตรกรรมเนื่องจากมีการกำหนดเวลา
00:00:26 → 00:00:29 การทำงานจึงทำให้เกิดการกำหนดเวลาในการ
00:00:29 → 00:00:32 กินอาหารขึ้นมาเป็นมื้อเช้ากลางวันและ
00:00:33 → 00:00:35 เย็นเพื่อให้ง่ายต่อการทำงานมากขึ้นนั่น
00:00:35 → 00:00:39 เองแล้วจริงๆการกินอาหารกี่มื้อถึงดีต่อ
00:00:39 → 00:00:43 สุขภาพของเราซึ่งผลการศึกษาจากหลายแห่งทำ
00:00:43 → 00:00:46 ให้สรุปออกมาได้ว่าการกินอาหารวันละ 2-3
00:00:46 → 00:00:49 มื้อดีที่สุดโดยแคลอรี่หรือว่าพลังงาน
00:00:49 → 00:00:53 ส่วนใหญ่ควรได้มาจากช่วงเช้าของวันเพราะ
00:00:53 → 00:00:55 การกินอาหารมื้อดึกอาจส่งผลต่อโรคที่
00:00:55 → 00:00:58 เกี่ยวกับการเผาผลาญอย่างโรคเบาหวานและ
00:00:58 → 00:01:02 โรคหัวใจแต่ก็ไม่ควรกินอาหารเช้าจนเกินไป
00:01:02 → 00:01:05 เพราะอาจทำให้ร่างกายมีเวลาไม่เพียงพอใน
00:01:05 → 00:01:08 การอดอาหารรวมไปถึงยังขัดต่อนาฬิการ่าง
00:01:08 → 00:01:12 กายของเราซึ่งนักวิจัยระบุว่าร่างกายจะ
00:01:12 → 00:01:15 แปรรูปอาหารให้แตกต่างออกไปตลอดทั้งวัน
00:01:15 → 00:01:18 ทั้งนี้ร่างกายของเราจะปล่อยฮอร์โมน
00:01:18 → 00:01:21 เมลาโทนินในช่วงกลางคืนเพื่อช่วยให้เรา
00:01:21 → 00:01:24 นอนหลับแต่เมลาโทนินยังยับยั้งกระบวนการ
00:01:24 → 00:01:26 สร้างอินซูลินซึ่งมีเอาไว้เพื่อเก็บ
00:01:27 → 00:01:30 กลูโคสไว้ในร่างกายเนื่องจากเมเมลาโทนิน
00:01:30 → 00:01:34 จะหลั่งออกมาในขณะที่นอนหลับร่างกายจึง
00:01:34 → 00:01:37 ใช้ฮอร์โมนเมลาโทนินเพื่อให้แน่ใจว่าเรา
00:01:37 → 00:01:40 ไม่ได้รับน้ำตาลกลูโคสมากเกินไปในขณะนอน
00:01:41 → 00:01:43 หลับและไม่ได้กินอาหารแต่ถ้าเรากินอาหาร
00:01:43 → 00:01:47 มื้อดึกที่ขัดต่อนาฬิการ่างกายจะทำให้มี
00:01:47 → 00:01:50 การหลั่งของฮอร์โมนอินซูลินร่างกายก็จะ
00:01:50 → 00:01:53 ไม่สามารถเก็บกลูโคสได้อย่างเหมาะสมทำให้
00:01:53 → 00:01:57 ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงและอาจเพิ่มความ
00:01:57 → 00:02:00 เสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานดังนั้นเราจึง
00:02:00 → 00:02:04 ไม่ควรกินอาหารมื้อดึกเกินไปและควรรอ 1-2
00:02:04 → 00:02:07 ชมงหลังจากตื่นนอนเพื่อให้ระบบร่างกายทำ
00:02:07 → 00:02:10 งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเรื่องอาหารการ
00:02:10 → 00:02:13 กินถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกับการ
00:02:13 → 00:02:17 กินอาหารให้ถูกมื้อและถูกช่วงเวลาจะช่วย
00:02:17 → 00:02:21 ทำให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปบำรุง
00:02:21 → 00:02:24 เลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่างเต็ม
00:02:24 → 00:02:27 ที่โดยมื้อเช้าควรรับประทานอาหารในช่วง
00:02:27 → 00:02:31 7-9 นเพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร
00:02:31 → 00:02:34 ทำงานได้ดีที่สุดหากรับประทานช่วงนี้จะทำ
00:02:35 → 00:02:38 ให้กระเพาะอาหารแข็งแรงขับถ่ายเป็นปกติ
00:02:38 → 00:02:40 มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดแต่ถูก
00:02:40 → 00:02:43 ละเลยมากที่สุดทั้งๆที่อาหารเช้าช่วย
00:02:43 → 00:02:46 เพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้เตรียมความ
00:02:46 → 00:02:49 พร้อมรับสิ่งใหม่อยู่เสมออาหารเช้าที่ดี
00:02:49 → 00:02:52 ต้องมีสารอาหารครบถ้วนเช่นเดียวกับอาหาร
00:02:52 → 00:02:55 มื้ออื่นๆสารอาหารที่มักจะถูกละเลยคือ
00:02:55 → 00:02:59 โปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ต่างๆได้แก่ไข่
00:02:59 → 00:03:02 เนื้อหมูไก่และปลาเป็นต้นมื้อกลางวันควร
00:03:02 → 00:03:07 รับประทานอาหารในช่วงเวลา 12-13 นเลือก
00:03:07 → 00:03:11 รับประทานคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสีและผลไม้
00:03:11 → 00:03:14 เพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายและมื้อ
00:03:14 → 00:03:17 กลางวันก็เช่นกันค่ะร่างกายได้เผาพลาน
00:03:17 → 00:03:20 พลังงานและกระเพาะอาหารได้ย่อยอาหารใน
00:03:20 → 00:03:22 มื้อเช้าก็จะนำสันอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วน
00:03:22 → 00:03:25 ต่างๆของร่างกายดังนั้นเพื่อให้ร่างกาย
00:03:25 → 00:03:28 ได้รับสารอาหารต่อเนื่องไม่ควรพลาดมืกลาง
00:03:28 → 00:03:31 วันแต่ถ้าถ้าจะให้ดีควรเลี่ยงเมนูที่มีไข
00:03:31 → 00:03:34 มันมากและไม่ควรกินอาหารมากเกินความ
00:03:34 → 00:03:38 ต้องการของร่างกายเพราะอาจจะทำให้คุณมี
00:03:38 → 00:03:41 ภาวะหนังตาหย่อนหรือง่วงได้ในช่วงบ่าย
00:03:41 → 00:03:44 สำหรับมื้อเย็นนั้นถ้าจะให้ดีควรรับ
00:03:44 → 00:03:47 ประทานอาหารในช่วงเวลาก่อน 18:00 นมื้อ
00:03:47 → 00:03:50 เย็นเป็นมื้อที่ใครหลายคนให้ความสำคัญ
00:03:50 → 00:03:52 เป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิม
00:03:53 → 00:03:55 ฉลองความจริงแล้วการรับประทานอาหารมื้อ
00:03:55 → 00:03:58 เย็นนั้นต้องระวังและหลีกเลี่ยงเมนูไขมัน
00:03:58 → 00:04:01 รวมถึงคารโบไฮเดรตสูงและไม่ควรรับประทาน
00:04:01 → 00:04:05 มากเกินไปให้รับประทานแต่พอดีหลีกเลี่ยง
00:04:05 → 00:04:09 อาหารไขมันสูงน้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่
00:04:09 → 00:04:13 มีคาเฟอีนเช่นชากาแฟโกโก้เครื่องดื่มชู
00:04:13 → 00:04:16 กำลังเพราะจะทำให้ระบบประสาทตื่นตัวจนนอน
00:04:16 → 00:04:19 ไม่หลับและทำให้ร่างกายทำงานหนักตลอดเวลา
00:04:19 → 00:04:23 ที่คุณหลับหากในแต่ละมื้อยังไม่อิ่มท้อง
00:04:23 → 00:04:27 สามารถปิดท้ายด้วยผลไม้ 1 ผลหรือประมาณ
00:04:27 → 00:04:30 ครึ่งฝ่ามือและดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ
00:04:30 → 00:04:33 8-10 แก้วต่อวันเพื่อให้ร่างกายได้รับ
00:04:33 → 00:04:36 พลังงานและสารอาหารหลากหลายเพียงพอต่อ
00:04:36 → 00:04:39 ความต้องการของร่างกายรวมทั้งออกกำลังกาย
00:04:39 → 00:04:43 สม่ำเสมอให้ได้ทุกวันเท่านี้สุขภาพดีจะ
00:04:43 → 00:04:47 อยู่กับเราตลอดไปค่ะขอบคุณนะคะสำหรับการ
00:04:47 → 00:04:50 รับชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืม
00:04:50 → 00:04:54 ค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่องทาง
00:04:54 → 00:04:57 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:04:57 → 00:05:01 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวดีโอที่น่าสนใจ
00:05:01 → 00:05:05 ของทาง TNN นะคะ