00:00:01 → 00:00:04 ไม่อยากเป็นโรคกระเพาะตลอดชีวิตวิจัยบอก
00:00:04 → 00:00:08 ให้คุณกินสิ่งนี้วันนี้หมอเฟิร์นเอาผัก
00:00:08 → 00:00:12 ชนิดนึงที่ถ้าคุณไปลองทำตามนะคุณอาจจะไม่
00:00:13 → 00:00:15 เป็นโรคกระเพาะหรือโรคกระเพาะเนี่ยหายไป
00:00:15 → 00:00:18 จากชีวิตคุณก็ได้นะโรคกระเพาะเนี่ยหมอ
00:00:18 → 00:00:20 เฟิร์นเข้าใจเลยเพราะว่าเคยเป็นแต่ว่านาน
00:00:20 → 00:00:23 มาแล้วแหละมันทรมานมากมันทั้งปวดทั้งแสบ
00:00:23 → 00:00:25 สัมพันธ์กับมื้ออาหารเนาะก่อนกินก็ปวดบาง
00:00:25 → 00:00:28 คนหลังกินก็ปวดกินผิดเวลาก็ปวดอย่างเงี้ย
00:00:28 → 00:00:34 ซึ่งปัจจุบันเนี้ยหมอเฟิร์นเห็นเยอะมาก
00:00:34 → 00:00:41 ที่เวลาเราเป็นเรามักจะถูกสอนให้ไปแก้ที่
00:00:41 → 00:00:45 ปลายเหตุโดยที่ยังไม่ได้ไปสำรวจจริงๆว่า
00:00:45 → 00:00:48 ไอ้ที่เราเป็นอยู่เนี่ยแล้วมันเรื้อรัง
00:00:48 → 00:00:52 ไม่หายสักทีมันเพราะอะไรแล้วไอ้ที่ไปแก้
00:00:52 → 00:00:56 ที่ปลายเหตุหลักๆเลยนะพอเป็นพอมันปวดใช่
00:00:56 → 00:00:59 มั้ยพอมันแสดคุณก็ไปกินยาการลดกรดเพราะ
00:00:59 → 00:01:03 ว่ายังเข้าใจกันว่ากรดเยอะแล้วมันก็เป็น
00:01:03 → 00:01:07 โรคกระเพาะจริงๆแล้วมันมีเหตุบางอย่างที่
00:01:07 → 00:01:10 คุณอาจจะมองข้ามไปก็ได้นะการไปกินยา
00:01:10 → 00:01:14 เคลือบกระเพาะการไปกินยาที่ไปยับยั้งการ
00:01:14 → 00:01:17 สร้างกรดในกระเพาะไม่ให้มากจนเกินไปมัน
00:01:17 → 00:01:21 เป็นวิธีแก้ที่ปลายเหตุมากๆซึ่งแต่หมอ
00:01:21 → 00:01:25 เฟิร์นไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะมันโอเคเลย
00:01:25 → 00:01:28 แต่มันเป็นการโอเคแค่ชั่วคราว
00:01:28 → 00:01:32 สุดท้ายแล้วคุณก็กลับมาเป็นซ้ำๆแบบเนี้ย
00:01:32 → 00:01:35 มันก็เป็นวงจรที่มันน่าเบื่อแล้วอยากให้
00:01:35 → 00:01:40 คุณหายจริงๆอ่ะแล้วจะบอกว่าการใช้ยาแก้
00:01:40 → 00:01:42 ที่ปลายเหตุ
00:01:42 → 00:01:48 เนี่ยมันไม่ใช่จบแค่เพียงกินยาแล้วไม่หาย
00:01:48 → 00:01:53 ไม่พอมันยังมีผลข้างเคียงที่คุณได้รับ
00:01:53 → 00:01:56 เข้ามาโดยที่อาจจะรู้ตัวบ้างแหละหรือว่า
00:01:56 → 00:01:59 บางคนไม่รู้เลยก็ใช้มาเป็นปีแล้วหมอ
00:01:59 → 00:02:02 เฟิร์นขอใช้ไลฟ์เนี้ยบอกเลยะกันว่าผลข้าง
00:02:02 → 00:02:06 เคียงของการใช้ยารักษากระเพาะหรือบรรเทา
00:02:06 → 00:02:09 โรคกระเพาะที่ปลายเหตุมันคืออะไรบ้างเนาะ
00:02:09 → 00:02:13 ข้อแรกเลยนะฟังสั้นๆก็คือมีผลข้างเคียงทำ
00:02:13 → 00:02:17 ให้บางคนไม่ใช่ทุกคนแต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะ
00:02:17 → 00:02:20 มีผลข้างเคียงดังนี้คือคลื่นไส้อาเจียนมี
00:02:20 → 00:02:24 แก๊สปวดท้องปวดหัวมันบางคนทำให้ท้องเสีย
00:02:24 → 00:02:27 หรือท้องผูกแล้วไอ้ที่มันน่ากลัวตัวตรง
00:02:27 → 00:02:31 ไหนรู้มยกินไปเยอะๆเนี่ยถ้ากินบ่อยต่อ
00:02:31 → 00:02:35 เนื่องเสี่ยงที่กระดูกจะพรุนเพราะว่ามัน
00:02:35 → 00:02:39 ไปดึงเอาแคลเซียมไปใช้ด้วยจากกระดูกคุณ
00:02:39 → 00:02:43 มันจะไปสูญเสียแคลเซียมแล้วก็ในอนาคตก็จะ
00:02:43 → 00:02:47 กระดูกพุนกระดูกหักง่ายหรือเสี่ยงที่จะ
00:02:47 → 00:02:50 เป็นโรคสมองเสื่อมเสี่ยงที่จะติด
00:02:50 → 00:02:52 เชื้อซีดดิฟเนาะไม่ต้องเข้าใจว่าเชื้อ
00:02:52 → 00:02:55 อะไรแต่ว่ามันเป็นเชื้อแบคทีเรียก่อโรค
00:02:55 → 00:02:58 ชนิดหนึ่งที่บางทีเราไปกินยาฆ่าเชื้อเข้า
00:02:58 → 00:03:03 ไปเพราะว่าอาจจะฆ่าเชื้อไอ้ตัวเนี้ยที่
00:03:03 → 00:03:05 เป็นสาเหตุหลักเนาะมันจะมีแบคทีเรียตัว
00:03:05 → 00:03:07 หนึ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรค
00:03:07 → 00:03:10 กระเพาะแล้วไปกินยาฆ่าเชื้อไม่ได้รักษา
00:03:10 → 00:03:14 ด้วยวิธีที่หมอเฟิร์นบอกวันเนี้ยก็ทำให้
00:03:14 → 00:03:18 ไปเสี่ยงติดเชื้ออย่างอื่นอีกแบบเนี้ย
00:03:18 → 00:03:22 แล้วบางทีทำเชื้อเก็ไปก่อให้คุณท้องเสีย
00:03:22 → 00:03:25 ลำไส้อักเสบมันก็เป็นdominฟเฟectอย่างี้
00:03:25 → 00:03:28 ที่มันไม่หายหายจากกระเพาะสักทีแล้วแถม
00:03:28 → 00:03:32 ยังได้โรคแถมอีกเสียงอะไรอีกเสียงปอดบวม
00:03:32 → 00:03:35 โรคไตมีติ่งเนื้อตามทางเดินอาหารต่างๆ
00:03:36 → 00:03:39 ตั้งแต่กระเพาะลำไส้ไปจนถึงลำไส้ใหญ่เลย
00:03:39 → 00:03:41 อย่างเงี้ยอ่าดังนั้นมันไม่ค่อยคุ้มกัน
00:03:41 → 00:03:44 เท่าไหร่วันนี้ถ้าใครที่เข้ามาฟังแล้วรู้
00:03:44 → 00:03:48 ว่าต้องกินตัวไหนแทนเนี่ยโชคดีมากๆแล้ว
00:03:48 → 00:03:51 อยากให้คุณแชร์ออกไปให้เพื่อนคุณที่กำลัง
00:03:51 → 00:03:55 ประสบปัญหาอย่างี้อยู่เอาไปลองทำดูแล้ว
00:03:55 → 00:03:56 หมอเฟิร์น
00:03:56 → 00:03:59 ค้นคว้ามาจากวิจัยหลายฉบับเลยว่าเห็นตรง
00:03:59 → 00:04:01 กันว่ามันช่วยได้จริงๆเนาะอ่าวันนี้มีคน
00:04:01 → 00:04:04 ช่วยเช็คภาพเช็คเสียงด้วยน่ารักมากภาพ
00:04:04 → 00:04:07 เสียงชัดขอบคุณมากๆค่ะเป็นไม่เป็นนานแล้ว
00:04:07 → 00:04:09 ครับดีเยี่ยมค่ะไม่เป็นก็ดีแล้วเนาะเพราะ
00:04:09 → 00:04:13 ว่าไม่มีใครอยากป่วยอยากเป็นเคยได้ยินว่า
00:04:13 → 00:04:16 ติดเชื้อแบคทีเรียใช่ค่ะเพราะว่าไอ้มันก็
00:04:16 → 00:04:19 เป็นส่วนแล้วเป็นส่วนใหญ่ด้วยที่ติดมาจาก
00:04:19 → 00:04:22 เชื้อแบคทีเรียคำถามถัดไปที่อย่างที่หมอ
00:04:22 → 00:04:25 เฟิร์นบอกว่าผลข้างเคียงจากการใช้ยา
00:04:25 → 00:04:27 บรรเทาของโรคกระเพาะเนี่ยมันมีเยอะมากๆ
00:04:27 → 00:04:30 แล้วที่ยิ่งเป็นเรื้อรังเราไม่ไปแก้ที่
00:04:30 → 00:04:32 ต้นเหตุที่มันทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะ
00:04:32 → 00:04:36 เนี่ยมันยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพด้านอื่น
00:04:36 → 00:04:39 โดยที่คุณไม่รู้ตัวอ่าหรือบางคนรู้ตัวก็
00:04:39 → 00:04:42 ตามแต่แล้วแต่คุณนะคำถามถัดไปก็คือแล้ว
00:04:42 → 00:04:45 ถ้าเราไม่กินยาบรรเทาโรคกระเพาะอย่างที่
00:04:45 → 00:04:47 หมอเฟิร์นบอกเนี่ยยาลดกดยายับยั้งการ
00:04:47 → 00:04:50 สร้างกดทั้งหลายเนี่ยแล้วมันมีทางเลือก
00:04:50 → 00:04:53 อื่นมั้ยที่มันปลอดภัยกว่าผลข้างเคียง
00:04:53 → 00:04:54 น้อยกว่า
00:04:54 → 00:04:58 มีแน่นอนเพราะวันนี้เอาคำตอบมาให้โดย
00:04:58 → 00:05:01 เฉพาะก็คือเล่าให้ฟังแบบนี้มันมีการศึกษา
00:05:01 → 00:05:04 ก็คืองานวิจัยเนาะแต่อันนี้ทดลองในสัตว์
00:05:04 → 00:05:05 พบ
00:05:05 → 00:05:10 ว่าให้รักษาเทียบกันเลยระหว่างยาลดการ
00:05:10 → 00:05:13 หลั่งกรดในกระเพาะที่หลายคนกินกันเนี่ย
00:05:13 → 00:05:18 กับน้ำพืชชนิดนี้ที่ชื่อว่าน้ำกะหล่ำปี่
00:05:18 → 00:05:22 หรือแคบเบ็ดภาษาอังกฤษเนาะผลปรากฏว่าไง
00:05:22 → 00:05:26 รู้มั้คุณน้ำกะหล่ำปลีเนี่ยรักษาได้ดี
00:05:26 → 00:05:32 กว่ายาลดการหลั่งกรดในกระเพาะเท่าไหร่ก็
00:05:32 → 00:05:35 อาจจะไม่ต่างกันมากเนาะรักษาได้ดีก็คือ
00:05:35 → 00:05:40 83% ยาก็คือ 81% แม้มันจะดีกว่าแค่ 2%
00:05:41 → 00:05:44 แต่คุณฟังดีๆมันไม่มีผลข้างเคียงอย่างที่
00:05:44 → 00:05:46 หมอเฟิร์นพูดไปเมื่อสัก
00:05:46 → 00:05:49 ครู่ทั้งดีกว่าแล้วผลข้างเคียงมันไม่มี
00:05:49 → 00:05:53 หรือมีแล้วมันน้อยมากๆอ่ะอันนี้มันคุ้ม
00:05:53 → 00:05:57 ค่ามากมากเลยนะที่จะใช้อาหารเป็นยากินแค่
00:05:57 → 00:06:02 น้ำกะหล่ำปีบแค่นั้นเองอ่ะยังไม่จบยังมี
00:06:02 → 00:06:05 อีกงานวิจัยนึงที่ทดลองแบบนี้เหมือนกัน
00:06:05 → 00:06:07 เดี๋หมอเฟิร์นให้ลิงก์งานวิจัยไว้เผื่อ
00:06:07 → 00:06:10 บางคนอยากจะศึกษาเพิ่มเติมแล้วไปดูงาน
00:06:10 → 00:06:12 วิจัยเพิ่มเนาะจะทิ้งลิงก์ไว้หลังจากไลฟ์
00:06:12 → 00:06:15 จบลิงก์ตรงที่คำอธิบายข้างล่างคลิปนี่
00:06:15 → 00:06:19 แหละยังมีงานวิจัยเพิ่มอีกว่ากะหล่ำปี
00:06:19 → 00:06:25 เนี่ยที่บอกไปไม่เพียงแต่รักษาได้ดีกว่า
00:06:25 → 00:06:29 แต่ยังได้เร็วกว่าด้วยกว่ายาไซเมทิดีนถ้า
00:06:29 → 00:06:32 คุณเคยกินเนาะยาเนี้ยมันจะไปยับยั้ง
00:06:32 → 00:06:34 ฮิตามินนั่นแหละที่ไปกระตุ้นการผลิตกดใน
00:06:34 → 00:06:38 กระเพาะซึ่งเร็วกว่าเท่าไหร่ปกติถ้ากินยา
00:06:38 → 00:06:41 เนี่ยรักษาประมาณที่ 18 วันจะดีขึ้น
00:06:42 → 00:06:45 เหมือนเวลาคุณไปปรึกษาคุณหมอเวลาเค้าจ่าย
00:06:45 → 00:06:48 ยาเขาจะให้คุณกินเป็นแบบหลายสัปดาห์เกือบ
00:06:48 → 00:06:51 เดือนอย่างเงี้ยแต่การกินน้ำกะหล่ำปลี
00:06:51 → 00:06:56 เค้าพบว่า 15 วันอาการก็ดีขึ้นแล้วมันยัง
00:06:56 → 00:06:59 เร็วกว่าอีกอ่ะคนไม่รู้ก็คือไม่รู้นะแชร์
00:06:59 → 00:07:02 ออกไปให้เค้ารู้เยอะๆหน่อยเร็วทีนี้คำถาม
00:07:02 → 00:07:06 ถัดไปก็คือหมอเฟิร์นเลยอยากจะขออธิบาย
00:07:06 → 00:07:09 เกี่ยวกับกะหล่ำให้เพิ่มเติมหน่อยว่ามัน
00:07:09 → 00:07:13 ดียังไงทำไมมันรักษาโรคกระเพาะได้ดีกว่า
00:07:13 → 00:07:18 ยาที่พูดไปหมดเลยอ่ามีภาพมั้เอ่ยก่อนอื่น
00:07:18 → 00:07:21 เลยลองดูคร่าวๆนะอันนี้พูดถึงในเรื่องสาร
00:07:21 → 00:07:26 อาหารก็ก็เกินแล้วอ่ะสารอาหารก็คือมีเยอะ
00:07:26 → 00:07:30 มากตั้งแต่วิตามิน B วิตามินซีวิตามิน K
00:07:30 → 00:07:34 ทั้งหลายมีหมดเลยแล้วยังไม่รวมแร่ธาตุมี
00:07:34 → 00:07:37 หลายชนิดมากแล้วมีไฟโตนิวเทียนทั้งหลาย
00:07:37 → 00:07:41 แต่ในนั้นเหมือนเค้าบอกว่าเปรียบเสมือน
00:07:41 → 00:07:45 วิตามิน U หรือจริงๆมันไม่ใช่วิตามินจริง
00:07:45 → 00:07:46 ๆหรอกเค้าเปรียบเทียบแล้วเป็นวิตามิน U
00:07:46 → 00:07:49 ที่เป็นกลุ่มของสารประกอบที่มีกรรมฐร์
00:07:49 → 00:07:52 เป็นส่วนประกอบที่มันพบในกะหล่ำที่เขา
00:07:52 → 00:07:53 เรียกว่า
00:07:53 → 00:07:57 กูซิolateอ่ะเดี๋ยวให้ชื่อเผื่อคุณไป
00:07:57 → 00:07:59 เสิร์ชหาว่ามันเขียนยังไงเนาะเฟิร์น
00:07:59 → 00:08:02 เตรียมภาพมาให้ซึ่งมันจะพบในพืชตระกูลเ
00:08:02 → 00:08:05 แหละกะหล่ำโดยเฉพาะกะหล่ำปลีเนาะเขียน
00:08:05 → 00:08:09 อย่างงี้สารตัวนี้แหละที่มันมีบทบาทแล้ว
00:08:09 → 00:08:13 น่าสนใจมากๆเพราะมันมีส่วนช่วยในการรื้อ
00:08:13 → 00:08:15 และทำลายเชื้อ
00:08:15 → 00:08:20 เไพรอไลนด์ที่เชื้อเนี้ยอย่าง
00:08:20 → 00:08:23 ที่อย่างที่เนี่ยบอกว่าเป็นเชื้อ
00:08:23 → 00:08:25 แบคทีเรียหลักๆก็คือเชื้อตัวเนี้ยเ
00:08:25 → 00:08:28 ไพรอลไลด์ที่มันเป็นเชื้อก่อทำให้คุณเกิด
00:08:28 → 00:08:32 แผนในกระเพาะอาหารแล้วถ้าเป็นเรื้อหลัง
00:08:32 → 00:08:38 แล้วคุณไม่กำจัดหรือรักษาเชื้อนี้ออกไปใน
00:08:38 → 00:08:43 อนาคตข้อเสียของมันคือมันสามารถทำให้คุณ
00:08:43 → 00:08:46 เป็นแผลไปเรื่อยๆแล้วกระเพาะก็สร้างเนื้อ
00:08:46 → 00:08:49 เยื่อใหม่สร้างใหม่สร้างใหม่จนมันพัฒนา
00:08:49 → 00:08:53 เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้เลยนะดังนั้น
00:08:53 → 00:08:57 คือมันมีเคสอย่างนี้เยอะมากที่เป็นมะเร็ง
00:08:57 → 00:08:59 ในกระเพาะเพราะว่าเป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง
00:08:59 → 00:09:03 แล้วไม่ได้รักษาสักทีแล้ววันเนี้ยพืชตัว
00:09:03 → 00:09:06 เนี้ยกำลังเป็นพระเอกในเรื่องนี้อยู่ก็
00:09:06 → 00:09:09 เลยอยากให้คนไทยแบบรู้เยอะมากคือหมอ
00:09:09 → 00:09:12 เฟิร์นรู้ข้อมูลในวันนี้มาแล้วมันว้าว
00:09:12 → 00:09:14 เนาะถ้าใครที่เป็นอยู่หรือคนรอบข้างรอบ
00:09:14 → 00:09:17 ตัวเป็นอยู่ก็ลองเอาไปบอกเขาดูหรือให้
00:09:17 → 00:09:20 เค้ามาดูไลฟ์นี้ก็ได้เราก็จะได้รู้จักกัน
00:09:20 → 00:09:23 แล้วก็ได้ความรู้ในเรื่องอื่นๆเยอะขึ้น
00:09:23 → 00:09:25 เชื้อตัวนี้อย่างที่บอกว่ามันไปช่วยทำลาย
00:09:25 → 00:09:28 หรือฆ่าเชื้อเไพรอลไลนที่เป็นสาเหตุหลัก
00:09:28 → 00:09:30 ที่ทำให้เกิดโรค
00:09:30 → 00:09:35 กระเพาะอย่างที่บอกว่ามันมีบทบาทยังไง
00:09:35 → 00:09:37 ทำไมมันเสี่ยงไปจนถึงเป็นมะเร็งเนี่ยคุณ
00:09:37 → 00:09:40 ดูสตจ.ถ้าคนที่ปกติกระเพาะสุขภาพดีก็ไม่
00:09:41 → 00:09:44 มีปัญหาอะไรจะทำไอจะอะไรมันก็ไม่เป็นไรไง
00:09:44 → 00:09:47 กระกระเพาะธรรมชาติของเขามันเป็นสภาวะที่
00:09:48 → 00:09:51 เป็นกรดอยู่แล้วแต่มันมีปัญหาตรงที่ว่าพอ
00:09:51 → 00:09:55 คุณมีไอ้เจ้าเชื้อตัวเนี้ยอยู่ในร่างกาย
00:09:55 → 00:09:59 เชื้อเฮลอไลนเนาะมันก็จะไปทำให้กระเพาะ
00:09:59 → 00:10:02 ผนังเยื่อบุกระเพาะเนี่ยมีแผลพอมีแผลจาก
00:10:02 → 00:10:06 ปกติกระเพาะหลังกรดอยู่แล้วแผลมันไปโดน
00:10:06 → 00:10:08 กรดมันก็แสบเป็นธรรมดาอันเนี้ยคือ
00:10:08 → 00:10:12 ธรรมชาติของคนเป็นโรคกระเพาะดังนั้นเชื้อ
00:10:12 → 00:10:14 ตัวเนี้ยอ่ามารู้จักมากขึ้นนิดนึงว่าแล้ว
00:10:14 → 00:10:16 ทำไมเราถึงมีเชื้อตัวนี้ได้เชื้อตัวนี้
00:10:16 → 00:10:20 มันอาจจะปนเปื้อนมาจากการน้ำลายโคเนาะจาก
00:10:20 → 00:10:23 อาหารก็มาได้นะแต่ปกติแล้วคุณสบายใจได้
00:10:23 → 00:10:26 เลยว่าเชื้อเนี้ยมันไม่ได้อันตรายขนาด
00:10:27 → 00:10:29 นั้นไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นเพราะเค้าสำรวจ
00:10:29 → 00:10:31 แล้วนะประชากรโลกทั้งหมดเนี่ยแทบจะครึ่ง
00:10:31 → 00:10:35 นึง 50-75% เลยมีเชื้อนี้อยู่เชื้อ
00:10:36 → 00:10:39 เไพรไลนเนี่ยมีอย่างบางทีหมอเฟิร์นก็อาจ
00:10:39 → 00:10:45 จะมีอยู่ก็ได้นะแต่ในคนปกติถึงแม้มีมัน
00:10:45 → 00:10:47 ไม่ได้อยู่ในรูปแบบ active form หรือ
00:10:47 → 00:10:50 ฟอร์มที่มันทำให้เกิดปัญหากับกระเพาะเรา
00:10:51 → 00:10:55 อ่ะแต่ถ้าเมื่อไหร่เพราะอะไรถ้าเมื่อไหร่
00:10:55 → 00:10:59 ที่กรดในกระเพาะแต่ไอ้ตัวเมันจะมีปัญหา
00:10:59 → 00:11:03 ตอนที่กรดในกระเพาะของเรามีน้อยจนเกินไป
00:11:03 → 00:11:08 พอมันมีน้อยและ ths ก็คือค่ากรดด่างใน
00:11:08 → 00:11:11 กระเพาะเนี่ยมันไม่สมดุลจากปกติกระเพาะ PS
00:11:11 → 00:11:14 หรือกรดด่างในกระเพาะมันอยู่ที่ 1-3 เนาะ
00:11:14 → 00:11:18 ความเป็นกรดเนี่ยแต่พอเรามีน้อยแล้วมัน
00:11:18 → 00:11:21 เกิน 3 ขึ้นไปมันเป็นสภาวะด่างมากขึ้นจาก
00:11:21 → 00:11:26 ไม่ว่าคุณจะไปกินยาทำให้ลดกรดลดสภาวะการ
00:11:26 → 00:11:29 เป็นกรดทำให้กระเพาะเป็นด่างมากขึ้นเนี่ย
00:11:29 → 00:11:32 มันดันไปเอื้อต่อไอ้เชื้อเนี้ยที่มันจะ
00:11:32 → 00:11:35 เจริญเติบโตออกลูกออกหลานมากขึ้นเพราะ
00:11:35 → 00:11:37 เชื้อนี้มันมีเยอะขึ้นเลยเป็นปัญหาไปกัด
00:11:37 → 00:11:41 กินเนื้อเยื่อกระเพาะคุณจนสร้างแผลในที่
00:11:41 → 00:11:43 สุดแล้วแผลถ้าเป็นเรื้อรังมันก็อักเสบคาย
00:11:43 → 00:11:46 เคืองเป็นๆหายๆเป็นบ้างไม่เป็น
00:11:46 → 00:11:50 บ้างแต่พอเป็นแล้วไม่รู้ว่าแก้ยังไงไป
00:11:50 → 00:11:54 เรื่อยๆเนี่ยแผลถูก
00:11:54 → 00:11:59 เนมะเร็งได้ดังนั้นเราต้องแก้ตั้งแต่ต้น
00:11:59 → 00:12:02 และงับก่อนที่มันจะ develop หรือพัฒนาไป
00:12:02 → 00:12:07 เป็นโรคร้ายด้วยการแค่แค่กินอะไรแคบเบ็ด
00:12:07 → 00:12:09 แคบเบ็ดคืออะไรคะหมอเฟิร์นถ้าเพิ่งมาฟัง
00:12:10 → 00:12:13 ก็คือกะหล่ำนั่นเองสีไหนได้หมดเลยนะสี
00:12:13 → 00:12:16 เขียวสีม่วงเดี๋ยวบอกว่ากินยังไงเนาะ
00:12:16 → 00:12:21 เดี๋ยวใกล้จะถึงละดังนั้นความเชื่อที่ว่า
00:12:21 → 00:12:25 กินอะไรก็ได้กินยาตัวไหนก็ได้ที่ไปลดกรด
00:12:25 → 00:12:29 ในกระเพาะไม่ถูกต้องเสมอไปนะเพราะว่าถ้า
00:12:29 → 00:12:32 คุณเป็นคนนึงที่มีปัญหาจากเชื้อเนี้ยมัน
00:12:32 → 00:12:35 ก็จะยิ่งไปเอื้อให้ไอ้เชื้อเนี่ยเนี่ยมัน
00:12:35 → 00:12:37 เจริญเติบโตแล้ว
00:12:37 → 00:12:41 แล้วเกิดแผลมากขึ้นแล้วเป็นไม่หายมากยิ่ง
00:12:41 → 00:12:45 ขึ้นสิ่งที่ทำให้คนเป็นโรคกระเพาะส่วน
00:12:45 → 00:12:47 ใหญ่แต่ไม่ใช่ 100% นะแต่แค่บอกว่าส่วน
00:12:47 → 00:12:49 ใหญ่เนาะเพราะว่ามันมาจากเชื้อนี้มันคือ
00:12:49 → 00:12:54 การขาดกรดไม่ใช่กรดเกินแล้วไปแก้โดยการ
00:12:54 → 00:12:57 เอาเบสเอาด่างมาใส่กินยารดกรดอย่างเงี้ย
00:12:57 → 00:13:00 ไม่ใช่เนาะแล้วกลับกันในสภาวะที่มันเป็น
00:13:00 → 00:13:04 กรดเนี่ยดันไม่ใช่สภาวะที่เชื้อเนี่ยมัน
00:13:04 → 00:13:07 เจริญเดินเติบโตได้ดีสักเท่าไหร่อ่าดัง
00:13:07 → 00:13:10 นั้นให้เข้าใจกันใหม่ก่อนแล้วอย่างที่บอก
00:13:10 → 00:13:13 ว่ายังไงธรรมชาติของกระเพาะเราอ่ะมันต้อง
00:13:13 → 00:13:16 เป็นกรดอยู่แล้วดังนั้นคุณต้องไปแก้ที่
00:13:16 → 00:13:20 ต้นเหตุก่อนว่าเราติดมาติดเชื้อมาจาก
00:13:21 → 00:13:24 เชื้อตัวนี้มั้เไพรรอเนี่ยหรือว่าเรากิน
00:13:24 → 00:13:27 ยาแก้ปวดแก้อักเสบพวกเอเซตเนี่ยเยอะเกิน
00:13:27 → 00:13:28 ไปเพราะว่ายาพวกเนี้ยมันเป็นระคายเคือง
00:13:29 → 00:13:31 กระเพาะทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้หรือเรา
00:13:31 → 00:13:34 ดื่มแอลกอฮอล์เยอะเกินไปมั้ยเราสูบบุหรี่
00:13:34 → 00:13:36 เราเครียดสะสมเรื้อรังเกินไปหมายความ
00:13:36 → 00:13:40 เครียดก็ทำให้กระเพาะเนี่ยผลิตกรดเยอะอ่า
00:13:40 → 00:13:44 แล้วถ้าเป็นแผลอยู่ก็มีปัญหานั่นแหละหรือ
00:13:44 → 00:13:47 ไม่ใช่ไปทำให้สภาวะของกระเพาะเนี่ยมัน
00:13:47 → 00:13:50 เป็นด่างมันก็ย่อยไม่ดีมันก็เกิดปัญหา
00:13:50 → 00:13:53 อย่างอื่นเข้ามาเนี่ยแหละค่ะโอเคอ่ะมีคำ
00:13:53 → 00:13:56 ถามเนาะแชร์แล้วขอบคุณมากเลยค่ะกะหล่ำปลี
00:13:56 → 00:13:59 ใช้ต้มกินน้ำหรอคะคุณหมออ้าเดี๋ยวเดี๋ยว
00:13:59 → 00:14:02 บอกค่ะเดี๋ยวบอกว่าทำยังไงเนาะเป็นกรดไหล
00:14:02 → 00:14:06 ย้อนด้วยทานแล้วช่วยได้มั้ยคะจริงๆแล้วมี
00:14:06 → 00:14:09 สารสำคัญสารอาหารเยอะทานแล้วอาจมีส่วน
00:14:09 → 00:14:12 ช่วยกรดไหล่ย้อนด้วยเพราะว่ามันเป็น
00:14:12 → 00:14:14 เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเหมือนกันเนาะ
00:14:14 → 00:14:16 ช่วยเรื่องกระเพาะส่วนใหญ่พอคนเป็นโรค
00:14:16 → 00:14:18 กระเพาะเนี่ยมันจะตามมาด้วยกรดไหลย้อน
00:14:18 → 00:14:21 ด้วยเหมือนกันมันมีความเกี่ยวข้องกันอยู่
00:14:21 → 00:14:23 บ้างอก็มีส่วนช่วย
00:14:23 → 00:14:29 ได้กะหล่ำปีจะบอกว่ากินยังไงอย่างที่มีคำ
00:14:29 → 00:14:33 ถามเนาะจริงๆแล้วถ้าให้สารสำคัญเยอะๆเลย
00:14:33 → 00:14:36 นะทุกพืชทุกชนิดเนี่ยก็คือกินแบบดิบแต่
00:14:36 → 00:14:39 ว่ามันก็จะมีข้อยกเว้นบางคนเป็นโรค
00:14:39 → 00:14:43 ไทรอยด์มันจะไปขัดขวางการดูดซึมไอโอดีนไง
00:14:43 → 00:14:45 ก็อาจจะต้องไปปรุงสุกเพื่อให้สารตัวนั้น
00:14:45 → 00:14:47 น่ะออกไปสารที่มันมีปัญหากับคนเป็น
00:14:47 → 00:14:50 ไทรรย์ด์นะแต่ถ้าคุณเป็นคนปกติเนี่ยกิน
00:14:50 → 00:14:54 เป็นสลัดหรือกินเป็นเหมือนเป็นน้ำอ่ะเอา
00:14:54 → 00:14:57 มาดิ้งเนาะมันจะเรียกว่าไงคุณเอามาปั่น
00:14:57 → 00:15:00 ใส่น้ำดื่มก็ได้แต่ว่ากินในปริมาณที่พอดี
00:15:00 → 00:15:03 นะไม่ได้ไม่แนะนำให้ใครกินมากเกินไปหรือ
00:15:04 → 00:15:07 น้อยเกินไปแต่ถ้าให้ปลอดภัยที่สุดถ้าคุณ
00:15:07 → 00:15:11 ไม่ชอบกินดิบหรือกินเป็นสลัดสามารถเอาไป
00:15:11 → 00:15:14 นึ่งได้เพราะว่าพอเราเอาไปนึ่งเนี่ยสาร
00:15:14 → 00:15:17 สำคัญที่บอกที่บอกว่ามันมีสารตัวนี้ที่
00:15:17 → 00:15:20 ช่วยในเรื่องโรคกระเพาะเนาะเพบว่ามันยัง
00:15:20 → 00:15:25 คงอยู่กว่า 97% มันหายไปแค่ 3% หมอเฟิร์น
00:15:25 → 00:15:27 ว่าเอาไปนึ่งกินก็กินง่ายดีนะอย่างหมอ
00:15:27 → 00:15:29 เฟิร์นก็ชอบกินเนาะพืชตระกูลกะหล่ำได้หมด
00:15:29 → 00:15:32 เลยแต่หลักๆแล้วเป็นกะหล่ำปลีที่เป็นสีสี
00:15:32 → 00:15:35 เขียวสีม่วงได้หมดเลยอ่าถ้านึ่งกินนี่
00:15:35 → 00:15:40 ง่ายมากต้มกินก็ยังพอไหวอ่ะหรือใครอยากจะ
00:15:40 → 00:15:43 เอาไปหมักก็ได้นะเพราะว่าถ้าหมักเนี่ยถึง
00:15:43 → 00:15:47 แม้สารสำคัญจะลดลงแต่ว่าข้อดีคือจะได้
00:15:47 → 00:15:49 จุลินทรีย์ดีเป็นของแถมเนาะก็จะช่วยใน
00:15:49 → 00:15:53 เรื่องระบบย่อยอาหารด้วยอีกทางนึงแต่ว่า
00:15:53 → 00:15:56 นั่นแหละอย่างที่แนะนำไปว่าถ้าเลือกได้
00:15:56 → 00:15:58 กินเป็นสมูทตี้เหมือนที่คุณไบบอกก็ได้
00:15:58 → 00:16:02 เนี่ยหรือว่ากินเป็นสลัดหรือถัดไปก็คือ
00:16:02 → 00:16:06 กินเอามานึ่งแบบนี้ก็ได้ต้มก็ยังพอไหวหมอ
00:16:06 → 00:16:09 เฟิร์นว่าสารสำคัญมันยังเยอะอยู่อ่ะได้
00:16:09 → 00:16:13 หมดเลยวันนี้ก็โอ้สั้นมากคอนเทนในวันนี้
00:16:13 → 00:16:13 หมด
00:16:13 → 00:16:17 แล้วก็อยากจะเอาเรื่องดีๆที่เป็นประโยชน์
00:16:17 → 00:16:20 กับคนไทยเนี่ยมาแบ่งปันเยอะๆอย่างในวัน
00:16:20 → 00:16:22 นี้เนาะแล้วก็อย่างที่บอกว่าถ้าคุณเป็น
00:16:22 → 00:16:26 โรคกระเพาะอยู่อย่าลืมให้ไปหาสังเกต
00:16:26 → 00:16:29 สาเหตุดีๆบางคนอาจจะไม่ได้ติดเชื้อชนิด
00:16:29 → 00:16:32 นี้ซะเสมอไปคุณอาจจะเครียดสะสมหรือเปล่า
00:16:32 → 00:16:36 อ่าแต่หลักๆแล้วส่วนใหญ่นะจะติดมาจาก
00:16:36 → 00:16:39 เชื้อเแหละแล้วก็แค่ว่าคุณน่ะทำให้สภาวะ
00:16:39 → 00:16:42 ของกระเพาะเนี่ยมันไปเป็นกรดหรือด่างพอ
00:16:42 → 00:16:44 มันเป็นด่างมากเชื้อนี้ก็ยิ่งชอบก็เจริญ
00:16:44 → 00:16:46 เติบโตแล้วก็ทำให้เป็นเรื้อรังบนเป็นพั
00:16:46 → 00:16:49 วัทจักรอย่างเงี้ยแต่นั่นแหละวันนี้เรามี
00:16:49 → 00:16:52 วิธีแก้ง่ายๆซึ่งถ้ามีคนถามเรื่องอาหาร
00:16:52 → 00:16:55 เสริมที่มันช่วยมันก็มีแต่วันเนี้ยยังไม่
00:16:55 → 00:16:58 บอกเรื่องอาหารเสริมแต่ว่าแอบบอกก็ได้ว่า
00:16:58 → 00:17:01 อาหารเสริมที่ช่วยรักษาแผลแผลทั้งหลาย
00:17:01 → 00:17:04 แหล่ไม่ใช่แค่แผลในกระเพาะก็คือซิงคซิงค
00:17:04 → 00:17:09 ในรูปแบบไหนติดตามชมไลฟ์หน้าแต่แต่แอบใบ้
00:17:09 → 00:17:12 ไว้ว่าเป็นซิงคอาจจะไปเริ่มกินจากอาหาร
00:17:12 → 00:17:16 ก่อนก็ได้อย่างซิงคบไหนๆถ้าให้หมอเฟิร์น
00:17:16 → 00:17:20 บอกหอยนางลมมีซิงเยอะแต่ถ้าคุณไม่กินหอย
00:17:20 → 00:17:24 อ่ะเปิดในเล่มนี้มีไายอินนิดนึงเล่มนี้
00:17:24 → 00:17:27 จริงๆชื่ออาหารเสริมสามัญประจำบ้านแต่เมน
00:17:27 → 00:17:29 หลักของมันคืออะไรรู้มั้ยให้คุณเริ่มกิน
00:17:29 → 00:17:32 จากอาหารจริงก่อนแล้วถ้าสังเกตว่าตัวเอง
00:17:32 → 00:17:34 ไม่ได้กินจากอาหารจริงคุณก็ค่อยๆไปมองหา
00:17:34 → 00:17:37 อาหารเสริมว่ามันต้องกินยังไงแล้วกินโดด
00:17:37 → 00:17:39 เท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยเนาะอ่าอย่างซิงคหมอ
00:17:39 → 00:17:43 เฟิร์นเปิดให้ดูเลยว่ามันมันอ่านยังไง
00:17:43 → 00:17:45 วิธีการใช้งานอย่างซิงคอย่างที่บอกว่ามัน
00:17:45 → 00:17:48 ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารถ้าเกิดว่าเรา
00:17:48 → 00:17:50 จะไปเล่นที่อาหารเสริมวิตามินว่ามันตัว
00:17:50 → 00:17:54 ไหนช่วยคุณก็เปิดไปที่แร่ธาตุที่จำเป็น
00:17:54 → 00:17:56 ต่อร่างกายดูสารปันซิงคก็คือสังกสีเนาะ
00:17:56 → 00:17:58 อยู่ที่หน้า
00:17:58 → 00:18:01 162 ไหนๆเวลาก็เหลือละสอนวิธีอ่าน
00:18:01 → 00:18:03 หนังสือนี้แล้วกันไม่ต้องอ่านทุกหน้าอ่าน
00:18:03 → 00:18:06 แค่คุณเนี่ยก็จะมาหน้าซิงค์สังกสีละกลับ
00:18:06 → 00:18:09 ด้านไม่ต้องตกใจนะคะคุณก็ดูว่าโอเคมันมี
00:18:09 → 00:18:12 บทบาทอะไรบ้างถ้าขาดซิงคมันจะเป็นยังไง
00:18:12 → 00:18:16 แผลจะหายช้ารวมถึงแผลในกระเพาะอาหารด้วย
00:18:16 → 00:18:19 แล้วเราจะไปกินจากที่ไหนดีนะถ้าเราเป็น
00:18:19 → 00:18:22 แผลแล้วอยากจะหายเร็วเราก็เปิดมาหน้านี้
00:18:22 → 00:18:25 หมอเผินก็ทำเป็นตารางให้ว่ามันมาจากอาหาร
00:18:25 → 00:18:29 จริงตัวไหนได้บ้างตัวแรกก็คือหอยนางลม
00:18:29 → 00:18:33 อ่า 85 กรัมมีซิงตั้ง 38 กรัมเม็ดมะม่วง
00:18:33 → 00:18:36 หิมะพานนี่ไงเม็ดถั่วอัลมอนถั่วลิสงมี
00:18:36 → 00:18:39 ซิงคเยอะมากแล้วก็พวกเนื้อสัตว์ต่างๆเนาะ
00:18:39 → 00:18:42 ถ้ารู้ตัวว่ากินแล้วมันไม่พอหรือไม่ค่อย
00:18:42 → 00:18:45 ได้กินก็แล้วอาหารเสริมถ้าจะกินต้องกิน
00:18:45 → 00:18:47 เท่าไหร่ถ้าคุณอายุมากกว่า 19 ปีก็จะมี
00:18:47 → 00:18:51 ตารางว่าควรกินซิงคต่อวันผู้หญิง 8 มกรั
00:18:51 → 00:18:54 ผู้ชาย 11 มลกรัแบบนี้เนาะเราจะเลือก
00:18:54 → 00:18:56 ฟอร์มไหนดีก็มาหน้าถัดไปหมอเฟิร์นก็เขียน
00:18:56 → 00:18:59 บอกว่าฟอร์มไหนที่มัน effective ต่อตัว
00:18:59 → 00:19:00 เราที่สุดดูดซึมได้
00:19:00 → 00:19:04 ดีซื้อเสียเงินทั้งทีแล้วก็โอเคได้ฟอร์ม
00:19:04 → 00:19:08 ที่ร่างกายเอาไปใช้แล้วเห็นผลดีเนาะแล้ว
00:19:08 → 00:19:10 ก็ยังแถมพวกงานวิจัยที่เกี่ยวข้องว่าซิงค
00:19:10 → 00:19:13 เนี่ยมันช่วยรักษาหรือป้องกันโรคร้ายอะไร
00:19:13 → 00:19:16 ได้บ้างอ่าเนี่ยแหละคุณก็ไปดูแล้วก็บอกผล
00:19:16 → 00:19:19 ข้างเคียงแล้วก็ข้อควรระวังว่ากินซิงค
00:19:19 → 00:19:22 อะไรเงี้ยอย่างคนบางคนก็ใช้ซิงค์หรือ
00:19:22 → 00:19:25 สังกสีเพื่อรักษาสิวหรือรักษาแผลอะไรก็
00:19:25 → 00:19:28 ตามแต่ไม่รู้ว่ามันมีข้อควรระวังว่าถ้า
00:19:29 → 00:19:32 คุณกินซิงค์ติดต่อกันต่อเนื่องนะมันมีผล
00:19:33 → 00:19:37 ทำให้ร่างกายอาจจะไปขาดคอปเปอร์หรือแร่
00:19:37 → 00:19:40 ธาตุทองแดงได้แล้วไม่รู้ตัวเนาะก็ทำให้
00:19:40 → 00:19:44 เกิดความไม่บาลานซแล้วเกิดภาวะเกี่ยวกับ
00:19:44 → 00:19:47 หัวใจได้พวกแแล่ธาตุพวกนี้มันสำคัญต่อหัว
00:19:47 → 00:19:49 ใจเห็นมั้ยว่ากินอาหารเสริมอย่างเดียวแต่
00:19:49 → 00:19:53 ไม่มีความรู้เนี่ยคือรู้อะไรไม่เท่ารู้
00:19:53 → 00:19:56 งี้แล้วเสียเงินแบบเพราะว่าไม่มีความรู้
00:19:56 → 00:19:59 อ่ะอันนี้เจ็บที่สุดแล้วนะแล้วเล่มเนี้ย
00:19:59 → 00:20:03 ถ้าเทียบกับราคาแล้วแบบโอ้โหไม่รู้จะคุ้ม
00:20:03 → 00:20:07 ยังไงเพราะว่ามันมีแถมโรควิธีการป้องกัน
00:20:07 → 00:20:11 รักษาโรคเรื้อรังยอดฮิตในไทยด้วยเนาะก็
00:20:11 → 00:20:14 เล่มเนี้ยถูกไปเลยอ่ะซึ่งเล่มเนี้ย 1
00:20:14 → 00:20:17 พิมพ์ครั้งที่ 2 ละครั้งแรกขายหมดแล้ว
00:20:17 → 00:20:20 แล้วก็กำลังจะมาอัปเดตด้วยว่าใครที่สั่ง
00:20:20 → 00:20:24 จองอยู่สัปดาห์หน้าก็คือน้องทีมงานจะค่อย
00:20:24 → 00:20:26 ๆทยอยส่งไปให้แล้วเนาะเพราะว่าสำนักพิณ
00:20:26 → 00:20:28 ด้วยส่งหนังสือมาให้หมอเฟิร์ละสัปดาห์
00:20:28 → 00:20:31 หน้าเนี่ยก็จะเริ่มได้รับกันแล้วสำหรับคน
00:20:31 → 00:20:34 ที่สั่งจองไปแล้วซึ่งวันนี้น่าจะเป็นวัน
00:20:34 → 00:20:37 สุดท้ายแล้วล่ะที่หมอเพลินจะให้ราคาที่
00:20:37 → 00:20:39 เป็นของพรีอเดอร์เพราะว่าหนังสือมันมา
00:20:39 → 00:20:42 แล้วไงก็ยังให้พิเศษเฉพาะวันนี้วันสุด
00:20:42 → 00:20:45 ท้ายนะถ้าใครมาฟังย้อนหลังหรืออะไรก็ก็
00:20:45 → 00:20:48 แคปมาด้วยว่ามาจากไลฟ์นี้เพราะว่าถ้าเลย
00:20:48 → 00:20:51 กว่านี้ก็ไม่ได้ละก็ได้ 1,990 บาทแต่วัน
00:20:51 → 00:20:53 นี้ยังได้
00:20:53 → 00:20:57 1,44 บาทใครสนใจอยากมีติดบ้านไว้ก็สวย
00:20:57 → 00:21:00 แล้วเนี่ยก็พิมพ์ว่า CF หนังสือได้เลยใคร
00:21:00 → 00:21:03 ที่ไม่รู้จะติดต่อทางไหนใน YouTube เนาะ
00:21:03 → 00:21:05 ก็แอด Line แ@หมอเฟิร์นก็ได้เดี๋เฟิร์น
00:21:05 → 00:21:07 ขึ้นให้ว่าเขียนยังไงพิมพ์อย่างี้แล้วก็
00:21:07 → 00:21:10 พิมพ์แอแล้วก็ M O R F E R N เนาะ
00:21:10 → 00:21:14 แอดง่ายๆที่ Line แอดแล้วก็บอกว่าสั่ง
00:21:14 → 00:21:17 หนังสือสั่งหนังสือค่ะเออ CF หนังสือก็
00:21:17 → 00:21:19 ได้แล้วแอดมินจะส่งรายละเอียดให้ก็
00:21:19 → 00:21:22 สัปดาห์หน้าก็จะได้รับละขอบคุณทุกคนที่
00:21:22 → 00:21:24 เข้ามาฟังในวันนี้แล้วก็สั่งจองหนังสือ
00:21:24 → 00:21:26 หมอเปิจนพิมพ์ครั้งที่ 2 แล้วขอบคุณมากๆ
00:21:26 → 00:21:29 ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคุยกันในวันนี้
00:21:29 → 00:21:32 เนาะถ้าได้ประโยชน์ไปเยอะๆก็ฝากกดไลค์กด
00:21:32 → 00:21:35 แชร์ออกไปให้เพื่อนของครูที่มีปัญหาเหล่า
00:21:35 → 00:21:38 นี้ด้วยก็ยิ่งแชร์แบ่งปันก็ยิ่งได้บุญ
00:21:38 → 00:21:42 เนาะคนที่ได้บุญไม่ใช่หมอเฝิดนะแต่เป็นคน
00:21:42 → 00:21:46 ที่เอาความรู้ดีๆเนี่ยไปช่วยเขาต่อคุณก็
00:21:46 → 00:21:49 ได้บุญไม่ต่างจากหมอเฟิร์นเลยก็ขอขอบคุณ
00:21:49 → 00:21:52 ล่วงหน้าแล้วกันขออวยพรให้คุณมีสุขภาพที่
00:21:52 → 00:21:56 ดีขึ้นหน้าเด็กลงเป็นโรคเรื้อรังโรค
00:21:56 → 00:22:00 กระเพาะอะไรก็ได้เทคนิคไอเดียดีๆจากการมา
00:22:00 → 00:22:03 ฟังมาติดตามเราแล้วก็หายดีเป็นคนที่มีแต่
00:22:03 → 00:22:07 ความสุขสุขภาพดีในทุกด้านชีวิตดีทุกด้าน
00:22:07 → 00:22:10 มั่งคั่งเหลือเฟือในทุกๆด้านคุณภาพดีขึ้น
00:22:10 → 00:22:13 คุณภาพชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆทุกๆวันเนาะชอบ
00:22:13 → 00:22:17 อวยพรคนจังเลยชอบมากก็รักทุกคนขอบคุณค่ะ
00:22:17 → 00:22:21 เจอกันคราวแม่