00:00:10 → 00:00:12 เมื่อโดนสุนัขกัดนะคะ
00:00:12 → 00:00:13 การประถมพยาบาลอย่างแรกเลย
00:00:13 → 00:00:17 ก็คือการล้างแผลแล้วก็ฟอกแผลด้วยสบู่ให้สะอาด
00:00:20 → 00:00:22 ในขั้นตอนนี้อะค่ะเราจำเป็นที่จะต้อง
00:00:22 → 00:00:25 ล้างแล้วก็ฟอกสบู่ให้ลึกถึงก้นแผล
00:00:25 → 00:00:28 แล้วก็ทำอย่างน้อย15นาที
00:00:28 → 00:00:31 แล้วก็ตามด้วยด้วยการเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
00:00:31 → 00:00:33 อย่างตัวยาไอโอดีนเช็ดแผล
00:00:33 → 00:00:38 หรือว่าถ้าหากไม่มีก็อาจจะใช้เป็นตัวแอลกอฮอล์เช็ดแผลความเข้มข้น70%ได้ค่ะ
00:00:38 → 00:00:42 หลังจากการประถมพยาบาลเบื้องต้นแล้วอะค่ะ
00:00:42 → 00:00:45 ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินบาดแผล
00:00:45 → 00:00:49 รวมถึงพิจารณาให้ยาแล้วก็ฉีดวัคซีน
00:00:49 → 00:00:52 เนื่องจากบาดแผลที่เกิดจาการถูกสัตว์กัดอะค่ะ
00:00:52 → 00:00:54 เราจะถือว่าเป็นบาดแผลสกปรก
00:00:54 → 00:00:57 เพราะว่าในน้ำลายของสัตว์มีเชื้อโรคปนอยู่มาก
00:00:58 → 00:01:00 ทั้งเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เชื้อไวรัส
00:01:00 → 00:01:05 ดังนั้นโดยมากแล้วอะค่ะแพทย์จึงมักที่จะไม่เย็บปิดปากแผลชนิดนี้อะค่ะ
00:01:05 → 00:01:10 เพราะว่าจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้วก็เป็นหนองได้ง่ายหากเย็บปิดปากแผลไป
00:01:10 → 00:01:14 แล้วนอกจากนี้อะค่ะเนื่องจากบาดแผลชนิดนี้เป็นบาดแผลสกปรก
00:01:14 → 00:01:20 แพทย์จึงมักจะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะหรือว่ายาฆ่าเชื้อแก่ผู้ป่วยทุกครั้ง
00:01:20 → 00:01:22 เพื่อป้องกันการติดเชื้อของบาดแผล
00:01:23 → 00:01:25 ในส่วนของการฉีดวัคซีนนั้นอะค่ะ
00:01:26 → 00:01:29 ในผู้ที่ถูกสุนัขกัดจะได้รับวัคซีนทั้งหมด2ตัวด้วยกัน
00:01:29 → 00:01:32 ก็คือวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
00:01:32 → 00:01:34 แล้วก็วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
00:01:35 → 00:01:39 ซึ่งการฉีดวัคซีนนั้นอะคะแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามระดับของความเสี่ยง
00:01:39 → 00:01:41 แล้วก็ลักษณะของบาดแผล
00:01:41 → 00:01:45 รวมถึงประวัติการได้รับวัคซีนก่อนหน้านี้ของผู้ป่วยด้วยค่ะ
00:01:45 → 00:01:51 จะเห็นได้ว่าเมื่อถูกสุนัขกัดแล้วบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะคะ
00:01:51 → 00:01:55 ดังนั้นหากเกิดกรณีแบบนี้อะค่ะก็ควรมาพบแพทย์ทุกครั้ง
00:01:55 → 00:02:00 เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่มักเกิดขึ้นจากการติดเชื้อของบาดแผลค่ะ