00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับโลกของเรารวมทั้งประเทศไทย
00:00:03 → 00:00:05 เนี่ยก็เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็ม
00:00:05 → 00:00:08 รูปแบบแล้วนะครับสิ่งที่ตามมาก็คือโรค
00:00:08 → 00:00:10 ความจำเสื่อมโดยเฉพาะอัลไซเมอร์เนี่ยก็จะ
00:00:11 → 00:00:14 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและใครที่มีผู้ป่วย
00:00:14 → 00:00:17 อัลไซเมอร์อยู่ในครอบครัวเนี่ยก็คงจะทราบ
00:00:17 → 00:00:20 ดีนะครับว่ามันดูแลยากลำบากมากเพียงใดยา
00:00:21 → 00:00:23 ที่มีเนี่ยก็ใช้แล้วก็ไม่ค่อยได้ผลอะไร
00:00:23 → 00:00:25 เท่าไหร่นะครับแล้วเหตุผลที่ยามันไม่ค่อย
00:00:25 → 00:00:29 ได้ผลเนี่ยก็เพราะว่าเรามักจะไปเจอโรค
00:00:29 → 00:00:32 อัลไซเมอร์ที่มันเป็นเยอะแล้วสมองเสียไป
00:00:32 → 00:00:34 เยอะแล้วยากินไปก็ไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไร
00:00:34 → 00:00:37 เท่าไหร่นะครับที่ผ่านมาเนี่ยเราไม่มี
00:00:38 → 00:00:39 วิธีอะไรเลยที่จะไปตรวจเจอว่าเป็น
00:00:39 → 00:00:44 อัลไซเมอร์ระยะแรกแต่ตอนนี้มีแล้วครับทาง
00:00:44 → 00:00:47 FDA อเมริกาเนี่ยเพิ่งจะออกมารับรองการ
00:00:47 → 00:00:50 ตรวจเลือดอย่างหนึ่งเพื่อที่จะเป็นการเจอ
00:00:50 → 00:00:55 ว่าคนไข้คนไหนเป็นอัลไซเมอร์ระยะแรกเพื่อ
00:00:55 → 00:00:57 ที่จะเข้าสู่กระบวนการรักษาให้มันได้ผล
00:00:57 → 00:01:00 ตั้งแต่แรกครับเดี๋ยววันนี้ผมจะมาเล่าราย
00:01:00 → 00:01:02 ละเอียดเกี่ยวข้องกับการตรวจอันนี้ว่ามัน
00:01:02 → 00:01:05 คืออะไรกันแน่นะครับพบกับผมนะครับนาย
00:01:05 → 00:01:07 แพทย์ธนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:01:07 → 00:01:09 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:01:09 → 00:01:13 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับในวันที่
00:01:13 → 00:01:16 16 พฤษภาคมที่ผ่านมาเนี่ยนะครับทาง FDA
00:01:16 → 00:01:20 อเมริกาเนี่ยได้ออกมารับรองการตรวจเลือด
00:01:20 → 00:01:23 ด้วยเครื่องอย่างหนึ่งนะครับชื่อ Lumipus
00:01:23 → 00:01:27 G1200 เค้าตรวจหาสัดส่วนของโปรตีน 2 ตัว
00:01:27 → 00:01:32 นะครับโปรตีนตัวแรกชื่อว่า P 217 นะครับ
00:01:32 → 00:01:37 แล้วก็หารด้วยสัดส่วนอไมอยด์เบต้า 1-42
00:01:37 → 00:01:40 นะครับชื่อมันยาวนิดนึงไอ้สัดส่วนตัว
00:01:40 → 00:01:44 เนี้ยถ้ามันสูงมากๆนะครับจะแสดงได้ว่าเรา
00:01:44 → 00:01:48 อาจจะมีอัลไซเมอร์อยู่ในร่างกายนะครับอัน
00:01:48 → 00:01:51 นี้เป็นการตรวจเลือดนะครับแล้วอันนี้ก็
00:01:51 → 00:01:54 เป็นสิ่งที่น่าจะมาเปลี่ยนวงการตรวจผู้
00:01:55 → 00:01:57 ป่วยอัลไซเมอร์เลยทีเดียวเพราะว่ามัน
00:01:57 → 00:02:01 สามารถเจอได้ตั้งแต่ระยะแรกๆเราเนี่ยมี
00:02:01 → 00:02:04 ความรู้ในปัจจุบันมากพอแล้วนะครับว่าสิ่ง
00:02:04 → 00:02:08 ที่ทำให้เกิดอัลไซเมอร์เนี่ยคือการสะสม
00:02:08 → 00:02:11 ของสารเบต้าอไมอยด์ซึ่งมันเป็นของเสียใน
00:02:11 → 00:02:14 สมองนะครับมันจะสะสมและทำให้เซลล์สมอง
00:02:14 → 00:02:17 เนี่ยมันตายไปนะครับส่วนเซลล์ประสาทข้าง
00:02:17 → 00:02:21 ในของมันเนี่ยมันจะมีโครงข่ายที่เป็นท่อ
00:02:21 → 00:02:24 เล็กๆเราจะเรียกว่าไมโครทบินะครับซึ่งมัน
00:02:24 → 00:02:27 จะมีโปรตีนตัวนึงชื่อทอโปรตีนทอโปรตีน
00:02:27 → 00:02:30 เนี่ยเนี่ยถ้าเกิดว่ามันเกิดความผิดปกติ
00:02:30 → 00:02:33 โดยการมีหมู่ฟอสเฟตไปเกาะมันเยอะๆที่ภาษา
00:02:33 → 00:02:36 ทางการแพทย์เราเรียกว่าhyperฟosฟilation
00:02:36 → 00:02:39 เนี่ยมันจะทำให้เซลล์ประสาทตัวนั้นน่ะ
00:02:39 → 00:02:42 อักเสบแล้วก็ตายไป 2 ภาวะเนี่ยทั้งมัน
00:02:42 → 00:02:45 อักเสบตายนะครับแล้วก็มีการสะสมของเบต้า
00:02:45 → 00:02:48 อไมอยด์มันทำให้สมองของเราเสียและเป็น
00:02:48 → 00:02:50 เหตุผลที่ทำไมอัลไซเมอร์มันถึงเกิดขึ้น
00:02:50 → 00:02:54 ได้ครับทีนี้นักวิทยาศาสตร์เขาก็เริ่มมี
00:02:54 → 00:02:56 การพัฒนาว่าเฮ้ยเราจะตรวจไอ้ภาวะนี้ได้
00:02:56 → 00:03:00 ยังไงนะครับตอนแรกสุดเนี่ยก็มีการตรวจ
00:03:00 → 00:03:03 ด้วย P scan นะครับ Positon Emission
00:03:03 → 00:03:05 Tomography Scan นะครับคือมันเป็นการ
00:03:05 → 00:03:09 ตรวจ CT SC รูปแบบพิเศษที่มีการฉีดสาร
00:03:09 → 00:03:12 ที่เอาไว้จับกับเบต้าไมลอยด์ในสมองเนี่ย
00:03:12 → 00:03:15 เข้าไปในเลือดในขณะที่เราทำการสแกนนะครับ
00:03:15 → 00:03:18 ถ้าเราไปเจอเบต้าอไมอยด์ในสมองเยอะๆเนี่ย
00:03:18 → 00:03:20 เราก็บอกว่าเออคนนี้อาจจะเป็นอัลไซเมอร์
00:03:20 → 00:03:24 นะแต่แน่นอนครับการทำไอสแกนแบบเนี้ยมัน
00:03:24 → 00:03:26 แพงมากอย่างที่อเมริกาเนี่ยอยู่ที่ประมาณ
00:03:26 → 00:03:30 ประมาณสัก 4,000 US ดอลลาร์ซึ่งแพงมันก็
00:03:30 → 00:03:32 ไม่คุ้มค่าที่เราจะไปใช้การตรวจแบบนี้นะ
00:03:32 → 00:03:37 ครับต่อมาก็มีการพัฒนาการตรวจอีกอย่างนึง
00:03:37 → 00:03:40 ก็คือตรวจน้ำไข่สันหลังนะครับตรวจน้ำไข่
00:03:40 → 00:03:42 สันหลังเนี่ยเขาก็ตรวจหาตัวเบต้าอไมอยด์
00:03:42 → 00:03:45 เนี่ยแต่เป็นเบต้าอไมอยด์ 2 ชนิดนะครับ
00:03:45 → 00:03:48 ชนิดที่ 1 คือเบต้าอมรอยด์ 1- 42 กับ
00:03:48 → 00:03:51 ชนิดที่ 2 คือเบต้าอมลอยด์ 1- 40 นะครับ
00:03:51 → 00:03:54 เพื่อที่จะมาดูว่ามันมีความผิดปกติอะไร
00:03:54 → 00:03:58 ขนาดไหนนะครับคนที่พัฒนาการตรวจเนี้ยก็
00:03:58 → 00:04:01 เป็นบริษัทเดียวกับคนที่พัฒนาการตรวจ
00:04:01 → 00:04:04 เลือดนี้เหมือนกันนะครับแต่แน่นอนครับตอน
00:04:04 → 00:04:07 แรกที่พัฒนาอันแรกเนี่ยทำเพชรสแกนของสมอง
00:04:07 → 00:04:09 มันแพงนะครับเข้าถึงยากอันที่ 2 มันเป็น
00:04:09 → 00:04:12 การเจาะน้ำไขสลังซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครอยาก
00:04:12 → 00:04:14 จะไปเจาะตรงนั้นเท่าไหร่มันเจ็บนะครับก็
00:04:14 → 00:04:16 เจาะอยู่ที่บริเวณตรงเอวข้างหลังเราเอา
00:04:16 → 00:04:18 น้ำในสมองเนี่ยมาตรวจหายโปรตีน 2 ตัวนี้
00:04:18 → 00:04:19 นะ
00:04:19 → 00:04:22 ครับแล้วเนื่องจากติดปัญหา 2 อย่างนี้นี่
00:04:22 → 00:04:25 แหละทางผู้ที่เขาผลิตขึ้นมาเนี่ยเค้าก็
00:04:25 → 00:04:28 รู้สึกว่าเฮ้ยน่าจะต้องมีวิธีที่มันง่าย
00:04:28 → 00:04:30 กว่านั้นน่ะคือการตรวจเลือดเค้าก็ไปเจอ
00:04:30 → 00:04:34 เลยครับว่าเฮ้ยในอัลไซเมอร์เนี่ยมันจะมี
00:04:34 → 00:04:37 ปัญหาอย่างหนึ่งคือไอ้โปรตีนทอตัวเนี้ย
00:04:37 → 00:04:40 มันเกิดฟอสเฟตไปเกาะมันเยอะนะครับแล้วจะ
00:04:40 → 00:04:42 ทำให้มันรั่วออกมาในเลือดได้เยอะเอ๊
00:04:43 → 00:04:44 อย่างี้มันน่าจะเอามาใช้อะไรได้สักอย่าง
00:04:44 → 00:04:49 นะครับเค้าก็ไปเจอว่าไอ้ตัวทาโปรตีนเนี่ย
00:04:49 → 00:04:52 ถ้าเกิดมันมีการต่อฟอสเฟตเข้าไปที่
00:04:52 → 00:04:55 ตำแหน่ง 217 ก็คือ pall
00:04:56 → 00:05:00 217 เนี่ยมันจะเยอะขึ้นในเลือดและมัน
00:05:00 → 00:05:02 เกิดขึ้นในอัลไซเมอร์นะครับพวกเนี้ยเกิด
00:05:02 → 00:05:03 ขึ้นในเซลล์ประสาทแล้วมันก็จะรั่วออกมา
00:05:03 → 00:05:05 นอกเซลล์ประสาททำให้เซลล์มันตายแล้วออกมา
00:05:05 → 00:05:07 ในเลือดให้เราตรวจได้ตัวเนี้ยใน
00:05:07 → 00:05:11 อัลไซเมอร์มันจะสูงครับแล้วก็ไอ้เบต้า
00:05:11 → 00:05:14 อไมอยด์อ่ะในเลือดนะมันจะต่ำเพราะว่ามัน
00:05:14 → 00:05:17 ไปกองอยู่ที่สมองหมดดังนั้นเนี่ยเค้าก็
00:05:17 → 00:05:21 เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่าถ้าเราตรวจหา 2
00:05:21 → 00:05:23 ตัวนี้ในเลือดแล้วเอามาหารสัดส่วนกันถ้า
00:05:23 → 00:05:26 เกิดว่าค่าของมันน่ะสูงมันน่าจะเป็นตัว
00:05:26 → 00:05:28 ที่บ่งบอกได้ว่าเราอาจจะมีอัลไซเมอร์อยู่
00:05:28 → 00:05:31 ในสมองแล้วครับแล้วเนี่ยเค้าทำการวิจัยไป
00:05:31 → 00:05:35 แล้วพบว่ามันค่อนข้างมีความแม่นยำสูงเลย
00:05:35 → 00:05:39 ทีเดียวนะครับโดยถ้าเราตรวจแล้วผลออกมา
00:05:39 → 00:05:41 เป็นบวกเนี่ยโอกาสที่เราจะเป็นอัลไซเมอร์
00:05:42 → 00:05:45 จริงๆเนี่ยเกิน 90% นะครับแต่ถ้าเราตรวจ
00:05:45 → 00:05:48 ออกมาแล้วผลเป็นลบอย่างเงี้ยโอกาสที่เรา
00:05:48 → 00:05:51 จะไม่ใช่อัลไซเมอร์เลยมีเกิน 90% อีก
00:05:51 → 00:05:54 เหมือนกันซึ่งถือว่าค่อนข้างแม่นยำเลยที
00:05:54 → 00:05:57 เดียวนะครับงั้นไอ้ตัวเนี้ยก็เลยเป็นทาง
00:05:57 → 00:05:59 เลือกใหม่ในปัจจุบันที่เราจะเอามาตรวจนะ
00:05:59 → 00:06:02 ครับบริษัทที่เขาทำเทสนี้ขึ้นมาเนี่ยก็
00:06:02 → 00:06:06 อ่าชื่อ Fuji Rูioนะครับตัวนี้เขาก็ทำ
00:06:06 → 00:06:08 ขึ้นมาแล้วก็ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวนะ
00:06:08 → 00:06:12 ฮะแต่มันก็มีสิ่งที่เราต้องเข้าใจไปมาก
00:06:12 → 00:06:16 กว่านั้นนะครับคือไอ้การใช้การตรวจเลือด
00:06:16 → 00:06:19 ตัวนี้เนี่ยบางคนก็คงถามว่าเอ๊ะแล้วมันจะ
00:06:19 → 00:06:22 ไปให้ผลบวกในโรคอื่นได้ไหมแล้วใครที่ต้อง
00:06:22 → 00:06:25 ตรวจแล้วราคามันเท่าไหร่เออตรงเนี้ยสำคัญ
00:06:25 → 00:06:28 และนะครับขอเริ่มต้นด้วยสิ่งที่เข้าใจ
00:06:28 → 00:06:31 ง่ายที่สุดก่อนเลยราคานะครับมีการประมาณ
00:06:31 → 00:06:34 การไว้ว่าราคาจะตกอยู่ที่ประมาณ 500
00:06:34 → 00:06:37 4-500 เหรียญUSดดอลลาร์ที่อเมริกานะครับ
00:06:37 → 00:06:39 4-500 เหรียญก็คือ 10,000 กว่าบาทนี่
00:06:39 → 00:06:42 แหละ 12,000 บาทเนี่ยประมาณนี้ซึ่งคิดว่า
00:06:42 → 00:06:46 เออก็น่าจะยังเข้าถึงอยู่นะครับนะแล้วใคร
00:06:46 → 00:06:47 ที่ต้อง
00:06:47 → 00:06:51 ตรวจเค้าแนะนำนะครับอันนี้คือเค้านี่คือ
00:06:51 → 00:06:55 FDA ของอเมริกามีการออกมาเตือนว่าคุณจะ
00:06:55 → 00:06:59 ต้องทำในคนที่อายุ 55 หรือมากกว่าเท่า
00:06:59 → 00:07:02 นั้นจะไม่ทำในคนที่อายุน้อยกว่านั้นนะ
00:07:02 → 00:07:06 ครับและจะต้องเริ่มมีอาการของสมองเสื่อม
00:07:06 → 00:07:09 ระยะต้นนะครับอาการของสมองเสื่อมเนี่ยไม่
00:07:09 → 00:07:12 ใช่ว่าเรารอจนกระทั่งเขาหลงลืมวันเวลาไม่
00:07:12 → 00:07:14 รู้ว่าเอ้ยเมื่อเช้าทำอะไรไปแล้วหรือคุย
00:07:14 → 00:07:16 กับใครแล้วก็จำหน้าไม่ได้จำอะไรไม่ได้ไม่
00:07:16 → 00:07:18 ถึงขนาดนั้นครับแต่ว่าถ้าเกิดเมื่อไหร่
00:07:18 → 00:07:20 ที่เราเริ่มรู้สึกว่าเอ๊ะคนไข้คนนี้เขา
00:07:20 → 00:07:24 หลงลืมง่ายนิดๆหน่อยๆเนี่ยหรือพูดอะไร
00:07:24 → 00:07:26 แล้วก็ไม่แน่ใจอันเนี้ยให้เราตรวจได้เลย
00:07:26 → 00:07:30 ตั้งแต่แรกนะครับเราจะไม่ใช้การตรวจนี้
00:07:30 → 00:07:33 กับคนที่ยังไม่มีอาการนะครับเหตุผลที่
00:07:33 → 00:07:37 เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการรักษาต่างๆยา
00:07:37 → 00:07:39 ต่างๆไม่ว่าจะเป็นยาฉีดยากินยาอะไรก็แล้ว
00:07:40 → 00:07:43 แต่นะครับมันยังไม่มีประโยชน์ในคนที่ยัง
00:07:43 → 00:07:45 ไม่มีอาการนะครับถ้าเราไปให้คนที่ยังไม่
00:07:45 → 00:07:49 มีการอะไรเลยเนี่ยผลเสียของมันน่ะมันจะ
00:07:49 → 00:07:51 มากกว่าผลดีดังนั้นเนี่ยทาง FDA อเมริกา
00:07:51 → 00:07:55 ก็เลยบอกว่าเราจะตรวจเฉพาะคนที่มีอาการ
00:07:55 → 00:08:00 และอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปเท่านั้นครับ
00:08:00 → 00:08:01 นะฮะอันนี้อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้อง
00:08:01 → 00:08:04 ทราบนะสำหรับหมอทุกคนที่จะมาใช้การตรวจ
00:08:04 → 00:08:06 อันนี้นะครับแล้วที่ต้องทราบอีกอย่างนึง
00:08:07 → 00:08:10 ก็คือแล้วมันให้เป็นผลบวกในบางคนที่ไม่
00:08:10 → 00:08:14 ใช่โรคอัลไซเมอร์ได้ไหมได้ครับมันจะมีบาง
00:08:14 → 00:08:17 โรคที่คุณตรวจออกมาแล้วไอ้ผลเนี่ยมันได้
00:08:17 → 00:08:20 ผลเป็นบวกแต่คนไข้ไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์
00:08:20 → 00:08:25 ครับเออเออมันจะให้ผลบวกในโรคไหนถ้าเป็น
00:08:25 → 00:08:27 นักเรียนแพทย์เข้ามาฟังนะครับมันจะสามารถ
00:08:27 → 00:08:30 ให้ผลบวกในคนที่เป็นโรคกลุ่มที่เราเรียก
00:08:30 → 00:08:33 ว่า tall party ได้นะครับก็คือไอ้โปรตีน
00:08:33 → 00:08:36 ทอที่มันไปเกาะกับไมโครทูบูนที่อยู่ในตัว
00:08:36 → 00:08:39 อ่าเซลล์ประสาทนี่แหละถ้าโปรตีนตัวเนี้ย
00:08:39 → 00:08:43 มันผิดปกติก็จะสามารถทำให้ผลตรวจอันเนี้ย
00:08:43 → 00:08:45 ผิดปกติได้เช่นกันโดยที่มันไม่ได้มีแค่
00:08:45 → 00:08:47 โรคอัลไซเมอร์อย่างเดียวนะครับกลุ่ม tor
00:08:47 → 00:08:50 opy เนี่ยมันจะทำให้เกิดอ่าสิ่งที่เรา
00:08:50 → 00:08:52 เรียกว่า neur fibery Tangle นะครับก็
00:08:52 → 00:08:55 คือไอ้ท่อไมโครทบูที่อยู่ในเซลล์เนี่ยมัน
00:08:55 → 00:08:57 พันกันเป็นก้อนเนี่ยกระจุกกระจุเนี่ยนะ
00:08:57 → 00:08:59 ครับแล้วลักษณะของมันก็จะมีความพิเศษตาม
00:08:59 → 00:09:01 แต่ละโรคด้วยนะครับถ้าเป็นอัลไซเมอร์มัน
00:09:01 → 00:09:03 จะลักษณะเหมือนตัว C อย่างเงี้ยนะฮะแต่
00:09:03 → 00:09:04 เป็นตัวอื่นก็อาจจะเป็นตัว J หรืออะไรก็
00:09:04 → 00:09:08 แล้วแต่นะครับตรงนี้นี่ก็ทำให้เราจำเป็น
00:09:08 → 00:09:11 ต้องรู้โรคอะไรบ้างที่จะได้ผลเป็นบวกนอก
00:09:11 → 00:09:14 เหนือจากอัลไซเมอร์นะครับโรคแรก Front
00:09:14 → 00:09:16 Temporal Dobenia ที่ Bruce Willis
00:09:16 → 00:09:19 เป็นอ่าโรคนี้ก็ได้ผลเป็นบวกเหมือนกันนะ
00:09:19 → 00:09:21 ครับซึ่งผมเคยทำคลิปเรื่อง Font Control
00:09:21 → 00:09:22 lop demi ของ Bruce Willis ไปแล้วนะ
00:09:22 → 00:09:25 ครับโรคนี้ไม่มีทางรักษานะครับแล้วก็
00:09:25 → 00:09:27 อาการเด่นๆของเขาเนี่ยคือจะมีความผิดปกติ
00:09:28 → 00:09:30 ทางด้านบุคลิกภาพนะครับที่จะเยอะกว่าเลย
00:09:30 → 00:09:33 อ่ะเยอะกว่าเรื่องของความจำซะอีกนะครับพอ
00:09:33 → 00:09:34 เป็นระยะท้ายก็จะค่อยมีปัญหาเรื่องของ
00:09:35 → 00:09:38 ความจำนะโรคนี้ให้ผลเป็นบวกได้กับการทด
00:09:38 → 00:09:40 สอบนี้โรคที่ 2 บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน
00:09:40 → 00:09:43 ชื่อ Cortical Basal Degeneration นะ
00:09:43 → 00:09:46 ครับโรคที่ 3 โรคที่เราเรียกว่า
00:09:46 → 00:09:49 Progressive Suprauclear Prusy นะครับ
00:09:49 → 00:09:52 อ่าอันเนี้ยผมเคยเล่าไปหมดแล้วในเรื่อง
00:09:52 → 00:09:55 ของโรคสมองเสื่อมถ้าใครจำไม่ได้ให้ย้อน
00:09:55 → 00:09:57 กลับไปฟังคลิปเรื่องนั้นเพราะผมเล่าไอ้
00:09:57 → 00:09:59 พวกเนี้ยไว้เกี่ยงหมดแล้วนะครับแล้วก็อีก
00:09:59 → 00:10:02 อันนึงก็คือเป็นโรคที่มีการอักเสบของสมอง
00:10:02 → 00:10:05 หลังจากการบาดเจ็บก็จะทำให้ไอ้ค่าตัว
00:10:05 → 00:10:08 เนี้ยผิดปกติได้นะครับอันเนี้ยเป็นสิ่ง
00:10:08 → 00:10:11 ที่เรารู้ว่ามันจะทำให้ผลเลือดตัวนี้ผิด
00:10:11 → 00:10:13 ปกติได้ทั้งๆที่คนไข้ไม่ได้เป็น
00:10:13 → 00:10:16 อัลไซเมอร์นะครับนอกเหนือจากนี้เนี่ยอาจ
00:10:16 → 00:10:18 จะมีความเจ็บป่วยบางอย่างซึ่งเรายังไม่
00:10:18 → 00:10:21 ทราบนะครับอาจจะเป็นโรคตับหรือโรคไตอะไร
00:10:21 → 00:10:23 สักอย่างก็ได้ที่อาจจะมีผลต่อการตรวจ
00:10:23 → 00:10:25 เลือดตัวนี้ซึ่งจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
00:10:25 → 00:10:28 ว่ามันมีผลอะไรอย่างไรแค่ไหนนะครับตรงนี้
00:10:28 → 00:10:30 ทราบคร่าวๆก่อนว่ามันเกี่ยวข้องกับสีโรค
00:10:30 → 00:10:34 นี้ได้ดังนั้นเนี่ยเราจะไม่ใช้ผลเลือดตัว
00:10:34 → 00:10:37 นี้ในการวินิจฉัยว่าคนไข้เป็นอัลไซเมอร์
00:10:37 → 00:10:41 นะครับเราจะใช้ประกอบการวินิจฉัยหมายความ
00:10:41 → 00:10:43 ว่าถ้าผลเลือดมันเป็นบวกปุ๊บเนี่ยคุณจะ
00:10:43 → 00:10:47 ต้องมีการใช้วิธีอื่นเช่นคุณซักประวัติคน
00:10:47 → 00:10:50 ไข้ตรวจร่างกายเอ๊ะมันเข้าได้กับโรคไหน
00:10:50 → 00:10:52 มันเข้าได้กับโรคอัลไซเมอร์หรือเปล่าถ้า
00:10:52 → 00:10:54 เข้าได้กับโรคอัลไซเมอร์ผลเลือดชี้ว่า
00:10:54 → 00:10:56 เป็นอัลไซเมอร์แล้วไปสแกนสมองเออมัน
00:10:56 → 00:10:58 เหมือนอัลไซเมอร์คนนี้ถึงจะเป็น
00:10:58 → 00:11:00 อัลไซเมอร์ครับแต่ถ้าไม่ใช่มันอาจจะเป็น
00:11:00 → 00:11:03 โรคอื่นอย่างที่เมื่อกี้เล่ามาก็ได้นะ
00:11:03 → 00:11:06 ครับและที่สำคัญครับแล้วถ้าผลตรวจมันเป็น
00:11:07 → 00:11:10 ลบเนี่ยผมบอกว่า 90 กว่าเปอ์มันจะแปลว่า
00:11:10 → 00:11:12 คุณไม่ได้เป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคเมื่อ
00:11:12 → 00:11:16 ตะกี้ที่พูดทั้งหมดแน่ๆแต่มันก็จะมีอีก
00:11:16 → 00:11:18 บางเปอร์เซ็นต์ที่แบบมันเป็นอัลไซเมอร์
00:11:18 → 00:11:18 ได้อยู่
00:11:19 → 00:11:21 ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นก็ต้องบอกอย่างี้ครับ
00:11:21 → 00:11:24 ว่าไอ้การตรวจเลือดครั้งนี้เนี่ยอาจจะเจอ
00:11:24 → 00:11:28 อัลไซเมอร์ที่แบบระยะแรกเริ่มมากจริงๆที่
00:11:28 → 00:11:30 โปรตีนพวกเนี้ยมันยังไม่ผิดปกติเลยสักตัว
00:11:30 → 00:11:32 นะครับดังนั้นก็อาจจะเป็นสิ่งที่เรา
00:11:32 → 00:11:36 จำเป็นจะต้องเข้าใจนะฮะอย่างไรก็ตามครับ
00:11:36 → 00:11:38 ส่วนมาก
00:11:38 → 00:11:42 แล้วเวลาคนไข้มีอาการแล้วเนี่ยมันมักจะ
00:11:42 → 00:11:44 ต้องตรวจเจอไอ้พวกนี้เหตุผลก็เพราะว่า
00:11:44 → 00:11:48 โปรตีนพวกเนี้ยมันผิดปกติมาเป็นระยะระยะ
00:11:48 → 00:11:51 เวลานานบางรายงานเนี่ยเรารู้ว่าก่อน
00:11:51 → 00:11:54 อัลไซเมอร์จะแสดงอาการใช้เวลาถึง 20 ปี
00:11:54 → 00:11:57 เลยทีเดียวแต่ไอ้ 20 ปีเนี่ยมีความผิด
00:11:57 → 00:11:59 ปกติของสมองไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่แรกก็
00:11:59 → 00:12:03 คือเริ่มมีเทาโปรตีนที่ผิดปกติไปเริ่มมี
00:12:03 → 00:12:06 เบต้าอไมอยด์มาอยู่ในสมองของเรานะครับโดย
00:12:06 → 00:12:08 ตัวที่ผิดปกติตัวแรกเลยก็คือเบต้าอไมอยด์
00:12:08 → 00:12:11 นำมาก่อนเลยหลังจากนั้นทอโปรตีนจะผิดปกติ
00:12:11 → 00:12:15 ตามมานะครับหลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการดัง
00:12:15 → 00:12:17 นั้นแล้วเนี่ยถ้าเราดูตามสิ่งที่เราเข้า
00:12:18 → 00:12:20 ใจเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์จริงๆเนี่ยเมื่อ
00:12:20 → 00:12:23 เรามีอาการเราตรวจเลือดมันจะต้องได้ผลผิด
00:12:23 → 00:12:26 ปกติ FDA เขาเลยฉลาดครับเลยบอกว่าถ้า
00:12:26 → 00:12:28 อย่างงั้นคุณตรวจเฉพาะตอนที่มีอาการเท่า
00:12:28 → 00:12:31 นั้นเพราะว่ามันจะได้ตรวจแล้วผลเป็นบวก
00:12:31 → 00:12:33 ชัวร์แน่ๆแล้วถ้าผลเป็นบวกตอนที่คุณมี
00:12:34 → 00:12:37 อาการแล้วการรักษาถึงจะคุ้มค่ากับการ
00:12:37 → 00:12:38 เสี่ยง
00:12:38 → 00:12:41 ครับนอกเหนือจากนี้นะครับผมอยากจะอธิบาย
00:12:41 → 00:12:44 เพิ่มเติมนิดนึงว่ามันก็มีการตรวจเลือด
00:12:44 → 00:12:47 อย่างอื่นเพื่อที่จะดูว่าคุณมียีนอะไรที่
00:12:47 → 00:12:50 ทำให้คุณเป็นโอกาสโรคอัลไซเมอร์มากกว่าคน
00:12:50 → 00:12:53 ปกติหรือไม่นะครับซึ่งการตรวจยีนพวกนี้
00:12:53 → 00:12:57 เนี่ยจะแนะนำให้ตรวจในคนที่มีโรค
00:12:57 → 00:13:00 อัลไซเมอร์อยู่ในครอบครัวเยอะๆอาจจะมีคน
00:13:00 → 00:13:02 ที่มีโรคความจำเสื่อมเยอะๆในครอบครัวโดย
00:13:02 → 00:13:05 เฉพาะถ้าเกิดความจำเสื่อมนั้นเกิดขึ้น
00:13:05 → 00:13:10 ก่อนอายุ 65 ปีนะครับสมมุติในครอบครัวมี
00:13:10 → 00:13:13 ปู่ย่าตายายนะครับทุกคนเนี่ยความจำเสื่อม
00:13:13 → 00:13:15 หมดเลยแล้วทุกๆคนเนี่ยอายุประมาณ 60 ต้นๆ
00:13:15 → 00:13:18 เองยังไม่ถึง 65 ปีเลยซึ่งโดยทั่วไปก็
00:13:18 → 00:13:20 ต้องบอกครับว่าโรคความจำเสื่อมเนี่ยมัน
00:13:20 → 00:13:23 ไม่ค่อยเกิดกับคนที่อายุต่ำกว่า 65 เท่า
00:13:23 → 00:13:26 ไหร่แต่ถ้ามันเกิดอันเนี้ยอาจจะต้องไปหา
00:13:26 → 00:13:29 สาเหตุนะครับสาเหตุของความจำที่ผิดปกติ
00:13:29 → 00:13:32 ไม่ใช่มีแค่โรคความจำเสื่อมนะครับแต่ว่า
00:13:32 → 00:13:34 มันต้องมีโรคอื่นๆที่เราต้องไปหาอีกยกตัว
00:13:34 → 00:13:36 อย่างเช่นคุณต้องไปหาว่าเป็นไทรรอยด์ต่ำ
00:13:36 → 00:13:39 มั้ยคุณมีโลหิตจางมั้ยบางคนเป็นสมัยก่อน
00:13:39 → 00:13:41 มีโรคซิฟิสขึ้นสมองหรือเปล่านะครับขาด
00:13:41 → 00:13:44 วิตามิน B12 มั้ยสมองมันก็เลยเสื่อมหรือ
00:13:44 → 00:13:47 อ่าบางคนมีโรคโหยุดหายใจในขณะหลับนะครับ
00:13:47 → 00:13:51 ไม่ได้รักษาเลยนะก็เป็นบางคนเป็นโรคซึม
00:13:51 → 00:13:53 เศร้าก็ทำให้ความจำมันมีปัญหาได้คุณต้อง
00:13:53 → 00:13:55 ไปตัดไอ้โรคพวกนี้ออกไปให้หมดก่อนว่าไม่
00:13:55 → 00:13:58 ใช่แน่ๆแล้วถึงจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคทาง
00:13:58 → 00:13:59 สมองที่เกี่ยวข้องกับความจำเสื่อมซึ่งคุณ
00:14:00 → 00:14:01 ก็ต้องไปตรวจอีกทีว่าเอ๊ะจำเป็นจะต้อง
00:14:02 → 00:14:04 สแกนสมองมั้ยบางทีเราไปเจอโรคประหลาดเช่น
00:14:04 → 00:14:06 อาจจะมีก้อนเนื้องอกในสมองความจันทร์ก็
00:14:06 → 00:14:09 ผิดปกติหรืออะไรพวกนี้ก็ได้นะครับแต่ถ้า
00:14:09 → 00:14:12 เกิดว่าคนที่ในครอบครัวมีประวัติว่าความ
00:14:12 → 00:14:14 จำเสื่อมเยอะแยะกันหลายคนนะครับแล้วก็
00:14:14 → 00:14:18 อายุน้อยกว่า 15 ปีน้อยกว่า 65 ปีมันจะมี
00:14:18 → 00:14:19 ยีนตัวนึงนะครับ
00:14:20 → 00:14:24 ชื่อ E4 นะครับย่อมาจาก AP ไลโปโปรteนนะ
00:14:24 → 00:14:27 ครับ AP ไลโปโรปรตีนเนี่ยมันเป็นโปรตีน
00:14:27 → 00:14:31 ตัวนึงซึ่งสร้างจากตับนะครับที่มันวิ่งไป
00:14:31 → 00:14:33 มาอยู่ในเลือดแล้วก็ในสมองเนี่ยมันจะมี
00:14:33 → 00:14:35 เซลล์ตัวนึงชื่อไมโครเคลียตัวนี้ก็จะ
00:14:35 → 00:14:39 สร้างapโปโปรตีน E ได้เหมือนกันนะครับตัว
00:14:39 → 00:14:42 นี้มันมีหน้าที่ในการกำจัดอไมอยด์ในสมอง
00:14:42 → 00:14:45 อไมอยด์เนี่ยเหมือนขยะในสมองนะครับมันก็
00:14:45 → 00:14:47 ไปกำจัดถ้าเกิดว่ามันมีการกลายพันธุน่ะ
00:14:47 → 00:14:49 มันกำจัดไม่ได้คุณก็มีโอกาสเกิด
00:14:49 → 00:14:52 อัลไซเมอร์ได้ง่ายกว่าปกตินะครับ
00:14:52 → 00:14:55 แล้วโปรตีนเนี่ยมันจะมีทั้งหมด 2 ตัวนึง
00:14:56 → 00:14:58 มาจากพ่อตัวนึงมาจากแม่เรานะครับแล้วถ้า
00:14:58 → 00:15:02 มันมีกายกลายพันธุ์เป็นไปโปโรปีนชนิดที่ 4
00:15:02 → 00:15:03 คือ
00:15:03 → 00:15:07 E4 นะครับอันเนี้ยจะทำให้คุณมีความ
00:15:07 → 00:15:09 เสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์สูงขึ้น
00:15:09 → 00:15:12 กว่าคนธรรมดาถ้าเกิดคุณมีการกลายพันธุ์
00:15:12 → 00:15:14 ทั้งที่มาจากพ่อจากแม่รวมกันในตัวคุณเลย
00:15:14 → 00:15:16 เนี่ยอันเนี้ยโอกาสเกิดอัลไซเมอร์สูงกว่า
00:15:16 → 00:15:21 คนปกติเป็น 10 เท่าเลยนะครับสูงมากนะครับ
00:15:21 → 00:15:26 แต่ถ้าเกิดคุณเป็นไโปโปรตีน E 2 ทั้ง 2
00:15:26 → 00:15:29 ตัวนะคุณมีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์น้อย
00:15:29 → 00:15:33 กว่าคนปกติอ่าแต่ถ้าเป็น E3 อันนี้จะเท่า
00:15:33 → 00:15:37 ๆกับประชากรทั่วไปนะครับตรงนี้ก็เป็นสิ่ง
00:15:37 → 00:15:40 เล็กๆน้อยๆซึ่งถ้าเกิดคุณมีคนในครอบครัว
00:15:40 → 00:15:41 เป็นอัลไซเมอร์กันเยอะบางทีตรวจยีนตัว
00:15:41 → 00:15:43 เนี้ยอาจจะเป็นประโยชน์เพื่อที่จะบ่งบอก
00:15:43 → 00:15:46 ได้ว่าคุณมีโอกาสเกิดอัลไซเมอร์ขึ้นมา
00:15:46 → 00:15:48 ง่ายกว่าคนปกติหรือไม่แล้วถ้าเริ่มมี
00:15:48 → 00:15:51 อาการเราต้องรีบตรวจทุกอย่างรวมทั้งอาจจะ
00:15:51 → 00:15:54 ต้องตรวจเลือดเนี่ยรู g ตัวเนี้ยตั้งแต่
00:15:54 → 00:15:56 แรกเพื่อที่จะเข้าสู่กระบวนการรักษาจะได้
00:15:56 → 00:15:59 ได้ผลที่ดีนะครับแต่ก็ไม่ได้มีแค่ยีนตัว
00:15:59 → 00:16:02 นี้นะครับที่มันมีผลต่อการเกิดอัลไซเมอร์
00:16:02 → 00:16:06 นะฮะมันก็มียีนตัวอื่นอีกนะครับเช่นเอิ่ม
00:16:06 → 00:16:09 amoอย precurs โปรตีนนะครับตัวเนี้ยถ้า
00:16:10 → 00:16:14 มันผิดปกติก็เกิดปัญหาได้หรือพีซน 1 กับ
00:16:14 → 00:16:16 พีซิน 2 ตัวนี้ก็เป็นยีนที่ถ้าเกิดมัน
00:16:16 → 00:16:18 กลายพันธุ์แล้วเนี่ยคุณอาจจะมีปัญหาของ
00:16:18 → 00:16:20 การสะสมเบต้าไมลอยด์หรืออะไรพวกนี้ในสมอง
00:16:20 → 00:16:23 ทำให้สมองเสื่อมก่อนอายุที่มันควรจะเป็น
00:16:23 → 00:16:26 ก็ได้นะครับแล้วก็จะมีอียีนอีกตั้งหลาก
00:16:26 → 00:16:28 หลายตัวเป็น 10 ตัวเลยที่เขาเชื่อว่ามี
00:16:28 → 00:16:31 ความเกี่ยวข้องกับภาวะเกิดอัลไซเมอร์นะ
00:16:31 → 00:16:34 ครับแต่ยินเมื่อกี้ที่ผมบอกไปตั้งแต่ตัว
00:16:34 → 00:16:38 อ่า Apple E4 นะครับหรือตัวอ่า presser
00:16:38 → 00:16:42 โปรteนะฮะหรือถ้ามันเป็นกลุ่มพีซin 1
00:16:42 → 00:16:45 พรีซิน 2 นะครับพวกเนี้ยถ้ามันมีการกลาย
00:16:45 → 00:16:48 พันธุ์ก็ทำให้คุณมีความเสื่อมเสื่อมได้
00:16:48 → 00:16:51 ง่ายขึ้นแล้วเราก็จะตรวจยินพวกนี้ในคนที่
00:16:51 → 00:16:53 ครอบครัวมีประวัติเป็นอัลไซเมอร์ตั้งแต่
00:16:53 → 00:16:58 อายุต่ำกว่า 65 ปีนะครับอ่ะทีนี้สมมุติ
00:16:58 → 00:17:00 ว่าเราเข้าใจตรงนี้ทั้งหมดแล้วแล้วเรา
00:17:00 → 00:17:02 วินิจฉัยตัวเองว่าเฮ้ยเราเป็นอัลไซเมอร์
00:17:02 → 00:17:05 แล้วการรักษาล่ะมันเป็นยังไงนะครับก็ต้อง
00:17:05 → 00:17:07 บอกว่าเรื่องของการรักษาผมเคยเล่าไปทีนึง
00:17:07 → 00:17:10 แล้วนะครับมียาหลากหลายตัวซึ่งถ้าเรา
00:17:10 → 00:17:13 เริ่มมีอาการใช้ยาในกลุ่มเนี้ยเนี่ยก็จะ
00:17:13 → 00:17:17 ได้ผลดีแต่ที่อเมริกาครับมันจะมียาฉีด
00:17:17 → 00:17:20 ซึ่งผมเคยเอามาเล่าไปตัวนึงนะครับชื่อ
00:17:20 → 00:17:22 เรคานะครับแต่เดี๋ยวนี้มันมีอีกตัวนึง
00:17:22 → 00:17:25 ชื่อ Donimap 2 ตัวเนี้ยเป็นยาที่เอาไว้
00:17:25 → 00:17:28 กำจัดเบต้าอไมอยด์ที่อยู่ในสมองนะครับมัน
00:17:28 → 00:17:31 เป็นยาฉีดซึ่งเนี่ยจะต้องฉีดทุก 2
00:17:31 → 00:17:33 อาทิตย์แต่ว่า Donanimap ฉีดทุกเดือนนะ
00:17:33 → 00:17:37 ครับมันค่อนข้างที่จะได้ผลดีนะครับถ้าเรา
00:17:37 → 00:17:40 เป็นอัลไซเมอร์ระยะแรกเออมันจะกำจัดไอ้
00:17:40 → 00:17:42 ขยะอันนี้ออกไปจากสมองเราได้ดีดังนั้น
00:17:42 → 00:17:46 เนี่ยการตรวจด้วย G ตัวเนี้ยจึงเป็นสิ่ง
00:17:46 → 00:17:49 ที่จำเป็นเป็นอย่างมากถ้าเราวินิจฉัยได้
00:17:49 → 00:17:51 ตั้งแต่แรกเบต้าไมลอยด์ในสมองยังไม่เยอะ
00:17:51 → 00:17:54 เนี่ยยาพวกเนี้ยมันจะได้ผลดีมากเลยนะครับ
00:17:54 → 00:17:58 แต่แน่นอนครับยามันก็มีราคาแพงแพงมากเลย
00:17:58 → 00:18:01 ด้วยนะครับแล้วไม่ใช่แค่นั้นครับการใช้ยา
00:18:01 → 00:18:04 พวกเนี้ยจะต้องมีการตรวจ MRI ของสมองเป็น
00:18:04 → 00:18:07 ประจำนะครับเช่นทุกเดือนอะไรอย่าเงี้ยใน
00:18:07 → 00:18:09 ช่วง 3-4 เดือนแล้วต้องทำทุกเดือนเหตุผล
00:18:09 → 00:18:12 ก็เพราะว่ายาเหล่าเนี้ยเวลาที่เราใช้มัน
00:18:12 → 00:18:16 อาจจะทำให้เราเกิดเลือดออกในสมองได้นะ
00:18:16 → 00:18:21 ครับเออมันจะมีมันจะมีวิธีในการแบ่งว่า
00:18:21 → 00:18:24 เกิดอะไรกับสมองของเราแล้วนะครับโดยการ
00:18:24 → 00:18:27 แบ่งเป็นอ่าเขาจะเรียกว่า amoid related
00:18:27 → 00:18:30 imaging abnormality หรือ area นะครับ
00:18:30 → 00:18:33 ซึ่งมันแปลว่าถ้าเราให้ยาพวกนี้ไปแล้ว
00:18:33 → 00:18:35 เนี่ยมันไปกำจัดอไมลอยบางคนน่ะจะเกิดความ
00:18:35 → 00:18:38 ผิดปกติเช่นสมองบวมนะครับอาจจะมีอาการมึน
00:18:38 → 00:18:40 งงแรกๆปวดหัวคลื่นไส้อาเจียนบางคนถ้าเป็น
00:18:40 → 00:18:43 รุนแรงหน่อยก็ชักบางคนก็มีเลือดออกในสมอง
00:18:43 → 00:18:45 ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะ
00:18:45 → 00:18:47 ต้องบอกอาการเหล่านี้กับผู้ป่วยก่อนที่
00:18:47 → 00:18:50 เราจะไปใช้ยาในกลุ่มพวกเนี้ยในการกำจัด
00:18:50 → 00:18:52 เบต้าอไมอยด์ออกจากสมองนะครับแต่มันก็
00:18:52 → 00:18:55 เป็นนวัตกรรมอันใหม่ซึ่งผมมองเลยนะครับ
00:18:55 → 00:19:01 ว่าในบรรดาผู้ป่วยสูงอายุที่มีเงินมากๆนะ
00:19:01 → 00:19:04 ครับเค้าก็ต้องอยากได้อะไรที่มันดีที่สุด
00:19:04 → 00:19:07 ในโลกนะครับและไอ้ดีที่สุดในโลกตอนเนี้ย
00:19:07 → 00:19:10 ก็คือการตรวจรูดีตัวนี้นี่แหละทำให้คุณ
00:19:10 → 00:19:12 รู้ก่อนว่าคุณเป็นแน่ๆหรือเปล่าตอนที่คุณ
00:19:12 → 00:19:14 อายุ 55 ปีขึ้นไปแล้วถ้าคุณเริ่มมีอาการ
00:19:14 → 00:19:17 ตรวจปุ๊บเจอปั๊บให้ยาในกลุ่มพวกนี้เลย
00:19:17 → 00:19:20 ตั้งแต่แรกนะครับแต่แน่นอนครับว่ามันแพง
00:19:20 → 00:19:22 ซึ่งถ้าเกิดคนที่มีสตางค์จ่ายมากๆเค้าก็
00:19:22 → 00:19:24 ไม่ได้สนใจตรงนั้นเค้าบอกว่าเฮ้ยอะไรที่
00:19:24 → 00:19:28 ดีที่สุดสำหรับเค้าเอามานะครับแล้วผมคิด
00:19:28 → 00:19:30 ว่าประเทศไทยยังไม่มีนะครับต้องไปได้ยา
00:19:30 → 00:19:33 ตัวนี้ที่อเมริกาหรือที่ต่างประเทศที่
00:19:33 → 00:19:36 เขา้ามีนะครับอ่ะดังนั้นโดยสรุปนะครับอัน
00:19:36 → 00:19:39 นี้ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่น
00:19:39 → 00:19:42 ใจมากว่าเราสามารถที่จะตรวจยืนยัน
00:19:42 → 00:19:45 อัลไซเมอร์ได้จากการตรวจเลือดแล้วนะครับ
00:19:45 → 00:19:48 โดยถ้าเริ่มคือถ้าเราเริ่มมีความจำเสื่อม
00:19:48 → 00:19:51 นะครับเช่นเราอาจจะเห็นคนนึงมีความเอ๊ะ
00:19:51 → 00:19:52 เดี๋ยวเค้าลืมตรงโน้นลืมตรงนี้แล้วเ้า
00:19:52 → 00:19:55 อายุ 55 ปีขึ้นไปอันเนี้ยเราเอาไปตรวจได้
00:19:56 → 00:19:58 นะครับหนึ่งในการตรวจนอกเหนือจากการตรวจ
00:19:58 → 00:20:00 ทั่วๆไปว่าเรามีเอ้ยเค้ามีโรคประจำตัว
00:20:00 → 00:20:03 อะไรมั้ยมีโลหิตจางมีสโตรกอะไรมาก่อนหรือ
00:20:03 → 00:20:06 เปล่ามีซิฟิมีขาดวิตามิน B12 มีไทรรอยด์
00:20:06 → 00:20:08 ต่ำมีปัญหาโรคซึมเศร้ามีการหยุดหายแจงใน
00:20:08 → 00:20:10 ขณะเหล่ามั้ย1ึในนั้นก็อาจจะเป็นการตรวจ
00:20:10 → 00:20:13 เลือดlumิ g เพื่อที่จะหาสัดส่วนระหว่าง
00:20:13 → 00:20:18 pท 217 ต่อเบต้าอย 1- 42 นะครับเออถ้า
00:20:18 → 00:20:20 เราหาตรงนี้หมดปุ๊บอ่าเราเจอเป็น
00:20:20 → 00:20:23 อัลไซเมอร์ก็เข้าสู่กระบวนการรักษาส่วนคน
00:20:23 → 00:20:24 ไหนที่ใน
00:20:24 → 00:20:28 ครอบครัวมีคนเป็นโรคสมองเสื่อมที่อายุต่ำ
00:20:28 → 00:20:32 กว่า 65 ปีนะครับอันเนี้ยการไปตรวจยีน
00:20:32 → 00:20:36 หาโปโปโปรตีน E 4 ก็เป็นประโยชน์นะครับ
00:20:36 → 00:20:41 หาตัวเ่าprecอรโปรตีนจีนหรือพีซิน 1
00:20:41 → 00:20:44 พีซิน 2 ก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์เช่น
00:20:44 → 00:20:46 กันนะครับเพื่อที่จะบอกว่าเฮ้ยฉันเป็น
00:20:46 → 00:20:50 แล้วเฝ้าระวังให้ใกล้ชิดถ้าเมื่อไหร่
00:20:50 → 00:20:52 เริ่มมีปัญหาเล็กๆน้อยๆคุณรีบไปรักษาตั้ง
00:20:52 → 00:20:54 แต่แรกแต่ไม่ใช่ว่าคุณเจอตอนที่คุณไม่มี
00:20:54 → 00:20:57 อาการแล้วไปกินยานะครับมันไม่ได้ช่วยอะไร
00:20:57 → 00:20:59 เลยแล้วมันก็ไม่ค่อยคุ้มค่ากับผลเสี่ยง
00:20:59 → 00:21:03 ที่คุณจะได้มาด้วยนะครับโอเควันนี้ก็จะ
00:21:03 → 00:21:04 เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับถ้าเกิดว่า
00:21:04 → 00:21:06 ใครที่เริ่มมีปัญหาสมองเสื่อมสิ่งที่คุณ
00:21:06 → 00:21:09 ทำได้อีกอย่างนึงแน่นอนครับออกออกกำลัง
00:21:09 → 00:21:12 กายเป็นประจำใช้ความคิดอยู่เรื่อยๆโดยการ
00:21:12 → 00:21:15 อ่านหนังสือออกเสียงขึ้นมาหัดทำในสิ่งที่
00:21:15 → 00:21:17 ใหม่ๆที่ตัวเองไม่เคยทำในสิ่งที่ตัวเอง
00:21:17 → 00:21:19 ไม่ถนัดเช่นคุณถัดขวาคุณก็แปรงฟันด้วยมือ
00:21:19 → 00:21:22 ซ้ายอย่างนี้เป็นต้นนะครับแล้วก็ไปอยู่
00:21:22 → 00:21:24 กับธรรมชาติบ้างการที่คุณหมกมุ่นอยู่แต่
00:21:24 → 00:21:27 ในห้องนะครับหรือใช้โซเชียลมีดีตลอดเวลา
00:21:27 → 00:21:30 มันทำให้สมองของคุณเนี่ยมันมีปัญหานะครับ
00:21:30 → 00:21:33 คุณก็ไปอยู่กับธรรมชาติบ้างนะสารเสพติด
00:21:33 → 00:21:35 แน่นอนต้องหลีกเลี่ยงไปให้หมดนะครับกัญชา
00:21:35 → 00:21:36 นี่ยิ่งไม่ต้องใช้อะไรเลยมันไม่ได้ชั่ว
00:21:36 → 00:21:38 เรื่องของความจำเสื่อนแต่ถึงแม้ว่าจะมี
00:21:39 → 00:21:41 บางคนเบอกว่ากัญชาช่วยเรื่องของความจำแต่
00:21:41 → 00:21:43 ก็ไม่จริงนะครับปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล
00:21:43 → 00:21:45 ตรงนั้นชัดเจนถ้าใครเอาไปใช้ก็ระวังตัวดี
00:21:45 → 00:21:47 ๆแล้วกันนะครับเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ย
00:21:47 → 00:21:50 มันจะทำให้มีปัญหาทางด้านจิตใจมากกว่า
00:21:50 → 00:21:51 แล้วก็ไม่ได้ช่วยเรื่องของความจำเลยแม้
00:21:51 → 00:21:54 แต่น้อยนะครับถ้าไปฟังที่ไหนมาส่วนใหญ่ก็
00:21:54 → 00:21:57 มักจะเป็นสิ่งที่ไม่จริงแล้วก็ค่อนข้าง
00:21:57 → 00:22:01 โม้นะครับอือยู่กับคนที่เราควรจะอยู่คบคน
00:22:01 → 00:22:04 ที่เราควรคบคนที่เค้าคุยกับเราแล้วมันมี
00:22:04 → 00:22:06 ปัญหาเนี่ยก็อย่าไปคบเค้านะครับอันเนี้
00:22:06 → 00:22:09 คือวิธีในการจัดการเบสิคพื้นฐานทั้งหมด
00:22:09 → 00:22:12 เลยเพื่อที่จะทำให้เราเนี่ยห่างไกลจาก
00:22:12 → 00:22:13 อัลไซเมอร์แล้วถ้าเราเป็นอัลไซเมอร์ไอ้
00:22:13 → 00:22:16 ของพวกนี้ที่ว่าไปทั้งหมดเนี่ยก็จะชะลอทำ
00:22:16 → 00:22:19 ให้อาการของเราเนี่ยเป็นได้ช้าลงนะครับ
00:22:19 → 00:22:22 โอเควันนี้ก็สรุปให้ฟังเพียงเท่านี้นะ
00:22:22 → 00:22:23 ครับยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เป็น
00:22:23 → 00:22:25 อัลไซเมอร์หรือมีคนไข้อัลไซเมอร์ที่อยู่
00:22:26 → 00:22:27 ในครอบครัวด้วยนะครับวันนี้เท่านี้ครับ
00:22:27 → 00:22:31 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ