00:00:00 → 00:00:03 บทโซเชียลแชร์แนะนำว่าการดื่มน้ำจากกลาง

00:00:03 → 00:00:06 ลำต้นของกล้วยช่วยรักษาไตดื่มแล้วป้องกัน

00:00:06 → 00:00:08 ไม่ให้เป็นนิ่วหรือถ้าเป็นแล้วก็จะหาย

00:00:09 → 00:00:11 เป็นปลิดทิ้งชาวอินเดียไม่เคยมีปัญหา

00:00:11 → 00:00:15 เรื่องนิ่วเพราะเขาทำสิ่งนี้หือชัวร์

00:00:15 → 00:00:17 [เพลง]

00:00:17 → 00:00:20 เหรอเรื่องนี้ถ้าจริงก็มีประโยชน์และควร

00:00:20 → 00:00:22 รีบบอกกันครับแต่ก่อนจะแชร์ต่อต้องเช็ค

00:00:22 → 00:00:25 ให้ถูกชัวร์สูญชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย

00:00:25 → 00:00:28 อสมทสอบถามกับอาจารย์สาขาวิชาโรคไตภาค

00:00:28 → 00:00:30 วิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล

00:00:30 → 00:00:33 รามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลครับดื่มน้ำจาก

00:00:33 → 00:00:36 ย่กกล้วยช่วยรักษาไตป้องกันและแก้นิ่วได้

00:00:36 → 00:00:39 จริงเหรอครับคือไม่มีข้อมูลทางการแพทย์

00:00:39 → 00:00:41 ที่ชัดเจนนะครับว่าได้ประโยชน์แต่ไม่มี

00:00:41 → 00:00:43 ข้อมูลการศึกษาในคนนะครับที่ว่าดื่มน้ำ

00:00:43 → 00:00:46 ต่างๆเหล่านี้โรกนิ่้วหายไปนะครับคือน้ำ

00:00:46 → 00:00:48 ในอยู่ก้วที่บอกว่าได้ประโยชน์ในป้องกัน

00:00:48 → 00:00:52 โรคหัวใจล้างสารพิษลดคอเลสเตอรอลต่างๆ

00:00:52 → 00:00:55 เหล่าเนี้ยยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันนะครับ

00:00:55 → 00:00:58 ว่าได้ผลจริงแล้วก็เป็นการบอกเล่าบอกต่อ

00:00:58 → 00:01:01 กันมามากกว่าครับอนั้นก็ไม่แนะนำเขาบอก

00:01:01 → 00:01:03 ว่าชาวอินเดียไม่เคยมีปัญหาเรื่องนิ่ว

00:01:03 → 00:01:05 เพราะเขากินน้ำจากต้นกล้วยจริงหรอครับ

00:01:05 → 00:01:08 จริงๆคนอินเดียก็มีโอกาสเกิดเป็นนิ่วได้

00:01:08 → 00:01:09 เหมือนกันนะครับดูจากรายงานการแพทย์เนี่ย

00:01:09 → 00:01:12 มีการพบคนเป็นนิ่วในประเทศอินเดียมากพอสม

00:01:12 → 00:01:14 ควรไม่ได้น้อยกว่าประเทศอื่นๆก็ยังเป็น

00:01:14 → 00:01:17 นิ่วได้อยู่แล้วเขาก็มีปัจจัยเสี่ยงเยอะ

00:01:17 → 00:01:19 เช่นเน้ำหนักเยอะเดื่มน้ำน้อยอยู่ในอากาศ

00:01:19 → 00:01:22 ร้อนอาจจะทันผักผลไม้น้อยหรือว่าทันเนื้อ

00:01:22 → 00:01:24 สัตว์มากอะไรต่างๆนี้ก็จะมีปัจจัยที่ทำ

00:01:24 → 00:01:26 ให้เกิดการเกบเป็นนิ่้วได้ครับเขาบอกว่า

00:01:26 → 00:01:30 น้ำจากกลางลำต้นกล้วยช่วยรักษาไตและป้อง

00:01:30 → 00:01:32 กันนิ้วได้จริงมครับการป้องกันโรคไตไม่มี

00:01:32 → 00:01:35 ข้อมูลนะครับส่วนประกอบของหยวกกล้วยนี่นะ

00:01:35 → 00:01:36 ครับมันเป็นสารเกลือแรกที่สำคัญคือ

00:01:36 → 00:01:39 โปแทสเซียมค่อนข้างมากรวมทั้งอาจจะมี

00:01:39 → 00:01:41 ออกซาเลตมีโปแทสเซียมมีแมกนีเซียมมี

00:01:41 → 00:01:43 โซเดียมซึ่งโปแทสเซียมมากเนี่ยมีข้อดีใน

00:01:43 → 00:01:45 การที่ทำให้โอกาสเกิดเป็นโรคไตน้อยลงแต่

00:01:45 → 00:01:47 ว่าปริมาณโปแทสเซียมในน้ำเอาจจะไม่เพียง

00:01:47 → 00:01:50 พอในการที่จะทำให้เกิดการละลายนิ่วหรือ

00:01:50 → 00:01:52 รักษานิ่วได้นะครับเพราะนั้นก็ไม่น่าจะ

00:01:52 → 00:01:55 ได้ผลเขาบอกว่าถ้าเป็นนิ่วกินน้ำจากหยวก

00:01:55 → 00:01:57 กล้วยจะช่วยรักษาให้หายเป็นปลิดทิ้งการ

00:01:57 → 00:02:00 กินน้ำนั้นไม่มีการศึกษาทางการการแพทย์

00:02:00 → 00:02:03 ที่แสดงให้เห็นว่าได้ผลในการที่รักษาโรค

00:02:03 → 00:02:05 นิ่วหายนะครับเพราะะนั้นก็ยังไม่พิสูจน์

00:02:05 → 00:02:07 เพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้าเป็นโรคนิ่วก็ควร

00:02:07 → 00:02:09 จะให้การรักษาที่ถูกต้องเช่นไปพบแพทย์

00:02:09 → 00:02:12 ดื่มน้ำเพียงพอทานผักผลไม้ให้พอเหมาะแล้ว

00:02:12 → 00:02:14 ก็หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ปริมาณมากๆ

00:02:14 → 00:02:16 ไม่ทานเค็มเพราะการทานเค็มเนี่ยทำให้

00:02:16 → 00:02:18 แคลเซียมตกตะกอนในไต่ได้มากขึ้นเพราะ

00:02:18 → 00:02:21 โอกาสเกิดนิ่วก็จะสูงในการป้องกันนิ่วโดย

00:02:21 → 00:02:24 อาหารการกินการกินกล้วยก็อาจจะช่วยได้การ

00:02:24 → 00:02:26 รับประทานผลไม้เช่นกล้วยเนี่ยนะครับได้

00:02:26 → 00:02:28 ประโยชน์แน่เพราะมีโปแทสเซียมสูงมีสาร

00:02:28 → 00:02:31 ต้านอนุมูลอิสระมีแมเซียมต่างๆซึ่งป้อง

00:02:31 → 00:02:33 กันการเกิดนิ่้วได้ถ้าดูปริมาณโปแทสเซียม

00:02:33 → 00:02:36 ในกล้วยเนี่ยก็จะไม่มากพอบางคนต้องกิน

00:02:36 → 00:02:38 อย่างน้อยผมคิดว่าต้อง 2 ลูกดูปริมาณ

00:02:38 → 00:02:41 โปแทสเซียมต่อวัดในการที่จะช่วยในการป้อง

00:02:41 → 00:02:44 กันการเกิดนิ่วแต่ว่าได้ผลก็ไม่แน่นอนคน

00:02:44 → 00:02:46 ไข้บางคนก็ไม่ตอบสนองได้ผลบ้างแต่ว่าไม่

00:02:46 → 00:02:49 แน่นอนนะครับรวมทั้งผักผลไม้ต่างๆเรามี

00:02:49 → 00:02:51 ข้อมูลว่าการกินผักผลไม้ที่พอเหมาะอย่าง

00:02:51 → 00:02:54 เช่นในสีของจานเนี่ต่อมื้อเนี่ยก็ทำให้

00:02:54 → 00:02:56 ได้รับโปแทสเซียมแมกนีเซียมในสัดส่วนที่

00:02:56 → 00:02:58 ดีแล้วก็ทำให้โอกาสเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด

00:02:58 → 00:03:01 มะเร็งรวมทั้งโรคไตความริสูงเนี่ยจะน้อย

00:03:01 → 00:03:03 ลงก็แนะนำว่าการทาผักผลไม้ที่เพียงพอ

00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยได้ประโยชน์ส่วนน้ำจากต้นกล้วยแม้จะ

00:03:06 → 00:03:08 มีโพแทสเซียมแต่ก็อย่างน้อยกว่าผลกล้วย

00:03:08 → 00:03:11 แนะนำว่าทากล้วยเนี่ยดีแต่อยู่กับกล้วย

00:03:11 → 00:03:13 เนี่ยส่วนประกอบของโปแทสเซียมอาจจะไม่มาก

00:03:13 → 00:03:15 แล้วก็ถ้าเป็นน้ำที่ออกมาจากตรงนั้นเนี่ย

00:03:15 → 00:03:17 ปริมาณก็ไม่แน่นอนแล้วก็อาจจะมีความ

00:03:17 → 00:03:20 เสี่ยงเช่นมีการระคายเคืองกระเพาะอาหารลำ

00:03:20 → 00:03:23 ไส้หรือบางคนก็จะมีมีการปนเปื้อนนะเช่นมี

00:03:23 → 00:03:26 การฝุ่นหรือว่ามีเชื้อโรคอยู่เพราะฉะนั้น

00:03:26 → 00:03:28 ก็ยังไม่แนะนำสำหรับเครื่องดื่มกับโรค

00:03:28 → 00:03:30 นิ่วอ้อที่ 1 เราต้องดื่มน้ำให้เพียมพอ

00:03:30 → 00:03:32 การที่ดื่มน้ำน้อยเช่นไปทำงานการแจ้ง

00:03:32 → 00:03:33 เหงื่อออกมากแล้วเราไม่ดื่มน้ำเนี่ยเม

00:03:33 → 00:03:36 ปัสวะเข้มข้นพวกสารแคลเซียมออกซาเลตกรด

00:03:36 → 00:03:38 ยูริกเนี่ยจะตกตะกอนก็มันเป็นก้อนหินเ

00:03:38 → 00:03:40 เรียกว่าก้อนนิ่วคือเครื่องดื่มที่เพิ่ม

00:03:40 → 00:03:42 โอกาสการเกิดนิ่วนะครับเช่นชาเพราะมี

00:03:42 → 00:03:45 ออกซาเลตเยอะน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลเยอะน้ำ

00:03:45 → 00:03:47 ตาลเวลาดื่มเข้าไปไปเปลี่ยนเป็นกรดยูริก

00:03:47 → 00:03:49 ในร่างกายเพราะฉะนั้นกรดยูริกจะตกตะกรใน

00:03:49 → 00:03:51 ไตเกิดเป็นนิ่้วในไตได้บ่อยขึ้นเพราะ

00:03:51 → 00:03:53 ฉะนั้นควรจะหลีกเลี่ยงชาหรือว่าเครื่อง

00:03:53 → 00:03:56 เดื่อมที่มีน้ำตาลนะครับส่วนกาแฟนี่เป็น

00:03:56 → 00:03:59 สารที่มีคาเฟอีนแล้วก็ทำให้ปริมาณปัสสาวะ

00:03:59 → 00:04:01 เยอะทำให้ถ้ามีนิ่วอาจจะหลุดออกมาได้ง่าย

00:04:01 → 00:04:03 ขึ้นเพราะฉนั้นการที่ดื่มน้ำมากๆหรือการ

00:04:03 → 00:04:06 ทางกาแฟก็จะทำให้นิ่วหลุดออกมาทำให้โอกาส

00:04:06 → 00:04:09 ที่จะทำให้เกิดนิ่วอุดกั้นทาเปัสสาวะหรือ

00:04:09 → 00:04:11 การทำให้เปิดการติดเชื้อก็จะน้อยลงครับ

00:04:11 → 00:04:13 แต่สรุปแล้วที่แชร์ว่าดื่มน้ำจากหยวก

00:04:13 → 00:04:16 กล้วยช่วยป้องกันนิ่วได้นี่เป็นยังไงครับ

00:04:16 → 00:04:18 เรื่องนี้ไม่จริงนะฮะไม่ควรจะแชร์ต่อ

00:04:18 → 00:04:20 เพราะยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน

00:04:20 → 00:04:22 ชัดเจนนะครับตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลัก

00:04:22 → 00:04:25 ฐานที่เชื่อถือได้ช่วยให้มั่นใจในสิ่งที่

00:04:25 → 00:04:27 เลือกปฏิบัติตามนะครับส่งเรื่องน่าสงสัย

00:04:27 → 00:04:29 แจ้งเตือนไทยข้อมูลเท็จเพียงแอด Line ศู

00:04:30 → 00:04:31 ชัวก่อนแชร์ไว้นะครับเข้าไปที่เพิ่ม

00:04:31 → 00:04:34 เพื่อนแล้วค้นหา @s แ Share ยังมีอีกหลาย

00:04:35 → 00:04:37 เรื่องน่าสงสัยว่าสังคมออนไลน์หากได้รับ

00:04:37 → 00:04:39 อะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อร่วมตรวจสอบไปด้วย

00:04:39 → 00:04:41 กันกับช่วก่อน

00:04:41 → 00:04:46 แชรช่วก่อนแชรทุกคนอย่าลืมตรวจสอบข้อมูล

00:04:46 → 00:04:48 นะคะก่อนที่จะแชร์

00:04:48 → 00:04:53 ค่ะสนับสนุนโดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและ

00:04:53 → 00:04:57 สร้างสรรค์สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยน

00:04:57 → 00:04:58 แปลง

00:04:58 → 00:05:01 สังคม M