จะป้องกันโรคเกาต์ได้อย่างไร

โรคเกาต์ ดูแลและป้องกันอย่างไร by หมอแอมป์ [Dr. Amp Guide👨‍⚕️ & Dr.Amp Podcast]

จากช่อง : DrAmp Team


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:1300:00:15 สวัสดีครับผู้ฟังทุกท่าน

00:00:1500:00:17 พบกับรายการ Dr.Amp Podcast

00:00:1700:00:20 กับผม หมอแอมป์ นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ

00:00:2000:00:24 อาทิตย์นี้เราจะมาคุยกันในชื่อตอนที่ว่า

00:00:2400:00:27 โรคเกาต์ ดูแลและป้องกันอย่างไร

00:00:2700:00:30 เนื่องจากมีท่านผู้ฟังท่านผู้ชมหลายท่าน

00:00:3000:00:33 สอบถามเข้ามาเรื่องโรคเกาต์

00:00:3300:00:36 โรคเกาต์ เราเคยได้ยินตั้งแต่เด็กๆ

00:00:3600:00:40 บางคนเป็น บางคนหาย บางคนกลับมาเป็นอีก

00:00:4000:00:44 โรคเกาต์ มีการบันทึกไว้ในอดีตยาวนานมาก

00:00:4400:00:48 ตั้งแต่สมัยฮิปโปเครติส ว่ามีโรคนี้เกิดขึ้น

00:00:4800:00:51 และมีหลักฐานทางการแพทย์บันทึกไว้อีกหลายปี

00:00:5100:00:54 ในคริสตศตวรรษที่ 17-18 ว่า

00:00:5400:00:59 โรคเกาต์นี่มักจะเจอในหมู่คนอ้วน และคนที่ดื่มสุรามากๆ

00:00:5900:01:00 อันนี้ตามประวัติ

00:01:0000:01:04 แสดงว่าโรคเกาต์นี่อยู่กับมนุษย์มานานพอสมควร

00:01:0400:01:07 โรคเกาต์ เกิดจากการสะสมของกรดยูริก

00:01:0700:01:13 หรือที่เรียกว่า URIC ACID

00:01:1300:01:15 เกิดจากการรับประทาน

00:01:1500:01:19 อาหารเนี่ยเขาจะแบ่งว่าเป็นอาหารที่มีสารพิวรีนเยอะไหม

00:01:1900:01:22 พิวรีนกลางๆ หรือพิวรีนน้อย

00:01:2200:01:26 คำว่าพิวรีน มีความสำคัญกับเรื่องของโรคเกาต์

00:01:2600:01:29 P-U-R-I-N-E-S

00:01:2900:01:31 ก็คือสารชนิดหนึ่งที่อยู่ในอาหาร

00:01:3100:01:34 เมื่อร่างกายเรารับประทานเข้าไปเสร็จ

00:01:3400:01:36 เขาก็จะย่อยพิวรีน

00:01:3600:01:39 แล้วเกิดเป็นของเสียขึ้น ชื่อว่า กรดยูริก

00:01:3900:01:42 แสดงว่าการสะสมของกรดยูริกนี่

00:01:4200:01:46 น่าจะเกิดขึ้นมาจากการรับประทานและสาเหตุอื่นๆ

00:01:4600:01:48 ที่หมอจะเล่าให้ฟังในวันนี้

00:01:4800:01:51 เวลาเรามีกรดยูริกตามข้อต่างๆ ในร่างกายเยอะ

00:01:5100:01:56 ก็จะเกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน

00:01:5600:01:59 โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดที่เจอบ่อยๆ

00:01:5900:02:02 ก็คือที่ข้อเท้า และนิ้วหัวแม่เท้า

00:02:0200:02:05 นิ้วหัวแม่เท้า ภาษาทางการแพทย์เรียกว่า

00:02:0500:02:07 Metatarso phalangeal joint

00:02:0700:02:09 เวลาเกิดอาการ ปวด บวม แดง ร้อน

00:02:0900:02:12 ภาษาแพทย์เรียกว่า Arthritis

00:02:1200:02:14 เพราะฉะนั้นกรดยูริกทำให้เกิดการอักเสบ

00:02:1400:02:17 ในข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย

00:02:1700:02:21 บางคนเป็นที่มือ บางคนเป็นที่สะโพก บางคนเป็นที่ข้อเท้า

00:02:2100:02:23 เมื่อกรดยูริกสูง

00:02:2300:02:25 บางคนมีอาการ

00:02:2500:02:29 มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีอาการก็มี ก็คือ Asymptomatic gout

00:02:2900:02:33 กรดยูริก เวลาเราเอาไปขึ้นในกล้องจุลทรรศน์ดู

00:02:3300:02:39 เขาจะมีลักษณะเหมือนคริสตัล และเป็นเข็มแหลมๆ

00:02:3900:02:42 เพราะฉะนั้นเวลาไปเกาะอยู่ตามข้อต่างๆ ในร่างกาย

00:02:4200:02:45 ก็จะมีการทิ่มแทงก็จะทำให้รู้สึกเจ็บปวด

00:02:4500:02:47 รู้สึกบวม รู้สึกแดง รู้สึกร้อน

00:02:4700:02:49 เพราะฉะนั้นกรดยูริกในเลือด

00:02:4900:02:52 เวลาตกตะกอนอิ่มตัวในข้อ

00:02:5200:02:54 เขาก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง

00:02:5400:02:57 โดยเฉพาะข้อที่มีอุณหภูมิต่ำๆ

00:02:5700:03:01 ก็จะมีการสะสมและตกตะกอนได้ง่ายกว่าข้อปกติ

00:03:0100:03:06 เช่น ข้อที่อยู่ไกลๆ หัวใจ ก็คือ ข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า เป็นต้น

00:03:0600:03:09 เพราะว่าอุณหภูมิต่ำกว่าส่วนกลาง

00:03:0900:03:12 กรดยูริกก็จะชักนำให้เกิดการอักเสบ

00:03:1200:03:16 มีสาร Complement เช่น C3a, C5a

00:03:1600:03:20 ซึ่งก็จะชักนำให้เม็ดเลือดขาวเข้ามาจัดการ

00:03:2000:03:24 Neutrophil, Macrophage เข้ามาเก็บกิน มาเจอการอักเสบ

00:03:2400:03:28 พยายามจะมาสู้กัน ก็เกิดสารต่างๆ ขึ้นมากมาย

00:03:2800:03:31 ในบริเวณข้อที่มีกรดยูริกตกผลึกอยู่เยอะ

00:03:3100:03:34 มี Interleukin 6 มี TNF-alpha

00:03:3400:03:37 เป็นสารที่ทำให้ข้ออักเสบ พออักเสบอยู่นานๆ

00:03:3700:03:42 ก็ทำลายข้อต่อ ทำลายเส้นเอ็น แล้วก็กระดูกอ่อนบริเวณนั้นไป

00:03:4200:03:44 เพราะฉะนั้นแล้วถ้าโรคเกาต์กำเริบ

00:03:4400:03:47 เขาเรียกว่า Acute gout attack

00:03:4700:03:50 อาการบาดเจ็บก็จะเจ็บเหมือนเข็มทิ่มแทง

00:03:5000:03:52 อาจจะปวด 3 วันถึง 10 วันเลยนะครับ

00:03:5200:03:56 ถ้ามีอาการอยู่นานเข้า เป็นแล้วหาย เป็นแล้วหาย

00:03:5600:03:58 กินยาแล้วหาย กลับมาบ่อยๆ

00:03:5800:04:02 เขาเรียกโรคเรื้อรัง หรือว่า Chronic gout

00:04:0200:04:05 พวกนี้เองก็จะมีการตกผลึก มีการอักเสบ

00:04:0500:04:08 มีการต่อสู้ระหว่างเม็ดเลือดขาวกับร่างกายเรา

00:04:0800:04:10 จนเกิดขึ้นเป็นก้อน

00:04:1000:04:13 ใครคิดภาพไม่ออก ลองคิดภาพเป็นเหมือนตาต้นไม้

00:04:1300:04:14 จะเป็นกลมๆ

00:04:1400:04:18 ตรงนี้เขาเรียกว่าก้อนโทไฟ (Tophi) หรือก้อนโทฟัส (Tophus)

00:04:1800:04:23 Tophi คือก้อนของเกาต์ที่เป็นมานานหรือเป็นโรคเรื้อรัง

00:04:2300:04:26 ก้อนนี่พอไปเกาะอยู่ ก็จะเสียดสี

00:04:2600:04:29 ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายในข้อต่อของเราเป็นต้น

00:04:2900:04:31 นี่คือลักษณะอาการเริ่มต้นของโรคเกาต์

00:04:3100:04:33 คราวนี้เราไปดูสาเหตุกันบ้าง

00:04:3300:04:37 อันดับ 1 ก็คือเรื่องของอาหารการกิน

00:04:3700:04:40 การรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง

00:04:4000:04:44 เมื่อย่อยเสร็จจะทำให้เกิดกรดยูริกในเลือดมากขึ้น

00:04:4400:04:45 ข้อที่ 2 ครับ คือ

00:04:4500:04:50 การขับกรดยูริกออกจากร่างกายได้ช้า หรือน้อยกว่าปกติ

00:04:5000:04:53 เช่น การที่เรารับประทานยาบางอย่าง เช่น ยาขับปัสสาวะ

00:04:5300:04:55 ยากลุ่มไซโคลสปอริน (Cyclosporine)

00:04:5500:05:00 ก็ทำให้ร่างกายขับกรดยูริกออกได้ช้ากว่าปกติ

00:05:0000:05:01 ข้อที่ 3 ครับ

00:05:0100:05:05 อันนี้ทั่วโลกที่เขาวิจัยเรื่องโรคเกาต์มาว่า

00:05:0500:05:07 ผู้ชายจะเป็นได้มากกว่าผู้หญิง

00:05:0700:05:08 ข้อที่ 4 ครับ

00:05:0800:05:11 จากการสร้างสารยูริกมากเกินไป

00:05:1100:05:14 จากการทำลายของเซลล์หรือว่าเซลล์ถูกทำลาย

00:05:1400:05:16 กรดยูริกก็จะขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

00:05:1600:05:21 เช่น โรคมะเร็ง หรือว่าคนไข้กลุ่มที่ได้รับคีโมเทอราปี

00:05:2100:05:24 ก็สามารถที่จะเกิดอาการกรดยูริกสูงในเลือด

00:05:2400:05:26 ก็คือก่อให้เกิดโรคเกาต์ได้

00:05:2600:05:28 ข้อที่ 5 จากโรคเครียด

00:05:2800:05:30 หมอเคยพูดไปหลายตอนว่า

00:05:3000:05:35 เวลาเราเครียดเราก็จะเกิดฮอร์โมนเครียดขึ้นมา เช่น คอร์ติซอล

00:05:3500:05:38 ซึ่งกระตุ้นเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น

00:05:3800:05:42 โรคเกาต์เป็นโรคที่มีเข็มทิ่มแทงแอบซ่อนอยู่ในข้ออยู่แล้ว

00:05:4200:05:46 ถ้าเราไปทำให้เลือดเราอักเสบง่ายขึ้นด้วย

00:05:4600:05:48 ก็จะยิ่งกระตุ้นเข้าไปใหญ่เลย

00:05:4800:05:50 พอเราเครียดปุ๊บการอักเสบก็จะมากขึ้น

00:05:5000:05:53 ก็จะปวด บวม แดง ร้อน มากกว่าปกติ

00:05:5300:05:55 ข้อต่อไปครับ โรคอ้วน

00:05:5500:05:57 มีการวิจัยไว้เยอะแยะมากมายเลยว่า

00:05:5700:06:01 โรคอ้วนเป็นปัจจัยสำคัญของการกระตุ้นโรคเกาต์

00:06:0100:06:06 เนื่องจากเซลล์ไขมันจะสร้างกรดยูริกมากกว่าเซลล์กล้ามเนื้อ

00:06:0600:06:09 แล้วเมื่อเป็นโรคอ้วน น้ำตาลก็จะสูง

00:06:0900:06:13 เวลาน้ำตาลสูง อินซูลินก็จะสูงไปด้วย

00:06:1300:06:15 ภาวะ Insulin resistance นี่แหละครับ

00:06:1500:06:19 เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกรดยูริกมากขึ้นว่าเดิม

00:06:1900:06:24 ต่อไปข้อที่ 7 ก็คือ เรื่องของประวัติทางพันธุกรรม

00:06:2400:06:27 ในอดีตถ้าใครเป็นโรคเกาต์

00:06:2700:06:31 คุณหมอก็จะถามว่ามีเครือญาติ มีพี่น้องเป็นโรคเกาต์หรือเปล่า

00:06:3100:06:34 เพราะว่าส่วนใหญ่มักจะเจอในสายพันธุกรรม

00:06:3400:06:39 แต่ในปัจจุบันทางการแพทย์สามารถตรวจรหัสพันธุกรรม

00:06:3900:06:40 เรื่องโรคเกาต์ได้

00:06:4000:06:48 เช่น ยีนที่ชื่อว่า SLC2A9 หรือว่ายีนที่ชื่อว่า ABCG2

00:06:4800:06:53 หรืออีก 1 ตัว ที่มีการวิจัยไว้เยอะก็คือ FAM35A เป็นต้น

00:06:5400:06:57 นี่คือรหัสพันธุกรรมที่ในปัจจุบันเราตรวจเจอ

00:06:5700:06:59 จะรู้ว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์เยอะ

00:06:5900:07:02 เรายิ่งต้องรับประทานอาหารให้ดี

00:07:0200:07:05 แล้วก็ต้องระวังสาเหตุต่างๆ ที่จะกระตุ้นโรคเกาต์

00:07:0500:07:09 ข้อสุดท้าย ข้อที่ 8 ของสาเหตุการเกิดโรคเกาต์

00:07:0900:07:11 ก็คือโรคประจำตัว

00:07:1100:07:15 บุคคลที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ก็จะกระตุ้น

00:07:1500:07:17 หรือว่าก่อให้เกิดโรคเกาต์ได้ง่ายกว่าปกติ

00:07:1700:07:20 ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง

00:07:2000:07:25 โรคไต โรคต่อมไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง เป็นต้น

00:07:2500:07:30 อันนี้ก็คือสาเหตุคร่าวๆ ประมาณ 7-8 ข้อที่จะกระตุ้น

00:07:3000:07:34 เวลาเราจะดูแลโรคอะไรก็ตาม หมอมักจะเล่าให้ทุกคนฟังเสมอ

00:07:3400:07:39 ว่าเราต้องทราบถึงต้นเหตุก่อน เราถึงป้องกันโรคได้ที่ต้นเหตุ

00:07:3900:07:40 คราวนี้ไปต่อครับ

00:07:4000:07:44 การวินัจฉัยของแพทย์ โรคเกาต์นี่วินิจฉัยอย่างไร

00:07:4400:07:46 1. ต้องมีอาการ

00:07:4600:07:49 เช่น มีอาการปวด บวม แดง ร้อนของข้อให้คุณหมอเขาเห็น

00:07:4900:07:54 ข้อที่ 2 ถ้าบวมมากๆ หรือมีก้อนโทไฟอยู่

00:07:5400:07:58 อาจจะมีการเจาะน้ำในข้อต่อเพื่อไปดูทางห้องปฏิบัติการ

00:07:5800:08:02 ว่ามีสาร มีการอักเสบ มีกรดยูริกอยู่ในนั้นหรือเปล่า

00:08:0200:08:06 ข้อที่ 3 มีการเจาะวัดระดับกรดยูริกในเลือด

00:08:0600:08:10 หรือการวัดกรดยูริกในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง

00:08:1000:08:13 ค่ามาตรฐานจะมีหลายสมาคม

00:08:1300:08:18 ผู้หญิงโดยเฉลี่ยก็คือ กรดยูริกในเลือดไม่ควรจะสูงเกิน

00:08:1800:08:20 7.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

00:08:2000:08:22 ของผู้ชาย

00:08:2200:08:25 ไม่ควรจะเกิน 8.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

00:08:2500:08:28 ถ้าเอาตาม American College of Rheumatology

00:08:2800:08:33 ก็คือขอทั้งผู้ชาย ผู้หญิง น้อยกว่า 6 มิลิกรัมต่อเดซิลิตร

00:08:3300:08:34 อันนี้หมอก็เห็นด้วย

00:08:3400:08:36 เราควรจะมีประมาณสัก 6 ไม่เกินล่ะครับ

00:08:3600:08:39 เพราะว่าเวลาที่เราเผลอไปกินซีฟู้ด

00:08:3900:08:43 แล้วค่าในเลือดจะขึ้น ก็ยังถือว่าไม่เกิน

00:08:4300:08:48 เพราะถ้าเรามีค่ากรดยูริกคาบเส้น เช่น 7.5 หรือ 8.5

00:08:4800:08:53 เวลาเราเผลอไปกิน แล้วเกาต์ก็เขาโจมตีเรา

00:08:5300:08:56 อาการจะปวดนาน บางคนเป็น 3 วัน บางคนเป็นเกือบอาทิตย์

00:08:5600:08:59 เพราะฉะนั้นป้องกันไว้ก่อน

00:08:5900:09:02 หมอเห็นด้วยว่าสัก 6 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

00:09:0200:09:05 ค่ากรดยูริกเวลาเจาะเลือดแล้วไม่เกินนี้

00:09:0500:09:09 อันนี้คือสิ่งที่ทุกคนสามารถตั้งเป็นเป้าหมายได้

00:09:0900:09:10 แล้วก็เดินสู่จุดนั้น

00:09:1000:09:13 คราวนี้ครับ เราไปฟังกันต่อนะครับว่า

00:09:1300:09:16 การรักษาทางยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

00:09:1600:09:19 มียากลุ่มไหนบ้างที่เกี่ยวกับโรคเกาต์

00:09:1900:09:22 หมอจะเล่าให้ฟังพอเป็นข้อมูลพื้นฐาน

00:09:2200:09:25 กลุ่มที่ 1 ยากลุ่มลดการอักเสบของข้อต่อ

00:09:2500:09:27 หรือที่เรียกว่า กลุ่ม เอ็นเสด (NSAIDs)

00:09:2700:09:30 2. ยาที่ชื่อว่ากลุ่ม Cochicine

00:09:3000:09:32 C-O-C-H-I-C-I-N-E

00:09:3200:09:36 กลุ่มนี้ก็ลดการอักเสบ และการเจ็บปวดของข้อต่อ

00:09:3600:09:41 กลุ่มที่ 3 ก็คือกลุ่มลดการอักเสบเช่นกัน แต่แบบแรง

00:09:4100:09:44 อักเสบจริงๆ บวมจริงๆ ทนไม่ไหวจริงๆ

00:09:4400:09:46 แพทย์ก็อาจจะให้เป็นสเตียรอยด์

00:09:4600:09:49 แต่สเตียรอยด์นี่มีผลข้างเคียงเยอะ

00:09:4900:09:52 เวลาให้ต้องรีบให้แล้วก็รีบหยุดนะครับ

00:09:5200:09:54 อันนี้ต้องปรึกษาแพทย์ทุกเคส

00:09:5400:09:55 ข้อที่ 4 ครับ

00:09:5500:09:58 ยากลุ่มป้องกันการโจมตีของเกาต์

00:09:5800:10:00 เช่น อัลโลพูรินอล (Allopurinol)

00:10:0000:10:02 กลุ่มนี้เขาเรียกว่าเป็นกลุ่มที่ชื่อว่า

00:10:0200:10:04 แซนทีนออกซิเดสอินฮิบิเตอร์ (Xanthine oxidase inhibitor)

00:10:0400:10:07 ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ป้องกันเกาต์มาโจมตีเรา

00:10:0700:10:13 กลุ่มที่ 5 สำหรับโรคเกาต์เรื้อรังจนเกิดก้อนโทไฟก็คือการผ่าตัด

00:10:1300:10:17 ถ้าก้อนนี้เข้าไปเบียดข้อใหญ่มาก เป็นกลุ่มกระดูก

00:10:1700:10:20 อย่างนี้เราก็ต้องปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในการผ่าตัด

00:10:2000:10:23 แล้วก็ซ่อมแซมข้อที่สึกหรอในร่างกายเราไป

00:10:2300:10:29 คราวนี้มาถึงหัวข้อสำคัญที่หลายๆท่านอยากจะฟังที่สุดในเทปนี้

00:10:2900:10:33 การควบคุมและหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มประเภทไหน

00:10:3300:10:35 ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคเกาต์

00:10:3500:10:36 เรามาฟังกัน

00:10:3600:10:40 ถ้าเราแก้ที่ต้นเหตุได้ เราก็จะทุเลาอาการ

00:10:4000:10:42 หรือว่าอาการเหล่านี้ก็จะดีขึ้น

00:10:4200:10:45 ถ้าเราไปแก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ เอาแต่กินยา

00:10:4500:10:48 เราก็จะมีอาการที่ควบคุมได้

00:10:4800:10:52 แต่ในอนาคตอันไกลขึ้น อาจจะดื้อยาก็เป็นได้

00:10:5200:10:55 หรืออาจได้รับผลข้างเคียงจากยาถ้ากินเป็นเวลานานๆ

00:10:5500:11:01 หลักการครับ การแก้ที่ต้นเหตุนี่ช่วยได้มากที่สุด ถ้าถามผมนะ

00:11:0100:11:05 เพราะว่าต้นเหตุคือสิ่งที่หลายๆ ท่านไม่อยากทำ

00:11:0500:11:08 บางคนไม่ทราบต้นเหตุ ไม่ทราบสาเหตุ

00:11:0800:11:11 ก็เลยหวังแต่จะพึ่งยารักษาโรค

00:11:1100:11:15 ซึ่งอย่าลืมนะครับว่ายารักษาโรคนี่มีประโยชน์มาก

00:11:1500:11:17 ถ้าเราใช้ให้ถูกต้อง

00:11:1700:11:19 ถ้าเราใช้ไม่ถูกต้อง และใช้มากเกินไป

00:11:1900:11:21 ก็อาจจะเป็นโทษได้เช่นเดียวกัน

00:11:2100:11:24 การควบคุมดูแล ข้อที่ 1

00:11:2400:11:27 สำหรับคนเป็นโรคเกาต์ หรือคนที่กลัวเป็นโรคเกาต์

00:11:2700:11:30 ก็คือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

00:11:3000:11:36 โดยเฉพาะ เบียร์ และไวน์ เนื่องจากมีพิวรีนสูง

00:11:3600:11:40 มีการวิจัยไว้ใน The American Journal of Medicine ปี 2014

00:11:4000:11:44 การทานแอลกอฮอล์ประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน

00:11:4400:11:47 เพิ่มการเป็นโรคเกาต์ถึง 36%

00:11:4700:11:49 ซึ่งถือว่าสูงมาก

00:11:4900:11:52 ข้อที่ 2 ก็คือการลดน้ำหนัก

00:11:5200:11:57 การลดน้ำหนัก การลดไขมันในร่างกาย การรักษาโรคอ้วน

00:11:5700:12:01 คือสิ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการโรคเกาต์ได้มากๆ เลย

00:12:0100:12:05 อย่างเช่นเซลล์ไขมันสร้างกรดยูริกขึ้นมากกว่าเซลล์กล้ามเนื้อ

00:12:0500:12:10 เซลล์ไขมันจะสร้างสารการอักเสบมากกว่าเซลล์อื่นๆ

00:12:1000:12:14 เมื่อเป็นโรคอ้วน มักจะเกิดภาวะน้ำตาลสูง

00:12:1400:12:17 แล้วเกิดภาวะที่เรียกว่า Insulin resistance

00:12:1700:12:19 ทำให้กรดยูริกมากกว่าเดิม

00:12:1900:12:24 เพราะว่าอินซูลินมากขึ้น กรดยูริกก็มากเป็นเงาตามตัว

00:12:2400:12:26 มีการวิจัยไว้ใน Annals of the Rheumatic Diseases

00:12:2600:12:28 ในปีค.ศ. 2000

00:12:2800:12:31 การลดน้ำหนักตัวหรือการลดไขมันในร่างกาย

00:12:3100:12:33 ช่วยเรื่องการรักษาโรคเกาต์ได้ด้วย

00:12:3300:12:36 ข้อที่ 3 สำคัญมากข้อนี้

00:12:3600:12:40 หลีกเลี่ยง ลด ละ เลิก อาหารที่มีพิวรีนสูง

00:12:4000:12:44 เพราะว่าพิวรีนสูง พอทานเข้าไปปุ๊บก็จะถูกย่อย

00:12:4400:12:46 ก่อให้เกิดกรดยูริก

00:12:4600:12:50 อาหารประเภทไหนล่ะที่มีกรดยูริกสูงบ้างครับหมอแอมป์

00:12:5000:12:51 มารู้ทฤษฎีก่อน

00:12:5100:12:59 อาหารที่มีพิวรีนมากกว่า 150-200 มิลลิกรัมต่อ 1 ขีด

00:12:5900:13:01 ถือว่าเป็นอาหารกลุ่มพิวรีนสูง

00:13:0100:13:06 อันดับ 1 ต้องหลีกเลี่ยงให้ไกลเลยนะ ใครที่กลัวโรคเกาต์

00:13:0600:13:09 ก็คือ เครื่องในสัตว์ทุกชนิด

00:13:0900:13:13 เช่น ตับบด ตับห่าน ไส้ หัวใจ เซี่ยงจี๊

00:13:1300:13:17 อะไรสักอย่างหนึ่งที่มีเครื่องในอยู่เยอะๆ เกาต์หมดเลยนะครับ

00:13:1700:13:19 ต้องระมัดระวังให้มาก

00:13:1900:13:22 ข้อที่ 2 ควรหลีกเลี่ยงและทานให้น้อยที่สุด

00:13:2200:13:25 ก็คือกลุ่มเนื้อแดง กลุ่มเนื้อสัตว์

00:13:2500:13:28 เพิ่มกรดยูริกในร่างกายได้มาก

00:13:2800:13:31 ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว ต้องระวังนะครับ

00:13:3100:13:35 เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อแกะ

00:13:3500:13:38 เอาเป็นว่าต้องระวังเนื้อสัตว์เกือบทุกชนิด

00:13:3800:13:40 ต้องกินพืชให้เยอะครับ

00:13:4000:13:43 ใครที่ชอบกินเนื้อสัตว์ กินเสต็ก กินอะไรก็ตามเนี่ย

00:13:4300:13:46 ถ้าเป็นโรคเกาต์อยู่ด้วย ต้องอยู่ให้ห่างเลย

00:13:4600:13:50 กลุ่มที่ 3.3 ต้องระวังมาก เพราะว่ามีพิวรีนสูงมาก ก็คือ

00:13:5000:13:53 อาหารทะเลเกือบทุกชนิดเลยนะครับ

00:13:5300:13:58 โดยเฉพาะกลุ่มหอย หอยเชลล์ หอยแมลงภู่ หอยนางรม

00:13:5800:13:59 ปลาหมึก

00:13:5900:14:01 ต้องหลีกเลี่ยงให้มาก เพราะมีพิวรีนเยอะ

00:14:0100:14:04 ก็สร้างกรดยูริกเยอะ กระตุ้นเกาต์สุดๆ

00:14:0400:14:08 หลีกเลี่ยงกุ้ง หลีกเลี่ยงปู ไข่กุ้ง ไข่ปู ไข่ปลา

00:14:0800:14:10 ปลานี่ก็มีเกาต์นะครับ

00:14:1000:14:15 ปลากลุ่มที่มีไขมันมากๆ จะมีพิวรีนสูง และกระตุ้นเกาต์ได้

00:14:1500:14:20 เช่น ปลาซาดีน ปลาแอนโชวี่ ปลาแมคเคอเรล ปลาแฮร์ริ่ง

00:14:2000:14:22 ปลาทูน่า ปลาแซลมอน

00:14:2200:14:25 นี่คือกลุ่มปลาที่เราไม่ควรทาน

00:14:2500:14:26 จดทันไหมครับ

00:14:2600:14:29 ถ้าจดไม่ทัน เดี๋ยวเราไปฟังซ้ำได้

00:14:2900:14:32 ทั้งหมดที่หมอพูดมาคืออาหารที่เราควรหลีกเลี่ยง

00:14:3200:14:34 ถ้าทุกท่านเห็น จะเห็นว่า

00:14:3400:14:38 เนื้อสัตว์ก็เยอะ ซีฟู้ดก็เยอะ เครื่องในก็เยอะ

00:14:3800:14:40 กลุ่มน้ำซุปก็ต้องระวัง

00:14:4000:14:44 น้ำซุปต้มกระดูกไก่ น้ำซุปต้มกระดูกหมู ซุปก้อนต่างๆ

00:14:4400:14:47 แถมให้อีกตัวหนึ่ง กะปิ นี่ก็กระตุ้นเกาต์เหมือนกัน

00:14:4700:14:49 กลุ่มที่ 3 เลยเป็นกลุ่มใหญ่

00:14:4900:14:53 บางครั้งเราไม่รู้ นึกว่าเป็นแค่ปีกไก่ เป็นเป็ด เป็นห่าน ก็จบแล้ว

00:14:5300:14:56 ถ้าเราไม่ทานกลุ่มนี้ เอ๋ ทำไมเกาต์เรายังขึ้น

00:14:5600:15:00 เพราะว่ายังมีกลุ่มซีฟู้ดที่มียูริกสูง

00:15:0000:15:04 มีกลุ่มเครื่องในที่ยังสูง มีกลุ่มเนื้อสัตว์ ไม่ใช่แค่สัตว์ปีกนะครับ

00:15:0400:15:07 เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อวัว นี่เยอะมากเลย

00:15:0700:15:11 ถ้าเราหลีกเลี่ยง ลด ละ เลิก อาหารกลุ่มนี้

00:15:1100:15:15 บุคคลที่ทรมานจากโรคเกาต์อยู่ก็จะทุเลา แล้วก็ดีขึ้น

00:15:1500:15:17 ข้อที่ 4 ครับ

00:15:1700:15:21 อาหารที่กระตุ้นกรดยูริก หรือกระตุ้นเกาต์ได้มากก็คือ

00:15:2100:15:25 High fructose corn syrup หรือว่าน้ำตาลฟรุกโตสนั่นเอง

00:15:2500:15:30 มีการวิจัยไว้ ในคนประมาณ 125,000 กว่าคน

00:15:3000:15:32 ที่รับประทานฟรุกโตส

00:15:3200:15:36 ทำให้เป็นโรคเกาต์หรือมีความเสี่ยงมากขึ้นถึง 62%

00:15:3600:15:41 อันนี้วิจัยไว้ที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดาปีค.ศ. 2016

00:15:4100:15:42 เพราะฉะนั้นคำแนะนำครับ

00:15:4200:15:46 ต้องหลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ทุกชนิดที่มีน้ำตาลอยู่ในนั้นเยอะๆ

00:15:4600:15:49 หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมทุกชนิด

00:15:4900:15:51 เพราะว่ามี High fructose corn syrup

00:15:5100:15:52 กระตุ้นเกาต์แน่นอน

00:15:5200:15:54 เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเหล่านี้แหละครับ

00:15:5400:15:58 คือสิ่งที่ต้องหลีกให้ห่างของคนที่กลัวเป็นโรคเกาต์

00:15:5800:16:01 รวมถึงขนมที่ใส่น้ำตาลสูงๆ น้ำตาลมากๆ

00:16:0100:16:04 ไม่ว่าจะเป็น เค้ก คุ้กกี้ เบเกอร์รี่

00:16:0400:16:06 กลุ่มนี้ก็ต้องระวังด้วย

00:16:0600:16:09 ข้อที่ 5 ผักทอดยอด

00:16:0900:16:11 ผักทอดยอด หรือเมล็ดพืชอ่อนๆ

00:16:1100:16:13 จะมีกรดยูริกอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

00:16:1300:16:18 แสดงว่าคนที่กลัวเรื่องโรคเกาต์ต้องระวังผักทอดยอดด้วย

00:16:1800:16:20 เพราะมีสารพิวรีนสูง

00:16:2000:16:23 ไม่ว่าจะเป็นยอดกระถิน ยอดชะอม ยอดตำลึง

00:16:2300:16:26 ยอดฟักแม้ว ยอดผักบุ้ง เป็นต้น

00:16:2600:16:28 หรือเมล็ดเล็กๆ เป็นเมล็ดมะเขือเทศ

00:16:2800:16:30 เมล็ดแตงกวา เมล็ดถั่วฝักยาว

00:16:3000:16:35 ข้อที่ 6 ในการดูแลร่างกายตัวเองก็คือต้องดื่มน้ำให้มาก

00:16:3500:16:38 เนื่องจากกรดยูริกตกผลึกในร่างกายเรา

00:16:3800:16:41 ถ้าเราดื่มน้ำเยอะ การไหลเวียนก็ดี

00:16:4100:16:43 น้ำในร่างกายก็ดี

00:16:4300:16:45 ก็ช่วยขับกรดยูริกในร่างกายออกมาได้

00:16:4500:16:49 แล้วก็มาข้อสุดท้ายในวันนี้ ในการดูแลร่างกายเรา

00:16:4900:16:51 ก็คือการออกกำลังกาย

00:16:5100:16:53 ถ้าเราออกกำลังกายแล้วเป็นอย่างไรครับ

00:16:5300:16:56 เราก็จะน้ำหนักดี ไม่เดินหน้าไปสู้ภาวะอ้วน

00:16:5600:16:58 หรือเป็นโรคอ้วนในอนาคต

00:16:5800:17:03 ถ้าเราไม่เป็นโรคอ้วนแล้ว เราก็มีโอกาสเป็นโรคเกาต์น้อยลง

00:17:0300:17:05 มีการวิจัยสนับสนุนไว้ใน

00:17:0500:17:10 The American Journal of Clinical Nutrition ในปี 2008

00:17:1000:17:13 การออกกำลังโดยการวิ่งวันละ 8 กิโลเมตร

00:17:1300:17:16 ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 50%

00:17:1600:17:19 เพราะช่วยลด Body fat หรือว่าไขมันในร่างกาย

00:17:1900:17:22 อันนี้ก็คือทั้งหมดของวันนี้ว่า

00:17:2200:17:26 หมอพยายามจะแยกเป็นหัวข้อให้เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็น

00:17:2600:17:28 เรื่องราวเกี่ยวกับโรคเกาต์

00:17:2800:17:31 สาเหตุและปัจจัยในการกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์

00:17:3100:17:33 ไปจนถึงวิธีการวินิจฉัย

00:17:3300:17:37 และการตรวจสอบในร่างกายว่ารู้ได้อย่างไรว่าเราจะเป็นเกาต์

00:17:3700:17:40 การไปพบแพทย์ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

00:17:4000:17:43 ยาต่างๆ ที่เป็นชื่อที่หมอมาเล่าให้ฟัง

00:17:4300:17:45 ว่านี่คือยากลุ่มรักษาโรคเกาต์

00:17:4500:17:48 แต่การจะรับประทานต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

00:17:4800:17:50 แล้วก็มาถึงส่วนสุดท้าย ส่วนสำคัญ

00:17:5000:17:55 ก็คือการป้องกันดูแลร่างกายตัวเราต้ังแต่ต้นเหตุ

00:17:5500:17:58 ก็คือ 6-7 ข้อที่หมอกล่าวไป

00:17:5800:18:00 วันนี้ก็สมควรแก่เวลา

00:18:0000:18:04 หวังว่าข้อมูลที่เรามานั่งคุยในวันนี้ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

00:18:0400:18:07 จะมีประโยชน์แก่ผู้ฟังไม่มากก็น้อย

00:18:0700:18:13 วันนี้กลับไป ไปดูสิว่าอาหารการกินเรา การใช้ชีวิตเรา

00:18:1300:18:15 มีปัจจัยเสี่ยงบ้างไหม

00:18:1500:18:18 ใครที่ยังไม่เป็นในวันนี้ ป้องกันไม่ให้เป็นในวันหน้า

00:18:1800:18:22 ใครที่เป็นแล้ววันนี้ ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรงขึ้น

00:18:2200:18:24 ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

00:18:2400:18:26 แล้วเดี๋ยวเรามาพบกันใหม่ในตอนหน้าๆ

00:18:2600:18:28 วันนี้หมอขอลาไปก่อน

00:18:2800:18:32 ขอให้ทุกท่านสุขภาพยืนยาว แข็งแรง อย่างมีคุณภาพ

00:18:3200:18:34 ฃอบคุณมากครับ สวัสดีครับ