00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับมีหลายๆคนนะครับก็เคยบอกว่าตัว
00:00:03 → 00:00:07 เองเป็นโรคความดันต่ำนะครับผมก็อยากจะมา
00:00:07 → 00:00:10 อธิบายคำๆนี้เหมือนกันนะครับเพราะว่าจริง
00:00:10 → 00:00:12 ๆแล้วความดันต่ำมันไม่ใช่โรคนะครับแล้ว
00:00:12 → 00:00:15 มันไม่มีโรคประจำตัวเป็นความดันต่ำนะครับ
00:00:15 → 00:00:18 แต่ว่าจะมาอธิบายให้ฟังว่าความดันต่ำนี่
00:00:18 → 00:00:21 จริงๆมันหมายความว่าอะไรในทางการแพทย์มัน
00:00:21 → 00:00:24 มีอะไรที่ต้องกังวลบ้างนะครับและในสำหรับ
00:00:24 → 00:00:28 คนที่เอ่อเดินอยู่ทั่วๆไปใช้ชีวิตปกติ
00:00:28 → 00:00:30 ทั่วไปแต่มีความันต่ำอันนั้นหมายความว่า
00:00:30 → 00:00:33 อะไรความดันแค่ไหนถึงจะเรียกว่าต่ำนะครับ
00:00:33 → 00:00:35 ก็พบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวันนะ
00:00:35 → 00:00:37 ครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:37 → 00:00:39 อเมริกานะครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกไถย
00:00:39 → 00:00:42 ปอนและวิกฤตบำบัดนะครับก่อนอื่นเลยความ
00:00:42 → 00:00:45 ดันต่ำต้องบอกเลยนะครับว่ามันไม่ใช่โรค
00:00:45 → 00:00:49 ประจำตัวนะครับโดยทั่วๆไปแล้วเนี่ยความ
00:00:49 → 00:00:52 ดันของคนเราที่ต่ำมันจะหมายความว่ามันไม่
00:00:52 → 00:00:55 ได้ดูกันที่ตัวเลขนะครับมันหมายความว่า
00:00:55 → 00:00:58 ความดันซึ่งไม่เพียงพอในการเอาเลือดไป
00:00:58 → 00:01:03 เลี้ยงตส่วนต่างๆของร่างกายนั่นคือสิ่ง
00:01:03 → 00:01:07 ที่เราใช้เป็นนิยามความดันที่ต่ำจนมี
00:01:07 → 00:01:09 ปัญหานะครับหมายความว่าเวลาที่เข้าโรง
00:01:09 → 00:01:13 พยาบาลมาเนี่ยถ้าความดันมันต่ำเลือดก็จะ
00:01:13 → 00:01:16 ไม่สามารถไปเลี้ยงตามอวัยวะต่างๆได้เช่น
00:01:16 → 00:01:21 ไตสมองปอดหัวใจเป็นต้นทำให้อวัยวะเหล่า
00:01:21 → 00:01:25 นั้นเนี่ยทำงานมีปัญหานะครับในคนที่ใช้
00:01:25 → 00:01:28 ชีวิตปกติสุขอยู่ทั่วไปเดินไปเดินมาเนี่ย
00:01:28 → 00:01:31 ก็บางครั้งเคยมีไปบริจาคเลือดไปวัดดความ
00:01:31 → 00:01:35 ดันตามที่ทำงานตามคลินิกหรือว่าไปหาหมอ
00:01:35 → 00:01:37 แล้ววัดความดันได้เอ่อพยาบาลก็จะบอกว่า
00:01:38 → 00:01:41 โอ้คุณความดันต่ำนะต่ำกว่า 90 60 นะครับ
00:01:41 → 00:01:44 ความดันก็จะมี 2 ค่านะครับค่าบนกับค่า
00:01:44 → 00:01:46 ล่างนะครับ 90 ก็เป็นตัวบน 60 ก็เป็นตัว
00:01:46 → 00:01:49 ล่างโดยทั่วๆไปเนี่ยความดันของคนเราก็มัก
00:01:49 → 00:01:53 จะอยู่สูงกว่า 90 60 เช่น 110 กับ 80
00:01:53 → 00:01:55 เป็นต้นอย่างนี้นะครับถ้าใครที่อยู่ 90
00:01:55 → 00:01:59 60 หรือต่ำกว่าก็มักจะได้รับการบอกว่า
00:01:59 → 00:02:01 เป็นความความดันต่ำนะครับซึ่งจริงๆถ้า
00:02:01 → 00:02:04 ท่านสามารถเดินไปมาได้โดยที่ไม่มีปัญหานะ
00:02:04 → 00:02:07 ครับความดันได้ 80 50 ก็ไม่ได้ถือว่า
00:02:07 → 00:02:09 ท่านมีความดันต่ำแต่อย่างใดนะครับแต่ถ้า
00:02:09 → 00:02:11 ท่านอยู่ในโรงพยาบาลแล้วเจอว่าความดัน 80
00:02:11 → 00:02:14 50 เนี่ยนะครับแล้วท่านมีอาการเพ้อสับสน
00:02:14 → 00:02:17 ตายวายอย่างเงี้แปลว่าท่านเป็นความนันต่ำ
00:02:17 → 00:02:20 ซึ่งอันตรายและจำเป็นจะต้องได้รับการ
00:02:20 → 00:02:23 รักษานะครับถ้าเกิดว่าท่านใช้ีวิตอยู่
00:02:23 → 00:02:25 ปกติสูงทั่วไปแล้ววัดทีไรมันก็ได้ 90 60
00:02:25 → 00:02:28 80 50 อย่างเงี้ยนะครับถ้าไม่มีอาการ
00:02:28 → 00:02:30 อะไรอันนั้นไม่ใช่โรคประจำตัวและไม่ต้อง
00:02:30 → 00:02:35 รักษาแต่อย่างใดนะครับแต่ทีนี้บางคนจะมี
00:02:35 → 00:02:38 อาการที่เวลาไปหาหมอแล้วเบอกว่าเลือดอาจ
00:02:38 → 00:02:40 จะเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอนะครับมันหมาย
00:02:40 → 00:02:43 ความว่าอย่างไรนะครับการที่เลือดเลี้ยง
00:02:43 → 00:02:46 สมองได้ไม่เพียงพอจะทำให้การทำงานของสมอง
00:02:46 → 00:02:49 เมีปัญหาโดยเฉพาะอาการวูบนะครับอาการหน้า
00:02:49 → 00:02:52 มืดอย่างเงี้ยคืออาการที่เลือดไปสมองไม่
00:02:52 → 00:02:54 เพียงพอมันจะเกิด
00:02:54 → 00:02:57 เมื่ออะไรก็ได้ที่ไปเลี้ยงสมองมีการขัด
00:02:57 → 00:03:00 ขวางเลือดไปเลี้ยงสมองด้วด้วยสาเหตุต่างๆ
00:03:00 → 00:03:02 แล้วเวลาเราคิดถึงสาเหตุต่างๆเราก็คิดตาม
00:03:03 → 00:03:05 หลักทั่วๆไปก็คือข้อแรกหัวใจมีปัญหามัน
00:03:05 → 00:03:08 ไม่สามารถบีบเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ
00:03:08 → 00:03:10 นะครับเช่นว่ามันเต้นผิดปกตินะครับเวลา
00:03:10 → 00:03:12 มันเต้นผิดปกติมันก็ไม่สามารถเบียบเลือด
00:03:12 → 00:03:14 ไปเลี้ยงสมองอันนี้ก็จะทำให้เลือดเลี้ยง
00:03:14 → 00:03:19 สมองลดลงได้นะครับอ่าถ้าเกิดว่ามีปัญหา
00:03:19 → 00:03:22 ลิ่มเลือดอุตันสักบริเวณนึงที่เป็นเส้น
00:03:22 → 00:03:23 เลือดใหญ่เนี่ยเลือดก็จะไปเลี้ยงสมองไม่
00:03:23 → 00:03:26 เพียงพอก็จะมีปัญหาได้นะครับท่านซึ่งมี
00:03:26 → 00:03:30 โลหิตจางจางมากๆจนกระทั่งเม็ดเลือดของท่า
00:03:30 → 00:03:31 มันน้อยนะครับเวลาเม็ดเลือดมันน้อยก็จะ
00:03:31 → 00:03:34 ไม่สามารถนำเอาสารอาหารนำเอาออกซิเจนไป
00:03:34 → 00:03:36 เลี้ยงสมองได้อันนี้ก็จะเป็นการที่เลือด
00:03:36 → 00:03:38 เลี้ยงสมองได้ลดลงนะครับในคนที่มีโลหิต
00:03:38 → 00:03:41 จางมากๆก็จะทำให้เป็นเช่นนี้ได้นะครับแต่
00:03:41 → 00:03:43 ไม่ได้หมายความว่าท่านทุกท่านที่เป็นโรค
00:03:43 → 00:03:46 โลหิตจางเช่นเป็นโรคซีเมียนะครับหรือเป็น
00:03:46 → 00:03:49 โรคโลหิตจังจากการขาดธาตุเหล็กขาดวิตามิน
00:03:49 → 00:03:52 ต่างๆนะครับทุกคนจะมีปัญหาทางด้านนี้นะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับมันขึ้นอยู่กับว่าจำนวนเม็ดเลือดของ
00:03:55 → 00:03:58 ท่านที่มีอยู่เนี่ยหรือค่าฮีโมโกลบินค่า
00:03:58 → 00:04:00 ฮีมาโตคริตของท่านเวลาที่ท่านไปเจาะเลือด
00:04:00 → 00:04:03 แล้วถามหมอนะครับ่าพวกนี้เนี่ยถ้ามันต่ำ
00:04:03 → 00:04:06 ในบางคนก็จะมีอาการเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นนะ
00:04:06 → 00:04:09 ครับอ่านอกเหนือจากนี้เนี่ยเลือดของคนเรา
00:04:09 → 00:04:11 นะครับมันจะอยู่ในระบบเลือดทั้ง 2 ระบบก็
00:04:12 → 00:04:14 คือระบบเลือดแดงกับระบบเลือดดำนะครับเวลา
00:04:14 → 00:04:17 มันออกจากหัวใจก็จะไปสู่ระบบเลือดแดงไป
00:04:17 → 00:04:20 เลี้ยงตังคอวัยวะต่างๆพอมันเลี้ยงอวัยวะ
00:04:20 → 00:04:22 ต่างๆเสร็จปุ๊บเนี่ยมันก็จะได้เลือดทึ่ง
00:04:22 → 00:04:25 ถูกดึงสารอาหารถูกดึงก๊าซเอ่อแล้วก็ปล่อย
00:04:25 → 00:04:27 คาร์บอนไดออกไซด์เข้ามาในเลือดก็กลายเป็น
00:04:27 → 00:04:29 ระบบเลือดดำกลับเข้ามาแล้วมันจะต้องต้อง
00:04:29 → 00:04:31 ไปที่ปอดแล้วก็กลับสู่หัวใจจอีกรอบนึงนะ
00:04:32 → 00:04:35 ครับก็วนเป็นหูปแบบนี้นะครับทีนี้เบางคน
00:04:35 → 00:04:38 เนี่ยเวลาลุกเร็วๆแล้วจะหน้ามืดนะครับอ่า
00:04:38 → 00:04:41 เดี๋ยวจะเจอในบางคนที่นั่งนานๆมองจอมือ
00:04:41 → 00:04:43 ถือนานๆมองทีวีอ่านหนังสือนานๆแล้วลุกเอ้
00:04:43 → 00:04:46 รู้สึกมันมึนมันหน้ามืดเห็นเห็นดาวเลยนะ
00:04:46 → 00:04:50 ครับอย่างเงี้ยคือมันเป็นอาการความดันต่ำ
00:04:50 → 00:04:52 แบบฉับพลันแต่มันไม่ได้อันตรายนะครับยก
00:04:52 → 00:04:54 เว้นถ้าท่านเป็นแบบนั้นแล้วแล้วท่านล้มไป
00:04:54 → 00:04:56 อย่างเงี้ยออันนี้อันตรายแล้วอาจจะมีการ
00:04:56 → 00:04:59 บาดเจ็บเพิ่มขึ้นมาได้นะครับสิ่งเนี้ยเรา
00:04:59 → 00:05:02 เจอได้บ่อยนะครับสาเหตุที่เราเจอได้บ่อย
00:05:02 → 00:05:05 เพราะว่าหลายๆอย่างเช่นอันแรกคือถ้าท่าน
00:05:05 → 00:05:07 ดื่มน้ำไม่เพียงพอจะเป็นได้ง่ายขึ้นท่าน
00:05:07 → 00:05:10 ที่อายุเยอะๆรับประทานยาลดความดันหลายๆ
00:05:10 → 00:05:12 ตัวโดยที่ไม่ดูแลความดันตัวเองให้ดีว่า
00:05:12 → 00:05:14 มันต่ำมากเกินไปหรือเปล่าก็อาจจะมีอาการ
00:05:14 → 00:05:17 พวกนี้ได้นะครับท่านซึ่งไม่ได้ทานข้าวไม่
00:05:17 → 00:05:19 ได้พักผ่อนให้เพียงพอนอนหลับไม่เพียงพอมี
00:05:19 → 00:05:22 โรคของการนอนหลับทำให้หยุดหายใจในขณะหลับ
00:05:22 → 00:05:24 แล้วก็ไม่รู้ตัวไม่ได้ไปตรวจพวกนี้ก็จะ
00:05:24 → 00:05:28 เป็นง่ายขึ้นนะฮะหรือท่านซึ่งมีกล้าม
00:05:28 → 00:05:30 เนื้อขาที่ไม่ค่อยแข็งแรงโดยพวกเนี้ยมัก
00:05:30 → 00:05:33 จะเจอในคนที่อายุเยอะหน่อยนะครับเพราะว่า
00:05:33 → 00:05:36 ในสมัยที่ท่านอายุน้อยเนี่ยสมองของท่าน
00:05:36 → 00:05:38 มันปรับตัวได้ความดันตกนิดหน่อยท่านก็ไม่
00:05:38 → 00:05:40 เป็นอะไรครับขาก็ไม่ต้องแข็งแรงมากอะไรก็
00:05:40 → 00:05:43 ได้นะครับแต่ว่าพอท่านอายุเยอะขึ้นเนี่ย
00:05:43 → 00:05:45 ปัญหาพวกนี้ก็จะเริ่มมาหลายๆท่านก็สงสัย
00:05:45 → 00:05:48 ทำไมสมัยก่อนไม่เห็นเคยเป็นอันนี้ไม่เคย
00:05:48 → 00:05:50 เป็นอย่างนี้เลยทำไมเดี๋ยวนี้มันเป็นแล้ว
00:05:50 → 00:05:52 นะครับมันก็เป็นเพราะว่าท่านไม่ได้ดูแล
00:05:52 → 00:05:54 ตัวเองมาตั้งแต่ต้นไงครับร่างกายของเรา
00:05:54 → 00:05:58 มันก็เสื่อมไปตามสภาพตามเวลานะครับเราจะ
00:05:58 → 00:06:00 ให้ทุกอย่างไปเหมือนเดิมก็ไม่ได้ถูกมั้ย
00:06:00 → 00:06:01 ครับนะเหมือนอย่างเช่นที่ท่านไม่สามารถ
00:06:01 → 00:06:04 วิ่งเล่นได้ตามเด็กๆแบบวิ่งเล่นได้ทั้ง
00:06:04 → 00:06:05 วันโดยที่ท่านไม่เหนื่อยตอนที่ท่านอายุ
00:06:06 → 00:06:08 เยอะแล้วท่านก็ทำแบบนั้นไม่ได้ถูกมั้ยฮะ
00:06:08 → 00:06:11 แต่ถ้าท่านฝึกร่างกายตัวเองตลอดเวลาวิ่ง
00:06:11 → 00:06:13 ทุกวันออกกำลังกายแข็งแรงท่านก็จะวิ่งได้
00:06:13 → 00:06:15 เหมือนเด็กที่วิ่งยังไงก็ไม่เหนื่อยนะฮะ
00:06:15 → 00:06:18 ดังนั้นมันอยู่ที่การดูแลตัวเองถ้าเกิด
00:06:18 → 00:06:20 ว่าอายุเยอะๆแล้วเนี่ยมีการออกกำลังกายขา
00:06:20 → 00:06:22 ที่ดีเนี่ยก็จะโชคดีหน่อยเพราะว่าจะไม่
00:06:22 → 00:06:26 ค่อยมีภาวะนี้ทำไมขาจึงสำคัญมากมันเป็น
00:06:26 → 00:06:28 เพราะว่าเวลาที่เลือดของเราเนี่ยเวลาที่
00:06:28 → 00:06:31 เรายืนขึ้นเลือดมันก็คือสารน้ำชนิดหนึ่ง
00:06:31 → 00:06:34 มันก็จะตกไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกและส่วน
00:06:34 → 00:06:37 ที่ต่ำที่สุดของร่างกายก็คือขาถูกมั้ย
00:06:37 → 00:06:39 ครับเลือดมันก็จะไปกรองอยู่บริเวณนั้นน่ะ
00:06:40 → 00:06:43 แทนที่จะไปเลี้ยงสมองนะครับถ้ามันไปกรอง
00:06:43 → 00:06:45 อยู่ข้างล่างหมดมันไปเลี้ยงสมองไม่ได้
00:06:45 → 00:06:47 เลือดเลี้ยงสมองก็ไม่พอถูกมั้ยครับก็ถือ
00:06:47 → 00:06:49 ว่าเป็นความดันตกในช่วงเวลานั้นแต่ถ้า
00:06:49 → 00:06:52 เกิดว่ากล้ามเนื้อขาของเรามันแข็งแรงมากๆ
00:06:52 → 00:06:54 นะครับเลือดของเราเนี่ยเวลามันลงไปที่ขา
00:06:54 → 00:06:57 แล้วกล้ามเนื้อที่ขาเนี่ยมันจะมีโทนของ
00:06:57 → 00:06:59 มันก็คือมีความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่มัน
00:06:59 → 00:07:02 จะคอยบีบเอาเลือดพวกเนี้ยกลับสู่หัวใจ
00:07:02 → 00:07:05 แล้วก็พาไปเลี้ยงสมองได้นะครับอ่าดังนั้น
00:07:05 → 00:07:09 นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญดังนั้นโรคความนาน
00:07:09 → 00:07:12 ต่ำไม่มีอยู่จริงนะครับไม่ใช่โรคประจำตัว
00:07:12 → 00:07:14 ใครที่บอกว่าตัวเองเป็นโรคความนาต่ำอัน
00:07:14 → 00:07:16 นั้นไม่ใช่โรคนะครับมันเป็นปกติของท่าน
00:07:16 → 00:07:18 เองนั่นแหละครับแล้วถ้าท่านที่มีความนัน
00:07:18 → 00:07:21 ต่ำที่เป็นฉับพลันเช่นยืนแล้วหน้ามืดง่าย
00:07:21 → 00:07:23 ๆหรือบางคนหน้ามืดเอ่อทำอะไรนิดหน่อยก็
00:07:23 → 00:07:25 หน้ามืดวูบง่ายอย่างเงี้ยนะครับท่านก็จะ
00:07:25 → 00:07:28 ต้องไปหาโรคประจำตัวต่างๆยกตัวอย่างเช่น
00:07:28 → 00:07:30 เอ่อโรคโลหิตจางมันมันจางเกินไปหรือเปล่า
00:07:30 → 00:07:33 โรคหัวใจโรคไทรรอยด์นะครับหรือว่าคนที่มี
00:07:33 → 00:07:35 เบาหวานอมีน้ำตาลต่ำอะไรร่วมด้วยมั้ยนะ
00:07:35 → 00:07:38 ครับก็ต้องไปหาโรคเหล่านี้นะครับแต่การดู
00:07:38 → 00:07:41 แลตัวเองเบื้องต้นนะครับแน่นอนการออก
00:07:41 → 00:07:43 กำลังกายเนี่ยจะช่วยทำให้ท่านสามารถที่จะ
00:07:43 → 00:07:45 มีเลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างต่อเนื่อง
00:07:45 → 00:07:48 แล้วก็จะไม่มีภาวะความดันตกแบบนั้นนะครับ
00:07:48 → 00:07:51 ออกกำลังกายแบบไหนที่ดีการออกกำลังกายแบบ
00:07:51 → 00:07:53 คาร์ดิโอนี่ก็ช่วยได้นะครับแต่ถ้าท่านที่
00:07:53 → 00:07:55 ออกไม่ได้การออกกำลังกายขาให้มีกล้าม
00:07:55 → 00:07:58 เนื้อขาแข็งแรงเนี่ยสำคัญมากๆนะครับอ่า
00:07:58 → 00:08:01 สำคัญมากมากนอกเหนือจากนี้การดื่มน้ำให้
00:08:01 → 00:08:03 เพียงพอเพราะว่าน้ำก็เป็นส่วนประกอบของ
00:08:03 → 00:08:06 เลือดถ้าเรามีน้ำไม่เพียงพอเลือดเราก็มี
00:08:06 → 00:08:08 ไม่เพียงพอแล้วมันก็ไปเลี้ยงสมองไม่เพียง
00:08:08 → 00:08:11 พอตามมานะครับการดื่มน้ำให้เพียงพอการพัก
00:08:11 → 00:08:14 ผ่อนให้เพียงพอเพราะว่าถ้าเราพักผ่อนไม่
00:08:14 → 00:08:16 เพียงพอเนี่ยสารในสมองสารเคมีในสมองที่
00:08:16 → 00:08:19 มันสร้างขึ้นมาเนี่ยแล้วมันต้องขับออกไป
00:08:19 → 00:08:21 มันก็ไม่ได้โดนขับออกไปนะครับพอมันไม่ได้
00:08:21 → 00:08:24 ขับออกไปเราก็จะมีอาการมึนงงวูบง่ายพวก
00:08:24 → 00:08:26 นี้ตามมานะครับเหล่าเนี้ยคือจริงๆมันก็
00:08:26 → 00:08:28 เป็นสิ่งที่ท่านแนะนำลูกลานของท่านให้ทำ
00:08:28 → 00:08:30 นั่นแหละครับว่าอ่ะพักผ่อนให้เพียงพออ่าน
00:08:30 → 00:08:33 หนังสือออกกำลังกายนะกินอาหารที่มี
00:08:33 → 00:08:35 ประโยชน์ท่านก็ต้องทำด้วยเช่นกันนะครับ
00:08:35 → 00:08:37 อย่าไปลืมอ่อเพราะว่าหลายๆท่านมาถามว่า
00:08:37 → 00:08:41 เอโอจะต้องหาหมอไหนดีกินยาอะไรกินสมุนไพร
00:08:41 → 00:08:43 ตัวไหนวิตามินอะไรที่สามารถช่วยอาการวูบ
00:08:43 → 00:08:46 ได้มีมั้ยแต่ท่านลืมพื้นฐานของการดำรง
00:08:46 → 00:08:49 ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดีไปเสียหมดซึ่งดัง
00:08:49 → 00:08:52 นั้นเนี่ยต้องย้อนกลับไปนะครับมันมันเป็น
00:08:52 → 00:08:54 สิ่งง่ายๆที่ท่านสอนลูกหลานทุกคนนัแหละ
00:08:54 → 00:08:56 ครับท่านก็รู้ตัวอยู่แล้วว่ามันสำคัญมัน
00:08:56 → 00:08:58 มีความจำเป็นแล้วท่านก็ควรที่จะทำเรื่อง
00:08:58 → 00:09:01 พวกนี้ที่เเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านมีภาวะ
00:09:01 → 00:09:03 พวกนี้นะครับดังนั้นวันนี้ผมก็หวังว่า
00:09:03 → 00:09:06 ท่านคงจะได้รับรู้เอ่อเกี่ยวข้องกับความ
00:09:06 → 00:09:09 ดันโลหิตเอ่อต่ำว่ามันไม่มีจริงนะครับ
00:09:09 → 00:09:12 แล้ววิธีในการป้องกันอาการวูบกาการพวก
00:09:12 → 00:09:14 เนี้ยสามารถทำได้ด้วยตัวเองทำอย่างไรก็
00:09:14 → 00:09:17 อ่าฟังตามนี้ส่วนถ้าใครมีคำถามข้อสงสัย
00:09:17 → 00:09:19 อะไรก็สอบถามกันเข้ามาได้นะครับวันนี้
00:09:19 → 00:09:23 เท่านี้นะครับขอบคุณมากสวัสดีครับ