00:00:00 → 00:00:03 ลดน้ําหนักถูกวิธี ทํายังไง ไม่ให้โยโย่นะครับ
00:00:03 → 00:00:05 ชมคลิปนี้ให้จบนะครับ
00:00:05 → 00:00:06 สวัสดีครับ ผมหมอหนึ่ง healthy hero นะครับ
00:00:06 → 00:00:10 ลดน้ําหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต คิดถึง หมอหนึ่ง healthy hero นะครับ
00:00:10 → 00:00:13 คราวนี้สิ่งที่เราจะคุยกันวันนี้นะครับ คือหลายคนเนี่ย ถามหมอหนึ่งมาว่า
00:00:13 → 00:00:15 ลดน้ําหนัก ทํายังไงถึงจะไม่โยโย่คะหมอ
00:00:15 → 00:00:16 เพราะว่าลดมาหลายครั้งมาก ๆ
00:00:16 → 00:00:18 ลดแล้วเดี๋ยวก็เพิ่ม ลดแล้วเดี๋ยวก็เพิ่ม
00:00:18 → 00:00:21 ใครที่เป็นแบบนี้นะครับ ลองไปพูดคุยกันในคอมเมนต์ได้นะว่า
00:00:21 → 00:00:23 ไปทําอะไรมาทําไมถึงโยโย่
00:00:23 → 00:00:25 แต่เดี๋ยววันนี้ คลิปนี้ เดี๋ยวหมอหนึ่งจะอธิบายให้ฟังเลยว่า
00:00:25 → 00:00:27 มันมีสาเหตุอะไรบ้าง ที่ทําแล้วมักจะโยโย่ได้
00:00:27 → 00:00:32 แล้วถ้าโยโย่แล้ว เราจะแก้ยังไงดีให้ระบบเผาผลาญเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมนะครับ
00:00:32 → 00:00:33 แต่สําหรับใครที่เพิ่งมาติดตามหมอหนึ่งนะครับ
00:00:33 → 00:00:36 อย่าลืมกดหัวใจ แล้วก็กดติดตามหมอหนึ่งไว้นะครับ
00:00:36 → 00:00:39 จะได้ไม่พลาดคลิปความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการลดน้ําหนักและสุขภาพนะครับ
00:00:39 → 00:00:41 คราวนี้ย้อนกลับมาที่เราจะคุยกันเนอะ
00:00:41 → 00:00:44 อย่างแรกเนี่ย คุณต้องรู้ก่อนว่า โยโย่เอฟเฟค ( YoYo Effect ) มันคืออะไร
00:00:44 → 00:00:46 หลาย ๆ คนเคยได้ยินคําว่า โยโย่ เอฟเฟค ( YoYo Effect ) ใช่ไหม
00:00:46 → 00:00:48 คําว่า โยโย่ เอฟเฟค มันหมายความว่า
00:00:48 → 00:00:51 การที่คุณลดน้ําหนักไปด้วยวิธีที่มันผิด วิธีใดวิธีหนึ่ง
00:00:51 → 00:00:54 แล้วระบบเผาผลาญในร่างกายของคุณมันลดลง
00:00:54 → 00:00:57 พอถึงจุดที่คุณกลับไปกินปกตินะ
00:00:57 → 00:00:59 แล้วน้ําหนักคุณมันก็ดีดขึ้นมาเลย
00:00:59 → 00:01:01 จากระบบเผาผลาญที่มันน้อย แล้วคุณกินเยอะ
00:01:01 → 00:01:03 พอเห็นภาพไหม ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ
00:01:03 → 00:01:05 บางคนลดน้ําหนักด้วยการอดอาหาร
00:01:05 → 00:01:07 อดอาหาร คือ ข้าวก็ไม่ค่อยกิน
00:01:07 → 00:01:10 พวกเนื้อสัตว์โปรตีนอะไรก็ไม่กินเลย
00:01:10 → 00:01:12 พวกของมันของทอดก็กลัวมาก ๆ ไม่กินหมดเลย
00:01:12 → 00:01:16 พอไม่กินแบบนี้ ร่างกายก็เลยมองว่า กําลังอดอาหารอยู่
00:01:16 → 00:01:19 พออดอาหาร ร่างกายของเรามันเก่งมากนะครับ
00:01:19 → 00:01:22 มันไม่สามารถจะใช้พลังงานเยอะ ๆ ได้ โดยที่เรากินอาหารเข้าไปน้อย ๆ
00:01:22 → 00:01:25 ดังนั้นมันจะตัดระบบพลังงานตัวเองออก
00:01:25 → 00:01:29 ถ้านึกไม่ออก ลองนึกถึงคนที่อดอาหารเพราะไปติดถ้ำก็ได้
00:01:29 → 00:01:31 พวกนั้นพอออกมาจากถ้ำอีกทีนึง เป็นไงครับ
00:01:31 → 00:01:33 กล้ามเนื้อลีบไปหมดเลยถูกไหม
00:01:33 → 00:01:36 เพราะกล้ามเนื้อเปรียบเสมือนระบบเผาผลาญของร่างกาย
00:01:36 → 00:01:38 ถ้ากล้ามเนื้อเยอะ ระบบเผาผลาญเยอะ
00:01:38 → 00:01:40 กล้ามเนื้อน้อย ระบบเผาผลาญน้อย
00:01:40 → 00:01:43 เพราะฉะนั้น คนที่อดอาหารเพื่อลดน้ําหนัก สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ
00:01:43 → 00:01:47 พอระบบเผาผลาญเรามันลดลง จากการที่เรากินอาหารเข้าไปน้อยลง
00:01:47 → 00:01:48 กล้ามเนื้อมันก็จะหายไปด้วย
00:01:48 → 00:01:50 แต่พอถึงจุดหนึ่งที่ไม่ไหวแล้วอ่ะ
00:01:50 → 00:01:52 ฉันไม่สามารถอดอาหารแบบนี้ได้อีกแล้วนะครับ
00:01:52 → 00:01:54 พอเรากลับไปกินเยอะ
00:01:54 → 00:01:56 คราวนี้ กล้ามเนื้อเรามันหายไปแล้วถูกไหม มันเหลือน้อยแล้ว
00:01:56 → 00:01:59 แต่พอกลับไปกินเยอะ ๆ เหมือนเตาเผาพลังงานเรามันเหลือน้อยแล้ว
00:01:59 → 00:02:03 คราวนี้มันก็เผาไม่พอแล้ว เพราะกินเข้าไปเยอะ เกินกว่าที่ร่างกายจะเผาได้
00:02:03 → 00:02:07 ส่วนที่มันเผาผลาญไม่หมด ก็เลยกลายเป็นไขมันสะสมนั่นเอง
00:02:07 → 00:02:09 แบบนี้ถึงเรียกว่า โยโย่ เอฟเฟค ( YoYo Effect )
00:02:09 → 00:02:11 จะต่างกันนะ บางทีบางคนรู้สึกว่า
00:02:11 → 00:02:15 น้ําหนักนิ่ง หรือว่า เป็นช่วงบางช่วงของประจําเดือนมา
00:02:15 → 00:02:17 แล้วรู้สึกว่า น้ําหนักมันดีดขึ้น เป็นโยโย่เอฟเฟคหรือเปล่า
00:02:17 → 00:02:18 อันนั้นจะไม่ใช่โยโย่เอฟเฟคนะ
00:02:18 → 00:02:22 อันนั้นเป็นแค่ธรรมชาติของการลดน้ําหนัก ที่อาจจะมีช่วงของการบวมน้ําได้
00:02:22 → 00:02:26 เพราะฉะนั้นต้องแยกให้ออกก่อนระหว่าง โยโย่เอฟเฟค กับภาวะที่ร่างกาย
00:02:26 → 00:02:30 น้ําหนักขึ้นจากการบวมน้ํา จะต่างกันเลยนะครับ โอเคไหม
00:02:30 → 00:02:33 เพราะฉะนั้นสิ่งที่หมอหนึ่งอยากให้คุณรู้อีกสิ่งหนึ่งก็คือ
00:02:33 → 00:02:35 อะไรบ้างล่ะที่จะทําให้คุณโยโย่
00:02:35 → 00:02:37 พอฟังคลิปนี้จบ คุณจะได้ไม่ทํานะ
00:02:37 → 00:02:40 สิ่งที่จะทําให้คุณโยโย่ได้ ส่วนใหญ่จะมีอยู่ทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน
00:02:40 → 00:02:42 อันที่ 1 นะครับ คือ
00:02:42 → 00:02:44 ยาลดน้ําหนัก หรือพวก อาหารเสริมลดน้ําหนัก
00:02:44 → 00:02:48 โดยเฉพาะที่ชอบเคลมว่า เผาผลาญดีสุด ๆ
00:02:48 → 00:02:51 อิ่มนาน คนที่กินแล้วเหงื่อไม่ค่อยออก กินแล้วเหงื่อออกเลย
00:02:51 → 00:02:55 คือหลายคนมักจะเข้าใจผิดเนอะ ว่าการที่เหงื่อออกแปลว่าระบบเผาผลาญดี
00:02:55 → 00:02:59 จริง ๆ มันไม่เกี่ยวกันเลยนะครับ มันเป็นเรื่องของการคลายความร้อนของร่างกายเฉย ๆ
00:02:59 → 00:03:02 เพราะฉะนั้นพวกอาหารเสริมที่เขาชอบเคลมพวกนี้เนี่ย
00:03:02 → 00:03:07 ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะชอบใส่สารบางตัวเข้าไปที่ทําให้ร่างกายของคุณอิ่มได้นาน
00:03:07 → 00:03:10 พออิ่มนานคุณก็ไม่ค่อยกิน พอไม่ค่อยกินเกิดอะไรขึ้น
00:03:10 → 00:03:12 ร่างกายก็มองว่าพลังงานที่คุณกินมันน้อย
00:03:12 → 00:03:15 ฉันก็ต้องตัดการเผาผลาญออก ก็ตัดกล้ามเนื้อออก
00:03:15 → 00:03:18 เพราะฉะนั้นใครที่เคยใช้พวกอาหารเสริมหรือยาลดน้ําหนักจะรู้เลยนะครับว่า
00:03:18 → 00:03:21 พอกินไปแล้วบางคนจะมีอาการอิ่ม
00:03:21 → 00:03:22 วัน ๆ ไม่อยากกินอะไรเลยก็อยู่ได้
00:03:22 → 00:03:26 แต่พอกินไปสักแป๊บหนึ่งแล้วเนี่ย ระบบเผาผลาญมันเริ่มพัง
00:03:26 → 00:03:28 พอกลับมากินอีกทีนึงแล้วโยโย่เลยทีนี้
00:03:28 → 00:03:31 บางคน ระบบฮอร์โมนผิดปกติเลยจากการกินยาลดน้ําหนัก
00:03:31 → 00:03:33 ทําให้ไทรอยด์ผิดปกติได้ด้วย
00:03:33 → 00:03:36 วันหนึ่งเจอบ่อยมาก ๆ ที่คนไข้มาด้วยไทรอยด์ผิดปกตินะครับ
00:03:36 → 00:03:38 บางคนไทรอยด์สูง บางคนไทรอยด์ต่ำ
00:03:38 → 00:03:40 แล้วสัมภาษณ์ไปเนี่ย เจอว่าใช้ยาลดน้ําหนัก
00:03:40 → 00:03:44 เพราะฉะนั้นใครที่ใช้ยาลดน้ําหนักอยู่ หรืออาหารเสริมลดน้ําหนักนะครับ
00:03:44 → 00:03:47 ให้หยุดก่อนเลย เพราะมันมีโอกาสที่จะทําให้คุณ โยโย่เอฟเฟค ได้ง่ายมาก ๆ
00:03:47 → 00:03:48 โอเคไหม
00:03:48 → 00:03:50 อันที่ 2 คือ คนที่อดอาหาร
00:03:50 → 00:03:51 หมอหนึ่งพูดไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วเนอะ
00:03:51 → 00:03:53 คําว่าอดอาหาร คืออะไร
00:03:53 → 00:03:57 คําว่าอดอาหาร คือ สารอาหารที่ให้พลังงานกับเรา มันจะมีอยู่ 3 อย่างหลัก ๆ คือ
00:03:57 → 00:04:01 โปรตีน คือพวก เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่ว เต้าหู้ เวย์ พวกนี้นะครับ
00:04:01 → 00:04:04 อันที่ถัดมาก็คือพวกคาร์โบไฮเดรต
00:04:04 → 00:04:09 คาร์โบไฮเดรต คือ น้ําตาล แป้ง ข้าวเส้น ขนมปัง ผัก ผลไม้ต่าง ๆ นะครับ
00:04:09 → 00:04:12 แล้วก็อันสุดท้าย คือ พวกไขมัน ของมันของทอด พวกนี้
00:04:12 → 00:04:13 คือบางคนไม่กินพวกนี้เลย
00:04:13 → 00:04:16 เพราะว่าเคยได้ยินว่าบางคนเขาลดน้ําหนักแบบงดแป้ง งดแป้งไปเลย
00:04:16 → 00:04:20 แต่ตัวเองของมันของทอดก็ไม่กิน แล้วดันกินพวกโปรตีนไม่ถึงด้วย
00:04:20 → 00:04:23 ซึ่งจริง ๆ โปรตีนสําคัญมาก เพราะมันเอาไว้สร้างกล้ามเนื้อ
00:04:23 → 00:04:24 เอาไว้สร้างระบบเผาผลาญถูกไหม
00:04:24 → 00:04:26 พอไม่กินพวกนี้เลย ร่างกายก็มองว่าอดอาหาร
00:04:26 → 00:04:29 มันก็ตัดกล้ามเนื้อในร่างกายออก เพื่อให้ระบบเผาผลาญร่างกายมันลดลง
00:04:29 → 00:04:33 พอคราวนี้ คุณอดอาหารไปถึงจุดนึงแล้ว คุณไม่ผอมลงแล้วอ่ะ
00:04:33 → 00:04:35 พอกลับมากินเยอะ ๆ มันก็เลยโยโย่ไง
00:04:35 → 00:04:37 อันนี้คือสาเหตุที่ 2
00:04:37 → 00:04:39 และสาเหตุที่ 3 ที่ทําให้คุณโยโย่ก็คือ
00:04:39 → 00:04:43 บางคน ลดน้ําหนักไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ เรื่อย ๆ แล้วนะครับ
00:04:43 → 00:04:48 ค่อย ๆ ลดนิ่ง ลดนิ่ง ลดนิ่ง แล้วแก้ปัญหาน้ําหนักนิ่งไม่ถูก
00:04:48 → 00:04:52 หมอหนึ่งต้องอธิบายแบบนี้นะว่า คนที่ลดน้ําหนักทุกคน
00:04:52 → 00:04:55 จะต้องเจอปัญหาน้ําหนักนิ่ง มันเป็นธรรมชาติที่ทุกคนต้องเจอ
00:04:55 → 00:04:57 เพราะว่า ร่างกายคนเรามันฉลาด
00:04:57 → 00:05:01 ถ้าอยู่ดี ๆ คุณน้ําหนักลดฮวบลงมาแบบนี้เลยนะ อันนี้อันตรายมาก
00:05:01 → 00:05:05 ซึ่งคนที่น้ําหนักลดแบบหยุดไม่ได้เลย มักจะเจอในคนที่ป่วยเท่านั้น เช่น
00:05:05 → 00:05:11 บางคนเป็นเบาหวานที่เป็นระยะที่ร่างกายเริ่มทนต่อการที่เก็บน้ําตาลไม่ได้แล้ว
00:05:11 → 00:05:14 น้ําตาลท้นเยอะมาก ๆ อันนี้น้ําหนักจะลดฮวบเลย
00:05:14 → 00:05:16 บางคนเป็นวัณโรค บางคนเป็นไทรอยด์เป็นพิษ
00:05:16 → 00:05:21 หรือว่าบางคนเป็นมะเร็ง พวกนี้น้ําหนักจะลดฮวบโดยที่ร่างกายจะหยุดไม่ได้เลยนะครับ
00:05:21 → 00:05:22 แต่ถ้าลดน้ําหนักแบบสุขภาพดีมันจะเป็น
00:05:22 → 00:05:25 ลด แล้วก็นิ่ง ลด แล้วก็นิ่ง มันจะไม่ได้ลดทุกวัน
00:05:25 → 00:05:28 หมอหนึ่งเลยบอกนักเรียนทุกคนว่า เวลาลดน้ําหนัก
00:05:28 → 00:05:30 อย่าชั่งน้ําหนักทุกวัน มันไม่ได้ลงทุกวันนะ
00:05:30 → 00:05:33 สัปดาห์นึงชั่งครั้งเดียวก็พอนะครับ แล้วก็วัดสัดส่วนไปด้วย
00:05:33 → 00:05:36 คุณจะได้วิเคราะห์ตัวเองได้ เพราะฉะนั้นในคนที่โยโย่
00:05:36 → 00:05:38 บางคนเขาแก้ปัญหาน้ําหนักนิ่งไม่ถูก
00:05:38 → 00:05:42 พอน้ําหนักนิ่งปั๊บ สิ่งที่คนทั่วไป 99% ทําคืออะไรรู้ไหม
00:05:42 → 00:05:44 กินให้น้อยลง ออกกําลังกายให้หนักขึ้น
00:05:44 → 00:05:46 เริ่มไปวนเข้าลูปการอดอาหารแล้วถูกป่าว
00:05:46 → 00:05:51 น้ําหนักเริ่มนิ่ง กินน้อยลง ออกกําลังกายหนักขึ้น พอเป็นแบบนี้ปั๊บ
00:05:51 → 00:05:54 สุดท้ายระบบเผาผลาญพัง ก็กลับไป โยโย่ เหมือนเดิม
00:05:54 → 00:05:57 เพราะฉะนั้นต้องแก้ให้ถูก หมอหนึ่งเคยทําคลิปเกี่ยวกับเรื่องน้ําหนักนิ่งไว้นะ
00:05:57 → 00:06:00 ว่าน้ําหนักนิ่งแก้ยังไง เข้าไปดูในเพจ facebook หรือช่อง youtube หมอหนึ่งได้นะครับ
00:06:00 → 00:06:01 มีวิธีแก้ปัญหาอยู่นะครับ
00:06:01 → 00:06:06 หรือใครที่อยู่ในกลุ่มเรียนลดน้ำหนัก VIP อยู่แล้วนะ เข้าไปทบทวนในบทที่ 18 นะ
00:06:06 → 00:06:08 น้ําหนักนิ่งเมื่อไหร่ เข้าไปทวนบทที่ 18 บทนั้น
00:06:08 → 00:06:11 จะทําให้คุณแก้ปัญหาน้ําหนักนิ่งได้ตลอดชีวิตเลย โอเคไหม
00:06:11 → 00:06:15 เพราะคน 99% ไม่ค่อยรู้ว่ามันแก้ยังไง พอแก้ผิดปั๊บโยโย่นะครับ
00:06:15 → 00:06:18 เพราะฉะนั้น 3 อย่างนี้ อย่าทําเด็ดขาด ถ้าไม่อยากโยโย่
00:06:18 → 00:06:21 คราวนี้บางคนบอกว่า โอเคค่ะ ต่อไปนี้จะไม่ทําแบบนั้นแล้ว
00:06:21 → 00:06:23 แล้วทํายังไงอ่ะ ตอนนี้มันโยโย่ไปแล้วอ่ะหมอ
00:06:23 → 00:06:25 อยากที่จะกระตุ้นระบบเผาผลาญกลับมานะครับ
00:06:25 → 00:06:30 ง่าย ๆ เลยนะครับ ระบบเผาผลาญของร่างกาย อ้างอิงด้วยมวลกล้ามเนื้อ
00:06:30 → 00:06:33 พูดอย่างนี้แปลว่า พี่ต้องไปฟิตกล้ามหรือเปล่าคะ
00:06:33 → 00:06:34 ต้องไปทําให้เป็นนักกล้ามหรือเปล่า
00:06:34 → 00:06:35 ไม่ใช่นะครับ
00:06:35 → 00:06:37 แต่ทุกวันนี้ที่คุณอ้วนเนี่ย
00:06:37 → 00:06:42 มันเกิดจากการที่คุณไม่สามารถที่จะทําให้ร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อในระดับที่เหมาะสมได้
00:06:42 → 00:06:45 พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณมีกล้ามเนื้อน้อยกว่าที่ร่างกายคุณควรจะเป็น
00:06:45 → 00:06:49 เพราะฉะนั้นคุณต้องสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ต้องขนาดเป็นนักกล้ามนะ
00:06:49 → 00:06:52 หมอหนึ่งก็ไม่ได้มีกล้ามแบบเป็นซิกแพคแบบนั้นเลยนะ
00:06:52 → 00:06:54 เพราะว่าแต่ละคน ในอุดมคติของคนเรา
00:06:54 → 00:06:58 บางคนแค่อยากกลับจากการอ้วนไปเป็นผอม แล้วใส่เสื้อผ้าดูดีเฉย ๆ
00:06:58 → 00:07:02 แต่บางคนก็อาจจะเลยไปกว่านั้น คือ อยากไปมีซิกแพคด้วย ถูกไหม
00:07:02 → 00:07:03 แต่ละคนเป้าหมายไม่เหมือนกัน
00:07:03 → 00:07:06 แต่ถ้าคุณแค่อยากจะกลับไปผอม ไม่อยากโยโย่นะ
00:07:06 → 00:07:08 คุณไม่จําเป็นต้องสร้างกล้ามแบบนักกล้ามนะ
00:07:08 → 00:07:11 คุณแค่ทําให้ร่างกายของคุณมีมวลกล้ามเนื้อที่เหมาะสมก็พอ
00:07:11 → 00:07:12 ด้วย 2 อย่างนี้นะครับ
00:07:12 → 00:07:15 การที่คุณจะสร้างกล้ามเนื้อได้ดี ต้องมีวัตถุดิบ 2 อย่าง
00:07:15 → 00:07:18 1 ต้องมีโปรตีน โปรตีนเอาไว้สร้างกล้ามเนื้อ
00:07:18 → 00:07:22 คุณไม่สามารถจะกินแป้งหรือกินไขมันแล้วไปสร้างกล้ามเนื้อได้นะ
00:07:22 → 00:07:25 เพราะโปรตีนทําหน้าที่ในการสร้างกล้ามเนื้อ อย่างอื่นทําแทนไม่ได้นะครับ
00:07:25 → 00:07:27 เพราะฉะนั้นอาหารที่เป็นโปรตีน เช่น
00:07:27 → 00:07:29 เนื้อสัตว์ ได้หมดเลยทุกชนิดนะ
00:07:29 → 00:07:34 ก็สลับกินบ้าง กินเนื้อขาวจากพวกปลา พวกไก่ พวกอาหารทะเลบ้าง นะครับ
00:07:34 → 00:07:38 หรือบางคนก็จะกินชาบูก็ดี กินเป็นพวกเนื้อหมู
00:07:38 → 00:07:40 สลับกันไปบ้างก็ไม่มีปัญหา
00:07:40 → 00:07:41 แต่อยากให้กินให้หลากหลายนะครับ
00:07:41 → 00:07:45 พวกไข่ ไข่เนี่ย หลายคนชอบกลัวว่ากินไข่แล้วคอเลสเตอรอลจะสูง
00:07:45 → 00:07:47 ผมบอกเลยนะ ปัจจุบันเขาบอกแล้วว่า
00:07:47 → 00:07:49 ไข่ไม่ได้ทําให้คอเลสเตอรอลสูง
00:07:49 → 00:07:51 ร่างกายคนเรามันสร้างคอเลสเตอรอลอยู่แล้ว
00:07:51 → 00:07:53 แต่คอเลสเตอรอลนั้นจะดีหรือไม่ดี
00:07:53 → 00:07:56 มันอยู่ที่ว่าร่างกายของคุณมีสารสร้างการอักเสบเยอะแค่ไหน
00:07:56 → 00:07:59 บางคนคอเลสเตอรอลเยอะ แต่ไม่ได้กินน้ําตาลเยอะ
00:07:59 → 00:08:02 ไปตรวจปั๊บ หลอดเลือดใสกิ๊งเลย ไม่มีหินปูนเกาะเลย
00:08:02 → 00:08:05 แต่บางคนคอเลสเตอรอลไม่เยอะ แต่ว่าโอ้โหน้ําตาลสะสมสูงมาก
00:08:05 → 00:08:07 หลอดเลือดอักเสบ แป๊บเดียว เส้นเลือดหัวใจอุดตัน
00:08:07 → 00:08:09 เส้นเลือดสมองอุดตันเลย โอเคไหม
00:08:09 → 00:08:11 เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ไข่คุณกินไปเถอะ
00:08:11 → 00:08:13 กินได้นะครับ แล้วก็พวกเต้าหู้
00:08:13 → 00:08:17 พวกที่เป็นโปรตีนจากพืชก็กินได้นะ เต้าหู้เอย เทมเป้เอย
00:08:17 → 00:08:18 พวกนี้ดีต่อสุขภาพนะครับ
00:08:18 → 00:08:21 หรือบางคนที่น้ําหนักตัวเยอะ ต้องกินโปรตีนเยอะ
00:08:21 → 00:08:23 ก็จะกินเวย์โปรตีนก็ได้เหมือนกัน โอเคไหม
00:08:23 → 00:08:26 คราวนี้พอคุณมีวัตถุดิบที่เป็นโปรตีนแล้ว
00:08:26 → 00:08:27 คุณก็ต้องเอาไปสร้างกล้ามเนื้อ
00:08:27 → 00:08:31 ร่างกายของคุณจะสร้างกล้ามเนื้อ ก็ต่อเมื่อ คุณได้ใช้กล้ามเนื้อ
00:08:31 → 00:08:33 ดังนั้นคุณต้องออกกําลังกาย
00:08:33 → 00:08:35 แต่การออกกําลังกาย เพื่อการลดน้ําหนักมีหลายแบบ
00:08:35 → 00:08:37 แต่แบบที่จะสร้างกล้ามเนื้อให้คุณได้ เราเรียกมันว่า
00:08:37 → 00:08:38 การทําเวทเทรนนิ่ง ( Weight Training )
00:08:38 → 00:08:42 หรือบางคนแค่ซักผ้าบิดผ้า เป็นการใช้กล้ามเนื้อไหม
00:08:42 → 00:08:43 เป็นนะครับ
00:08:43 → 00:08:47 หรือบางคน วิ่งไม่ไหว แค่เดินเร็ว นะครับ
00:08:47 → 00:08:48 ก็ได้ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้นแล้ว
00:08:48 → 00:08:52 หรือบางคนมีลู่วิ่งที่บ้าน การเดินชัน ก็ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้นแล้ว
00:08:52 → 00:08:54 เห็นมั้ยครับ เพราะฉะนั้น keyword หลัก ๆ นะครับ
00:08:54 → 00:08:56 จะสร้างกล้ามเนื้อให้ระบบเผาผลาญคุณดี ไม่โยโย่นะ
00:08:56 → 00:08:58 1 มีโปรตีนที่เพียงพอ
00:08:58 → 00:09:02 2 ออกกําลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ใช้กล้ามเนื้อให้เยอะ โอเคไหม
00:09:02 → 00:09:06 แค่นี้คุณก็จะ ไม่โยโย่ แล้วก็ลดน้ําหนักได้ถูกวิธีแล้วนะครับ
00:09:06 → 00:09:10 ส่วนใครที่อยากรู้ว่า ตัวเองน้ําหนักเท่านี้ ต้องกินโปรตีนอะไร ยังไง เท่า ไหร่ นะครับ
00:09:10 → 00:09:11 ก็สามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้นะ
00:09:11 → 00:09:13 หรือใครที่อยากให้หมอหนึ่งช่วยนะครับ
00:09:13 → 00:09:15 อยากลดน้ําหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตนะ
00:09:15 → 00:09:17 ตอนนี้กลุ่มเรียนยังเปิดอยู่นะครับ
00:09:17 → 00:09:19 สามารถดูรายละเอียดได้ในคอมเมนต์นะ
00:09:19 → 00:09:20 หรือว่าใครที่ดูใน YouTube นะครับ
00:09:20 → 00:09:23 ก็ดูในคลิปแนะนําในช่วงท้ายได้นะครับ
00:09:23 → 00:09:25 ถ้าหากชอบความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการลดน้ําหนักและสุขภาพแบบนี้
00:09:25 → 00:09:28 อย่าลืมกดหัวใจ แล้วก็กดติดตามไว้นะครับ
00:09:28 → 00:09:29 แล้วพบกันคลิปถัดไปนะครับ