00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:12 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:12 → 00:00:15 หมอจะมาเล่าถึงความเครียดที่บางคนอาจจะ
00:00:15 → 00:00:18 ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนนั่นก็คือไคร stress
00:00:18 → 00:00:21 ไคร stress เนี่ยคือความเครียดเล็กๆจิ๋วๆ
00:00:21 → 00:00:25 เลยความเครียดซ่อนเร้นที่เราเองก็เจอทุก
00:00:25 → 00:00:27 วันแต่เราอ่ะก็ไม่รู้ว่ามันเครียดเจ้านาย
00:00:28 → 00:00:30 โทรมาหาแต่เช้าสั่งงานอะไรต่างๆอะไรอย่า
00:00:30 → 00:00:33 เงี้ยมันมักจะเป็นสิ่งที่เราสะสางได้นะ
00:00:33 → 00:00:36 แต่บางครั้งเนี่ยมันก็เกิดการสะสมนะคะ
00:00:36 → 00:00:39 เช่นวันนี้เช้ามาเจออันนี้อีกแป๊บนึงเจอ
00:00:39 → 00:00:42 อันนั้นมันสะสมไปเรื่อยๆระหว่างวันในที่
00:00:42 → 00:00:44 สุดเนี่ยมันก็เกิดปัญหาขึ้นมาทั้งกับ
00:00:44 → 00:00:47 สุขภาพกายแล้วก็สุขภาพใจแล้วเราจะสู้กับ
00:00:47 → 00:00:52 ไมโครสยังไงนะคะดีที่อยู่เดียว Presented
00:00:52 → 00:01:01 by ให้รักดูแลชีวิตไทยประกันชีวิต
00:01:01 → 00:01:02 [เพลง]
00:01:02 → 00:01:05 สวัสดีค่ะคุณกำลังอยู่กับหมอผิงแพทย์หญิง
00:01:05 → 00:01:08 ธิดาการรุจิพัฒนกุลและ sle Being
00:01:08 → 00:01:11 podcast ที่จะทำให้คุณสนุกแล้วก็มีความ
00:01:11 → 00:01:14 สุขกับการอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้นค่ะถ้าถาม
00:01:14 → 00:01:17 คุณผู้ฟังว่าคิดว่าปัญหาทางสุขภาพที่
00:01:17 → 00:01:21 ระบาดร้ายแรงที่สุดระบาดไปทั่วโลกเลยใน
00:01:21 → 00:01:26 ศตวรรษที่ 21 เนี้ยคือปัญหาอะไรคะหลายๆคน
00:01:26 → 00:01:28 อาจจะบอกว่าโอ้ปัญหาระบาดก็นึกถึงโควิด
00:01:28 → 00:01:32 แต่จริงๆโควิดน่าจะจบไปแล้วล่ะมั้งคะ Who
00:01:32 → 00:01:34 นะคะหรือว่าองค์การอานามัยโลกเนี่ยได้บอก
00:01:34 → 00:01:37 ว่าจริงๆแล้วปัญหาสุขภาพที่มันระบาดร้าย
00:01:37 → 00:01:39 แรงที่สุดของยุคเนี้ยเป็นเรื่องของปัญหา
00:01:39 → 00:01:42 ทางจิตใจค่ะนั่นก็คือเรื่องของความเครียด
00:01:42 → 00:01:45 ปัญหาความเครียดทีเนี้ยพอเราพูดถึงความ
00:01:45 → 00:01:47 เครียดหรือที่ฝรั่งเรียกว่าสสนะคะเราก็
00:01:47 → 00:01:51 มักจะนึกถึงความเครียดแบบที่มันรู้ว่ามัน
00:01:51 → 00:01:55 คือความเครียดเช่นแบบอกฮากเปลี่ยนงานใหม่
00:01:55 → 00:01:59 ต้องย้ายประเทศสุนัขเสียกับดาวหมาอะไร
00:01:59 → 00:02:01 อย่างเงี้ยเราเนี้ยคือความเครียดที่มัน
00:02:01 → 00:02:06 แบบมันใหญ่มันชัดมันรู้นะคะทุกคนทราบเรา
00:02:06 → 00:02:09 ก็ทราบเพื่อนเราก็รู้แล้วก็จะมีการให้
00:02:09 → 00:02:13 ซัพพอร์ตจิตใจพาไปปลอบประโลมอะไรต่างๆ
00:02:13 → 00:02:15 นั่นมันคือความเครียดที่เห็นชัดหรือว่า
00:02:15 → 00:02:18 สตสที่ควรรู้จักกันดีอยู่แล้วแต่ว่าในวัน
00:02:18 → 00:02:21 เนี้ยหมอจะมาเล่าถึงความเครียดที่บางคน
00:02:21 → 00:02:24 อาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อนนั่นก็คือไมคร
00:02:24 → 00:02:27 stress มันเป็นความเครียดจิ๋วๆเล็กๆนะ
00:02:27 → 00:02:30 ไมโครใช่มั้ยทุกคนก็ทราบแล้วไมคร stress
00:02:30 → 00:02:33 เนี่ยคือความเครียดเล็กๆจิ๋วๆเลยความ
00:02:33 → 00:02:36 เครียดซ่อนเร้นที่เราเองก็เจอทุกวันแต่
00:02:36 → 00:02:39 เราอ่ะก็ไม่รู้ว่ามันเครียดนะคะมันเหมือน
00:02:39 → 00:02:42 เป็นความเครียดที่แบบมาๆไปๆมาเร็วไปเร็ว
00:02:42 → 00:02:45 ไม่รู้ตัวนะหรือว่าบางทีเราก็รู้แหลว่าเอ
00:02:45 → 00:02:47 มันก็เครียดนะเจออย่างงี้แต่ว่าเราก็ไม่
00:02:47 → 00:02:49 ได้คิดว่ามันจะมาเป็นประเด็นสาระสำคัญ
00:02:49 → 00:02:53 อะไรกับชีวิตกับสุขภาพเราซึ่งอาจจะเป็น
00:02:53 → 00:02:55 ความเครียดที่แบบเกิดขึ้นจากเหตุที่คุณ
00:02:55 → 00:02:59 ชินนะอย่างเช่นเนี่ยหมอขับรถบนถนนพระอราม
00:02:59 → 00:03:01 3 บ่อยบ้าบ้านหมออยู่แถวพระราม 3 เนาะ
00:03:01 → 00:03:03 ความเครียดนึงของคนพระราม 3 ก็คือว่าถนน
00:03:03 → 00:03:08 มันแบบปุปะปุมปัเอ๊ะขับๆอยู่ก็ปึ้งเอ๊ะรถ
00:03:08 → 00:03:11 จะพังมยอะไรอย่างเงี้ยนะคะก็เป็นความ
00:03:11 → 00:03:13 เครียดคุ้นชินมากเลยของคนพระราม 3 นะหรือ
00:03:13 → 00:03:16 ว่าแบบจะเป็นความเครียดจากคนคุ้นเคยเช่น
00:03:16 → 00:03:19 แบบอแฟนบ่นว่าเอ๊ะเออทำไมแบบไม่ซักผ้าไม่
00:03:19 → 00:03:22 ล้างจานอะไรอย่างเงี้ยเป็นความเครียดแบบ
00:03:22 → 00:03:24 เล็กๆน้อยๆนะหรือความเครียดแบบเห็ดคุ้น
00:03:24 → 00:03:27 ชินอยู่ๆแบบเจ้านายโทรมาหาแต่เช้าสั่งงาน
00:03:27 → 00:03:30 อะไรต่างๆอะไรเงี้ยจริงๆแล้วอ่ะเนื่องจาก
00:03:30 → 00:03:32 ความเครียดเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันนะ
00:03:32 → 00:03:34 ที่เราเจอเนี่ยมันมักจะเป็นสิ่งที่เรา
00:03:34 → 00:03:37 สะสางได้นะแต่บางครั้งเนี่ยมันก็เกิดการ
00:03:37 → 00:03:41 สะสมนะคะเช่นวันนี้เช้ามาเจออันนี้อีก
00:03:41 → 00:03:43 แป๊บนึงเจออันนั้นมันสะสมไปเรื่อยๆ
00:03:43 → 00:03:47 ระหว่างวันออมทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆในที่
00:03:47 → 00:03:49 สุดเนี่ยมันก็เกิดปัญหาขึ้นมาทั้งกับ
00:03:49 → 00:03:52 สุขภาพกายแล้วก็สุขภาพใจใครที่คิดว่าเอ๊
00:03:52 → 00:03:55 ฉันก็เป็นหรือเปล่าเนี่ยลองฟังตัวอย่าง
00:03:55 → 00:03:58 นึงนะคะคืออันเนี้ยต้องบอกเลยว่าหมอได้
00:03:58 → 00:04:00 ไอเดียแล้วก็อ่านเรื่องของ mro stress
00:04:00 → 00:04:02 เนี่ยมาจาก harvard bussiness Review
00:04:02 → 00:04:06 ซึ่งบทความน่าสนใจมากเยกตัวอย่างเอฟเฟค
00:04:06 → 00:04:08 ของ micr stress ให้เราฟังแบบเห็นภาพนะ
00:04:08 → 00:04:11 คะว่ามันเอฟเฟคเนี่ยมันเหมือนเอาหินโยนลง
00:04:11 → 00:04:15 ไปในน้ำแล้วน้ำก็กระเพื่อมพบๆๆคือไมโครส
00:04:15 → 00:04:17 ก็เหมือนกันมันเหมือนหินก้อนเล็กๆที่โยน
00:04:17 → 00:04:20 ลงมาแต่มันเกิดการกระเพื่อมพึบๆๆไปนะยัง
00:04:20 → 00:04:23 ไงบ้างอย่างเช่นยกตัวอย่างเรากำลังขับรถ
00:04:23 → 00:04:26 กลับบ้านอยู่รถก็ติดๆมันก็มีไมโครสจากรถ
00:04:26 → 00:04:30 ติดแล้วเราก็ตื้อดึงเอ๊ะเจ้านายสั่งงานนะ
00:04:30 → 00:04:33 คะ LINE มาสั่งงานพอได้เห็น LINE เจ้านาย
00:04:33 → 00:04:35 ก็เปิดดูเห็นว่าถูกสั่งงานปุ๊บก็เกิดความ
00:04:35 → 00:04:38 เครียดตรึงขึ้นมาอีกพอเครียดอันนี้ขึ้นมา
00:04:38 → 00:04:41 เราก็ต้องแจกจ่ายความเครียดเนาะเราก็ส่ง
00:04:41 → 00:04:44 ต่อไปสั่งลูกน้องนะคะว่าเอ๊ะต้องมาช่วย
00:04:44 → 00:04:46 กันทำหน่อยแล้วเนี่ยถูก CEO สั่งมาอย่าง
00:04:46 → 00:04:49 งู้นอย่างงี้ความเครียดก็กระเพื่อมไปยัง
00:04:49 → 00:04:51 ลูกน้องอีกลูกน้องก็จะต้องนั่งทำงานนอก
00:04:51 → 00:04:55 เวลางานเรากลับถึงบ้านเองเราก็แบบเอ๊รีบๆ
00:04:55 → 00:04:58 กินข้าวก็เกิดความเครียดจากการรีบกินข้าว
00:04:58 → 00:05:01 เพื่อที่จะมานั่งทำงานนะคะเพราะว่าเจ้า
00:05:01 → 00:05:05 นายให้ส่งงานพรุ่งนี้นะพอทำงานไปทำงานมา
00:05:05 → 00:05:08 ทำเสร็จละก็เห็นว่าเอ๊ะเราไม่ได้ใช้เวลา
00:05:08 → 00:05:10 กับแฟนเลยก็เกิดความเครียดกระเพื่อมขึ้น
00:05:10 → 00:05:13 อีกนะก็รู้สึกผิดก็นอนไม่หลับนะนอนไม่
00:05:13 → 00:05:15 หลับก็เกิดความเครียดขึ้นอีกเอ๊ะทำไมฉัน
00:05:15 → 00:05:17 นอนไม่หลับเนี่ยมันก็เกิดการกระเพื่อม
00:05:17 → 00:05:21 เป็นต่อนๆๆมาเรื่อยๆในความเครียดตรงนี้
00:05:21 → 00:05:24 ทั้งวันนะเสร็จแล้วพอแฟนแบบเอ๊ะมาทักว่า
00:05:24 → 00:05:26 เออเนี่ยวันนี้แบบเครียดจังอ้าเราก็
00:05:26 → 00:05:29 เครียดอีกที่แฟนทักนะคะแล้วมันก็กลายเป็น
00:05:29 → 00:05:33 ว่าเหมือนระเบิดเวลาสุดท้ายก็ตู้มทะเลาะ
00:05:33 → 00:05:35 กับแฟนเกิดการเครียดต่อไปอีกนะอันนี้เป็น
00:05:35 → 00:05:38 ตัวอย่างที่หมอว่าหลายๆคนฟังแล้วก็อาจจะ
00:05:38 → 00:05:42 คุ้นๆเพราะว่าปัญหาของไอ้ไมโครสเนี่ยคือ
00:05:42 → 00:05:45 ถ้าเราอธิบายในทางชีววิทยาเนี่ยค่ะเขาบอก
00:05:45 → 00:05:47 ว่ามันมีความต่างระหว่างไมคร stress กับ
00:05:47 → 00:05:51 สสจริงๆคือสสจริงๆคือความเครียดที่เห็น
00:05:51 → 00:05:53 ได้ชัดอย่างที่หมอบอกไปตอนต้นเนาะเวลามัน
00:05:53 → 00:05:55 เกิดความเครียดแบบนั้นจริงๆเนี่ยสมองเรา
00:05:55 → 00:05:57 รับรู้ว่ามันคือความเครียดนะสมองเราก็จะ
00:05:58 → 00:06:01 เข้าสู่โหมด Fight of ไลนะคะก็จะพยายาม
00:06:01 → 00:06:03 ที่จะสู้กับความเครียดนั้นพยายามที่จะหา
00:06:03 → 00:06:07 ทางออกพยายามที่จะร้องขอซัพพอร์ตจาก
00:06:07 → 00:06:08 เพื่อนหรือพยายามที่จะทำอะไรเพื่อที่จะ
00:06:09 → 00:06:11 ต่อสู้ให้ตัวเองหลุดพ้นจากสภาวะความ
00:06:11 → 00:06:14 เครียดนั้นๆแต่ไอ้ไมคร stress เนี่ยเขา
00:06:14 → 00:06:18 บอกว่ามันเหมือนใต้เรดารของสมองคือสมอง
00:06:18 → 00:06:20 เราไม่ได้ register ว่าสิ่งเหล่าเนี้ย
00:06:20 → 00:06:22 เป็นความเครียดที่จะต้องหาทางออกอะไรมาก
00:06:22 → 00:06:24 นักมันเกิดขึ้นเนี่ยมันก็เกิดการเปลี่ยน
00:06:24 → 00:06:26 แปลงกับร่างกายเช่นบางทีไมโครสสะสมไป
00:06:26 → 00:06:30 เรื่อยๆความดันก็ขึ้นอัตราการเต้นของหัว
00:06:30 → 00:06:32 ใจเพิ่มขึ้นนะคะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับ
00:06:32 → 00:06:35 ของฮอร์โมนต่างๆนะคะซึ่งสมองเราอ่ะไม่ได้
00:06:35 → 00:06:38 รับรู้ในการที่จะพยายามจัดการกับไมโครส
00:06:38 → 00:06:40 เท่าไหร่นะครับพอมันสะสมไปเรื่อยๆสุดท้าย
00:06:40 → 00:06:43 แล้วมันก็นำมาสู่การเพิ่มขึ้นของความ
00:06:43 → 00:06:45 เสี่ยงของโรคต่างๆไม่ว่าจะเป็นไมเกรนความ
00:06:45 → 00:06:49 ดันโลหิตสูงโรคในกลุ่ม ncd นะคะโรคกดไหล
00:06:49 → 00:06:52 ย้อนเพราะว่าเวลาเราสะสมไปเรื่อยๆเนี่ย
00:06:52 → 00:06:54 คือต้องเข้าใจว่าร่างกายเรามันก็จะมีขีด
00:06:54 → 00:06:58 จำกัดของมันมันอาจจะแบบไมโครสเครียดเล็กๆ
00:06:58 → 00:07:00 ที่ 1 เครียดเล็กๆที่ 2 เครียดเล็กๆที่ 3
00:07:00 → 00:07:03 พอวันนั้นทั้งวันเราไปเจอสัก 16 เครียด
00:07:03 → 00:07:06 เล็กๆเนี่ยมันก็กลายเป็นตู้มเกิดความ
00:07:06 → 00:07:08 เครียดขึ้นมาในร่างกายเราพอฟังไปแล้วก็
00:07:08 → 00:07:13 โอ้โหจริงๆหลายคนอาจจะมีโดยไม่รู้ตัวนะคะ
00:07:13 → 00:07:15 แต่ว่าก็จะได้มารู้ตัวจาก podcast นี่
00:07:15 → 00:07:18 แหละถามว่าแหล่งของความเครียดหรือไมโครส
00:07:18 → 00:07:20 เนี่ยส่วนใหญ่มันมีอะไรบ้างนะคะเขาก็บอก
00:07:20 → 00:07:23 ว่ามันอาจจะเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆได้ว่า 1
00:07:23 → 00:07:26 คือมันเป็นความเครียดที่ทำให้เราทำอะไร
00:07:26 → 00:07:28 ที่ควรจะเสร็จแล้วมันทำไม่เสร็จนะคะเช่น
00:07:28 → 00:07:31 เราจะต้องต้องทำสิ่งนี้แต่ว่ามันมีอีก
00:07:31 → 00:07:33 สิ่งนึงเข้ามาทำให้เราทำอีกสิ่งนึงไม่
00:07:33 → 00:07:36 เสร็จนะคะส่งงานไม่เสร็จตามเวลาหรือไม่
00:07:36 → 00:07:38 สามารถทำตามที่เราตั้งใจเอาไว้ได้แล้วก็
00:07:38 → 00:07:42 เกิดไมโครสขึ้นมาในใจโดยไม่รู้ตัวนะคะ
00:07:42 → 00:07:45 หรือว่า 2 คือมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้
00:07:45 → 00:07:49 ใจเราไม่สงบนะคะเช่นวันนี้จะทำงานอยู่
00:07:49 → 00:07:51 บ้านนิติคอนโดบอกว่าวันนี้น้ำไม่ไหลมันก็
00:07:52 → 00:07:54 เกิดไมโครสขึ้นมาเอ๊ะฉันจะอยู่บ้านน้ำก็
00:07:54 → 00:07:57 ไม่ไหลนะคะหรือว่าห้องข้างๆต่อเติมเสียง
00:07:57 → 00:08:00 ดังก๊อกๆๆก็เกิดไมโครสขึ้นมาคืออะไรก็ตาม
00:08:00 → 00:08:04 ที่ทำให้ใจมันไม่ได้สงบหมวดที่ 3 ก็คือใด
00:08:04 → 00:08:06 ๆที่ทำให้เรารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
00:08:06 → 00:08:09 หรือว่าเสียความมั่นใจเช่นปกติเราเป็นคน
00:08:09 → 00:08:12 ชอบใส่รองเท้าผ้าใบแต่วันเนี้ยเราไป
00:08:12 → 00:08:15 สัมภาษณ์งานเราใส่รองเท้าส้นสูงอ่าเราก็
00:08:15 → 00:08:18 อาจจะเกิดไมโครสเล็กๆขึ้นมาในความที่แบบ
00:08:18 → 00:08:20 มันไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเนาะแล้วก็ไม่
00:08:20 → 00:08:23 สะพายเท้าด้วยอย่างเงี้ยค่ะก็เป็นไมโครส
00:08:23 → 00:08:26 ที่เกิดขึ้นเรารู้จักแล้วว่าไมโครสคือ
00:08:26 → 00:08:29 อะไรนะหมวดหมู่ของมันเกิดจากอะไรได้บ้าง
00:08:29 → 00:08:33 แล้วเราจะสู้กับไมคร stress ยังไงนะคะ
00:08:33 → 00:08:37 เค้าก็พบว่าวิธีการก็คือ 1 เราต้องหัดเน
00:08:37 → 00:08:40 นะหัดที่จะพูดไม่แบบเออไม่เอาไม่รับทำไม่
00:08:40 → 00:08:44 ทันหัดที่จะพูดเนกับคนที่ทำให้เราเกิด
00:08:44 → 00:08:47 ความเครียดขึ้นอย่าตอบ Yes ไปทุกอย่าง
00:08:47 → 00:08:50 แล้วก็กลับมาเครียดกับตัวเอง 2 ก็คือ Say
00:08:50 → 00:08:52 No to distraction นะคะคือต้องยอมรับ
00:08:52 → 00:08:54 ว่าทุกวันเนี้ยบางทีเราก็จะมีอะไรที่ทำ
00:08:54 → 00:08:57 ให้เราแบบ distract หรือว่าไม่สามารถ
00:08:57 → 00:09:00 โฟกัสได้เช่นตั้งใจจะเขียนบทความนี้ให้
00:09:00 → 00:09:02 เสร็จแต่ว่าเดี๋ยวก็จะมี LINE ตืดึ่งตื
00:09:02 → 00:09:05 ดึ่งมามันก็จะเกิด distraction โทรศัพท์
00:09:05 → 00:09:09 ก็เข้ามาสุดท้ายเราก็รับนู่นทำนี่แล้วก็
00:09:09 → 00:09:11 ทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำไม่เสร็จก็เกิดเป็น
00:09:11 → 00:09:14 ไมคร stress ขึ้นดังนั้นเนี่ยเนกับ
00:09:14 → 00:09:17 distraction หัดที่จะปิด Notification
00:09:17 → 00:09:19 โทรศัพท์บ้างปิดเสียงมือถือบ้างมันก็จะ
00:09:19 → 00:09:23 ช่วยให้ไมคร stress ลดลงข้อ 2 อย่าทำให้
00:09:23 → 00:09:26 คนอื่นเครียดคือบางครั้งเนี่ยเรามีความ
00:09:26 → 00:09:29 เครียดสะสมเล็กๆมากลับมาบ้านรถติดสิ่งที่
00:09:29 → 00:09:32 ทำมันคืออะไรคือก็ทำแบบทำน้ำเสียงไม่ดี
00:09:32 → 00:09:36 ใส่แฟนทำให้แฟนเองก็เกิดไมโครสขึ้นไปๆมาๆ
00:09:36 → 00:09:38 มันก็กลายเป็นไิคือทะเลาะกันนะดังนั้น
00:09:38 → 00:09:41 เนี่ยเคว่าถ้าเราแผ่รัศมีความเครียดของ
00:09:41 → 00:09:44 เราไปให้คนข้างๆค่ะคนข้างๆเขาจะแผ่รัศมี
00:09:44 → 00:09:47 ความเครียดกลับมาให้เราเช่นกันสถานการณ์
00:09:47 → 00:09:50 จะยิ่งแย่ลงดังนั้นพยายามอย่าไปแผ่รัศมี
00:09:50 → 00:09:52 ความเครียดให้กับคนอื่นอย่าทำคนอื่น
00:09:52 → 00:09:56 เครียดข้อ 3 ค่ะหัดลอยตัวเหนือปัญหาค่ะ
00:09:56 → 00:09:58 เกิดปัญหาอะไรเล็กๆน้อยๆขึ้นมาก็หัดลอย
00:09:58 → 00:10:01 ตัวเหนือปัญหาขึ้นมาเช่นขับไปปึ๊บรถติด
00:10:01 → 00:10:04 อุ๊ยตัดสินใจแบบเลี้ยวผิดว่ะถ้าไปอีกทาง
00:10:04 → 00:10:06 นะมันจะต้องเร็วกว่าแน่เลยแทนที่จะไป
00:10:06 → 00:10:10 เครียดไมโครสกับเรื่องนั้นเราก็ลอยตัว
00:10:10 → 00:10:12 เหนือปัญหาอ้าไม่เป็นไรเนาะอย่างมากก็ช้า
00:10:13 → 00:10:16 ไปกว่าเดิม 15-20 นาทีเปิดเพลงฟังอะไรก็
00:10:16 → 00:10:18 ได้หัดที่จะลอยตัวเหนือปัญหากับความ
00:10:18 → 00:10:22 เครียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้พอรู้ตัวว่าเฮ้ย
00:10:22 → 00:10:24 เราเกิดเรื่องนี้ขึ้นปุ๊บเรากำลังไมโครส
00:10:24 → 00:10:27 อยู่อ่ะให้ลอยตัวเหนือปัญหาขึ้นมาค่ะมัน
00:10:27 → 00:10:30 ก็จะช่วยได้นะคะอันนี้คือ 3 ข้อที่ในบท
00:10:30 → 00:10:33 ความเขาแนะนำไว้นะคะนอกจากนี้เนี่ยยังมี
00:10:33 → 00:10:37 กลุ่มนักวิจัยที่เขาได้ไปวิจัยในผู้
00:10:37 → 00:10:40 บริหารนะคะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
00:10:40 → 00:10:42 ใหญ่ๆทั่วโลก 30 บริษัทนะคะโดยเขาเอาผู้
00:10:42 → 00:10:44 บริหาร 300 คนเนี่ยมาวิจัยเกี่ยวกับ
00:10:45 → 00:10:46 เรื่องของความเครียดการบริหารจัดการกับ
00:10:46 → 00:10:49 ความเครียดเรื่องของไมคร stress เาก็พบ
00:10:49 → 00:10:51 ว่าผู้บริหารเนาะแน่นอน 300 คนเนี่ยส่วน
00:10:51 → 00:10:53 ใหญ่อ่ะเครียดนะคะจะเครียดรู้ตัวบ้าง
00:10:53 → 00:10:55 เครียดไม่รู้ตัวบ้างก็อีกเรื่องนึ่งแต่
00:10:55 → 00:10:58 มันจะมีคนบางคนที่ไม่ค่อยเครียดเลยทั้งๆ
00:10:58 → 00:11:01 ที่งานก็หนักก็แบบภาระงานเยอะแต่ว่าเอ๊
00:11:01 → 00:11:04 ทำไมดูเป็นคนสามารถทำสมดุลชีวิตได้ดีจัง
00:11:04 → 00:11:06 เาก็เลยไปศึกษาดูว่าคนกลุ่มนี้มีอะไรที่
00:11:06 → 00:11:09 ต่างจากคนอื่นเขาก็พบว่าคนกลุ่มเนี้ยมัก
00:11:09 → 00:11:13 จะเป็นกลุ่มที่รู้จักไมโครสนะรู้ว่า
00:11:13 → 00:11:16 ไมโครสคืออะไรแล้วก็เหมือนเรารู้จักศัตรู
00:11:16 → 00:11:18 อ่ะมันก็จะชนะไปละครึ่งนึงแล้วก็ 2 คน
00:11:18 → 00:11:21 กลุ่มเนี้ยมักจะมีความคิดว่าเอ้อเล็กก็
00:11:21 → 00:11:24 คือเล็กคือปัญหามันคือปัญหาเล็กก็ไม่เห็น
00:11:24 → 00:11:26 จะต้องไปอะไรกับมันเลยไม่ไปเครียดกับ
00:11:26 → 00:11:31 ปัญหานะคะแล้วก็ 3 ก็คือมักจะมีการที่จะ
00:11:31 → 00:11:34 ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นนะคะมีเพื่อนมี
00:11:34 → 00:11:37 ปาร์ตี้มีสังคมนะคะก็จะช่วยลดความเครียด
00:11:37 → 00:11:40 ลงได้ 4 ก็คือว่าหลายๆคนเนี่ยมีหลายด้าน
00:11:40 → 00:11:43 ในชีวิตไม่ได้ผูปิ่นโตไว้กับด้านใดด้าน
00:11:43 → 00:11:45 หนึ่งเช่นงานเนี่ยเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่า
00:11:45 → 00:11:48 เขาต้องทุ่มแบบทุกอย่างชีวิตจิตใจฉันคือ
00:11:48 → 00:11:51 งานนี้แต่เขาก็อาจจะมีงานที่ 2 ที่ 3 ที่
00:11:51 → 00:11:54 เป็นจ๊อบเล็กๆที่ทำให้เขาได้สลับไปทำบ้าง
00:11:54 → 00:11:57 นะคะหรือว่ากับคนเนี่ยเขาก็จะไม่ได้ผูก
00:11:57 → 00:11:59 ปิ่นโตไว้กับคนคนเดียวไม่ได้หมายหมายความ
00:11:59 → 00:12:01 ว่าให้มีแฟนหลายๆคนนะแต่หมายความว่าคือ
00:12:01 → 00:12:04 ไม่ใช่ว่าชีวิตฉันมีแต่แฟนแต่ว่าเราก็จะ
00:12:04 → 00:12:06 มีเพื่อนคนที่ 1 เพื่อนคนที่ 2 ทำให้
00:12:06 → 00:12:09 ชีวิตเนี่ยมันมีหลายๆด้านในชีวิตนะคะแล้ว
00:12:09 → 00:12:11 นอกจากนี้เนี่ยอีกอันนึงที่จะช่วยสู้กับ
00:12:11 → 00:12:15 ไมโครสได้ดีเลยก็คือเรื่องของการหัดที่จะ
00:12:15 → 00:12:18 Deep Play นะคะก็คือหลายๆคนอาจจะเคยฟัง
00:12:18 → 00:12:20 Concept Deep work เนาะก็คือเวลาทำงาน
00:12:20 → 00:12:23 ให้ปิดโนติทุกอย่างเพื่อที่จะตั้งใจทำงาน
00:12:23 → 00:12:25 ใช่มั้ยคะอีก Concept นึงคือ Deep Play
00:12:25 → 00:12:28 คือเวลาเล่นหรือเวลาคุณพักอ่ะคุณก็ควรจะ
00:12:28 → 00:12:31 ไปกับสิ่งนั้นเต็มที่ก็คือไม่ต้องสนใจ
00:12:31 → 00:12:33 เรื่องงานเหมือนกันนะคะมันก็จะช่วยให้เรา
00:12:33 → 00:12:36 เนี่ยสู้กับไมคร stress ได้ทั้งหมดทั้ง
00:12:36 → 00:12:39 มวลเนี่ยก็คือเรื่องของวิธีการนะคะที่เรา
00:12:39 → 00:12:43 จะต่อสู้กับไมโครสยังไงทั้งภาคทฤษฎีแลก็
00:12:43 → 00:12:45 ภาคปฏิบัติจากคนที่ประสบความสำเร็จในการ
00:12:45 → 00:12:48 ต่อสู้กับไมโครสหมอหวังว่าคนที่ฟังในวัน
00:12:48 → 00:12:51 เนี้ย 1 คือจะเข้าใจแล้วว่าไมโครสคืออะไร
00:12:51 → 00:12:54 และ 2 คือเมื่อเกิดไมคร stress ขึ้นใน
00:12:54 → 00:12:57 ชีวิตประจำวันคุณจะจับความรู้สึกนั้นได้
00:12:57 → 00:13:00 แล้วก็สู้กับมันนะคะ 3 ก็คือเอาแนวทางที่
00:13:01 → 00:13:03 หมอเล่าให้ฟังทั้งหมดเนี่ยเอาไปปฏิบัติ
00:13:03 → 00:13:05 ใช้นะคะเพื่อให้จัดการกับความเครียดใน
00:13:05 → 00:13:08 ชีวิตประจำวันเครียดน้อยลงชีวิตก็ดีขึ้น
00:13:08 → 00:13:12 สุขภาพใจดีสุขภาพกายก็ดีขึ้นนะคะแล้วก็
00:13:12 → 00:13:15 อย่าลืมนะคะถ้าเห็นว่าคนที่คุณรักคนไหน
00:13:15 → 00:13:17 เนี่ยเขาอาจจะกำลังเครียดอาจจะมีไมโครส
00:13:17 → 00:13:21 อยู่ส่ง podcast นี้ไปให้เขาฟังค่ะให้รัก
00:13:21 → 00:13:23 ดูแลชีวิต
00:13:23 → 00:13:26 ค่ะอย่าลืมนะคะ Single weing เราเนี่ยจะ
00:13:26 → 00:13:28 อัปเดตทุกๆวันศุกร์ตามช่องทางต่างๆนะคะ
00:13:28 → 00:13:32 ไม่ไม่ว่าจะเป็น YouTube นะคะ spotify
00:13:32 → 00:13:34 หรืออื่นๆใดๆก็ตามช่องนางที่คุณฟัง
00:13:34 → 00:13:37 podcast นะคะก็กด Subscribe นะคะฟังหมอ
00:13:37 → 00:13:39 ทุกวันศุกร์นะคะอาทิตย์ละครั้งหรือจะกด
00:13:39 → 00:13:41 เอาไว้แล้วฟังวันเสาร์อาทิตย์ก็ได้นะคะ
00:13:41 → 00:13:44 หมอหวังว่าสิ่งที่หมอเอามาเล่าในทุกๆ
00:13:44 → 00:13:46 ศุกร์นี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้ฟังทุกคน
00:13:46 → 00:13:49 ค่ะขอบคุณมากๆ
00:13:49 → 00:13:54 ค่ะ Single Being podcast about
00:13:54 → 00:13:57 Living your Best Single Life โดย
00:13:57 → 00:14:01 หมอผิงแพทย์หญิงที่ารรุจิพัฒนกุล
00:14:01 → 00:14:06 ดีที่อยู่เดียว Presented by ให้รักดูแล
00:14:06 → 00:14:11 ชีวิตไทยประกันชีวิต