ความกลัวที่เกินกว่าปกติเรียกว่าอะไร

โฟเบีย และ โรคกลัวเสียงในเด็ก | โรงหมอ

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0700:00:10 ในทางจิตวิทยานะครับหรือจิตเวชเนี่ยมันจะ

00:00:1000:00:13 เป็นความกลัวที่มันเกินกว่าปกติกลัวใน

00:00:1300:00:16 สิ่งที่อาจจะไม่สมเหตุสมผลกลัวในสิ่งที่

00:00:1600:00:18 ถึงรู้แล้วว่าคนอื่นจะมองว่ามันไม่เห็น

00:00:1800:00:20 น่ากลัวอย่างนั้นเลยเขาก็ไม่สามารถที่จะ

00:00:2000:00:23 หยุดความกลัวที่เกิดขึ้นได้ซึ่งสิ่งที่จะ

00:00:2300:00:25 เกิดขึ้นคือว่านอกจากอารมณ์ความรู้สึกคือ

00:00:2500:00:28 ความกลัวเป็นความรู้สึกเนอะพอมีความรู้

00:00:2800:00:30 สึกกลัวขึ้นมาเนี่ยมันจะตาม้าคือเรื่อง

00:00:3000:00:32 ของการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย

00:00:3200:00:36 เช่นเขาอาจจะฝึกตระหนกเนาะตกใจกลัวหายใจ

00:00:3600:00:40 เร็วขึ้นแน่นหน้าอกรู้สึกเหงื่อแต่รู้สึก

00:00:4000:00:42 อยากจะหนีออกจากบริเวณนั้นบางคนอาจจะยืน

00:00:4200:00:45 นิ่งแล้วร้องไห้ก็ได้ในเมื่อเขาเจอกับ

00:00:4500:00:47 สิ่งเอาที่เขารู้สึกกลัวครับ

00:00:4700:00:49 [เพลง]

00:00:4900:00:52 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย

00:00:5200:00:59 การโรงหมอกฤษดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ

00:00:5900:01:01 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย

00:01:0100:01:04 การโรงหมอทาง Thai PBS podcast ค่ะวัน

00:01:0400:01:07 นี้เรามาพบกันเช่นเคยนะคะติดตามสาระวัน

00:01:0700:01:10 นี้เราคุยกันถึงเรื่องของโรคกลัวเสียงใน

00:01:1000:01:13 เด็กนะคะเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรแล้วก็

00:01:1300:01:15 เรื่องของความกลัวเสียงเนี่ยมันเป็นยังไง

00:01:1500:01:18 นะคะเดี๋ยวคุยกับดรสุพัฒน์แสนแจ่มใส

00:01:1800:01:21 อาจารย์และนั้นจิตวิทยาเด็กสถาบันแห่ง

00:01:2100:01:23 ชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว

00:01:2300:01:26 มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะ

00:01:2600:01:27 สวัสดี

00:01:2700:01:31 เราคุยกันเป็นเรื่องของความกลัวนะคะความ

00:01:3100:01:33 กลัวที่เคยได้ยินมันจะมีคำว่า phobia

00:01:3300:01:36 อยู่ด้วยตลอดเลยทีนี้อยากจะให้อาจารย์ได้

00:01:3600:01:38 ช่วยอธิบายคำว่า phobia ให้ฟังหน่อยค่ะ

00:01:3800:01:41 ว่าความหมายนี้อย่างของเขานี่คืออะไรคะก็

00:01:4100:01:43 ถ้าโฟร์เบียร์เนี่ยนะครับในๆในทาง

00:01:4300:01:45 จิตวิทยานะครับหรือจิตเวชเนี่ยมันก็เป็น

00:01:4500:01:49 ความกลัวที่มันเกินกว่าปกตินะครับกลัวใน

00:01:4900:01:52 สิ่งที่อาจจะไม่สมเหตุสมผลครูในสิ่งที่

00:01:5200:01:55 ถึงรู้แล้วว่าคนอื่นอาจจะมองว่าเฮ้ยมัน

00:01:5500:01:57 ไม่เห็นน่ากลัวอย่างนั้นเลยเขาก็ไม่

00:01:5700:01:59 สามารถที่จะหยุดความกลัวที่เกิดขึ้นได้

00:02:0000:02:02 ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือว่านอกจากอารมณ์

00:02:0200:02:04 ความรู้สึกคือความกลัวเป็นความรู้สึกเนอะ

00:02:0400:02:07 นะครับพอมีความรู้สึกกลัวขึ้นมาเนี่ยมัน

00:02:0700:02:09 จะตาม้าคือเรื่องของการมีเกิดการเปลี่ยน

00:02:0900:02:12 แปลงทางด้านร่างกายเช่นเขาอาจจะรู้สึก

00:02:1200:02:16 ตระหนกเนาะตกใจกลัวหายใจเร็วขึ้นรู้สึก

00:02:1600:02:19 แน่นหน้าอกรู้สึกเหงื่อแตกรู้สึกอยากจะ

00:02:1900:02:22 หนีออกจากบริเวณนั้นบางคนอาจจะยืนนิ่ง

00:02:2200:02:25 แล้วร้องไห้ก็ได้ในเมื่อเขาเจอกับสิ่งเอา

00:02:2500:02:28 ที่เขารู้สึกกลัวครับซึ่งความกลัวของแต่

00:02:2800:02:31 ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกใช่ไหมคะแล้วแต่แต่

00:02:3100:02:35 ว่าคำว่าเกินกว่าปกติค่ะอาจารย์ทีนี้แต่

00:02:3500:02:37 ละคนเกินกว่าปกติอาจจะไม่เท่ากันเพราะว่า

00:02:3700:02:40 อย่างบางทีเรารู้สึกว่าบางคนเฮ้ยไม่เห็น

00:02:4000:02:43 จะมีอะไรเลยแต่ในขณะบางคนอุ้ยกลัวมากเลย

00:02:4300:02:46 อย่างเงี้ยความเกินผิดปกติอ่ะมากกว่าปกติ

00:02:4600:02:49 นี้มันต้องแบบประมาณไหนคะพอจะประมาณได้

00:02:4900:02:53 ไหมคะยกตัวอย่างเช่นบางคนกลัวสุนัขละกัน

00:02:5300:02:55 ซึ่งแต่ละคนก็สรุปไม่เห็นหน้ากูเลยนะรัก

00:02:5500:02:59 ไม่ใช่ครับแต่ผมก็จะมีความกลัวและบางมาก

00:02:5900:03:02 กว่าปกติคนที่ไม่กลัวเลยก็เราก็ไม่ข้ามไป

00:03:0200:03:05 สำหรับคนที่กลัวก่อนกลัวแบบกลัวกลัวสุนัข

00:03:0500:03:07 เราแน่นอนเขาอาจจะเคยมีประสบการณ์ในการ

00:03:0700:03:11 ถูกสถานการณ์หรือจู่โจมเนาะเขามี

00:03:1100:03:14 ประสบการณ์มาเพราะเขาก็ถูกกัดไปทีนี้เขา

00:03:1400:03:16 ก็จะมีความมาเจอสุนัขที่ก็แปลกหน้าไม่

00:03:1600:03:20 คุ้นเคยเขาก็รู้สึกระวังนะว่าจะมากัดเรา

00:03:2000:03:23 ไหมแต่ถ้าเจ้าขอสุนัขหรืออาจจะเป็นเป็น

00:03:2300:03:27 อ่ารู้จักกันเอ่อเจ้าของบอกว่าอ๋อตรงนี้

00:03:2700:03:29 ไม่กัดหรอกเข้ามาได้มันเอาอย่างนี้แหละ

00:03:2900:03:31 เนี่ยเดี๋ยวจับไว้ไม่กัดหรอกเขาก็ฝึก

00:03:3100:03:35 ประเมินแล้วว่าเฮ้ยเออเจ้าของอยู่ก็แล้ว

00:03:3500:03:37 ก็ไม่เห่าด้วยแต่หาดิ๊กๆๆเลย

00:03:3700:03:40 เขาก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลก็คือไม่น่า

00:03:4000:03:43 จะกัดประเมินแล้วเขาก็เลยเข้าไปหาสุนัข

00:03:4300:03:46 หรือเดินผ่านเจ้าสำนักคนนั้นได้นั่นคือ

00:03:4600:03:48 เพราะว่ากลัวปกติที่เราสามารถกลัวได้

00:03:4800:03:50 เพราะเรามีประสบการณ์ที่ไม่ดีหรืออาจจะ

00:03:5000:03:52 กลัวในสิ่งอื่นที่เราอาจจะเคยได้ยินมาว่า

00:03:5200:03:55 มันอันตรายน่ากลัวแต่ว่าพอมีคำอธิบายมีคน

00:03:5500:03:58 ยืนยันว่ามันโอเคนะเขาก็สามารถที่จะเอา

00:03:5800:04:00 ชนะความกลัวนั้นได้นั่นคือความกลัวแบบ

00:04:0000:04:04 ปกติแต่ที่คำว่าเกินก็คือว่าต่อให้คนพูด

00:04:0400:04:08 ยืนยันด้วยหลักฐานด้วยสิ่งหนึ่งต่างหาก

00:04:0800:04:10 ว่ามันปลอดภัยนะมันไม่เป็นอันตรายนะเขาก็

00:04:1000:04:13 ยังรู้สึกว่าอยากไม่อยากจะเผชิญกับสิ่ง

00:04:1300:04:15 เหล่านั้นไม่อยากกลับไปเจอสถานการณ์นั้น

00:04:1500:04:18 สุนัขเนี่ยไม่มันน่าเนี่ยมันไม่เคยกัดใคร

00:04:1800:04:21 มาก่อนเลยเขาก็รู้สึกไม่เอาอ่ะนี่เขาก็

00:04:2100:04:23 คือไม่เข้าบ้านแล้วแหละยอมให้ยืนคุยหน้า

00:04:2300:04:26 บ้านก็ได้อะไรเงี้ยครับเป็นลักษณะที่ที่

00:04:2600:04:29 มันรบกวนรบกวนต่อชีวิตประจำวันของเขาก็

00:04:3000:04:32 คือในเชิงจิตวิทยาเนี่ยเราจะมองว่าเป็น

00:04:3200:04:34 โรคหรือเปล่าเนี่ยนะครับก็คือพิจารณาว่า

00:04:3400:04:37 อาการที่เกิดขึ้นเนี่ยก็คือ 1 ก็คือมันรบ

00:04:3700:04:40 กวนต่อการใช้ชีวิตรบกวนต่อการมี

00:04:4000:04:43 ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรบกวนต่อการทำงานของ

00:04:4300:04:46 เขารบกวนต่อการดูแลสุขอนามัยตัวเองอันนี้

00:04:4600:04:49 คือจะพิจารณาถึงว่าความเป็นโรคงั้นในแง่

00:04:4900:04:52 ของความกลัวผิดปกติก็คือการที่เขากลัวจน

00:04:5200:04:54 ทำให้เขาเนี่ยขาดโอกาสอะไรบางอย่างไปใน

00:04:5400:04:56 ชีวิตได้อย่างนี้ครับอ๋อเรียกว่าถ้ามันมี

00:04:5600:04:59 ผลกระทบและตัวเขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัย

00:04:5900:05:02 เริ่มรู้สึกว่าแบบมันมีความวิตกกังวลที่

00:05:0200:05:05 จะเข้าหาเนี่ยเขาก็อันนั้นก็คือโฟเบียละ

00:05:0500:05:08 ความกลัวที่เกินกว่าปกติไปแล้วในหลายๆ

00:05:0800:05:11 อย่างใช่ครับแล้วก็รวมกับการที่มีการ

00:05:1100:05:13 เปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาทางด้านร่างกายเกิด

00:05:1300:05:15 ขึ้นด้วยนะครับอย่างที่ได้เรียนไปทีนี้

00:05:1500:05:19 อาจารย์คะแล้วคือมันเกิดจากการที่เรามี

00:05:1900:05:23 ประสบการณ์แย่ๆกับสิ่งนั้นหรอคะโดยโดย

00:05:2300:05:26 ส่วนใหญ่น้ำหนักก็จะเหมือนเอ่อปัจจัยที่ 1

00:05:2600:05:29 ก็คือมีประสบการณ์ในวัยเด็กหรืออาจจะเป็น

00:05:2900:05:32 การตั้งแต่ในวัยเด็กนะครับที่เนี่ยครับใน

00:05:3200:05:36 ทางลบนะครับเพราะถ้าเกิดการเชื่อมโยงว่า

00:05:3600:05:40 เมื่อตอนนั้นทำสิ่งนี้มันทำมาพร้อมกับ

00:05:4000:05:43 ด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีรู้สึกกลัวรู้สึก

00:05:4300:05:48 ตกใจเช่นนายในยุคนึงเนาะก็จะมีกากเด็ก

00:05:4800:05:51 ดื้อไม่ดั่งใจเด็กงอแงเนี่ยเขาก็จะมีการ

00:05:5100:05:54 แบบทำๆเอ้าท์แล้วโดยเอาเด็กไปไว้ในพื้น

00:05:5400:05:56 ที่ที่เก็บตัวเช่น

00:05:5600:05:59 บางเคสนะครับไปในไว้ในห้องใต้บันไดบ้างใน

00:06:0000:06:02 ห้องน้ำบ้างขังในห้องน้ำบ้างซึ่งเด็กก็จะ

00:06:0200:06:05 เชื่อมโยงว่าเออเขาถูกลงโทษแล้วเขาก็ต้อง

00:06:0500:06:07 ไปอยู่ตรงนี้มันก็เลยเป็นความรู้สึกกลัว

00:06:0700:06:10 รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมานั้นเด็กก็จะกัด

00:06:1000:06:13 เกิดการเชื่อมโยงกันคนที่แคบกลัวที่มืด

00:06:1300:06:16 ขึ้นมาได้แล้วก็เอสโกสุนัขเมื่อกี้หรือ

00:06:1600:06:20 กลัวสัตว์อื่นๆก็อาจจะเคยถูกถูกทำร้ายมา

00:06:2000:06:23 ก่อนในวัยเด็กหรือบางคนเราจะอาจจะเคยเจอ

00:06:2300:06:26 เคสที่แปลกๆโก๊ะผลไม้บางอย่างสมมตินะครับ

00:06:2600:06:30 มันอาจจะเป็นในวัยเด็กที่เขากินผลไม้นั้น

00:06:3000:06:33 รสชาติแล้วติดคอหายใจไม่ออกแล้วก็รู้สึก

00:06:3300:06:35 ตกใจแบบเหมือนตัวเองจะแบบหายใจไม่ออกขึ้น

00:06:3500:06:36 มาก็อาจจะเกิด

00:06:3600:06:39 การเชื่อมโยงตรงนั้นขึ้นมาได้

00:06:3900:06:44 แล้วก็มีอีกมุมนึงที่เอ่ออาจจะมีงานวิจัย

00:06:4400:06:47 นะครับที่พบว่าเอ่อความผิดปกติของยีนส์

00:06:4700:06:51 บางตำแหน่งในร่างกายของบุคคลเนี่ยนะครับ

00:06:5100:06:53 ก็จะมีความสัมพันธ์กับเอ่อโรคกลุ่มกังวล

00:06:5400:06:57 โรคกลุ่มกลัวเกี่ยวข้องด้วย

00:06:5700:07:00 อันนี้ก็คือถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องของยีน

00:07:0000:07:02 ที่มันเป็นเกี่ยวกับโครโมโซมอันนั้นมัน

00:07:0200:07:06 คือมันมันเป็นความผิดปกติที่เราไม่แก้ไข

00:07:0600:07:07 อะไรไม่ได้แต่ว่าในเรื่องของประสบการณ์

00:07:0700:07:11 คือสิ่งที่เราไปเจอเราไปเผชิญกับภาวะตรง

00:07:1100:07:14 นั้นแล้วรู้สึกว่ามันไม่ไหวมันไม่ไม่โอเค

00:07:1400:07:16 มันไม่ปลอดภัยและเรารู้สึกว่ามันมีความ

00:07:1600:07:18 วิตกกังวลเพิ่มขึ้นอย่างที่อาจารย์บอกว่า

00:07:1800:07:22 ใจเต้นแรงมีความกลัวอะไรต่างๆเหล่านี้ใช่

00:07:2200:07:23 ไหมคะ

00:07:2300:07:28 ก็มีจาก 2 ปัจจัยนี้ใช่ไหมคะที่หลักๆแล้ว

00:07:2800:07:30 ใช่ครับ

00:07:3000:07:34 แล้วก็สิ่งแวดล้อมทีนี้จากนี้ในส่วนของ

00:07:3400:07:36 ปัจจัยพันธุกรรมเนี่ยอาจจะบอกได้แค่แนว

00:07:3600:07:38 โน้มต้องพูดอย่างนี้ก็คือปัจจัยทาง

00:07:3800:07:40 พันธุกรรมเนี่ยมันเป็นเหมือนแค่ต้นทุนนะ

00:07:4000:07:44 ครับถ้าเราไม่ได้ไปเจอกับสิ่งเร้าเพิ่ม

00:07:4400:07:47 เติมก็อาจจะไม่ได้เกิดโรคนั้นเหมือนโลก

00:07:4700:07:50 ทางกายอ่ะครับเหมือนรถทางการที่คนนี้มีมี

00:07:5000:07:52 ญาติเป็นเบาหวานสมมตินะครับหรือว่ามีความ

00:07:5200:07:55 ดันหรือโรคอื่นๆเนี่ยก็ไม่ได้การันตีว่า

00:07:5500:07:58 ลูกของคนนั้นจะต้องเป็นถ้าเขาดูแลสุขภาพ

00:07:5800:08:01 ร่างกายที่ดีกินอาหารที่ดีเป็นประโยชน์

00:08:0100:08:03 พักผ่อนนิดนึงพอออกกำลังกายสม่ำเสมอก็ไม่

00:08:0300:08:04 เป็น

00:08:0400:08:07 โรคทางจิตเวชก็เหมือนกันครับก็คือบอกแค่

00:08:0700:08:09 แนวโน้มว่ามีโอกาสเป็นนะแต่ถ้าคุณดูแล

00:08:0900:08:11 สุขภาพดีไม่ได้เจอประสบการณ์อันเลวร้าย

00:08:1100:08:14 อะไรในวัยเด็กมีความสามารถในการจัดการกับ

00:08:1400:08:17 ปัญหาได้ดีมีความสามารถในการคลิกไตร่ตรอง

00:08:1700:08:22 วิเคราะห์ได้ดีก็ห่างไกลจากอาการเจ็บป่วย

00:08:2200:08:25 ทางจิตใจครับผมอาจารย์อย่างนี้ถ้าเกิดว่า

00:08:2500:08:26 มันเป็นเรื่องของพันธุกรรมค่ะเราไม่รู้

00:08:2600:08:28 หรอกว่าเราจะกลัวอะไรใช่ไหมคะจนกว่าเราจะ

00:08:2800:08:31 เผชิญในเรื่องนั้นอุ้ยมันก็ต้องมาแบบว่า

00:08:3100:08:34 ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตในวัยไหน

00:08:3400:08:36 แหละอย่างนี้หรอคะ

00:08:3600:08:40 คือต้องบอกเลยว่าเอ่อไอ้เจ้าถ้าพูดถึงโลก

00:08:4000:08:43 โซเบียเนาะมันอาจจะได้ไม่ได้มีโดยตรงว่า

00:08:4300:08:45 อ่ะพันธุกรรมเรื่องนี้ต้องกลัวสิ่งนี้

00:08:4500:08:48 สิ่งนี้ไม่ได้ไม่ได้มีโดยตรงแน่นอน

00:08:4800:08:50 แต่มันแค่แค่เป็นความสัมพันธ์แล้วกันนะ

00:08:5000:08:53 ครับเป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับมี 5

00:08:5300:08:57 มีพื้นฐานที่กังวลดีกว่าอาจจะมีพื้นฐาน

00:08:5700:08:59 ของความที่เป็นคนวิตกกังวลได้ง่ายหรือ

00:08:5900:09:02 sensitive กับสิ่งต่างๆได้ง่ายแต่ไม่ได้

00:09:0200:09:05 ใช้เฉพาะหมายถึงว่าเป็นซื้อเบียร์พวก

00:09:0500:09:08 เบียร์กับเรื่องนี้ๆที่แคบที่สูงหรือผู้

00:09:0800:09:10 ท่ามกลางผู้คนเหล็กอาจจะไม่ได้โด่งชี้

00:09:1000:09:12 เฉพาะตรงนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์เขามาก

00:09:1200:09:16 กว่าบางคนอาจจะบางคนก็กลัวที่ที่โล่งแจ้ง

00:09:1600:09:20 นะคนเยอะๆเขาก็จะกลัวว่าเขาอาจจะเคยเคยไป

00:09:2000:09:22 แล้วก็เกิดภาวะเหมือนอึดอัดหายใจไม่ออก

00:09:2200:09:26 ขึ้นมาจะเป็นลมให้ได้อย่างนี้ครับ

00:09:2600:09:28 คนที่เยอะๆอยู่ชั้นจะเกิดอาการแบบนั้นอีก

00:09:2800:09:30 มันเป็นการเชื่อมโยงของมันเป็นการเชื่อม

00:09:3000:09:33 โยงมีมีสิ่งเร้าเกิดมีสิ่งเร้าสถานการณ์

00:09:3300:09:36 เกิดขึ้นแล้วมีความรู้สึกน่ากลัวไม่ปลอด

00:09:3600:09:38 ภัยบางอย่างแล้วเขาก็เกิดการเชื่อมโยงว่า

00:09:3800:09:40 ถ้าฉันทำสิ่งนี้มันจะไม่โอเคงั้นฉันไม่ทำ

00:09:4000:09:44 ก็จะเป็นการกลัวไปฟังดูแล้วมันเหมือนมี

00:09:4400:09:47 เป็นเรื่องของอ่าเค้าเรียกสะกดจิตตัวเอง

00:09:4800:09:50 ด้วยหรอคะอาจารย์ที่มันก็ว่าเฮ้ยฉันเคย

00:09:5000:09:52 ตรงนี้ฉันจะกลัวพอเจอเรื่องนี้ฉันก็จะ

00:09:5200:09:56 กลัวค่ะฉันก็จะกลัวมันมันเป็นผมว่ามัน

00:09:5600:09:59 เป็นภาวะของจิตใจของเราคืออาจจะมีคำโบราณ

00:09:5900:10:02 ที่ว่าจิตเป็นนาฬิกาเป็นเบาเนาะ

00:10:0200:10:06 ได้ทั้งกับการครับบางคนเนี่ยเจ็บป่วยเนอะ

00:10:0600:10:09 เจ็บป่วยทางกายเยอะมากเลยแต่จิตนำไปแล้ว

00:10:0900:10:11 ว่าถ้าไปหาหลวงพ่อองค์นี้รดน้ำมนต์เนี่ย

00:10:1100:10:14 ฉันจะดีขึ้นปรากฏว่าหลวงพ่ออาจจะเอาน้ำ

00:10:1400:10:17 เปล่านั่นแหละแล้วก็บริกรรมคาถานะครับ

00:10:1700:10:23 แล้วก็ผมปุ๊บเขารู้สึกดีมีกระเป๋าหายมัน

00:10:2300:10:24 ก็เป็นการเชื่อมโยงเช่นเดียวกันแต่อันนี้

00:10:2400:10:27 เป็นการเชื่อมทางบวกถูกไหมครับหรืออาจจะ

00:10:2700:10:30 สัมภาษณ์งานปากกาด้ามเนี่ยนำโชคหรือสี

00:10:3000:10:32 มงคลเนี่ย

00:10:3200:10:36 ว่าถ้าเขาใส่เสื้อสีมงคลเขาน่าจะต้องได้

00:10:3600:10:39 รับโอกาสที่ดีเช่นเดียวกันครับก็คืออัน

00:10:3900:10:41 นี้เป็นการเชื่อมโยงแต่เป็นทางบวกส่วน

00:10:4100:10:44 เอ่อคุยกันเมื่อกี้คือเขาไปเกิด

00:10:4400:10:48 ประสบการณ์

00:10:4800:10:52 ทางหลวงว่าอ๋อฉันเคยสิ่งนี้มามันก็

00:10:5200:10:54 เลยทำให้เราตกใจกลัวมันก็เลยยิ่งถ้าเกิด

00:10:5400:10:58 ซ้ำๆนะครับมันก็ยิ่งๆยิ่งตอบย้ำถึงสิ่ง

00:10:5800:11:01 ที่เขากลัวขึ้นมาได้มันมีหลายเคสนะครับ

00:11:0100:11:03 ที่เขาไม่เคยเกิดประสบการณ์นั้นแต่เขาก็

00:11:0300:11:05 กลัวได้เช่นคนกลัวเครื่องบิน

00:11:0500:11:10 ทั้งๆที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินแต่เขาดูจาก

00:11:1000:11:45 ข่าว

00:11:4500:11:48 แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์จริงก็อาจจะคิดไป

00:11:4800:11:51 เหมือนกันก็คือมีประสบการณ์เป็นแฟ๊กเนาะ

00:11:5100:11:53 เป็นข้อมูลจริงอยู่แต่ว่าเขาอาจจะละกัน

00:11:5300:11:56 เนาะคิดเกินเลยอ่าคิดๆคือลูกผมกังวลเนี่ย

00:11:5600:11:58 ไม่ใช่เฉพาะเบสนะครับมันจะเกี่ยวข้องกับ

00:11:5800:12:01 ความคิดนะครับหรืออาจจะไม่น่าจะคุณอาจจะ

00:12:0100:12:03 เคยคุ้นกับว่าโลกย้ำคิดย้ำทำอันนี้คือ

00:12:0300:12:06 เป็นกลุ่มกังวลเหมือนกัน

00:12:0600:12:09 อาจจะมีเคสมากขึ้นเดี๋ยวจับนู้นเดี๋ยว

00:12:0900:12:11 เชื้อโรคจะเข้าตัวเราเราจะติดเชื้อไหม

00:12:1100:12:13 อะไรอย่างนี้เราก็ต้องรีบหมั่นล้างมงล้าง

00:12:1300:12:15 มือบางคนก็กลัวกลัวการเป็นที่สาธารณะ

00:12:1500:12:18 เพราะว่ากลัวติดเชื้อโรคก็เป็นไปได้

00:12:1800:12:21 เหมือนกันซึ่งจริงๆอันนี้เรื่องของความ

00:12:2100:12:23 กลัวตรงนี้นะคะคุณผู้ฟังต้องบอกก่อนว่า

00:12:2300:12:27 สิ่งที่เรามาคุยกันเนี่ยมันก็น่าจะตรงกับ

00:12:2700:12:29 ประสบการณ์หลายๆคนแม้แต่ตัวดิฉันเองก็มี

00:12:2900:12:32 ความกลัวจะบอกว่าโฟเบียร์ก็ไม่แน่ใจต้อง

00:12:3200:12:35 ไปประเมินก่อนในเบื้องต้นนะคะแต่ว่าเรา

00:12:3500:12:37 ที่มาคุยกันในวันนี้มาทำความเข้าใจแล้วก็

00:12:3700:12:39 รู้จักกันเพราะว่าอย่างที่อาจารย์เนี่ยทำ

00:12:3900:12:42 ในเรื่องของโรคกลัวเสียงในเด็กด้วยนะคะ

00:12:4200:12:45 คืออันนี้ก็เป็นข้อสงสัยอย่างนึงก็เลยได้

00:12:4500:12:47 เชื่อมโยงให้คุณผู้ฟังได้เข้าใจว่าคำว่า

00:12:4700:12:49 phobia นี้คืออะไรกลัวอะไรแต่ทีนี้ว่า

00:12:4900:12:52 เราจะเชื่อมโยงมาถึงเรื่องของความกลัวตรง

00:12:5200:12:54 นี้นะคะโรคกลัวเสียงในเด็กคือมันเป็น

00:12:5400:12:57 เรื่องที่แบบว่าอาจารย์คะโรคกลัวเสียงใน

00:12:5700:13:00 เด็กเนี่ยกลัวเสี่ยงเนี่ยนะคะมันเป็นยัง

00:13:0000:13:04 ไงคะอาจารย์ต้องเรียนอย่างนี้มากการกลัว

00:13:0400:13:08 เสียงเนี่ยอาจจะแบ่งเป็น 2 2 ส่วนใหญ่ๆ

00:13:0800:13:11 แล้วกันเนาะนะครับก็คือเป็นการกลัวเสียง

00:13:1100:13:14 ในแง่ที่ว่ามีข้อมูลชัดเจนว่าเด็กคนนั้น

00:13:1500:13:18 เนี่ยเกิดประสบการณ์ในวัยเด็กที่ไม่ที่

00:13:1800:13:20 ไม่ดีกับเรื่องเสียงเช่นถูกพ่อดุเสียงดัง

00:13:2000:13:23 หรือถูกแม่ก็ได้ผู้ปกครองแล้วกันผู้ปก

00:13:2300:13:27 ครองผู้ครองตะกร้อเสียงดังในวัยเด็กแล้ว

00:13:2700:13:29 ก็ทำให้มันหรือเป็นการเชื่อมโยงว่าอุ้ย

00:13:2900:13:32 การที่มีคนเสียงดังของเขาก็เขาก็จะกลัว

00:13:3200:13:35 หรือเอ่อบางคนอาจจะถูกทำโทษด้วย

00:13:3500:13:38 ด้วยอุปกรณ์อะไรบางอย่างที่มันมีเสียงดัง

00:13:3800:13:41 เนาะนะครับ

00:13:4100:13:43 อยู่ใกล้หรือที่บ้านเป็นโรงงานแล้วมันมี

00:13:4300:13:45 เสียงเครื่องจักรอะไรต่างๆแล้วก็ทุกครั้ง

00:13:4500:13:47 ที่มันเครื่องจักรเนี่ยเขาก็ต้องถูกทำโทษ

00:13:4700:13:50 อะไรเงี้ยนะครับเกิดการเชื่อมโยงกับเสียง

00:13:5000:13:53 อันเนี้ยอาจจะเป็นเป็นโรคกลัวเสียงโดยที่

00:13:5300:13:56 ที่มาเนี่ยชัดเจนในแง่ของประสบการณ์จาก

00:13:5600:13:58 การเลี้ยงดูของครอบครัว

00:13:5800:14:01 แต่ให้กลุ่มนึงเนี่ยนะครับก็จะเป็นเอ่อ

00:14:0100:14:05 เป็นเป็นความปกติของการตอบสนองต่อเสียงนะ

00:14:0500:14:08 ครับซึ่งซึ่งอันนี้มันก็ก้ำกึ่งมาก

00:14:0800:14:11 ระหว่างการเป็นโรคทางการแล้วก็เป็น

00:14:1100:14:15 โรคที่เกี่ยวข้องกับอาการทางด้านจิตใจนะ

00:14:1500:14:21 ครับซึ่งอันหลังเนี่ยที่พูดถึงคือ

00:14:2100:14:23 ไม่ได้เป็นโฟร์เบียโดย

00:14:2300:14:28 คณะโดยนามสกุลของมันเนอะ

00:14:2800:14:32 นะครับก็จะเป็นก็จะเป็นลักษณะของการที่

00:14:3200:14:36 เขาจะมีความเข้าใจปกติในการตอบสนองต่อ

00:14:3600:14:40 เสียงที่วัยกว่าคนอื่นเป็นพิเศษแล้วก็เรา

00:14:4000:14:43 ก็จะหงุดหงิดกับการได้ยินเสียงนั้นซึ่ง

00:14:4300:14:44 เสียงเนี่ยมันเป็นเสียงที่อยู่ในชีวิต

00:14:4400:14:47 ประจำวันชีวิตประจำวันของเราเช่นคนเคี้ยว

00:14:4700:14:50 ข้าวอย่างเงี้ยเขาก็จะรู้สึกหงุดหงิดใจ

00:14:5000:14:54 เสียงเคี้ยวนะหรือเสียงแบบจับฝีปากเรา

00:14:5400:14:58 เงี้ยครับประกบกันหรือว่าการกลืนกินน้ำ

00:14:5800:15:01 แล้ว

00:15:0100:15:04 ถ้าเจอเวลาสอนหนังสือในห้องสอบก็จะมีเด็ก

00:15:0400:15:06 เป็นคนที่หงุดหงิดกับเพื่อนที่กดปากกา

00:15:0600:15:09 หรือของเวลาคิดอะไรไม่บอกจะกดปากกาอะไร

00:15:0900:15:17 เงี้ยก็น่ารำคาญจริงๆนะคะ

00:15:1700:15:21 ทำไมเพื่อนมันกดลงมาแต่คนแต่ถ้าคนแต่ถ้า

00:15:2100:15:23 เด็กกลุ่ม misofunicate จะรู้สึกมันมัน

00:15:2300:15:25 หงุดหงิดไม่ไหวแล้วก็อาจจะแบบขอออกไปเข้า

00:15:2500:15:27 ห้องน้ำก่อนหรือบอกให้อาจารย์ช่วยเตือน

00:15:2700:15:31 เพื่อนคนนั้นโดยทันทีงั้นหรือถ้าเป็นผ่าน

00:15:3100:15:34 ไม่ใช่เชิงร่างกายก็คือเขาก็จะอาจจะ

00:15:3400:15:37 หงุดหงิดกับเสียงนาฬิกาบ้านถ้าใครมี

00:15:3700:15:46 นาฬิกาเข็มเนอะที่มันเดินโอ้โห

00:15:4600:15:51 มันก็จะตามด้วยเอ่อข้าราชการเอ่อ 3 องค์

00:15:5100:15:52 ประกอบเมื่อคืนหนึ่งก็คือเรื่องอารมณ์

00:15:5200:15:54 ก่อนอารมณ์มาก่อนคือหงุดหงิด

00:15:5400:16:01 ไม่พอใจรู้สึกเอ่อโกรธโมโหนะครับแล้วก็

00:16:0100:16:03 ตามมาด้วยปฏิกิริยาทางด้านร่างกาย

00:16:0300:16:05 อันเนี้ยจะคล้ายๆกับคือมันจะมีร่างกายตอบ

00:16:0500:16:08 สนองด้วยคือเช่นรู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้น

00:16:0800:16:13 หายใจไม่อิ่มเหงื่อออกตามมือหายใจลำบาก

00:16:1300:16:15 อะไรประมาณนั้นนะครับก็มีอาการเหมือน

00:16:1500:16:19 โฟเบียร์และก็มีเรื่องของพฤติกรรมเช่น

00:16:1900:16:21 เดียวกับโฟเบียก็คือโฟเบียคือพฤติกรรมคือ

00:16:2100:16:24 หลีกหนีจากสิ่งเราเนาะอันนี้ก็เช่นเดียว

00:16:2400:16:27 กันก็ก็มีทั้งหมีและเผชิญหน้าก็คือไปบอก

00:16:2700:16:29 กับคนที่เป็นและแหล่งต้นกำเนิดเสียงว่า

00:16:2900:16:32 หยุดทำได้ไหมอะไรอย่างเงี้ยนะครับซึ่งก็

00:16:3200:16:35 เลยทำให้เขาเนี่ยอาจจะถูกมองด้วยสายตาคน

00:16:3500:16:38 อื่นว่าแบบเยอะเรื่องมากถูกไหมครับเพราะ

00:16:3800:16:42 ว่าอย่างอย่างกินข้าวเราก็จะแบบเราก็เฉยๆ

00:16:4200:16:47 คนนั้นก็กินไปสูตรน้ำแกงไปหรือว่าดูดหลอด

00:16:4700:16:49 น้ำจากตูดมันก็เป็นเสียงที่เราก็รับได้นะ

00:16:4900:16:53 ครับโดยพื้นฐานเนาะคนเด็กกลุ่มนี้ก็อาจจะ

00:16:5300:16:55 รู้สึกไม่โอเคกับมันนั้นพอเขารู้สึกว่าไป

00:16:5500:16:58 เตือนหรือไปบอกอีกคนที่เป็นต้นกำเนิด

00:16:5800:17:01 เสียงเนี่ยคุณเขาก็จะถูกมองว่าแบบเรื่อง

00:17:0100:17:02 มากเยอะขึ้นมาได้

00:17:0200:17:07 นะครับอันนี้ก็จะเป็นภาวะที่ที่ที่กลุ่ม

00:17:0700:17:12 โรคเด็กกลัวเสียงเนี่ยเกิดขึ้นซึ่งก็อ่า

00:17:1200:17:16 มีงานวิจัยนะครับที่พบว่าไอ้กลุ่มนี้ก็จะ

00:17:1600:17:20 มีความผิดปกติในในการพัฒนาของสมองนี่โดย

00:17:2000:17:23 เฉพาะในส่วนของเอ่ออารมณ์และการพัฒนาการ

00:17:2300:17:26 การรับข้อมูลจากสิ่งเร้าเข้ามาเนี่ยแล้ว

00:17:2600:17:30 พอพอเข้าสู่สมองส่วนอารมณ์เนาะนะครับมัน

00:17:3000:17:34 จะมีการประเมินหรือรับข้อมูลที่มันอาจจะ

00:17:3400:17:37 มากกว่าปกติแล้วมันก็จะไปส่งผลต่อระบบนึง

00:17:3700:17:40 คือเค้าเรียกว่าระบบประสาทอัตโนมัติก็คือ

00:17:4000:17:45 พวกการหายใจการเอ่อเปิดปกติปฏิกิริยาร่าง

00:17:4500:17:46 กาย

00:17:4600:17:48 เหมือนเราเวลาตื่นเต้นน่ะครับอันนั้นคือ

00:17:4800:17:50 อุปสรรคที่เวลาเราทำงานเวลาเราตื่นเต้น

00:17:5100:17:56 เวลาเราแบบบ้านไฟไหม้หรือคนมาขโมยกระชาก

00:17:5600:17:59 ของเราเราก็จะตื่นๆตัวตรงนั้นก็จะพบงาน

00:17:5900:18:03 วิจัยที่มียีนส์บางตัวที่อ่าผิดปกติแล้ว

00:18:0300:18:05 ก็ไปส่งผลต่อระบบเกี่ยวกับส่วนอารมณ์แล้ว

00:18:0500:18:08 ก็ส่วนของระบบประสาทอัตโนมัติของร่างกาย

00:18:0800:18:09 เรา

00:18:0900:18:11 แล้วอย่างโรคกลัวเสียงนี้คือเป็นตั้งแต่

00:18:1100:18:15 เด็กเลยอ่ะคะถ้าในแง่ของก็จะเป็นตั้งแต่

00:18:1500:18:18 เด็กครับเพราะว่ามันเป็นผลมาตั้งแต่การ

00:18:1800:18:21 พัฒนาของสมองที่อาจจะมีความผิดปกติในส่วน

00:18:2100:18:24 ใดส่วนหนึ่งตรงนั้นที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว

00:18:2400:18:27 ก็คนถ้าเป็นโรคกลัวเสียงนี้ของจิตใจก็

00:18:2700:18:29 เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในวัยเด็กนะครับที่

00:18:2900:18:32 ผู้ปกครองหรือครอบครัวที่อาจจะมีมี

00:18:3200:18:35 สถานการณ์บางอย่างที่อาจจะไปเสียงดังแล้ว

00:18:3600:18:37 ทำให้เขาเด็กเกิดความรู้สึกตกใจกลัวซึ่ง

00:18:3700:18:40 คือพื้นฐานนั่นเองเด็กทารกอ่ะครับถ้าถึง

00:18:4000:18:43 ดังมากๆเนี่ยน้องก็จะตกใจอยู่แล้วอ่าใช่

00:18:4300:18:46 เป็นพื้นฐานเด็กก็จะตกใจแล้วก็จะเชื่อม

00:18:4600:18:49 โยงกับกับสิ่งที่ตกใจจนที่เขาเนี่ยเอ่อ

00:18:4900:18:53 เชื่อมโยงกับตรงนั้นมาว่าเออเสียงดังมัน

00:18:5300:18:56 ทำให้เขากลัวโดยเฉพาะเสียงมาจากผู้คนหรือ

00:18:5600:18:58 เอ่อมันอาจจะเกิดเป็นโต๊ะอาหารก็ได้นะ

00:18:5800:19:01 ครับบรรยากาศตรงนั้นเนาะก็อาจจะกินข้าว

00:19:0100:19:09 อยู่แล้วก็ดูเขาทำไมกินข้าวเลอะเทอะ

00:19:0900:19:13 ครับก็จะเชื่อมโยงว่าเออเขาเขาอาจจะแบบ

00:19:1300:19:14 เคี้ยวข้าว

00:19:1400:19:17 ได้ยินเสียงบรรยากาศการเคี้ยวข้าวหรือการ

00:19:1700:19:22 ดื่มน้ำกึ๊กๆๆอะไรเงี้ยมันทำให้เขากลัว

00:19:2200:19:26 ถ้าเกิดยังคงเป็นแบบนี้อยู่สำหรับมันเป็น

00:19:2600:19:28 มาตั้งแต่เด็กอ่ะเจอเราเผชิญกันมาตั้งแต่

00:19:2800:19:31 เด็กอ่ะแล้วพอมาโตขึ้นมาต้องใช้ชีวิต

00:19:3100:19:33 อย่างเงี้ยมันกลายเป็นว่าอ่ะคนรอบข้างอาจ

00:19:3300:19:36 จะหลีกหนีหนีหายกันไปเลยก็ได้นะแต่สิ่ง

00:19:3600:19:37 ที่เราเป็นทั้งที่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ

00:19:3700:19:40 คิดว่าอาจจะเฮ้ยเรื่องเยอะเอ้ยมารยาทจัด

00:19:4000:19:42 เกินไปหรือเปล่าหรืออะไรอย่างเงี้ยไปมอง

00:19:4200:19:45 เป็นเรื่องอื่นซึ่งจริงๆบางทีเราไม่รู้

00:19:4500:19:47 ว่าเขาเจอประสบการณ์อะไรมาก่อนทำให้เขา

00:19:4700:19:50 เกิดอารมณ์ภาวะของความหงุดหงิดไม่พอใจ

00:19:5000:19:52 หรือว่าแบบมันๆเป็นภาวะของเขาขึ้นมาอย่าง

00:19:5200:19:55 เงี้ยค่ะที่พูดไม่ถูกเลยครับเพราะว่ามัน

00:19:5500:19:57 ทำเหนือก็คือทำให้คนรอบคือคนรอบข้างก็จะ

00:19:5700:19:58 รู้สึกคนนี้เรื่องเยอะใช่ไหมครับแต่ว่า

00:19:5800:20:01 อย่างอย่างที่เราคุยกันคือทุกอย่างมันมี

00:20:0100:20:03 เหตุและมีมีเหตุมีสาเหตุเกิดขึ้นเนอะอยู่

00:20:0300:20:07 ร่องรอยของพฤติกรรมนี้ทีนี้ต้องยอมรับว่า

00:20:0700:20:11 ส่วนหนึ่งในแง่ของในแง่ของสมองเนี่ยก็คือ

00:20:1100:20:14 เขาอาจจะมีมีความอาจจะมีความเบี่ยงเบนไม่

00:20:1400:20:16 ปกตินิดนึงแล้วกันเนาะเพราะว่าเขาก็อาจจะ

00:20:1600:20:19 มีการอันไวน์หรือความรู้สึกแล้วก็

00:20:1900:20:23 ปฏิยะการมาทำงานเร็วแต่ว่าเราสามารถบำบัด

00:20:2300:20:29 ได้นะครับก็คือโอเคในถ้าเขาต้องใช้ต้อง

00:20:2900:20:32 แบ่งอย่างนี้คือในเชิงทางกายเป็นการรักษา

00:20:3200:20:35 ปลายเหตุหรอเช่นถ้าเขาเครียดมากถ้าเขารู้

00:20:3500:20:37 สึกวิตกกังวลมากก็อาจจะต้องอ่ะทานยาช่วย

00:20:3700:20:39 คลายกังวลอะไรก็ว่าไปแต่ถ้าในเชิง

00:20:3900:20:42 จิตวิทยาเนี่ยนะครับก็สามารถที่จะบำบัด

00:20:4200:20:46 โดยโดยเอ่อแนวทางในการที่เขาเราชี้ให้

00:20:4600:20:49 เห็นสมมุติถ้าเราเราพบเจอแน่ได้ข้อมูลจาก

00:20:4900:20:52 ทางแพทย์ฝ่ายการแล้วว่าอ่ะน้องคนนี้มี

00:20:5200:20:55 ภาวะตรงเนี้ยเกิดขึ้นเนี่ยเกิดขึ้นเนี่ย

00:20:5500:20:57 แล้วก็รู้ข้อมูลเลยว่าโอเคน้องก็จะไวต่อ

00:20:5700:20:59 เสียงแต่ว่าทีนี้เนี่ยน้องอย่างที่เราคุย

00:21:0000:21:03 กันตอนๆช่วงแรกว่าเขาไปคิดมากกว่าปกติ

00:21:0300:21:06 เนาะหรือว่าคิดเกินปกติหรือว่าไวต่อสิ่ง

00:21:0600:21:10 ปกติฉะนั้นเราก็เลยกลับมาชี้ให้เห็นถึง

00:21:1000:21:13 ความปกติที่จะเกิดขึ้นหรือเป็นไปได้เช่น

00:21:1300:21:16 นักร้องเราปฏิเสธไม่ได้ว่าน้องเขาไวต่อ

00:21:1600:21:17 เสียง

00:21:1700:21:24 โอเคหนูหรือหนูแล้วกันนะคุณรู้สึกเราเข้า

00:21:2400:21:26 ใจนะว่าคุณรู้สึกไวกับเสียงที่มากกว่า

00:21:2600:21:29 ปกติแล้วคุณก็รู้สึกหงุดหงิดโมโหเนอะที่

00:21:2900:21:34 มันเกิดขึ้นแบบนั้นทีนี้เรามาเอ่อจัดการ

00:21:3400:21:38 กับอารมณ์ความรู้สึกนั้นกันดีกว่าคือเรา

00:21:3800:21:41 อาจจะไม่ปฏิบัติวิธีการคือเราจะชี้เขา

00:21:4100:21:43 เห็นอารมณ์ที่มันเกิดขึ้นเราเข้าใจเขาว่า

00:21:4300:21:47 เอ้ยคุณโกรธเนาะคุณโมโหเนอะทีนี้โมโหแล้ว

00:21:4700:21:50 มาทำยังไงดีอ่ะไอ้ก้อนโมโหนั้นหงุดหงิด

00:21:5000:21:52 นั้นเราจะกลายเป็นยังไงได้บ้างถ้าจริงๆ

00:21:5200:21:54 แล้วก็คือจริงๆมันก็จะเป็นหลักการทาง

00:21:5400:21:57 ประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งนะครับเดียวกัน

00:21:5700:22:01 เอ่อรู้รู้คิดพฤติกรรมเนาะทุกคลิปอารมณ์

00:22:0100:22:02 รู้พฤติกรรมแต่นี่

00:22:0200:22:04 มันก็สอดคล้องกันในทางในหลักทางการ

00:22:0400:22:07 พุทธเนาะก็คือเหมือนเหมือนเรารู้ตัวตัว

00:22:0700:22:11 ทุกข์มีอารมณ์เกิดขึ้นเราเราตามอารมณ์

00:22:1100:22:14 ทุกข์นั้นมันมาจากไหน

00:22:1400:22:17 เสร็จแล้วเราจัดการกับมันยังไงบ้างจริงๆ

00:22:1700:22:19 เราเลือกจากกันได้หลายอย่างแล้วไม่จำเป็น

00:22:1900:22:21 ต้องตวาดคืนกับคนนั้นว่าเธออยู่เสียงดัง

00:22:2100:22:23 เคี้ยวเสียงดังได้ไหมหรือหยุดกดปากกาขึ้น

00:22:2300:22:27 มารับคำอื่นอีกไหมเราอาจจะว่างหรือไปบอก

00:22:2700:22:29 หรือเราออกสถานการณ์นั้นเพาะเลี้ยงได้เรา

00:22:2900:22:31 ก็เลี้ยงไป

00:22:3100:22:36 ก็อาจจะไปทำกิจกรรมอื่นๆหรือเอาหูฟังเนอะ

00:22:3600:22:38 ไปก็ได้ถ้าสถานการณ์นั้นดูถ้าดูไม่เสีย

00:22:3800:22:41 บริษัทจนเกินไปแล้วก็หูฟังมาเสียบเปิด

00:22:4100:22:44 เพลงเค้าครองเบาๆไปก็ได้มันมีอีกหลายวิธี

00:22:4400:22:47 ที่เราจะจัดการหรือว่าช่วยทำให้ความ

00:22:4700:22:50 หงุดหงิดนั้นเนี่ยไม่เกินเลยไปสู่การเกิด

00:22:5000:22:53 พฤติกรรมที่มันอาจจะก้าวร้าวกับบุคคลอื่น

00:22:5300:22:57 เพราะว่าบางทีบางคนอาจจะไม่ได้เข้าใจอ่ะ

00:22:5700:23:00 นะคะแต่ว่าถูกต้องแต่ที่อาจารย์อธิบายมา

00:23:0000:23:03 เนี่ยคือในในหลักเชิงของการแบบในการคุย

00:23:0300:23:06 กับคนที่เป็นเนี่ยพอถ้าเรารู้เนี่ยมันคุย

00:23:0600:23:08 ในเชิงเหตุและผลได้แล้วก็เชื่อว่าเขาก็จะ

00:23:0800:23:10 เข้าใจในเหตุและผลได้เพียงแต่ว่าในบาง

00:23:1000:23:13 อย่างเนี่ยมันๆเกินกว่าปกตินั่นเองนะคะก็

00:23:1300:23:16 เลยทำให้อาจารย์มีพฤติกรรมออกมาในเชิงที่

00:23:1600:23:18 เอ่อมากกว่าคนอื่นเพราะหงุดหงิดอ่ะคนอื่น

00:23:1800:23:21 อ่ะแต่อันนี้หงุดหงิดกว่า

00:23:2100:23:25 อารมณ์ประมาณนี้เลยจุดเดือดต่ำกว่าอยู่ใน

00:23:2500:23:27 เรื่องของเสียงนะเออจุดเด่นก็จะต่ำกว่า

00:23:2700:23:30 ซึ่งคือเขาอยู่ในสังคมที่ไม่มีใครเข้าใจ

00:23:3000:23:33 สิ่งที่เขาเป็นงั้นมันก็เหมือนเขารู้สึก

00:23:3300:23:36 ว่าโดดเดี่ยวเนาะดีพอเพราะถ้ามีใครสักคน

00:23:3600:23:39 คนในครอบครัวนะครับสำคัญที่สุดที่จะเข้า

00:23:3900:23:41 ใจในในเงื่อนไขที่เขาเป็นอยู่เนาะอย่าง

00:23:4100:23:43 น้อยเขาก็รู้สึกว่าเออมีคนเข้าใจเค้าบ้าง

00:23:4300:23:47 ละทีนี้ก็บางทีเขาอาจจะจัดการตัวเอง

00:23:4700:23:52 ได้ดีขึ้นก็ได้ครับถ้ามีน้อยเนาะถ้าเขามี

00:23:5200:23:54 มีคนเข้าใจเขาเพราะถ้าพอไม่มีใครเข้าใจ

00:23:5400:23:56 เค้าปุ๊บเนี่ยมันก็อาจจะลามอีกนะอาจจะลาม

00:23:5600:23:59 มาสู่การเกิดภาวะซึมเศร้าหรือว่าเกิดภาวะ

00:23:5900:24:01 อื่นๆทางจิตใจได้อีกอะไรอย่างเงี้ยรู้สึก

00:24:0100:24:04 โดดเดี่ยวไม่มีใครเข้าใจคือมันเป็นเรื่อง

00:24:0400:24:07 ที่หลายคนน่ะไม่อาจจะไม่ค่อยได้คุ้นเคย

00:24:0700:24:10 หรือว่ารู้จักแต่รู้ว่าแค่ว่าอ๋อเรามี

00:24:1000:24:12 ความกลัวนะนู่นนี่นั่นแต่ว่าบางอย่าง

00:24:1200:24:15 เนี่ยมันๆถูกมันถูกฝังมาในจิตใจอ่ะตั้ง

00:24:1500:24:17 แต่เด็กเลยนะคะเพราะฉะนั้นการที่จะขจัดใน

00:24:1800:24:19 ความรู้สึกต่างๆเหล่านี้มันต้องมีระยะ

00:24:1900:24:22 เวลานะคะแล้วก็อีกหลายๆอย่างเลยที่จะต้อง

00:24:2200:24:25 เป็นองค์ประกอบร่วมกันอาจจะต้องไปอ่าพบ

00:24:2500:24:29 กับทางจิตแพทย์นะคะคุยกับคุณหมอเออถึงแนว

00:24:2900:24:31 ทางที่ถูกต้องนะฮะในหลักการที่ถูกต้อง

00:24:3100:24:33 เนี่ยต้องทำอะไรยังไงซึ่งก็ครอบครัวเป็น

00:24:3300:24:35 ส่วนที่สำคัญอย่างที่อาจารย์บอกอาจารย์คะ

00:24:3600:24:38 ท้ายนี้อาจารย์มีอะไรอยากจะฝากทิ้งท้าย

00:24:3800:24:41 สำหรับเรื่องของโรคกลัวเสียงในเด็กนะคะ

00:24:4100:24:44 มิสโซโฟเนียเนี่ยนะให้คุณผู้ฟังได้รับ

00:24:4400:24:46 ทราบกันหน่อยค่ะ

00:24:4600:24:50 ก็สำหรับโลกมิโซะ

00:24:5000:24:53 ค่อนข้างค่อนข้างใหม่ทีนี้ไม่อยากให้

00:24:5300:24:57 กังวลจนจนมากจนเกินไปนะครับแต่ว่าลอง

00:24:5700:25:00 สังเกตดูว่าลูกลูกของเราถ้าเด็กๆเนี่ยลูก

00:25:0000:25:03 ของเราเนี่ยมีภาวะรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ

00:25:0300:25:07 รู้สึกเอ่อเครียดนะครับหรืออาจจะอาจจะ

00:25:0700:25:09 ร้องไห้หรือเอามือป้องหูอะไรต่างๆเนี่ยนะ

00:25:0900:25:13 ครับลงลองดูว่าน้องเนี่ยมีภาวะแบบนั้นกับ

00:25:1300:25:16 เสียงใดเป็นพิเศษหรือเปล่าอืมนะส่วนใหญ่

00:25:1600:25:20 เนี่ยเอ่อในกลุ่มเนี้ยเค้ามักจะเอ่อเป็น

00:25:2000:25:22 สิ่งใดสิ่งหนึ่งเนาะมันไม่ที่ไม่ได้ลามไป

00:25:2200:25:25 กับทุกๆเสียงเพราะว่าต้องสังเกตดีๆเพราะ

00:25:2500:25:28 ว่ามันก็จะมีอาจจะพบได้ในในเด็กกลุ่มอื่น

00:25:2800:25:31 ที่เด็กจะไม่ชอบเสียงดังเลยไม่ว่าจะเสียง

00:25:3100:25:32 ใดก็ตาม

00:25:3200:25:36 เบื้องต้นก็คือไปสังเกตลูกก่อนนะครับแล้ว

00:25:3600:25:40 ก็ถ้าพบว่ามีอาจจะลองถามน้องว่าหนูรู้สึก

00:25:4000:25:44 กลัวหรือว่าไม่ชอบหงุดหงิดในเสียงอะไรนะ

00:25:4400:25:48 ครับแล้วถ้าน้องบอกได้ว่าหนูไม่ชอบอย่าง

00:25:4800:25:51 นี้มาอันนี้เราก็อ่ะอาจจะพอมีข้อมูล

00:25:5100:25:53 เบื้องต้นแล้วก็แนะนำเบื้องต้น

00:25:5300:25:56 คือเราพร้อมที่จะเข้าใจเข้าใจก่อนว่าลูก

00:25:5600:25:59 เรามีปัญหาแบบนี้มีข้อจำกัดแบบนี้เงื่อน

00:25:5900:26:01 ไขแบบนี้อย่าไม่ใช่ว่าเฮ้ยเรื่องมากทำไม

00:26:0200:26:06 แค่นี้อ่อนแอนะครับอันนั้นก็คือก็อยู่

00:26:0600:26:08 ข้างๆก่อนเข้าใจเค้าก่อนแล้วก็ลองไป

00:26:0800:26:10 ปรึกษากับจิตแพทย์เด็กอะไรเงี้ยนะครับ

00:26:1000:26:13 หรือว่าเอ่อภาวะที่น้องเป็นเนี่ยมีมัน

00:26:1300:26:17 ประมาณไหนจัดอยู่ในกลุ่มตรงไหนซึ่งยอมรับ

00:26:1700:26:20 ว่าเอ่อภาวะวิกฤตเนี่ยมันค่อนข้างก้ำกึ่ง

00:26:2000:26:23 ระหว่างความเป็นโรคทางด้านจิตเวชแล้วก็

00:26:2300:26:26 อาจจะเป็นก้ำกึ่งกับโรคเกี่ยวกับความมิติ

00:26:2600:26:31 ของระบบการได้ยินเนอะ

00:26:3100:26:37 ช่วยวินิจฉัยก็น่าจะทำให้เราไปดูแลฟื้นฟู

00:26:3700:26:39 ส่งเสริมได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

00:26:3900:26:43 ครับก็แสดงว่าอาการต่างๆเหล่านี้มีโอกาส

00:26:4300:26:45 ที่จะหายเป็นปกติหรือไม่เกิดอาการเหล่า

00:26:4500:26:48 นี้ขึ้นไว้ได้อีกในวันที่ 1 ที่เขาก็ใช้

00:26:4800:26:50 ชีวิตอย่างปกติด้วยนะคะซึ่งอันนี้ต้อง

00:26:5000:26:53 อาศัยการสังเกตจากผู้ปกครองนะคะที่อยู่

00:26:5300:26:56 ใกล้ชิดเด็กตั้งแต่แรกเกิดเลยดูเพราะว่า

00:26:5600:26:59 มันมีภาวะอะไรที่มันผิดปกติไปไหมต้องเอะ

00:26:5900:27:01 ใจนะคะไม่ใช่ว่าปลอดภัย

00:27:0100:27:04 ปล่อยไปนะคะมันจะสะสมไปนานๆแล้วทำให้เขา

00:27:0400:27:07 เติบโตมาแล้วใช้ชีวิตลำบากนั่นเองนะคะอ่ะ

00:27:0700:27:09 วันนี้ก็ได้ความรู้กันใหม่ๆนะคะเกี่ยวกับ

00:27:0900:27:13 เรื่องของมิโซะโฟเบียนะคะที่โรคกลัว

00:27:1300:27:14 เสี่ยงในเด็กนะยังมีเรื่องหลายๆเรื่อง

00:27:1400:27:16 เดี๋ยวไว้คุยกันอาจารย์เดี๋ยวกันหน้านะคะ

00:27:1600:27:19 วันนี้ขอบคุณอาจารย์ค่ะที่มาร่วมพูดคุยใน

00:27:1900:27:23 รายการค่ะขอบคุณค่ะอาจารย์คะค่าสวัสดีค่ะ

00:27:2300:27:25 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังคะหมดเวลาแล้วกับราย

00:27:2500:27:26 การโรงหมอของเราในวันนี้นะคะพบกันใหม่

00:27:2700:27:28 ครั้งหน้าค่ะขอบคุณที่ติดตามรับฟังสวัสดี

00:27:2800:27:31 ค่ะ

00:27:3200:27:34 Intro Word extrovert และ anyworth

00:27:3400:27:37 แตกต่างกันอย่างไรลักษณะเฉพาะของคนที่

00:27:3700:27:39 เป็น Intro Word กับสังคมจะเป็นรูปแบบใด

00:27:3900:27:42 ดรสุวาวุฒิวงศ์ทังสวัสดิ์นักจิตวิทยาการ

00:27:4200:27:45 ศึกษามาเล่าให้ฟังครับ

00:27:4500:27:48 มันเป็นคำที่นิยามบุคลิกภาพแบบหนึ่งนะ

00:27:4800:27:51 ครับเพราะเป็นคนที่อาจจะชอบเก็บตัวมาก

00:27:5100:27:54 กว่าเป็นคนที่คล้ายๆชอบเล็งพลังงานกลับมา

00:27:5400:27:56 ที่ตัวไม่ได้ชอบเข้าสังคมชอบใช้เวลากับ

00:27:5600:27:58 ตัวเองนี่คือบุคลิกของคนที่เราระบุว่า

00:27:5800:28:00 เป็น Intro Word อย่างนี้ครับ Intro ก็

00:28:0000:28:02 คือ in ดึงกลับเข้ามาเข้าตัว Intro เข้า

00:28:0200:28:04 มาที่ตัวเองซึ่งมันจะตรงข้ามกับคำที่

00:28:0400:28:06 เรียกว่า extrover Intro นั้นก็คือดึง

00:28:0600:28:09 กลับเข้ามาในตัว EXO คือเข้าหาสังคมคือ

00:28:0900:28:12 เอาพลังงานออกไปข้างนอกหมายถึงว่าตัวคน

00:28:1200:28:14 ที่เป็น exert เนี่ยนะครับก็จะคล้ายๆมี

00:28:1400:28:16 Energy ในการจะเข้าสังคมในการชวนคนอื่น

00:28:1600:28:20 คุยในการอยากจะแบบเฮ้ยเธอเป็นยังไงติดตาม

00:28:2000:28:23 ข่าวสารอาจจะแบบเฮ้ยชอบติดต่อกันหล่อหรือ

00:28:2300:28:26 พาตัวเองเข้าไปอยู่ในชุมชนในปาร์ตี้หรือ

00:28:2600:28:28 อะไรก็ตามที่มีผู้คนห้อมล้อมอันนี้จะเป็น

00:28:2800:28:31 บุคลิกของคนที่เป็น EXO Word ที่ชอบไป

00:28:3100:28:33 ข้างนอกซึ่งก็จะมีคำว่า ambiot อีกหมาย

00:28:3300:28:36 ถึงว่าคนๆหนึ่งอาจจะเป็นทั้ง 2 แบบไม่ได้

00:28:3600:28:38 สุดขั้วทั้ง 2 อย่างไม่ได้เก็บตัวสุดโต่ง

00:28:3800:28:42 อาจจะแบบอยู่กับตัวเองบางเวลาแต่เวลาเข้า

00:28:4200:28:43 สังคมก็ไม่มีปัญหา

00:28:4300:28:45 enjoice สนุกได้ซึ่งต้องบอกว่าคนส่วน

00:28:4500:28:48 ใหญ่ก็จะเป็นอะนี่แหละที่เราก็จะแบบมี

00:28:4800:28:51 ทั้งหมดที่เราเก็บตัวด้วยแล้วก็มีโหมดที่

00:28:5100:28:53 เอาไปข้างนอกด้วยแต่สำหรับบางคนเราจะเคย

00:28:5400:28:56 เห็นเพื่อนบางคนนะครับที่แบบโอ้โหเก็บสุด

00:28:5600:28:59 ขี้อายไม่คุยกับใครแล้วก็รักที่จะอยู่กับ

00:28:5900:29:01 ตัวเองมากๆแม้กระทั่งอยู่คนเดียวไม่ต้อง

00:29:0100:29:04 ไปกับใครอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่รู้สึกเหงา

00:29:0400:29:06 ไม่รู้สึกถูกทอดทิ้งเพราะเขาชอบอยู่กับ

00:29:0600:29:08 ตัวเองมีความเป็นโลกส่วนตัวสูงเพราะคำว่า

00:29:0800:29:10 โลกส่วนตัวสูงหมายถึงว่าเขาอยู่ภายในโลก

00:29:1000:29:12 ของเขาซึ่งมันสอดคล้องกับคำว่าอินโทรครับ

00:29:1200:29:14 อินโทรเวิร์ดเข้าไปข้างในบุคลิกพวกเนี้ย

00:29:1400:29:17 มันเป็นการที่เราอาจจะพูดถึงคำกว้างๆเวลา

00:29:1700:29:19 เราจะระบุถึงบุคลิกบางอย่าง

00:29:1900:29:22 แต่ว่าเวลาเราพูดถึงชีวิตคนจริงๆอ่ะครับ

00:29:2200:29:26 เราอาจจะระบุให้มันแค่อยู่แค่ 3 คำพวกนี้

00:29:2600:29:28 ไม่ได้หรอกเพราะว่าคนเรามันจะมีจุดที่แบบ

00:29:2800:29:32 สามารถเป็น extrard ได้ในจังหวะกับบุคคล

00:29:3200:29:35 บางกลุ่มและสามารถเป็น introvert ได้เลย

00:29:3500:29:38 เมื่อเจอสถานการณ์หนึ่งแต่ถ้าแบบสุดขั้ว

00:29:3800:29:41 ก็มีนะผมผมก็เจอคล้ายๆคนที่เป็น

00:29:4100:29:44 intrawbert แบบเข้มๆเลยก็มีเขาจะแบบว่า

00:29:4400:29:47 รู้สึกว่าแบบชีวิตที่มีความสุขคือการได้

00:29:4700:29:48 อยู่กับตัวเองแล้วอ่านหนังสือเงียบๆซึ่ง

00:29:4800:29:51 บุคลิกเขาอ่ะครับเวลาเราสัมผัสตัวเขานะ

00:29:5100:29:54 เราจะรู้สึกว่าเขาจะเหมือนกับมีความไม่

00:29:5400:29:56 ค่อยมีทักษะในการเข้าสังคมและจริงๆตัวเขา

00:29:5700:29:59 เองนะโดยเนื้อเนื้อของจิตใจเขาเองเขาไม่

00:29:5900:30:01 ได้มีความต้องการจะพัฒนาทักษะทางสังคม

00:30:0100:30:04 ด้วยจริงๆแล้วการที่เขาเข้าสังคมเขาอาจจะ

00:30:0400:30:05 รู้สึกไม่ได้เป็นตัวของตัวเองก็ได้ครับ

00:30:0600:30:08 เพราะว่าตัวเขาจะมีความชอบตัวเองแบบนึง

00:30:0800:30:11 เขาจะมีความสบายใจแบบนึงแต่ทุกครั้งที่

00:30:1100:30:13 เขาเข้าสังคมอ่ะเขารู้สึกเหมือนตัวเองจะ

00:30:1300:30:15 ต้องเปลี่ยนเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครสัก

00:30:1500:30:18 คนถูกใจหรือให้คนรอบข้างถูกใจเขาเลยเลือก

00:30:1800:30:22 ที่จะเก็บพลังงานไว้กับตัวมากกว่า

00:30:2200:30:27 This Is Thai PBS

00:30:2700:30:30 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น

00:30:3000:30:32 ของไทย

00:30:3200:30:36 ซุปเปอร์ไฟล์ Google Class Apple

00:30:3600:30:39 YouTube Channel Thai PBS port

00:30:3900:30:44 Class ใช้ PBS Plus

00:30:4400:30:50 [เพลง]