00:00:00 → 00:00:02 ในภูมิกัน 100% มันอยู่ในลำไส้เนี่ย
00:00:02 → 00:00:05 ประมาณ 70% ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าอะไรที่
00:00:05 → 00:00:08 กินแล้วมันไม่ดีบางทีเสียดายของก็เก็บไว้
00:00:08 → 00:00:10 พรุ่งนี้ค่อยอุ่นปรากฏพรุ่งนี้ไม่ได้กิน
00:00:10 → 00:00:12 เก็บไว้อีกวันนึงเก็บไว้ 2-3 คืนกินแล้ว
00:00:12 → 00:00:14 รู้สึกว่าเหมือนท้องอืดท้องเฟ้อมันแน่น
00:00:14 → 00:00:17 ท้องตลอดเวลาบางวันก็ท้องผูก 3-4 วันเลย
00:00:17 → 00:00:19 มาวันนึงท้องเสียวันนึง 3-4 รอบหายเป็น
00:00:19 → 00:00:21 เลือดมีมูกปนออกมาอันนี้ต้องระวัง
00:00:21 → 00:00:23 จุลินทรีย์เนี่ยก็จะมีทั้งจุลินทรีย์ที่
00:00:23 → 00:00:25 ดีกับจุลินทรีย์ที่ไม่ดีโปรไบโอติกคือ
00:00:25 → 00:00:28 ทหารพรีไบโอติกคือเสบียงโพสไบติคืออาวุธ
00:00:28 → 00:00:30 ที่ทหารเหล่าเนี้ยมันสร้างขึ้นมาคนไข้ที่
00:00:30 → 00:00:33 พุ้มกันต่ำเด็กที่คุ้มกันยังไม่ค่อยดีถ้า
00:00:33 → 00:00:35 เราอัดโปรไบโอติกให้เขา้ามากเกินไประวัง
00:00:35 → 00:00:37 มันจะกลายเป็นตัวก่อโรคสุดท้ายต้องกลับมา
00:00:37 → 00:00:41 ดูว่าร่างกายเราเนี่ยเ้าโปรไบติกตัวไหนตก
00:00:41 → 00:00:43 ขาวที่มันจะมาเมื่อไหร่ก็มาคั้นมากขาว
00:00:43 → 00:00:46 เหมือนขี้เปียกขาวเป็นมูกสีออกเหลืองสี
00:00:46 → 00:00:49 ออกเขียวไม่ปกติอยู่แล้วฉีดสวนล้างช่อง
00:00:49 → 00:00:51 คลอดไปฉีดล้างแบบเต็มที่เลยใช้ผ้าอนามัย
00:00:51 → 00:00:55 แบบยาวนาน 12 ชม.อับชื้นสะสมออกกำลังกาย
00:00:55 → 00:00:58 เสร็จเดี๋ไปกินหมูปะทะต่อค้างเติ 2-3
00:00:58 → 00:00:59 ชั่วโมงกว่าจะได้กลับบ้านไปอาบน้ำอันนี้
00:01:00 → 00:01:01 มีปัญหาแน่
00:01:01 → 00:01:07 นอนเกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกลโรค
00:01:07 → 00:01:10 ขอต้อนรับทุกท่านนะคะกลับเข้าสู่รายการ
00:01:10 → 00:01:12 เกล่าแก้โรคค่ะแล้ววันนี้ตื่นเต้นมากๆเลย
00:01:12 → 00:01:15 ค่ะเราจะได้มีโอกาสพูดคุยแล้วก็ขอคำ
00:01:15 → 00:01:18 ปรึกษาขอคำแนะนำวันนี้ลิสคำถามเยอะมากๆนะ
00:01:18 → 00:01:22 คะกับคุณหมอสุยค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับวัน
00:01:22 → 00:01:24 นี้มาขอคำแนะนำคุณหมอเยอะเลยค่ะได้เลย
00:01:25 → 00:01:27 ครับตอนนี้มันจะมีแบบเทรนด์เรื่องของความ
00:01:27 → 00:01:31 แบบคำว่ากัด health นี่ดูแบบเป็นคนอ่าสน
00:01:31 → 00:01:34 ใจสุขภาพขึ้นมานะคะเขาบอกว่าสุขภาพของลำ
00:01:34 → 00:01:36 ไส้เนี่ยมันมีผลกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:01:36 → 00:01:38 ด้วยอะไรพวกเนี้ยคือมันทำงานยังไงแล้วเรา
00:01:39 → 00:01:41 ต้องรู้อะไรบ้างอ่ะคะก่อนอื่นเลยนะตัว
00:01:41 → 00:01:44 ระบบทางเดินอาหารของเราอ่ะครับมันมีองค์
00:01:44 → 00:01:46 ประกอบหลายอย่างมันเริ่มตั้งแต่ในป่าไปจน
00:01:46 → 00:01:48 ถึงหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้เล็กลำไส้
00:01:48 → 00:01:52 ใหญ่จนออกมาจนถึงทวันหนักแต่ว่าในตัวบท
00:01:52 → 00:01:55 บาทจริงๆเนี่ยที่มีความสำคัญในการย่อยการ
00:01:55 → 00:01:57 ดูดซึมเนี่ยมันก็อยู่ที่กระเพาะอาหารลำ
00:01:57 → 00:02:00 ไส้เล็กลำไส้ใหญ่นะครับต้องบอกว่าร่างกาย
00:02:00 → 00:02:02 เราจริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นที่อยู่ของ
00:02:02 → 00:02:05 จุลินทรีย์นะมันเป็นบ้านของจุลินทรีย์
00:02:05 → 00:02:07 จุลินทรีย์คืออะไรจุลินทรีย์คือสิ่งมี
00:02:07 → 00:02:10 ชีวิตที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา
00:02:10 → 00:02:13 เปล่าต้องใช้กล้องจุลทัศน์เราก็เรียกว่า
00:02:13 → 00:02:14 จุลินทรีย์แต่จุลินทรีย์เนี่ยมันมีหลาย
00:02:14 → 00:02:18 อย่างแบคทีเรียเชื้อราบาโปรโตซัวได้หมด
00:02:18 → 00:02:21 เลยทุกอย่างย้อนกลับมาว่าตัวทางเดินอาหาร
00:02:21 → 00:02:23 เนี่ยมันมีส่วนสำคัญนะครับเกี่ยวกับระบบ
00:02:23 → 00:02:26 ปุ้มกันได้ยังไงต้องบอกว่าลำไส้ของเรา
00:02:26 → 00:02:29 เนี่ยเริ่มแรกสุดเลยนะเรากินอะไรเข้าไปก็
00:02:29 → 00:02:32 ตามเนี่ยลำไส้เราเี่มันเหมือนเป็นป้อมปาก
00:02:32 → 00:02:35 ด่านแรกเลยอืเป็นด่านหน้าของทุกอย่าง
00:02:35 → 00:02:37 เพราะว่าอาหารที่เรากินเข้าไปเนี่ยกว่าจะ
00:02:37 → 00:02:39 ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดต้องผ่านอะไรก็
00:02:39 → 00:02:42 ผ่านหลอดอาหารกระเพาะอาหารผ่านลำไส้กว่า
00:02:42 → 00:02:44 จะดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็กใช่มั้ครับมัน
00:02:44 → 00:02:47 เหมือนต้องผ่านยามอ่ะก็คือยามเราคือลำไส้
00:02:47 → 00:02:49 เล็กนั่นแหละในลำไส้เล็กเนี่ยมันจะเป็น
00:02:49 → 00:02:52 มันจะมีเยื่อบุผิวไอ้เยื่อบุผิวเนี่ยพูด
00:02:52 → 00:02:55 ง่ายๆมันเหมือนตม.นะเป็นเหมือนตรวจคนเข้า
00:02:55 → 00:02:58 เมืองอ่ะใครที่เข้ามาใช่อะไรเวลาเราจะดูด
00:02:58 → 00:03:01 ซึมอะไรเนี่ยครับมันจะเป็นเหมือนตม.เลย
00:03:01 → 00:03:03 คอยคัดกรองว่าคนเนี้ยเข้าได้คนเนี้ยเข้า
00:03:03 → 00:03:06 ไม่ได้ขับทิ้งลำไส้เราทำแบบนั้นอันนี้คือ
00:03:06 → 00:03:09 ระบบคุ้มกันอันแรกสุดละนะครับอันที่ 2
00:03:09 → 00:03:11 หลังจากที่ดูดซึมไปแล้วเนี่ยทั้งหมดเนี่ย
00:03:12 → 00:03:14 ตัวลำไส้เล็กหรือลำไส้ในช่องท้องเราเนี่ย
00:03:14 → 00:03:16 ใครจะเชื่อได้ว่าจริงๆแล้วเนี่ยในภูมิกัน
00:03:16 → 00:03:19 100% เนี่ยระบบภูมิกันทั้งหมดเนี่ยมัน
00:03:19 → 00:03:22 อยู่ในลำไส้เนี่ยประมาณ 70% เป็นอย่าง
00:03:22 → 00:03:25 น้อยนะโอ้โหบางคนจะคิดว่าระบบภูมิกันมัน
00:03:25 → 00:03:28 คืออยู่ที่ต่อมน้ำเหลืองอยู่ที่ม้ามอยู่
00:03:28 → 00:03:30 ที่เม็ดเลือดขาวหรืออะไรไม่ใช่จริงๆแล้ว
00:03:30 → 00:03:33 เนี่ยมากกว่า 70% ของระบบภูมิกันมันฝัง
00:03:33 → 00:03:36 ตัวอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเราบางคนคิด
00:03:36 → 00:03:38 ว่ามีหน้าที่แค่ย่อยอาหารแล้วก็ขับถ่าย
00:03:39 → 00:03:41 ไม่ใช่มันมีหน้าที่เกี่ยวกับระบบคุ้มกัน
00:03:41 → 00:03:44 ด้วยจึงเป็นที่มาว่าอาหารดีสุขภาพดีภูมิ
00:03:44 → 00:03:48 กันดีถ้าสมมุติว่าลำไส้อ่อนแอมันก็จะทำ
00:03:48 → 00:03:50 ให้ภูมิกันอ่อนแอเราก็จะเป็นโรคได้ง่าย
00:03:50 → 00:03:52 ขึ้นเพราะฉะนั้นอย่างงี้สิ่งที่สำคัญมากๆ
00:03:52 → 00:03:55 เลยก็คือตั้งแต่เราเอาอะไรเข้าปากไปเนาะ
00:03:55 → 00:03:58 ถูกต้องครับพฤติกรรมการกินแบบไหนอ่ะคะคุณ
00:03:58 → 00:04:01 หมอที่มันจะทำให้ลำไส้เรามีปัญหากินแบบ
00:04:01 → 00:04:05 ไหนให้ดีและแบบไหนที่ไม่ดีกับร่างกายส่วน
00:04:05 → 00:04:07 ใหญ่เนี่ยเราจะรู้กันอยู่แล้วแหละว่าอะไร
00:04:07 → 00:04:10 ที่กินแล้วมีประโยชน์แต่ปัญหาคือเราไม่
00:04:10 → 00:04:12 รู้ว่าอะไรที่กินแล้วมันไม่ดีกับร่างกาย
00:04:12 → 00:04:15 หรือว่าจริงๆแล้วมันเป็นภัยเงียบกับร่าง
00:04:15 → 00:04:17 กายอยู่อันเนี้ยเราไม่รู้ตัวที่กินแล้วทำ
00:04:17 → 00:04:19 ให้ระบบคุ้มกันมีปัญหาก็คือการกินอาหาร
00:04:19 → 00:04:23 ที่มีน้ำตาลสูงมากเกินไปมันจะส่งผลทำให้
00:04:23 → 00:04:25 จุลินทรีย์บางชนิดเนี่ยนะครับเค้าเติบโต
00:04:25 → 00:04:27 ได้ไม่ดีโดยเฉพาะเป็นจุลินทรีย์ที่ดีพอ
00:04:27 → 00:04:29 จุลินทรีย์ที่ดีมันเติบโตได้ไม่ดีเนี่ยนะ
00:04:30 → 00:04:32 ครับอาจจะส่งผลทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับ
00:04:32 → 00:04:35 เรื่องของระบบคุ้มกันของร่างกายได้อันที่
00:04:35 → 00:04:37 2 คือพวกอาหารแปรรูปผมยกตัวอย่างง่ายๆ
00:04:37 → 00:04:42 เบคอนอไส้กรอกแหมเนื้อแปรรูปมาแล้วอื
00:04:42 → 00:04:43 อาหารที่แปรรูปพวกนี้เนี่ยสุดท้ายเนี่ย
00:04:43 → 00:04:46 เวลาที่เรากินเข้าไปเนี่ยมันจะส่งผล
00:04:46 → 00:04:48 เกี่ยวกับเรื่องของการทำงานของลำไส้เพิ่ม
00:04:48 → 00:04:50 เรื่องของความเสี่ยงของการที่จะเป็น
00:04:50 → 00:04:53 มะเร็งลำไส้ได้ด้วยอันที่ 3 ก็คือ
00:04:53 → 00:04:56 พฤติกรรมที่กินอาหารที่เป็นของหมักดองนะ
00:04:56 → 00:05:00 ครับที่ปรุงไม่สุกเช่นปลาร้าที่ไม่สุก
00:05:00 → 00:05:02 หรือกะปิที่เก็บแบบไม่ถูกกรรมวิธีหรือกิน
00:05:02 → 00:05:05 อาหารที่ค้างมาแล้วหลายคืนบางทีเราจะมี
00:05:05 → 00:05:07 พฤติกรรมอ่ะครับเรากินมาเราเสียดายของก็
00:05:07 → 00:05:09 เก็บไว้พรุ่งนี้ค่อยอุ่นปรากฏพรุ่งนี้ไม่
00:05:09 → 00:05:11 ได้กินเก็บไว้อีกวันนึงก็มาอีกวันนึงถึง
00:05:11 → 00:05:13 จะได้มาอุ่นเก็บไว้ 2-3 คืนอย่างเงี้ย
00:05:13 → 00:05:15 แล้วมากินไอ้พวกนี้ไม่ค่อยดีเพราะว่าบาง
00:05:15 → 00:05:17 ทีมันจะเป็นแหล่งสะสมของพวกเชื้อโรค
00:05:17 → 00:05:19 แบคทีเรียนะครับอันนี้รวมไปถึงพวกที่เป็น
00:05:19 → 00:05:21 อาหารหมักดองด้วยมันจะมีเชื้อโรค
00:05:21 → 00:05:23 แบคทีเรียบางตัวที่กินเข้าไปเนี่ยเราอาจ
00:05:23 → 00:05:25 จะได้รับผลกระทบกับลำไส้แทนคนไข้ก็อาจจะ
00:05:25 → 00:05:29 มีอาการเรื่องท้องเสียไม่ทายมีปัญหา
00:05:29 → 00:05:31 เรื่องท้องอืดแน่นๆได้อันที่ 4 ก็คือคน
00:05:31 → 00:05:35 ไข้ที่มีพฤติกรรมการกินยาฆ่าเชื้อที่ผิด
00:05:35 → 00:05:38 ประเภทและผิดวิธีบางครั้งเนี่ยพฤติกรรม
00:05:38 → 00:05:41 ของคนไทยเราส่วนใหญ่ที่ผมเจอคนไข้เนี่ย
00:05:41 → 00:05:44 เวลาเป็นหวัดก็อยากจะขอยาฆ่าเชื้อให้หมอ
00:05:44 → 00:05:46 ฉีดยาฆ่าเชื้อหน่อยเพราะว่าคิดว่าจะดี
00:05:46 → 00:05:48 ขึ้นแต่จริงๆแล้วเนี่ยเวลาที่คนไข้ส่วน
00:05:49 → 00:05:50 ใหญ่ติดเชื้อเนี่ยครับเป็นหวัดเนี่ยมักจะ
00:05:50 → 00:05:53 เป็นเชื้อไวรัสซึ่งมันรักษาได้ด้วยปุ๊ม
00:05:53 → 00:05:56 กันตัวเองไม่ใช่รักษาได้ด้วยยาฆ่าเชื้อ
00:05:56 → 00:05:58 แต่การกินยาฆ่าเชื้อเนี่ยนอกจากจะไม่ได้
00:05:58 → 00:06:00 ฆ่าฆ่าเชื้อที่มันมีอยู่ในร่างกายนะครับ
00:06:00 → 00:06:03 มันจะไปฆ่าเชื้อดีๆจุลินทรีย์ดีๆที่อยู่
00:06:03 → 00:06:05 ในร่างกายซึ่งจะทำให้จุลินทรีย์ตรงเนี้ย
00:06:05 → 00:06:07 ที่มันเหมือนเป็นยามป้องกันยามเฝ้าบ้าน
00:06:07 → 00:06:08 เราเนี่ยมันหายไปมันเหมือนเราโยน
00:06:08 → 00:06:11 นิวเคลียร์ไปมันฆ่าหมดทุกคนงั้นกลุ่มคน
00:06:11 → 00:06:14 ไข้ที่กินยาฆ่าเชื้อแบบผิดประเภทกินบ่อยๆ
00:06:14 → 00:06:16 อะไรเงี้ยมักจะมีปัญหาที่จุลินทรีย์ดีๆใน
00:06:16 → 00:06:19 ร่างกายเนี่ยมันลดน้อยหายไปก็จะมีเรื่อง
00:06:19 → 00:06:22 ของระบบทางเดินอาหารที่มันทำงานผิดปกติ
00:06:22 → 00:06:25 ได้อันอื่นๆก็จะเป็นปัจจัยที่ส่วนใหญ่เรา
00:06:25 → 00:06:27 ก็จะแนะนำกันเป็นประจำอยู่แล้วเช่นคนไข้
00:06:27 → 00:06:30 ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายนะครับไม่ค่อยขยับ
00:06:30 → 00:06:33 ตัวไม่ค่อยไปไหนหรือคนไข้ที่นอนดึกนอนไม่
00:06:33 → 00:06:36 เพียงพอไม่เป็นเวลาอันนี้แน่นอนเวลาที่
00:06:36 → 00:06:39 เรานอนดึกนอนไม่เพียงพอก็จะมีผลต่อระบบ
00:06:39 → 00:06:41 การทำงานของร่างกายมีฮอร์โมนความเครียด
00:06:41 → 00:06:43 มากขึ้นการทำงานลำไส้ก็ไม่ค่อยดีอันนี้ก็
00:06:44 → 00:06:46 เป็นในกลุ่มที่พฤติกรรมไม่ดีส่วนพฤติกรรม
00:06:46 → 00:06:48 ดีที่ควรจะต้องทำก็จะสอดรับกันกับ
00:06:48 → 00:06:50 พฤติกรรมที่ไม่ดีแหละอันไหนที่ไม่ดีที่
00:06:50 → 00:06:52 เหลือทำได้หมดอ่าพฤติกรรมที่ดีจากเรื่อง
00:06:52 → 00:06:54 ของตัวลำไส้ก็คือ 1 เรากินอาหารให้ครบ
00:06:54 → 00:06:56 ถ้วนตามหลักโภชนาการไม่กินอะไรที่มันมาก
00:06:56 → 00:06:59 เกินไปน้อยเกินไปกินทุกอย่างให้สมดุลแต่
00:06:59 → 00:07:01 พอดีไขมันก็กินได้ไม่ใช่ว่าต้องรีนจนแบบ
00:07:01 → 00:07:04 ไม่กินเลยมันก็เป็นส่วนช่วยอันนึงของร่าง
00:07:04 → 00:07:06 กายปรับสมดุลวิตามินเกลือแร่ทานได้หมดทุก
00:07:06 → 00:07:08 อย่างอันที่ 2 คือต้องดื่มน้ำสะอาดให้
00:07:08 → 00:07:11 เยอะๆมันก็จะช่วยส่งผลทำให้ระบบสมดุลของ
00:07:11 → 00:07:13 ร่างกายเนี่ยมันขับเคลื่อนได้โดยอยู่ใน
00:07:13 → 00:07:15 สภาวะที่ปกติเพราะว่าองค์ประกอบของร่าง
00:07:15 → 00:07:18 กายเรามันมีน้ำประมาณ 70-60% โดยประมาณ
00:07:18 → 00:07:20 น้ำในร่างกายเนี่ยถ้าเกิดว่ามันเสียสมดุล
00:07:20 → 00:07:22 ไปแน่นอนมันส่งผลกระทบต่อร่างกายเกิน
00:07:22 → 00:07:24 ครึ่งแน่นอนเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยควรจะ
00:07:24 → 00:07:27 ต้องดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆให้เยอะๆอัน
00:07:27 → 00:07:30 ที่ 3 ก็คือออกกำลังกายอย่างน้อย 150
00:07:30 → 00:07:33 นาทีต่อสัปดาห์แล้วก็ที่ 4 ก็นอนหลับให้
00:07:33 → 00:07:37 เพียงพอ 6-8 ชม.โอก็สรุปเมื่อตะกี้นี้อัน
00:07:37 → 00:07:39 ที่แบบให้ระวังไว้ก่อนเลยคืออันที่มีน้ำ
00:07:39 → 00:07:42 ตาลสุกแล้วก็อาหารแปรรูปอาหารมักดองที่
00:07:42 → 00:07:45 ปรุงไม่สุกแล้วก็ยาฆ่าเชื้อที่กินแบบเกิน
00:07:45 → 00:07:48 จำเป็นแล้วก็ผิดรูปแบบเนาะโอเชื่อว่าหลาย
00:07:48 → 00:07:51 ๆคนน่าจะสะดุ้งอยู่ทางบ้านค่ะว่าอุ้ยนั่น
00:07:51 → 00:07:54 ฉันหมดเลยนี่นานะคะถ้าเราเผลอมีนิสัยที่
00:07:54 → 00:07:58 แบบมันอ่ามันอาจจะทำร้ายลำไส้ไปแล้วมันมี
00:07:58 → 00:08:01 สัญญาณหรืออาการเตือนอะไรบ้างไหมคะที่บอก
00:08:01 → 00:08:03 แล้วว่าอันนี้ไม่ได้แล้วนะอันนี้ควรจะ
00:08:03 → 00:08:05 เริ่มจริงจังกับการดูแลลำทำไส้ของเราได้
00:08:05 → 00:08:07 แล้วอะไรเงี้ยค่ะบางคนเนี่ยกินไปกินไปไม่
00:08:07 → 00:08:10 รู้หรอกว่าอาการตัวเองเนี่ยจะเป็นยังไง
00:08:10 → 00:08:13 แล้วแบบไหนเนี่ยมันอยู่ในจุดที่อันตรายละ
00:08:13 → 00:08:15 มันมีสัญญาณบ่งบอกมาแล้วว่าเนี่ยไม่ดี
00:08:15 → 00:08:17 อันดับแรกเลยนะก็คือคนไข้ที่รู้สึกว่า
00:08:17 → 00:08:20 เวลาเากินอาหารเข้าไปเนี่ยเา้าไม่ย่อยคือ
00:08:20 → 00:08:22 กินแล้วรู้สึกว่าเหมือนท้องอืดท้องเฟ้อ
00:08:22 → 00:08:25 มันแน่นท้องตลอดเวลาอันที่ 2 เนี่ยก็คือ
00:08:25 → 00:08:27 คนไข้ที่มีอาการขับถ่ายผิดปกติเดี๋ยวบาง
00:08:27 → 00:08:31 วันก็ท้องผูก 3-4 วันเลยถ่ายทีนึงอยู่ดีๆ
00:08:31 → 00:08:33 มาวันนึงคนไข้ก็ท้องเสียวันนึง 3-4 รอบ
00:08:33 → 00:08:36 อันเนี้ยก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าลำไส้
00:08:36 → 00:08:39 เราน่าจะมีปัญหาอะไรแน่นอนอันที่ 3 ก็คือ
00:08:39 → 00:08:42 คนไข้ที่กินไปแล้วเนี่ยรู้สึกว่ากินก็กิน
00:08:42 → 00:08:45 ได้ปกตินะแต่ทำไมน้ำหนักดูไม่ค่อยเพิ่มดู
00:08:45 → 00:08:47 ลดลงน้ำหนักไม่ขึ้นกินก็กินมากกว่าคนอื่น
00:08:47 → 00:08:50 แปลว่าจริงๆระบบลำไส้ของเราเนี่ยอาจจะมี
00:08:50 → 00:08:52 ฟังก์ชันในการดูดซึมที่มีปัญหาคือกินไปก็
00:08:52 → 00:08:55 จริงแต่มันไม่ดูดซึมพอมันไม่ดูดซึมสาร
00:08:55 → 00:08:57 อาหารเข้าไปในเลือดเราในร่างกายเราแน่นอน
00:08:57 → 00:08:59 มันก็ร่างกายเราก็ไม่โตเพราะว่ากินเข้าไป
00:08:59 → 00:09:01 ไม่ท่านดูดซึมมันก็ถูกขับถ่ายออกมาหมดอัน
00:09:02 → 00:09:04 ที่ 4 ก็คือคนไข้เนี่ยมีปัญหาหาเรื่องของ
00:09:04 → 00:09:07 การขับถ่ายที่ผิดปกติเช่นมีถ่ายเป็นเลือด
00:09:07 → 00:09:10 ถ้าเริ่มมีถ่ายเป็นเลือดนะปกติไม่เคยเป็น
00:09:10 → 00:09:12 เลยถ่ายเป็นเลือดมีมูกปนออกมาอันนี้ต้อง
00:09:12 → 00:09:14 ระวังเพราะไม่รู้ว่ามันมีปัญหาเรื่องของ
00:09:14 → 00:09:17 ลำไส้อักเสบลำไส้ติดเชื้อหรือเปล่าอะไร
00:09:17 → 00:09:19 อย่างเงี้ยครับสุดท้ายเนี่ยก็คือคนไข้
00:09:19 → 00:09:22 เนี่ยมีอาการปวดท้องผิดปกติอยู่ดีๆก็
00:09:22 → 00:09:26 เหมือนปวดแบบบีบๆเกงๆท้องไม่ทราบสาเหตุ
00:09:26 → 00:09:28 ปวดขึ้นมาโรคกระเพาะหรือเปล่านะซื้อยากิน
00:09:28 → 00:09:31 เองก็ทำไมยังไม่หายสักทีนึงอันเนี้ต้อง
00:09:31 → 00:09:34 ระวังเพราะว่าอาจจะมีปัญหาคือกินอาหารไป
00:09:34 → 00:09:36 หรือว่ากินอะไรไปเนี่ยแล้วอาจจะมีการติด
00:09:36 → 00:09:39 เชื้อในช่องท้องนะครับทำให้มีอาการปวด
00:09:39 → 00:09:42 ท้องมีลำไส้บีบตัวผิดปกติหรือแม้กระทั่ง
00:09:42 → 00:09:44 ขาดจุลินทรีย์บางอย่างในร่างกายนะครับจน
00:09:44 → 00:09:46 ทำให้เชื้อโรคบางตัวมันเจริญเติบโตมาก
00:09:46 → 00:09:49 ขึ้นมันก็จะทำให้ระบบการทำงานฟังก์ชันของ
00:09:49 → 00:09:52 ลำไส้เนี่ยมันผิดปกติไปคนไข้ก็จะมีอาการ
00:09:52 → 00:09:54 ปวดบีบเกร็งท้องได้ปวดแน่นท้องแบบผิดปกติ
00:09:55 → 00:09:59 ได้อมีจุกแน่นขับถ่ายผิดปกติเนาะน้ำหนัก
00:09:59 → 00:10:01 ไม่เพิ่มนี่ก็ต้องคิดต้องระวังเหมือนกัน
00:10:01 → 00:10:04 นะคะแล้วก็ถ่ายเป็นเลือดแล้วก็มีอาการปวด
00:10:04 → 00:10:07 ท้องทีนี้ตอนแรกสุดเลยอ่ะค่ะบางทีเราพอ
00:10:07 → 00:10:10 เราพูดคำว่าอ่ะแบคทีเรียหรือแบคทีเรียแบบ
00:10:10 → 00:10:12 อ่าจุลินทรีย์หรืออะไรเงี้ยมันดูเหมือน
00:10:12 → 00:10:14 เป็นมันเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือเปล่าอ่ะคะ
00:10:14 → 00:10:16 คุณหมอเราร่างกายเราต้องสะอาดอะไรอย่าง
00:10:16 → 00:10:18 เงี้ยเพราะวันเนี้เรามาคุยกันว่าเออมันมี
00:10:18 → 00:10:21 ทั้งแบบจุลินทรีย์ที่ดีที่เราต้องรักษา
00:10:21 → 00:10:24 ไว้ด้วยอะไรอย่างเงี้ยนะคะซึ่งหลายๆคนก็
00:10:24 → 00:10:27 อาจจะเคยได้ยินในเรื่องของแบบว่าอ่ะ
00:10:27 → 00:10:30 probบicbioticsเนาะแล้วช่วงหลังมานี้มี
00:10:30 → 00:10:33 post biotic อีกนะคะมันมีคำเหล่าเนี้ย
00:10:33 → 00:10:36 ออกมาให้เราแบบเอ๊ะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ
00:10:36 → 00:10:39 เรื่องนี้หรือการเธอมีลำปัญหากับลำไส้
00:10:39 → 00:10:42 เหรอเธอต้องไปกินพีไบโอติกพบโอติกสิไอ้ 3
00:10:43 → 00:10:45 ตัวเนี้ยมันคืออะไรบ้างแล้วมันมีผลกับ
00:10:45 → 00:10:48 สุขภาพลำไส้ทางเดินอาหารยังไงบ้างอ่ะค่ะ
00:10:48 → 00:10:51 มันเป็นเรื่องที่พูดกันมานานนะเราจะได้
00:10:51 → 00:10:53 ยินบ่อยๆเรื่องโปรไบโอติกเนี่ยผมได้ยินมา
00:10:53 → 00:10:55 จริงๆอาจจะได้ยินก่อนตอนผมยังเป็นนัก
00:10:55 → 00:10:57 เรียนแพทย์อยู่ด้วยซ้ำตอนที่ได้ยินใหม่ๆ
00:10:58 → 00:10:59 ก็ยังไม่เข้าใจหรอกไม่ได้เก็ทหรอกว่ามัน
00:10:59 → 00:11:02 คืออะไรจนกระทั่งพอมาเรียนแล้วก็ศึกษาข้อ
00:11:02 → 00:11:04 ข้อมูลเพิ่มเติมอ่ะผมเชื่อว่าหลายๆคนก็
00:11:04 → 00:11:06 ยังเป็นแบบนั้นเหมือนกันคืออาจจะเคยได้
00:11:06 → 00:11:09 ยินโปรติก PRT ได้ยินมาละคุ้นหูระดับนึง
00:11:09 → 00:11:11 ละแต่ไม่รู้ว่า meaning หรือว่าความหมาย
00:11:11 → 00:11:14 ที่แท้จริงมันคืออะไรย้อนกลับไปประโยคที่
00:11:14 → 00:11:16 ถามว่าจริงร่างกายเรามีจุลินทรีย์เต็มไป
00:11:16 → 00:11:19 หมดเลยใช่ครับเป็นร้อยล้านเป็นพันล้านตัว
00:11:19 → 00:11:20 เลยนะที่อยู่ในร่างกายเราแต่ว่า
00:11:20 → 00:11:22 จุลินทรีย์เนี่ยอย่างที่บอกมันก็จะมีทั้ง
00:11:22 → 00:11:24 จุลินทรีย์ที่ดีกับจุลินทรีย์ที่ไม่ดีไอ้
00:11:24 → 00:11:26 จุลินทรีย์ที่ดีเนี่ยเราเรียกว่า
00:11:26 → 00:11:28 โปรไบโอติกเพราะฉะนั้นแล้วโปรไบโอติกมัน
00:11:28 → 00:11:31 เท่ากับจุลินทรีย์ที่ดีอันที่ 2 ก็คือ
00:11:31 → 00:11:34 พีไบโอติอาหารของจุลินทรีย์ที่ดี
00:11:34 → 00:11:37 โปรไบโติกจะเจริญเติบโตได้จะอยู่ในร่าง
00:11:37 → 00:11:40 กายเราได้เขาก็ต้องมีพีไบโอติกพอย้อนกลับ
00:11:40 → 00:11:43 มาที่โพสไบติมันคืออะไร biotic เนี่ยมัน
00:11:43 → 00:11:46 ก็คือผลิตภัณฑ์หรือผลลัพธ์ที่โปรไบโอติก
00:11:46 → 00:11:48 มันสร้างขึ้นมาผมยกตัวอย่างง่ายๆ
00:11:48 → 00:11:51 โปรไบโอติกคือทหารพีไบโอติกคือเสบียง
00:11:51 → 00:11:53 โพสไบโอติกคืออาวุธที่ทหารเหล่าเนี้ยมัน
00:11:53 → 00:11:55 สร้างขึ้นมาเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยตัว
00:11:55 → 00:11:57 โปรไบโอติกพรีไบโติกpoไบติกจริงๆมันคือ
00:11:57 → 00:12:00 เรื่องเดียวกันมันมาจากจุดกำเนิดที่ใกล้
00:12:00 → 00:12:03 เคียงกันแต่การทำงานหรือว่าความสำคัญของ
00:12:03 → 00:12:05 มันเนี่ยมันมีความแตกต่างกันอยู่
00:12:05 → 00:12:07 โปรไบโติกส่วนใหญ่เนี่ยนะฮะเราจะได้จาก
00:12:07 → 00:12:10 รูปแบบของการกินโดยเฉพาะอาหารที่เป็นเอ่อ
00:12:10 → 00:12:13 โยเกิร์ตอาหารหมักต่างๆเช่นอิมจิหรือว่า
00:12:13 → 00:12:16 นัโตะมิโสะโปรไบติกมันอยู่ในสารอาหาร
00:12:16 → 00:12:18 เหล่านี้แหละพรีไบโอติกเนี่ยมันได้จากไหน
00:12:18 → 00:12:20 พรีไบติกคืออาหารของโปรไบโอติกมันจะอยู่
00:12:20 → 00:12:24 ในพวกผักหลากสีก็ผักต่างๆกับพวกอาหารที่
00:12:24 → 00:12:27 มีกากใหญ่เยอะเช่นหัวหอมกระเทียมผมไม่
00:12:27 → 00:12:29 ค่อยชอบเท่าไหร่นะคือกลิ่นมันฉุนเพราะ
00:12:29 → 00:12:31 ฉะนั้นเนี่ยมันจะเป็นอาหารที่หลายหลายคน
00:12:31 → 00:12:33 ไม่ค่อยชอบผักบางคนก็ไม่กินเพราะฉะนั้น
00:12:33 → 00:12:36 บางคนจะขาดพรีไบโอติกโพสไบติไม่มีไม่มี
00:12:36 → 00:12:38 อาหารไหนหรอกมันต้องเกิดจากโปรไบโอติกอ่ะ
00:12:38 → 00:12:40 แหละสร้างขึ้นมาเพราะฉะนั้นเราต้องกิน
00:12:40 → 00:12:41 โปรไบโอติกเข้ามาก่อนมันถึงจะสร้าง
00:12:41 → 00:12:44 โพสไบโอติกได้ความสำคัญก็คือว่าเวลาที่
00:12:44 → 00:12:47 เรากินอาหารเข้าไปเราต้องการให้
00:12:47 → 00:12:49 โปรไบโอติกเนี่ยครับมันอยู่ในร่างกายของ
00:12:49 → 00:12:53 เราเพื่ออะไรโปรไบติกมันคือกองทัพธรรมะ
00:12:53 → 00:12:56 เพื่อไปสู้กับกองทัพอธรรมก็คือจุลินทรีย์
00:12:56 → 00:12:58 ตัวร้ายตัวร้ายใช่เพราะฉะนั้นแล้วความ
00:12:58 → 00:13:02 สำคัญของโปรติกมันคือการที่มีจุลินทรีย์
00:13:02 → 00:13:05 ตัวดีควบคุมให้จุลินทรีย์ตัวร้ายเนี่ยมัน
00:13:05 → 00:13:08 เติบโตมากเกินไปจนมันก่อโรคให้กับร่างกาย
00:13:08 → 00:13:10 ของเราเพราะฉะนั้นในกลุ่มคนไข้ที่ขาด
00:13:10 → 00:13:13 โปรไบโอติกคนไข้อาจจะมีอาการท้องอืดท้อง
00:13:13 → 00:13:16 เฟ้อแน่นท้องขับถ่ายผิดปกติเดี๋ยวท้องผูก
00:13:16 → 00:13:18 เดี๋ยวท้องเสียกินอาหารแล้วไม่ย่อย
00:13:18 → 00:13:21 อันเนี้ยเป็นอาการที่บ่งบอกว่าเรามีปัญหา
00:13:21 → 00:13:23 เกี่ยวกับระบบลำไส้อาจจะขาดโปรไบติกอะไร
00:13:23 → 00:13:26 หรือเปล่าเป็นต้นอเห็นภาพมากๆเลยว่าโอเค
00:13:26 → 00:13:29 ผู้ร้ายกับพระเอกซึ่งสิ่งที่เราต้องการก็
00:13:29 → 00:13:32 คือชีเชียร์พระเอกเข้าไปค่ะซึ่งเชียร์ก็
00:13:32 → 00:13:34 อาจจะมาจากการกินกันอะไรอย่างี้เนาะคณะ
00:13:34 → 00:13:37 อาจจะไม่เคยได้ยินคำว่าโพสไบโอติกมาก่อน
00:13:37 → 00:13:39 เลยค่ะเพิ่งเคยได้ยินช่วงหลังๆมานี้เลย
00:13:39 → 00:13:42 ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเออโอเคเราก็กินอาหาร
00:13:42 → 00:13:45 ที่มีความหักกินกิมจิน่ะเราชอบมากเลยแล้ว
00:13:45 → 00:13:48 ก็พยายามกินผักให้เยอะๆเราจะได้มี PRTIC
00:13:48 → 00:13:50 เอ่อพีบticด้วยอะไรอย่างเงี้ยProโปพี
00:13:50 → 00:13:53 พยายามและแต่ว่าโพสเนี่ยอย่างที่คุณหมอ
00:13:53 → 00:13:55 บอกคือมันไม่ได้สามารถกินอะไรเข้ามาได้
00:13:55 → 00:13:58 มันต้องเกิดจากตัวพีกับ Pro มาด้วยกัน
00:13:58 → 00:14:02 อะไรเงี้ครับแล้วมันความอะไรกับสมมติอ่ะ
00:14:02 → 00:14:06 โพสไบติมาทำไมเราต้องรู้จักโพสไบติไปด้วย
00:14:06 → 00:14:07 เพื่อให้สุขภาพเราดียิ่งขึ้นอะไรเงี้ยค่ะ
00:14:08 → 00:14:11 โอเคนี่เป็นคำถามที่ดีมากเพราะว่าจริงๆ
00:14:11 → 00:14:13 เนี่ยคนก็จะมองว่าแค่กินพีกับโปรก็พอแล้ว
00:14:13 → 00:14:17 อืเพราะว่าสุดท้ายมันก็ได้โพสต์อยู่ดีอื
00:14:17 → 00:14:19 ใช่มั้ยครับเพราะว่าสารตั้งต้นมันคือพี
00:14:19 → 00:14:22 กับโปรไบโอติกค่ะทีนี้มันจะมีลักษณะของ
00:14:22 → 00:14:25 กลุ่มคนไข้พิเศษบางกลุ่มคนไข้ที่คุ้มกัน
00:14:25 → 00:14:28 ต่ำหรือพุ้มกันที่ไม่ดีหรือคนไข้ที่เด็ก
00:14:28 → 00:14:30 ที่พุ้มพร้อมกันยังไม่ค่อยดีเนี่ยถ้าเรา
00:14:30 → 00:14:33 อัดโปรไบโอติกให้เขามากเกินไปไอ้โปรไบติก
00:14:33 → 00:14:35 หรือจูนิซีที่ได้เนี่ยมากเกินไปเนี่ยสุด
00:14:35 → 00:14:38 ท้ายเนี่ยระวังมันจะกลายเป็นตัวก่อโรคทำ
00:14:38 → 00:14:40 ให้มีการติดเชื้อขึ้นมาแทนโดยเฉพาะใน
00:14:40 → 00:14:44 กลุ่มคนไข้ดีอาจจะไปให้ยาเคมีบำบัดหรือ
00:14:44 → 00:14:46 เป็น SL ต้องกินสเตรอยด์กดภูมิตลอดพวกนี้
00:14:46 → 00:14:49 นะครับพวกเนี้ยเวลาเราอัดโปรไบโติกไปเยอะ
00:14:49 → 00:14:51 ๆเนี่ยคนไข้จะแย่แทนอยู่ดีๆก็ท้องเสียแทน
00:14:51 → 00:14:53 แทนที่จะกินน้ำเพืแกล้งท้องเสียแต่กลับ
00:14:53 → 00:14:56 ท้องเสียหนักกว่าเดิมหรือระบบขับถ่ายระบบ
00:14:56 → 00:14:58 ทำงานของเดินอาหารพิษปกติไปกว่าเดิมอืออ
00:14:58 → 00:15:01 เพราะว่าเพราะอัจุทรมากเกินไปแล้วภูมิกัน
00:15:01 → 00:15:04 ตอบสนองไม่ไหวโพสไบติมันคือผลิตภัณฑ์มัน
00:15:05 → 00:15:07 คืออาวุธของมันะที่มันถูกสร้างขึ้นมา
00:15:07 → 00:15:10 เพื่อใช้ในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆต่อ
00:15:10 → 00:15:12 สู้กับจุลินทรีย์ที่ไม่ดีการที่ให้
00:15:12 → 00:15:14 โพสไบโอติกไปด้วยมันเหมือนกับเราได้อาวุธ
00:15:14 → 00:15:17 วิเศษขึ้นมาละในการที่จะต่อสู้กับเชื้อ
00:15:17 → 00:15:19 โรคโดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโปรไบโอติก
00:15:19 → 00:15:22 ให้เยอะให้มากจำนวนเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:15:22 → 00:15:24 จึงมีโพสต์ไบโติกขึ้นมาเพื่อตอบสนองแก้
00:15:24 → 00:15:26 โจทย์กับคนที่ภูมิกันไม่ดีแล้วกิน
00:15:26 → 00:15:30 โปรไบโติกไม่ได้อือก็มีโพสติขึ้นมาคณะเคย
00:15:30 → 00:15:33 ได้ยินมาว่ามันจะมีแบบเป็นคนไข้ที่อาจจะ
00:15:33 → 00:15:36 มีอาการภูมิแพ้หรือแบบเป็นผื่นตามผิวหนัง
00:15:36 → 00:15:39 แล้วดูแลลำไส้ปุ๊บดีขึ้นแทนที่จะแบบอ่ะทา
00:15:39 → 00:15:41 ครีมอย่างเดียวอะไรอย่างเงี้ยดูแลลำไส้
00:15:41 → 00:15:43 แล้วมันเปลี่ยนสุขภาพผิวหนังไปด้วยอะไร
00:15:43 → 00:15:46 เงี้ยออกตัวก่อนนะผมเป็นสัญแพทย์เกี่ยว
00:15:46 → 00:15:49 กับระบบทางเดือนอาหารนะครับเพราะฉะนั้น
00:15:49 → 00:15:51 เนี่ยจะไม่ค่อยได้ดูแลเคสที่เป็นคนไข้ที่
00:15:51 → 00:15:53 มาด้วยผื่นหรืออะไรแต่มันมีความเกี่ยว
00:15:53 → 00:15:56 เนื่องกันอย่างนี้ผมยังจำคนไข้คนนี้ได้ดี
00:15:56 → 00:15:58 เพราะว่าเพิ่งเจอกันไปเมื่อเดือนที่แล้ว
00:15:58 → 00:16:01 เป็นไข้ที่นัดมาดูอาการคนไข้เป็นผู้หญิง
00:16:02 → 00:16:05 30 กว่าปีนะฮะก็ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ
00:16:05 → 00:16:07 ธรรมดาเนี่ยครับพอดีอีกแผนกนึงที่เป็น
00:16:07 → 00:16:09 แผนกผิวหนังเนี่ยเขาส่งปรึกษามาเพราะว่า
00:16:09 → 00:16:11 คนไข้ให้ประวัติว่าเา้าเนี่ยเอ่อเหมือน
00:16:12 → 00:16:15 กับมีผื่นแพ้เต็มไปหมดเลยนะเป็นผื่นแบบผด
00:16:15 → 00:16:17 ผื่นขึ้นที่หน้าสิวก็ขึ้นเขาก็รักษากับ
00:16:17 → 00:16:19 คุณหมอที่เป็นโรคผิวหนังพวกนี้อยู่แต่
00:16:19 → 00:16:22 อาการนึงที่คนไข้ผิดปกติคือเขาบอกว่าเขา
00:16:22 → 00:16:25 ขับถ่ายผิดปกติผมก็เลยมาซักประวัติดูว่า
00:16:25 → 00:16:28 ขับถ่ายปกติของคนไข้เนี่ยเป็นอะไรก็ได้
00:16:28 → 00:16:30 ความว่าเค้าเนี่ยเหมือนกินอาหารไปแล้วมัน
00:16:30 → 00:16:33 รู้สึกว่าเค้าจุกท้องมันแน่นท้องอืเหมือน
00:16:33 → 00:16:36 อาหารไม่ค่อยย่อยอบางวันก็เหมือนกับอยู่
00:16:36 → 00:16:38 ดีๆก็ท้องเสียหรือกินอาหารบางประเภทก็
00:16:38 → 00:16:41 ท้องเสียหนักมากบางวันเนี่ยก็ท้องผูกขึ้น
00:16:41 → 00:16:44 มาตอนนั้นเนี่ยผมก็มีความกังวลใจละเอ๊ะ
00:16:44 → 00:16:46 เขาจะเป็นมะเร็งหรือเปล่าเพราะว่าด้วย
00:16:46 → 00:16:48 อาการมันก็มีความแปลกๆก็เลยคุยกับคนไข้
00:16:48 → 00:16:50 ว่างั้นเดี๋เราส่องกล้องกันดูหน่อยปรากฏ
00:16:50 → 00:16:52 ว่าส่องกล้องทะนินอาหารก็ปกติเลยลำไส้
00:16:52 → 00:16:55 สะอาดเงาวับบไม่มีอะไรเลยไม่ได้เจอเนื้อ
00:16:55 → 00:16:57 งอกเนื้อร้ายอะไรอย่างงี้เราก็ต้องมานั่ง
00:16:57 → 00:16:59 หาและว่าเอ๊ะสาเหตุที่ทำให้คนไข้มันขับ
00:16:59 → 00:17:02 ถ่ายผิดคืออะไรกระเพาะอาหารก็ปกตินะครับ
00:17:02 → 00:17:04 ไม่ได้เป็นโรคกระเพาะอะไรด้วยทำไมถึงจุก
00:17:04 → 00:17:07 แน่นเฟ้อก็ไปส่งไปตรวจอันซาวอีกนะเพื่อดู
00:17:07 → 00:17:10 ว่ามันมีเรื่องของนิ่วในถุงน้ำดีหรือ
00:17:10 → 00:17:12 เปล่าที่จะทำให้คนไข้มีการจุกแน่นลิ้นปี่
00:17:12 → 00:17:16 ท้องอืดท้องอะไรไม่มีพอเราเกิดความสงสัย
00:17:16 → 00:17:18 ละว่าสรุปเป็นอะไรกันได้เพราะเราก็อยากหา
00:17:18 → 00:17:20 คำตอบให้คนไข้ให้ได้ปรากฏว่าพฤติกรรมของ
00:17:20 → 00:17:23 คนไข้เนี่ยคนไข้เนี่ยคือเขาทำงานออฟฟิศ
00:17:23 → 00:17:26 ที่ผมบอก 30 กว่าตรงกับคนไทยหลายคนนะที่
00:17:26 → 00:17:30 เราทำงานกันเลิก 5-6:00 น.ค่ะกว่าจะกลับ
00:17:30 → 00:17:32 บ้านก็ถึงบ้านก็ 20:00- 21:00 น.ไม่มี
00:17:32 → 00:17:35 เวลาออกกำลังกายเอางานกลับมาทำที่บ้านทำ
00:17:35 → 00:17:37 ไปถึง 22:00-500 น.กว่าจะได้นอนก็เที่ยง
00:17:37 → 00:17:40 คืนกว่า 1:00 น. 18:00 น.เช้าตื่นอีกละ
00:17:40 → 00:17:42 กินอาหารก็ต้องกินอาหารแบบเป็นอาหารเวฟ
00:17:42 → 00:17:45 อาหารแปรรูปกินง่ายๆเป็นอาหารที่แบบอาจจะ
00:17:45 → 00:17:47 ไม่ได้มีประโยชน์มากนักรีบกินรีบทำรีบไป
00:17:47 → 00:17:50 ทำงานต่อชีวิตวนเวียนแบบเนี้ยนะฮผมก็เลย
00:17:50 → 00:17:52 สงสัยเอ๊ะเขามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:17:52 → 00:17:55 ระบบโปรไบติกในร่างกายหรือเปล่าก็เลยแนะ
00:17:55 → 00:17:57 นำให้คนไข้ปรับพฤติกรรมคำว่าปรับพฤติกรรม
00:17:57 → 00:18:00 ก็คือนอนเร็วขึ้นได้มั้ย 6-8 ชมงไม่
00:18:00 → 00:18:03 เครียดมากได้มั้ยถ้าเป็นไปได้ออกกำลังกาย
00:18:03 → 00:18:05 เพิ่มขึ้นได้มั้ยปรับอาหารคือเลี้ยงพวก
00:18:05 → 00:18:07 อาหารพวกเนี้ยแล้วเน้นกินอาหารให้ครบตาม
00:18:07 → 00:18:10 โภชนาการ 5 หมู่เสริมนมเปรี้ยวกินนิดๆ
00:18:10 → 00:18:12 หน่อยๆได้มั้ยโยเกิร์ตกินได้มอะไรเงี้ย
00:18:12 → 00:18:15 ครับเหลือเชื่อคือพอโฟลัไปประมาณ 6-8
00:18:15 → 00:18:18 สัปดาห์ล่าสุดเนี่ยที่ผมบอกเมื่อเดือน
00:18:18 → 00:18:21 ก่อนมาเยี่ยมมาวิสิตกันคนไข้ดีขึ้นดีขึ้น
00:18:21 → 00:18:23 เลยพิกรรมใช่แค่นั้นเลยฮะคนไข้ปรับ
00:18:23 → 00:18:26 พฤติกรรมทุกอย่างแล้วเาก็ดูแลตัวเองใน
00:18:26 → 00:18:28 ลักษณะแบบเนี้ยเฮ้ยระบบขับถ่ายเขากลับมา
00:18:28 → 00:18:30 ค่อยๆดีขึ้นแต่มันไม่ได้ดีขึ้นเร็ว 1-2
00:18:30 → 00:18:33 อาทิตย์เนี่ยเขาบอกมันไม่เห็นผลเลยกว่าจะ
00:18:33 → 00:18:35 เห็นผลกว่าจะอะไรประมาณเดือนนึงเดือน 2
00:18:35 → 00:18:38 เดือนแล้วพอมาสัก 6 สัปดาห์ผ่านไปที่มา
00:18:38 → 00:18:41 วิสิทิกับผมคนไข้ก็ดีขึ้นนี้ก็จะเป็นตัว
00:18:41 → 00:18:43 อย่างนึงของเคสที่คนไข้มีปัญหาเกี่ยวกับ
00:18:43 → 00:18:45 เรื่องของระบบทางเดินอาหารซึ่งเราเชื่อ
00:18:45 → 00:18:47 ได้ว่าอาจจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องของระบบ
00:18:47 → 00:18:50 การดูดซึมจากความผิดปกติของโปรไบโอติกใน
00:18:50 → 00:18:52 ร่างกายอะไรเงี้ยครับอืซึ่งมันก็ด้วยความ
00:18:52 → 00:18:55 ที่ภูมิคุ้มกันมันอยู่ตรงนี้ 70% อย่าง
00:18:55 → 00:18:57 ที่คุณหมอบอกคือมันก็เลยออกอาการเป็นผิว
00:18:57 → 00:18:59 บ้างเป็นนู่นเป็นนี่บ้างเราจะบอกว่า
00:18:59 → 00:19:03 เรื่องผื่นแพ้เนี่ยก็ดีขึ้นแบบว่าคือพอมา
00:19:03 → 00:19:05 follow up เนี่ยผมก็ถามก็เจอกับคุณหมอ
00:19:05 → 00:19:07 โลกผิวหนังว่ายังไงเขาบอกว่าเนี่ยเาลดยา
00:19:08 → 00:19:11 แล้วเรื่องผื่นดีขึ้นลดยาลงตัวโลชั่นก็
00:19:11 → 00:19:15 จากที่ต้องทาตลอดก็เหลือแค่แบบเช้าเดียว
00:19:15 → 00:19:17 แต่ต้องทาแบบเช้าเย็นกลางวันอะไรเงี้ย
00:19:17 → 00:19:19 ต้องมาทานี่ก็เหลือแค่แบบเช้าเดียวหรือ
00:19:19 → 00:19:22 ว่าก่อนนอนแค่ครั้งเดียวก็พอก็แนวโน้มดี
00:19:22 → 00:19:24 ขึ้นหน้าตาดูสดใสมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ย
00:19:24 → 00:19:27 ครับอเพราะว่าถ้าเป็นพวกครีมพวกยามันก็
00:19:27 → 00:19:29 คือบรรเทาอาการผื่นบรรเทาอะไรอย่างเงี้ย
00:19:29 → 00:19:32 ใช่ค่ะแต่พอปรับพฤติกรรมปุ๊บมันก็เลย
00:19:32 → 00:19:34 เหมือนเข้าไปดูแลตั้งแต่ภูมิคุ้มกันใช่
00:19:34 → 00:19:37 คือเหมือนเราเราไปรื้อสาเหตุได้ถูกจุดคน
00:19:37 → 00:19:39 ไข้ก็เลยได้รับการแก้ไขปัญหาตรงนี้เพราะ
00:19:39 → 00:19:42 ว่าถ้าให้แต่เอ่อการรักษาแค่แบบผิวเผิน
00:19:42 → 00:19:44 อย่างเดียวเนี่ยคนไข้ก็จะเหมือนแก้ปัญหา
00:19:44 → 00:19:47 เฉพาะหน้าเป็นครั้งๆไปก็จะไม่ยั่งยืนอยู่
00:19:47 → 00:19:51 ดีออืโอหอันนี้ดีมากเลยค่ะถ้าสมมุติว่าคน
00:19:51 → 00:19:53 ที่ดูอยู่ตอนนี้รู้สึกว่าเฮ้ยฉันมีปัญหา
00:19:53 → 00:19:57 เนี่ยลำไส้แปรปรวนหรือโอหน่าจะมีอ่ะโรคลำ
00:19:57 → 00:19:59 ไส้อักเสบและคือไปถึงจุดนั้นแล้วเนี่ยการ
00:20:00 → 00:20:02 ดูแลเริ่มเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีให้ร่างกาย
00:20:02 → 00:20:05 มันสามารถช่วยบรรเทาอาการแบบนี้ได้ด้วย
00:20:05 → 00:20:08 มั้คะจริงๆแล้วได้อืเพราะว่าหลักๆเนี่ย
00:20:08 → 00:20:11 มันคือเราต้องมีความสมดุลของตัว
00:20:11 → 00:20:14 จุลินทรีย์ในร่างกายปัญหาของระบบทางเดิน
00:20:14 → 00:20:16 อาหารนะถ้าไม่ใช่แบบเป็นโรคมะเร็งโรคอะไร
00:20:17 → 00:20:18 อย่างอื่นในช่องท้องนะฮะมันคือเรื่องของ
00:20:18 → 00:20:21 จุลินทรีย์เรื่องของสมดุลสมดุลที่ว่าคือ
00:20:21 → 00:20:23 เราต้องควบคุมไม่ให้จุลินทรีย์ที่ไม่ดี
00:20:23 → 00:20:26 เนี่ยอืมันมากกว่าจุลินทรีย์ที่ดีอย่าง
00:20:26 → 00:20:28 ที่ผมบอกระบบลำไส้ระบบทางเดินอาหารคุม
00:20:28 → 00:20:32 ระบบคุ้มกันเกิน 70% ถ้าระบบทางเดินอาหาร
00:20:32 → 00:20:34 ดีโภชนาการดีคุ้มกันก็จะดีที่เหลือก็ดี
00:20:34 → 00:20:37 หมดสิ่งสำคัญก็คือเราเราต้องดูแลตัวเอง
00:20:37 → 00:20:40 ยังไงก็ได้นะฮะที่จะปรับโภชนาการของตัว
00:20:40 → 00:20:43 เองให้สอดคล้องเพื่อรักษาสมดุลของ
00:20:43 → 00:20:45 จุลินทรีย์ในร่างกายถ้าเกิดว่าทำตามที่ผม
00:20:45 → 00:20:48 บอกได้อย่างครบถ้วนแน่นอนว่าเรื่องของการ
00:20:48 → 00:20:51 ไปแอดonอนอะไรเพิ่มอาจจะไม่ได้จำเป็นแต่
00:20:51 → 00:20:54 กับบางคนที่ไลฟ์สไตล์นอนก็ต้องนอนดึก
00:20:54 → 00:20:56 เครียดก็เครียดออกกำลังกายก็ออกไม่ได้
00:20:57 → 00:20:59 อาหารที่กินก็อาจจะเป็นอาหารค้างคืนอาหาร
00:20:59 → 00:21:02 เวฟไว้อันเนี้ยอาจจะไม่พอก็อาจจะต้องแอด
00:21:03 → 00:21:05 onออะไรอย่างอื่นเพิ่มเข้ามาอทีเนี้ยสิ่ง
00:21:05 → 00:21:07 ที่เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะมีคำถามเนาะก็
00:21:07 → 00:21:10 คือถ้าเกิดสมมุติเราคิดว่าไลฟ์สไตล์เรา
00:21:10 → 00:21:13 อ่ะอย่างที่คุณหมอบอกอาจจะไม่ได้สามารถ
00:21:13 → 00:21:16 กินดีได้หมดทุกมื้อแบบว่าโอกินผักจัดเต็ม
00:21:16 → 00:21:18 อะไรเงี้ยพักผ่อนมากกว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ
00:21:18 → 00:21:21 อะไรอย่างเงี้ยนะคะมีคำแนะนำมั้คะในการ
00:21:21 → 00:21:24 เลือกว่าแบบคือมันเยอะมากว่าเราจะต้องกิน
00:21:24 → 00:21:27 แบบไหนอ่าเราจะต้องเลือกอาหารเสริมที่มี
00:21:27 → 00:21:31 ทั้ง prebiotic probบoticหรือ postbiotic
00:21:31 → 00:21:33 มหรือถ้าเราจะเลือกอาหารเสริมที่เนี่ย
00:21:33 → 00:21:36 ช่วยจูลินทรีย์ที่ดีเนี่ยเรามีเกณฑ์ในการ
00:21:36 → 00:21:39 เลือกยังไงบ้างโอเคอันนี้ฝากไว้เลยคือ
00:21:39 → 00:21:42 ผลิตภัณฑ์มันออกมาเยอะมากแต่เราต้องมี
00:21:42 → 00:21:44 knowledge มีความรู้ตรงเนี้ยในการที่จะ
00:21:44 → 00:21:46 เลือกหลักสำคัญเลยครับอันดับแรกเนี่ย
00:21:46 → 00:21:49 คีย์เวิร์ดคือ 1 จะต้องมีอาหารเสริมตัว
00:21:49 → 00:21:54 ที่coverอรทั้งพีไบติโปรไบติและพสบติกอัน
00:21:54 → 00:21:56 นั้นคือดีที่สุดการที่มีอาหารเสริมใน
00:21:56 → 00:21:59 กลุ่มเนี้ยนะครับมันรับจบหมดทุกอย่างะไม่
00:21:59 → 00:22:02 ต้องรอให้โปรไบโอติกมันทำงานสร้าง
00:22:02 → 00:22:05 โพสไบโติกขึ้นมาเหมือนเราโยนกองกำลังดีๆ
00:22:05 → 00:22:07 มีอาวุธติดครบครบมือไปหมดแล้วเราไม่ได้
00:22:07 → 00:22:09 โยนแค่ทหารเพียวๆเป็นทหารใหม่เราต้องไป
00:22:09 → 00:22:13 ฝึกอืเราโยนทหารที่ฝึกแล้วเสบียงพร้อมอ
00:22:13 → 00:22:16 ใช่มั้ยครับอาวุธพร้อมอันเนี้ยดีที่สุด
00:22:16 → 00:22:18 อยู่แล้วอันที่ 2 ถ้าเปรียบเทียบเป็นทหาร
00:22:18 → 00:22:20 ก็ต้องเป็นทหารที่ดีเป็น professional
00:22:20 → 00:22:24 soldier แต่แค่ 1 คนก็ไม่พออืมันต้องมี
00:22:24 → 00:22:26 กองทัพแล้วเมื่อไหร่โปรไบโอติกจะเพียงพอ
00:22:26 → 00:22:29 งั้นโปรไบติกที่มันจะเพียงพอคือจำนวนเค้า
00:22:29 → 00:22:33 เนี่ยต้องมากกว่า 1,000 ล้านอื CFU ถ้า
00:22:33 → 00:22:35 ให้ดีก็ 10,000 ล้านอือโดยประมาณนะครับ
00:22:35 → 00:22:37 งั้นอยู่ในช่วง 1,000 ล้านถึง 10,000
00:22:37 → 00:22:40 ล้าน CFU อันนี้โอเคอันที่ 3 ก็คือให้
00:22:40 → 00:22:44 เลือกตัวผลิตภัณฑ์ที่กินแล้วเนี่ยมันมี
00:22:44 → 00:22:48 โปรไบติกที่จำเป็นและเหมาะสมกับตัวคนไข้
00:22:48 → 00:22:51 เองคือโปรไบติกเนี่ยใครก็พูดได้จะหยิบ
00:22:51 → 00:22:53 ผลิตภัณฑ์อะไรมาก็บอกว่ามีโปรไบติกตรงนี้
00:22:53 → 00:22:57 มากกว่า 1 ล้านชนิดมี 10,000 ล้าน CFU
00:22:57 → 00:22:59 หรืออะไรก็ตามสุดท้ายต้องกลับมาดูว่าร่าง
00:22:59 → 00:23:03 กายเราเนี่ยเ need โปรไบโติกตัวไหนอ่าไม่
00:23:03 → 00:23:05 ใช่ว่าโปรไบโอติกมีแบบเดียวนะคะคุณผู้ชม
00:23:05 → 00:23:07 มันจะมีอีกแบบโอ้โหสายพันธุ์เยอะเลยใช่
00:23:07 → 00:23:10 โปรติกเป็นคำรวมๆอ่ะครับเป็นคำรวมๆแต่
00:23:10 → 00:23:12 จริงๆแล้วเนี่ยในโปรไบติกเนี่ยครับมันมี
00:23:12 → 00:23:14 สับเซตของมันคือมันมีเชื้อจุลินทรีย์ของ
00:23:14 → 00:23:17 มันที่มันมีความจำเพาะเจาะจงกับตัวโรคที่
00:23:17 → 00:23:19 ต้องการอยู่เราต้องเลือกให้เหมาะสมถ้ามี
00:23:19 → 00:23:21 อาการแบบนี้ควรจะต้องกินโปรไบโอติกเชื้อ
00:23:21 → 00:23:24 ตัวนี้จุลินทรีย์ตัวนี้แน่นอนถ้าเราไปกิน
00:23:24 → 00:23:27 ผิดประเภทมันก็เป็นการสะสมจุลินทรีย์ตัว
00:23:27 → 00:23:29 ที่ไม่ได้ก่อประโยชน์ให้กับร่างกายอยู่ดี
00:23:29 → 00:23:31 นะครับเพราะฉะนั้นแล้วอันที่ 3 อย่างที่
00:23:31 → 00:23:35 ผมบอกก็คือเลือกโปรไบโอติกที่เหมาะสมกับ
00:23:35 → 00:23:37 อาการที่เราเป็นหลักในการเลือก 3 อย่าง
00:23:37 → 00:23:40 แค่เนี้ยเพียงพอละตัดสินใจได้เลยแต่อาหาร
00:23:40 → 00:23:42 เสริมก็คืออาหารเสริมมันไว้เสริมในสิ่ง
00:23:43 → 00:23:45 ที่เราขาดถ้าเราไม่ได้ขาดนะฮะเรากินอาหาร
00:23:45 → 00:23:49 ครบถ้วนครบ 5 หมู่ออกกำลังกายดีโภชนาการ
00:23:49 → 00:23:51 ดีนอนหลับเพียงพอไม่เครียดไม่อะไรกิน
00:23:51 → 00:23:55 โปรไบติกตามธรรมชาติได้แค่นั้นพออืแต่ถ้า
00:23:55 → 00:23:58 ยูมีไลฟ์สไตล์ที่มันขาดหรือไม่เพียงพออื
00:23:58 → 00:24:02 ตรงนี้ก็ถึงมาตอบโจทย์ครับอืมันจะมีแบบ
00:24:02 → 00:24:05 ว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเรากินโปรไบโอติก
00:24:05 → 00:24:08 อย่างเดียวเลยอย่างบางคนก็ไม่กินแบบว่า
00:24:08 → 00:24:10 ของมักต้องไม่ชอบนั้นจะกินอันนี้อย่าง
00:24:10 → 00:24:13 เดียวเลยค่ะขอให้ดูให้จำนวนโปรไบโอติก
00:24:13 → 00:24:16 เยอะๆอะไรอย่างเงี้ยซึ่งอันนี้ส่วนตัวคน
00:24:16 → 00:24:19 ในชีวิตก็มีเหมือนกันฉันเนี่ยกินกี่ล้าน
00:24:19 → 00:24:21 ตัวอะไรอย่างเงี้ยโดยที่เราไม่ได้สนใจการ
00:24:21 → 00:24:24 กินอาหารอย่างที่คุณหมอบอกว่าไม่ได้กิน
00:24:24 → 00:24:28 พวกพบticแบบผักเอ่อที่ดีต่อร่างกายของเรา
00:24:28 → 00:24:32 ด้วยเนี่ยเอ่อมันได้มั้คะมันได้แต่ว่าสุด
00:24:32 → 00:24:35 ท้ายเนี่ยมันก็จะมันเหมือนกับว่าเราโยน
00:24:35 → 00:24:39 ทหารไปเราโยนกำลังไปอ่ะแต่มันไม่มีเสบียง
00:24:39 → 00:24:41 อมันก็จะมาด้วย 1 ล้านตัวก่อนสภาพมันก็
00:24:41 → 00:24:43 เหลือ 500,000 300,000 มันจะน้อยลงไป
00:24:44 → 00:24:45 เรื่อยๆในร่างกายเพราะฉะนั้นมันควรจะต้อง
00:24:45 → 00:24:48 มีเพราะว่ามันก็เหมือนคนจุลินทรีย์ก็คือ
00:24:48 → 00:24:50 สิ่งมีชีวิตเขาก็ต้องการอาหารและพลังงาน
00:24:50 → 00:24:53 เหมือนกันในการเจริญเติบโตในการแบ่งตัวใน
00:24:53 → 00:24:56 การสืบพันขยายจำนวนอืเพราะฉะนั้นแล้วทำ
00:24:56 → 00:24:58 ได้ครับแต่ว่าประสิทธิภาพก็คงไม่ดีเท่า
00:24:58 → 00:25:00 กับสิ่งที่มันมีทั้งโปรไบโอติกกับ
00:25:00 → 00:25:03 พรีไบโอติกด้วยอืก็คือถ้าจากอ๋อกะเอาเข้า
00:25:03 → 00:25:05 ไปเยอะๆอะไรเงี้ยเดี๋ยวเขาก็อาจจะค่อยๆ
00:25:06 → 00:25:08 อ่อนแรงไปเองเพราะฉะนั้นอย่าลืมอ่าเติม
00:25:08 → 00:25:12 อาหารเนาะรับประทานอะไรที่มีด้วยนะคะจาก
00:25:12 → 00:25:14 ที่คุยกับคุณหมอมาเมื่อตะกี้นะคะแน่นอน
00:25:14 → 00:25:17 เนาะระบบลำไส้ทางเดินอาหารของเรามีผลกับ
00:25:17 → 00:25:20 ภูมิคุ้มกันของร่างกายแล้วก็สุขภาพที่ดี
00:25:20 → 00:25:23 มากๆเลยนะคะและสำหรับใครนะคะที่สนใจดูแล
00:25:23 → 00:25:25 สุขภาพลำไส้และระบบคุมคุ้นกันให้ดีมาก
00:25:25 → 00:25:28 ยิ่งขึ้นแข็งแรงมากยิ่งขึ้นในทุกๆวันข้าง
00:25:28 → 00:25:32 ๆค่ะนี่เลยค่ะคือ Vra นะคะ Daily
00:25:32 → 00:25:35 Complete probiotics นั่นเองนะคะทำให้
00:25:35 → 00:25:38 เราดูแลสุขภาพแบบ Daily Complete ครบจบ
00:25:38 → 00:25:41 ในทุกๆวันเพียงวันละ 1 เม็ดนะคะและสำหรับ
00:25:41 → 00:25:44 คุณผู้หญิงนะคะที่อยากดูแลสมดุลและสุขภาพ
00:25:44 → 00:25:47 ของจุดซ่อนเร้นก็มีตัวนี้ด้วยค่ะ Vestra
00:25:47 → 00:25:50 Virgin นั่นเองนะคะที่เป็นโปรไบโอติกสาย
00:25:50 → 00:25:54 พันธุ์เฉพาะดูแลในเรื่องของการดูแลสมดุล
00:25:54 → 00:25:57 ช่องคลอดนะคะซึ่งเหมาะกับการดูแลของคุณ
00:25:57 → 00:25:59 ผู้หญิงโดยเฉพาะเพื่อความมั่นใจในทุกวัน
00:26:00 → 00:26:03 ค่ะแล้วมันจะมีผลอย่างไรนะนะคะอันนี้เป็น
00:26:03 → 00:26:06 จุลินทรีย์ที่ดีอย่างไรนะคะเดี๋เรามาดู
00:26:06 → 00:26:08 แล้วก็คุยในรายละเอียดกันต่อเลยค่ะตอนนี้
00:26:08 → 00:26:11 เราคุยกันในเรื่องของจูลินซีดีใช่มั้คะ
00:26:11 → 00:26:14 นอกจากเรื่องสุขภาพลำไส้ที่เราคุยกันไป
00:26:14 → 00:26:17 ก่อนหน้านี้แล้วอีกเรื่องนึงที่คิดว่า
00:26:17 → 00:26:19 สำคัญสำหรับคุณผู้หญิงหลายๆท่านแล้วก็อาจ
00:26:19 → 00:26:22 จะเจอกันบ่อยแต่ว่าไม่รู้จะถามใครไม่รู้
00:26:22 → 00:26:25 ว่าเออันนี้คือมันโอเคมั้ยปกติมั้ยหรือ
00:26:25 → 00:26:28 เราต้องจัดการกับมันยังไงคือเอ่อสิ่งที่
00:26:28 → 00:26:31 เกี่ยวข้องกับจุลินซีดีในร่างกายที่อยู่
00:26:31 → 00:26:33 ในจุดซ่อนตอนเหรียญมันก็จะมีอาการบาง
00:26:33 → 00:26:38 อย่างเช่นอาการตกขาวผิดปกติมีกลิ่นหรือ
00:26:38 → 00:26:40 อาการคันในช่องคลอดแบบเนี้ยอันเนี้ยมัน
00:26:41 → 00:26:43 ปกติมั้คะหรือมันก็เป็นไซนอะไรบางอย่าง
00:26:43 → 00:26:46 ที่บอกว่าเฮ้ยเราต้องดูแลเอ่อจุลินทรีย์
00:26:46 → 00:26:49 ในในจุดซ่อนเรนและเอ่อเรื่องตกขาวอ่ะครับ
00:26:49 → 00:26:52 มันเป็นอะไรที่ก่อเรื่องก่อราวได้มาก
00:26:52 → 00:26:54 เหมือนกันก่อนจะไปพูดถึงตกข่าวที่มันผิด
00:26:54 → 00:26:56 ปกติต้องให้เข้าใจว่าตกข่าวที่ปกติมัน
00:26:56 → 00:26:59 เป็นยังไงก่อนตกข่าวที่มันปกติเนี่ยครับ
00:26:59 → 00:27:01 มันก็คือจะเป็นตกข่าวที่โดยทั่วไปต้องไม่
00:27:01 → 00:27:04 มีกลิ่นลักษณะของตัวตกขาวเนี่ยอาจจะเป็น
00:27:04 → 00:27:07 ใสๆขุ่นเล็กน้อยแล้วก็มักจะมาในช่วง
00:27:07 → 00:27:10 ประมาณใกล้ๆกับช่วงไข่ตกก็คือประมาณกึ่ง
00:27:10 → 00:27:13 กลางรอบเดือนซึ่งถ้าคนไข้ที่เป็นผู้หญิง
00:27:13 → 00:27:15 เนี่ยนะได้ฟังอยู่เนี่ยถ้ามีตกขาวแบบ
00:27:15 → 00:27:18 เนี้ยเกิน 90% อันนี้คือปกติทีนี้ตกข่าว
00:27:18 → 00:27:21 ที่มันผิดปกติเนี่ยมันจะเป็นตกข่าวที่ตรง
00:27:21 → 00:27:23 ข้ามกับสิ่งที่ผมบอกแหละเช่นจะมาเมื่อ
00:27:23 → 00:27:26 ไหร่ก็มาอยู่ดีๆมาเยอะมามากเลยไม่จำเป็น
00:27:26 → 00:27:29 ต้องรอช่วงใกล้ไข่ตกนะผิดปกติ 2 คือมีการ
00:27:29 → 00:27:33 คันผิดปกติคันมากอันที่ 3 คือสีไม่ใช่
00:27:33 → 00:27:36 เป็นสีแบบสีใสละหรือว่าเป็นสีขุ่นๆละมัน
00:27:36 → 00:27:38 เป็นขาวเหมือนขี้เปียกเหมือนแป้งเปียก
00:27:38 → 00:27:40 อย่างนั้นเลยอันเนี้ยบ่งบอกละว่าอาจจะมี
00:27:40 → 00:27:42 การติดเชื้อในช่องคลอดถ้าเป็นเชื้อราคน
00:27:43 → 00:27:45 ไข้ก็จะมีตกขาวเป็นขาวเป็นมูกเป็นเหมือน
00:27:45 → 00:27:47 แป้งเปียกร่วมกับมีอาการคันมากบางคนก็จะ
00:27:48 → 00:27:51 มีการตกขาวที่สีผิดปกติเช่นสีออกเหลืองสี
00:27:51 → 00:27:54 ออกเขียวแตกขาวสีเขียวกับสีเหลืองเนี่ย
00:27:54 → 00:27:56 ไม่ปกติอยู่แล้วอาจจะมีการคันหรือมีแสบ
00:27:56 → 00:27:58 ตำแหน่งของบริเวณช่องคลอดอันนี้บ่งบอกนะ
00:27:59 → 00:28:01 ฮะว่าจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
00:28:01 → 00:28:04 ที่แบบปกติเนี่ยมันจะอยู่กับเรานานมั้คะ
00:28:04 → 00:28:07 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยเกิดได้ตลอดช่วงอายุของ
00:28:07 → 00:28:10 ความเป็นผู้หญิงเลยอนะครับแต่ว่าเรามักจะ
00:28:10 → 00:28:12 พบมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธ์วัยเจริญ
00:28:12 → 00:28:14 พันธุ์ก็คือผู้หญิงตั้งแต่เริ่มต้นมี
00:28:14 → 00:28:17 ประจำเดือนไปจนหมดประจำเดือนอหลายๆท่าน
00:28:17 → 00:28:19 ที่อาจจะดูอยู่แล้วรู้สึกว่าเฮ้ยเราเคยมี
00:28:19 → 00:28:22 อาการแบบเนี้ยจริงมั้คะที่อาจจะกลับมา
00:28:22 → 00:28:26 เกิดซ้ำได้แม้ว่าเคยรักษาหายแล้วมันเป็น
00:28:26 → 00:28:28 ไปได้มยแล้วก็อย่างเงี้ยสาเหตุมันมาจาก
00:28:28 → 00:28:30 อะไรอะไรเงี้ยโอเคคำถามแรกเนี่ยเนี่ยมัน
00:28:30 → 00:28:33 เกิดซ้ำได้มั้ยคือมันเกิดซ้ำได้แน่นอนมัน
00:28:33 → 00:28:35 เกิดซ้ำได้บ่อยๆด้วยการที่มีตกขาวผิด
00:28:35 → 00:28:37 ปกติเนี่ยเราก็เชื่อว่ามันเป็นการติด
00:28:37 → 00:28:39 เชื้อนะจะเป็นเชื้อราก็ได้เป็นเชื้อ
00:28:39 → 00:28:41 แบคทีเรียอะไรก็ได้ในช่องคลอดเราวันนึง
00:28:41 → 00:28:44 มันหายไปก็จบแต่วันนึงมันกลับมาติดเชื้อ
00:28:44 → 00:28:47 ซ้ำได้แล้วอะไรล่ะที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่
00:28:47 → 00:28:50 ทำให้การตกขาวเนี่ยมันกลับมาผิดปกติกลับ
00:28:50 → 00:28:52 มาติดเชื้อซ้ำอีกรอบนึงสาเหตุเนี่ยมีได้
00:28:52 → 00:28:55 ตั้งแต่เรื่องของสุขอนามัยในการดูแลเช่น
00:28:55 → 00:28:59 เราอาจจะทำความสะอาดไม่ดี 2 มีการติด
00:28:59 → 00:29:01 เชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็น
00:29:01 → 00:29:03 เหมือนโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อันที่ 3
00:29:03 → 00:29:07 ก็คือคนไข้ที่มีพฤติกรรมในการดูแลจุดซ่อน
00:29:07 → 00:29:10 เลนส์ที่ไม่เหมาะสมเช่นอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์
00:29:10 → 00:29:13 ในการทำความสะอาดแบบไม่เหมาะสมฉีดสวนล้าง
00:29:13 → 00:29:15 ช่องคลอดที่ผิดปกติผ้าอนามัยไม่ได้
00:29:15 → 00:29:17 เปลี่ยนกับอีกอันนึงก็คือคนไข้ที่มีโรค
00:29:17 → 00:29:20 ของภูมิกันที่ผิดปกติเช่นคนไข้เป็นเบา
00:29:20 → 00:29:23 หวานคนไข้ออนสเตอรอยด์กินยาสเตรอยด์กินยา
00:29:23 → 00:29:25 กดภูมิมายังต่อเนื่องเขาก็จะติดเชื้อได้
00:29:25 → 00:29:27 ง่ายขึ้นเพราะฉะนั้นก็จะเป็นเหตุผลที่ทำ
00:29:27 → 00:29:29 ให้คนไข้เนี่ยติดเชื้อราในช่องคลอดได้ติด
00:29:29 → 00:29:31 เชื้อแบคทีที่ในช่องคลอดมีตกขาวพิติได้
00:29:31 → 00:29:33 มากขึ้นแล้วก็กลับมาเป็นบ่อยๆอีกอันนึงก็
00:29:33 → 00:29:36 คือในกลุ่มที่คนไข้กินยาฆ่าเชื้อแบบผิด
00:29:36 → 00:29:39 ปกติกินแบบไม่ถูกวิธีไอ้การที่เขากินแบบ
00:29:39 → 00:29:41 ไม่ถูกวิธีกินแบบต่อเนื่องเนี่ยในช่อง
00:29:41 → 00:29:43 คลอดเราจะมีจุลินทรีย์ประจำถิ่นเป็น
00:29:43 → 00:29:46 จุลินทรีย์ที่ดีอยู่กินยาฆ่าเชื้อไปมัน
00:29:46 → 00:29:48 ฆ่าจุลินทรีย์ที่ดีพวกนี้ไปด้วยซึ่ง
00:29:48 → 00:29:49 จุลินทรีย์พวกเนี้ยพอมันไม่มีเนี่ยมันจะ
00:29:49 → 00:29:52 ทำให้เราติดเชื้อได้ง่ายขึ้นไม่มีอะไรไป
00:29:52 → 00:29:54 ต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาใหม่ๆมันก็เลย
00:29:54 → 00:29:57 ทำให้เราเป็นตกขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบเนี้ย
00:29:57 → 00:29:59 ครับผมถ้าสมมุติเอาเรื่องดูแลความสะอาด
00:29:59 → 00:30:01 ก่อนเนี่ยมันมีประเด็นไหนที่แบบว่าหลายๆ
00:30:01 → 00:30:03 ท่านอาจจะยังไม่รู้เราคิดว่าแบบนี้คือ
00:30:03 → 00:30:06 สะอาดและเราคิดว่าดูแลแบบนี้ก็โอเคและ
00:30:06 → 00:30:07 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าอาจจะผิดพลาดไป
00:30:07 → 00:30:10 หรือว่าอาจจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นมั้
00:30:10 → 00:30:13 คะในดีเทลเลยนะคนไข้ส่วนใหญ่เนี่ยฮะบางที
00:30:13 → 00:30:16 เนี่ยเขาจะคิดนะครับว่าการทำพฤติกรรมแบบ
00:30:16 → 00:30:19 เนี้ยมันจะดีต่อช่องคลอดที่เราเจอกันบ่อย
00:30:19 → 00:30:22 ๆก็คือคนไข้เนี่ยฉีดสวนล้างช่องคลอดเพราะ
00:30:22 → 00:30:25 เราคิดว่าการเข้าไปฉีดล้างแบบเต็มที่เลย
00:30:25 → 00:30:28 มันจะสะอาดใช่มันสะอาดจริงมันเอาทั้ง
00:30:28 → 00:30:30 เชื้อเชื้อโรคเอาทั้งจุลินทรีย์ที่ดีเอา
00:30:30 → 00:30:33 ไปหมดเลยทุกอย่างกลายทำให้ความเป็นเบสใน
00:30:33 → 00:30:35 ช่องคลอดเนี่ยมันอาจจะเพิ่มมากขึ้นเพราะ
00:30:35 → 00:30:38 ว่าปกติช่องคลอดเราเนี่ยมันตัวจีลินทรีย
00:30:38 → 00:30:40 เนี่ยมันจะมีชอบความเป็นกรดนิดๆแต่พอเรา
00:30:40 → 00:30:42 ไปฉีดสวนล้างเอาตัวเชื้อโรคเอาตัว
00:30:42 → 00:30:44 แบคทีเรียจุลินทรีย์ที่มันมีความจำเป็น
00:30:44 → 00:30:46 ที่มันเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นตรงนั้นออก
00:30:46 → 00:30:49 ไปเนี่ยแน่นอนละว่าสุดท้ายเนี่ยมันก็จะทำ
00:30:49 → 00:30:51 ให้ช่องคลอดเนี่ยมันอยู่ในสภาวะที่ไม่
00:30:51 → 00:30:53 เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
00:30:53 → 00:30:57 บางตัวที่มันดีกับร่างกายก็จะทำให้คนไข้
00:30:57 → 00:31:00 มีอาการตกคาวผิดปกติได้อันที่ 2 ก็คือคน
00:31:00 → 00:31:04 ไข้เนี่ยมีสุขภาวะที่อาจจะไม่เหมาะสมเช่น
00:31:04 → 00:31:07 ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีความเป็นเบส
00:31:07 → 00:31:09 หรือเป็นสบู่ทั่วไปคือสบู่ทั่วไปเนี่ยมัน
00:31:09 → 00:31:11 จะมีความเป็นเบสหรือว่าเป็นด่างอยู่แล้ว
00:31:12 → 00:31:14 พอเราไปใช้ตรงนั้นกับในช่องคลอดนะเราก็
00:31:14 → 00:31:16 ล้างปกตินั่นแหละแต่เราก็คิดว่ามันคงไม่
00:31:16 → 00:31:18 มีอะไรแต่ไอ้ความเป็นด่างที่ว่าเนี่ยก็จะ
00:31:18 → 00:31:20 ทำให้เชื้อโรคบางตัวอยู่ไม่ได้จุลินทรีย์
00:31:20 → 00:31:22 บางตัวมันอยู่ไม่ได้คนไข้ก็จะมีปัญหา
00:31:22 → 00:31:24 เพราะฉะนั้นก็ควรจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ใน
00:31:24 → 00:31:26 การทำความสะอาดเฉพาะจุดที่อาจจะมีความ
00:31:26 → 00:31:29 เป็นกรดอ่อนๆประมาณสักสัก 4.54 อะไร
00:31:29 → 00:31:32 ประมาณเนี้ยครับก็จะโอเคกับเรื่องของตัว
00:31:32 → 00:31:35 จุดซ่อนเล่นตรงนั้นอันที่ 3 ก็คือสุขภาวะ
00:31:35 → 00:31:37 เรื่องของการใช้ผ้าอนามัยบางคนใช้ผ้า
00:31:37 → 00:31:41 อนามัยแบบยาวนาน 12 ชม.ค่อยเปลี่ยนทีนึง
00:31:41 → 00:31:43 บางคนทั้งวันเลยอะไรเงี้ยอันนี้ไม่ถูก
00:31:43 → 00:31:45 อยากเลือกแบบซึมซับดีมากมันจะได้แบบไม่
00:31:45 → 00:31:47 ต้องแบบเปลี่ยนบ่อยๆแต่จริงๆแล้วเนี่ยการ
00:31:47 → 00:31:50 ที่เรามีประจำเดือนมันเป็นน้ำอ่ะนะครับ
00:31:50 → 00:31:54 เลือดมันก็คือน้ำมันก็จะมีการอับชื้นสะสม
00:31:54 → 00:31:56 นะครับอยู่ในช่องคลอดของเราซึ่งการที่เรา
00:31:56 → 00:31:59 ทิ้งไว้นานเกิน 4-6 ช่มงเนี่ยมันจะเพิ่ม
00:31:59 → 00:32:01 ความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคเกิดขึ้นมา
00:32:01 → 00:32:03 ได้เพราะฉะนั้นแล้วก็ควรจะต้องเปลี่ยนผ้า
00:32:03 → 00:32:06 อนามัยจุ๊ก 4-6 ชมงวันนึงก็สัก 3 แผ่น 4
00:32:06 → 00:32:09 แผ่นโดยประมาณอันถัดมาก็คงเป็นเรื่องของ
00:32:09 → 00:32:12 การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์บางทีเนี่ยตัว
00:32:12 → 00:32:14 เราอ่ะหายแล้วแต่ที่มันไม่หายเพราะว่าคู่
00:32:14 → 00:32:16 นอนเราเราไปมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เขามี
00:32:16 → 00:32:19 เชื้อโรคอยู่แล้วเขาไม่ได้รักษาเราหาย
00:32:19 → 00:32:21 แล้วแต่เขายังมีอยู่มันก็จะกลับมาติด
00:32:21 → 00:32:23 เชื้อซ้ำไปซ้ำมาเราเรียนกันสมัยก่อนเนี่ย
00:32:23 → 00:32:25 สมัยนี้ก็ยังเป็นถ้าคนไข้คนไหนเนี่ยเป็น
00:32:25 → 00:32:27 หนองในผู้ชายเป็นหนองในหรือผู้หญิงเป็น
00:32:27 → 00:32:30 หนองในเวลารักษาไม่ได้รักษาเฉพาะแค่ผู้
00:32:30 → 00:32:32 ชายหรือผู้หญิงรักษาทั้งคู่เราจะเรียกเรา
00:32:32 → 00:32:35 จะจ่ายยาไปเผื่อให้รักษาคนไข้คนนึงหรือ
00:32:35 → 00:32:36 เรียกอีกคนนึงมาช่วยกันรักษาด้วยต้อง
00:32:36 → 00:32:39 รักษาไปคู่กันพวกนี้ก็จะเป็นพฤติกรรมใน
00:32:39 → 00:32:41 การที่จะดูแลเรื่องของสุขภาวะได้เป็น
00:32:41 → 00:32:43 อย่างดีสิ่งสำคัญก็คือเวลาที่เราทำให้
00:32:43 → 00:32:45 สุขภาวะมันเปลี่ยนแปลงไปเนี่ยมันทำให้
00:32:45 → 00:32:47 กลุ่มเชื้อโรคจุลินทรีย์ที่มันอยู่ตรง
00:32:47 → 00:32:48 นั้นเนี่ยมันทำหน้าที่มันเหมือนเป็นยาม
00:32:48 → 00:32:52 อ่ะมันทำงานไม่ได้มันตายไปพอมันไม่มียาม
00:32:52 → 00:32:53 ใครจะเข้าหมู่บ้านเราก็ได้ละมันก็เลยเป็น
00:32:54 → 00:32:56 ที่มาของการที่ติดเชื้อซ้ำไปซ้ำมากับอีก
00:32:56 → 00:32:58 เรื่องนึงก็คือให้หลีกเลี่ยงภาวะการอับ
00:32:58 → 00:33:02 ชื้นเช่นทีใส่กางเกงยีนคับไปตลอดทั้งวัน
00:33:02 → 00:33:05 แน่นมากนะครับหรือว่าเราเล่นกีฬาไปออก
00:33:05 → 00:33:08 กำลังกายแล้วก็เหงื่อเต็มเลยนะโอวันนี้
00:33:08 → 00:33:12 ได้ 400-500 แคลอรี่ฟินเยอะฟินสุดๆเหงื่อ
00:33:12 → 00:33:14 ท่วมรู้สึกเหงื่อท่วมนี่ยิ่งฟินมากแล้ว
00:33:14 → 00:33:16 เราปล่อยไว้ดีเลยกว่า 1 ช่โมงออกกำลังกาย
00:33:16 → 00:33:19 เสร็จเดี๋ไปกินหมูกระทะต่อไปกินบุฟเฟ่ต์
00:33:19 → 00:33:21 ต่อค้างเติอยู่เป็น 2-3 ชั่วโมงกว่าจะได้
00:33:21 → 00:33:23 กลับบ้านไปอาบน้ำอันนี้มีปัญหาแน่นอนมัน
00:33:23 → 00:33:25 จะตามมาด้วยการอับชื้นแล้วก็มีเชื้อโรค
00:33:26 → 00:33:28 สะสมเพราะว่าแบบอย่างเช่นชุกออกกำลังกาย
00:33:28 → 00:33:31 มันก็จะต้องมีความกระชับมีความอีกโอ้โหโห
00:33:31 → 00:33:33 เรื่องแบบดีเทลค่อนข้างเยอะเหมือนกันใน
00:33:33 → 00:33:36 การดูแลเนาะซึ่งถ้าเราไม่ได้ปรึกษาคุณหมอ
00:33:36 → 00:33:39 เนี่ยก็คือจะอ่ะหลายอาจจะไม่ได้ออไม่ได้
00:33:39 → 00:33:44 ถามด้วยใช่คะทีนี้มันจะมีที่สายพันธุ์
00:33:44 → 00:33:46 สำหรับจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะอ่าโอเคเรา
00:33:46 → 00:33:49 ต้องการจุลินทรีย์ที่ดีเพื่อว่าเป็นยาม
00:33:49 → 00:33:52 หน้าหมู่บ้านเราไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามา
00:33:52 → 00:33:54 อะไรอย่างเงี้ยค่ะสำหรับคุณผู้หญิงละกัน
00:33:54 → 00:33:57 โปรไบโอติกสายพันธุ์แบบเนี้ยมันช่วยทำงาน
00:33:57 → 00:34:00 แตกต่างจากprobบอติปกติยังไงแล้วมันช่วย
00:34:00 → 00:34:02 ป้องกันการติดเชื้อได้จริงๆมั้ครับเอ่อ
00:34:02 → 00:34:05 เวลาเราเลือกของเนี่ยนะมันต้องเลือกที่
00:34:05 → 00:34:08 มัน compatible กันอืออืคือต้องเลือกที่
00:34:08 → 00:34:11 มันเข้ากันได้ดีแน่นอนเจะต้องการ
00:34:11 → 00:34:14 จุลินทรีย์ที่ดีในการที่จะเป็นยามนะเฝ้า
00:34:14 → 00:34:17 ประตูบ้านเราก็ต้องเลือกยามที่ติดอาวุธ
00:34:17 → 00:34:20 ครบมือเหมาะสมรู้ว่าเชื้อโรคไหนจะเข้ามา
00:34:20 → 00:34:22 เหมือนรู้เขารู้เราอ่ะเราถึงจะชนะเขาได้
00:34:22 → 00:34:24 เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ก่อนว่าตัวไหนที่
00:34:24 → 00:34:26 ร่างกายจำเป็นแล้วก็ต้องการก็คือ
00:34:26 → 00:34:29 จุนินทรียที่ดีคือโปรไบติที่ดีในช่องคลอด
00:34:29 → 00:34:32 เราคือ lactobas กับซึ่ง 2 ตัวนี้แหละจะ
00:34:32 → 00:34:35 เป็นยามที่ดีแต่ถ้าไปเพิ่มตัวอื่นมันอาจ
00:34:35 → 00:34:37 จะไม่ช่วยอันที่ 2 คือเราเลือกมาแล้ว
00:34:37 → 00:34:40 เนี่ยนะครับจะใช้ในการดูแลแบบไหนอะไรยัง
00:34:40 → 00:34:43 ไงในเรื่องของตัวพวกเนี้ยมันขึ้นอยู่กับ
00:34:43 → 00:34:45 การดูแลของตัวคนไข้เลยนะครับผลิตภัณฑ์
00:34:45 → 00:34:48 ต่างๆมีมากมายจะกินก็ได้จากอาหารที่ผมได้
00:34:48 → 00:34:51 เคยแนะนำไปไม่ว่าจะเป็นอาหารเอ่อโยเกิร์ต
00:34:51 → 00:34:55 นมเปรี้ยวกิมจิมิโสะนัโตะได้หมดถ้ากินไม่
00:34:55 → 00:34:57 ได้ไม่พอไม่ชอบอาหารเหล่านี้ก็อาจจะเลือก
00:34:57 → 00:35:00 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารเสริมนะครับในการ
00:35:00 → 00:35:02 ที่จะช่วยเสริมสร้างตรงนี้ขึ้นมาแต่ก็
00:35:02 → 00:35:05 ต้องดูนิดนึงว่าให้มันตรงกับจุลินทรีย์
00:35:05 → 00:35:08 ที่เราต้องการเท่านั้นเองครับผมอสรุปคำ
00:35:08 → 00:35:10 แนะนำสำหรับคุณผู้หญิงที่อยากดูแลสมดุล
00:35:10 → 00:35:13 ของจุดซ้อนเหรียญไม่อยากให้เกิดการติด
00:35:13 → 00:35:15 เชื้อหรือเคยเป็นและแล้วก็ไม่อยากให้มัน
00:35:15 → 00:35:18 มาเป็นซ้ำอีกเนี่ยอันเนี้ยเขาจะสามารถดู
00:35:18 → 00:35:20 แลยังไงได้บ้างหลักการเนี่ยย้อนกลับไปที่
00:35:20 → 00:35:23 ผมบอกเลย 1 คือสะอาดไว้ก่อนคำว่าสะอาดไว้
00:35:23 → 00:35:25 ก่อนเนี่ยก็ต้องสะอาดให้ถูกวิธีไม่ใช่
00:35:25 → 00:35:27 สะอาดโดยการฉีดน้ำล้างสวนล้างเข้าไปใน
00:35:27 → 00:35:30 ช่องคลอดหรือว่าสะอาดโดยการใช้สบู่อะไรก็
00:35:30 → 00:35:32 ไม่รู้มาเช็ดล้างทำความสะอาดช่องคลอด
00:35:32 → 00:35:34 เลือกผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดช่องคลอด
00:35:34 → 00:35:37 ให้เหมาะสมไม่กินยายาฆ่าเชื้อที่พร่ำ
00:35:37 → 00:35:40 เพื่อรักษาความสะอาดของทั้งตัวเองแล้วก็
00:35:40 → 00:35:42 คู่นอนเราอย่าให้ติดเชื้อซึ่งกันและกัน
00:35:42 → 00:35:45 แล้วก็เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสม
00:35:45 → 00:35:48 มีจุลินทรีย์ที่ดีมีโปรไบติกที่ดีในการ
00:35:48 → 00:35:51 ที่จะช่วยในการเจริญเติบโตให้อยู่ในช่อง
00:35:51 → 00:35:53 คลอดของเราเพื่อเป็นยามในการป้องกันเชื้อ
00:35:53 → 00:35:55 โรคต่างๆแค่เนี้ยก็เพียงพอแล้วครับและ
00:35:55 → 00:35:57 สำหรับผู้ที่สนใจนะคะในรายละเอียดของ
00:35:57 → 00:36:02 ผลิตภัณฑ์นะคะแล้วก็นะคะก็เดี๋ยวเราจะใส่
00:36:02 → 00:36:04 ลิงก์รายละเอียดนะคะเพื่อให้ศึกษาเพิ่ม
00:36:04 → 00:36:06 เติมแล้วก็กดสั่งซื้อกันได้ใต้คลิปนี้เลย
00:36:06 → 00:36:10 นะคะวันนี้คือได้ถามทุกอย่างที่คาใจนะคะ
00:36:10 → 00:36:13 ขอขอบคุณคุณหมอสุยมากๆเลยนะคะโอได้ข้อมูล
00:36:13 → 00:36:16 ความรู้แบบจัดเต็มมากๆเลยต้องขอขอบคุณคุณ
00:36:16 → 00:36:19 ผู้ชมที่ติดตามรายการเกลาแก้โรคกันด้วยนะ
00:36:19 → 00:36:21 คะหวังว่าวันนี้เนื้อหาจะเป็นประโยชน์
00:36:21 → 00:36:23 สำหรับการดูแลสุขภาพของทุกท่านนะคะถ้าชอบ
00:36:23 → 00:36:26 เนื้อหาแบบนี้อย่าลืมกดไลกด Subscribe นะ
00:36:26 → 00:36:28 คะแล้วก็แชร์ต่อให้คนที่คุณรักได้ดูแล
00:36:28 → 00:36:31 สุขภาพไปด้วยกันด้วยนะคะสำหรับวันนี้
00:36:31 → 00:36:32 สวัสดีค่ะ
00:36:32 → 00:36:56 [เพลง]