00:00:00 → 00:00:01 อาการตาล้า
00:00:01 → 00:00:06 7 วิธีที่จะช่วยให้ท่านหายอาการปวดตา
00:00:06 → 00:00:07 เมื่อยตา หรือที่เขาเรียกว่า
00:00:07 → 00:00:10 อาการตาล้า อ่อนล้า และหมดแรง
00:00:17 → 00:00:19 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อปนะครับ
00:00:19 → 00:00:20 และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:20 → 00:00:23 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและที่สาระครับ
00:00:24 → 00:00:26 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง
00:00:26 → 00:00:28 อาการตาล้าครับ
00:00:28 → 00:00:33 7 วิธีการที่จะช่วยให้ท่านหายอาการปวดตา
00:00:33 → 00:00:34 เมื่อยตา หรือที่เขาเรียกว่า
00:00:34 → 00:00:38 อาการตาเราล้า อ่อนล้า และหมดแรง
00:00:38 → 00:00:40 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:40 → 00:00:42 กด Subscribe และกดกระดิ่งครับ
00:00:42 → 00:00:44 สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย
00:00:44 → 00:00:46 เชิญกดไปดูก่อน 3 นาทีหลัง
00:00:46 → 00:00:49 แล้วถ้าเกิดอยากรู้รายละเอียดกลับมาดูซ้ำใหม่ได้
00:00:49 → 00:00:52 สำหรับท่านที่มีเวลาเราไปพร้อมๆ กันเลยครับ
00:00:52 → 00:00:55 อาการตาล้าเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆ
00:00:55 → 00:00:59 ยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันอาการตาล้าเนี่ย
00:00:59 → 00:01:03 ก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยมากเพราะว่าเกิดจากใช้สมาร์ทโฟน
00:01:03 → 00:01:07 หรือการดูทีวี หรือการอ่านหนังสืออย่างหนัก
00:01:07 → 00:01:10 พวดนี้ส่งเสริมให้เกิดอาการตาล้าได้
00:01:10 → 00:01:13 เช่น การอ่านหนังสือในที่มืด ที่สลัว
00:01:13 → 00:01:17 เราก็ต้องใช้เพ่งลูกตาก็ทำให้เกิดตาล้า
00:01:17 → 00:01:19 หรือบางทีเราออกไปเจอแสงแดดแรงๆ
00:01:19 → 00:01:23 เราต้องแบบเกร็งลูกตา แล้วก็เกิดอาการตาล้า
00:01:23 → 00:01:27 หรือบางทีเราจะอ่านหนังสือแต่ว่าอยู่ในรถที่สั่นๆ
00:01:27 → 00:01:31 ร่างกายพยายามที่จะควบคุมให้ลูกตาโฟกัส
00:01:31 → 00:01:34 หรือว่ามองให้ได้ชัดเจน
00:01:34 → 00:01:36 กล้ามเนื้อรอบลูกตาก็เกิดอาการล้านะครับ
00:01:36 → 00:01:39 ซึ่งอาการพวกนี้จะแสดงออกได้รูปแบบมากเลย
00:01:39 → 00:01:44 เช่น ปวดตา ปวดกระบอกตา ตาแห้ง คันตา แสบตา
00:01:44 → 00:01:48 บางคนมีน้ำตาไหล ตาแดง ตาพล่ามัว มองเห็นไม่ชัด
00:01:48 → 00:01:50 หรือว่าบางทีดวงตาไวต่อแสงมาก
00:01:50 → 00:01:53 เห็นแสงแป๊บเดียวแสบตาแล้วนะครับ
00:01:53 → 00:01:56 นี่คืออาการตาล้า ไม่ใช่แค่เมื่อตา ปวดตาอย่างเดียว
00:01:57 → 00:02:01 และอาการตาล้ายังกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว
00:02:01 → 00:02:05 เหนื่อยล้า เวียนศีรษะ บ้านหมุน บางคนเป็นไมเกรน
00:02:05 → 00:02:08 หนักเลยงานนี้นะครับ
00:02:08 → 00:02:13 โดยปกติอาการตาล้ามักไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
00:02:13 → 00:02:15 แต่ถ้าเกิดอาการรุนแรงจนท่านรู้สึกว่าแบบ
00:02:15 → 00:02:18 มันทำให้ชีวิตประจำวันท่านมีปัญหา
00:02:18 → 00:02:20 ก็ควรรีบพบแพทย์ครับ
00:02:20 → 00:02:21 สาเหตุของอาการตาล้า
00:02:21 → 00:02:26 ก็คือเกิดจากการใช้สายตาต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน
00:02:26 → 00:02:30 เช่น การอ่านหนังสือนานๆ หรือการขับรถระยะทางไกล
00:02:30 → 00:02:33 เราต้องเพ่งสมาธิมองใช่ไหมครับ
00:02:33 → 00:02:34 ก็ทำให้เกิดตาล้าได้
00:02:34 → 00:02:36 หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นะครับ
00:02:36 → 00:02:40 ใช้สมาร์ทโฟนอยู่ในที่แสงจ้ามากๆ
00:02:40 → 00:02:44 หรือว่าอยู่ในที่มืดมากๆ ก็เป็น เพราะว่าต้องเพ่ง
00:02:44 → 00:02:47 หรือบางทีงานที่ท่านต้องสัมผัสลม
00:02:48 → 00:02:51 ลมที่พุ่งเข้ามาที่ตาบ่อยๆ ก็ทำให้เราต้องเกร็งตา
00:02:51 → 00:02:54 กระพริบตา มันจะปวดเมื่อยไปทั้งกระบอกตา
00:02:54 → 00:02:57 แล้วก็ยังอาจจะทำให้ตาแห้งได้ด้วย
00:02:57 → 00:02:59 ซึ่งก็เป็นโรคอีกหลากหลายนะครับ
00:03:00 → 00:03:04 เพราะฉะนั้นอาการตาล้าก็จะเกิดได้หลากหลายมากๆ เลย
00:03:04 → 00:03:08 สำหรับผู้ที่สายตาเริ่มสั้นแล้วไม่รู้ตัว
00:03:08 → 00:03:11 ก็จะต้องเกร็งลูกตาเพื่อให้มองเห็นได้ชัด
00:03:11 → 00:03:12 ก็จะเกิดอาการตาล้าได้อีกครับ
00:03:12 → 00:03:16 จะเห็นได้ว่าสาเหุตของอาการตาล้ามีมากมายหลายอย่าง
00:03:16 → 00:03:18 และทำให้ชีวิตประจำวันเราแย่
00:03:18 → 00:03:22 เพราะฉะนั้นถ้าเราเกิดสามารถที่จะลดหรือบรรเทาอาการมันได้
00:03:22 → 00:03:24 จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
00:03:24 → 00:03:26 สำหรับการวินิจฉัยอาการตาล้า
00:03:26 → 00:03:29 ท่านแทบจะวินิจฉัยได้ด้วยตนเองเลยครับ
00:03:29 → 00:03:31 แทบไม่จำเป็นที่จะต้องให้แพทย์วินิจฉัยว่า
00:03:31 → 00:03:33 ท่านเป็นอาการตาล้าเลยเพราะว่า
00:03:33 → 00:03:35 อาการที่เกิดขึ้นก็อาจจะมีอาจปวดกระบอกตา
00:03:35 → 00:03:37 เมื่อยตา ปวดหัวนะครับ
00:03:37 → 00:03:40 หลังจากที่ท่านใช้สายตามากๆ
00:03:40 → 00:03:43 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดท่านเป็นบ่อยมากๆ
00:03:43 → 00:03:46 อันนี้ก็ต้องพบแพทย์และการรักษาอาการตาล้า
00:03:46 → 00:03:49 โดยส่วนใหญ่ก็คือการพักเป็นหลักนั่นเอง
00:03:49 → 00:03:53 และก็ยังมีการหยอดตาทำให้ตาหายแห้ง
00:03:53 → 00:03:59 คราวนี้เรามาดู 7 วิธีการที่จะป้องกันอาการตาล้าของท่าน
00:03:59 → 00:04:04 อาการตาล้าจะลดความเสี่ยงได้และก็ลดอาการได้
00:04:04 → 00:04:08 อันแรก เขาเรียกว่า เทคนิค 20 ครับ
00:04:08 → 00:04:11 ทำยังไงครับ ก็คือจำกัดเวลาการใช้สายตา
00:04:11 → 00:04:14 อย่างเช่น การอ่านหนังสือ หรือการทำงานนานๆ
00:04:14 → 00:04:15 20 นาที
00:04:15 → 00:04:20 ทุก 20 นาที จะต้องพักสายตา 20 วินาทีนะครับ
00:04:21 → 00:04:24 ทุก 20 นาที จะต้องพักสายตา 20 วินาที
00:04:24 → 00:04:26 และไม่ใช่พักแบบเฉยๆ นะครับ
00:04:26 → 00:04:30 ต้องมองไปไกลอย่างน้อย 20 ฟุต
00:04:30 → 00:04:35 เพื่อให้เราผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตา รอบกระบอกตา
00:04:35 → 00:04:37 อันนี้ก็คือกฎ 20 นั่นเอง
00:04:37 → 00:04:38 ย้ำอีกครั้งนะครับ
00:04:38 → 00:04:42 20 นาที พัก 20 วินาที
00:04:42 → 00:04:47 แล้วมองไกล 20 ฟุต ก็คือข้อแรกนะครับ
00:04:47 → 00:04:48 ข้อที่ 2 ครับ
00:04:49 → 00:04:51 เทคนิคนี้ง่ายมาก ป้องกันอาการตาล้า
00:04:51 → 00:04:55 คือแนะนำให้ท่านกระพริบตาบ่อยๆ
00:04:55 → 00:04:57 สมมติว่าท่านอ่านหนังสือหรือทำงานไปสักพักหนึ่ง
00:04:57 → 00:04:59 หรือมองจอคอมพิวเตอร์ กระพริบตารัวๆ อย่างนี้ครับ
00:05:01 → 00:05:02 ทำไมต้องกระพริบตา
00:05:02 → 00:05:06 การกระพริบตาของเราจะเป็นการทำให้เกิดน้ำหล่อเลี้ยง
00:05:06 → 00:05:09 ของดวงตามันออกมาเคลือบตาเรามากขึ้นนะครับ
00:05:10 → 00:05:11 ซึ่งจะป้องกันตาแห้ง
00:05:11 → 00:05:14 แล้วก็ทำให้กล้ามเนื้อรอบตามีการผ่อนคลาย
00:05:14 → 00:05:16 ไม่เกร็งตลอดเวลานะครับ
00:05:16 → 00:05:20 อันนี้ก็เป็นเทคนิคการป้องกันอาการตาล้าข้อที่ 2
00:05:21 → 00:05:27 ต่อมาข้อที่ 3 หลีกเลี่ยงการใช้สายตาในที่มืดหรือแสงน้อย
00:05:27 → 00:05:30 รวมทั้งปรับแสงให้เหมาะสมกับการทำงานนั้นๆ
00:05:30 → 00:05:34 บางครั้งเราอ่านหนังสือในที่ๆ มืดเกินไป
00:05:34 → 00:05:37 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเราต้องรู้สึกว่าต้องเพ่ง
00:05:37 → 00:05:40 ควรจะเพิ่มแสงไฟในการอ่านหนังสือ
00:05:40 → 00:05:43 ก็อันนี้สำคัญมากๆ เลยนะครับ
00:05:43 → 00:05:45 ยังไม่พอ ถ้าเกิดในที่ๆ แสงสว่างมากๆ
00:05:45 → 00:05:47 ก็อาจจะแนะนำให้ใส่แว่นตา
00:05:47 → 00:05:49 และนี่ก็คือข้อที่ 3 นะครับ
00:05:49 → 00:05:53 หลีกเลี่ยงการใช้สายตาในที่ๆ มีแสงน้อยนะครับ
00:05:53 → 00:05:55 ต่อมาข้อที่ 4 ครับ
00:05:55 → 00:05:58 การใช้คอมพิวเตอร์หรือว่าแล็ปท็อปอะไรต่างๆ
00:05:58 → 00:06:05 ควรให้สายตาอยู่ห่างจากหน้าจอประมาณ 20 นิ้ว
00:06:05 → 00:06:08 20 นิ้ว ก็คือประมาณสัก 50 เซนติเมตร กว่าๆ
00:06:08 → 00:06:11 ประมาณเท่านี้อย่างน้อย
00:06:11 → 00:06:12 ประมาณเท่านี้นะครับ
00:06:12 → 00:06:15 ก็จะทำให้สายตาเราค่อนข้างสบาย
00:06:15 → 00:06:17 แล้วก็ไม่ปวดเมื่อคอ ไม่ปวดหลังด้วยนะครับ
00:06:17 → 00:06:20 การมองใกล้เกินไป บางทีเราก้มนะครับ
00:06:20 → 00:06:22 ทั้งปวดหลัง ปวดคอ ปวดหัว ปวดตา
00:06:22 → 00:06:26 พาไปเป็น Office Syndrome กันเลย อันนี้ลำบากนะครับ
00:06:26 → 00:06:27 ต่อมาข้อที่ 5 ครับ
00:06:27 → 00:06:30 สวมแว่นตาให้เหมาะสมกับการใช้งาน
00:06:30 → 00:06:33 อย่างแว่นตาสำหรับการอ่านหนังสือ
00:06:33 → 00:06:37 สมมุติท่านสายตายาว ท่านก็ควรใส่แว่นตาสายตายาว
00:06:37 → 00:06:38 ไม่ใช่ไปนั่งเกร็งอ่านหนังสืออย่างนี้
00:06:38 → 00:06:40 มันจะปวดตานะครับ
00:06:40 → 00:06:42 หรือว่าเวลาออกแดด อยู่กลางแสงแดด
00:06:42 → 00:06:44 ก็ควรจะใส่แว่นตากันแดด
00:06:44 → 00:06:47 ถ้าเกิดสมมุติว่าท่านทำงานเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์
00:06:47 → 00:06:49 หรือว่าเป็นช่างอ๊อก ช่างเชื่อมอะไรต่างๆ
00:06:49 → 00:06:54 ก็ควรจะใส่ป้องกันประกายไฟหรือแสงไฟ
00:06:54 → 00:06:58 เพื่อป้องกันอาการตาล้าจากแสงที่มากเกินไปนะครับ
00:06:58 → 00:07:02 ต่อมาข้อที่ 6 ใช้อุปกรณ์กรองแสงต่างๆ
00:07:02 → 00:07:07 เช่น อาจจะเป็นแผ่นฟิล์มกองแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์
00:07:07 → 00:07:10 แผ่นฟิล์มกรองแสงของโทรศัพท์
00:07:10 → 00:07:13 หรือว่าอาจจะเป็นแว่นตัดแสง
00:07:13 → 00:07:15 เพื่อให้การอ่านของเราสบายตามากขึ้น
00:07:15 → 00:07:17 และนี่ก็คือข้อที่ 6 ครับ
00:07:18 → 00:07:22 ต่อมาข้อที่ 7 หลีกเลี่ยงการนั่งหน้าพัดลม
00:07:22 → 00:07:24 หรือเครื่องปรับอากาศนะครับ
00:07:24 → 00:07:27 ที่ทำให้ดวงตาสัมผัสกับลมโดยตรง
00:07:27 → 00:07:29 เพื่อป้องกันอาการตาแห้งครับ
00:07:29 → 00:07:32 คราวนี้นอกจาก 7 ข้อที่กล่าวมานั้น
00:07:32 → 00:07:36 ยังจะมีเรื่องของการรับประทานอาหารเพื่อบำรุงสายตาด้วย
00:07:36 → 00:07:41 เช่น ปลาทะเล ไข่ ถั่ว ส้ม มะนาว และผักใบเขียว
00:07:41 → 00:07:45 ก็จะช่วยให้สายตาเราดีขึ้นและลดอาการตาล้าได้เป็นอย่างดี
00:07:46 → 00:07:51 ผมขออนุญาตสรุปว่าอาการตาล้า
00:07:51 → 00:07:54 เราสามารถลดความเสี่ยงแล้วก็แก้ไข
00:07:54 → 00:07:56 หรือทำว่าทำให้น้อยลงได้อย่างไรบ้าง
00:07:56 → 00:07:59 ทั้งหมด 7 เทคนิคด้วยกัน
00:07:59 → 00:08:02 เทคนิคข้อแรก เทคนิค 20
00:08:02 → 00:08:09 ทุก 20 นาที พักสายตา 20 วินาที มองออกไปไกล 20 ฟุต
00:08:09 → 00:08:11 นี่คือข้อแรก กฎ 20 นะครับ
00:08:11 → 00:08:15 ข้อที่ 2 กระพริบตาบ่อยๆ
00:08:15 → 00:08:18 จะช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นมากขึ้น
00:08:18 → 00:08:22 ทำให้สายตาเวลาเรากระพริบกล้ามเนื้อเราจะคลาย
00:08:22 → 00:08:24 อาการล้าก็จะลดลง
00:08:24 → 00:08:30 ตาชุ่มชื้นมากขึ้นก็จะทำให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น
00:08:30 → 00:08:32 ตาไม่แห้ง อันนี้ก็คือข้อที่ 2
00:08:32 → 00:08:36 สำหรับใครที่ตาแห้งมากๆ แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียม
00:08:36 → 00:08:42 ส่วนข้อที่ 3 หลีกเลี่ยงการใช้สายตาในที่มืดหรือแสงน้อย
00:08:42 → 00:08:46 แล้วก็หลีกเลี่ยงการออกแดดรุนแรง
00:08:46 → 00:08:51 ที่ต้องใช้ตาหรี่แบบนี้ก็จะทำให้เกิดอาการตาล้า
00:08:51 → 00:08:54 ได้ทั้งมืดมากก็ตาล้า สว่างมากก็ตาล้าครับ
00:08:54 → 00:08:56 และนี่ก็คือข้อที่ 3 ครับ
00:08:56 → 00:08:58 ต่อมาข้อที่ 4 ครับ
00:08:59 → 00:09:02 ถ้าท่านจะใช้คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปต่างๆ
00:09:02 → 00:09:07 แนะนำให้ตาของท่านห่างจากจอประมาณ 20 นิ้ว
00:09:07 → 00:09:11 หรือประมาณ 50 เซนติเมตร
00:09:11 → 00:09:17 รวมทั้งปรับระดับแสงของจอให้นุ่มนวล
00:09:17 → 00:09:21 ในกรณีที่จอคอมพิวเตอร์ ถ้าท่านใช้งานบ่อยมากๆ
00:09:21 → 00:09:24 ผมแนะนำให้เป็นจอแบบลักษณะด้านนะครับ
00:09:24 → 00:09:28 เขาเรียกว่า Anti-Glare ก็คือค่อนข้างที่จะด้านนะครับ
00:09:29 → 00:09:32 แล้วก็มันจะไม่ค่อยสะท้อนทำให้เราไม่ต้องเพ่งมาก
00:09:32 → 00:09:36 คือหน้าจอที่สวยๆ บางทีสะท้อนแล้วก็แบบ
00:09:36 → 00:09:38 ยิ่งมองยิ่งปวดตานะครับ
00:09:38 → 00:09:40 ต้อมาข้อที่ 5 ครับ
00:09:40 → 00:09:44 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านใช้สายตา
00:09:44 → 00:09:48 ต้องใส่แว่นตาให้เหมาะกับสถานการณ์
00:09:48 → 00:09:51 เช่น แว่นตาสำหรับอ่านหนังสือ ถ้าท่านสายตายาว
00:09:51 → 00:09:54 แว่นตากันแดด เมื่อท่านออกไปเจอแสงแดด
00:09:54 → 00:09:56 แว่นตาสำหรับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
00:09:56 → 00:09:58 ถ้าท่านมีการอ๊อกเหล็ก อ๊อกไฟ
00:09:58 → 00:10:01 หรือทำอะไรที่มันมีประกาย ไฟประกายแสง
00:10:01 → 00:10:02 ก็แนะนำให้ใส่นะครับ
00:10:02 → 00:10:04 ต่อมาข้อที่ 6 ครับ
00:10:04 → 00:10:08 ใช้อุปกรณ์กรองแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์
00:10:08 → 00:10:11 ม่านบังแสง กันแสงสีฟ้า
00:10:11 → 00:10:14 หรือเลนส์ของแว่นที่ทำให้อ่านหนังสือได้สบาย
00:10:14 → 00:10:16 มีอะไรก็เอาออกมาใช้ให้หมดนะครับ
00:10:17 → 00:10:20 ต่อมาข้อที่ 7 หลักเลี่ยงการนั่งหน้าพัดลม
00:10:20 → 00:10:22 หรือว่าที่ๆ มีลมเป่าเพราะว่า
00:10:23 → 00:10:25 หรือว่าพวกเครื่องปรับอากาศก็เช่นกันนะครับ
00:10:25 → 00:10:28 เพราะว่าจะทำให้ตาเราสัมผัสกับลมโดยตรง
00:10:28 → 00:10:32 แล้วก็จะเกิดอาการตาแห้ง แล้วก็มีอาการตาล้าตามมา
00:10:32 → 00:10:38 และนี่ก็คือ 7 ข้อที่จะช่วยให้ท่านมีอาการตาล้าลดลงนะครับ
00:10:38 → 00:10:41 แล้วก็อย่าลืมครับ อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
00:10:41 → 00:10:45 ออกมาออกกำลังกายกันบ้างนะครับ
00:10:45 → 00:10:48 ก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงทุกๆ คน
00:10:48 → 00:10:50 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:10:50 → 00:10:52 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:10:52 → 00:10:53 สวัสดีครับ