ควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันปอดจากมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี

[PODCAST] Food Choice | EP.26 - รู้จักโรคทางระบบทางเดินหายใจและอาหารดูแลสุขภาพปอด

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:20 [เสียงดนตรี]

00:00:2000:00:22 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2200:00:27 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2700:00:29 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:2900:00:33 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา

00:00:3300:00:38 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:3800:00:40 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4000:00:44 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4400:00:47 [เสียงดนตรี]

00:00:4700:00:49 สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกครั้งนะคะ

00:00:4900:00:54 สำหรับ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:5400:00:59 วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารดูแลสุขภาพปอด

00:00:5900:01:01 ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมานี่

00:01:0100:01:05 เราก็จะมีปัญหาหรือว่า มีเรื่องของโรคติดเชื้อทั้งหลายที่เข้ามา

00:01:0500:01:08 แล้วก็วุ่นวายกับเรื่องของปอดของเรา

00:01:0800:01:11 วันนี้เราจะมาดูกันว่าปอดเรามีหน้าที่ทำอะไร

00:01:1100:01:14 แล้วเราจะมีอาหารอะไรไหม ที่จะช่วยทำให้ปอดเรานี่

00:01:1400:01:17 ใช้งานได้นานขึ้น แล้วก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นค่ะ

00:01:1700:01:23 [เสียงดนตรี]

00:01:2300:01:26 ในส่วนของปอดนะคะ หรือระบบทางเดินหายใจดีกว่า

00:01:2600:01:28 เราใช้คำว่า ระบบทางเดินหายใจ

00:01:2800:01:32 ระบบทางเดินหายใจก็เริ่มตั้งแต่ เราหายใจจากจมูกเข้าไปเลย

00:01:3200:01:36 มันก็จะมีช่องทาง ผ่านจมูกลงไปที่หลอดลม

00:01:3600:01:40 หลอดลมใหญ่ แล้วก็แตกแขนงไปสู่ หลอดลมย่อย ๆ แล้วก็ไปที่ปอด

00:01:4100:01:46 หลัก ๆ ของปอดคือเป็นอวัยวะ ที่มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซ

00:01:4600:01:48 ก็คือพอเลือดผ่านเข้ามาปุ๊บนี่

00:01:4800:01:50 เลือดนี่ก็ออกซิเจนต่ำ

00:01:5000:01:52 เลือดก็จะไปผ่านหรือไปฟอกที่ปอด

00:01:5200:01:53 แล้วใส่ออกซิเจนเข้าไปในเลือด

00:01:5400:01:56 ที่เราเรียกเลือดดำเลือดแดง

00:01:5600:01:58 เลือดที่ออกซิเจนต่ำ พอเข้าไปสู่ปอดปุ๊บ

00:01:5800:02:01 เติมออกซิเจน เราเรียกว่าเป็นเลือดแดง

00:02:0100:02:02 แล้ววิ่งไปที่หัวใจ

00:02:0200:02:05 วิ่งไปที่หัวใจปั๊บ แล้วก็สูบฉีดไปทั่วร่างกาย

00:02:0500:02:08 โรคหรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับที่ปอดของเรา

00:02:0800:02:11 ก็จะทำให้การแลกเปลี่ยน หรือการฟอกอากาศตรงนี้

00:02:1200:02:13 มันทำได้แย่ลง

00:02:1300:02:17 แล้วก็อาจจะนำมาสู่อาการหลาย ๆ อย่าง ที่จะบอกว่าเป็นโรคปอด

00:02:1700:02:18 ไม่ว่าจะเป็นเหนื่อยง่าย

00:02:1800:02:21 ไม่ว่าจะมีอาการไอ หรืออะไรก็ตาม

00:02:2100:02:23 เดี๋ยวเราจะมาคุยกันในรายละเอียดอีกทีหนึ่ง

00:02:2300:02:28 โรคที่พบได้บ่อย ๆ ในเรื่องของปอด หรือว่าทางเดินหายใจของเรามีอะไรบ้าง

00:02:2800:02:32 ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นหลอดลมอักเสบ การติดเชื้อ

00:02:3200:02:34 อันนี้ก็จะเป็นอันนึงก็คือเรื่องของหลอดลม

00:02:3400:02:38 ถัดลงมานี่ ก็จะเป็นเรื่องของตัวเนื้อปอดแล้ว

00:02:3800:02:41 ตัวเนื้อปอดก็จะมีตั้งแต่เรื่องของการอักเสบ

00:02:4100:02:43 อักเสบเราแยกย่อยเป็น 2 กลุ่มเลยค่ะ

00:02:4300:02:45 คืออักเสบที่มาจากการติดเชื้อ

00:02:4500:02:48 และอักเสบที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ

00:02:4800:02:52 อักเสบที่มาจากการติดเชื้อ ที่ตอนนี้เราเห็นบ่อย ๆ คืออะไรคะ

00:02:5200:02:53 โควิด เห็นไหมคะ

00:02:5300:02:55 มันก็จะมีตั้งแต่เชื้อแบคทีเรีย

00:02:5500:02:58 เชื้อราก็ได้ เชื้อไวรัสก็ได้

00:02:5800:03:01 วัณโรคก็เป็นอันหนึ่ง เป็นกลุ่มแบคทีเรียอันหนึ่ง

00:03:0100:03:04 ซึ่งจะทำให้เกิดเรื่องของปอดอักเสบได้

00:03:0400:03:08 อันที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น

00:03:0800:03:11 อาจจะเป็นเรื่องของภูมิแพ้ สารพิษ

00:03:1100:03:15 หรือว่าจะเป็นการสูดควันอะไรอย่างนี้เข้าไป

00:03:1500:03:17 อันนี้ก็จะทำให้ปอดอักเสบได้เหมือนกันเนอะ

00:03:1800:03:22 อีกอันนึงก็จะเป็นกลุ่มโรค ที่มันเป็นโรคประจำตัว

00:03:2200:03:24 หรือว่าโรคที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง

00:03:2400:03:26 แล้วทำให้มีการอักเสบที่ปอด

00:03:2600:03:27 อันนี้ก็เจอได้เหมือนกัน

00:03:2700:03:30 ถัดไป อันนี้เป็นโรคมะเร็ง

00:03:3000:03:33 อันนี้เราก็จะเจอเป็นพวกของเนื้องอก เป็นพวกของมะเร็ง

00:03:3400:03:37 ตั้งแต่ว่าเป็นมะเร็งที่เป็นที่ตัวปอดเอง

00:03:3700:03:40 อันนี้คือเป็นตัวเริ่มต้นเลยคือมะเร็งปอด

00:03:4000:03:44 อันที่ 2 ก็คือ เป็นมะเร็งที่มีการแพร่กระจายมาที่ปอด

00:03:4400:03:49 ถัดไป เมื่อกี้เราพูดไปแล้วว่า มันจะมีเรื่องของหลอดลมที่เนื้อปอด

00:03:4900:03:52 อีกอันหนึ่งเราจะเรียกว่าเยื่อหุ้มปอด

00:03:5200:03:54 โรคของเยื่อหุ้มปอดทำให้เกิดอะไร

00:03:5400:03:59 โรคของเยื่อหุ้มปอดก็จะทำให้มีน้ำ เกิดขึ้นบริเวณของเยื่อหุ้มปอด

00:03:5900:04:04 นึกภาพว่าเรามีปอดนะคะ แล้วมันเป็นถุงที่ขยายออก

00:04:0400:04:06 เสร็จแล้วทีนี้เรามีช่องอก

00:04:0600:04:09 มันก็เหมือนเป็นลูกโป่งที่อยู่ในขวด

00:04:0900:04:11 ทีนี้เวลาที่ลูกโป่งขยายออกปั๊บนี่

00:04:1100:04:13 มันก็จะไปชนขวดพอดี

00:04:1300:04:16 แล้วถ้าสมมุติว่าในขวดมันมีน้ำอยู่

00:04:1600:04:18 ลูกโป่งมันขยายไม่ได้ นึกออกใช่ไหมคะ

00:04:1800:04:20 เพราะฉะนั้น พอลูกโป่งมันขยายไม่ได้

00:04:2000:04:23 การแลกเปลี่ยนก๊าซมันก็ทำได้ไม่เต็มที่

00:04:2300:04:27 อันนี้ก็อาจจะทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย หรือว่ามีน้ำในเยื่อหุ้มปอดได้

00:04:2700:04:30 อันนี้จะต่างกับน้ำท่วมปอดในบางคนนะคะ

00:04:3000:04:32 ก็จะบอกมีน้ำอยู่ในเยื่อหุ้มปอด

00:04:3200:04:34 หรือบางคนจะบอกว่ามีน้ำท่วมปอด อย่างนี้เป็นต้นเนอะ

00:04:3500:04:36 อันนี้ก็จะเป็นอีกโรคนึง

00:04:3600:04:40 ส่วนถามว่า โรคที่ทำให้เยื่อหุ้มปอดมีปัญหา อันนี้มีอะไรได้บ้าง

00:04:4000:04:42 อันแรกเลย ก็เหมือนกันค่ะ เป็นการอักเสบ

00:04:4200:04:44 อันที่ 2 ก็อาจจะเป็นโรคของเขาเอง

00:04:4400:04:50 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวมะเร็ง ที่มีการแพร่กระจายก็ตามหรืออะไรก็ตาม

00:04:5000:04:53 อันนี้ก็จะเป็นโรคของเยื่อหุ้มปอด ที่ทำให้มีน้ำในเยื่อหุ้มปอดได้ค่ะ

00:04:5400:04:56 ในส่วนของตัวเนื้อปอดนะคะ

00:04:5600:05:00 นอกเหนือจากในส่วนที่จะเป็น เรื่องของการอักเสบที่บอกเมื่อสักครู่นี้

00:05:0000:05:01 การติดเชื้อ ไม่ติดเชื้อ

00:05:0100:05:05 อีกอันหนึ่งที่เราจะเจอ ก็คือเรื่องของถุงลมโป่งพองหรือว่าหอบหืด

00:05:0500:05:07 ถ้าเป็นหอบหืดนี่ เราจะพูดถึง

00:05:0700:05:11 ความผิดปกติที่เกิดขึ้น จากการที่หลอดลมมันหดตัว

00:05:1100:05:14 พอหลอดลมหดตัวปั๊บ ลมมันก็จะเข้าไม่ได้

00:05:1400:05:17 บางทีเราจะได้ยินเสียง วี้ด ๆ วี้ด ๆ อย่างนี้ค่ะ

00:05:1700:05:19 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของหลอดลมหดตัว

00:05:1900:05:22 แล้วก็จะเป็นเรื่องของหอบหืดนะคะ

00:05:2200:05:25 อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของถุงลมโป่งพอง

00:05:2500:05:28 ถุงลมโป่งพองอันนี้เป็นโรคปอดเรื้อรัง

00:05:2800:05:32 อาจจะเกิดจากการอักเสบหรือว่าระคายเคือง เช่น สูบบุหรี่นาน ๆ

00:05:3200:05:35 แล้วทำให้ถุงลมมันโป่งพอง

00:05:3500:05:39 หรือในบางรายที่เขาเคยมีโรคการอักเสบที่ปอด

00:05:3900:05:41 พออักเสบเสร็จแล้ว ปอดมันถูกทำลายไป

00:05:4200:05:45 พอถูกทำลายปุ๊บ ถุงลมมันก็จะโป่งพองออกมา

00:05:4500:05:48 ทีนี้ตรงนี้ค่ะ ก็จะมีปัญหา

00:05:4800:05:51 อันที่ 4 ก็จะเป็นเส้นเลือดที่จะไปที่ปอดนะคะ

00:05:5200:05:55 ถ้าเกิดว่าเส้นเลือดที่ปอดนี่ ก็จะมีเลือดเข้าไป

00:05:5500:05:58 ถ้าสมมุติมันมีการอุดตัน อุดกั้น

00:05:5800:05:59 หรือมีอะไรมาอุดก็แล้วแต่

00:05:5900:06:01 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ

00:06:0100:06:03 จะทำให้เลือดมันไปที่ปอดไม่ได้

00:06:0300:06:05 ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนไม่ได้

00:06:0600:06:09 สิ่งที่ตามมาก็คือ คนไข้ออกซิเจนก็จะลดลง

00:06:0900:06:12 อาจจะเหนื่อยขึ้น หรือบางคนนี่ ความดันมันจะลดลง

00:06:1300:06:15 มีการเสียชีวิตได้สบายมาก

00:06:1500:06:17 ที่เราเรียกว่าเส้นเลือดที่ปอดอุดตันนะคะ

00:06:1700:06:19 อันนี้ก็จะเป็นอีกโรคหนึ่งที่จะเกิดขึ้น

00:06:2000:06:22 ถามว่าเกิดจากอะไร อาจจะเป็นลิ่มเลือดที่หลุดไป

00:06:2200:06:25 หรือว่าอาจจะเป็น การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ

00:06:2500:06:27 เช่น บางคนกินยาบางอย่าง

00:06:2700:06:31 หรือโรคบางโรค ที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ

00:06:3100:06:33 แล้วทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันบริเวณนั้นค่ะ

00:06:3400:06:40 [เสียงดนตรี]

00:06:4000:06:41 สำหรับในส่วนของสาเหตุ

00:06:4100:06:44 จริง ๆ นี่มันก็ขึ้นกับในแต่ละอย่างเนอะ

00:06:4400:06:47 อันแรกนี่ ถ้าสมมุติว่า มันเป็นเรื่องของการติดเชื้อใช่ไหมคะ

00:06:4700:06:51 ในส่วนของการติดเชื้อ ที่จะสามารถทำให้เกิดเรื่องของปอดอักเสบ

00:06:5100:06:52 มีได้ตั้งแต่ตัวไวรัส

00:06:5200:06:56 ซึ่งก็มีหลายชนิดมาก ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดที่เราเจอบ่อย ๆ

00:06:5600:06:57 โควิดก็ได้

00:06:5700:07:01 อันที่ 2 คือแบคทีเรีย ก็มีเจอได้เหมือนกัน

00:07:0100:07:04 เชื้อแบคทีเรียซึ่งจะมีอยู่หลายชนิดเลย

00:07:0400:07:08 รวมถึงตัววัณโรคเอง ก็เป็นชนิดหนึ่งของแบคทีเรียได้เหมือนกัน

00:07:0800:07:11 อันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของเชื้อรา

00:07:1100:07:14 เชื้อราก็เจอได้พอสมควรในกรณีที่

00:07:1400:07:18 อย่างเช่นในโรคของตัวเชื้อราบางชนิด ที่เกิดจากนกพิราบ

00:07:1800:07:21 อันนี้ก็สามารถจะเจอในปอดได้เหมือนกันนะคะ

00:07:2100:07:23 โรคปอดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อนะคะ

00:07:2300:07:27 ก็อย่างเช่น ยกตัวอย่างเช่น เป็นโรคของหอบหืดนะคะ

00:07:2700:07:29 เรื่องของหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง

00:07:2900:07:32 หรือว่าถุงลมโป่งพองที่เราคุ้นเคยกัน

00:07:3200:07:36 โรคของมะเร็งปอด อันนี้ก็จะเป็นอีก 2-3 อย่างที่เราจะเจอ

00:07:3600:07:39 ในขณะที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ

00:07:3900:07:42 ในส่วนของหอบหืดกับหลอดลมอุดกั้นนี่

00:07:4200:07:44 ความต่างมันมีนิดเดียวค่ะ

00:07:4400:07:45 ในส่วนของหอบหืดนี่

00:07:4600:07:48 มันจะมีช่วงเวลาที่หลอดลมมันหดตัว

00:07:4800:07:51 พอหดตัวปั๊บนี่ คนไข้ก็จะมีอาการเหนื่อย

00:07:5100:07:53 หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม

00:07:5300:07:56 อาจจะได้ยินเสียงวี้ด ๆ ขึ้นมา

00:07:5600:07:58 ทีนี้เวลาที่เป็นนี่

00:07:5800:08:01 ในกลุ่มของหอบหืดนี่ เขาจะมีช่วงที่มีอาการ

00:08:0100:08:03 แล้วก็ช่วงที่หายสนิท

00:08:0300:08:07 คือพอรักษาหายแล้ว ก็จะมีช่วงอาการที่เป็นคนปกติเลย

00:08:0700:08:11 ในขณะที่ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเรื้อรัง

00:08:1100:08:14 มันก็จะคล้าย ๆ กันกับกลุ่มที่เป็นหอบหืด

00:08:1400:08:17 ก็คือจะมีช่วงที่หลอดลมหดตัว

00:08:1700:08:19 หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย

00:08:1900:08:22 แล้วก็จะมีเสียงวี้ดในทรวงอกเราได้นะคะ

00:08:2200:08:25 แต่ว่าอันนี้ ด้วยความที่มันเป็นเรื้อรัง

00:08:2500:08:26 มีลักษณะของการทำลาย

00:08:2700:08:30 หรือว่ามีลักษณะของการเสียหาย บริเวณปอดค่อนข้างมาก

00:08:3000:08:32 สิ่งที่จะตามมาก็คือ

00:08:3200:08:36 มันจะไม่มีช่วงเวลาที่เขาจะดีเหมือนปกติ

00:08:3600:08:37 จะมีช่วงเวลาที่แย่มาก

00:08:3700:08:39 แล้วก็จะมีช่วงเวลาที่แย่น้อย

00:08:4000:08:41 แล้วก็ใช้ชีวิตได้

00:08:4100:08:44 อาจจะต้องอยู่ด้วยกัน ที่จะมียาควบคุมไว้อะไรแบบนี้

00:08:4400:08:48 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นความต่างนิดนึง ในกรณีของโรคหอบหืด

00:08:4800:08:51 แล้วก็หลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง

00:08:5200:08:55 อันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของมะเร็งปอด

00:08:5500:08:57 ในแง่ของมะเร็งปอดเองนี่

00:08:5700:08:58 จะมีอยู่ 2 สาเหตุ

00:08:5800:09:00 อันแรกเราจะเรียกว่า เป็นมะเร็งที่เริ่มต้นที่ปอดเลย

00:09:0100:09:03 ก็คือเริ่มต้นเป็นก้อนเนื้อที่ปอด

00:09:0300:09:05 อันที่ 2 ก็คือเป็นมะเร็งที่อื่น

00:09:0500:09:07 แล้วมีการกระจายมาที่ปอดนะคะ

00:09:0700:09:11 อันนี้ก็จะเป็นอีก 3 สาเหตุ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ

00:09:1100:09:17 นอกเหนือจากเรื่องของตัวหลอดลม เรื่องของตัวปอดแล้วนี่

00:09:1700:09:23 มันก็จะมีอีกอันหนึ่งที่จะทำให้เกิดอาการ ทางเรื่องของระบบทางเดินหายใจได้

00:09:2300:09:26 ก็คือเรื่องของเยื่อหุ้มปอด

00:09:2600:09:30 ซึ่งอันนี้ก็อาจจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นจาก เยื่อหุ้มปอดเอง เช่น การอักเสบ

00:09:3000:09:32 ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ

00:09:3200:09:34 อันนี้ก็จะทำให้เกิดน้ำได้นะคะ

00:09:3500:09:38 หรือว่ามีการเกิดมะเร็ง ที่มันมีการแพร่กระจายมา

00:09:3800:09:42 ตรงนี้ก็จะทำให้เกิดเรื่องของน้ำ ที่ในบริเวณของเยื่อหุ้มปอดได้เช่นกัน

00:09:4200:09:47 อันสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกันก็คือ เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงที่ปอดนะคะ

00:09:4700:09:50 เราอาจจะเคยได้ยินบอกว่า เส้นเลือดปอดอุดตัน

00:09:5000:09:53 เส้นเลือดปอดมันมีลิ่มเลือดไปอุด

00:09:5300:09:56 อันนี้ก็จะทำให้เลือดมันไหลเข้ามาไม่ได้

00:09:5600:09:57 พอมันไหลเข้ามาไม่ได้ปุ๊บ

00:09:5800:10:00 ก็จะไม่มีเลือดผ่านเข้ามาที่ปอด

00:10:0000:10:03 ก็จะไม่ถูกแลกเปลี่ยนออกซิเจน

00:10:0300:10:05 ในเลือดเราก็จะมีออกซิเจนตกลง

00:10:0500:10:09 ถ้าเราวัดออกซิเจน Z หรือว่า หรือว่าเป็นความเข้มข้นออกซิเจนปลายนิ้ว

00:10:0900:10:10 มันก็จะต่ำ

00:10:1100:10:12 คนไข้ก็จะเหนื่อยง่าย

00:10:1200:10:14 แล้วถ้าเลือดมันไหลผ่านมาไม่ได้จริง ๆ

00:10:1400:10:16 สิ่งที่จะตามมาอีกก็คือความดันตก

00:10:1600:10:18 หรือว่าคนไข้อาจจะเสียชีวิตได้

00:10:1800:10:20 อันนี้ก็จะเป็นสาเหตุหลัก ๆ

00:10:2000:10:25 ในกรณีของโรคที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ระบบทางเดินหายใจ แล้วก็ปอดค่ะ

00:10:2500:10:31 [เสียงดนตรี]

00:10:3100:10:36 สำหรับอาการของคนไข้ที่มีปัญหา เรื่องของระบบทางเดินหายใจและปอด

00:10:3600:10:37 หลัก ๆ เลยก็คือเหนื่อยง่าย

00:10:3700:10:39 อาจจะมีอาการไอนะคะ

00:10:3900:10:43 ไอในที่นี้ มีทั้งไอแห้ง ๆ ไอมีเสมหะ หรือว่าไอเป็นเลือด

00:10:4300:10:46 อันนี้นี่จะมาด้วยกันทั้งแพ็กเกจนะคะ

00:10:4600:10:48 ในส่วนของอาการเหนื่อยง่าย

00:10:4800:10:49 หอบนะคะ

00:10:4900:10:51 หายใจมีเสียงวี้ด

00:10:5100:10:52 หายใจลำบาก

00:10:5200:10:54 ในแง่ของการหอบเหนื่อยนี่

00:10:5400:10:55 หลายคนนี่ก็จะแบบ

00:10:5500:10:58 เอ๊ะ จะรู้ได้ยังไงนะว่ามันเป็น หอบเหนื่อย เหนื่อยเพลียหรืออะไรอย่างนี้

00:10:5800:11:01 ส่วนใหญ่มันจะทำให้ เราไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน

00:11:0100:11:05 เช่น สมมุติเราเคยเป็นนักกีฬา เราวิ่งได้ทีละ 10 กิโลอย่างนี้

00:11:0500:11:08 เราเหลือวิ่งได้ประมาณสัก 1-2 กิโล แล้วเราก็เหนื่อยแล้ว

00:11:0800:11:12 การใช้ชีวิตประจำวันในผู้ใหญ่ หรือว่าในผู้สูงอายุ

00:11:1200:11:13 บางทีเขาก็ไม่ได้ไปวิ่งหรอกค่ะ

00:11:1400:11:17 แต่แค่ว่า เอ๊ะ ตอนนี้จากเดิมนี่ เดินไปไหนมาไหนเองได้

00:11:1700:11:19 ตอนนี้ก็ไม่ค่อยอยากเดินแล้ว

00:11:1900:11:23 หรือว่าแค่ใช้ชีวิตประจำวัน อาบน้ำ กินข้าว ก็เริ่มเหนื่อยแล้ว อันนี้ผิดปกติ

00:11:2300:11:25 ในส่วนของการรักษานะคะ

00:11:2500:11:27 ก็ขึ้นกับสาเหตุเป็นหลักเลย

00:11:2700:11:29 ถ้าจะเป็นเรื่องของการอักเสบติดเชื้อนี่

00:11:3000:11:31 เราก็จะต้องหาให้ได้ว่า

00:11:3100:11:35 สาเหตุหรือว่าเชื้อโรคที่เป็นตัวก่อโรค คือเชื้ออะไร

00:11:3500:11:39 แล้วเราก็จะให้ยารักษา จำเพาะเจาะจงกับเชื้ออันนั้น

00:11:3900:11:45 อันที่ 2 ค่ะ ถ้าสมมุติว่าเราให้การรักษา ในแง่ของให้ยาฆ่าเชื้อจำเพาะเจาะจงแล้วนี่

00:11:4500:11:47 ในแง่ของการรักษาตามอาการทั้งหลาย

00:11:4700:11:49 ยกตัวอย่างเช่น การให้ออกซิเจน

00:11:4900:11:52 การให้สารน้ำ หรือว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอ

00:11:5200:11:56 เพื่อจะให้ร่างกายสามารถที่จะไอ เอาเสมหะออกมาได้

00:11:5600:11:58 อันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวช่วย

00:11:5800:12:04 นอกจากนั้น มันก็ควรจะต้องมีการป้องกัน ทั้งตัวเองแล้วก็คนรอบข้าง

00:12:0400:12:07 ถ้ามันมีการอักเสบติดเชื้อขึ้นมา เราก็ควรจะต้องใส่แมสก์

00:12:0700:12:10 ใส่แมสก์ทั้งคนที่ติดเชื้ออยู่

00:12:1000:12:12 เพื่อจะไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อ

00:12:1200:12:14 ในขณะเดียวกันนี่ คนทั่วไป

00:12:1400:12:18 ถ้าจะเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวเองได้รับเชื้อ

00:12:1800:12:20 ก็ควรที่จะใส่แมสก์เหมือนกัน

00:12:2000:12:21 อันนี้ในแง่ของเชื้อโรค

00:12:2100:12:26 การใส่แมสก์ไม่ใช่เป็นแค่การป้องกัน ในส่วนของเชื้อโรคเท่านั้น

00:12:2600:12:31 ในแง่ของพวกของสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือสารที่ทำให้ก่อเกิดมะเร็งนี่

00:12:3100:12:33 เราก็จะสามารถป้องกันได้ บางส่วนด้วยเช่นกันค่ะ

00:12:3300:12:37 สำหรับเรื่องของถุงลมโป่งพองหรือว่าหอบหืด

00:12:3700:12:40 หลัก ๆ นี่ มันจะมีเรื่องของหลอดลมหดตัว

00:12:4000:12:43 แล้วก็หายใจแล้วลำบาก ได้ยินเสียงวี้ด

00:12:4300:12:46 อันนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีเรื่องของ ยาขยายหลอดลมเป็นหลัก

00:12:4600:12:51 แล้วก็จะมียาอื่น ๆ ที่รักษาจำเพาะ ในเรื่องของแต่ละโรคไป

00:12:5100:12:57 ทีนี้โดยทั่วไป หอบหืดหรือว่าถุงลมโป่งพอง จะกำเริบ ถ้าถูกกระตุ้น

00:12:5700:12:58 ในแง่ของถุงลมโป่งพองหรือหอบหืด

00:12:5900:13:02 ถ้าเป็นรุนแรง บางทีอาการก็จะถูกกระตุ้นได้ง่าย

00:13:0200:13:05 อะไรเอ่ยที่จะเป็นตัวกระตุ้น ให้โรคพวกนี้มันกำเริบขึ้น

00:13:0500:13:06 การติดเชื้อ

00:13:0700:13:10 เพราะฉะนั้นก็ควรจะฉีดวัคซีน ถ้าป้องกันได้

00:13:1000:13:13 ใส่แมสก์เป็นประจำ อยู่ในที่อากาศถ่ายเท

00:13:1300:13:17 แล้วก็ไม่ไปอยู่ใกล้ชิดกับคนที่มี ปัญหาเรื่องของการติดเชื้อ

00:13:1700:13:18 ที่ตรงบริเวณทางเดินหายใจ

00:13:1800:13:20 เพราะว่าเราอาจจะได้รับเชื้อเข้ามา

00:13:2000:13:23 ถ้าเกิดว่าเป็นมะเร็งจากที่อื่น แล้วกระจายมาที่ปอด

00:13:2300:13:27 อันนี้ก็ถือว่าเป็นระยะที่มีการลุกลามแล้ว หรือว่าเรียกว่าระยะที่ 4

00:13:2700:13:31 อันนี้การรักษาหลัก ๆ ก็คงจะเป็นการควบคุมอาการของโรค

00:13:3100:13:34 ซึ่งก็จะไปดูตามชนิดของมะเร็งนะคะ

00:13:3400:13:37 ในส่วนของถ้าเป็นมะเร็ง ที่เริ่มต้นที่ปอดเองนี่

00:13:3700:13:41 ถ้าเป็นก้อนเล็ก ๆ ก็จะรักษาด้วยการผ่าตัด

00:13:4100:13:43 หรือว่าถ้าระยะที่มันมากขึ้นกว่านั้น

00:13:4300:13:46 ก็จะมีการใช้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง

00:13:4600:13:50 การรักษาโดยการใช้ยามุ่งเป้า หรือการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด

00:13:5000:13:54 ตอนนี้มันก็จะมีเทคโนโลยีค่อนข้างมาก สำหรับเรื่องของการรักษามะเร็ง

00:13:5400:13:57 แล้วในอนาคตก็น่าจะมีมากขึ้นอีกนะคะ

00:13:5700:14:03 [เสียงดนตรี]

00:14:0300:14:06 อาหารที่จะช่วยบำรุงปอดให้ห่างไกลโรคนะคะ

00:14:0600:14:09 หลัก ๆ ก็จะเป็นกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระ

00:14:0900:14:14 ซึ่งมีมากอยู่ในผัก ผลไม้ แล้วก็กลุ่มธัญพืช

00:14:1400:14:18 อันนี้ถามว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระอันไหน ที่เราสนใจเป็นพิเศษหรือเปล่า

00:14:1800:14:20 ในแง่ของทางระบาดวิทยา เราก็จะบอกว่า

00:14:2000:14:26 กลุ่มที่จะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี หรือว่าซีลีเนียม

00:14:2600:14:29 อันนี้ก็จะช่วยในเรื่องของ การป้องกันมะเร็งปอด

00:14:3000:14:33 ทีนี้มันจะมีความสำคัญอยู่นิดนึง เวลาที่เราหานี่

00:14:3300:14:35 เราจะบอกว่าวิตามินเอมันดูดีเนอะ

00:14:3500:14:39 กินผักผลไม้เยอะ ๆ มีวิตามินเอเยอะ วิตามินซีเยอะ จะช่วยป้องกันมะเร็งปอด

00:14:4000:14:41 แต่ว่าต้องบอกนิดนึงค่ะ

00:14:4100:14:47 ถ้าเราไปซื้อพวก supplement หรือว่ายาเม็ด ที่มีเบตาแคโรทีนเยอะ ๆ

00:14:4700:14:48 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงนะคะ

00:14:4800:14:51 อันนี้จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด

00:14:5100:14:54 เบตาแคโรทีน แนะนำให้กินจากอาหาร

00:14:5400:14:57 โดยทั่วไปเวลาเรากินเบตาแคโรทีนจากอาหารนี่

00:14:5700:15:01 มันจะไม่ทำให้เกิดภาวะเป็นพิษ หรือจะไม่ได้รับมากเกินไป

00:15:0100:15:04 แต่ถ้าเราไปซื้อเป็นเม็ดมา

00:15:0400:15:05 แล้วกินเข้าไป

00:15:0500:15:09 โดสที่มากเกินไป ในที่นี้คือมากกว่า 20-30 มิลลิกรัม

00:15:1000:15:13 มันเพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดมะเร็งปอดได้

00:15:1300:15:17 สำหรับผักที่จะมีกลุ่มของ เบตาแคโรทีนค่อนข้างมากนี่

00:15:1700:15:21 เอาง่าย ๆ เลย คือผักที่มีสีเหลือง สีส้ม สีแดง

00:15:2100:15:23 พวกนี้จะมีเบตาแคโรทีนค่อนข้างเยอะ

00:15:2300:15:28 มีอะไรบ้างเอ่ย อันแรก แคร์รอต ฟักทอง หรือมะเขือเทศ

00:15:2900:15:33 สีเขียวเข้ม ๆ อย่างเช่นบรอกโคลีเอง ก็ถือว่ามีเรื่องของวิตามินบี

00:15:3300:15:36 แล้วก็มีวิตามินเอ วิตามินซีสูงด้วย

00:15:3600:15:39 ในส่วนของสีเหลืองส้มทั้งหลายที่เราว่ามานี่

00:15:3900:15:43 ถ้าเป็นมะเขือเทศนี่ นอกเหนือจากจะมีพวกเบตาแคโรทีนแล้วนี่

00:15:4300:15:44 เขายังมีไลโคปีนอีก

00:15:4400:15:48 ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ หรือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเหมือนกัน

00:15:4800:15:50 เพราะฉะนั้นในกลุ่มของอาหารพวกนี้

00:15:5000:15:53 เราสามารถที่จะรับประทานเพิ่มขึ้นได้นะคะ

00:15:5300:15:56 เพื่อจะให้ร่างกายมีเบตาแคโรทีนเพิ่มขึ้น

00:15:5600:15:59 มีกลุ่มของพวกของสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น

00:15:5900:16:02 ผักที่มันเป็นสีเขียวเข้ม ๆ

00:16:0200:16:04 มันก็ยังคงมีวิตามินซีด้วย

00:16:0400:16:07 ก็จะช่วยเพิ่มแอนติออกซิแดนท์ได้อีกทางหนึ่ง

00:16:0700:16:09 นอกเหนือจากกลุ่มผักพวกนี้

00:16:0900:16:10 ก็จะมีกลุ่มของผลไม้

00:16:1000:16:14 กลุ่มผลไม้ที่จะเป็นกลุ่มที่จะมีวิตามินซีสูง

00:16:1400:16:16 อันนี้เราคงจะพอทราบกันอยู่แล้วเนอะ

00:16:1600:16:21 ถ้าจะเป็นพวกของแคนตาลูป แอปเปิล หรือว่ากลุ่มที่เป็นเบอร์รี

00:16:2100:16:24 พวกนี้นอกจากจะมีเรื่องของวิตามินซีแล้วนี่

00:16:2400:16:27 มันก็อาจจะมีพวกสารต้านอนุมูลอิสระ ในรูปแบบอื่น ๆ

00:16:2700:16:28 อย่างเช่นเบอร์รีอย่างนี้ค่ะ

00:16:2800:16:32 ก็จะมีพวกลูทีน ซีแซนทีน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ

00:16:3200:16:34 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:16:3400:16:35 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของปอด

00:16:3500:16:39 หรือว่าช่วยลดเรื่องของความเสี่ยง ในการเกิดมะเร็งปอดได้ด้วยเช่นกันค่ะ

00:16:3900:16:44 กลุ่มถัดมาก็จะเป็นพวกของธัญพืช หรือว่าพวกถั่วเมล็ดแห้งนะคะ

00:16:4400:16:48 พวกนี้ก็จะมีวิตามินอีและมีซีลีเนียมเยอะขึ้น

00:16:4800:16:52 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของ สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเช่นเดียวกัน

00:16:5300:16:54 ในส่วนของเนื้อสัตว์เองนี่

00:16:5400:16:57 มันอาจจะไม่ได้มีเรื่องของ สารต้านอนุมูลอิสระหรืออะไร

00:16:5700:17:02 แต่ว่าเราแค่จะบอกว่า ถ้าสมมุติว่า เราต้องการจะลดการอักเสบในร่างกาย

00:17:0300:17:05 ให้ได้เรื่องของกรดไขมันที่ดี

00:17:0500:17:08 ไม่มีเรื่องของตัวไขมันอิ่มตัวเยอะ ๆ

00:17:0800:17:12 เราก็อาจจะเลือกในกลุ่มของปลา หรือว่าพวกอาหารทะเล

00:17:1200:17:16 กลุ่มนี้ก็จะเป็นทางเลือกที่ดี ในแง่ที่เราจะได้พวกของน้ำมันปลา

00:17:1600:17:18 แล้วก็จะช่วยลดเรื่องของการอักเสบ

00:17:1800:17:21 ในส่วนของเครื่องดื่มที่จะช่วยทำให้ มีแอนติออกซิแดนท์

00:17:2100:17:23 ก็อาจจะเป็นกลุ่มของชานะคะ

00:17:2400:17:29 พวกนี้นี่ก็อาจจะทำให้ได้รับพวกของ สารต้านอนุมูลอิสระร่วมด้วยค่ะ

00:17:2900:17:30 ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีนะคะ

00:17:3000:17:33 นอกเหนือจากน้ำเปล่า ก็อาจจะใช้เป็นพวกชาได้ค่ะ

00:17:3400:17:39 [เสียงดนตรี]

00:17:3900:17:42 อันสุดท้าย เราจะคุยกันในเรื่องของ

00:17:4200:17:45 เทคนิคที่จะดูแลสุขภาพปอดของเราให้แข็งแรง

00:17:4500:17:50 เริ่มต้นเลยก็คือ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้ปอดเราแย่ลง

00:17:5000:17:52 เหมือนที่เราคุยกัน

00:17:5200:17:54 ถ้าปอดเราเป็นเครื่องฟอกอากาศ

00:17:5400:17:57 เราจะไม่เอาเครื่องฟอกอากาศเรา ไปอยู่ในจุดที่มันมีฝุ่นควัน

00:17:5700:17:59 หรือว่าอันตรายเยอะ ๆ นะคะ

00:17:5900:18:02 ก็จะต้องอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท

00:18:0200:18:06 หรือว่าอยู่ในที่ที่มีสภาพแวดล้อม ที่ค่อนข้างดีนิดนึง

00:18:0600:18:08 ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ เราก็ควรจะต้องมีตัวช่วย

00:18:0800:18:11 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้หน้ากากอนามัย

00:18:1100:18:12 หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ค่ะ

00:18:1300:18:16 ทั้งเป็นคนสูบเอง และทั้งเป็นผู้สูบบุหรี่มือสอง

00:18:1600:18:19 อันนี้ก็จะเป็นพฤติกรรมที่จะทำร้ายปอดเรานะคะ

00:18:2000:18:22 ในเรื่องของอาหารที่จะช่วยป้องกัน

00:18:2200:18:24 หรือว่าช่วยเป็นประโยชน์กับปอด

00:18:2400:18:26 ส่วนใหญ่หลัก ๆ เลยนี่

00:18:2600:18:29 ก็จะเป็นกลุ่มที่จะมี พวกของสารต้านอนุมูลอิสระ

00:18:2900:18:34 มีวิตามินซีที่เยอะขึ้น วิตามินเอหรือเบตาแคโรทีนที่เยอะขึ้น

00:18:3400:18:36 แล้วก็อาจจะมีสารกลุ่มหนึ่งก็คือซีลีเนียม

00:18:3600:18:40 ซึ่งพวกนี้ก็จะช่วยทำให้ สุขภาพปอดของเราดีขึ้นนะคะ

00:18:4000:18:44 อาจจะไม่ใช่แค่สุขภาพปอด แต่เป็นสุขภาพโดยรวม

00:18:4400:18:46 แต่ภาพรวมตรงนี้ก็จะบอกว่า

00:18:4600:18:49 หลัก ๆ ก็คือเป็นอาหาร ที่มีเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระ

00:18:4900:18:51 วิตามินซีที่เพียงพอ

00:18:5100:18:54 วิตามินเอ เบตาแคโรทีน หรือว่าซีลีเนียมค่ะ

00:18:5400:18:57 นอกจากนี้นะคะ ก็จะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

00:18:5700:19:00 เพื่อช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้น

00:19:0100:19:04 จะมีเรื่องของการฝึกการหายใจเข้าออกลึก ๆ

00:19:0400:19:06 เพื่อจะให้ปอดขยายได้เต็มที่

00:19:0600:19:08 จะได้ไม่มีภาวะปอดแฟบ

00:19:0800:19:11 แล้วก็สุดท้ายก็คือ จะเป็นเรื่องของการออกกำลังกาย

00:19:1100:19:12 เวลาที่เราออกกำลังกาย

00:19:1200:19:14 ก็จะช่วยทำให้มีการสูบฉีดของเลือดที่ดีขึ้น

00:19:1400:19:16 มีกันแลกเปลี่ยนก๊าซที่ดีขึ้น

00:19:1700:19:21 ที่สำคัญค่ะ เราควรจะต้องออกกำลังกาย ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท

00:19:2100:19:22 เวลาที่เราจะออกกำลังกายนะคะ

00:19:2200:19:27 เราก็ควรจะเลือกสถานที่ที่ออกกำลังกาย ให้มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก

00:19:2700:19:29 เช่น อาจจะไปตามสวนสาธารณะ

00:19:2900:19:31 หรือว่าถ้าสมมุติว่าเราจะเข้าไปอยู่ในยิมนี่

00:19:3100:19:32 ก็ไม่ควรจะแออัดจนเกินไป

00:19:3200:19:34 ที่สำคัญเราก็ต้องแน่ใจนิดนึง

00:19:3400:19:38 ว่าในยิมที่เราไป จะต้องไม่มีใครที่มีโรคติดต่อ

00:19:3800:19:41 ที่มีการแพร่กระจายในเรื่องของทางเดินหายใจ

00:19:4100:19:43 แล้วก็คงไม่เหมาะด้วย บอกว่าถ้าเราออกกำลังกายในยิม

00:19:4400:19:46 แล้วเราต้องมานั่งใส่แมสก์

00:19:4600:19:48 หรือว่าใส่เรื่องของหน้ากากอนามัย

00:19:4800:19:51 เพราะว่ามันจะทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซแย่ลง

00:19:5100:19:54 การที่จะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ มันคั่งขึ้นเนอะ

00:19:5400:19:57 เพราะฉะนั้น ก็อาจจะต้องเลือกสถานที่นิดนึง ในแง่ของการออกกำลังกาย

00:19:5800:20:01 แต่ว่าการออกกำลังกาย ก็จะช่วยทำให้สุขภาพปอดเราดีขึ้นค่ะ

00:20:0100:20:04 แล้วก็สุดท้ายนะคะ จริง ๆ เราก็จะแนะนำว่า

00:20:0400:20:08 ควรจะต้องจิบน้ำบ่อย ๆ หรือว่ากินน้ำเยอะ ๆ นิดนึง

00:20:0800:20:09 โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ค่ะ

00:20:1000:20:12 ในผู้สูงอายุ หลาย ๆ ครั้งนี่

00:20:1200:20:15 ก็จะมีปัญหาในเรื่องของการจัดการกับเสมหะ

00:20:1500:20:18 เขาจะไม่มีแรงไอนะคะ

00:20:1800:20:21 อาจจะเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง หรืออะไรก็ตาม

00:20:2100:20:24 ตรงนี้นี่ ถ้าสมมุติว่า อยู่ในภาวะแห้งหรือขาดน้ำ

00:20:2400:20:29 ก็จะทำให้เขาไม่สามารถที่จะเคลียร์ หรือว่าจัดการกับเสมหะได้

00:20:2900:20:31 โอกาสที่จะสำลักอะไรก็มีด้วย

00:20:3100:20:34 เพราะฉะนั้น ถ้าเขาไอไม่ออก

00:20:3400:20:36 เอาเสมหะออกมาไม่ได้นะคะ

00:20:3600:20:38 เราก็ต้องให้เขาดื่มน้ำให้เยอะขึ้นนิดนึง

00:20:3800:20:42 เพื่อจะช่วยทำให้เสมหะมันนุ่ม มันไม่เหนียวมากเกินไป

00:20:4200:20:44 แล้วก็สามารถที่จะไอออกมาได้นะคะ

00:20:4400:20:46 จริง ๆ การดื่มน้ำให้เพียงพอ

00:20:4600:20:51 อันนี้ก็จะมีคุณสมบัติหรือว่ามีความสำคัญ ดีพอ ๆ กับการใช้ยาละลายเสมหะเลยค่ะ

00:20:5100:20:57 [เสียงดนตรี]

00:20:5700:20:59 พูดมาวันนี้ค่ะ เนื้อหามันแน่นมาก

00:20:5900:21:04 หลัก ๆ ก็คือว่าปอดมีหน้าที่ แลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน

00:21:0400:21:06 เพราะฉะนั้นนี่ เริ่มต้นเลย

00:21:0600:21:11 ไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่จะทำให้ การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนเราแย่ลง

00:21:1100:21:12 ไม่สูบบุหรี่

00:21:1200:21:14 ไม่อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี

00:21:1400:21:16 ไม่มีควันพิษนะคะ

00:21:1600:21:21 ถ้าเราเลี่ยงไม่ได้ เราก็ควรจะต้องใส่แมสก์ ใส่หน้ากากอนามัยนะคะ

00:21:2100:21:24 คำถามต่อไปว่า เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไหม

00:21:2400:21:25 อันนี้ขึ้นกับแต่ละบ้านเลย

00:21:2500:21:28 มันเป็นแค่ Option หรือมันเป็นแค่ทางเลือกทางหนึ่ง

00:21:2800:21:33 ที่จะช่วยทำให้เราอยู่ในจุดที่ มีอากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น

00:21:3300:21:37 แล้วก็ฟอก ช่วยเราฟอกอากาศภายนอกนะคะ

00:21:3700:21:39 ในส่วนของภายในก็คือป้องกันตัวเอง

00:21:3900:21:42 ก็คือสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงนะคะ

00:21:4200:21:44 ในเรื่องของการเลือกอาหารนี่

00:21:4400:21:48 ก็ควรจะต้องเลือกอาหารที่มีเรื่องของ กินอาหารให้หลากหลาย

00:21:4800:21:49 พักผ่อนให้เพียงพอ

00:21:4900:21:50 ออกกำลังกาย

00:21:5000:21:53 เพื่อจะช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ดี

00:21:5400:21:55 แล้วก็การเลือกอาหารนี่

00:21:5500:22:00 หลัก ๆ เราก็จะให้กินพวกที่เป็นพวกของ สารต้านอนุมูลอิสระ

00:22:0000:22:05 มีวิตามินซี วิตามินเอ เบตาแคโรทีน แล้วก็ซีลีเนียมสูงนะคะ

00:22:0500:22:11 อันนี้ก็จะเป็นหลัก ๆ ในแง่ของ การที่จะช่วยในเรื่องของการดูแลสุขภาพปอด

00:22:1100:22:16 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:22:1600:22:18 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:22:1800:22:20 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:22:2000:22:23 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:22:2300:22:24 YouTube Mahidol Channel

00:22:2500:22:26 Apple Podcasts

00:22:2600:22:27 Spotify

00:22:2700:22:28 Anchor

00:22:2800:22:29 Joox

00:22:2900:22:35 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:22:3500:22:38 [เสียงดนตรี]

00:22:3800:22:42 Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้