00:00:00 → 00:00:00 โน้ท
00:00:00 → 00:00:02 [เพลง]
00:00:02 → 00:00:06 โน้ท
00:00:06 → 00:00:08 ม.ค
00:00:14 → 00:00:14 โน้ท
00:00:14 → 00:00:20 [เพลง]
00:00:20 → 00:00:24 มีฐานทุเรียนเสียงมะเร็งจริงเหรอนะครับ
00:00:24 → 00:00:28 แล้วช่วงที่ทุเรียนกำลังออกอย่างนี้เราจะ
00:00:28 → 00:00:32 ทำยังไงนะครับเดี๋ยวมาฟังคำตอบของครับ
00:00:32 → 00:00:34 ม.ค
00:00:34 → 00:00:36 ป.ล
00:00:36 → 00:00:41 ม.คม.ค
00:00:41 → 00:00:44 โน้ท
00:00:44 → 00:00:46 ม.ค
00:00:46 → 00:00:49 ก็สวัสดีครับรู้สู้มาเล่นกับผมนะครับ
00:00:49 → 00:00:53 สำหรับในช่วงนี้นะครับเป็นช่วงที่ผลไม้
00:00:53 → 00:00:57 กำลังออกสู่ตลาดปริมาณมากนะครับซึ่งผลไม้
00:00:57 → 00:00:59 อย่างหนึ่งที่ทุกคนชื่นชอบนะครับผมชื่อคน
00:00:59 → 00:01:02 ไทยชื่นชอบเกินกว่าครึ่งนะครับก็คือ
00:01:02 → 00:01:06 เรื่องของทุเรียนครับนะเพราะว่าทุเรียนใน
00:01:06 → 00:01:09 เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหอมหวานนะครับเวลา
00:01:09 → 00:01:12 กินแล้วมันจะเหมือนกับ
00:01:12 → 00:01:15 ผู้บรรยายไม่ถูกอร่อยอ่ะพูดง่ายๆนะครับ
00:01:15 → 00:01:19 แต่ถ้าใครนะครับที่ไม่ได้ชื่นชอบทุเรียน
00:01:19 → 00:01:22 อยู่แล้วนะครับถ้าสามารถปิดคลิปนี้ไปได้
00:01:22 → 00:01:25 เลยนะครับก่อนอื่นมาพูดถึงเรื่องของความ
00:01:25 → 00:01:28 เชื่อนะครับเรื่องว่าทำไมกินทุเรียนแล้ว
00:01:28 → 00:01:31 ถึงเสี่ยงกับมะเร็งนะครับผมพยายามจะหาข้อ
00:01:31 → 00:01:34 มูลนะคะพยายามจะสืบค้นรู้ว่าเป็นความ
00:01:34 → 00:01:36 เชื่อนี่มันมาอย่างไรนะครับแต่ต้องบอกว่า
00:01:36 → 00:01:40 ไม่สามารถหาแหล่งที่มาที่ไปได้อย่างชัด
00:01:40 → 00:01:43 เจนนะครับแต่พยายามที่จะประมวลมาให้นะ
00:01:43 → 00:01:47 ครับก็คืออันที่ 1 นะครับเชื้อเนื่องจาก
00:01:47 → 00:01:51 ว่ามีการบอกต่อจากคนโบร่ำโบราณมานะครับ
00:01:51 → 00:01:55 เส้นตรงนี้ก็ก็ไม่มีข้อพิสูจน์ไม่มีการ
00:01:55 → 00:01:57 อ้างอิงอะไรทั้งสิ้นเป็นการส่งต่อกันแบบ
00:01:57 → 00:02:02 ปากต่อปากนะครับส่วนอันที่ 2 นะครับอาจจะ
00:02:02 → 00:02:05 พอดูมีเหตุผลขึ้นมาบ้างนะครับดูเหมือนมี
00:02:05 → 00:02:09 ตรรกะขึ้นมาบ้างนะครับก็คือบอกว่าการทาน
00:02:09 → 00:02:12 ทุเรียนทำให้ร่างกายเป็นกรดนะครับเออแล้ว
00:02:12 → 00:02:15 ไอ้ภาวะกรดเมียทำให้เซลล์มะเร็งมาเติบโต
00:02:15 → 00:02:18 เร็วนะครับซึ่งผมบอกเลยว่าไอ้เรื่องกดด่า
00:02:18 → 00:02:23 เนี่ยเลิกเชื่อกันได้แล้วนะมันไม่จริงเลย
00:02:23 → 00:02:28 นะครับก็นั้นถึงจะดูมีตรรกะนะครับแต่ไร้
00:02:28 → 00:02:32 ซึ่งเหตุผลไร้ซึ่งหลักฐานสนับสนุนเพราะ
00:02:32 → 00:02:35 ฉะนั้นเลิกเชื่อได้แล้วนะครับส่วนอันที่
00:02:35 → 00:02:39 สามนะครับอันที่สามอาจจะเป็นความเชื่อที่
00:02:39 → 00:02:43 ดูเพราะมีเหตุผลนิดนึงนะครับก็คือเนื่อง
00:02:43 → 00:02:46 จากว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่พลังงานสูงเรา
00:02:46 → 00:02:49 ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:02:49 → 00:02:53 การที่จะจัดว่าทุเรียนเป็นผลไม้เพื่อ
00:02:53 → 00:02:56 สุขภาพนั้นก็คงจะจัดอยู่ในกลุ่มนั้นไม่
00:02:56 → 00:02:58 ได้ไม่เหมือนกับผลไม้หลายๆอย่างที่เราทาน
00:02:58 → 00:03:01 แล้วเพื่อสุขภาพนะครับถึงแม้จะมีน้ำตาล
00:03:01 → 00:03:06 บ้างแต่ทุเรียนนั้นมีปริมาณของน้ำตาลค่อน
00:03:06 → 00:03:09 ข้างมากมีพลังงานส่วนเกินค่อนข้างเยอะนะ
00:03:09 → 00:03:12 ครับหลังนั้นจึงเป็นความเชื่อว่า 5 อ่า
00:03:12 → 00:03:16 เพื่อไม่ให้เราเกิดภาวะน้ำหนักเกินภาวะ
00:03:16 → 00:03:19 อ้วนอย่างนี้นะครับสำหรับคำถามแรกนะครับ
00:03:20 → 00:03:23 ทุเรียนเสี่ยงมะเร็งหรือเปล่านะครับก็
00:03:23 → 00:03:26 ต้องตอบว่าจริงๆทุเรียนนั้นท่านได้ไม่
00:03:26 → 00:03:28 เสี่ยงกับมะเร็งครับ
00:03:28 → 00:03:31 มีหลายๆคนอาจจะแอบดีใจใช่ไหมครับว่าท่า
00:03:31 → 00:03:34 นี้ก็จัดเต็มเลยได้ใช่ไหมครับไม่ใช่นะ
00:03:34 → 00:03:38 ครับผมนำข้อมูลนะครับเรื่องเกี่ยวกับ
00:03:38 → 00:03:41 ปริมาณสารอาหารขึ้นได้จากกรมอนามัยนะครับ
00:03:41 → 00:03:44 เป็นปริมาณต่อ 100 กรัมของเนื้อทุเรียนนะ
00:03:44 → 00:03:48 ครับจะพบว่าในปริมาณของทุเรียน 100 กรัม
00:03:48 → 00:03:51 นั้นมีส่วนของคาโบไฮเดรตนะครับซึ่งประกอบ
00:03:51 → 00:03:55 ด้วยแป้งและน้ำตาลเนี่ยประมาณ 30% นะครับ
00:03:55 → 00:03:59 แล้วยังมีส่วนของไขมันอีกด้วยประมาณ 3-4
00:03:59 → 00:04:01 เปอร์เซ็นต์กว่านะครับเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:04:01 → 00:04:06 ถือว่าทุเรียนให้พลังงานสูงมากนะครับดัง
00:04:06 → 00:04:08 นั้นเนี่ยการที่เรารับประทานทุเรียนใน
00:04:08 → 00:04:13 ปริมาณมากๆนะครับทานเป็นประจำจะทำให้เรา
00:04:13 → 00:04:17 มีภาวะน้ำหนักเกินจะทำให้เรามีภาวะอ้วนนะ
00:04:17 → 00:04:19 ครับเพราะฉะนั้นเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว
00:04:19 → 00:04:21 ภาวะอ้วนกับภาวะน้ำหนักเกินอย่างที่ผมเคย
00:04:21 → 00:04:23 บอกไว้แล้วว่ามันมีความเสี่ยงก็เรื่องของ
00:04:23 → 00:04:27 โรคมะเร็งซึ่งอันนี้คือผลทางอ้อมนะครับ
00:04:27 → 00:04:31 ไม่ใช่ผลทางตรงมีตัวทุเรียนนะครับก็นั้น
00:04:31 → 00:04:34 ตรงนี้เนี่ยถ้าสมมุติว่าใครสนใจเรื่อง
00:04:34 → 00:04:35 เกี่ยวกับ
00:04:35 → 00:04:38 มีภาวะอ้วนแล้วเรื่องเกี่ยวกับโรคมะเร็ง
00:04:38 → 00:04:40 นะครับก็สามารถไปดูในคลิปที่ผมเคยทำไว้
00:04:40 → 00:04:44 แล้วก่อนหน้านี้ในคลิปชื่ออยู่อย่างไร
00:04:44 → 00:04:46 ห่างไกลมะเร็งนะครับก็ไปดูย้อนหลังในคลิป
00:04:46 → 00:04:48 YouTube หมอหมูสู้มะเร็งได้นะครับทีนี้
00:04:48 → 00:04:51 เมื่อกี้ข้อมูลเนี่ยเป็นปริมาณต่อ 100
00:04:51 → 00:04:54 กรัมนะครับที่นี่เพื่อจะให้ง่ายกว่านั้น
00:04:54 → 00:04:57 เพื่อใช้คำนวณบางคนบอก 100 กรัมยากนะบาง
00:04:57 → 00:05:01 ทีก็ต้องชั่งน่ะเอาเป็นปริมาณเข้าๆนะครับ
00:05:01 → 00:05:04 กรมอนามัยได้ให้ข้อมูลบอกว่าว่าสำหรับ
00:05:04 → 00:05:09 ทุเรียนเนี่ยประมาณสี่ถึงหกเม็ดนะครับจะ
00:05:09 → 00:05:11 ให้แคลอรี่เนี่ยประมาณ
00:05:11 → 00:05:17 520 ถึง 780 กิโลแคลอรีซึ่งเทียบเท่ากับ
00:05:17 → 00:05:20 ปริมาณของข้าว 2 มื้อนะครับเพราะฉะนั้น
00:05:20 → 00:05:26 เนี่ยถ้าใครทานทุเรียนนะครับวันละสี่ถึง
00:05:26 → 00:05:29 หกเม็ดเท่ากับท่านทานข้าวเพิ่มขึ้นอีก 2
00:05:29 → 00:05:33 มื้อนะครับก็นั้นจะได้ปริมาณพลังงานที่
00:05:33 → 00:05:37 มากเกิดนะครับว่าแต่ละคนอาจจะบอกว่าของ
00:05:37 → 00:05:40 ฉันหน่วยไม่ได้เป็นเม็ดของฉันหนวดเป็น
00:05:40 → 00:05:43 พูห์ของฉันหน่อยเป็นลูกอันนั้นยิ่งหนัก
00:05:43 → 00:05:46 เข้าไปอีกนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเบาๆก็
00:05:46 → 00:05:49 ได้นะครับเบาได้บ้างนะครับที่นี่มันก็ที่
00:05:49 → 00:05:53 2 นะครับก็ได้ 2 คือของที่ต้องห้ามไม่
00:05:53 → 00:05:56 ให้ทานกับทุเรียนนะครับอันแรกเลยนะครับ
00:05:56 → 00:06:00 ชัดเจนที่สุดเลยห้ามทานทุเรียนกับอัลกอ
00:06:00 → 00:06:04 ฮอล์ครับมีคำอธิบายดังนี้นะครับก็คือว่า
00:06:04 → 00:06:07 ในทุเรียนเนี่ยจะมีสายพันธุ์เฟอหรือ
00:06:07 → 00:06:09 กำมะถันนะครับขึ้นทำให้ทุเรียนมีกลิ่น
00:06:09 → 00:06:11 เฉพาะตัวซึ่งตรงนี้เมื่อทานคู่กับ
00:06:11 → 00:06:15 แอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายเนี่ยดูดซึมกลับ
00:06:15 → 00:06:18 มาทันซึ่งละลายได้ดีในอัลกอฮอล์นะครับ
00:06:18 → 00:06:21 แล้วเมื่อเข้าสู่กระแสเลือดนั้นจะไปยับ
00:06:21 → 00:06:25 ยั้งเอ็มไซม์ตัวนึงในตับเนื่องจากเราต้อง
00:06:25 → 00:06:28 ทำลายตัวของแอลกอฮอล์เนี่ยให้มาจากสารที่
00:06:28 → 00:06:30 มีพิษเนี่ยให้มาเป็นสารที่ไม่มีพิษแล้ว
00:06:30 → 00:06:33 ขับออกไปจากร่างกายไม่อย่างนั้นเนี่ยมัน
00:06:33 → 00:06:37 จะเกิดภาวะข้างนะน้ำผึ้งกำมะถันตรงนี้ไป
00:06:37 → 00:06:40 ยับยั้งเอ็มไซม์ตัวที่จะเปลี่ยนจาก
00:06:40 → 00:06:43 แอลกอฮอล์สลายมันให้กลายเป็นสารที่ไม่มี
00:06:43 → 00:06:46 พิษแล้วขับออกจากร่างกายดังนั้นเนี่ยถ้า
00:06:46 → 00:06:49 เรากินเข้าไปคู่กันเนี่ยจะทำให้เราเอา
00:06:49 → 00:06:52 เร็วขึ้นนะครับก็จะมีการมึนหัวเวียนหัว
00:06:52 → 00:06:56 ตาลายหน้าแดงนะครับหายใจติดขัดจนกระทั่ง
00:06:56 → 00:06:59 ถึงเสียชีวิตนะครับซึ่งเมื่อต้นเดือน
00:06:59 → 00:07:03 พฤษภาที่ผ่านมาก็เพิ่งมีข่าวนะอย่างที่ผม
00:07:03 → 00:07:07 โชว์ในรูปนะครับก็คือข่าวเสียชีวิตจากการ
00:07:07 → 00:07:10 ทานทุเรียนพร้อมกับแอลกอฮอล์นะครับสำหรับ
00:07:10 → 00:07:13 ต่อมานะครับเป็นเรื่องที่
00:07:13 → 00:07:16 ก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามกับตัวทุเรียนคือทาน
00:07:16 → 00:07:19 คู่กันได้แต่ว่าแนะนำว่าให้เด็กเลี่ยงนะ
00:07:19 → 00:07:23 ครับอันนี้ก็คือการที่เราบริโภคเครื่อง
00:07:23 → 00:07:26 ดื่มหรืออาหารหรือผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาล
00:07:26 → 00:07:29 สูงเนื่องจากตัวทุเรียนก็มีปริมาณของน้ำ
00:07:29 → 00:07:32 ตาลส่งยังที่ผมได้ได้บอกไปแล้วนะครับแล้ว
00:07:33 → 00:07:37 เมื่อเราทานคู่กับเครื่องดื่มหรืออาหาร
00:07:37 → 00:07:41 บางประเภทนะครับที่มีปริมาณน้ำตาลสูงนะ
00:07:41 → 00:07:44 ครับอย่างเช่นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอย่าง
00:07:44 → 00:07:47 เช่นน้ำหวานน้ำอัดลมนะครับหรือแม้แต่ของ
00:07:47 → 00:07:49 ชอบที่เราทานกันอย่างเช่นข้าวเหนียว
00:07:49 → 00:07:51 ทุเรียนนะครับท่านก็จะได้ปริมาณของ
00:07:51 → 00:07:54 คาร์โบไฮเดรตเพิ่มเติมเข้ามาเนื่องจาก
00:07:54 → 00:07:56 ทุเรียนก็สูงอยู่แล้วก็ยังได้
00:07:56 → 00:07:58 คาร์โบไฮเดรตจากส่วนของข้าวเหนียวอีกและ
00:07:58 → 00:08:01 ยังรวมทั้งน้ำกะทิด้วยก็จะได้ปริมาณของไข
00:08:01 → 00:08:03 มันเพิ่มมากขึ้นก็เป็นอีกนะครับเพราะ
00:08:03 → 00:08:06 ฉะนั้นเนี่ยถ้าท่านจะบริโภคควรจะต้อง
00:08:06 → 00:08:10 ปริมาณน้อยลงนะครับถ้าเป็นไปได้ก็คืออย่า
00:08:10 → 00:08:13 ไปทานร่วมกันมันจะทำให้ร่างกายมีทั้งงาน
00:08:13 → 00:08:16 ส่วนเกินมากนะครับสำหรับคนทั่วไปที่ไม่
00:08:16 → 00:08:19 ได้เป็นโรคนะครับไม่มีโรคประจำตัวนะครับ
00:08:19 → 00:08:22 แนะนำให้ทานได้อย่างไรนะครับทุเรียนก็เอา
00:08:22 → 00:08:24 ง่ายๆนะครับข้อมูลจากกรมอนามัยกระทรวง
00:08:24 → 00:08:28 สาธารณสุขนะครับแนะนำว่าให้ท่าเนี่ยทาน
00:08:28 → 00:08:31 ทุเรียนไม่เกินวันละ 2 เม็ดนะครับแล้วก็
00:08:31 → 00:08:36 ต้องแนะนำให้ท่านอย่าทานทุกวันนะครับแล้ว
00:08:36 → 00:08:41 ก็มันออกกำลังกายนะครับแล้วก็ก็ควบคุมนะ
00:08:41 → 00:08:43 ครับน้ำหนักด้วยนะครับสำหรับช่วงนี้นะ
00:08:43 → 00:08:47 ครับสำหรับโรคที่อาจจะมีความเชื่อมโยงนะ
00:08:47 → 00:08:49 ครับแล้วก็ทำให้เราต้องระมัดระวังเรื่อง
00:08:49 → 00:08:50 เกี่ยวกันทางทุเรียนนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:08:50 → 00:08:53 โรคเบาหวานอันนี้ทราบอยู่แล้วเพราะว่า
00:08:53 → 00:08:57 ปริมาณน้ำตาลสูงมากนะครับถ้าสั้นทานเยอะ
00:08:57 → 00:08:59 เนี่ยทำให้ปริมาณน้ำตาลสูงแน่นอนนะครับ
00:08:59 → 00:09:04 เรื่องของโลกใจนะครับหลอดเลือดสมองความ
00:09:04 → 00:09:09 ดันสูงนะครับแล้วก็รวมทั้งโรคไตด้วยโรคไต
00:09:09 → 00:09:11 ในทำไมถึงห้ามเพราะว่าในทุเรียนมี
00:09:11 → 00:09:14 โปแตสเซียมค่อนข้างสูงนี้นะครับประมาณสี่
00:09:14 → 00:09:17 ร้อยกว่า mg นะครับหรือคิดเป็นประมาณ 9%
00:09:17 → 00:09:20 ของที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวันนะครับ
00:09:20 → 00:09:23 ถ้าท่านทานปริมาณมากท่านก็จะได้รับ
00:09:23 → 00:09:26 โพแทสเซียมเข้าไปเยอะนะครับบางคนที่ไปมี
00:09:26 → 00:09:30 ปัญหาหรือต้องฟอกไตอยู่ก็จะทำให้ท่าน
00:09:30 → 00:09:33 เนี่ยมีของเสียข้างๆเยอะขึ้นนะครับเพราะ
00:09:33 → 00:09:35 ฉะนั้นเนี่ยก็ต้องระมัดระวังนะครับสำหรับ
00:09:35 → 00:09:38 คนที่มีโรคประจำตัวอย่างนี้นะครับก็อาจจะ
00:09:38 → 00:09:41 ทานได้แต่ต้องปริมาณจำกัดนะครับทานแค่
00:09:41 → 00:09:44 เพียงพอหายากเท่านั้นเองนะคะก็สำหรับคลิป
00:09:44 → 00:09:47 นี้ผมเชื่อว่าคงจะตอบคำถามของหลายๆคนได้
00:09:47 → 00:09:51 แล้วนะครับว่าสามารถทานได้ไหมนะครับแล้ว
00:09:51 → 00:09:55 ถ้าทานต้องทางปริมาณเท่าไหร่นะครับแล้วก็
00:09:55 → 00:09:59 โลกอะไรต้องระวังบ้างนะครับแล้วก็มีอะไร
00:09:59 → 00:10:01 ที่ไม่ควรทานร่วมกันนะครับเพราะฉะนั้น
00:10:02 → 00:10:05 เนี่ยผมว่าวันนี้เนื้อหาสาระก็ได้ครบถ้วน
00:10:05 → 00:10:08 ดีแล้วนะครับก็อย่าลืมนะครับสำหรับคนที่
00:10:08 → 00:10:12 สนใจชื่นชอบเรื่องเกี่ยวกับคลิปให้ความ
00:10:12 → 00:10:15 รู้เกี่ยวกับนี้นะครับท่านสามารถติดตาม
00:10:15 → 00:10:18 ได้นะครับในเพจหมูสู้มะเร็ง YouTube มา
00:10:18 → 00:10:20 มุ่งสู่มะเร็งนะครับหรือ LINE official
00:10:20 → 00:10:23 ที่เห็นใน QR Code ข้างล่างนะครับก็แสกน
00:10:23 → 00:10:26 QR Code ได้เลยนะครับแล้วก็ตอนนี้มี
00:10:26 → 00:10:29 ติ๊กต๊อกด้วยนะครับก็สามารถไปดูได้นะครับ
00:10:29 → 00:10:32 ก็อย่างที่เห็นด้านล่างนี้นะครับก็ท่าน
00:10:32 → 00:10:36 สามารถเข้าไปรับชมนะครับพูดคุยให้กำลังใจ
00:10:36 → 00:10:39 นะครับแล้วก็ท่านสามารถที่จะแชร์ข้อมูล
00:10:39 → 00:10:42 นี้ให้เป็นความรู้สำหรับคนอื่นที่อาจจะ
00:10:42 → 00:10:45 สงสัยเหมือนกับท่านแต่ไม่มีโอกาสได้เข้า
00:10:45 → 00:10:48 มาดูนะครับได้เรียนรู้ไปด้วยกันนะครับก็
00:10:48 → 00:10:51 สำหรับวันนี้ผมคงต้องขอลาไปก่อนนะครับ
00:10:51 → 00:10:57 แล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้านะครับสวัสดีครับ