00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้
00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:08 >> สวัสดีครับยินดีต้อนรับเข้าสู่ The DX
00:00:08 → 00:00:11 Explorer นะครับวันนี้เราจะมาเจาะลึกกัน
00:00:11 → 00:00:13 ในเรื่องที่หลายคนอาจจะกำลังสงสัยอยู่
00:00:14 → 00:00:16 ทำไมไทรอยด์ของเรามันรู้สึกเฉยๆช้าๆจัง
00:00:16 → 00:00:19 เลยเรามาหาคำตอบกันครับเคยเจอปัญหานี้กัน
00:00:19 → 00:00:22 มั้ครับคือเราก็พยายามกินดีมากเลยนะกิน
00:00:22 → 00:00:27 คลีนบางคนกินคีโตโลคแฟชแต่ทำไมทำไมน้ำ
00:00:27 → 00:00:30 หนักมันนิ่งสนิทแถมยังเพลียๆเหนื่อยง่าย
00:00:30 → 00:00:33 อีกต่างหากถ้าอาการนี้มันใช่คุณเลยคุณไม่
00:00:33 → 00:00:36 ได้เป็นคนเดียวนะครับคำตอบของเรื่องทั้ง
00:00:36 → 00:00:39 หมดนี้อาจจะซ่อนอยู่ที่ต่อมไทรรอยด์ของ
00:00:39 → 00:00:41 เรานี่เองลองนึกภาพตามกันง่ายๆเลยนะครับ
00:00:41 → 00:00:44 ว่าต่อมไทรอยด์ของเราเนี่ยก็เหมือนกับ
00:00:44 → 00:00:46 เครื่องยนต์หลักของร่างกายเลยเป็นเหมือน
00:00:46 → 00:00:49 เตาเผาพลังงานที่มองไม่เห็นแต่มันคุมทุก
00:00:49 → 00:00:52 อย่างตั้งแต่การเผาพรานไข้มันไปจนถึง
00:00:52 → 00:00:54 ระดับพลังงานในแต่ละวันของเราเลยล่ะครับ
00:00:54 → 00:00:57 ทีนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดๆนะครับลอง
00:00:57 → 00:01:00 จินตนาการว่าฮอร์โมนตัวสำคัญๆคัญในร่าง
00:01:00 → 00:01:02 กายเราเนี่ยเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน
00:01:02 → 00:01:06 เลยพวกเขาไม่ได้ทำงานแบบตัวใครตัวมันนะ
00:01:06 → 00:01:10 ครับแต่จะส่งผลกระทบถึงกันตลอดเวลาเหมือน
00:01:10 → 00:01:12 คนในบ้านเดียวกันนั่นแหละครับคนแรกเลย
00:01:12 → 00:01:15 อินซูลินให้เขาเป็นคุณพ่อที่ค่อนข้างดุ
00:01:15 → 00:01:17 และเจ้าระเบียบหน่อยะกันเวลาที่คุณพ่อ
00:01:17 → 00:01:20 อารมณ์ดีทุกอย่างก็ราบรื่นแต่เมื่อไหร่ก็
00:01:20 → 00:01:22 ตามที่ระดับอินซูลินมันพุ้งปรี๊ดขึ้นมา
00:01:22 → 00:01:25 เร็วเกินไปบรรยากาศในบ้านก็จะปั่นป่วนตึง
00:01:26 → 00:01:28 เครียดขึ้นมาทันทีเลยครับต่อมาก็คือ
00:01:28 → 00:01:31 คอร์ติติซอเปรียบเหมือนเป็นคุณแม่ที่ขี้
00:01:31 → 00:01:35 กังวลหน่อยเป็นคุณแม่จอมเครียดของบ้านเลย
00:01:35 → 00:01:37 พอคุณแม่เริ่มเครียดเมื่อไหร่ความกังวล
00:01:37 → 00:01:39 ของเธอนี่แหละครับที่จะแผ่ซ่านไปทั่วบ้าน
00:01:39 → 00:01:42 ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจตื่นตัวอยู่
00:01:42 → 00:01:46 ตลอดเวลาและนี่ครับตัวละครเอกของเราต่อม
00:01:46 → 00:01:49 ไทรรอยด์เขาก็คือลูกคนกลางที่ sensitive
00:01:49 → 00:01:53 มากๆออนไวทง่ายสุดๆในบ้านหลังนี้เลยเขาจะ
00:01:53 → 00:01:55 รับรู้ถึงอารมณ์ของคุณพ่อคุณแม่หรือก็คือ
00:01:55 → 00:01:58 อินซูลินกับคอร์ติซอลได้เร็วกว่าใคร
00:01:58 → 00:02:01 เพื่อนโดยเฉพาะคุณพ่ออินซูลินเนี่ยเค้า
00:02:01 → 00:02:04 รักพ่อนะครับแต่เค้าต้องการคุณพ่อที่ใจดี
00:02:04 → 00:02:07 สุขุมค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่คุณพ่อที่
00:02:07 → 00:02:10 อารมณ์แปรปรวนครับเอาล่ะครับพอเรารู้จัก
00:02:10 → 00:02:12 ครอบครัวฮอร์โมนแล้วทีนี้เรามาดูกันดี
00:02:12 → 00:02:16 กว่าว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้กอกวนหรือ 5
00:02:16 → 00:02:19 ตัวการหลักที่คอยมารังแกลูกคนกลางที่แสน
00:02:19 → 00:02:22 จะอ่อนไวของเรากันบ้างผู้ก่อกวนทั้ง 5
00:02:22 → 00:02:25 อย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องบังเกินะครับมัน
00:02:25 → 00:02:28 เชื่อมกันเป็นลูกโซ่เลยมันเริ่มจากการที่
00:02:28 → 00:02:31 เราอาจจะขาดสารอาหารบางอย่างจนถึงการได้
00:02:31 → 00:02:34 รับสารพิษรอบตัวเราความเครียดจากการกิน
00:02:34 → 00:02:37 ผิดซึ่งนำไปสู่ระบบภูมิคุ้มกันที่แปรปรวน
00:02:37 → 00:02:41 และปลายทางของมันก็คือภาวะลำไส้ร่วนนั่น
00:02:41 → 00:02:43 เองครับสัมพันธ์นั้นนี่คือจำนวนคนทั่วโลก
00:02:43 → 00:02:46 เลยนะครับที่กำลังขาดไอโอดีนซึ่งมันคือ
00:02:46 → 00:02:48 วัตถุดิบที่สำคัญที่สุดในการสร้างฮอร์โมน
00:02:48 → 00:02:51 ไทรรอยด์เลยการขาดไอโอดีนเนี่ยเป็นสาเหตุ
00:02:51 → 00:02:54 หลักๆของโรคคอพอกแล้วมันก็มักจะมาเป็น
00:02:54 → 00:02:57 แพ็คคู่กับการขาดซีลิเนียมกับสังกสีด้วย
00:02:57 → 00:02:58 ซึ่ง 2 ตัวนี้ก็จำเป็นกับการทำงานของ
00:02:59 → 00:03:01 ไทรอยด์เหมือนกันค่ะแต่ที่มันน่ากลัวไป
00:03:01 → 00:03:04 กว่านั้นก็คือสารพิษที่เราเจอทุกวันอย่าง
00:03:04 → 00:03:07 flลัวไรในน้ำประปาหรือสารเคลือบบนกระทะ
00:03:07 → 00:03:10 เทฟลอนที่มันลอกออกมาเนี่ยมันสามารถเข้า
00:03:10 → 00:03:13 ไปบล็อกไม่ให้ไอโอดีนเข้าโรงงานผลิต
00:03:13 → 00:03:16 ฮอร์โมนได้คือโครงสร้างมันดันคล้ายกันน่ะ
00:03:16 → 00:03:20 ครับมันเลยเหมือนมีตัวปลอมหน้าเหมือนมา
00:03:20 → 00:03:23 แย่งเก้าอี้ของไอโอดีนไปดื้อๆเลยทำให้
00:03:23 → 00:03:26 ร่างกายเรามีไอโอดีนแต่ใช้ไม่ได้ทีนี้มา
00:03:26 → 00:03:28 ดูเรื่องใกล้ตัวที่สุดกันบ้างครับนั่นก็
00:03:28 → 00:03:31 คือเรื่องอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญ
00:03:31 → 00:03:34 เลยที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายและนำ
00:03:34 → 00:03:37 ไปสู่ภาวะลำไส้รั่วที่ส่งผลกระทบโดยตรง
00:03:37 → 00:03:40 กับไทรรอยด์ของเราเลยครับถ้าจะให้ลิสพูด
00:03:40 → 00:03:43 ต้องสงสัยตัวท็อปเลยนะครับก็จะมีอยู่ 3
00:03:43 → 00:03:45 กลุ่มหลักๆที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษเลยก็
00:03:45 → 00:03:49 คือกลูเตนที่อยู่ในพวกข้าวซาลีขนมปังต่าง
00:03:49 → 00:03:54 ๆเคซีนในนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมบัวและก็
00:03:54 → 00:03:56 ถั่วเหลืองครับอาหารกลุ่มนี้แหละครับที่
00:03:56 → 00:04:00 มักจะไปกระตุ้นการอักเสบจนทำให้ผนังลำไส้
00:04:00 → 00:04:03 ของเราเกิดรูรั่วขึ้นมาได้และนี่คือข้อ
00:04:03 → 00:04:06 มูลที่เอาไปปรับใช้ได้จริงเลยนะครับคือ
00:04:06 → 00:04:08 เคซีนในนมวัวส่วนใหญ่ที่เราดื่มๆกันอยู่
00:04:08 → 00:04:12 เนี่ยมันเป็นชนิด A1 ซึ่งมันย่อยยากและ
00:04:12 → 00:04:15 อาจจะสร้างปัญหาให้ลำไส้เราได้แต่เคซีน
00:04:15 → 00:04:18 ชนิด A2 ที่เจอในนมแพะหรือน่มแกะเนี่ย
00:04:18 → 00:04:21 กลับเป็นมิตรกับลำไส้เรามากกว่าเยอะเลย
00:04:21 → 00:04:23 ดังนั้นการเลือกกินกรีกโยเกิร์ตที่ทำจาก
00:04:23 → 00:04:27 นมแพะหรือว่าชีสแพะเลยเป็นทางเลือกที่
00:04:27 → 00:04:30 ฉลาดกว่ามากครับส่วนเรื่องถั่วเหลืองต้อง
00:04:30 → 00:04:32 บอกเลยว่ามันไม่ได้เป็นมิตรกับไทรอยด์ของ
00:04:32 → 00:04:35 เราเสมอไปนะครับโดยเฉพาะพวกที่แปรรูปมา
00:04:35 → 00:04:38 เยอะๆและไม่ได้ผ่านการหมักเพราะมันมีสาร
00:04:38 → 00:04:41 ที่ชื่อว่ากอยโตรเจนที่คอยดักจับไอโอดีน
00:04:41 → 00:04:44 ของเราแล้วก็ยังมีไฟโตเอสโตรเจนที่ทำตัว
00:04:44 → 00:04:47 เหมือนพี่สาวจอมจุ้นคอยกวนระบบไทรอยด์ของ
00:04:47 → 00:04:50 เราอีกแรงแต่ถ้าเป็นพวกถั่วเหลืองหมัก
00:04:50 → 00:04:53 อย่างนัโตะหรือเทมเป้อันนี้จะโอเคกว่า
00:04:53 → 00:04:55 เยอะเลยครับเอาล่ะครับเราคุยเรื่องปัญหา
00:04:55 → 00:04:58 หาเรื่องตัวร้ายกันมาพอสมควรแล้วตอนนี้
00:04:58 → 00:05:01 ถึงเวลาพลิกเกมกันบ้างมาดูกันดีกว่าครับ
00:05:01 → 00:05:04 ว่าเราจะเพิ่มอะไรเข้าไปในมื้ออาหารของ
00:05:04 → 00:05:06 เราได้บ้างเพื่อปลุกเครื่องยนต์เผาผลาญ
00:05:06 → 00:05:08 ของเราให้กลับมาทำงานเต็มซบอีกครั้งแต่
00:05:08 → 00:05:13 ก่อนอื่นต้องรู้จักคำนี้ก่อนครับ BMR
00:05:13 → 00:05:17 หรือ Basal Metabolic Rate พูดง่ายๆเลย
00:05:17 → 00:05:20 มันคือพลังงานขั้นต่ำสุดๆที่ร่างกายต้อง
00:05:20 → 00:05:23 ใช้แค่เพื่อให้นอนหายใจอยู่เฉยๆแล้วไม่
00:05:23 → 00:05:26 ตายเขาเรียกกันเล่นเล่นว่าพลังงานการตาย
00:05:27 → 00:05:29 นี่แหละค่ะและนี่คือกฎเหล็กข้อแรกและ
00:05:29 → 00:05:32 สำคัญที่สุดเลยนะครับห้ามเด็ดขาดห้ามกิน
00:05:32 → 00:05:35 อาหารน้อยกว่าค่า BMR ของตัวเองเพราะทัน
00:05:35 → 00:05:38 ทีที่เรากินน้อยเกินไปร่างกายจะส่งสัญญาณ
00:05:38 → 00:05:42 อันตรายเกิดภาวะขาดแคลนไปทั่วระบบเลยแล้ว
00:05:42 → 00:05:45 ไทรอยด์ผู้แสนอ่อนไหวของเราก็จะตกใจแล้ว
00:05:45 → 00:05:48 สั่งลดการเผาผลาญลงทันทีเพื่อเอาตัวรอด
00:05:48 → 00:05:50 ครับมาดูกันครับว่ากองทัพอาหารที่จะมา
00:05:51 → 00:05:54 ช่วยฟื้นฟูไทรรอยด์ของเรามีอะไรบ้าง 1
00:05:54 → 00:05:56 อาหารทะเลกับสาหร่ายเคบอันนี้คือแหล่ง
00:05:56 → 00:06:00 ไอโอดีนชั้นยอดเลย 2 ไขมันดีๆจากน้ำมัน
00:06:00 → 00:06:02 สกัดเย็นพวกนี้จะช่วยให้ตับของเราเปลี่ยน
00:06:02 → 00:06:05 ฮอร์โมนตัวขี้เกียจอย่าง T4 ให้กลายเป็น
00:06:05 → 00:06:08 ฮอร์โมนตัวขยันอย่าง T3 ได้ 3 อาหารหมัก
00:06:08 → 00:06:11 อย่างกริโยเกิร์ตแพะหรือผักดองเพื่อเพิ่ม
00:06:11 → 00:06:14 ทหารฝ่ายดีในลำไส้และสุดท้ายโปรตีน
00:06:14 → 00:06:16 สมบูรณ์จากสัตว์ซึ่งเป็นเหมือนอิฐบล็อก
00:06:16 → 00:06:18 ที่ร่างกายเอาไปซ่อมแซมตัวเองได้ทันที
00:06:18 → 00:06:22 ครับมาถึงช่วงสุดท้ายที่ผมคิดว่าสำคัญและ
00:06:22 → 00:06:25 ทรงพลังที่สุดแล้วครับเราต้องเปลี่ยนมุม
00:06:25 → 00:06:29 มองใหม่เลิกคิดว่าเราเป็นเหยื่อของอาการ
00:06:29 → 00:06:33 ต่างๆแต่ให้มองว่าตัวเรานี่แหละคือผู้
00:06:33 → 00:06:37 บัญชาการสูงสุดของร่างกายนี้ลองคิดแบบนี้
00:06:37 → 00:06:39 นะครับร่างกายเราเนี่ยเหมือนเป็นลูกน้อง
00:06:39 → 00:06:43 ที่ซื่อสัตย์มากๆของเราเลยมันเป็นระบบที่
00:06:43 → 00:06:46 รอรับคำสั่งจากเราผู้เป็นเจ้านายอยู่ตลอด
00:06:46 → 00:06:49 เวลาทุกอย่างที่เราเลือกกินทุกการกระทำ
00:06:49 → 00:06:52 ของเรามันคือคำสั่งตรงที่เราส่งไปให้เขา
00:06:52 → 00:06:55 ครับคำถามสุดท้ายที่อยากจะทิ้งไว้ก็คือ
00:06:55 → 00:06:58 มันไม่ใช่ทำไมร่างกายฉันเป็นแบบนี้อีกต่อ
00:06:58 → 00:07:02 ไปแล้วแต่เป็นนับจากวินาทีนี้ไปคุณจะ
00:07:02 → 00:07:05 เลือกออกคำสั่งแบบไหนให้กับร่างกายของคุณ
00:07:05 → 00:07:07 เพราะตอนนี้คุณมีความรู้ที่จะเป็นผู้
00:07:07 → 00:07:11 บัญชาการที่ยอดเยี่ยมได้แล้วครับ
00:07:12 → 00:07:15 สวัสดีค่ะสำหรับการสำรวจข้อมูลที่เราได้
00:07:15 → 00:07:18 มารอบนี้นะคะเราจะมาเจาะลึกเรื่องสุขภาพ
00:07:18 → 00:07:21 ของต่อมไทรรอยด์กันค่ะเป็นอวัยวะเล็กๆ
00:07:21 → 00:07:23 เนาะแต่ว่าส่งผลเยอะมากกับเรื่องพลังงาน
00:07:23 → 00:07:26 การเผาผลในร่างกายเราเลยข้อมูลที่ได้มา
00:07:26 → 00:07:29 เนี่ยดูเหมือนจะชี้ไปที่ปัญหาที่หลายคน
00:07:29 → 00:07:32 เจอเลยค่ะอย่างเช่นเหนื่อยง่ายน้ำหนัก
00:07:32 → 00:07:35 นิ่งๆทั้งที่คุมอาหารแบบเอ่อ low cup
00:07:35 → 00:07:37 high fat อยู่ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับการทำ
00:07:37 → 00:07:40 งานของต่อมไทรรอยด์ที่มันช้าลงหรือเปล่า
00:07:40 → 00:07:43 >> ใช้เลยครับจากข้อมูลที่เรามีเนี่ยชี้ให้
00:07:43 → 00:07:46 เห็นหลายปัจจัยเลยนะที่กระจบการทำงานของ
00:07:46 → 00:07:48 ไทรอยด์โดยตรงตั้งแต่เรื่องสารอาหาร
00:07:48 → 00:07:51 จำเป็นที่เราอาจจะขาดไปหรือสารพิษที่เจอ
00:07:51 → 00:07:54 ในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัวไปจนถึง
00:07:54 → 00:07:57 สุขภาพลำไส้สุขภาพตับคือมันโยงกันหมดเลย
00:07:57 → 00:07:59 ครับน่าสนใจมาก
00:07:59 → 00:08:02 >> น่าสนใจจริงๆค่ะงั้นเรามาค่อยๆแกะข้อมูล
00:08:02 → 00:08:04 นี้กันดีกว่าว่าอะไรเป็นตัวการหลักที่อาจ
00:08:04 → 00:08:07 จะทำร้ายต่อมไทรรอยด์แล้วก็มีแนวทางดูแล
00:08:07 → 00:08:10 ฟื้นฟูยังไงบ้างตามข้อมูลที่ระบุไว้นะคะ
00:08:10 → 00:08:14 >> ครับจุดแรกเลยนะคือเลือกสารอาหารพื้นฐาน
00:08:14 → 00:08:17 ที่ต่อมไทรรอยด์ต้องการเลยครับหลักๆที่
00:08:17 → 00:08:21 ข้อมูลเน้นยำก็คือไอโอดีนเซเลเนียมแล้วก็
00:08:21 → 00:08:24 สังกสสีเอ่อแหล่งข้อมูลหลายแหล่งบอกตรง
00:08:24 → 00:08:27 กันเลยว่าการขาดไอโอโอดีนเนี่ยเป็นปัญหา
00:08:27 → 00:08:30 ระดับโลกเลยนะครับคนเป็นพันพันล้านคนเลย
00:08:30 → 00:08:33 ที่ขาดซึ่งมันจำเป็นมากๆในการสร้าง
00:08:33 → 00:08:37 ฮอร์โมนไทรรอยด์ถ้าขาดสารอาหารพวกนี้ไปก็
00:08:37 → 00:08:40 อาจจะนำไปสู่ปัญหาอย่างคอพอกหรือมีก้อน
00:08:40 → 00:08:42 ที่ต่อมไทรรอยด์ได้
00:08:42 → 00:08:45 >> แล้วข้อมูลแนะนำว่าเราจะหาสารอาหารพวกนี้
00:08:45 → 00:08:46 ได้จากไหนบ้าง
00:08:46 → 00:08:49 >> ไอโอดีนเนี่ยแหล่งที่ดีมากๆเลยคือพวก
00:08:49 → 00:08:51 สาหร่ายทะเลครับโดยเฉพาะสาหร่ายสีน้ำตาล
00:08:51 → 00:08:55 หรือเคลปแล้วก็อาหารทะเลต่างๆส่วน
00:08:55 → 00:08:58 เซิเลเนียมเอ่อจะมีเยอะในถั่วบราซิลแล้ว
00:08:58 → 00:09:01 สังกสีก็เจอในอาหารทะเลเหมือนกันครับการ
00:09:01 → 00:09:04 ได้รับให้ครบถ้วนเนี่ยก็เป็นพื้นฐานสำคัญ
00:09:04 → 00:09:07 เลยแต่มีประเด็นที่น่าสนใจมากในข้อมูล
00:09:07 → 00:09:10 ครับคือบทบาทของอินซูลิน
00:09:10 → 00:09:12 >> อินซูลินที่เกี่ยวกับน้ำตาลน่ะหรอคะ
00:09:12 → 00:09:15 >> ใช่ครับแต่มันไม่ใช่แค่เลือกน้ำตาลอย่าง
00:09:15 → 00:09:18 เดียวอินซูลินมีส่วนสำคัญในการช่วยพาสาร
00:09:18 → 00:09:22 อาหารจำเป็นพวกเนี้ย IOD ดีนซิลิเนียม
00:09:22 → 00:09:25 สังกสีเข้าสู่เซลล์ต่อมไทรรอยด์ด้วยการ
00:09:25 → 00:09:28 กระตุ้นอินซูลินแบบพอเหมาะพอดีเช่นจาก
00:09:28 → 00:09:31 โปรตีนไข่ขาวหรืออาจจะเสริมด้วยอาหารทะเล
00:09:32 → 00:09:35 ตับบ้างโดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่ไทรอยด์ทำ
00:09:35 → 00:09:37 งานเนี่ยจะเป็นการสนับสนุนที่ดีครับแต่
00:09:37 → 00:09:40 ต้องย้ำว่าเป็นการกระตุ้งแบบค่อยเป็นค่อย
00:09:40 → 00:09:43 ไปนะไม่ใช่แบบที่ทำให้น้ำตาลพุ่งปรี๊ด
00:09:43 → 00:09:46 >> อ๋อเข้าใจแล้วค่ะคือต้องกระตุ้นแต่ให้ถูก
00:09:46 → 00:09:50 จังหวะถูกวิธีนอกจากเรื่องสารอาหารแล้ว
00:09:50 → 00:09:52 ข้อข้อมูลที่เราดูกันยังชี้ไปที่ปัจจัย
00:09:52 → 00:09:55 ภายนอกอื่นๆด้วยใช่ไหมคะที่ส่งผลเสียต่อ
00:09:55 → 00:09:56 ไทรรอยด์
00:09:56 → 00:09:58 >> ถูกต้องครับมีเรื่องสารพิษที่น่าคำนวณ
00:09:58 → 00:10:02 เหมือนกันอย่างฟลูอไรด์คลอรีนที่อาจจะมา
00:10:02 → 00:10:05 จากน้ำดื่มที่ไม่ผ่านการกรองดีพอหรือแม้
00:10:05 → 00:10:07 แต่การว่ายน้ำในสระบ่อยๆ
00:10:07 → 00:10:09 >> จริงด้วยค่ะไม่ค่อยได้นึกถึงเลย
00:10:09 → 00:10:11 >> มีการศึกษาชิ้นหนึ่งในอังกฤษที่น่าสนใจนะ
00:10:12 → 00:10:14 เพราะพบว่าพื้นที่ที่น้ำดื่มมีฟลูอไรด์
00:10:14 → 00:10:16 สูงเนี่ยมีอัตราคนที่มีปัญหาไทรอยด์สูง
00:10:16 → 00:10:19 กว่าอย่างชัดเจนเลยเพราะเชื่อว่าสารพวก
00:10:19 → 00:10:22 นี้อาจจะเข้าไปเอ่อเหมือนแย่งที่ไอโอดีน
00:10:22 → 00:10:24 ทำให้ต่อมไทรอยดเอาไอโอดีนไปใช้ไม่ได้
00:10:24 → 00:10:27 >> อ๋อไปขัดขวางว่างั้นเถิด
00:10:27 → 00:10:28 >> ใช่ครับ
00:10:28 → 00:10:30 >> แม้แต่พวกภาชนะเคลือบสารกันติดที่มัน
00:10:30 → 00:10:33 เริ่มลอกๆก็อาจจะเป็นแหล่งของflลัวไรดได้
00:10:33 → 00:10:36 เหมือนกันนะต้องระวังแล้วก็อีกประเด็น
00:10:36 → 00:10:39 สำคัญที่ข้อมูลเน้นมากๆคือความเครียดครับ
00:10:39 → 00:10:41 >> ความเครียดนี่น่าจะเกี่ยวอยู่แล้วเนาะ
00:10:41 → 00:10:42 >> ครับ
00:10:42 → 00:10:45 >> แต่ที่น่าสนใจคือไม่ใช่แค่เครียดทางใจนะ
00:10:45 → 00:10:48 ข้อมูลชี้ไปที่ความเครียดจากการกินน้อย
00:10:48 → 00:10:49 เกินไปค่ะ
00:10:49 → 00:10:51 >> อ่ะกินน้อยไปเนี่ยนะครับ
00:10:51 → 00:10:54 >> ครับคือการกินที่ต่ำกว่าความต้องการพลัง
00:10:54 → 00:10:56 งานพื้นฐานของร่างกายหรือที่เราเรียกว่า
00:10:56 → 00:11:00 BMR Bas metabolic rate นะครับการรู้
00:11:00 → 00:11:02 ค่า BMR ของตัวเองแล้วกินให้เพียงพอจึง
00:11:02 → 00:11:05 สำคัญมากเพราะเมื่อร่างกายรู้สึกว่าขาด
00:11:05 → 00:11:08 พลังงานขาดแคลนเนี่ยมันจะสั่งให้ไทรอยด์
00:11:08 → 00:11:11 ทำงานช้าลงเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานค่ะ
00:11:11 → 00:11:14 >> โอ้โหจุดนี้น่าคิดมากเลยค่ะไม่เคยนึกว่า
00:11:15 → 00:11:17 การกินน้อยไปจะกลายเป็นความเครียดที่ส่ง
00:11:17 → 00:11:20 ผลกับไทรอยด์โดยตรงแบบนี้เลยฟังดูแล้ว
00:11:20 → 00:11:22 เรื่องมันซับซ้อนกว่าแค่ตัวต่อมไทรรอยด์
00:11:22 → 00:11:24 อย่างเดียวแล้วนะครับเหมือนมันเชื่อมกับ
00:11:24 → 00:11:26 ระบบอื่นๆในร่างกายด้วยโดยเฉพาะภาวะที่
00:11:26 → 00:11:30 เรียกว่าลำไส้รั่วหรือลีคี้กัส
00:11:30 → 00:11:33 >> เคยได้ยินอยู่ค่ะลำไส้รั่วย
00:11:33 → 00:11:36 >> มันเกิดจากผนังลำไส้อักเสบเสียหายทำให้
00:11:36 → 00:11:39 สารต่างๆที่ไม่ควรจะเข้าระบบเลือดมันดัน
00:11:39 → 00:11:42 รั่วเข้าไปได้ซึ่งข้อมูลชี้ว่าตัวกระตุ้น
00:11:42 → 00:11:44 การอักเสบเนี่ยมักจะมาจากอาหารบางชนิด
00:11:44 → 00:11:48 เช่นน้ำตาลแป้งขัดขาวกลูเต็นจากพวกข้าว
00:11:48 → 00:11:51 สาลีบาเล่หรือเคซีนชนิด A1 ที่เจอในนมวัว
00:11:52 → 00:11:54 ทั่วไปแล้วก็มีถั่วเหลืองที่ไม่ผ่านการ
00:11:54 → 00:11:57 หมักอันนี้ก็มีสารที่อาจจะรบกนไทรรย์ด์
00:11:57 → 00:11:57 ได้เหมือนกัน
00:11:57 → 00:12:00 >> หมายความว่าการอักเสบจากอาหารพวกนี้อาจจะ
00:12:00 → 00:12:03 เป็นจุดเริ่มต้นปัญหาเลยก่อนจะลามไป
00:12:03 → 00:12:03 เรื่องอื่น
00:12:03 → 00:12:06 >> ถูกต้องครับพอเกิดลำไส้รั่วมีการอักเสบ
00:12:06 → 00:12:09 เรื้อรังระบบภูมิคุ้มกันก็อาจจะเริ่มรวน
00:12:09 → 00:12:12 หรือที่เรียกว่าออโติมมูนนะครับแล้วทีนี้
00:12:12 → 00:12:14 มันอาจจะร้ายแรงถึงขั้นสร้างแอนตี้บอดี้
00:12:14 → 00:12:16 มาโจมตีต่อมไทรรอยด์ตัวเองได้เลยอย่างใน
00:12:16 → 00:12:19 โรคฮาชมโตหรือเกฟสที่ข้อมูลพูดถึง
00:12:19 → 00:12:20 >> โหเกี่ยวกันไปหมดเลย
00:12:20 → 00:12:24 >> ยังไม่หมดแค่นั้นครับตับถ้ามีบทบาทสำคัญ
00:12:24 → 00:12:27 มากๆเหมือนกันเพราะอาบทำหน้าที่เปลี่ยน
00:12:27 → 00:12:29 ฮอร์โมนไทรรอยด์ T4 ซึ่งมันยังไม่ค่อย
00:12:29 → 00:12:32 active เท่าไหร่ให้เป็น T3 ซึ่งเป็นรูป
00:12:32 → 00:12:34 แบบที่ร่างกายเอาไปใช้ได้จริง
00:12:34 → 00:12:37 >> อ๋อ T4 ต้องเปลี่ยนเป็น T3 ก่อน
00:12:37 → 00:12:41 >> ใช่ครับทีนี้ถ้าตับเรามีปัญหาเช่นมีไขมัน
00:12:41 → 00:12:44 พอกตับทำงานได้ไม่ดีการเปลี่ยนฮอร์โมนนี้
00:12:44 → 00:12:48 ก็จะลดลงด้วยดังนั้นการดูแลตับปรับด้วยไข
00:12:48 → 00:12:51 มันดีๆจากพวกน้ำมันสกัดเย็นต่างๆเพื่อ
00:12:51 → 00:12:54 ช่วยสร้างน้ำดีหรือการทานผักที่มีรสขมๆ
00:12:54 → 00:12:57 ฝาดๆบ้างเพื่อช่วยขับสารพิษก็เป็นการ
00:12:57 → 00:13:00 สนับสนุนการทำงานของไทรอยด์ทางอ้อมที่
00:13:00 → 00:13:01 สำคัญมากๆเลยครับ
00:13:01 → 00:13:05 >> เข้าใจเลยค่ะคือต้องดูแลทั้งลำไส้ทั้งตับ
00:13:05 → 00:13:08 เพื่อให้ไทรอยด์ทำงานได้ดีแล้วสำหรับ
00:13:08 → 00:13:11 กลุ่มคนที่ทานแนว low cฟ high fat หรือ
00:13:11 → 00:13:14 LCHF ล่ะคะที่บางทีเจอปัญหาน้ำหนักนิ่งๆ
00:13:14 → 00:13:17 หรือเหนื่อยง่ายข้อมูลชุดนี้มีคำแนะนำ
00:13:17 → 00:13:19 เฉพาะเจาะจงให้มั้ยคะ
00:13:19 → 00:13:22 >> มีครับข้อมูลชี้ชัดเจนว่าสำหรับคนที่ทาน
00:13:22 → 00:13:25 LCHF เนี่ยการกระตุ้นกล้ามเนื้อชนิดที่
00:13:25 → 00:13:28 เรียกว่า Fast Twist นะครับซึ่งเป็นใย
00:13:28 → 00:13:30 กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวเร็วๆแรง
00:13:30 → 00:13:34 ๆเนี่ยจำเป็นมากในการช่วยกระตุ้นการสร้าง
00:13:34 → 00:13:35 ฮอร์โมนไทรรอยด์
00:13:35 → 00:13:37 >> อ๋อต้องออกกำลังกายแบบเฉพาะ
00:13:37 → 00:13:41 >> ใช่ครับอาจจะต้องมีการออกกำลังกายแบบ HIIT
00:13:41 → 00:13:43 High Intensity Interval Training
00:13:43 → 00:13:46 หรือการยกน้ำหนักหรือการ sprint บ้างนอก
00:13:46 → 00:13:49 นอกจากนั้นข้อมูลยังสนับสนุนการเสริม
00:13:49 → 00:13:52 โปรตีนบางชนิดเช่นผงไข่ขาวผงดาวอินคาที่
00:13:52 → 00:13:55 ให้โอเมก้า 3 สูงหรือคอลลาเจนก็ช่วย
00:13:55 → 00:13:58 เรื่องการทำงานของไทรรอยด์และการฟื้นตัว
00:13:58 → 00:13:59 กล้ามเหนือได้ดีครับ
00:13:59 → 00:14:03 >> โอเคค่ะชัดเจนเลยงั้นสรุปจากการสำรวจข้อ
00:14:03 → 00:14:06 มูลทั้งหมดนี้นะคะการจะดูแลต่อมแคอยด์ให้
00:14:06 → 00:14:09 ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพเนี่ยต้องใส่ใจ
00:14:09 → 00:14:12 ตั้งแต่เรื่องสารอาหารจำเป็นต้องให้ครบ
00:14:12 → 00:14:15 ไอโอดีนซีลิเนียมสังกสีแล้วก็ต้องพยายาม
00:14:15 → 00:14:17 หลีกเลี่ยงสารพิษเท่าที่ทำได้อย่าง
00:14:17 → 00:14:20 flลูโอไรดคลอรีนและระวังอาหารที่อาจจะไป
00:14:20 → 00:14:23 กระตุ้นการอักเสบหรือรบกวนการทำงานเช่น
00:14:23 → 00:14:26 น้ำตาลกลูเจนเคซีน A1 หรือถั่วเหลืองที่
00:14:26 → 00:14:27 ไม่หมัก
00:14:27 → 00:14:30 >> ใช่ครับรวมถึงการจัดการความเครียดโดย
00:14:30 → 00:14:33 เฉพาะอย่างยิ่งความเครียดจากการกินน้อยไป
00:14:33 → 00:14:36 ต้องกินให้พอตามค่า BMR และที่สำคัญมากๆ 5
00:14:37 → 00:14:40 มองข้ามเลยคือการดูแลสุขภาพลำไส้และตับ
00:14:40 → 00:14:43 ให้แข็งแรงซึ่งพวกไขมันดีอาหารหมักอย่าง
00:14:43 → 00:14:46 กรีกโยเกิร์ตเอ่อโดยเฉพาะที่ข้อมูลชี้ว่า
00:14:46 → 00:14:49 ถ้ามาจากนมแพะที่เป็นเคซีน A2 อาจจะดี
00:14:49 → 00:14:52 กว่านมบัวหรือพวกผักดองต่างๆก็มีบทบาท
00:14:52 → 00:14:54 ช่วยสนับสนุนจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้แล้ว
00:14:54 → 00:14:57 ก็การทำงานของตับได้ดีเลยครับ
00:14:57 → 00:14:59 >> เป็นการมองภาพรวมสุขภาพไทรรอยด์ที่เชื่อม
00:14:59 → 00:15:02 โยงหลายระบบในร่างกายจริงๆนะคะข้อมูลชุด
00:15:03 → 00:15:05 นี้ให้มุมมองที่ครอบคลุมดีมากเลยค่ะ
00:15:05 → 00:15:08 >> ครับแล้วก็มีอีกประเด็นทิ้งท้ายที่น่าสน
00:15:08 → 00:15:11 ใจจากข้อมูลให้ลองไปขบคิดกันต่อนะครับคือ
00:15:11 → 00:15:14 ข้อมูลระบุว่าร่างกายเราเนี่ยมักจะหวงไข
00:15:14 → 00:15:17 มันที่สะสมไว้มากๆเลยเพราะมันมองเป็นพลัง
00:15:17 → 00:15:20 งานสำรองยามฉุกเฉินการที่เราทำความเข้าใจ
00:15:20 → 00:15:23 แล้วก็หันมาดูแลต่อมไทรรอยด์ซึ่งเป็น
00:15:23 → 00:15:25 เหมือนหัวใจหลักของการเผาผลาญไขมันให้ดี
00:15:25 → 00:15:27 เนี่ยอาจจะเปรียบเหมือนกับการที่เราได้
00:15:27 → 00:15:30 กุญแจไปไขหรือไปสื่อสารกับร่างกายให้ยอม
00:15:30 → 00:15:31 ปล่อยไขมันสะสมนั้นออกมาใช้อย่างมี
00:15:31 → 00:15:34 ประสิทธิภาพมากขึ้นก็เป็นได้นะครับน่าคิด
00:15:34 → 00:15:37 นะครับ