00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.
00:00:06 → 00:00:08 Listen for a better life.
00:00:08 → 00:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
00:00:11 → 00:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
00:00:14 → 00:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:16 → 00:00:22 [เสียงดนตรี]
00:00:22 → 00:00:24 วันนี้คุณกินอะไร
00:00:24 → 00:00:29 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร
00:00:29 → 00:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
00:00:31 → 00:00:35 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
00:00:35 → 00:00:40 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
00:00:40 → 00:00:42 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
00:00:42 → 00:00:46 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:46 → 00:00:49 [เสียงดนตรี]
00:00:49 → 00:00:52 วันนี้เราจะมารู้จักโรคของต่อมไทรอยด์
00:00:52 → 00:00:54 ตั้งแต่ว่าทำงานผิดปกติ
00:00:54 → 00:00:56 การสร้างฮอร์โมนเป็นอย่างไร
00:00:56 → 00:00:58 แล้วเราควรจะดูแลรักษาตัวเองอย่างไร
00:00:58 → 00:01:04 นอกจากนี้ เราก็จะมาคุยกันต่อในเรื่องของ การปรับสมดุลของไทรอยด์ด้วยอาหาร
00:01:05 → 00:01:07 ถ้าสมมุติว่าการทำงานของฮอร์โมนผิดปกติ
00:01:07 → 00:01:09 หรือว่ามากไป น้อยไป
00:01:09 → 00:01:13 เราจะมีอาหารอะไรที่จะต้องระมัดระวัง หรือควรจะปรับเปลี่ยน
00:01:13 → 00:01:16 เดี๋ยวเรามาคุยกันตั้งแต่ต้นจนจบ สำหรับเรื่องของไทรอยด์ค่ะ
00:01:16 → 00:01:21 [เสียงดนตรี]
00:01:21 → 00:01:24 ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ ต่อมไทรอยด์กันก่อนนะคะ
00:01:24 → 00:01:28 ต่อมไทรอยด์เป็นต่อมไร้ท่อชนิดหนึ่ง อยู่ตรงบริเวณคอของเรา
00:01:28 → 00:01:30 ถ้าใครมองเห็น หรือว่ามีความผิดปกติ
00:01:30 → 00:01:34 เวลาที่เรากลืนน้ำลาย มันก็จะขยับไปมาตามการกลืนได้
00:01:34 → 00:01:37 แต่อันนี้ต้องไม่ใช่ลูกกระเดือกในผู้ชายนะคะ
00:01:38 → 00:01:39 ทีนี้ต่อมไทรอยด์มีหน้าที่อะไร
00:01:39 → 00:01:42 ก็มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการเผาผลาญ
00:01:42 → 00:01:44 เรื่องของการใช้พลังงานในร่างกาย
00:01:44 → 00:01:47 เพราะฉะนั้น ถ้ามันทำงานผิดปกติไป
00:01:47 → 00:01:49 ก็จะส่งผลกระทบกับร่างกาย
00:01:50 → 00:01:51 แล้วเป็นที่ทราบอยู่แล้วค่ะว่า
00:01:52 → 00:01:56 แร่ธาตุตัวหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของ การสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ชื่อว่า ไอโอดีน
00:01:56 → 00:01:59 เพราะฉะนั้น ไอโอดีนเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่จำเป็น
00:01:59 → 00:02:02 เพื่อให้ร่างกายสามารถที่จะ สร้างฮอร์โมนได้เป็นปกติ
00:02:03 → 00:02:04 คราวนี้เรามาดูกันก่อนว่า
00:02:04 → 00:02:06 ถ้าในแง่ของการทำงาน
00:02:06 → 00:02:09 คือถ้าฮอร์โมนมันทำงานมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น
00:02:09 → 00:02:12 ฮอร์โมนทำงานน้อยเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น
00:02:12 → 00:02:15 ในกรณีที่ฮอร์โมนทำงานมากเกินไปนี่
00:02:15 → 00:02:17 เขาอาจจะเรียกว่า ไฮเปอร์
00:02:17 → 00:02:20 เราจะรู้สึก เราได้ยินเด็กไฮเปอร์ ทำงานเยอะใช่ไหมคะ
00:02:20 → 00:02:23 ถ้าฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานมากเกินไป
00:02:23 → 00:02:26 เราจะเรียกว่าเป็น ไฮเปอร์ไทรอยด์
00:02:26 → 00:02:28 หรือบางคนจะเรียกว่า ไทรอยด์เป็นพิษ
00:02:28 → 00:02:31 สิ่งที่ตามมาก็คือ ร่างกายมีการเผาผลาญเยอะขึ้น
00:02:31 → 00:02:33 ชีพจรก็จะเต้นเร็วขึ้น
00:02:33 → 00:02:36 หัวใจก็จะทำงานหนักขึ้น อาจจะมีความดันสูงขึ้น
00:02:36 → 00:02:39 อาจจะมีเรื่องของการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ
00:02:39 → 00:02:42 คนไข้อาจจะรู้สึกว่าใจสั่น นอนไม่หลับได้
00:02:42 → 00:02:44 ประจำเดือนมาผิดปกติ
00:02:44 → 00:02:46 แล้วก็จะมีเหงื่อออกมากขึ้น
00:02:46 → 00:02:49 อีกอันหนึ่งที่เจอได้ แต่ว่าอาจจะเป็นระยะยาวนิดนึง
00:02:49 → 00:02:52 ก็คือเรื่องของการสร้างกระดูก
00:02:52 → 00:02:54 มันก็จะมีการสร้าง แล้วก็การสลาย
00:02:54 → 00:02:56 ทีนี้สลายกระดูกเยอะขึ้น
00:02:56 → 00:02:58 เพราะฉะนั้น คนที่มีเรื่องของภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
00:02:58 → 00:03:01 อาจจะทำให้…ระยะยาวนะคะ
00:03:01 → 00:03:05 เสี่ยงกับการที่จะเกิดเรื่องของ กระดูกพรุนได้เช่นกัน
00:03:05 → 00:03:07 อีกภาวะหนึ่งที่อาจจะเจอร่วมก็คือว่า
00:03:07 → 00:03:09 ถ้าไทรอยด์เป็นพิษอันนั้น
00:03:09 → 00:03:13 เกิดจากโรคของความผิดปกติที่เราเรียกว่า Graves' Disease
00:03:13 → 00:03:16 หรือว่ามันมี…เขาเรียกว่าเป็นออโตแอนติบอดี
00:03:16 → 00:03:20 คือร่างกายมีการสร้างภูมิต้านทาน กับตัวไทรอยด์
00:03:20 → 00:03:21 แล้วทำให้ต่อต้านไทรอยด์
00:03:21 → 00:03:24 ทำให้ไทรอยด์ทำงานเยอะขึ้น
00:03:24 → 00:03:25 คอก็จะโตขึ้น
00:03:25 → 00:03:28 กลุ่มนี้อาจจะมีอีกอันหนึ่งก็คือ ตาจะโปน
00:03:28 → 00:03:30 จะเห็นว่าหลายคนมีตาโปน
00:03:30 → 00:03:32 ถามว่าดูอย่างไรว่าตาโปน
00:03:32 → 00:03:33 เวลาที่เรามองคนค่ะ
00:03:33 → 00:03:36 ปกตินี่ตาดำเราจะเห็นไม่ครบวง
00:03:36 → 00:03:40 ด้านบนจะปิดไว้นิดนึง ข้างล่างอาจจะเห็นชัดขึ้น
00:03:40 → 00:03:41 แต่ว่ากลุ่มนี้
00:03:41 → 00:03:44 ถ้าเป็นกลุ่มของ Graves' Disease อาจจะเห็นว่าคอโตขึ้น
00:03:44 → 00:03:48 อันนี้ก็จะเจอได้ สำหรับภาวะที่มีไทรอยด์เป็นพิษ
00:03:48 → 00:03:51 ที่เกิดจากการที่มี ร่างกายสร้างภูมิต้านทานตัวเองค่ะ
00:03:51 → 00:03:54 ทีนี้พอเราฟังเรื่องของไทรอยด์เป็นพิษ
00:03:54 → 00:03:58 หรือว่าภาวะไทรอยด์ที่ทำงานเยอะเกินไป ที่เราเรียกว่าไฮเปอร์ไปแล้ว
00:03:58 → 00:04:03 อีกด้านหนึ่งฝั่งตรงข้าม เราก็จะเรียกว่าไฮโป ไฮโปไทรอยด์นะคะ
00:04:03 → 00:04:08 ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นภาวะที่ไทรอยด์ สร้างฮอร์โมนได้น้อยลงกว่าปกติ
00:04:08 → 00:04:10 ทีนี้ เมื่อกี้นี้การเผาผลาญเยอะเนอะ
00:04:10 → 00:04:13 อันนี้ก็จะเป็นการเผาผลาญที่ลดลง
00:04:13 → 00:04:15 อันนี้แค่หายใจก็อ้วนแล้ว
00:04:15 → 00:04:17 ก็จะบวมขึ้น อ้วนขึ้น
00:04:17 → 00:04:22 การเผาผลาญมันน้อยลง ก็จะรู้สึกว่า เบื่อ ไม่อยากทำอะไร ขี้เกียจ
00:04:22 → 00:04:26 ผิวก็จะแห้ง ตัวก็จะบวม ผมร่วงได้
00:04:26 → 00:04:28 ประจำเดือนก็มาผิดปกติได้
00:04:28 → 00:04:32 อาจจะมีอาการเรื่องของหงุดหงิด หรืออะไรอย่างนี้ร่วมด้วยได้เหมือนกัน
00:04:32 → 00:04:38 เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็จะเป็นอาการ ที่อยู่ตรงกันข้ามกันของตัวไทรอยด์
00:04:38 → 00:04:41 ถ้ากลุ่มที่เป็นไฮเปอร์ หรือกลุ่มที่ไทรอยด์เป็นพิษนี่
00:04:41 → 00:04:43 จะบอกว่าน้ำหนักลดใช่ไหมคะ
00:04:43 → 00:04:44 จะบอกว่าใจสั่นเนอะ
00:04:44 → 00:04:47 จะบอกว่าขยัน Alert ไปตลอดเวลา
00:04:47 → 00:04:51 ฝั่งตรงข้ามค่ะ ถ้าเกิดมีภาวะไทรอยด์ต่ำ
00:04:51 → 00:04:55 ก็จะลดการเผาผลาญพลังงาน น้ำหนักก็จะขึ้นง่าย อ้วนง่าย
00:04:55 → 00:04:57 ก็จะผิวแห้งเนอะ
00:04:57 → 00:04:58 ก็จะขี้เกียจ
00:04:58 → 00:04:59 แล้วก็จะนอนเยอะ
00:04:59 → 00:05:01 อันนี้เหมือนเด็กขี้เกียจเลยค่ะ
00:05:01 → 00:05:05 แล้วก็จะเป็นลักษณะของผิวที่ค่อนข้างแห้ง ตัวบวม ๆ ฉุ ๆ
00:05:05 → 00:05:10 อันนี้ก็จะเจอได้ในคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องของ ไทรอยด์ทำงานต่ำ
00:05:10 → 00:05:13 เมื่อกี้เราพูดกันในเรื่องของ ตัวฮอร์โมนไทรอยด์นะคะ
00:05:13 → 00:05:17 ว่าการทำงานของเขานี่ ทำงานมากหรือทำงานน้อย
00:05:17 → 00:05:20 ทีนี้เรามามองอีกอันหนึ่ง ก็คือเรามามองดูตัวต่อมไทรอยด์เลย
00:05:20 → 00:05:22 ว่าต่อมไทรอยด์อันนี้
00:05:22 → 00:05:25 ขนาดมันปกติหรือขนาดมันโตขึ้น
00:05:25 → 00:05:27 เวลาที่ต่อมไทรอยด์มันโตขึ้น
00:05:27 → 00:05:29 ในอดีตเราจะเรียกว่าคอหอยพอก นึกออกนะคะ
00:05:29 → 00:05:31 เพราะฉะนั้น ตรงนี้มันจะโตขึ้น
00:05:31 → 00:05:34 เวลามันโตขึ้น มันอาจจะทำงานปกติก็ได้
00:05:35 → 00:05:37 มันอาจจะทำงานน้อยลงก็ได้
00:05:37 → 00:05:39 หรือมันอาจจะทำงานเพิ่มขึ้นก็ได้
00:05:39 → 00:05:41 ในกรณีที่เราเห็นว่าต่อมไทรอยด์มันโตขึ้น
00:05:41 → 00:05:46 อย่างแรกที่เราจะทำก็คือเราจะซักก่อน ว่าคน ๆ นี้อาการผิดปกติหรือเปล่านะคะ
00:05:46 → 00:05:48 อันที่หนึ่ง ดูว่ามีก้อนไหม
00:05:48 → 00:05:51 มีก้อนแล้ว ทำงานเป็นอย่างไร
00:05:51 → 00:05:54 ทำงานมาก ก็ไปรักษาแบบทำงานมาก
00:05:54 → 00:05:56 ทำงานน้อย ก็ไปรักษาแบบทำงานน้อย
00:05:57 → 00:06:00 หรือการทำงานของไทรอยด์ปกติ แต่มีแค่ก้อน
00:06:00 → 00:06:04 ก็ต้องมาดูต่อว่า ก้อนอันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นมะเร็งได้ไหม
00:06:04 → 00:06:05 อาจจะมีการเจาะชิ้นเนื้อตรวจ
00:06:05 → 00:06:07 อาจจะทำอัลตราซาวด์ก่อน เพื่อจะดูว่า
00:06:07 → 00:06:10 หน้าตาแบบนี้ มันเสี่ยงจะเป็นมะเร็งไหม
00:06:10 → 00:06:12 แล้วก็ไปเจาะชิ้นเนื้อตรวจอีกทีหนึ่ง
00:06:12 → 00:06:16 อันนี้คือหลักการคร่าว ๆ เวลาที่เราเห็นต่อมไทรอยด์นะคะ
00:06:16 → 00:06:21 [เสียงดนตรี]
00:06:21 → 00:06:23 ทีนี้พอเราเห็นคร่าว ๆ แล้ว
00:06:23 → 00:06:27 มองภาพออกแล้วว่าเรามีต่อมไทรอยด์อยู่ แล้วเราจะทำอย่างไร
00:06:27 → 00:06:29 สิ่งที่คุณหมอเขารักษานะคะ อันแรกก่อนนะ
00:06:29 → 00:06:32 เมื่อกี้ถ้าสมมุติว่ามีต่อมไทรอยด์
00:06:32 → 00:06:35 ไม่ว่าจะโตหรือไม่โต แต่ว่าฮอร์โมนมันเยอะเกิน
00:06:35 → 00:06:36 สิ่งที่เราทำก็คือ
00:06:37 → 00:06:38 จะไปลดปริมาณของฮอร์โมน
00:06:38 → 00:06:42 เวลาที่เราจะลดปริมาณของฮอร์โมนนี่ เราทำอย่างไรได้บ้าง
00:06:42 → 00:06:44 อันที่หนึ่ง กินยาค่ะ
00:06:44 → 00:06:47 กินยาเข้าไป แล้วไปกดการทำงานของตัวต่อมไทรอยด์
00:06:47 → 00:06:49 ทำให้ฮอร์โมนมันสร้างลดลง
00:06:49 → 00:06:52 โดยทั่วไป เราจะกินยาอยู่ประมาณ 2 ปี
00:06:52 → 00:06:53 แล้วก็ติดตามคนไข้
00:06:54 → 00:06:57 หลัง 2 ปีแล้ว เราอาจจะลองหยุดยาดูนะคะ
00:06:57 → 00:07:01 แต่ก็มีคนไข้จำนวนหนึ่งนะคะ ที่อาจจะมีอาการกลับขึ้นมาใหม่
00:07:01 → 00:07:04 อันนี้ก็จะพิจารณาเป็นราย ๆ ว่า เราจะรักษาต่อเนื่องอย่างไร
00:07:05 → 00:07:08 อันที่สองค่ะ เป็นลักษณะของการผ่าตัด
00:07:08 → 00:07:11 นึกภาพนะ ถ้าต่อมมันโตขึ้นใช่ไหมคะ มันทำงานเยอะขึ้น
00:07:12 → 00:07:15 คุณหมอก็อาจจะไปตัดต่อมบางส่วนออก
00:07:15 → 00:07:16 บางส่วนนะ
00:07:16 → 00:07:19 เพราะว่าเราอาจจะอยากให้ยังมีฮอร์โมนเพียงพอ
00:07:20 → 00:07:21 ตัดออกไปบางส่วน
00:07:21 → 00:07:24 แล้วส่วนที่เหลือยังเพียงพอที่จะสร้างฮอร์โมน
00:07:24 → 00:07:25 อันนี้ก็ทำได้
00:07:25 → 00:07:28 อันที่สามค่ะ ก็คือกลืนน้ำแร่
00:07:28 → 00:07:30 กลืนน้ำแร่ก็คือไปทำลายต่อมเลย
00:07:30 → 00:07:34 สิ่งที่จะตามมาก็คือ รักษาภาวะที่ไทรอยด์เป็นพิษได้
00:07:34 → 00:07:36 แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
00:07:36 → 00:07:38 ไม่มีฮอร์โมน
00:07:38 → 00:07:39 เพราะฉะนั้น คนที่กลืนน้ำแร่ไป
00:07:39 → 00:07:44 สิ่งที่จะตามมาก็คือ อาจจะต้องกินฮอร์โมนทดแทนต่อไปในอนาคต
00:07:44 → 00:07:47 ในกลุ่มที่เป็นไทรอยด์ทำงานต่ำ
00:07:47 → 00:07:48 อันนี้ตรงไปตรงมาค่ะ
00:07:48 → 00:07:52 ก็คือถ้าไทรอยด์มันทำงานต่ำ เราก็จะต้องกินฮอร์โมนทดแทน
00:07:52 → 00:07:56 โดยที่เราจะให้ฮอร์โมนทดแทนเข้าไป แล้วก็ติดตามดูว่า
00:07:56 → 00:07:59 ให้ได้ระดับเพียงพอที่ร่างกายต้องการ
00:07:59 → 00:08:02 อันนี้ก็อาจจะต้องกินต่อไปตลอดชีวิต
00:08:02 → 00:08:05 ขึ้นกับว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดฮอร์โมนต่ำ คืออะไร
00:08:05 → 00:08:09 ทีนี้ในกรณีของไทรอยด์นะคะ โดยเฉพาะไทรอยด์ทำงานต่ำนี่
00:08:09 → 00:08:11 บางทีอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้
00:08:11 → 00:08:13 เคยมีเคสที่เจอนะคะ
00:08:13 → 00:08:16 ก็คือคนไข้มาตรวจด้วยเรื่องของคอเลสเตอรอลสูง
00:08:16 → 00:08:18 อายุก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ ประมาณสัก 40 กว่า ๆ
00:08:19 → 00:08:24 แล้วก็บอกว่า ก่อนหน้านี้สมัยสาว ๆ ก็คอเลสเตอรอลไม่สูง เพิ่งจะสูงช่วงหลัง
00:08:24 → 00:08:28 แล้วพอสังเกตปุ๊บ ปรากฏว่า คนไข้ชีพจรดูช้า ๆ จังเลย ประมาณสัก 60
00:08:28 → 00:08:32 แล้วคนไข้ก็มีเรื่องของความดัน ที่ค่อนข้างสูงนิดนึงนะคะ
00:08:33 → 00:08:36 คนก็จะคิดว่า อ๋อ ก็ฉันมีความดันสูง โน่นนี่นั่น
00:08:36 → 00:08:38 อวบ ๆ หน่อย ๆ อย่างนี้ค่ะ
00:08:38 → 00:08:40 แล้วก็เจอว่า ตอนนั้นก็เลยคุยกับเขา
00:08:40 → 00:08:44 แล้วชีพจรเขาเต้นช้า เขาก็บ่นว่า นี่เขาขี้เกียจ เขาเหนื่อยง่าย
00:08:44 → 00:08:45 เขาใช้คำว่า เขาเหนื่อยง่ายนะคะ
00:08:45 → 00:08:48 ตอนนั้นก็เลยบอกเขาว่า ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตเจาะดูนิดนึงว่า
00:08:48 → 00:08:52 หาสาเหตุที่อาจจะทำให้คอเลสเตอรอลสูง ที่เป็นโรคอื่นอย่างนี้ค่ะ
00:08:52 → 00:08:53 ก็เลยลองเจาะดู
00:08:53 → 00:08:56 ปรากฏว่าเคสนี้มีเรื่องของไทรอยด์ต่ำนะคะ
00:08:56 → 00:08:58 เพราะฉะนั้น บางทีอันนี้ก็อาจจะต้องดูไว้นิดนึง
00:08:58 → 00:09:02 แล้วที่สำคัญคือคนนี้ค่ะ ตอนที่สังเกตก็คือว่าที่คิ้วเขานี่
00:09:02 → 00:09:03 ตรงหางคิ้วค่ะ
00:09:04 → 00:09:05 มันไม่ค่อยมีขนคิ้ว
00:09:05 → 00:09:07 ตอนนั้นก็เลย เอ๊ะ น่าจะเป็นไทรอยด์หรือเปล่า
00:09:07 → 00:09:09 ก็เลยลองเจาะไทรอยด์ดู
00:09:09 → 00:09:12 สรุปว่าเคสนี้มีเรื่องของไทรอยด์ทำงานต่ำ
00:09:12 → 00:09:13 หลังจากนั้นเราก็ให้ฮอร์โมนไทรอยด์
00:09:13 → 00:09:15 พอให้ฮอร์โมนไทรอยด์เสร็จนี่
00:09:15 → 00:09:18 ระดับคอเลสเตอรอลเขาก็กลับมา ค่อนข้างเป็นปกติเลยค่ะ
00:09:18 → 00:09:20 สูงนิดเดียว ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องกินยา
00:09:20 → 00:09:25 แล้วสุดท้าย ในส่วนที่เราเจอก้อน หรือเราสงสัย
00:09:25 → 00:09:27 เหมือนที่บอกค่ะ เราเห็นก้อนที่ต่อมไทรอยด์
00:09:27 → 00:09:30 เราประเมินก่อนว่าฮอร์โมนทำงานเป็นอย่างไร
00:09:30 → 00:09:32 แล้วหลังจากนั้นเราอาจจะไปทำอัลตราซาวด์
00:09:32 → 00:09:34 เพื่อจะดูว่าลักษณะก้อนนี้เป็นอย่างไร
00:09:34 → 00:09:36 แล้วก็อาจจะมีการตัดชิ้นเนื้อ
00:09:36 → 00:09:38 เป็นการเจาะดูดนะคะ ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
00:09:38 → 00:09:41 แล้วดูว่าอันนี้มีความเสี่ยง ที่จะเกิดมะเร็งไหม
00:09:41 → 00:09:43 ถ้าสมมุติว่าเป็นมะเร็ง
00:09:43 → 00:09:45 เราก็จะไปตัดต่อมออกให้หมด
00:09:45 → 00:09:50 แล้วก็กลืนน้ำแร่เพื่อจะไม่ให้เหลือ ตัวเนื้อเยื่อไทรอยด์เลยนะคะ
00:09:50 → 00:09:53 แล้วหลังจากนั้น ก็จะต้องกินฮอร์โมนทดแทนไปนะคะ
00:09:53 → 00:09:59 อันนี้ก็จะเป็นวิธีการรักษา สำหรับเรื่องของตัวไทรอยด์เบื้องต้นคร่าว ๆ
00:09:59 → 00:10:01 เพื่อจะให้ทำความเข้าใจว่า
00:10:01 → 00:10:04 อ๋อ...ถ้าเกิดว่าเราเห็นว่ามีคอโต เราจะต้องทำอย่างไร
00:10:05 → 00:10:07 ถ้าสมมุติเราจิ้มไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของมะเร็ง
00:10:07 → 00:10:09 แล้วฮอร์โมนปกติ
00:10:09 → 00:10:11 สิ่งที่เขาทำก็คืออาจจะติดตามการรักษาค่ะ
00:10:11 → 00:10:15 ถ้าสมมุติว่าเราไม่รู้ หรือว่าเราปล่อยทิ้งเอาไว้
00:10:15 → 00:10:17 ถามว่าเราไม่รักษาได้ไหม
00:10:17 → 00:10:19 เอาง่าย ๆ เลยนะ สมมุติว่าคนที่มีไทรอยด์เป็นพิษ
00:10:19 → 00:10:21 แล้วบอกว่า ก็ดีนี่ ไม่อ้วน ใช่ไหมคะ
00:10:22 → 00:10:24 ก็อยากจะเป็นอย่างนี้อยู่ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
00:10:24 → 00:10:28 อันที่หนึ่งเลยก็คือ ร่างกายเราจะมีการเผาผลาญเพิ่มขึ้นเนอะ
00:10:28 → 00:10:31 อันแรกเลยก็คือจะทำให้กระดูกบาง กระดูกพรุน
00:10:31 → 00:10:33 หัวใจทำงานหนักใช่ไหมคะ
00:10:33 → 00:10:34 หัวใจโตค่ะ
00:10:34 → 00:10:36 หัวใจเต้นผิดจังหวะค่ะ
00:10:36 → 00:10:39 มีเรื่องของหัวใจวายหรือน้ำท่วมปอดได้
00:10:39 → 00:10:42 ที่แย่กว่านั้นคือ ตอนที่หัวใจมันเต้นผิดจังหวะนี่
00:10:42 → 00:10:47 มันมีโอกาสที่จะทำให้ มีลิ่มเลือดตกตะกอนที่หัวใจแล้วก็หลุดไป
00:10:47 → 00:10:50 เกิดเรื่องของ Stroke หรือว่าเรื่องของเส้นเลือดสมองได้
00:10:50 → 00:10:53 หัวใจที่ถูกเต้นเร็ว ๆ มาตลอดเวลา
00:10:53 → 00:10:55 กล้ามเนื้อหัวใจมันทำงานหนัก
00:10:55 → 00:11:01 อันนี้ก็อาจจะทำให้ระยะยาวมีหัวใจวาย หรือว่าหัวใจทำงานผิดปกติได้
00:11:01 → 00:11:04 ซึ่งอันนี้เป็นภาวะแทรกซ้อน ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น
00:11:04 → 00:11:07 อันถัดมาค่ะ ในกรณีของคนที่เป็น Graves' Disease
00:11:07 → 00:11:10 หรือว่าเป็นโรคที่บอกว่ามีตาโปนด้วยเนอะ
00:11:10 → 00:11:13 ถ้าหากว่าไม่ได้รับการรักษานะคะ
00:11:13 → 00:11:16 หรือว่าปล่อยทิ้งไว้นี่ อาจจะทำให้เรื่องของการมองเห็นแย่ลงได้
00:11:16 → 00:11:19 แล้วสุดท้ายเลยค่ะก็คือ
00:11:19 → 00:11:21 เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ค่อนข้างอันตราย
00:11:21 → 00:11:25 ในกรณีที่ฮอร์โมนมันออกมาเยอะ ๆ เวลาที่เราไม่ได้รักษา
00:11:25 → 00:11:29 ฮอร์โมนไทรอยด์ที่มันออกมาเยอะ ๆ มาก ๆ เราจะเรียกว่าเป็น Thyroid storm
00:11:29 → 00:11:31 Storm ที่แปลว่าพายุค่ะ
00:11:31 → 00:11:33 แล้วพอฮอร์โมนมันออกมาเยอะมาก
00:11:33 → 00:11:35 สิ่งที่เกิดขึ้น มีหัวใจวายได้
00:11:35 → 00:11:38 คนไข้อาจจะตัวเหลือง ตาเหลือง ตับแย่ลงไปได้นะคะ
00:11:38 → 00:11:43 แล้วก็อาจจะมีเรื่องของสมอง หรือในแง่ของความรู้สึกตัวแย่ลง
00:11:43 → 00:11:46 พูดจาไม่รู้เรื่อง มีความสับสนนะคะ
00:11:46 → 00:11:48 แล้วก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย
00:11:48 → 00:11:52 จากเรื่องของภาวะแทรกซ้อน จากระบบหลอดเลือดและหัวใจค่ะ
00:11:52 → 00:11:56 นอกจากนี้ ในส่วนของ การที่มีฮอร์โมนไทรอยด์เยอะนี่
00:11:56 → 00:12:01 มันจะทำให้ทุกอย่างในร่างกายเผาผลาญ หรือว่าการทำงานมันเยอะตลอดเลย
00:12:01 → 00:12:03 ในกระดูกของเราก็เหมือนกันค่ะ
00:12:03 → 00:12:06 กระดูกเอง มันก็จะมีเรื่องของการสร้างและการทำลายกระดูก
00:12:06 → 00:12:07 หรือว่าการสลายกระดูกเนอะ
00:12:07 → 00:12:11 ถ้าหากว่าไทรอยด์เป็นพิษนี่ การสลายกระดูกจะมากขึ้น
00:12:11 → 00:12:15 สิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะทำให้กระดูกบาง แล้วก็กระดูกพรุน
00:12:15 → 00:12:18 โอกาสที่จะเกิดเรื่องของกระดูกหักก็มีมากขึ้น
00:12:18 → 00:12:20 แล้วทำให้กล้ามเนื้อนี่อาจจะล้า
00:12:20 → 00:12:22 หรือว่ากล้ามเนื้อมันมีการฝ่อลีบได้
00:12:22 → 00:12:28 เพราะฉะนั้นนี่ สิ่งที่จะเกิดขึ้น เวลาที่คนไข้มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษอยู่นาน ๆ
00:12:28 → 00:12:30 จะผอมลง กล้ามเนื้อไม่มีแรง
00:12:30 → 00:12:33 แล้วก็มีความเสี่ยงในเรื่องของกระดูกเปราะ กระดูกพรุน
00:12:33 → 00:12:37 แล้วก็จะทำให้เกิดเรื่องของการหกล้ม กระดูกหักง่ายขึ้นค่ะ
00:12:37 → 00:12:39 สำหรับภาวะแทรกซ้อนที่พูดไป
00:12:39 → 00:12:43 จะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น จากการที่ไทรอยด์เป็นพิษแล้วเราไม่ได้รักษา
00:12:43 → 00:12:46 ฝั่งตรงข้าม ถ้าเกิดว่าไทรอยด์มันทำงานต่ำ
00:12:46 → 00:12:47 แล้วเราไม่ทราบ
00:12:48 → 00:12:51 หรือว่าเราไม่ได้รักษาอย่างทันท่วงที สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร
00:12:51 → 00:12:54 หลายครั้งนะคะ คนไข้อาจจะมีอาการทางจิตประสาท
00:12:54 → 00:12:55 อาจจะซึมลง
00:12:55 → 00:12:58 อาจจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
00:12:58 → 00:13:01 แล้วยิ่งถ้าเป็นในผู้ใหญ่อย่างนี้ค่ะ แล้วไม่มีภาวะคอโตด้วย
00:13:01 → 00:13:04 บางทีเราไม่รู้เลยว่าคนไข้มีปัญหา
00:13:04 → 00:13:08 บางคนก็คิดว่า อ๋อ เป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีโน่นนี่นั่นอะไรอย่างนี้
00:13:08 → 00:13:12 มีบางคนถูกเอาไปรักษา ในโรคของทางจิตเวชด้วยซ้ำไป
00:13:12 → 00:13:15 เพราะฉะนั้น เป็นอันหนึ่งที่สามารถจะรักษาได้
00:13:15 → 00:13:18 เพราะฉะนั้น ควรจะต้องดูไว้นิดนึงนะคะ
00:13:18 → 00:13:19 สิ่งหนึ่งที่อาจจะดูได้
00:13:19 → 00:13:23 สมมุติเวลาที่เราจับชีพจร ก็คือชีพจรอาจจะช้าลงนะคะ
00:13:23 → 00:13:25 ในผู้ใหญ่บางที เอ๊ะ ชีพจรดูช้า ๆ
00:13:25 → 00:13:28 คนไข้พูดแล้วช้า ๆ
00:13:28 → 00:13:31 ลิ้นบวม ๆ หรือว่าดูตัวบวม ๆ
00:13:31 → 00:13:33 อันนี้ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าอาจจะมี
00:13:33 → 00:13:38 อีกอันหนึ่งค่ะ ที่มันเป็นอันหนึ่งที่เขาบอก แต่ว่าไม่ได้เจอในทุกคนนะคะ
00:13:38 → 00:13:39 เขาบอกว่าให้มองที่คิ้วค่ะ
00:13:39 → 00:13:43 ถ้าสมมุติว่าด้านปลายของคิ้ว ด้านข้างนะคะ
00:13:43 → 00:13:45 สมมุติเราแบ่งคิ้วออกเป็น 3 ส่วนเนอะ
00:13:45 → 00:13:47 ส่วนปลายด้านนี้ที่เป็นหางคิ้วค่ะ
00:13:47 → 00:13:48 ไม่ค่อยมี
00:13:48 → 00:13:50 ผมดูบาง ๆ
00:13:50 → 00:13:54 อันนี้ให้สงสัยด้วยว่า คนไข้อาจจะมีเรื่องของไทรอยด์ที่ทำงานต่ำ
00:13:54 → 00:13:57 ผิวแห้ง ๆ ขนร่วง ผมร่วง
00:13:57 → 00:13:59 ผิวบาง หรือว่าขนคิ้วหาย
00:13:59 → 00:14:00 ชีพจรช้า
00:14:00 → 00:14:05 อันนี้วิ่งไปดูเลยนะคะว่ามีไทรอยด์ผิดปกติ เป็นไทรอยด์ต่ำหรือเปล่าค่ะ
00:14:05 → 00:14:09 นอกเหนือจากเรื่องของพฤติกรรม ที่ผิดปกติใช่ไหมคะ
00:14:09 → 00:14:11 เรื่องอารมณ์ เรื่องของการพูดคุยแล้วนี่
00:14:11 → 00:14:13 ที่บอกว่าผิดปกติของไทรอยด์นี่
00:14:14 → 00:14:17 ในแง่ของตัวไทรอยด์ที่ทำงานต่ำไปนี่
00:14:17 → 00:14:19 ก็อาจจะมีผลกับเรื่องของเมตาบอลิซึมเนอะ
00:14:19 → 00:14:22 อาจจะมีเรื่องของคอเลสเตอรอลที่สูงผิดปกติ
00:14:22 → 00:14:25 หรือว่าอาจจะมีความผิดปกติของระบบหลอดเลือด แล้วก็สมอง
00:14:25 → 00:14:27 จะมีการทำงานของหัวใจที่ผิดปกติได้
00:14:27 → 00:14:30 เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้วนี่ ไม่ว่าจะทำงานมากเกินไป
00:14:30 → 00:14:33 หรือน้อยเกินไป ก็มีผลกับหัวใจเช่นกัน
00:14:33 → 00:14:35 เพราะฉะนั้นนี่ ถ้าสมมุติว่าสงสัย
00:14:35 → 00:14:38 ก็ควรที่จะตรวจดูเรื่องของไทรอยด์ด้วยค่ะ
00:14:38 → 00:14:43 [เสียงดนตรี]
00:14:43 → 00:14:47 ในส่วนของเรื่องอาหารสำหรับในคนไข้ ที่มีปัญหาเรื่องไทรอยด์นะคะ
00:14:47 → 00:14:48 เราจะดูทีละอันก่อน
00:14:48 → 00:14:51 สมมุติว่าถ้าเขามีเรื่องของ ไทรอยด์เป็นพิษใช่ไหมคะ
00:14:51 → 00:14:53 จริง ๆ หลักการง่าย ๆ ก็คือว่า
00:14:53 → 00:14:56 เขาจะต้องกินอาหารตามหมวดหมู่ปกติ 5 หมู่
00:14:56 → 00:14:58 แล้วก็ต้องรักษาตัวโรค
00:14:58 → 00:15:01 ทีนี้อันหนึ่งที่จะเจอ แล้วคนไข้จะถามบ่อย ๆ ก็คือว่า
00:15:01 → 00:15:04 เริ่มต้นตอนที่เป็นไทรอยด์เป็นพิษค่ะ น้ำหนักอาจจะลดลง
00:15:04 → 00:15:07 พอรักษาเสร็จปุ๊บ น้ำหนักจะขึ้นทันทีเลย
00:15:07 → 00:15:08 อันนี้คือเป็นปกตินะคะ
00:15:08 → 00:15:12 เพราะว่านึกภาพออกตอนแรกนี่ การเผาผลาญเราจะเยอะใช่ไหมคะ
00:15:12 → 00:15:15 พอเราให้ยาไปนี่ การเผาผลาญเขาจะกลับมาเป็นปกติ
00:15:15 → 00:15:19 สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเขากินเท่าเดิม น้ำหนักเขาก็จะขึ้นแน่ ๆ
00:15:19 → 00:15:23 ทีนี้ในกรณีที่ตอนที่เราบอกว่าไทรอยด์เป็นพิษ
00:15:23 → 00:15:27 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กระดูกใช่ไหมคะ มันก็จะมีเรื่องของความเสี่ยงของกระดูกพรุน
00:15:27 → 00:15:29 กล้ามเนื้อนะคะ
00:15:29 → 00:15:31 เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะต้องเสริมจริง ๆ
00:15:31 → 00:15:34 ก็คือจะเป็นเรื่องของอาหาร 5 หมู่ กินโปรตีนให้เพียงพอ
00:15:34 → 00:15:36 มีแคลเซียม วิตามินดี
00:15:36 → 00:15:39 เพื่อจะช่วยทำให้กระดูก และกล้ามเนื้อของเรานี่
00:15:39 → 00:15:41 กลับมาทำงานได้ตามปกติ
00:15:41 → 00:15:44 อันที่ 2 ที่จะต้องเป็น ข้อควรระวังมากกว่านะคะ
00:15:44 → 00:15:46 คือในกรณีของคนที่ผ่าตัดไทรอยด์
00:15:46 → 00:15:48 ทีนี้มันจะมีต่อมเล็ก ๆ อยู่อันนึง
00:15:48 → 00:15:52 ซึ่งจะอยู่ด้านหลังไทรอยด์ เวลาที่ผ่าตัดบางครั้งนี่
00:15:52 → 00:15:56 มันอาจจะโดนตัดเอาต่อมพาราไทรอยด์ไปด้วย
00:15:56 → 00:15:59 ถ้าโดนต่อมพาราไทรอยด์ไปด้วย สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
00:15:59 → 00:16:01 แคลเซียมมันจะต่ำนะคะ
00:16:01 → 00:16:03 หลังผ่าตัดเสร็จ อาจจะมีมือจีบ
00:16:03 → 00:16:09 ซึ่งอันนี้ล่ะค่ะ อาจจะจำเป็นที่จะต้องได้ แคลเซียมเสริมมากขึ้นนะคะ
00:16:09 → 00:16:13 ซึ่งอันนี้ คุณหมอที่เขาดูแลนี่ เขาจะมีการติดตามอีกทีหนึ่งนะคะ
00:16:13 → 00:16:16 พวกนั้นจะต้องได้แคลเซียมเสริม และวิตามินดีเพิ่มขึ้น
00:16:16 → 00:16:19 สำหรับในกรณีถ้าโดนเรื่องของต่อมพาราไทรอยด์
00:16:19 → 00:16:22 ในกลุ่มของฮอร์โมนที่ไทรอยด์ทำงานต่ำ
00:16:22 → 00:16:25 โดยทั่วไปเวลาที่เริ่มให้ฮอร์โมนไทรอยด์นี่
00:16:25 → 00:16:29 ไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนใหญ่น้ำหนักก็จะเริ่มลดลงนะคะ
00:16:29 → 00:16:31 แล้วก็จะสามารถกินอาหารได้ตามปกติ
00:16:31 → 00:16:34 ถ้าสมมุติว่าเขาไม่ได้ให้ฮอร์โมนมากจนเกินไป
00:16:34 → 00:16:37 ก็จะไม่ค่อยมีผลกับเรื่องของกระดูกใด ๆ
00:16:37 → 00:16:41 ทีนี้มันมีอีกอันหนึ่งค่ะ เรื่องของไอโอดีน จะชอบมีคนถามว่า
00:16:41 → 00:16:43 เอ๊ะ แล้วไอโอดีนกินได้ไหม
00:16:43 → 00:16:44 ต้องบอกว่าอย่างนี้นะคะ
00:16:44 → 00:16:49 ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในเรื่องของ การสร้างฮอร์โมนไทรอยด์
00:16:49 → 00:16:52 เพราะฉะนั้น ถ้าในกรณีของไทรอยด์เป็นพิษ มีคนถามว่า
00:16:52 → 00:16:54 เอ๊ะ ถ้าเรากินไอโอดีนไปเยอะ ๆ
00:16:54 → 00:16:57 จะทำให้ไทรอยด์เป็นพิษเรา เกิดมากขึ้นหรือเปล่า
00:16:57 → 00:16:58 หรือว่าถ้าเรามีไทรอยด์เป็นพิษ
00:16:58 → 00:17:02 เราห้ามกินอาหารทะเล หรืออาหารที่มันมีไอโอดีนหรือเปล่า
00:17:02 → 00:17:05 อันนี้ต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ แล้วเวลาที่ไทรอยด์เป็นพิษ
00:17:05 → 00:17:07 กินหรือไม่กินไอโอดีน
00:17:07 → 00:17:09 ฮอร์โมนไทรอยด์มันก็จะออกมาเยอะอยู่แล้ว
00:17:09 → 00:17:11 เพราะฉะนั้น จริง ๆ เราต้องบอกว่า
00:17:11 → 00:17:15 การรักษาหลักของไทรอยด์เป็นพิษ คือไปจัดการลดฮอร์โมนไทรอยด์
00:17:15 → 00:17:17 ไม่ว่าจะเป็นด้วยยา
00:17:17 → 00:17:19 ไม่ว่าจะเป็นด้วยเรื่องของการกลืนไอโอดีน
00:17:19 → 00:17:20 หรือว่าจะเป็นเรื่องของการผ่าตัด
00:17:21 → 00:17:22 ในเรื่องของแร่ธาตุที่เป็นไอโอดีน
00:17:22 → 00:17:25 เราไม่ได้กินมาก จนกระทั่งทำให้มันเกิด เรื่องของไทรอยด์เป็นพิษ
00:17:26 → 00:17:29 ทีนี้มีอีกอันหนึ่งที่เราจะได้ยิน บางคนก็จะมาถามว่า
00:17:29 → 00:17:34 เอ๊ะ คุณหมอครับ ถ้าสมมุติว่า ผมคอโต ผมกินกะหล่ำปลี
00:17:34 → 00:17:37 แล้วจะทำให้คอโตหรือเปล่า ทำให้คอหอยพอกหรือเปล่า
00:17:37 → 00:17:39 ตอนแรกที่ได้ยินคำถามนี้ก็งงนิดนึง
00:17:39 → 00:17:42 แล้วก็กลับไปเปิดดู อ๋อ จริง ๆ ด้วยค่ะ
00:17:42 → 00:17:48 มีงานวิจัยเล็ก ๆ ที่เขาศึกษาในกระต่าย ที่กินตัวกะหล่ำปลีสด
00:17:48 → 00:17:51 กินกะหล่ำปลีสดเยอะ ๆ แล้วทำให้เกิดคอหอยพอกของกระต่าย
00:17:52 → 00:17:55 เราก็เลยเรียกสารตัวนี้ เราเรียกว่าเป็นกอยโตรเจน
00:17:55 → 00:17:57 เพราะว่าคอหอยพอกนี่ ภาษาอังกฤษเราเรียกว่า goiter
00:17:57 → 00:17:59 เราก็เรียก กอยโตรเจน (goitrogen)
00:17:59 → 00:18:01 ทีนี้เราก็ไปดูว่ามันมีสารบางตัว
00:18:01 → 00:18:05 ซึ่งจะไปยับยั้งการทำงานของตัวต่อมไทรอยด์
00:18:05 → 00:18:07 ทำให้สร้างฮอร์โมนได้น้อยลง
00:18:07 → 00:18:09 แล้วต่อมไทรอยด์ก็เหมือนจะต้องทำงานหนักขึ้น
00:18:10 → 00:18:11 ตัวต่อมมันก็เลยโตขึ้น
00:18:11 → 00:18:16 หลักการเดียวกันกับตอนที่คนไข้ขาดไอโอดีน สมัยก่อน แล้วเป็นคอหอยพอกค่ะ
00:18:16 → 00:18:17 ก็เหมือนกันเลย
00:18:17 → 00:18:22 ทีนี้คำถามคือ เอ๊ะ แล้วถ้าอย่างนั้นนี่ อาหารอะไรบ้างที่มันจะมีสารพวกนี้
00:18:22 → 00:18:25 ก็จะอยู่ในผักและผลไม้เป็นหลัก อย่างนี้ค่ะ
00:18:25 → 00:18:26 ผักสีเขียวเข้ม ๆ
00:18:26 → 00:18:30 ก็จะบอก เอ๊ะ แต่ว่าผักสีเขียวเข้ม ๆ นี่ มันมีสารต้านอนุมูลอิสระ
00:18:30 → 00:18:32 มันเป็นของที่ดีไม่ใช่เหรอ
00:18:32 → 00:18:34 แล้วกินเข้าไป แล้วจะแย่หรือเปล่า
00:18:34 → 00:18:36 ต้องบอกอย่างนี้นะคะ โดยทั่วไปค่ะ
00:18:36 → 00:18:38 ถ้าเป็นคนปกติ
00:18:38 → 00:18:43 อันที่หนึ่งก็คือ การกินพวกของผักที่มันมีสารพวกนี้
00:18:43 → 00:18:45 อาจจะไม่ได้มีผลมากมายนัก
00:18:45 → 00:18:48 สำหรับเรื่องของการกระตุ้น ให้เกิดเรื่องของคอหอยพอก
00:18:48 → 00:18:49 ใช้คำว่า “อาจจะ” นะ
00:18:49 → 00:18:55 อาจจะมีผลสำหรับคนที่มีปัญหา เรื่องของการสร้างฮอร์โมนที่ผิดปกติอยู่แล้ว
00:18:55 → 00:18:58 วิธีการแก้ไข เนื่องจากผักพวกนี้มันมีประโยชน์ใช่ไหมคะ
00:18:58 → 00:19:02 วิธีการที่จะทำให้สารพวกนี้มันหายไป ก็คือ แค่ทำให้มันสุกค่ะ
00:19:02 → 00:19:03 ผ่านความร้อน
00:19:03 → 00:19:05 แค่เอาไปต้มมันนะคะ แค่เอาไปลวกมัน
00:19:06 → 00:19:07 แค่นี้ แล้วเราเอามากิน
00:19:07 → 00:19:11 อันนี้ก็จะลดปริมาณของสาร ที่เราเรียกว่ากอยโตรเจน
00:19:11 → 00:19:15 ก็คือ เรากินอาหารให้หลากหลาย อย่ากินซ้ำ ๆ
00:19:15 → 00:19:19 เราก็จะลดความเสี่ยง ในการที่จะได้รับสารพวกนี้เข้ามา
00:19:19 → 00:19:21 เพราะฉะนั้น ในคนปกติค่ะ
00:19:21 → 00:19:24 ถ้าเราไม่ได้แบบว่า… กินกะหล่ำปลีสดทีละเป็นกิโลสองกิโล
00:19:24 → 00:19:28 อันนี้ก็แทบจะไม่มีผลเลยกับชีวิตเรา เรายังสามารถที่จะกินได้
00:19:29 → 00:19:33 หรือถ้าชอบกินกะหล่ำปลี ก็กินสดบ้าง กินสุกบ้าง ลวกบ้าง
00:19:33 → 00:19:38 อันนี้ก็จะช่วยลดเรื่องของความเสี่ยง ที่จะไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ค่ะ
00:19:38 → 00:19:43 [เสียงดนตรี]
00:19:43 → 00:19:45 ในแง่ของการปรับสมดุลไทรอยด์นะคะ
00:19:45 → 00:19:46 เอาง่าย ๆ เลยก็คือว่า
00:19:46 → 00:19:52 ตอนนี้แร่ธาตุที่จะช่วยในเรื่องของ การทำงานหรือว่าการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์
00:19:52 → 00:19:55 ก็จะมีตั้งแต่ไอโอดีน สังกะสี และซีลีเนียม
00:19:55 → 00:19:58 เพราะฉะนั้น ถ้าสมมุติว่า คน ๆ นี้มีไทรอยด์เป็นพิษ
00:19:58 → 00:20:02 นอกเหนือจากการที่เราจะให้ยา เพื่อจะไปลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์แล้วนี่
00:20:02 → 00:20:07 ในช่วงต้นเราอาจจะลดหรือว่าอาจจะเลี่ยง อาหารที่มันมีพวกของไอโอดีนเยอะ
00:20:08 → 00:20:10 สังกะสีเยอะ หรือว่าซีลีเนียมเยอะ
00:20:10 → 00:20:12 แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ไม่ได้นะคะ
00:20:12 → 00:20:14 หลักจริง ๆ ก็คือจะไปจัดการกับยา
00:20:14 → 00:20:16 แต่ว่าในช่วงต้นก็อาจจะแบบว่า...
00:20:16 → 00:20:20 เลือกสารอาหารที่มันมีสังกะสี ไอโอดีน แล้วก็ซีลีเนียมน้อยหน่อย
00:20:20 → 00:20:24 แล้วหลังจากนั้นพอเวลาที่ ฮอร์โมนมันถูกควบคุมได้ด้วยยาแล้ว
00:20:24 → 00:20:26 เขาก็จะกลับมากินได้ตามปกติ
00:20:26 → 00:20:30 อาหารที่มีไอโอดีน ง่าย ๆ เลยก็คือ พวกของอาหารทะเล
00:20:30 → 00:20:33 อันที่สอง พวกของซีลีเนียม หรือว่าพวกของสังกะสี
00:20:33 → 00:20:38 ก็จะอยู่ในพวกถั่วได้ อยู่ในพวกเครื่องใน อยู่ในพวกของซีฟู้ด อาหารทะเลได้นะคะ
00:20:38 → 00:20:41 เพราะฉะนั้น ในช่วงแรกก็อาจจะลดลงนิดนึง
00:20:41 → 00:20:44 แล้วพอหลังจากที่รักษาได้ดีแล้ว ก็ค่อยมาเพิ่มกินได้
00:20:44 → 00:20:47 ก็คือว่าในกรณีที่ไทรอยด์เป็นพิษใช่ไหมคะ
00:20:47 → 00:20:51 ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องของตัว การสลายของกระดูกเยอะขึ้น
00:20:51 → 00:20:54 คนไข้น้ำหนักลดลง กล้ามเนื้อไม่มีแรง
00:20:54 → 00:20:57 เพราะฉะนั้น ก็อาจจะต้องเพิ่มโปรตีน
00:20:57 → 00:20:59 เพิ่มการออกกำลังกาย กินวิตามินดี
00:21:00 → 00:21:01 แล้วก็กินแคลเซียมให้เพียงพอ
00:21:01 → 00:21:05 เพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงาน ของกระดูกและกล้ามเนื้อ
00:21:05 → 00:21:11 แคลเซียมก็อยู่ในนม อยู่ในปลาตัวเล็กตัวน้อย อยู่ในงาใช่ไหมคะ แล้วก็ผักสีเขียวเข้ม ๆ
00:21:11 → 00:21:14 ส่วนวิตามินดีก็ควรจะต้องไปออกแดดนิดนึง
00:21:14 → 00:21:17 หรือว่าจะอยู่ในพวกของเห็ดหอม
00:21:17 → 00:21:18 โดยเฉพาะเห็ดหอมแห้งนะคะ
00:21:18 → 00:21:20 อันนี้ก็จะมีวิตามินดีอยู่ค่ะ
00:21:21 → 00:21:23 นอกจากนี้นะคะ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับตัวไทรอยด์โดยตรง
00:21:23 → 00:21:26 แต่ในกรณีที่เรามีไทรอยด์เป็นพิษค่ะ
00:21:26 → 00:21:28 เราก็จะรู้ว่าคนไข้นี่จะใจสั่น
00:21:28 → 00:21:30 จะมีเรื่องของนอนไม่หลับ
00:21:30 → 00:21:34 เพราะฉะนั้น อาหารพวกที่จะไปกระตุ้น เรื่องของการเต้นของหัวใจ
00:21:34 → 00:21:39 หรือว่าจะทำให้นอนไม่หลับ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง เช่น พวกชา กาแฟ พวกนี้
00:21:39 → 00:21:42 มีคำถามต่อว่า เวลาที่เราเป็นไทรอยด์ไปแล้วนี่
00:21:42 → 00:21:43 เราจะเป็นซ้ำได้อีกไหม
00:21:43 → 00:21:44 ต้องแยกเป็น 2 อันเนอะ
00:21:44 → 00:21:47 ถ้าสมมุติว่าไทรอยด์มันทำงานต่ำ
00:21:47 → 00:21:48 ต่ำแล้วต่ำเลย
00:21:48 → 00:21:51 อันนี้ก็ต้องกินฮอร์โมนทดแทนไปตลอดนะคะ
00:21:51 → 00:21:53 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็ไม่ใช้คำว่าเป็นซ้ำแล้ว
00:21:53 → 00:21:57 อันที่สอง อันที่จะเป็นซ้ำได้ คือไทรอยด์เป็นพิษค่ะ
00:21:57 → 00:21:59 ไทรอยด์เป็นพิษนี่ เวลาที่เรารักษา
00:21:59 → 00:22:02 เหมือนที่บอกตอนแรกเลย เราจะกินยาอย่างน้อยประมาณ 2 ปี
00:22:02 → 00:22:06 ฮอร์โมนกลับมาเป็นปกติแล้ว ครบ 2 ปี บางทีคุณหมอจะให้หยุดยานะคะ
00:22:06 → 00:22:08 โอกาสที่จะเป็นซ้ำ เป็นได้ค่ะ
00:22:08 → 00:22:10 โดยเฉพาะในกลุ่มที่เราบอกว่า
00:22:10 → 00:22:13 เขาเป็นไทรอยด์ เกิดจากการที่มีภูมิคุ้มกันตัวเอง
00:22:13 → 00:22:15 ต่อต้านตัวต่อมไทรอยด์
00:22:16 → 00:22:18 แล้วก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องของการเป็นซ้ำได้
00:22:18 → 00:22:19 ถ้าเป็นซ้ำ
00:22:19 → 00:22:23 เราก็จะพิจารณาว่า อันที่หนึ่ง เราอาจจะกินยายาวขึ้น
00:22:23 → 00:22:25 หรือสอง เราอาจจะใช้วิธีกลืนน้ำแร่
00:22:25 → 00:22:26 พอกลืนน้ำแร่เสร็จปุ๊บ
00:22:27 → 00:22:28 ภาวะไทรอยด์เป็นพิษหายค่ะ
00:22:28 → 00:22:31 แต่ว่าจะตามมาด้วย การกินเรื่องของฮอร์โมนทดแทน
00:22:32 → 00:22:35 คนไข้ไทรอยด์ยังมีลูกได้ไหม ตอบว่ามีได้นะคะ
00:22:35 → 00:22:37 แต่ว่าในช่วงที่ฮอร์โมนผิดปกติ
00:22:37 → 00:22:41 อาจจะมีผลกับเรื่องของโอกาสในการตั้งครรภ์
00:22:41 → 00:22:45 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างสเปิร์ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงานของไข่
00:22:45 → 00:22:48 เพราะฉะนั้น โดยทั่วไป คนไข้ที่มีปัญหาโรคไทรอยด์
00:22:48 → 00:22:51 ไม่ว่าจะเป็นไทรอยด์เป็นพิษ หรือว่าไทรอยด์ทำงานต่ำ
00:22:51 → 00:22:53 ถ้าเรารักษาแล้วค่ะ
00:22:53 → 00:22:56 คนไข้ก็จะยังสามารถกลับมามีลูกได้นะคะ
00:22:56 → 00:23:00 ในกรณีของไทรอยด์ มีความจำเป็น ที่จะต้องได้รับอาหารเสริมหรือเปล่า
00:23:00 → 00:23:02 หรือว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือเปล่า
00:23:02 → 00:23:07 จริง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่จำเป็น จะต้องกินเสริมขึ้นไปมากกว่าปกติ
00:23:07 → 00:23:08 จริง ๆ แล้ว คนไข้ไทรอยด์นี่
00:23:08 → 00:23:11 หลัก ๆ คือเรารักษาตรงที่ตัวโรคเนอะ
00:23:12 → 00:23:13 ถ้าฮอร์โมนมันเยอะเกินไป
00:23:13 → 00:23:15 ก็จะมียาที่ทำให้ฮอร์โมนลดลงมา
00:23:16 → 00:23:18 ลดลงมาในที่นี้ คือลดลงมาอยู่ในระดับปกติ
00:23:18 → 00:23:21 ถ้าฮอร์โมนต่ำเกินไป เราก็จะมีฮอร์โมนทดแทนนะคะ
00:23:21 → 00:23:26 เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นว่าจะต้องมี การกินอาหารเสริมอะไรเป็นพิเศษสำหรับตัวโรค
00:23:26 → 00:23:28 ถามว่า แล้วถ้าเราอยากจะกินโน่นนี่นั่น
00:23:28 → 00:23:30 คิดเหมือนคนปกติเลยค่ะ
00:23:30 → 00:23:32 สามารถกินแบบคนปกติได้ค่ะ
00:23:32 → 00:23:37 [เสียงดนตรี]
00:23:37 → 00:23:39 ดังนั้นนี่ ทั้งหมดที่เล่ามาให้ฟัง
00:23:39 → 00:23:42 ก็คือจะเป็นเรื่องของโรคของต่อมไทรอยด์
00:23:43 → 00:23:45 ตั้งแต่ไทรอยด์เป็นพิษ ไทรอยด์ทำงานต่ำ
00:23:45 → 00:23:49 หรือแม้กระทั่งเราเจอว่า ตัวไทรอยด์นี่มันโตขึ้น
00:23:49 → 00:23:52 ว่าเราจะมีหลักการในการคิด วินิจฉัย
00:23:52 → 00:23:55 แล้วก็ให้อาหาร หรือว่าให้การรักษาอย่างไรค่ะ
00:23:55 → 00:23:58 สุดท้ายนะคะ ถ้าสมมุติว่าคนฟังรู้สึกว่า
00:23:58 → 00:24:01 เอ๊ะ สงสัยว่าฉันจะมีปัญหา กับเรื่องไทรอยด์แล้ว
00:24:01 → 00:24:04 หรือว่าสังเกตเห็นว่าตัวไทรอยด์โตขึ้นนะคะ
00:24:04 → 00:24:06 ก็แนะนำว่าไปเจอแพทย์เลยค่ะ
00:24:06 → 00:24:09 จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง แล้วก็จะได้ตรวจวินิจฉัย
00:24:09 → 00:24:11 และรักษาตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ
00:24:11 → 00:24:16 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้
00:24:16 → 00:24:18 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
00:24:18 → 00:24:20 ที่ Mahidol Channel Podcast
00:24:20 → 00:24:23 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
00:24:23 → 00:24:24 YouTube Mahidol Channel
00:24:25 → 00:24:26 Apple Podcasts
00:24:26 → 00:24:27 Spotify
00:24:27 → 00:24:28 Anchor
00:24:28 → 00:24:29 Joox
00:24:31 → 00:24:37 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
00:24:37 → 00:24:39 [เสียงดนตรี]