00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับปัจจุบันวัฒนธรรมเกาหลีนะครับ

00:00:03 → 00:00:06 ก็เข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นอย่างมากนะครับ

00:00:06 → 00:00:09 แล้วก็แน่นอนทุกคนก็คงจะรู้จักกิมจินะ

00:00:09 → 00:00:12 ครับกิมจิเนี่ยมันมีทั้งข้อดีข้อเสียนะ

00:00:12 → 00:00:15 ครับวันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่องนี้มา

00:00:15 → 00:00:17 เล่าให้ฟังกันเลยนะครับว่าเฮ้ยมันมีข้อดี

00:00:17 → 00:00:19 อย่างไรบ้างแล้วมันมีข้อเสียอะไรไหม

00:00:19 → 00:00:22 สำหรับเรื่องของกิมจินะครับพบกับผมนะครับ

00:00:22 → 00:00:24 นายแพทย์ธานีธนียวรรณนะครับเป็นอาจารย์

00:00:24 → 00:00:26 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ

00:00:26 → 00:00:29 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ

00:00:29 → 00:00:32 เรื่องของกิมจินั้นเนี่ยจริงๆมันก็คือผัก

00:00:32 → 00:00:36 กาดดองด้วยวิธีพิเศษนะครับมีส่วนประกอบ

00:00:36 → 00:00:38 หลายๆอย่างนะครับไม่ว่าจะเป็นเกลือนะครับ

00:00:38 → 00:00:42 น้ำตาลน้ำผึ้งพริกของทางเกาหลีนะครับบาง

00:00:42 → 00:00:44 คนก็มีการใส่อย่างอื่นเพิ่มเข้าไปแล้วแต่

00:00:44 → 00:00:48 ว่าชอบอะไรนะครับอ่าก็จะมีการหมักพวก

00:00:48 → 00:00:51 เนี่ยเราก็มีกระเทียมมีหัวหอมนะครับก็มี

00:00:51 → 00:00:55 หลายๆสูตรด้วยกันนะครับหลายคนที่ชอบกิน

00:00:55 → 00:00:57 กิมจิเนี่ยนะครับก็คงจะทราบดีว่าเฮ้ยมัน

00:00:57 → 00:00:59 มีข้อดีนะครับเพราะอย่างแรกมันก็เป็นผัก

00:00:59 → 00:01:03 ถูกไหมครับเป็นผักเป็นต้นตอของโปรไบโอติก

00:01:03 → 00:01:05 ต่างๆนะครับหรือแบคทีเรียที่ดีเพราะว่า

00:01:05 → 00:01:07 แบคทีเรียพวกนี้นะครับมันก็จะเข้าไปอยู่

00:01:07 → 00:01:10 ในลำไส้ใหญ่ของเรานะครับช่วยทำให้มันเกิด

00:01:10 → 00:01:14 สมดุลนะครับป้องกันการติดเชื้อที่มันไม่

00:01:14 → 00:01:16 ควรจะเข้าไปในลำไส้ของเราได้นะครับแล้ว

00:01:16 → 00:01:18 นอกเหนือจากนี้มันก็อาจจะช่วยเหลือเรื่อง

00:01:18 → 00:01:20 อื่นๆได้เช่นกันนะครับเรื่องของการสร้าง

00:01:20 → 00:02:24 สมดุลของร่างกายนะครับต่างๆนะครับ

00:02:24 → 00:02:27 ปัญหาของงานวิจัยเหล่านั้นเนี่ยคือ

00:02:27 → 00:02:29 มันไม่สามารถสรุปได้ว่ามันช่วยเรื่องของ

00:02:29 → 00:02:32 มะเร็งหรือเรื่องอื่นๆได้แค่ไหนนะครับดัง

00:02:32 → 00:02:34 นั้นสำหรับส่วนตัวของผมแล้วเนี่ยการกิน

00:02:34 → 00:02:37 แค่พอประมาณมันจะดีที่สุดกินเยอะเกินไป

00:02:37 → 00:02:40 มันก็มีปัญหากินน้อยเกินไปมันก็อาจจะไม่

00:02:40 → 00:02:42 ได้ประโยชน์แต่อย่างใดนะครับโดยทั่วๆไป

00:02:42 → 00:02:44 อาทิตย์ละครั้งสองครั้งหรือ 3 ครั้งเนี่ย

00:02:44 → 00:02:46 ก็เพียงพอแล้วนะครับกินเยอะๆมันก็ไม่ได้

00:02:46 → 00:02:50 อะไรขึ้นมานะครับทีนี้พอเรารู้ข้อดีแล้ว

00:02:50 → 00:02:54 กิมจิมีข้อเสียหรือเปล่าอันนี้ผมคิดว่า

00:02:54 → 00:02:57 หลายๆคนก็คงจะอยากทราบนะครับอย่างแรกเลย

00:02:57 → 00:03:00 นะครับมันเป็นกิมจิเนี่ยมันจะกลายเป็น

00:03:00 → 00:03:03 กิมจิได้มันจะต้องมีการหมักนะครับการหมัก

00:03:03 → 00:03:06 ของเขาเนี่ยแบคทีเรียที่หมักมันจะทำให้

00:03:06 → 00:03:08 เกิดกรดและติดนะครับแล้วนั่นแหละครับคือ

00:03:08 → 00:03:11 ทำให้เกิดรสชาติที่มันมีความเปรี้ยวนิดๆ

00:03:11 → 00:03:14 หน่อยๆในตัวกิมจินะครับแล้วก็แล้วแต่สูตร

00:03:14 → 00:03:16 ว่าจะเปรี้ยวมากเปรี้ยวน้อยนะครับดังนั้น

00:03:16 → 00:03:19 ก็คือเป็นเหตุผลที่กิมจิมันมีรสชาติดัง

00:03:19 → 00:03:23 กล่าวนะครับแต่กิมจิมันก็จะไม่เหมาะกับคน

00:03:23 → 00:03:25 บางคนนะครับกระบวนการหมักเนี่ยมันจะทำให้

00:03:25 → 00:03:29 เกิดแก๊สนะครับเราก็อาหารต่างๆที่อยู่ใน

00:03:29 → 00:03:32 นั้นเช่นตัวหัวหอมเนี่ยตัวดีเลยนะครับที่

00:03:32 → 00:03:34 จะหมักแล้วก็เกิดแก๊สดังนั้นมันแปลว่าคน

00:03:34 → 00:03:38 ที่มีโรคลำไส้แปรปรวนหรือ elevisible

00:03:38 → 00:03:40 Brown Syndrome เนี่ยกินกิมจิอาจจะไม่

00:03:40 → 00:03:42 เหมาะนะครับอาจจะมีอาการปวดท้องได้นะครับ

00:03:42 → 00:03:45 ปวดท้องท้องอืดได้มากกว่าเดิมอีกนะครับ

00:03:45 → 00:03:49 ดังนั้นคนไข้ที่มีโรค ibs ผมจะไม่แนะนำนะ

00:03:49 → 00:03:51 ครับว่าได้ไปกินกิมจิแล้วท่านอาจจะมี

00:03:51 → 00:03:55 ปัญหาได้นะครับอันนั้นอันที่ 1 ต่อมาถ้า

00:03:55 → 00:03:57 เราสมมุติเราไปซื้อกิมจิที่เขาทำสำเร็จ

00:03:57 → 00:04:00 รูปเนี่ยเราไม่แน่ใจเลยนะครับว่าเขาใส่

00:04:00 → 00:04:03 อะไรลงไปบ้างนะครับบางแหล่งเขาใส่ตัวน้ำ

00:04:03 → 00:04:06 ตาลหรือน้ำผึ้งลงไปเยอะเกินไปแน่นอนว่าก็

00:04:06 → 00:04:09 ได้ปริมาณน้ำตาลกับแคลอรี่ที่มันมากจน

00:04:09 → 00:04:12 เกินไปนะครับเพราะว่าบางคนเขาไม่ชอบกิมจิ

00:04:12 → 00:04:15 ชนิดที่มีความความฝาดความเปรี้ยวนะครับก็

00:04:15 → 00:04:18 อาจจะมีการใส่น้ำตาลลงไปตัดรถพวกนั้นออก

00:04:18 → 00:04:21 นะครับก็เป็นที่มาของการได้น้ำตาลที่มัน

00:04:21 → 00:04:24 สูงเกินนะครับอ่ากิมจินี่มันมีไขมันต่ำ

00:04:24 → 00:04:26 อยู่แล้วนะครับนั้นทุกคนก็คงจะทราบดีว่า

00:04:26 → 00:04:29 เป็นอาหารไขมันต่ำที่กินได้นะฮะนั้นก็

00:04:29 → 00:04:31 เป็นข้อดีแต่ข้อเสียของมันก็อย่างที่ว่า

00:04:31 → 00:04:34 ไปนะครับแต่มันก็ไม่ได้มีแค่นั้นนะครับ

00:04:34 → 00:04:38 คือรสชาติที่มันเผ็ดนะฮะบางคนก็อาจจะทาน

00:04:38 → 00:04:40 ไม่ได้นะครับอาจจะทานแล้วมันปวดท้องอะไร

00:04:40 → 00:04:43 อย่างนี้นะครับก็นั่นก็จะเป็นข้อเสียของ

00:04:43 → 00:04:45 มันอีกข้อหนึ่งที่เราเจอได้เหมือนกันนะ

00:04:45 → 00:04:46 ครับ

00:04:46 → 00:04:47 นอกเหนือจากนี้

00:04:47 → 00:04:51 เกลือที่อยู่ในนั้นนะครับเพราะว่าในขั้น

00:04:51 → 00:04:53 ตอนการหมักกิมจินี้มันต้องมีการใส่เกลือ

00:04:53 → 00:04:56 ถ้าคนไหนใส่เยอะแน่นอนว่าได้เกลือเยอะนะ

00:04:56 → 00:04:59 ครับแล้วอย่างที่ผมบอกไปก็คือการที่เรา

00:04:59 → 00:05:02 ทานเกลือมากๆนะครับมันก็มีปัญหาเหมือนกัน

00:05:02 → 00:05:05 มันจะทำให้ร่างกายของเราบวมน้ำได้กินระยะ

00:05:05 → 00:05:07 เวลานานก็จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้นะ

00:05:07 → 00:05:09 ครับดังนั้นเกลือเนี่ยเรายิ่งกินเยอะยิ่ง

00:05:09 → 00:05:12 มีปัญหานะครับกิมจิโดยตัวมันเองของมัน

00:05:12 → 00:05:15 เนี่ยเกลือเยอะอยู่แล้วถ้าเรากินเนี่ยกิน

00:05:15 → 00:05:17 ถ้วยเล็กๆพอประมาณเหมือนที่เวลาเท่าที่

00:05:17 → 00:05:19 เราไปร้านอาหารเกาหลีที่เขาให้มานั้นก็

00:05:19 → 00:05:22 เพียงพอแล้วนะครับถ้าเรากินไปเยอะๆกิน

00:05:22 → 00:05:24 หลายๆถ้วยเลยอันนี้ก็อาจจะได้ปริมาณเกลือ

00:05:24 → 00:05:27 ที่มันมากจนเกินไปก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน

00:05:27 → 00:05:29 นะครับ

00:05:29 → 00:05:32 ถ้ามันหมักไว้เนี่ยมันมีอีกอย่างนึงซึ่ง

00:05:32 → 00:05:35 เกิดจากกระบวนการหมักที่ผมคิดว่าหลายๆคน

00:05:35 → 00:05:39 น่ะอาจจะไม่ทราบนะครับคือมันจะมีสาร 2

00:05:39 → 00:05:41 ชนิดที่เกิดมาพร้อมกับกระบวนการหมักนั่น

00:05:41 → 00:05:44 ก็คือสารชื่อว่า histamine แล้วก็สารชื่อ

00:05:44 → 00:05:46 ว่าไทรเรามี

00:05:46 → 00:05:49 เนี่ยผมคิดว่าหลายคนอาจจะรู้จักและเพราะ

00:05:49 → 00:05:50 ว่ามันเป็น

00:05:50 → 00:05:54 สารที่ทำให้เราเกิดอาการแพ้นะครับเช่น

00:05:54 → 00:05:57 เวลาที่เรามีอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลนะครับ

00:05:57 → 00:05:59 ไอจามอะไรอย่างนี้ครับจากการที่เราไปเจอ

00:05:59 → 00:06:02 ฝุ่นหรือเจออะไรอาการเหล่านั้นก็เกิดจาก

00:06:02 → 00:06:05 ฮิสตามีนนั่นแหละครับหรือเวลาที่เราแพ้

00:06:05 → 00:06:08 อะไรสักอย่างแพ้อาหารแพ้อะไรนะครับสุด

00:06:08 → 00:06:10 ท้ายร่างกายเรามาสร้าง history ออกมามากๆ

00:06:10 → 00:06:12 นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เกิดอาการนะครับ

00:06:12 → 00:06:15 อาการคริสตามีนที่มันเข้าไปในทางเดิน

00:06:15 → 00:06:17 อาหารของเราเนี่ยบางคนจะมีการปวดท้อง

00:06:17 → 00:06:20 คลื่นไส้อาเจียนท้องเสียได้นะครับมีผื่น

00:06:20 → 00:06:22 ขึ้นตามตัวเพราะนั้นก็คืออาการจะฮิสโตมิน

00:06:22 → 00:06:25 เหมือนกันนะครับถ้ามีเยอะเกินไปก็จะมี

00:06:25 → 00:06:28 ปัญหาถ้าคนไหนที่ไวต่อ histamine มากๆอัน

00:06:28 → 00:06:30 นี้ก็จะมีปัญหาพวกนี้ได้เช่นกันนะครับ

00:06:30 → 00:06:33 อีกศาลนึงซึ่งผมอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้

00:06:33 → 00:06:36 จักเพราะว่าหลายคนคงจะไม่เคยได้ยินสารตัว

00:06:36 → 00:06:38 นี้แล้วก็อาจจะไม่รู้ว่ามันมีปัญหาอย่าง

00:06:38 → 00:06:43 ไรก็คือศาลชื่อว่าไทรามีนนะครับในกิมจิ

00:06:43 → 00:06:47 บางชนิดนะครับมันจะมีสารไทรามีนเยอะสาร

00:06:47 → 00:06:50 ไทรามีนตัวนี้เนี่ยนะครับด้วยตัวมันเอง

00:06:50 → 00:06:53 เข้าไปในร่างกายของคนนะครับมันจะทำให้

00:06:53 → 00:06:56 เกิดความดันโลหิตที่สูงขึ้นมีอาการใจสั่น

00:06:56 → 00:07:00 คลื่นไส้อาเจียนปวดท้องท้องเสียหายใจแล้ว

00:07:00 → 00:07:03 มีอาการหอบหืดได้นะครับนี่คือปัญหาของศาล

00:07:03 → 00:07:06 ไทรามีนไม่ใช่ทุกคนที่จะมีปัญหากับสารตัว

00:07:06 → 00:07:09 นี้นะครับจะมีบางคนเท่านั้นที่มันมีความ

00:07:09 → 00:07:13 ไวต่อศาลพวกนี้มากๆก็จะเกิดอาการขึ้นมา

00:07:13 → 00:07:16 ได้นะครับบางกรณีทำให้เกิดอาการปวดหัว

00:07:16 → 00:07:19 ไมเกรนด้วยเลยนะครับดังนั้นถ้าคนไหนกิน

00:07:19 → 00:07:21 กิมจิแล้วมีอาการปวดหัวไมเกรนท่านรู้ไว้

00:07:21 → 00:07:24 เลยนะครับว่ามันเป็นเพราะว่ากิมจิยี่ห้อ

00:07:24 → 00:07:26 ที่ท่านกินหรือว่าไม่รู้ว่าท่านไปเอามา

00:07:26 → 00:07:29 จากไหนนะครับมันมีสารพาราเมลที่สูงเกินนะ

00:07:29 → 00:07:31 ครับแล้วก็ร่างกายของท่านมันไวต่อศาลไทย

00:07:31 → 00:07:34 โดยบังเอิญนะครับก็จะเกิดภาวะนี้ขึ้นมา

00:07:34 → 00:07:34 ได้

00:07:34 → 00:07:38 ได้นะครับสารพวกนี้อย่างที่บอกมันเกิดจาก

00:07:38 → 00:07:41 กระบวนการหมักถูกไหมครับกิมจิเนี่ย

00:07:41 → 00:07:43 เราซื้อมาแล้วเนี่ยมันเก็บไว้ในตู้เย็น

00:07:43 → 00:07:45 ได้ประมาณสักเดือนถึง 3 เดือนเลยนะครับ

00:07:45 → 00:07:47 ถ้าเราเก็บไว้ในอุณหภูมิเย็นๆแต่กระบวน

00:07:47 → 00:07:50 การหมักมันจะเกิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆนั่น

00:07:50 → 00:07:54 หมายความว่ายิ่งเราทิ้งไว้นานสารไทรามีน

00:07:54 → 00:07:58 มันก็จะยิ่งสูงขึ้นครับสารที่สมีนมันก็จะ

00:07:58 → 00:08:01 ยิ่งสูงขึ้นดังนั้นเนี่ยถ้าเราซื้อกิมจิ

00:08:01 → 00:08:03 มาใหม่ๆมันเพิ่งผลิตมาใหม่ๆเรากินเราก็

00:08:03 → 00:08:06 อาจจะไม่ได้มีปัญหาแต่เราทิ้งมันไว้นานๆ

00:08:06 → 00:08:10 แล้วเราไปกินบางคนกินทำไมไมเกรนขึ้นแต่

00:08:10 → 00:08:12 ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นเป็นนั่นแหละครับ

00:08:12 → 00:08:15 เหตุผลเกิดกระบวนการหมักนานๆเข้าแล้วก็

00:08:15 → 00:08:17 เกิดสารพาราเมลแล้วบังเอิญท่านเป็นคนที่

00:08:17 → 00:08:20 วัยกับสารเคมีมันก็เลยเกิดปัญหาขึ้นมานะ

00:08:20 → 00:08:24 ครับทีนี้มันจะมีคนบางประเภทที่ไม่ควรกิน

00:08:24 → 00:08:27 สารคาราเมลเข้าไปเลยก็คือคนที่กินยากลุ่ม

00:08:27 → 00:08:29 นึงนะครับเราจะเรียกมันว่ายากลุ่มที่

00:08:29 → 00:08:31 เรียกว่า Mono เอง

00:08:31 → 00:08:35 หรือ maoi นั่นเองนะครับมีเยอะแยะไปหมด

00:08:35 → 00:08:39 เป็นยาทางจิตเวชซะส่วนใหญ่นะครับอ่าเช่น

00:08:39 → 00:08:41 อ่า

00:08:41 → 00:08:42 scene ตัวนี้ก็จะเป็น

00:08:42 → 00:08:46 maoider นะครับยา Parkinson ซึ่งชื่อว่า

00:08:46 → 00:08:48 selectraine อย่างนี้เป็นต้นนะครับหรือ

00:08:48 → 00:08:52 บางคนกินยาฆ่าเชื้อซึ่งมันมีส่วนส่วนที่

00:08:52 → 00:08:54 ออกฤทธิ์คล้ายๆตัวนี้ยกตัวอย่างเช่นยา

00:08:54 → 00:08:57 อะไรใน solid นะครับอันนี้เป็นยาฆ่าเชื้อ

00:08:57 → 00:08:59 ชนิดกินอย่างนึงนะครับ

00:08:59 → 00:09:03 ถ้าท่านกินยาพวกนี้อยู่นะครับห้ามกิน

00:09:03 → 00:09:06 อาหารที่มีไทรามีนสูงเด็ดขาดนะครับกิมจิ

00:09:06 → 00:09:08 ก็คือหนึ่งในนั้นถ้าท่านกิน

00:09:08 → 00:09:11 ท่านจะได้ปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์อย่าง

00:09:11 → 00:09:13 รุนแรงนะครับเช่นถ้าท่านกินยาเมื่อตะกี้

00:09:13 → 00:09:16 ผมที่ผมเล่าไปอยู่เส้น search เจลีนอยู่

00:09:16 → 00:09:18 นะครับเพราะว่าเป็นพาร์กินสันแล้วก็ไปได้

00:09:18 → 00:09:21 กิมจิเข้าไปเยอะๆได้สารทานามินเข้าไปเยอะ

00:09:21 → 00:09:24 ๆโดยเฉพาะกิมจิที่หมักมานานๆได้สารแทน

00:09:24 → 00:09:26 เข้าไปความดันท่านขึ้นแน่นอนความดันขึ้น

00:09:27 → 00:09:29 ใจสั่นนะครับรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว

00:09:29 → 00:09:32 ผิวอาจจะแดงขึ้นมาเลยก็ได้แล้วก็มีไมเกรน

00:09:33 → 00:09:35 ขึ้นบางคนก็ปวดท้องท้องเสียนะครับรู้สึก

00:09:35 → 00:09:38 เคลื่อนคลื่นไส้ปั่นป่วนในท้องนะครับนั่น

00:09:38 → 00:09:42 คืออาการของไทม์ที่มันเยอะเกินไม่มีวิธี

00:09:42 → 00:09:44 รักษานะครับต้องปล่อยให้มันหายเองทำอะไร

00:09:44 → 00:09:47 ไม่ได้นะครับทำอะไรไม่ได้นะครับเรารักษา

00:09:47 → 00:09:51 กันตามอากาศผมก็เคยเจอคนไข้ที่จะกินยาพวก

00:09:51 → 00:09:53 นี้แล้วก็ไปได้อาหารที่มันมีสารพาราซิน

00:09:53 → 00:09:56 สูงโดยที่ไม่ทราบนะครับมาก่อนว่าตัวเอง

00:09:56 → 00:09:59 กินไม่ได้มาโรงพยาบาลโอ้โหใจสั่นความดัน

00:09:59 → 00:10:01 ขึ้นไปเยอะแล้วก็ต้องให้ยาลดความดันนะ

00:10:01 → 00:10:04 ครับให้ยาที่มันลดการใจสั่นพวกนี้เราก็

00:10:04 → 00:10:06 ต้องรอเวลาจนกระทั่งมันหายไปเองนะครับมัน

00:10:06 → 00:10:09 ก็จะทรมานไปอยู่สักพักนึงเลยนะครับกว่าจะ

00:10:09 → 00:10:13 ดีขึ้นนะครับนั่นก็คือข้อเสียของตัวกิมจิ

00:10:13 → 00:10:17 นะครับคือคนไหนที่มีโรค

00:10:17 → 00:10:21 ลำไส้แปรปรวน IPS อย่าไปกินกิมจิถ้าท่าน

00:10:21 → 00:10:24 จะกินลองได้นิดหน่อยลองลองกับตัวเองว่า

00:10:24 → 00:10:27 มันมีปัญหาไหมถ้าไม่มีปัญหาโอเคกินต่อได้

00:10:27 → 00:10:29 อย่าไปกินกิมจิที่หมักมันไว้นานเพราะว่า

00:10:29 → 00:10:31 มันมีสารทีนสูงบางคนที่ไวมากๆก็จะเกิด

00:10:31 → 00:10:34 อาการที่ไม่พึงประสงค์ที่ผมบอกไปนั่นแหละ

00:10:34 → 00:10:37 ครับนะอีกอย่างหนึ่งเนื่องจากมันเป็น

00:10:37 → 00:10:40 อาหารหมักมันจะมี backteria อยู่ในนั้นนะ

00:10:40 → 00:10:44 ครับแบคทีเรียกลุ่มที่มันสร้างแลคติกกรด

00:10:44 → 00:10:46 แลคติกขึ้นมานะครับเช่นลิวโครนอสสต๊อก

00:10:46 → 00:10:48 หรือโปลิโอค๊อกคาหรือตัวไหนก็แล้วแต่นะ

00:10:48 → 00:10:50 ครับมีเยอะแยะอยู่ในหน้าและตัวบราซิลลัส

00:10:50 → 00:10:53 อะไรเงี้ยถ้าท่านเป็นคนที่มีภูมิต้านทาน

00:10:53 → 00:10:54 บกพร่อง

00:10:54 → 00:10:58 เช่นคนปลูกถ่ายอวัยวะแล้วกินยากดภูมิเยอะ

00:10:58 → 00:11:01 ๆอยู่หรือคนเป็น HIV ซึ่งอย่างรักษาได้

00:11:01 → 00:11:04 ไม่ดีอยู่แล้วภูมิต้านทานต่ำมากๆกลิ่นไอ้

00:11:04 → 00:11:08 ของพวกนี้เข้าไปบางทีถ้าโชคร้ายเชื้อโรค

00:11:08 → 00:11:11 ที่แทนที่มันจะอยู่ในลำไส้กลายเป็น

00:11:11 → 00:11:14 แบคทีเรียดีมันกลับทะลุเข้าลำไส้เข้าสู่

00:11:15 → 00:11:17 กระแสเลือดแล้วเกิดเป็นการติดเชื้อใน

00:11:17 → 00:11:21 กระแสเลือดขึ้นมาได้ดังนั้นคนไข้เหล่านี้

00:11:21 → 00:11:24 ต้องระวังเช่นคนปลูกถ่ายอวัยวะคนปลูกถ่าย

00:11:24 → 00:11:27 ไขกระดูกคนที่มีโรคภูมิต่อต้านตัวเองซึ่ง

00:11:27 → 00:11:30 กำลังกำเริบแล้วต้องกินยากดภูมิขนาดสูงๆ

00:11:30 → 00:11:33 อยู่นะครับหรือคนที่เป็น HIV ที่ยังรักษา

00:11:33 → 00:11:37 ได้ไม่ดีค่า CD ตัวต่ำมากๆอยู่พวกนี้อาจ

00:11:37 → 00:11:39 จะต้องระวังอาหารกลุ่มนี้นะครับเรื่อง

00:11:39 → 00:11:43 กิมจิก็อาจจะต้องงดไปก่อนนะครับก็ต้อง

00:11:43 → 00:11:45 ระวังให้ดีไม่ฉะนั้นท่านอาจจะติดเชื้อใน

00:11:45 → 00:11:47 กระแสเลือดโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้นะครับ

00:11:47 → 00:11:51 นั่นคือปัญหานะฮะเก้ดังนั้นกิมจิมีทั้ง

00:11:51 → 00:11:53 ข้อดีและข้อเสียนะครับข้อดีของมันก็คือ

00:11:53 → 00:11:57 บางคนมันชอบอร่อยนะครับเป็นอาหารแคลอรี่

00:11:57 → 00:12:00 ต่ำมีไขมันต่ำมีวิตามินเกลือแร่ที่ค่อน

00:12:00 → 00:12:05 ข้างจะสูงนะครับเราก็มีโปรไบโอติกที่ดีนะ

00:12:05 → 00:12:07 ครับก็สามารถกินได้กับคนทั่วๆไปกินวันละ

00:12:07 → 00:12:10 กินอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็พอจะได้ประโยชน์

00:12:10 → 00:12:12 จากมันนะครับส่วนประโยชน์เรื่องของการ

00:12:12 → 00:12:15 ต้านมะเร็งเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ

00:12:15 → 00:12:17 หรืออะไรพวกเนี้ยมันอาจจะต้องศึกษาเพิ่ม

00:12:17 → 00:12:21 นิดนึงนะครับอ้ออ่ากิมจิมีสารต้านอนุมูล

00:12:21 → 00:12:23 อิสระค่อนข้างจะสูงนะครับมันก็ดีเหมือน

00:12:23 → 00:12:26 กันนะถ้าเรื่องของการต้านมะเร็งเรื่องของ

00:12:26 → 00:12:28 การช่วยเรื่องระบบหลอดเลือดหัวใจอะไรพวก

00:12:28 → 00:12:30 เนี้ยอาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมนะครับข้อ

00:12:30 → 00:12:32 เสียของมันคือมันคนที่ลำไส้แปรปรวนเนี่ย

00:12:32 → 00:12:35 อาจจะทานไม่ได้มันจะยิ่งทำให้ท้องอืดปวด

00:12:35 → 00:12:38 ท้องคือแซ่เจียเจียนนะครับถ้าทานยา maoi

00:12:38 → 00:12:42 อยู่นะครับอ่าอย่าไปทานอาหารพวกนี้นะครับ

00:12:42 → 00:12:44 โดยเฉพาะถ้ากิมจิหมักมานานๆมันจะมีศาลไทย

00:12:44 → 00:12:46 เรามีสารพิษทามีนสูงแล้วก็อาจจะเกิดผล

00:12:46 → 00:12:49 ข้างเคียงขึ้นมาได้นะครับโอเควันนี้มา

00:12:49 → 00:12:51 เล่าเท่านี้นะครับใครมีอะไรสงสัยก็สอบถาม

00:12:51 → 00:12:55 มาแล้วกันนะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ