00:00:00 → 00:00:02 เดี๋ยวนี้คนหันมาใส่ใจในการกินโปรตีน
00:00:02 → 00:00:05 เพิ่มมากขึ้นเพราะว่าเริ่มหันมาใส่ใจดูแล
00:00:05 → 00:00:08 ในการmนtainกล้ามเนื้อหรือว่าเพิ่มปริมาณ
00:00:08 → 00:00:10 ของกล้ามเนื้อเพื่อช่วยในเรื่องของ
00:00:10 → 00:00:13 metabบolิึึึมหรือว่าช่วยเรื่องของสุขภาพ
00:00:13 → 00:00:15 องค์รวมนะครับเพราะฉะนั้นคนก็จะหันมากิน
00:00:15 → 00:00:17 เนื้อสัตว์มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นเนื้อ
00:00:17 → 00:00:20 ไก่ตัวหลักเลยแล้วก็กินอาหารเสริมอย่าง
00:00:20 → 00:00:24 พวกเโปรตีน BCIA EA หรือว่า Essential
00:00:24 → 00:00:28 Amิ Acid รวมไปถึงครีตนที่ผมเพิ่งพูดไป
00:00:28 → 00:00:30 เมื่อ episode ที่แล้วนะครับแต่อาหารที่
00:00:30 → 00:00:32 เป็นโปรตีนไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากอาหาร
00:00:32 → 00:00:35 หรือว่าจากอาหารเสริมเนี่ยครับมักจะถูก
00:00:35 → 00:00:38 พูดถึงในเชิงคอนเซิร์นหรือว่าความกังวล
00:00:38 → 00:00:41 ว่าเอ๊ะกินเยอะๆเนี่ยมันทำลายไตหรือเปล่า
00:00:41 → 00:00:44 คือกินโปรตีนกล้ามเนื้ออาจจะโตมากขึ้นแต่
00:00:44 → 00:00:48 แลกมากับการที่ไตเนี่ยสุขภาพแย่ลงมันเป็น
00:00:48 → 00:00:51 อย่างนั้นมั้คำตอบสั้นๆเลยคือไม่ใช่ครับ
00:00:51 → 00:00:54 ถ้าสุขภาพไตของคุณเนี่ยครับทำงานได้ดี
00:00:54 → 00:00:57 อยู่แล้วเป็นปกติแบบคนทั่วไปที่สุขภาพดี
00:00:57 → 00:01:01 เนี่ยนะครับการกินโปรตีนไม่ว่าจะจากอาหาร
00:01:01 → 00:01:05 หลักหรืออาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมไม่
00:01:05 → 00:01:07 ได้มากจนเกินไปเนี่ยนนะครับไม่ได้เป็น
00:01:07 → 00:01:11 สาเหตุที่ทำให้ไตเนี่ยมันเสื่อมแต่ถ้า
00:01:11 → 00:01:13 เกิดว่าไตของคุณเนี่ยครับมันเสื่อมอยู่
00:01:13 → 00:01:17 แล้วก่อนหน้าจากสาเหตุอื่นที่มักจะไม่ใช่
00:01:17 → 00:01:19 จากการกินโปรตีนด้วยนะครับอันนั้นแหละการ
00:01:19 → 00:01:22 กินโปรตีนที่เพิ่มมากขึ้นเนี่ยมันอาจจะทำ
00:01:22 → 00:01:26 ให้ไตทำงานหนักขึ้นแล้วก็เร่งสปีดในการ
00:01:26 → 00:01:28 ที่ไตเนี่ยมันจะวายเร็วมากยิ่งขึ้นครับ
00:01:28 → 00:01:30 วันนี้ผมก็เลยอยากจะมาชวนคุยเรื่องนี้
00:01:30 → 00:01:32 ครับว่ามันมีสาเหตุอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุ
00:01:32 → 00:01:35 ที่แท้จริงที่ทำให้ไตของเราเนี่ยครับมัน
00:01:35 → 00:01:37 เสื่อมเพราะว่าผมเชื่อเลยว่ามีหลายอย่าง
00:01:37 → 00:01:40 ที่คุณกินอยู่หรือว่าเป็นพฤติกรรมที่คุณ
00:01:40 → 00:01:44 ทำอยู่โดยคุณไม่รู้ตัวว่ามันกำลังทำลายไต
00:01:44 → 00:01:46 ของคุณอยู่เดี๋ยวไปไล่เรียนกันครับว่ามัน
00:01:46 → 00:01:49 มีตัวอะไรบ้าง This is the standard
00:01:49 → 00:01:53 podcast I open it for your ears
00:01:53 → 00:01:57 Top พcastสุขภาพที่ใช้วิทยาศาสตร์ไข
00:01:57 → 00:02:01 ปัญหาตั้งแต่หัวจดเท้า
00:02:01 → 00:02:03 ก่อนอื่นเนี่ยผมอยากจะพูดถึงไตก่อนนะครับ
00:02:03 → 00:02:06 ให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าจริงๆไตเราเนี่ยทำ
00:02:06 → 00:02:08 หน้าที่อะไรมันทำหน้าที่ในการกรองของเสีย
00:02:09 → 00:02:12 ออกจากเลือดนะครับถ้าให้เปรียบเทียบเป็น
00:02:12 → 00:02:14 อุปกรณ์สักอย่างไตเนี่ยมันก็เหมือนกับ
00:02:14 → 00:02:17 ตะแกรงหรือว่ากระชอนที่เราใช้ในการทำกับ
00:02:17 → 00:02:19 ข้าวเวลาที่เราจะล้างของเนี่ยครับเราใส่
00:02:19 → 00:02:21 ของที่จะล้างไปในกระชอนหรือตะแกรงใช่มั้ย
00:02:21 → 00:02:24 ผ่านน้ำเข้าไปมันก็จะชะแล้วก็กรองสิ่งที่
00:02:25 → 00:02:27 มันไม่โอเคสิ่งที่เราไม่ต้องการเนี่ยออก
00:02:27 → 00:02:30 ไปพักผ่านร่องหรือว่ารูของตะแกรงนะครับ
00:02:30 → 00:02:33 หลักการของไตก็เหมือนกันเลยครับเรามีของ
00:02:33 → 00:02:36 เสียที่สะสมมาอยู่ในน้ำเลือดนะครับน้ำ
00:02:36 → 00:02:39 เลือดที่กวาดเอาของเสียมาจากทุกข์อวัยวะ
00:02:39 → 00:02:42 ในร่างกายเนี่ยครับมันก็ถูกส่งไปที่ไตนะ
00:02:42 → 00:02:44 ครับแล้วที่ไตเองเนี่ยครับมันก็จะมี
00:02:44 → 00:02:47 กระบวนการในการกรองของเสียออกจากน้ำเลือด
00:02:47 → 00:02:51 เพื่อที่จะกำจัดออกทางปัสสาวะนะครับเพราะ
00:02:51 → 00:02:55 ฉะนั้นสุขภาพของไตจะดีหรือไม่ดีเนี่ยครับ
00:02:55 → 00:02:58 มันอยู่ที่สุขภาพของหลอดเลือดเลยนะครับ
00:02:58 → 00:03:01 ทุกคนอันเนี้ยเป็นสิ่งที่หลายๆคนเนี่ยอาจ
00:03:01 → 00:03:04 จะมองข้ามไปกังวลถึงโปรตีนไปกังวลถึง
00:03:04 → 00:03:08 เกลือซึ่งจริงๆแล้วนะครับพื้นฐานที่จะทำ
00:03:08 → 00:03:10 ให้ไตของเราสุขภาพไม่ดีมันอยู่ที่สุขภาพ
00:03:10 → 00:03:13 หลอดเลือดเพราะฉะนั้นอาหารอะไรก็ตามที่
00:03:13 → 00:03:16 เรากินรวมไปถึงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของ
00:03:16 → 00:03:19 เราที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของหลอดเลือด
00:03:19 → 00:03:22 เนี่ยครับมันจะทำให้ไตของคุณเนี่ยมัน
00:03:22 → 00:03:24 เสื่อมแล้วก็ทำงานได้ไม่ดีแล้วก็ไตวายได้
00:03:24 → 00:03:27 นะครับมีอะไรบ้างตัวแรกเลยนะครับที่ทำลาย
00:03:27 → 00:03:31 ไตครับคือน้ำตาลครับน้ำตาลอีกแล้วนะครับ
00:03:31 → 00:03:33 ต้องเรียกว่าเป็นตัวดีเลยนะครับถามว่า
00:03:33 → 00:03:37 ทำไมน้ำตาลถึงทำลายไตการที่มีระดับของน้ำ
00:03:37 → 00:03:40 ตาลในเลือดที่สูงอยู่ตลอดเวลาเนี่ยครับ
00:03:40 → 00:03:44 มันส่งผลทำให้เส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงไต
00:03:44 → 00:03:48 นะครับมันถูกทำลายอักเสบบ้างละเพิ่มความ
00:03:48 → 00:03:51 ดันเลือดสูงบ้างละนะครับแล้วก็ไปทำลาย
00:03:51 → 00:03:54 เซลล์ไตด้วยนะครับเพราะว่าน้ำตาลที่เยอะ
00:03:54 → 00:03:57 หลายๆคนน่าจะพอทราบแล้วนะครับว่ามันเพิ่ม
00:03:57 → 00:03:59 กระบวนการอักเสบแล้วก็สามารถที่จะทำลาย
00:04:00 → 00:04:02 เซลล์ได้นะครับรวมไปถึงเซลล์ไตด้วยเพราะ
00:04:02 → 00:04:04 ฉะนั้นถ้าเราปล่อยให้ในเลือดเราเนี่ยมี
00:04:04 → 00:04:07 น้ำตาลสูงอยู่เรื่อยๆตลอดเวลาหรือว่าเป็น
00:04:07 → 00:04:10 โรคเบาหวานมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน
00:04:10 → 00:04:13 ในระยะเริ่มต้นเนี่ยครับแน่นอนไตของคุณจะ
00:04:13 → 00:04:16 ทำงานได้มีประสิทธิภาพแย่ลงเพราะว่า
00:04:16 → 00:04:20 สุขภาพของเส้นเลือดบริเวณไตเนี่ยครับมัน
00:04:20 → 00:04:22 แย่ลงนั่นเองนะครับหลักการอยู่แค่นั้นเลย
00:04:23 → 00:04:25 ครับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่บ่อยๆเนี่ยครับ
00:04:25 → 00:04:27 หรือว่ามีชูการการสไปคบ่อยๆเนี่ยครับทำ
00:04:27 → 00:04:30 ให้สุขภาพเส้นเลือดบริเวณไตเนี่ยมันแย่พอ
00:04:30 → 00:04:33 เส้นเลือดมันแย่เนี่ยการกรองก็จะแย่ลง
00:04:33 → 00:04:36 ครับเท่านั้นยังไม่พอนะครับการที่ระดับ
00:04:36 → 00:04:38 น้ำตาลในเลือดเนี่ยมันสูงอยู่เรื่อยๆหรือ
00:04:38 → 00:04:41 ว่ามีภาวะ sugar spike เนี่ยครับก็ทำให้
00:04:41 → 00:04:44 ฮอร์โมนอินซูลินเนี่ยครับมันหลั่งขึ้นมา
00:04:44 → 00:04:46 เพิ่มขึ้นอยู่บ่อยๆเกิดสิ่งที่เรียกว่า
00:04:46 → 00:04:50 อซูลิน spike ทีนี้พอร่างกายมีฮอร์โมน
00:04:50 → 00:04:52 อินซูลินออกมาอยู่เรื่อยๆเนี่ยครับ
00:04:52 → 00:04:55 อินซูลินเนี่ยมันเป็นฮอร์โมนที่ไปเพิ่ม
00:04:55 → 00:04:57 การดูดกลับของโซเดียมให้อยู่ในเลือดนะ
00:04:57 → 00:04:59 ครับพอมันเก็บโซเดียมเอาไว้ในเลือดมาก
00:04:59 → 00:05:02 ยิ่งขึ้นเนี่ยครับเคยเล่าไปแล้วว่าถ้าใน
00:05:02 → 00:05:05 เลือดมีโซเดียมมากยิ่งขึ้นโซเดียมเป็นสาร
00:05:05 → 00:05:08 ที่ดูดน้ำเข้ามาในเส้นเลือดน้ำในเส้น
00:05:08 → 00:05:11 เลือดก็จะเยอะขึ้นความดันเลือดก็จะสูง
00:05:11 → 00:05:14 ขึ้นผลลัพธ์ของการที่อินซูลินสูงก็คือ
00:05:14 → 00:05:17 ความดันในเลือดสูงครับเท่านั้นยังไม่พอ
00:05:17 → 00:05:18 ครับอินซูลินเนี่ยยังเป็นฮอร์โมนที่ไป
00:05:18 → 00:05:21 กระตุ้นระบบประสาทsympatาตติให้มันทำงาน
00:05:22 → 00:05:24 มากยิ่งขึ้นระบบประสาทsympatาทticเนี่ย
00:05:24 → 00:05:27 คือระบบที่ทำให้ร่างกายเนี่ยอยู่ในภาวะ
00:05:27 → 00:05:30 alิtตื่นตัวนะครับมันก็ไปเพิ่มความดัน
00:05:30 → 00:05:33 เลือดสูงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยครับเพราะ
00:05:33 → 00:05:35 ฉะนั้นน้ำตาลในเลือดเยอะอินซูลินในเลือด
00:05:35 → 00:05:38 เยอะมันก็ทำให้blัpressชureหรือว่าความ
00:05:38 → 00:05:41 ดันเลือดเนี่ยมันสูงขึ้นตามไปด้วยและความ
00:05:41 → 00:05:44 ดันเลือดที่สูงเนี่ยครับคือสาเหตุอันดับ 2
00:05:44 → 00:05:47 ที่ทำลายเซลล์ไตของเราแล้วก็ทำให้ไตเนี่ย
00:05:47 → 00:05:49 ไวได้ครับพอพูดถึงความดันด้วยครับคราวนี้
00:05:49 → 00:05:52 หลายๆคนก็จะมักจะผูกเรื่องของสุขภาพไต
00:05:52 → 00:05:55 เข้ากับเกลือนะครับแน่นอนครับเกลือเนี่ย
00:05:55 → 00:05:57 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวปัญหาที่ถ้าเกิดว่าเรา
00:05:57 → 00:06:00 กินมากเกินไปนะครับมันไปดูดน้ำเข้าระบบ
00:06:00 → 00:06:02 ดูดน้ำเข้าระบบปึ๊บมันก็ทำให้เพิ่มความ
00:06:02 → 00:06:06 ดันสูงเช่นกันเพราะฉะนั้นอาหารอะไรก็ตาม
00:06:06 → 00:06:08 หรือพฤติกรรมอะไรก็ตามเนี่ยครับที่มันไป
00:06:08 → 00:06:11 เพิ่มความดันเลือดให้มันสูงมากยิ่งขึ้น
00:06:11 → 00:06:14 ครับมันก็สามารถที่จะทำลายไตได้เพราะว่า
00:06:14 → 00:06:17 พอความดันเลือดมันสูงเนี่ยครับเลือดที่
00:06:17 → 00:06:19 มันวิ่งกระแทกแรงมากยิ่งขึ้นมากยิ่งขึ้น
00:06:19 → 00:06:22 นะครับมันทำให้เส้นเลือดฝอยที่ไตเนี่ย
00:06:22 → 00:06:25 ครับมันได้รับความเสียหายได้นั่นเองครับ
00:06:25 → 00:06:26 อย่างที่ 3 ครับเป็นสิ่งที่ผมอยากจะพูด
00:06:26 → 00:06:29 มากๆแล้วเชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยอาจจะไม่
00:06:29 → 00:06:31 ทราบหรือว่าอาจจะเคยรู้แล้วลืมไปครับมัน
00:06:31 → 00:06:35 คือยาแก้ปวดกลุ่มเอเซตนะครับก็คือยาแก้
00:06:35 → 00:06:39 ปวดที่ลดการอักเสบได้ด้วยหรือว่า non
00:06:39 → 00:06:40 steroidal
00:06:40 → 00:06:43 antiinflammatory drug นะครับรวมไปถึง
00:06:43 → 00:06:46 ยาอื่นๆที่เป็นยาลดการอักเสบนะครับที่
00:06:46 → 00:06:48 เป็น antiinflammatory drug อีกหลายตัว
00:06:48 → 00:06:51 เลยนะครับสามารถที่จะทำลายไตได้ถ้าเกิด
00:06:51 → 00:06:54 ว่าคุณกินยากลุ่มนี้ต่อเนื่องยาวนานไป
00:06:54 → 00:06:56 เรื่อยๆนะครับถามว่าทำไมอย่างเซตเช่นพวก
00:06:56 → 00:06:59 ไบูโฟenเนี่ยครับเวลากินเข้าไปแล้วเนี่ย
00:06:59 → 00:07:02 ครับมันไปจัดการกับพtagกนิพสtagandิin
00:07:02 → 00:07:04 เนี่ยมันคือตัวที่ทำให้เรารู้สึกปวดใช่
00:07:04 → 00:07:07 มั้ยถ้ามันมีprสagrนอยู่เยอะเนี่ยครับมัน
00:07:07 → 00:07:09 จะทำให้หลอดเลือดเลือดของเราเนี่ยมันจะ
00:07:09 → 00:07:13 ขยายมากกว่าปกตินะครับการกินยากลุ่มเอเซต
00:07:13 → 00:07:16 เนี่ยครับมันไปจัดการกับprสagrนinแล้วทำ
00:07:16 → 00:07:19 ให้หลอดเลือดของเราเนี่ยมันหดตัวมากยิ่ง
00:07:19 → 00:07:22 ขึ้นนะครับพอหลอดเลือดของเราเนี่ยมันหด
00:07:22 → 00:07:25 ตัวแน่นอนก่อนมันก็ทำให้ความดันเลือด
00:07:25 → 00:07:28 เนี่ยมันสูงขึ้นตามไปด้วยแล้วถ้าเกิดว่า
00:07:28 → 00:07:29 เรากลิ่นยากลุ่มเนี้ยต่อเนื่องไปยาวนานนะ
00:07:29 → 00:07:31 ครับมันก็ทำให้ความดันเลือดเนี่ยมันสูง
00:07:32 → 00:07:34 อยู่ตลอดเวลาแล้วก็ทำลายเจ้าเส้นเลือด
00:07:35 → 00:07:37 บริเวณไตรวมไปถึงเซลล์ที่บุผิวด้านในของ
00:07:37 → 00:07:40 เส้นเลือดด้วยนะครับอาจจะได้รับความเสีย
00:07:40 → 00:07:42 หายพอเซลล์มันได้รับความเสียหายปุ๊บเนี่ย
00:07:43 → 00:07:46 นะครับมันก็อาจจะมีอะไรก็ตามเนี่ยไปสะสม
00:07:46 → 00:07:48 อุตตันแล้วเกิดเป็นพลคได้นะครับแล้วก็
00:07:48 → 00:07:51 ยิ่งทำให้เพิ่มความดันของเลือดเข้าไปอีก
00:07:51 → 00:07:52 นะครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าใครกินเอเส
00:07:52 → 00:07:55 แล้วเคยอ่านฉลากเนี่ยก็จะรู้ว่ายากลุ่ม
00:07:55 → 00:07:57 เหล่าเนี้ยเป็นยาอันตรายนะครับมีการเตือน
00:07:57 → 00:08:00 อยู่เสมอเลยนะว่าควรจะกินเมื่อมีอาการพอ
00:08:00 → 00:08:03 อาการหายไปทุเราปุ๊บเนี่ยควรจะหยุดกินทัน
00:08:03 → 00:08:05 ทีไม่ควรจะกินพร่ำเพือโดยที่ไม่จำเป็นนะ
00:08:05 → 00:08:07 ครับและทางที่ดินเนี่ยควรจะกินเมื่อหมอ
00:08:07 → 00:08:10 จ่ายด้วยนะครับอย่างที่ 4 ครับคือบุหรี่
00:08:10 → 00:08:13 ครับบุหรี่เนี่ยครับเต็มไปด้วยสารพิษมาก
00:08:13 → 00:08:16 มายที่พอเข้าไปในร่างกายแล้วครับมัน
00:08:16 → 00:08:19 สามารถที่จะไปทำให้เกิดความเสียหายภายใน
00:08:19 → 00:08:22 เซลล์กับทั้ง DNA รวมไปถึงทำให้เซลล์ทำ
00:08:22 → 00:08:24 งานผิดพลาดาแล้วก็เกิดการอักเสบขึ้นกับ
00:08:24 → 00:08:27 เซลล์ในร่างกายนะครับรวมไปถึงเซลล์ไตด้วย
00:08:27 → 00:08:29 นะครับถ้าเกิดว่าใครที่สูบบุหรี่เยอะๆนะ
00:08:29 → 00:08:31 ครับก็ทำให้เซลล์ไตนะครับได้รับความเสีย
00:08:31 → 00:08:34 หายพอเซลล์ไตได้รับความเสียหายเนี่ยการ
00:08:34 → 00:08:36 กรองของเสียออกจากเลือดเนี่ยมันก็ทำงาน
00:08:36 → 00:08:39 ไม่ได้ดีครับนั่นคือคำอธิบายง่ายๆเลย
00:08:39 → 00:08:42 สำหรับว่าบุหรี่ทำไมทำลายไตนะครับอย่าง
00:08:42 → 00:08:44 ที่ 5 ครับคืออาหารอะไรก็ตามที่กินเข้าไป
00:08:44 → 00:08:48 แล้วนะครับมันไปเพิ่มโอกาสที่จะเกิดก้อน
00:08:48 → 00:08:52 ผลึกนิ่วตนะครับถ้าเกิดว่ามันมีก้อนผลึก
00:08:52 → 00:08:53 เกิดขึ้นภายในไตเนี่ยครับอย่างเช่น
00:08:53 → 00:08:56 แคลเซียมออกซาเลตเนี่ยฮะมันก็จะทำให้เกิด
00:08:56 → 00:08:58 แรงดันย้อนกลับถ้าเกิดว่าในไตมันมีก้อน
00:08:58 → 00:09:00 นิ่วอยู่ง่ายๆเหมือนกับมันมีของอะไรก็ตาม
00:09:00 → 00:09:03 เนี่ยไปอุดตะแกรงอยู่นะครับการกรองก็ไม่
00:09:03 → 00:09:05 ดีลองคิดตามง่ายๆนะครับไตของเราซึ่งเป็น
00:09:05 → 00:09:08 ตะแกรงเนี่ยครับที่จะกรองของเสียออกจาก
00:09:08 → 00:09:11 น้ำเลือดเนี่ยนะครับมันมีอะไรไปอุดรูอยู่
00:09:11 → 00:09:13 เนี่ยครับมันก็ต้องใช้แรงดันน้ำมากขึ้นใน
00:09:13 → 00:09:16 การที่จะกรองของเสียให้ผ่านรูของตะแกรงไป
00:09:16 → 00:09:18 ได้นะครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่ามีนิ่ว
00:09:18 → 00:09:21 ขนาดใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นสะสมอยู่ภาย
00:09:21 → 00:09:23 ในไตอ่ะแน่นอนความดันเลือดบริเวณเสื้อ
00:09:23 → 00:09:24 เลือดฝอยของไตเนี่ยมันก็จะสูงมากยิ่งขึ้น
00:09:25 → 00:09:27 แล้วก็สามารถจะทำลายทั้งหลอดเลือดแล้วก็
00:09:27 → 00:09:29 เซลล์ไตได้นะครับถามว่ามีอาหารอะไรบ้าง
00:09:29 → 00:09:31 อ่ะที่ต้องระมัดระวังอย่างแรกก็คืออาหาร
00:09:31 → 00:09:34 ที่มีออกซาเลตสูงนะครับก็จะเจอในผักเช่น
00:09:34 → 00:09:37 หน่อไม้หน่อไม้ฝรั่งรวมไปถึงชะอมนะครับ
00:09:37 → 00:09:41 รวมไปถึงผักใบสีเขียวเข้มอย่างเช่นพวก
00:09:41 → 00:09:43 หรือว่าผักโขมนะครับการกินผักเหล่านี้ที่
00:09:43 → 00:09:45 มีออกซิเลตเยอะๆเนี่ยก็อาจจะเพิ่มความ
00:09:45 → 00:09:48 เสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตได้นะครับทริกนึง
00:09:48 → 00:09:50 เนี่ยคือควรต้องกินน้ำเข้าไปเยอะๆนะครับ
00:09:50 → 00:09:54 เพื่อที่จะช่วยลดการฟอร์มของตะกอหรือว่า
00:09:54 → 00:09:56 ตะกรันได้ภายในนะครับนอกจากออกซิเลตแล้ว
00:09:56 → 00:09:58 นะครับควรต้องระวังเรื่องของแคลเซียมด้วย
00:09:58 → 00:10:01 นะครับเพราะว่าเมื่อแคลเซียมไปเจอกับ
00:10:01 → 00:10:03 ออกซาเลตมันจะกลายเป็นแคลเซียมออกซิเลต
00:10:03 → 00:10:06 หรือว่าผลึกนั่นเองนะครับการกินวิตามิน
00:10:06 → 00:10:08 บางอย่างที่เป็นประโยชน์กับร่างกายอย่าง
00:10:08 → 00:10:11 เช่นวิตามินดีเนี่ยนะครับมากจนเกินไปนะ
00:10:11 → 00:10:14 ครับมันอาจจะไปเพิ่มการดูดกลับของ
00:10:14 → 00:10:17 แคลเซียมบริเวณไตแล้วทำให้แคลเซียมเนี่ย
00:10:17 → 00:10:19 ไปเจอกับออกซเลตได้แล้วก็เกิดเป็นผลึก
00:10:19 → 00:10:21 หรือว่านิ่สะสมภายในไตได้นะครับเพราะ
00:10:21 → 00:10:24 ฉะนั้นการกินวิตามินดีเกินความจำเป็นก็
00:10:24 → 00:10:26 ไม่ใช่เรื่องที่ดีนะครับทุกคนนอกจาก 5
00:10:26 → 00:10:28 อย่างเนี้ยผมแถมอีกอย่างนึงแล้วกันนะครับ
00:10:28 → 00:10:31 การกินอะไรก็ตามที่ไปกระตุ้นให้เรา
00:10:31 → 00:10:33 ปัสสาวะบ่อยมากยิ่งขึ้นหรือว่าเพิ่มการ
00:10:33 → 00:10:36 ขับน้ำออกจากร่างกายเนี่ยก็จะทำให้ไต
00:10:36 → 00:10:38 เนี่ยทำงานหนักมากยิ่งขึ้นนะครับยกตัว
00:10:38 → 00:10:41 อย่างเช่นแอลกอฮอล์แล้วก็คาเฟอีนนะครับ
00:10:41 → 00:10:44 จริงๆแอลกอฮอล์แล้วก็คาเฟอีนนะครับมี
00:10:44 → 00:10:46 ฤทธิ์คล้ายๆกันเลยนะครับก็คือว่ามันไป
00:10:46 → 00:10:48 กระตุ้นการขับน้ำออกไปก็คือไตเนี่ยจะต้อง
00:10:49 → 00:10:51 กรองน้ำมากยิ่งขึ้นแล้วก็ดูดน้ำกลับน้อย
00:10:51 → 00:10:53 ลงด้วยซ้ำไปนะครับคือทำให้ร่างกายเนี่ย
00:10:53 → 00:10:56 เกิดภาวะดีไฮเดรตนะครับการที่ในเลือดของ
00:10:56 → 00:10:59 เราเนี่ยมีน้ำน้อยลงเนี่ยครับก็ไม่เป็นผล
00:10:59 → 00:11:02 ดีกับไตเนาะเพราะว่าไตมันจะทำงานได้ดี
00:11:02 → 00:11:05 เนี่ยมันต้องใช้น้ำเป็นตัวพาในการกรองของ
00:11:06 → 00:11:08 เสียออกไปนะครับเพราะฉะนั้นการที่กิน
00:11:08 → 00:11:11 แอลกอฮอล์หรือว่าคาเฟอีนเยอะมากจนเกินไป
00:11:11 → 00:11:14 นะครับนอกจากจะทำให้ไตเหนื่อยเพราะว่ามัน
00:11:14 → 00:11:16 ต้องขับน้ำออกไปเยอะแล้วเนี่ยทำให้มี
00:11:16 → 00:11:19 เลือดในระบบน้อยลงซึ่งก็จะทำให้มีน้ำใน
00:11:20 → 00:11:22 เลือดเนี่ยน้อยลงไตก็จะทำงานเหนื่อยมาก
00:11:22 → 00:11:25 ยิ่งขึ้นในการกรองของเสียออกจากเลือด
00:11:25 → 00:11:28 เพราะว่ามันจำเป็นต้องใช้น้ำในการกรองนะ
00:11:28 → 00:11:30 ครับเพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตว่าทำไมการดูแล
00:11:30 → 00:11:32 สุขภาพไตอย่างนึงน่ะคือการกินน้ำให้มาก
00:11:32 → 00:11:34 เพียงพอเพราะว่าน้ำเนี่ยคือตัวการสำคัญ
00:11:34 → 00:11:37 ที่จะช่วยในกระบวนการกรองของเสียนั่นเอง
00:11:37 → 00:11:39 ครับทีนี้มาพูดถึงโปรตีนบ้างครับว่าแล้ว
00:11:39 → 00:11:41 เราควรจะกินโปรตีนเท่าไหร่มันถึงจะไม่
00:11:41 → 00:11:44 กระทบกับการทำงานของไตจริงๆบอกเลยครับว่า
00:11:44 → 00:11:48 คนที่สุขภาพดีที่ไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับ
00:11:48 → 00:11:50 โรคไตมาก่อนนะครับไตยังทำได้เต็มที่มี
00:11:50 → 00:11:52 ประสิทธิภาพมั้ครับสามารถที่จะกินโปรตีน
00:11:52 → 00:11:56 ได้ตั้งแต่ 1 กรัมไปจนถึง 2.5 กรัมต่อน้ำ
00:11:56 → 00:11:58 หนักตัว 1 กกัแล้วไตก็ยังทำงานอย่างปลอด
00:11:58 → 00:12:00 ภัยหายห่วงเลยนะครับเดี๋ยวนี้มีตัวเลขแนะ
00:12:00 → 00:12:02 นำแล้วสำหรับคนทั่วไปที่อยากดูแลสุขภาพ
00:12:02 → 00:12:06 เนี่ยควรจะกินโปรตีนอย่างน้อย 1- 1.2
00:12:06 → 00:12:09 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก.ในทุกๆวันนะครับ
00:12:09 → 00:12:11 แต่ถ้าเกิดว่าใครเป็นสายออกกำลังกายเนี่ย
00:12:11 → 00:12:13 ครับอาจจะเพิ่มโปรตีนเข้าไปหน่อยนะครับ
00:12:13 → 00:12:17 อาจจะเป็น 1.5 กรัมไปถึง 2 กรัมได้นะครับ
00:12:17 → 00:12:18 และถ้าเกิดว่าใครอยากจะเพิ่มก้ามมากๆ
00:12:18 → 00:12:21 เนี่ยอาจจะดันโปรตีนต่อวันเไปถึง 2.5
00:12:21 → 00:12:24 กรัมต่อน้ำตัว 1 กกัต่อวันเนี่ยการทำงาน
00:12:24 → 00:12:26 ของไตเนี่ยก็ยังไม่กระทบเลยนะครับมีงาน
00:12:26 → 00:12:28 ศึกษาเจอว่าการกินไปจนถึง 2.5 5 กรัมต่อ
00:12:28 → 00:12:32 วันเนี่ยสบายๆมากไตยังสามารถที่จะจัดการ
00:12:32 → 00:12:34 กับของเสียที่เกิดจากกระบวนการเผ่าผ่าน
00:12:34 → 00:12:37 โปรตีนได้แล้วก็ไม่กระทบกับการทำงานของไต
00:12:37 → 00:12:40 นะครับแต่ถ้าเกิดว่าใครมีปัญหาของสุขภาพ
00:12:40 → 00:12:43 ไตไม่ว่าจะเคยมีการตรวจมาแล้วจากคุณหมอนะ
00:12:43 → 00:12:46 ครับว่าไตเนี่ยเริ่มทำงานได้แย่ลงหรือว่า
00:12:46 → 00:12:49 มีประวัติในครอบครัวที่มีคนในครอบครัวนะ
00:12:49 → 00:12:52 ครับมีปัญหาไตวายมาก่อนอันเนี้ยอาจจะต้อง
00:12:52 → 00:12:53 ระมัดระวังแล้วก็ดูแลเป็นพิเศษนะครับ
00:12:53 → 00:12:55 เพราะว่าถ้าเกิดว่าไตของเราเนี่ยทำงานได้
00:12:55 → 00:12:58 แย่ลงแน่นอนมันกำจัดของเสียที่เกิดจากการ
00:12:59 → 00:13:01 กินโปรตีเนอเนี่ยได้มีประสิทธิภาพน้อยลง
00:13:01 → 00:13:04 แน่นอนนะครับถามว่าจะรู้ได้ไงอ่ะว่าไตเรา
00:13:04 → 00:13:06 มันทำงานดีหรือไม่ดีนะครับมันสามารถที่จะ
00:13:06 → 00:13:10 ดูได้จากค่าที่ชื่อว่า EGFR เดี๋ยวผมค่อย
00:13:10 → 00:13:13 อธิบายค่าตัวนี้เต็มๆนะครับค่าที่บอกว่า
00:13:13 → 00:13:16 ไตเนี่ยสามารถจะกรองน้ำเลือดได้ปริมาณ
00:13:16 → 00:13:18 เยอะแค่ไหนถ้าเกิดว่ามันกรองได้เยอะก็คือ
00:13:18 → 00:13:20 ไตยังทำงานได้ดีอยู่แต่ถ้าเกิดว่าค่านี้
00:13:20 → 00:13:22 ลดลงเนี่ยก็เป็นการสะท้อนว่าไตเนี่ยมันทำ
00:13:22 → 00:13:24 งานได้ไม่ค่อยดีนะครับซึ่ง cut off เร็ว
00:13:24 → 00:13:28 ๆนะครับมันอยู่ที่ 60 มลตต่อนาทีนะครับ
00:13:28 → 00:13:30 ถ้าเกิดว่าใครไปตรวจร่างกายแล้วก็เจอว่า
00:13:30 → 00:13:33 ค่า EGFR เนี่ยต่ำกว่า 60 อาจจะเป็น
00:13:33 → 00:13:36 สัญญาณเตือนว่าตอนเนี้ยไตอาจจะทำงานได้
00:13:36 → 00:13:38 ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าไหร่และคุณควรจะ
00:13:38 → 00:13:40 ต้องระมัดระวังในการกินโปรตีนครับเวลาที่
00:13:40 → 00:13:42 คุณหมอตรวจสุขภาพไตแล้วเจอว่าไตมีปัญหา
00:13:43 → 00:13:45 เนี่ยครับเขาก็สามารถจะจัดระดับของภาวะไต
00:13:45 → 00:13:48 เสื่อมได้เป็น 5 ระยะนะครับถ้าเกิดว่าใคร
00:13:48 → 00:13:51 ไตเสื่อมระยะที่ 1 หรือ 2 ที่เรียกว่า CKD
00:13:51 → 00:13:53 ย่อมาจากว่า Chronic Kidney Disease
00:13:54 → 00:13:56 ระยะที่ 1 หรือ 2 เนี่ยนะครับการกิน
00:13:56 → 00:13:59 โปรตีนของคุณเนี่ยคุณอาจจะลดปริมาณโปรตีน
00:13:59 → 00:14:01 ลงนิดนึงอาจจะกินโปรตีนเพียงแค่
00:14:01 → 00:14:05 0.8-1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กกันะครับ
00:14:05 → 00:14:07 เพื่อไม่ให้ไตมันทำงานหนักมากเกินไปแต่
00:14:07 → 00:14:11 ถ้าเกิดว่าเริ่มเข้าสู่ระยะ CKD 3 หรือ 4
00:14:11 → 00:14:14 ซึ่งก็มักจะผูกกับค่า EGFr ที่ต่ำกว่า 60
00:14:14 → 00:14:18 มลต/่อนาทีนี่นะครับก็ควรจะลดโปรตีนลงมา
00:14:18 → 00:14:20 อีกอยู่ที่ 0.6- 0.8 8 กรัมต่อน้ำหัก
00:14:20 → 00:14:23 ตัว 1 กกัเพื่อที่จะลดภาระการทำงานของไต
00:14:23 → 00:14:25 นะครับเพราะว่าไตไม่สามารถจะกรองของเสีย
00:14:25 → 00:14:27 ได้ดีเท่าไหร่และเพราะฉะนั้นก็ลดโปรตีนลง
00:14:27 → 00:14:30 หน่อยเพื่อให้ไตไม่ทำงานหนักมากเกินไปแต่
00:14:30 → 00:14:32 ถ้าใครเข้าสู่ภาวะไตเสริยะสุดท้ายระยะที่
00:14:32 → 00:14:35 5 เนี่ยนะครับและอยู่ระหว่างการฟอกไตที
00:14:35 → 00:14:37 เนี้ยคุณอาจจะสูญเสียโปรตีนนะครับอาจจะ
00:14:37 → 00:14:39 ต้องกินโปรตีนชดเชยขึ้นหน่อยก็อาจจะต้อง
00:14:39 → 00:14:43 กลับมากินโปรตีนเพิ่มมากขึ้นอยู่ที่ 1-1.2
00:14:43 → 00:14:46 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก.นะครับแต่ถ้าเกิด
00:14:46 → 00:14:49 ว่าใครเพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนไตมานะครับเป็น
00:14:49 → 00:14:51 ช่วงที่ร่างกายฟื้นฟูเนี่ยอาจจะต้องการ
00:14:51 → 00:14:54 โปรตีนที่สูงมากยิ่งขึ้นอยู่ที่ 1.2-1.5
00:14:54 → 00:14:57 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก.ครับแต่ใดๆก็ตาม
00:14:57 → 00:14:59 นะครับตัวเลขที่ผมพูดมาเนี่ยเป็นเพียงแค่
00:14:59 → 00:15:02 ไกด์ไลน์ถ้าคุณมีภาวะไตเสื่อมและอยู่ใน
00:15:02 → 00:15:04 การดูแลของคุณหมออยู่แล้วปรึกษาคุณหมอ
00:15:04 → 00:15:06 ก่อนก็จะดีที่สุดครับคุณหมอเนี่ยจะแนะนำ
00:15:06 → 00:15:08 ตัวเลขที่เหมาะสมกับสุขภาพไตณปัจจุบันของ
00:15:08 → 00:15:11 คุณได้ดีกว่าครับทีนี้ผมขอกลับมาอธิบาย
00:15:11 → 00:15:14 ค่า EGFR เพิ่มมากขึ้นนิดนึงนะครับจริงๆ
00:15:14 → 00:15:16 เวลาที่เราไปตรวจสุขภาพเนี่ยครับถ้าเราไป
00:15:16 → 00:15:18 ดู report การตรวจสุขภาพ section ที่
00:15:19 → 00:15:20 เกี่ยวกับไตเนี่ยมันจะมีค่าหลายค่าเลยนะ
00:15:20 → 00:15:24 ครับที่สามารถที่จะใช้วัดสุขภาพของไตได้
00:15:24 → 00:15:27 นะครับมันจะมีค่าอยู่ 2-3 กลุ่มที่จะบอก
00:15:27 → 00:15:31 สุขภาพของไตกลุ่มแรกคือเป็นการวัดว่าไต
00:15:31 → 00:15:34 ของเรานะครับสามารถที่จะกรองน้ำต่อวันได้
00:15:34 → 00:15:37 ปริมาณเยอะหรือน้อยถ้าเกิดว่าค่าเนี้มัน
00:15:37 → 00:15:40 เยอะก็แสดงว่าไตยังทำงานได้ดีอยู่นะครับ
00:15:40 → 00:15:44 ค่าเนี้ยมันเรียกว่า gfr เต็มๆของมันคือ
00:15:44 → 00:15:47 estimated gromolular filtration rate
00:15:47 → 00:15:51 นะครับจริงๆเนี่ยครับมันเป็นพื้นที่ของไต
00:15:51 → 00:15:54 ที่มีเส้นเลือดฝอยเนี่ยพันกันไปมาเต็มไป
00:15:54 → 00:15:57 หมดเลยเป็นจุดที่เกิดการกรองเนี่ยนะครับ
00:15:57 → 00:15:59 เพราะฉะนั้นค่าเนี้ยจึงไปวัดว่าไอ้ตรง
00:15:59 → 00:16:01 พื้นที่ตรงนั้นเนี่ยที่มันเกิดการกรอง
00:16:01 → 00:16:03 เนี่ยมันกรองน้ำได้เยอะหรือน้อยนั่นเองนะ
00:16:03 → 00:16:06 ครับโดยปกติแล้วเนี่ยคนสุขภาพดีเนี่ยค่า
00:16:06 → 00:16:10 EGFR เนี่ยจะไม่ต่ำกว่า 90 มลต่อนาที
00:16:10 → 00:16:12 แล้วถ้าเกิดว่าเราอายุมากขึ้นมากขึ้นนะ
00:16:12 → 00:16:14 ครับค่าเนี้ยมันก็จะลดลงลดลงเป็นปกติอยู่
00:16:14 → 00:16:17 แล้วนะครับตามความชราของเซลล์ไตนะครับแต่
00:16:18 → 00:16:19 ถ้าเกิดว่าไตของเราเนี่ยมันเสื่อมไวกว่า
00:16:19 → 00:16:22 กำหนดหรือว่ามันมีปัญหาเนี่ยครับค่าเก็จะ
00:16:22 → 00:16:24 ลดลงเร็วมากนะครับถ้าต่ำกว่า 60 เมื่อ
00:16:24 → 00:16:26 ไหร่เนี่ยเนี่ยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
00:16:26 → 00:16:28 แล้วนะครับถ้าค่าเนี้ยต่ำกว่า 15 นะครับ
00:16:29 → 00:16:31 เป็นการบอกว่าไตของคุณเนี่ยวายแล้วนะครับ
00:16:31 → 00:16:33 คือไม่สามารถจะทำงานในการกรองของเสียได้
00:16:33 → 00:16:35 แล้วจำเป็นต้องฟอกไตนั่นเองครับการวัด
00:16:35 → 00:16:38 สุขภาพของไตกลุ่มที่ 2 นะครับจะเป็นการ
00:16:38 → 00:16:41 วัดปริมาณของเสียที่มีอยู่ในเลือดซึ่งก็
00:16:41 → 00:16:44 จะเป็นการวัดค่าครีอtininีนแล้วก็การวัด
00:16:44 → 00:16:47 สิ่งที่เรียกว่า bu นะครับก็คือbloodู
00:16:47 → 00:16:50 nroเจนนะครับคือปริมาณของไนโตรเจนที่อยู่
00:16:50 → 00:16:52 ในเลือดนะครับที่เกิดจากการสลายหรือว่า
00:16:52 → 00:16:55 metabบolizโปรตีนให้เรากินเข้าไปนะครับ
00:16:55 → 00:16:57 ถามว่าทำไมปริมาณของเสียในเลือดอ่ะจึงพอ
00:16:57 → 00:17:00 ที่จะบอกสุขภาพของไตได้เพราะว่าหน้าที่
00:17:00 → 00:17:02 หลักของไตเนี่ยคือการกำจัดของเสียออกไป
00:17:03 → 00:17:04 จากเลือดถูกมั้ครับถ้าเกิดว่ามันมีของ
00:17:04 → 00:17:07 เสียอยู่ในเลือดที่ค่อนข้างเยอะนะครับมัน
00:17:07 → 00:17:09 ก็อาจจะเป็นการสะท้อนได้ว่าไตเนี่ยทำงาน
00:17:09 → 00:17:12 ได้ไม่ดีนะครับแต่ว่าจริงๆแล้วทั้งค่า
00:17:12 → 00:17:15 ครีเอทีนีนแล้วก็ bu เนี่ยถ้ามันสูงขึ้น
00:17:15 → 00:17:18 เนี่ยครับมันก็อาจจะไม่ได้แปลว่าไตของเรา
00:17:18 → 00:17:20 เนี่ยมันแย่ลงเสมอไปนะครับเพราะว่ามัน
00:17:20 → 00:17:22 เชื่อมโยงกับปริมาณอาหารคือโปรตีนที่เรา
00:17:22 → 00:17:25 กินถึงอาหารเสริมด้วยนะครับอย่างตอนก่อน
00:17:25 → 00:17:28 หน้านี้ผมพูดถึงการกินครีทีนถ้าเกิดว่า
00:17:28 → 00:17:30 ใครกินครีทีนหรือว่าการกินโปรตีนที่เยอะ
00:17:30 → 00:17:34 นะครับปริมาณของครีทินมันก็จะเยอะตามไป
00:17:34 → 00:17:36 ด้วยเพราะฉะนั้นเวลาที่ตรวจสุขภาพเนี่ย
00:17:36 → 00:17:39 ครับคุณหมอก็จะเอาทั้งค่า EGFR ซึ่งก็คือ
00:17:39 → 00:17:42 ปริมาณเลือดที่กรองได้กับปริมาณของเสีย
00:17:42 → 00:17:44 ไม่ว่าจะเป็นครีทินีนกับ Bun เนี่ยมา
00:17:44 → 00:17:47 วิเคราะห์ร่วมกันก่อนจะสรุปว่าตอนเนี้
00:17:47 → 00:17:49 สุขภาพไตเป็นยังไงนะครับการวัดอีกแบบนึง
00:17:49 → 00:17:51 ที่พอจะบอกสุขภาพของไตได้นะครับคือการวัด
00:17:52 → 00:17:55 ปริมาณของโปรตีนขนาดใหญ่ในปัสสาวะครับ
00:17:55 → 00:17:58 ปกติแล้วเนี่ยครับผนังหลอดเลือดฝอยบริเวณ
00:17:58 → 00:18:00 ไตที่มันเกิดการกรองของเสียนะครับมันจะ
00:18:00 → 00:18:03 ไม่ยอมให้โปรตีนขนาดใหญ่นะครับมันผ่านไป
00:18:03 → 00:18:05 ได้ยกเว้นว่าผนังหลอดเลือดนะครับได้รับ
00:18:06 → 00:18:08 ความเสียหายจนโปรตีนขนาดใหญ่เนี่ยมัน
00:18:08 → 00:18:11 สามารถจะทะลุทะลวงไปได้เพราะฉะนั้นถ้า
00:18:11 → 00:18:13 เกิดว่าเราเจอโปรตีนขนาดใหญ่อย่างเช่น
00:18:13 → 00:18:15 แอลบูมิในปัสสาวะเนี่ยครับก็เป็นการ
00:18:15 → 00:18:17 สะท้อนว่าไตของเราเนี่ยอาจจะเสื่อมแล้วก็
00:18:17 → 00:18:20 มีสุขภาพที่ไม่ดีครับค่าการตรวจเมีชื่อ
00:18:20 → 00:18:23 เต็มๆว่า Albumin to creatinin Nin
00:18:23 → 00:18:26 ratio หรือว่า ACR นะครับถ้าเกิดว่าค่า
00:18:26 → 00:18:28 นี้มันสูงนะครับแสดงว่าไตของคุณเนี่ย
00:18:28 → 00:18:30 เริ่มมีปัญหานั่นเองครับจากที่ฟังมาทั้ง
00:18:30 → 00:18:32 หมดนะครับมาสรุปดีกว่าว่าแล้วไลฟ์สไตล์ใน
00:18:32 → 00:18:35 การดูแลสุขภาพของไตเนี่ยครับควรจะเป็นยัง
00:18:35 → 00:18:38 ไงนะครับอันดับ 1 นะครับคือดูแลไม่ให้
00:18:38 → 00:18:40 ระดับน้ำตาลในเลือดเนี่ยมันสูงอยู่บ่อยๆ
00:18:40 → 00:18:42 นะครับหรือป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นเบา
00:18:42 → 00:18:44 หวานไม่ให้ชูการเนี่ยมันสปคนะครับนั่นก็
00:18:44 → 00:18:47 เป็นพฤติกรรมในการกินนั่นแหละถ้าคุณไม่
00:18:47 → 00:18:49 เป็นเบาหวานรับรองได้ว่าความเสี่ยงในการ
00:18:49 → 00:18:52 เป็นโรคไตเนี่ยลดลงฮวบแน่นอนครับอย่างที่
00:18:52 → 00:18:55 2 ครับต้องดูแลความดันเลือดนะครับอย่า
00:18:55 → 00:18:56 ให้มันสูงอยู่บ่อยๆนะครับเพราะถ้าเกิดว่า
00:18:56 → 00:18:59 ความดันเลือดมันสูงเนี่ยครับมันก็จะทำให้
00:18:59 → 00:19:02 เกิดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเส้นเลือด
00:19:02 → 00:19:04 หรือว่าผนังหลอดเลือดบริเวณไตได้นะครับ
00:19:04 → 00:19:07 แล้วก็ทำให้ไตเนี่ยทำงานหนักมากยิ่งขึ้น
00:19:07 → 00:19:09 ครับอย่างที่ 3 ครับคือต้องระมัดระวังใน
00:19:09 → 00:19:11 การกินยาบางกลุ่มอย่างเช่นยาแก้ปวดกลุ่ม
00:19:12 → 00:19:15 เอเซตรวมไปถึงยาลดการอักเสบนะครับเพราะ
00:19:15 → 00:19:17 ว่ายาเหล่าเนี้ยครับมันจะไปทำให้หลอด
00:19:17 → 00:19:20 เลือดของเราเนี่ยมันหดตัวเล็กลงแล้วก็ไป
00:19:20 → 00:19:22 เพิ่มความดันเลือดให้มันสุกสูงมากยิ่ง
00:19:22 → 00:19:25 ขึ้นและก็อาจจะทำลายผนังของหลอดเลือดได้
00:19:25 → 00:19:27 ครับอย่างที่ 4 นะครับใครที่กินโปรตีน
00:19:28 → 00:19:30 เยอะหรือว่ากินซัพพอาหารเสริมที่เกี่ยว
00:19:30 → 00:19:32 ข้องกับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเนี่ยครับ
00:19:32 → 00:19:34 คุณก็ควรจะต้องดูไว้ว่าแน่นอนมันจะมีของ
00:19:34 → 00:19:37 เสียเกิดขึ้นในร่างกายแน่ๆนะครับถ้าเกิด
00:19:37 → 00:19:39 ว่าไตของคุณไม่มีปัญหากินได้เลยครับ
00:19:39 → 00:19:41 โปรตีนแต่ควรจะกินน้ำเข้าไปเยอะๆนะครับ
00:19:41 → 00:19:43 เพราะว่ากินโปรตีนเยอะแล้วเนี่ยมันมีของ
00:19:43 → 00:19:45 เสียเยอะเราต้องกินน้ำเยอะๆเพื่อให้ไต
00:19:45 → 00:19:48 สามารถจะกำจัดของเสียได้ดีนะครับแต่ถ้า
00:19:48 → 00:19:50 เกิดว่าไตของคุณมีปัญหาต้องระมัดระวังใน
00:19:50 → 00:19:53 การกินโปรตีนเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษครับสุด
00:19:53 → 00:19:55 ท้ายครับคือเรื่องของการกินน้ำครับน้ำ
00:19:56 → 00:19:59 สำคัญมากๆนะครับเพราะว่าเป็นตัวพาที่จะทำ
00:19:59 → 00:20:02 ให้ของเสียเนี่ยมันถูกกรองออกจากไตได้การ
00:20:02 → 00:20:03 ที่เรากินน้ำเยอะเนี่ยมันช่วยหลายอย่าง
00:20:04 → 00:20:06 เลยยิ่งในสมัยเนี้ยเควรกินอาหารเสริมหลาก
00:20:06 → 00:20:08 หลายประเภทมากๆนะครับไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม
00:20:08 → 00:20:10 แอนตี้ออกซิดไฟเบอร์ต่างๆหรือว่าสารสกัด
00:20:10 → 00:20:13 จากพืชนะครับจริงๆการกินอาหารเสริมเหล่า
00:20:13 → 00:20:16 เนี้ยครับมันมีโอกาสที่จะสะสมในร่างกาย
00:20:16 → 00:20:18 อยู่แล้วถ้ามันเยอะเกินไปนะครับวิธีนึง
00:20:18 → 00:20:21 ที่จะช่วยได้ที่จะลดการสะสมเนี่ยครับแล้ว
00:20:21 → 00:20:23 ก็ช่วยไตในการกำจัดของเหล่าเนี้ยคือการ
00:20:23 → 00:20:26 กินน้ำเยอะๆครับถ้าเกิดว่าเรากินน้ำเยอะๆ
00:20:26 → 00:20:28 นะครับไตก็จะทำงานน้อยลงแล้วก็เสื่อมช้า
00:20:29 → 00:20:31 ลงครับทั้งหมดเนี้ยครับคือไลฟ์สไตล์ที่ผม
00:20:31 → 00:20:34 อยากจะแนะนำให้ทุกคนทำนะครับและสุดท้าย
00:20:34 → 00:20:36 คืออย่าลืมไปตรวจสุขภาพไตสม่ำเสมอประจำปี
00:20:36 → 00:20:38 นะครับเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ค่าไต่ของ
00:20:38 → 00:20:40 เราเนี่ยมันเปลี่ยนแบบกระทันอาหารปีต่อปี
00:20:40 → 00:20:42 นะครับมันอาจจะเป็นการเตือนแล้วคุณอาจจะ
00:20:42 → 00:20:45 ปรับพฤติกรรมได้ทันท่วงทีนะครับถ้าคุณไม่
00:20:45 → 00:20:47 ตรวจคุณจะไม่รู้เลยนะครับว่าบางครั้ง
00:20:47 → 00:20:49 พฤติกรรมอะไรบางอย่างมันทำลายไตอยู่งั้น
00:20:49 → 00:20:52 การตรวจไตอยู่เสมอเนี่ยก็จะเป็นอีกหนึ่ง
00:20:52 → 00:20:55 วิธีที่จะป้องกันไม่ให้ไตเสื่อมและพาคุณ
00:20:55 → 00:20:57 ไปถึงจุดที่ต้องฟอกไต
00:20:57 → 00:21:02 ครับ Top to the standard podcast
00:21:02 → 00:21:05 eye opening for your ears