00:00:04 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:16 [ปรบมือ]
00:00:16 → 00:00:24 [เพลง]
00:00:24 → 00:00:27 ทุกๆปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่กว่า
00:00:27 → 00:00:30 700,000 - 800,000 คนกว่า 2 14,000
00:00:30 → 00:00:33 คนถึง 40,000 คนเป็นเด็กที่มีความพิการมา
00:00:33 → 00:00:36 แตกกำเนิดจากการที่เด็กๆเหล่านี้ต่างมี
00:00:36 → 00:00:39 ความพิการที่แตกต่างกันไปทำให้พวกเขามี
00:00:40 → 00:00:43 ความต้องการที่แตกต่างออกไปเช่นกันด้วย
00:00:43 → 00:00:46 เหตุนี้การจัดการศึกษาในระบบจึงมีข้อ
00:00:46 → 00:00:48 จำกัดในด้านความเหมาะสมต่อศักยภาพราย
00:00:49 → 00:00:51 บุคคลของเด็กพิเศษอันส่งผลให้การเรียนการ
00:00:51 → 00:00:55 สอนในห้องนั้นไม่สามารถกระตุ้นพัฒนาการ
00:00:55 → 00:00:58 ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมให้กับพวกเขาได้จึง
00:00:58 → 00:01:00 เป็นที่มาของการจัดงานสัมมนาวิชาการ
00:01:00 → 00:01:03 เรื่อง H School บ้านเรียนชวนเพลินและ
00:01:03 → 00:01:07 การประยุกต์ใช้ในทางคลินิกเพื่อเด็กพิเศษ
00:01:07 → 00:01:10 ในวันนี้รายการเล็กๆเปลี่ยนโลกขอนำเสนอ
00:01:10 → 00:01:12 ภาพการบรรยายในหัวข้อเรื่องกลุ่มบ้าน
00:01:12 → 00:01:16 เรียนสำหรับเด็กพิเศษและบ้านเรียนชวนชื่น
00:01:16 → 00:01:19 โดยได้รับเกียรติจากดรนภัสสรเสรีวงศ์ผู้
00:01:19 → 00:01:22 จัดการศึกษาบ้านเรียนชวนชื่นบ้านเรียน
00:01:22 → 00:01:25 เพื่อเด็กพิเศษเป็นวิทยากรบรรยายก่อนอื่น
00:01:25 → 00:01:28 บ้านเรียนชวนชื่นเนี่ยค่ะบ้านเรียนเรามี
00:01:28 → 00:01:32 35 คนเราแบ่งการเรียนเป็น 8 ห้องนะคะ
00:01:32 → 00:01:35 อัตราส่วนครู 1 คนก็ต่อนักเรียนประมาณ 2-3
00:01:35 → 00:01:37 คนเท่านั้นน่ะค่ะการเรียนการสอนของเรา
00:01:37 → 00:01:39 เนี่ยเรายึดนโยบายการเล่นเพื่อเรียนเรา
00:01:39 → 00:01:42 รู้อยู่อย่างว่าการจัดกิจกรรมในการเล่น
00:01:42 → 00:01:44 ของเด็กเนี่ยค่ะจะเป็นส่วนสำคัญในการ
00:01:44 → 00:01:47 พัฒนาของผู้เรียนในการทำกิจกรรมอะไรของ
00:01:47 → 00:01:49 บ้านเรียนสมมุติว่าวันเนี้เราจะสอนเรื่อง
00:01:49 → 00:01:52 ระบบนิเวศเรื่องกบเรื่องอะไรเราก็จะทำ
00:01:52 → 00:01:55 แผ่นงานให้มันตรงกันกับระดับชั้นของผู้
00:01:55 → 00:01:57 เรียนเพื่อที่ให้เขาเกิดความจำในภาพว่า
00:01:57 → 00:02:01 นี่คือกบนี่คือกบนะคะเราก็จะจัดการเรื่อง
00:02:01 → 00:02:05 เรียนโตขึ้นมาหน่อยก็จะค่อนข้างที่จะซับ
00:02:06 → 00:02:08 ซ้อนหน่อยแต่ทั้งหมดต้องเรียนเรื่องกบ
00:02:08 → 00:02:11 เรื่องนิเวศไปพร้อมกันในโรงเรียนเห็นมยคะ
00:02:11 → 00:02:14 ในลักษณะของการจัดการศึกษาของบ้านเรียน
00:02:14 → 00:02:18 เนี่ยการคิดการวิเคราะห์การสังเกตนะคะการ
00:02:18 → 00:02:21 ได้ลงมือกระทำเป็นจุดสำคัญของการศึกษาของ
00:02:21 → 00:02:25 เด็กกลุ่มพิเศษเราก็ได้จัดตารางเรียนก็
00:02:25 → 00:02:29 คือมีเช้าอ่ะค่ะก็เล่นสักครึ่งวันไปค่อยๆ
00:02:29 → 00:02:32 ไปบ่ายวิชาการเด็กเราเรียนรู้ได้นะคะ
00:02:32 → 00:02:35 กิจกรรมของเราตั้งแต่ 18:00 นเราก็ตัก
00:02:35 → 00:02:39 บาตรนะคะเอ่อจะแบ่งเวรตักบาตรช่วยกันทำ
00:02:39 → 00:02:43 ความสะอาดบ้านเรียนเรานะคะทานอาหารเช้า
00:02:43 → 00:02:47 เอ่อแล้วก็พักผ่อนอ่านหนังสือกันก่อนที่
00:02:47 → 00:02:51 จะเข้าแถวเข้าโรงเรียนนะคะจะเห็นได้ว่า
00:02:51 → 00:02:53 เหตุผลที่เราเอาเด็กกลุ่มพิเศษกลุ่มเนี้ย
00:02:53 → 00:02:56 มารวมกันเพราะว่าหลายคนชอบบอกว่าบ้าน
00:02:56 → 00:02:59 เรียนเนี่ยเด็กจะขาดการมีมิตรสัมพันธ์การ
00:02:59 → 00:03:01 มีมีเพื่อนกันมีอะไรซึ่งจริงๆเด็กพิเศษเค
00:03:01 → 00:03:03 ก็ไม่เค้าก็จะไม่รวมกับใครอยู่แล้วเคก็จะ
00:03:03 → 00:03:06 ไม่เล่นกับใครอยู่แล้วแต่การศึกษาแบบบ้าน
00:03:06 → 00:03:08 เรียนเนี่ยมันสามารถที่จะดึงเด็กกลุ่ม
00:03:08 → 00:03:11 พิเศษให้มารวมกันแล้วก็มีทิศทางเป้าหมาย
00:03:11 → 00:03:14 ในเดียวกันเห็นมั้ยคะการใช้กิจกรรมนำความ
00:03:14 → 00:03:17 รู้เนี่ยค่ะจะสร้างให้เด็ก 1 คนนะคะมี
00:03:17 → 00:03:20 พัฒนาการที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายทั้งจิตใจ
00:03:20 → 00:03:24 นะคะทั้งอารมณ์ทั้งสังคมและเด็กคนเนี้ย
00:03:24 → 00:03:26 ซึ่งเราก็ไม่คาดหวังว่าในวันที่เมาหาเรา
00:03:26 → 00:03:29 วันแรกเนี่ยเจะยุ่งวุ่นวายที่สุดในชีวิต
00:03:29 → 00:03:33 นี่คือฉอไม่เป็นไรัวฉี่ยังไม่ต้องฉี่ค่ะ
00:03:33 → 00:03:37 ชีราดตรงนี้เลยชีราดตรงนี้เลยชไม่ชีราด
00:03:37 → 00:03:41 อ่าไม่ฉีราดก็ไม่เป็นไรลูกอู๊ยเจ็บๆเจ็บ
00:03:41 → 00:03:44 ระวังอุยเจ็บอูเจ็บมาเจ็บมาเจ็บมาอุ๊ย
00:03:44 → 00:03:48 เจ็บมาก
00:03:48 → 00:03:52 เ็บในปี 50 น่ะค่ะพี่ดิวก็ยังเด็กเล็ก
00:03:52 → 00:03:55 อยู่เลยเห็นมั้ยคะพี่ดิวก็จะผ่านการเรียน
00:03:55 → 00:03:59 รู้การเล่นการทำกิจกรรมนะคะเอ่อกลัวมาก
00:03:59 → 00:04:03 กับการตัดผมตัดผมนี่คือฉันจะเป็นอะไรที่
00:04:03 → 00:04:06 ฉันไม่นั่นเลยตัดผมแปรงฟันเอ่อตัดเล็บ
00:04:06 → 00:04:09 เนี่ยค่ะเอ่อพี่ดิวมีลักษณะพิเศษอย่าง
00:04:10 → 00:04:12 หนึงพอเจอน้องคนใหม่นี่ของขวัญที่ให้น้อง
00:04:12 → 00:04:15 ก็คือไปหักนิ้วน้องนี่คือสิ่งที่สิ่งที่ณ
00:04:15 → 00:04:18 วันนั้นเยังเป็นอยู่นะคะกิจกรรมบำบัดนี้
00:04:18 → 00:04:20 จะช่วยเด็กทุกอย่างเหมือนกับถ้าเราอยู่ใน
00:04:20 → 00:04:22 ครอบครัวของเราเราเลี้ยงด้วยตัวเราเองเรา
00:04:22 → 00:04:25 จัดการศึกษาให้ครอบครัวด้วยตัวเราเองทุก
00:04:25 → 00:04:28 อย่างที่เกิดขึ้นในบ้านก็สามารถที่จะ
00:04:28 → 00:04:31 พัฒนาเด็กกลุ่มนี้ได้นะคะปีที่ 2 ของการ
00:04:31 → 00:04:33 เรียนรู้เราก็ยังเรียนรู้โดยการที่จัดการ
00:04:33 → 00:04:36 เรียนการสอนแบบใช้กิจกรรมเอ่อเล่นเป็น
00:04:36 → 00:04:39 กลุ่มเรียนเป็นกลุ่มเห็นนะคะปีที่ 2
00:04:39 → 00:04:42 เริ่มไม่กลัวการตัดผม่ะค่ะ 2 ปีเริ่มมี
00:04:42 → 00:04:45 ทัศนะที่ดีในการตัดผมร้องไปโวยวายก็เท่า
00:04:45 → 00:04:48 นั้นใช่มั้ยคะทุกอย่างที่เราทำอยู่ในบ้าน
00:04:48 → 00:04:51 ก็คือสอนเป็นการเรียนรู้ให้เขาได้นี่ปี
00:04:51 → 00:04:55 ที่ 3 กิจกรรมของเราก็ขึ้นอยู่กับเอ่อ
00:04:55 → 00:04:58 วัฒนธรรมประเพณีไม่ว่าจะของในประเทศหรือ
00:04:58 → 00:05:01 ต่างประเทศเราก็จะจำทำสิ่งเหล่านี้มาทำ
00:05:01 → 00:05:07 กิจกรรมให้เด็กนะคะพอปีต่อไปปี 53 ทุกวัน
00:05:07 → 00:05:10 ทุกเดือนทุกเวลาทุกคนก็ยังผ่านการเรียน
00:05:10 → 00:05:13 รู้ในด้านการกิจกรรมเด็กก็ยังมีกิจกรรมทำ
00:05:13 → 00:05:16 กันอยู่ทุกวันเริ่มเรียนปีที่ 5 นี่ก็คือ
00:05:16 → 00:05:19 พี่ดิวเราจะเห็นเด็กคนนึงโตขึ้นมาด้วย
00:05:19 → 00:05:23 ด้วยภาวะที่เราใช้กิจกรรมนำความรู้นะคะพอ
00:05:23 → 00:05:25 ปีที่ 6 เห็นมั้ยคะก็มีหน้าที่ที่ต้องไป
00:05:25 → 00:05:29 ตลาดช่วยคุณแม่ทำกับข้าวปี 57 นี่ก็เริ่ม
00:05:29 → 00:05:32 เป็นหนุ่มใหญ่แล้วค่ะเริ่มมีความคิดเริ่ม
00:05:32 → 00:05:36 เอ่อมีขบวนการคิดของตัวเองเริ่มที่จะมี
00:05:36 → 00:05:39 ชีวิตเพื่อบุคคลอื่นเป็นแรงสำคัญในโรง
00:05:39 → 00:05:42 เรียนช่วยดูแลเหลือน้อยช่วยคุณแม่ทำกับ
00:05:42 → 00:05:43 ข้าว
00:05:43 → 00:05:47 เอ่อช่วยเพื่อนเป็นหัวหน้านะคะแล้วก็การ
00:05:47 → 00:05:51 ที่จะไปแสดงออกในงานต่างๆที่เด็กกลุ่มเย
00:05:51 → 00:05:54 ค่ะได้ช่วยพวกเราเอาไว้ตอนนี้สิ่งที่เรา
00:05:54 → 00:05:57 ภูมิใจกับดิวนะคะเราใช้คำว่าเราภูมิใจเลย
00:05:57 → 00:06:01 ตรงที่ว่าพ่อแม่เค้ามอบพี่ดิวให้เราในวัน
00:06:01 → 00:06:04 ที่พี่ดิวมาวันแรกอ่ะค่ะพ่อแม่มายืนร้อง
00:06:04 → 00:06:07 ไห้อยู่ข้างประตูคุณแม่ตัวเองเป็นคนบอก
00:06:07 → 00:06:10 ว่าถ้าคิดว่าคุณจะลูกคุณจะเปลี่ยนแปลงคุณ
00:06:10 → 00:06:14 ต้องทำใจเพราะดิวอยู่กับคุณมา 8 ปีแล้วใน
00:06:14 → 00:06:17 8 ปีเนี่ยคุณทำอะไรให้ดิวไม่ได้ดิวจะ
00:06:17 → 00:06:20 เป็นอะไรที่ใช้อารมณ์ใช่มยคะเพราะฉะนั้น
00:06:20 → 00:06:23 เนี่ยต่อจากนี้ไปขอเอาดิวอยู่กับเราแล้ว
00:06:23 → 00:06:27 เราจะจะจะดูแลให้พร้อมกับให้ข้อคิดคุณทาง
00:06:27 → 00:06:30 ครอบครัวเขาว่าเหมือนกับกับการที่เรา
00:06:30 → 00:06:32 สร้างปติมากรรมอะไรสักอย่างอ่ะค่ะมันไม่
00:06:32 → 00:06:34 มีอยู่ดีๆแล้วเราเอาดินมาปั้นไว้อันนึง
00:06:34 → 00:06:37 ดินมันก็จะสวยงามมันเป็นไปไม่ได้เราต้อง
00:06:37 → 00:06:41 ตอกย้ำซ้ำทวนโปะนี่นั้นตับนี่หน่อยโปะนี่
00:06:41 → 00:06:44 นิดสิ่งที่ออกมามันก็จะสวยงามแต่ทั้งหมด
00:06:44 → 00:06:48 เนี่ยค่ะมันต้องใช้กิจกรรมบำบัดจะให้ 8:00
00:06:48 → 00:06:51 นไปนั่งเรียน 17:00 นกลับบ้านเอ่อวันๆไม่
00:06:51 → 00:06:53 ได้ไปไหนอยู่แต่ในห้องเรียนเด็กกลุ่มนี้
00:06:53 → 00:06:56 รับไม่ได้เด็กกลุ่มนี้จะฝืนธรรมชาติใน
00:06:56 → 00:06:59 ความอยากรู้อยากเห็นของเขานะคะดังนั้นนะ
00:06:59 → 00:07:01 คะอยากจะเรียนทุกท่านว่าถ้าท่านจะจัดการ
00:07:01 → 00:07:04 ศึกษาโดยครอบครัวเป็นสิ่งที่จำเป็นและ
00:07:04 → 00:07:08 สำคัญกรณีที่ท่านจัดคนเดียวขอให้ใช้
00:07:08 → 00:07:12 กิจกรรมบำบัดกิจกรรมในการพัฒนาลูกเหตุผล
00:07:12 → 00:07:14 เพราะว่าการพัฒนากิจกรรมเนี่ยมันเป็นอะไร
00:07:14 → 00:07:17 ที่ทำให้เด็กได้กระตือรือร้นได้รู้อย่าง
00:07:17 → 00:07:19 เช่นยกตัวอย่างของบ้านเรียนเราเวลาเราจะ
00:07:19 → 00:07:22 ชั่งน้ำหนัก 1 1 อันน่ะนะคะเราก็เอาน้ำ
00:07:22 → 00:07:26 หนักเดิมมาเขียนไว้ก่อนตามด้วยอากคุณไป
00:07:26 → 00:07:28 ช่างดูซิว่าน้ำหนักวันนี้เท่าไหร่มากกว่า
00:07:28 → 00:07:31 หรือน้อยกว่ากว่าบวกหรือลบใช้สัญลักษณ์
00:07:31 → 00:07:34 อะไรเห็นมั้ยคะนี่คือการสอนไปในตัวเด็ก
00:07:34 → 00:07:36 ได้เรียนรู้ทั้งเลขเด็กได้เรียนรู้ทั้ง
00:07:36 → 00:07:40 เอ่อเอ่อการคำนวณการเขียนการอะไรทั้งหมด
00:07:40 → 00:07:42 ซึ่งสิ่งเหล่าเนี้เป็นปัจจัยพื้นฐานกับ
00:07:42 → 00:07:45 การที่เอาลูกมาชั่งน้ำหนักหน่อยเห็นมั้ย
00:07:45 → 00:07:47 คะหรือแม้กระทั่งการที่เราวางข้าวของเอา
00:07:47 → 00:07:49 ไว้ต่างๆให้เด็กเล่นวิบากซะก่อนก่อนที่จะ
00:07:49 → 00:07:52 มาเก็บนี่ก็คือหนึ่งในกิจกรรมเพราะฉะนั้น
00:07:52 → 00:07:55 เองก็ตามแต่เนี่ยนะคะก็ขอฝากไว้ว่าแล้ว
00:07:55 → 00:07:59 ให้ผู้ปกครองทุกท่านเอ่อตระหนักว่า 1
00:07:59 → 00:08:02 ครอบครัวในการจัดการศึกษาแบบครอบครัวเป็น
00:08:02 → 00:08:07 สิ่งที่จำเป็นและสวยงามนะคะกับเด็กพิเศษ
00:08:07 → 00:08:11 เกือบทุกคนนะคะอันที่ 2 ขอให้รับทราบว่า
00:08:11 → 00:08:15 กิจกรรมบำบัดเป็นสิ่งนึงที่สามารถที่จะ
00:08:15 → 00:08:17 กระตุ้นการพัฒนาการของเด็กกลุ่มนี้ได้
00:08:17 → 00:08:21 อย่าง 100% นี่คือพี่ดิวเนี่ยค่ะคือหนึ่ง
00:08:21 → 00:08:25 ใน 560 ตัวอย่างที่บ้านเรียนเรามีนะคะทุก
00:08:25 → 00:08:28 คนผ่านการเจริญเติบโตโดยการใช้กิจกรรม
00:08:28 → 00:08:31 บำบัดแล้วก็การจการศึกษาโดยครอบครัวค่ะ
00:08:31 → 00:08:34 ขอบคุณมากนะคะการเอ่อใช้กิจกรรมบูรณาการ
00:08:35 → 00:08:37 เนี่ยค่ะมันจะช่วยทำให้เด็กเนี่ยพัฒนาไป
00:08:37 → 00:08:40 พร้อมๆกันไม่ว่าจะเป็นด้านความฉลาดทาง
00:08:40 → 00:08:44 ด้านภาษาความฉลาดทางด้านการคำนวณความฉลาด
00:08:44 → 00:08:47 ทางด้านมิติสัมพันธ์ใช่มั้ยคะความฉลาด
00:08:47 → 00:08:50 ทักษะทางด้านสังคมความฉลาดด้านบุคลิกภาพ
00:08:50 → 00:08:54 ด้านกายภาพอะไรต่างๆของตัวเองความฉลาด
00:08:54 → 00:08:56 ด้านธรรมชาติสิ่งเหล่าเนี้ยเป็นสิ่งที่
00:08:56 → 00:09:00 จำเป็นในการพัฒนาคนๆนึงเนี่ยเนี่ยให้เกิด
00:09:00 → 00:09:04 ความรอบรู้ในการที่จะใช้ชีวิตซึ่งเป็น
00:09:04 → 00:09:06 เด็กพิเศษด้วยแล้วสิ่งเหล่าเนี้ยจำเป็น
00:09:06 → 00:09:11 มากกว่าด้านวิชาการทั้งหมดผมก็ช่วยช่วย
00:09:11 → 00:09:15 งานบ้างไม่ว่าจะออกบูธบัวเรียนออกบูทบัว
00:09:15 → 00:09:19 และเรียนหนังสือแล้วก็ช่วยคุณครูช่วย
00:09:19 → 00:09:22 อาจารย์แม่ทำกับข้าวช่วยช่วยนู่นช่วยนี่
00:09:22 → 00:09:26 นั่นไม่ว่าจะช่วยซื้อของพาเด็กไปดูหนังพา
00:09:26 → 00:09:28 เด็กไปเที่ยวพาทุกคนไปออกข้างนอกเพราะว่า
00:09:28 → 00:09:31 ข้างนอกเป็นโรคแห่งความรู้ครับเพราะว่า
00:09:31 → 00:09:34 เป็นโรคแห่งความรู้ครั้งยิ่งใหญ่แล้วนะ
00:09:34 → 00:09:37 ครับโอกิจกรรมเยอะมากเลยครับเพราะว่า
00:09:37 → 00:09:41 เพราะว่ากิจกรรมบ้านเรชื่อนี้บูรณาการ
00:09:41 → 00:09:44 ประจำประจำอาทิตย์ประจำสัปดาห์ครับไม่ซ้ำ
00:09:44 → 00:09:46 กันเลยครับการศึกษาของเราเนี่ยค่ะเราจะ
00:09:46 → 00:09:51 เน้นอยู่ 3 เรื่องก็คือ 1 การเอ่อน้ำใสใบ
00:09:51 → 00:09:55 ยอกไผนะคะก็คือการที่เราพูดดีๆก่อนเ่อชม
00:09:55 → 00:09:58 เชยก่อนอ่ะพูดไม่รู้เรื่องก็ต้องมีป๊าบๆ
00:09:58 → 00:10:02 กันบ้างนะคะอันที่ 2 ที่เรานั่นก็คือการ
00:10:02 → 00:10:05 ถักทอทอดแหการถักทอทอดแหก็คือเราจะสอน
00:10:05 → 00:10:08 เด็กขึ้นมาอีกระดับนึงว่าข้างนอกอ่ะค่ะ
00:10:08 → 00:10:11 เอ่อวิชาเราก็เหมือนกับกุ้งหอยปูปลาที่
00:10:11 → 00:10:14 อยู่ในอยู่ในทะเลอะไรอย่างเงี้ยอยู่ดีๆ
00:10:14 → 00:10:17 คุณยืนเฉยๆอย่างเงี้ยคุณก็จะไปจับมันหา
00:10:17 → 00:10:19 กินไม่ได้แต่ถ้าสมมุติคุณรู้จักการที่ว่า
00:10:19 → 00:10:22 เออถ้าคุณเด็กอยู่คุณก็ใช้กระชอนนะไปช้อน
00:10:23 → 00:10:25 คุณช้อนไม่เป็นชวนชื่อเนี่ยจะเป็นคนจับ
00:10:25 → 00:10:29 มือคุณแล้วพาคุณไปช้อนนะคะนี่คือวิวิธี
00:10:29 → 00:10:32 การเหมือนกับการเรียนการสอนของเราคุณโต
00:10:32 → 00:10:34 ขึ้นมาหน่อยอ่ะเรามาถักแหกันเรามาถักแห
00:10:34 → 00:10:38 กันเราสอนคุณที่จะเหวี่ยงแหเมื่อคุณเก่ง
00:10:38 → 00:10:41 แล้วคุณก็ค่อยๆถักแหที่ปากใหญ่ขึ้นใหญ่
00:10:41 → 00:10:44 ขึ้นแล้วคุณก็ไปหากินของคุณได้ใช่มั้ยคะ
00:10:44 → 00:10:47 อีกอันนึงที่เราได้ใช้อยู่ก็คือตอกย้ำซ้ำ
00:10:47 → 00:10:50 ทวนการตอกย้ำซ้ำทวนเนี่ยค่ะปีแล้วปีเล่า
00:10:50 → 00:10:53 ที่เราจะต้องคุยเรื่องเดิมๆเอ่อบอกเรื่อง
00:10:53 → 00:10:57 เดิมๆพูดเรื่องเดิมๆแต่ถามว่าการที่พูด
00:10:57 → 00:10:59 เรื่องเดิมๆเหล่าเนี้ยมันเป็นการตอกย้ำ
00:10:59 → 00:11:03 ซ้ำทวนให้เด็กเนี่ยเเกิดจินตนาการ
00:11:03 → 00:11:06 ช่วงหน้าในรายการเล็กๆเปลี่ยนโลกกลับมาพบ
00:11:06 → 00:11:09 กับกิจกรรมในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง H
00:11:09 → 00:11:12 School บ้านเรียนชวนเพลินและการประยุกต์
00:11:12 → 00:11:15 ใช้ในทางคลินิกเพื่อเด็กพิเศษโดยกลุ่มนัก
00:11:15 → 00:11:18 ศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 4 คณะกายภาพ
00:11:18 → 00:11:23 บำบัดมหาวิทยาลัยมหิดลกันต่ออีกสักครู่
00:11:23 → 00:11:31 [เพลง]
00:11:31 → 00:11:34 รายการเล็กๆเปลี่ยนโลกในช่วงนี้กลับมาพบ
00:11:34 → 00:11:37 กับกิจกรรมในงานสัมมนาวิชาการเรื่องโฮ
00:11:37 → 00:11:40 School บ้านเรียนชวนเพลินและการประยุกต์
00:11:40 → 00:11:43 ใช้ในทางคลินิกเพื่อเด็กพิเศษโดยกลุ่มนัก
00:11:43 → 00:11:46 ศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 4 คณะกายภาพ
00:11:46 → 00:11:49 บำบัดมหาวิทยาลัยมหิดลโดยในช่วงนี้เป็น
00:11:49 → 00:11:52 กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยมี
00:11:52 → 00:11:55 วิทยากรหลักร่วมตอบคำถามไขข้อสงสัยให้กับ
00:11:55 → 00:11:57 ผู้ร่วมอีกทั้งยังเป็นการร่วมกันแบ่งปัน
00:11:57 → 00:11:59 ประสบการณ์ความรู้และและข้อมูลที่มี
00:12:00 → 00:12:02 ประโยชน์จากผู้เข้าร่วมท่านอื่นๆอีก
00:12:02 → 00:12:06 ด้วยในวันนี้ที่ทุกท่านมาสัมมนาในวันนี้
00:12:06 → 00:12:10 ค่ะเห็นว่าหลายท่านน่าจะมีคำถามหลังจาก
00:12:10 → 00:12:13 ที่ฟังการบรรยายเสร็จแล้วเนาะมีท่านไหน
00:12:13 → 00:12:17 อยากจะถามคำถามหรือจะสอบถามหรืออยากแสดง
00:12:17 → 00:12:21 ความคิดเห็นในการทำกิจกรรมในวันนี้อ่ะ
00:12:21 → 00:12:25 ค่ะพอดีสนใจอยากจะทำโฮม School ให้ลูก
00:12:25 → 00:12:28 ช่วงนี้พอดีอ่ะค่ะก็ที่มีคำถามคืออย่าง
00:12:28 → 00:12:31 เมื่อกี้ได้ทราบแนวที่ศึกษาเอ่อแนวหลัก
00:12:31 → 00:12:34 ทางการศึกษาให้ลูกว่ามันมี 4 แนวค่ะก็เลย
00:12:34 → 00:12:36 สงสัยว่าถ้าลูกเราเป็นเด็กพิเศษอ่ะค่ะ
00:12:36 → 00:12:39 แล้วเราใช้หลักการ uns schooling อย่าง
00:12:39 → 00:12:41 เดียวหรือว่าเราควรจะผสมผสานทั้ง 4 หลัก
00:12:42 → 00:12:45 ให้กับให้กับลูกแต่ว่าเราใช้การสังเกตจาก
00:12:45 → 00:12:48 หลัก uns schooling ที่แบบลูกเราชอบอะไร
00:12:48 → 00:12:51 เป็นพิเศษแล้วเราก็ส่งเสริมไปทางนั้น
00:12:51 → 00:12:53 เนี่ยไม่แน่ใจว่ามันขัดกันเองหรือเปล่า
00:12:53 → 00:12:57 เพราะว่ามันเหมือนเราพุ่งไปในส่วนที่เขา
00:12:57 → 00:13:00 ชอบอย่างเดียวแต่เราก็เราไม่ได้เสริมใน
00:13:00 → 00:13:02 ส่วนที่เขาไม่ชอบอ่ะค่ะเพราะส่วนที่เขา
00:13:02 → 00:13:04 ไม่ชอบคืออาจจะเป็นด้านกีฬาด้านร่างกาย
00:13:04 → 00:13:07 ที่เขาควรจะต้องเสริมเหมือนกันอ่ะค่ะคือ
00:13:07 → 00:13:09 อันดับแรกคุณแม่ต้องดูเป้าหมายก่อนนะคะ
00:13:10 → 00:13:13 เราตั้งเป้าหมายของลูกเราว่ายังไงแล้วเรา
00:13:13 → 00:13:16 ทำเพื่อจะตอบโจทย์อันนั้นเพราะว่าถ้าเกิด
00:13:16 → 00:13:20 ว่าเอ่อแม่หรือใครต่อไปเนี่ยมันอาจจะไม่
00:13:20 → 00:13:23 ได้ตามเป้าหมายของของที่บ้านนั้นต้องการ
00:13:23 → 00:13:25 แต่สำหรับตัวเองตอบสำหรับตัวเองนะคะ
00:13:26 → 00:13:27 สำหรับตัวเองเนี่ยถ้ายกตัวอย่างอย่าง
00:13:27 → 00:13:29 กิจกรรมเรื่องการเคลื่อนเรื่องการออก
00:13:29 → 00:13:32 กำลังกายเนี่ยสำหรับตัวเองเนี่ยสิ่งที่
00:13:32 → 00:13:35 ให้ความสำคัญอันดับหนึ่งก็คือสุขภาพเพราะ
00:13:35 → 00:13:39 ฉะนั้นเราก็จะพยายามเอื้ออำนวยชักจูงโน้ม
00:13:39 → 00:13:43 นาวเพื่อให้เขาได้ออกกำลังกายหรือมีโอกาส
00:13:43 → 00:13:47 ได้วิ่งได้เล่นเราจะจัดสิ่งแวดล้อมเอ่อทำ
00:13:47 → 00:13:50 ตัวของเราให้เหมาะสมเพราะว่าการเสริม
00:13:50 → 00:13:53 สร้างหรือการดูแลสุขภาพของตัวของเขาเนี่ย
00:13:53 → 00:13:58 ถือว่าเป็นข้อหนึ่งของบ้านเรานะส่วน
00:13:58 → 00:14:02 เรื่องเรื่องว่าเอ่อกิจกรรมที่เป็นแนวอ่า
00:14:02 → 00:14:07 Un schooling นันคะไม่ไม่มีความรู้ลึก
00:14:07 → 00:14:10 มากนักแต่ว่าพูดถึงถ้าเป็นแนวการศึกษา
00:14:10 → 00:14:13 วอดอแท้ๆเนี่ยเราก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
00:14:13 → 00:14:16 เพราะลูกเราเป็นเด็กพิเศษใช่มคะทีนี้
00:14:16 → 00:14:18 เนี่ยลูกเราแต่ละคนมีความเป็นเด็กพิเศษ
00:14:18 → 00:14:22 เนี่ยไม่เหมือนกันครูก็ไม่รู้ครูที่โรง
00:14:22 → 00:14:24 เรียนก็อาจจะไม่รู้เรานี่แหละอยู่กับลูก
00:14:24 → 00:14:27 นะค่ะเรารู้มากที่สุดเรารู้ว่าลูกเราจะไป
00:14:27 → 00:14:32 ทางไหนแล้วเราจะเพเอาอะไรที่ที่ที่เหมาะ
00:14:32 → 00:14:34 กับเขาให้เขา
00:14:34 → 00:14:37 อจำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เด็กชอบอย่างเดียว
00:14:37 → 00:14:40 มั้ยคะหรือว่าลักษณะอย่างอื่นมันขึ้นอยู่
00:14:40 → 00:14:43 กับการให้ความสำคัญของเราอ่ะค่ะอย่างเช่น
00:14:43 → 00:14:46 สมมุติว่าอย่างที่บ้านอย่างนะฮะเรื่อง
00:14:46 → 00:14:48 เรื่องสุขภาพเป็นอันดับที่ 1 เพราะฉะนั้น
00:14:48 → 00:14:50 เนี่ยการที่เขาต้องรู้จักดูแลสุขภาพออก
00:14:50 → 00:14:53 กำลังกายเเป็นสิ่งที่เราจะใช้ความพยายาม
00:14:53 → 00:14:56 ในการโน้มเ้าแต่ไม่ใช่บังคับนะคะแต่ว่า
00:14:56 → 00:14:58 ถ้าถามว่าเป็นเรื่องอื่นอย่างเช่นลูกไม่
00:14:58 → 00:15:01 อ่านหนังสือตอนเนี้ยก็ตาไม่ดีอ่ะเค้าไม่
00:15:01 → 00:15:03 อยากอ่านหรือเขาคอ่านแล้วเล้าอย่างเงี้ย
00:15:03 → 00:15:05 จำเป็นมยที่เราต้องไปบังคับให้เขาคอ่าน
00:15:05 → 00:15:07 ไม่จำเป็นค่ะฟังเหมือนคุณหมอจะใช้หลัก
00:15:07 → 00:15:11 จิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมั้ยในกรณี
00:15:11 → 00:15:15 นี้อ่ะค่ะอืกรณีเรื่องการโน้มน้าวเนี่ย
00:15:15 → 00:15:20 เอิ่มคือคือคือจะบอกว่าอันดับแรกก็คือเรา
00:15:20 → 00:15:23 ต้องดูก่อนว่าเราตั้งตั้งเอตั้งตั้งเป้า
00:15:23 → 00:15:26 ประสงค์อะไรไว้สำหรับลูกของเราอ่ะค่ะเรา
00:15:26 → 00:15:29 คิดว่าชีวิตของลูกเราเนี่ยอนาคตข้างหน้า
00:15:30 → 00:15:32 30 ปี 20 ปีของเขาอ่ะเขาต้องการอะไรใน
00:15:33 → 00:15:36 ชีวิตเเราไม่อยู่แล้วอันดับที่ 1 เราคิด
00:15:36 → 00:15:38 ว่าลูกเรามีปัญหาเรื่องสุขภาพกายนะคะค่อน
00:15:38 → 00:15:40 ข้างเยอะเพราะฉะนั้นอันเนี้ยเป็นสิ่ง
00:15:40 → 00:15:43 สำคัญสำหรับเขาเราทำตามนี้ฮแต่ว่าบังคับม
00:15:43 → 00:15:48 ไม่บังคับเพราะว่าการบังคับเด็กเนี่ยถ้า
00:15:48 → 00:15:50 เราฝืนเขามากมันทำให้เขาเกลียดในสิ่งที่
00:15:50 → 00:15:53 เราทำแล้วเขาก็จะกลายเป็นการต่อต้านไม่ทำ
00:15:53 → 00:15:56 สิ่งนั้นแต่เราใช้วิธีโน้มน้ำแล้วปลูกฝัง
00:15:56 → 00:15:59 เขาตั้งแต่เล็กให้มันเป็นให้มันเป็นเป็น
00:15:59 → 00:16:02 สุขนิสัยที่ติดตัวไปตั้งแต่เล็กจะได้ผลดี
00:16:02 → 00:16:05 กว่าค่ะ 8 ปีที่ผ่านมาเนี่ยค่ะเอ่อในหลัก
00:16:05 → 00:16:07 การถ้าเป็นของชวนชื่นนะคะถ้าเราไม่รู้จัก
00:16:07 → 00:16:09 กันเลยอยู่ดีๆเข้ามาในชวนชื่นเราเนี่ยเรา
00:16:09 → 00:16:13 จะคัดเด็กก่อนว่าลูกของคุณเนี่ยอยู่กลุ่ม
00:16:13 → 00:16:16 ไหนใช่มยคะเราจะมีเด็กอยู่หลายกลุ่มกลุ่ม
00:16:16 → 00:16:19 นึงที่เรารู้ว่าเขาเรียนได้ยเขาเขียนได้ม
00:16:19 → 00:16:22 มีความสนใจอะไรต้องพัฒนายังไงแล้ว 8 ปี
00:16:22 → 00:16:24 นี้เราจัดกิจกรรมทุกอย่างทุกวันทุกเวลา
00:16:24 → 00:16:27 ตลอดเวลาแล้วดูว่าเขาสนใจอะไรจากนั้นเรา
00:16:27 → 00:16:30 ก็จะเก็บความสนใจเนั้นน่ะค่ะมาทำเป็นตัว
00:16:30 → 00:16:32 หนังสือเรียนอย่างเช่นสมมุติเคสนใจเรื่อง
00:16:32 → 00:16:34 หุ่นยนต์ใช่มั้ยคะแบบเรียนของพ่อหนุ่ม
00:16:34 → 00:16:36 น้อยนี่ก็จะมีแต่หุ่นยนต์นะคะตั้งแต่การ
00:16:37 → 00:16:39 เลี้ยงอันไหนแขนอันไหนขาอะไรประมาณอย่าง
00:16:39 → 00:16:41 เงี้ยค่ะแล้วก็การคณิตศาสตร์เราก็เอาหุ่น
00:16:41 → 00:16:45 ยนต์เมาเกี่ยวข้องนะคะส่วนหนึงที่เราอยาก
00:16:45 → 00:16:48 ให้ผู้ปกครองทุกคนน่ะค่ะอย่าไปมองว่าต้อง
00:16:48 → 00:16:51 มองเด็กว่ามองเค้าอย่างที่เขาเป็นอย่าไป
00:16:51 → 00:16:54 มองเ้าอย่างที่เราให้เป็นเด็กมากมายที่
00:16:55 → 00:16:58 สูญเสียโอกาสในการที่จะดำเนินชีวิตในการ
00:16:58 → 00:17:02 ที่ที่จะเรียนรู้เกิดจากพ่อแม่พ่อพ่อดัน
00:17:02 → 00:17:05 แม่ดุลครูประกบปรากฏว่าเด็กก็ไม่ได้อะไร
00:17:05 → 00:17:09 เลยในกรณีของเคสของบ้านเรียนน่ะค่ะมีตัว
00:17:09 → 00:17:11 อย่างอยู่ 2-3 ตัวอย่างที่เราสามารถเห็น
00:17:11 → 00:17:14 ได้และเป็นเด็กพิเศษด้วยเอ่อเป็นเด็กปกติ
00:17:14 → 00:17:16 คนนึงก็คือน้องที่เล่นสนุกอ่ะค่ะเพราะว่า
00:17:17 → 00:17:20 เล่นสนุกจนกระทั่งได้ได้เป็นแชมป์อะไรสัก
00:17:20 → 00:17:23 อย่างนึงใช่มั้ยคะหรือเด็กอีกคนนึงซึ่งก็
00:17:23 → 00:17:27 วาดภาพใช่มั้ยคะชอบแต่วาดภาพแต่มีอีกมุม
00:17:27 → 00:17:30 มองนึงว่าเค้าวาดภาพแล้วเได้อะไรบางคนก็
00:17:30 → 00:17:32 ว่าเค้าอยากจะวาดไปก็เถอะเป็นความสุขของ
00:17:32 → 00:17:34 เค้าชีวิตฉันก็ขึ้นมานั่งแต่วาดภาพตั้ง
00:17:34 → 00:17:37 แต่เช้ายันเย็นมีแต่ภาพกับมีแต่ชั้นนั่น
00:17:37 → 00:17:39 ก็ไม่ได้อะไรเหมือนกันเพราะฉะนั้นทั้งหมด
00:17:39 → 00:17:42 อ่ะคะอันเนี้ยคือความสำคัญของครอบครัว
00:17:42 → 00:17:44 ครอบครัวต้องรู้ครอบครัวต้องเป็นผู้ให้
00:17:44 → 00:17:47 เพราะเด็กคิดเองไม่ได้ตอนนี้พ่อแม่ต้อง
00:17:47 → 00:17:50 คิดแล้วก็วางแนวทางชี้นำแล้วก็พาเเดินไป
00:17:50 → 00:17:54 ทีละก้าวทีละก้าวสิ่งไหนที่คิดว่าเค้า
00:17:54 → 00:17:56 ก้าวไปแล้วไม่มีประโยชน์เค้าก้าวไปแล้ว
00:17:56 → 00:17:59 ไม่ได้มีความสุขกับเค้าเราก็ถอยออกออกมา
00:17:59 → 00:18:02 เพราะชีวิตเลือกได้ในการจัดการศึกษาแบบโฮ
00:18:02 → 00:18:05 School ค่ะขอเชิญคุณพ่อน้องเพเอ่อลอง
00:18:05 → 00:18:07 ถ่ายทอดประสบการณ์นะค่ะให้พวกเราฝากหน่อย
00:18:07 → 00:18:11 นึงค่ะประสบการณ์ในการจูงใจน้องให้ทำ
00:18:11 → 00:18:14 กิจกรรมหรือกิจกรรมอะไรที่น้องไม่ชอบอะไร
00:18:14 → 00:18:16 เงี้ยค่ะก็สิ่งที่สำคัญก็คือเราต้องมอง
00:18:16 → 00:18:20 ลูกนะครับว่าลูกเราเนี่ยสนใจด้านไหนก่อน
00:18:20 → 00:18:23 ที่เราจะตัดสินใจที่จะทำโ School เพราะ
00:18:23 → 00:18:26 ว่าคำว่าโฮ School ก็คือเรามีความต้องการ
00:18:26 → 00:18:30 พิเศษสำหรับลูกที่พี่พิเศษของเราถูกมครับ
00:18:30 → 00:18:33 น้องเพชรเนี่ยก็เรียนเป็นเด็กปกติตอน 4
00:18:33 → 00:18:36 ขวบครึ่งเขาก็เรียนโรงเรียน
00:18:36 → 00:18:40 อนุบาลคราวนี้ความที่ว่าเขาเป็นเด็กที่
00:18:40 → 00:18:44 อาจจะถูกเด้งดูมาตั้งแต่วัยเล็กเกี่ยวกับ
00:18:44 → 00:18:48 เรื่องเหตุและผลเวลาเขไปเรียนเนี่ยถ้าครู
00:18:48 → 00:18:52 ใช้คำสั่งเขาจะไม่ทำตามถ้ามีการทำกิจกรรม
00:18:52 → 00:18:55 ร่วมกันโดยที่ไม่มีการอธิบายเขาก็จะเงียบ
00:18:55 → 00:18:58 เช่นตบมือตอนเช้าร้องเพลงแบบเด็กๆอย่าง
00:18:58 → 00:19:01 เงี้ยเก็จะรู้สึกว่าเหมือนกับดื้อเงียบ
00:19:01 → 00:19:06 หนักเข้าเรียนถึงปลายประมาณปลายเทอมเทอม 1
00:19:06 → 00:19:10 ครูก็บอกว่าเป็นเด็กที่แบบว่า
00:19:10 → 00:19:16 ดื้อก็เรียกผู้ปกครองไปไปไปไปคุยคราวนี้
00:19:16 → 00:19:18 ผมก็เห็นว่าเด็กเนี่ยยังเล็กเกินไม่น่าจะ
00:19:18 → 00:19:21 บอกว่าดื้อถูกมั้ยครับอาจจะเป็นเพราะว่า
00:19:21 → 00:19:24 กฎระเบียบของโรงเรียนเนี่ยบังคับให้เด็ก
00:19:24 → 00:19:27 เหมือนกันผมก็อยากให้ทางโรงเรียนเโอนเข้า
00:19:27 → 00:19:30 หาเพราะว่าเห็นว่ายังเป็นเด็กอยู่แต่ครู
00:19:30 → 00:19:33 ประจำชั้นก็บอกว่าเขาตัดสินใจเรื่องนี้
00:19:33 → 00:19:37 ไม่ได้ก็เรื่องไปถึงครูใหญ่คำว่า H
00:19:37 → 00:19:39 School เนี่ยไม่ได้เกิดขึ้นโดยโดยโดย
00:19:39 → 00:19:41 ประสบการณ์ผมเลยเพราะผมไม่มีความรู้
00:19:41 → 00:19:44 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในโรง
00:19:44 → 00:19:49 เรียนซึ่งครูใหญ่เป็นคนบอกว่าลูกผมเนี่ย
00:19:50 → 00:19:52 และความต้องการของผมเนี่ยเปลี่ยนโรงเรียน
00:19:52 → 00:19:56 ไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะความต้องการของผม
00:19:56 → 00:20:01 และอุปนิสัยของของเด็กเนี่ยน่าจะคุณพ่อ
00:20:02 → 00:20:06 น่าจะเลี้ยงเองซึ่งผมก็มืด 8 ด้านเลยแล้ว
00:20:06 → 00:20:10 ก็รู้สึกว่าโรงเรียนเนี่ยไล่เราออกแต่ครู
00:20:10 → 00:20:13 ใหญ่เค้าก็ดีนะครับเขา
00:20:13 → 00:20:15 ก็เหมือน
00:20:15 → 00:20:19 กับยิ้มอ่ะยิ้มให้ว่าไม่ได้หมายความว่า
00:20:19 → 00:20:22 อย่างนั้นการที่เราเลี้ยงลูกเองเป็นสิ่ง
00:20:22 → 00:20:25 ที่ดีที่สุดแล้วโรงเรียนไม่สามารถทำให้
00:20:25 → 00:20:26 ได้
00:20:26 → 00:20:29 หรอกเด็กวัยเล็กๆอย่างเงี้ยโรงเรียนที่
00:20:29 → 00:20:33 เขาสอนอยู่เนี่ยครูใหญ่ก็บอกว่ามันก็ไม่
00:20:33 → 00:20:36 เหมาะซึ่งเป็นสิ่งที่เขารู้อยู่แก่ใจแล้ว
00:20:36 → 00:20:39 เขาก็บอกกับผมตอๆว่าเขาอยากให้เราอ่ะ
00:20:39 → 00:20:43 เลี้ยงลูกเองได้มันจะดีมากถ้าเรามีความ
00:20:43 → 00:20:48 ต้องการขนาดเนี้ยเขาจะแนะนำให้ผมก็บอก
00:20:48 → 00:20:51 แล้วผมจะสอนอะไรลูกซึ่งมันเป็นคำถามใหญ่
00:20:51 → 00:20:54 มากสำหรับคนที่เคยเรียนอยู่ในระบบอย่างผม
00:20:54 → 00:20:57 โตมาอยู่ในระบบทุกคนเรียนในระบบไม่มีใคร
00:20:57 → 00:21:01 เรียนนอกระบบไม่เคยได้ยินู่ใหญ่หยิบส้มบน
00:21:01 → 00:21:06 โต๊ะผู้ปกครองให้ผมดูแล้วก็แกะเปลือกใช่ม
00:21:06 → 00:21:11 ฮะพยายามชี้บอกว่าแต่ละชั้นของส้มเนี่ย
00:21:11 → 00:21:13 มันคือทุก
00:21:13 → 00:21:17 วิชาผมก็ถึงบังอ้อเลยแล้วผมก็แล้วจะทำยัง
00:21:17 → 00:21:21 ไงต่อในเมื่อรู้ว่าโอเคสอนลูกได้
00:21:21 → 00:21:26 ะครูใหญ่ก็บอกพรวปี 42 เนี่ยคุณพ่อลองไป
00:21:26 → 00:21:28 ศึกษาดู
00:21:29 → 00:21:32 เพราะตอนนั้นลูกผมก็ประมาณ 5 ขวบก็อาจจะ
00:21:32 → 00:21:36 ต้องมีเวลาประมาณสักปีนึง 2 ปีที่จะคิด
00:21:36 → 00:21:40 เรื่องนี้ครูใหญ่ก็บอกว่ามันมีพรบปี 42
00:21:40 → 00:21:43 นะถ้าคุณพ่อเจตนาว่าจะเลี้ยงลูกเองก็
00:21:43 → 00:21:46 สามารถเอาชื่อเนี่ยไปปรึกษาเขตได้ก่อน
00:21:46 → 00:21:50 อื่นเลยผมใช้อินเทอร์เน็ตก่อนเลยเสิร์ชดู
00:21:50 → 00:21:53 เลยว่าไอโฮ School หมายถึงอะไรคราวนี้ม
00:21:53 → 00:21:57 School เนี่ยมันก็เป็นเหมือนกับทางออก
00:21:57 → 00:22:00 ที่ใหญ่มากสำหรับคนที่แบบมืด 8 ด้าน
00:22:00 → 00:22:02 สำหรับการเรียนใน
00:22:02 → 00:22:05 ระบบมีทุกประเทศเลยนะครับที่ว่าคำว่า H
00:22:05 → 00:22:07 School ที่เราคิดว่าเป็นประเทศที่เจริญ
00:22:07 → 00:22:10 แล้วเนี่ยแล้วก็ผลตอบรับทางด้านเกี่ยวกับ
00:22:10 → 00:22:13 ข้อมูลก็ดีมากมีวิชาการมีเชิงวิชาการรอง
00:22:13 → 00:22:17 รับทั้งหมดคำถามใดที่ติดขัดที่เกี่ยวเรา
00:22:17 → 00:22:19 เราคิดว่าถ้าลูกเราเรียนโฮ School แล้ว
00:22:19 → 00:22:22 เราจะไม่ลูกเราอาจจะด้อยกว่าเด็กในระบบ
00:22:22 → 00:22:27 เนี่ยในคำตอบในในในในเชิงวิชาการสามารถ
00:22:27 → 00:22:30 ที่จะทำให้เราเนี่ยวางใจได้หมดเลยไม่มี
00:22:30 → 00:22:34 ติดขัดเลยคราวนี้ลูกผมก็ 5 ขวบผมก็กลัว
00:22:35 → 00:22:37 ว่าลูกผมเนี่ยจะไม่ทันคนอื่นเหมือนกัน
00:22:37 → 00:22:41 ทั้งๆมีข้อมูลเพียบเลยเราก็อัดลูกเราเลย
00:22:41 → 00:22:46 ไปซื้อแบบฝึกหัดมาให้ลูกเรียนทุกวิชาเต็ม
00:22:46 → 00:22:50 วันมีตารางสอนเสร็จก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผล
00:22:50 → 00:22:53 บ้างเพราะว่าเด็กเนี่ยจะให้ความร่วมมือ
00:22:53 → 00:22:55 เป็นบาง
00:22:55 → 00:22:59 วิชาแบบฝึกหัดก็ต้องเปลี่ยน
00:22:59 → 00:23:01 เปลี่ยนที่มันอัปเดตหน่อยก็คือมันจะมีรูป
00:23:01 → 00:23:05 ภาพสามารถสร้างความเข้าใจได้ไม่ใช่เป็น
00:23:05 → 00:23:07 เป็นเป็นเนื้อหาเป็นเป็นพวกภาพเขาวดำ
00:23:07 → 00:23:10 อย่างเงี้ยก็จะเป็นภาพสีเราเราเลือกเอง
00:23:10 → 00:23:13 ได้แล้วก็มาเด็กก็จะให้ความร่วมมือดีขึ้น
00:23:13 → 00:23:17 เป็นนิทานบ้างเป็นเป็นรูปภาพประกอบก็จะดี
00:23:17 → 00:23:20 ขึ้นคราวนี้พอใกล้มันใกล้จะถึงที่ว่าจะ
00:23:20 → 00:23:23 ต้องจดจดกับทางเขตเนี่ยเพื่อที่จะให้ลูก
00:23:23 → 00:23:26 เราเนี่ยถูกต้องตามกฎหมายเนี่ยจะต้องทำ
00:23:26 → 00:23:30 ยังไงคราวนี้ก็มารู้จจากสมาคมบ้านเรียน
00:23:30 → 00:23:34 ใช่มั้ยครับพี่นิ่มเนี่ยก็จะเป็นเป็นเ่อ
00:23:34 → 00:23:38 เหมือนกับที่ปรึกษาเพื่อจะนำครอบครัวเล็ก
00:23:38 → 00:23:42 ๆเนี่ยเข้าไปรู้จักกับเจ้าหน้า
00:23:42 → 00:23:47 ที่ก็มีปัญหานิดหน่อยตรงที่ว่าเราไม่มี
00:23:47 → 00:23:50 ประสบการณ์ทางด้านการเขียนแผนการเรียนการ
00:23:50 → 00:23:56 ศึกษามาก่อนพี่นิมก็จะเป็นคนไกดให้ไกดถูก
00:23:56 → 00:23:59 ใจบ้างไม่ถูกใจบ้างเนี่ยมันก็ก็มีเพราะ
00:23:59 → 00:24:01 ว่าเราอยากจะใส่ให้ลูกเราเนี่ยเท่าเนี้ย
00:24:01 → 00:24:05 ได้มยพี่นิ่มก็จะต้องมีการขัดเกลาให้มัน
00:24:05 → 00:24:07 สามารถจะคุยกับทางเขตการศึกษาได้เพราะทาง
00:24:07 → 00:24:10 เขตการศึกษานี่เขาคจะมีแพลนมาให้อย่าง
00:24:10 → 00:24:13 น้อยต้องมีทุกวิชามีมีทุกวิชาเหมือนในโรง
00:24:13 → 00:24:18 เรียนแหละแต่ว่าเราจะเลือกให้ 80% ของลูก
00:24:18 → 00:24:19 เราเนี่ยเป็นอย่างที่เขาต้องการก็คือเขา
00:24:20 → 00:24:24 ต้องการที่จะเป็นศิลปินคือเขาอยากวาดรูป
00:24:24 → 00:24:27 ทั้งวันพอ 6 ขวบเขบอกวิชาอื่นตัดหมดเลย
00:24:27 → 00:24:30 วิชาแรกนะครับที่ตัดออกคือวิชาอะไรรู้มย
00:24:30 → 00:24:36 ครับวิชาแรกเลยใครเดาออกมั่งคัดลาย
00:24:36 → 00:24:40 มือเด็กที่ชอบวาดรูปแต่ทำไมบอกว่าวิชาคัด
00:24:40 → 00:24:43 ลมือเป็นวิชาที่น่าเบื่อที่สุดรู้มครับ
00:24:43 → 00:24:48 เพราะการคัดลายมือมีลักษณะการบังคับให้
00:24:48 → 00:24:53 เดินไปตามเส้นที่เขากำหนดแล้วน้องเพนก็จะ
00:24:53 → 00:24:56 บอกว่าวิชาเนี้ยตัดออกการตัดออกไม่ได้ตัด
00:24:57 → 00:24:59 ทีเดียวนะครับจะตัดเป็นช่วงๆที่เขาคิดได้
00:24:59 → 00:25:01 ว่าวิชาเเขาไม่
00:25:01 → 00:25:06 ชอบเขาก็จะตัดออกตัดจนกระทั่งเหลือแค่
00:25:06 → 00:25:10 วิชาศิลปะผมก็ถามว่ามั่นใจแค่ไหนเขบอก
00:25:10 → 00:25:14 มั่นใจเพราะเขาสามารถทำได้ทั้งวันคราว
00:25:14 → 00:25:18 เนี้ยในในระหว่างที่เราตัดสินใจจดเนี่ย
00:25:18 → 00:25:21 เจ้าหน้าที่ก็โอเคนะครับเพราะว่ามีแผนมี
00:25:22 → 00:25:24 แผนจากทางสมาคมบ้านเรียนก็คือพี่นิมี
00:25:24 → 00:25:27 ประสบการณ์ที่จะสามารถที่จะทำให้เราเนี่ย
00:25:27 → 00:25:30 เข้าไปก็ไม่มีปัญหาทุกวันนี้ก็สามารถที่
00:25:30 → 00:25:35 จะใช้แผนการศึกษาที่เราจดเนี่ยแหละสอนลูก
00:25:35 → 00:25:39 แล้วทางเขตก็ดีนะเราสอนลูกเองเราได้ตังค์
00:25:39 → 00:25:43 ด้วยได้ตังค์ค่าอุดหนุนทางทางรัฐบาลเนี่ย
00:25:43 → 00:25:47 เขาก็จะให้เราเป็นราายเป็นราายเทอม
00:25:47 → 00:25:51 ประหยัดด้วยนะแล้วลูกเราก็มีความสุขทุก
00:25:52 → 00:25:56 วันเนี้ยน้องเพนเไม่ได้เป็นเด็กที่แบบว่า
00:25:56 → 00:26:00 เอ่อเรียนวิชาว่าูแล้วเขจะไม่รู้ว่าเขาจะ
00:26:00 → 00:26:04 เอาไปทำอะไรทุกวันเนี้ยเขาก็ภูมิใจซึ่ง
00:26:04 → 00:26:07 อยากจะให้นี่
00:26:07 → 00:26:12 ๆฟังที่ปะป๊าพูดึป่ะฟังใช่มมคะอันนี้
00:26:12 → 00:26:13 ปะป๊าอยากจะถาม
00:26:13 → 00:26:17 ว่าเรียนโม School เนี่ยคำว่าวิชาวาดรูป
00:26:18 → 00:26:21 เนี่ยหนูภูมิใจแล้วก็หนูเ่ารู้ว่าวิชาวาด
00:26:21 → 00:26:24 รูปมันมีประโยชน์กับหนูอย่างไรเนี่ยปะป๊า
00:26:24 → 00:26:27 ก็อยากจะให้หนูเอาไปจอยข้างหน้าแล้วก็บอก
00:26:27 → 00:26:31 เล่าความประทับใจให้กับผู้ปกครองแล้วก็
00:26:31 → 00:26:34 พี่ๆเได้ฟังนะ
00:26:34 → 00:26:40 ครับค่ะเชิญ
00:26:40 → 00:26:47 ค่ะสวัสดีค่ะหนูชื่อเฟ้นฟ้านะคะก็หนูก็
00:26:47 → 00:26:51 การเรียนรู้ของหนูเนี่ยหนูเริ่มตั้งแต่ 2
00:26:51 → 00:26:55 ขวบพัฒนาเนี่ยหนูวาดการ์ตูนสิ่งที่หนู
00:26:55 → 00:27:01 เห็นก่อนเป็นลำดับแรกแล้วพอถูขั้นที่ 2
00:27:01 → 00:27:07 เนี่ยหนูก็จะมีความรู้เพิ่มเติมก็คือหนู
00:27:07 → 00:27:14 ว่าจากของจริงที่มีลักษณะเป็นผลไม้หรือ
00:27:14 → 00:27:20 ว่าสิ่งของหลายๆอย่างหนูก็จะวาดสิ่งนั้น
00:27:20 → 00:27:26 ต่อไปเรื่อยๆแล้วก็พัฒนาให้พอ
00:27:26 → 00:27:30 พอยากขึ้นไปเรื่อยๆเนี่ยเราเริ่มเติบโต
00:27:30 → 00:27:34 เนี่ยเราก็เริ่มรู้แล้วว่าสิ่งนั้น
00:27:34 → 00:27:40 น่ะมันแบบว่าเป็นเด็กๆแล้วเราเติบโต
00:27:40 → 00:27:46 แล้วแล้วก็พัฒนาไปสู่อีกขั้นเริ่มยากขึ้น
00:27:46 → 00:27:54 ไปเรื่อยๆแล้วก็เริ่มมีความรู้มากขึ้นค่ะ
00:27:54 → 00:27:58 ค่ะโ School เนี่ยคือผมไม่รู้เรื่อง
00:27:58 → 00:28:01 เรื่องผมสครูมาตั้งแต่แรกความกังวลใจเกิด
00:28:01 → 00:28:07 ขึ้นตอนที่ครูใหญ่แนะนำให้ผมสอนลูกเอง
00:28:07 → 00:28:11 เพราะครูใหญ่เห็นว่าสิ่งที่ผมต้องการให้
00:28:11 → 00:28:14 โรงเรียนปรับเข้าหาเด็กเนี่ยเป็นไปไม่ได้
00:28:14 → 00:28:18 แล้วแกก็ถามผมว่าถ้าผมจะสอนลูกเองแล้วมัน
00:28:18 → 00:28:22 ดีเเอามดีเต็มใจไผมบอกถ้ามันดีกว่าอย่าง
00:28:23 → 00:28:26 ที่ไปส่งไปไปเรียนโรงเรียนน่ะถ้าดีกว่าสน
00:28:26 → 00:28:30 ใจสนใจเขบอกฟังครูใหญ่เล่าเนี่ยให้ฟังเ
00:28:30 → 00:28:34 ว่าพ่อแม่สามารถสอนลูกเองได้เนี่ยก็ลด
00:28:34 → 00:28:37 ความกังวลครึ่งนึแต่ครึ่งนึงคือกลัวว่า
00:28:37 → 00:28:40 เด็กเนี่ยถ้าอยู่กับบ้านเนี่ยเด็กจะไม่
00:28:40 → 00:28:45 ทันคนอื่นเเรียนไม่ทันคนอื่นเแต่เชื่อม
00:28:45 → 00:28:47 ว่าปีกว่า
00:28:47 → 00:28:50 เนี่ยมันคุ้มตรงที่ว่าลูกเราเริ่มจะบอก
00:28:50 → 00:28:54 ความต้องการของตัวเขาเองได้เช่นเวลาเ
00:28:54 → 00:28:59 เรียนเนี่ยเขาจะรู้ว่าเขาจะเรียนวิชาอะไร
00:28:59 → 00:29:02 และเขาไม่ชอบวิชาอะไรแล้วเขาจะต้องรับผิด
00:29:02 → 00:29:06 ชอบในเวลาที่มันหายไปยังไงจนกระทั่ง 6
00:29:06 → 00:29:09 ขวบเขาบอกเลยว่าเขาชอบวิชาเนี้ยคือ
00:29:09 → 00:29:12 ศิลปะก็ทำให้ผมมั่นใจผมก็เลยเขียนหลัก
00:29:12 → 00:29:17 สูตรตามที่พี่นิ่มแนะนำโครงสร้างของโฮม
00:29:17 → 00:29:19 School คือพ่อแม่ต้องรับผิดชอบเรื่อง
00:29:19 → 00:29:23 หลักสูตรให้กับลูกก็เขียนหลักสูตรขึ้นมา
00:29:23 → 00:29:27 ก็มีความสุขนะที่เราเลียนลูกเองแล้วลูก
00:29:27 → 00:29:30 เราสามารถที่จะมีพัฒนาการสามารถที่จะมี
00:29:30 → 00:29:32 เหตุมีผลในการที่จะบอกความต้องการของตัว
00:29:32 → 00:29:38 เองได้ครับก็หนูก็รู้สึกว่าหนูก็สนุกแล้ว
00:29:38 → 00:29:45 ก็หนูมีความรู้ที่แบบว่าเพิ่มมากขึ้นแล้ว
00:29:45 → 00:29:49 พอหนูพัฒนาขึ้นมากขึ้นเนี่ยก็ทำให้หนู
00:29:49 → 00:29:54 เนี่ยมีทักษาในการวาดรูปมากขึ้นเช่นกัน
00:29:54 → 00:29:58 ค่ะพักกันสักครู่แล้วเรากลับมาพบพบกับ
00:29:58 → 00:30:00 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อช่วงหน้า
00:30:00 → 00:30:04 ในรายการเล็กๆเปลี่ยน
00:30:04 → 00:30:09 [เพลง]
00:30:10 → 00:30:13 โลกเรากลับมาชมภาพกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียน
00:30:13 → 00:30:16 รู้กันต่อในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง H
00:30:17 → 00:30:19 School บ้านเรียนชวนเพลินและการประยุกต์
00:30:19 → 00:30:22 ใช้ในทางคลินิกเพื่อเด็กพิเศษโดยกลุ่มนัก
00:30:22 → 00:30:25 ศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 4 คณะกายภาพ
00:30:25 → 00:30:29 บำบัดมหาวิทยาลัยมหิดลเอ่อชื่อฤทธิ์นะ
00:30:29 → 00:30:31 ครับเป็นคุณพ่อน้องที่มีความต้องการพิเศษ
00:30:31 → 00:30:35 เป็นภาวะของโครโมโซมเแบบชนิดหาได้ยากนะ
00:30:35 → 00:30:37 ครับในประเทศไทยมี 4 รายตอนนี้น้องอายุ 2
00:30:37 → 00:30:40 ขวบทีนี้เนี่ยในระหว่างทางในการศึกษาแล้ว
00:30:41 → 00:30:44 ก็ร่วมเข้าวงการมาก็ศึกษาจากคุณแม่คุณแม่
00:30:44 → 00:30:47 ท่านอื่นๆนะหนึ่งในคุณแม่ที่ที่ผมรู้จัก
00:30:47 → 00:30:49 แล้วก็เป็นถือว่าเป็นอาจารย์ทางด้านความ
00:30:49 → 00:30:52 คิดของผมคนนึงเนี่ยก็เขาก็มีลูกชายที่มี
00:30:52 → 00:30:54 ภาวะเอ่อ asperger Syndrome เหมือนกันที
00:30:54 → 00:30:58 นี้ก็เลยเดี๋ยวขอขอผมขอถ่ายทอดเท่าที่
00:30:58 → 00:31:00 เท่าที่พอรู้เท่าหางอึ่งนะครับเผื่ออาจจะ
00:31:00 → 00:31:04 เป็นการแลกเปลี่ยนกันเอ่อเท่าที่เคสของ
00:31:04 → 00:31:07 คุณแม่ท่านนั้นเนี่ยเอ่อเขาเห็นแล้วล่ะ
00:31:07 → 00:31:09 ว่าลูกเขาอ่ะมีจุดแข็งมากๆคือเรื่องว่า
00:31:09 → 00:31:11 อยู่กับหนังสือได้ตลอดเวลาถ้าสนใจอะไร
00:31:12 → 00:31:15 เนี่ยละเอียดถี่ยิบจนด้านอื่นๆอะไรเงี้ย
00:31:15 → 00:31:17 แบบเอาเอาเข้าจริงคือแทบจะไม่อยู่ไม่คุย
00:31:17 → 00:31:21 กับคนเลยอ่ะเออทีนี้มันก็สำหรับเขาเองกับ
00:31:21 → 00:31:24 สำหรับคุณแม่นะคุณแม่มองว่ามันเป็นปัญหา
00:31:24 → 00:31:27 ดังนั้นเขาก็จะพยายามจัดกิจกรรมให้ลดว่า
00:31:28 → 00:31:30 เอ่อรู้แหละว่าลูกเก่งลูกอยู่กับหนังสือ
00:31:30 → 00:31:33 ได้ก็ก็ให้อยู่ให้มันน้อยๆหน่อยยอมที่จะ
00:31:33 → 00:31:36 ทำจุดแข็งของลูกอ่ะให้มันให้มันลดลงมา
00:31:36 → 00:31:39 หน่อยนึงแล้วก็เอาให้ลูกไปทำกิจกรรมกับ
00:31:39 → 00:31:42 เพื่อนๆในด้านอื่นๆเพิ่มมากขึ้นก็โดยตัว
00:31:42 → 00:31:45 คุณแม่เองอาจจะทำกิจกรรมอะไรที่ดึงดูดให้
00:31:45 → 00:31:47 เพื่อนๆของลูกมาร่วมกันทำกิจกรรมที่บ้าน
00:31:47 → 00:31:49 หรืออะไรอย่าเงี้ก็ว่ากันไปนะครับอันอัน
00:31:49 → 00:31:52 นี้ก็บอกไว้เ่อสาระสำคัญของมันก็คือว่า
00:31:52 → 00:31:54 บางทีมันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องพัฒนาจุดแข็ง
00:31:54 → 00:31:57 อย่างเดียวเอ่ออะไรที่ดูแล้วอาจจะเป็นจุด
00:31:57 → 00:31:59 อ่อนเนี่ยก็เราเราก็ต้องลองพิจารณาดูซึ่ง
00:31:59 → 00:32:01 มันจะสอดคล้องกับ Un Cooling หรือไม่ uns
00:32:01 → 00:32:03 Cooling อันนี้ผมตอบไม่ได้เพราะผมไม่
00:32:03 → 00:32:06 ทราบเรื่องหลักการของ Un Cooling นะครับ
00:32:06 → 00:32:07 แต่ว่า
00:32:07 → 00:32:10 เอ่อให้ข้อคิดอยู่ 2 เรื่องเรื่องเรื่อง
00:32:10 → 00:32:13 แรกก็คือว่ามันมีหลักการของของแนวรัฐที่
00:32:13 → 00:32:16 เต๋าสมัยก่อนที่เขาบอกว่าผู้ปกครองที่ดี
00:32:16 → 00:32:20 ก็คือการจัดการการปกครองโดยไม่จัดการเอ
00:32:20 → 00:32:23 โดยไม่จัดการเนี่ยมันทำอะไรได้บ้างฟังดู
00:32:23 → 00:32:26 มันปรัชญามากเนาะแต่ว่า 1 ก็คือเอา
00:32:26 → 00:32:29 ปฏิบัติแล้วนะครับครับแล้วก็ทำให้ดูเป็น
00:32:29 → 00:32:31 ตัวอย่างให้ลูกเห็นแล้วมีกิจวัตรประจำวัน
00:32:31 → 00:32:34 ที่ที่แน่นอนชัดเจนอย่างเช่นถ้าเราอยาก
00:32:34 → 00:32:36 ให้ลูกออกกำลังกายตัวเรายังไม่ออกเลยอ่ะ
00:32:36 → 00:32:40 เออมันก็มันก็ค่อนข้างลำบากในช่วงเวลาตอน
00:32:40 → 00:32:42 เอ่อเย็นๆอย่าเงี้ยเราก็คงต้องเป็นคนทำ
00:32:42 → 00:32:45 ให้ลูกเห็นก่อนแล้วก็อาจจะโน้มนำให้ลูกทำ
00:32:45 → 00:32:48 ตามเอ่ออย่างที่ 2 คือจัดสภาพแวดล้อมให้
00:32:48 → 00:32:51 เหมาะสมในกรณีของแเพเกอร์เนี่ยเราจะมี
00:32:51 → 00:32:55 ปัญหาว่าจริงๆลูกเาเก่งกว่าเรามากมากจน
00:32:55 → 00:32:57 จริงๆแล้วเราอาจจะไม่ต้องสอนอะไรเยอะอ่ะ
00:32:57 → 00:33:02 แต่ว่าปัญหาของลูกเราก็คือว่าเาจะเนื่อง
00:33:02 → 00:33:04 จากเขาเก่งมากเขจะมีวิธีคิดแบบนึงที่ทำ
00:33:04 → 00:33:08 ให้เาก็จะคิดในในแบบของเขาอ่ะแต่เขาจะไม่
00:33:08 → 00:33:10 เข้าใจว่าคนอื่นคิดยังไงในความรู้สึกของ
00:33:10 → 00:33:13 คุณแม่คนนั้นเนี่ยเขาก็เลยพยายามที่จะ
00:33:13 → 00:33:15 ปลูกฝังให้ลูกว่าคือไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็น
00:33:15 → 00:33:18 ไรแต่ลูกควรจะเข้าใจว่าคนอื่นเขาคิดยังไง
00:33:18 → 00:33:21 เอออย่างน้อยๆคือมีความเข้าใจที่เกิดขึ้น
00:33:22 → 00:33:25 ว่าเออฉันเนี่ยนะเอ่อฉันน่ะไม่ไม่ทำตาม
00:33:25 → 00:33:28 หรอกแต่ว่าอ๋อคนอื่นเขาคิดแบบนี้แล้วเรา
00:33:28 → 00:33:29 จะได้อยู่ร่วมกันได้อันนั้นคือเป็น
00:33:30 → 00:33:34 คีย์เวิร์ดของเขานะครับแล้วก็ต่อไปเอ่อ
00:33:34 → 00:33:36 ประเด็นที่ 2 เรื่องของปรัชญาเหมือนกัน
00:33:36 → 00:33:39 เรื่องของสมดุลชีวิตคือบางทีสมดุลชีวิต
00:33:39 → 00:33:42 มันอาจจะมีหลายด้านน่ะเอ่อและด้านที่มัน
00:33:42 → 00:33:45 จะทำให้ชีวิตเรามันไม่ค่อยพัฒนาไปไกลมัก
00:33:45 → 00:33:48 จะมาจากด้านที่เป็นจุดอ่อนของเราอเสมดุน
00:33:48 → 00:33:50 ชีวิตจะมีกี่ด้านก็ไปตามไปเสิร์ชดูเลยนะ
00:33:50 → 00:33:53 ครับจะ 6 ด้าน 12 ด้านมีคนคิดเยอะแยะเอ่อ
00:33:53 → 00:33:55 ตั้งแต่เรื่องของความมั่นคงทางการเงิน
00:33:55 → 00:33:58 เรื่องของเอ่อความมั่นคงทางจิตวิญญาณความ
00:33:58 → 00:34:01 มั่นคงทางสุขภาพแต่ว่าถ้าด้านไหนก็แล้ว
00:34:01 → 00:34:02 แต่ที่มันเกิดปัญหาเกิดขึ้นแล้วมันมักจะ
00:34:02 → 00:34:06 ฉุดด้านอื่นๆเสมอเอ่อแล้วเอ่อวิธีคิดแบบ
00:34:06 → 00:34:09 นึงก็คือถ้าเกิดว่าเป็นของอาจารย์แพทย์
00:34:09 → 00:34:12 มารินีอาจจะบอกว่าต้องตั้งเป้าไว้ก่อนแต่
00:34:12 → 00:34:14 ไ Cooling เขาอาจจะบอกแนวว่าไม่ต้องตั้ง
00:34:14 → 00:34:17 เป้าแต่สำหรับของเราที่ในวงการเด็กที่มี
00:34:17 → 00:34:20 ความต้องการพิเศษอาจจะแค่ดูปัญหาก็ได้ถ้า
00:34:20 → 00:34:22 วันนี้เนี่ยฉันไม่เห็นปัญหาอะไรของลูกฉัน
00:34:22 → 00:34:26 ก็ปล่อยไปเลยอยากทำอะไรก็ทำแต่ถ้าเรารู้
00:34:26 → 00:34:28 สึกว่าเอ๊ะอันนี้มันน่าจะเป็นเป็นปัญหา
00:34:28 → 00:34:30 แล้วล่ะแล้วก็แก้เป็นลายปัญหานั้นแล้วเรา
00:34:30 → 00:34:32 ก็ออกแบบกิจกรรมโดยใช้อย่างที่ที่เอ่อ
00:34:32 → 00:34:35 อาจารย์กนกพรบอกว่าเอากิจกรรมเป็นตัวตั้ง
00:34:35 → 00:34:38 แล้วก็ดึงความเชื่อมโยนมาให้ตอบในส่วนที่
00:34:38 → 00:34:41 เราคิดว่าอยากจะแก้ปัญหาเออก็ขอให้เป็น
00:34:41 → 00:34:44 ไอเดียประมาณเท่านี้ครับเ่อวันนี้เรามี
00:34:44 → 00:34:48 คุณแม่รัชนีนะคะมาจากมูลนิธิเด็กเนาะเรา
00:34:48 → 00:34:50 อยากให้คุณแม่แชร์ประสบการณ์หน่อยค่ะใน
00:34:50 → 00:34:53 การดูแลลูกๆเด็กๆอ่ะคะที่อยู่ในมูลนิธิ
00:34:53 → 00:34:56 อ่ะค่ะมาที่นี่เนี่ยเพราะอยากเรียนรู้นะ
00:34:56 → 00:34:59 คะเพราะว่าเราก็พบเด็กของเราหลายคนเหมือน
00:34:59 → 00:35:03 กันแต่เราคิดว่าเรายังไม่มีความรู้พอเรา
00:35:03 → 00:35:06 ค่อยๆจัดการไปแล้วก็เรียนรู้ไปแต่ว่าแน่
00:35:06 → 00:35:09 นอนของเรามันมีหลายคนไม่เหมือนกับคุณพ่อ
00:35:09 → 00:35:11 คุณแม่ซึ่งมีคนเดียวเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:35:11 → 00:35:14 โอกาสที่จะเรียนรู้เนี่ยมีมากกว่าเราก็
00:35:14 → 00:35:16 เลยมาเก็บเกี่ยวความรู้แล้วก็โดยเฉพาะมี
00:35:16 → 00:35:20 นะมีน้องๆที่เป็นนักเอ่อนักศึกษาอยู่นะคะ
00:35:20 → 00:35:24 ก็คิดว่าสนใจอาจจะเชิญไปให้อะไรละไปเป็น
00:35:24 → 00:35:26 วิทยากรให้กับคุณครูเราด้วยแต่จาก
00:35:26 → 00:35:30 ประสบการณ์ที่เราทำไปนะคะถ้าหากว่าเราเจอ
00:35:30 → 00:35:32 เนื่องจากว่าที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
00:35:32 → 00:35:34 เนี่ยเราจัดการพักเป็นบ้านๆแล้วมีครูอยู่
00:35:35 → 00:35:39 กับเด็กนี่อย่างถ้าแม่แอเจอแม่แอวเอ่อ
00:35:39 → 00:35:42 เห็นเด็กปุ๊บเนี่ยแม่อก็จะลองอย่างครั้ง
00:35:42 → 00:35:44 นึงเราเจอเด็กไฮเปอร์และเป็นไฮเปอร์แบบ
00:35:44 → 00:35:48 ก้าวร้าวเป็นลูกคนมีสตางค์แต่ขอมาฝากไว้
00:35:48 → 00:35:51 เนื่องจากครอบครัวแตกแยกก็มาฝากเอาไว้เรา
00:35:51 → 00:35:53 ก็เลยพาเด็กเดินดูกิจกรรมในโรงเรียนแล้ว
00:35:53 → 00:35:56 เราก็มีป่ามีแม่น้ำอนะคะก็พยายามให้เขา
00:35:56 → 00:35:59 ได้รีแลกก่อนแล้วแล้วจากนั้นก็พาไปดูว่า
00:35:59 → 00:36:04 เรามีมีงานปั้นงานวาดงานอะไรล่ะทำไม้อะไร
00:36:04 → 00:36:07 เงี้ยนะคะแล้วพาไปปรากฏว่าเขาชอบงานปั้น
00:36:07 → 00:36:10 เราก็เลยให้เขาคอยู่กับงานปั้นค่ะเคก็
00:36:10 → 00:36:12 ปั้นไปเรื่อยๆจากเดิมถึงปั้นได้แค่
00:36:12 → 00:36:15 ชั่วโมงนึงแล้วก็ต่อมาก็เพิ่มเพิ่มไป
00:36:15 → 00:36:17 เรื่อยๆจนกระทั่งเสามารถอยู่ได้ทั้งวัน
00:36:17 → 00:36:20 แล้วเราก็ดูว่าเอ่อความก้าวร้าวเลดมแล้ว
00:36:20 → 00:36:24 ก็เอ่อสมาธิอ่ะค่ะจากเดิมเนี่ยเราเห็นเร
00:36:24 → 00:36:26 สมาธินี้ก้าวหน้าขึ้นเพราะสามารถอยู่กับ
00:36:26 → 00:36:30 งานตรงนั้นน่ะได้เป็นวันและแล้วพอต่อมา
00:36:30 → 00:36:33 เราก็ชวนเขาให้ดูกิจกรรมในสิ่งแวดล้อมเรา
00:36:33 → 00:36:36 อีกเคไปเห็นห้องสมุดเขาก็เลือกอีกค่ะแล้ว
00:36:36 → 00:36:38 เขาก็อ่านหนังสือดาราศาสตร์เชอบ
00:36:38 → 00:36:41 ดาราศาสตร์เข้ามาป 3 แล้วเก็อ่านแล้วเก็
00:36:41 → 00:36:43 มาถามตั้งคำถามอะไเงี้ยเนี่ยเราก็เลย
00:36:43 → 00:36:46 พยายามศึกษาจากตัวเค้านะไม่ได้พยายามป้อด
00:36:46 → 00:36:49 แต่ให้ดูเฉยๆแล้วให้เคเลือกแล้วเราก็
00:36:49 → 00:36:52 ศึกษาจากตัวเตอนหลังเนี่ยไม่ให้กินยา
00:36:52 → 00:36:53 เพราะคุณหมอให้กิน
00:36:54 → 00:36:57 ยาเราก็เลยบอกลองไม่กินยาดูซิแล้วก็ดูซิพ
00:36:57 → 00:37:00 จะเป็นไงบ้างเค้ามีความสุขแล้วก็ปรากฏว่า
00:37:00 → 00:37:03 เค้าค่อยๆคลายลงแล้วก็การอ่านหนังสือของ
00:37:03 → 00:37:06 เขาก็นำไปสู่การทดลองเไปเจอวิทยาศาสตร์
00:37:06 → 00:37:07 อันไหนที่เขาคอยากทดลองเก็ขอเครื่องมือ
00:37:07 → 00:37:10 เราอันเนี้ยเราก็ลองทำเป็นลายเคสของเรา
00:37:10 → 00:37:13 แต่้าว่าเรามีมากอ่ะค่ะมีหลายคนยิ่งตอน
00:37:13 → 00:37:16 นี้เราก็มีหลายคนเลยแล้วเราก็รู้สึกว่า
00:37:16 → 00:37:18 เรายังต้องเรียนรู้เนาะมีทั้งประเภทซ้ำ
00:37:18 → 00:37:21 ซ้อนมีทั้งตามีทั้งกล้ามเนื้อขากล้าม
00:37:21 → 00:37:24 เนื้อแขนแล้วยังรู้สึกว่าจะไปถึงสมองด้วย
00:37:24 → 00:37:28 นะคะฮะก็ก็เลยคิดว่าเอ๊ะเราคงต้องศึกษา
00:37:28 → 00:37:31 เพิ่มเติมค่ะแล้วก็คิดถึงโรงเรียนอื่นๆ
00:37:31 → 00:37:33 ด้วยว่าเอ๊คุณครูถ้าคุณครูเจอแบบนี้เนี่ย
00:37:33 → 00:37:35 ท่านคุณครูได้มีโอกาสศึกษากับคุณพ่อคุณ
00:37:35 → 00:37:38 แม่ที่ลองปฏิบัติเนี่ยนะคะอาจจะเอาไป
00:37:38 → 00:37:40 ประยุกต์ใช้กับเด็กๆในโรงเรียนได้อย่าเอา
00:37:40 → 00:37:43 เขาไว้หลังห้องเลยถ้าเอาเขไว้หลังห้อง
00:37:43 → 00:37:45 แล้วเนี่ยมันเหมือนกับทำให้เขากลายเป็นคน
00:37:45 → 00:37:50 ที่อืใช่เหมือนกับเป็นคนที่สังคมไม่
00:37:50 → 00:37:52 ต้องการยิ่งยิ่งทำให้เขดคุณค่ามากขึ้นมัน
00:37:52 → 00:37:56 ต้องเอาเขขึ้นมาแล้วค่อยๆค่อยๆชวนเขาทำ
00:37:56 → 00:37:58 โน่นทำเนี่ค่ะให้เศึกษาสิ่งแวดล้อมแต่ที่
00:37:58 → 00:38:00 สำคัญคือเราต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เา้า
00:38:00 → 00:38:03 ด้วยเราไม่บังคับเแต่เราจัดสิ่งแวดล้อม
00:38:03 → 00:38:05 ให้เคให้เขาคเลือกค่ะแมวก็ไม่รู้เนาะก็
00:38:05 → 00:38:08 ใช่ๆวิธีนี้ล่ะค่ะเพราะมันเยอะจนกระทั่ง
00:38:08 → 00:38:12 บางครั้งก็ปวดหัวคุณคุณแม่แอมีลูกใน
00:38:12 → 00:38:14 มูลนิธิจำนวนกี่คนหรอคะตอนนี้ตอนนี้มี
00:38:14 → 00:38:17 ทั้งหมด 100 กว่าคนค่ะ 110 คนแล้วเราก็
00:38:17 → 00:38:19 รู้สึกว่ามีไม่ต่ำ
00:38:19 → 00:38:23 กว่าน่าจะ 20 ที่นำนับดูค่ะเพราะ LD ก็
00:38:23 → 00:38:24 เยอะค่ะ
00:38:24 → 00:38:28 ฮแล้วก็มีพวกที่เป็นสมาธิสั้นแล้วก้าว
00:38:28 → 00:38:32 ร้าวเนี่ยมีมากเพราะแบคกราวเ้าถูกกระทำ
00:38:32 → 00:38:35 รุนแรงมาเพราะฉะนั้นกพอมีสมาธิสั้นด้วย
00:38:35 → 00:38:39 และประสบการณ์เก่าเข้ามาด้วยบวกกันเข้าไป
00:38:39 → 00:38:43 ค่ะวันนี้เรามีคุณครูมาด้วยนะคะมาจากการ
00:38:43 → 00:38:46 ชนบุรีไกลมากใช่ค่ะค่ะขอให้คุณครูแชร์
00:38:46 → 00:38:49 ประสบการณ์ในการดูแลเด็กพิเศษสักนิดได้
00:38:49 → 00:38:52 มั้ยคะสักนิดนึงจริงๆพูดถึงประสบการณ์ตรง
00:38:52 → 00:38:55 นี้ยังน้อยนะคะแต่ว่าได้พยายามเรียนรู้
00:38:55 → 00:38:58 แล้วก็วันนี้โชคดีที่พี่นที่ให้โอกาสนะคะ
00:38:58 → 00:39:01 กับแม่แอวได้มีโอกาสมาตรงนี้ก็ได้รับความ
00:39:01 → 00:39:04 รู้อย่างเช่นที่ที่เราถูกคัดกรองหรือ้า
00:39:04 → 00:39:06 โรงเรียนเนี่ยเราก็เข้าข่ายมีอยู่ 3 คน
00:39:06 → 00:39:09 แต่ว่าฟังไปฟังมานี่มันน่าจะมีเพิ่มหรือ
00:39:09 → 00:39:12 เปล่าเงี้ยก็ยังไม่แน่ใจอาจจะต้องขอความ
00:39:12 → 00:39:15 รู้ด้วยนะคะแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ที่เราทำ
00:39:15 → 00:39:18 ที่เราสังเกตที่เราคิดว่าเด็กที่ 3 คนที่
00:39:18 → 00:39:21 เรามองว่าใช่ที่สุดคือจะแดีในเรื่องของ
00:39:21 → 00:39:23 การเรียนรู้แล้วก็เรากลับไปดูที่บ้านเ้า
00:39:23 → 00:39:27 เนี่ยพื้นฐานก็คือด้วยคุณแม่ครอบครัวมี
00:39:27 → 00:39:31 ปัญหาคือใช้ยาขับคนนึงเนี่ยก่อนวัยเหมือน
00:39:31 → 00:39:34 ว่าไม่ปกติแต่ว่าเค้าเขเรียนได้รได้ล่ะ
00:39:34 → 00:39:36 บอกให้อ่านเนี่ยเคอ่านได้แต่ว่าถึงเวลา
00:39:36 → 00:39:39 แล้วบอกไม่เรียนปุ๊บเเดินออกห้องเลยค่ะก็
00:39:39 → 00:39:42 ตอนใหม่ๆเข้ามาทำงานปีแรกๆนี่เป็นผู้หาร 3
00:39:42 → 00:39:45 ปีนะก็งงกับเด็ก 3 คนทำไมเไม่ค่อยเข้า
00:39:45 → 00:39:48 ห้องเรียนเราก็เรายังขาดประสบการณ์ตงนี้
00:39:48 → 00:39:50 แต่ว่าเริ่มรู้แล้วออเดี๋ยวนี้มีระบบ
00:39:50 → 00:39:53 เรียนพิเศษก็สังเกตไปเรื่อยเราเริ่มใช้
00:39:53 → 00:39:55 ทักษะก็เรียนรู้จากโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
00:39:55 → 00:39:59 บ้างก็ทำฐานเรียนรู้เรื่องเกษตรกลายเป็น
00:39:59 → 00:40:02 ว่าเด็กของเราชอบมากคือ 3 คนเนี่ยถ้าบอก
00:40:02 → 00:40:04 ว่าลงแปลงเกษตรนี่สนุกสนุกในการที่จะทำ
00:40:04 → 00:40:07 แปลงช่วยคุณครูรดน้ำต้นไม้ก็เลยแบ่งให้
00:40:07 → 00:40:10 เขารับผิดชอบมีแปรงปลูกถั่วปลูกอะไรเงี้ย
00:40:10 → 00:40:13 เขาจะชอบมากแล้วถึงเวลาลมาช่วงเรียน
00:40:13 → 00:40:16 วิชาการครูก็ใช้หลักตรงเค่ะเริ่มบูรณาการ
00:40:16 → 00:40:19 ก็ชอบขึ้นอ้าแปลงขนาดเท่าไหร่ลูกวัดไป
00:40:19 → 00:40:22 ปลูกถั่วไปกี่เม็ดอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ก็
00:40:22 → 00:40:24 เห็นการเปลี่ยนแปลงจากที่เขาไม่ไม่ค่อย
00:40:24 → 00:40:27 เข้าห้องเรียนห้องสมุดเขาก็เริ่มรู้แล้ว
00:40:27 → 00:40:29 ว่าต้องมาเรียนรู้แล้วก็ชอบอ่านหนังสือ
00:40:29 → 00:40:32 มากขึ้นก็คุณครูก็เรมบอกว่าเออทำไมชื่อมด
00:40:32 → 00:40:35 เอกตูมตามเขาจะไปด้วยกันสิ่งที่ประทับใจ
00:40:35 → 00:40:38 ก็คือมีวันหนึ่งหาเขาไม่เจอช่วงเห็ดโคน
00:40:38 → 00:40:41 ค่ะตอนเนี้ยเมืองกเห็ดโคนออกแล้วก็คาดว่า
00:40:41 → 00:40:43 พรุ่งเนี้ยวันจันทร์เนี่ยเด็กๆชุดนี้จะ
00:40:43 → 00:40:46 ต้องทำหน้าที่ะเรามาอยู่ครั้งนึงเขาหายไป
00:40:46 → 00:40:49 ชั่วโมงเราก็หากันไม่เจอมาพร้อมเหดุโคเรา
00:40:49 → 00:40:52 ก็เลยมองว่าเออเด็กนี้มีทักษะที่ที่เรา
00:40:52 → 00:40:55 คิดไม่ถึงแต่ว่าในขณะเด็กที่ปกติว่าปกติ
00:40:55 → 00:40:58 เรียนเหมือนคนอื่นอ่านออกเห็นได้หาเหตุคน
00:40:58 → 00:41:00 ไม่ได้ก็ทำให้คิดใหม่ว่าการเรียนการสอน
00:41:00 → 00:41:03 เนี่ยเรามีวิธีที่จะจัดการตามความต้องการ
00:41:03 → 00:41:06 ของเด็กแล้ววันนี้ต้องขอบคุณทุกท่านคุณ
00:41:06 → 00:41:09 ทุกคนเลยคุณหมอทุกท่านทำให้เราเห็นตรงนี้
00:41:09 → 00:41:11 ค่ะขอบคุณมาก
00:41:11 → 00:41:13 [ปรบมือ]
00:41:13 → 00:41:17 ค่ะคือจริงๆแล้วก็ก็เอ่อเริ่มเข้าใจใน
00:41:17 → 00:41:19 เรื่องของฮ School มากขึ้นนะครับในวันนี้
00:41:19 → 00:41:22 ที่เอ่อได้รับโอกาสที่เข้ามาเรียนรู้ใน
00:41:22 → 00:41:25 วันนี้ทีนี้จริงๆในในตัวของลูกชายเนี่ย
00:41:25 → 00:41:27 จริงๆแล้วก็เมีลักษณะเป็น EXP เกอร์หน่อย
00:41:27 → 00:41:31 ๆนะฮะแล้วเอ่อแต่มีความสามารถทางด้าน
00:41:31 → 00:41:34 เรื่องการเรียนรู้บางอย่างที่ว่าโดดเด่น
00:41:34 → 00:41:38 มากเพราะว่าเราก็เคยไปลองทดสอบ EQ มาเอ IQ
00:41:38 → 00:41:41 โทษทีนะค่อนข้างสูงมากนะแต่สูงมากใน
00:41:41 → 00:41:44 ลักษณะที่บางกลุ่มงานอย่างเชองพวกมิติ
00:41:44 → 00:41:47 สัมพันธ์เนี่ยจะอายุ 8 ขวบแต่เทียบเท่า
00:41:47 → 00:41:50 กับ 14-15 ขวบแล้วแต่ในบางกลุ่มนี่แทบจะ
00:41:50 → 00:41:53 เรียกว่าเท่ากับเด็ก 5 ขวบเท่านั้นเอง
00:41:53 → 00:41:56 ซึ่งเราก็ก็เลยมองว่าโอเคถ้าเกิดอย่าง
00:41:56 → 00:41:58 งั้นโฮ School อาจจะเป็นสิ่งที่ตอบเขาใน
00:41:58 → 00:42:01 แง่ของการส่งเสริมให้เขาในในการที่เขา
00:42:01 → 00:42:03 เรียกว่าดีไซน์
00:42:03 → 00:42:07 เอ่อความรู้ต่างๆที่เขาควรจะมีนะแต่ทีนี้
00:42:07 → 00:42:09 ผมสงสัยตรงที่ว่าเวลาตอนที่เมื่อถึงจุด
00:42:09 → 00:42:12 นึงเนี่ยเราก็มองว่าเขาก็น่าจะมีความรู้
00:42:12 → 00:42:15 ไปในลักษณะที่ว่าอีกหน่อยจะต้องมีความรู้
00:42:15 → 00:42:17 ในการดำเนินชีวิตต่างๆไม่ว่าการประกอบ
00:42:17 → 00:42:21 อาชีพต่างๆซึ่งซึเออย่างอย่าตัวน้องโฮม
00:42:21 → 00:42:24 ลูกชายเนี่ยนะฮะก็น่าจะเป็นลักษณะคล้ายๆ
00:42:24 → 00:42:27 กับเก่งทางด้านพวกทางด้านสถาปหรืออะไรตง
00:42:27 → 00:42:30 ซึ่งก็คงต้องกลับไปในระบบอุดมศึกษาใน
00:42:30 → 00:42:32 มหาวิทยาลัยอีกครั้งนึงทีนี้ตอนช่วง
00:42:32 → 00:42:34 เปลี่ยนกลับจากโฮ School กลับเข้าไประบบ
00:42:34 → 00:42:38 อีกครั้งนึงนะฮะมันจะมันมันมีผลอะไรมันผม
00:42:38 → 00:42:41 ไม่แน่ใจว่ามันมีมันมีอะไรพิเศษที่เราจะ
00:42:41 → 00:42:43 ต้องเตรียมให้ยลูกด้วยหรือเปล่าแล้วก็ไอ้
00:42:43 → 00:42:46 การที่ว่ามันเนื่องจากว่ามันถูกกึ่งๆจะ
00:42:46 → 00:42:49 เรียกว่าถูกถอดออกจากระบบออกมาแต่เราต้อง
00:42:49 → 00:42:51 กลับเข้าไปอยู่ในระบบที่ถูกดีไซน์เป็นแส
00:42:51 → 00:42:53 มาตั้งแต่ก่อนหน้าเยตรงนี้เราจะมีปัญหา
00:42:53 → 00:42:55 อะไรไกับทางด้านเรื่องสังคมไม่ว่าเรื่อง
00:42:55 → 00:42:58 สังคมเรื่องการยอมรับของเอ่อสถานศึกษา
00:42:58 → 00:43:01 ต่างๆหรือที่ทำงานต่างๆเนี่ยเอ่ออยากไม่
00:43:01 → 00:43:04 ทราบว่าพจะมีใครช่วยแชร์ตรงนี้เอ่ออันนี้
00:43:04 → 00:43:07 อาจจะเป็นไอเดียลมากเพราะว่าคุณพ่อยังไม่
00:43:07 → 00:43:10 ได้ลงมือทำเนาะแต่ว่าก็จะบอกว่าตอนนี้มี
00:43:10 → 00:43:13 เด็กฮม School ที่อยู่สถาปัตย์ขอนแก่น
00:43:13 → 00:43:17 อยู่คนนึงนะคะมีจบแพทย์ศิริรัตน์แล้วคน
00:43:17 → 00:43:21 นึงแต่ว่าไม่ได้บอกว่าเด็กโฮม School ที่
00:43:21 → 00:43:24 ต้องตอบโจทย์ว่าต้องเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน
00:43:24 → 00:43:27 เนาะแต่ว่าเด็กที่เลือกในการการเข้าระดับ
00:43:27 → 00:43:31 อุดมศึกษาเนี่ยมันเป็นไปตามทิศทางของการ
00:43:31 → 00:43:35 พัฒนาเขามาตั้งแต่แรกแล้วก็จนกำหนดได้ว่า
00:43:35 → 00:43:37 เออเขามีเป้าหมายอย่างนี้อย่างงนี้แล้ว
00:43:37 → 00:43:41 เขาก็จะมีเอมในการทำอะไรแล้วพ่อแม่ก็มี
00:43:41 → 00:43:44 เป็นเป็นแค่เอ่อผู้ส่งเสริมสนับสนุนให้
00:43:44 → 00:43:48 เขาไปถึงเป้าหมายตามศักยภาพของเขาอ่ะค่ะ
00:43:48 → 00:43:52 เนาะเพราะฉะนั้นคำถามนี้โดนบ่อยอีกเนาะ
00:43:52 → 00:43:56 ว่าว่ามันเหมือนจะตอบโจทย์จะถามตรงๆว่า
00:43:56 → 00:43:58 เด็กโฮ School มีสังคมหรือไม่อะไรอย่าง
00:43:58 → 00:44:02 เงี้ยแต่ว่าเราก็เอาคำตอบของเด็กโฮ School
00:44:02 → 00:44:05 ก่อนดีกว่าว่าเด็กโม School รุ่นโตรุ่น
00:44:05 → 00:44:08 ที่พรบเปิดแล้วก็ตอนนี้เขาก็เป็นรุ่นโต
00:44:09 → 00:44:11 แล้วจบเนี่ยทุกคนตอบเป็นสิ่งเดียวกันว่า
00:44:12 → 00:44:15 สังคมในโรงเรียนคือสังคมจำลองสิ่งที่เขา
00:44:15 → 00:44:19 เติบโตและเป็นหเป็นตัวตนชัดเจนทุกวันนี้
00:44:19 → 00:44:21 แล้วก็เรียนรู้หลักการดำเนินชีวิตและการ
00:44:22 → 00:44:24 เรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองทุกวันนี้คือสิ่ง
00:44:24 → 00:44:27 ที่ได้จากโ School เพราะฉะนั้นอันนี้พี่
00:44:27 → 00:44:30 นี่บอกไม่ได้ต้องทำเองแล้วก็จะเรียนรู้ไป
00:44:30 → 00:44:33 ด้วยว่าจริงๆแล้วบนกระบวนการถ้าสมมุติเรา
00:44:33 → 00:44:36 ไม่ได้แบ่งแยกเส้นระหว่างการเรียนรู้ใน
00:44:36 → 00:44:40 ระบบนอกระบบตามอัธยาตามอัธยาศัยจริงๆเด็ก
00:44:40 → 00:44:42 ที่อยู่ในโรงเรียนทุกวันเนี้ยเขาก็ไม่ได้
00:44:42 → 00:44:45 แปลกแยกไปจากสังคมเพราะว่าพ่อแม่ก็ต้อง
00:44:45 → 00:44:47 อยู่แต่ว่าพวกเราอ่ะสร้างกรอบคิดให้มัน
00:44:47 → 00:44:50 มันแปลกแยกเองจริงๆแล้วพวกเราน่าจะกลม
00:44:50 → 00:44:53 กลืนกันว่าไม่ว่าจะเรียนรู้ในระบบใดๆก็
00:44:53 → 00:44:56 ตามเรามีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนให้พื้น
00:44:56 → 00:44:59 ที่การการเรียนรู้ของเขาเติบโตแล้วก็
00:44:59 → 00:45:01 เชื่อมโยงกับชีวิตบนฐานการดำเนินชีวิต
00:45:01 → 00:45:06 แล้วก็การพัฒนาผู้เรียนไปตามสิ่งที่เขา
00:45:06 → 00:45:10 เป็นได้และควรจะเป็นมากที่สุดค่ะมันเป็น
00:45:10 → 00:45:13 โอกาสและจังหวะของชีวิตด้วยเนาะที่โรง
00:45:13 → 00:45:16 เรียนเนี่ยเราก็มีเป้าหมายว่าเมื่อจบแล้ว
00:45:16 → 00:45:18 จะทำอะไรหมายถึงว่าเด็กนักเรียนของเราทุก
00:45:18 → 00:45:21 คนก็ต้องไปขึ้นทะเบียนจบใช่มั้ยคะเราก็จะ
00:45:21 → 00:45:24 ออกแบบข้อสอบเองปรากฏว่าเนื่องจากความที่
00:45:24 → 00:45:26 เป็นเด็กพิเศษอ่ะค่ะเขตเาก็จะไม่วุ่นวาย
00:45:26 → 00:45:29 อะไรเพราะเขตไม่ดุรีกับเราหลักการของโฮ
00:45:29 → 00:45:32 School ก็คือสอนสิ่งไหนวัดสิ่งนั้นวัน
00:45:32 → 00:45:34 นี้ฉันจะให้ลูกชั้นเรียน 8 กลุ่มสาระ
00:45:34 → 00:45:37 เนี่ยแต่ฉันจะเอาสาระที่มีประโยชน์ก็ดึง
00:45:37 → 00:45:39 ออกมาไม่มีประโยชน์อย่างพี่ชคณิฉันก็มา
00:45:39 → 00:45:41 ให้ลูกชันเรียนเป้าหมายก็คือว่าเมื่อเขา
00:45:42 → 00:45:45 จบม 3 แล้วเค้าก็จะได้ใบรับรองการจบอ่ะ
00:45:45 → 00:45:50 ค่ะมีป 6 เ้าก็จะได้รับใบปพใบป่ะขายใบปพ
00:45:50 → 00:45:55 จบม 3 เค้าก็ได้รับใบปพพอจบม 3 ปุ๊บ 45
00:45:55 → 00:45:58 เขาจะเรียนยังไง 45 เคก็คือไปกสนซึ่งกศน
00:45:58 → 00:46:02 เนี่ยก็พูดง่ายๆว่ากศนก็คือเราก็ส่งชื่อ
00:46:02 → 00:46:04 ไปแต่ก็การจัดการเรียนการสอนของเราและ
00:46:04 → 00:46:07 เดี๋ยวนี้ที่น่าภูมิใจที่สุดก็คือรุ่ง
00:46:07 → 00:46:11 อรุณอ่ะค่ะของดรอาจารย์ดรศักดิ์อ่ะค่ะแก
00:46:11 → 00:46:15 ก็เปิดเอ่อพูดง่ายๆว่าปริญญาตรีระดับ
00:46:15 → 00:46:18 อุดมศึกษาเนค่ะอุดมศึกษาปริญญาตรีใน
00:46:18 → 00:46:22 เรื่องของเอ่อการจัดการทางสังคมพูดง่ายๆ
00:46:22 → 00:46:26 ว่าเอ่อคุณจะยังไงคุณก็เข้าไปเรียนสิ่ง
00:46:26 → 00:46:28 ที่คุณต้องการก็คือผลงานแล้วคุณอยากเรียน
00:46:28 → 00:46:32 สถาปัตย์คุณก็ไปซึ่งึในในรุ่งอรุณเนี่ยเ
00:46:32 → 00:46:35 ก็มีวิชาสถาปัตย์ใช่มะสถบันอสมศิลปซึ่ง
00:46:35 → 00:46:37 เขาก็มีชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วมันก็เป็น
00:46:37 → 00:46:40 การที่ไปตอบรับปัญหาก็คือตอนนี้คุณพ่อคุณ
00:46:40 → 00:46:44 แม่ต้องมั่นใจก่อนว่าจะทำยังไงกับลูกแต่
00:46:44 → 00:46:47 ก็ขอบอกนะคะสำหรับผู้ที่มีผู้ปกครองเด็ก
00:46:47 → 00:46:51 พิเศษจริงๆอย่าเอาลูกเข้าระบบจริงๆในระบบ
00:46:51 → 00:46:54 โรงเรียนอย่าไปถ้าลูกเราไม่ดีพอลูกเราไม่
00:46:54 → 00:46:57 เก่งพออย่าเพราะว่าประสบการณ์ที่ได้รับมา
00:46:57 → 00:47:00 จากพ่อแม่ไม่ต่ำกว่าเป็น 120 130 คนนะคะ
00:47:00 → 00:47:03 ตอนเย็นลงเลิกเรียนลูกฉันอยู่อนุบาลลูก
00:47:03 → 00:47:06 ฉันก็จะไปยืนอยู่ตรงกลางห้องเพื่อนๆก็จะ
00:47:06 → 00:47:09 ตั้งแต่ดินสอขว้างไม้บรรทัดขว้างอะไร
00:47:09 → 00:47:12 ขว้างลูกก็หลบว้ายๆอะไรอย่างเงี้ยก็คือ
00:47:12 → 00:47:14 สิ่งที่เป็นอยู่หรือแม้กระทั่งลูกเนี่ย
00:47:14 → 00:47:17 ครูก็ไม่สอนลูกอยากจะปล่อยไปเดินเล่นก็
00:47:17 → 00:47:20 ปล่อยไปเดินเล่นจนกระทั่งมาถึงมาถึงมาถึง
00:47:20 → 00:47:23 ทางเราแล้วอ่ะโอกาสที่การพัฒนาเนี่ยมัน
00:47:23 → 00:47:26 มันพ้นวัยแล้วแต่เราก็บอกนะคะว่ายังไงก็
00:47:26 → 00:47:28 ตามแต่กิจกรรมบำบัดเนี่ยช่วยได้จัด
00:47:28 → 00:47:31 กิจกรรมไปเยอะๆๆๆเอ่อโรงเรียนทุกแห่งน่า
00:47:31 → 00:47:33 จะต้องมีนักกิจกรรมบำบัดประจำอยู่ในโรง
00:47:33 → 00:47:36 เรียนเอ่อกิจกรรมบัตจะต้องไปช่วยตอบโจทย์
00:47:36 → 00:47:39 อะไรอีกหลายๆอย่างเพราะฉะนั้นก็นักศึกษา
00:47:39 → 00:47:42 มาฝากนักศึกษาด้วยค่ะจงภูมิใจเถอะการที่
00:47:42 → 00:47:45 ทำให้เราคนเต็มคนการที่เราใช้กิจกรรมของ
00:47:45 → 00:47:49 เราบำบัดนะคะก็ฝากคุณพ่อไม่ต้องกังวลค่ะ
00:47:49 → 00:47:53 เพราะว่าคำตอบนะคะต้องมีทางออกเรามั่นใจ
00:47:53 → 00:47:57 กับลูกเรายิ่งลูกเราเก่งด้วยใช่มั้ยมยคะ
00:47:57 → 00:48:01 เราต้องรู้ว่าลูกฉันเก่งแล้วมันก็จะมีหา
00:48:01 → 00:48:05 ทางออกก็ขอฝากไว้ว่าถึงแม้เจะตีตาว่าลูก
00:48:05 → 00:48:08 ฉันเป็นเด็กพิเศษนะแต่อย่างที่บอกนะคะมอง
00:48:08 → 00:48:11 เอย่างที่เขาเป็นและผู้ปกครองทุกคนก็จะ
00:48:11 → 00:48:14 สบายใจค่ะขอบคุณ
00:48:14 → 00:48:18 [ปรบมือ]
00:48:18 → 00:48:20 [เพลง]
00:48:20 → 00:48:24 ค่ะท่านผู้ชมที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูล
00:48:24 → 00:48:26 เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่คณะ
00:48:26 → 00:48:29 กายภาพบำบัดมหาวิทยาลัยมหิดลผ่านทาง
00:48:29 → 00:48:34 โทรศัพท์หมายเลข 02 441 5450 หรือทาง
00:48:34 → 00:48:38 เว็บไซต www.ptd.ac.th
00:48:38 → 00:49:25 [เพลง]
00:49:25 → 00:49:29 K อ