00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice คนโดยทั่วไปเนาะเก็จะไม่รู้ว่าสาร
00:00:08 → 00:00:11 เคมีอะไรบ้างที่อยู่ในเครื่องสำอางแล้ว
00:00:11 → 00:00:14 มันจะทำให้เราเนี่ยเกิดอาการแพ้เครื่อง
00:00:14 → 00:00:16 สำอางแล้วบางคนก็ยังงงอีกว่าการแพ้
00:00:16 → 00:00:19 เครื่องสำอางเนี่ยมันจะมีอาการแบบไหนเวลา
00:00:19 → 00:00:22 ที่เราทาบริเวณบนใบหน้าแล้วเนี่ยมัน
00:00:22 → 00:00:25 สามารถที่จะเกิดอาการแพ้ได้ 2 ลักษณะเกิด
00:00:25 → 00:00:29 จากการแพ้ด้วยตัวเราเองเกิดการระคายเคือง
00:00:29 → 00:00:31 ของผิวถ้าเราสัมผัสมันนิดเดียวเพราะว่า
00:00:31 → 00:00:34 เราแพ้ตัวสารตัวนั้นมันก็ทำให้เราเนี่ย
00:00:34 → 00:00:37 เกิดผื่นคันมากขึ้นได้ถ้าเราจะรู้ว่าแพ้
00:00:37 → 00:00:41 ไม 1 มีอาการผื่นคันแดงอาจจะเกิดเป็นผื่น
00:00:41 → 00:00:45 ลมพิษขึ้นมาเลยเป็นตุ่มน้ำใสจะมีอาการบวม
00:00:45 → 00:00:48 โดยเฉพาะพวกลิปสติกอ่ะ
00:00:48 → 00:00:52 ค่ะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภยฟัง
00:00:52 → 00:00:56 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:56 → 00:00:59 This Is tha PBS podcast วันนี้ค่ะ
00:00:59 → 00:01:02 คุณผู้ฟังคะเราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องของ
00:01:02 → 00:01:04 การแพ้เครื่องสำอางนะคะถ้าเกิดเรามีอาการ
00:01:04 → 00:01:08 แพ้จะต้องทำอย่างไรเดี๋ยวคุยกับแพทย์หญิง
00:01:08 → 00:01:10 ไดแอนลาหทยค่ะแพทย์ทางด้านผิวหนังและความ
00:01:10 → 00:01:14 งามค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะค่ะสวัสดีค่ะอ่า
00:01:14 → 00:01:17 วันนี้ความงามกันเลยทีเดียวนะคะอืเรื่อง
00:01:17 → 00:01:20 ของการแพ้เครื่องสำอางนะคะซึ่งหลายๆคนก็
00:01:20 → 00:01:22 อาจจะมีอาการแพ้ได้หรือบางคนอาจจะไม่เคย
00:01:22 → 00:01:24 แพ้มาก่อนแล้วอยู่ๆวันนึงมีอาการแพ้ก็
00:01:24 → 00:01:26 เป็นไปได้อีกเช่นเดียวกันเดี๋ยววันนี้ขอ
00:01:26 → 00:01:29 ความรู้กับคุณหมอว่าเอ่อเรื่องของการแพ้
00:01:29 → 00:01:31 เครื่องสำสางเนี่ยมันเกิดจากปัจจัยอะไร
00:01:31 → 00:01:33 หรือว่ามันมีอะไรที่ทำให้เราเ่อใช้
00:01:33 → 00:01:35 เครื่องสำอางบางประเภทแล้วแพ้ได้บ้าง
00:01:35 → 00:01:38 อาการเป็นยังไงนะคะเดี๋ยววันนี้คุยกัน
00:01:38 → 00:01:40 เรื่องของการแพ้เครื่องสำอางอ่ะไหนๆก็
00:01:40 → 00:01:42 เป็นคุณหมอทางด้านผิวหนังเจอเยอะเจอบ่อย
00:01:42 → 00:01:45 มั้ยคะบ่อยค่ะในเรื่องของการแพ้เครื่อง
00:01:45 → 00:01:48 สำอางค่ะโดยเฉพาะเดี๋ยวเนี้ยถ้าเราจะเห็น
00:01:48 → 00:01:52 ว่าคนเป็นโรคภูมิแพ้เยอะมากถ้าเทียบจาก
00:01:52 → 00:01:55 เมื่อก่อนเนาะภูมิแพ้ผิวหนังใช่ภูมิแพ้
00:01:55 → 00:01:57 ทางด้านผิวหนังจริงๆไม่ว่าจะผิวหนังหรือ
00:01:57 → 00:01:59 ว่าเป็นทางด้านระบบทางเดินหายใจทุกอย่าง
00:01:59 → 00:02:02 มากันหมดมาพร้อมๆกันเลยจากสภาวะมลพิษที่
00:02:02 → 00:02:05 มันสร้างขึ้นนะคะแล้วก็ในเรื่องของฝุ่น
00:02:05 → 00:02:08 ต่างๆแล้วก็พันธุกรรมที่เปลี่ยนไปจากการ
00:02:08 → 00:02:11 ที่เราบริโภคผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เปลี่ยนไป
00:02:11 → 00:02:14 จากเมื่ออดีตจากเมื่ออดีตเนี่ยเราจะเห็น
00:02:14 → 00:02:16 เลยว่าในเมืองไทยเนี่ยค่ะคนเป็นภูมิแพ้
00:02:16 → 00:02:20 ไม่ได้เยอะอือแต่เมื่อเรารับเ่อผลิตภัณฑ์
00:02:20 → 00:02:23 บางอย่างอาหารบางอย่างจากทางด้านฝั่ง
00:02:23 → 00:02:27 ตะวันตกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วก็จะเห็นเคส
00:02:27 → 00:02:30 ที่มีในเรื่องของอาการภูมิแพ้มากขึ้น
00:02:30 → 00:02:33 เรื่อยๆซึ่งมันก็เกิดจากหลายๆปัจจัยตรง
00:02:33 → 00:02:36 นี้รวมถึงพันธุกรรมของครอบครัวด้วยอเอ๊ะ
00:02:36 → 00:02:38 อย่างเรื่องของการแพ้อาหารนี้นำไปเชื่อม
00:02:38 → 00:02:40 โยงกับการแพ้ทางด้านผิวหนังได้เหมือนกัน
00:02:40 → 00:02:44 นะคะได้เหมือนกันค่ะออก็อย่างเช่นณ
00:02:44 → 00:02:47 ปัจจุบันเนี่ยก็จะมีคนที่แพ้ในเรื่องของ
00:02:47 → 00:02:52 นมวัวอือ่าแพ้ถั่วอใชอ่าก็จะเกิดเป็นบาง
00:02:52 → 00:02:54 คนก็จะเป็นผื่นลมพิษหรือว่าบางคนก็จะเป็น
00:02:54 → 00:02:57 ผื่นคายิเลยอย่างเงี้ยค่ะเราก็จะเห็นว่าณ
00:02:57 → 00:03:00 ปัจจุบันมันจะมีผลิตภัณฑ์หลายๆอย่างที่
00:03:00 → 00:03:03 มันสร้างขึ้นมาแล้วก็บว่าโอเคอันสำหรับคน
00:03:03 → 00:03:06 ที่แพ้นมวัวนะก็จะไม่มีส่วนประกอบนี้หลาย
00:03:06 → 00:03:09 ๆคนพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆแล้วแพ้ส่วนประกอบ
00:03:10 → 00:03:12 พวกนี้เขจะสังเกตในเรื่องของพวกนี้เยอะ
00:03:12 → 00:03:14 ขึ้นอแต่ถ้าเป็นอาหารมันก็ยังพอสังเกตได้
00:03:14 → 00:03:18 ง่ายอยู่ว่างคนแบบอ่าก็จะมีเป็นนมที่ไม่
00:03:18 → 00:03:21 ใส่แลคโตสหรือย่อยเอนั้มันเรื่องย่อยใช่
00:03:21 → 00:03:24 ไหมคะเอหรือแพ้ถั่วเหลืองหรืออะไรเจะมี
00:03:24 → 00:03:27 ระบุไว้อยู่แต่ถ้าเครื่องสำอางเนี่ยแหละ
00:03:27 → 00:03:31 มันก็จะเป็นเรื่องที่ยากนิดนึงเพราะว่า
00:03:31 → 00:03:32 รู้ว่า
00:03:32 → 00:03:36 สมีบงที่อยู่ในเครื่องสำอแล้วมันจะทำให้
00:03:36 → 00:03:40 เราเกิดอาการแพ้เครื่องสำอางขึ้นมาได้
00:03:40 → 00:03:42 แล้วบางคนก็ยังงงอีกว่าการแพ้เครื่อง
00:03:42 → 00:03:47 สำอางเนี่ยมันจะมีอาการแบบไหนซึ่งณวันนี้
00:03:47 → 00:03:50 เราก็เลยจะมาคุยกันให้ฟังว่าเราคงจะเริ่ม
00:03:50 → 00:03:52 ต้นก่อนว่าอาการของการแพ้เครื่องสำอาง
00:03:52 → 00:03:55 เนี่ยมันมีอะไรได้บ้างที่เราพบได้บ่อยและ
00:03:55 → 00:03:59 สังเกตง่ายๆนะคะในส่วนของตัวเครื่องสำอาง
00:03:59 → 00:04:01 เนี่ยเวลาที่เราทาบริเวณบนใบหน้าแล้ว
00:04:01 → 00:04:05 เนี่ยมันสามารถที่จะเกิดอาการแพ้ได้ 2
00:04:05 → 00:04:08 ลักษณะ 1 ก็คือเป็นลักษณะที่เกิดจากการ
00:04:08 → 00:04:13 แพ้ด้วยตัวเราเองอืกับอันที่ 3 ก็คือเกิด
00:04:13 → 00:04:17 จากการที่เกิดการระคายเคืองของผิวเขาจะ
00:04:17 → 00:04:19 เรียกคำศัพท์ทางแพทย์ว่าเป็น allergic
00:04:19 → 00:04:22 Contact dermatitis ก็คือ dermatitis
00:04:22 → 00:04:25 แปลว่าผื่นผิวหนังอักเสบ Contact คือการ
00:04:25 → 00:04:28 สัมผัส allergic คือแค่เราสัมผัสมานิด
00:04:28 → 00:04:31 เดียวเพราะว่าเราแพ้ตัวตัวสารตัวนั้นมัน
00:04:31 → 00:04:35 ก็ทำให้เราเนี่ยเกิดอาการผื่นคันมากขึ้น
00:04:35 → 00:04:38 ได้อือส่วนคำว่า eran Contact
00:04:38 → 00:04:41 dermatitis ก็คือตัวผื่นผิวหนังอักเสบ
00:04:41 → 00:04:45 ที่โดยการสัมผัสที่เกิดจากการระคายเคือง
00:04:45 → 00:04:48 ตรงเนี้ยมันก็จะเกิดจากการที่เราอ่ะไป
00:04:48 → 00:04:52 สัมผัสโดนสารนี้อาจจะนานเกินไปหรือเข้ม
00:04:52 → 00:04:55 ข้นเกินไปสารตัวเไม่ว่าโดนใครมันก็เกิด
00:04:55 → 00:04:58 อาการระคายเคืองได้อยู่แล้วเพียงแค่ว่าใน
00:04:58 → 00:05:01 ปริมาณที่ไม่เท่ากันและความเข้มข้นที่ไม่
00:05:01 → 00:05:04 เท่ากันอืเพราะฉะนั้นมันก็จะแตกต่างกันก็
00:05:04 → 00:05:06 แสดงว่าแต่ละคนแล้วแต่คือบางคนถึงว่าไม่
00:05:06 → 00:05:09 มีอาการแท้เลยกับสารตัวนี้บางคนโดนนิด
00:05:09 → 00:05:12 เดียวปึ๊บเอาและมีอาการแล้วใช่มั้ยคะแล้ว
00:05:12 → 00:05:15 อะไรที่มันจะบ่งบอกเราได้ว่าเฮ้ยเราแพ้
00:05:15 → 00:05:17 อาจจะเป็นสารในเครื่องสำอางหรือเป็นพวก
00:05:17 → 00:05:19 เอ่อประเภทเครื่องสำอางชนิดนั้นๆคือ
00:05:19 → 00:05:21 เหมือนมันต้องมาแย่งประเภทอีกเนาะใช่ค่ะ
00:05:22 → 00:05:24 ในเบื้องต้นถ้าเราจะรู้ว่าแพ้ม 1 มีอาการ
00:05:24 → 00:05:28 ผื่นคันแดงขึ้นมาเลยขึ้นมาเลยแห้งตึงหรือ
00:05:28 → 00:05:31 อาจจะเกิดภายในประมาณ 3-5 วันหลังจากที่
00:05:31 → 00:05:36 ใช้ก็ได้โออืใช้ระยะเวลานิดนึงค่ะอันที่ 2
00:05:36 → 00:05:39 อาจจะเกิดเป็นผื่นลมพิษขึ้นมาเลยก็ได้อือ
00:05:39 → 00:05:43 อันที่ 3 อาจจะเกิดเป็นตุ่มน้ำใสอในช่วง
00:05:43 → 00:05:46 แรกๆก็เกิดขึ้นได้เหมือนกันในบริเวณที่
00:05:46 → 00:05:49 เราทาตรงนั้นอออันที่ 4 อาจจะมีอาการบวม
00:05:49 → 00:05:52 โดยเฉพาะพวกลิปสติกอ่ะค่ะพวกนี้ก็จะเกิด
00:05:52 → 00:05:55 อาการบวมของบริเวณรอบริมฝีปากได้อและใน
00:05:55 → 00:05:59 พวกนี้ทั้งหมดถ้าเกิดสมมุติว่าอ่ามันเป็น
00:05:59 → 00:06:02 ในระยะเวลาที่นานแล้วก็เรื้อรังมันอาจจะ
00:06:02 → 00:06:05 ตามมาด้วยรอยดำที่เกิดขึ้นได้เหมือนกัน
00:06:05 → 00:06:09 อืออือฮึคือบางทีเราไม่เคยคิดว่าเราจะแพ้
00:06:09 → 00:06:11 แล้วก็คือด้วยเครื่องสำอางมันมีส่วน
00:06:11 → 00:06:14 ประกอบเยอะแล้วก็เอ๊ะมันจะไปแพ้เ้าก็เลย
00:06:14 → 00:06:18 ต้องมีการวิธีทดสอบที่ท้องแขนท้องแขนใช่
00:06:18 → 00:06:21 ท้องแขนได้ค่ะพอจะบอกได้เพราะมันเป็นจุด
00:06:21 → 00:06:24 บริเวณที่ค่อนข้าง sensitive ของผิวอยู่
00:06:24 → 00:06:26 แล้วเพราะฉะนั้นถ้าเราจะลองเทสด้วยตัวเรา
00:06:26 → 00:06:30 เองอ่ะด้วยอ่าเราสามารถที่จะลองเทตรงที่
00:06:30 → 00:06:32 บริเวณท้องแขนได้ค่ะประมาณ 3-7 วันว่ามี
00:06:32 → 00:06:35 ปัญหาอะไรไหมถ้าไม่มีก็คิดว่าน่าจะโอเค
00:06:35 → 00:06:38 แล้วใช้ได้แต่จริงๆแล้วเนี่ยโดยปัจจุบัน
00:06:38 → 00:06:41 ถ้าเป็นเคสที่ผิว sensitive มากๆเราก็จะ
00:06:41 → 00:06:44 แนะนำให้ไปทำ patch Test ที่โรงพยาบาล
00:06:44 → 00:06:47 ที่เท่าที่หมอรู้เนี่ยมันเดี๋ยวนี้มันอาจ
00:06:47 → 00:06:49 จะลิมินิดนึงมีแค่ไม่กี่ที่แต่ที่ที่มี
00:06:49 → 00:06:52 แน่ๆก็คือสถาบันโรคผิวหนังค่ะอ่าโรง
00:06:52 → 00:06:55 พยาบาลเก็จะมีในเรื่องของ pch Test ให้
00:06:55 → 00:06:58 เราไปเทสได้ว่าเราแพ้สารเคมีตัวไหนเราจะ
00:06:58 → 00:07:00 ได้สามารถระวังตัวถูกว่าตัวเราเองควร
00:07:00 → 00:07:04 ระวังตัวไหนบ้างเวลาซื้อผลิตภัณฑ์นี้อื
00:07:04 → 00:07:06 เพราะว่ามันมีผลข้างเคียงเพราะว่าถ้าเกิด
00:07:06 → 00:07:09 เราไม่รู้เราไปใช้แล้วไม่คิดว่าเราแพ้มัน
00:07:09 → 00:07:11 ก็จะมีผลกับผิวหน้าของเราได้เหมือนกันที
00:07:11 → 00:07:15 นี้ 3-5 วันกว่าอุ้ยคุณหมอคือพอเรากลับมา
00:07:15 → 00:07:18 บ้านแล้วก็อาบน้ำชำระล้างไปแล้วอ่ะไอ้ที่
00:07:18 → 00:07:21 เราเทสเมามันจะขึ้นหรอคะอ๋อเราจะเราจะทา
00:07:21 → 00:07:25 ใหม่ค่ะในทุกๆวันวันละครั้งอหมายถึงว่าไป
00:07:25 → 00:07:28 ที่หน้าเคาน์เตอร์มันมีตัวเทสอ๋อมีตัวเทส
00:07:28 → 00:07:32 อ่ะใช่เทตงนั้นแล้วก็รอเดินเดเลือกอย่าง
00:07:32 → 00:07:34 อื่นก่อนเพลินๆเพนๆเสร็จแล้วปุ๊บเ้าไม่
00:07:34 → 00:07:38 แพ้ไม่ใช่ต้องมีเวลาต้องมีเวลาต้องมีเวลา
00:07:38 → 00:07:39 หมาว่าเราต้องซื้อผลิตภัณฑ์นั้นกลับมา
00:07:39 → 00:07:42 เหรอใช่ค่ะโดยส่วนมากก็เป็นอย่างงั้นการ
00:07:42 → 00:07:45 เทสแค่นั้นบางทีมันไม่ได้ไม่ได้บอกได้
00:07:45 → 00:07:49 เดียวทำ except ว่ายกเว้นว่าเป็นคนที่แพ้
00:07:49 → 00:07:52 เยอะจริงๆ tion แรงจริงๆมันถึงจะเห็นผืน
00:07:52 → 00:07:55 ขึ้นมาในทันทีเลยโอ้โหอันนี้คือใช้วิธี
00:07:55 → 00:07:59 ผิดมาโดยตลอดคิดว่าแบบอ๋อเทสเสร็จปุ๊บ
00:07:59 → 00:08:01 เดี๋ยวเดินอย่างอื่นกันออโอเคไม่แพ้ซื้อ
00:08:01 → 00:08:04 ได้ไม่ใช่ไม่ใช่อันนั้นเราเพราะว่าจริงๆ
00:08:04 → 00:08:08 ในเรื่องของการแพ้เขาจะแบ่งเป็นระยะอระยะ
00:08:08 → 00:08:11 เฉียบพันธอือกับระยะที่มันออนิคหน่อยคือ
00:08:11 → 00:08:14 เรื้อรังหน่อยถ้าเป็นเฉียบพันธ์บางคนทา
00:08:14 → 00:08:17 ปุ๊บผื่นลมพิษขึ้นมาเลยทันทีแต่บางคนมัน
00:08:17 → 00:08:20 ดียนะคะไม่ใช่ว่าเห็นได้เลยออของเราคงจะ
00:08:20 → 00:08:24 ดีเลย์เยอะเลยเพราะจนสิต้องอ่ะดีนะวันนี้
00:08:24 → 00:08:27 ได้ความรู้จากคุณหมอด้วยนะคะคุณผู้ฟังก็
00:08:27 → 00:08:29 จะได้แบบเทสเครื่องสำอางได้ถูกว่าแบบเพะ
00:08:29 → 00:08:32 เราไม่รู้หรอกค่ะว่าเราจะแพ้จริงๆสามารถ
00:08:32 → 00:08:34 ที่จะอันนี้ได้มั้ยคะสมมุติเราเคยใช้
00:08:34 → 00:08:36 เครื่องสำอางเนี้ยมาก่อนละยี่ห้อเนี้ยตัว
00:08:36 → 00:08:39 นี้เลยวันนึงอยู่ๆมาใช้แล้วแพ้เป็นไปได้
00:08:39 → 00:08:42 ค่ะแต่ไอ้ความเป็นไปได้นี้เป็นได้จากหลาย
00:08:42 → 00:08:46 อย่างนะคะอันที่ 1 คือบริษัทได้เปลี่ยนอิ
00:08:46 → 00:08:48 อ่าส่วนประกอบข้างในของครีมตัวนั้นหรือ
00:08:48 → 00:08:52 เปล่าเออเราไม่เคยรู้เออใช่อ่าอันที่ 2
00:08:52 → 00:08:57 ก็คือว่าผิวของเราณวันนั้นเนี่ยเอ่อมัน
00:08:57 → 00:09:00 เหมาะสมที่จะใช้ครีมตัวนั้นมอย่างเช่น
00:09:00 → 00:09:03 จริงๆแล้วเราสามารถที่จะใช้วิตามินเอ
00:09:03 → 00:09:05 ทาน่าได้ถ้าทุกคนรู้จักเนาะเรตินอลนะ
00:09:06 → 00:09:08 ปัจจุบันใช่่มั้ยคะอ่ามันจะช่วยในเรื่อง
00:09:08 → 00:09:11 ของการลดริ้วลอยต่างๆแต่ว่าการลดริ้วลอย
00:09:11 → 00:09:15 ต่างๆนั้นน่ะถ้าเป็นคนหน้าแห้งใช้ไม่ได้
00:09:15 → 00:09:18 อืเราใช้ได้เฉพาะกลุ่มคนที่หน้าปกติถึง
00:09:18 → 00:09:21 มันหน่อยถ้าเป็นคนเบสหน้าแห้งเนี่ยใช้
00:09:21 → 00:09:26 แล้วคันแน่ๆค่ะอ่าเพราะฉะนั้นถ้าเป็นใน
00:09:26 → 00:09:29 อ่าสภาวะอากาศปกติอย่างเมืองไทยนะคะที่
00:09:29 → 00:09:31 มันร้อนๆเนี่ยก็เพราะฉะนั้นเราจะเบื้อง
00:09:31 → 00:09:33 ต้นเราก็จะบอกว่าโอเคเรตินอลเนี่ยมันใช้
00:09:33 → 00:09:36 ได้นะแต่ว่าถ้าเป็นคนที่ผิวค่อนข้างแห้ง
00:09:36 → 00:09:39 อย่าใช้เลยเอาไปใช้ตัวอื่นดีกว่าแต่ว่า
00:09:39 → 00:09:41 ถ้าเป็นคนหน้ามันถึงหน้าปานกลางอาจจะลอง
00:09:42 → 00:09:44 ใช้ดูแล้วถ้าใช้ได้ก็โอเคแต่เมื่อเปลี่ยน
00:09:44 → 00:09:48 ฤดูเป็นหน้าหนาวซึ่งทุกคนก็อยากอาน้ำน้ำ
00:09:48 → 00:09:51 อุ่นเนาะหน้าหนาวอ่ะผิวมันก็จะแห้งไปกว่า
00:09:51 → 00:09:54 เดิมไม่ว่าจะเป็นจากอากาที่หนาวแล้วเป็น
00:09:54 → 00:09:56 จากการที่เราอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นต่อให้เป็น
00:09:56 → 00:10:00 คนผิวมันผิวผสมผิวปกติก็นตอนนั้นเขไปใช้
00:10:00 → 00:10:05 เรตินอลไม่แน่เขาอาจจะคันขึ้นมาได้ออโหย
00:10:05 → 00:10:09 ละเอียดมากใช่มันมีดีเทลที่แต่ละบุคคลจะ
00:10:09 → 00:10:11 ไม่เหมือนกันและแต่ละ timing ก็ไม่เหมือน
00:10:11 → 00:10:13 กันเพราะฉะนั้นครีมที่ใช้ในช่วงหน้าร้อน
00:10:13 → 00:10:15 กับครีมที่ใช้ในช่วงหน้าหนาวอ่ะค่ะมันก็
00:10:15 → 00:10:18 จะเป็นคนละแบบกันเหมือนกันอุ๊ยเห็นรู้ทาง
00:10:18 → 00:10:22 ไม่ใช่เฮ้ยเพิ่งรู้เลยอ่ะข้อมูลใหม่หมด
00:10:22 → 00:10:25 เลยอ่ะเราแบบใช้กันมาแบบเพราะว่าตอนเนี้ย
00:10:25 → 00:10:27 กำลังฮิตกันมากกับเรตินอลเดี๋ยวไว้โอกาส
00:10:27 → 00:10:30 หน้าจะได้คุยเรื่องนี้กันแบบจริงจังอ่ะ
00:10:30 → 00:10:32 เนาะแต่ว่าไอ้เรื่องของการแพ้หรืออะไรพวก
00:10:32 → 00:10:36 เนี้ยแสดงว่ามันต้องมีสารที่ก่อให้เกิด
00:10:36 → 00:10:39 อาการแพ้อยู่ในพวกเครื่องสำอางประเภทต่าง
00:10:39 → 00:10:43 ๆใช่จริงๆแล้วสารที่ทำให้เกิดการแพ้ที่
00:10:43 → 00:10:45 เราพบบ่อยที่สุดในเครื่องสำอางอ่ะอันที่ 1
00:10:45 → 00:10:50 คือน้ำหอมอาที่ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมใช่
00:10:50 → 00:10:53 อันที่ 2 preservative หรือเรียกว่า
00:10:53 → 00:10:57 วัตถุกันเสียอืเพราะครีมทุกอย่างเนาะจริง
00:10:57 → 00:11:03 ๆเบสอ่ะมันก็ทำมาจากตัวเอิ่มวาลีนบวกน้ำ
00:11:03 → 00:11:06 บวกตัวเนื้อครีมแล้วก็ต้องแอ On ไปบน
00:11:06 → 00:11:11 ผลิตภัณฑ์ที่เราสกัดมาจากพวกผลไม้หรือว่า
00:11:11 → 00:11:14 จากเซลล์สัตว์อะไรต่างๆเนาะถ้าเราจะเคย
00:11:14 → 00:11:16 ได้ยินพวกอ่าหอยทากใช่มั้ยคะตอนนั้นน้ำ
00:11:16 → 00:11:19 ลายหอยทากอ่ะหรือว่าเป็นอโลเวล่าก็คือ
00:11:19 → 00:11:21 สกัดมาจากพวกว่านหางจระเข้แต่ว่าถ้าเรา
00:11:21 → 00:11:24 ทิ้งไว้มันอยู่ไม่ได้หรอกถึง 2 ปียังไง
00:11:24 → 00:11:28 มันก็เสียออเเลยต้องใส่วัตถุกันเสียลงไป
00:11:28 → 00:11:31 อ่าอันนี้ 3 สิ่งที่พบบ่อยก็คือพวกสีย้อม
00:11:31 → 00:11:34 ผมค่ะอืพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายเหมือน
00:11:34 → 00:11:38 กันสีย้อมผมก็คือพวกน้ำยาย้อมผมกบใช่น้ำ
00:11:38 → 00:11:41 ยาย้อมผมกกกผมเนี่ยพบได้บ่อยเลยค่ะอือฮึ
00:11:41 → 00:11:46 เคยเห็นคนที่เขาแพ้เ่อน้ำยาย้อมสีผมโอผม
00:11:46 → 00:11:48 ร่วงผมบางแบบอันนี้เลยต้องแบบระวังมากอัน
00:11:48 → 00:11:51 นี้คืออันที่เคยเห็นนะคะแต่อย่างอื่นไม่
00:11:51 → 00:11:54 ค่อยได้แบบไปเจอสักมาหนักอือฮึแต่ว่าถ้า
00:11:54 → 00:11:56 มาหาทางคุณหมอผิวหนังเยอะเนี่ยจะเป็นที่
00:11:56 → 00:11:59 หน้าเยอะค่ะอีกอันนึงก็จะเป็นเรื่องของ
00:11:59 → 00:12:01 ของจริงๆเราไม่ได้เรียกว่าเป็นผื่นแพ้
00:12:01 → 00:12:04 สัมผัสนะคะแต่ว่ามันจะมีลักษณะของบาง
00:12:04 → 00:12:06 อย่างที่กระตุ้นให้เกิดสิวอุตันได้ก็มี
00:12:06 → 00:12:12 เหมือนกันอือมีสิ่งกระตุ้นใช่อทีนี้ใน
00:12:12 → 00:12:15 ส่วนของตัว France อ่ะคะที่บอกว่ามันเป็น
00:12:15 → 00:12:19 ส่วนที่ทำให้เกิดน้ำหอมอ่ะนะคะพูดง่ายๆ
00:12:19 → 00:12:21 สิ่งที่มันจะทำให้เกิดได้เยอะเนี่ยเขาบอก
00:12:21 → 00:12:23 มักจะเป็นกลิ่นที่เรียกว่า renal ซึ่ง
00:12:23 → 00:12:28 เป็นกลิ่นคล้ายๆวนอกับกลิ่นมอีเป็นกลิ่น
00:12:28 → 00:12:30 ที่กลินคล้ายๆกลิ่นซบ
00:12:30 → 00:12:32 พวกนี้จะเป็นกลิ่นที่เราใช้บ่อยเป็นกลิ่น
00:12:32 → 00:12:34 ที่เรารู้สึกว่าแบบมันเข้าถึงง่ายใช่มัน
00:12:34 → 00:12:36 สบายสุดแล้วใช่เพราะฉะนั้นไอ้พวกนี้แหละ
00:12:36 → 00:12:39 ก็เป็นตัวนึงที่ทำให้เกิดเราซึ่งเวลาที่
00:12:39 → 00:12:42 เราจะเลือก uc อ่ะเราต้องเลือก produc
00:12:42 → 00:12:45 ที่เขียนว่า fragrance fre ไม่ใช่คำว่า
00:12:45 → 00:12:48 unsent นะคะ unsent คือไม่ได้กลิ่นอแต่
00:12:48 → 00:12:50 คำว่าไม่ได้กลิ่นไม่ได้แปลว่าอยู่ไม่มี
00:12:50 → 00:12:54 น้ำหอมอือแค่มันเป็นน้ำหอมที่ไม่มีกลิ่น
00:12:54 → 00:12:57 ใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยก็เลยอยากจะบอกว่าณ
00:12:57 → 00:12:59 วันนี้ถ้าเราเห็นเวทสำอางที่เกิดขึ้นใหม่
00:12:59 → 00:13:03 ๆเป็นครีมที่อยู่ในร้านต่างๆอ่ะนะคะโดย
00:13:03 → 00:13:06 เฉพาะกลุ่มของร้านขายยาเอย่างแรกเลยเขาจะ
00:13:06 → 00:13:11 เขียนเลยว่าไม่มีน้ำหอมอ่าใช่เราก็คิดว่า
00:13:11 → 00:13:15 อืเออแต่จริงๆซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นสิ่งที่
00:13:16 → 00:13:20 ถูกต้องอ่าต้องต้องดูระบุไว้อย่างชัดเจน
00:13:20 → 00:13:23 เพราะเดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์น่ะมาแบบเยอะมาก
00:13:23 → 00:13:25 เลยค่ะคุณหมอแบบเป็นซองที่ขายกันแบบว่า
00:13:25 → 00:13:29 สำหรับพกพาง่ายๆไม่แพงเข้าถึงคือไปยืนตาม
00:13:29 → 00:13:32 ทำเชนี่คือแบบโหเป็นร้อยเลือกยังไงดูไม่
00:13:32 → 00:13:35 ออกเลยจะเอาอันไหนดีเอาจริงๆโดยนิสัยส่วน
00:13:35 → 00:13:39 ใหญ่ไม่อ่านรายละเอียดเท่าไหร่เต็มที่ก็
00:13:39 → 00:13:42 คือแค่อยากรู้ว่าอันนี้ซองเป็นเป็นครีม
00:13:42 → 00:13:44 อะไรเกี่ยวกับอะไรแค่นั้นแต่ว่าจะมาดู
00:13:44 → 00:13:48 ส่วนผสมเอ่อข้อควรระวังเอ่อถ้ามีอาการแพ้
00:13:48 → 00:13:50 ต้องยังไงหรืออะไรเงี้ยเราเราไม่ยืนอ่าน
00:13:50 → 00:13:54 แบบนั้นแน่นอนอ่ะอืมันยากเออขนาดหมอนี่
00:13:54 → 00:13:57 ต้องเรียกว่าเรียนจบ 6 ปียังไม่รู้ไวต้อง
00:13:57 → 00:14:01 ต่ออีกหน่อยถึงจะรู้
00:14:01 → 00:14:05 อออแล้วก็ตัวหนังสือมันก็เล็กใช่ใชเราก็
00:14:05 → 00:14:07 ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวใหญ่กว่านี้ไม่ได้ใช่
00:14:07 → 00:14:10 แล้วก็อันที่ 2 ในส่วนของตัววัตถุกันเสีย
00:14:10 → 00:14:15 นะคะตัวที่เราเห็นว่ามันแพ้ได้เยอะคือตัว
00:14:15 → 00:14:18 มีกลุ่มหลายๆกลุ่ม 1 มีตัวพาราเบนจริงๆ
00:14:18 → 00:14:21 ตัวเนี้ยไม่ได้แพ้เยอะนะจากจากเรดที่มัน
00:14:21 → 00:14:26 ทำแต่ด้วยความที่ใช้กันเยอะมากอ๋อมันก็
00:14:26 → 00:14:29 เลยทำให้เราเห็นว่ามีเคสแพ้ตัวพาเบน่ะ
00:14:29 → 00:14:33 เยอะอืออืกลุ่มที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มพวก
00:14:33 → 00:14:36 formal de High อ่ารายละเอียดอาจจะยิบ
00:14:36 → 00:14:39 ย่อยไปนิดนึงก็คือมันอาจจะมีพวกของ formal
00:14:39 → 00:14:42 D High releasing Agent มีหลากหลายนะ
00:14:42 → 00:14:48 คะ cium 15 DM dmh โอกลุ่ม caton CG
00:14:48 → 00:14:53 เิลไดโมกลูตาไนเตรตแล้วก็จะมีกลุ่มที่
00:14:54 → 00:14:56 เกี่ยวกับอ่าสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภัณฑ์ใน
00:14:56 → 00:14:59 ห้องน้ำอ่ะก็จะมีตัวสารเคมีอีกตัวนึงที่
00:14:59 → 00:15:03 เกิดขึ้นได้เหมือนกันพวกไออิ util
00:15:03 → 00:15:06 carbamate อาจจะดูยากเกินไปเอาง่ายๆเลย
00:15:06 → 00:15:09 ก็คือว่าในเบื้องต้นน่ะนะคะ preservative
00:15:09 → 00:15:11 เนี่ยมันเกิดได้จากหลายตัวเพราะฉะนั้นเรา
00:15:11 → 00:15:13 ต้องมา cary อีกตัวซึ่งตรงเนี้ยมองว่ามัน
00:15:13 → 00:15:15 อาจจะต้องดูจาก patch Test ซึ่งเราจะได้
00:15:15 → 00:15:18 จำแค่เฉพาะตัวที่จำเป็นของเรามากกว่าไม่
00:15:18 → 00:15:21 อย่างงั้นจำไม่ได้หรอกชื่อยากมากชื่อยาก
00:15:21 → 00:15:24 มากใช่ๆจริงๆพวกนี้มันจะอยู่ในผลิตภัณฑ์
00:15:24 → 00:15:26 อะไรได้บ้างคะพวกวัตถุกันเสียที่มันผสม
00:15:26 → 00:15:31 อยู่ในอโอครีมต่างๆได้หมดเลยค่ะรอร์ White
00:15:31 → 00:15:34 tring อะไรที่มันดึงยาว 1 ปี 2 ปีอ่ะมัน
00:15:34 → 00:15:37 แน่นอน 3 ปีมันแทบทุกตัวแล้วนะเนี่ยใช่
00:15:37 → 00:15:39 เพราะมันต้องผสมอยู่ในนั้นไม่งั้นมันก็
00:15:39 → 00:15:42 อยู่ไม่ได้อือฮึในส่วนของตัวที่ 3 ที่
00:15:42 → 00:15:45 เกิดขึ้นได้เยอะก็คือเรื่องของน้ำยาย้อม
00:15:45 → 00:15:50 สีผมค่ะตัวที่พบบ่อยคือตัว ppd ค่ะ ppd
00:15:50 → 00:15:54 ใช่ pfy line ไดมีนตัวเก็จะพบบ่อยเหมือน
00:15:54 → 00:15:57 กันเราจะเห็นเลยว่าเยอะอันที่ 2 ก็คือถ้า
00:15:57 → 00:16:01 เราไปร้านทำผมเแล้วเราแพ้เให้คิดละว่ามัน
00:16:01 → 00:16:06 เกิดจากอะไรได้บ้าง 1 เราไปฟอกสีผมมฟอกสี
00:16:06 → 00:16:09 ผมตอนหลังๆนี่เกิดเยอะมากเลยนะเพราะเทรน
00:16:09 → 00:16:13 ทำผมเป็นสีอ่อนต้องฟอกก่อนแล้วค่อยยอมอก็
00:16:13 → 00:16:16 จะมีตัวเพ sulfate เซเนี่ยก็เกิดขึ้นได้
00:16:16 → 00:16:19 ค่ะอันที่ 2 ก็คืออย่างที่เราบอกตัว ppd
00:16:19 → 00:16:23 นะคะที่เป็นตัวย้อมสีผมตัวที่ 3
00:16:23 → 00:16:27 ผลิตภัณฑ์ที่อ่าเกี่ยวกับห้องแชมพูครีม
00:16:27 → 00:16:32 นวดผมจะมีสารที่ชื่อว่า CB ค่ะ CB ใช่ตัว
00:16:32 → 00:16:35 นี้นี่ก็เป็นอีกตัวเด็ดเหมือนกันที่ทำให้
00:16:35 → 00:16:39 เกิดการระคายเอ่อทำให้เกิดการแพ้อือึ
00:16:39 → 00:16:42 เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ที่เป็นพวกน้ำยา
00:16:42 → 00:16:47 ย้อมผมยาสระผมแชมพูอะไรเาก็บอกว่าสกัดจาก
00:16:47 → 00:16:49 สารสกัดธรรมชาติหรืออะไรอย่างเงี้ยอันนี้
00:16:49 → 00:16:52 เราสามารถแพ้ได้ด้วยป่ะเพราะมันมีส่วนผสม
00:16:52 → 00:16:55 อย่างอื่นด้วยมันใช่มันมีคือส่วนมากอ่ะ
00:16:55 → 00:16:59 ดักที่มันออกมาค่ะมันจะใส่คำว่าจาก
00:16:59 → 00:17:03 ธรรมชาติคือเา้ามีส่วนประกอบที่มาจาก
00:17:03 → 00:17:06 ธรรมชาติจริงๆแต่มันไม่ได้แปลว่าเาเพียว
00:17:06 → 00:17:09 ธรรมชาติร้อยเพราะถ้าเพียวธรรมชาติร้
00:17:09 → 00:17:13 เนี่ยใช่ก็จะเห็นอะไรนะเอิ่มมะกรูดหมัก
00:17:13 → 00:17:16 เองของเราเมื่ออดีตอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยคะ
00:17:16 → 00:17:19 อออแต่ว่าตั้งแต่ที่บอกมาเนี่ยไม่ว่าจะ
00:17:20 → 00:17:23 เป็นอะไรนะสารแต่งกลิ่นหอมใช่มั้ยคะค่ะ
00:17:23 → 00:17:26 วัตถุกันเสียเ่าแล้วก็ยาย้อมผมคือมันตั้ง
00:17:26 → 00:17:29 แต่ศีรษะจะหรดปลายเท้าเลยใช่ได้หมดอันนี้
00:17:29 → 00:17:33 ังไปไม่ถึงเล็บเลยนะว้าเล็บนี้ก็เกี่ยวนะ
00:17:33 → 00:17:36 คะออื้อหือเยอะมากใช่ในส่วนของเล็บเนี่ย
00:17:36 → 00:17:40 ถ้าเป็นพวกทาสีเล็บมันจะมีสารเอ่อที่เ่อ
00:17:40 → 00:17:44 ที่เรียกว่าตัวโทลูอีนฟาม formal deh ก็
00:17:44 → 00:17:46 คือกลุ่มของดีไฮนั่นเองค่ะซึ่งเคสพวก
00:17:46 → 00:17:50 เนี้ยที่แพ้จากน้ำยาทาเล็บมันจะไม่ได้คัน
00:17:50 → 00:17:53 มันจะไม่ได้คันตรงที่เล็บขนาดนั้นแต่มัน
00:17:53 → 00:17:57 จะไปเห็นอยู่ที่ตรงอ่าหนังตาบ้างหรือว่า
00:17:57 → 00:18:01 ตรงริมฝีปาป่าเอ้าเพราะว่าบางคนนกัดเล็บ
00:18:01 → 00:18:06 เอ้าอ่าบางคนก็ไปปาดตาปาดหน้าปาดคอก็เกิด
00:18:06 → 00:18:10 ขึ้นได้เหมือนกันคือไม่เป็นที่เล็บไม่
00:18:10 → 00:18:13 เป็นตรงผิวหนังคันๆหรือว่าผิวหนังรองไม่
00:18:13 → 00:18:17 มีไปโดนตรงอื่นแทนใช่ค่ะจะเป็นบริเวณไกล
00:18:17 → 00:18:20 นิดนึงแล้วเวลาทาเล็บเราไม่ได้แบบทาเสร็จ
00:18:20 → 00:18:22 ปุ๊บมันแพ้ปุ๊บเราเราล้มไม่ใช่นะเราไม่
00:18:22 → 00:18:26 รู้ด้วยว่าแผ้อ่ะใช่ๆจะมีกลุ่มนั้นอยู่
00:18:26 → 00:18:28 แต่ถ้าเป็นกลุ่ม artificial nil ก็คือ
00:18:28 → 00:18:32 เ่อเป็นเล็บที่อ่าต่อเล็บใช่มต่อเล็บทั้ง
00:18:32 → 00:18:36 หลายพวกเยก็จะมีอาการระคายเคืองที่บริเวณ
00:18:36 → 00:18:39 เล็บอยู่หรือว่าบริเวณปลายของนิ้วมือของ
00:18:39 → 00:18:42 เราอยู่แล้วรวมถึงบริเวณที่เป็นตำแหน่ง
00:18:42 → 00:18:44 ไกลๆด้วยเหมือนกัน
00:18:44 → 00:18:48 อืยเออถ้าเกิดว่าทาเลิบมาแล้วกรุณาเอามือ
00:18:48 → 00:18:51 ออกจากตัวกางไว้ค่ะอย่าไปโดนหน้าโดนตานะ
00:18:51 → 00:18:55 คะใช่ค่ะแต่คนไม่แพ้ก็โชคดีนะใชคนไม่แพ้
00:18:55 → 00:18:58 เนี่ยเป็นสิ่งที่ดีมากๆสวยได้ตลอดเวลาอ
00:18:58 → 00:19:01 ใช่แล้วทีนี้ถ้าแพ้เอ่ออย่างที่คุณหมอบอก
00:19:01 → 00:19:04 ไปเมื่อสักครู่นี้ว่ามันมีผื่นคันใช่มั้
00:19:04 → 00:19:09 คะเอ่อมีเป็นตุ่มพองๆน้ำใสๆแล้วก็มีอะไร
00:19:09 → 00:19:13 อีกนะเอ่ออาการบวมบวมใช่หรือว่าจะเป็นลม
00:19:13 → 00:19:17 พิษก็ได้รอยดำก็มีตามมาแล้วแต่ว่าจะไปโดน
00:19:17 → 00:19:21 ตัวไหนแล้วแต่ว่าแต่ละคนมีรีแอคชันที่จะ
00:19:21 → 00:19:24 ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารตัวนั้นยังไงอื
00:19:24 → 00:19:26 ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันบางทีเราโดนสาร
00:19:26 → 00:19:28 ชนิดเดียวกันแต่บางคนมาออกมาในรูปแบบของ
00:19:28 → 00:19:31 การแมันเป็นตุ่มน้ำอือบางคนออกมาในรูปแบบ
00:19:31 → 00:19:34 ของลมพิษค่ะคนก็ออกมาในรูปแบบของอาการคัน
00:19:34 → 00:19:38 เขยอผิวแห้งอออแล้วแต่คนใช่ค่ะไม่เหมือน
00:19:38 → 00:19:41 กันอืใช่แล้วอย่างงี้คือถ้าพอเราแพ้แล้ว
00:19:41 → 00:19:45 ปึ๊บด้วยความที่อาการมันค่อนข้างหลากหลาย
00:19:45 → 00:19:47 ไปหาแพทย์ผิวหนังเลยดีมั้ยหรือว่าเรามี
00:19:47 → 00:19:49 อะไรแบบเบื้องต้นดูแลตัวเองได้มั้ยเรา
00:19:49 → 00:19:51 จำเป็นต้องเดินไปหาหมอผิวหนังอย่างเดียว
00:19:51 → 00:19:54 มั้ยโดส่วนมากอ่ะเขาจะต้องมาหาหมอผิวหนัง
00:19:54 → 00:19:56 ก่อนเป็นอย่างแรกเลยค่ะเนื่องจากว่าอาการ
00:19:56 → 00:20:00 คันเขเยอะของเขาเขาทนไม่ได้อโอตลอดเวลาเอ
00:20:00 → 00:20:02 ใช่เพราะฉะนั้นยังไงณตอนนั้นเราต้องรักษา
00:20:02 → 00:20:05 อาการเฉพาะหน้าก่อนในเรื่องของผืนคันซึ่ง
00:20:05 → 00:20:08 โดยส่วนมากการรักษาพวกนี้เราก็จะมีการ
00:20:08 → 00:20:13 ทายากินยาแล้วก็ให้พวกเิมครีมที่ทำให้
00:20:13 → 00:20:16 ความชุ่นชื้นขึ้นอยู่กับว่าเามีปฏิกิริยา
00:20:16 → 00:20:19 แบบไหนแล้วก็จะให้การรักษาคนละแบบซึ่งใน
00:20:19 → 00:20:21 กลุ่มของพวกตัวยาทั้งหมดอ่ะสิ่งสำคัญของ
00:20:21 → 00:20:24 มันคือ 1 ก็อาจจะมีส่วนผสมของสเตรอยด์
00:20:24 → 00:20:28 เพื่อที่จะลดอาการอักเสบคันอันที่ 2 ก็
00:20:28 → 00:20:30 คือคืออาจจะมียากินแก้แพ้พวกกลุ่ม
00:20:30 → 00:20:33 แอนตี้ฮิสตามีนทั้งหลายยาแก้แพ้ใช่แล้วก็
00:20:33 → 00:20:38 อันที่ 3 ก็คือจะเป็นในส่วนของตัวเ่อยา
00:20:38 → 00:20:40 ให้ครีมให้ความชุ่มชื้นอ่าเพราะโดยส่วน
00:20:41 → 00:20:44 มากที่มาก็คือแห้งและคันนั่นเองอืโอหพอ
00:20:44 → 00:20:46 มันแห้งคันแล้วปุ๊บเนี่ยทีนี้แบบกว่าจะ
00:20:46 → 00:20:49 ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่มคะใช่ค่ะก็จะ
00:20:49 → 00:20:52 ต้องใช้ระยะเวลานิดนึงแต่ทีเนี้โดยส่วน
00:20:52 → 00:20:54 มากเนี่ยมันสามารถที่จะให้คนไข้สังเกตได้
00:20:54 → 00:20:58 นะเพราะว่าอย่างที่บอกเวลาที่เราใช้รทมัน
00:20:58 → 00:21:01 น่ะสักสักประมาณอาทิตย์นึงถึง 2 อาทิตย์
00:21:01 → 00:21:05 อ่ะในพีเรียดเนี่ยถ้ามันมีเกิดขึ้นมาซ้ำ
00:21:05 → 00:21:07 ให้ระวังไว้ว่าเอ้ยมันอาจจะเป็นตัวนี้
00:21:07 → 00:21:11 แหละแล้วเวลาที่เราใช้เราอย่ามาแบบโอ้โห
00:21:11 → 00:21:14 ซื้อเครื่องสำอางเซตใหม่ 10 ชิ้นแล้วเรา
00:21:14 → 00:21:16 ก็ประโคมลงไปบนใบหน้าเรา 10 ชิ้นในวัน
00:21:16 → 00:21:18 เดียวกันอย่างเงี้เราจะมองไม่ออกเลยว่า
00:21:18 → 00:21:23 อะไรกันแน่ที่มันทำให้เราเกิดอาการแต่มัน
00:21:23 → 00:21:26 ไม่เคยชิ้นเดียวนะคะมันหลายอย่างอยู่บน
00:21:26 → 00:21:29 หน้าเราโบกเข้าไปอยู่นี่นะคะว่าให้เริ่ม
00:21:29 → 00:21:31 ใช้ทีละอย่างค่ะเวลาเราจะเปลี่ยนของ
00:21:31 → 00:21:34 เปลี่ยนเครื่องสำอางอ่ะเปลี่ยนทีละอย่าง
00:21:34 → 00:21:37 แลใช้ตัวนั้นน่ะต่อสักประมาณอาทิตย์นึง
00:21:37 → 00:21:39 เราจะได้พอรู้คร่าวๆว่าตัวนี้เรามีโอกาส
00:21:39 → 00:21:43 แพ้หรือเปล่ามันพอจะได้ดูออกเป็นชิ้นๆไป
00:21:43 → 00:21:45 อ่าน่าจะดีกว่าคือเหมือนกับว่าให้สังเกต
00:21:45 → 00:21:48 ตัวเองแล้วเอ๊ะเฮ้ยทำไมมันเป็นผื่นแดง
00:21:48 → 00:21:51 ขึ้นมาอีกแล้วอ่ะ 2-3 ครั้งใช้มาแล้วเป็น
00:21:51 → 00:21:53 ตลอดอย่างเงี้ยใชใช่ค่ะแต่มันแพงนะคะคุณ
00:21:53 → 00:21:57 หมอจริงๆอ่ะเครื่องสำอางที่ดีไม่จำเป็น
00:21:57 → 00:22:02 ต้องแพงอือืถ้าถามแล้วเนี่ยจริงๆแล้วเอ่อ
00:22:02 → 00:22:05 เครื่องสำอางที่สุดท้ายแล้วผิวเราต้องการ
00:22:05 → 00:22:09 อะไรผิวเราต้องการแค่ 1 คือกันแดดค่ะ
00:22:09 → 00:22:11 เพื่อให้
00:22:11 → 00:22:14 อ่าไม่ให้เกิดเรื่องของรอยดำแล้วไม่ให้
00:22:14 → 00:22:17 ผิวเรามีริ้วรอยที่เยอะขึ้นเมื่อเราโต
00:22:17 → 00:22:20 ขึ้นถ้าเห็นฝรั่งอาบแดดจะเห็นเลยว่าแบบออ
00:22:20 → 00:22:23 โอ้โหผิวเขาจะไม่ได้เลยอ่ะพอเอายุ 50 นี่
00:22:23 → 00:22:26 แบบไปไกลกว่าเรามากเนาะอเพราะว่าเราเป็น
00:22:26 → 00:22:31 ฝั่งหลบแดดออันที่ 2 ก็คือว่า mooring อ
00:22:31 → 00:22:35 ซิคือครีมให้ความชุ่มชื้นกับเรานะคะซึ่ง
00:22:35 → 00:22:37 แล้วอันที่ 3 ไว tring อันนี้บวกลบแล้ว
00:22:37 → 00:22:40 แต่คนอืเพราะงั้นจริงๆหลักๆมันเป็นแค่ 2
00:22:40 → 00:22:44 อันเองอือที่มันจำเป็นต่อผิวจริงๆการที่
00:22:44 → 00:22:46 เราใช้เยอะเกินไปมันก็ยิ่งทำให้เรามี
00:22:46 → 00:22:49 โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดในเรื่องของการแพ้
00:22:49 → 00:22:53 ได้จริงๆมันยังมีอีกหลายตัวถ้าจะให้หมอ
00:22:53 → 00:22:56 สรุปอีกนิดนึงก็คือว่าในส่วนของตัว sls
00:22:56 → 00:23:00 เนี่ยก็จะทำให้เกิดเป็นเรื่องของสิวได้อื
00:23:00 → 00:23:04 มีตัวปิตราตุ้มคือคล้ายๆวาซีตัวนี้ก็ดีนะ
00:23:04 → 00:23:06 คะให้ความชุ่มชุมกับผิวได้ดีแต่ข้อเสีย
00:23:06 → 00:23:10 คือมันอุดตันอ๋ออ่าเป็นตัวที่จริงๆแพ้
00:23:10 → 00:23:12 น้อยด้วยแต่มันเกิดการอุดตันทีนี้เราก็จะ
00:23:12 → 00:23:15 เหมาะไปทาบริเวณอื่นที่ที่มันจะสิวไม่
00:23:15 → 00:23:20 ขึ้นอริที่มันจะแบบทนทานหน่อยใช่ๆค่ะแล้ว
00:23:20 → 00:23:24 ก็ในส่วนของกันแดดเลยถ้าเลือกให้ดีโอกาส
00:23:24 → 00:23:26 แพ้น้อยคือกลุ่มของ physical sunskin
00:23:26 → 00:23:28 ที่มีส่วนประกอบของซิออกไซด์หรือ
00:23:28 → 00:23:30 ไทเทเนียมไดออกไซด์ตัวนี้มันจะเป็นตัวที่
00:23:30 → 00:23:33 แพ้น้อยพวกอโวเบนโซเนี่ยจะแพ้เยอะมากโห
00:23:33 → 00:23:35 ต้องไปดูข้างหลังแล้วแหละว่าใช่ออกซิ
00:23:35 → 00:23:39 เบนโซ AV เซนเซฟีโนนเนี่ยพวกเนี้ยจะแพ้
00:23:39 → 00:23:42 เยอะโซนๆโนนๆคุณผู้ฟังจำแค่นี้โซนๆนใช่
00:23:42 → 00:23:45 โซนๆโนๆอันนั้นจะเป็นสายเคมิคอลทานแล้ว
00:23:45 → 00:23:49 แบบกึ๊บเนียนคาแล้วไม่เหนอะกลุ่มเนี้ยจะ
00:23:49 → 00:23:52 แพ้ง่ายกว่ากลุ่มเหนอะๆเอ้ยซึ่งจริงๆส่วน
00:23:52 → 00:23:55 ใหญ่ชอบใช้แบบไม่เหนอนะอ่ะไปลความแพ้มา
00:23:55 → 00:23:57 แล้วเนี่ยถ้าเกิดมันแพ้ขึ้นมาเลยอย่าง
00:23:57 → 00:23:59 เงี้ยปึ๊บรีบเป็นไปล้างออกมั้ยต้องรีบ
00:23:59 → 00:24:01 ล้างออกค่ะถ้าเรารู้สึกก็รีบล้างออกได้
00:24:01 → 00:24:05 เลยแต่โดยส่วนมากเวลาทาแล้วถ้ามันหลายๆ
00:24:05 → 00:24:07 เคสมันจะอย่างที่บอกถ้าถ้าฉับพลันน่ะเรา
00:24:07 → 00:24:10 ล้างออกมันก็ได้แต่ถ้ามันเป็นแบบเคสออนิค
00:24:10 → 00:24:14 แบบเรื้อรังอ่ะอือมันก็ทาไปมันซึมไปแล้ว
00:24:14 → 00:24:18 อ่ะอ๋ออซึมแล้วเราก็จะซึมด้วยเพะเพราะว่า
00:24:18 → 00:24:21 ถ้ามันแบบว่าเรายังปล่อยไว้ไม่ไม่ไปหาหมอ
00:24:21 → 00:24:23 แล้วไม่คิดว่ามันนี่คือความแพ้หรือพยายาม
00:24:24 → 00:24:27 ทนเอ้ยมันคงไม่ใช่หรอกมาก็จะไปกว่าเดิมก็
00:24:27 → 00:24:30 นหนักนะใช่พขึ้นตอนจบจะมีเรื่องของรอยดำ
00:24:30 → 00:24:33 รอยดำ 6 เดือนกว่าจะหายโหยากกว่าเพราะเคย
00:24:33 → 00:24:37 เห็นแบบว่าที่บางคนเขาหน้าพังไปเลยอ่ะใช่
00:24:37 → 00:24:40 ค่ะสู้ถ้าเแบบคันหรือเริ่มมีอาการผื่นแดง
00:24:40 → 00:24:43 ปึ๊บบางทีเราไม่ทันได้มองกระจกเดถ้ามีคน
00:24:43 → 00:24:45 เดินมาทักเฮ้ยทำไมเป็นผืนแดงหรืออะไร
00:24:45 → 00:24:49 เงี้ยอันนี้ก็ก็ลองดูไปดูหรือว่าแบบ
00:24:49 → 00:24:52 ปรึกษาหมอทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะส่วนใหญ่
00:24:52 → 00:24:55 จะเดินเข้าร้านขายยาอ่าใช่ก็เป็นอีกทาง
00:24:55 → 00:24:57 เลือกนึงก็เป็นอีกทางเลือกนึงคือไม่ได้
00:24:57 → 00:24:59 บอกว่าเดินเข้าไม่ได้แต่ถ้าเบื้องต้น
00:24:59 → 00:25:03 สมมุติเบื้องต้นอ่ะก็ปรึกษาได้เอเพราะเมี
00:25:03 → 00:25:05 เภสัชกรประจำร้านขายยาอยู่แล้วทุกวันนี้
00:25:05 → 00:25:08 ต้องมีเภสัชกรประจำนะคะใช่ค่ะเดี๋ยวนี้กฎ
00:25:08 → 00:25:11 หมายออกมาใหม่ขึ้นใช่ถถ้าไม่มีก็เปลี่ยน
00:25:12 → 00:25:15 ล้านแล้วกันเพื่อความปลอดภัยจริงค่ะจริง
00:25:15 → 00:25:18 คะแล้วหลักการซื้อเครื่องสำอางก็ต้องแบบ
00:25:18 → 00:25:21 เชื่อถือได้ใช่ค่ะต้องเป็นแบรนด์ที่เชื่อ
00:25:21 → 00:25:23 ถือได้แล้วก็เสิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ก่อน
00:25:23 → 00:25:25 ว่าเบสหน้าเรามันเป็นแบบไหนแล้วเหมาะกับ
00:25:25 → 00:25:28 อะไรอุ๊ยน่าสนใจเอาหน้าไปตรวจได้มั้ยว่า
00:25:28 → 00:25:31 ตงได้นะคะจริงๆจริงๆมันก็มีตัวเครื่องที่
00:25:31 → 00:25:34 แบบสแกนให้เราดูรู้ว่าผิวหน้าเราเป็นหน้า
00:25:34 → 00:25:37 แบบไหนอะไรอย่างเงี้ยแล้วมีอะไรที่แบบ
00:25:37 → 00:25:40 เอ่ออยู่ภายใต้ผิวหน้าเราบ้างให้เห็นเม็ด
00:25:40 → 00:25:42 สีแต่ละชั้นอย่างเงี้ยก็มีเหมือนกันค่ะ
00:25:42 → 00:25:45 คือเดี๋ยวเนี้ยเค้าเรียกไงดีอุปกรณ์ทาง
00:25:45 → 00:25:48 ด้านผิวหนังเยอะขึ้นเยอะอือฮึน่าสนใจมาก
00:25:48 → 00:25:51 ในรายละเอียดต่างๆแต่ว่าหมดเวลาค่ะคุณผู้
00:25:51 → 00:25:53 ฟังเอาไว้โอกาสหน้าเดี๋ยวเราได้มีอะไร
00:25:53 → 00:25:56 เพิ่มเติมนะคะกับคุณผู้ฟังกันต่อไปนะ
00:25:56 → 00:26:00 ขอบคุณคุณหมอไดแอนค่ะสดีค่ะสวัสดีค่ะหมด
00:26:00 → 00:26:01 เวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้า
00:26:01 → 00:26:04 กับรายการโรงหมอทางไทย PBS podcast นะคะ
00:26:04 → 00:26:07 วันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is Thai
00:26:07 → 00:26:10 PBS podcast มนุษย์เป็ดคำเปรียบเปรยของ
00:26:10 → 00:26:13 คนที่มีลักษณะเป็นอย่างไรข้อดีและข้อเสีย
00:26:13 → 00:26:15 ของคนกลุ่มนี้คืออะไรพันตำรวจเอกหญิง
00:26:15 → 00:26:18 แพทย์หญิงอัญชุลีธีระวงศ์ไพศาลจิตแพทย์
00:26:18 → 00:26:22 จากโรงพยาบาลตำรวจมาเล่าให้ฟังครับมนุษย์
00:26:22 → 00:26:25 เป็ดเป็นคำเปรียบเปลยสำหรับบุคคลที่
00:26:25 → 00:26:28 สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างมีความสามารถ
00:26:28 → 00:26:32 หลายๆอย่างแต่แต่ละอย่างเนี่ยมันไม่ได้จะ
00:26:32 → 00:26:34 แบบ expert ไม่ได้จะดีเลิศสักอย่างเพราะ
00:26:34 → 00:26:38 ว่าเป็ดเนี่ยมีปีกแต่เขาจะบินได้แบบเตี้ย
00:26:38 → 00:26:41 ๆบินได้น้อยๆไม่สามารถบินได้สูงและไกล
00:26:41 → 00:26:45 เหมือนนกเป็ดเนี่ยเา้ามีตีนสามารถว่ายน้ำ
00:26:45 → 00:26:49 ได้แต่ก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้ไวเหมือนปลา
00:26:49 → 00:26:53 ก็คือเค้าจะอยู่บนบกก็ได้เล่นน้ำก็ได้นะ
00:26:53 → 00:26:56 คะคือเขาคก็จะมีความถนัดหลายๆอย่างแต่ว่า
00:26:56 → 00:26:58 ไม่เก่งสักอย่างเมื่อเทียบกับสัตว์ชนิด
00:26:59 → 00:27:00 อื่นเพราะฉะนั้นเขาก็เลยเอามาเปรียบเทียบ
00:27:00 → 00:27:04 กับคนนะคะที่แบบมีความสามารถหลากหลายเลย
00:27:04 → 00:27:07 ทำอะไรก็ได้ฟังพูดอ่านเขียนทำนู่นทำนี่
00:27:07 → 00:27:10 ได้สารพัดเลยแต่ไม่มีอย่างไหนเลยที่ถนัด
00:27:10 → 00:27:13 หรือว่าเก่งหรือเชี่ยวชาญจริงๆนะคะเขาก็
00:27:13 → 00:27:16 เลยเลียกคนกลุ่มนี้เนี่ยว่ามนุษย์เป็ด
00:27:16 → 00:27:18 ความจริงแล้วถ้าเราคิดบวกอ่ะทุกอย่างที่
00:27:18 → 00:27:21 เรามีทุกอย่างที่เราเป็นมันก็ดีหมดเสมอก็
00:27:21 → 00:27:23 ต้องบอกว่าเป็นข่าวดีสำหรับมนุษย์เป็ดใน
00:27:23 → 00:27:26 ยุคนี้นะคะเพราะว่าเขามีการสำรวจค่ะว่า
00:27:26 → 00:27:30 ปัจจุบันนี้เนี่ยตลาดแรงงานเมักจะชอบจ้าง
00:27:30 → 00:27:33 มนุษย์เป็ดชอบจ้างคนหนึคนที่สามารถทำหน้า
00:27:33 → 00:27:38 ที่หลายๆอย่างไม้จิ้มฟันยันเรือรบนะคะเั B
00:27:38 → 00:27:40 ทำทุกอย่างขับรถก็ได้ทำบัญชีก็ได้ทำ
00:27:40 → 00:27:42 คอมพิวเตอร์ก็ได้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้าก็
00:27:43 → 00:27:45 ได้อะไรแบบทุกอย่างเลยเนี่ยปัจจุบันเนี่ย
00:27:45 → 00:27:49 จะเป็นที่ต้องการสังเกตดูว่าบริษัทนึง
00:27:49 → 00:27:52 เนี่ยจะไม่จ้างพนักงานเยอะเขาจะจ้างคน
00:27:52 → 00:27:55 น้อยแต่เขาจะจ้างคนที่แบบทำได้หลากหลายทำ
00:27:55 → 00:27:58 ได้หลายอย่างแล้วก็สามารถแบบควบคุม AI
00:27:58 → 00:28:01 ได้อีกทีนึงมีการศึกษาเพบว่าคนกลุ่มเนี้ย
00:28:01 → 00:28:05 จะสามารถปรับตัวกับที่ทำงานได้ดีกว่าคน
00:28:05 → 00:28:09 ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากๆแล้วก็คน
00:28:09 → 00:28:12 กลุ่มเนี้ยสามารถที่จะคาดการคำนวณแล้วก็
00:28:12 → 00:28:15 แก้ไขปัญหาสถานการณ์โดยการใช้ทักษะหลายๆ
00:28:16 → 00:28:19 อย่างที่เขามีเนี่ยทำให้เขาอยู่รอดปลอด
00:28:19 → 00:28:22 ภัย Survive ได้ในวงการหน้าที่การงานของ
00:28:22 → 00:28:25 เขานะคะแต่มันก็จะมีข้อเสียตรงนี้แหละค่ะ
00:28:25 → 00:28:28 ที่คนกลุ่มเนี้ยเขามักจะเกิดคำถามถามขึ้น
00:28:28 → 00:28:32 มากับตัวเองว่าตกลงแล้วฉันชอบอะไรตกลง
00:28:32 → 00:28:36 แล้วฉันอยากทำอะไรตกลงแล้วฉันถนัดด้านไหน
00:28:36 → 00:28:38 กันแน่ขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้บางทีจะรู้
00:28:38 → 00:28:41 สึกแบบต้อยต่ำ inferiority ต่ำต้อยด้อย
00:28:41 → 00:28:43 ค่าว่าเอ๊ะทำไมฉันไม่เชี่ยวชาญเหมือนเขา
00:28:43 → 00:28:47 อ่ะบางคนก็จะน้อยเนื้อต่ำใจโดยเฉพาะถ้า
00:28:47 → 00:28:51 เป็นกลุ่มคนที่แบบอะไรก็ได้อ่ะก็จะถูกคน
00:28:51 → 00:28:55 จูงชักจูงไป
00:28:55 → 00:29:00 ง่าย is PBS
00:29:00 → 00:29:03 ติดตามรายการของ Thai PBS podcast ได้
00:29:03 → 00:29:07 ทางเว็บไซต์ www.th PBS podcast .com
00:29:07 → 00:29:11 Application Thai PBS podcast รวมถึง
00:29:11 → 00:29:14 ฟังผ่าน podcast ช่องทางอื่นๆ spotify
00:29:14 → 00:29:19 YouTube Apple podcast และ soundcloud
00:29:19 → 00:29:22 [เพลง]