00:00:04 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:09 ถ้าอยากจะหายจากโรคภัยไม่อยากจะลาลับโลก
00:00:09 → 00:00:14 ไปจะยอย่างไรให้ปลอดภัยเราขอบอกมาดูยาหมอ
00:00:15 → 00:00:18 บอกยาหมอ
00:00:18 → 00:00:22 บอกสวัสดีค่ะและนี่ก็คือรายการยาหมอบอกนะ
00:00:22 → 00:00:24 คะรายการที่กลับมาพบกับเรา 2 คนเหมือน
00:00:24 → 00:00:26 เดิมก็คือตุ๊กแล้วก็พี่บ๊วยรายการที่จะ
00:00:26 → 00:00:29 เปลี่ยนความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาและ
00:00:29 → 00:00:32 ผลิตภัณฑ์ยาให้เป็นความรู้ค่ะและแน่นอนนะ
00:00:32 → 00:00:34 ครับวันนี้เราจะพูดในเรื่องของความสวย
00:00:34 → 00:00:38 ความงามเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดเกี่ยว
00:00:38 → 00:00:41 กับการใช้ในเรื่องของยาและผลิตภัณฑ์ยาใน
00:00:41 → 00:00:44 เรื่องของความสวยความงามเพราะฉะนั้นเกิด
00:00:44 → 00:00:46 คำถามครับคุยเรื่องความสวยความงามเราจะ
00:00:46 → 00:00:48 คุยกับอาจารย์ดี
00:00:48 → 00:00:51 เอ๋ยเราอยู่กับอาจารย์เพ็ญนั่นเองนะครับ
00:00:52 → 00:00:55 อาจารย์จากภาควิชาตจวิทยาคณะแพทยศาสตร์
00:00:55 → 00:00:57 ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดลนะครับรอง
00:00:57 → 00:01:00 ศาสตราจารย์แพทยหญิงรังสิมาวนี้ภักดีเดชา
00:01:00 → 00:01:04 ครับเรียนเชิญค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:04 → 00:01:07 อาจารยยังไม่เบื่อเรา 2 คนนะคะสวันนี้นะ
00:01:07 → 00:01:09 ครับเราอยู่กับอาจารย์เพ็ญนะครับเราจะรวบ
00:01:09 → 00:01:14 รวมแบบจัดเต็ม 10 อันดับความเข้าใจผิดค่ะ
00:01:14 → 00:01:17 เกี่ยวกับเรื่องของผลิตการใช้ผลิตภัณฑยา
00:01:17 → 00:01:20 หรือว่าการใช้ยาที่เกี่ยวกับเรื่องของ
00:01:20 → 00:01:23 ความสวยความงามที่เป็นจุดเด่นของร่างกาย
00:01:23 → 00:01:28 ก็คือหน้ากับผมเออจริงนะหน้ากับผมนี่ซ่อน
00:01:28 → 00:01:31 ไม่ได้เลยนะคือถ้าไปไหนวันนั้นบอกเลยถ้า
00:01:31 → 00:01:33 แต่งตัวหน้าผิดผมผิดนี่พังข้างล่างเหมือน
00:01:33 → 00:01:36 กันนะคะซ่อนไม่ได้ด้วยออเอาล่ะครับคุณผู้
00:01:36 → 00:01:39 ชมครับนั่นหมายความว่าวันนี้ถ้าชมรายการ
00:01:39 → 00:01:43 ยาหมอบนะครับคุณผู้ชมจะมีความเข้าใจถูก
00:01:43 → 00:01:45 ต้องหรือว่าความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ
00:01:45 → 00:01:48 การใช้ผลิตภัณฑ์หรือว่ายาที่เกี่ยวกับ
00:01:48 → 00:01:51 เรื่องของหน้าและผมและเอาไปใช้สร้างความ
00:01:51 → 00:01:54 แตกต่างให้กับชีวิตคุณจริงด้วยอเริ่มตรง
00:01:54 → 00:01:57 ไหนก่อนดีนี่เราจะเจอภาพแบบนี้บ่อยครับ
00:01:57 → 00:02:01 Before After หยุดปัญหาผมร่วงผมบางผม
00:02:01 → 00:02:05 แตกปลายรวงตั้ศีรษะล้านอันนี้ชัดเจนนะนี่
00:02:05 → 00:02:11 หรือไม่มีนี่ไงหวีเลเซอร์หยุดปัญหาผมร่วง
00:02:11 → 00:02:17 ใช่ผมบางหัวร้านปลูกผมใหม่ภายใน 1 เดือน
00:02:17 → 00:02:19 เดี๋ยวเรามาทำความเข้าใจกันดูนะครับว่า
00:02:19 → 00:02:22 เป็นอย่างไรบ้างทีนี้ดูอันนี้ก่อนพี่เพ็ญ
00:02:22 → 00:02:26 ว่ามันใช้ได้ผลมยครับคือเราต้องอันแรกสุด
00:02:26 → 00:02:28 พี่ว่าเราต้องคุยกันก่อนว่าตกลงคนไข้นี่
00:02:28 → 00:02:30 มีปัญหาเรื่องผมร่วงจริงหรเปล่าอือฮึคือค
00:02:30 → 00:02:33 บางบางีว่าเอ๊ั้ผมร่วงเยอะ่วงเยอะตกลงนี่
00:02:33 → 00:02:36 มันแบบเราเรามันร่วงยังไงอ่ะถึงเรียกว่า
00:02:36 → 00:02:38 ร่วงเยอะอ๋อต้องมีเกณฑ์ใช่คะถูกมยมันต้อง
00:02:38 → 00:02:40 มีเกณฑ์อยู่อย่างจำกัดความมันก่อนอ่า
00:02:40 → 00:02:42 จำกัดความก็คือว่าคนที่ผมร่วงมากเนี่ย
00:02:42 → 00:02:45 หมายความว่าจะต้องร่วงมากกว่าวันละ 100
00:02:45 → 00:02:48 เส้นต่อวันอืเกินค่ะเกินคือถ้าร่วงน้อย
00:02:48 → 00:02:50 กว่านั้นแสดงว่าอย่างงี้เรียกว่าร่วงปกติ
00:02:50 → 00:02:53 นะอ๋อมันต้องร่วงบ้างถูกผมคนเราเนี่ยบน
00:02:53 → 00:02:55 เส้นผมเอ่อบนหนังศีรษะทั้งหมดมีประมาณ 1
00:02:55 → 00:02:58 ล้านเส้นค่ะแล้วก็มีอายุประมาณสัก 3 ปี
00:02:58 → 00:03:01 อ๋อเพราะฉะนั้นเนี่ยผมแต่ละเส้นมันร่วง
00:03:01 → 00:03:03 ทุกวันแต่ก็หมายความว่ามันจะมีเส้นใหม่
00:03:03 → 00:03:05 ที่มันงอกขึ้นมาชดเชยกันคราวนี้สมมติว่า
00:03:05 → 00:03:09 ถ้าเกิดผมร่วงเยอะๆอแล้วเราจะทำยังไงได้
00:03:09 → 00:03:12 บ้างนั่นสิครับก็เริ่มแรกสุดคือ 1 ถ้า
00:03:12 → 00:03:15 เป็นในกรณีของแพทย์เนี่ยเราจะหาสาเหตุ
00:03:15 → 00:03:17 ก่อนว่าตกลงคนไข้ที่ผมร่วงเยอะนี่มันเป็น
00:03:17 → 00:03:20 ร่วงจากมีโรคภายในหรือเปล่าเพราะถ้า
00:03:20 → 00:03:23 สมมุติว่าเรามีสาเหตุจากภายในอย่างเช่นมี
00:03:23 → 00:03:26 การขาดสารอาหารบางอย่างหรือเป็นโรคบางอัน
00:03:26 → 00:03:29 ที่ทำให้ผมร่วงถ้าเราไม่รักษาตรงนั้นไม่
00:03:29 → 00:03:35 ว่าจะใช้หวีจะใช้จะใช้ยาทาแชมพูแพงขนาด
00:03:35 → 00:03:37 ไหนมันก็คงไม่ได้ผลเพราะจริงๆสาเหตุมัน
00:03:37 → 00:03:41 อยู่ที่ด้านในแต่คราวนี้เนี่ยปัญหาของคนร
00:03:41 → 00:03:43 ผมร่วงที่ที่เข้าใจว่าเป็น target ของ
00:03:43 → 00:03:45 กลุ่มเนี้ยมักจะเป็นผมร่วงแบบเหมือนผู้
00:03:45 → 00:03:48 ชายหัวล้านอย่างเงี้ยปกติอ่าเป็นแบบผมบาง
00:03:48 → 00:03:51 ศีรษะล้านซึ่งเราเจอจากในผู้ชายเราเรียก
00:03:51 → 00:03:55 ว่าผมร่วงจากกรมพรเพศชายพวกนี้เนี่ยมันก็
00:03:55 → 00:03:58 จะมีลักษณะของยาบางอย่างที่สามารถที่จะ
00:03:58 → 00:04:00 ช่วยปลูกผมขึ้นมาได้ส่วนใหญ่ยาพวกนั้น
00:04:00 → 00:04:04 เนี่ยมันจะไม่ใช่พวกแชมพูคือแชมพูที่บอก
00:04:04 → 00:04:06 ว่าช่วยลดการหลุดรุ่งของเส้นผมอันนี้มัน
00:04:06 → 00:04:09 ได้ได้ผลน้อยแต่ในขณะที่การใช้ยาบางตัว
00:04:09 → 00:04:12 เพื่อการหยอดลงไปบนหนังศีรษะแล้วปลูกผม
00:04:12 → 00:04:15 ขึ้นมาได้เนี่ยอันเนี้ยอาจจะจริงอืมียา
00:04:15 → 00:04:18 กินบางอย่างที่สามารถช่วยกินเข้าไปเสร็จ
00:04:18 → 00:04:21 ปุ๊บแล้วเนี่ยทำให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ได้
00:04:21 → 00:04:24 อย่างเงี้มีจริงอือแต่ต้องรู้ว่าร่วมจาก
00:04:24 → 00:04:26 เรื่องอะไรสาหตุอะไรก็ต้องดูก่อนแต่ใน
00:04:26 → 00:04:28 กรณีที่อย่างสมมุติว่าถ้าเป็นผู้ชายที่ผม
00:04:28 → 00:04:31 บางศีรษะล้านพบแพทย์ก่อนเสร็จแล้วเนี่ย
00:04:31 → 00:04:34 ค่อยดูว่าเป็นยังไงคือการใช้ซื้อซื้อยา
00:04:34 → 00:04:38 รักษาโรคเอ่อแชมพูลดการหลุดล่วงพี่คิดว่า
00:04:38 → 00:04:41 อันนี้เป็นเรื่องความสบายใจอืแชมพูช่วย
00:04:41 → 00:04:43 ได้น้อยนะครับคุณผู้ชมจะมียาหยอดที่
00:04:43 → 00:04:46 สามารถใช้ได้ซึ่งยาหยอดพวกนั้นส่วนใหญ่
00:04:46 → 00:04:49 สารที่ใช้เนี่ยมันจะเป็นสารที่กระตุ้นให้
00:04:49 → 00:04:51 ผมเนี่ยมันงอกขึ้นมาส่วนใหญ่สารในนั้น
00:04:52 → 00:04:54 เนี่ยจะเป็นกลุ่มที่เราเรียกชื่อทางการ
00:04:54 → 00:04:57 แพทย์ว่าไอกิคือพวกนี้เี่มันจะเป็นเป็น
00:04:57 → 00:04:59 สารละลายที่เป็นเหมือนกับเป็นลักษณะของ
00:04:59 → 00:05:01 sol มันเป็นน้ำเพราะฉะนั้นหยอดลงไปคนไข้
00:05:01 → 00:05:04 บางคนหนังศีรษะแบับคันหนังศีรษะพวกอย่าง
00:05:04 → 00:05:07 นี้เราก็เจอที่สำคัญคือมันออกออกิดช้าคือ
00:05:08 → 00:05:10 สมมุติถึงแม้ว่าแม้แต่ว่ามันเป็นยาไม่ใช่
00:05:10 → 00:05:12 ว่าเราหยอดปุ๊บแล้วเนี่ยผมงอกฟึบฟับขึ้น
00:05:12 → 00:05:14 มาทันทีเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่เล่นเกเล่นกลนะ
00:05:14 → 00:05:17 คะถูกเราใช้เวลาต้องทาอย่างน้อย 3 เดือน
00:05:17 → 00:05:20 กว่าผมจะเริ่มงอกให้เห็นชัดแล้วยังต้องทา
00:05:20 → 00:05:22 ต่อเนื่องกบบหยุดไม่ได้ไปอีกอย่างน้อยปี
00:05:22 → 00:05:25 นึงเพื่อที่จะให้ผมเนี่ยขึ้นแบบเนนตาม
00:05:25 → 00:05:28 ปกติหรือสมมุติว่าถ้าใช้จริงก็ต้องทำความ
00:05:28 → 00:05:31 เข้าใจด้วยว่ามันใช้เวลนานนะกว่าจะเห็นผล
00:05:31 → 00:05:33 แล้วก็หยุดเมื่อไหร่ก็ร่วงอีกมันก็เหมือน
00:05:33 → 00:05:36 กับเราอะไรไปคั่นมันแป๊บนึงพอเราปล่อยไอ้
00:05:36 → 00:05:38 ที่คั่นไว้มันก็ไหลต่อเหมือนเดิมใช่มั้
00:05:38 → 00:05:42 มันก็นะแจจตายอยู่ไม่ได้นั่นเองเพฉะนั้น
00:05:42 → 00:05:44 เราเคลียร์เรื่องปัญหาผมร่วงนะครับต่อไป
00:05:44 → 00:05:49 เรื่องของรังแคอาฮะศีรษะมีรังแคมีแบบเค้า
00:05:49 → 00:05:51 เรียกอะไรศีรษะแห้งอย่างเงี้ยครับมีแบบ
00:05:51 → 00:05:53 ชมพูขจัดรังแคอย่างเงี้ใช้ได้มั้ยครับ
00:05:53 → 00:05:56 เช่นเดียวกันขึ้นอยู่กับสาเหตุปกติเนี่ย
00:05:56 → 00:05:59 รังแคเนี่ยมันคือสะเก็ดหรือสมมุติผิวเรา
00:05:59 → 00:06:02 ในทางตรงกันข้ามผิวเราเวลาที่เป็นผื่นบาง
00:06:02 → 00:06:05 อย่างมันก็มีสะเก็ดเหมือนกันค่ะก็สะเก็ด
00:06:05 → 00:06:07 ก็เป็นแบบเดียวกันกับรังแคหรือสมมุติถ้า
00:06:07 → 00:06:10 เรามีการติดเชื้อพวกเชื้อราผิวเราก็ขึ้น
00:06:10 → 00:06:12 สะเก็ดแบบเดียวกันเลยเพราะฉะนั้นการเกิด
00:06:12 → 00:06:15 รังแคมันมีหลายสาเหตุพวกนี้เนี่ยก็ต้องดู
00:06:15 → 00:06:18 ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไรสมมุติว่าถ้า
00:06:18 → 00:06:21 สาเหตุของเราเนี่ยเกิดจากเชื้อราแล้วทำ
00:06:21 → 00:06:24 ให้เราเกิดรังแคขึ้นแชมพูกลุ่มพวกเนี้ยก็
00:06:24 → 00:06:27 จะเป็นแชมพูที่ผสมยาฆ่าเชื้อราอยู่พวกนี้
00:06:27 → 00:06:30 ก็จะได้ผลยกตัวอย่างเช่นอ่ะเอาตัวที่แบบ
00:06:30 → 00:06:34 คุ้นๆกันเนาะอย่างเช่นคีโตโคนาโซลิ pion
00:06:34 → 00:06:36 พวกนี้เนี่ยมีงานวิจัยอยู่ะว่าสามารถที่
00:06:36 → 00:06:40 จะลดรังแคได้แต่มันก็ต้องมีวิธีใช้นะที่
00:06:40 → 00:06:43 เหมาะสมคืออย่าลืมว่ารังแคเอ่อแชมพูเนี่ย
00:06:43 → 00:06:45 เวลาเราใส่ลงไปบนหนังศีรษะปุ๊บแล้วเรา
00:06:45 → 00:06:48 ล้างออกเนี่ยยามันอยู่บนหนังศีรษะน้อยนะ
00:06:48 → 00:06:50 คะถูกมใส่เสร็จปุ๊บล้างใส่เสร็จปุ๊บล้าง
00:06:50 → 00:06:53 พวกนี้จะใช้ให้ดีคุณจะต้องใช้อย่างน้อย
00:06:53 → 00:06:56 ประมาณวันเว้นวันแล้วเวลาสะควรจะทิ้งไว้
00:06:56 → 00:06:58 อย่างน้อยนานประมาณสัก 5 นาทีถึง 10 นาที
00:06:58 → 00:07:01 ก็คือสระแล้วก็ไปถูสบู่ที่ตัวก่อนแล้ว
00:07:01 → 00:07:03 ค่อยกลับมาล้างอย่างเงี้หรอคะอถูกถูก
00:07:03 → 00:07:05 อย่างนี้ถ้าอยู่ในรูปที่อาจารย์บอกเมื่อ
00:07:05 → 00:07:07 กี้ว่าเป็นสารละลายหรือลูชั่นก็น่าจะดี
00:07:07 → 00:07:09 กว่าคือเหยาะแล้วไม่ล้างออกใช่ซึ่งถ้า
00:07:09 → 00:07:11 หยอดเสร็จปุ๊บก็ต้องรอไม่ใช่ว่าเราต้องไป
00:07:11 → 00:07:13 แบบไปใส่อย่างอื่นหรือไปเช็ดออกก็ต้องให้
00:07:13 → 00:07:15 มันทิ้งอยู่บนหนังศีรษะอยู่นานเพื่อการ
00:07:15 → 00:07:18 ดูดซึมแล้วนี้วิธีการรักษาร้างแครแบบ
00:07:18 → 00:07:20 ธรรมชาติมีมยครับอยากใช้แบบธรรมชาติเลย
00:07:21 → 00:07:22 อันเนี้ยเรามีตัวอย่างมั้ยครับอันนี้คือ
00:07:22 → 00:07:25 น้ำซาวข้าวนะว่าน้ำซาวข้าวใช้ป้องกันและ
00:07:25 → 00:07:28 รักษารังแคได้จริงมั้ยคะอาจารย์คือเท่า
00:07:28 → 00:07:32 ที่พี่ประสบก็ไม่เคยใชนะแต่ว่าจากการที่
00:07:32 → 00:07:35 ดูก็ยังไม่เห็นว่าจะน่าจะมีเหตหลักฐานใดๆ
00:07:35 → 00:07:37 ที่สนับสนุนว่าน้ำสาวข้าวไม่ได้รู้สึกว่า
00:07:37 → 00:07:41 เมีคุณสมบัติใดๆใช่มคะเยอะมากอ่ะแต่
00:07:41 → 00:07:43 สมมุติถ้าเกิดในแง่ถ้าเป็นรังแคจากเชื้อ
00:07:43 → 00:07:45 ราอย่างเงี้ยค่ะน้ำเซาข้าวไม่ได้มี
00:07:45 → 00:07:48 คุณสมบัติใดๆในการฆ่าเชื้อลเลยีถูกมเพราะ
00:07:48 → 00:07:50 ฉะนั้นมันก็ไม่น่าจะมันก็ไม่น่าจะใช้แล้ว
00:07:50 → 00:07:53 มันได้ผลคิดในแง่ของหลักการแต่ถ้าสมมุติ
00:07:53 → 00:07:55 ยกตัวอย่างรังแคมันอาจจะเกิดจากสาเหตุ
00:07:55 → 00:07:59 อื่นอย่างเช่นผิวแห้งผิวแห้งๆอย่างเงี้ยอ
00:07:59 → 00:08:02 แต่น้ำสาวเก็ไม่น่าจะทำให้ที่แห้งหายได้
00:08:02 → 00:08:04 หรือสมมุติว่าถ้าคนไข้เป็นรังแคจากการที่
00:08:04 → 00:08:06 เป็นโรคผิวหนังอย่างอื่นล่ะเป็นสะเก็ด
00:08:06 → 00:08:08 เงินบนหนังศีรษะอย่างเงี้ยูก็จะเป็น
00:08:08 → 00:08:10 สะเก็ดเยอะแยะไปหมดพวกนี้ก็ต้องใช้ยา
00:08:10 → 00:08:13 สำหรับสะเก็ดเงินโดยเฉพาะถ้าให้พูดแบบตรง
00:08:13 → 00:08:15 ประเด็นคืออันดับ 2 ที่เราพูดถึงในเรื่อง
00:08:15 → 00:08:18 ของขจัดรังแคเนี่ยน้ำเซาข้าวช่วยได้มั้ย
00:08:18 → 00:08:20 ครับพี่ว่าไม่ได้ผลเรียบร้อยเคลียร์ชัด
00:08:20 → 00:08:24 เจนต่อไปครับเป็นอันดับ 3 ครับอันดับ 3
00:08:24 → 00:08:28 เป็นเรื่องของสิวที่อยู่คู่กับวัยรุ่นอื
00:08:28 → 00:08:32 มีวัยรุ่นรุ่นที่ฮิตกันมากเลยคือรักษาสิว
00:08:32 → 00:08:35 โดยการที่ป้องกันไม่ให้เกิดสิวโดยใช้น้ำ
00:08:35 → 00:08:38 เกลือล้างหน้าแล้วสิวจะไม่ขึ้นจริงไม่
00:08:38 → 00:08:41 จริงครับโอ้มีด้วยเหรออันดับ 3 เลยนะนี่
00:08:41 → 00:08:44 อันดับ 3 เลยนะมีคนถามเยอะนะคะว่าล้าง
00:08:44 → 00:08:46 หน้าด้วยน้ำเกลือดีกว่าใช้น้ำเปล่าล้าง
00:08:46 → 00:08:51 หน้ามยโหเมีความเชื่อกันอยู่ว่าเวลาที่
00:08:51 → 00:08:53 เราเอาน้ำเกลือมาล้างแผลเนี่ยเพื่อการฆ่า
00:08:53 → 00:08:56 เชื้อทำความสะอาดเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิด
00:08:56 → 00:08:58 เราคิดว่าสิวบนใบหน้าเนี่คือเหมือนกับ
00:08:58 → 00:09:00 เป็นการติดเชื้ออย่างเอาน้ำเกลือมาล้างก็
00:09:00 → 00:09:04 จะทำให้เหมือนกับ่าเชื้อสิวไปโอๆดูดูน่า
00:09:04 → 00:09:06 เชื่อถือนะดูหน่าเชื่อถือนะครับฟังดูมี
00:09:06 → 00:09:08 เหตุผลนะโอเคอันนั้นคืออันนั้นคือความ
00:09:08 → 00:09:10 เชื่อในความเป็นจริงคืออย่างงี้เราลองมา
00:09:11 → 00:09:14 ดูที่ขวดน้ำเกลือกันเขียนครับพเขียนนี่
00:09:14 → 00:09:17 ชัดเจนว่า่าเชื้อแต่ว่าลองดูอันนี้ค่ะ
00:09:17 → 00:09:21 เขียนว่าผ่านกระบวนการทำให้ปราศจากเชื้อ
00:09:21 → 00:09:24 นี่ไงปราศจากเชื้อครับถูกค่ะเฆ่าเชื้อนี่
00:09:24 → 00:09:26 คะนั่นหมายความว่าน้ำเกลืออันเนี้ยมันถูก
00:09:26 → 00:09:28 ฆ่าเชื้อคือตัวน้ำเกลือเมันถูกฆ่าเชื้อ
00:09:28 → 00:09:30 จริงครับแต่ไม่ได้หมายความว่าน้ำเกลือเจะ
00:09:30 → 00:09:33 มีคุณสมบัติว่าทาลงไปบนหน้าเราแล้วมันจะ
00:09:33 → 00:09:36 ฆ่าเชื้อบนหน้าเราด้วยคือหมายถึงว่าน้ำ
00:09:36 → 00:09:38 เกลืออันนี้เป็นน้ำเกลือสะอาดปราศจาก
00:09:38 → 00:09:41 เชื้อเพราะถูกทำให้ปราศจากเชื้อถูกฆ่า
00:09:41 → 00:09:43 เชื้อมาแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเเป็นยา
00:09:43 → 00:09:45 ฆ่าเชื้อถูกมันไม่เหมือนเราเอาแอลกอฮอลไป
00:09:45 → 00:09:48 ป้ายบนหน้าแล้วนี่คือคือเชื้อโรคบนบริเวณ
00:09:48 → 00:09:52 นั้นตายเพราะฉะนั้นการใช้น้ำเกลือมาล้าง
00:09:52 → 00:09:54 หน้าเนี่ยไม่ได้ฆ่าเชื้อสิวบนหน้าได้ไม่
00:09:54 → 00:09:56 ใช่อ๋อนี้เป็นการสื่อสารการผิดนะเข้าใจ
00:09:56 → 00:09:58 ผิดก็ถือซะว่ามันเป็นของสะอาดล้างหน้าแค่
00:09:58 → 00:10:00 นั้นเองก็คือถือว่าเอาอะไรมาสะอาสะอาด
00:10:00 → 00:10:03 สะอาาของสะอาดมาล้างหน้าอาจจะได้ข้อดีใน
00:10:03 → 00:10:06 แง่ว่าคุณเป็นสิวแล้วก็ทาแล้วมันไม่ล้าง
00:10:06 → 00:10:08 แล้วมันไม่แสบาอักเสบอยู่อะไรใช่แต่ความ
00:10:08 → 00:10:10 เป็นจริงของเราเนี่ยคือสิวเราจะเป็น
00:10:10 → 00:10:12 อักเสบขนาดแผ้เปิดเลยจนกระทั่งล้างหน้า
00:10:12 → 00:10:15 ด้วยน้ำเปล่าแล้วแสบมั้ยพี่คิดว่าก็ไม่นะ
00:10:15 → 00:10:17 เพราะฉะนั้นในความเป็นจริงคือพี่ว่าก็ไม่
00:10:17 → 00:10:19 ได้คิดว่ามันจำเป็นจะต้องใช้น้ำเกลือมา
00:10:19 → 00:10:21 ล้างหน้าแทนทีนี้เรามีการทดลองคุณผู้ชม
00:10:21 → 00:10:24 ครับดูซิว่าน้ำเกลือค่ะน้ำเกลือกับไอ้ที่
00:10:24 → 00:10:26 ล้างหน้าจริงๆอ่ะมันมีความแตกแต่างยังไง
00:10:27 → 00:10:28 ใช่มั้ยครับเป็นเพราะว่าบางคนเอามาใช้
00:10:28 → 00:10:30 เพราะว่าเพราะว่าเชื่อว่าน้ำเกลือล้างได้
00:10:30 → 00:10:33 สะอาดกว่าน้ำปกติสิสกปรกที่ส่วนใหญ่ก็คือ
00:10:33 → 00:10:35 เครื่องสำอางอย่างเงี้เป็นต้นอ่ะเรามี
00:10:35 → 00:10:39 ลิปสติกจากกระเป๋าดิฉันนะคะอ่ามาอ่าความ
00:10:39 → 00:10:42 เชื่ออันแรกความเชื่อแรกคือว่าน้ำเกลือ
00:10:42 → 00:10:44 ไม่ได้รักษาสิวนะครับไม่ได้รักษาสิวไม่
00:10:44 → 00:10:47 ได้ฆ่าเชื้อเพราะตัวเองคุณสมบัติของมัน
00:10:47 → 00:10:49 ผ่านการฆ่าเชื้อคือสะอาดแต่ว่าไม่ได้มี
00:10:49 → 00:10:53 คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อสิวป้องกันต้นเหว
00:10:53 → 00:10:55 การเกิดสิวไม่ใช่แบบนั้นความเชื่อที่ 2
00:10:55 → 00:10:58 คือมีคนเชื่อว่าน้ำเกลือเนี่ยล้างได้
00:10:58 → 00:11:01 สะอาดกว่าพวกโฟมล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์ที่
00:11:01 → 00:11:04 ออกแบบมาสำหรับทำความสะอาดผิวหน้าซึ่งถ้า
00:11:05 → 00:11:07 เกิดหน้าจะสกปรกก็เกิดสิวได้เหมือนกันลอง
00:11:07 → 00:11:10 ดูว่าอันไหนถูกต้องนะครับอันนี้ก็คือน้ำ
00:11:10 → 00:11:13 เกลือที่จากขวดเล็กๆเมื่อกี้สมมว่าใช่สรช
00:11:13 → 00:11:16 สมมติเราเช็ดปกติประณสัก 1 ครั้ง 2 ครั้ง
00:11:16 → 00:11:19 3 ครั้ง 4 ครั้ง 5 ครั้งอจารมันเลอะไป
00:11:19 → 00:11:22 กันใหญ่ค่ะก็มันก็มันก็ได้แค่เค่ะอ่าดู
00:11:23 → 00:11:25 เมื่อกี้ 5 ครั้งแล้วนะครับไม่เกิดผลต่อ
00:11:25 → 00:11:27 ไปในขณะที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมา
00:11:27 → 00:11:29 ใช้สำหรับการเช็ดหรือหล้าเครึ่องสำอางโโย
00:11:29 → 00:11:32 เฉพาะอันนี้อันใหม่ชุบใหม่แล้วค่ะุใหม่นะ
00:11:32 → 00:11:37 ครับอันนี้ 1 2 3 4 5 ออันนี้เป็น
00:11:37 → 00:11:39 Cleansing ใช่มั้ยคะคือจริงๆเราไม่ได้ถู
00:11:39 → 00:11:41 นะคะคือเป็นคลีนซิ่งแต่ว่าลองดูว่าความ
00:11:41 → 00:11:44 การชำระออกเนี่ยมันดีกว่ากันแตกต่างกัน
00:11:44 → 00:11:46 จริงๆนะครับแตกต่างกันซึ่งไันนี้ยเนี่ย
00:11:46 → 00:11:48 เวลาสมมุติรู้วิธีใช้ที่ถูกต้องใช่มั้ยคะ
00:11:48 → 00:11:50 นี่อุยขอโทษค่ะพี่บขอโทษจริงๆไม่ได้ตั้ง
00:11:50 → 00:11:53 ใจพี่แก้งไม่เป็นไรทำน้ำก็ฉอกใส่กระเด็นเ
00:11:53 → 00:11:55 บอกว่าเนี่ยอันเนี้ยซุปแบบแช่ไว้แทบจะ
00:11:55 → 00:11:58 ครั้งเดียวด้วยแช่ไว้ปบนึงนับ 1-1 นับสิ
00:11:58 → 00:12:03 คะ 1 2 3 4 5 10 เนี่ยออกเลยไม่ออกอ
00:12:03 → 00:12:06 อ่าอ่าแต่ลองเทียบกันกับการแปะนี้ลองลอง
00:12:06 → 00:12:10 แปะอันนี้ดู 10 2 3 4 5 6 7 8 9
00:12:10 → 00:12:13 10 เนาอือก็ยังไม่ออกอยู่ดีนะออกเกี้ยง
00:12:13 → 00:12:16 ละก็คืออันนี้เมีเหมือนกับมีคุณสมบัติ
00:12:16 → 00:12:19 เป็นไขมันก็ต้องเอาตัวที่สามารถล้างไขมัน
00:12:19 → 00:12:21 ออกได้ก็คือเป็นอะไรก็ใช้คุณสมบัตินั้น
00:12:21 → 00:12:24 ล้างใช่มั้ใชก็แสดงว่าถ้าแต่งหน้าก็ควร
00:12:24 → 00:12:27 ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการล้าง
00:12:27 → 00:12:31 หน้าโดยเฉพาะดีกว่าถูกต้องแล้วนะครับอ่า
00:12:31 → 00:12:35 ชัดเจนสำหรับอันดับ 3 ิวต่อไปอันดับ 4
00:12:35 → 00:12:38 เราคงเกาะกระแสเกี่ยวกับเรื่องของสิว
00:12:38 → 00:12:42 เพราะสิวกับวัยรุ่นเป็นของคู่กันค่ะบางคน
00:12:42 → 00:12:47 มีความเชื่อว่าพอเกิดสิวปุ๊บเอายาสีฟัน
00:12:47 → 00:12:51 เนี่ยมาป้ายแล้วสิวจะยุบลงเลยมีความเชื่อ
00:12:51 → 00:12:53 นี้ด้วยหรอ
00:12:53 → 00:12:56 เออไม่เคยได้ยินไม่เคยได้ยินจิงๆอันดับ 4
00:12:56 → 00:12:58 นี่อันดับ 4 นะอันดับ 4 เลยว่ามีคนเป็น
00:12:58 → 00:13:01 สิวล้อยาสีฟันอย่างเงี้ยสมมุติว่าเป็นสิว
00:13:01 → 00:13:05 อุ้ยเป็นสิวไงดีอ่ะกุมใจจริงๆเลยอ่ะหยิบ
00:13:05 → 00:13:09 ยาสีบฝันแล้วกันก็บีบออกมาอุนี่ทาแบบนี้
00:13:09 → 00:13:11 เลยตรงนี้ตรงนี้พี่พิมพสิวตรงนี้เห็นๆ
00:13:11 → 00:13:14 จริงๆได้ตรงนี้ตรงนี้ได้เลยเออๆตรงนั้น
00:13:14 → 00:13:17 น่ะเออพเป็นสีวแล้วก็ป้ายหายมั้ยครับจริง
00:13:17 → 00:13:19 มั้ยคะอาจจะเป็นแบบเดียวกันกับที่เราเอา
00:13:19 → 00:13:23 ยาสีฟันมามามาทาลงบนผิวที่ไหม้ค่ะค่ะพวก
00:13:23 → 00:13:25 นี้เนี่ยมันไม่ได้มีผลเรื่องการช่วยให้
00:13:25 → 00:13:29 แผลหายเร็วแต่อย่างใดแต่ทำให้รู้สึกเย็นๆ
00:13:29 → 00:13:32 อืเพิ่มความสบายสบายถ้าสิวนั้นมันมันมัน
00:13:32 → 00:13:35 เจ็บใช่มคะใช่คือถ้าเจ็บแสบร้อนสมมุติ
00:13:35 → 00:13:37 อย่างเงี้ยพวกยาสีฟันบางทีมันมีสารที่ทำ
00:13:37 → 00:13:39 ให้รู้สึกเย็นๆสดชื่นเมนทอลมีอะไรอย่าง
00:13:39 → 00:13:42 เงี้ยทำให้รู้สึกแบบดีขึ้นแต่ไม่ได้หมาย
00:13:42 → 00:13:45 ความว่าจะทำให้สิวนั้นน่ะยุบเร็วขึ้นใคร
00:13:45 → 00:13:49 ยังอยากใช้ก็แล้วแต่ถ้าไม่เชื่อต่อไป
00:13:49 → 00:13:52 อันดับ 5 ครับความเข้าใจผิดอันดับที่ 5
00:13:52 → 00:13:54 เนี่ยบอกว่าสิวแบบไหนก็ใช้ยาเหมือนกัน
00:13:54 → 00:13:57 เพราะเวลาบอกอ่ะเป็นสิวอ่ะพี่โบยตมียาใช้
00:13:57 → 00:13:59 สใช้สอย่างเงี้ยจริงๆแล้วสิวแต่ละอย่าง
00:13:59 → 00:14:02 ใช้ยาเหมือนกันได้มั้ยคะสิวแต่ละอย่างใช้
00:14:02 → 00:14:04 ยาต่างกันคราวนี้เราก็ต้องมาดูก่อนว่า
00:14:04 → 00:14:07 ตกลงสิวมันมีกี่แบบสิวส่วนใหญ่มันก็จะมี
00:14:07 → 00:14:10 เป็นแบ่งประเภทค่ะเป็น
00:14:10 → 00:14:13 ว่าสิวอุดตันก่อนเคยเห็นมั้ยคะสิวที่เป็น
00:14:13 → 00:14:17 แบบหัวดำๆในภาวะปกติที่ร่างกายเป็นปกติ
00:14:17 → 00:14:21 ไม่มีการอุดตันใดๆน้ำมันก็จะถูกผลิตโดย
00:14:21 → 00:14:24 ต่อมที่สร้างน้ำมันต่อมไขมันออกมาผ่านรู
00:14:24 → 00:14:27 ขุมขนแล้วก็ออกมาเลี้ยงผิวที่อยู่บนหน้า
00:14:27 → 00:14:30 อือฮึในผิวหน้าหรือผิวทั่วร่างกายครับ
00:14:30 → 00:14:32 เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดการอุดตันขึ้นไปไอ้
00:14:32 → 00:14:35 ตรงท่อข้างบนน้ำมันก็ผลิตน้ำมันออกมาผลิต
00:14:35 → 00:14:38 ออกมาเสร็จปุ๊บมาอุดอยู่ตรงรูนี้ออกสู่
00:14:38 → 00:14:40 ผิวหนังไม่ได้เพราะฉะนั้นมันก็จะเกิดการ
00:14:40 → 00:14:43 อุดตันให้เห็นคราวนี้สมมุติว่าถ้าเราไม่
00:14:43 → 00:14:45 ได้รักษาไอ้สิวกลุ่มที่มันอุดตันพวกอย่าง
00:14:45 → 00:14:48 เงี้ยหัวปิดหัวเปิดก็แล้วแต่บนผิวของเรา
00:14:48 → 00:14:51 ข้างบนเยมันมีแบคทีเรียชนิดนึงอยู่ที่
00:14:51 → 00:14:54 สามารถทำให้เกิดเชื้อโรคได้ค่ะแบคทีเรีย
00:14:54 → 00:14:57 พวกนี้บางทีมันชอบกินไขมันที่ที่อยู่บน
00:14:57 → 00:15:00 ผิวพวกนี้มันต้องโตในในสิ่งที่มันมีไขมัน
00:15:00 → 00:15:02 หรืออยู่ในที่อับๆร้อนชื้นก็เป็นไปได้ที่
00:15:02 → 00:15:05 ว่าพอไอ้หัวพวกเมันเปิดขึ้นมาปุ๊บค่ะ
00:15:05 → 00:15:08 เชื้อโรคเี่มันก็ไปชอบอยู่แถวๆบริเวณนั้น
00:15:08 → 00:15:11 เกิดลงไปตามรูเกิดการติดเชื้อในบริเวณตรง
00:15:11 → 00:15:14 ที่มันมีการอุดตันขึ้นมันก็เกิดการบวมแดง
00:15:14 → 00:15:15 เพราะฉะนั้นคราวนี้ไอ้สิวที่มันเคยเป็น
00:15:15 → 00:15:18 อุตันเจอแบคทีเรียเข้าไปมันก็กลายเป็นสิว
00:15:18 → 00:15:20 อักเสบก็กลายเป็นสิวอักเสบใช่คราวนี้พอ
00:15:20 → 00:15:22 สิวอักเสบน้อยๆก็แสดงว่ามันติดอยู่แค่
00:15:22 → 00:15:25 ข้างบนแต่อย่าลืมว่าใต้นี้มันมีท่อของ
00:15:25 → 00:15:27 ต่อมไขมันเนี่ยรออยู่เพราะฉะนั้นถ้ามัน
00:15:27 → 00:15:29 ติดลงไปลึกๆโอโหไอ้ต่อมไขมันที่อยู่ข้าง
00:15:29 → 00:15:31 ล่างใต้ผิวมันก็อักเสบไปหมดมันก็กลายเป็น
00:15:31 → 00:15:34 สิวอักเสบหัวใหญ่ๆก็คือ Elephant Head
00:15:34 → 00:15:37 นั่นเองประมาณนั้นหัว
00:15:37 → 00:15:41 ช้างโดยปกติสมมุติว่าถ้าเราไม่รักษามัน
00:15:41 → 00:15:44 ร่างกายรักษาเองอยู่นะคะอ๋อเหรอถ้าเราไม่
00:15:44 → 00:15:48 กินยาเราไม่ทายาหาเองได้สมมุติว่าเคยเป็น
00:15:48 → 00:15:50 มั้ยคะที่ถ้าเราแบบเป็นสิวเสร็จปุ๊บแล้ว
00:15:50 → 00:15:52 เราทิ้งมันเอาไว้โดยที่เราไม่ทำอะไรจริงๆ
00:15:52 → 00:15:55 มันยุบเองได้นะอืมันยุบเองจากการที่ว่า
00:15:56 → 00:15:58 ร่างกายเราเนี่ยมันสามารถที่จะเค้าเรียก
00:15:58 → 00:16:01 ว่ารักษาสด้วยตัวเองได้ร่างกายก็จะใช้
00:16:01 → 00:16:03 วิธีอย่างนี้เพราะมันมีการติดเชื้อเข้าไป
00:16:03 → 00:16:04 อยู่ข้างล่างภายในร่างกายร่างกายก็จะไป
00:16:04 → 00:16:08 เรียกพวกเอ่อเม็ดเลือดขาวต่างๆมาวิ่งเข้า
00:16:08 → 00:16:11 มากัดกินเชื้อเ้อคราวนี้ไอ้เม็ดเลือดขาว
00:16:11 → 00:16:14 ตัวนี้แหละเวลาที่เวลามันกินกัดกินเชื้อ
00:16:14 → 00:16:16 โรคปุ๊บเนี่ยมันจะเกิดซากขึ้นมาทำให้เห็น
00:16:16 → 00:16:19 ว่าเป็นหนองเพราะฉะนั้นจริงๆเนี่ยการที่
00:16:19 → 00:16:22 เรามีหนองอยู่บนสิวเนี่ยมันคือการที่ร่าง
00:16:22 → 00:16:24 กายเราพยายามกำจัดมันเองแล้วนะกำลังจะถูก
00:16:24 → 00:16:26 ฆ่ากำลังจะถูกฆ่าะพวกนี้คือซากของแบบ
00:16:26 → 00:16:29 เหมือนกับเม็ดเลือดขาวที่เข้ามาปล่อยมัน
00:16:29 → 00:16:30 ิ้งไว้หรือว่าควรจะบีบมันออกครับน้อง
00:16:30 → 00:16:32 เนี่ยอสมมุติว่าถ้าเราไม่บีบมันร่างกาย
00:16:32 → 00:16:35 เราก็กำจัดของมันเองได้พวกนี้ก็จะมีพอ
00:16:35 → 00:16:37 หลังจากเม็ดเลือดขาวมาปุ๊บก็จะมีไม้เลือด
00:16:37 → 00:16:40 ขาอีกชนิดนึงที่มาจับกินซากพวกนี้หนอง
00:16:40 → 00:16:43 จริงๆไปเองก็ไปเองไปเองมันก็จะยุบลงไปได้
00:16:43 → 00:16:45 คราวนี้สมมุติว่าถ้าเราไม่อยากรอคนบางคน
00:16:45 → 00:16:47 ก็บอกว่าโฮ้ยตายแล้วถ้าฉันจะรอให้ร่างกาย
00:16:47 → 00:16:50 รักษาเองแล้วเกิดสมมุติว่าหน้าฉันสิวยุบ
00:16:50 → 00:16:52 ไปหมดอย่างเงี้ยให้รอให้มันรักษาเองมัน
00:16:52 → 00:16:56 อาจจะไม่อไม่หายเองเนาะก็อาจจะมียาช่วย
00:16:56 → 00:16:58 แต่แน่นอนยาพวกนี้ก็ต้องเลือกว่าเฮ้ยตกลง
00:16:58 → 00:17:01 เราเป็นสิวจากสาเหตุอะไรหรือเป็นสิวชนิด
00:17:01 → 00:17:03 ไหนอยู่เยอะเราก็ต้องรู้ด้วยว่าตกลงเรา
00:17:03 → 00:17:06 เป็นสิวระยะไหนล่ะอย่างเช่นสมมุติว่าถ้า
00:17:06 → 00:17:09 เราเป็นกลุ่มที่เป็นสิวอุดตันเรารู้อยู่
00:17:09 → 00:17:11 แล้วว่ามันเกิดจากการอุดตันแบบที่เล่าให้
00:17:11 → 00:17:14 ฟังตอนแรกทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ไอ้ที่ปิด
00:17:14 → 00:17:17 อยู่เนี่ยหลุดออกไปเพราะฉะนั้นสมมุติถ้า
00:17:17 → 00:17:19 ไอ้ที่ปิดอยู่หลุดออกไปน้ำมันมันหลุดออก
00:17:19 → 00:17:23 มาได้ตามเดิมปกติมันก็ไม่อุดตันถูกมั้ยคะ
00:17:23 → 00:17:26 มันก็จะมีสารหลายๆอย่างที่ใช้ได้ง่ายๆ
00:17:26 → 00:17:29 กลุ่มที่เป็นกรดทั้งหลายพวกนี้เนี่ยมันอ
00:17:29 → 00:17:32 ช่วยละลายไพวกอืการอุดตันตรงเนี้ยที่ตง
00:17:32 → 00:17:35 ปิดรูอยู่เนี่ยออกไปได้ก็จะเป็นพวก AHA
00:17:35 → 00:17:39 ก็ได้ bh นี้ก็ใช้กันอยู่ประจำเอ่อ lactic
00:17:39 → 00:17:42 Acid กดผลไม้เนาะกดผลไม้อะไรอย่างเงี้ย
00:17:42 → 00:17:44 คืออันนี้กรณีที่คิดว่าอยากจะอยากจะรักษา
00:17:44 → 00:17:47 ด้วยตนเองบ้างอย่างนี้ก็อาจจะเป็นได้หรือ
00:17:47 → 00:17:50 ไม่ก็ไปพบแพทย์แพทย์ก็อาจจะสั่งยาที่แรง
00:17:50 → 00:17:52 ขึ้นเพราะอย่าลืมว่ายาบางอย่างหรือที่ขาย
00:17:52 → 00:17:56 กันทั่วไปได้บางทีเราก็ซื้อได้แค่ในระดับ
00:17:56 → 00:17:58 นึงแต่ถ้าพบแพทย์แพทย์ก็จะสั่งยาได้ขึ้น
00:17:58 → 00:18:00 ขึ้นไปอีกระดับนึงเพราะยาบางอันจะต้อง
00:18:00 → 00:18:01 จ่ายโดยแพทย์เท่านั้นจ่ายโดยแพทย์เท่า
00:18:02 → 00:18:03 นั้นแต่ว่าบางทีหน้าเราก็ต้องการยาที่แรง
00:18:03 → 00:18:06 ขึ้นใช่เพราะฉะนั้นมีตัวอย่างมั้ยคะหรือ
00:18:06 → 00:18:09 อาจจะเต็มไปหมดเลยครับนี่คือตัวอย่างของ
00:18:09 → 00:18:12 ค่ะยารักษาสิวในท้องตลาดที่เราเจอกันนะ
00:18:12 → 00:18:16 ครับผมอันนี้คืออันนี้คุณผู้ชมครับนี่คือ
00:18:16 → 00:18:22 ยารักษาสิวนะครับแต่รูปเป็นรูปรูปเป็นแบบ
00:18:22 → 00:18:25 นี้อันนั้นเป็นเพราะว่ามันเป็นลิลิแอซิด
00:18:25 → 00:18:28 คือมันเป็นตัวที่ทำให้ผิวหนังบางลงอืก็
00:18:28 → 00:18:31 ถึงคิดว่าเป็นกรดชนิดนึงแตกเหมือนกันใช่
00:18:31 → 00:18:34 แต่คราวนี้พวกนี้เส่วนใหญ่ไม่ได้แนะนำคือ
00:18:34 → 00:18:36 ลองคิดดูผิวหน้าเราเนี่ยมันบางกว่าผิว
00:18:36 → 00:18:38 เท้าอยู่แล้วครับเพราะฉะนั้นมันก็น่าจะทำ
00:18:38 → 00:18:41 ให้หน้าเราลอกเกินไปเยอะกลุ่มทั้งหลาย
00:18:41 → 00:18:44 แหละที่สามารถทำให้ผิวหลุดลอกออกไปเพื่อ
00:18:44 → 00:18:47 ที่จะรักษาเอ่อเา้าเรียกว่าอะไรรักษาสิว
00:18:47 → 00:18:49 อุดตันเนี่ยก็ต้องระวังอย่างนึงเพราะมัน
00:18:49 → 00:18:51 ก็จะทำให้หน้าแห้งลอกได้เพราะมันก็ทำให้
00:18:51 → 00:18:55 ผิวบนลอกเกิดสะเก็ดเกิดแห้งได้หรือบาง
00:18:55 → 00:18:57 ครั้งเวลาที่ทาไปเสร็จปุ๊บแล้วเนี่ยผิว
00:18:57 → 00:19:00 มันเกิดลอกก็เหมือนเทำให้สิวหัวปิดกลาย
00:19:00 → 00:19:02 เป็นสิวหัวเปิดหน่อยๆคนไข้บางคนที่ใช้
00:19:02 → 00:19:05 กลุ่มพวกนี้มันก็จะทำให้ยาไอ้พวกสิวที่
00:19:05 → 00:19:07 มันอุดตันอยู่บางทีมันอักเสพขึ้นมาได้
00:19:07 → 00:19:08 เหมือนกันแยกว่าเดิมอาจจะมีได้เหมือนกัน
00:19:08 → 00:19:10 อย่างพวกเบนซิลเปอออกไซด์อะไรอย่างงี้ก็
00:19:10 → 00:19:12 ใช่เบนซิลเพอร์ออกไซด์เป็นยาละลายหัวสิว
00:19:12 → 00:19:15 แบบนึงอุตันเหมือนกันเป็นยารักษะละลายหัว
00:19:15 → 00:19:17 สิวได้เหมือนที่แบบให้ทาแป๊บเดียวแล้ว
00:19:17 → 00:19:18 ล้างออกเพราะว่าเดี๋ยวมันจะลเป็นเพราะมัน
00:19:18 → 00:19:21 ละคายเคืองอ๋อมันมันเหมือนง่ายแล้วก็
00:19:21 → 00:19:24 รักษาสิวได้ได้เองนะแต่ตุว่าอันนี้ให้หมอ
00:19:24 → 00:19:26 วินิจฉัยหน่อยก็ดีว่าเป็นแบบไหนแล้วใช้ยา
00:19:26 → 00:19:28 ให้ตรงนะเพะว่าไม่งั้นมันเป็นไปกันใหญ่
00:19:28 → 00:19:30 มันจะมีสิวอีกกลุ่มนึงที่เป็นสิวอักเสบ
00:19:30 → 00:19:32 พวกนี้ส่วนใหญ่มันเกิดจากการติดเชื้อ
00:19:32 → 00:19:35 แบคทีเรียเข้าไปละที่เราบอกว่าอยู่ข้างบน
00:19:35 → 00:19:37 ผิวเพราะฉะนั้นถ้าเป็นแบบเยอะๆเราอาจจะ
00:19:37 → 00:19:40 ต้องกินยาปฏิชีวนะเป็นน้อยๆก็ใช้ยาแต้ม
00:19:41 → 00:19:43 ที่เป็นยาฆ่าเชื้อเป็นแบบปฏิชีวนะพวกนี้
00:19:43 → 00:19:46 ถึงจะสามารถรักษาสิวที่มันอักเสบได้หรือ
00:19:46 → 00:19:49 บางทีที่เห็นกินยาเม็ดด้วยเลยอย่างงั้น
00:19:49 → 00:19:51 ใช่โอเคอันดับ 5 เป็นเรื่องของการรักษา
00:19:51 → 00:19:54 สิวคือที่ต้นเหตุคือทาอย่างเดียวช่วงหน้า
00:19:54 → 00:19:57 เป็นเรื่องของการกินสิวอักเสบขั้นรุนแรง
00:19:57 → 00:20:00 รักษายังไงก็ไม่หายหมอกดแล้วก็ไม่หายเป็น
00:20:01 → 00:20:05 ซ้ำเป็นซากอักเสบตลอดทั้งปีอย่ากินช่วง
00:20:05 → 00:20:07 หน้าครับเป็นเรื่องของกินพลาดอาจจะพิการ
00:20:07 → 00:20:10 ได้เดี๋ยวกลับมาสักครู่เดียว
00:20:10 → 00:20:11 [เพลง]
00:20:11 → 00:20:15 ครับถ้าอยากจะหายจากโรคภัยไม่อยากจะลาลับ
00:20:15 → 00:20:19 โลกไปจะยาอย่างไรให้ปลอดภัยเราขอบอกไม่
00:20:19 → 00:20:25 รู้ยาหมอบอกอย่าาหมอ
00:20:25 → 00:20:28 บอกอยากสวยนานๆนะคะเราต้องดูยาหมอบอกวัน
00:20:28 → 00:20:30 นี้ค่ะตุ๊กกับพี่บ๊วยยังอยู่กับอาจารย์
00:20:30 → 00:20:33 เพ็ญนะคะเพราะว่าวันนี้เนี่ยเราจัดอันดับ
00:20:33 → 00:20:36 10 อันดับการเข้าใจผิดในเรื่องของยาแล้ว
00:20:36 → 00:20:39 ก็ผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้ในเรื่องของหน้าและผม
00:20:39 → 00:20:41 ตอนนี้ก็มาถึงอันดับที่ 6 แล้วมาถึง
00:20:41 → 00:20:45 อันดับ 6 ครับ l and gentle Man เป็น
00:20:46 → 00:20:48 เรื่องของความเชื่อที่ว่ากินยารักษาสิวทำ
00:20:48 → 00:20:52 ให้พิการได้อุ้ยขนาดนั้นเลยหรอคะอาจารย์
00:20:52 → 00:20:56 อ่าต้องมาฟังอคือปกติเนี่ยยารักษาสิวที่
00:20:56 → 00:20:59 ใช้กินเนี่ยมีเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆแบ่งเป็น 3
00:20:59 → 00:21:01 กลุ่มแบ่งเป็น 3 กลุ่มอันแรกก็คือที่เรา
00:21:01 → 00:21:04 พูดไปเมื่อเบรกที่แล้วก็คือยาปฏิชีวนะพวก
00:21:04 → 00:21:07 นี้เอาไว้ฆ่าเชื้อสิวยาฆ่าเชื้อยาฆ่า
00:21:07 → 00:21:09 เชื้อก็เป็นกลุ่มนึงที่เราใช้นิยมใช้
00:21:09 → 00:21:13 เพื่อการกินอันที่ 2 จะเป็นกลุ่มพวกยาคุม
00:21:13 → 00:21:16 อืพวกนี้ยาคุมกำเนิดเพราะว่าสิวในบาง
00:21:16 → 00:21:18 ประเภทเนี่ยเกิดจากการที่มีฮอร์โมนที่ไม่
00:21:18 → 00:21:22 สมดุลบางทีเนี่ยการกินยาคุมเข้าไปเนี่ยก็
00:21:22 → 00:21:25 จะช่วยปรับฮอร์โมนให้มันสมดุลมากขึ้นแล้ว
00:21:25 → 00:21:27 ก็ลดการเกิดสิวได้ในคนที่เกิดสิวจาก
00:21:27 → 00:21:30 ฮอร์โมนกลุ่มสุดท้ายคือยากินที่เป็นกรด
00:21:30 → 00:21:34 วิตามินเออ๋อเมื่อกี้นี้เรามียาทาที่เป็น
00:21:34 → 00:21:36 กรดวิตามินเออยู่แล้วมันมียากินกลุ่มที่
00:21:36 → 00:21:39 เป็นกรดวิตามินเออันเนี้ยเป็นอีกอันนึง
00:21:39 → 00:21:42 ที่กินเพื่อรักษาสิวสำหรับคนไข้ที่เป็น
00:21:42 → 00:21:45 สิวรุนแรงแบบสิวหัวช้างหรือเป็นสิวอักเสบ
00:21:45 → 00:21:47 เยอะๆมากๆแล้วก็อาจจะใช้ยากลุ่มนี้ด้วย
00:21:47 → 00:21:49 เต็มหน้าเป็นเยอะๆต้องเป็นเยอะจริงๆไม่
00:21:49 → 00:21:51 ใช่แบบกินเพื่อรักษาหน้ามันอะไรนิดๆหน่อย
00:21:51 → 00:21:53 ๆอย่างงี้ไม่ควรจะไม่ใช้ถึงกลุ่มนี้ไม่
00:21:53 → 00:21:56 ควรเพราะว่ามันเยอะเกินไปคราวนี้ยากลุ่มเ
00:21:56 → 00:21:59 นี่แหละคือถ้ากินในหญิงตั้ง
00:21:59 → 00:22:02 อทำเดอมาพิการได้ไม่ได้หมายความว่ากิน
00:22:02 → 00:22:06 เข้าไปแล้วเนี่ยคนกินพิการแต่ถ้าคนกิน
00:22:06 → 00:22:08 เนี่ยเป็นผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อยู่เด็กใน
00:22:08 → 00:22:11 ท้องจะมีการพิการมีโอกาสหรือพิการคะมี
00:22:11 → 00:22:13 โอกาสที่จะพิการได้ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นข้อ
00:22:13 → 00:22:16 ห้ามอย่างรุนแรงอย่างที่ศิริราชเนี่ยเรา
00:22:16 → 00:22:18 ให้คนนไข้เซ็นทุกรายที่จะสั่งว่าอันนี้
00:22:18 → 00:22:20 คุณคุณรับรู้แล้วนะว่ากินยาตรงนี้แล้ว
00:22:20 → 00:22:23 ห้ามท้องเพราะนี่เป็นเรื่องซีเรียสจริงๆ
00:22:23 → 00:22:26 คราวนี้มีข้อที่จริงๆอยากจะเน้นนิดนึงคือ
00:22:26 → 00:22:29 ยากลุ่มนี้จริงๆเป็นยาควบคุมค่ะสมควรจะ
00:22:29 → 00:22:31 ต้องถูกสั่งเนี่ยเฉพาะหมอผิวหนังที่มี
00:22:31 → 00:22:33 วุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตเท่านั้นที่สั่ง
00:22:33 → 00:22:35 ได้แต่เนื่องจากมันเป็นยารักษาสิวบางทียา
00:22:35 → 00:22:38 พวกนี้หลุดออกมาสู่ตลาดอย่างอื่นเพราะ
00:22:38 → 00:22:40 ฉะนั้นก็จะถูกจ่ายหรือบางทีคนไข้ไปซื้อ
00:22:40 → 00:22:43 กินเองได้ครที่เขาไม่รู้ว่าพวกนี้มันเกิด
00:22:43 → 00:22:45 ปัญหาได้อันตรายมากยากลุ่มนี้เนี่ยมันจะ
00:22:45 → 00:22:48 เป็นยาที่กินแล้วมีอาการปากแห้งตาแห้งพวก
00:22:48 → 00:22:51 นี้เนี่ยหรือทำให้หน้ามันน้อยลงบางทีเด็ก
00:22:51 → 00:22:53 วัยรุ่นก็ชอบไปหาซื้อยาพวกนี้มากินซึ่ง
00:22:53 → 00:22:56 อันเนี้ยน่ากลัวมากอ๋อคือเขาอยากให้หน้า
00:22:56 → 00:22:58 เาไม่มันใช่หรืออยากให้สิวน้อยลงอย่าง
00:22:58 → 00:23:01 เงี้กินยาเพื่อเรื่องนี้ใช่ซึ่งจริงๆมัน
00:23:01 → 00:23:03 ไม่ถูกตามข้อกำหนดที่มันควรจะต้องเป็น
00:23:03 → 00:23:05 เป็นยาควบคุมถ้าสมมุติว่าถึงแม้คนไข้ไม่
00:23:05 → 00:23:08 ท้องก็ตามมันก็มีผลข้างเคียงอย่างอื่นที่
00:23:08 → 00:23:10 น่ากลัวยกตัวอย่างเช่นนอกจากปากแห้งตา
00:23:10 → 00:23:13 แห้งแล้วเนี่ยคนไข้อาจจะมีพิษมีผลกับตับ
00:23:13 → 00:23:16 กับไตที่ทำให้หน้าที่ของตับกับไตผิดปกติ
00:23:16 → 00:23:19 หรือว่าทำกินเข้าไปแล้วในระยะเวลานานก็จะ
00:23:19 → 00:23:22 ทำให้เกิดไขมันในเลือดสูงขึ้นมาได้ซึ่ง
00:23:22 → 00:23:25 พวกนี้เนี่ยในกรณีที่หมอทั่วไปจะสั่งคือ
00:23:25 → 00:23:27 เหตุผลที่เขาบังคับว่ายากลุ่มพวกเนี้ย
00:23:27 → 00:23:29 ต้องให้หมอผิดหนังสั่งเท่านั้นเพราะมันมี
00:23:29 → 00:23:32 วิธีการนอกเหนือจากที่เราต้องคุยเรื่อง
00:23:32 → 00:23:34 ไม่เรื่องของการตั้งครรภ์แล้วเรื่องของ
00:23:34 → 00:23:36 การตั้งครรภ์แล้วยังต้องเจาะเลือดคนไข้
00:23:36 → 00:23:38 ก่อนกินเพื่อดูว่าหน้าที่ตับไตเนี่ยหรือ
00:23:38 → 00:23:41 ว่าปริมาณไขมันในเลือดเป็นปกติแถมกินตลอด
00:23:41 → 00:23:44 ระยะเวลานั้นต้องเจาะซ้ำทุก 3 เดือนเพื่อ
00:23:44 → 00:23:46 ติดตามผลเพราะว่ายากลุ่มนี้มีผลเป็นพิษ
00:23:46 → 00:23:50 ต่อตับค่อนข้างสูงถูกแล้วก็รวดเร็วเอ่อ
00:23:50 → 00:23:52 บางคนเนี่ยยาสิวค่อนข้างที่จะแพร่หลายอาจ
00:23:52 → 00:23:54 จะคุ้นชื่ออาจารย์ช่วยพูดชื่อของยากลุ่ม
00:23:54 → 00:23:56 นี้ให้ฟังหน่อยคะอาจารจะได้คพวนี้ก็จะ
00:23:56 → 00:23:57 เป็นโรแูน
00:23:57 → 00:24:01 แคนตินไอทอะไรพวกเยค่ะแคนตินเรตินเอเอ่อ
00:24:01 → 00:24:04 เรตินเอส่วนใหญเป็นชื่อของยาทาอินอิน
00:24:04 → 00:24:06 อย่างงี้ด้วใช่ค่ะกลุ่มที่เป็นกลุ่มที่
00:24:06 → 00:24:08 เป็นกรดวิตามินเอทั้งหลายแล้วยาทานี่ต้อง
00:24:08 → 00:24:10 คำนึงเรื่องตั้งครรภด้วยมั้ยคะอ่าคราวนี้
00:24:10 → 00:24:12 มันก็จะมียาทาอยู่ก็คือกลุ่มกรดวิตามินเอ
00:24:12 → 00:24:15 เหมือนกันแหละที่ทาพวกนี้โดยทั่วไปหมอพูด
00:24:15 → 00:24:17 จริงๆหมอก็จะไม่สั่งในผู้หญิงที่ตั้งครรภ
00:24:17 → 00:24:20 แม้ว่าเขาจะไม่ได้ห้ามเด็ดขาดแต่เราไม่
00:24:20 → 00:24:21 จำเป็นต้องเสี่ยงไม่เด็ดขาดใช่หมอก็ไม่
00:24:21 → 00:24:23 อยากเสี่ยงเพราะว่าบางทีทาเข้าไปบางทีมัน
00:24:23 → 00:24:26 ดูดซึมเข้าไปในผิวหนังเราไม่รู้ปริมาไม่
00:24:26 → 00:24:28 เท่ากันเพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเป็นคาถาก็
00:24:28 → 00:24:31 ต้องระวังในผู้หญิงตั้งครรภ์ถ้าจะรักษา
00:24:31 → 00:24:34 สิวต้องระมัดระวังอย่างมากว่าจะเลือกใช้
00:24:34 → 00:24:36 ยาเพราะยากลุ่มนี้มันเป็นยาที่แพร่หลใน
00:24:36 → 00:24:38 การรักษาสิวแต่จริงๆแล้วผู้หญิงตั้งคัน
00:24:38 → 00:24:40 เนี่ยต้องระวังการใช้ยาทุกประเภทอยู่แล้ว
00:24:40 → 00:24:43 ล่ะจริงๆค่ะสำคัญมากโอเคอันดับ 6 ผ่านไป
00:24:44 → 00:24:46 ครับต่อไปเป็นเรื่องของอันดับ 7 ครับเป็น
00:24:46 → 00:24:51 เรื่องของยาและครีมบำรุงที่ทาแล้วรูขุมขน
00:24:51 → 00:24:54 จะเล็กลงจริงหรือเปล่าครับมีด้วยหรอคะ
00:24:54 → 00:24:56 อุ้ยอุ๊ยทำไมอาจารย์ปฏิเสธเลยอาจารเร็มาก
00:24:56 → 00:24:59 เลยอ่ะอาจารย์บอกเลยอ่ะเลยว่าไม่จริงไม่
00:24:59 → 00:25:01 ว่ายาตัวนั้นจะแพงขนาดไหนไม่สามารถที่จะ
00:25:01 → 00:25:05 ทำให้รูขุมขนเล็กลงได้อืจริงหรอครับถูก
00:25:05 → 00:25:06 เพราะว่าการเปลี่ยนรูขุมขนอย่าลืมจำได้
00:25:07 → 00:25:09 มั้ยคะที่เราคุยกันลูกขุมขนเมันลงลึกนะ
00:25:09 → 00:25:11 มันไม่ได้แบบตื้นๆนะมันลงมาจนถึงต่อมไข
00:25:11 → 00:25:14 มันคุ้นๆมต่อมขนมันลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้
00:25:14 → 00:25:16 ครีมเนี่ยมันซึมลงไปไม่ได้ถึงอันนั้นหรอก
00:25:16 → 00:25:19 คราวนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่ไม่ว่าจะทาครีม
00:25:20 → 00:25:22 อะไรเนี่ยจะทำให้รูขุมขนเล็กลงอยากจะทำ
00:25:22 → 00:25:24 ให้รูขุมขนเล็กลงขนาดทำเลเซอร์จังต้องทำ
00:25:24 → 00:25:26 ตั้งหลายครั้งเลยกว่ารูขุมขนจะเล็กเพราะ
00:25:26 → 00:25:28 ฉะนั้นแต่เลเซอร์นี่ช่วยได้ใช่เพราะแต่
00:25:28 → 00:25:30 ชนะแต่มันก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องครีมเพราะ
00:25:31 → 00:25:33 ว่าครีมมันก็ผลมันก็สู้เลเซอร์ไม่ได้
00:25:33 → 00:25:35 เลเซอร์ก็ต้องเป็นเลเซอร์ที่ทำให้เกิดแผล
00:25:36 → 00:25:39 มันถึงจะได้ผลดีในการลดรูขุมขนได้ใช้ครีม
00:25:39 → 00:25:42 หรือว่ายาทาไม่ได้ไม่เกิดผลนะครับใน
00:25:42 → 00:25:45 เรื่องของรูขุมขนอย่างเช่นล้างหน้าได้
00:25:45 → 00:25:47 มั้ยครับอ่าล้างน้ำอุ่นเสร็จต่อมาด้วยน้ำ
00:25:47 → 00:25:50 เย็นลอุ่นต่อด้วยน้ำเย็นมันจะหดกับมาแแจะ
00:25:50 → 00:25:54 ตกใจกระชับมันเป็นผลชั่วคราวอะไรก็ตามที่
00:25:54 → 00:25:56 สมมุติทำให้ผิวหนังหน้าบวมขึ้นชั่วคราว
00:25:56 → 00:25:59 อย่างเงี้ยมันก็ดูเหมือนเบียดๆรูขุมขนมัน
00:25:59 → 00:26:02 ดูเล็กลงอพอบวมแล้วรูก็เบียดกันมันดูเล็ก
00:26:02 → 00:26:04 ลงเพราะฉะนั้นมันเป็นแค่ชั่วคราวเพราะผิว
00:26:04 → 00:26:07 กสูอุณภูปกติใช่มั้ยคะเหมือนเดิมทุกอย่าง
00:26:07 → 00:26:09 ไม่ต่างกันงั้นมีอีกอันนึงพี่ี่บ๊วยเคย
00:26:09 → 00:26:12 ได้ยินเป็นยาแล้วเป็นเข็มเล็กมากๆอ่ะค่ะ
00:26:12 → 00:26:16 แล้วทิ่มลงไปในรูขุมขนแล้วช่วยเหมือนแบบ
00:26:16 → 00:26:18 ปล่อยยาลงไปแล้วทำให้กระชับอย่างเงี้ยมี
00:26:18 → 00:26:21 มยคะออันนั้นเนี่ยไม่น่าจะทำให้เกิดได้
00:26:21 → 00:26:25 แต่มีการฉีดยาบางอย่างที่ทำให้ลูผลเล็กลง
00:26:25 → 00:26:27 ได้พวกนี้คือการฉีดฟิลเลอร์บางทีเนี่ยเรา
00:26:27 → 00:26:31 ฉีดฟปริมาที่แบบน้อยๆแล้วใช้ฟอรที่เนื้อ
00:26:31 → 00:26:34 บางๆมากๆเนี่ยฉีดเข้าไปก็เหมือนกันหลัก
00:26:34 → 00:26:36 การเดียวกันคือมันไปแทรกตัวอยู่ตามหนัง
00:26:36 → 00:26:37 แท้แล้วทำให้เหมือนกับเบียดผิวหนังทำให้
00:26:37 → 00:26:40 รูขุมขนมันดูเล็กลงซึ่งช่วยได้อันนี้อัน
00:26:40 → 00:26:43 นี้ช่วยได้แต่โดยความเห็นส่วนตัวพี่ไม่
00:26:43 → 00:26:46 แนะนำเพราะว่าการฉีดฟิลเลอร์เนี่ยอันที่ 1
00:26:46 → 00:26:49 คือราคาแพงค่ะแถมยังอยู่ไม่ถาวรเพราะ
00:26:49 → 00:26:53 ฉะนั้นพวกนี้เนี่ย 2-3 เดือนก็กลับมาใหญ่
00:26:53 → 00:26:57 ใหม่แล้วก็แสดงว่ายาหรือว่าครีมบำรุงที่
00:26:57 → 00:27:00 จะช่วยบำรุงรุงให้รูขุมขนที่มันกว้าง
00:27:00 → 00:27:04 เนี่ยให้มันเล็กลงไม่ได้ผลไม่ได้ผลชัดเจน
00:27:04 → 00:27:06 ยกมือตั้งแต่แรกเลยไม่ได้ผลไม่ได้ผลต่อไป
00:27:06 → 00:27:10 ครับมาถึงอันดับ 8 ครับเสิร์ชในเน็ตเลยคน
00:27:10 → 00:27:13 ที่แบบหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ตเขบอกว่า
00:27:13 → 00:27:17 หัวช้เท้าสามารถรักษาฝ้าได้จริงไม่จริง
00:27:17 → 00:27:21 ครับลองมั้ยคะอ่ะเอทำไมเราไม่องสนใจน่าสน
00:27:21 → 00:27:24 ใจลองยังไงคะอาจารย์ก็เท่าที่ทราบก็คือ
00:27:24 → 00:27:25 อย่างเงี้ยเขาคก็จะเอาหัวชเท้ามาหันเป็น
00:27:26 → 00:27:28 แว่นๆอย่างงี้เสร็จแล้วก็แปะไว้บนหน้าบาง
00:27:28 → 00:27:31 คนเอามาบดอๆอยากได้เทสเซอร์จังเลยอยากบาง
00:27:31 → 00:27:33 คนบางคนเอามาบดแล้วเอาน้ำๆแล้วก็พอกเอา
00:27:33 → 00:27:36 ไว้อ๋อผู้หญิงจะเป็นฝ้าอาการของฟ้าเกิด
00:27:36 → 00:27:39 ขึ้นจากอย่างไรครับอ่าฟ้าคืออะไรอ่าจริงๆ
00:27:39 → 00:27:42 แล้วฟ้าเนี่ยเกิดจาก 2 ปัจจัยคือแสงแดด
00:27:42 → 00:27:44 กับฮอร์โมนอือื 2 เรื่องอันไหนมากกว่ากัน
00:27:44 → 00:27:48 คะ5งกันใกล้เคียงกันผลที่ตามมาก็คือว่าใบ
00:27:48 → 00:27:52 หน้าของท่านก็จะมีแบบเป็นรอยตามโหนกเนี่ย
00:27:52 → 00:27:54 โหนกแก้มเนี่ยจะเห็นว่าที่โดนแสงอาทิตย์
00:27:54 → 00:27:58 มากเเออหรือว่าสันจมูกนี่ก็จะเป็นแบบป้าย
00:27:58 → 00:28:00 ตรงแถวๆเงาสจมูกก็เป็นฝ้าได้เหรอแล้วบาง
00:28:00 → 00:28:03 คนแบบโอโหเป็นแบบเยอะมากเลยเพราะฉะนั้นก็
00:28:03 → 00:28:06 เป็นที่ต้องการของผลิตภัณฑ์หรือว่าสินค้า
00:28:06 → 00:28:09 หลายตัวที่ออกมาเพื่อตอบสนองอันนี้ลองดู
00:28:09 → 00:28:11 ว่าจริงไม่จริงนะครับมีคนหน้าแบนเป็นหัว
00:28:11 → 00:28:13 แบนก็โชคดีไปไม่ค่อยอันนี้เป็นเรื่องของ
00:28:13 → 00:28:15 หัวช้เท้าก่อนอ้าหัวจะทักยังไงครับแปะไป
00:28:15 → 00:28:18 แล้วไงครับที่เรักษาใช่ที่เรักษากันก็บาง
00:28:18 → 00:28:20 ทีก็อันนี้ก็อาจจะไม่เยอะอันนี้ก็อาจจะ
00:28:20 → 00:28:22 ไม่เยอะมากส่วนใหญ่ที่ทำแล้วเกิดปัญหามัก
00:28:22 → 00:28:25 จะต้องบดแล้วก็มีการพอกทิ้งไว้นานๆค้าง
00:28:25 → 00:28:29 คืนผักก็เป็นฟ้าๆอ่านี่คือวิธีรักษาก็คือ
00:28:29 → 00:28:32 เเอามาคๆอย่างงี้หรือรือบดให้มันน้ำใช่
00:28:32 → 00:28:35 หรือบางทีบดให้น้ำเอาเยอะๆแล้วก็พอกในตัว
00:28:35 → 00:28:37 หัวใช้เท้าเองเนี่ยตัวตัวน้ำของหัวชาย
00:28:37 → 00:28:40 เท้าบางทีมันมีเอ่อคุณสมบัติที่มันเป็น
00:28:40 → 00:28:43 กรดครับนิดๆอเพราะฉะนั้นเนี่ยผมเย็นมาก
00:28:43 → 00:28:47 เลยนะเนี่ยเวลาที่เวลาที่เราใช้พอกทิ้ง
00:28:47 → 00:28:49 เอาไว้นานเกินไปบางทีมันทำให้ผิวมันลอกอ
00:28:49 → 00:28:53 ออกไปได้เหมือนกับเวลาที่เราใช้พวกกรด
00:28:53 → 00:28:55 ผลไม้อะไรอย่างเงี้ยในคนที่เป็นฝ้านี่เรา
00:28:55 → 00:28:58 ก็บางทีหมอก็ใช้กรดผลไม้พวกนี้ทาบนหน้า
00:28:58 → 00:29:00 แล้วทำให้ผลัดเซลล์ผิวทิ้งไปได้เหมือนกัน
00:29:01 → 00:29:03 ก็ก็ฟังดูก็ดูน่าสนใจนะใช่ก็ก็ดูไอเดีย
00:29:03 → 00:29:05 ใช้ได้แต่เพราะว่าดูไม่แรงด้วยใช่แต่
00:29:05 → 00:29:07 ปัญหาก็คือว่าบางทีเนี่ยเราไม่รู้ความ
00:29:08 → 00:29:10 เข้มข้นจริงๆของสารพวกนี้ว่ามันอยู่เท่า
00:29:10 → 00:29:12 ไหร่เราบดออกมาเท่าไหร่มันควบคุมไม่ได้
00:29:12 → 00:29:15 แล้วเป็นผลเสียจะเป็นไงบ้างครับดเขไปเยอะ
00:29:15 → 00:29:18 บางหน้าก็เกิดการระคายเคืองบางคนไม้แล้ว
00:29:18 → 00:29:22 ก็ดำเหมือนเดิมก็มีวยโอเคโอเคโอเคงเอาออก
00:29:22 → 00:29:26 ไปออกไปจากชีวิตจริงๆยังมีพวกผลิตภัณฑ์
00:29:26 → 00:29:28 ที่แบบเหมือนกับเป็นภูมิปัญญาพื้นบหลายๆ
00:29:28 → 00:29:32 อันที่ที่คนไข้ชอบเอามาแชร์บางคนก็จะใช้
00:29:32 → 00:29:35 น้ำมะขามเปียกอืน้ำมะนาวพวกอย่างเงี้ยทา
00:29:35 → 00:29:38 หน้าหรือหมักหน้าทิ้งเอาไว้คือมะนาวคราว
00:29:38 → 00:29:40 นี้ก็จะใช้น้ำพวกเค่ะแล้วก็พอกหรือเช็ด
00:29:40 → 00:29:43 หน้าทิ้งไว้นี่แหละคือกรดผลไม้คือคือถ้า
00:29:43 → 00:29:46 ถามนะจริงๆในความเห็นของพี่นะทำได้เพียง
00:29:46 → 00:29:49 แต่ว่าไม่ควรจะพอกทิ้งแบบค้างคืนหรือทิ้ง
00:29:49 → 00:29:52 ไว้นานเกินไปมันกะยากบางทีมันกะยากคือ
00:29:52 → 00:29:55 สมมุติว่าถ้าจะทาก็ควรจะแบบไม่เกินสัก 15
00:29:55 → 00:29:57 นาทีอะไรอย่างเงี้ยหรือสมมุติถ้าเป็น
00:29:57 → 00:29:58 มะขามเปียกอย่างอย่างเงี้ยพอกเอาไว้แบบ
00:29:59 → 00:30:01 หนาๆเยอะๆบางทีมันก็กัดหน้าได้มากเหมือน
00:30:01 → 00:30:04 กันเอาแบบพอประมาณกัดคือคือเ้าไม่ผสมอะไร
00:30:04 → 00:30:05 เลยเคเอาเพียวๆอย่างงี้คใช่คือที่เห็น
00:30:05 → 00:30:07 ส่วนใหญ่บางทีทิ้งค้างคืนเนี่ยจะทำให้
00:30:07 → 00:30:10 เกิดปัญหาตื่นขึ้นมาบางทีก็หน้าไหม้แดง
00:30:10 → 00:30:12 แล้วกลายเป็นมันไม่เท่ากันไม่เสมอกันด้วย
00:30:12 → 00:30:14 นะคะใช่ที่สำคัญคือถ้าเป็นคนผิวแห้งไม่
00:30:14 → 00:30:17 ควรทำเลยอ๋อมันยิเพราะพวกนี้มันยิ่งแห้ง
00:30:17 → 00:30:20 หนักแล้วผิวก็ระคายเคืองมากกว่าเดิมถ้าจะ
00:30:20 → 00:30:23 พูดกันให้ชัดๆเลยควรทำมั้ยครับทำได้ถ้า
00:30:23 → 00:30:26 เรารู้ว่าควรจะต้องทำยังไงให้ถูกวิธีภูมิ
00:30:26 → 00:30:30 ปัญญาชาวบ้านนะอย่างั้นคนที่เป็นฝ้าวิธี
00:30:30 → 00:30:33 รักษาที่ถูกต้องต้องทำยังไงคะหลบแดดอ๋อ
00:30:33 → 00:30:36 สำคัญสุดสาเหตุนั่นเองถูกคือถ้าสมมุติว่า
00:30:36 → 00:30:38 ไม่ว่าเราจะรักษายังไงพยายามทำให้ฝ้าจาง
00:30:38 → 00:30:41 ลงได้ขนาดไหนแต่ถ้าเราไม่ป้องกันไม่ให้
00:30:41 → 00:30:43 มันดำเพิ่มขึ้นมันเป็นไปไม่ได้คนไข้บางคน
00:30:43 → 00:30:47 รักษาไปแบบตลอดตั้งน้านๆนจางลงไปะโดนแดด
00:30:48 → 00:30:50 อีกทีนึงกลับมาดำใหม่โอ้โหเสียทั้งเงิน
00:30:50 → 00:30:53 เสียทั้งเวลาเพราะฉะนั้นนอกเหนือจากการ
00:30:53 → 00:30:56 รักษาฝ้าให้จางลงแล้วเนี่ยข้อสำคัญที่สุด
00:30:56 → 00:30:59 คือเราต้องแนะนำวิธีการทาครีมกันแดดอย่าง
00:30:59 → 00:31:01 ถูกวิธีให้กับคนไข้ด้วยแล้วก็ใช้ตลอด
00:31:01 → 00:31:04 ชีวิตเพราะไม่อย่างงั้นมันก็ดำอีกอต่อไป
00:31:04 → 00:31:07 ครับถ้าเกิดมีฝ้าอยู่แล้วทำไงดีใช้ยาแก้
00:31:07 → 00:31:11 ฝ้าได้มั้ยยาแก้ฝ้าแบบทาแบบทาเงี้ยครับมี
00:31:11 → 00:31:15 ยาเยอะพอสมควรยเร่องของทาแล้วเอ๊ะฝ้าหาย
00:31:15 → 00:31:19 นะมันถูกต้องหรือว่ามีผลกระทบอะไรมยเงี้ย
00:31:19 → 00:31:22 ครับปกติการใช้การใช้ยาครีมสำหรับการ
00:31:22 → 00:31:25 รักษาฝ้าเนี่ยครีมแก้ฝ้าใช้ปกติอยู่แล้ว
00:31:25 → 00:31:27 คือสมมุติถ้าคนไข้มาหาหมอหมอก็สั่งยาครีม
00:31:27 → 00:31:29 สำหรับการให้คนไข้กลับไปทาเหมือนกันนะนอก
00:31:29 → 00:31:32 เหนือจากครีมกันแดดแต่ประเด็นที่มันเป็น
00:31:32 → 00:31:35 ปัญหาในทุกวันนี้คือบางทีเนี่ยเราไปซื้อ
00:31:35 → 00:31:38 ยาเองอค่ะแล้วเสร็จแล้วซื้อยาให้ตกลงมัน
00:31:38 → 00:31:40 ยาอะไรก็ไม่รู้ไม่รู้ว่ามันมีส่วนประกอบ
00:31:40 → 00:31:45 อะไรกันบ้างออ๋ออืคราวนี้มันก็จะมีเอ่อ
00:31:45 → 00:31:48 สารบางอย่างที่จริงๆแล้วเนี่ยอยห้ามเลย
00:31:48 → 00:31:51 ไม่ให้ผสมอยู่ในครีมทั่วไปที่วางขายโดย
00:31:52 → 00:31:54 ที่ไม่มีแพทย์ตัวยาที่ห้ามตัวยาที่ห้าม
00:31:54 → 00:31:56 เลยเป็นอินเทอร์เน็ตเพียบเลยก็จะมี
00:31:56 → 00:32:00 เรติโนอิก aid นะคะมีปรอดไฮโดรควิโนนแล้ว
00:32:00 → 00:32:02 ก็สเตียรอยด์สารในกลุ่มนี้เนี่ยมันจะมี
00:32:02 → 00:32:05 บางตัวยกตัวอย่างเช่นไฮโดรควิโนนกับ
00:32:05 → 00:32:07 เรติโนอิก Acid หรือสเตียรอยด์เนี่ยเป็น
00:32:07 → 00:32:11 ยาที่แพทย์ใช้ได้อยู่แล้วเพราะฉะนั้นหมาย
00:32:11 → 00:32:13 ความว่าสารพวกเนี้ยแค่ห้ามให้ผสมใน
00:32:13 → 00:32:15 เครื่องสำอางที่ซื้อขายกันทั่วไปแต่ให้
00:32:15 → 00:32:18 หมอควบคุมได้แต่มีอยู่อันนึงเนี่ยคือปรอด
00:32:18 → 00:32:21 ไม่ว่าจะในยาหรือไม่ว่าจะในครีมก็ไม่
00:32:21 → 00:32:25 สามารถที่จะใช้ได้เลยไม่ใช้เลยแต่คนชอบ
00:32:25 → 00:32:27 เอาปลหลอดเมาผสมในครีมเถื่อนเนี่ยเป็น
00:32:27 → 00:32:29 เพราะว่าปลอดเนี่ยมันทำให้สีผิวมันขาว
00:32:29 → 00:32:32 อย่างเร็วบางคนพูดเลยว่าทาไปแค่ 7 วัน
00:32:32 → 00:32:34 เนี่ยขาวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดแล้วแล้วคน
00:32:34 → 00:32:36 ใช้ก็จะเห็นผลจริงๆคนใช้เห็นผลจริงๆมันก็
00:32:36 → 00:32:39 ยิ่งเป็นครีมที่ขายกันทั่วไปแต่ปัญหาของ
00:32:39 → 00:32:42 ครีมที่ผสมปรอดคือสารปรอดเนี่ยเวลาทาลง
00:32:42 → 00:32:45 สู่ผิวหนังแล้วเนี่ยมันเป็นสารที่สามารถ
00:32:45 → 00:32:48 ดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ออไปเป็นพิษต่อ
00:32:48 → 00:32:52 ระบบประสาทไปเป็นพิษต่อตับต่อไตทำให้คน
00:32:52 → 00:32:55 ไข้เสียชีวิตได้เลยนะคะสะสมเข้าไปเยอะๆ
00:32:55 → 00:32:57 เพราะฉะนั้นสารกลุ่มอย่างเงี้ยแม้แต่เป็น
00:32:57 → 00:33:00 ยาให้หมอสั่งหมอก็สั่งไม่ได้มันเป็นสาร
00:33:00 → 00:33:02 ที่แบบต้องห้ามใช้จริงๆห้าทีนี้เราจะมี
00:33:02 → 00:33:04 วิธีการทดลองได้ยังไงครับอ่าคราวนี้
00:33:04 → 00:33:07 สมมุติว่าถ้าเป็นสารปรอดซึ่งเราไม่มีครีม
00:33:07 → 00:33:08 ตัวอย่างในวันนี้นะคะเพราะว่าเนื่องจาก
00:33:09 → 00:33:11 ครีมที่ผ่านสารปลอดเราไม่ควรแม้แต่จะเอา
00:33:11 → 00:33:14 มือจับเพราะว่ามันดูดซึมผ่านผิวหนังได้
00:33:14 → 00:33:16 แต่บอกง่ายๆว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเราสงสัย
00:33:16 → 00:33:18 จริงๆว่าครีมอันนี้มีสารปรอดหรือเปล่าเรา
00:33:18 → 00:33:21 ก็เอาครีมตัวที่เราสงสัยนั่นแหละมาถูกับ
00:33:21 → 00:33:24 ทองคำแท้คือเอาเป็นสร้อยทองแหวนทองอะไรก็
00:33:24 → 00:33:27 ได้ถูกับทองคำอย่าจับนะครับอย่าจับเนื้อ
00:33:27 → 00:33:30 คืนเนื้อครีมใส่ถุงมือแล้วก็ถูกับทองคราว
00:33:30 → 00:33:33 นี้มันจะทำปฏิกิริยาโดยที่ครีมเนี่ยจะ
00:33:33 → 00:33:35 เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลดำอันเนี้ยแสดงว่า
00:33:36 → 00:33:38 มีสารปลอดคุณควรจะต้องหยุดใช้ทันทีลักษณะ
00:33:38 → 00:33:41 เหมือนบัสโซเลยอ่ะแต่แต่ทองเราไม่เป็นไร
00:33:41 → 00:33:43 ใช่มั้คะทองเหมือนเองเป็นทองยังเหมือน
00:33:43 → 00:33:46 เดิมบางคนเขาใช้พวกใบทองคำเปลวก็ได้นะคะ
00:33:46 → 00:33:48 ที่แบบเราปิดคือถ้าเกิดเพราะไม่อย่างงั้น
00:33:48 → 00:33:50 สมมุติถ้าเราทาครีมลงไปเสร็จปุ๊บเราก็
00:33:50 → 00:33:52 กลัวว่าเฮ้ยเราจะเอาสร้อยเอาแหวนมาใส่มัน
00:33:52 → 00:33:54 จะมีครีมใช้พวกไอ้แผ่นทองคำเปลวแบบที่ปิด
00:33:54 → 00:33:58 พระเนี่ยได้เพราะมันเป็น 99% ใช้อันนั้น
00:33:58 → 00:34:00 เหมือนกันมันก็จะเปลี่ยนสีให้เราเห็นคราว
00:34:00 → 00:34:02 นี้ปลอดนี่เป็นสารที่ห้ามใช้จริงๆคราวนี้
00:34:02 → 00:34:04 มันก็มีสารอย่างอื่นอีก 3 ตัวที่เราคุย
00:34:04 → 00:34:08 กันค่ะตัวแรกก็คือตัวที่เป็นเรติโนอิก
00:34:08 → 00:34:11 Acid ซึ่งเราคุยกันไปแล้วล่ะว่า retinoic
00:34:11 → 00:34:13 Acid เนี่ยจริงๆมันเป็นยารักษาสิวคบางคน
00:34:13 → 00:34:16 เเอามาทารักษาฝ้าได้แต่ก็ไม่ควรใช้นอก
00:34:16 → 00:34:19 เหนือการดูแลของแพทย์เพราะมันเกิดการ
00:34:19 → 00:34:21 ระคายเคืองได้แล้วก็เรื่องตั้งคันแล้วก็
00:34:21 → 00:34:23 เรื่องการตั้งครรภ์อันนั้นเป็นอันที่ 2
00:34:23 → 00:34:26 อันที่ 3 ก็คือสารไฮโดรควิโนนครับ
00:34:26 → 00:34:29 ไฮโดรควิโนนเนี่ยจริงจริงๆเป็นสารที่เป็น
00:34:29 → 00:34:31 เป็นสารที่หมอเนี่ยเอาไว้สั่งให้กับคนไข้
00:34:31 → 00:34:34 สำหรับรักษาฝ้าอยู่แล้วเพียงแต่ว่ามัน
00:34:34 → 00:34:37 เกิดผลข้างเคียงเยอะถึงไม่สามารถขายได้
00:34:37 → 00:34:39 ทั่วไปต้องอยู่ในการควบคุมต้องอยู่ในการ
00:34:39 → 00:34:41 ควบคุมของแพทยเพราะเราก็จะคอยดูใช่ระยะ
00:34:41 → 00:34:44 เวลาเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่คนไข้กลับมา
00:34:44 → 00:34:46 เรื่อยๆเนี่ยเราก็จะคอยดูว่าเออเขาเริ่ม
00:34:46 → 00:34:49 มีผลข้างเคียงแล้วหรือยังเราจะได้ปรับใช้
00:34:49 → 00:34:51 ยาให้เหมาะสมหรือไม่ดูว่าให้คนไข้ใช้นาน
00:34:51 → 00:34:54 เกินไปอืคราวนี้สมมุติว่าเหมือนกันถ้าเรา
00:34:54 → 00:34:57 เนี่ยไปซื้อครีมตามตลาดซื้อครีมทาเองทา
00:34:57 → 00:35:01 แก้ฝ้าสงสัยสงสัยทำยังไงครับสงสัยถ้าเรา
00:35:01 → 00:35:04 สงสัยว่ามีไฮโดรควิโนนมีวิธีทดสอบง่ายๆ
00:35:04 → 00:35:06 เลยคือเราก็จะบีบครีมเดี๋ยวเรามาทำการทด
00:35:06 → 00:35:09 ลองทดลองเลยครับคือเรามีตัวอย่าง
00:35:09 → 00:35:11 ไฮโดรควิโนนมั้ยคะวันนี้ถ้าเกิดคุณผู้ชม
00:35:11 → 00:35:14 นะครับมียาหรือว่าครีมแก้ฝ้าอยู่ในมือตอน
00:35:14 → 00:35:16 นี้สามารถทดลองไปพร้อมกับเราได้นะครับทด
00:35:16 → 00:35:18 ลองได้ส่วนใหญ่ก็คือเอาพวกที่แบบขายไม่มี
00:35:18 → 00:35:21 ฉลากคราวนี้คือให้ก่อนเราก็สามารถที่จะ
00:35:21 → 00:35:23 วางบนนี้ก็ได้ค่ะเราก็สามารถที่จะบีบครีม
00:35:24 → 00:35:26 ที่เราสงสัยเนี่ยอาจจะลงบนกระดาษทิชชู่
00:35:26 → 00:35:29 หรือจะเอาเป็นแบบคตนแผแบบอย่างเงี้ยก็ได้
00:35:29 → 00:35:32 บลต้องเป็นสำรีเหรอคะเพราะว่าเราจะเห็นสี
00:35:32 → 00:35:34 ชัดเพราะเราจะหยอดน้ำลงไปมันจะซึมลงไปได้
00:35:34 → 00:35:37 ออ๋อหรือจริงๆจะลงกับจานก็ได้ค่ะแต่ว่า
00:35:37 → 00:35:39 อันนี้มันก็จะเห็นง่ายเสร็จแล้วเนี่ยเรา
00:35:39 → 00:35:44 ก็บีบน้ำสบู่ลงไปก็ใช้น้ำสบู่ก็คือสบู่
00:35:44 → 00:35:46 เนี่ยก็ใช้เป็นสบู่แบบอย่างสมมุติไม่ต้อง
00:35:46 → 00:35:48 สบู่แพงอะไรเลยสบู่ก้อนล้างมือธรรมดาคือ
00:35:49 → 00:35:51 ต้องการน้ำด่างน้ำด่างคือถูๆถๆแล้วก็หยด
00:35:51 → 00:35:54 ลงไปอันนี้พอดีเราผสมมาแล้วเสร็จแล้ว
00:35:54 → 00:35:58 เนี่ยเราก็ถูแล้วก็หยดน้ำสบู่ลงไปก็หยดลง
00:35:59 → 00:36:02 ไปให้มันแบบเปียกซึมลงไปจนถึงจนถึงตัวก้น
00:36:02 → 00:36:04 สำลีหรือก้นทิชชู่อย่างนี้ก็ได้ค่ะสีมัน
00:36:04 → 00:36:07 จะเป็นยังไงครับอ่าคราวนี้ตั้งทิ้งไว้
00:36:07 → 00:36:10 ประมาณสัก 10 นาที 10 นาทีถ้าครีมครีม
00:36:10 → 00:36:13 นั้นเนี่ยมีไฮโดรควิโนนมันจะเปลี่ยนสีตัว
00:36:13 → 00:36:15 ครีมเองเนี่ยจะเปลี่ยนสีหรือว่าส่วนที่
00:36:15 → 00:36:17 มันละลายออกมาในน้ำด่างตรงเนี้ยมันจะเห็น
00:36:17 → 00:36:20 เป็นสีน้ำตาลดำหรือบางอันเป็นสีส้มก็คือ
00:36:20 → 00:36:23 ตัวไฮโดรควิโนนทำปฏิกิริยากับสารละลาย
00:36:23 → 00:36:26 ด่างแล้วจะได้สีน้ำตาลด่าใช่คราวนี้ผล
00:36:26 → 00:36:29 ข้างเคียงของมันก็คือหน้าจะแดงคือถ้าเรา
00:36:29 → 00:36:31 เห็นคนบางคนที่ทาครีมหน้าขาวมานานๆสักพัก
00:36:31 → 00:36:33 แล้วหน้าขึ้นเป็นเส้นเลือดขึ้นอันเนี้ย
00:36:33 → 00:36:35 ให้ต้องสงสัยได้ว่าเป็นไฮโดรควิโนนหน้า
00:36:35 → 00:36:36 บางใช่มั้ยเค้าเรียกว่าหน้าน้ามันจะเส้น
00:36:37 → 00:36:39 เลือดมันจะขึ้นหรือบางคนจะเห็นเป็นจุด
00:36:39 → 00:36:42 เป็นเม็ดเล็กๆๆๆๆๆขึ้นตามนะเป็นเม็ดเล็กๆ
00:36:42 → 00:36:45 สีประมาณออกสีสีเนื้อหรือสีเหลืองขึ้น
00:36:45 → 00:36:47 เป็นเม็ดแบบเหมือนลูบหน้าแล้วไม่เรียบ
00:36:47 → 00:36:49 แล้วพอยิ่งเยอะทาเข้าไปมากๆที่สุดหน้ามัน
00:36:50 → 00:36:52 จะกลายเป็นมีจุดดำที่เกิดถาวรแบบเอาไม่
00:36:52 → 00:36:56 ออกแล้วจะตั้งแต่หน้าแดงจนถึงเม็ดๆจนถึง
00:36:56 → 00:37:00 จุดดทั้งหมดหายได้มั้ยคะอหน้าหน้าแดงเวลา
00:37:00 → 00:37:02 หยุดอาจจะดีขึ้นได้ยิงเลเซอร์จะได้แต่พอ
00:37:02 → 00:37:04 ขึ้นจุดแล้วก็หรือเกิดเป็นจุดดำแล้วรักษา
00:37:04 → 00:37:07 ยากมากจะเป็นไปตลอดชีวิจะเป็นไปตลอดง่ายๆ
00:37:07 → 00:37:10 ว่าถ้าเกิดเป็นอย่างนี้สภาพหน้าแล้วพลาด
00:37:10 → 00:37:13 แล้วเป็นหน้าแบบนี้สามารถรักษาหายได้มั้ย
00:37:13 → 00:37:16 ครับทั้งชีวิตถ้าเป็นขาวอย่างงี้เรายาก
00:37:16 → 00:37:19 เป็นแล้วสาหายไม่ได้นะครับคุณผู้ชมเป็น
00:37:19 → 00:37:22 ทั้งชีวิตนะไม่หายค่ะทีนี้ถามอาจารย์นิด
00:37:22 → 00:37:25 นึงว่าก่อนที่เราจะบันทึกเทปนะครับเราก็
00:37:25 → 00:37:28 มีการทดลองอันนี้อยู่ด้วยนะครับตอนแรกทำ
00:37:28 → 00:37:31 ก็ไม่ได้ถามอะไรอาจารย์ก็ให้ทำทีนี้เริ่ม
00:37:31 → 00:37:33 ไม่สบายใจแล้วเนื่องจากว่ามีรูปนี้เกิด
00:37:33 → 00:37:36 ขึ้นแล้วในหัวก็คิดว่าเมื่อไหร่จะถาม
00:37:36 → 00:37:39 เมื่อไหร่จะเข้าอันนี้สักทีนึงเดี๋ยวเเออ
00:37:39 → 00:37:41 อันนี้อาจารย์ให้ทำอะไรคะอันนี้คือวิธี
00:37:41 → 00:37:44 การทดสอบสารสเตียรอยด์คราวนี้คราวนี้
00:37:44 → 00:37:46 อย่างงี้ค่ะไม่ว่าจะเป็นไฮโดรควิโนนหรือ
00:37:46 → 00:37:48 สเตียรอยด์เนี่ยปัญหาของคนที่ใช้ไปแล้ว
00:37:48 → 00:37:51 เขาไม่หยุดเป็นเพราะว่าหยุดแล้วหน้ามันดำ
00:37:51 → 00:37:54 ก็คือคนก็จะใช้ต่อต่อๆไปเหมือนกันสตีรก็
00:37:54 → 00:37:56 เป็นอีกอันนึงถ้าเกิดเวลาใช้ต่อเนื่องกัน
00:37:56 → 00:37:59 ไปนานๆก็จะเกิดผิวหนังบางเส้นเลือดขยาย
00:37:59 → 00:38:02 หรือว่าผิวบางทีมันจะเหมือนกับบางลงไป
00:38:02 → 00:38:05 อย่างมากๆหรือเกิดสิวซ้อนขึ้นมาได้เหมือน
00:38:05 → 00:38:08 กันคุณผู้ชมครับทดลองว่ายาหรือว่าครีมที่
00:38:08 → 00:38:10 คุณผู้ชมใช้นั้นมีสเตรอยด์หรือไม่โดยที่
00:38:10 → 00:38:13 เราอ่านที่ฉลากแล้วก็ไม่มีหรือบางทีไม่มี
00:38:13 → 00:38:16 ฉลาดไม่มีฉลาดด้วยซ้ำไปนั้นในการทดลองทด
00:38:16 → 00:38:18 ลองกับผิวตัวเองนะครับก็บีบครีมมาแล้วก็
00:38:18 → 00:38:21 เอาสกอตเทพใสแปะแบบนี้เวลาผ่านไปตอนนี้
00:38:21 → 00:38:23 ประมาณ 10 กว่านาทีเอี้อาจารย์ยังไม่กล้า
00:38:23 → 00:38:25 จับเลยอ่ะพี่บยพี่บวยดึงออกเพี่เว่าดึง
00:38:26 → 00:38:28 เองแล้วจะเจ็บพร้อมนะครับไม่มีอะไรมันไม่
00:38:28 → 00:38:31 ได้ตื่นเต้นขนาดคราวนี้สมมุติว่าถ้าครีม
00:38:31 → 00:38:34 อันนั้นเนี่ยมีสเตียรอยด์ปนอยู่อยู่เเรา
00:38:34 → 00:38:36 จะเห็นว่าบริเวณที่สัมผัสกับครีมทิ้งเอา
00:38:36 → 00:38:39 ไว้เนี่ยสีมันจะเป็นสีขาวกว่าผิวปกติของ
00:38:39 → 00:38:41 เราอืเพราะฉะนั้นพอดีอันนี้ของคุณบ๊วย
00:38:41 → 00:38:43 เนี่ยยังมองไม่เห็นคือเราเราเอาสเตรอยด์
00:38:43 → 00:38:45 มาทาจริงๆแต่พอดีมันอาจจะปิดระยะเวลาสั้น
00:38:45 → 00:38:48 เกินไปต้องใช้เวลาประมาณสัก 12 ชมงแต่จะ
00:38:48 → 00:38:51 เห็นชัดเป็นวงสีที่ขาวกว่าสีผิวจริงแต่
00:38:51 → 00:38:53 การเทสนั้นไม่เป็นไรเพราะเดี๋ยวมันจะสีจะ
00:38:53 → 00:38:56 กลับคืนนะคะใช่ค่ะคือคือถ้าเราเทสบนตัว
00:38:56 → 00:38:58 เองไม่มีปัญหาพอที่ทิ้งไว้สักพักสีมันก็
00:38:58 → 00:39:00 จะกลับคืนมายาที่ใช้หรือสารที่ใช้เป็นสาร
00:39:00 → 00:39:03 ควบคุมพิเศษเพราะฉะนั้นเอาเป็นว่าโรคฝ้า
00:39:03 → 00:39:06 ควรจะพบแพทย์น้น่าจะปลอดภัยกว่าความสำคัญ
00:39:06 → 00:39:09 ก็คือต้องกันแดดร่วมด้วยกันแดดร่วมด้วยมี
00:39:09 → 00:39:12 ความเชื่ออันดับต่อไปเป็นอันดับที่ 9
00:39:12 → 00:39:15 ครับเป็นเรื่องของการความเข้าใจผิดใน
00:39:15 → 00:39:18 เรื่องของการใช้ครีมกันแดดที่มี SPF เยอะ
00:39:18 → 00:39:21 ๆบอกว่ายิ่งมีเยอะๆยิ่งป้องกันแสงแดดได้
00:39:22 → 00:39:25 ดีจริงไม่จริงครับอ่าจริงในบางส่วนแล้วก็
00:39:25 → 00:39:27 ไม่จริงในบางส่วนยังไงคะอาจารย์เวลาที่
00:39:27 → 00:39:31 เราจะเลือกใช้ครีมกันแดชเราเลือกดูที่ค่า
00:39:31 → 00:39:34 2 อันหลักๆอืออันนึงเนี่ยคือ SPF ค่ะอีก
00:39:34 → 00:39:38 อันนึงเนี่ยคือค่า PA บางทีเราอาจจะไม่
00:39:38 → 00:39:41 รู้ว่าเออว่ามันคืออะไรคราวนี้ในแสงแดด
00:39:41 → 00:39:43 เนี่ยมันจะมีรังสีอยู่ 2 ชนิดคือ Ultra
00:39:43 → 00:39:47 Violet a กับ B uva uvb ใช่คือ uva
00:39:47 → 00:39:52 กับ uvb ค่ะค่า SPF เนี่ยแสดงถึงความ
00:39:52 → 00:39:54 สามารถในการป้องกัน Ultra Violet b คือ
00:39:54 → 00:39:58 uvb เท่านั้นค่ะไม่ได้บอกถึงความสามารถ
00:39:58 → 00:40:00 ในการป้องกัน uva ด้วยแต่คนส่วนใหญ่มาจะ
00:40:00 → 00:40:03 คิดว่า SPF เนี่ยโอหแสดงว่าการแดดได้ดี
00:40:03 → 00:40:06 ถูกทุกสิ่งจริงๆไม่ใช่ไม่พอส่วนใหญ่เนี่ย
00:40:06 → 00:40:09 SPF ที่ดีสำหรับคนไข้ที่เป็นเอ่อที่ต้อง
00:40:09 → 00:40:11 มีการโดนแดดเยอะๆหรือเป็นโรคผิวหนังที่
00:40:11 → 00:40:14 สมมุติมันเกิดเห่อขึ้นมาได้จากการโดนแดด
00:40:14 → 00:40:17 เราก็แนะนำว่าให้ใช้เอ่อ scf ประมาณสัก
00:40:17 → 00:40:21 30-50 ประมาณนี้ก็จะก็จะโอเคในขณะที่ถ้า
00:40:21 → 00:40:24 เกิดสมมุติว่าคนไข้เนี่ยอยากจะดูตัวที่
00:40:24 → 00:40:28 ป้องกัน UV uva ก็ให้ดูดูจากค่า PA ซึ่ง
00:40:28 → 00:40:31 เราจะเห็นอยู่ในบางอันอ่าอันนี้อย่างตัว
00:40:31 → 00:40:35 นี้นะคะจะเห็นว่าเป็น SPF 25 pa 2 +
00:40:35 → 00:40:38 อ่าเป็นเลข 2 บวกในขณะที่อีกตัวนึงอันนี้
00:40:38 → 00:40:41 ดีกว่าค่ะอันนี้จะเป็น SPF 50 แล้วก็ PA
00:40:41 → 00:40:44 3 + 3 บวกๆๆเขียนเอ่อบวกหลายครั้งอ่ะ
00:40:44 → 00:40:46 นะคะใชถูกเพราะฉะนั้นอย่างงี้ครีมตัวสี
00:40:46 → 00:40:50 ฟ้าเนี่ยก็จะกัน uvb ได้ดีกว่าเพราะว่าดี
00:40:50 → 00:40:53 กว่าเพราะว่าเป็น SPF 50 สูงกว่า 25 สูง
00:40:53 → 00:40:56 กว่า 25 ในขณะที่การ uva ก็ดีกว่าด้วย
00:40:56 → 00:40:58 เพราะว่าเป็น 3 บวกเมื่อเทียบกับ 2 บวก
00:40:58 → 00:41:00 อย่างนี้เป็นต้นเพราะฉะนั้นในคนไข้ที่
00:41:00 → 00:41:02 เป็นโรคผิวหนังหรือว่าเป็นคนที่ต้องการ
00:41:03 → 00:41:05 ป้องกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพก็ควรจะ
00:41:05 → 00:41:09 เลือกใช้ SPF ที่ประมาณสักอย่างน้อย 30-50
00:41:10 → 00:41:13 ในขณะที่มี PA อย่างน้อย 3 บวกขึ้นไปแต่
00:41:13 → 00:41:15 ความสำคัญของมันอีกอย่างนึงคือนอกเหนือ
00:41:15 → 00:41:17 จากค่าพวกนี้เนี่ยอยู่ที่ปริมาณการใช้
00:41:17 → 00:41:19 ด้วยเพราะฉะนั้นถ้าคุณทาบางเกินไปเนี่ย
00:41:20 → 00:41:22 มันจะไม่ครอบคลุมได้เยอะสมมุติว่าถ้า
00:41:22 → 00:41:25 เนื้อเป็นครีมเราจะต้องบีบออกมาเนี่ย
00:41:25 → 00:41:28 อย่างน้อยความยาว้ากับ 2 ข้อนิ้วอือ
00:41:28 → 00:41:31 ปริมาณเนี้ยถึงจะเป็นปริมาณที่ทาทั่วหน้า
00:41:32 → 00:41:34 ได้พอดีอยถ้าคนหน้าเล็กๆอย่างผมอ่ะครับ
00:41:34 → 00:41:37 ใช้ครึ่งนิ้วครึ่งข้อนิ้วก็พอมงครับๆตลอด
00:41:37 → 00:41:40 เลยจ้ะถ้าสมมุติว่าเราทาครีมกันแดดน้อยลง
00:41:40 → 00:41:43 ไปครึ่งนึง SPF ลดลงเหลือ 1 ใน 3 อ๋อเหรอ
00:41:43 → 00:41:46 สมมุติว่าทาแทนที่จะทา 2 ข้อนิ้วหรือทา
00:41:46 → 00:41:50 ข้อนิ้วเดียวใช่คือจะเหลือแค่ 50 เหลือ 15
00:41:50 → 00:41:53 อย่างงี้เองอ๋อถ้าสมมุติว่าครีมกันแดดอัน
00:41:53 → 00:41:55 นั้นเป็นน้ำอุซึ่งอันนี้คนไม่ค่อยทราบนะ
00:41:55 → 00:41:57 คะอาจารย์ใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยคือคุณขาขอ
00:41:57 → 00:42:00 ทิชชู่หน่อยคือขอการทาครีมการทาครีมกัน
00:42:00 → 00:42:03 แดดด้วยปริมาณที่สำคัญอันเนี้ยคือมีผล
00:42:03 → 00:42:05 เยอะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็ควรจะต้องเน้น
00:42:05 → 00:42:07 กับคนไข้ด้วยหรือเน้นกับตัวเราเองด้วยว่า
00:42:08 → 00:42:09 เราต้องใช้ให้เหมาะแล้วเผอิญ 2 ข้อนิ้ว
00:42:09 → 00:42:12 เนี่ยมันไม่ได้น้อยตัวน้อยเพราะฉะนั้นคน
00:42:12 → 00:42:15 ทาไม่ถึงคกลัวเป็นสิวกลัวตอนล้างออกก็จะ
00:42:15 → 00:42:16 ทาไม่ค่อยเยอะคราวนี้ถ้าสมมุติว่าเป็น
00:42:16 → 00:42:19 ครีมกันแดดชนิดที่เป็นน้ำก็บีบใส่มือมา
00:42:19 → 00:42:23 แล้วก็เอาให้คือเท่ากับขนาดไซส์ของประมาณ
00:42:23 → 00:42:25 เหรียญ 10 เอ้ยเหรียญ 10 บาทเหรบาทอย่าง
00:42:25 → 00:42:28 งี้ตึงีมานี่ประมาณเหรียญ 10 แต่ต้องบีบ
00:42:28 → 00:42:30 ประมาณเหรียญ 10 2 เหรียญเพราะฉะนั้น
00:42:30 → 00:42:31 เหรอคะเหรียญ 10 2 เหรียญใช่ทาอันนี้ไป
00:42:31 → 00:42:33 รอบนึงเสร็จปุ๊บบีบมาอีกรอบนึงบอกว่า
00:42:33 → 00:42:35 เหรียญ 10 มันน้อยกว่า 2 ข่อนิ้วเหรีย
00:42:35 → 00:42:37 เท่าเพราะฉะนั้นประมาณ 2 เหรียญแล้วจริง
00:42:37 → 00:42:40 มั้ยที่ต้องซ้ำทุก 2 ชั่วโมงอันนั้นเฉพาะ
00:42:40 → 00:42:43 สำหรับกรณีที่เราต้องไปว่ายน้ำหรือแบบ
00:42:43 → 00:42:46 เล่นกีฬากลางแจ้งที่แบบเหงื่อแตกตลอดเวลา
00:42:46 → 00:42:48 อ๋อ 2 ชั่วโมงนั่นคือหมายถึงว่าโดนชะล้าง
00:42:48 → 00:42:50 ออกไปชะล้างอไปต้องไแต่ถ้าเราเป็นทำงาน
00:42:50 → 00:42:53 แบบอย่างเงี้ยเราไม่ได้โดนน้ำทงอ๋อได้
00:42:53 → 00:42:55 อยู่ได้ถึงเย็นอยู่ได้ถึงเย็นเพราะว่าถ้า
00:42:55 → 00:42:58 SPF มันเยอะพอเราก็สมมุติอย่างออย่างพี่
00:42:58 → 00:43:00 อย่างเงี้ยถ้าพี่แดงภายในเวลา 15 นาทีถูก
00:43:00 → 00:43:02 มั้ยคะพี่อาจจะอยู่ในเวลากลางวันประมาณ 8
00:43:02 → 00:43:05 ชมเพราะฉะนั้น scf ประมาณ 30 อ่ะ 84 32
00:43:05 → 00:43:08 พี่ก็พอได้ะถ้าเป็นออฟิ 20 30 พอแล้ว
00:43:08 → 00:43:10 มั้ยคะพี่ว่าอาจจะเยอะขึ้นไปอีกนิดนึง
00:43:10 → 00:43:12 เพราะว่าบางทีคนเราทาครีมน้อยลงไปหน่อย
00:43:12 → 00:43:15 นึงเพราะฉะนั้นมันก็จะเหมือนกับเวทกันกับ
00:43:15 → 00:43:18 กับการที่เราทาครีมน้อยลงไปนิดนึงอืเพราะ
00:43:18 → 00:43:20 ฉะนั้นคุณผู้ชมครับชัดเจนในอันดับที่ 9
00:43:20 → 00:43:22 นะครับในเรื่องของการใช้ครีมกันแดดใน
00:43:22 → 00:43:26 เรื่องของ sbf ไม่ใช่ว่ายิ่งเยอะยิ่งดี
00:43:26 → 00:43:28 อยู่กลางๆดีที่สุดด้วยเอที่แล้วทาให้ถูก
00:43:28 → 00:43:31 วิธีทาให้ถูกวิธีสำคัญกว่าไม่ใช่แค่ SPF
00:43:31 → 00:43:34 ต้องมี PA ด้วยนะครับถูกต้องอ่าชัดเจนต่อ
00:43:34 → 00:43:38 ไปอันดับที่ 10 ครับอันดับสุดท้ายเขาบอก
00:43:38 → 00:43:42 ว่ารุนแรงมากคือการใช้น้ำกรดเนี่ยรักษา
00:43:42 → 00:43:48 พวกไฝกระหูดขี้แมงวันครับอันนี้เจอเยอะอ
00:43:48 → 00:43:51 อาจารย์เจอเยอะหรอคะเจอเยอะคือพี่จะได้คน
00:43:51 → 00:43:54 ไข้ที่เป็นแผลมาเป็นแผลเหวอะๆมาละแล้วมัก
00:43:54 → 00:43:57 จะมารักษาแผลเป็นกับหมอทีหลังอ๋ออันนี้
00:43:57 → 00:44:00 เลี้ยงอ่านี้แล้วก็โดยที่ว่าเอ่อคนไข้ก็
00:44:00 → 00:44:03 จะบอกว่ามีไฝอ่ะเสร็จแล้วเดินตลาดนัดแล้ว
00:44:03 → 00:44:07 ก็มีการเอากรดมาจี้หรือบางทีเนี่ยได้ปูน
00:44:07 → 00:44:09 มาจากร้านเสริมสวๆเอาปูนมาแต้มทิ้งค้าง
00:44:09 → 00:44:12 คืนไว้ให้ไฟหลุดแล้วส่วนใหญ่กรดพวกเราคา
00:44:12 → 00:44:14 ถูกๆเป็นพวกกรดแบตเตอรี่ที่แบบเราใส่รถ
00:44:14 → 00:44:18 ยนต์การกัดเนี่ยรุนแรงมากกรดแบตเตอรี่
00:44:18 → 00:44:21 รุนแรงมากอน่ากลัวดูไม่คุ้มค่ากับการใช้
00:44:21 → 00:44:23 แต่วันนี้มีตัวอย่างด้วยเรามีการทดลอง
00:44:23 → 00:44:26 ครับมีไม่กล้าจับเลยอ่ะกรดอันนี้เป็นน้ำ
00:44:26 → 00:44:29 กรดนะครับน้ำกรดจริงๆนะครับสมมุติว่าถ้า
00:44:29 → 00:44:32 เราหยดกดลงไปบนเนื้อหรือแม้แต่ผิวหนัง
00:44:32 → 00:44:35 หรือว่าหรือว่าเหมือนอันนี้เป็นผิวเราใช่
00:44:35 → 00:44:37 มั้ยคะใช่คือหยดลงไปเนี่ยพวกนี้มันก็จะ
00:44:37 → 00:44:39 กัดนี่ขนาดหนังหมูคือเป็นหนังที่แบบจะ
00:44:40 → 00:44:42 ค่อนข้างหนานะคะพวกนี้มันก็จะเกิดการ
00:44:42 → 00:44:46 เบิร์นของผิวชั้นนอกๆได้บางทีจี้ไปตอนแรก
00:44:46 → 00:44:49 ๆเนี่ยยังไม่รู้สึกเพราะว่าพวกนี้เนี่ย
00:44:49 → 00:44:52 มันจะทำปฏิกิริยากับโปรตีนแลทำให้มันเกิด
00:44:52 → 00:44:54 โปรตีนเนี่ยมันเกิดการเเรียกว่าเกิดการ
00:44:54 → 00:44:57 แข็งตัวขึ้นมาก็คือต้องรอเซึมลงใช่ก็จะ
00:44:57 → 00:45:01 เกิดปัญหาขึ้นมาก็เกิดพวกนี้ก็จะเห็นชัดๆ
00:45:01 → 00:45:04 ว่าเอ่อเนื้อเอ่อมันจะถูกกัดกร่อนไป
00:45:05 → 00:45:06 เดี๋ยวเรากลับมาดูให้เขาทำปฏิกิริยาไป
00:45:06 → 00:45:09 ก่อนค่ะต้องเยอะๆคราวนี้เขาบอกว่าตามตาม
00:45:09 → 00:45:12 พี่ป๊วยคะครับยังไงตุ๊ก็มีจรรยาบรรณค่ะ
00:45:12 → 00:45:14 ตุ๊ไม่ทำต่อหน้าคนเยอะๆหรอกค่ะมาๆๆๆๆกลับ
00:45:14 → 00:45:18 มากลไม่ใช่ไม่กโดนอ่ะเดี๋ยวรอรอทำ
00:45:18 → 00:45:20 ปฏิกิริยาระหว่างเนี้ยก็มีอีกเหมือนตาม
00:45:20 → 00:45:23 ตลาดนะหรือที่เขาทำกันเองอ่ะมีการใช้สบู่
00:45:23 → 00:45:26 กรดใชใช่ไม่มีก้าจับอะไรเลยผสมกับปูนแดง
00:45:26 → 00:45:29 ใช่มั้คะแล้วก็ได้มิกเซอร์มาเป็นแบบนี้
00:45:29 → 00:45:31 มิเซอร์ใช่หรือบางคนก็ก็จะเอาปูนคล้ายๆ
00:45:31 → 00:45:34 อย่างเงี้ยคือแต้มกันๆตหรือบางทีก็ขายให้
00:45:34 → 00:45:37 ไปแต้มไฟกันที่บ้านเนี่ยแต้มให้มันกัดเลย
00:45:37 → 00:45:41 อันนี้เนี่ยเจอเยอะมากคือมารักษาแผลหลุม
00:45:41 → 00:45:44 ที่เหลืออยู่คนไข้ก็จะพอทาไปเสร็จปุ๊บแทน
00:45:44 → 00:45:46 ที่อันนี้นี่มันจะเป็นการกัดกัดผิวพวกนี้
00:45:47 → 00:45:49 มันจะกลายเป็นตุ่มเป็นหนองขึ้นมาก่อน
00:45:49 → 00:45:51 เสร็จแล้วเนี่ยเกิดการอักเสบแล้วก็ลงลึก
00:45:51 → 00:45:53 แล้วก็หายแบบเป็นหลุมๆคือไฝหายไปจริงแต่
00:45:53 → 00:45:56 ได้หลุมแทนมากลายเป็นแผลเป็นที่ใหญ่กว่า
00:45:56 → 00:45:57 ไฝที่ตัวเองต้องต้องการจะเอาออกซะอีกบาง
00:45:57 → 00:45:59 คนเป็นขี้แมงวันแบบเล็กๆแบนๆอย่างเงี้ย
00:45:59 → 00:46:02 จิ้มไปกลเป็นแผลนูนขึ้นมาก็มีคือแย่กว่า
00:46:02 → 00:46:04 อีขี้แมงวันเดิมก็คือวิธีนี้ไม่ไม่ใช่
00:46:04 → 00:46:06 วิธีที่ถูกต้องไม่ควรค่ะจริงๆแล้วเนี่ย
00:46:06 → 00:46:09 ถ้าอยากจะรักษาไฝขี้แมงวันพวกนี้ส่วนใหญ่
00:46:09 → 00:46:12 ง่ายๆจะเผาก็ได้หรือจะทำเลเซอร์ก็ได้ง่าย
00:46:12 → 00:46:15 อันนี้คือวิี 7 วันหายก็ค่าใช้จ่ายก็ไม่
00:46:15 → 00:46:18 ได้แพงทีนี้เรากลับมาดูการทดลองบนหนังหมู
00:46:18 → 00:46:22 นะครับหลังจากหยดกรดลงไปเห็นมดูมันไม่
00:46:22 → 00:46:26 ค่อยเจอนั่นเนาะมันอ๋อดูละหนังเ้าอุ้ยๆๆ
00:46:26 → 00:46:29 หนังเหนาเยอะดูนี่สิเป็นรอยเฮ้ยเป็นบุม
00:46:29 → 00:46:32 เลยเห็นมั้ย็นมเห็นมเอ้ยนี่แป๊บเดียวกัด
00:46:32 → 00:46:37 ขนาดนี้เลยนะคะอาฮะอุ๊ยเสียวอ่ะรูขุมขน
00:46:37 → 00:46:41 หายหมดเลยดูสิก็คุณผู้ชมครับนี่คือทั้ง
00:46:41 → 00:46:44 หมด 10 อันดับในการเข้าใจผิดในเรื่องของ
00:46:44 → 00:46:48 การดูแลในเรื่องของการการใช้ผลิตภัณฑ์ยา
00:46:48 → 00:46:52 หรือว่าการใช้ยาที่เกี่ยวกับเส้นผมแล้วก็
00:46:52 → 00:46:54 ดูแลใบหน้านะครับใบหน้าซึ่งเป็นด้วยความ
00:46:54 → 00:46:57 สวยความงามที่คนจะให้ความสำคัญมากๆวันนี้
00:46:57 → 00:46:59 พอเราดูแล้วปุ๊บเราชัดเจนเลยว่าจริงๆแล้ว
00:46:59 → 00:47:02 สำหรับผมนะสิ่งที่ผมได้คือถ้าเกิดผมเป็น
00:47:02 → 00:47:05 ผมปรึกษาแพทย์ดีกว่าอืถ้าเกิดจะซื้อยากิน
00:47:05 → 00:47:09 เองยาใช้เองก็ที่มีอยดีกว่าใช่แล้วก็
00:47:09 → 00:47:12 อย่างที่อาจารย์ย้ำไปเดี๋ยวนี้เลขจดแจ้ง
00:47:12 → 00:47:15 อยก็เ่อตรวจสอบได้ง่ายๆแค่เข้าเว็บไซต์
00:47:15 → 00:47:17 พิมพ์เลขน่าจะประมาณ 5 หลักแล้วก็คียมา
00:47:17 → 00:47:19 ว่าตรงกับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในมือแต่สมัย
00:47:19 → 00:47:21 นี้หน้าสามันเยอะมากแล้วก็การหลอกลวงผู้
00:47:21 → 00:47:24 บริโภคก็เยอะตามไปนะคะตามตามกระแสตามโลก
00:47:24 → 00:47:26 ที่มันทันสมัยขึ้นเพราะฉะนั้นระวังแล้วก็
00:47:26 → 00:47:30 ดูแลกันดีๆค่ะหลักการในการดูแลเส้นผมแล้ว
00:47:30 → 00:47:33 ก็ผิวหน้าของเราหลักๆที่แบบถูกต้องจริงๆ
00:47:33 → 00:47:37 อ่ะครับอยากให้แบบอาจารย์เพ็ญแนะนำสุด
00:47:37 → 00:47:39 ท้ายละอันแรกสุดก็ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะ
00:47:39 → 00:47:41 กับตัวเองรู้จักตัวเองก่อนว่าตกลงเนี่ย
00:47:41 → 00:47:43 เราเป็นยังไงเราก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้
00:47:43 → 00:47:45 เหมาะซึ่งเมื่อกี้เราก็ได้คุยกันไปเรียบ
00:47:45 → 00:47:50 ร้อยะเอ่อเลือกวิธีที่ถูกหรือว่าพี่คิด
00:47:50 → 00:47:52 ว่าทางสายกลางเนี่ยน่าจะดีคืออะไรก็ตาม
00:47:52 → 00:47:54 ที่มันมากเกินไปหรืออะไรก็ตามที่มันน้อย
00:47:54 → 00:47:57 เกินไปมันน้อยไปก็บางทีมันไม่ได้ผลมากไป
00:47:57 → 00:48:00 ก็จะเกิดผลข้างเคียงได้แล้วก็จะเลือกใช้
00:48:00 → 00:48:02 ผลิตภัณฑ์อะไรศึกษาักนิดนึงเพราะว่า
00:48:02 → 00:48:05 เดี๋ยวนี้ข้อมูลอะไรก็หาได้ง่ายๆก็ศึกษา
00:48:05 → 00:48:07 ซะก่อนว่าเออผลิตภัณฑ์อันนี้เนี่มันดี
00:48:07 → 00:48:10 จริงมีมีผลดีมากกว่าผลเสียเราไม่จำเป็น
00:48:10 → 00:48:12 ต้องเอาหน้าเราเอาผิวเราไปเสี่ยงมันทิม
00:48:13 → 00:48:15 มันก็ไม่คุ้มกันเทดสอบมาแล้วกับสิ่งทดลอง
00:48:15 → 00:48:18 ต่างๆใช่โอ้โหเต็มตื้นเลยเพราะฉะนั้นดู
00:48:18 → 00:48:21 รายการยาหมอบอกสร้างความแตกต่างแน่นอน
00:48:21 → 00:48:22 ครับวันนี้ขอบคุณอาจารย์เพ็ญมากครับ
00:48:22 → 00:48:25 ขอบคุณขอบคุณอีกครั้งนะคะขอบคุณมากๆเลย
00:48:25 → 00:48:28 ค่ะขอขอบคุแล้ววันนี้นะรายการของเราก็หมด
00:48:28 → 00:48:30 เวลาลงแล้วรวมถึงความรู้ที่เราได้มากมาย
00:48:30 → 00:48:32 ในวันนี้แล้วกลับมาพบรายการยาหมอบอกกัน
00:48:32 → 00:48:35 ได้ใหม่รวมถึงการที่เราจะเปลี่ยนความเข้า
00:48:35 → 00:48:37 ใจผิดให้เป็นความรู้แน่นอนวันนี้เรา 3 คน
00:48:37 → 00:48:41 ต้องลาไปแล้วค่ะสวัสดีครับสวัสดี
00:48:41 → 00:48:45 ค่ะลอกจะจริงก็ไม่ชัว่จะใช้ก็กลัวไม่แน่
00:48:45 → 00:48:50 ใจอยากให้สงสัยก็ตรงไปดูอย่าหมอบอกดูอย่า
00:48:50 → 00:49:00 หมอบ
00:49:00 → 00:49:03 ถ้าอยากจะหายจากโรคภัยไม่อยากจะลาลับโลก
00:49:03 → 00:49:08 ไปจะยอย่างไรให้ปลอดภัยเราขอบอกไม่รูอย่า
00:49:08 → 00:49:14 หมอบอกอย่าหมอบอก