00:00:26 → 00:00:31 ไหนๆวันนี้คุณหมอก็จะชวนเราคุยเกี่ยวกับเรื่องของการกินใช่ไหมคะ
00:00:31 → 00:00:33 ข่าวที่ชวนคุณหมอคุยในช่วงแรก
00:00:33 → 00:00:36 ก็เกี่ยวข้องกับการรับประทาน การกินเนี่ยแหละค่ะคุณหมอขา
00:00:36 → 00:00:38 เป็นข่าวดังขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้นะคะ
00:00:38 → 00:00:41 ในกรณีที่มีเด็กนักเรียนท่านนึง
00:00:41 → 00:00:45 เขาเกิดอาการแพ้เมนูเต้าหู้ไข่ของโรงเรียนแห่งนึง
00:00:45 → 00:00:49 ผลปรากฏว่าเขาเนี่ยได้ทำการตรวจสอบค่ะ
00:00:49 → 00:00:52 ด้วยการให้เด็กเนี่ยลองนั่งทานเมนูนั้น
00:00:52 → 00:00:54 แล้วดูว่าแพ้จริงหรือเปล่า
00:00:54 → 00:00:56 ฮาร์ดคอร์นะ / ใช่
00:00:56 → 00:00:58 เป็นวิธีการทดสอบที่น่ากลัวไปนิดนึง
00:00:58 → 00:01:00 แต่ปรากฏว่าน้องเขาไม่ได้แพ้จริงๆ
00:01:00 → 00:01:05 แล้วก็กลายเป็นโดนทางโรงเรียนเนี่ยให้กราบขอโทษเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมามากมาย
00:01:05 → 00:01:07 กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต
00:01:07 → 00:01:10 แล้วก็ทำให้เพจดังเพจนึงเนี่ยเขาก็คุยถึงกรณีนี้
00:01:10 → 00:01:13 แล้วก็มีสาวคนนึงค่ะเข้าไปโพสต์เรื่องราวของตัวเองว่า
00:01:13 → 00:01:16 เขาเนี่ยก็เป็นคนที่มีอาการแพ้อาหารเหมือนกัน
00:01:16 → 00:01:18 แพ้มะเขือเทศ แพ้หอยแมลงภู่ขั้นรุนแรง
00:01:18 → 00:01:20 ถึงขั้นแบบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
00:01:20 → 00:01:24 วันนี้ก็เลยอยากจะชวนคุณหมอคุยเรื่องของการแพ้อาหารบ้าง
00:01:24 → 00:01:27 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยการแพ้อาหารมันคืออะไร มันมีจริงไหม
00:01:27 → 00:01:29 มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะคุณหมอคะ
00:01:29 → 00:01:33 จริงๆแล้วหมอว่าเคสแรกอะน่าสงสารนะคุณแนน
00:01:33 → 00:01:36 เพราะว่าอะไรรู้ไหมการแพ้อาหารจริงๆเนี่ย
00:01:36 → 00:01:38 คือมันมีได้หลายอย่าง
00:01:38 → 00:01:41 คือที่อย่างรายที่สองเนี่ยอาจจะเป็นแพ้แบบเฉียบพลันก็ได้
00:01:41 → 00:01:43 ซึ่งในกลุ่มของแพ้แบบเฉียบพลันเนี่ย
00:01:43 → 00:01:44 จริงๆแล้วเราพบไม่เยอะ
00:01:44 → 00:01:47 ส่วนใหญ่แล้วเราพบซักประมาณ 5% ของคนทั่วไป
00:01:47 → 00:01:49 พวกนี้ก็จะมาด้วยอาการหลายอย่าง
00:01:49 → 00:01:52 มาด้วยทางเดินอาหาร มาด้วยคลื่นไส้อาเจียน
00:01:52 → 00:01:55 มาด้วยอาการทางผิวหนังขึ้นเป็นผื่น
00:01:55 → 00:01:59 หรือว่าบางทีก็อาจจะทำให้มีหน้าตาบวม
00:01:59 → 00:02:01 หรือว่าคอบวมหายใจไม่ออกอะไรพวกนั้นได้
00:02:01 → 00:02:04 คือเป็นการแพ้อาหารแบบเฉียบพลัน
00:02:04 → 00:02:07 ซึ่งจะมีความรุนแรงมาก
00:02:07 → 00:02:09 แต่ว่ามันมีการแพ้อีกแบบนึง
00:02:09 → 00:02:12 ซึ่งเราจะรู้เลยว่าเหมือนกับเป็นการแพ้อาหารแฝง
00:02:12 → 00:02:15 หรือว่าเป็นความไวต่ออาหารบางประเภท
00:02:15 → 00:02:18 แล้วทำให้เกิดการอักเสบของร่างกาย
00:02:18 → 00:02:22 ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะที่ทำให้ร่างกายทำงานไม่สมบูรณ์
00:02:22 → 00:02:26 ซึ่งตามศัพท์ของคนไทย เราจะเรียกแพ้อาหารเหมือนกัน
00:02:26 → 00:02:29 ทั้งๆที่กลไกการเกิดเนี่ยไม่เหมือนกัน
00:02:29 → 00:02:33 ใช่ คือถ้าเราคิดว่าการแพ้เนี่ยหมายถึง
00:02:33 → 00:02:35 การแพ้เเบบเฉียบพลันอันนี้ก็ไม่ใช่
00:02:35 → 00:02:38 เพราว่ามันไม่ได้เกิดอาการทันที / ค่ะ
00:02:38 → 00:02:41 สามารถจะเกิดอาการได้หลังจากนั้นได้เป็นอาทิตย์เลย
00:02:42 → 00:02:44 เพราะฉะนั้นเคสแรกที่น้องเขาแพ้เนี่ย
00:02:44 → 00:02:46 น้องเขาอาจจะแพ้จริงๆก็ได้
00:02:46 → 00:02:48 นั่นหน่ะสิ / ใช่
00:02:48 → 00:02:50 แต่ว่าอาการแพ้ในกลุ่มพวกนี้เนี่ย
00:02:50 → 00:02:53 คือมันเหมือนกับการที่เยื่อบุลำไส้เนี่ย
00:02:53 → 00:02:55 มันมีความบกพร่อง
00:02:55 → 00:02:58 มันทำให้มันมีการดูดซึมอาหารที่ไม่ปกติ
00:02:58 → 00:03:02 มีการซึมผ่านของอนุภาคอาหารไม่ดีได้
00:03:02 → 00:03:03 จะมีภาวะไส้รั่ว
00:03:03 → 00:03:06 หรืออาจจะมีภาวะที่มีการผลิตสาร Antibody
00:03:06 → 00:03:08 หรือสารต้านตัวแพ้เนี่ยออกมา
00:03:08 → 00:03:10 ทำให้มีการปล่อยพวกสารเคมี
00:03:10 → 00:03:11 ของร่างกายออกมา
00:03:11 → 00:03:13 อย่างเช่น สารเคมีในกลุ่มอิสตามีน
00:03:13 → 00:03:17 ซึ่งจริงๆแล้วมันก็กระตุ้นทำให้เกิดมีการแพ้ได้เหมือนกัน
00:03:17 → 00:03:20 เพียงแต่ว่าอาการมันไม่ได้รุนแรงเท่า
00:03:20 → 00:03:22 อาการมันค่อยเป็นค่อยไป
00:03:22 → 00:03:27 เพราะว่าตัว Antibody หรือว่าตัวที่ออกมาสร้างต้านสารแพ้เนี่ย
00:03:27 → 00:03:29 มันต่างกัน
00:03:29 → 00:03:32 อันแรกเนี่ยจะเป็นกลุ่ม IGE อันหลังเนี่ยจะเป็นกลุ่ม IGG
00:03:32 → 00:03:36 งั้นไอการเกิดตัวที่ไปทำให้เกิดการอักเสบ
00:03:36 → 00:03:37 มันก็แตกต่างกัน
00:03:37 → 00:03:40 คือตัวหลังเนี่ยมันเป็นลักษณะที่มันสามารถที่จะไปกระตุ้น
00:03:40 → 00:03:44 การทำงานของร่างกายให้ผิดปกติที่ระบบใดก็ได้
00:03:44 → 00:03:47 มันก็อาจจะหลุดไปที่ข้อ ทำให้ปวดข้อ
00:03:47 → 00:03:50 อาจจะมีอาการอื่นๆ เช่นอาจจะมีอาการผมร่วง
00:03:50 → 00:03:52 อาจจะมีอาการนอนไม่หลับ ปวดท้อง
00:03:52 → 00:03:55 หรืออาจจะมีการปวดกล้ามเนื้อ
00:03:55 → 00:03:58 มีความจำไม่ดี สิวเรื้อรัง
00:03:58 → 00:04:00 การแพ้อาหารในกลุ่มเนี้ย
00:04:00 → 00:04:05 มันจะมีกลไกการทำงานที่แตกต่างจากแพ้อาหารแบบเฉียบพลัน
00:04:05 → 00:04:09 ซึ่งพวกนี้เนี่ยอาจจะมีปัญหาเรื่องการย่อย
00:04:09 → 00:04:13 ย่อยไม่สมบูรณ์ จะมีการขาดเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหาร
00:04:13 → 00:04:16 อย่างในกลุ่มคนไข้ที่รับประทานยาลดกรดเป็นประจำ
00:04:16 → 00:04:19 ก็กระตุ้นทำให้เกิดภูมิต้านทานที่ผิดปกติได้
00:04:19 → 00:04:21 คนที่รับประทานแอลกอฮอล์เป็นประจำ
00:04:21 → 00:04:23 คนที่มีความเครียดสูง
00:04:23 → 00:04:26 สามารถจะทำให้เกิดการแพ้อาหารแบบหลังเนี่ยได้
00:04:26 → 00:04:28 และอย่างงี้มันจะส่งผลกระทบยังไงอะคะ
00:04:28 → 00:04:30 การแพ้อาหารเนี่ยค่ะ
00:04:30 → 00:04:32 เยอะเลย ก็แล้วแต่ว่าไอตัวการอักเสบเรื้อรังเนี่ย
00:04:32 → 00:04:34 ไปเกิดขึ้นที่ระบบไหน
00:04:34 → 00:04:38 แน่ๆคนกลุ่มพวกเนี้ยมักจะมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร
00:04:38 → 00:04:40 อย่างเช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ
00:04:40 → 00:04:43 แต่ว่าไอตัวการอักเสบหรือสารต้าน
00:04:43 → 00:04:46 ตัวแพ้เนี่ย ถ้ามันไปหลุดไปอยู่ที่ไหน
00:04:46 → 00:04:48 มันก็จะเกิดอาการตามระบบนั้นๆ
00:04:48 → 00:04:51 แล้วก็เกิดความผิดปกติอะไรขึ้น
00:04:51 → 00:04:55 ซึ่งมันจะไม่ใช่ภูมิแพ้แบบทางการแพทย์แบบที่เราเข้าใจกัน
00:04:55 → 00:04:59 อันนี้มันจะเป็นลักษณะของการที่มีการย่อยไม่สมบูรณ์
00:04:59 → 00:05:02 และมีการหลุดของสารอาหาร
00:05:02 → 00:05:06 ที่ยังไม่ถูกย่อยสมบูรณ์เข้าไปในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:05:06 → 00:05:08 ก็เลยกลายไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ผิดปกติ
00:05:08 → 00:05:10 ซึ่งทั้งสองระบบเนี่ยเรา
00:05:10 → 00:05:12 ต้องใช้ตรวจเลือดทั้งคู่
00:05:12 → 00:05:15 แต่แบบเฉียบพลันบางทีเราสังเกตเอาเราก็รู้
00:05:15 → 00:05:18 สมมุติว่าเรามีอาการหนึ่งจากการรับประทานอาหารหนึ่งอย่าง
00:05:18 → 00:05:21 เช่นเราแพ้ถั่วอย่างเงี้ย ก็ไปตรวจได้เลย
00:05:21 → 00:05:23 เพราะว่าเราจะได้ดูว่าเรามีแพ้ตัวอื่นไหม
00:05:23 → 00:05:27 หรือเรามีตัวอะไรที่ไปกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของเราอยู่
00:05:27 → 00:05:30 เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากจะรู้ว่าเราแพ้อาหารชนิดใด
00:05:30 → 00:05:32 สามารถตรวจหาก่อนได้ / ใช่
00:05:32 → 00:05:35 การแพ้อาหารแบบหลังที่เป็นการแพ้อาหารแบบแฝงเนี่ย
00:05:35 → 00:05:39 เวลาที่ร่างกายมีการกระตุ้นภูมิต้านทานที่ผิดปกติคุณแนน
00:05:39 → 00:05:41 มันจะทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย
00:05:41 → 00:05:45 พอการอักเสบร่างกายมีมากขึ้นๆเลยเป็นเรื้อรัง
00:05:45 → 00:05:47 มันจะทำให้เกิดภาวะภูมิเพี้ยนได้
00:05:47 → 00:05:51 อย่างในโรคของคนไข้ที่เป็นภาวะภูมิเพี้ยนเนี่ย
00:05:51 → 00:05:55 พบว่ามันมีต้นตอมาจากการกระตุ้นภูมิต้านทาน
00:05:55 → 00:05:57 ที่ผิดปกติของร่างกายอยู่เรื่อยๆ
00:05:57 → 00:06:02 คือเราต้องสังเกตว่าเรามีอาการอะไรที่ผิดปกติบ้าง
00:06:02 → 00:06:05 บางทีเนี่ยเราไปทานส้มตำ
00:06:05 → 00:06:07 ใส่ปลาร้า
00:06:07 → 00:06:11 กลับมาวันนั้นปุ๊บมีปัญหาเลย
00:06:11 → 00:06:14 ก็ต้องดูซิว่าอาจจะเป็นจากปลาร้าที่เราทานหรือเปล่า
00:06:14 → 00:06:18 ก็ต้องสังเกตและก็ต้องพยายามอย่าไปสัมผัสสารพวกนี้
00:06:18 → 00:06:21 หรือเป็นสิวเนี่ยพบบ่อยมาก
00:06:21 → 00:06:25 ทานไปปุ๊บไม่เกิน 2 - 3 ชั่วโมงสิวอักเสบขึ้น
00:06:25 → 00:06:28 อย่างงี้ก็แสดงว่าเราต้องกลับมาดูและว่า
00:06:28 → 00:06:30 อาหารอะไรที่เป็นตัวกระตุ้น
00:06:30 → 00:06:32 ต้องใช้วิธีตรวจเลือด
00:06:32 → 00:06:35 เพราะฉะนั้นนี่ก็คือนอกจากที่เราจะสังเกตตัวเองแล้ว
00:06:35 → 00:06:38 กับอาการที่เกิดขึ้นเวลาเรารับประทานอาหารบางอย่าง
00:06:38 → 00:06:40 อีกหนึ่งวิธีก็คือไปตรวจหาก่อนเลยก็ได้
00:06:40 → 00:06:43 ตรวจเลือดก็สามารถจะทราบได้ว่าเราแพ้อาหารอะไรบ้าง
00:06:43 → 00:06:46 เรื่องกินนี่เรื่องใหญ่จริงๆนะคะคุณหมอขา เนอะ
00:06:46 → 00:06:48 เพราะฉะนั้นค่ะเดี๋ยวช่วงหน้า
00:06:48 → 00:06:51 จะยังโฟกัสที่เรื่องกิน ซึ่งคุณหมอบอกว่า
00:06:51 → 00:06:53 กินเค็มเนี่ยมันไม่ดี / ใช่
00:06:53 → 00:06:57 พิษเยอะมาก จะมีอะไรบ้างเดี๋ยวมาติดตามช่วงหน้าในช่วงหมอชวนคุยค่ะ