00:00:00 → 00:00:04 แพ้ถั่วเกิดได้จากสาเหตุใดการแพ้ถั่วบาง

00:00:04 → 00:00:07 ชนิดจะส่งผลให้เกิดการแพ้ถั่วชนิดอื่นๆ

00:00:07 → 00:00:10 ด้วยหรือไม่ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและคำ

00:00:10 → 00:00:15 แนะนำจากผู้เชี่ยว

00:00:15 → 00:00:18 ชาญศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทยอสมท

00:00:18 → 00:00:22 สอบถามกับอาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมีคณะ

00:00:22 → 00:00:25 วิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เริ่ม

00:00:25 → 00:00:27 จากการทำความรู้จักกับชนิดของถั่วการแพ้

00:00:27 → 00:00:30 ถั่วนะคะเกิดขึ้นได้นะคะโดยถั่วจะแบ่งออก

00:00:30 → 00:00:32 เป็น 2 กลุ่มก็คือถั่วที่เป็นถั่วเปลือก

00:00:32 → 00:00:34 แข็งหรือถั่วยืนต้นนะคะแล้วก็ถั่วที่เป็น

00:00:34 → 00:00:37 กลุ่มของพื้นล้มรุกนะคะที่ชาวบ้านเรียก

00:00:37 → 00:00:39 ว่าถั่วเปลือกอ่อนถั่วลิสงกับถั่วเหลือง

00:00:39 → 00:00:41 อ่ะจะเป็นกลุ่นของพืชลมรุก็คือเป็นถั่ว

00:00:41 → 00:00:42 เปลือกอ่อนทั้งคู่นะคะอยู่ในกลุ่มเดียว

00:00:43 → 00:00:45 กันส่วนถั่วเปลือกแข็งก็จะมีตั้งแต่พวก

00:00:45 → 00:00:48 แมเมียเฮซนัทกิต้าชิโอเมดมะม่วงหินมะพาน

00:00:48 → 00:00:52 เกาลัดกลุ่มของเชสนัทก็ใช่ค่ะสาเหตุของ

00:00:52 → 00:00:54 การแพ้ถั่วคืออะไรครับสาเหตุก็ยังเป็นที่

00:00:54 → 00:00:57 ศึกษาอยู่นะคะว่ามันมีหลายสาเหตุปัจจัย

00:00:57 → 00:01:00 ตั้งแต่พันธุกรรมนะคะหรือว่าการที่คุณแม่

00:01:00 → 00:01:02 ตอนตั้งครรภ์นะค่ะรับเข้าไปตอนที่ยังตั้ง

00:01:02 → 00:01:06 ครรภ์อยู่หรือว่าเด็กมีความไวมากกว่าปกติ

00:01:06 → 00:01:08 มากกว่าคนทั่วไปทำให้แพ้ได้บางคนก็คือแพ้

00:01:08 → 00:01:11 ตั้งแต่ยังเด็กบางคนก็เพิ่งมาแพ้ตอนโตค่ะ

00:01:11 → 00:01:13 คุณแม่ตั้งครรภต้องห้ามกินถั่วเลยไหครับ

00:01:13 → 00:01:17 จริงๆไม่ได้เป็นทุกกรณีค่ะก็คือเด็กที่

00:01:17 → 00:01:19 อยู่ในครรภ์น่ะค่ะพอเขารับโปรตีนเหล่านี้

00:01:19 → 00:01:21 เข้าไปค่ะเขาอาจจะมีความเสี่ยงหรือมี

00:01:21 → 00:01:24 โอกาสที่จะแพ้อาหารเหล่านี้ได้ค่ะในการ

00:01:24 → 00:01:27 ตั้งกันก็จะต้องปรึกษาคุณหมอค่ะว่าควรรับ

00:01:27 → 00:01:29 ประทานอาหารมากหรือน้อยเกินไปก็อาจจะมีผล

00:01:29 → 00:01:31 ต่อการแพแพ้ได้ค่ะและสาเหตุที่เกิดการแพ้

00:01:31 → 00:01:34 ถั่วตอนโตเกิดจากสาเหตุไหนครับถ้าแพ้ตอน

00:01:34 → 00:01:36 โตเนี่ยก็มีหลายปัจจัยเกิดขึ้นค่ะทั้ง

00:01:37 → 00:01:39 พันธุกรรมเองทั้งภูมิคุ้มกันในร่างกายเอง

00:01:39 → 00:01:43 ค่ะหรือมีการได้รับการกระตุ้นนะคะจากสิ่ง

00:01:43 → 00:01:46 แวดล้อมเช่นมีรายงานว่ามีการแพ้พวกกลุ่ม

00:01:46 → 00:01:48 ของระอองเกสรบางตัวที่มีโปรตีนคล้ายกับใน

00:01:48 → 00:01:51 ถั่วค่ะเราก็สามารถแพ้ระอองเกสรแล้วก็มา

00:01:51 → 00:01:53 แพ้ถั่วหลังจากนั้นได้เช่นเดียวกันเพราะ

00:01:53 → 00:01:55 มีโปรตีนที่หน้าตาคล้ายกันค่ะร่างกายเรา

00:01:55 → 00:01:57 ไม่รู้ว่าโปรตีนเหล่านี้มาจากไหนแต่ถ้า

00:01:57 → 00:01:59 รับโปรตีนเหล่านี้เข้าไปก็สามารถเกิด

00:01:59 → 00:02:02 อาการได้ค่ะถ้าเรามีอาการแพ้ถั่วชนิดใด

00:02:02 → 00:02:04 ชนิดหนึ่งเราจะมีโอกาสที่จะแพ้ถั่วชนิด

00:02:04 → 00:02:07 อื่นด้วยมครับในการแพ้ถั่วนะคะเกิดจากการ

00:02:07 → 00:02:09 ที่เราแพ้โปรตีนในถั่วค่ะซึ่งโปรตีนใน

00:02:09 → 00:02:12 ถั่วที่ทำให้แพ้เนี่ยก็มีมากกว่าประมาณ

00:02:12 → 00:02:15 7-8 10% ในโปรตีนในถั่วเลยนะคะแต่ว่า

00:02:15 → 00:02:17 โปรตีนที่เราแพ้ในแต่ละตัวเนี่ยก็จะแตก

00:02:17 → 00:02:20 ต่างกันไปตามแต่ละบุคคลค่ะเพราะฉะนั้นคน

00:02:20 → 00:02:22 ที่แพ้ถั่วบางชนิดในกลุ่มเดียวกันเช่นคน

00:02:22 → 00:02:25 ที่แพ้เมม่วงหินมพานก็อาจจะมีโอกาสแพ้

00:02:25 → 00:02:27 ถั่วอื่นที่เป็นถั่วเปือกแข็งในกลุ่ม

00:02:27 → 00:02:30 เดียวกันได้ส่วนคนที่แพ้พวกถั่วเปลือก

00:02:30 → 00:02:32 อ่อนเช่นถั่วแดงถั่วเขียวก็อาจจะแพ้กลุ่ม

00:02:32 → 00:02:34 เดียวกันได้เช่นเดียวกันค่ะแล้วที่เขาบอก

00:02:34 → 00:02:37 ว่าถั่วเปลือกแข็งถั่วลิสงและถั่วเหลือง

00:02:37 → 00:02:39 เป็นถั่วที่คนมักจะแพ้กันจริงมั้ครับจริง

00:02:40 → 00:02:42 ค่ะถั่วเปลือกแข็งจริงๆมีหลายตัวนะคะก็

00:02:42 → 00:02:44 ที่กล่าวไปแล้วซึ่งคนที่แพ้ในกลุ่มเปลือก

00:02:44 → 00:02:47 แข็งเองอ่ะโอกาสที่จะแพ้ถั่วลิสงอ่ะน้อย

00:02:47 → 00:02:49 แต่อย่างเช่นคนแพ้เมมะม่วงหิมพานน่ะจะมี

00:02:49 → 00:02:52 โอกาสแพ้พิตาชิโอสูงมากส่วนถั่วลิสงถั่ว

00:02:52 → 00:02:54 เหลืองก็จะเป็นอยู่กลุ่มในกันก็จะมีการ

00:02:54 → 00:02:56 แพ้ข้ามชนิดถั่วนะคะก็มีโอกาสที่จะแพ้ได้

00:02:57 → 00:02:59 ในอนาคตถ้าเขาเคยแพ้ถั่วมาแล้ว 1 ชนิด

00:02:59 → 00:03:01 สำหรับถั่วที่ที่มีการแปรรูปหรือเปลี่ยน

00:03:01 → 00:03:04 สภาพไปแล้วจะส่งผลต่อการแพ้ด้วยั้ครับการ

00:03:04 → 00:03:06 เปลี่ยนสภาพของอาหารนะคะก็จะมีผลต่อการ

00:03:06 → 00:03:09 แพ้ของอาหารด้วยขึ้นอยู่กับว่าโปรตีนที่

00:03:09 → 00:03:10 ทำให้แพ้เนี่ยค่ะถูกกำจัดไปหรือเปล่า

00:03:11 → 00:03:12 อย่างเช่นกรณีของน้ำมันถั่วเหลืองเนี่ย

00:03:12 → 00:03:14 โปรตีนจะถูกกำจัดไปเพราะฉะนั้นคนที่แพ้

00:03:14 → 00:03:16 ถั่วเหลืองก็จะไม่แพ้น้ำมันถั่วเหลืองแต่

00:03:16 → 00:03:18 ถ้าถั่วเหลืองหรือถั่วลิส่งนั้นถูกแปรรูป

00:03:18 → 00:03:22 แต่ยังมีโปรตีนของถั่วอยู่เช่นถั่วผงถั่ว

00:03:22 → 00:03:24 ที่ถูกทำให้โมเลกุลเล็กลงก็ยังยังมี

00:03:24 → 00:03:27 โปรตีนอยู่ค่ะหรือว่าถั่วที่เอาไปทำให้

00:03:27 → 00:03:30 มันเป็นเพสเป็นเหนียวๆหนืดๆอย่างเงี้ยค่ะ

00:03:30 → 00:03:31 อันนั้นก็ยังสามารถทำให้แพ้อยู่เพราะว่า

00:03:31 → 00:03:34 โปรตีนยังยังมีอยู่ค่ะอาการแพ้ถั่ว

00:03:34 → 00:03:36 อันตรายมั้ครับคือถ้าระดับรุนแรงมีโอกาส

00:03:36 → 00:03:38 ทำให้เสียชีวิตได้ค่ะเรียกว่า

00:03:38 → 00:03:40 anaphylactic Shock ก็คือทานเข้าไประยะ

00:03:40 → 00:03:43 เวลาไม่นานนะค่ะก็อาจจะเกิดอาการเช่นหลอด

00:03:43 → 00:03:45 ลมตีบก็ทำให้หายใจไม่ออกค่ะแล้วก็ถึงขั้น

00:03:45 → 00:03:48 เสียชีวิตได้ถ้าไม่นำส่งโรงพยาบาลหรือว่า

00:03:48 → 00:03:51 ไม่มีการ่าฉีดยาที่เกี่ยวข้องแต่ถ้าเป็น

00:03:51 → 00:03:54 ระดับที่ทั่วไปก็อาจจะแค่เกิดผื่นนะคะปัก

00:03:54 → 00:03:58 บวมบ้างน้ำตาไหลแต่ก็จะหายไปในระยะเวลา

00:03:58 → 00:04:01 ไม่นานค่ะดังนั้นอาจารย์มีคำแนะนำสำหรับ

00:04:01 → 00:04:04 กลุ่มคนที่แพ้ถั่วไว้แบบนี้ครับผู้บริโภค

00:04:04 → 00:04:07 เนี่ยเวลาไปตามร้านอาหารนะคะบางทีพนักงาน

00:04:07 → 00:04:10 เสิร์หรือว่าคนที่ผลิตหน้าร้านนะคะเขาอาจ

00:04:10 → 00:04:12 จะไม่ได้ทราบทองค์ประกอบแน่ชัดเพราะ

00:04:12 → 00:04:15 ฉะนั้นอยากจะให้มีการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับ

00:04:15 → 00:04:18 องค์ประกอบที่สำคัญน่ะค่ะแก่พนักงานนะคะ

00:04:18 → 00:04:21 แล้วก็ผู้บริโภคเองถ้าแพ้รุนแรงก็อาจจะ

00:04:21 → 00:04:23 หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้านที่

00:04:23 → 00:04:25 ไม่สามารถระบุองค์ประกอบได้นะคะบางครั้ง

00:04:25 → 00:04:27 เนี่ยองค์ประกอบเหล่าเนี้ยเราไม่สามารถ

00:04:27 → 00:04:29 เห็นได้ด้วยตาอาจจะมีการปนเปื้อนเป็น

00:04:29 → 00:04:31 ภาชนะหรืออยู่ในซอร์สอะไรต่างๆค่ะซึ่งผู้

00:04:31 → 00:04:35 บริโภคควรจะสอบถามผู้ผลิตหรือผู้ทำอาหาร

00:04:35 → 00:04:37 ค่ะว่ามีองค์ประกอบเหล่านี้ผสมอยู่หรือ

00:04:37 → 00:04:40 เปล่าค่ะรู้ข้อจำกัดหลีกเลี่ยงสาเหตุการ

00:04:40 → 00:04:43 แพ้ป้องกันไว้ก่อนเกิดอันตรายนะครับทรง

00:04:43 → 00:04:46 เรื่องน่าสงสัยแจ้งเตือนภัยข้อมูลเท็จ

00:04:46 → 00:04:48 เพียงแอด Line ศูน์ชัวร์ก่อนแชร์ไว้นะ

00:04:48 → 00:04:51 ครับเข้าไปที่เพิ่มเพื่อนแล้วค้นหา @s แอ

00:04:51 → 00:04:54 Share ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยบน

00:04:54 → 00:04:56 สังคมออนไลน์หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่ง

00:04:56 → 00:04:58 แชร์ต่อร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับชั่วก่อน

00:04:58 → 00:05:01 แชร์ M