00:00:04 → 00:00:42 [เพลง]
00:00:44 → 00:00:47 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:47 → 00:00:52 การโรงหมอกานต์สุรีย์พรวงสถิตพรค่ะเอสทช์
00:00:52 → 00:00:55 first class
00:00:55 → 00:00:57 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:57 → 00:01:00 การโรงหมอทาง Thai PBS podcast ค่ะพบ
00:01:00 → 00:01:03 กันเช่นเคยนะคะเอาล่ะวันนี้มีเรื่องวัน
00:01:03 → 00:01:06 นี้ไม่รู้ว่าจะแบบดูฟังแล้วซีเรียสกัน
00:01:06 → 00:01:09 หรือเปล่านะเพราะว่าอันนี้คือเห็นจากข่าว
00:01:09 → 00:01:14 ดูจากข่าวแล้วก็มีข่าวแบบนี้ทุกวันทุกวัน
00:01:14 → 00:01:16 จนรู้สึกว่าเอ้ยสงสัยเราต้องเอาเรื่องนี้
00:01:16 → 00:01:20 มาคุยบ้างแล้วนะคะในอีกแง่มุมหนึ่งที่
00:01:20 → 00:01:24 คนที่ต้องเผชิญกับคนที่เขาติดยาเสพติดคือ
00:01:24 → 00:01:26 เป็นคนในครอบครัวแหละนะคะแล้วติดยาเสพติด
00:01:26 → 00:01:30 คนในบ้านเนี่ยเขาต้องเผชิญกับหลายๆอย่าง
00:01:30 → 00:01:32 นะคะทั้งเรื่องของอารมณ์ทั้งเรื่องของ
00:01:32 → 00:01:35 เหตุการณ์ต่างๆนะคะบางครอบครัวก็ต้อง
00:01:35 → 00:01:38 เผชิญกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายก็มีก็เลยรู้
00:01:38 → 00:01:40 สึกว่าเรื่องนี้เนี่ยน่าจะมาคุยกันเนาะ
00:01:40 → 00:01:43 เผื่อว่าอาจจะมีบางครอบครัวที่ฟังรายการ
00:01:43 → 00:01:45 ของเราวันนี้กันอยู่แล้วอาจจะกำลังอยู่ใน
00:01:45 → 00:01:47 ภาวะแบบนี้เอ๊ะเราจะทำตัวเองยังไงให้มัน
00:01:47 → 00:01:48 รู้สึกว่า
00:01:48 → 00:01:51 ถ้าเราต้องเผชิญเนี่ยทำยังไงได้บ้างนะคะ
00:01:51 → 00:01:53 กับสิ่งที่จะเจอวันนี้เราจะคุยกับ
00:01:53 → 00:01:56 ด็อกเตอร์สุวุฒิวงศ์ทางสวัสดิ์นะ
00:01:56 → 00:01:58 จิตวิทยาการศึกษาค่ะสวัสดีค่ะคุณเอิ้นค่ะ
00:01:58 → 00:02:01 สวัสดีครับคุณผู้ฟังเรื่องนี้
00:02:01 → 00:02:04 พูดยากใช่ไหมยากครับผมรู้เลยว่าเรื่องนี้
00:02:04 → 00:02:07 พูดยากจริงๆแต่ไม่เป็นไรก็เรามาชวนคุยชวน
00:02:07 → 00:02:09 เรียนรู้กันครับคือคืออยากจะให้เป็น
00:02:09 → 00:02:12 ลักษณะของคนที่ต้องอยู่ในครอบครัวเราต้อง
00:02:12 → 00:02:15 เผชิญว่ามีคนอยู่ในบ้านเนี่ยเป็นผู้ติดยา
00:02:15 → 00:02:18 นะคะแน่นอนไม่มีความสุขหรอก
00:02:18 → 00:02:21 มันมีแต่ความทุกข์อ่ะใช่ครับถ้าในระดับ
00:02:21 → 00:02:24 ที่คนที่อยู่ในบ้านติดยาในระดับลึกๆเข้า
00:02:24 → 00:02:30 ไปแล้วเนี่ยโอ้โหมันมันกังวลใช่ๆครับแล้ว
00:02:30 → 00:02:32 จะทำยังไงในเมื่อเราต้องอยู่อย่างนี้แล้ว
00:02:32 → 00:02:35 มันมันบั่นทอนสุขภาพจิตนะไม่ได้เสพด้วยนะ
00:02:35 → 00:02:39 แต่ฉันต้องแบบระแวดระวังฉันต้องกลัวฉัน
00:02:39 → 00:02:42 ต้องอยู่อย่างหวาดผวาอะไรอย่างเงี้ยใช่
00:02:42 → 00:02:44 ครับเพราะจริงๆความทุกข์ของการที่เรามีคน
00:02:44 → 00:02:47 ในบ้านเสพยาหรือว่าติดยาเนอะมันจะมีความ
00:02:47 → 00:02:50 ทุกข์อยู่ 3 อย่างอะไรอย่างนี้ครับอย่าง
00:02:50 → 00:02:52 แรกคือด้วยความที่เรารักเขามากๆก็อาจจะ
00:02:52 → 00:02:56 เป็นโรคเราเป็นพี่น้องเราอะไรก็ตามเป็น
00:02:56 → 00:02:57 ญาติเราที่รู้สึกว่ารักผูกพันเงี้ยครับ
00:02:57 → 00:03:01 มันจะมีความทุกข์จากการรู้สึกเป็นห่วงเรา
00:03:01 → 00:03:04 อยากให้เขาหยุดเราอยากให้เขาเลิกแต่เขา
00:03:04 → 00:03:06 ไม่เลิกหรือเขาอาจจะคล้ายๆติดงอมแงมอะไร
00:03:06 → 00:03:08 อย่างเงี้ยครับหรือเข้าขั้นแบบคล้ายๆเสพ
00:03:08 → 00:03:10 ติดไปแล้วครับอันนี้มันจะกลายเป็นความรู้
00:03:10 → 00:03:12 สึกทุกข์ที่คล้ายๆเราเห็นคนที่เรารัก
00:03:12 → 00:03:14 เนี่ยอยู่ในจุดของวังวนของหายนะตรงนี้
00:03:14 → 00:03:17 นั่นคือความทุกข์แบบแรกแบบที่ 2 เนี่ยมัน
00:03:17 → 00:03:19 เป็นเขาเรียกว่าเกิดความขัดแย้งเกิดการ
00:03:19 → 00:03:22 ทะเลาะเบาะแว้งในบ้านซึ่งมันอาจจะขยายมา
00:03:22 → 00:03:24 จากการเป็นห่วงนี่แหละในข้อที่ 1 พอเรา
00:03:24 → 00:03:26 เป็นห่วงมากปั๊บเราก็จะพยายามอยากบอกให้
00:03:26 → 00:03:28 หยุดอยากให้เลิกบางทีมันก็จะกลายเป็น
00:03:28 → 00:03:30 อารมณ์ที่มันทะเลาะกันเพราะว่าฝั่งนึงก็
00:03:30 → 00:03:33 บอกฉันจะเสพอีกฝั่งนึงบอกอยากให้หยุดอะไร
00:03:33 → 00:03:35 อย่างนี้ครับมันก็กลายเป็นการทะเลาะแล้ว
00:03:35 → 00:03:37 เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีบรรยากาศก็ไม่ดี
00:03:37 → 00:03:40 ในบ้านอย่างที่ 3 คือคนเสพยาอย่างเงี้ย
00:03:40 → 00:03:44 ครับเรียกว่าหลอนหรือพฤติกรรมเปลี่ยนหรือ
00:03:44 → 00:03:46 เรียกว่าสร้างความวุ่นวายเดือดร้อนรำคาญ
00:03:46 → 00:03:49 ทีนี้มันจะไม่ใช่เป็นเรื่องของความรักและ
00:03:49 → 00:03:52 แต่มันจะเป็นความรู้สึกว่าคนที่เสพยา
00:03:52 → 00:03:55 เนี่ยเป็นภัยและเป็นสิ่งที่รบกวนรำคาญ
00:03:55 → 00:03:58 สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเราหรือไม่
00:03:58 → 00:04:01 ใช่แค่กับเราเนาะคนเสพยาเนี่ยอาจจะไปมี
00:04:01 → 00:04:04 พฤติกรรมหลอนหรือทำร้ายคนอื่นนอกบ้านแล้ว
00:04:04 → 00:04:08 ก็กลายเป็นว่าเอ่อคนข้างนอกก็จะตามมาบอก
00:04:08 → 00:04:11 ว่าทำไมญาติไม่ดูแลตำรวจมาก็อาจจะบอกว่า
00:04:11 → 00:04:14 ต้องให้ญาติดูแลนะย่าต้องพาไปบำบัดนะแต่
00:04:14 → 00:04:17 บางทีตัวญาติเองอ่ะครับอาจจะไม่ได้มีความ
00:04:17 → 00:04:20 พร้อมที่จะพาไปหรืออาจจะไม่ได้มีกำลังไม่
00:04:20 → 00:04:23 มีคนช่วยหรืออาจจะไม่ได้มีเวลาเพราะตัว
00:04:23 → 00:04:26 เองต้องทำมาหากินและยิ่งถ้าเกิดเราพูดถึง
00:04:26 → 00:04:30 ระบบของการดูแลทางสุขภาพทางสาธารณสุขผมก็
00:04:30 → 00:04:32 ไม่ได้คิดว่าการที่เราจะแจ้งหน่วยอะไรก็
00:04:33 → 00:04:35 ตามที่จะให้เข้ามาช่วยดูแลเราเรื่องนี้จะ
00:04:35 → 00:04:38 สามารถตอบรับหรือตอบสนองได้ทันทีบางทีมัน
00:04:38 → 00:04:40 ต้องรอคิวบางทีออกคิวมันเยอะเจ้าหน้าที่
00:04:40 → 00:04:43 ไม่พอหรือว่าแม้กระทั่งเตียงที่ว่างที่จะ
00:04:43 → 00:04:46 แบบเอาไปแอดมิดก็ไม่มีอย่างเงี้ยครับผม
00:04:46 → 00:04:48 ว่าอันนี้มันเลยทำให้เรียกว่าเคราะห์เนาะ
00:04:48 → 00:04:51 เคราะห์ตกไปอยู่กับคนในบ้านที่ที่เรียก
00:04:51 → 00:04:54 ว่ามีคนในมีคนในบ้านตัวเองเนี่ยเสียบยา
00:04:54 → 00:04:57 แล้วเขาจะอยู่ตรงกลางระหว่างความกดดันของ
00:04:57 → 00:04:59 คนที่เสพยาแล้วก็มีปัญหา
00:04:59 → 00:05:02 สังคมก็กดดันเขาตัวเขาก็ไม่มีทางออกผมว่า
00:05:02 → 00:05:04 คนที่อยู่ในบ้านตรงเนี้ยในฐานะผู้รับ
00:05:04 → 00:05:07 เคราะห์อันนี้แบบน่าเห็นใจมากครับก็เข้า
00:05:07 → 00:05:10 ใจเพราะว่าคือจากที่เห็นข่าวเนาะคือของคน
00:05:10 → 00:05:15 ที่เสพยาติดยาน่ะเขาไม่ได้เสพรับพึ่งเสพ
00:05:15 → 00:05:18 แล้วอาการมันต้องมีระยะเวลาในการเสพมาพอ
00:05:18 → 00:05:21 สมควรถึงได้เพิ่มสเต็ปของความเอ่อหลอน
00:05:21 → 00:05:24 ความวิตกกังวลของคนในครอบครัวเนี่ยมัน
00:05:24 → 00:05:27 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะมันค่าก้าวข้ามความ
00:05:27 → 00:05:31 ที่แบบไม่ฟังละเตือนแล้วไม่ฟังละห้ามไม่
00:05:31 → 00:05:32 ได้แล้ว
00:05:32 → 00:05:35 ไปสู่ Step ตรงนู้นแล้วคนในครอบครัวเอง
00:05:35 → 00:05:39 นี่แหละจะเป็นพ่อแม่พี่น้องหรืออะไรก็
00:05:39 → 00:05:42 แล้วแต่ความสุขมันไม่มีในครอบครัวแล้วใช่
00:05:42 → 00:05:46 ครับแล้วก็ไม่มีใครที่อยากจะเสี่ยง
00:05:46 → 00:05:50 ที่จะไปทำอะไรแบบนั้นหรือไปเตือนหรือไป
00:05:50 → 00:05:54 บอกเพราะว่าเหตุการณ์มันดูเลวร้ายลงไปใน
00:05:54 → 00:05:57 หลายๆครั้งจะมีปัญหาทั้งเรื่องสมองเนาะ
00:05:57 → 00:05:59 วิธีคิดอะไรก็ตามมันเหมือนกับว่ายาเสพติด
00:05:59 → 00:06:01 มันเข้าไปทำลายสมองทำลายระบบประสาทนะครับ
00:06:01 → 00:06:04 เพราะงั้นเขาจะไม่ได้คุยกับเราบนชั้นของ
00:06:04 → 00:06:07 เหตุผลปกติเหมือนที่เราคุยกันแต่เขาจะรู้
00:06:07 → 00:06:10 สึกว่าถ้าขาดยาถ้าไม่ได้เสพมันจะเป็นความ
00:06:10 → 00:06:12 รู้สึกทุกข์ร้อนรู้สึกแบบลงแดงอะไรก็ตาม
00:06:12 → 00:06:14 ที่เราเคยใช้คำนี้เนาะ
00:06:14 → 00:06:17 แล้วมันจะกลายเป็นการใช้สัญชาตญาณมากกว่า
00:06:17 → 00:06:20 ที่ใช้เหตุผลนะครับพอรู้สึกว่าถูกขัดขวาง
00:06:20 → 00:06:22 ปั๊บคนที่ขัดขวางเขาจะกลายเป็นศัตรูทันที
00:06:22 → 00:06:25 ต่อให้จะเป็นคนในครอบครัว
00:06:25 → 00:06:28 กำลังใช้สัญชาตญาณที่มันเป็นเรื่องของการ
00:06:28 → 00:06:31 ที่อยากจะได้สิ่งเนี้ยมาตอบสนองตนมันเป็น
00:06:31 → 00:06:35 มันเป็นการเรียกว่าตัดวงจรความรักตัดวงจร
00:06:35 → 00:06:38 ความผูกพันตัดวงจรความเป็นเหตุเป็นผลทิ้ง
00:06:38 → 00:06:46 ไป
00:06:46 → 00:07:38 [เพลง]
00:07:38 → 00:07:41 ทุบตีบ้างหรืออะไรก็ตามที่คนที่จะเข้าไป
00:07:41 → 00:07:43 ห้ามเพราะงั้นอันนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่อง
00:07:43 → 00:07:45 ที่ยากและเราก็พูดยากจริงๆเพราะว่าถ้า
00:07:45 → 00:07:47 เป็นเราเองอ่ะครับเราก็รู้ดีว่าเราอาจจะ
00:07:47 → 00:07:50 แบบเป็นตาสีตาสาชาวบ้านเราจะมีแรงมีกำลัง
00:07:50 → 00:07:54 อะไรนะที่จะสามารถไปแบบไปล็อคตัวไปคุมตัว
00:07:54 → 00:07:56 อย่างเงี้ยครับสมมุติว่ากันไปนะถ้าคุมตัว
00:07:56 → 00:07:59 ได้แล้วยังไงต่อผมยังนึกไม่ออกเหมือนกัน
00:07:59 → 00:08:02 นะสมมุติถ้าผมนึกออกว่าผมคุมตัวปึ๊บแล้ว
00:08:02 → 00:08:05 ผมมีติดต่อใครเราอาจจะมีสายด่วนเนาะสาย
00:08:05 → 00:08:08 ด่วนที่แบบสามารถโทรได้แต่เขาจะสามารถรอง
00:08:08 → 00:08:10 รับเราได้ไหมอันนี้ก็แล้วแต่อีกเรื่องนึง
00:08:10 → 00:08:12 แล้วว่าทางหน่วยงานภาครัฐหรือทางสถาน
00:08:12 → 00:08:15 พยาบาลนั้นน่ะเขามีกำลังคนแล้วมีความ
00:08:15 → 00:08:16 พร้อมมันจะเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้หรือ
00:08:16 → 00:08:20 เปล่าอืมเราไม่ได้อยากจะไปโทษระบบหรือ
00:08:20 → 00:08:23 อะไรพวกนี้นะคือเพราะว่ามันจำนวนเนี่ยคน
00:08:23 → 00:08:26 ที่ติดยาหรืออะไรเงี้ยมันมันมีเยอะขึ้นนะ
00:08:27 → 00:08:30 คะเออระบบการดูแลสารวัตรเราเนี่ยคือจริงๆ
00:08:30 → 00:08:33 ดีจริงๆดีแต่ว่าในในการที่ถ้าเกิดว่าไม่
00:08:33 → 00:08:37 ถึงเกณฑ์หรือไม่ได้แบบว่าไปก่อเหตุอะไร
00:08:37 → 00:08:39 ที่มันร้ายแรงหรืออะไรเงี้ยเอ้ยมันเข้า
00:08:39 → 00:08:41 ระบบได้หรือเปล่าอ่าใช่ครับเพราะส่วนใหญ่
00:08:41 → 00:08:43 อ่ะถ้าเกิดสมมุติว่าเราอ่ะอันนี้เท่าที่
00:08:43 → 00:08:46 ที่รู้เบื้องต้นคืออยู่ๆอยากจะส่งเข้าอ่ะ
00:08:46 → 00:08:48 ไม่ได้นะ
00:08:48 → 00:08:52 มันต้องมีเหตุแล้วก็นำส่งโดยเจ้าหน้าที่
00:08:52 → 00:08:55 คือไม่ใช่แค่เรื่องเหตุนะผมว่าจริงๆความ
00:08:55 → 00:08:59 พร้อมของตัวเจ้าหน้าที่ก็สำคัญเคยเคยเห็น
00:08:59 → 00:09:03 ในบางที่ที่เป็นเอกชนนะคะที่เขารับคน
00:09:03 → 00:09:06 เหล่านี้ไปบำบัดค่าใช้จ่ายสูงมากเลยนะสูง
00:09:06 → 00:09:08 มากสูงมากครับสูงจนแบบ
00:09:08 → 00:09:12 แล้วจะยังไงอ่ะคือมันโอเคไหมคือเพราะว่า
00:09:12 → 00:09:15 ตอนนี้มันเป็นลักษณะว่าอ่ะเอาไปบำบัด
00:09:15 → 00:09:18 ช่วงที่ไม่อยู่กับครอบครัวเนี่ยคนใน
00:09:18 → 00:09:21 ครอบครัวก็รู้สึกว่าโล่งใจใช่ไหมก็แบบดู
00:09:21 → 00:09:25 มีความสุขขึ้นแต่พอบำบัดเสร็จยังไงเขาก็
00:09:25 → 00:09:27 ต้องส่งกลับมาที่บ้านน่ะใช่ครับแล้วอยู่
00:09:27 → 00:09:30 สิ่งแวดล้อมเดิมเหมือนเดิม
00:09:30 → 00:09:33 ก็ไม่พ้นกลับเข้าไปในวงจรเดิมเสร็จยาใหม่
00:09:33 → 00:09:37 ลูกจะยังไงได้บ้างมันคือจะไปผลักดันให้
00:09:37 → 00:09:40 เขาไปอยู่ในโรงพยาบาลหรือสถานบำบัดเลย
00:09:40 → 00:09:43 อย่างเดียวมันเขาก็รองรับไม่ได้หรอกใช่
00:09:43 → 00:09:45 ไหมคะใช่
00:09:45 → 00:09:48 ครับต้องบอกว่าเรากำลังพูดถึงการแก้ปัญหา
00:09:48 → 00:09:50 ปลายเหตุแล้วนะ
00:09:50 → 00:09:53 ซึ่งต้องบอกว่าทุกวันนี้ทุกวันนี้เรา
00:09:53 → 00:09:56 กำลังอยู่กับการแก้ปัญหาไปค่อนข้างเยอะ
00:09:56 → 00:09:58 ถ้าถามว่าทำไมเพราะว่าเราแก้ต้นเหตุยาก
00:09:58 → 00:10:02 เหลือเกินเอาจริงๆนะผมผมว่าทุกคนเรื่อง
00:10:02 → 00:10:04 นี้ถ้าเราคล้ายๆเปิดใจคุยกันผมว่าทุกคน
00:10:04 → 00:10:06 รู้แหละว่าปัญหามันอยู่ที่ต้นเหตุบาง
00:10:06 → 00:10:10 อย่างซึ่งต้นเหตุมันเหมือนกับว่าจะทำยัง
00:10:10 → 00:10:13 ไงนะให้สังคมเราไม่มียาเสพติดอย่างนี้
00:10:13 → 00:10:15 ครับผมว่าคนเรามันอยากรู้อยากลองมาเป็น
00:10:15 → 00:10:17 ธรรมชาติแต่เพียงแค่ว่าระบบการบริหาร
00:10:17 → 00:10:21 เนี่ยครับเราจะมีมุมมองต่อเรื่องการป้อง
00:10:21 → 00:10:24 ปรามไม่ให้ปัญหาสุขภาพเกิดขึ้นยังไงจริงๆ
00:10:24 → 00:10:26 เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของยาเสพติด
00:10:26 → 00:10:28 นะสมมุติผมลองเปรียบเทียบเป็นด้านสุขภาพ
00:10:28 → 00:10:31 ด้านอื่นแล้วกันสมมุติถ้าผมพูดว่ายาเสพ
00:10:31 → 00:10:34 ติดในปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งผมลองยกตัว
00:10:34 → 00:10:35 อย่างเป็นปัญหาสุขภาพอื่นก็ได้อย่างเช่น
00:10:35 → 00:10:36 คนเป็นโรคไต
00:10:36 → 00:10:39 โรคไตไม่ใช่ยาเสพติดนะไม่ได้ฟังจากยาเสพ
00:10:39 → 00:10:41 ติดถูกมั้ยฮะหรืออาจจะมีผมก็ไม่รู้แต่ว่า
00:10:41 → 00:10:43 ตายเนี่ยบางทีมันเป็นเรื่องของความเสื่อม
00:10:43 → 00:10:46 หรือแม้กระทั่งการบริโภคที่ไม่ถูกต้องถูก
00:10:46 → 00:10:49 ไหมครับเมื่อบริโภคไม่พบไม่ถูกต้องปั๊บไต
00:10:49 → 00:10:52 พังสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรฮะฟอกไตค่าใช้
00:10:52 → 00:10:54 จ่ายทำงานไม่ได้วิถีชีวิตพัง
00:10:54 → 00:10:58 แล้วเราก็มานั่งแก้ปัญหาไปเหตุเปลี่ยนไป
00:10:58 → 00:11:01 บ้างบุกถ่ายไตบ้างแต่ถ้าเราแก้ที่ต้นเหตุ
00:11:01 → 00:11:03 ได้หมายความว่าถ้าเรามีการปรับ
00:11:03 → 00:11:05 พฤติกรรมการบริโภคตั้งแต่แรกที่ไม่กิน
00:11:05 → 00:11:09 เค็มเกินไปรวมถึงคล้ายๆอาจจะคล้ายๆในระบบ
00:11:09 → 00:11:11 ประเทศของเราสร้างเสริมสุขนิสัยในการทาน
00:11:11 → 00:11:14 อาหารลดไม่จัดมากหรืออาจจะแบบบางประเทศ
00:11:14 → 00:11:18 เขาแก้ปัญหาด้วยการมีภาษีภาษีของหวานหรือ
00:11:18 → 00:11:21 สีของเค็มเพื่อลดให้ผู้ประกอบการอะไรก็
00:11:21 → 00:11:24 ตามเนี่ยลดปริมาณความเค็มความหวานลงตอน
00:11:24 → 00:11:27 นี้ก็เห็นผลักดันอยู่นะแต่ถามเป็นจริงไหม
00:11:27 → 00:11:29 อีกเรื่องนึงเพราะเรื่องนี้สุดท้ายจะ
00:11:29 → 00:11:30 เกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์เม็ดเงิน
00:11:30 → 00:11:33 จริงๆต้องบอกว่าเรื่องยาเสพติดก็เกี่ยว
00:11:33 → 00:11:36 ข้องกับผลประโยชน์เม็ดเงิน
00:11:36 → 00:11:38 อันนี้ผมไม่พลาดจริงนะแต่ผม
00:11:38 → 00:11:41 ว่านางมั่นใจว่าสุดท้ายมันก็เป็นเรื่อง
00:11:41 → 00:11:43 นี้แหละเพราะว่าทุกๆอย่างที่มันเกิดขึ้น
00:11:43 → 00:11:44 แล้วไม่มีปัญหามันเกี่ยวข้องกับผล
00:11:44 → 00:11:46 ประโยชน์หมดแหละครับไม่แต่เขาก็จะมองว่า
00:11:46 → 00:11:51 เริ่มต้นกับครอบครัวนั่นแหละอ่าก็ด้วยก็
00:11:51 → 00:11:53 ด้วยคือทีเนี้ยจะโทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็
00:11:53 → 00:11:56 ไม่ใช่เพราะว่าต่อให้สังคมเราแบบหายนะมาก
00:11:56 → 00:11:58 มียาเสพติดเยอะยังไงก็ตามก็ไม่ได้หมาย
00:11:58 → 00:12:00 ความว่าทุกคนจะเสพยาแสดงว่ามันก็จะมี
00:12:00 → 00:12:03 ปัจจัยบางอย่างในครอบครัวที่เรียกว่า
00:12:03 → 00:12:06 ครอบครัวอบอุ่นเข้มแข็งรักใคร่กันดีถูก
00:12:06 → 00:12:09 ไหมครับแต่ก็จะมีบางอย่างนะที่จริงๆแล้ว
00:12:09 → 00:12:12 ในครอบครัวนั้นเสพยากันเยอะมากแต่จะมีลูก
00:12:12 → 00:12:14 หลานบางคนที่คิดได้แล้วก็บอกว่าเฮ้ยฉัน
00:12:15 → 00:12:16 ไม่อยากเป็นแบบครอบครัวฉันฉันไม่อยากเป็น
00:12:16 → 00:12:19 แบบพ่อแม่พี่น้องฉันพิเศษยาหรือว่าค้ายา
00:12:19 → 00:12:22 ฉันอยากจะแบบสามารถตั้งตัวเป็นคนที่เชิด
00:12:22 → 00:12:24 หน้าจูตายในสังคมได้และอยู่ในด้านสว่าง
00:12:24 → 00:12:26 นั่นหมายความว่าจริงๆแล้วในสังคมเรามัน
00:12:26 → 00:12:29 หลากหลายมากครับคนที่แบบต่อให้ประวัติ
00:12:29 → 00:12:32 ครอบครัวดีสังคมดีก็สามารถหลุดเข้าด้าน
00:12:32 → 00:12:34 มืดได้หรือคนบางคนเกิดมาจากครอบครัวที่
00:12:34 → 00:12:38 ค่อนข้างมืดสุดขั้วก็สามารถเอาดีได้ไป
00:12:38 → 00:12:40 อยู่ในทางสว่างได้แต่ทีนี้ผมมองว่ามัน
00:12:40 → 00:12:43 ขึ้นอยู่กับว่าในระบบของการบริหารอย่าง
00:12:43 → 00:12:46 นี้ครับเราจะทำยังไงน้อเพื่อให้แบบอย่าง
00:12:46 → 00:12:49 น้อยมันตัดปัจจัยหรือตัดโอกาสที่คนที่
00:12:49 → 00:12:51 อ่อนแอหรือครอบครัวอ่อนแอเนี่ยจะหลุดเข้า
00:12:51 → 00:12:54 ไปในวังวนนั้นเพราะว่าสมมุติถ้าคนที่พื้น
00:12:54 → 00:12:56 ฐานจิตใจเข้มแข็งดีอย่างเงี้ยครับแล้วก็
00:12:56 → 00:12:58 รู้ว่าอะไรจะต้องเป็นยังไงนะฮะต่อให้มัน
00:12:58 → 00:13:00 มียาเสพติดมันอยู่ตรงหน้าเขาเขาก็เลือกจะ
00:13:00 → 00:13:03 ไม่ยุ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ระบบไม่ค่อยน่า
00:13:03 → 00:13:05 ห่วงเพราะเพราะเขาอยู่ได้ด้วยตัวเขาเอง
00:13:06 → 00:13:08 ต่อให้สังคมจะแย่จะมียาเสพติดรอบตัวยังไง
00:13:08 → 00:13:11 แต่เขาสามารถเอาตัวรอดด้วยความฝ่ายดีของ
00:13:11 → 00:13:13 เขาเองได้แต่จะมีคนบางกลุ่มที่อยากรู้
00:13:13 → 00:13:15 อยากลองบางคนก็เป็นเหยื่อยาเสพติดเพราะ
00:13:15 → 00:13:18 ลองลองเพราะเพื่อนเพื่อนชวนลองลองไปลองมา
00:13:18 → 00:13:20 ทีนี้ติดเออติดด้วยความแบบตอนแรกนึกว่าจะ
00:13:21 → 00:13:23 แบบเฮ้ยแค่ลองขำๆปรากฏชอบชอบปั๊บทีนี้
00:13:23 → 00:13:25 สมองมันเริ่มแบบคล้ายๆถูกทำลายหรือถูกทำ
00:13:25 → 00:13:28 ให้เชื่องถูกทำให้เสพติดกลายเป็นว่าออก
00:13:28 → 00:13:30 จากวังวนนั้นไม่ได้ทีนี้จะทำยังไงให้การ
00:13:30 → 00:13:32 เข้าถึงมันยากลงเพราะว่าถ้าการเข้าถึงมัน
00:13:32 → 00:13:35 ยากรู้สึกว่าเขาถึงยากอย่างนี้ครับมันก็
00:13:35 → 00:13:38 จะรู้สึกว่าเฮ้ยไม่มีอะไรได้เสพเขาก็จะไป
00:13:38 → 00:13:40 หาอย่างอื่นทำมาครับเพราะว่ามันมุ่งทาง
00:13:40 → 00:13:42 นี้ไม่ได้เพราะงั้นผมเลยมองว่าการลด
00:13:42 → 00:13:45 ปริมาณการลดจำนวนคนที่จะสามารถเข้าถึงยา
00:13:45 → 00:13:47 ได้ผมว่าอันนี้มันคือการแก้ปัญหาที่ต้น
00:13:47 → 00:13:51 เหตุเหมือนกันที่คนที่เป็นโรคไตโรคเบา
00:13:51 → 00:13:54 หวานแล้วแต่ถ้าเราสามารถลดพฤติกรรมการทาน
00:13:54 → 00:13:57 หวานทานเค็มได้หมายความว่าจำนวนผู้ป่วยคน
00:13:57 → 00:14:00 ที่เป็นโรคไตโรคเบาหวานก็จะน้อยลงอาจจะมี
00:14:00 → 00:14:04 อาจจะยังมีอยู่สำหรับกลุ่มคนที่คล้ายๆมี
00:14:04 → 00:14:06 ความผิดปกติทางพันธุกรรมหรืออาจจะมีความ
00:14:06 → 00:14:09 ไตบกพร่องแต่กำเนิดหรือคนบางคนอาจจะได้
00:14:09 → 00:14:12 รับพันธุกรรมเบาหวานมาหรือแบบมีปัญหาทาง
00:14:12 → 00:14:14 สุขภาพที่แบบเฮ้ยไม่เคยกินหวานไม่เคยอะไร
00:14:14 → 00:14:17 เลยแต่ว่าระบบการทำงานของอวัยวะบกพร่อง
00:14:17 → 00:14:19 ผู้ป่วยยังไงก็จะมีอยู่
00:14:19 → 00:14:21 แต่เพียงแค่ว่าจำนวนปริมาณผู้ป่วยจะน้อย
00:14:21 → 00:14:25 ลงและจะทำให้ๆว่าเอ่อระบบสุขภาพไม่ต้อง
00:14:25 → 00:14:28 รองรับผู้ป่วยที่มันล้นเกินไปก็จะได้เก็บ
00:14:28 → 00:14:30 กำลังเท่าที่จำเป็นเนี่ยสำหรับในการดูแล
00:14:30 → 00:14:34 ผู้ที่ป่วยจริงๆและต้องใช้แต่เราจะตัดผู้
00:14:34 → 00:14:36 ป่วยที่ไม่จำเป็นทิ้งไปเพราะงั้นเรื่องยา
00:14:36 → 00:14:38 เสพติดเช่นเดียวกันครับมันคงมีการเข้าถึง
00:14:38 → 00:14:41 แหละแต่ถ้าเรายิ่งคล้ายๆทำให้เข้าถึงยาก
00:14:41 → 00:14:43 มากเท่าไหร่อย่างนี้ครับเราจะสามารถลด
00:14:43 → 00:14:46 จำนวนผู้ป่วยได้น้อยลงหรือผู้ที่เสพยาและ
00:14:46 → 00:14:49 ติดยาต้องบำบัดได้น้อยลงไปอีกพอน้อยลงไป
00:14:49 → 00:14:52 หมายความว่ากำลังของระบบสุขภาพก็ยังพอมี
00:14:52 → 00:14:55 แรงเหลือที่จะเข้าไปเรียกว่า support
00:14:55 → 00:14:58 อย่างเช่นเคสที่เราบอกว่าเฮ้ยถ้าเกิดบ้าน
00:14:58 → 00:15:01 เราแบบมีคนเสพยาทำยังไงแล้วพอติดต่อไป
00:15:01 → 00:15:03 อ้าวไม่เข้าเกณฑ์ไม่เข้าเกณฑ์ไม่พอเนาะ
00:15:03 → 00:15:07 เหมือนกับว่ากำลังไม่พอเตียงเต็มอ่ะงั้น
00:15:07 → 00:15:10 บอกรอไปก่อนอย่างเงี้ยครับเอาทำยังไงแต่
00:15:10 → 00:15:12 ถ้าเกิดเขามีเตียงว่างเขามีความพร้อมนั่น
00:15:12 → 00:15:14 หมายความว่าบางทีเกมไม่ต้องตั้งสูงก็ได้
00:15:14 → 00:15:17 อ่ะแต่เป็นเกณฑ์ที่เห็นว่ามีแนวโน้มจะ
00:15:17 → 00:15:21 ยิ่งรุกลามบางทีเกณฑ์อาจจะถูกปรับต่ำลงก็
00:15:21 → 00:15:23 ได้ครับแล้วก็เลยถูกรับแอดมิดเพื่อบำบัด
00:15:23 → 00:15:26 ตั้งแต่เนิ่นๆแต่ทีนี้บางทีเกมตั้งสูง
00:15:26 → 00:15:30 เพราะบางทีระบบสุขภาพไม่พร้อมจะรับเพราะ
00:15:30 → 00:15:32 ยิ่งตั้งเกณฑ์ต่ำมากเท่าไหร่หมายความว่า
00:15:32 → 00:15:34 ระบบก็ต้องยิ่งรับมากเท่านั้นเขาก็เลย
00:15:34 → 00:15:36 พยายามตั้งให้มันน้อยให้มันสูงขึ้นเพื่อ
00:15:36 → 00:15:39 รับยากหน่อยจะได้ลดปริมาณจำนวนที่เขาจะ
00:15:39 → 00:15:42 ต้องแบกรับระบบสุขภาพในการดูแลคนผู้ป่วย
00:15:42 → 00:15:45 ยาเสพติดน่าสนใจตรงที่ว่าถ้าเกิดทำได้
00:15:45 → 00:15:48 ตั้งแต่ต้นทางมันน่าจะทำให้ลดปริมาณแล้ว
00:15:48 → 00:15:52 ก็ใช้ในเคสกรณีที่จำเป็นจริงๆแบบขั้นกว่า
00:15:52 → 00:15:55 เขาไปแล้วเลยแบบนี้มันจะได้ไม่ล้นมันจะ
00:15:55 → 00:15:57 ได้ไม่เยอะต้องบอกว่าอย่างนี้ครับอีกสิ่ง
00:15:57 → 00:15:59 หนึ่งที่เราอาจจะมองข้ามไปเราอาจจะคิดว่า
00:15:59 → 00:16:01 ระบบสุขภาพควรจะรับอะไรก็ได้ทั้งหมดนะ
00:16:01 → 00:16:05 ครับแต่แต่ผมจะยืนยันเสมอว่าในฐานะผมคนทำ
00:16:05 → 00:16:08 งานสายสุขภาพจิตมันจะมีความไหวไม่ไหวของ
00:16:08 → 00:16:10 เราอ่ะครับเรียกได้ว่ามีแรงหรือไม่มีแรง
00:16:11 → 00:16:13 ซึ่งต้องบอกว่าทุกวันเนี้ยผมสงสารคนใน
00:16:13 → 00:16:16 ระบบที่ทำงานสาธารณสุขมากเพราะเพราะต้อง
00:16:16 → 00:16:19 มานั่งแบบตามรั้งตามเช็ตปัญหาสุขภาพของคน
00:16:19 → 00:16:22 ในสังคมในขณะที่ตัวเองอ่ะครับในฐานะคน
00:16:22 → 00:16:24 ธรรมดาก็ต้องหล่อเลี้ยงความอยู่ดีมีสุข
00:16:24 → 00:16:27 ของเขาด้วยแต่ทีนี้เนี่ยพอปัญหาในระบบ
00:16:27 → 00:16:29 สุขภาพเยอะเราจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหมอ
00:16:29 → 00:16:33 ควงกะเคยได้ยินไหมฮะหมอบางคนควง 2 กะไม่
00:16:33 → 00:16:35 ได้นอน 24 ชั่วโมงซึ่งอันนี้มันเกิด
00:16:35 → 00:16:36 มนุษย์มานานไปแล้ว
00:16:36 → 00:16:40 ใช่ครับแต่ก็ต้องทำงานแบบเบลอๆทีนี้พอทำ
00:16:40 → 00:16:42 งานแบบเบลอๆหมายความว่าคุณภาพก็ตกต่ำลง
00:16:42 → 00:16:46 นอกจากคุณภาพตกต่ำลงไม่พอเนาะความรู้สึก
00:16:46 → 00:16:48 ว่าเรามีใจจะเอื้อเฟื้อจะน้อยลงไปด้วย
00:16:48 → 00:16:51 เพราะจุดที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที่
00:16:51 → 00:16:54 ครับร่างกายมันจะเริ่มฟ้องว่าเราต้องการ
00:16:54 → 00:16:57 อะไรบางอย่างเพื่อตัวเราเองความเป็นอก
00:16:57 → 00:16:58 เห็นใจหรือความพร้อมที่จะเอื้อเฟื้อผู้
00:16:58 → 00:17:00 อื่นมันจะหายไปด้วยความกล้าหรือความรู้
00:17:00 → 00:17:03 สึกอยากจะตัดทุกคนทิ้งมันจะเกิดขึ้นเพราะ
00:17:03 → 00:17:05 ฉะนั้นบางครั้งนะครับเมื่อระบบสุขภาพหรือ
00:17:05 → 00:17:08 แม้กระทั่งคนที่ทำงานด้านนี้อยู่ในจุดที่
00:17:08 → 00:17:09 รู้สึกว่าโอเวอร์โหลดแล้วเรียกว่า burn
00:17:09 → 00:17:12 Out รู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที่ฮะต่อให้คน
00:17:12 → 00:17:15 ตรงหน้าจะเดือดร้อนจะตายจะเป็นจะตายบ้าน
00:17:15 → 00:17:17 แบบโอ้โหจะแทงกันตายอยู่แล้วไงเขาจะเป็น
00:17:17 → 00:17:21 ยังไงความสนใจของเขามันจะน้อยลงเพราะเขา
00:17:21 → 00:17:23 รู้สึกว่าไม่ไหวอ่ะขอเอาตัวเองรอดก่อนนะ
00:17:23 → 00:17:26 เออคือถ้ามันไม่ไหวก็คือไม่ไหวจริงๆอ่ะ
00:17:26 → 00:17:29 การปฏิเสธมันจะเกิดขึ้นตรงนี้แหละคือคือ
00:17:29 → 00:17:31 ไปโทษเขาก็ไม่ได้ด้วยนะคือจะไปต่อว่าจะ
00:17:31 → 00:17:33 แบบอย่างเงี้ยเฮ้ยมันก็ไม่ได้เพราะว่าคุณ
00:17:33 → 00:17:37 ต้องดูก่อนว่าสิ่งที่เขาเผชิญมามันคือ
00:17:37 → 00:17:41 อะไรใช่ไหมไม่ใช่แบบก็ในฐานะที่เป็นหมอก็
00:17:41 → 00:17:45 ในฐานะที่อยู่งานสาธารณสุขก็ต้องสิถามว่า
00:17:45 → 00:17:48 ในขณะที่ทุกคนคาดหวังให้ฉันดูแลทุกคนแล้ว
00:17:48 → 00:17:51 ใครดูแลฉันบ้างเออมึงเมื่อความรู้สึกว่า
00:17:51 → 00:17:53 เขาถูกเอาเปรียบหรือว่าทุกคนใจดำกับเขา
00:17:53 → 00:17:56 เขาก็รู้สึกว่ามันจำเป็นต้องใจดีคนอื่น
00:17:56 → 00:17:58 เพราะว่าเขากำลังรู้สึกว่าคนอื่นก็ใจดำ
00:17:58 → 00:18:00 กับเขาเหมือนกันในขณะที่คนอื่นเขาว่าแบบ
00:18:00 → 00:18:02 คล้ายๆคนอื่นบอกว่าหมอใจดำ
00:18:02 → 00:18:05 หมอก็บอกอ้าวแล้วใครใจดีกับเราทุกคนก็ใจ
00:18:05 → 00:18:08 ดำกับผมเหมือนกันคือจะบอกว่าบางทีอาจเรา
00:18:08 → 00:18:10 อัดอันนี้แค่ยกเคสกรณีของของระบบ
00:18:10 → 00:18:12 สาธารณสุขที่มันเจอค่อนข้างเยอะนะคะแต่
00:18:12 → 00:18:14 ว่าจริงๆทุกอาชีพอ่ะมันเจออย่างนี้ได้หมด
00:18:14 → 00:18:17 นะประเภทที่คนใจดำกับกับเราอะไรอย่าง
00:18:17 → 00:18:21 เงี้ยแล้วก็เราก็เลยใจดำป่ะบางทีเราอาจจะ
00:18:21 → 00:18:24 ไม่ได้คิดที่จะอะไรตัวด้วยตัวเองก่อนน่ะ
00:18:24 → 00:18:27 อันนี้สังคมเราเป็นอย่างนี้นะเรามักจะ
00:18:27 → 00:18:29 เป็นสังคมของการพึ่งพา
00:18:29 → 00:18:33 หมอใช่ไหมตำรวจใช่ไหมเอออะไรอย่างเงี้ย
00:18:33 → 00:18:38 เออคุณต้องทำสิก็คุณเป็นคุณเป็นอันนี้คุณ
00:18:38 → 00:18:41 เป็นอันนี้ใช่ไหมคะซึ่งๆมันก็ใช่ผมก็ไม่
00:18:41 → 00:18:43 เสี่ยงข้อนี้นะแต่เพียงแค่ว่าอย่างที่บอก
00:18:43 → 00:18:47 อ่ะครับว่าการการบำรุงรักษาคนที่ทำอาชีพ
00:18:47 → 00:18:50 เนี้ยสำคัญมันไม่ได้หมายความว่าเขาเป็น
00:18:50 → 00:18:52 อาชีพนี้แล้วจะแบบโยนทุกอย่างไว้ให้เขา
00:18:52 → 00:18:54 ตามล้างตามเช็ดทั้งหมดเพราะเขาเป็นคน
00:18:54 → 00:18:57 ธรรมดาเหมือนเราที่เขามีกำลังจำกัดนะฮะมี
00:18:57 → 00:18:59 ชีวิตตัวเองที่ต้องดูแลเหมือนกันเพราะ
00:18:59 → 00:19:01 ฉะนั้นการการที่จะต้องมีระบบอะไรบางอย่าง
00:19:01 → 00:19:04 เพื่อช่วยทะนุถนอมผ่อนแรงเขาอันนี้สำคัญ
00:19:04 → 00:19:07 มากเพราะถ้าเขาถูกดูแลได้ดีเขาก็จะมีแรง
00:19:07 → 00:19:09 ในการเอื้อเฟื้อคนอื่นมีแดงในการที่จะ
00:19:09 → 00:19:11 ช่วยดูแลชีวิตผู้อื่นได้เหมือนกันมัน
00:19:11 → 00:19:14 เหมือนเครื่องมืออ่ะครับจะตัดหญ้าจะตัดผม
00:19:14 → 00:19:17 จะทำอะไรก็ตามถ้าเราบำรุงเครื่องมือไม่ดี
00:19:17 → 00:19:20 มันก็ใช้งานได้ไม่ดีแต่ถ้าเรามีเครื่อง
00:19:20 → 00:19:22 มือที่ดีเครื่องมือถูกบำรุงได้ดีเครื่อง
00:19:22 → 00:19:25 มือนั้นก็จะใช้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วก็
00:19:25 → 00:19:28 ใช้ได้อย่างยาวนานด้วยเพราะงั้นเช่นเดียว
00:19:28 → 00:19:31 กันครับคนที่ทำงานอาชีพตำรวจทำอาชีพหมอ
00:19:31 → 00:19:34 พยาบาลนักจิตวิทยานักสังคมสงเคราะห์หรือ
00:19:34 → 00:19:36 อะไรก็ตามที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาเรื่องพวก
00:19:36 → 00:19:38 นี้ครับพวกเขาเป็นเครื่องมือที่จำเป็นจะ
00:19:38 → 00:19:40 ต้องถูกดูแลเอาใจใส่และถูกบำรุงเพื่อให้
00:19:40 → 00:19:43 เขาสามารถเรียกว่าคงระดับความสามารถและ
00:19:43 → 00:19:45 ประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีและยั่งยืน
00:19:45 → 00:19:50 แล้วถ้าเกิดว่าในมองกลับเข้ามาในเมื่อเอา
00:19:50 → 00:19:50 แหละ
00:19:50 → 00:19:54 ทุกคนต่างมีหน้าที่เราคนในครอบครัวเองเรา
00:19:54 → 00:19:57 ก็มีหน้าที่แล้วคนในบ้านเรามีการเสพยาใน
00:19:57 → 00:20:00 ระดับที่โอ้โหก็เป็นภัยต่อสังคมได้หรือ
00:20:00 → 00:20:02 ภายนอกจนแม้กระทั่งเป็นภัยต่อครอบครัวเอง
00:20:02 → 00:20:06 เนี่ยถ้าสมมติว่าจะโทรไปปรึกษาหรืออะไร
00:20:06 → 00:20:08 อย่างเงี้ยคือคือมันต้องหาทางออกให้ตัว
00:20:08 → 00:20:10 เองก่อนไหมว่าอันนี้หมายถึงคนในครอบครัว
00:20:10 → 00:20:13 ที่ไม่ได้เป็นคนเสพมานะเขาจะต้องเอาตัว
00:20:13 → 00:20:15 เองก่อนไหมว่าจะทำยังไงให้ตัวเองถึงแบบ
00:20:15 → 00:20:18 สามารถที่จะอยู่และเผชิญกับคนในครอบครัว
00:20:18 → 00:20:21 ที่เขาได้ค่ะอันนี้อันนี้ต้องบอกก่อนว่า
00:20:21 → 00:20:24 แต่ละบ้านบริบทไม่เท่ากันเนาะอืมงั้นถ้า
00:20:24 → 00:20:26 ถ้าเอาแบบเบื้องต้นวิธีละหมุนละม่อมก่อน
00:20:26 → 00:20:30 แสดงว่าเรามองก่อนนี่มีหรอครับก็คือดูว่า
00:20:30 → 00:20:32 เราอาจจะต้องค่อยๆทำความเข้าใจก่อนว่า
00:20:32 → 00:20:34 อะไรนะคือเงื่อนไขในการที่ทำให้คนๆนี้
00:20:34 → 00:20:37 เสียยาเป็นเรื่องเพื่อนเป็นเรื่อง 2 คน
00:20:37 → 00:20:39 เป็นเรื่องเพราะว่าครอบครัวเราไม่อบอุ่น
00:20:39 → 00:20:41 ไม่ค่อยฟังกันหรือเปล่าเพราะบางทีบางคน
00:20:41 → 00:20:43 เข้าหายาเสพติดเพราะว่าที่บ้านเนี่ย
00:20:43 → 00:20:46 ทะเลาะเบาะแว้งกันเยอะแล้วก็คล้ายๆไม่รับ
00:20:46 → 00:20:48 ฟังกันเขาเลยไปพึ่งยาเสพติดแล้วก็แบบไม่
00:20:48 → 00:20:50 ค้าอยากลองอ่ะไปชดชีวิตมันซะเลยอย่าง
00:20:50 → 00:20:52 เงี้ยครับหรือไม่ครบเพื่อนไม่ดีก็เลยหลุด
00:20:52 → 00:20:54 ออกทางไปทีนี้ถ้าเกิดเป็นครอบครัวที่รู้
00:20:54 → 00:20:56 ตัวแล้วว่าเฮ้ยเราผิดเราพลาดอย่างเงี้ย
00:20:57 → 00:20:59 ครับเราลองมาแก้ไขเรื่องปัญหาในครอบครัว
00:20:59 → 00:21:02 ก่อนถ้าเรามีใจนะถ้าเรามีใจแล้วเราก็สื่อ
00:21:02 → 00:21:05 สารกับผู้เสพยาว่าเฮ้ยที่ผ่านมาเหมือน
00:21:05 → 00:21:07 คล้ายๆแม่ผิดไปแล้วพ่อผิดไปแล้วแล้วแต่
00:21:07 → 00:21:09 ซึ่งผมเชื่อว่ามันมีกรณีอย่างนี้ใน
00:21:09 → 00:21:11 ครอบครัวอยู่นะที่ที่บางบ้านเหมือนคล้ายๆ
00:21:11 → 00:21:14 ตัวผู้เสพยาจริงๆก็ยังรักครอบครัวแต่มัน
00:21:14 → 00:21:16 เจ็บปวดมากเขาเลยใช้ยาเสพติดในการหนี
00:21:16 → 00:21:19 ปัญหาผมว่าบางบ้านมีอย่างนี้แต่ถ้าเกิด
00:21:19 → 00:21:21 ความรักความผูกพันยังพอมีแล้วมันยัง
00:21:21 → 00:21:24 สามารถเปิดใจคุยกันได้ผมว่าจุดนี้จะเป็น
00:21:24 → 00:21:27 การดึงดึงให้ใช้ความรักของเขาเนี่ยเอาชนะ
00:21:27 → 00:21:30 ความเสพติดของเขาในการที่เขาจะสามารถกลับ
00:21:30 → 00:21:33 มากลับมาบำบัดตัวเองกลับมาฟื้นฟูตัวเอง
00:21:33 → 00:21:36 ได้นะครับซึ่งซึ่งการบำบัดตรงนี้กำลังใจ
00:21:36 → 00:21:39 สำคัญผมว่ามันขึ้นอยู่กับว่าผู้เสพยาแต่
00:21:39 → 00:21:42 ละท่านเนี่ยเขายังเหลือสติสัมปชัญญะมาก
00:21:42 → 00:21:43 น้อยแค่ไหน
00:21:43 → 00:21:45 ถ้าเหลือมากเขายังรู้สึกว่าเออเขาอยากจะ
00:21:45 → 00:21:47 สู้และเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ดีเขาจะกลับมา
00:21:47 → 00:21:51 กำลังใจจากครอบครัวสำคัญเขาก็จะเข้าสู่
00:21:51 → 00:21:53 ระบบการรักษากระบวนการบำบัดที่จะทำให้
00:21:53 → 00:21:57 เลือดขาดได้ก็เหมือนกับพร้อมทั้ง 2 ฝ่าย
00:21:57 → 00:22:01 ซึ่งแน่นอนครับก็จะมีสายด่วนที่สามารถ
00:22:01 → 00:22:03 ปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับการบำบัดรักษายาเสพ
00:22:03 → 00:22:07 ติดนะครับ 1165 1165 อันนี้เป็นสายด่วน
00:22:07 → 00:22:09 ของทางรัฐบาลที่จัดไว้นะครับสามารถ
00:22:09 → 00:22:12 โทรปรึกษาได้ว่าเอ๊ะเราจะพาเข้ารับการ
00:22:12 → 00:22:15 บำบัดยังไงหรือครอบครัวจะต้องมีกระบวนการ
00:22:15 → 00:22:16 ยังไงอันนี้ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำงาน
00:22:16 → 00:22:19 สายเนี่ยเกี่ยวกับบำบัดยาเสพติดที่มีข้อ
00:22:19 → 00:22:22 มูลในมือแนะนำให้ได้นะครับอันนี้คือวิธี
00:22:22 → 00:22:24 การละมุนละม่อมถ้าเกิดทำได้เออแต่ถ้าเกิด
00:22:24 → 00:22:26 สมมุติว่าโอ้โหไม่ไหวแล้วอันนี้รุนแรง
00:22:26 → 00:22:28 เหลือเกินและอาจจะต้องแจ้งเบาะแสในการแบบ
00:22:28 → 00:22:31 ค้ายาเสพยาเป็นผู้ซื้อผู้ขายแล้วแต่หรือ
00:22:31 → 00:22:33 ผู้เสพอะไรก็ตามเนี่ยครับแล้วจำเป็นต้อง
00:22:33 → 00:22:37 ขอคำแนะนำว่ากระบวนการแบบนี้ต้องชาร์จตัว
00:22:37 → 00:22:40 ไหมหรือว่าจะต้องแบบแอดมิดมั้ยอย่างเงี้ย
00:22:40 → 00:22:43 ครับลองปรึกษาสายด่วนปปสก็ได้ครับ
00:22:43 → 00:22:47 1386 ปราบปรามยาเสพติดครับใช่สำนักงาน
00:22:47 → 00:22:50 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
00:22:50 → 00:22:52 ซึ่งตรงนี้ผมเชื่อว่าเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญ
00:22:52 → 00:22:57 ที่ให้คำแนะนำกับเราได้นะครับก็ปรึกษาสาย
00:22:57 → 00:23:00 ด่วนคือจริงๆเชื่อว่าในครอบครัวเองก็
00:23:00 → 00:23:02 พยายามหาวิธีการอยู่แล้วแหละเพียงแต่ว่า
00:23:02 → 00:23:06 การเข้าถึงหรือการที่จะรู้ว่าเราควรที่จะ
00:23:06 → 00:23:10 เข้าไปหาใครหน่วยไหนหรือให้ใครช่วยเหลือ
00:23:10 → 00:23:15 ในเบื้องต้นเนี่ยอาจจะพวกนี้มันไปไม่มัน
00:23:15 → 00:23:17 การประชาสัมพันธ์มันน้อยไม่ค่อยมีใครรู้
00:23:17 → 00:23:22 หรอกมาอีกทีหนึ่งอาละวาดแล้วค่อยว่ากันก็
00:23:22 → 00:23:26 ประมาณนี้แล้วคือสเต็ปของการที่หลายคนที่
00:23:26 → 00:23:29 บอกว่าเอ้ยพอแจ้งตำรวจแล้วทำไมตำรวจมัน
00:23:29 → 00:23:31 ถ้าเหตุการณ์บางอย่างมันไม่ซึ่งหน้าหรือ
00:23:31 → 00:23:33 มันไม่ได้มีเหตุเหลืออะไรที่มันรุนแรง
00:23:33 → 00:23:37 อย่างเงี้ยอืมเค้าก็ไม่ได้จะมานะผมว่า
00:23:37 → 00:23:40 จริงๆนะครับย้อนกลับไปที่ว่าพอพอกำลังพล
00:23:40 → 00:23:44 ไม่พร้อมเขาจะตั้งเกณฑ์ให้สูงขึ้น
00:23:44 → 00:23:47 หรือแม้กระทั่งตะกี้เราพูดเรื่องเกี่ยว
00:23:47 → 00:23:49 กับประชาสัมพันธ์คำถามคือสมมุติว่าถ้าเรา
00:23:49 → 00:23:52 ไปถามผ่านเยอะมากแต่กำลังคนเรามีแค่นี้
00:23:52 → 00:23:55 ครับเราจะรับสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับทั้ง
00:23:55 → 00:23:57 ประเทศยังไงในขณะที่กำลังคนมีแค่นี้เพราะ
00:23:57 → 00:24:00 ฉะนั้นกลายเป็นว่าดีสุดคือต้นทางแล้วต้น
00:24:00 → 00:24:03 ทางครับ
00:24:03 → 00:24:06 ฟังดูแล้วปลายทางมันมันก็แค่ปลายทางเพราะ
00:24:06 → 00:24:09 ว่าจำนวนคนที่ติดยาเสพติดอยู่ในครอบครัว
00:24:09 → 00:24:12 ต่างๆเนี่ยมันมีเพิ่มมากขึ้นนะแล้วนับวัน
00:24:12 → 00:24:14 ก็จะรุนแรงมากขึ้นด้วยเพราะเข้าถึงในง่าย
00:24:14 → 00:24:18 ราคาถูกมากบางคนบอกว่าถูกกว่าข้าวจานนึง
00:24:18 → 00:24:21 ของเรานั่นเองโอ้โหมันฟังแล้วตกใจ
00:24:21 → 00:24:24 เมื่อก่อนนี้กี่ร้อยอ่ะ
00:24:24 → 00:24:27 500 บาทอะไรอย่างเงี้ยนะเดี๋ยวนี้ไม่กี่
00:24:27 → 00:24:50 สิบบาทอ่ะแล้วก็นู่นนี่วางขายกันเต็มเลย
00:24:50 → 00:24:53 เอาเรื่องเขามาไว้ในตัวเราหรอกแต่ว่าเรา
00:24:53 → 00:24:56 ก็ต้องเคลียร์เรื่องเพื่อให้เรามีแรงที่
00:24:56 → 00:24:58 จะแนะนำคนอื่นต่ออย่างนี้ใช่ไหมเพราะว่า
00:24:58 → 00:25:00 ถ้าเราไม่แก้ต้นทางสุดท้ายก็ต้องก็ต้องไป
00:25:00 → 00:25:03 เพิ่มไปเพิ่มกำลังคนการเพิ่มกำลังคนหมาย
00:25:03 → 00:25:06 ถึงอะไรครับงบประมาณที่มากขึ้นซึ่งถ้าถาม
00:25:06 → 00:25:09 ว่ามีจัดมีจัดที่จะแบบมีกำลังคนพร้อมจะ
00:25:09 → 00:25:11 รับแก้ปัญหาไปทางขนาดนั้นไหมผมว่าเราไม่
00:25:11 → 00:25:14 ได้มีเงินเยอะขนาดนั้นนะฮะเพราะฉะนั้นต้น
00:25:14 → 00:25:16 ทางค่ะ
00:25:16 → 00:25:21 เพราะว่าทำยังไงให้มันมันมีมีน้อยหายาก
00:25:21 → 00:25:24 เข้าถึงยากเหลือเกิน
00:25:24 → 00:25:27 มีกำลังเยอะใช่ไหมครับพอแรงเหลือมันก็รู้
00:25:27 → 00:25:30 สึกว่าพร้อมจะเสีย
00:25:30 → 00:25:33 เรื่องนี้พูดดังจริงๆเนาะก็อยากให้มันไป
00:25:33 → 00:25:36 มากกว่านี้เลยละกันฝากด้วยนะคะขอบคุณคุณ
00:25:36 → 00:25:39 เอิ้นค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้
00:25:39 → 00:25:41 ฟังค่ะไว้พบกันใหม่ครั้งหน้านะคะกับราย
00:25:41 → 00:25:44 การรอหมอทางไทย PBS potass ค่ะวันนี้ก็
00:25:44 → 00:25:47 คงต้องลาไปก่อนขอบคุณที่ติดตามรับฟัง
00:25:47 → 00:25:48 สวัสดีค่ะ
00:25:48 → 00:25:51 This is
00:25:51 → 00:25:54 ที่เกิดจากการคลังของสัตว์เลี้ยงทำให้การ
00:25:54 → 00:25:56 แจ่วบางครั้งรุนแรงจนเกิดแผลผู้ช่วย
00:25:56 → 00:25:59 ศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ดรธีรดิศร
00:25:59 → 00:26:01 รุ่งเรืองกิจไกรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
00:26:01 → 00:26:03 มาเล่าให้ฟังครับ
00:26:03 → 00:26:06 การกล่าวของทั้งคนและของสัตว์เนี่ยนะครับ
00:26:06 → 00:26:08 มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างหนึ่งของ
00:26:08 → 00:26:11 ร่างกายต่ออาการคันที่เกิดขึ้นหรือต่อ
00:26:11 → 00:26:14 สิ่งที่มันระคายเคืองผิวหนังการเกาการถู
00:26:14 → 00:26:16 อะไรต่างๆเหล่านี้มันเป็นปฏิกิริยาเหล่า
00:26:16 → 00:26:19 นั้นซึ่งพอเวลาที่เขาคันเขาก็จะเกาเพื่อ
00:26:19 → 00:26:22 ลดความระคายเคืองที่มันเกิดขึ้นพอเกาแล้ว
00:26:22 → 00:26:25 ยังไม่หายก็จะยิ่งถูมากขึ้นมากขึ้นจนทำ
00:26:25 → 00:26:28 ให้เกิดปัญหาเรื่องแผลถลอกอะไรต่างๆตามมา
00:26:28 → 00:26:30 ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
00:26:30 → 00:26:32 หนังมันมีหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นปัญหา
00:26:32 → 00:26:35 เรื่องสารเคมีที่มันทำให้เกิดการแสบการ
00:26:35 → 00:26:39 คลานหรือว่าเกิดจากปรสิตภายนอกเช่นเห็บ
00:26:39 → 00:26:41 หรือไอ้ตัวอะไรที่กัดมดกัดก็ทำให้เกิด
00:26:41 → 00:26:45 ลักษณะเรานั้นได้หรือปัญหาเรื่องการ
00:26:45 → 00:26:47 อักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดการระคาย
00:26:47 → 00:26:50 เคืองเขาก็จะเกิดอาการคันแล้วก็เกาให้
00:26:50 → 00:26:52 เห็นการแสดงออกของเขาเนี่ยมันมีหลายอย่าง
00:26:52 → 00:26:54 นะนอกจากการที่เอาขาหน้าหรือขาหลังไป
00:26:54 → 00:26:56 ตะกุยบริเวณที่เขาคานหรืออาจจะใช้วิธีการ
00:26:56 → 00:26:59 เอาลิ้นไปเลียหรือถ้าเลียเสร็จแล้วไม่หาย
00:26:59 → 00:27:03 ก็จะใช้ฟันงับๆใช่ๆเคยเห็นเคยเห็นหรือบาง
00:27:03 → 00:27:07 ตัวก็เอาลำตัวไปถูกับเฟอร์นิเจอร์ตามขอบ
00:27:07 → 00:27:09 ของผนังอะไรต่างๆอันนี้เป็นปฏิกิริยาที่
00:27:09 → 00:27:11 เค้าแสดงให้เห็นอาการคันเนี่ยมันมีสาเหตุ
00:27:11 → 00:27:14 แน่ๆสาเหตุของการระคายเคืองเนี่ยมีแน่ๆ
00:27:14 → 00:27:16 แต่ว่าเราต้องมองให้ออกก่อนว่ามันเกิดจาก
00:27:16 → 00:27:19 อะไรได้บ้างอย่างเช่นอาจจะเกิดจากปรสิต
00:27:19 → 00:27:21 ภายนอกหรือเปล่าเพราะในสมัยนอกที่พูดถึง
00:27:21 → 00:27:24 หมายถึงกลุ่มของปรสิตที่เรามองเห็นด้วยตา
00:27:24 → 00:27:28 เปล่าเช่นมีเหตุหมาดมีเหาหรือว่าพยาธิภาย
00:27:28 → 00:27:30 นอกอื่นๆอันนี้เราก็จะพอมองเห็นเกิดจาก
00:27:30 → 00:27:33 ปรสิตภายนอกแต่เป็นขนาดเล็กที่เรามองไม่
00:27:33 → 00:27:36 เห็นอย่างเช่นตัวไรขี้เรื้อนตัวเล็กๆที่
00:27:36 → 00:27:38 เรามองเห็นด้วยตาเปล่าที่ทำให้เกิดอาการ
00:27:38 → 00:27:41 คันรู้สึกการระคายเคืองก็เป็นสาเหตุได้
00:27:41 → 00:27:45 นอกจากนั้นปัญหาที่เกิดจากเชื้อรายีสต์
00:27:45 → 00:27:47 แล้วก็แบบทีเรียที่อยู่ที่ผิวหนังอันนี้
00:27:47 → 00:27:49 ก็เจอได้ค่อนข้างบ่อยแล้วก็เป็นสาเหตุ
00:27:49 → 00:27:52 หลักอีกอันนึงที่ทำให้เกิดโดยเฉพาะเชื้อ
00:27:52 → 00:27:54 ราบางตัวที่เกิดจากผิวหนังสุนัขเนี่ยมัน
00:27:54 → 00:27:59 มีโอกาสที่ติดต่อสู่คนได้
00:27:59 → 00:28:03 SS ใช้ PBS
00:28:03 → 00:28:07 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application
00:28:07 → 00:28:11 ของไทยพีแบดคลาส spotify soundcloud
00:28:11 → 00:28:14 Google podcast Apple podcast และ
00:28:14 → 00:28:16 YouTube Channel Thai PBS portcast
00:28:16 → 00:28:21 Thai PBS
00:28:21 → 00:28:27 [เพลง]