00:00:00 → 00:00:02 อ่ะไอ้โจรไม่ล่ะเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้น
00:00:02 → 00:00:04 จะไปหลายคนซึ่งสาเหตุของโรคนอนไม่หลับ
00:00:04 → 00:00:08 นั้นก็เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายอย่างอาจ
00:00:08 → 00:00:11 จะเกิดจากความเครียดวิตกกังวลอาการเจ็บ
00:00:11 → 00:00:14 ป่วยหรือแม้แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบข้างก็
00:00:14 → 00:00:17 เป็นสาเหตุให้เกิดโรคนอนไม่หลับได้ซึ่งใน
00:00:17 → 00:00:19 วันนี้แทนคุณเชี่ยวชาญจะมาให้ข้อมูล
00:00:19 → 00:00:21 เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อ
00:00:21 → 00:00:24 ป้องกันอาการนอนไม่หลับกันครับเวลาเราพูด
00:00:24 → 00:00:27 ถึงเรื่องการนอนนะคะก็จะคิดถึงเรื่องของ
00:00:27 → 00:00:31 การนอนปกติมันเกิดขึ้นจากระบบสองระบบใน
00:00:31 → 00:00:34 ร่างกายเรานะคะระบบแรกเนี่ยก็คือเรื่อง
00:00:34 → 00:00:37 ของการสะสมความง่วงเนาะที่นี่การจัดส่ง
00:00:37 → 00:00:39 ความม่วงคืออะไรมันคือการที่เราใช้พลัง
00:00:39 → 00:00:43 งานในระหว่างวันนะคะไปเรื่อยๆการออกกำลัง
00:00:43 → 00:00:47 กายการเดินการนั่งการคีมการทำกิจกรรมต่าง
00:00:47 → 00:00:50 ๆในระหว่างวันนะคะก็จะทำให้เราเนี่ย
00:00:50 → 00:00:52 สามารถสะสมความง่วงในระหว่างวันได้มาก
00:00:52 → 00:00:55 ขึ้นแล้วมองว่าการสะสมความง่วงในระหว่าง
00:00:55 → 00:00:58 วันนะคะก็คือเหมือนความหิวทีนี้เวลาเรา
00:00:58 → 00:01:01 หิวใช่ไหมคะถึงเวลาเราไม่กินข้าวถึงเวลา
00:01:01 → 00:01:04 กินข้าวเราก็จะกินได้แต่ถ้าเกิดว่าเรากิน
00:01:04 → 00:01:08 ขนมกินของว่างระหว่างวันถึงเวลากินแล้วก็
00:01:08 → 00:01:10 จะกินไม่ได้ความง่วงเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
00:01:10 → 00:01:13 นะคะก็คือถ้าเกิดว่าเราไปนี่ไปอะไรสัก
00:01:13 → 00:01:16 ก่อนระหว่างวันก็จะทำให้เมื่อถึงเวลานอน
00:01:16 → 00:01:18 เนี่ยเรานอนได้ไม่ดีดังนั้นเนี่ยหมอก็จะ
00:01:18 → 00:01:21 แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ก็คือควรหลีกเลี่ยง
00:01:21 → 00:01:24 กันมีพระหว่างวันเพื่อให้การสะสมความง่วง
00:01:24 → 00:01:27 ในระหว่างวันเกิดขึ้นมากเพียงพอเมื่อถึง
00:01:27 → 00:01:30 เวลานอนแล้วก็จะเข้านอนได้เองนะคะอันนี้
00:01:30 → 00:01:33 เป็นระบบที่ 1 นะคะระบบที่สองก็คือเรื่อง
00:01:33 → 00:01:35 ของนาฬิกาชีวิตนาฬิกาชีวิตคนเราเนี่ยค่ะ
00:01:35 → 00:01:38 จะสัมพันธ์กับการหลั่งของฮอร์โมนตัวนึง
00:01:38 → 00:01:41 ค่ะที่ชื่อว่าเวลาตรงนี้นะคะเคยได้ยินกัน
00:01:41 → 00:01:43 อยู่แล้วเรื่องของเวลาตัวนี้ไม่รักเท่า
00:01:43 → 00:01:46 นี้แต่ละคนอย่างหลังไม่เท่ากันในช่วงเวลา
00:01:46 → 00:01:49 ไม่เท่ากันนะคะคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้นะคะ
00:01:49 → 00:01:52 เขาจะแบ่งการหลังเวลานี้ออกเป็น 3 กลุ่ม
00:01:52 → 00:01:55 คือกลุ่มที่หลังเร็วนะคะไม่รักนี้หลัง
00:01:55 → 00:01:58 เร็วเนี่ยก็คือจะหลังเวลาประมาณซัก 17:00
00:01:58 → 00:02:01 18:00 นนะคะคนไข้กลุ่มและก็จะหลับได้ดี
00:02:01 → 00:02:04 ในช่วงเวลาประมาณ 19:00 นหรือ 20:00 นก็
00:02:04 → 00:02:07 จะเริ่มง่วงและคนให้กลุ่มที่ 2 นะคะไม่
00:02:07 → 00:02:09 รักทูนอินทร์ฝรั่งประมาณซัก 19:00 น 20:00
00:02:09 → 00:02:12 นคนไข้กลุ่มนี้ก็จะเริ่มม่วงและก็เข้านอน
00:02:12 → 00:02:16 ได้ดีเนี่ยที่เวลาประมาณ 3-4 ทุ่มหรือบาง
00:02:16 → 00:02:18 ทีอาจจะถึง 23:00 นได้เหมือนกันกับกลุ่ม
00:02:18 → 00:02:21 ที่ 3 นะคะคือคนให้กลุ่มเงียบไปล่ะคะนี้
00:02:21 → 00:02:24 จะหลั่งช้าหน่อยก็คือเขาจะหลังช่วงประมาณ
00:02:24 → 00:02:27 10:00 นนะคะที่นี้ถ้าเกิดว่าเข้านอนเร็ว
00:02:27 → 00:02:30 ล่ะคนให้กลุ่มเขาจะหลับไม่ได้คนให้กลุ่ม
00:02:30 → 00:02:32 สุดท้ายเนี่ยเขาจะหลับได้ดีเมื่อหลัง
00:02:32 → 00:02:35 เที่ยงคืนไปแล้วนะคะเพราะฉะนั้นการทำงาน
00:02:35 → 00:02:38 ของสองระบบนี้ร่วมกันก็คือเรื่องของการ
00:02:38 → 00:02:41 สะสมความง่วงแล้วก็การเข้านอนตามช่วงเวลา
00:02:41 → 00:02:44 ที่เหมาะสมเนี่ยก็จะทำให้เราสามารถเข้า
00:02:44 → 00:02:47 นอนได้ดีขึ้นทั้ง 3 กลุ่มของกันหลังเวลา
00:02:47 → 00:02:49 คนนี้อย่างที่บอกอ้ะเรื่องนาฬิกา Creed
00:02:49 → 00:02:52 เนี่ยไม่มีกลุ่มไหนผิดปกตินะคะมันเป็น
00:02:52 → 00:02:56 ธรรมชาติของแต่ละคนซึ่งแตกต่างกันนะคะ 50%
00:02:56 → 00:02:58 เนี่ยมันเป็นผลมาจากกรรมพันธุ์ของเราอีก
00:02:58 → 00:03:02 50% ถ้าเกิดจากพฤติกรรมของเราเองด้วยที่
00:03:02 → 00:03:05 ทำให้ยืนตัวนี้แสดงออกได้ชัดมากขึ้นหรือ
00:03:05 → 00:03:08 ว่ายืนบนนี้แสดงออกได้น้อยลงนะคะปัจจุบัน
00:03:08 → 00:03:11 เราจะเห็นว่าในชีวิตเนี่ยบางทีมันมี
00:03:11 → 00:03:14 เรื่องนู้นเรื่องเนี่ยให้ทำเยอะมากมีเกม
00:03:14 → 00:03:18 ต้องเล่นมีหนังสือต้องอ่านบางทีทำให้เรา
00:03:18 → 00:03:21 นอนดึกขึ้นก็บางทีเราอาจจะเข้าใจผิดคิด
00:03:21 → 00:03:23 ว่าเอเราเป็นคนรวมสุดท้ายหรือเปล่าที่แบบ
00:03:23 → 00:03:25 นี้ละเท่านั้นหลังช้าแต่งจริงแล้วมันเป็น
00:03:25 → 00:03:28 ผลพฤติกรรมด้วยประมาณ 50% แต่ว่าก็ลองดู
00:03:28 → 00:03:32 ค่ะอย่าไปฝืนถ้าเกิดว่าเริ่มง่วงแล้วก็
00:03:32 → 00:03:34 อยากให้เข้านอนตามช่วงเวลาที่เหมาะสมกับ
00:03:34 → 00:03:36 ร่างกายของเรานะคะแล้วก็จะเข้านอนได้ดี
00:03:36 → 00:03:39 ค่ะทำอีกระบบนึงมันก็จะไม่เชิงระบบที่ 3
00:03:39 → 00:03:42 คะทีเดียวค่ะเป็นระบบประสาทอัตโนมัติของ
00:03:42 → 00:03:45 เราเองระบบมีไว้ทำไมเขาบอกว่ามันมี
00:03:45 → 00:03:48 ไว้มันเป็น Survival เนาะมันมีไว้เพื่อ
00:03:48 → 00:03:51 ความอยู่รอดค่ะดังนั้นเนี่ยเวลามันเกิด
00:03:51 → 00:03:54 อันตรายขึ้นกับร่างกายเราจะมามัวนอนอยู่
00:03:54 → 00:03:57 ไม่ได้ระบบเนี้ยเวลาเขาทำงานเนี่ยเขาจะทำ
00:03:57 → 00:04:00 ให้เราสู้หรือว่านี่เวลาคะคะหรือว่าร่าง
00:04:00 → 00:04:03 กายเรามีอันตรายเพราะฉะนั้นเนี่ยเขาจะไป
00:04:03 → 00:04:07 กดการทำงานของ 2 ระบบแรกทั้งหมดในคนไข้
00:04:07 → 00:04:10 ที่เป็นโรคซึมเศร้าเป็นโรควิตกกังวลหรือ
00:04:10 → 00:04:13 ว่ามีเรื่องเครียดมีเรื่องอะไรให้คิดอยู่
00:04:13 → 00:04:15 ตลอดปิดสวิตช์ความคิดไม่ได้ค่ะคนให้กลุ่ม
00:04:15 → 00:04:18 เนี่ยระบบประสาทอัตโนมัติเขาจะทำงานเยอะ
00:04:18 → 00:04:21 อยู่ตลอดทำให้การเข้านอนเกิดขึ้นได้ยาก
00:04:21 → 00:04:24 เพราะว่ามันไปกด 2 ระบบแรกนะคะดังนั้น
00:04:24 → 00:04:27 เนี่ยคนไข้หลายๆคนเนี่ยที่มีปัญหาเรื่อง
00:04:27 → 00:04:31 ของการนอนไม่หลับนะคะก็เกิดจากระบบที่ 3
00:04:31 → 00:04:34 นะคะก็คือระบบประสาทอัตโนมัติที่ว่าเขาทำ
00:04:34 → 00:04:37 งานเยอะอยู่ตลอดทำให้ไปกดการทำงานของ 2
00:04:37 → 00:04:40 ระบบแรกทำให้การนอนตามธรรมชาติเนี่ยเกิด
00:04:40 → 00:04:43 ขึ้นได้ยากส่วนสาเหตุของการนอนไม่หลับนะ
00:04:43 → 00:04:46 คะอย่างที่เราคุยกันไปค่ะว่าการนอนหลับ
00:04:46 → 00:04:49 ตามปกติมันเกิดขึ้นจาก 3 ระบบที่ทำงาน
00:04:49 → 00:04:53 ร่วมกัน 2 ระบบแรกที่ทำงานประสานการและก็
00:04:53 → 00:04:57 ระบบที่ 3 ก็คือถ้าร่างกายเราสงบมากพอใจ
00:04:57 → 00:05:00 เราผ่อนคลายมากเพียงพอนะคะการและก็เกิด
00:05:00 → 00:05:02 ขึ้นได้เองที่นี่เท่ากันว่าระบบใดระบบ
00:05:02 → 00:05:06 หนึ่งเนี่ยทำงานผิดปกติไปการนอนเดี๋ยวก็
00:05:06 → 00:05:08 จะเกิดขึ้นไม่ได้แล้วก็อาจจะทำให้เป็น
00:05:08 → 00:05:11 สาเหตุของโรคนอนไม่หลับนะคะโรคนอนไม่หลับ
00:05:11 → 00:05:14 เนี่ยบางทีมันเกิดจากโรคความผิดปกติจาก
00:05:14 → 00:05:18 การหลักอื่นๆด้วยนะคะเช่นโรคลมหลับหรือ
00:05:18 → 00:05:21 ว่าโลกนักกาแล็กซี่หรือว่าเป็นโรคหยุดหาย
00:05:21 → 00:05:24 ใจขณะหลับอันนี้ก็เป็นความผิดปกติทางการ
00:05:24 → 00:05:27 นอนแบบนึงที่ทำให้คนไข้เข้าใจว่าอาจจะมี
00:05:27 → 00:05:29 ปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับได้นะคะอีกภาวะ
00:05:29 → 00:05:32 หนึ่งคือเรื่องของภาวะขายอยู่ไม่สูงเนี่ย
00:05:32 → 00:05:36 คนไข้ก็จะมีอาการรู้สึกว่าต้องขยับอยู่
00:05:36 → 00:05:39 ตลอดเวลาช่วงก่อนเข้านอนทำให้คนไข้กลุ่ม
00:05:39 → 00:05:42 ยาเข้านอนได้อยากถ้าตัดสาเหตุความผิดปกติ
00:05:42 → 00:05:45 ครั้งโลกการหลับอื่นๆไปแล้วเนี่ยเราก็ยัง
00:05:45 → 00:05:48 มีอาการนอนไม่หลับอยู่ค่ะแล้วก็พอจะเรียก
00:05:48 → 00:05:50 โลกกลุ่มที่เหลือเนี่ยว่าโรคนอนไม่หลับ
00:05:50 → 00:05:52 กลุ่มโรคนอนไม่หลับเนี่ยถ้าไม่มีสาเหตุ
00:05:52 → 00:05:56 จากโรคอื่นๆแล้วเนี่ยเราก็จะมาดูว่ามันมี
00:05:56 → 00:06:00 ความผิดปกติของระบบการนอนระบบไหนระบบบท
00:06:00 → 00:06:03 ที่ 1 คือการสะสมความง่วงระบบที่ ๒
00:06:03 → 00:06:05 นาฬิกาชีวิตหรือว่าระบบที่ 3 คือระบบ
00:06:05 → 00:06:10 ประสาทอัตโนมัติที่มันทำงานมากเกินไปนะคะ
00:06:10 → 00:06:14 การรักษาโรคนอนไม่หลับเนี่ยนะคะโดยทั่วไป
00:06:14 → 00:06:17 เนี่ยมีอยู่ 2 แบบใหญ่ๆก็คือการรักษาด้วย
00:06:17 → 00:06:19 การใช้ยาและการรักษาด้วยการปรับพฤติกรรม
00:06:19 → 00:06:23 นะคะปัจจุบันนี้เนี่ยการรักษาด้วยการปรับ
00:06:23 → 00:06:25 พฤติกรรมเนี่ยเขาเรียกว่าเป็น gosan ดัด
00:06:25 → 00:06:27 Treatment ก็คือเป็นการรักษาที่ได้รับ
00:06:27 → 00:06:30 การยอมรับจากงานวิจัยหลายๆชิ้นค่ะที่ได้
00:06:30 → 00:06:34 ผลดีในระยะยาวด้วยในขณะที่การรักษาด้วยยา
00:06:34 → 00:06:37 เนี่ยเราจะใช้ในกรณีที่คนไข้มีความผิด
00:06:37 → 00:06:41 ปกติจากการหลับจากโลกอื่นๆด้วยนะคะรวมถึง
00:06:41 → 00:06:45 โรคทางจิตเวชลบซึมเศร้าโรควิตกกังวลหรือ
00:06:45 → 00:06:48 ในบางคนที่มีภาวะเครียดเป็นช่วงๆการใช้ยา
00:06:48 → 00:06:51 นอนหลับเนี่ยหมอแนะนำให้ใช้ในคนที่มีความ
00:06:51 → 00:06:56 จำเป็นแล้วก็ควรใช้ภายใต้คำแนะนำและการดู
00:06:56 → 00:06:58 แลของแพทย์เท่านั้นนะคะไม่ควรจะยังล่ะ
00:06:58 → 00:07:01 พิมพ์เองเนอะแต่ตอนนี้ตัวนี้ค่ะก็จะทำให้
00:07:01 → 00:07:04 เพิ่มความเสี่ยงในการที่ค้างในช่วงกลาง
00:07:04 → 00:07:07 วันแล้วก็อาจจะมีเดินเซล้มสมาธิความจำ
00:07:07 → 00:07:10 อะไรยะลงได้เหมือนกันนะคะเพราะฉะนั้นหมอ
00:07:10 → 00:07:13 จะแนะนำให้ใช้ยาในกรณีที่มีความจำเป็นและ
00:07:13 → 00:07:17 ก็อยู่ภายใต้การนำของแพทย์นะคะโพสด่า
00:07:17 → 00:07:18 Treatment เนี่ยก็คือแนะนำเป็นเรื่องของ
00:07:18 → 00:07:22 การปรับความคิดพฤติกรรมในการรักษาโรคนอน
00:07:22 → 00:07:24 ไม่หลับค่ะต้องอธิบายก่อนว่าความคิด
00:07:24 → 00:07:28 พฤติกรรมของเรานะคะอารมณ์และก็การตอบสนอง
00:07:28 → 00:07:31 ทางร่างกายค่ะ 4 อย่างนี้มีความสัมพันธ์
00:07:31 → 00:07:34 กันอย่างแยกไม่ออกนะคะแล้วก็มีความ
00:07:34 → 00:07:37 สัมพันธ์กันแบบกลับไปกลับมาค่ะคืออารมณ์
00:07:37 → 00:07:39 มีผลกับพฤติกรรมพฤติกรรมก็มีผลกับอารมณ์
00:07:39 → 00:07:44 เหมือนกันการที่เรามีช่องทางในการจัดการ 4
00:07:44 → 00:07:47 ช่องทางนะคะก็คือความคิดบางแบบเนี่ยเป็น
00:07:47 → 00:07:50 ผลเสียกับการนอนไม่หลับเช่นคนไข้บางคนมี
00:07:50 → 00:07:53 ความเชื่อว่าเราจำเป็นต้องนอน 8 ชั่วโมง
00:07:53 → 00:07:57 ซึ่งจริงแล้วเนี่ยในความจริงอ่ะทั่วโลก
00:07:57 → 00:07:58 เลยเนี่ยเขาเก็บไว้แปะมาเข้าพบว่าวัยผู้
00:07:58 → 00:08:02 ใหญ่ค่าเฉลี่ยมีการนอนของคนทั่วโลกเนี่ย
00:08:02 → 00:08:05 อยู่ที่ประมาณ 6 ถึง 11 ชั่วโมง 6
00:08:05 → 00:08:09 ชั่วโมงก็ปกติ 11 ชั่วโมงก็ปกตินะคะในตัว
00:08:09 → 00:08:11 เลขระหว่าง 6 ถึง 11 ชั่วโมงเนี้ยไม่มี
00:08:11 → 00:08:14 ใครผิดปกติเลยขึ้นอยู่กับว่าตัวเลขของใคร
00:08:14 → 00:08:17 อยู่ที่ตรงไหนนะคะเพราะฉะนั้นเราหาตัวเลข
00:08:17 → 00:08:20 ของตัวเองให้เจออย่าไปคาดหวังอย่าไปยึด
00:08:20 → 00:08:23 ติดว่ามันจะต้องแปลกชั่วโมงมันจะต้องกี่
00:08:23 → 00:08:26 ชั่วโมงแล้วแปลว่าเรานอนได้ดีนอนได้ไม่ดี
00:08:26 → 00:08:28 อันนี้ก็คือเป็นความคาดหวังที่มันเป็นไป
00:08:29 → 00:08:32 ไม่ได้ในกรณีที่คนคาดหวังว่าตัวเองต้อง
00:08:32 → 00:08:34 นอน 8 ชั่วโมงแต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยร่าง
00:08:34 → 00:08:36 กายเค้าอ้าอาจจะต้องการจริงๆแค่ 6
00:08:36 → 00:08:38 ชั่วโมงมันก็จะมีสองชั่วโมงที่หรืออะที่
00:08:38 → 00:08:41 ทำให้คนไข้เนี่ยะนอนไม่ได้แล้วก็รู้สึก
00:08:41 → 00:08:44 ว่าตัวเองมีภาวะนอนไม่หลับหรือเปล่าเนี้ย
00:08:44 → 00:08:47 ค่ะงั้นเราก็จะแนะนำว่าความคิดพฤติกรรม
00:08:47 → 00:08:50 แบบนี้เราควรจะปรับยังไงแล้วก็ปรับ
00:08:50 → 00:08:52 พฤติกรรมแบบไหนจะทำให้เรารู้ว่าเอวจริงๆ
00:08:52 → 00:08:55 ตัวเลขของเราเนี่ยอยู่ที่กี่ชั่วโมงถึง
00:08:55 → 00:08:57 เป็นตัวเลขที่เหมาะสมกับเรารวมถึง
00:08:57 → 00:09:00 พฤติกรรมบางอย่างค่ะเป็น
00:09:00 → 00:09:02 สิ่งที่ทำให้อาการนอนไม่หลับยังคงอยู่
00:09:02 → 00:09:06 เช่นกันเล่นโทรศัพท์บนที่นอนเช่นกันต่อดู
00:09:06 → 00:09:10 ทีวีเช่นการดูหนังบนที่นอนค่ะเพราะว่า
00:09:10 → 00:09:12 สื่อพวกเนี้ยค่ะมันจะทำให้ฮอร์โมนเมลาโท
00:09:12 → 00:09:15 นินของระบบที่สองที่เราคุยกันไปแล้วเนี่ย
00:09:15 → 00:09:18 หลังช้าลงไหมคะสื่อพวกเนี้ยมันมักจะ
00:09:18 → 00:09:21 กระตุ้นมากกว่าทำให้เราสุขสงบการกระตุ้น
00:09:21 → 00:09:24 เนี่ยบางทีทำให้เราสนุกมากๆอย่างการดู
00:09:24 → 00:09:27 หนังบางทีเราดูได้ข้ามคืนเลยเพราะว่าเรา
00:09:27 → 00:09:31 สนุกมากๆระบบประสาทอัตโนมัติเขาทำงานมาก
00:09:31 → 00:09:34 ขึ้นก็ทำให้เรานอนแย่ลงใช่ไหมคะอย่างนั้น
00:09:34 → 00:09:36 เราก็จะแนะนำว่าพฤติกรรมแบบนี้แล้วก็ควร
00:09:36 → 00:09:39 จะปรับแล้วเราจะปรับกันยังไงก็จะอยู่ใน
00:09:39 → 00:09:42 เรื่องของการรักษาด้วยการปรับวิธีคิดและ
00:09:42 → 00:09:45 พฤติกรรมเพื่อการนอนไม่หลับค่ะถ้าใช้คำ
00:09:45 → 00:09:46 ว่าป้องกันการนอนไม่หลับอันนี้คือใช้ใน
00:09:46 → 00:09:49 กรณีของคนที่ยังไม่มีปัญหาเนอะเพราะ
00:09:49 → 00:09:51 ฉะนั้นถ้าเรายังไม่มีปัญหาเรื่องนอนไม่
00:09:51 → 00:09:54 หลับนะคะเหมาะกับการแนะนำเรื่องของสุข
00:09:54 → 00:09:57 อนามัยที่ดีในการนอนหนึ่งก็คือสิ่งแวด
00:09:57 → 00:10:00 ล้อมนะคะห้องนอนที่ดีควรจะเป็นยังไงหน้า
00:10:00 → 00:10:04 มืดเงียบละเย็นนะคะมันจะช่วยให้ระบบทั้ง 3
00:10:04 → 00:10:07 ระบบที่อธิบายไปเนี่ยทำงานได้ดีขึ้นแล้ว
00:10:07 → 00:10:12 ก็ทำให้เรานอนหลับได้ยาวนะคะ 2 ก็คือว่า
00:10:12 → 00:10:15 สมองเราเนี่ยชอบอะไรง่ายๆค่ะสมองและชอบ
00:10:15 → 00:10:18 อะไรที่ตรงเวลาสม่ำเสมอเพราะฉะนั้นการ
00:10:18 → 00:10:21 เข้านอนตรงเวลาตื่นนอนตรงเวลาในทุกๆวันนะ
00:10:21 → 00:10:24 คะสมองเขาไม่ชอบเวลาแบบว่าจันทร์ถึงศุกร์
00:10:24 → 00:10:28 เนี่ยเรามีเวลาในการเข้านอนแล้วก็ตื่นนอน
00:10:28 → 00:10:30 เวลา 1-2 อาทิตย์เป็นช่วงเอาคืนของเรา
00:10:30 → 00:10:33 เนี้ยแต่สมองเขาจะไม่เข้าใจแล้วค่ะว่า
00:10:33 → 00:10:35 เอ๊ะมันเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเขาจะไม่รู้
00:10:35 → 00:10:38 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยเขาควรจะหลับหรือว่า
00:10:38 → 00:10:42 เข้านอนเนี่ยตอนกี่โมง 3 ก็คือเรื่องของ
00:10:42 → 00:10:47 การผ่อนคลายจิตใจประมาณ 60 นาทีนะคะก่อน
00:10:47 → 00:10:50 การเข้านอนในทุกๆวันจะช่วยให้ระบบประสาท
00:10:50 → 00:10:53 อัตโนมัติเนี่ยทำงานลดลงและเราก็จะเข้า
00:10:53 → 00:10:56 สู่การนอนได้ดีขึ้นค่ะหากว่าถ้าเกิดว่า
00:10:56 → 00:10:59 ใครไม่แน่ใจนะคะว่าตัวเองมีปัญหาเรื่อง
00:10:59 → 00:11:01 ของการนอนของเค้านะคะทั้งเรื่องของนอนไม่
00:11:01 → 00:11:05 หลับภาวะหยุดหายใจขณะหลับนอนมากเกินไปนอน
00:11:05 → 00:11:08 น้อยเกินไปหรืออะไรก็ตามนะคะสามารถขอรับ
00:11:08 → 00:11:11 คำปรึกษาได้ที่ศูนย์นิทราเวชนะคะชั้น 5
00:11:11 → 00:11:14 อาคารคลินิกพิเศษ 14 ชั้นโรงพยาบาล
00:11:14 → 00:11:17 จุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทยค่ะ
00:11:17 → 00:11:18 [เพลง]
00:11:18 → 00:11:21 เราก็คงจะได้ทราบถึงอีกหนึ่งสาเหตุของการ
00:11:21 → 00:11:23 นอนไม่หลับรวมถึงได้ข้อมูลความรู้จัก
00:11:23 → 00:11:26 แพทย์กันไปแล้วนะครับสำหรับใครที่มีอาการ
00:11:26 → 00:11:28 ตรงกับที่แพทย์ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ก็ลอง
00:11:28 → 00:11:30 เปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลักกันอยู่นะครับ
00:11:30 → 00:11:34 ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
00:11:34 → 00:11:35 สภากาชาดไทย
00:11:35 → 00:11:48 [เพลง]