00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องของ
00:00:03 → 00:00:06 ริดสีดวงนะครับหรือที่บางคนเนี่ยเรียก
00:00:06 → 00:00:09 ชื่อเล่นมันว่าริชชี่นะครับคือริดสีดวง
00:00:09 → 00:00:11 เนี่ยมันเป็นปัญหาที่เจอกันค่อนข้างบ่อย
00:00:11 → 00:00:14 นะครับผมก็จะมาอธิบายว่าริดสีดวงเนี่ยมัน
00:00:14 → 00:00:17 คืออะไรนะครับคนไหนบ้างที่มีโอกาสเสี่ยง
00:00:17 → 00:00:20 จะเป็นริดสีดวงมีวิธีในการป้องกันแล้วก็
00:00:20 → 00:00:23 รักษาอย่างไรบ้างในแต่ละกรณีนะครับรวม
00:00:23 → 00:00:26 ทั้งบางคนเนี่ยมีเลือดออกทางทวารหนัก
00:00:26 → 00:00:29 เลือดออกกรณีไหนบ้างที่เราสงสัยว่ามัน
00:00:29 → 00:00:32 เป็นริดสีดวงแล้วเลือดออกกรณีไหนที่เรา
00:00:32 → 00:00:34 จำเป็นจะต้องสงสัยว่ามันเป็นโรคอื่นที่
00:00:34 → 00:00:37 ร้ายแรงกว่านะครับก็พบกับผมนะครับนาย
00:00:37 → 00:00:39 แพทย์ธานีธนียวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:39 → 00:00:41 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรค
00:00:42 → 00:00:44 ปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:44 → 00:00:47 เรื่องของริดสีดวงนั้นจริงๆมันเป็นปัญหา
00:00:47 → 00:00:51 ที่เส้นเลือดดำนะครับโดยเราจะแบ่ง
00:00:51 → 00:00:53 ริดสีดวงออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันนะครับ
00:00:53 → 00:00:56 ประเภทแรกก็คือประเภทที่มันอยู่ด้านในของ
00:00:56 → 00:00:58 ทวารหนักของเรานะครับหรือที่ภาษาทางการ
00:00:58 → 00:00:59 แพทย์เราจะเรียกว่า
00:01:00 → 00:01:03 Internal นะครับ Internal Camry
00:01:03 → 00:01:06 ส่วนอีกแบบหนึ่งก็จะเป็นประเภทที่อยู่
00:01:06 → 00:01:08 ด้านนอกของทวารหนักนะครับเราจะเรียกมัน
00:01:08 → 00:01:12 ว่า External hemoid นะครับแล้วแต่ละแบบ
00:01:12 → 00:01:14 เนี่ยมันมีความแตกต่างกันนะครับคือตัว
00:01:14 → 00:01:17 Internal หรือว่าตัวริดสีดวงซึ่งอยู่
00:01:17 → 00:01:21 ด้านในเนี่ยนะครับมันเป็นการโปร่งทองของ
00:01:21 → 00:01:25 ระบบหลอดเลือดดำนะครับที่อยู่ด้านในแล้ว
00:01:25 → 00:01:27 ระบบหล่อเลือดดำที่อยู่ด้านในตรงบริเวณ
00:01:27 → 00:01:31 ทวารหนักของเราเนี่ยมันจะมีเส้นประสาทมัน
00:01:31 → 00:01:34 เลี้ยงที่แตกต่างจากแบบภายนอกนะครับแบบ
00:01:34 → 00:01:37 ภายในเนี่ยมันจะไม่ค่อยเจ็บนะครับมันจะ
00:01:37 → 00:01:40 ไม่เจ็บมันจะไม่มีปัญหานะครับแต่ส่วนใหญ่
00:01:40 → 00:01:44 ยกเว้นในกรณีที่มันมีลิ่มเลือดไปอุดตันนะ
00:01:44 → 00:01:48 ครับอันนั้นอาจจะเจ็บได้นะฮะและตัว
00:01:48 → 00:01:51 interal Android หรือว่าริดสีดวงที่
00:01:51 → 00:01:54 อยู่ภายในนั้นมันยังแบ่งย่อยเป็นทั้งหมด 4
00:01:54 → 00:01:57 ระยะด้วยกันนะครับระยะแรกๆนะครับมันก็จะ
00:01:57 → 00:01:59 เป็นแค่ตุ่มนวลขึ้นมาเล็กๆนะครับแบบนี้
00:01:59 → 00:02:01 เราจะไม่เห็นนะครับแต่ว่าบางครั้งอาจจะมี
00:02:01 → 00:02:04 เลือดปนออกมากับอุภาชนะของเราได้นะครับ
00:02:04 → 00:02:07 ระยะที่ 2 มันก็จะใหญ่ขึ้นมาหน่อยแล้วอัน
00:02:07 → 00:02:10 นี้นี่คือเวลาที่เราถ่ายอุจจาระบางครั้ง
00:02:10 → 00:02:13 นะครับมันอาจจะมีตัวหัวริดสีดวงเนี่ยออก
00:02:13 → 00:02:16 มาทางทวารหนักได้แต่พอถ่ายเสร็จปุ๊บมันก็
00:02:16 → 00:02:19 ปลุกกลับเข้าไปข้างในนะครับระยะที่ 3
00:02:19 → 00:02:22 เนี่ยคือมันเป็นติ่งของตัวริดสีดวงเนี่ย
00:02:22 → 00:02:24 ออกมาตรงทวารหนักเวลาที่เราถ่ายเหมือนกัน
00:02:24 → 00:02:26 แต่ว่าอาจจะต้องใช้นิ้วเนี่ยดันมันเข้าไป
00:02:26 → 00:02:29 นะครับไม่งั้นมันจะไม่เข้าไปข้างในส่วน
00:02:29 → 00:02:32 ระยะที่ 4 เนี่ยไอ้ตัวริดสีดวงที่มันเป็น
00:02:32 → 00:02:34 หัวของมันเนี่ยนะครับมันออกมาข้างนอกเลย
00:02:34 → 00:02:36 แล้วมันก็เข้าไปไม่ได้ด้วยนะครับเราระยะ
00:02:36 → 00:02:38 พวกนี้เนี่ยบางคนก็อาจจะมีการเกิดภาวะ
00:02:39 → 00:02:41 แทรกซ้อนก็คือว่าตัวหัวริดสีดวงเนี่ยมัน
00:02:42 → 00:02:44 อาจจะมีลิ่มเลือดไปอุดตันภายในนะครับทำ
00:02:44 → 00:02:46 ให้มีอาการเจ็บปวดได้นะครับพวกนี้ก็ต้อง
00:02:46 → 00:02:50 รักษาส่วนใหญ่ก็อาจจะต้องผ่าตัดนะครับ
00:02:50 → 00:02:53 ในกรณีของริดสีดวงภายนอกหรือ EXO
00:02:53 → 00:02:56 handroid ตัวนี้เนี่ยนะครับมันมีเส้น
00:02:56 → 00:02:59 ประสาทจากไขสันหลังมาเลี้ยงทำให้มันมี
00:02:59 → 00:03:02 โอกาสที่จะเกิดการเจ็บการปวดได้มากกว่านะ
00:03:02 → 00:03:06 ครับมากกว่าในกรณีของริดสีดวงชนิดที่อยู่
00:03:06 → 00:03:10 ภายในนะครับทีนี้แต่ละแบบเนี่ยก็จะมีการ
00:03:10 → 00:03:14 ดูแลรักษาที่มีความแตกต่างกันบ้างในกรณี
00:03:14 → 00:03:16 ต่างๆนะครับ
00:03:16 → 00:03:21 คนไหนบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงตรง
00:03:21 → 00:03:24 นี้สำคัญแล้วนะครับจริงๆริดสีดวงเนี่ยนะ
00:03:24 → 00:03:26 ครับมันเกิดจากการที่เรามีความดันในช่อง
00:03:26 → 00:03:28 ท้องที่มันสูงขึ้นนะครับแล้วความดันใน
00:03:28 → 00:03:31 ช่องท้องพวกนี้มันสูงขึ้นในกรณีไหนบ้างนะ
00:03:31 → 00:03:33 ครับยกตัวอย่างเช่นถ้าเราตั้งครรภ์อันนี้
00:03:33 → 00:03:36 ความดันในช่องท้องสูงขึ้นนะครับคนที่มี
00:03:36 → 00:03:39 โรคตับแข็งที่มีน้ำในช่องท้องแล้วนะครับ
00:03:39 → 00:03:41 กรณีนี้ก็จะมีโอกาสเกิดเป็นริดสีดวงได้
00:03:42 → 00:03:45 ง่ายมากขึ้นนะครับอีกกรณีหนึ่งก็คือถ้า
00:03:45 → 00:03:48 ท่านมีการเบ่งถ่ายอุจจาระนะครับคนที่ท้อง
00:03:48 → 00:03:52 ผูกมากๆเลยมีท้องเสียบ่อยๆนะครับอันนี้ก็
00:03:52 → 00:03:55 สามารถที่จะทำให้ท่านเกิดเป็นโรคริดสีดวง
00:03:55 → 00:04:00 ทวารได้นะครับคนที่มีปัญหาในอุ้งเชิงกราน
00:04:00 → 00:04:03 เช่นเคยมีเนื้องอกมาก่อนนะครับเนื้องอก
00:04:03 → 00:04:05 เลยอุ้งเชิงกรานพวกนี้ก็จะมีความเสี่ยง
00:04:05 → 00:04:08 ต่อการเกิดมากขึ้นคนที่นั่งนานๆอันนี้
00:04:08 → 00:04:11 หลายๆคนก็คงจะเคยได้ยินนะครับถ้านั่งนาน
00:04:11 → 00:04:13 จะเกี่ยวข้องกับริดสีดวงไหมเกี่ยวครับนะ
00:04:13 → 00:04:16 เวลาที่เรานั่งเนี่ยมันก็จะมีความดันใน
00:04:16 → 00:04:18 ช่องท้องด้านล่างเนี่ยก็จะเพิ่มขึ้นโดย
00:04:18 → 00:04:20 เฉพาะคนที่นั่งส้วมเราก็นั่งอยู่นานๆพวก
00:04:20 → 00:04:23 นี้ก็จะยิ่งเป็นนะครับดังนั้นก็จะต้อง
00:04:23 → 00:04:26 ระวังภาวะนี้ไว้ด้วยนะครับอันนี้ก็จะเป็น
00:04:26 → 00:04:29 คร่าวๆนะครับที่เจอนอกเหนือจากนี้คนที่
00:04:29 → 00:04:32 อายุเยอะขึ้นแล้วก็คนที่มีน้ำหนักตัวที่
00:04:32 → 00:04:35 เยอะนะครับก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
00:04:35 → 00:04:38 ริดสีดวงทวารได้นะครับพวกนี้ก็คือเป็น
00:04:38 → 00:04:42 ปัจจัยเสี่ยงที่เราสามารถที่จะแก้ไขได้นะ
00:04:42 → 00:04:46 ทีนี้มาถึงอาการกันดีกว่าว่าอาการอะไร
00:04:46 → 00:04:49 บ้างที่เราจะเป็นจากริดสีดวงนะครับแน่นอน
00:04:49 → 00:04:53 คนที่คลำก้อนริดสีดวงได้เนี่ยนะครับอัน
00:04:53 → 00:04:55 นี้ค่อนข้างที่จะชัดเจนนะครับโดยเฉพาะ
00:04:55 → 00:04:57 ชนิดริดสีดวงที่มันอยู่ด้านในมันจะปลุก
00:04:57 → 00:05:01 เข้าปลุกออกได้ในบางคนที่เป็นระยะหลังๆนะ
00:05:01 → 00:05:04 ครับส่วนริดสีดวงที่อยู่ภายนอกเนี่ยบางคน
00:05:04 → 00:05:08 นะครับจะทำก้อนได้แล้วก็มีอาการระคาย
00:05:08 → 00:05:11 เคืองมีอาการคันได้นะครับบางคนมีอาการ
00:05:11 → 00:05:15 เจ็บได้นะฮะและที่สำคัญคือเลือดออกนะครับ
00:05:15 → 00:05:19 เลือดออกแบบไหนที่มันมาจากริดสีดวงอันนี้
00:05:19 → 00:05:22 ส่วนใหญ่เวลาที่เราถ่ายอุจจาระนะครับเรา
00:05:22 → 00:05:25 ก็เอากระดาษชำระเนี่ยเช็ดก้นนะครับมันมัก
00:05:25 → 00:05:30 จะมีเลือดสีแดงสดนะครับติดมากับตัวกระดาษ
00:05:30 → 00:05:34 ชำระนะครับหรือบางคนเนี่ยถ้ามองในส้วมก็
00:05:34 → 00:05:37 จะเห็นเป็นเลือดแดงเยอะเลยนะครับอันเนี้ย
00:05:37 → 00:05:41 มักจะเป็นจากริดสีดวงทวารแต่อย่างไรก็ตาม
00:05:41 → 00:05:44 หลายๆคนก็ต้องไม่กังวลว่ามันจะเป็นอะไร
00:05:44 → 00:05:47 ร้ายแรงกว่านั้นไหมยกตัวอย่างเช่นมะเร็ง
00:05:47 → 00:05:50 ในลำไส้มะเร็งในทวารหนักหรือจะเป็นลำไส้
00:05:50 → 00:05:53 อักเสบจากสาเหตุอื่นๆนะครับเรามีวิธีใน
00:05:53 → 00:05:56 การแยกคร่าวๆในกรณีที่มีเลือดออกทางทวาร
00:05:57 → 00:06:00 หนักดังนี้นะครับอันแรกถ้าเกิดว่าเลือด
00:06:00 → 00:06:03 ออกมากจนกระทั่งท่านรู้สึกมีอาการเวียน
00:06:03 → 00:06:06 หัวนะครับหน้ามืดอันนี้ไม่ใช่ริดสีดวง
00:06:06 → 00:06:09 ทวารนะครับท่านจะต้องหาเหตุผลอื่นนะครับ
00:06:09 → 00:06:12 ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเลือดออกในทางเดิน
00:06:12 → 00:06:14 อาหารที่มันรุนแรงมากนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:06:14 → 00:06:18 เลือดออกในในกระเพาะอาหารในหลอดอาหารหรือ
00:06:18 → 00:06:21 ในลำไส้ใหญ่ก็ตามนะครับบางคนก็มีในลำไส้
00:06:21 → 00:06:23 เล็กด้วยนะครับที่มันออกรุนแรงแบบนี้
00:06:23 → 00:06:26 จำเป็นจะต้องไปรักษากับแพทย์โดยด่วนนะ
00:06:27 → 00:06:28 ครับเพราะว่าถ้าเราปล่อยไว้แล้วปล่อยให้
00:06:28 → 00:06:31 เลือดออกเยอะๆเราอาจจะถึงแก่ชีวิตได้นะ
00:06:31 → 00:06:32 ครับอันนี้อันตรายมากนะครับ
00:06:32 → 00:06:34 ต่อมา
00:06:34 → 00:06:38 เลือดที่ออกเนี่ยถ้ามันเป็นจากตัวรีด 4
00:06:38 → 00:06:41 ดวงนะครับมันมักจะมีเลือดปริมาณไม่มากนะ
00:06:41 → 00:06:42 ครับ
00:06:42 → 00:06:45 ส่วนใหญ่แล้วอาจจะออกมาที่หลังจากถ่าย
00:06:45 → 00:06:48 อุจจาระเสร็จนะครับก็คือเราถ่ายไปแล้วล่ะ
00:06:48 → 00:06:51 แล้วก็ถ้าเรามองดูในส้วมเนี่ยก็จะมีแค่
00:06:51 → 00:06:53 อุจจาระของเรานะครับส่วนเลือดเนี่ยอาจจะ
00:06:53 → 00:06:56 ติดมาเป็นหยดๆนะครับกับกระดาษชำระหรือบาง
00:06:56 → 00:06:59 ครั้งจดลงในโถส้วมนะครับอีกกรณีนึงก็คือ
00:06:59 → 00:07:02 ตัวอุจจาระของเราเนี่ยมันมีเลือดเคลือบ
00:07:02 → 00:07:06 อยู่นะครับแต่อุจจาระของเราจะต้องสีและ
00:07:06 → 00:07:08 ลักษณะเป็นปกตินะครับก็คือสีน้ำตาลปกติ
00:07:08 → 00:07:11 นี่แหละครับแต่มีเลือดเคลือบอยู่รอบๆกรณี
00:07:11 → 00:07:14 นี้ก็เป็นจากริดสีดวงได้เช่นกันแต่ถ้า
00:07:14 → 00:07:16 เกิดว่าอุจจาระของเรามันมีความผิดปกตินะ
00:07:16 → 00:07:19 ครับคือมันมีมูกป่นนะครับเลือดที่เห็น
00:07:19 → 00:07:22 เนี่ยมันเป็นเลือดคล้ำๆดำๆนะครับพวกนี้
00:07:22 → 00:07:25 ต้องระวังมันไม่ใช่เลือดจากริดสีดวงนะ
00:07:25 → 00:07:28 ครับอันนี้ไม่ใช่หรือจากริดสีดวงนะครับ
00:07:28 → 00:07:31 ถ้ามีอาการถ่ายออกมาแล้วอุจจาระลักษณะผิด
00:07:31 → 00:07:34 ปกติสีมันคล้ำขึ้นนะครับเลือดมีลักษณะสี
00:07:34 → 00:07:38 คล้ำนะบางคนมีมูกปนอีกนะครับพวกนี้ก็ต้อง
00:07:38 → 00:07:41 ระวังนะครับถ้าถ่ายออกมาสีดำเลยโดยเฉพาะ
00:07:41 → 00:07:45 สีดำที่เหนียวเหมือนกับยางมะตอยแล้วมัน
00:07:45 → 00:07:48 ติดส้วมนะไอ้พวกเนี้ยคือเป็นเลือดออกใน
00:07:48 → 00:07:50 ทางเดินอาหารส่วนต้นนะครับตรงนี้ต้อง
00:07:50 → 00:07:54 ระวังนะครับอ่าตรงนี้ต้องระวังนะฮะเพราะ
00:07:54 → 00:07:57 ว่าบางคนผมเขียนเคยมีคนสงสัยว่าเอ๊ะทำไม
00:07:57 → 00:08:00 ถึงถ่ายดำนะครับถ่ายดำเนี่ยมันมีหลาย
00:08:00 → 00:08:03 สาเหตุนะครับเช่นว่าถ้าเราทานธาตุเหล็กนะ
00:08:03 → 00:08:05 ครับบางคนก็จะถ่ายดำแล้วก็มีอาการท้องผูก
00:08:05 → 00:08:09 ด้วยบางคนทานยาที่เรียกว่า bismus นะครับ
00:08:09 → 00:08:12 ซึ่งเป็นยาที่บางคนเอาไว้ใช้ในกรณีท้อง
00:08:12 → 00:08:14 เสียหรือเคลือบเพราะหรืออะไรพวกนี้นะครับ
00:08:14 → 00:08:17 มันก็จะทำให้เราถ่ายดำได้เช่นกันนะครับ
00:08:17 → 00:08:20 แต่ว่าลักษณะของการถ่ายดำจากยาทั้ง 2
00:08:21 → 00:08:23 ชนิดนี้มันจะไม่ใช่อุจจาระที่เหนียวแล้ว
00:08:23 → 00:08:26 ก็ติดส้วมนะครับแต่ถ้ามันเป็นเลือดออกใน
00:08:27 → 00:08:29 ทางเดินอาหารนะครับมันจะเหนียวมันจะมี
00:08:29 → 00:08:32 กลิ่นเหม็นผิดปกติแล้วมันก็จะติดข้างส้วม
00:08:32 → 00:08:34 ด้วยก็คือกดน้ำแล้วมันก็ไม่ลงไอ้พวกนี้นะ
00:08:34 → 00:08:37 ครับต้องคิดเลยว่ามันไม่ใช่เป็นจาก
00:08:37 → 00:08:40 ริดสีดวงจะต้องมีการตรวจเพิ่มเติมแน่นอน
00:08:40 → 00:08:41 นะครับ
00:08:41 → 00:08:45 นอกเหนือจากนี้อาการอะไรบ้างที่เราต้อง
00:08:45 → 00:08:48 ระวังนะครับอาการของมะเร็งลำไส้นะครับ
00:08:48 → 00:08:51 หรือมะเร็งในทางเดินอาหารนั้นมีหลากหลาย
00:08:51 → 00:08:54 ชนิดนะครับแต่ถ้าเรามีอาการน้ำหนักลดโดย
00:08:54 → 00:08:56 ที่เราไม่ตั้งใจรถมันเลยมันรถทั่วภาพเลย
00:08:56 → 00:09:00 อยู่ๆก็ผอมลงนะครับอันนี้ต้องระวังละบาง
00:09:00 → 00:09:02 คนมีไข้ต่ำๆโดยเฉพาะเวลากลางคืนมีเหงื่อ
00:09:03 → 00:09:05 ออกกลางคืนพวกนี้ก็ต้องระวังเช่นกันหรือ
00:09:05 → 00:09:09 ขนาดของอุจจาระมีการเปลี่ยนไปนะครับปกติ
00:09:09 → 00:09:11 เนี่ยถ้าเรามีมะเร็งลำไส้เนี่ยมันก็อาจจะ
00:09:11 → 00:09:14 ทำให้ลำไส้ของเราเนี่ยที่แคบลงเพราะมัน
00:09:14 → 00:09:17 ติดแคบลงปุ๊บลำอุจจาระของเราเนี่ยมันก็จะ
00:09:17 → 00:09:22 เล็กลงนะครับจากปกติบางคนลำขนาดปกติมัน
00:09:22 → 00:09:24 อยู่วันวันดีคืนดีมันเริ่มรู้สึกถ่ายแล้ว
00:09:24 → 00:09:29 มันทำไมมันออกมาแล้วมันเล็กลงนะครับลำมัน
00:09:29 → 00:09:31 เล็กลงอย่างนี้อันนี้ก็ต้องสั่งสงสัย
00:09:31 → 00:09:34 มะเร็งลำไส้คนที่มีท้องผูกสลับท้องเสีย
00:09:34 → 00:09:38 บ่อยๆอันนี้ก็ต้องระวังนะครับอ่าคือการ
00:09:38 → 00:09:41 ขับถ่ายของเราที่มันเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ
00:09:41 → 00:09:44 นะครับไม่ว่าปกติเราจะถ่ายแบบไหนก็ตามถ้า
00:09:44 → 00:09:46 เกิดอยู่ๆมันเปลี่ยนแปลงไปแล้วล่ะก็ร่วม
00:09:46 → 00:09:50 กับการมีเลือดออกแบบนี้เราต้องสงสัยภาวะ
00:09:50 → 00:09:53 อื่นที่นอกเหนือไปจากริดสีดวงนะครับการ
00:09:53 → 00:09:55 ขับถ่ายที่เปลี่ยนแปลงเช่นอะไรบ้างอย่าง
00:09:55 → 00:09:58 ที่บอกมีท้องผูกสลับท้องเสียนะครับมีขนาด
00:09:58 → 00:10:02 อุจจาระที่เล็กลงนะครับบางคนเนี่ยรู้สึก
00:10:02 → 00:10:06 ต้องเบ่งบ่อยขึ้นนะครับบางคนจากที่เคย
00:10:06 → 00:10:08 ถ่ายทุกวันก็อยู่ๆมาเป็นหลายวันเว้นวัน
00:10:08 → 00:10:11 บ้างมีท้องเสียบางครั้งบ้างพวกนี้นะครับ
00:10:11 → 00:10:14 คือจำเป็นจะต้องระวังเรื่องมะเร็งลำไส้
00:10:14 → 00:10:18 แล้วก็มะเร็งในทางเดินอาหารนะครับดังนั้น
00:10:18 → 00:10:23 พวกเนี้ยต้องระวังอีกอย่างนึงซึ่งจะบ่ง
00:10:23 → 00:10:25 ชี้ว่ามันไม่น่าใช่ริดสีดวงก็คือถ้าท่าน
00:10:25 → 00:10:29 มีอาการเจ็บบริเวณก้นตอนที่ท่านกำลังถ่าย
00:10:29 → 00:10:32 อยู่นะครับอ่าปกติวันริดสีดวงมันไม่ควรจะ
00:10:32 → 00:10:35 เจ็บเวลาที่ท่านถ่ายนะครับถ้ามันเจ็บเวลา
00:10:35 → 00:10:37 ที่ท่านถ่ายตรงบริเวณทวารหนักหรือเวนก้น
00:10:37 → 00:10:39 เนี่ยนะครับเราต้องสงสัยว่ามีการฉีกขาด
00:10:39 → 00:10:42 ของหูรูดตรงบริเวณก้นหรือเปล่าอันนี้ทาง
00:10:42 → 00:10:44 ภาษาทางการแพทย์เราจะเรียกมันว่าเอโน
00:10:44 → 00:10:48 ฟิชเชอร์นะครับหรือในบางกรณีก็คือมีการ
00:10:48 → 00:10:51 อักเสบนะครับของตัวทวารหนักนะครับอาจจะมี
00:10:51 → 00:10:54 หนองมีการอักเสบของเยื่อบุต่างๆจากโรค
00:10:54 → 00:10:57 ต่างๆพวกนี้เป็นต้นดังนั้นถ้ามีอาการ
00:10:57 → 00:11:00 เหล่านี้ก็คือมีถ่ายออกมาเป็นเลือดเยอะนะ
00:11:00 → 00:11:04 ครับมึนหัวเลยหน้ามืดนะครับต้องไปพบแพทย์
00:11:04 → 00:11:08 โดยด่วนนะครับถ้ามันมีถ่ายมาแล้วมีมูกปน
00:11:08 → 00:11:11 เลือดมันสีคล้ำๆอุจจาระมีลักษณะเล็กลงมี
00:11:11 → 00:11:14 อาการท้องเสียสลับท้องผูกมีน้ำหนักลดลง
00:11:14 → 00:11:17 อย่างพวกภาพโดยที่เราไม่ตั้งใจรถนะครับมี
00:11:17 → 00:11:19 เหงื่อออกกลางคืนมีค่ากลางคืนพวกนี้ต้อง
00:11:19 → 00:11:22 ระวังมะเร็งลำไส้นะครับอ่าถ้าเรามีอาการ
00:11:22 → 00:11:26 เจ็บปวดบริเวณที่เอ่อถ่ายนะครับอันเนี้ย
00:11:26 → 00:11:28 ก็ต้องระวังว่ามันเป็นโรคอื่นด้วยเช่นกัน
00:11:28 → 00:11:33 นะครับทีนี้เวลาที่เราเป็นริดสีดวงแล้ว
00:11:33 → 00:11:36 เนี่ยหรือเรากำลังจะเป็นเราจะมีวิธีในการ
00:11:36 → 00:11:39 ป้องกันมันได้ยังไงบ้างนะครับจริงๆวิธี
00:11:39 → 00:11:41 ป้องกันกับวิธีรักษา
00:11:41 → 00:11:43 ริดสีดวงในระยะแรกๆที่มันเป็นไม่มาก
00:11:43 → 00:11:46 เหมือนกันนะครับเหมือนกันเลยนะครับโดย
00:11:46 → 00:11:48 เฉพาะระยะที่ 1 กับที่ 2 ก็คือระยะที่ 1
00:11:48 → 00:11:50 เนี่ยถ้ามันอยู่ข้างในมันก็คือเป็นหัว
00:11:50 → 00:11:53 เล็กๆเราตรวจครรภ์อะไรเราก็จะไม่เจอนะ
00:11:53 → 00:11:55 ครับระยะที่ 2 ก็คือมันอาจจะมีตัวหัว
00:11:55 → 00:11:58 ริดสีดวงออกมาทางทวารหนักเวลาที่เราถ่าย
00:11:58 → 00:12:00 อุจจาระแล้วมันก็หดเข้าไประยะพวกนี้วิธี
00:12:00 → 00:12:03 ในการดูแลเนี่ยเหมือนกันนะครับประการแรก
00:12:03 → 00:12:08 อย่าให้ท้องผูกครับอย่าให้ท้องผูกทำยังไง
00:12:08 → 00:12:08 ล่ะ
00:12:08 → 00:12:12 เราก็อาจจะต้องทานอาหารประเภทกากใหญ่
00:12:12 → 00:12:15 เพิ่มขึ้นแล้วก็ดื่มน้ำให้มันได้ประมาณ
00:12:15 → 00:12:18 สัก 2 ลิตรต่อวันนะครับการย้ายแน่นอนก็มี
00:12:18 → 00:12:21 จำพวกผักผลไม้ต่างๆนะครับแต่ถ้าท่านไหน
00:12:21 → 00:12:24 ที่อ่าอาจจะทานไม่ได้นะครับหรือมีข้อ
00:12:24 → 00:12:27 จำกัดต่างๆการใช้ไฟเบอร์นะครับชนิดผงที่
00:12:27 → 00:12:30 เราเอามาชงกันนี่แหละครับเช่นไซเรียบฮาส
00:12:30 → 00:12:34 พวกนี้ก็สามารถที่จะทำได้แต่ว่าถ้าถ้าจะ
00:12:34 → 00:12:37 ทานแบบนั้นผมแนะนำว่าค่อยๆเริ่มทานก่อนนะ
00:12:37 → 00:12:39 ครับอย่าไปทานทีเดียวเยอะๆไม่ฉะนั้นบางคน
00:12:39 → 00:12:43 อาจจะมีจุกเสียดปวดท้องได้นะครับอ่าแล้ว
00:12:43 → 00:12:44 ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพราะว่าถ้าท่าน
00:12:44 → 00:12:46 ดื่มน้ำไม่เพียงพอเราได้ไฟเบอร์พวกนี้ไป
00:12:46 → 00:12:49 เนี่ยแทนที่ท่านจะหายท้องผูกท่านจะท้อง
00:12:49 → 00:12:53 ผูกมากขึ้นนะครับมากขึ้นได้นะฮะ
00:12:53 → 00:12:56 ทั่วไปแล้วไฟเบอร์เหล่านี้นะครับเวลาที่
00:12:56 → 00:12:58 เราให้รับประทานเราก็จะรับประทานสัก
00:12:58 → 00:13:01 ประมาณ 30 กรัม 35 กรัมต่อวันอย่างนี้นะ
00:13:01 → 00:13:03 ครับโดยประมาณแต่ว่าตอนที่เราเริ่มใหม่ๆ
00:13:03 → 00:13:05 เราอาจจะเริ่มสัก 15 กรัม 20 กรัมก่อนก็
00:13:05 → 00:13:09 ได้นะครับแล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นตามที่
00:13:09 → 00:13:12 ร่างกายของเราตอบสนองนะครับตรงนี้สำคัญ
00:13:12 → 00:13:15 เราต้องทำให้เราท้องไม่ถูกถ้าเราทานแบบ
00:13:15 → 00:13:19 นี้แล้วเนี่ยบางคนก็อาจจะหายเลยก็ได้นะ
00:13:19 → 00:13:22 ครับแต่ต้องบอกอย่างนี้ครับเรื่องของ
00:13:22 → 00:13:25 ไฟเบอร์เราต้องใจเย็นๆนะครับอย่าเพิ่งไป
00:13:25 → 00:13:28 เพิ่มมันเร็วมากขึ้นนะครับไม่ฉะนั้นท่าน
00:13:28 → 00:13:30 อาจจะมีผลข้างเคียงจากไฟเบอร์ได้นะครับ
00:13:30 → 00:13:33 และบางคนอาจจะต้องใช้เวลาประมาณเดือนถึง
00:13:33 → 00:13:36 เดือนครึ่งกว่าจะเริ่มเห็นผลนะครับดัง
00:13:36 → 00:13:39 นั้นใจเย็นๆนะครับใจเย็นๆบางคนบอกว่ากิน
00:13:39 → 00:13:41 ไฟเบอร์ไปแล้วเนี่ยทำไมมันยังไม่ถ่ายอีก
00:13:42 → 00:13:44 นะผ่านไปแล้วก็อาทิตย์นึงยังไม่เห็นเกิด
00:13:44 → 00:13:46 อะไรขึ้นมันนานเกินไปหรือเปล่าไม่นานครับ
00:13:46 → 00:13:48 บางคนอาจจะต้องใช้เวลาเดือนนึงถึงเดือน
00:13:48 → 00:13:51 ครึ่งเลยทีเดียวกว่าจะเห็นผลนะครับถ้า
00:13:51 → 00:13:54 ท่านทานแล้วยังมีอาการท้องผูกอยู่ในช่วง
00:13:54 → 00:13:56 ก่อนที่ไฟเบอร์จะทำงานท่านสามารถที่จะทาน
00:13:56 → 00:14:00 ยาถ่ายได้นะครับยาถ่ายนี้ไม่ต้องกลัวนะ
00:14:00 → 00:14:03 ครับคือบางคนจะกลัวว่าถ้าเราทานยาถ่ายมัน
00:14:03 → 00:14:05 จะติดหรือเปล่าจะทำให้เราท้องผูกในอนาคต
00:14:06 → 00:14:08 หรือเปล่าคำตอบคือไม่ใช่ครับท่านจะไม่
00:14:08 → 00:14:10 เป็นโรคนั้นเด็ดขาดท่านจะไม่ติดยาถ่าย
00:14:10 → 00:14:13 ท่านจะไม่ทำให้ท้องผูกนะครับแล้วการที่
00:14:13 → 00:14:16 ท่านถ่ายออกมาไม่ได้ในช่วงนี้มันจะยิ่งทำ
00:14:16 → 00:14:18 ให้ริดสีดวงเป็นมากขึ้นดังนั้นท่านควรจะ
00:14:18 → 00:14:21 ต้องรับประทานยาถ่ายถ้าหากว่าท่านมีท้อง
00:14:21 → 00:14:24 ผูกร่วมด้วยนะครับประการแรกรักษาท้องผูก
00:14:24 → 00:14:27 ถ่ายให้มันเป็นเวลานะครับอ่าอันนี้สำคัญ
00:14:27 → 00:14:30 ดื่มน้ำให้มันเพียงพอแล้วก็เวลาที่เข้าไป
00:14:30 → 00:14:35 ถ่ายเนี่ยนะครับอย่าเบ่งอย่าเบ่งถ้ามัน
00:14:35 → 00:14:37 ต้องเบ่งก็แปลว่าท่านยังมีอาการท้องผูก
00:14:37 → 00:14:39 หลงเหลืออยู่ต้องอาจจะต้องไปรับประทานยา
00:14:39 → 00:14:42 ไปเหน็บยาอย่างนี้เป็นต้นนะครับและที่
00:14:42 → 00:14:45 สำคัญอย่าไปนั่งเล่นมือถือนะครับในห้อง
00:14:45 → 00:14:48 น้ำนะฮะเพราะว่านั่นแหละครับคือสาเหตุที่
00:14:48 → 00:14:51 ท่านทำให้เกิดริดสีดวงด้วยตรวจท่านเองนะ
00:14:51 → 00:14:53 ครับก็คืออย่าไปนั่งนานนั่นเองพูดง่ายๆ
00:14:54 → 00:14:56 แล้วถ้านั่งในส้วมก็ไม่ต้องเอาหนังสือไป
00:14:56 → 00:14:59 อ่านไม่ต้องไปร้องเพลงอยู่ในส้วมไม่ต้อง
00:14:59 → 00:15:01 ไปนั่งเล่นมือถืออยู่ในส้วมนะครับเพราะ
00:15:01 → 00:15:04 ว่าริดสีดวงของท่านก็จะเป็นมากขึ้นนะครับ
00:15:04 → 00:15:07 กิจวัตรประจำวันอย่างอื่นการออกกำลังกาย
00:15:07 → 00:15:10 อย่างสม่ำเสมออันนี้ช่วยได้นะครับอ่าช่วย
00:15:10 → 00:15:13 ได้มากเลยทีเดียวนะครับการที่ไม่นั่งนานๆ
00:15:13 → 00:15:15 อันนี้สำคัญเพราะว่าหลายคนลืมตรงนี้นะ
00:15:15 → 00:15:18 ครับนั่งนานๆในกรณีไหนบ้างล่ะเดี๋ยวนี้คน
00:15:18 → 00:15:21 เราเนี่ยทำงานในออฟฟิศทำงานที่บ้าน work
00:15:21 → 00:15:22 from home นะครับหรือว่าใช้งาน
00:15:22 → 00:15:25 คอมพิวเตอร์เยอะๆมันจะเกิดการนั่งนานๆไม่
00:15:25 → 00:15:27 ยอมลุกไปไหนนี่แหละครับความเสี่ยงอย่าง
00:15:27 → 00:15:31 หนึ่งนะครับความเสี่ยงอย่างนี้แหละที่มัน
00:15:31 → 00:15:33 ไม่ได้มีแค่เรื่องของริดสีดวงเราจะรู้ว่า
00:15:33 → 00:15:36 มันมีเรื่องของออฟฟิศซินโดรมปวดเมื่อยตาม
00:15:36 → 00:15:38 ร่างกายต่างๆการใช้สายตามากๆครับอันนี้ก็
00:15:39 → 00:15:42 สายตามีปัญหาอีกนะครับอ่าดังนั้นการที่
00:15:42 → 00:15:44 เรานั่งไปสักพักเนี่ยการลุกบิดขี้เกียจ
00:15:44 → 00:15:46 อะไรบ้างทุกๆประมาณ 20 นาทีถึงครึ่ง
00:15:46 → 00:15:48 ชั่วโมงเนี่ยก็สามารถช่วยตรงนี้ได้นะครับ
00:15:48 → 00:15:51 อันนี้เป็นวิธีเบื้องต้นที่เราสามารถใช้
00:15:51 → 00:15:55 ได้นะฮะนอกเหนือจากนี้การขมิบก้นนะครับก็
00:15:55 → 00:15:58 สามารถที่จะช่วยแก้ไขภาวะริดสีดวงพวกนี้
00:15:58 → 00:16:01 ได้นะครับมันจะเรียกว่า Google Exercise
00:16:01 → 00:16:03 นะครับ Google Exercise นี่ก็สามารถทำ
00:16:03 → 00:16:06 ได้ในหลายกรณีแล้วมันก็ช่วยได้ในหลายกรณี
00:16:06 → 00:16:09 ด้วยนะครับเช่นอุ้งเชิงการหย่อนในผู้หญิง
00:16:09 → 00:16:11 นะครับหรือว่าการที่มีริดสีดวงนี้ก็ช่วย
00:16:11 → 00:16:13 ได้โดยเฉพาะในเวลาที่เราตั้งครรภ์อยู่
00:16:13 → 00:16:16 แล้วมันมีริดสีดวงนะครับการตั้งครรภ์จริง
00:16:16 → 00:16:18 ๆก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดริดสีดวงนะ
00:16:18 → 00:16:22 ครับอันนี้ก็ต้องมีวิธีในการแก้ไขนะครับ
00:16:22 → 00:16:25 แล้วถ้าวิธีพวกนี้มันไม่ได้ผลแล้วท่านรู้
00:16:25 → 00:16:27 สึกรำคาญแล้วเจ็บมันมีเลือดออกเนี่ยทำ
00:16:27 → 00:16:32 อย่างไรได้บ้างนะครับจริงๆมันก็มียาบาง
00:16:32 → 00:16:34 อย่างที่เราสามารถใช้ได้นะครับเป็นพวกยา
00:16:34 → 00:16:38 เหน็บยาสอดหรือว่าเป็นครีมทาตัวริดสีดวง
00:16:38 → 00:16:41 นะครับครีมพวกนี้เนี่ยมันก็จะมีส่วน
00:16:41 → 00:16:44 ประกอบหลากหลายนะครับยกตัวอย่างเช่น
00:16:44 → 00:16:46 สเตียรอยด์นะครับไฮโดรคอร์ติดโซนนะครับ
00:16:46 → 00:16:50 ตัวนี้เนี่ยจะใช้วันละ 2 ครั้งเช้าเย็นนะ
00:16:50 → 00:16:54 ครับแต่แนะนำว่าอย่าใช้เกิน 7 วันเพราะ
00:16:54 → 00:16:56 ว่าถ้าท่านใช้เกิน 7 วันสิ่งที่เสี่ยงต่อ
00:16:56 → 00:16:59 มาก็คือผนังของทวารหนักของท่านเนี่ยมันจะ
00:16:59 → 00:17:02 บางลงแล้วมีโอกาสเกิดโรคอื่นแทรกซ้อนตาม
00:17:02 → 00:17:06 มาได้นะครับอย่าใช้เกิน 7 วันแล้วท่านไป
00:17:06 → 00:17:08 ซื้อครีมพวกนี้มาทาท่านจะต้องรู้ด้วยว่า
00:17:08 → 00:17:12 มันคือครีมอะไรเพราะว่ามันไม่ใช่มีแต่
00:17:12 → 00:17:15 สเตียรอยด์อย่างเดียวยี่ห้อบางอย่างมีการ
00:17:15 → 00:17:19 ใช้ยาตัวอื่นเช่นในโตกลีเซอรีนด้วยนะครับ
00:17:19 → 00:17:21 ในตัว quizine
00:17:21 → 00:17:25 มันเป็นยาที่เอาไว้คือถ้าเกิดคนไหนเป็น
00:17:25 → 00:17:27 โรคหัวใจนะครับก็คงจะเคยได้ยินยาอมใต้
00:17:27 → 00:17:29 ลิ้นนะครับมันยาตัวเดียวกันนี่แหละครับ
00:17:29 → 00:17:33 แต่มันเอาไว้ใช้ทาตัวริดสีดวงได้นะครับ
00:17:33 → 00:17:35 ส่วนใหญ่แล้วผมก็ไม่ค่อยแนะนำยาตัวนี้
00:17:35 → 00:17:37 เท่าไหร่นะครับเพราะว่าบางทีมันอาจจะไม่
00:17:37 → 00:17:40 ได้ช่วยเท่ากับตัวสเตียรอยด์นะครับแล้วก็
00:17:40 → 00:17:44 มียาชาอ่าบางคนมีการใช้ยาทาเลยนะครับตัว
00:17:44 → 00:17:47 นี้ก็มันพอช่วยได้บ้างนะครับแต่มันไม่ได้
00:17:47 → 00:17:49 แก้ไขที่ต้นเหตุนะครับตัวริดสีดวงมันก็
00:17:49 → 00:17:51 ยังอยู่เหมือนเดิมนะครับมันจะไม่ได้ฝ่อ
00:17:51 → 00:17:53 หายไปไหนนะครับสู้สติหน่อยไม่ได้นะครับ
00:17:53 → 00:17:56 อ่าพวกนี้ก็จะเป็นสิ่งที่เราจำเป็นจะต้อง
00:17:56 → 00:17:59 เข้าใจแล้วก็ยาบางชนิดมันมีส่วนผสมของ
00:17:59 → 00:18:01 ทั้ง 3 อย่างเลยนะครับท่านก็จะต้องไปอ่าน
00:18:01 → 00:18:05 ฉลากดูเลยนะครับผมก็ไม่ทราบยี่ห้อที่
00:18:05 → 00:18:07 ประเทศไทยเหมือนกันนะครับหลายคนก็อาจจะ
00:18:07 → 00:18:09 สงสัยทั้งนั้นตรงนี้ต้องไป 3 เภสัชกรที่
00:18:09 → 00:18:13 ร้านขายยาว่าท่านใช้ยาตัวนั้นน่ะมันมี
00:18:13 → 00:18:15 อะไรเป็นส่วนประกอบในนั้นบ้างนะครับตรง
00:18:15 → 00:18:17 นี้สำคัญนะครับ
00:18:17 → 00:18:20 นอกเหนือจากนี้มันยังมีอีกอย่างหนึ่งซึ่ง
00:18:20 → 00:18:24 ท่านสามารถที่จะช่วยได้นะครับก็คือการใช้
00:18:24 → 00:18:28 sis Bad นะครับ syst Dad นี่คือ sitz
00:18:28 → 00:18:32 แล้วก็ Bass นะครับมันคืออะไรนะครับในทาง
00:18:32 → 00:18:34 อเมริกาที่เราใช้กันบ่อยมากนะครับแต่ที่
00:18:34 → 00:18:37 ไทยนะเท่าที่ผมทราบนะไม่ค่อยมีคน
00:18:37 → 00:18:40 พูดถึงเท่าไหร่นะครับมันก็คือการเอาก้น
00:18:40 → 00:18:43 เราไปแช่น้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อนนิดนึงนะ
00:18:43 → 00:18:47 ครับลักษณะของมันเนี่ยก็คือจะเป็นกะละมัง
00:18:47 → 00:18:49 เล็กๆนะครับขนาดพอดีก้นเราเนี่ยนะครับถ้า
00:18:49 → 00:18:52 ที่อเมริกาเราจะเอาตัวกะละมังตัวนี้ไป
00:18:52 → 00:18:54 ครอบตรงส้วมหรอได้พอดีเลยนะครับเราก็เติม
00:18:54 → 00:18:58 น้ำอุ่นลงไปบางคนก็อาจจะใส่พวกเกลืออะไร
00:18:58 → 00:19:01 ลงไปเล็กๆน้อยๆก็ได้นะครับให้มันอุ่นๆ
00:19:01 → 00:19:03 ร้อนๆแล้วก็นั่งแช่อย่างนั้นนะครับแช่
00:19:03 → 00:19:05 เช้าแช่เย็นหรือบางคนก็แช่วันละ 3 ครั้ง
00:19:05 → 00:19:09 ก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการนะครับระคาย
00:19:09 → 00:19:12 เคืองเจ็บป่วยจากตัวริดสีดวงได้นะครับอ่า
00:19:12 → 00:19:15 ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่เราทำในกรณีริดสีดวง
00:19:15 → 00:19:18 ระยะที่ 1 หรือที่ 2 นะครับ
00:19:18 → 00:19:20 ครับแต่ถ้ามันเป็นมากกว่านั้นล่ะเช่นว่า
00:19:20 → 00:19:22 ทำอย่างนี้แล้วมันไม่ได้ผลเรามีวิธีในการ
00:19:22 → 00:19:26 รักษาอย่างไรนะครับก็มีหลักๆด้วยกันสอง
00:19:27 → 00:19:30 สามอย่างนะครับอย่างแรกก็คือการที่เราเอา
00:19:30 → 00:19:34 หนังยางไปรัดตัวริดสีดวงอันนี้ใช้ได้
00:19:34 → 00:19:37 เฉพาะกรณีริดสีดวงภายในเท่านั้นนะครับ
00:19:37 → 00:19:41 ริดสีดวงภายนอกเนี่ยมันใช้ไม่ได้นะครับ
00:19:41 → 00:19:43 เพราะว่าถ้าใช้กับริดสีดวงภายนอกท่านจะ
00:19:43 → 00:19:45 เจ็บปวดทรมานมากเลยนะครับริดสีดวงภายใน
00:19:45 → 00:19:47 มันไม่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเส้นประสาทที่
00:19:47 → 00:19:50 มารับรู้จากตัวริดสีดวงภายในเนี่ยมันไม่
00:19:50 → 00:19:53 ได้ทำให้เกิดการเจ็บปวดแบบนั้นนะครับก็
00:19:53 → 00:19:56 สามารถที่จะทำได้ตรงนี้ก็ทั่วๆไปเรา
00:19:56 → 00:19:59 สามารถทำได้เวลาที่ไปคลินิกหมอเลยนะครับ
00:19:59 → 00:20:01 คือหมอเขาอาจจะทำที่นั่นได้เลยโดยที่ไม่
00:20:01 → 00:20:04 ต้องวางยาสลบยาชาแต่อย่างใดเลยครับสามารถ
00:20:04 → 00:20:05 ทำได้แล้วมันก็ไม่ได้เจ็บปวดเท่าไหร่นะ
00:20:05 → 00:20:09 ครับแต่ว่าการใช้อย่างรัดแบบนี้เนี่ยนะ
00:20:09 → 00:20:13 ครับมันก็เอ่อมีข้อควรระวังบ้างบางอย่าง
00:20:13 → 00:20:17 นะครับข้อควรระวังอะไรแล้วคนไหนที่ทำการ
00:20:18 → 00:20:19 อย่างไม่ได้รักอย่างนี้มันเป็นการรักษา
00:20:19 → 00:20:23 ที่ค่อนข้างที่จะดีมากนะครับแล้วบางที
00:20:23 → 00:20:26 เนี่ยมันก็ได้ผลค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจนะ
00:20:26 → 00:20:28 ครับผลข้างเคียงก็จะน้อยมากนะครับส่วน
00:20:28 → 00:20:30 ใหญ่เวลารัดเสร็จก็จะมีอาการปวดหน่วงบ้าง
00:20:30 → 00:20:32 ในบางคนนะครับหลังจากนั้นก็บางคนก็อาจจะ
00:20:32 → 00:20:36 มีถ่ายพวกเศษๆพวกนี้มันออกมาได้นะครับแต่
00:20:36 → 00:20:40 คนที่ไม่ควรทำและทำไม่ได้ 1 คนท้องเนี่ย
00:20:40 → 00:20:43 เราจะไม่แนะนำให้ทำนะครับคนที่มีโรคตับ
00:20:43 → 00:20:47 แข็งนะครับคนที่มีโรคตับแข็งเราจะไม่ทำนะ
00:20:47 → 00:20:51 ครับเราจะไม่ทำคนที่รับประทานยาละลายลิ่ม
00:20:51 → 00:20:56 เลือดอยู่นะครับเช่นวาฟารินอาทิสบาย
00:20:56 → 00:21:00 พวกนี้นะครับเราจะไม่ให้ทำนะครับหรือคน
00:21:00 → 00:21:03 ที่รับประทานยาละลายยาต้านเกร็ดเลือดนะ
00:21:03 → 00:21:05 ครับที่
00:21:05 → 00:21:08 เป็นตัวที่แรงๆยกตัวอย่างเช่นคบพี่โดเรม
00:21:08 → 00:21:12 นะครับหรือพระสเกลพวกนี้เราก็จะไม่ทำเช่น
00:21:12 → 00:21:14 กันเพราะว่าโอกาสที่จะเลือดออกมันเยอะมาก
00:21:14 → 00:21:17 นะครับส่วนใหญ่มันไม่ออกทันทีหรอกครับมัน
00:21:17 → 00:21:19 ไปออกเอาอีก 2-3 วันที่ผ่านมานะครับมันจะ
00:21:19 → 00:21:22 เราผ่านไป 2-3 วันแล้วคราวนี้เลือดออกไม่
00:21:22 → 00:21:24 หยุดเลยอันนี้น่ากลัวนะครับดังนั้นคน
00:21:24 → 00:21:29 เหล่านี้เราจะไม่ทำการรัดยางให้นะครับ
00:21:30 → 00:21:33 สำหรับ aspirin ทำได้ไหมได้ครับ astrin
00:21:33 → 00:21:35 เนี่ยยังสามารถที่จะรัดยางได้อยู่นะครับ
00:21:35 → 00:21:38 ดังนั้นกรณีนี้ก็คือรอบตัวไปนะครับแต่ถ้า
00:21:38 → 00:21:41 เป็นตัวอื่นที่เป็นยาต้านเกล็ดเลือดเราจะ
00:21:41 → 00:21:44 ไม่ทำนะครับเพราะว่ามันอันตรายนะฮะส่วนคน
00:21:44 → 00:21:48 ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเช่นเป็น HIV นะ
00:21:48 → 00:21:52 ครับหรือเราได้ยากดภูมิต้านทานอยู่เพราะ
00:21:52 → 00:21:56 ว่าเราเป็นคนที่มีโรคภูมิต่อต้านตัวเองนะ
00:21:56 → 00:21:59 ครับหรือเราปลูกถ่ายอวัยวะพวกนี้ก็จะไม่
00:22:00 → 00:22:02 ทำการรัดยางให้เพราะว่ามันมีโอกาสที่จะ
00:22:02 → 00:22:06 ติดเชื้อรุนแรงได้นะครับเราจะไม่ทำให้
00:22:06 → 00:22:09 แล้วถ้าเกิดว่าเรารัดยางไม่ได้เราจะทำ
00:22:09 → 00:22:12 อะไรได้นะครับคนท้องเนี่ยนะครับส่วนใหญ่
00:22:12 → 00:22:15 แล้วเราไม่ต้องทำอะไรนะครับให้ทาน
00:22:15 → 00:22:18 ไฟเบอร์ทานน้ำมากๆนะครับแล้วก็รับประทาน
00:22:18 → 00:22:21 ยาถ่ายถ้าเกิดว่ามีอาการท้องผูกทำคีย์โก้
00:22:21 → 00:22:23 Exercise นะครับหรือการขมิบช่องคลอดและ
00:22:23 → 00:22:26 ก็รูทวารพวกนี้ก็จะดีขึ้นได้หลังจากคลอด
00:22:26 → 00:22:29 ลูกก็มักจะดีขึ้นเองนะครับมีอีกอย่าง
00:22:29 → 00:22:31 หนึ่งซึ่งพร้อมสามารถที่จะทำได้ก็คือเวลา
00:22:31 → 00:22:34 ที่นอนเนี่ยนะครับให้นอนตะแคงเอาด้านซ้าย
00:22:34 → 00:22:35 ลง
00:22:35 → 00:22:38 เหตุผลก็เพราะว่าตัวมดลูกของเราเนี่ยนะ
00:22:38 → 00:22:41 ครับมันจะกดเบียดเส้นเลือดดำอันหนึ่งซึ่ง
00:22:42 → 00:22:43 เป็นเส้นเลือดดำใหญ่มากในช่องท้องของเรา
00:22:43 → 00:22:46 เรียกว่า inseriodyk ว่าซึ่งมันอยู่ด้าน
00:22:46 → 00:22:49 ขวานะครับถ้าเรานอนตะแคงด้านซ้ายลงนะครับ
00:22:49 → 00:22:51 มันก็จะลดการกดเบียดกับเส้นเลือดดำเส้น
00:22:51 → 00:22:54 นี้แล้วเส้นเลือดดำเส้นนี้เนี่ยนะครับมัน
00:22:54 → 00:22:58 ก็จะได้รับเลือดส่วนหนึ่งมาจาก
00:22:58 → 00:23:02 เส้นเลือดดำที่กลายเป็นริดสีดวงครับนะดัง
00:23:02 → 00:23:04 นั้นคนที่ตั้งครรภ์อยู่นอนตะแคงด้านซ้าย
00:23:04 → 00:23:07 ลงก็จะช่วยท่านได้มากนะครับในกรณีที่ไม่
00:23:07 → 00:23:09 สามารถทำการรัดยางได้ด้วยเหตุผลต่างๆนานา
00:23:09 → 00:23:12 หรือว่าในกรณีที่เป็นแรกๆเนี่ยนะครับเรา
00:23:12 → 00:23:16 จะใช้วิธีในการฉีดสารเข้าไปที่ตัวเนี่ย
00:23:16 → 00:23:20 ให้มันหายไปนะครับตัวริดสีดวงนะครับเราจะ
00:23:20 → 00:23:24 เรียกว่า sciro ก็คือแปลว่าทำให้มันแข็ง
00:23:24 → 00:23:28 เลยก็คือเป็นการรักษานะครับมันจะได้ผลไม่
00:23:28 → 00:23:30 ได้ดีเท่ากับการรัดยางนะครับแต่ว่ามันก็
00:23:30 → 00:23:32 จะมีผลดีตรงที่มันไม่เลือดออกนะครับแล้ว
00:23:32 → 00:23:35 มันก็ไม่ค่อยติดเชื้อเท่ากับการรัดอย่าง
00:23:35 → 00:23:39 นั้นในคนที่มีปัญหาว่าเรามีตับแข็งมีน้ำ
00:23:39 → 00:23:43 ในท้องนะครับหรือมีรับประทานยาหลายๆลิ่ม
00:23:43 → 00:23:45 เลือดยาที่ต้านเกล็ดเลือดสูงๆอยู่เนี่ย
00:23:45 → 00:23:47 เราสามารถที่จะทำได้และคนที่มีภูมิต้าน
00:23:47 → 00:23:50 ทานบกพร่องนะครับเราสามารถที่จะทำวิธีนี้
00:23:50 → 00:23:53 ได้นะครับแล้วนอกเหนือจากวิธีนี้ก็มีวิธี
00:23:53 → 00:23:55 อื่นๆอีกแต่ว่ามันอาจจะได้ผลดีไม่ค่อย
00:23:55 → 00:23:57 เท่ากับวิธี 2 วิธีนี้นะครับดังนั้นผมก็
00:23:57 → 00:23:59 เลยยังจะไม่ลงรายละเอียดนะครับคือข้อยก
00:23:59 → 00:24:01 ตัวอย่างอันนี้ต้องไปคุยกับคุณหมอนะครับ
00:24:01 → 00:24:04 ยกตัวอย่างเช่นการใช้อินฟราเรดใช้เลเซอร์
00:24:04 → 00:24:07 ใช้อ่าไฟฟ้าไปจี้มันอะไรอย่างนี้เป็นต้น
00:24:07 → 00:24:10 นะครับถ้าทั้งหมดนี้มันยังไม่ได้ผลอีกนะ
00:24:10 → 00:24:13 ครับเราก็อาจจะต้องไปผ่าตัดทิ้งนะครับอ่า
00:24:13 → 00:24:15 ผ่าตัดนี้ก็อาจจะต้องมีการวางยาสลบหรือ
00:24:15 → 00:24:18 อาจจะใช้ยาชาเฉพาะที่หรืออะไรพวกนี้ก็ได้
00:24:18 → 00:24:21 นะครับหรือบางกรณีก็ใช้บล็อกหลังพวกนี้ก็
00:24:21 → 00:24:24 ก็แล้วแต่นะครับแต่ส่วนใหญ่ก็มักจะต้อง
00:24:24 → 00:24:28 วางยานะครับอันนั้นก็เป็นสิ่งที่สมควรจะ
00:24:28 → 00:24:30 ต้องทำถ้าเกิดว่ามันกรณีที่มันเป็นมากๆ
00:24:30 → 00:24:35 เราไม่หายสำหรับคนที่มันมีริดสีดวงที่มี
00:24:35 → 00:24:37 ลิ่มเลือดไปอุดแล้วพวกนี้ที่ปวดมากๆนะ
00:24:37 → 00:24:40 ครับอันนี้บางทีก็อาจจะต้องผ่าตัดด้วย
00:24:40 → 00:24:43 เช่นกันนะครับแต่ถ้ามันเป็นคีมอยด์
00:24:43 → 00:24:45 externaloid หรือว่าเป็นริดสีดวงซึ่ง
00:24:45 → 00:24:48 อยู่ภายนอกพวกนี้อาจจะไม่ต้องผ่าตัดถ้ามา
00:24:48 → 00:24:50 เร็วภายใน 72 ชั่วโมงเนี่ยบางทีคุณหมอเขา
00:24:50 → 00:24:54 จะสามารถแก้ไขรักษาให้ได้ในคลินิกเลยด้วย
00:24:54 → 00:24:56 ซ้ำไปนะครับตรงนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งซึ่ง
00:24:56 → 00:24:57 สำคัญ
00:24:57 → 00:25:01 นอกเหนือจากนี้บางคนอาจจะเคยได้ยินยาตัว
00:25:01 → 00:25:04 นึงนะครับชื่อ dashlon นะครับแดปล่อน
00:25:04 → 00:25:06 เนี่ยมันเป็นยากลุ่มที่ก็เป็นฟลาโบนอยด์
00:25:06 → 00:25:09 นะครับยาตัวนี้เนี่ยก็มีที่ใช้นะครับแล้ว
00:25:09 → 00:25:13 มันก็สามารถที่จะช่วยเหลือในกรณีของ
00:25:13 → 00:25:16 ริดสีดวงหรือบางคนเอาไปใช้ในกรณีของเส้น
00:25:16 → 00:25:19 เลือดขอดได้นะครับอันนี้ยังได้ผลใช้ได้
00:25:19 → 00:25:24 อยู่นะครับในกรณีริดสีดวงนี้เราจะให้กิน
00:25:24 → 00:25:27 ทั้งหมด 7 วันนะครับยาดาฟฟ่อนใน 4 วันแรก
00:25:27 → 00:25:31 เราจะให้กินทั้งหมด 3 กรัมนะครับเท่าที่
00:25:31 → 00:25:33 ผมจำไม่ผิดที่ประเทศไทยเนี่ยมันเม็ดละ 500
00:25:33 → 00:25:38 mg นะครับ 500 mg เราก็จะให้กิน
00:25:38 → 00:25:42 กินเยอะนิดนึงนะครับเนี่ยเราก็เราก็กิน
00:25:42 → 00:25:46 เข้าไปนะโทษทีน่าจะเป็น 3 กรัมถูกต้อง
00:25:46 → 00:25:49 แล้วครับเราก็กิน 2 เม็ดเช้า 2 เม็ดกลาง
00:25:49 → 00:25:51 วัน 2 เม็ดเย็นอย่างนี้ติดต่อกัน 4 วัน
00:25:51 → 00:25:53 และอีกวันที่เหลือเนี่ยนะครับเราก็อาจจะ
00:25:53 → 00:25:55 กิน 2 เม็ดเช้า 2 เม็ดเย็นหรือว่าบางคนก็
00:25:55 → 00:25:57 กิน 2 เม็ดตอนเช้าอย่างเดียวก็พอนะครับ
00:25:57 → 00:26:00 อันนี้ก็เป็นตัวที่ใช้ในการรักษาที่เราพอ
00:26:00 → 00:26:03 จะหามาทานเองได้นะครับยาพวกนี้ก็ไม่ได้มี
00:26:03 → 00:26:06 ปัญหาอะไรกับคนทั่วไปผลข้างเคียงมันไม่มี
00:26:06 → 00:26:08 นะครับดังนั้นก็ถ้าจะใช้ก็ใช้ได้แต่ว่า
00:26:08 → 00:26:11 ถ้าระยะยาวใช้ไปเรื่อยๆแล้วจะมีปัญหาอะไร
00:26:11 → 00:26:13 ไหมอันนี้ก็คงตอบไม่ได้นะครับคนที่เขาใช้
00:26:13 → 00:26:15 ระยะยาวเนี่ยมักจะเป็นคนที่มีเส้นเลือด
00:26:15 → 00:26:18 ขอดซะมากกว่านะครับอ่า
00:26:18 → 00:26:23 ตบท้ายให้ผมอยากจะบอกว่ามันจะมีกรณีบาง
00:26:23 → 00:26:27 กรณีของริดสีดวงซึ่งเราอาจจำเป็นจะต้อง
00:26:27 → 00:26:31 ส่องกล้องลำไส้นะครับกรณีไหนบ้างที่เรา
00:26:31 → 00:26:36 ต้องส่องกล้องลำไส้ถ้าเราอายุเกิน 40 เรา
00:26:36 → 00:26:38 มักจะต้องส่องกล้องลำไส้เพราะว่ามันอาจจะ
00:26:38 → 00:26:41 มีโรคอื่นปนที่นอกเหนือไปจากริดสีดวงนะ
00:26:41 → 00:26:45 ครับถ้าอายุต่ำกว่า 40 ปีสิ่งที่เราต้อง
00:26:45 → 00:26:48 สงสัยก็คือข้อแรกมีประวัติที่มันเข้าได้
00:26:48 → 00:26:50 กับมะเร็งอย่างที่เมื่อกี้บอกนะครับคือมี
00:26:50 → 00:26:54 การขับถ่ายที่ผิดปกติไปลำอุจจาระเล็กลงมี
00:26:54 → 00:26:57 อาการท้องเสียสลับท้องผูกมีน้ำหนักลดลงมี
00:26:57 → 00:27:00 ไข้กลางคืนนะครับหรือมี
00:27:00 → 00:27:04 อุจจาระที่มันปนมูกมานะครับตัวเลือดมันปน
00:27:04 → 00:27:06 อยู่ในตัวอุจจาระเลยอุจจาระสะผิดปกติพวก
00:27:06 → 00:27:08 นี้ก็ควรจะต้องทำ
00:27:08 → 00:27:11 คนที่มีประวัติมะเร็งในครอบครัวโดยเฉพาะ
00:27:12 → 00:27:16 ถ้าเกิดว่าคุณพ่อคุณแม่หรือญาติใกล้ชิด
00:27:16 → 00:27:18 เนี่ยเป็นพวกนี้ก็อาจจะต้องส่องกล้องดูนะ
00:27:18 → 00:27:21 ครับอันนี้สำคัญมากนะครับคนที่เคยส่อง
00:27:21 → 00:27:24 กล้องมาแล้วก็ไปตรวจเจอว่ามันมีตัวติ่ง
00:27:24 → 00:27:26 เนื้อหรือที่ภาษาทางการแพทย์เราเรียกว่า
00:27:26 → 00:27:29 Forex พวกนี้ก็ควรจะต้องทำคนที่มี
00:27:29 → 00:27:32 ประวัติลำไส้อักเสบนะครับหรือที่เราเรียก
00:27:32 → 00:27:35 ว่า informatory Brown This Is นะครับ
00:27:35 → 00:27:38 คือมีการอักเสบของตัวลำไส้พวกนี้ก็จะต้อง
00:27:38 → 00:27:40 ส่องกล้องด้วยนะครับ Power inflammatory
00:27:40 → 00:27:43 Brown resis หรือ ibd นี้จะแตกต่างจาก
00:27:43 → 00:27:47 ibs นะครับคนละโรคกันเลยนะครับตรงกัน
00:27:47 → 00:27:49 ข้ามมันไม่ใช่โรคเดียวกันนะครับอ่า ibs
00:27:49 → 00:27:50 ก็คือ
00:27:50 → 00:27:54 elevis Table Brown Syndrome นะครับ
00:27:54 → 00:27:58 ibd infly Brown This Is 2 โรคนี้
00:27:58 → 00:28:02 ไม่เหมือนกันนะครับ ids ไม่ได้มีความ
00:28:02 → 00:28:06 เสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้แต่อย่างใด idd มี
00:28:06 → 00:28:09 ความเสี่ยงต่อแรงลำไส้นะครับงั้นถ้าเป็น
00:28:09 → 00:28:11 ลำไส้อักเสบหรือที่เรียกว่า ibd พวกนี้
00:28:11 → 00:28:15 จำเป็นจะต้องส่องกล้องนะครับคนที่เคยมี
00:28:15 → 00:28:18 ประวัติมะเร็งในช่องท้องนี้ก็แน่นอนว่าจะ
00:28:18 → 00:28:21 ต้องส่องกล้องนะครับหรือเคยฉายแสงใน
00:28:21 → 00:28:25 บริเวณอุ้งเชิงกรานพวกนี้ก็ต้องส่องกล้อง
00:28:25 → 00:28:28 เช่นกันนะครับคนที่เลือดออกมากๆอันนี้แน่
00:28:28 → 00:28:30 นอนอยู่แล้วถ้าออกมากจนกระทั่งเวียนหัวไป
00:28:30 → 00:28:35 เลย 2 กล้องนะครับคนที่มีการขาดธาตุเหล็ก
00:28:35 → 00:28:38 แล้วก็มีโลหิตจางนะครับจะต้องส่องกล้องนะ
00:28:38 → 00:28:42 ครับเพราะว่าโอกาสที่ริดสีดวงจะทำให้เกิด
00:28:42 → 00:28:46 โลหิตจางได้นั้นมันน้อยมากนะครับมันน้อย
00:28:46 → 00:28:48 มากแต่ไม่ได้แปลว่าเป็นไปไม่ได้มันหมาย
00:28:48 → 00:28:52 ความว่าโอกาสน้อยมากเราต้องพยายามหาเหตุ
00:28:52 → 00:28:56 ผลอื่นมาอธิบายว่าเฮ้ยมันมี
00:28:56 → 00:29:00 การทำให้เกิดการเลือดออกในบริเวณอื่นหรือ
00:29:00 → 00:29:02 เปล่าแล้วเกิดจากสาเหตุอื่นหรือเปล่าใน
00:29:02 → 00:29:05 กรณีที่เราจะริดสีดวงมีเลือดออกแล้วตรวจ
00:29:05 → 00:29:08 พบโลหิตจางเราจึงจำเป็นต้องดูว่ามีเลือด
00:29:08 → 00:29:10 ออกในทางเดินอาหารของเราในส่วนอื่นหรือ
00:29:10 → 00:29:13 เปล่าด้วยการส่องกล้องนะครับอ่าอันนี้ก็
00:29:13 → 00:29:15 คือทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:29:15 → 00:29:18 ริดสีดวงเท่าที่ผมพอจะนึกออกได้นะครับดัง
00:29:18 → 00:29:21 นั้นเนี่ยดูแลตัวเองดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร
00:29:21 → 00:29:23 นะครับหรือมากกว่านั้นนะครับรับประทาน
00:29:23 → 00:29:25 อาหารที่มีกากใยสูงอย่าให้ท้องผูกนะครับ
00:29:25 → 00:29:29 เวลาที่เรานั่งส้วมนะครับก็อย่าไปนั่งนาน
00:29:29 → 00:29:37 อย่าไปเอามือถือเอาหนังสือ
00:29:37 → 00:30:21 [เพลง]
00:30:31 → 00:30:34 ใช้กับกรณีริดสีดวงที่อยู่ด้านในหรือ
00:30:34 → 00:30:36 Internal handroid นะครับพวกนี้บางที
00:30:36 → 00:30:39 มันมีอีกนะครับคุณหมอเขารัดแล้วก็จะต้อง
00:30:39 → 00:30:42 รอเวลาไปอีกสักประมาณสักเดือนนึงถึงจะนัด
00:30:42 → 00:30:44 กลับไปนัดใหม่ได้นะครับเขาไม่รับวันนี้
00:30:44 → 00:30:46 แล้วอาทิตย์หน้าหรืออาทิตย์ต่อไปทำการลัด
00:30:46 → 00:30:48 ๆต่อกันเลยไม่ได้นะครับอาจจะเกิดผลเสีย
00:30:48 → 00:30:51 ได้นะครับดังนั้นส่วนใหญ่คุณหมอก็จะต้อง
00:30:51 → 00:30:53 เว้นระยะประมาณสักเดือนนึงนะครับถึงจะไป
00:30:53 → 00:30:56 ทำโดยเขาส่วนใหญ่เขาจะทำการรัฐไอ้ตัวอัน
00:30:56 → 00:30:58 ที่มันเลือดออกก่อนอันที่มันมีปัญหาหรือ
00:30:58 → 00:31:00 วันที่มันใหญ่ก่อนนะครับแล้วค่อยไปจัดการ
00:31:00 → 00:31:04 กับอันที่เหลือที่หลังนะครับอ่าสำหรับคน
00:31:04 → 00:31:07 ไหนที่เอ่อบางคนเป็นหมอแล้วเข้ามาฟังนะ
00:31:07 → 00:31:11 ครับสมัยผมเด็กๆเนี่ยเราจะต้องเรียนรู้
00:31:11 → 00:31:13 ว่าเอ๊ะไอ้ตัวริดสีดวงเนี่ยมันมาจากไหน
00:31:13 → 00:31:16 ได้บ้างนะครับอันนี้ภาษาหมอเฉยๆนะผมก็เลย
00:31:16 → 00:31:19 เอามันไว้ตรงท้ายนี่แหละครับถ้าใครฟังก็
00:31:19 → 00:31:22 ฟังเล่นๆผ่านๆไปละกันนะครับตัว Internal
00:31:22 → 00:31:23 airbroid นะครับหรือว่าริดสีดวงภายใน
00:31:23 → 00:31:29 เนี่ยมันจะมาจาก supremi กับ Mido นะครับ
00:31:29 → 00:31:31 Android Auto
00:31:31 → 00:31:34 texus หรือ hamily dollay นะครับแต่ถ้า
00:31:34 → 00:31:36 เป็น External hamily เนี่ยมันจะมาจาก
00:31:36 → 00:31:40 interior Android
00:31:40 → 00:31:44 ทั้งสองอย่างนี้มันจะมีวิธีในการรับ
00:31:44 → 00:31:46 ประสาทที่แตกต่างกันมันก็เลยบางอันปวดบาง
00:31:46 → 00:31:49 อันไม่ปวดนะครับส่วน Internal Hellboy
00:31:49 → 00:31:52 นี้จะแยกจาก EXO handroid ด้วยการแบ่ง
00:31:52 → 00:31:54 เขตนะครับคือตรงทวารหนักของเราเนี่ยมันจะ
00:31:54 → 00:31:56 มีเส้นเส้นหนึ่งเราจะเรียกว่า dentade
00:31:57 → 00:31:58 LINE เส้นนี้มันเป็นเส้นเชื่อมต่อ
00:31:58 → 00:32:02 ระหว่างตัวเยื่อบุด้านในกับเยื่อบุด้าน
00:32:02 → 00:32:04 หน้าเราจะเห็นชัดเจนเลยครับจากการส่อง
00:32:04 → 00:32:06 เข้าไปแล้วก็เห็นเลยถ้าอะไรที่มันอยู่ใต้
00:32:06 → 00:32:08 เส้นนี้เราจะจัดเป็น External hamboy
00:32:08 → 00:32:10 ถ้าอะไรที่อยู่เหนือเส้นนี้เราก็จะจัด
00:32:10 → 00:32:12 เป็น Internal hamboy นะครับหรือว่า
00:32:12 → 00:32:14 ริดสีดวงภายใน
00:32:14 → 00:32:17 ริดสีดวงภายในเนี่ยมันจะมีทั้งหมด 3
00:32:17 → 00:32:19 ตำแหน่งอ่า 3 ตำแหน่งหรือเรียกว่าเป็น
00:32:19 → 00:32:22 คอลัมน์นะครับคือมันจะเป็นแท่งสูงๆขึ้นมา
00:32:22 → 00:32:23 อย่างเงี้ย 3 คอลัมน์ด้วยกันนะครับ
00:32:23 → 00:32:26 คอลัมน์แรกผมก็จะจำได้ว่าสมัยก่อนผมก็
00:32:26 → 00:32:30 ต้องท่องนะครับมี left Later Right
00:32:30 → 00:32:33 enteria Right นะครับพวกนี้อ่าอันนี้
00:32:33 → 00:32:36 คือเท่าที่ผมพอจำความได้นะครับแบบว่านาน
00:32:36 → 00:32:38 มาแล้วอาจจะมีผิดพลาดไปบ้างแต่คิดว่าตรง
00:32:38 → 00:32:40 นี้ไม่น่าผิดพลาดเท่าไหร่เพราะว่าเอ่อก็
00:32:40 → 00:32:42 ยังจำได้อยู่จนปัจจุบันนี้เพราะว่าตอน
00:32:42 → 00:32:45 นั้นอาจารย์ก็เคี่ยวเขียนให้อ่านพอสมควร
00:32:45 → 00:32:46 นะครับ
00:32:46 → 00:32:48 อ่ะวันนี้ก็เท่านี้ละกันนะครับก็พูดมายาว
00:32:48 → 00:32:51 พอสมควรถ้าเกิดใครมีอะไรสงสัยก็สอบถาม
00:32:51 → 00:32:54 เข้ามาได้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ